มาต่อกันเลย^^
.
.
.
กระทั่งเรามาถึงโรงแรมใหญ่แห่งหนึ่งใจกลางเมือง นลินก็พาผมเดินเข้าไป ดูจากภายนอกและการตกแต่งภายในแล้ว บอกได้เลยว่าราคาห้องพักต่อคืนคงเช่าห้องพักในไทยได้ทั้งเดือนแน่ๆ และผมก็ได้รู้ว่าเพื่อนสนิทของนลินเป็นถึงสะใภ้ใหญ่แห่งตระกูลหวางหย่งกัง ที่มีธุรกิจหลากหลายครอบคลุมเกาะฮ่องกงโดยเฉพาะธุรกิจโรงแรม
“ยินดีที่ได้รู้จักครับลูกหมู” ไม่ใช่แค่น้ำเสียงที่แสดงความเป็นมิตร แต่ทั้งสีหน้าและแววตาของธันว์ก็แสดงออกว่ายินดีไม่ต่างจากคำพูด
หลังคำทักทายของเราที่มีนลินเป็นคนแนะนำเราสองคนรู้จักกันแล้วนั้น สองเพื่อนสนิทก็คุยกันอย่างออกรส โดยมีผมนั่งฟังอยู่เงียบๆและออกความคิดเห็นเป็นบางช่วง ผมจึงได้รู้ว่าวันนี้เราโชคดีที่ไม่ต้องไปถึงเกาลูน เพราะปกติธันว์ต้องไปคุมงานก่อสร้างของโรงแรมที่นั่น แต่เพราะเมื่อวานมีคนงานบาดเจ็บระหว่างทำงาน วิศวกรคุมงานก่อสร้างอย่างธันว์จึงปลีกตัวมาเยี่ยมคนงานคนนั้นในช่วงเช้าของวันนี้ด้วยตัวเอง ซึ่งธันว์เองก็เพิ่งกลับมาจากโรงพยาบาล เมื่อได้รับการติดต่อจากเพื่อนสนิทว่าจะมาหา จึงตัดสินใจรอนลินอยู่ที่นี่
“ลูกหมูทานข้าวที่นี่ด้วยกันนะครับ...นลิน มึงอยากกินอะไรเป็นพิเศษรึเปล่า เดี๋ยวกูสั่งทางห้องอาหารไว้ให้” ยากที่จะปฏิเสธเจ้าของเสียงหวานๆและรอยยิ้มละมุนของธันว์ ผมก็ได้แต่พยักหน้าให้ยิ้มๆเป็นการตอบรับ
“ไม่ว่ะ กูเชื่อว่าพนักงานทางห้องอาหารต้องทำสุดฝีมืออยู่แล้ว ถ้ารู้ว่าว่าที่นายหญิงจะลงไปกิน ฮุๆ เออว่าแต่เฮียกูไปไหน มาถึงยังไม่ได้ทักทายเลย” คนโดนแซวแก้มแดงขึ้นมาทันควัน แต่พยายามเก๊กใบหน้าให้เรียบเฉย ทั้งๆที่มีแววตาสะเทิ้นอายอย่างเห็นได้ชัด ยิ่งรับรู้ว่าผมมองอยู่ ธันว์ยิ่งแก้มแดงจัดขึ้นไปอีก
“ประชุมอยู่ แต่ไม่ต้องรอหรอกไปกินกันเลย เดี๋ยวกูโทรบอกการ์ดประจำตัวเฮียหลี่ผิงไว้ ถ้าประชุมเสร็จเฮียคงลงมาสมทบเอง นี่ก็ประชุมนานแล้วเดี๋ยวคงเสร็จแหละมึง”
ในที่สุดผม นลิน และธันว์ก็เข้ามาอยู่ในห้องอาหารของโรงแรม ซึ่งเป็นไปอย่างที่นลินว่าไว้เพราะอาหารอร่อยทุกอย่าง แม้แต่เชฟประจำห้องอาหารยังออกมาเสิร์ฟให้เองด้วยซ้ำ สร้างความประทับใจให้ผมมากนัก
