++เพื่อน(เรียน)พิเศษ (END) : Special Chapter "30" (Part 2 // หน้า 36)++
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ++เพื่อน(เรียน)พิเศษ (END) : Special Chapter "30" (Part 2 // หน้า 36)++  (อ่าน 324017 ครั้ง)

ออฟไลน์ zipboy

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 309
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +65/-0
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ


ติดตามกฏเพิ่มเติมที่กระทู้นี้บ่อยๆ เมื่อมีการแก้ไขกฏจะแก้ไขที่กระทู้นี้นะครับ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0

ประกาศทั่วไปติดตามอัพเดทกันที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.0

ประกาศ กฎที่อื่นมีไว้แหก แต่ห้ามมาแหกที่นี่

1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
การสนใจและชื่นชอบนิยายและเรื่องเล่าของคนในเรื่องควรมีขอบเขตที่จะไม่สร้างความเดือดร้อนให้เจ้าของเรื่อง เช่นเดียวกับเป็ดที่ตอนนี้ถูกรังควานตามหาตัวจากคนด้านต่างๆ จนตัดสินใจไม่เล่าเรื่องต่อ.........เนื่องจากบางเรื่องเป็นเรื่องเล่า.....................บางคนไม่ได้เปิดเผยตัวตน  เขาพอใจจะมีความสุขในที่เล็กๆแห่งนี้โดยไม่ได้ตั้งใจให้คนภายนอกได้รับรู้เรื่องราวแล้วนำไปพูดต่อ   เพราะปฎิเสธไม่ได้ว่าสังคมไม่ได้ยอมรับพวกเราสักเท่าไหร่

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท,
หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง
หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์
และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด

การกระทำเช่นนั้นอาจทำให้คุณแบนทันที และถาวร . หมายเลข IP ของทุกโพสต์จะถูกบันทึกเพื่อใช้เป็นหลักฐาน
ในความเป็นจริงเป็นไปได้ยากมากที่จะให้แต่ละคนมีความคิดเห็นตรงกันทั้งหมด   คนเรามากมายต่างความคิดต่างความเห็น เติบโตมาภายใต้ภาวะแวดล้อมต่างกันการแสดงความคิดเห็นที่แตกต่าง   จึงควรทำเพื่อให้เกิดความเข้าใจกัน แบ่งปันประสบการณ์และมิตรภาพเพื่ออาจเป็นประโยชน์ในการใช้ชีวิต  และไม่ว่าจะอย่างไรก็ควรเคารพในความคิดเห็นที่แตกต่างของบุคคลอื่นช่วยกันสร้างให้บอร์ดนี้มีแต่ความรักนะครับ   

เรื่องบางเรื่องอาจจะเป็นทั้งเรื่องแต่งหรือเรื่องเล่าใดๆก็ขอให้ระลึกเสมอว่า  อ่านเพื่อความบันเทิงและเก็บประสบการณ์ชีวิตที่คุณไม่ต้องไปเจอความเจ็บปวดเล่านั้นเองเพื่อเป็นข้อเตือนใจ สอนใจในการตัดสินใจใช้ชีวิต   จึงไม่ต้องพยายามสืบหาว่าเรื่องจริงหรือเรื่องแต่งส่วนการพูดคุยนั้น   ก็ประมาณอย่าทำให้กระทุ้กลายพันธุ์ห้ามเอาเรื่องส่วนตัวมาปรึกษาพูดคุยกันโดยที่ไม่เกี่ยวพันกับเรื่องในกระทู้นิยาย  ถ้าจะวิจารณ์หรือแสดงความคิดเห็นทุกคนมีสิทธิแต่ขอให้ไปตั้งกระทู้ที่บอร์ดอื่นที่ไม่ใช่ที่นี่นะครับ


3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อเจ้าของเรื่องเท่าที่จะทำได้หรือแจ้งมายังบอร์ดนี้ก่อนนะครับ  เนื่องจากเจ้าของเรื่องบางครั้งไม่ต้องการให้คนที่ไม่ได้ชื่นชอบนิยายชายรักชายเข้ามารับรู้  ลิขสิทธิ์ทั้งหมดเป็นของเจ้าของคนที่ทำขึ้นและเวปแห่งนี้นะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอมให้ส่งหรือติดต่อกันทางพีเอ็มจะปลอดภัยกว่าแล้วเมื่อมีการติดต่อสื่อสารกันให้พึงระวังถึงความปลอดภัย ความไม่น่าไว้ใจของผุ้คนทุกคนแม้จะมีชื่อเสียงในบอร์ดเป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละคนไป เพื่อลดความขัดแย้งภายในเล้า จึงไม่สนับสนุนให้มีการจีบกันในบอร์ดนะครับ

5.ห้ามจั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียวให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตาม
เพราะแม้จะเป็นเรื่องที่เขียนจากเรื่องจริง เมื่อนำมาพิมพ์เป็นเรื่องผ่านตัวอักษร ย่อมเลี่ยงไม่ได้ที่จะมีการเพิ่มเติมเพื่อให้เกิดสีสันในเนื้อเรื่อง ทางเล้าถือว่านั่นคือการเพิ่มเติมเนื้อเรื่อง จึงไม่อนุญาตให้จั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” แต่สามารถแจ้งว่าเป็น “นิยายที่อ้างอิงมาจากชีวิตจริง” ได้  มีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว

6.การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insearch qoute  ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ


8.Administrator และ moderator ของ forum นี้ มีสิทธิ์อ่าน, ลบ หรือแก้ไขทุกข้อความ. และ administrator, moderator หรือ webmaster ไม่สามารถรับผิดชอบต่อข้อความที่คุณได้แสดงความคิดเห็น (ยกเว้นว่าพวกเขาจะเป็นผู้โพสต์เอง).

9.คุณยินยอมให้ข้อมูลทุกอย่างของคุณถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูล. ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะไม่ถูกเปิดเผยต่อผู้อื่นโดยไม่ได้รับการยินยอมจากคุณ .Webmaster, administrator และ moderator ไม่สามารถรับผิดชอบต่อการถูกเจาะข้อมูล แล้วนำไปสร้างความเดือดร้อนต่างๆ

10.ห้ามลงประกาศลิงค์โปรโมทเวป  โฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ลงได้เฉพาะในห้องซื้อขาย ในเมื่อแนะนำเวปอื่นที่บอร์ดเรา ก็ช่วยแนะนำบอร์ดเราโดยลงลิงค์บอร์ดเรา เวป http://www.thaiboyslove.com  ในบอร์ดที่ท่านแนะนำมาให้เราด้วย  เมื่อจำเป็นต้องแนะนำลิงค์ให้ส่งลิงค์กันทาง personal message หรือพีเอ็มแทนนะครับจะสะดวกกว่า ส่วนในกรณีอยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนๆได้อ่านจริงๆนั้นพยายามลงให้ห้องซื้อขายซะ หรือถ้าม๊อดเดอเรเตอร์จะพิจารณาเป็นกรณีๆไป ถ้ารู้สึกว่าไม่ได้โปรโมทเวป แต่อยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนด้วยใจจริงจะให้กระทู้นั้นคงอยู่ต่อไป

11.บอร์ดนิยายที่โพสจนจบแล้วมีไว้สำหรับนิยายที่โพสในบอร์ด boy's love จนจบแล้วเท่านั้น จึงจะถูกย้ายมาเก็บไว้ที่นี่ หาอ่านนิยายที่จบแล้ว หรือคนเขียนไม่ได้เขียนต่อ แต่โดยนัยแล้วถือว่าพล็อตเรื่องโดยรวมสมควรแก่การจบแล้ว หากนักเขียนท่านใดได้พิมพ์เล่มกับสำนักพิมพ์ ต้องการลบเรือ่งบางส่วนออก โดยเฉพาะไคลแม๊ก หรือตอนจบที่สำคัญ ให้แจ้ง moderator ย้ายนิยายของท่านสู่ห้องนิยายไม่จบ เพื่อที่หากระยะเวลาเกินหกเดือนแล้ว เราจะได้ทำการลบทิ้ง หรือท่านจะลบนิยายดังกล่าวทิ้งเสียก็ได้ เนื่องจากบอร์ดนี้เก็บเฉพาะนิยายที่จบแล้ว

บอร์ดนิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบไว้สำหรับ
นิยายที่คนเขียนไม่ได้มาต่อนาน หายไปโดยไม่มีเหตุผลสมควร ไม่ได้แจ้งไว้หรือแจ้งแล้วก็ไม่มาต่อ 3 เดือน จะย้ายมาเก็บในนี้เมื่อครบหกเดือนจะทำการลบทิ้ง ส่วนเรื่องไหนที่จะต่อก็ต่อในนี้จนกว่าจะจบ แล้วถึงจะทำการย้ายไปสู่บอร์ดนิยายจบแล้วต่อไป


12.ห้ามนำเรื่องพิพาทต่างๆมาเคลียร์กันในบอร์ด

13.ผู้โพสนิยาย และเขียนนิยายกรุณาโพสให้จบ ตรวจสอบคำผิดก่อนนำมาลงด้วยครับ

14.ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน  ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ

15. การนำรูปภาพ บทความ ฯลฯ มาลงในเวปบอร์ด  ควรจะให้เครดิตกับ... 
(1) ผู้ที่เป็นต้นตอเจ้าของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ
(2) เวปไซต์ต้นตอที่อ้างอิงถึง

....ในกรณีที่เป็นบทความที่ถูกอ้างอิงต่อมาจากเวปไซต์อื่นๆ
- ถ้ามีแหล่งต้นตอของเจ้าของบทความ  ให้โพสชื่อเจ้าของต้นตอของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ  พร้อมทั้งเวปไซต์ที่อ้างอิง 
  (กรณีนี้จะโพสอ้างอิงชื่อผู้โพสหรือเวปไซต์ที่เรานำมาหรือไม่ก็ได้ แต่ควรมั่นใจว่าชื่อต้นตอของที่มาถูกต้อง)
- ถ้าไม่สามารถหาชื่อต้นตอของรูปภาพหรือเวปไซต์ที่นำมาได้ ควรอ้างอิงชื่อผู้โพสและเวปไซต์จากแหล่งที่เรานำมาเสมอ
- ควรขออนุญาติเจ้าของภาพหรือเจ้าของบทความก่อนนำมาโพสค่ะ(ถ้าเป็นไปได้) ยกเว้นพวกเวปไซต์สาธารณะ เช่น  หนังสือพิมพ์ออนไลน์ ฯลฯ ที่เปิดให้คนทั่วไปได้อ่านเป็นสาธารณะ ก็นำมาโพสได้ แต่ให้อ้างอิงเจ้าของชื่อและแหล่งที่มาค่ะ
- ไม่ควรดัดแปลงหรือแก้ไขเครดิตที่ติดมากับรูปหรือบทความก่อนนำมาโพส
- ถ้าเป็น FW mail  ก็บอกไปเลยว่าเอามาจาก FW mail


16.นิยายเรื่องไหนที่คิดว่าเมื่อมีการรวมเล่มขายแล้วจะลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออก กรุณาอย่าเอามาลงที่นี่ หรือสำหรับผู้ที่ขอนิยายจากนักเขียนอื่นมาลง ต้องมั่นใจว่าเรื่องนั้นจะไม่มีการลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออกเมื่อมีการรวมเล่มขาย อนึ่ง เล้าไม่ได้ห้ามให้มีการรวมเล่มแต่อย่างใด สามารถรวมเล่มขายกันได้ แต่อยากให้เคารพกฎของเล้าด้วย เล้าเปิดโอกาสให้ทุกคน จะทำมาหากิน หรืออะไรก็ตามแต่ขอความร่วมมือด้วย เผื่อที่ทุกคนจะได้อยู่อย่างมีความสุข

17.ห้ามแจ้งที่หัวกระทู้เกี่ยวกับการจองหรือจัดพิมพ์หนังสือ แต่อนุโลมให้ขึ้นหัวกระทู้ว่า “แจ้งข่าวหน้า...” และลงลิงค์ที่ได้ตั้งเอาไว้ในแล้วในห้องซื้อขายลงในกระทู้นิยายแทน  ถ้านักเขียนต้องการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการจอง หรือจัดพิมพ์หนังสือของตนเองผ่านกระทู้นิยายของตนเอง  นิยายเรื่องดังกล่าวจะต้องลงเนื้อหาจนจบก่อน (ไม่รวมตอนพิเศษ) จึงจะทำการประชาสัมพันธ์ในกระทู้นิยายได้ (ศึกษากฏการซื้อขายของเล้่าก่อน ด้วยนะคะ)
ว่าด้วยเรื่องการจะรวมเล่มนิยายขายในเล้า จะต้องมี ID ซื้อขายก่อน ถึงจะสามารถประกาศ ..แจ้งข่าว.. ที่บนหัวกระทู้ของนิยายได้ ในกรณีที่ รวมเล่มกับ สนพ. ที่มี  ID ซื้อขายของเล้าแล้ว นักเขียนก็สามารถใช้ หมายเลข  ID ของ สนพ. ลงแจ้งในหน้าที่มีเนื้อหารายละเอียดการสั่งจองนิยายได้

18.ใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดเรื่องสั้น ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที  ส่วนเรื่องสั้นที่จบแล้วให้แก้ไขโพสแรก และต่อท้ายว่าจบแล้วจะได้ไม่ถูกลบทิ้งและจะเก็บไว้ที่บอร์ดเรื่องสั้นไม่ย้ายไปไหน   เช่นเดียวกับนิยายทุกเรื่องเมื่อจบให้แก้ไขโพสแรก และต่อท้ายว่าจบแล้ว จะได้ย้ายเข้าสู่บอร์ดนิยายจบแล้ว ไม่เช่นนั้นม๊อดอาจเข้าใจว่าไม่มาต่อนิยายนานเกินจะโดนลบทิ้งครับ

เอาข้อสำคัญก่อนนะครับเด่วอื่นๆจะทำมาเพิ่มครับเอิ้กๆหุหุ
admin
thaiboyslove.com.......................................                                                           

วันที่ 3 ธ.ค. 2551วันที่ 16 ก.ย. 2554 ได้เพิ่มกฏ ข้อที่ 7
วันที่ 21 ต.ค.2556 ได้ปรับปรุงกฏทั้งหมดเพื่อให้แก้ไข และติดตามได้ง่าย
วันที่ 11 พ.ย. 2557 เพิ่มเติมการลงเรื่องสั้นและการแจ้งว่านิยายจบแล้ว
วันที่ 4 ธ.ค. 2557 เพิ่มบอร์ดเรื่องสั้นจึงปรับปรุงกฏข้อ 18 เกี่ยวกับเรื่องสั้น และ เพิ่มเติมส่วนขยายของกฏข้อ 17



เวปไซต์แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่างประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม

Share This Topic To FaceBook
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 05-08-2018 21:12:16 โดย zipboy »

ออฟไลน์ zipboy

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 309
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +65/-0
Re: ++เพื่อน(เรียน)พิเศษ : Intro ++
«ตอบ #1 เมื่อ14-02-2015 02:55:05 »

สวัสดีครับ รู้สึกตื่นเต้นเล็กน้อยกับการเป็นมือใหม่หัดเขียน ปกติทำงานเกี่ยวกับการพิมพ์ๆ เขียนๆ แต่ไม่ใช่นิยายนี่ละครับ แต่นี่เป็นครั้งแรก ที่เขียนจบเป็นเรื่องได้ 

ผมเคยเขียนเรื่องนี้ไว้เมื่อปี 2007 ด้วยเหตุผลส่วนตัวล้วนๆ มีแค่คนรอบตัวที่รู้จักที่ได้อ่าน จนเจอรุ่นน้องที่รู้จักคนนึง เชียร์ให้ผมเอามาเขียนใหม่ เกลา+ปรับเนื้อเรื่องใหม่ และที่นี่ เป็นที่แรกที่ผมจะเอาเรื่องที่ผมเขียนไว้มาให้ทุกคนได้อ่านกันครับ

ฉบับทำใหม่ผมตอนนี้ทำเสร็จ 100% ละครับ

มือใหม่หัดเขียน ฝากเนื้อฝากตัวที่เล้านี้ด้วยนะครับ ขอบคุณครับ^^

****************************************

เพื่อน(เรียน)พิเศษ

Intro

ใครๆ ก็บอกว่า “วัยเรียน” สบายสุดแล้ว

ผมยังแก่ไม่พอมั่ง เลยไม่เข้าใจสบายตรงไหน เช้าก็ต้องแหกขี้ตาไปให้ทัน 7.40 เรียนวันนึงตั้ง 8-9 คาบ นี่ยังไม่นับการบ้าน รายงาน และสารพัดสิ่งที่สั่งๆๆ แบบไม่ถามผมสักนิดว่า “ไหวไหม” แถมเรียนเสร็จ ยังต้อง “ไปติว” “เรียนพิเศษ”

บอกผมที สบายตรงไหนฟระ!!!

โชคดีที่ผมกับกลุ่มเพื่อนซี้ผม เป็นพวกเรียนไป เล่นไป แต่หนักอย่างหลังมากกว่า ขึ้น ม.ปลาย ที่เค้าว่าต้องขยันๆ เพื่อมหาลัยฯ ดีๆ เออ ก็ควรขยันอยู่นะ แต่ทำไงดีครับ ผมโคตรขี้เกียจเลย โดดได้โดด อ่านหนังสือก็หลับ สอบก็ตกเป็นปกติ เพราะวิชาที่ผมถนัดก็ไม่มีอะไรมาก เป็นวิชาสังคมแบบภาคสนาม ลงมือปฎิบัติจริง เรียนวิชานี้ไม่มีเบื่อครับ เรียนทั้งกลางวัน กลางคืน หรือข้ามคืนก็ไหว

เพื่อนผมบางคนก็ชิลล์ๆ ร่วมอุดมการณ์เน้นวิชาสังคมภาคสนามแบบผม บางคนก็ตั้งใจเรียนวิชาหลักมากๆ โดยเฉพาะลงเรียนพิเศษเนี่ย ค่าเรียนก็ไม่ใช่ถูกๆ ทั้งที่จ่ายค่าเทอมให้โรงเรียนก็ทุกบาท ทุกสตางค์ แต่ทำไมคุณครูทั้งหลายชอบสอนไม่เต็มบาท เต็มสตางค์ที่ผมจ่าย จนต้องมาเรียนพิเศษกันทีหลัง (เห็นติวเตอร์รายได้ดีมีตึกตัวเองกันได้ ถ้าผมหัวดีๆ แบบขี้เกียจเรียนก็อัจฉริยะได้ จะเปิดสำนักติวกับเค้าบ้าง) แต่...เพื่อนผมที่ไปเรียนพิเศษเนี่ย มันชอบกลับมายั่วให้ผมอยากขยันเรียนเลยครับ

ทำไมอะเหรอ...ผมรู้ว่าคุณก็ทายถูก

ไปเหล่หญิงครับ...เพื่อนผมบางคนบอกเป็นของแถมอย่างดี เวลาไปนั่งเรียนพิเศษ แต่พวกนี้มันไก่อ่อน เหล่อย่างเดียว ไม่เห็นได้กลับมาสักคน แล้วมาอ้างว่า ในห้องเค้าไม่มีใครคุยกัน เพื่อนผมบางคนนี่เล่นเป็นของหลัก เรียนไปหลับไป เลิกเรียนเข้าไปเนียนทำเป็นไม่รู้เรื่อง แล้วขอลอก ขอเบอร์ แล้วขอ...ในอนาคตมันซะเลย

ไม่ได้ละ เสียงลือเสียงเล่าอ้าง มากันเยอะ จนผมจัดไปคอร์สนึงเลยตอนปิดเทอมนี้ เอาวิชาเลขละกัน ผมเป็นคนเก่งวิชานี้ ตกมาตั้งแต่ยังดูดนมกล่องยันดูดจากเต้า แต่เพื่อนหลายคนก็เตือน สาวเรียนวิชานี้ มีแต่พวกหน้าแก่วิชาการ เอ้ย!!! ไม่จริงหรอก สวยๆ เก่งๆ มีเยอะแยะไป เราเป็นผู้ชาย ต้องอ่อนแอบ้างในบางเรื่อง เพื่อให้เธอมาดูแลเราไง ใช่มะๆๆๆ

ผมไม่เคยคิดเลย หลังจากผมเรียนจบคอร์สนี้แล้ว ชีวิตผมจะไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป...เพื่อนเรียนพิเศษที่ผมจะเล่าถึงคนนี้ คือคนที่เปลี่ยนทุกสิ่งของชีวิตผม ให้มันไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป

ชีวิตผมมีความหมายและสำคัญมากขึ้น หลังจบคอร์สแรกในชีวิตที่ผมลงเรียนไป และเพื่อนเรียนพิเศษคนนี้ กลายเป็น “สิ่งที่ดีที่สุดในชีวิตผมด้วย”

อย่าลืมเช็คที่นั่ง รับหนังสือ แล้วตั้งใจเรียนกันนะครับ

*********

สารบัญ


Special Chapter "30" : Part 1 Part 2

************
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 05-08-2018 13:33:25 โดย zipboy »

ออฟไลน์ ლїЯдςLΣϛlθTtεR

  • มิราเคิ้น
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 729
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +355/-3
เจิมเรื่องใหม่
สู้ๆนะฮะซิปบอยยยยยย :P

ออฟไลน์ zipboy

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 309
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +65/-0
Re: ++เพื่อน(เรียน)พิเศษ : บทที่ 1 ++
«ตอบ #3 เมื่อ14-02-2015 03:37:29 »

Chapter 1

หาว......

เสียงหาวยาว ๆ ดัง ๆ สลับบิดขี้เกียจที่ทำประจำทุกครั้งตอนตื่นนอน จัดแจงขยี้ตา เกาหัวเกลี้ยง ๆ ที่สกินเฮดเบอร์ 2 เป็นทรงประจำตั้งแต่ขึ้น ม.4 มา ตามด้วยหยิบแว่นมาใส่ หยิบ iPhone ที่วางไว้หัวเตียงมาดูเวลาที่ตื่น

11.45 น

ก็มันปิดเทอมอะนะ ตื่นสายหน่อยไม่เป็นไรหรอก เดี๋ยวนะ...จะเที่ยงแล้ว วันนี้วันแรกของคอร์สเรียนพิเศษตอนบ่ายโมง วิ่งเลยมึง!!! ถ้าสายแล้วมึงไม่ได้ที่นั่งที่ดีที่สุด ทุกอย่างที่ลงทุนจะเสียเปล่านะเว้ย

สิบห้านาทีต่อมาหลังอาบน้ำ แปรงฟันเสร็จ เสื้อเชิ๊ตสีขาวแขนยาวแบบเข้ารูป กางเกงยีนส์กระบอกเข้ารูป เข็มขัดหนังLV นาฬิกา G-Shock Rangeman สีน้ำเงิน น้ำหอมกลิ่นโปรด ทั้งหมดนี้ใช้เวลาไม่นานนัก จากสภาพตื่นนอน ก็กลายเป็นหนุ่มเนี๊ยบเรียบร้อย กระเป๋าสะพายข้างสำหรับใส่สมุด iPad แว่นกันแดด สายชาร์จ แบตเตอรี่สำรอง ก่อนจะคว้าเสื้อเกราะอ่อนสวมทับอีกชั้นหนึ่ง และหมวกกันน็อคเต็มใบกับถุงมือที่ขาดไม่ได้

“เรียนบ่ายไม่ใช่เหรอ ไม่กินข้าวก่อนเหรอลูก” ทันทีที่ลงมาถึงชั้นล่าง แม่ผมเรียกกินข้าวก่อนตามปกติ

“สายแล้วแม่ เดี๋ยวไปไม่ทัน” ผมรูดซิปเสื้อเกราะอ่อนให้เรียบร้อย ตามด้วยใส่ถุงเท้ากับรองเท้าบูทหนังกลับ

“ไปเรียนนะ อย่าหนีเที่ยวละ” นั่น...ผมออกจะเด็กดี แม่เชื่อผมหน่อย ๆ

“เรียนซิครับแม่ ตั้งใจเรียนนะเนี่ย ถึงขอแม่ลงเรียนพิเศษเนี่ย” ผมเดินไปหอมแก้มแม่อีกทีก่อนไป

“อย่าซิ่งมาก และอย่ากลับดึกด้วย” ผมชูสองนิ้ว ปากจู๋ เป็นการตอบรับ ก่อนจะสวมหมวกกันน็อคกับถุงมือให้เรียบร้อย

ทุกอย่างพร้อม Ducati Diavel Carbon Red ชื่อเล่นน้องถ่าน พาหนะผมก็พร้อม ได้เวลาไปเรียนละ...ปลายทางคือสยาม

การจราจรวันจันทร์ต้นเดือนตุลาคมแบบนี้ ถึงจะติด แต่ก็พอทำความเร็วได้บ้าง อากาศร้อนพอสมควร ภาพที่เห็นตอนนี้ดูเป็นสีชาจากแว่นกันแดดและกระจกหมวกกันน็อค แล้วผมก็มาถึงสยามตามเวลาที่เล็งไว้ แล้วไปจอดรถที่ประจำของผมเวลาอยากจอดในสยาม และต้องไปไหว้ที่จอดรถกันเล็กน้อย

“สวัสดีครับเฮียโบ้” เสียงผมนำก่อนในขณะที่เฮียสุดเลิฟผมกำลังนั่งเล่นเกมใน iPad อยู่ที่หลังเคาน์เตอร์ของร้าน

“ไง จะฝากจอดน้องถ่านซินะ” ผมยกนิ้วให้เฮียเลย แม่นแล้ว

“เดี๋ยวกลับมาดูของใหม่นะเฮีย ไปเรียนก่อน” เฮียโบ้ถึงกับหยุดเกมหันมาพูดกับผมแบบตกใจ

“เรียน!!! กูไม่เชื่อ มึงหาสาวในห้องเรียนพิเศษมากกว่า ทำไมเฮียจะไม่รู้” โหย เกลียดจริง คนรู้ทัน เฮียแมร่ง!!!

“ฝากหมวกกันน็อค เสื้อ ถุงมือก่อนนะเฮีย เดี๋ยวกลับมานะคร๊าบ” เฮียพยิบหน้าขึ้นแบบรู้เรื่องกัน แล้วผมก็แวะไปซื้อเบอร์เกอร์กินก่อนเรียน

ซ้ายก็น่ารัก ขวาก็โดน นี่แหละ ทำไมปิดเทอมแล้วเราต้องเรียนพิเศษกัน ฮี่ๆ ที่แน่ๆ ขอให้คนนั่งเรียนข้างๆ น่ารัก น่าโดนนะครับ ได้สักคนจะตั้งใจเรียนจริง ๆ แล้วผมก็มาถึงหน้าที่เรียนพิเศษละ ก่อนจะเข้าเรียน จัดลูกอมเย็น ๆ สักเม็ดดับกลิ่น แล้วตามด้วยชาเขียวสักสองขวด เอาไว้ผูกมิตรสาวข้างๆ นั้นแหละ

รับหนังสือแล้ว หาห้องเจอแล้ว หาที่นั่งเจอแล้ว หย่อนก้นเรียบร้อย ลุ้นแค่ที่นั่งข้าง ๆ จะน่ารักขนาดไหน เพราะที่มาในห้องตอนนี้ สวย ๆ น่ารัก ๆ โดน ๆ มีหลายคนละ

แต่เดี๋ยว มึงเป็นใครมานั่งข้าง ๆ กูเนี่ย!!! อ๊าก ๆ ไม่นะ ทำไมคนนั่งข้างผมต้องเป็นผู้ชายด้วย มันนั่งผิดเปล่าวะ แอบชำเลืองบัตรที่ติดปกในหนังสือแล้ว...ไม่ผิดแน่นอน เห็นแล้วเซ็ง!!! จากสาวน่ารัก กลายเป็นผู้ชาย แถมหน้าตายังกับเกย์ ตลอดปิดเทอมเกือบเดือนเนี่ย ตรูต้องทนอยู่กับไอ้นี่หรอเนี่ย เอาวะ สาวคนอื่นในห้อง หาโอกาสโฉบไปคุยก็ได้ จะให้โดดตลอดคลาสก็ยังไงอยู่ วันดีคืนดี แม่มาตรวจหนังสือในห้อง แล้วกระดาษสะอาดละก็ งานจะเข้าเอา

แต่ที่แน่ ๆ งานเข้าแล้วแหละ ลืมถุงเครื่องเขียนไว้ที่บ้าน!!! แล้วจะเอาไรจดอะ เอาไงดี หันไปข้างๆ คงต้องพึ่งคนข้างๆ ซะแล้ว

“นาย ๆ” ผมสะกิดเรียกทีนึง ก่อนที่เพื่อนข้างที่นั่งจะหันมาหา

“ยืมดินสอสักแท่งได้ปะ เราลืมเอามา” ประโยคขอร้องผสมหน้าชวนสงสาร ก่อนที่เพื่อนข้างๆ จะพยักหน้าให้ แล้วควักดินสอกดให้

“เลิกแล้วเดี๋ยวคืนนะ” ผมรับปากเป็นหลักประกัน ก่อนที่เจ้าตัวจะพยักหน้า แล้วสายตาก็มองจอโทรทัศน์ที่ฉายเทปบันทึกการสอนต่อไป

เรียนรอบละ 3 ชั่วโมง ทุกชั่วโมงครึ่งพัก 10 นาที เปิดมาคอร์สแรก เข้าหัวไหม? ตอบเลย ไม่เลยสักนิด ปล่อยพักปุ๊ป เดินออกไปหามุมดี ๆ แล้วควักบุหรี่กับ Zippo สลักปีกนางฟ้า มาเป็นคู่หูแก้เครียด สบายขึ้นเป็นกอง รายการต่อไป เย็นนี้ทำอะไรดี ระหว่างเรียกไอ้ตั้ม แชมป์ โจ มาเมารอบดึก หรือจะดูว่าสาวไหนจะว่างพาเราขึ้นสวรรค์ได้บ้าง

สรุปเลยนะ ทำมันทั้งคู่นี่แหละ ดีที่สุด

………………..

จบคอร์สวันแรก สี่โมงเย็น ผมบิดขี้เกียจด้วยความโล่งอก ถึงจะไม่ได้ดั่งใจ แต่ก็ไม่หลับละกัน แต่ก่อนจะกลับ ผมต้องคืนดินสอกดใช่มะ

“ขอบใจนะ” ผมยื่นดินสอกดคืนให้ ไม่มีอะไรตอบรับนอกจากรอยยิ้มกับพยักหน้าให้ แล้วลุกออกไปจากที่นั่ง แต่ที่ไม่ปกตินิดหน่อยคือ เจ้าของดินสอหันกลับมายิ้มให้ผมก่อนเปิดประตูห้องออกไปซะงั้น ผมเลยยิ้มให้นิดนึงตามมารยาท

ผมไม่ได้คิดมากใช่ไหม แต่แอบเหวอนิดหน่อย คิดมาก ๆๆๆ

กลับมาที่ร้านเฮียโบ้ ที่ตอนนี้เฮียกำลังทำความสะอาดตู้กับร้านเล็กน้อย เฮียโบ้เป็นเหมือนผู้ปกครองผมอีกคน เข้าใจวัยรุ่นกว่าแม่ผมในบางเวลาซะอีก การมาร้านเฮียมีอยู่สามอย่าง อย่างแรกคือจอดน้องถ่านกับน้องแพนด้า เวลาขับมาสยาม (ถ้าไม่โดนคนอื่นแย่งจอดซะก่อน) อย่างที่สองคือ G-Shock ที่เฮียสรรหามาดูดเงินผมได้ตลอด อย่างสุดท้ายคือ ที่หลบตีนเวลาผมโดนหมาหมู่นี่แหละ

“เป็นไง เรียนพิเศษวันแรก” เฮียยิงคำถามจี้ใจดำผมมาก

“เซ็งดิเฮีย เบอร์สาวไม่ได้ แถมคนนั่งข้างดันยังกับเกย์” สิ้นคำตอบผมเสร็จ เฮียหลุดขำสะใจชนิดที่ถ้าผมไม่เกรงใจ ผมต่อยเฮียจริงด้วย!!!

“ไม่ขำเลยเฮีย เอาไปเลย ให้ครับเฮีย” ผมเอาชาเขียวสองขวดที่ซื้อไว้กะจีบสาวข้าง ๆ ยกให้เฮียไปเลย หมดอารมณ์

“ดีจัง ลาภปาก” เฮียเปิดขวดดื่มทันที ส่วนผมก็ดูนาฬิกาในตู้ต่อไป ก่อนจะพบว่า ยังไม่มีของใหม่โดนใจ กลับมานั่งเก้าอี้หน้าตู้ ก่อนจะหยิบ iPhone ถามเพื่อนในกลุ่มทั้งหมดว่าว่างไหม

Big :  พรรคพวก เย็นนี้ร้านเดิมไหม
Tum ปืนโต : กูไม่ว่างวะ เงินไม่ค่อยมีด้วย ฮา ๆ
โจอี้ : แห้วมาหรอมึง ถึงได้ชวนพวกกูเมาเนี่ย : P
Big ​: ระดับนี้แล้ว แห้วอะไรของมึง ไม่มีเว้ย
แชมป์ :  งั้นพามาให้พวกกูเจอหน้าหน่อยซิ อย่าซ้ำหน้านะเว้ย ถึงมึงมีเยอะ แต่พวกกูจำได้หมดนะ
Big : รวดเร็วไปมะ มีอย่างที่ไหน จีบติดวันแรก พาไปวงเหล้าเพื่อนเนี่ย
Tum ปืนโต : แหม่ แล้วไอ้จีบเมื่อชั่วโมงที่แล้ว ฟันฉับชั่วโมงถัดมาคืออะไรครัช
โจอี้ : 555555
แชมป์ : ตั้ม กู Like วะ
Big : ตกลงพวกมึงไม่มาใช่ไหม จบ ๆๆ
Tum ปืนโต : พึ่งจะกินไปเมื่อวันศุกร์ จะเอาอีกแล้วหรอ พวกกูผลิตเงินไม่ทันเว้ย
แชมป์ : อนาคตต้มเหล้ากินเองดีกว่า ประหยัด


ที่เหลือ ขี้เกียจอ่านละ ว่าแล้วโทรหาคนล่าสุดที่พึ่งได้เบอร์มาหมาด ๆ สวย น่ารัก เรียนเก่ง แถมอยู่โรงเรียนที่ชายโรงเรียนผม นิยมไปแจกขนมจีบถึงที่ประจำ

“สวัสดีครับแพรว บิ๊กเองนะ” สาวคอนแวนท์ที่พึ่งได้เบอร์มาเมื่อสัปดาห์ก่อนที่ผมประกาศกับหมู่เพื่อนว่า คนนี้ผมเอาจริง

“เราอยู่สยามอะ อยากชวนเธอไปกินข้าว” เฮียโบ้ทำปากขมุบขมิบล้อเลียนผมอยู่ เห็นนะเฮีย ไม่ต้องหลบเลย ชูนิ้วกลางให้เฮียเป็นรางวัลเลย

“หกโมงเย็น สยามพารากอนตรงลิฟท์แก้วนะครับ” เรื่องดี ๆ มาแล้วหนึ่งเรื่อง ไม่ง้อเพื่อนก็ได้

“เฮียถามจริงนะ ผู้หญิงเป็นกระบุงของแกเนี่ย จริงจังสักคนไหม” เฮียถามผมตอนวางสายเสร็จ ผมรีบทำหน้าหล่อเลยครับ

“จริงจังซิเฮีย คนก่อน ๆ หน้า มันไม่ใช่ เลยรีบตัด ๆ ไปก่อน ล่าสุดนี่เฮีย แพรว น่ารักม๊า ๆๆ” ผมรีบเปิดรูปเธอให้เฮียโบ้ดู แต่เฮียโบ้ดูจะทำหน้าเฮือมผมซะงั้น

“เสร็จแกยังละ” ถามตรงนะเฮีย

“โห เฮีย คนนี้ผมจริงจัง ส่วนที่ฟันๆ อันนั้นรู้อยู่ว่าได้แค่นั้นก็กำไรแล้ว” เฮียตบเหม่งผมเบา ๆ แต่ผมหลบทัน

“เฮียปิดร้านสามทุ่มเหมือนเดิมปะ จะได้ฝากน้องถ่านไว้” เฮียแบมือขอค่าจอดจากผมเหมือนเคย

“เฮียก็หาของใหม่ ๆ มาขายผมซิคร๊าบ ไปดีกว่า เดินเล่นก่อนนะเฮีย” ผมออกจากร้านเดินฆ่าเวลาหาอะไรทำดีกว่า

………………..