หลังจากเรากินกันไปไม่นานผมจึงได้พบเจ้าของโรงแรมตัวจริง หวางหลี่ผิงเป็นผู้ชายที่ดูดีมากๆคนหนึ่ง แรกเห็นบุคลิกภายนอกนั้น ชวนตะลึงและน่าขยาดในเวลาเดียวกัน เมื่อดวงตาคู่คมฉายแววจริงจังที่อยู่บนใบหน้าเคร่งขรึม ตวัดมองมายังผมอย่างพินิจ แต่เมื่อนลินแนะนำผมให้รู้จัก แววตาคู่นั้นก็ลดทอนความเข้มลง พาให้หายใจได้ทั่วท้องอีกครั้ง ซึ่งผมก็ยิ้มออกยามที่หวางหลี่ผิงทักทายออกมาเรียบๆสั้นๆ
“ยินดีที่ได้รู้จัก ทานอาหารตามสบายเลยนะครับ” สิ้นเสียงนิ่งเรียบเจ้าของประโยคนี้ก็เลิกสนใจผม หันไปทักทายนลิน และให้ความสำคัญแต่กับคนรักของตัวเอง
“อ๊ะ! สายเข้าห้าสิบสองสายที่ไม่ได้รับ ไม่ได้เปิดเสียงไว้ ตายๆ ลืมเลยว่าจะโทรบอกอเล็กซ์” เสียงอุทานของนลิน ทำให้ทุกความสนใจพุ่งไปที่เธอ โดยเฉพาะผมเมื่อได้ยินประโยคนั้นครบถ้วน
‘พี่ลีโอคงเป็นห่วงผมแย่แล้วมั้งเนี่ย ทำไงดีพี่จะโกรธลูกหมูมั้ยนะ’
“...อเล็กซ์ อเล็กซ์! หยุดให้นลินพูดหน่อย!...อยู่ที่โรงแรมของเฮียหลี่ผิง ธันว์ก็อยู่ด้วย...อืม ลูกหมูก็อยู่ด้วยกันนี่แหละ...ขอโทษที่ทำให้เป็นห่วง...อืมๆ จะรอ...ค่ะ...ค่ะ...รู้แล้วจะพูดทำไมหลายรอบเนี่ย” แม้ฟังแล้วเหมือนนลินโวยวายใส่ปลายสาย แต่สีหน้าขัดเขินกับแก้มแดงๆที่ปรากฏ ผมดูก็รู้ว่าไม่ได้รำคาญอย่างที่เจ้าตัวจงใจพูดไป ก่อนผมต้องรับโทรศัพท์มาแบบงงๆ เมื่อนลินยื่นมันมาให้ผม
“พี่ลีโอจะพูดด้วยน่ะ” ผมเผลอกลืนน้ำลายลงคอนิด และฝืนยกยิ้มส่งคืนนลินอีกหน่อย ซึ่งนลินเองก็กำลังส่งยิ้มจืดจ๋อยพอกันกับผมอยู่
“ลูกหมูปลอดภัยดีใช่มั้ย” แค่ประโยคแรกจากเสียงนิ่งๆของพี่ลีโอ ก็ทำให้ใจผมร่วงไปอยู่ที่ตาตุ่ม
ยิ่งผมตอบรับด้วยคำว่าครับสั้นๆเพราะกำลังรู้สึกผิดเต็มหัวใจ แล้วพี่ลีโอพูดมาแค่ว่าดีแล้วเดี๋ยวมารับ ผมยิ่งหดหู่พาลลำคอตีบตัน กินอะไรไม่ลงอีกเลย จนทำตัวไร้มารยาทบนโต๊ะอาหารอย่างไม่รู้ตัว
“ลูกหมูทานของหวานหน่อยนะครับ อร่อยมากเลยผมการันตี ลูกหมูทานอาหารไปนิดเดียวเอง ทานอีกหน่อยเถอะครับ” ผมรู้สึกตัวเพราะประโยคนี้ของธันว์ จึงได้แต่ฝืนยิ้มส่งให้ในความหวังดีของเขา