หกโมงเย็นที่รอคอยมาถึง ผมเข้าห้องน้ำล้างหน้า ซับหน้าให้สะอาดที่สุด ดูว่าแว่นไม่มีอะไรติด ละก็บ้วนปากให้ชัวร์ว่า ไม่มีกลิ่นอะไรแปลก ๆ ตามด้วยจัดเสื้อผ้าให้เข้าที่เล็กน้อย ก่อนจะออกไปรอตามที่นัดไว้ แล้วแพรวก็มาตามนัด

“รอนานไหมครับ” ผมรับรองว่าไม่สายชัวร์ มาตรงเป๊ะนะ

“ตรงเวลาเลยแหละ ว่าแต่ ทานไรดี” ผมคิดแล้วคิดอีกเล็กน้อย แต่พอจะจำได้ว่า แพรวกินอะไร ไม่กินอะไร 

“Sizzler ละกัน” นั้นไง เธอพยักหน้าใช่เลย บอกแล้วผมจำได้ เธอชอบทานผัก

ไม่รู้ Sizzler มันแจกฟรีหรือไง คนเยอะตลอด แต่แพรวดูจะมุ่งมั่นกับมื้อนี้มาก ถ้าเธอรอ ผมก็รอเหมือนกัน ผมเลยชวนเธอเดินเล่นสักหน่อย สิบนาทีน่าจะพอ

“วันนี้ดีใจที่แพรวว่างอะ” ผมยิ้มกว้างร่าเริง ก็นัดมาหลายรอบ แต่เธอไม่ว่างนี่หน่า

“เรามาเรียนพิเศษอะ เลยว่าง แล้วบิ๊กละ มาเที่ยวหรอวันนี้” เข้าทางเลยแหละ

“เราก็มาเรียนนะ วันนี้เปิดคอร์สแหละ แบบนี้ก็นัดได้ทุกวันดิ” แล้วเธอจะว่างไหม

“ไม่แน่ใจอะ แต่คงได้เจอกันเรื่อยๆ ถ้าบิ๊กเลี้ยงข้าวเรานะ แฮ่ๆ” ไม่มีปัญหา เราเลี้ยงไหว เพราะความรักต้องลงทุนไง

อาหารมื้อนี้ ทำให้ผมได้รู้จักแพรวมากขึ้น บอกตรงๆ เธอใช่มากสำหรับผมอะ น่ารัก เรียนเก่ง ตรงสเปคผมทุกอย่างไปซะหมด ถ้าเธอโอเค คนอื่นในสมุดโทรศัพท์ผม ทิ้งถาวรตอนนี้ยังได้

“ถามไรอย่างดิ” แพรวหยุดตักเยลลี่รอฟังผม

“เราชอบเธออะ” ตรงดีไหมละ แต่ดูเหมือนว่า

“กะแล้วว่าต้องถามแบบนี้” ดีๆ เราชอบคนตรงเหมือนกัน แพรวยิ้มเล็กๆ ให้ผมอย่างมีความหวัง

“ยังไม่มีหรอก แต่เรายังไม่คิดเรื่องนี้อะ” ไม่เป็นไร แค่รู้ว่าไม่มีคู่แข่ง บิ๊กก็สบายใจแล้ว

“แล้วเราจองไว้ก่อนได้ปะ” เอาจริงนะเนี่ย

“แน่ใจแล้วหรอ บิ๊กอาจคิดผิดก็ได้นะ” ไม่ผิดหรอก เรามั่นใจเธอนะ

“เราจริงจังนะ คนเดียวเลย ไม่มีคนอื่น ไม่มีตัวเลือกด้วย” ทิ้งทั้งลิสต์เพื่อแพรวเลยนะ

“เอางี้ เราไม่ปิดกั้นหรือปฏิเสธนะ แต่เราพึ่งรู้จักกันแป็ปเดียว ให้เวลาทั้งเราและเธอไม่ดีกว่าหรอ เราไม่เซย์เยสกับผู้ชายที่เจอกันแค่สองครั้งหรอก” ตอบแบบนี้โดนใจอย่างบอกไม่ถูก แบบนี้ยิ่งอยากได้เป็นแฟนเข้าไปใหญ่

“งั้น แพรวรู้ไว้นะ บิ๊กจีบอยู่ และหวังว่าแพรวจะตอบรับสถานะแฟนในเร็วๆ นี้ด้วย” ผมไม่มาเขินหรืออายกับเวลาแบบนี้หรอก มัวแต่เขิน เสร็จคนอื่นพอดี

“จ๊ะ แต่เราว่า บิ๊กเจอคนอื่นแล้ว อาจโอเคกว่าเราก็ได้” ผมนี่ส่ายหัวเลย ไม่จริงอะ

“เราพูดจริง ทำจริงนะ ขอให้แพรวมั่นใจได้ สัญญา” ผมยื่นนิ้วก้อยขวาให้ แพรวดูจะหลุดขำนิดๆ แต่ก็เกี่ยวก้อยกับผมแบบหลุดขำนิดๆ นั้นแหละ

“โตป่านนี้แล้ว มาเกี่ยวก้อยแบบเด็ก ๆ ไปได้” แต่แพรวก็เกี่ยวก้อยเรานี่

“ก็ อย่างน้อยแปลว่าเราผ่านรอบแรกแล้วไง เดี่ยวเราไปส่งแพรวที่บ้านนะ” ไม่มีคำตอบอะไรนอกจากยังมองผมแบบยิ้ม ๆ อยู่

“แล้วไปส่งยังไงละ” หมดคำถามนี้ ผมเช็คบิล ออกจากร้าน พาเธอไปเจอกับน้องถ่านของผม แต่ก่อนจะเจอนั้น ทักทายเจ้าที่ก่อนกลับ

“เฮียโบ้ กลับมาละคร๊าบ” ผมก็ต้องมาเอาหมวก ชุด ถุงมือ กับยืมหมวกเฮียไง

“นั้นไง ถ้าเอ็งไม่มา ข้าจะปิดร้านหนีแล้ว” เฮียหยุดมองคนที่มากับผม ก่อนจะบอกว่า

“รู้เลย จะยืมอะไรก่อนกลับ” เฮียเดินไปหลังตู้ ก่อนจะหยิบหมวกกันน็อคแบบครึ่งใบสีชมพูหวาน ให้ผม

“ขับดี ๆ อย่าแว้นละ แล้วจะไม่แนะนำให้เฮียรู้จักหน่อยหรอมึง” ก็รอเฮียเปิดช่องอยู่ไงครับ

“นี่แพรว ว่าที่แฟนผมไงเฮีย / แพรวครับ นี่เฮียโบ้ รุ่นพี่ที่โรงเรียน เปิดร้านขายของที่นี่ เราฝากจอดรถร้านเฮียเค้าเวลามาสยามอะ” แพรวไหว้ทักทายเฮียโบ้ด้วยมารยาทที่ดี ส่วนเฮียก็รับไหว้เช่นกัน

“ผมไปก่อนละเฮีย เจอกันพรุ่งนี้ครับ” เฮียโบ้โบกมือไล่ผมออกจากร้าน ก่อนเปลี่ยนหน้าเป็นยิ้มโบกมือบาย ๆ ให้แพรวที่ไหว้ให้เฮีย

หัวค่ำแบบนี้ รถติดพอประมาณ ถึงแพรวจะใส่กระโปรงมา แต่ก็คร่อมซ้อนท้ายน้องถ่านผมได้สบายมาก ผมขับค่อนข้างช้า เน้นปลอดภัย บางจังหวะอาจจะเร่งและปาดไปมาบ้าง แต่ก็รีบชะลอลงเมื่อหลุดจังหวะที่ต้องทำความเร็ว และผมก็มาส่งแพรวถึงหน้าบ้านในซอยแถวพระรามสี่เรียบร้อย

“เวลากลับเองกลับไงอะ” แพรวลงจากรถผมเรียบร้อย กำลังถอดหมวกกันน็อคคืนผมอยู่

“เราเรียกที่บ้านมารับ ไม่ก็ Taxi อะ” ดีเลย งั้นจะมาส่งทุกวัน

“งั้น เรามาส่งทุกครั้งที่แพรวจะกลับบ้านนะ” เบาะหลังผมพร้อมเสมอ

“เกรงใจอะ อีกอย่าง พ่อเราดุนะ บอกไว้ก่อน” ไม่ใช่ปัญหา เรื่องแบบนี้ต้องพิสูจน์กันยาว ๆ

“ไม่เป็นไรอะ พรุ่งนี้เจอกันหลังเลิกเรียนนะ” แพรวพยักหน้าให้ ก่อนจะส่งหมวกกันน็อคคืนให้ผม แล้วเธอก็เดินเข้าบ้านไป

ผมจอดรถสักครู่ เพื่อมัดหมวกใบสำรองไว้กับเบาะหลังให้เรียบร้อย จะว่าไป มองเข้าไปในบ้านแพรวแล้ว ถึงจะเป็นบ้านหลังไม่ใหญ่ แต่ก็รู้สึกได้ว่า ถ้าผมเข้าไป พ่อกับแม่แพรว ต้องเชือดผมชัวร์ กลัวไหม ไม่เลย จีบลูกสาวเค้า เราก็ต้องทำให้ดีที่สุด

เป็นวันที่ผมมีความสุขจริง ๆ ลืมเรื่องที่นั่งเรียนพิเศษที่สุดแสนนอยด์ไปได้เลย


**********



ลงบทแรกแล้วครับ ส่วนบทถัดๆ ไป จะลงให้อ่านกันทุกเสาร์นะครับ (แต่ถ้าอาทิตย์ไหนว่างหน่อย จะแถมวันพุธกับเสาร์ให้ในอาทิตย์นั้นครับ)

บทที่ 2 เจอกันวันที่ 18/02/15 ครับ^^

ยังไงแล้ว มือใหม่ฝากด้วยนะครับ น้อมรับทุกคำติชมครับผม ขอบคุณครับ^^
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 30-09-2016 16:11:14 โดย zipboy »

ออฟไลน์ Mouse2U

  • บังเอิญ'โลกกลม'..
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3531
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +223/-10
พี่บิ๊ก! อย่าสนใจแพรวมากนักสิ๊~ เจ้าของดินสอกดดีกว่าเยอะน้า. :o8:

ออฟไลน์ dahlia

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4239
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +695/-4
อีกคน คือ เจ้าของดินสอ หรือเปล่า  แล้วบิ๊กก็ไปขอแพรวคบด้วยซะแล้ว

ออฟไลน์ zipboy

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 309
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +65/-0
เจิมเรื่องใหม่
สู้ๆนะฮะซิปบอยยยยยย :P

ขอบคุณนะครับ^^

พี่บิ๊ก! อย่าสนใจแพรวมากนักสิ๊~ เจ้าของดินสอกดดีกว่าเยอะน้า. :o8:

เดี๋ยวบทถัดไป จะมารู้จักกับเจ้าของดินสอกดกันนะครับ^^

อีกคน คือ เจ้าของดินสอ หรือเปล่า  แล้วบิ๊กก็ไปขอแพรวคบด้วยซะแล้ว

แพรวยังไม่เยสนะครับ ต้องติดตามกันต่อไป ส่วนเจ้าของดินสอเป็นใคร เจอกันบทหน้าครับ^^

ออฟไลน์ zipboy

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 309
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +65/-0
Re: ++เพื่อน(เรียน)พิเศษ : บทที่ 2 ++
«ตอบ #7 เมื่อ16-02-2015 17:30:53 »

ตอนที่ 2 มาละครับ กลัววันพุธจะไม่ว่าง เลยลงก่อนครับ แล้วเดี๋ยววันศุกร์ไม่ก็เสาร์ จะมาลงตอน 3 ครับ

************************

Chapter 2

วันแรกของคอรส์เรียนพิเศษตอนบ่าย แต่ผมก็ตื่นหกโมงเช้าเหมือนปกติตอนเปิดเทอม หน้าต่างห้องนอนคอนโด มองไปก็มีแต่ป่าคอนกรีต ถึงจะอยู่มาเทอมนึงต็มๆ แต่ก็แอบไม่ชินอยู่ดี ผมใช้เวลาสองชั่วโมงกับห้องฟิตเนสในคอนโด เป็นปกติของทุกเช้าเช่นเดียวกับตอนเปิดเทอม

เสร็จแล้วก็มาทานข้าวเช้า กับจัดการทำความสะอาดห้องให้เรียบร้อย การอยู่คนเดียว มันทำให้อะไรๆ หลายอย่าง ต้องทำตามเวลาให้เรียบร้อย ไม่เหมือนอยู่บ้าน ที่มีคนทำให้ผมตลอด เผลอแป็ปเดียว จะได้เวลาไปเรียนแล้ว ผมมาถึงสยามก่อนเที่ยง หาข้าวกินก่อนเข้าเรียน แล้วเสียงเตือนข้อความเข้า iPhone ผมกระหน่ำรัวในกระเป๋ากางเกงระหว่างกินข้าว

Brightening : ไอ้แทน เย็นนี้มาซ้อมที่โรงเรียนเปล่า
Tan : ไปดิ เดี๋ยวเรียนพิเศษเสร็จกลับไปเอากระเป๋า แล้วตามไป
Brightening : เออ เมื่อวานที่แพ้อะ เราอ่อนให้ แต่วันนี้ตอนซ้อมลูกโทษ รับรอง ไม่มีออมมือ
Tan : ก็ลองดู แต่แน่จริง แข่งสามแต้มสิบลูกดีกว่า
Brightening : งั้นๆ อะ ยากกว่านี้มีปะ !!! เออ เจอกันเย็นนี้


อิ่มแล้ว ได้เวลาไปเรียนแล้ว เดี๋ยวเย็นนี้จะจัดเต็มให้ไบรท์มันเงียบไปเลย แต่จะว่าไป ตั้งแต่ย้ายมาเรียนที่ใหม่ ไบรท์ก็เป็นหนึ่งในเพื่อนสนิทไม่กี่คนนั้นแหละ เพราะเราอยู่ทีมเดียวด้วยกัน และมันก็ชอบท้าผมแข่งอยู่เรื่อย แต่...แพ้ตลอด ฮา....

การเรียนพิเศษคอรส์นี้จำเป็นมาก เพราะเปิดเทอมหน้า คงต้องซ้อมเยอะกว่าเดิม ได้โดดเรียนวิชานี้หลายคาบแน่ๆ ถึงจะไม่ชอบที่นั่งเรียนพิเศษแบบดูเทปไป เรียนไปยาวๆ หลายชั่วโมง แต่มันจำเป็นอะนะ

ผมไปถึงก่อนเวลาครึ่งชั่วโมง รับหนังสือเสร็จ หาข้าวกินสักหน่อย เจอที่นั่งผมละ มีคนนั่งข้างๆ ฝั่งซ้ายมือผม แต่คนที่นั่งข้างผมนี่ซิ มองแว็บแรก รู้เลย นี่ไม่ได้มาเรียนแน่ๆ หน้าตาบอกยี่ห้อสุดๆ แอบเห็นนะ ว่าสายตาผิดหวังที่ได้นั่งด้วย แล้วก็จริงตามคาด ดินสอแท่งเดียว ยังไม่มีมาเรียนเลย ทายไม่ผิดจริงๆ ผมควักดินสอกดแท่งสำรองไว้ในมือรอเลย


“นายๆ” นั่นไง สะกิดผมจริงๆ

“ยืมดินสอสักแท่งได้ปะ เราลืมเอามา” สายตาวิงวอนขอยืมนี่แบบ...ไม่ต้องขนาดนี้ก็ได้

“เลิกแล้วเดี๋ยวคืนนะ” อืม เราก็ไม่ให้เอากลับเหมือนกัน แท่งนั้นเราหวงมากด้วย

ผมแอบขำเวลาเหลือบไปมองเพื่อนข้างๆ ผมนะ สายตาตอนเรียนอะจริงจัง แต่มือไม่จดเลยนะ ไม่รู้เรื่องใช่มะละ...ถามก็ได้นะ ใช่ซิ เราไม่ใช่สาวสวยอีกโต๊ะนี่หว่า เห็นนะ ว่ามองแต่สาวโต๊ะฝั่งขวาอย่างเดียวเลยนะ นั้นๆๆ ดินสอเราอะ อย่าเอาหัวไปเคาะกับสมุดแบบนั้นซิ ยืมของชาวบ้านเค้า ก็รักษาหน่อย!!!

พักครึ่งแรกก็มาถึง เพื่อนข้างๆ ผม หนีบดินสอไว้กับปกสมุด แล้วปิดมันลงอย่างรวดเร็วพอๆ กับลุกออกจากเก้าอี้เร็วมาก แบบถ้าผมชักเท้าหลบไม่ทัน โดนรองเท้าบูททับลงนิ้วเท้าที่อยู่ในรองเท้าแตะผมชัวร์ อย่างว่านะ นั่งกับผมมันอึดอัด ไม่เหมือนนั่งกับสาวๆ ที่เค้ามองอยู่ ลงมายืดเส้นยืดสายหน่อย ซื้อน้ำดื่มสักขวด ดันมองเห็นเพื่อนเรียนพิเศษอยู่ไกลๆ แต่ชัดเจนว่า กำลังพ่นควันอยู่ เออ ยังดีนะ ยังรู้จักไปสูบไกลๆ จะได้ไม่เหม็นชาวบ้านเค้า

กลับมานั่งอีกรอบ ผมขึ้นมานั่งก่อน ขอแอบดูหน่อยว่าข้างผมนี่เป็นใคร พอเห็นชื่อโรงเรียนแล้ว ไม่แปลกใจละ โรงเรียนลูกคุณหนูชื่อดังกลางเมืองนี่เอง มิน่าละ แต่งตัวเนี๊ยบ เสื้อผ้า เครื่องประดับแพงทั้งตัวขนาดนี้ สักครู่ต่อมา เจ้าของที่นั่งข้างๆ ผมกลับมาละ แต่กลับมาแบบกลิ่นบุหรี่จัดเต็มมาก แต่เอาเถอะ ทนแป็ปเดียว เดี๋ยวก็ไม่ได้กลิ่นละ ครึ่งหลังของการเรียน ทุกอย่างรู้สึกผ่านไปรวดเร็วดีนะ แต่กับข้างๆ ผม ดินสอที่ผมให้ยืม ตอนนี้กำลังถูกควงไปควงมา สลับกับจดบ้าง อะไรบ้าง แถมหาวให้ผมดูบ้างประปราย และเมื่อเรียนเสร็จ

“ขอบใจนะ” ยังดีนะเนี่ย ยืมของเราแล้วคืน แถมขอบใจเราด้วย ผมลุกออกไปถึงหน้าประตูห้องละ หันกลับไปมองเพื่อนเรียนพิเศษ ที่กำลังเก็บของตอนนี้อยู่ เค้าหันหน้ามาเจอผมพอดี ก็ยิ้มให้หน่อยละกัน คงต้องเจอกันอีกนาน แล้วผมก็เปิดประตูห้องออกไปก่อน

………………..

เดินไปเดินมารอบสยาม มันก็มีแต่ภาพเดิมๆ นิสิต นักศึกษา เด็กวัยรุ่น คนทำงาน เดินไปเดินมา สวนผมไป เดินผ่านหน้าผมไป ทุกคนไม่ได้สนใจอะไรรอบข้างมากไปกว่า จุดหมายที่กำลังจะไป ผมกลับไปที่ห้อง เก็บของลงกระเป๋ามาซ้อมบาสฯ ที่โรงเรียนตอนห้าโมงที่จะถึงนี้นั้นแหละ กระเป๋าเป้ที่ใส่ชุด ถุงเท้า กระติกน้ำ พร้อมหมดแล้ว ผมเปลี่ยนชุดเป็นเสื้อกล้าม กางเกงวอร์มขาสั้น รองเท้าบาสหุ้มข้อคู่ประจำ แล้วไปถึงโรงเรียนใน 20 นาทีต่อมา

“ไอ้แทน” เสียงไบร์ทลอยมาก่อนตัว ตามันดีเกินไปนะ เดินเข้าสนามยังไม่ทันเรียบร้อย ทักก่อนซะงั้น

“เออ แล้วโค้ชไม่อยู่หรอ” ผมวางเป้ลงกับอัฒจรรย์ข้างสนาม ในขณะที่เพื่อนๆ ในทีม กำลังเล่นกันในสนามอย่างอิสระ แปลว่าโค้ชยังไม่มา

“ไปเอาเอกสารอะ เดี๋ยวเย็นนี้อยู่เช็คลูกเป็นเพื่อนกูหน่อยดิ” ผมนึกขึ้นได้ว่า ตั้งแต่ปิดเทอมมา ลูกบาสในห้องพละทั้งหมด ยังไม่ได้เช็คสภาพนี่หว่า

“โอเค งั้นเรื่องแข่งสามแต้ม เก็บไว้ก่อนนะ” ไบร์ทมันยิ้มกว้างผสมหัวเราะหึๆ ซะงั้น

“แทน เราเข้าใจนะ กลัวแพ้ก็เลยอ้างเรื่องเช็คลูก แล้วชิ่งหนีใช่ม๊า” ยังไม่ได้พูดเลยว่ากลัวแพ้ ไบร์ท แกมโนไปเองละ

“แพ้ไม่กลัว กลัวอีกคนแพ้แล้วอ้างมากกว่าวะ มึง กว่าจะเช็คลูกเสร็จ มืดพอดี จะไม่เหลือเวลาให้ไปหาข้าวกินหน่อยหรือไง” วันพระไม่ได้มีหนเดี๋ยว โดนเราจัดหนักแน่ไบร์ท

“ท้าแล้วอย่าค้างคา ใครแพ้เลี้ยงข้าว เอาไหมละ ไม่ต้องสิบลูก เอาสามลูกพอ ลงครบสาม ลูกที่สี่ตัดสินเลย” อยากแพ้นัก จัดให้

“ได้ รับรอง วันนี้เราชนะชัวร์” ผมยิ้มอย่างมั่นใจว่าชัวร์แน่ๆ ไบร์ทยักคิ้วเบ้ปากแบบมั่นใจว่า ผมแพ้ชัวร์

แล้วโค้ชก็มาถึง วันนี้จัดเต็มมาก ทั้งซ้อมการเข้าทำ การส่งบอล รวมถึงชุดแผนการเล่นของโค้ช สามชั่วโมงเต็มที่ทำเอาเพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ ในทีมบาสฯ ของโรงเรียนถึงกับนั่งพักสักครู่ ในสภาพเหงื่อท่วม ก่อนที่โค้ชจะเดินมาสรุปผลการซ้อมวันนี้ แล้วเจอกันวันพรุ่งนี้

“แทน จะเช็คลูกบาสก่อน หรือจะแพ้เราก่อนดี” ปากดีละไบร์ท

“จะอะไรก็ได้ เพราะยังไง ไบร์ทก็แพ้เราอยู่ดี” ผมลุกขึ้นบิดตัวเล็กน้อย ก่อนจะท้าวเอวท้าไอ้ไบร์ทให้ลุกขึ้นมายืน

“เอางี้ สองอย่างพร้อมกันเลยดีกว่า เช็คลูกเสร็จ ยิงลงแป้น ใครลงเยอะสุด ชนะ” ข้อเสนอนี้ไม่เลว งั้นจัดไป

ลูกบาสยี่สิบลูกที่อยู่ในถังทรงสูงติดล้อสองถัง พร้อมกับถังเปล่าอีกใบ ทั้งสามถังเข็นมาอยู่กลางสนาม ตอนนี้ทุกคนกลับบ้านไปแล้ว เหลือแค่ผมกับไบร์ท ถังเปล่าไปวางใต้แป้น แล้วการเช็คลูกก็เริ่มต้น ทั้งการเคาะกับพื้น กดดูความแน่น แล้วจดเบอร์ไว้ก่อนว่าลูกไหนต้องสูบลมแค่ไหน เพราะวันนี้ไม่ได้เบิกที่สูบลมออกมา

แล้วลูกแรกก็ส่งให้ไบร์ทเริ่มก่อน ปลายเท้าอยู่ที่เส้นสามแต้ม แล้วลูกแรกของไบร์ทก็เด้งปลายแป้นตกพื้นกลิ้งกลับมาหาเจ้าตัวซะงั้น

“ลูกแรกก็ไม่รอดแล้ว หึๆๆ” ผมนี่รีบเยาะเย้ยก่อนเลย

“อ่อยให้ต่างหาก” ผมหัวเราะสะใจเล็กๆ ก่อนจะไปยืนตำแหน่งเดียวกับไบร์ทบ้าง

ผลการแข่งออกมาว่า เสมอกัน 15 ลูกเท่ากัน ผมอ่อนให้นิดหน่อย เดี๋ยวไบร์ทได้เลี้ยงข้าวผมสามทีติด จะจนซะก่อน เดินกลับไปหยิบนาฬิกาข้อมือมาสวมอีกที สามทุ่มกว่าแล้ว หิวแล้วๆๆๆๆ

“มื้อนี้ใครจ่ายละ” ไบร์ทนี่ห่วงกินตลอดเลย แต่จริงๆ มันเลี้ยงผมบ่อยนะ รอบนี้ผมเลี้ยงละกัน

“เลี้ยงไบร์ทคืนละกัน โอเคมะ” ไบร์ทมันยิ้มเลยแหะ หรือที่เลี้ยงเรานี่ หวังผลรอเราเลี้ยงคืนนะ

“แล้วจะกินไรดี” คำถามไบร์ทนี่ ผมก็นึกไม่ออกเหมือนกัน

………………..

แล้วก็ไปจบที่ร้านตามสั่งที่คุ้นเคย เดินไกลหน่อย แต่ได้กินชัวร์ แถมคนขายใจดี ให้เยอะด้วย ผมกับไบร์ทไม่พูดไม่จา ซัดข้าวในจานเกลี้ยงในพริบตา แถมมีจานสองกันสักหน่อย เพื่อความอิ่มพอดี

“สุดท้ายก็ต้องร้านนี้เนอะ” ผมพยักหน้าขณะดูดน้ำ ก็จริงนะ คิดไม่ออก ทีมบาสฯ ก็ชอบมากินร้านนี้กันหมด

“อยู่โรงเรียนมาเทอมแล้ว โอเคไหม” ผมยิ้มเล็กๆ ให้เป็นคำตอบ

“โอเคนะ เพื่อนๆ ดีหมด แล้วก็ มีไบร์ทนี่แหละ สนิทจนเคาะแซวว่าเราเป็นผัวเมียแล้วเนี่ย” ไบร์ทมันหัวเราะจนสำลักเลยทีเดียว

“ถ้าเป็นจริงๆ ก็ดีนะ เราจองนะ โอเคมะ” ไบร์ท!!! ตอนนี้ไบร์ทยิ้มกับหัวเราะแบบได้อารมณ์มาก

“จะจีบเราจริงเหรอ” ผมยิงไปที ไบร์ทเงียบเลย

“เปล่า!!! เรามีคนที่ชอบอยู่” ผมละสนใจขึ้นมาทีเดียว ไบร์ทมันยิ้มภูมิใจมากทีเดียว

“ใครอะ” ผมอยากรู้นะเนี่ย ไบร์ทนั่งมองผมอยู่สักครู่ จนผมนึกว่ามันวิญญาณหลุดไปแล้ว

“เค้าไม่ชอบเราหรอก แต่เราอะชอบเค้ามาก” ก็บอกมาดิ!!! ว่าใคร

“บอกมาดิว่าใคร ในโรงเรียนเราปะ” ไบร์ทพยักหน้าว่าใช่

“เอ้ย!!!​ ห้องไหน คนไหน บอกมาๆๆๆ...” ไบร์ทกรอกตานิดๆ ก่อนจะตอบว่า

“เอาว่าสักวันเค้าก็รู้ตัวเองแหละ” เออนะ ใครนะๆ ไบร์ทมันเป็นคนมนุษยสัมพันธ์ดี ผมละนึกไม่ออกเลย

“เอ้ย แป็ปนะ” ไบร์ทลุกขึ้นแล้วเดินเข้าไปในร้าน ส่วนผมนั่งรออยู่ แล้วไบร์ทก็เดินกลับมา

“จ่ายค่าข้าวละ กลับกันดีกว่า” อ้าว จ่ายทำไม เลี้ยงผมอีกละ ผมลุกขึ้นตบหัวมันเบาๆ ทีนึง

“ทีหลังจะไม่มากินด้วยแล้ว” ชิงจ่ายก่อนสามสี่ทีแล้ว เกรงใจ

“อะๆๆ โอเค รอบหน้าจะพาเข้าร้านแพงๆ เลย โอเคมะ” กวนตีนนะไบร์ท ผมตบอีกที รอบนี้ไบร์ทหลบทัน ก่อนจะยิ้มกว้างๆ ให้ผม ก่อนจะคว้ากระเป๋าแล้วเดินไปก่อนที่ผมจะตบให้โดนอีกรอบ

ผมเดินไปส่งไบร์ทที่ป้ายรถประจำทาง ก่อนที่ไบร์ทจะขึ้นไปก่อน เพราะสายที่กลับบ้านมาถึงพอดี

“เจอกันพรุ่งนี้เวลาเดิมนะ” ไบร์ทหันมาบอกอย่างรวดเร็ว ก่อนจะขึ้นรถไป ผมโบกมือให้ก่อนจะหันหลังเดินกลับไปขึ้นรถไฟฟ้า

Brightening : กลับดีๆ นะ // เออ ผมไม่ใช่เด็กนะ ทุกครั้งที่กลับบ้าน ไบร์ทมันส่งมาตลอด อยู่กรุงเทพฯ จะครึ่งปีแล้ว ไม่หลงหรอกน๊า
Tan : ครับคุณพ่อ
Brightening : ^^


ไบร์ทเป็นเพื่อนคนแรกตั้งแต่ผมย้ายมาเรียนที่นี่ เป็นเพื่อนคนแรกที่คุยกับผม ถึงจะเรียนคนละห้อง แต่ในทีมบาสฯ นี่คือเพื่อนที่ทำให้ผมปรับตัวเข้ากับสถานที่ใหม่นี้ได้ง่ายขึ้น เข้ากับเพื่อนในห้องเรียนได้ บอกผมว่าร้านไหนในโรงอาหารอร่อย และทุกเรื่องที่จำเป็นกับการใช้ชีวิตในโรงเรียนนี้ จนเพื่อนๆ รุ่นน้อง รุ่นพี่ เค้าแซวว่าเราเป็นแฟนกันไปแล้ว

………………..

ค่ำคืนนี้ยังเหมือนทุกคืน ผมนั่งทบทวนที่เรียนไปวันนี้ มีแค่เสียงเพลงจากลำโพงที่เล่นเพลงจาก iPhone ผมไปเรื่อยๆ ผสมกับเสียงเครื่องซักผ้าที่กำลังปั่นไปมา สามสิบนาทีกับการทบทวนสิ่งที่เรียนจบลง ผมเช็คเครื่องเขียนทั้งหมดอีกรอบ แล้วนึกขึ้นได้ว่า ตลอดเดือนนี้ ผมต้องพบกับเพื่อนผู้ไม่เตรียมอะไรมาเรียนเลย


สงสัยต้องเพิ่มปากกาสำรอง ไส้ดินสอสำรอง ยางลบสำรอง ปากกาเน้นข้อความเพิ่มสักแท่งสองแท่ง ถ้าเค้าใช้นะ คิดไรเพลินๆ ครู่เดียว ใกล้ได้เวลานอนแล้ว ผ้าที่ซักก็ใกล้เสร็จแล้ว เปิด MacBook เข้า Facebook สักหน่อย สารพัดสิ่งใน Feed ตอนนี้ มีทั้งของกิน ไปเที่ยวไหนกัน บ้างก็เป็นสถานะบ่นๆ เพ้อๆ ที่ผมอ่านแล้วก็ยิ้มๆ บ้าง ตามด้วยไล่ตอบ Chat ของเพื่อนๆ รวมถึงไบร์ทที่ส่งมาแค่ “ฝันดี ผีจับหัวนะแทน” ซึ่งเป็นปกติทุกคืนก่อนนอน ตอบ Chat หมดแล้วนะ เสียงเตือนข้อความใหม่ก็มาอีกแล้ว แต่...

The Gunners : สบายดีนะ ยุ่งอยู่เปล่า
Tan : อ่านหนังสือครับ มีอะไรเปล่าครับพี่
The Gunners : พรุ่งนี้ว่างเปล่า อยากชวนกินข้าว
Tan ​: ไม่ว่างครับ ไม่ว่างทั้งเดือน ผมมีเรียนกับมีซ้อม
The Gunners : เสาร์ อาทิตย์?
Tan : พี่กันครับ ตรงๆ นะครับ เราอย่าคุยกันดีกว่าครับ ผมเดินออกมาจากชีวิตพี่แล้ว พี่เองก็ควรออกไปจากชีวิตผมเหมือนกัน
The Gunners : พี่เลิกกับพี่เบียร์แล้วนะ
Tan : แล้ว? บอกแล้วให้ผมกลับไปคบพี่หรอครับ?
The Gunners : พี่ไม่เคยลืมเราเลยนะ
Tan​ : ยอมรับมาเถอะพี่ พี่แค่อยากได้ผม แล้วพี่ก็ได้ผมไปแล้ว แค่นั้นจริงๆ
The Gunners​ : ไม่ใช่อย่างนั้นนะ วันนั้นพี่ทำผิดจริง แต่ตอนนี้พี่อยากแก้ไขทุกอย่างนะ
Tan : มันแก้ไรไม่ได้แล้วพี่ พี่น่าจะรู้นะ ผมลาออกมาเรียนต่อที่ กทม. เพราะอะไร พี่ทำไรผมไว้ ผมไม่ลืมนะ ผมไม่ลบ Facebook พี่ ยังรับสาย ยังคุยกับพี่บ้าง เพราะผมเห็นแก่สิ่งดีๆ ที่ผมจำพี่ได้นะครับ อย่าทำให้ผมต้องเกลียดพี่จริงๆ ได้ไหม
The Gunners : พี่รักแทนนะ และอยากแก้ไขทุกอย่างให้เรากลับมาเป็นเหมือนเดิม
Tan : ผมก็รักพี่นะครับ...แต่พี่คิดดูซิ ใช่พี่หรือเปล่า ที่ถ่ายคลิปตอนเรามีอะไรกัน แล้วทำให้ผมเกือบโดนตัดออกจากทีมโรงเรียน ใช่พี่หรือเปล่า ที่ถ่ายรูปลับผมไปแล้วหลุดไปทั้งโรงเรียน และใช่พี่เปล่า ที่ทำให้ผมโดนกระทืบจนนอนหยอดน้ำข้าวต้ม เพราะพี่มีพี่เบียร์อยู่แล้ว ส่วนผมเป็นแค่ชู้พี่ พี่ยังจะให้ผมกลับไปรักพี่หรอครับ พี่เอาศักดิ์ศรีผมกลับคืนมาได้เปล่าละ ปิดเสียงนินทาของคนในโรงเรียนได้ไหมละ พี่ตอบผมซิ
The Gunners : พี่ขอโทษ
Tan : มาขอโทษผมตอนนี้ทำไมครับ ถ้าไม่มีอะไรแล้ว ผมไปนอนนะครับ ถ้าพี่ยังรักผมจริง ปล่อยผมไปเถอะครับ


ผมปิด MacBook ดึง iPhone ออกจากแท่นเครื่องเสียง ไปเอาผ้าออกจากเครื่องฯ แล้วตากไว้ที่ราวตากเสื้อริมระเบียง สลับกับเช็ดน้ำตาที่ไหลอาบแก้มช้าๆ ตอนนี้ ก่อนจะเดินกลับไปที่กล่องเก็บของที่อยู่ใต้ตู้เสื้อผ้า รูปถ่ายผมคู่กับพี่เบียร์ที่กอดผมจากข้างหลังในกรอบรูป ที่ผมทิ้งไม่เคยลง หยดน้ำตาไหลเปื้อนกระจกกรอบรูปทีละเม็ดสองเม็ด ผมเก็บรูปลงในกล่องไว้เหมือนเดิม ก่อนจะไปล้างหน้าซ้ำๆ มองตัวเองในกระจกอยู่ครู่หนึ่ง

ผมเกลียดตัวเอง ที่ผมเกิดมาเป็นแบบนี้ มันน่าอายอย่างบอกไม่ถูก ตั้งแต่จำความมาได้ ผมรู้สึกแตกต่างจากผู้ชายปกติ ความรู้สึกชอบที่ไม่เหมือนปกติ ตั้งแต่เกิดเรื่องพี่กัน ผมไม่กล้ารู้สึกรักใคร ผมกลัว กลัวว่าผมจะเป็นแค่สิ่งระบายความใคร่ของใครสักคน แล้วเมื่อเค้าสมใจแล้ว เค้าจะทิ้งผมไปแบบนี้

เตียงนอนหลังนี้มันกว้างไป ผมปล่อยตัวเองให้ร้องไห้ออกมา มันเป็นทางเดียวที่จะพาผมไปถึงเช้าวันใหม่ แต่จะดีกว่านั้น ถ้าผมลืมได้ว่า “มันไม่เคยเกิดขึ้น”

***************

เจ้าของดินสอกดจากตอนแรกมาละครับ บทต่อไปจากนี้ วันศุกร์ดึกๆ หรือเสาร์บ่ายๆ มาลงให้นะครับ หรือถ้าเคลียร์งานไวพอ พุธนี้อาจลงต่อเลยครับ เพราะเขียนไว้ตอนนี้ถึงบทที่ 12 จะขึ้น 13 ไว้แล้วนะครับ

ขอบคุณคนอ่านทุกคนครับ^^ 
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 03-03-2015 14:46:23 โดย zipboy »

ออฟไลน์ ლїЯдςLΣϛlθTtεR

  • มิราเคิ้น
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 729
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +355/-3
ดันก่อนนอน~

ออฟไลน์ BlueCherries

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4060
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +159/-17
สงสารน้องแทน คบกันแล้วกลายเป็นชู้

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ zipboy

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 309
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +65/-0
Re: ++เพื่อน(เรียน)พิเศษ : บทที่ 3 ++
«ตอบ #10 เมื่อ18-02-2015 16:08:08 »

ตอนที่ 3 มาละครับ วันนี้ตรุษจีน ก็ขอซินเจี่ยยู่อี่ ซินนี่ฮวดไช้ ชาวเล้าทุกคนนะครับ^^

******************

Chapter 3

บนถนนพระรามสี่ในเวลาใกล้เที่ยงตอนนี้ ผมกำลังบิดน้องถ่านแบบจัดเต็ม ปาดทุกช่อง แซงทุกคัน บิดผ่านไฟเหลืองกลางสี่แยกที่นับวินาทีสุดท้ายอยู่ เด็กมันแรง ทำไงได้ครับ วันนี้นัดกินข้าวเที่ยงกับแพรวไว้ แล้วบ่ายค่อยไปเรียน เวลานี่มันเร็วดีจริงๆ หนึ่งอาทิตย์ของการจีบแพรว ถึงปากเธอจะไม่เปลี่ยนสถานะผมเป็นแฟน แต่ไม่เป็นไร ผมรอได้ เดี๋ยวก็ใจอ่อนเอง ระดับนี้แล้ว สาวไหนก็ปฎิเสธผมไม่ลงแน่นอน

แน่นอนครับ ที่จอดรถที่เดิม ร้านเดิม และคนรับจอดก็นั่งอยู่ในร้านเหมือนเดิม ฝากด้วยนะครับเฮีย ทั้งรถทั้งหมวกเลย ผมนัดแพรวไว้ที่ร้านอาหารญี่ปุ่นในสยามเซ็นเตอร์ แพรวไปถึงก่อนแล้ว จองคิวรอผมอยู่ ผมไปถึงหน้าร้านก็ไม่เจอเธอแล้ว เดินเข้าไปในร้าน เจอโต๊ะของเราแล้ว

“ขอโทษด้วยที่มาช้า” ผมนี่รีบวิ่งมาหาเลยนะ

“เราก็พึ่งได้โต๊ะเหมือนกัน กินไรดูเลยนะ” แพรวยื่นเมนูให้ผม หลังจากนั้นไม่นาน อาหารก็มาแบบพอประมาณ เพราะเราทั้งคู่ต้องไปเรียนตอนบ่ายเหมือนกัน

“เย็นนี้ไปไหนไหมบิ๊ก” สาวถามมางี้ คำตอบคือ

“ว่างเลยครับ” ยิ้มเลยเรา ชวนก่อนแปลว่ามีหวัง

“อยากดูหนัง แต่เพื่อนไม่ว่าง เลย...” ไม่ต้องเกรงใจครับ

“ไปดิ๊ แพรวไปจองเรื่องที่อยากดูได้เลยนะครับ เดี๋ยวเราเลี้ยง” นั่งใกล้กันขนาดนี้ โอกาสแบบนี้ไม่ได้มีบ่อยๆ

“งั้น การ์ตูนของ Disney ที่เข้าศุกร์ที่แล้วนะ” ดีเลย อยากดูอยู่เหมือนกัน แต่ชวนเพื่อนไปแล้วมันไม่ดูกัน คืนนี้ขอเบี้ยวนะครับชาวแก็งค์

อารมณ์ดีเป็นบ้าเลยๆๆ แต่พอมาถึงที่เรียนพิเศษ ความน่าหงุดหงิดก็บังเกิด หลังจากนั่งเรียนไปได้ไม่ถึงชั่วโมง เครื่องเขียนพร้อม ขาดอยู่แค่อย่างเดียวจริงๆ

“เออ....มียางลบปะ” สะกิดคนข้างๆ ในรอบสัปดาห์ ไม่มีคำตอบอะไรนอกจากมือที่ยืนยางลบมาให้ โดยที่ตายังมองจออยู่ ผมลบเสร็จแล้วส่งคืนให้

“เลิกแล้วค่อยคืนก็ได้” มองไปหน้าสมุด มียางลบอีกก้อนวางไว้อยู่แล้ว เออ สงสัยบ้านมันเป็นร้านเครื่องเขียน มีพร้อมตลอดจริงๆ