ผมต้องตักพุดดิ้งนมสดเข้าปากจนได้ เมื่อประโยคต่อมาของนลินดังขึ้น ทั้งๆที่ลำคอตีบตันเพราะความอยากอาหารแทบไม่มีเหลือ
“ทานพุดดิ้งเถอะนะลูกหมู เดี๋ยวพี่ลีโอมา นลินชี้แจงให้เองว่าเป็นเพราะเราบังคับลูกหมูให้มาด้วย และลืมโทรกลับไปบอก นะลูกหมูนะ”
“ขอบคุณนลินมากนะ แต่ไม่ใช่ความผิดของนลินหรอก เดี๋ยวเราคุยกับพี่ลีโอเอง” ถึงปากจะพูดกับนลินแบบนั้น แต่ผมก็ยังไม่รู้จะเริ่มพูดกับพี่ลีโอยังไงเลย ในเมื่อรู้ว่าตัวเองผิดเต็มประตู
ไม่นานพี่ลีโอกับอเล็กซ์ก็มาถึงที่โรงแรม ทั้งผมและนลินก็ได้เวลาลาคู่รักสุดหวาน เพื่อตามคนทั้งคู่กลับเซฟเฮ้าส์ของบริษัทที่จัดไว้ให้พวกเราพัก ระหว่างทางกลับมีเพียงเสียงตอบโต้ของอีกคู่เท่านั้น นลินชี้แจงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และเหตุผลที่เราไม่ได้บอกก่อนออกจากบริษัทแก่อเล็กซ์ ซึ่งอเล็กซ์เองมีต่อว่านิดหน่อยที่ทำให้คนที่เกี่ยวข้องทุกคนเป็นห่วงและวุ่นวายไปหมดที่พวกเราหายไป จนผมเองที่ได้ยินยิ่งรู้สึกผิดยิ่งขึ้น สุดท้ายทั้งคู่ก็กลับมาคุยกันหงุงหงิงได้อย่างน่าอิจฉา
ส่วนคู่ผมกับพี่ลีโอต่างคนต่างนั่งเงียบ ทั้งๆที่ผมอยากปรับความเข้าใจกับพี่ใจจะขาด แต่เพราะพี่ลีโอนั่งหน้านิ่งไม่แสดงออกให้ผมรับรู้ว่าพี่คิดอะไรอยู่ จนผมไม่กล้าชวนคุย ได้แต่นั่งมองใบหน้าหล่อเหลาด้านข้างของพี่เงียบๆ กระทั่งมาถึงคอนโดหรูแห่งหนึ่ง ที่มีความเป็นส่วนตัวสูงและมีระบบรักษาความปลอดภัยเป็นเยี่ยม สังเกตจากการเข้าออกต้องมีการขอตรวจบัตรและสแกนลายนิ้วมือด้วย แม้แต่ผมและนลินยังต้องสแกนลายนิ้วมือทำประวัติไว้ด้วย และก่อนที่เราจะแยกย้ายนลินได้หันมากระซิบบางอย่างกับผม
“ลูกหมูไม่ให้เราพูดกับพี่ลีโอให้จริงๆเหรอ เราพูดให้ดีกว่ามั้ย เพราะพี่ลีโอดูตึงๆโกรธๆอยู่ ไม่เหมือนครั้งก่อนที่นลินเคยเจอเลย” ผมเหลือบตาดูแผ่นหลังกว้างของพี่ลีโอนิด ก่อนจะส่ายหน้าปฏิเสธนลิน
แม้นาทีนี้พี่ลีโอจะสร้างความรู้สึกกริ่งเกรงจนเกือบน่ากลัวให้เกิดแก่ผม แต่ผมก็อยากเคลียร์กับพี่ด้วยตัวเองมากกว่าให้นลินช่วยพูดให้ ซึ่งก่อนที่พวกเราจะแยกเข้าห้องจริงๆ อเล็กซ์ที่ผมเองก็เพิ่งได้รู้จักในวันนี้นอกจากการเห็นหน้าในทีวี ยังเข้ามาให้กำลังใจและปลอบใจพร้อมเตือนให้พูดจากันดีๆ ก่อนส่งยิ้มจริงใจปิดท้าย และจูงนลินเข้าห้องไป