ผมไม่ค่อยมีสมาธิจะเรียนเลย คิดถึงเย็นนี้ล้วนๆ อยากให้เวลาผ่านไปไวๆ ขอวินาทีถัดไปได้ยิ่งดี เงยหน้ามาบางรอบ งงเลย เค้าไปหน้าไหนกันแล้ว จดผิดๆ ถูกๆ เค้าไปหน้าไหน เราไปด้วย ส่วนหน้าที่ผ่านไปแล้ว ช่างมันก็ได้ รู้สึกตัวอีกที ถึงเวลาพักครึ่งอีกแล้ว แต่ไอ้ข้างๆ ผมนี่ ไม่คิดจะลุกไปไหนหรือไง เค้าให้พัก ไม่ต้องขยันมากก็ได้

เหมือนเดิม คิดจะพัก คิดถึงมวนขาวๆ จากซองฟ้าๆ สูดทีไร ชื่นใจทุกที ว่าแล้วหยิบ iPhone มาเช็คหน่อยว่า ในกลุ่มเพื่อนตอนนี้คุยไรกันไปถึงไหนละ

โจอี้ : ปิดเทอมมาเป็นอาทิตย์ ไม่มีซ้อมวงกันเลยอะ
Tum ปืนโต : ห้องซ้อมมันเต็มๆๆๆๆๆ จะให้กูทำไงๆๆๆ
Champ : กูบอกให้ไปใช้ห้องชมรมที่โรงเรียน ก็ไม่ไปกัน
Tum ปืนโต : กูขี้เกียจทะเลาะกับยาม
โจอี้ : ก็มึงเล่นก่อวีรกรรมกับยามเองนี่หว่า
Tum ปืนโต : กูแค่ทดสอบประสิทธิภาพยามเว้ย
Big : ด้วยการโยนประทัดเข้าป้อมนี่นะสัด
Tum ปืนโต : หยอกเล่นๆ นิดเดียว ฉลองสอบเสร็จ แมร่ง ทำมางอนกู
Champ : เป็นกูไม่เรียกหยอก แบบนี้หาเรื่องเลยแหละ
โจอี้ : แล้วก็มาปากดี ไม่เข้าโรงเรียนก็ได้ เดี๋ยวหาห้องซ้อมได้ แล้วเป็นไงละมึง
Big : เออๆ เดี๋ยวกูไปเป็นเพื่อนมึงขอโทษยามให้นะเว้ย จะได้ซ้อมซะที กูเบื่อเรียนพิเศษอยู่ อยากโดดบ้าง อะไรบ้างอยู่
Champ : กูทายว่าคนนั่งเรียนข้างมัน ไม่ใช่สาวสวย
Tum ปืนโต : ไม่ก็มาแนวสุกี้น้ำ หรือส่งตรงจากแถวโคกอีแร้งแหง่ๆ
Big : พวกมึงพอเลย!!! อารมณ์เสีย สัด!!! อย่า!!!
โจอี้ : เอ้าๆ ไปแหย่ไข่ลูกพี่ ระวังนะเว้ยพวก
Big : ไอ้เชี่ยโจ มึงก็อีกตัว พอๆ กูกลับไปเรียนละ
Tum ปืนโต : เย็นนี้อย่าเผลอดูหนังจบ แล้วพาสาวไปเล่นหนังสดละ
Champ : 55555555
Big : พวกมึงรู้ได้ไงว่าเย็นนี้กูมีนัด!!! ไอ้เชี่ย!!! พวกมึงมุดใต้โต๊ะกันหรือไงวะ!!!
โจอี้ : บิ๊ก มึงก็รู้ว่า สาวเกือบทุกโรงเรียน ไอ้ตั้มมีข่าวหมด แล้วไอ้ที่มึงจีบๆ หรือพาไปฟันมาแล้วเนี่ย พี่ตั้มเค้าไม่เคยพลาดข่าวนะเว้ย
Big : เออ ลืมไป เพื่อนกูแมร่งหากินแนวเดียวกับกู
Tum ปืนโต : แถมชอบแย่งกูกินด้วย
Big : กูก็แบ่งมึงกินนะสาดๆๆๆ แถมบางทีมึงปาดหน้ากูด้วย
Champ : พอเลยมึงสองตัว เดี๋ยวไม่จบ ไอ้เชี่ยตั้ม อย่าลืมเรื่องห้องซ้อมละ
Big : ใช่ อย่าลืมละมึง ละก็...คนนี้กูรักจริงหวังแต่ง ไม่หวังฟันนะเว้ย คอนเฟริม
Champ : หร๋าๆๆๆๆ
Tum ปืนโต : ถ้าจริงกูกินหมาใจดำเพียวหมดขวดให้ดู
โจอี้ : ถ้าไอ้บิ๊กรักจริงหวังแต่ง วันนั้นไอ้ตั้มคงมีผัวแทนวะ
Tum ปืนโต : ไอ้เชี่ยโจ!!!!
Big : กูไปละ บาย


ไอ้พวกนี้ไม่เคยเชื่อผมเลย ผมจริงจังนะ ผู้หญิงหลายๆ คน สำหรับผม แค่ได้เก็บเข้ากรุว่าเคยสำเร็จโทษ ก็เพียงพอแล้ว แต่กับบางคน ผมอยากได้เธอเป็นเจ้าของตั้งแต่วันแรก แล้วเธอต้องเป็นของผมตลอดไปจริงๆ แพรวนี่แหละ น่ารัก เรียนก็เก่ง สอนคนโง่ๆ อย่างผมเรียนน่าจะได้ ละก็ อย่างอื่นก็ใช่สำหรับผมหมดอะ

เหลือแค่จะทำไงให้ผมปั้มตราประทับว่า “เธอเป็นของผมแล้ว” ควันบุหรี่ยาวๆ ที่พ่นออกมาครั้งสุดท้าย ก่อนจะทิ้งบุหรี่ลงท่อระบายน้ำ แล้วกลับเข้าไปเรียนครึ่งหลังต่อ พอขึ้นไปถึงห้อง ไอ้ที่อยู่ข้างๆ ผม ไม่ได้ลงไปพักหรือไง ขยันไปนะมึง แล้วครึ่งหลังก็เริ่มขึ้น พร้อมกับสภาพที่เหมือนครึ่งแรกคือ ฟังรู้เรื่องก็ดี ไม่รู้เรื่องก็ช่าง แล้วก็ข้ามไป จนเวลาเดินทางมาถึงสี่โมงเย็น ผมรีบกลับไปร้านเฮียโบ้โดยด่วน

………………..

“สวัสดีครัชเฮีย” เปิดประตูร้าน ต้องทักเฮียดังๆ ก่อน

“เรียนเสร็จแล้วหรือไง” เฮียโบ้ยังคงขมักเขม้นกับการเล่นเกมใน iPad ต่อไป ส่วนผมกำลังเล็งของอะไรนิดหน่อย

“เฮียครับ เรือนนี้เท่าไหร่อะ” ผมเล็ง Baby-G เรือนสีฟ้าอันนี้ให้แพรว

“ราคาเอ็งก็ลดไป 20% ไง” เฮียยังคงจิ้ม iPad ต่อไป

“เอาเรือนนี้แหละเฮีย” เฮียโบ้ลุกขึ้นเดินมาตบไหล่ผมทีหนึ่งก่อน

“เฮียให้ยืมก่อนนะ ถ้าเอาไปแล้ว สาวเค้าตอบรับ ค่อยมาจ่ายเงิน ถ้าแป็ก เอามาคืนเฮีย โอเคมะ เฮียละกลัวจริงๆ กี่เรือนละ เอาไปขอสาวทีไร แป็กทุกที” เฮียพูดเป็นลางมากอะ

“ถ้าแป็กอีก ผมเลิกซื้อของร้านเฮียจริงๆ” ผมว่านาฬิกาไม่ผิด เฮียโบ้แหละผิดมากกว่านะ

“เฮียคิดว่าไงอะ เฮียทำผมเขว้นะ” ทักทีไร ได้เรื่องทุกทีอะเฮียอะ

“เอางี้ ถ้าหลังวันนี้ไป เค้าสนิทกับแกขึ้น ค่อยจัดนาฬิกาไปหมั่นก็ไม่สายไป เดี๋ยวเฮียเก็บไว้ให้เลยเอ้า” ผมคิดอยู่สักครู่ ก็จริงของเฮียเค้านะ

“โอเคครับเฮีย อวยพรให้ว่าที่ภรรยาผมหน่อยซิ” เฮียโบ้ โบกหัวผมเบาๆ ที

“อย่าพึ่งไปไกลถึงภรรยา เอาให้มันรอดก่อนดีกว่าไหม” รับรอง เฮียได้ขายของให้ผมแน่นอน

“ระดับนี้แล้วเฮีย ชัวร์แน่นอน” เฮียเดินส่ายหัวกลับไปเล่นเกม iPad ต่อ ก่อนจะส่งท้ายแค่

“ครับ คุณชาย”

ห้าโมงเย็นแล้ว ผมรอแพรวอยู่หน้าโรงหนัง ซื้อบัตรรอบหกโมงรอแล้ว กะจะชวนไปหาไรทานสักนิด แล้วจะเปิดฉากลุยรอบสองตอนไปส่งกลับบ้านนี่แหละ ผมอยากหยุดแล้ว และผมจะเลือกหยุดกับแพรวนี่แหละ ผมเชื่อว่าผมทำได้

“รอนานไหม” แพรวมาแล้ว ผมส่ายหน้ายิ้มๆ เป็นคำตอบว่าไม่ได้รอนานอะไรเลย

“นี่ เราจองให้แล้วนะ สองที่ หกโมงเย็น” ผมชูบัตรให้ดู ก่อนจะเก็บกลับกระเป๋ากางเกงเหมือนเดิม

“ทานไรก่อนไหมครับ” แพรวพยักหน้าโอเค ก่อนที่เราทั้งคู่จะไปจบที่ KFC เพื่อให้ทันก่อนเข้าไปดูหนังกัน

“เย็นนี้เราไปส่งนะ” เลิกดึก ไม่ควรกลับคนเดียวนะแพรว

“ฮือ จริงๆ ไม่ต้องไปส่งก็ได้นะ บ้านเรากับบิ๊กคนละทางกัน บิ๊กอ้อมเปล่าๆ” แพรวกำลังเช็ดปากอย่างค่อยๆ ช้าๆ แต่ทำให้ผมต้องจ้อง เพราะเธอน่ารักอะ

“ไม่เป็นไรเลย เราอยากไปรับ ไปส่งทุกวันด้วยซ้ำ” ผมเช็ดปากหลังทานเสร็จบ้าง แพรวดูจะเขินอาย

“ไม่ห้ามก็ได้ แต่เราไม่บอกนะ ว่าเราออกจากบ้านกี่โมง” รอยยิ้มกว้างๆ ของผม อยากบอกเธอว่า เรียกมาเลยครับ ผมพร้อมเสมอ

เกือบสองชั่วโมงที่นั่งดู ผมจับมือแพรวบ้าง เธอดูจะไม่ว่าอะไร เพราะผมไม่ได้ทำอะไรมากกว่าแค่ จับมือเธอเบาๆ แล้วตั้งใจดูหนัง เพราะแพรวเองก็ดูจะชอบกับหนังที่ชวนผมมาดูเหมือนกัน เอาละ ก่อนเข้าบ้าน ผมจะขอเธอเป็นแฟนอีกรอบนะ

หวังว่าแพรวจะโอเค

………………..

หลังจากหนังจบ ผมพาแพรวไปส่งที่บ้านด้วยน้องถ่าน ตอนติดไฟแดง ผมคว้ามือแพรวจากที่จับเอวผมทั้งสองข้าง ให้โอบเอวผมแน่นๆ มันทำให้มั่นใจขึ้น ตลอดทางที่ขับไปส่ง ทุกหลุมบนถนน หลบมากที่สุด เพื่อไม่ให้กระแทกมาก และขับอย่างระมัดระวัง ไม่ให้แพรวรู้สึกกลัวหรือหวาดเสียว

“เราขับเร็วไปเปล่า” ผมรับหมวกกันน็อคคืนจากแพรว แพรวส่ายหน้าพร้อมกับรอยยิ้มให้

“เรากลัวมอไซค์นะ แต่บิ๊กเป็นคนเดียวที่เรากล้านั่งด้วย” ผมนี่ยิ้มเลย ดับเครื่องสักหน่อย เสียงมันดัง

“เราเข้าบ้านก่อนนะ” เอาละ...ผมลุยแล้วนะ

“แพรว” เธอหยุดสักครู่ขณะที่กำลังจะหันตัวเดินเข้าบ้าน

“เป็นแฟนเรานะ” ทุกครั้งที่จะบอกรักใครสักคน ความตื่นเต้น ความหวัง มันลุ้นอย่างบอกไม่ถูก

“ขอแล้วห้ามทิ้งเรานะ” แพรวหันหลังแล้ววิ่งเข้าบ้านไปอย่างรวดเร็ว

“เดี๋ยวก่อน” แพรวหยุดแล้วหันมาอีกรอบ
 
“หมวกใบนี้เป็นของแพรวนะ เบาะหลังนี้มีไว้ให้แพรวคนเดียว” แพรวเดินกลับมารับหมวกกันน็อคสีชมพู

“พรุ่งนี้จะเรามารับนะ แล้วจะไปรับ ไปส่งเสมอ” แพรวพยักหน้าให้ ก่อนจะโบกมือบายๆ

“ขับรถดีๆ นะ บายๆ” แพรวหันหลังเดินเข้าบ้านพร้อมหมวกกันน็อคสีชมพู จริงๆ ไม่ใช่หมวกของเฮียโบ้หรอก ผมซื้อไว้สำหรับรอใครสักคน ที่จะมานั่งซ้อนท้ายผมนั้นแหละ

เสียงสตาร์ทเครื่องดังขึ้นอีกครั้ง ถนนทั้งสายตอนนี้ เต็มไปด้วยแสงไฟจากถนน ไฟรถคันอื่น น้องถ่านผมวิ่งแทรกตามช่องอย่างรวดเร็ว ผมรู้สึกดีใจอย่างบอกไม่ถูก ถ้าถนนว่างพอตอนนี้ ผมแทบอยากจะยกล้อสักรอบแทนอารมณ์ดีใจตอนนี้จริงๆ

ผมไม่ใช่ผู้ชายที่ดีหรอก แต่ผมจะพยายามดีที่สุดให้ได้นะ

………………..

หน้าต่างคอนโดในคืนนี้ ก็ยังมองเห็นไฟตึกต่างๆ ตรงกับที่เค้าบอกว่า เมืองนี้ไม่เคยหลับไปไหน ผมกำลังทำสรุปที่เรียนวันนี้ใส่ A4 แผ่นนึง แสงไฟในห้องมีเพียงตรงโต๊ะทำงานเท่านั้น ที่สว่างอยู่จุดเดียว ผมหยิบกระเป๋าใส่เครื่องเขียนมาดูว่าของในกระเป๋าครบไหม ยางลบหายไปก้อน...นึกออกละ เพื่อนที่เรียนพิเศษยืมไปแล้วไม่คืนนี่เอง ไม่เป็นไร เดี๋ยวพรุ่งนี้ไปทวงก็ได้ ว่าแต่โทรศัพท์สั่นอะไรตอนนี้ ไบร์ทโทรมานี่เอง

“ไม่หลับไม่นอนเหรอ” นี่มันจะเที่ยงคืนแล้วนะ

“โทรมาบอกว่า พรุ่งนี้งดซ้อม โค้ชมีธุระด่วน พึ่งจะ LINE บอกกันในกลุ่มไป” ผมยังไม่ได้หยิบมือถือมาดูนี่หว่า ตั้งแต่กลับมาที่ห้องเนี่ย

“โอเค ขอบใจมากไบร์ท” จริงๆ ไม่ต้องโทรมาก็ได้นะ เดี๋ยวตอนเช้าก็เห็นเอง

“แทนๆ ไปดูหนังไหม ไหนๆ ก็ว่าง” จะว่าไป ไบร์ทก็ชวนหลายรอบแล้วแหละ แต่ผมไม่ไปเอง

“เป็นวันเสาร์หรืออาทิตย์ได้ปะ จะได้ว่างขัวร์ๆ” นึกได้ว่ายังไม่ได้เก็บห้องให้เรียบร้อย เลยยังไม่ไปวันพรุ่งนี้

“โอเค ได้เลย งั้นเสาร์หลังซ้อมเสร็จละกัน” ได้อยู่นะ วันอาทิตย์ไม่อยากออกไปไหน
 
“งั้นเรานอนแล้วนะ” ผมก็ง่วงแล้วแหละ

“ฝันดีนะครับ” ไบร์ทมันเป็นไรของมัน น้ำเสียงนุ่มลึกจนฟังแล้วหวานซะ

“ครับๆๆ จีบเราเหรอ ตั้งแต่รู้จักมา หยอดซะหวานตลอด” สงสัยจะจีบจริง

“ให้จีบปะละครับ ที่หนึ่งของระดับชั้น” พอเลยไบร์ท ง่วงแล้ว

“แค่นี้เราก็ตัวติดกันจนเค้าจิ้นกันทั้งชั้นแล้วว่าเราเป็นแฟนกัน” เพื่อนในห้องชอบแซวว่าไบร์ทเป็นสามีผม เพราะผมได้อะไรพิเศษๆ จากมันตลอด

“จิ้นก็ดีดิ ก็เราชอบ...” ชอบอะไรก็ไม่บอก นิ่งทำไม ไม่พูดซะที งั้น...

“ไปๆๆๆ นอนๆๆ เพ้อเจ้อแล้ว บายนะ” ไบร์ทหัวเราะแบบกลบเกลื่อนความแป๊ก ก่อนจะบายๆ แล้ววางสายไป

ผมทิ้งตัวลงนอน หลับตาลง อารมณ์ดี ยิ้มพอได้บ้าง ไบร์ทชอบเล่นแบบนี้แหละมั่ง ทำให้ผมสบายใจได้ว่า ถ้าผมไม่รู้จะไปหาใคร ไบร์ทคงเป็นคนเดียวในตอนนี้ ที่ผมจะเอาใจไปพักไว้ได้

ในเวลาที่เรื่องเก่าๆ ไม่เคยลืมไปจากใจผมตอนนี้

***************

บทที่ 4 มาประมาณคืนวันศุกร์หลังเที่ยงคืนนะครับ จะเป็นตอนแรกที่ "คนยืมของ" กับ "คนให้ยืมของ" จะได้เอยปากคุยกันยาวขึ้น แต่จะคุยเพราะเรื่องอะไร ต้องมาดูกันต่อนะครับ^^

ขอบคุณคนอ่านทุกคนครับ^^
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 03-03-2015 14:47:38 โดย zipboy »

ออฟไลน์ Freja

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2394
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +145/-4
คุณชายบิ๊กนี่ก็นะ.......
กลัวใจเหมือนกัน
คนให้ยิมของก็มีอดีตที่น่าสงสารมากๆ
ครั้งแรกก็เจอคนเลวแบบนั้น
น้องถึงไม่อยากเปิดใจอีก

รอตอนต่อไปนะ คนเขียน ขอบคุณมากค่ะ

ออฟไลน์ PharS

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 588
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-1
 :katai5: :katai5:
คนยืมของ กับ คนให้ยืมของ

ออฟไลน์ PURE LOVE

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 330
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-1
ชีวิตแทนน่าสงสารจังอ่ะ แต่แทนก็เข้มแข็งนะ ที่่ผ่านเรื่องร้าย ๆ มาแล้วยืนหยัดอยู่ได้
ไอ้พี่กัน เลวอ่ะ ถ้าเราเป็นแทน ไม่มีทางคุยด้วยอีกเด็ดขาด ตัดขาดกันไปเลยจริง ๆ คนแบบนี้
ให้เป็นแค่คนรู้จักยังไม่เอาเลย หวังว่าแทนจะใจแข็ง ไม่กลับไปคบกับคนพรรค์นี้อีกนะ เจ็บแล้วต้องจำนะแทน

ชอบไบรท์ เป็นเพื่อนที่ดีจัง ไบรท์ชอบแทนสินะ แล้วเหมือนแทนก็จะรู้สึกดี ๆ กับไบรท์เหมือนกัน
แต่ยังไม่อยากให้เป็นแฟนกันเลย เพราะถ้าพระเอกเป็นบิ๊ก ยังไงไบรท์ก็็ต้องเสียใจ แต่ในฐานะเพื่อน
ดีกว่าต้องมาเสียใจในฐานะแฟนน่ะนะ

บิ๊กนี่กะจริงจังกับแพรวจริง ๆ เหรอ บิ๊กติดหรูฟุ่มเฟือย ใช้แต่เงินจีบสาว เพิ่งคบไม่นาน รู้ได้ไงว่าแพรวดีจริง
การใช้ชีวิตของบิ๊กนี่ ควรได้เรียนรู้เรื่องดี ๆ จากแทนเยอะ ๆ หน่อยนะ ยิ่งบุหรี่ เลิกได้ยิ่งดี

ขอบคุณค่ะ ^^

ออฟไลน์ cher7343

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1686
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +133/-4
ยังคิดไม่ออกว่าจะรักกันได้ยังไง
เนื้อเรื่องแลดูมาม่ายาววว

ออฟไลน์ zipboy

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 309
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +65/-0
คุณชายบิ๊กนี่ก็นะ.......
กลัวใจเหมือนกัน
คนให้ยิมของก็มีอดีตที่น่าสงสารมากๆ
ครั้งแรกก็เจอคนเลวแบบนั้น
น้องถึงไม่อยากเปิดใจอีก

รอตอนต่อไปนะ คนเขียน ขอบคุณมากค่ะ

ขอบคุณสำหรับการติดตามครับ ตอนต่อๆ ไปจากนี้ สองขั้วที่ไม่น่าใช่ ก็ใช่ได้ครับ^^

:katai5: :katai5:
คนยืมของ กับ คนให้ยืมของ

จุดเริ่มต้นจากตรงนี้แหละครับ^^

ชีวิตแทนน่าสงสารจังอ่ะ แต่แทนก็เข้มแข็งนะ ที่่ผ่านเรื่องร้าย ๆ มาแล้วยืนหยัดอยู่ได้
ไอ้พี่กัน เลวอ่ะ ถ้าเราเป็นแทน ไม่มีทางคุยด้วยอีกเด็ดขาด ตัดขาดกันไปเลยจริง ๆ คนแบบนี้
ให้เป็นแค่คนรู้จักยังไม่เอาเลย หวังว่าแทนจะใจแข็ง ไม่กลับไปคบกับคนพรรค์นี้อีกนะ เจ็บแล้วต้องจำนะแทน

ชอบไบรท์ เป็นเพื่อนที่ดีจัง ไบรท์ชอบแทนสินะ แล้วเหมือนแทนก็จะรู้สึกดี ๆ กับไบรท์เหมือนกัน
แต่ยังไม่อยากให้เป็นแฟนกันเลย เพราะถ้าพระเอกเป็นบิ๊ก ยังไงไบรท์ก็็ต้องเสียใจ แต่ในฐานะเพื่อน
ดีกว่าต้องมาเสียใจในฐานะแฟนน่ะนะ

บิ๊กนี่กะจริงจังกับแพรวจริง ๆ เหรอ บิ๊กติดหรูฟุ่มเฟือย ใช้แต่เงินจีบสาว เพิ่งคบไม่นาน รู้ได้ไงว่าแพรวดีจริง
การใช้ชีวิตของบิ๊กนี่ ควรได้เรียนรู้เรื่องดี ๆ จากแทนเยอะ ๆ หน่อยนะ ยิ่งบุหรี่ เลิกได้ยิ่งดี

ขอบคุณค่ะ ^^

แทนเป็นคนที่ดีมากครับ เค้าคือส่วนสำคัญที่ทำให้เรื่องนี้มีอารมณ์มาก ถึงมากที่สุดครับ^^ ไบร์ทจะมีบทกับแทนเยอะหน่อย กับบิ๊กจะช่วงหลังๆ ครับ ส่วนบิ๊กนั้น ความเปลี่ยนแปลงจะมาเองในอนาคตครับ^^

ยังคิดไม่ออกว่าจะรักกันได้ยังไง
เนื้อเรื่องแลดูมาม่ายาววว

ประมาณ 40-45 ตอนจบครับ^^ (ต้นฉบับแรกของตัวเองก็ราวๆ นี้ครับ)

กำลังอัปเดตตอนที่ 4 นะครับ อีกสักครู่ครับผม

ออฟไลน์ zipboy

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 309
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +65/-0
Re: ++เพื่อน(เรียน)พิเศษ : บทที่ 4 ++
«ตอบ #16 เมื่อ21-02-2015 00:31:53 »

บทที่ 4 มาละครับ มีเรื่องเจ็บตัวเล็กน้อย และนี่คือครั้งแรกที่บิ๊กกับแทน จะได้คุยกันครั้งแรกครับ

ตอนนี้เขียนถึงบท 14 แล้ว คิดว่าลงได้หมด ไม่ขาดตอนแน่นอนครับ

เชิญอ่านได้เลยครับ^^

***************************

Chapter 4

“วันนี้เค้าจะมาเรียนไหมนะ”

เป็นสิ่งที่ผมนั่งคิดตั้งแต่มาถึงที่เรียนพิเศษแล้ว อย่างน้อยก็ทวงยางลบคืนนั้นแหละ ผมมีของแลกเปลี่ยนกับยางลบให้ด้วยนะ แต่...เวลาเรียนก็เริ่มแล้ว ยังไม่เห็นมาซะที ไม่เคยรู้สึกอยากให้คุณชายจอมยืมมาขนาดนี้เลย เวลาตั้งใจทำอะไรมาให้แล้ว อยากให้กับมือไปเลย เก็บไว้แล้วรู้สึกเสียดายความตั้งใจที่ทำมา

ยังไม่มาซะที...เริ่มเรียนไปแล้วนะ หรือวันนี้จะไม่มาจริงๆ? ถ้าไม่มาไม่เป็นไร ยังไม่หมดคอรส์ซะหน่อย วันนี้อาจจะติดธุระก็ได้ บทที่เรียนวันนี้ก็ยากอยู่นะ ไม่ยอมมาซะที...ว่าแต่เราจะห่วงเค้าทำไม เห็นๆ อยู่ มาส่องสาว ไม่ได้มาเรียนซะหน่อย คิดแทนเค้าไปทำไมวะเรา พอๆ สนใจสิ่งที่เรียนอยู่ดีกว่า

พอถึงพักครึ่ง ผมลงมาหาน้ำดื่มสักขวด หามุมดีๆ ยืนหลบแดดดื่มสักหน่อย แต่สายตาผมต้องชะงัก ฟุตบาทอีกฝั่ง มีใครสักคนเดินมา เนื้อตัวมอมแมม เสื้อโปโลเข้ารูปสีขาวที่เปื้อนเหมือนไปคลุกกับพื้นมา กางเกงยีนส์เปื้อนฝุ่นเป็นหย่อมๆ พอเดินข้ามฝั่งมาใกล้ๆ กับที่ผมยืนอยู่

นี่มัน...คุณชายจอมยืมนี่!!!

ทำไมสภาพแบบนี้ละ มองไปที่หน้า โหนกแก้มขวามีรอยเขียว ปากแตก กรามก็ช้ำ แขนสองข้างก็ช้ำ มีรอยโดนมีดกรีดเป็นหย่อมๆ ทั้งสองข้าง ผมมองแบบอึ้งๆ สบตาด้วยที สายตาที่ส่งกลับมา ทำให้ผมเกือบหลบตาไม่ทัน มันเต็มไปด้วยรังสีอำมหิตแผ่ออกมารอบๆ

เกิดอะไรขึ้นกับนายอะ!!!

ผมเดินเข้าห้องน้ำของที่เรียนพิเศษ ก่อนจะกลับขึ้นห้อง ที่อ่างล้างหน้าตอนนี้ เพื่อนโต๊ะข้างๆ ผม กำลังล้างหน้า ล้างแขน ในอ่างน้ำตอนนี้ เต็มไปด้วยน้ำผสมเลือดสลับกับคราบฝุ่น ผมยืนดูแบบไม่รู้จะพูดไง แล้วพอเจ้าตัวเอามือลูบหน้า เห็นผมอยู่ในกระจก

“จะใช้อ่างเหรอ เสร็จแล้ว โทษที” เพื่อนผมกำลังเอาแขนเช็ดหน้า ก่อนจะใส่แว่นตากลับเข้าไป
 
“เอาไปเช็ดหน้าเช็ดแขนนะ” ผมยื่นทิชชู่ห่อใหญ่ให้

“ขอบใจนะ” เพื่อนผมรับไว้ ก่อนจะยิ้มให้ผมแค่มุมปาก

“เออ...นายไปโดนไรมาอะ” ไม่กล้าถามนะ แต่จากสภาพแล้ว ถ้าไม่ถามคงแปลก คุณชายจอมยืมเอาแขนเช็ดแผลที่มุมปาก

“มีพวกเหี้ยสามตัวไถเงินเด็กประถมโรงเรียนเราอะ โตเป็นควายแล้วยังไปรุมไถเงินเด็กไม่มีทางสู้ ถ้าเป็นนาย จะยืนดูเฉยๆ ไหมละ” ผมเข้าใจละ ทำไมถึงได้มาสภาพนี้

“เราขึ้นไปรอข้างบนนะ” ผมไม่รู้จะคุยไรต่อแล้ว เพื่อนผมพยักหน้าให้พร้อมรอยยิ้มเล็กๆ ที่มุมปากช้ำๆ มีเลือดซึมบางเล็กน้อย

“ขอบใจนะ สำหรับกระดาษทิชชู่อะ” ผมพยักหน้าด้วยความเต็มใจ ก่อนจะกลับขึ้นไปรอที่ห้อง

ตอนเห็นครั้งแรก นึกว่าแค่คุณชายขี้เก็ก ถ้าจะลุยขนาดนี้ เป็นใครก็ให้ใจแหละ...

………………..

สองชั่วโมงที่แล้ว ผมควรมาถึงที่เรียนพิเศษแล้ว อีกไม่ถึงสองซอย จะถึงที่เรียนพิเศษแล้ว ให้ตายเถอะ ต้องมีเรื่องให้ออกแรงจนได้ เมื่อผมเห็นกลุ่มคนที่อยู่หัวมุมล้อมใครสักคนอยู่ มองดูแล้ว เดี๋ยวนะ...ถ้าผมมองไม่ผิด นั้นเด็กประถมนี่ เด็กโดนคนวัยประมาณผมล้อมแบบนี้ ไม่ใช่เรื่องดีแน่ๆ

ผมเดินเข้าไปให้ใกล้ขึ้น แบบพอจะฟังได้ว่า เกิดอะไรขึ้นกันแน่ สิ่งที่ผมได้ยิน มีเพียง “จะเจ็บตัวหรือจะให้ดีๆ” เอาละ มันไถเงินเด็ก ไม่ก็ของเด็กแน่นอน มองดีๆ เด็กมันใส่กำไลข้อมือสีโรงเรียนผมนี่หว่า กำไลรุ่นนี้คนนอกก็ไม่ได้ซื้อใส่ได้ด้วย ชัวร์ละ เด็กโรงเรียนผม ไอ้พวกเวรนี่ มึงหาเรื่องรุ่นน้องกูแล้ว!!!

“เอ้ย ตุ๊ดทั้งหลาย หันมานี่!!!” ผมตะโกนด้วยเสียงที่เข้มและโหดที่สุด สามตัวเหี้ยที่ล้อมเด็กไม่มีทางสู้ หันมามองผมที่เป็นต้นเสียงแล้ว

“อยากมีเรื่องด้วย หรือวอนหาที่วะ” หนึ่งในเหี้ยสามตัว เริ่มทักทายผมแล้ว

“ใช่ วันนี้อากาศดี อยากกระทืบตุ๊ดอยู่ โดยเฉพาะตุ๊ดแมนๆ ที่หาเรื่องกับเด็กไม่มีทางสู้” ตรงไหมละมึง กูขึ้นแล้ว มันเดินมาล้อมผมแล้ว ผมถอดกระเป๋าสะพายข้างออก แล้วโยนไปตรงหน้าน้องสองคนนั้น

“ฝากไว้ก่อนนะน้อง ไม่ก็รีบหนีไปซะ หรือถ้ารู้หน้าที่ต้องทำไร ก็ทำซะ” น้องๆ ทั้งสองคนคว้ากระเป๋าผม ก่อนจะวิ่งหนีไป ผมบิดคอซ้ายที ขวาทีช้าๆ เสียงกระดูกคอกับไหล่ดังกร็อบเบาๆ สายตาผมกวาดตลอดเวลาว่า มันจะมาทางไหน

เหี้ยสามตัวนี้ตอนนี้มีแต่มือเปล่า แต่ถ้าขู่เด็กได้ น่าจะมีมีดหรือปืน ระวังสักนิด หาเรื่องใส่ตัวแล้ว ต้องเล่นให้จบ แขนกับขาผมพร้อมแล้ว มองดีๆ ขยับตามให้ทัน จะตรงกลาง ซ้าย หรือ ขวา อะไรจะเริ่มก่อน มาเลย!!! นั้นไงละ มีมีดหมดเลยสามตัว งานนี้ต้องใช้มือกับตาล้วนๆ

คนซ้ายเริ่มเปิดก่อน มือซ้ายผมคว้าข้อมือขวาของอีกฝ่ายที่ถือมีด แล้วใช้เท้าถีบออกไปก่อน เพราะอีกสองคนพุ่งจะแทงผม คนซ้ายที่ผมถีบ เซไปชนกับคนกลางทำให้ล้มไปสอง คนขวาตัดมีดผ่านท้องผม แต่ผมโดดหลบถอยออกมาทัน จังหวะสองผมถีบยันเข้าที่ท้องของคนที่เข้าฝั่งขวากลับ หันกลับมาอีกทีผมโดนหนึ่งในสองคนนั้นถีบล้ม จะลุกขึ้นมาจะแทงผม เท้าผมยันกลับก่อนที่มันจะลุกขึ้นมาตั้งหลักได้

ถอยออกนิดหน่อย สามตัวนั้นลุกขึ้นมายืนอีกได้อีกรอบ ผมประจันหน้ากับสามคนนี้อีกรอบ ซ้าย กลาง ขวา จะเข้ามาจากทิศไหนดีละ แล้วคนกลางก็พุ่งมาก่อน ผมเอามือทั้งสองข้าง คล้องแขนทั้งสองข้าง แล้วล็อคเอาไว้ให้ประชิดตัว ระยะที่ใกล้พอ ผมเอาหัวตัวเองโขกเข้าหัวอีกฝ่ายแรงๆ สองทีติด ก่อนที่อีกฝ่ายจะล้มลง หันมาอีกที คนซ้ายสะบัดมีดใกล้เกินผมจะหลบแล้ว ผมยกแขนซ้ายกัน มีดกรีดเข้าท่อนแขนล่างเต็มๆ แต่พอให้ผมเอี้ยวขวาต่อยเสยคางได้เต็มหมด ลงไปน็อคในหมัดเดียวเต็มๆ

แต่นั้นทำให้ผมเสียการควบคุม เพราะตอนนี้ผมโดนอีกคนเอาเข็มขัดเข้ามารัดคอจากด้านหลัง มือทั้งสองผมรั้งเข็มขัดไม่ให้รัดคอไปมากกว่านี้ ก่อนที่คนที่โดนผมโขกหัวเมื่อครู่ จะลุกขึ้นมารอแทงผมที่ตอนนี้เป็นเป้านิ่งแล้ว ผมเอาเท้ากระทืบคนที่รัดคอผมไปเรื่อยๆ ในขณะที่มีดพุ่งมาหาผมแล้ว ผมออกแรงทั้งหมด ผลักคนที่รัดคอผมให้หงายหลังพร้อมผม โดยมีคนที่รัดคอผมด้านหลังเป็นเบาะรองอยู่ แล้วเอาเท้ายันคนที่จะพุ่งแทงผมให้ถอยออกไป

สำเร็จ!!! หลุดแล้ว ผมรีบลุกขึ้นเตะหัวมือรัดเข็มขัดแรงเท่ากับตอนเปิดลูกบอล ทีเดียวจอดไปอีกหนึ่ง จัดการมือมีดที่แทงผมเมื่อกี้ต่อละ ระหว่างที่มันเสียหลักเพราะผมเตะมันตอนทิ้งตัว มันพุ่งกลับมาแทงผมอีก ผมใช้มือซ้ายคว้าข้อมือขวาที่ถือมีด แล้วเอามือขวากระแทกใส่ข้อศอกมันไปทางซ้าย แรงพอให้มีดหลุดจากมือในทันที ผมส่งเท้าขวาเต็มแรงถีบมันอีกที พอล้มลง ผมคร่อมตัวประเคนหมัดเข้าหน้ามันซ้ายที ขวาที ก่อนที่จะโดนอีกฝ่ายรัด แล้วออกแรงผลักจนมันคร่อมผมได้ ตอนนี้ผมโดนประเคนหมัดใส่หน้ากับปากผม แล้วตามด้วยบีบคอผมเต็มแรง

สภาพผมตอนนี้ไม่ดีเท่าไหร่ ผมแกว่งมือไปมาทั้งสองข้างที่พื้น เผื่อจะพอหาอะไรได้ มือผมไปสะกิดกับมีดที่ตกอยู่ มือผมปัดจนหาด้ามเจอ แล้วคว้าเข้ามาปักด้านข้างของต้นขาเต็มแรง มือที่บีบคอผมปล่อยออกทันทีเมื่อมีดแทงเข้าที่ต้นขาซ้ายมัน ผมดึงมืดออก ก่อนจะผลักมันออก แล้วลุกขึ้นยืน คนที่รัดคอผมด้วยเข็มขัดเมื่อครู่นี้เริ่มหายมึน ลุกขึ้นยืนประจันหน้ากับผม ผมกำมีดด้วยมือขวาใบมีดอยู่ทางนิ้วก้อยผม พร้อมกันตั้งการ์ดรอ สิ่งที่ผมรับรู้ตอนนี้คือ เริ่มมีไทยมุงเกิดขึ้นแล้ว

เรามีมีดกันอยู่ทั้งคู่ อีกฝ่ายสะบัดมีดใส่ท้อง ผมถอยหลบหนึ่งจังหวะ แล้วพุ่งเข้าชาร์จด้วยมือซ้ายผลักมันลงกับพื้น แล้วใช้ร่างตัวเองคร่อมเอาไว้ ก่อนจะเอามือที่อยู่มือขวาจ่อคอในท่าที่ผมปาดคอมันได้ทันที

“ถ้ายังไม่อยากตายเร็ว อยู่นิ่งๆ แล้วโยนมีดทิ้งไกลๆ” เรียบร้อย มันจนมุมผมแล้ว มีดในมือของมันโยนออกห่างๆ ตัวเรียบร้อย ผมลุกขึ้นไปวิ่งไปเตะมีดอีกให้ไปไกลๆ มันลุกขึ้นอีกที แล้วสิ่งที่เกิดขึ้นต่อจากนั้น...

“หยุดอยู่กับที่ให้หมด นี่เจ้าหน้าที่ตำรวจ วางอาวุธแล้วคุกเข่าให้หมด” เอาละ จบเรื่องซะที แต่ผมคงได้ไปสถานีตำรวจในสภาพไหนดีกว่า

ตำรวจหกคนเข้ามาสวมกุญแจมือทุกคน รวมถึงผม ที่ตอนนี้คุกเข่าลง แล้วยกมือขึ้นเหนือหัว ผมโดนกุญแจมือไขว้หลัง แล้วผมก็ต้องขึ้นไปนั่งกระะบะหลังกับพวกมันสามตัว เพื่อไปสถานีตำรวจด้วยกัน ไม่มีคำพูดอะไรนอกจากมัน นอกจากสายตาอาฆาตที่มองมาที่ผม

ผมก็...แค่นั่งผิวปากอารมณ์ดีให้มันดู ว่าใครกันแน่ที่ชนะ

………………..