ผมได้แต่มองตามคู่หมั้นหมาดๆด้วยความอิจฉา แต่นาทีถัดมาผมไม่มีแก่ใจจะคิดถึงคนอื่นมากนัก ด้วยยังมีปัญหาใหญ่รอให้ผมแก้อยู่ ความสนใจทั้งหมดของผมนั้น จึงมาอยู่ที่เจ้าของเงาทะมึนที่ทอดยาวมาถึงประตูห้อง ทั้งๆที่เจ้าของร่างสูงใหญ่ยืนอยู่หน้าประตูกระจกบานเลื่อนอีกฝั่งของห้อง บวกกับแสงสีส้มของดวงอาทิตย์ที่ฉายกระทบร่างนั้น จนเหมือนรอบกายพี่ลีโอเปล่งแสงสีส้มเรืองรอง เพิ่มความน่าเกรงขามที่มีอยู่แล้วให้มีมากขึ้น
ผมลอบกลืนน้ำลายอึกใหญ่ และถูมือที่ชื้นเหงื่อเข้ากับต้นขา พยายามสูดลมหายใจเข้าลึก เพื่อสร้างความกล้าในจิตใจ ก่อนจะเดินเข้าหาพี่ลีโอที่ยังคงยืนกอดอกนิ่งอยู่ที่เดิม เมื่อถึงตัวพี่แล้วผมตัดสินใจวาดวงแขนโอบกอดรอบเอวพี่ พร้อมกับซบหน้าลงบนแผ่นหลังกว้าง ที่ยังให้ความรู้สึกอบอุ่นแก่ผมไม่เปลี่ยน แม้จะพอจับอารมณ์ไม่ปกติของพี่ได้ แต่ผมก็ไม่นึกหวาดกลัวอีกต่อไป
“พี่ครับ ลูกหมูขอโทษ ต่อไปลูกหมูจะไม่ทำให้พี่เป็นห่วงอีก” จบประโยคผมกระชับวงแขนให้แน่นขึ้น แต่พี่ลีโอก็ยังคงเงียบ พาลทำให้ผมเริ่มใจเสีย แต่ผมจะท้อไม่ได้ ในเมื่อรู้ตัวว่าผิดยังไงคงต้องง้อจนกว่าพี่จะใจอ่อนยอมยกโทษให้
“พี่ลีโอ~ ลูกหมูขอโทษนะครับ ยกโทษให้ลูกหมูได้มั้ย พี่จะให้ลูกหมูชดเชยความผิดยังไงก็ได้...นะครับพี่” แม้ฟังเสียงผมแล้ว เหมือนว่าเสียงของผมยังคงสดใส แต่ขอให้รู้เถอะว่าในอกช่างอึดอัดเหมือนถูกบีบรัดด้วยคำว่าความกังวลใจ
ถึงใจหนึ่งจะมั่นใจว่าอย่างไรเสีย ความผิดครั้งนี้พี่ลีโอต้องยกโทษให้อยู่แล้ว แต่อาการเงียบขรึมไม่ใยดีที่พี่แสดงออก มันก็ทำให้ผมทรมานได้มากเช่นกัน จนหัวตาเริ่มร้อนน้ำตาจะหยดแหล่มิหยดแหล่ แต่ขืนผมร้องไห้ตอนนี้คงทำลายความตั้งใจที่จะง้อพี่ไปจนหมด
ผมจึงฝืนกล้ำกลืนความทรมานนั้นลงไป แต่ผมก็ต้องดีใจจนแทบกระโดด เมื่อพี่ลีโอวางมือทับลงบนหลังมือผมที่กอดเอวพี่อยู่ ก่อนจะเรียกผมด้วยเสียงที่ทอดอ่อน ฟังก็รู้ว่าพี่ใจอ่อนให้ผมไปเกือบครึ่ง พี่ลีโอหมุนตัวกลับมาเผชิญหน้ากับผม ก่อนจะเชยคางผมขึ้นให้สบตาด้วย
“หมูน้อย...เสียใจกังวลใจไม่ได้เท่าครึ่ง ที่พี่รู้สึกเมื่อเช้าหรอกนะรู้มั้ย” คำพูดพี่ทำให้น้ำตาที่ปริ่มหัวตาอยู่แล้ว ไหลมาตามแก้มอย่างห้ามไม่อยู่
ผมรู้ซึ้งได้ทันทีว่าพี่ลีโอรู้สึกเช่นไร เมื่อครู่ผมเสียใจและกังวลใจทรมานแทบแย่ แต่คงไม่ได้เศษเสี้ยวของพี่จริงๆ ยิ่งคิดผมยิ่งปล่อยโฮกับอกพี่หนักขึ้น พี่ลีโอก็ดูเหมือนตกใจไม่น้อยกับการร้องไห้ครั้งใหญ่นี้ของผม เพราะผมไม่เคยร้องไห้โวยวายแบบนี้มาก่อน ไม่ว่าจะต่อหน้าพี่หรืออยู่เพียงลำพัง
“ลูกหมูไม่ร้องแบบนี้ พี่รู้แล้วว่าเราน่ะรู้สึกผิด หยุดร้องก่อน...หมูน้อยขืนร้องอยู่แบบนี้ คนที่ทรมานคือพี่นะ” ได้ยินประโยคสุดท้ายของพี่ลีโอเข้า ทำให้ผมชะงักหยุดร้องเองเสียดื้อๆ
แม้ก่อนหน้าจะพยายามหยุดแล้วแต่มันก็ทำไม่ได้ แต่พอได้ยินว่าพี่ทรมานกับการร้องไห้ของผม ร่างกายมันก็เชื่อฟังขึ้นมาทันที ถึงจะยังคงมีอาการสะอึกสะอื้นอยู่บ้าง แต่แค่ได้เห็นรอยยิ้มอ่อนโยนของพี่ ผมก็พลอยดีใจและอบอุ่นใจขึ้นมาอย่างประหลาด
ในที่สุดผมก็หยุดสะอื้นไห้และมีรอยยิ้มอ่อนๆบนใบหน้าจนได้ บวกเข้ากับอ้อมกอดอบอุ่นที่โอบล้อมอยู่รอบตัว และรอยอุ่นที่ข้างแก้มกับซอกคอ เมื่อพี่วนเวียนพรมจูบผมเหมือนว่ากำลังปลอบประโลมที่ทำให้ผมสติแตก
“ต่อไปอย่าทำให้พี่เป็นห่วงอีกนะหมูน้อย พอพี่แน่ใจว่าเราหายไปจากบริษัท แถมยังติดต่อไม่ได้อีก ให้เราน่ะรู้ไว้เลยว่าพี่แทบบ้า ลูกหมูไม่เคยไปไหนมาไหนคนเดียว ยิ่งฮ่องกงไม่ต้องพูดถึง พี่ล่ะกลัวไปหมดว่าเราจะเจอกับอะไรบ้าง พาลคิดไปว่าประสบอุบัติเหตุพร้อมน้องนลินแล้วด้วยซ้ำ เพราะโทรไปก็ไม่รับสาย มันไม่ปกติมาก” หางเสียงพี่ลีโอยังติดร่อยรอยแห่งความกังวลให้ผมจับได้
ผมจึงยกมือขึ้นโอบรอบคอพี่ พร้อมช้อนตาขึ้นมอง แน่นอนว่าผมย่อมเอ่ยคำขอโทษที่ไม่รู้ว่าเป็นครั้งที่เท่าไหร่ของวัน ด้วยรู้สึกผิดและสำนึกแล้วจริงๆ ก่อนจะจบด้วยการอ้อนกลายๆ อ้อนเพื่ออยากได้ยินคำยกโทษจากพี่
“ลูกหมูขอโทษครับ ลูกหมูผิดไปแล้ว พี่ยอมยกโทษให้ลูกหมูนะครับ หมูน้อยของพี่ลีโอไม่กล้าทำอีกแล้วจริงๆ พี่เชื่อลูกหมูเถอะนะ เพราะลูกหมูไม่อยากทำให้คนที่ตัวเองรักต้องทรมานใจอีก” ดวงตาคู่คมค่อยๆทอแสงระยิบระยับด้วยความถูกใจ ก่อนรอยยิ้มกระชากใจจะค่อยๆจุดขึ้นยังมุมปาก และขยายกว้างขึ้นเมื่อจบประโยค
ผมที่ได้เห็นนอกจากจะดีใจไปล่วงหน้าแล้ว หัวใจในอกกลับอุ่นวาบเพราะได้รับความสุขกลับคืนมาอีกครั้ง แม้จะยังคงลุ้นในคำตอบของพี่อย่างจดจ่อก็ตามที
“พี่คงกลายเป็นคนใจร้าย ถ้าไม่ยอมยกโทษให้เรา พี่ยกโทษให้ครับ แต่ต้องไม่มีครั้งต่อไปอีก...ดีมาก แล้วที่ว่าจะยอมทำอะไรก็ได้เป็นการไถ่โทษ ลูกหมูยังยอมที่จะทำอยู่มั้ย ว่าไง” ผมคงพยักหน้ายอมรับข้อเสนออย่างง่ายดายเหมือนเมื่อครู่ที่ตอบรับคำพี่
แต่เพราะดวงตาระยิบระยับแฝงแววคาดหวังที่ได้เห็น ทำเอานึกสะกิดใจให้ต้องชะงักงันอยู่เช่นนี้ ผมจึงพยายามจ้องค้นหาความผิดปกติที่ซ่อนอยู่ในดวงตาคู่นั้นของพี่
“ก็ไม่เป็นไรถ้าลูกหมูจะไม่ทำ เพราะยังไงพี่ก็ยกโทษให้เราอยู่แล้ว” แต่เพราะประโยคต่อมาของพี่ พร้อมๆกับรอยยิ้มทรงเสน่ห์ที่เหือดหายไป ทำให้ผมต้องรีบรับคำ
“ครับ ลูกหมูยอมทำอะไรก็ได้เพื่อไถ่โทษความผิด” สิ้นประโยคผมถึงกลับผวาไปกับรอยยิ้มเจิดจ้าและแววตาสมหวังของพี่ลีโอ
ถึงอย่างไรก็ตามผมก็เชื่อว่า ไม่ว่าพี่จะให้ผมทำอะไรเพื่อเป็นการไถ่โทษ การกระทำเหล่านั้นย่อมไม่ก่อเกิดอันตราย หรือมุ่งหวังให้เกิดผลร้ายแก่ผมอย่างแน่นอน ดังนั้นผมยอมที่จะทำอะไรก็ได้ เพื่อให้พี่ลีโอหายโกรธผมได้อย่างแท้จริง
‘ลูกหมูรักพี่ลีโอมากนะครับ...แต่การไถ่โทษครั้งนี้ ผมต้องเจอกับอะไรบ้างนะ!?’
.................................................
โปรดติดตามตอนต่อไป^^เกือบได้เรื่องแล้วมั้ยล่ะลูกหมูเอ๊ย เกือบโดนพี่ลีโอโกรธแล้ว

แต่ก็เพราะพี่ลีโอรักและห่วงหมูน้อยล่ะน้า
ตอนนี้ใครที่คิดถึงธันว์กับหลี่ผิงและนลินกับอเล็กซ์อยู่ก็น่าจะหายคิดถึง
กันได้บ้างนะคะ ซึ่งทั้งสองคู่ก็น่าอิจฉาเหมือนเดินเนอะ

ส่วนตอนหน้าคงต้องตามดูว่าการไถ่โทษของลีโอที่มอบให้ลูกหมูคืออะไร
เจอกันวันพฤหัสฯนะคะ+1และเป็ดสำหรับทุกเม้นท์ ขอบคุณทุกการติดตาม
ปล.ตอนที่แล้วมีแต่คนขอคู่ให้ปูน (พระรองมักแสนดีและน่าเห็นใจ)
ไม่ต้องห่วงค่ะ เราเตรียมไว้ให้แล้ว