ที่สถานีตำรวจ ผมโดนจับแยกสอบปากคำ และโดนแจ้งข้อหา ทะเลาะวิวาทในที่สาธารณะ แล้วเสียงสววรค์ก็มาถึง

“เอ้า กลับไปได้แล้ว” ตำรวจเดินมาไขกุญแจมือออก ผมลุกขึ้นเดินออกจากห้องสอบสวน เด็กสองคนที่ผมช่วยไว้ กับผู้ปกครองของทั้งคู่รออยู่หน้าห้องสอบสวน

“ขอบคุณมากนะคะ ที่ช่วยลูกน้าเอาไว้” ผมยิ้มออกในสภาพเละทั้งตัวซะที

“พี่ครับ กระเป๋าพี่ครับ” ผมรับกระเป๋ากลับมาสะพายเหมือนเดิม

“คราวหลังระวังตัวนะ คิดไม่ออก วิ่งหนีไปซะ” ไม่รู้จะแนะนำอะไรดี ตอนนี้ผมเจ็บไปทั้งตัวจริงๆ

“ไปหาหมอไหมครับ เดี๋ยวพาไปครับ” ผู้ปกครองน้องอีกคนดูสภาพผมแล้ว ควรไปหาหมอซินะ

“ไม่เป็นไรครับ ผมสายมาจะสองชั่วโมงแล้ว ผมต้องไปเรียนพิเศษ ผมขอบคุณที่มาช่วยผมนะครับ ขอตัวละครับ” ผมยกมือไหว้ผู้ปกครองน้องทั้งสองคน ก่อนจะลูบหัวน้องทั้งสองคน

“เจอพี่ที่โรงเรียนอย่าลืมทักนะ เราเป็นครอบครัวเดี๋ยวกัน” ผมรู้สึกมีความสุขอย่างบอกไม่ถูก ถึงสภาพตอนนี้จะไม่ค่อยดีเท่าไหร่ก็ตาม

แล้วผมก็ต้องใช้บริการมอไซค์รับจ้างไปเรียน ขนาดมอไซค์ยังถามว่าผมไปโดนอะไรมา และเชื่อว่า คงมีอีกหลายคนจะถามคำถามนี้กับผม รวมถึงไอ้คนที่นั่งเรียนข้างผม ที่จ้องด้วยสายตาตกใจเหมือนทุกคนที่เห็นนั้นแหละ

เจ็บแค่นี้เล็กน้อย หนักกว่านี้โดนมาแล้ว

ห้องน้ำที่เรียนพิเศษตอนนี้ ผมยึดอ่างล่างหน้าที่มีอยู่อันเดียวไปเรียบร้อย เปิดน้ำทิ้ง แล้วล้างหน้า ล้างแขน เลือดกับฝุ่นไหลผสมน้ำไปเรื่อยๆ ท่ามกลางคนที่เข้าห้องน้ำ ที่เห็นแล้วก็ผงะไปว่า ไอ้นี่ไปทำอะไรมา น้ำที่ลูบหน้าซ้ำไปซ้ำมา เหมือนยังไม่พอซะที สบู่ล้างมือในห้องน้ำตอนนี้แทบจะหมดกระปุก เพราะผมกดมาล้างหน้ากับแขนตอนนี้ ถ้าไม่เกรงใจ จะถอดเสื้อมาดูว่ามีแผลที่ตัวเปล่า แต่มองแล้วไม่เห็นเลือดซึมกับเสื้อ ก็น่าจะโอเคอยู่ เหมือนมีคนอยากใช้อ่างล่างมือ ผมมองผ่านกระจกซะหน่อยว่าใคร

“จะใช้อ่างเหรอ เสร็จแล้ว โทษที” ขอเช็ดหน้ากับใส่แว่นสักครู่นะ อ้อ นึกว่าใคร

“เอาไปเช็ดหน้าเช็ดแขนนะ” เพื่อนเรียนพิเศษผม ยื่นทิชชู่ห่อใหญ่มาให้

“ขอบใจนะ” กำลังอยากได้พอดี ขอบใจมากๆ ผมเริ่มลงมือเช็ด กับซับเลือดออกต่อนิดหน่อย

“เออ...นายไปโดนไรมาอะ” กะแล้วว่าต้องถาม ถ้าไม่ถามซิแปลก

“มีพวกเหี้ยสามตัวไถเงินเด็กโรงเรียนเราอะ โตเป็นควายแล้วยังไปรุมไถเงินเด็กไม่มีทางสู้ ถ้าเป็นนาย จะยืนดูเฉยๆ ไหมละ” ถ้าไม่เชื่อ เดี๋ยวพาไป สน. ให้ดูเลยว่าโดนมาหมาดๆ

“เราขึ้นไปรอข้างบนนะ” ผมพยักหน้าให้เป็นคำตอบ เพราะตอนนี้ยังคงต้องเช็ดกับซับเลือดที่แขนอีกนิดหน่อย

“ขอบใจนะ สำหรับกระดาษทิชชู่อะ” เพื่อนเรียนพิเศษผมนี่ใจดีแหะ เป็นร้านเครื่องเขียนแล้ว ยังมีของรอพร้อมตลอดจริงๆ

ขอบใจมากๆ ไว้โอกาสหน้าจะตอบแทนให้...นึกออกละ ยางลบมันยังไม่คืนนี่หว่า เดี๋ยวเลิกแล้วคืนนะ

………………..

ครึ่งหลังของการเรียนกลับมาอีกครั้ง ผมหวังว่าทิชชู่ที่ผมให้ไป จะพอใช้นะ แล้วพระเอกหนังบู๊ก็กลับมานั่งเรียน ถึงจะไม่สะอาดดี แต่ก็พอจะใช้ได้อยู่ ผมไม่มีคำถามอะไรต่อเรื่องทิชชู่ เพราะทิชชู่ที่เหลือ เพื่อนผมเอากลับมาวางบนโต๊ะผมแบบเหลืออยู่ไม่กี่แผ่น และก็เป็นไปตามที่ผมคาด บทนี้มันยาก ถ้าไม่มาแต่แรก จะไม่เข้าใจเลยทั้งบท พระเอกของผมเลยนั่งงงไป ผมยังคงไล่จดต่อไป เหลือบมองบ้าง เจ้าตัวหลับไปซะแล้ว สงสัยจะเหนื่อย

จริงๆ น่าจะกลับบ้านไปเลยมากกว่านะ แต่ไหนๆ ก็มาแล้ว วันนี้ของที่เราเตรียมก็ไม่เสียเปล่าแล้ว สักพักนึง ไหล่ซ้ายเรามีอะไรพิงหว่า นักบู๊เหนื่อยจัด เอนหัวพิงไหล่ผมไปละ ผมตื่นเต้นนะ เป็นไปตามธรรมชาติของผมนี่ ไม่ได้ๆๆ ตั้งใจฟัง ตั้งใจจดก่อนนะ

ปล่อยเค้าหลับที่ไหล่เราละกัน...

แล้วชั่วโมงเรียนครึ่งหลังก็จบลง แต่เพื่อนผมยังไม่ตื่นซะที เอาไงดี? จะปลุกไงดี? จนคนอื่นเดินออกกันแล้ว เหลือแค่คนนึงที่เอาไหล่ให้นอน กับอีกคนที่นอนพิงไหล่ผมอยู่ ผมไม่อยากปลุกเลย หันไปมองไม่ชัด แต่ใบหน้าตอนหลับเค้า เหมือนเด็กน้อยคนนึงเลย เราควรปลุกเค้าได้แล้วซินะ

“นายๆ” ผมส่งเสียงเรียกเค้าเบาๆ แต่ยังไม่มีปฎิกริยาตอบรับ ผมเอามือสะกิดแขนเบาๆ สองที แล้วเรียกซ้ำอีกที ได้ผลครับ เจ้าตัวตื่นแล้ว ก่อนจะถอดแว่นแล้วขยี้ตาซ้ำ กับยกแขนเหนือหัวบิดขี้เกียจ

“เลิกแล้วเหรอ นี่เราหลับไปนานแค่ไหนเนี่ย” เหมือนจะไม่รู้ตัวจริงด้วย

“ชั่วโมงกว่าๆ ได้ แต่นายคงเหนื่อยแหละ” ผมเก็บของแล้วลุกขึ้น รอเพื่อนผมเก็บของใส่กระเป๋า

“เออ นี่ยางลบ วันก่อนลืมคืน” เพื่อนผมเก็บของเสร็จละ ส่งยางลบคืนให้ผม ผมก็มีของให้เหมือนกัน

“เราสรุปบทเรียนเมื่อวานที่นายเขียนข้ามๆ ไปให้แล้วนะ เอาไปอ่านด้วย ส่วนของวันนี้ เดี๋ยววันจันทร์เราเอามาให้” นี่แหละ ของที่ผมทำมารอแลกกับยางลบ

“ขอบใจนะ” รับแล้วเอาไปอ่านด้วยละ เจ้าตัวกวาดสายตาดูเนื้อหาที่ผมสรุปแล้วบอกว่า

“ละเอียดขนาดนี้ เราไม่ต้องมาเรียนก็ได้นะ รอลอกดีกว่า” นั้น ยังยิ้มกวนประสาทอีก ปากก็ช้ำ หน้าก็ช้ำ แล้วเราทั้งคู่ก็เดินลงมาหน้าประตูที่เรียนพิเศษ

“ถ้าไม่เข้าใจตรงไหน มาถามวันจันทร์นะ เรากลับละ” เพื่อนผมยกมือขวาให้เป็นการบอกลา จริงๆ ยังไม่อยากกลับ แต่ไม่รู้จะชวนคุยอะไรแล้ว ได้แต่หันหลังแล้วเดินไป ไม่กล้าหันกลับไปมอง

ส่วนของวันนี้ เดี๋ยวจะรีบกลับทำสรุปให้นะ อย่าไปมีเรื่องอีกละ...เราเป็นห่วงนะ...

**********


บทนี้เขียนยากเอาเรื่อง เพราะคิดคิวว่าจะต่อยกันยังไง ถ้าอ่านแล้วไม่รู้เรื่อง เดี๋ยวจะมาเกลาให้ใหม่นะครับ

บทถัดไปจากนี้ ความสัมพันธ์ของคนทุกคนจะชัดเจนขึ้น และเห็นภาพกันมากขึ้นนะครับ

บทที่ 5 เจอกันคืนวันอังคารหลังเที่ยงคืนไปนะครับ

ขอบคุณสำหรับการติดตามครับ^^
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 03-03-2015 14:48:37 โดย zipboy »

ออฟไลน์ Mouse2U

  • บังเอิญ'โลกกลม'..
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3531
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +223/-10
น้องแทนเริ่มหวั่นไหวเพราะบิ๊กแล้วสิ๊. :haun5: แบบนี้จะเป็นรักหลายเศร้าไหมคะเนี่ย.:o

ออฟไลน์ PharS

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 588
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-1
อยากมีคนทำชีสให้แบบนี้มั่งจังงงง

ออฟไลน์ zipboy

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 309
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +65/-0
น้องแทนเริ่มหวั่นไหวเพราะบิ๊กแล้วสิ๊. :haun5: แบบนี้จะเป็นรักหลายเศร้าไหมคะเนี่ย.:o

บทต่อไปจากนี้ คุณชายจะทำให้แทนหลงเลยแหละครับ^^

อยากมีคนทำชีสให้แบบนี้มั่งจังงงง

ชีทที่ทำให้ เป็นสื่อรักในตอนถัดๆ ไปด้วยนะครับ^^
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 21-02-2015 19:58:11 โดย zipboy »

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ Freja

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2394
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +145/-4
แทนเป็นเด็กดีมากๆนะ  ขนาดเจออะไรต่อมิอะไรมาก็ยังมีใจที่อารีคิดช่วยคนอื่น
ชีท หรือเปล่าคะ? จาก Sheet ถ้าหากว่า ชีส น่าจะมาจาก cheese

ออฟไลน์ zipboy

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 309
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +65/-0
แทนเป็นเด็กดีมากๆนะ  ขนาดเจออะไรต่อมิอะไรมาก็ยังมีใจที่อารีคิดช่วยคนอื่น
ชีท หรือเปล่าคะ? จาก Sheet ถ้าหากว่า ชีส น่าจะมาจาก cheese

ตอนท้ายๆ จะเข้าใจความเป็นแทนเองครับ^^

ส่วนคำว่า "ชีท" ไม่เขียนนานจนลืมเลยครับ ขอบคุณที่เตือนให้นึกออกครับผม^^""

ออฟไลน์ yowyow

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4188
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +139/-7

ออฟไลน์ ლїЯдςLΣϛlθTtεR

  • มิราเคิ้น
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 729
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +355/-3
ดันๆ เจ้าของมู้จะได้มีแรงเขียน~

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11
สนุกดีครับบบ. รออ่านอยู่ครับบบ. แต่แทนโดนมามาอะ ต้องย้ายโรงเรียนหนีเลยอะ สงสารแทนมากๆเลยย

ออฟไลน์ zipboy

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 309
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +65/-0
:pig4: :pig4: :pig4:

ขอบคุณสำหรับการติดตามครับ^^

ดันๆ เจ้าของมู้จะได้มีแรงเขียน~

ขอบคุณครับ^^

สนุกดีครับบบ. รออ่านอยู่ครับบบ. แต่แทนโดนมามาอะ ต้องย้ายโรงเรียนหนีเลยอะ สงสารแทนมากๆเลยย

ขอบคุณสำหรับการติดตามครับ ตอนนี้เขียนจะจบตอนที่ 15 ขึ้น 16 ละครับ^^

ออฟไลน์ zipboy

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 309
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +65/-0
Re: ++เพื่อน(เรียน)พิเศษ : บทที่ 5 ++
«ตอบ #26 เมื่อ24-02-2015 16:37:01 »

คืนนี้อาจไม่ว่าง ขอลงบทที่ 5 ให้ก่อนเลยนะครับ บทที่ 6 เจอกันวันศุกร์นี้ช่วงบ่ายๆ ครับ

ตอนนี้เป็นเรื่องของแทนกับไบร์ทเป็นหลัก บทถัดไปจะเป็นเรื่องของบิ๊กกับแพรวที่ถึงจุดสำคัญละครับ^^

********************

Chapter 5

ผมพาร่างผ่านสงครามกลับมาร้านเฮียโบ้อีกครั้ง ตอนนี้ในหัวผมกำลังคิดว่า จะเข้าบ้านยังไง โดยที่ไม่โดนแม่บ่นว่า “ไปมีเรื่องมาอีกแล้วเหรอ” บ่นหูชา น่ารำคาญที่สุด ผมหยุดอยู่ที่น้องถ่านที่จอดอยู่หน้าร้าน ใช้กระจกมองข้างมองหน้าตัวเองหน่อยว่าเป็นยังไง สภาพยังหล่ออยู่นะ เหมือนพระเอกหนังเลยแหละ เฮียคงไม่ตกใจนะ และทันทีที่ผมเปิดประตูเข้าร้านเฮียโบ้ เฮียกำลังอ้าปากจะทัก แล้วมองผมหัวจรดเท้าแทน

“เฮียมีอะไรจะถามผมใช่ไหมละ” เฮียโบ้พยักหน้าช้าๆ

“คือ เฮียชินแล้วนะ เวลาแกมาในสภาพยับทั้งตัวแบบนี้ แต่ก็คงต้องถามว่าโดนไรมา” เฮียถามเสร็จเดินไปหลังร้านหยิบชาเขียวเย็นขวดใหญ่มาให้ผม

“มีกุ๊ยไถ่เงินเด็กประถมโรงเรียนผม ผมเลยซัดกับมันไป” เจ็บมือจริงจัง ขนาดเปิดฝาขวดชาเขียว ยังเจ็บมือเลย

“ไม่ได้ไปหาเรื่องเค้าใช่ไหมละ” เฮียแมร่งมองโลกในแง่ร้าย ผมไม่เคยตีใครก่อน มีแต่คนอื่นนั้นแหละทำผมก่อน

“เฮียเห็นผมเป็นคนชอบมีเรื่องเหรอครับ” ผมซดชาด้วยอารมณ์หิวน้ำ ใช่ซิ ทั้งบ่ายนี้ นอกจากน้ำลาย น้ำสักแก้ว ยังไม่ตกถึงคอผมสักหยดเลย

“ตั้งแต่รู้จักแกมา เดือนไหนชุดนักเรียนไม่ขาด เลือดไม่เลอะเสื้อ หน้าไม่ช้ำ ตัวไม่ช้ำ มันไม่ใช่แกไง” เฮียโบ้ซดชาตามผมบ้าง เฮียแมร่งบ่นยังกับแม่ผมอีกคนซะงั้น

“นี่ไม่รัก ไม่เห็นว่าเป็นน้อง ไม่บ่นนะเว้ย” เฮียไม่ต้องทำหน้าเครียด ผมยังไม่ตาย

“เฮียดูให้ผมหน่อย ว่าน่วมเปล่า” ผมวางขวดชาลงที่เก้าอี้ แล้วถอดแว่นวางไว้ข้างๆ ก่อนจะถอดเสื้อออก แล้วหมุมรอบๆ ให้เฮียโบ้ดูว่าช้ำไหม

“เออ เขียวนิดหน่อยบางจุด ที่เหลือก็ยังหล่ออยู่” ผมใส่เสื้อกลับแล้วใส่แว่นอีกที ทำไมเฮียต้องมองผมด้วยสายตาเบื่อแบบนั้นอะ

“ไอ้บิ๊ก วันนี้แกมีนัดสาวเปล่า” กลัวผมจะหล่อไปใช่ม๊า

“ไม่มีๆ ถ้านัดสาวผมจะเอาให้น่วมกว่านี้ จะได้เหมือนพระเอกไง” เฮียส่ายหน้ายังกับโลกนี้กำลังจะแตก

“พระเอกดับอนาถคาตีนใช่มะ กูละเบื่อ เอาไปทำแผลไป” เฮียโบ้ยกกล่องพยาบาลมาวางเก้าอี้ข้างๆ ผม ปกติเวลาผมซัดกับใครมา นี่เป็นที่แรกที่ผมจะแวะมาทำแผล เพราะเฮียเค้ามีครบทุกอย่าง ใครเป็นลูกค้าร้านเฮียจะรู้ว่า จะทำแผลหลังไปตีกับเค้ามา จะหาลายเซ็นผู้ปกครอง หรือซื้อสุราให้ไปฉลอง เฮียโบ้คือที่พึ่งพาของเด็กสยามได้เสมอ

แต่ที่แน่ๆ ปะยาเอง เจ็บเอง ซิ๊ดๆๆๆๆ ต่อย ตี ก็บ่อย เจ็บตัวทุกรอบ ทำแผลเก่งจนวิชาสุขศึกษาได้เต็ม ก็เพราะเรียนจากนอกห้องเรียนมาเองนี่แหละ หวังว่ามันจะดีขึ้นสักนิด ไปหาแพรวพรุ่งนี้อย่าช้ำมากนะ เดินควงด้วยแล้วมันไม่หล่ออะ T_T

………………..

วันนี้อารมณ์ดีอย่างบอกไม่ถูก ได้ให้ของที่เราอยากให้ ไม่มีซ้อมบาสฯ ได้แวะไปเล่นบาสฯ กับเด็กๆ สนามใกล้ๆ กับชุมชนแถวคอนโด กลับมาถึงห้อง ยืนอยู่ริมระเบียง มองไปรอบๆ มันก็รู้สึกไม่เหงาอย่างบอกไม่ถูก โดยเฉพาะไหล่ซ้ายผม ไม่อยากปลุกให้เค้าตื่นขึ้นมาเลย บอกไม่ถูก ทำไมก็ไม่รู้ แต่เรารู้สึกตื่นเต้นมาก ตอนที่เค้านอนเอาหัวพิงไหล่เรา อยากให้ถึงวันจันทร์เร็วๆ จัง

กินมื้อเย็นเสร็จ อาบน้ำ แล้วมาทำสรุปบทเรียนวันนี้ต่อ จริงๆ น่าจะทำให้หมดเล่มเลยดีกว่า รู้นะว่ามาเรียนไม่ได้เข้าหัวอะไรหรอก ทบทวนให้ตัวเอง เป็นของขวัญผูกมิตรเค้า ดีสองเด้ง^^ แล้วผมก็สะดุ้ง เพราะเสียงโทรศัพท์ดัง ใครโทรมานะ

“สวัสดีไบร์ท” ผมมีนัดด้วยเปล่านะ? น่าจะใช่?

“แทน พรุ่งนี้กี่โมงดี” ผมนึกไม่ออกว่านัดอะไรไว้ เดี๋ยวนะ...

“เออ เราขอโทษอะ ลืมว่านัดไบร์ททำอะไร” ตรงๆ เลยนะว่าลืม โทษด้วย

“ดูหนังไง ที่คุยกันเมื่อสองวันก่อนอะ เลี้ยงเราเลย โทษฐานที่ลืม” เออ..ดูหนังนี่หว่า ลืมจริงนะเนี่ย

“เที่ยงแล้วกัน จะได้ออกไปกินข้าวด้วยเลย แล้วก็ ขออย่างเดียวนะ” ผมมีกติกาอย่างหนึ่งกับการดูหนัง

“อือ อะไรอะ” อย่าขำนะไบร์ท จะบอกว่า...

“เราไม่ดูหนังผี แค่นั้นแหละ” จริงๆ ดูได้นะ แต่ต้องเปิดไฟสว่างๆ ดู มืดๆ แบบในโรงหนัง ดูแล้วจิตตกทุกที

“กลัวผีเหรอ อิๆๆ” ไม่น่าบอกเลย เหมือนเผยจุดอ่อนให้รู้อะ

“ผีไม่กลัว แต่เราไม่ชอบดูหนังผีในบรรยากาศมืดๆ แค่นั้นแหละ” เข้าใจยัง

“เราจะชวนไปดูการ์ตูนดิสนีย์ที่เข้าเมื่อต้นเดือนอะ” นึกออกละเรื่องอะไร ก็อยากดูอยู่พอดีเลยแหละ

“งั้น เที่ยงที่มาบุญครองละกัน” แถวสยามมันแพงอะ

“ได้เลย เจอกันนะ อ้อ...ฝันดีนะ บาย” ผมกลับมาทำสรุปบทเรียนวันนี้ต่อให้หมด

เวลาผ่านไปเร็วมาก ทำเสร็จของวันนี้ ว่าจะทำของบทแรกสุด เวลาก็จะสี่ทุ่มแล้ว อีกสักชั่วโมงแล้วกัน ผมเปิดบทแรกที่เรียนแล้วเริ่มอ่านซ้ำ ก่อนจะสรุปใส่กระดาษอีกชุด เพื่อเตรียมไว้ให้เพื่อนข้างๆ ผม ก่อนวันปิดคอรส์ศุกร์ที่จะถึงนี้

ยิ่งทำ ยิ่งคิดถึงอย่างบอกไม่ถูก ผมตั้งใจทำสรุปมากนะ เขียนไปลบไป กลัวว่าที่เขียนแล้ว เค้าจะอ่านไม่เข้าใจ ต้องเขียนให้ละเอียดและง่ายพอที่จะให้เค้าเข้าใจด้วย

แต่ถ้าเค้าไม่เข้าใจแล้วมาถามเราซิ จะดีมากเลย...นี่เราอยากให้เค้าอยู่ใกล้ๆ เรา ตั้งแต่เมื่อไหร่เนี่ย เพ้อเจ้ออยู่ได้...เค้าไม่รู้หรอก ว่าเราคิดถึงเพื่อนเรียนพิเศษคนนี้อยู่

แล้วผมก็ทำบทแรกเสร็จตอนเกือบตีหนึ่ง ไปนอนดีกว่า

………………..

เก้าโมงเช้าวันเสาร์ แดดส่องหน้าต่างจนผมต้องตื่นขึ้น เป็นคืนที่หลับสนิทสุดตั้งแต่มาอยู่กรุงเทพฯ เที่ยงนี้ไปหาไบร์ท ยังพอมีเวลาเข้าฟิตเนสก่อน ผมดื่มนมสักแก้ว เปลี่ยนชุดเรียบร้อย ได้เวลาลุย วันนี้เล่นอก ท้อง แล้วปิดท้ายด้วยวิ่งอีกชั่วโมง ตึงได้ที่ใช้ได้ละ อาบน้ำ แต่งตัว ไปหาไบร์ทมันละ

ผมไปถึง MBK ละ แต่ไม่ได้บอกนี่ ว่านัดตรงไหน ถามไบร์ทมันก่อน

Tan : เจอกันตรงไหนอะ
Brightening : ที่ขายตั๋วหนังชั้น 7 ขึ้นมาเลยนะ เราจองให้แล้ว
Tan : Ok


ชอบแย่งผมจ่ายตลอดเลยอะ ป๋าจริงเพื่อนเรา เดินเพลินๆ มองโน่น มองนี่ไปเรื่อย เดินมาถึงชั้นโรงหนังแล้ว เดินไปถึงช่องขายบัตรแล้ว แล้วไบร์ทมันอยู่ไหนอะ? ผมมองซ้าย มองขวา แล้วจู่ๆ เหมือนใครสักคนชนผมจากด้านหลัง แล้วผมก็โดนปิดตา

“ปล่อยเลยนะ เล่นเป็นเด็กอีกแล้ว” มีอยู่คนเดียวแหละ ที่ชอบปิดตาผมจากข้างหลังแบบนี้

“อิๆ ชอบไม่ระวังตัวเองอะ กินไรดีๆๆ” ใครมันจะไประวัง เล่นทีเผลอแบบนี้อะ ว่าแต่กินอะไรดี

“ให้ไบร์ทเลือก เรากินได้หมด” เพราะเลือกเองทีไร เดี๋ยวไม่กิน ไม่ก็บ่นไม่อิ่ม แล้วเดี๋ยวจะบอกผมว่า

“ตามใจแทน เราขี้เกียจเลือก” นั้นไง งั้นเราเลือกนะ อย่าบ่นด้วย ที่เราจะกินนั้นก็คือ....

“พิซซ่าอีกแหละ ไอ้แทน มึงเป็นอเมริกันกลับชาติมาเกิดหรือไง” ผมกำลังทานหน้า Seafood อย่างอร่อย ชีสอย่างยืด ช่วยไม่ได้ บอกเองนี่หน่า ว่ากินอะไรก็ได้

“บอกเองนี่ กินอะไรก็ได้ตามใจหมด” ผมไม่สนไบร์ทละ กินต่อไป ไบร์ทมันส่ายหัวก่อนจะหยิบหน้าไส้กรอกรวมมิตรมาใส่จานตรงหน้า แล้วบอกเองนะว่าไม่ชอบกิน แต่กินหมดก่อนผม แถมบรรดาไก่ หอมทอด ก็กินเกลี้ยงจนผมต้องสั่งเพิ่มนี่นะ กวน...นะ ไบร์ท

“อิ่มอะ” ไม่ต้องเลยไบร์ท ไหนบอกไม่ชอบกิน แล้วแย่งเรากินหมดแบบนี้คืออะไร

“นี่ขนาดไม่ชอบกินนะ หมดไม่พอ แย่งเรากินด้วย” ทำหน้ากวนประสาทอีก
 
“จริงๆ ไม่ชอบกินนะ แต่กินกับคนที่เราอยากกินด้วย ก็อร่อยดี” อยากกินกับเรา?

“เรานี่นะ เวอร์ละไบร์ท” พูดยังกับจีบเรา

“ได้เวลาแล้ว เดี๋ยวหนังจะฉายแล้วนะ” ผมดูเวลาที่ข้อมือ ใกล้ถึงเวลาแล้วจริงด้วย พอไปจ่ายเงิน ไบร์ทมันแย่งจ่ายผมอีกแล้ว

“ไบร์ท ค่ากินของเรา” ผมยื่นแบงค์ห้าร้อยให้ ไบร์ททอนให้ผมมาสองร้อย

“เราเลี้ยงข้าว เรากินเยอะ แทนเลี้ยงหนังเราละกัน” อีกละ ผมจ่ายน้อยกว่าอีกละ ผมยัดสองร้อยที่เหลือใส่มือไบร์ท

“ทีหลังไม่มาด้วยแล้ว เลี้ยงตลอดเลย” ไบร์ทเก็บเงินสองร้อยกล้บลงกระเป๋าเรียบร้อย

“โอเคๆๆ งั้นเราเลี้ยงหนังนะ นะๆๆๆ” ผมควักเงินค่าตั๋วหนังแล้วยัดใส่มือไบร์ททันที แล้วยกมือชี้ไบร์ทเลยว่า

“หยุดเลย เอาไป เลี้ยงมากกว่านี้เราไม่มาจริงด้วย” ไบร์ทรับเงินผมโดยการบังคับ ยกมือสองข้างแบบ ยอมแล้ว

“โอเคๆๆ ได้เวลาแล้ว ไปกันเถอะ” ไบร์ทยิ้มกว้างๆ ในขณะที่ผมขมวดคิ้วไปแล้ว

หนังสนุกนะ ผมไม่รู้คิดไปเองเปล่า ไบร์ทมันนั่งชิดผมจัง ไหล่ขนเลยแหละ มันบ่นว่าแอร์เย็น จับมือหน่อย แต่จับแล้วมือก็เย็นจริงนั้นแหละ จนหนังจบยังแอบไม่ปล่อยมือผมอีก

“ไบร์ทปล่อยมือเราได้แล้ว” ไบร์ทนั่งดูเครดิตท้ายเรื่องในขณะที่ยังจับมือผมอยู่ จนผมต้องกระตุกมือนิดๆ

“ฮือ ก็มือแทนอุ่นดีอะ เราขี้หนาวอะ ลุกละนะ” ไบร์ทปล่อยมือผม ก่อนจะลุกขึ้นบิดขี้เกียจ แล้วจับมือผมอีกที

“โรงหนังมันมืด จะได้ไม่ล้มไง” เออ เราเดินเองได้นะ

“เอ้ย เราไม่ซุ่มซ่ามขนาดนั้นหรอก” แล้วไบร์ทก็จูงมือผมเดินนำจนออกจากโรง ก่อนจะปล่อยมือผม

“หนังสนุกปะ” ผมพยักหน้าให้กับคำถามของไบร์ท

“หิวยังแทน ขนมสักหน่อยมะ” ผมพยักหน้าเหมือนเดิม

สุดท้ายก็นึกไม่ออก ไปจบที่ Starbucks ชั้น 2 ในพารากอน คนเยอะทุกวัน เกือบไม่มีที่นั่งอีกเหมือนเดิม แล้วไบร์ทก็กลับมาพร้อมกับกาแฟปั่นสองแก้ว มัฟฟินสองลูก ผมเริ่มลงมือทานช้าๆ สลับดู Facebook ในมือถือไปเรื่อยๆ

“ไบร์ท วันจันทร์มีซ้อมปะ” ผมนึกขึ้นได้แต่ไม่แน่ใจ

“ใช่ๆ จันทร์ อังคาร พุธ แล้วเจอกันอีกทีเปิดเทอมเลย” ผมปิดจอมือถือแล้ววางไว้ข้างๆ จานขนม ผมเห็นหน้าไบร์ทแล้ว บอกไม่ถูก ดูเจ้าตัวจะมีความสุขมากกว่าปกติ

“แค่มาดูหนังด้วย ตาเป็นประกายยังกับเราเป็นแฟน” ผมไม่กล้าสบตานะ มันเป็นสายตาที่ทำให้ผมบอกไม่ถูกเลยแหละ

“แล้วถ้าเราเป็นแฟนกันละ” ดีนะที่ส้อมไม่ได้อยู่ในปาก ไม่งั้นคงเผลอจิ้มเพดานปากไปแล้ว

“ถามแบบนี้เราไปไม่ถูกนะ” ผมหยิบมือถือกลับมาอีกรอบ เปลี่ยนเป็นเล่นเกมแทน ผมไม่กล้ามองหน้าไบร์ทจริงๆ

“เขินเราเหรอ” บ้าเอ้ย ก็บอกแล้วอย่าทำสายตาแบบนั้นกับเรา เราแพ้สายตาแบบนั้นอะ

“พึ่งรู้ว่าไบร์ทก็เป็น...” ผมไม่กล้าพูดหมด เพราะเป็นเรื่องที่ผมก็ไม่เคยถามเพื่อนสนิทคนนี้เหมือนกัน

“เป็นคนหล่อมากใช่มะ” ดีนะที่ส้อมไม่ได้อยู่ในปาก แต่เงยหน้าจากโทรศัพท์มาแล้ว ไบร์ทกำลังจะป้อนมัฟฟินช็อกโกเล็ตให้ผม

“กินดิ อร่อยนะ” ผมอ้าปากทาน รอยยิ้มกับสายตาของไบร์ทตอนนี้ ผมกำมือแน่น รู้สึกทำอะไรไม่ถูก จะบอกว่ารู้สึกดีก็ไม่เต็มปาก จะบอกว่าอึดอัด ก็ไม่ใช่อีก

ผมมองไปทางอื่นแทน ตอนนี้รู้สึกเขินอย่างบอกไม่ถูก กินก็ไม่กล้าสบตา ดูดกาแฟก็แกล้งมองอย่างอื่น เพื่อนสนิทผมกำลังจีบผมอยู่เหรอ บอกไม่ถูกเลยจริงๆ ไม่ใช่ไม่ดี ดีเลยแหละ แต่บอกไม่ถูกอยู่ดี

“ยังไม่ตอบเราเลยอะ” ทวงคำตอบไหนอะไบร์ท? หรือที่ถามว่า ถ้าเป็นแฟนกัน?

“ไบร์ทก็ยังไม่ตอบเราเหมือนกัน” ผมทวงบ้าง บอกมาก่อนซิ

“ถ้าเราใช่ แล้วเป็นแฟนกันไหมละ” ถ้าผมไม่คุมสติ แก้วกาแฟในมือตอนนี้ ผมคงบีบกระจายแล้ว ไบร์ทที่เป็นที่หมายปองของสาวๆ หลายโรงเรียนนี่นะ ชอบผม...ไม่ใช่มั่ง ถึงมันจะดีกับผมเป็นพิเศษหลายอย่าง แต่ก็ไม่ใช่มั่ง...

“แกล้งเราใช่ปะไบร์ท” ผมไม่เชื่อว่านี่เรื่องจริงนะ แต่ถ้าแกล้งผม ก็แกล้งได้สมจริงสุดๆ เลยแหละ ผมมองหน้าไบร์ทอีกทีเพื่อความชัวร์ สายตาของเพื่อนผมตอนนี้ ดูจริงจังมากกว่าจะล้อเล่น ผมควรทำไงดี....

ผมรวบรวมคำพูดสักครู่นะ....

“เรา...ดูเป็น...เป็น...แบบนั้นเหรอ” ผมแค่อยากแน่ใจว่า ผมไม่เคยแสดงให้ใครเห็นว่า ผมเป็นอะไร ผมกลัวมัน ไม่อยากให้ใครรู้ในสิ่งที่ติดตัวผมมาแต่เกิด ไบร์ทมองผมจริงจังมาก ก่อนจะยิ้มกว้างขึ้นแล้วบอกผมว่า

“เป็นคนดีที่สุดของเราไง” น้ำเสียงไบร์ทที่นุ่มนวลจนไม่เหมือนเพื่อนที่ผมรู้จัก ไบร์ทคงเห็นแววตาไม่มั่นใจของผม ส่วนผมเห็นแววตาจริงจังของไบร์ท ผมพูดอะไรไม่ออกแล้ว

“เราแค่อยากบอกเฉยๆ อยากซึ้งบ้าง อะไรบ้าง ไม่ได้เหรอ” ผมแทบอยากจะปาแก้วกาแฟในมือใส่ เมื่อไบร์ทขี้เล่นกลับมาอีกครั้ง ผมอายอย่างบอกไม่ถูก บ้า!!! ไม่คุยด้วยแล้ว

ไบร์ทปล่อยให้ผมอยู่ในสภาพนี้ โดยที่เจ้าตัวกินขนมกับกาแฟต่อไป ปล่อยให้ผมหยุดนิ่ง จนผมต้องรวบรวมสติให้ตัวเองกลับมาปกติเหมือนเดิม ผมกวาดสายตาไปรอบๆ เพื่อลดความตึงที่เกิดขึ้นเมื่อสักครู่นี้

เดี๋ยวนะ คนที่ยืนจ่ายเงินซื้อกาแฟตรงนั้น ทำไมคุ้นหน้าจัง ผู้ชายหัวกลมสกินเฮด ใส่แว่น เสื้อเชิ้ตเนี๊ยบๆ กับกางเกงขาเดฟแบบนี้ มีคนเดียวแหละ นั้นเพื่อนเรียนพิเศษผมนี่หน่า เหมือนอัตโนมัติ ผมยิ้มออกมาโดยไม่รู้ตัว อยากลุกไปทักทาย แต่ดูเค้าจะรีบๆ

ทำไมเค้าถือเครื่องดื่มไปสองแก้วละ? มาคนเดียว แต่ซื้อสองแก้ว เค้ามากับใครละ? ลุกไปดูดีกว่า

“เราไปเข้าห้องน้ำนะ” ไบร์ทพยักหน้ารับทราบ ผมรีบลุกแล้ววิ่งตามไป แต่ผมหาไม่เจอซะแล้วซิ เพื่อนเรียนพิเศษผมหายไปไหน ไวจัง เดินไปทางไหนอะ ผมหันมองทีละมุม จนครบ 360 องศา แล้วก็ไม่เจอ

คงมากับเพื่อนมั่ง ช่างเถอะ แต่อยากรู้นะ ว่าอีกแก้วอะของใคร...ทำไมต้องคิดด้วย คงไม่กินจุคนเดียวสองแก้วหรอก ตอนนี้ไม่ใช่โปร 1 แถม 1 ด้วยเถอะ

บ้าจริง มีแต่เรื่องให้เราว้าวุ่นใจติดๆ กันเลย

**********

บทที่ 6 เจอกันวันศุกร์บ่ายๆ นะครับ ตอนนี้เขียนถึงบท 16 กลางๆ บท จะขึ้น 17 ละครับ


ขอบคุณสำหรับการติดตามนะครับ^^
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 03-03-2015 14:49:44 โดย zipboy »

ออฟไลน์ Mouse2U

  • บังเอิญ'โลกกลม'..
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3531
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +223/-10
ขอร้อง.งื้อ~  :hao5: แทนอย่าหวั่นไหวกับไบร์ทน้า. :mew4: ขอทำใจแป๊บ

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11
ต่างคนต่างจะมีแฟน แล้วจะมาร้กกันได้ไงอะ  :katai1: :katai1: :katai1:

ออฟไลน์ BlueCherries

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4060
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +159/-17
จะโอเคมากถ้าไบร์ทไม่ได้มาแกล้งหรือมาหลอกแทน ถ้ามาคบอย่างจริงใจก็ยกธงเชียร์ค่ะ (ถึงว่าบิ๊กจะเป็นตัวเอกนำอีกคน แต่ไม่ต้องคบกัน เป็นเพื่อนกับแทนก็ได้)

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด