Special เสพติดอันตราย...รักผู้ชายพันธุ์โหด
Merry X’ Mas
อากาศหนาวในช่วงสิ้นปีแบบนี้ ทำให้ทุกคนต้องใส่เสื้อกันหนาวย่างหนาแน่เพราะลมหนาวแรงกว่าทุกๆ ปี ร่างแกร่งนั่งทำงานอยู่ในห้องทำงานของตนอย่างเคร่งเครียด ต้องรีบแก้ไขในส่วนที่ฝ่ายต้อนรับทำงานพลาดอีกด้วย จากที่อารมณ์ดีแปรเปลี่ยนเป็นอารมณ์ไม่ดี ขนาดเลขาของตนยังเข้าหน้าไม่ติด จะรายงานหรือจะเอางานมาให้ก็ก้มหน้าก้มตากลัวจนตัวสั่น แต่มันยิ่งสร้างความรำคายใจให้ร่างสูงมากจนต้องไล่ออกไป
ใครๆ ก็เข้าหาพัฒน์ไม่ได้แล้วตอนนี้
“อะไรก็ไม่ได้ดั่งใจ ต้องให้ผมลงไปทำเองไหมครับ!!” ถามปลายสายเสียงแข็งจนปลายสายละล่ำละลักตอบกลับมาแบบกลัวๆ
“ขอโทษหรือ? คุณเอาเวลาที่มานั่งรู้สึกผิดไปแก้ไขงานให้เรียบร้อยก่อนส่งลูกค้าดีกว่าไหม!!” ยังคงตำหนิหัวหน้างานที่ควบคุมการผลิตรถส่งลูกค้าต่อด้วยความไม่พอใจ
พัฒน์เป็นคนพูดน้อย แต่เวลาตำหนิหรือว่าลูกน้องแล้ว เขาจะพูดยาวมากๆ แต่น้ำเสียงเต็มไปด้วยความน่ากลัวและทำให้คนฟังแทบตายกับน้ำเสียงได้เลย สีหน้าและสายตาก็เช่นกัน
“อย่าให้ผมต้องลงไปจัดการเอง ภายในวันนี้ ส่วนที่พลาดต้องแก้ไขแล้วนำส่งลูกค้าในวันพรุ่งนี้ให้ทัน แล้วมีอะไรให้รายงานผมตลอด ไม่ใช่นิ่งเงียบ”
เมื่อวางสายไปก็หันมาอ่านเอกสารต่อ ความเครียด ความไม่ได้ดั่งใจเริ่มตีขึ้นไปที่สมองให้เกิดอาการปวดออกมา จนต้องเอามือบีบขมับตัวเองเพื่อเป็นการบรรเทา
“ครับคุณดิน” รับโทรศัพท์ที่ผู้เป็นนายโทรมาหา
(จัดการเรียบร้อยยัง)
“ใกล้จะเสร็จแล้วครับ ขอเวลาอีกประมาณชั่วโมงครึ่งครับ” พัฒน์พลางมองนาฬิกาที่ข้อมือไปด้วย
(อืม...เอาให้เร็วที่สุดก็แล้วกัน)
“ครับ”
ตอนนี้ก็เที่ยงกว่าๆ แล้ว ธีร์จะทานข้าวหรือยัง ด้วยความเคยชินต่อให้งานยุ่งแค่ไหนพัฒน์ก็ต้องปลีกเวลาโทรหาคนรักแม้จะคุยได้สองสามนาทีก็ตาม
(ว่า! ตอนนี้งานกูยุ่งมากเลย มีอะไรก็รีบพูด) พัฒน์ยกยิ้มน้อยๆ แม้ว่าเสียงปลายสายจะเครียดมากไม่แพ้ตนเมื่อครู่เลย นี่เองสินะฤทธิ์ของความรัก
ต่อให้เหนื่อย ให้เครียดแค่ไหน เสียงของคนรักก็คือน้ำดับไฟ
“กินข้าวยัง”
(กินแล้ว)
“โกหก”
(อ่ะ เอ่อ เออๆ เดี๋ยวไปกิน พอใจยัง)
“อือ”
(แค่นี้นะ ทำงานก่อน) ธีร์วางสายโดยที่ไม่รอให้เขาพูดอะไรอีก ก่อนที่เขาจะส่ายหน้าไปมาแล้ววางโทรศัพท์ไว้ข้างๆ กองหนังสือที่เอามาอ้างอิงงาน
สักพักเลขาก็เอาอาหารที่ได้รับคำสั่งจากธีร์ให้มาเสิร์ฟทุกวันโดยเจ้าตัวลิสต์รายการอาหารในแต่ละวันให้เรียบร้อย พอมองเห็นอาหารแล้วก็อดยิ้มออกมาไม่ได้ เลขาสาวเห็นแบบนั้นก็ถอนหายใจอย่างโล่งอกแล้วขอตัวออกจากห้องไปทำงานต่อ พัฒน์วางทุกอย่างแล้วทานอาหารราวกับว่ามีเวลาเหลือเฟือทั้งๆ ที่เจ้านายอย่างปฐพีเพิ่งจะโทรมาเร่งงานเมื่อกี้
ทุกอย่างเขาสามารถเพิกเฉยได้ทั้งหมด แต่ความเป็นห่วงเป็นใยของธีร์ เขาเพิกเฉยหรือเมินมันไม่ได้จริงๆ ต่อให้ธีร์จะไม่รู้ว่าเขาทานจริงหรือเปล่า เขาก็อยากจะซื่อสัตย์ต่อความเชื่อใจที่ธีร์มีให้
วันนี้วันที่ 25 ธันวาคม หลายๆ คน รู้จักกันในวันศริสมาสต์ แต่สำหรับพัฒน์ วันนี้มันเป็นอะไรที่มากกว่านั้น วันนี้ในปีที่แล้วเป็นวันที่เขาบอกรักธีร์เป็นครั้งแรกและครั้งเดียว ซึ่งเป็นวันที่เขาพาธีร์ไปบ้าน นั่นก็หมายความว่า เขาต้องการจะจริงจังและให้ธีร์เป็นคนที่อยู่เคียงข้างตลอดไป
เพราะฉะนั้น พัฒน์จึงยึดวันนี้เป็นวันครบรอบของพวกเขา...
1 ปีที่รักกัน 2 ปีที่รู้จักกัน มันผ่านอะไรมาเยอะมากจริงๆ ในทุกๆ วันที่อยู่ด้วยกัน ความโดดเดี่ยวที่ใครบางคนต้องไปทำงานต่างจังหวัดต่างประเทศ แต่เพราะความเชื่อใจกัน และความมั่นคงของพวกเขา เลยผ่านกันมาจนถึงวันนี้ได้
พัฒน์อยากจะให้วันนี้เป็นวันบอกรักธีร์เป็นครั้งที่สอง ตอกย้ำความรักที่มีให้ที่นอกจากการกระทำที่ผ่าน เขารู้ว่าธีร์เริ่มจะไม่มั่นใจเพราะเราไม่เคยพูดจาดีๆ กันบ่อย แต่ใช่ว่าจะไม่มี เขามันพวกปากหนัก พูดหวานทีไรต้องจบที่เตียงทุกทีเหตุผลเพราะว่าเขินไง
เขาเป็นผู้ชายธรรมดา แม้คนอื่นจะว่าเป็นคนตายด้าน ยิ้มไม่เป็น ไร้หัวใจ แต่เอาเข้าจริงๆ เขาก็มีความรู้สึก เขิน อายเป็น เพียงแต่ว่ามันเป็นแค่กับธีร์คนเดียวเท่านั้น
ฉะนั้นแล้ว เขาอยากจะให้วันนี้เป็นวันที่ธีร์ประทับใจที่สุด
“อืม...จัดการให้เรียบร้อย”
พัฒน์บอกปลายสายไปเมื่อมีโทรศัพท์โทรเข้ามารายงานอะไรบางอย่าง ก่อนจะวางแล้วอมยิ้มทำงานต่อไป พรุ่งนี้เป็นวันหยุด ที่เหนื่อยมาตลอดทั้ง 2 อาทิตย์ พวกเขาก็ควรจะได้พักผ่อนเสียที และจะปิดยาวในช่วงวันที่ 27 ธันวาคมถึง 5 มกราคมอีกที แต่เพราะที่พวกเขาสองคนเร่งทำงานเคลียร์งานนั่นนี่ก็เพื่อจะหยุดในวันพรุ่งนี้ด้วย
ธีร์ไม่รู้หรอกว่า...พัฒน์เตรียมอะไรไว้ให้
...
...
...
“เฮ้อ...ในที่สุดก็จะได้กลับไปอาบน้ำนอนเสียที ว่าแต่วันนี้วันคริสมาสต์นี่ เหมือนจะมีอะไรพิเศษๆ ในวันนี้แฮะ แต่ช่างเถอะ คิดไม่ออกเปล่าๆ” ธีร์ส่ายหน้าแรงๆ เพื่อสลัดความคิดของตัวเองออกไป มือล้วงหากุญแจรถ
“อื้อ” ในในจังหวะที่จะปลดล็อกรถ ก็มีมือปริศนามาปิดปากเขาเอาไว้ ทำราวกับว่ากำลังจะลักพาตัวเขา ร่างทั้งร่างสะดุ้งด้วยความตกใจ แต่พอจะกระทุ้งศอกขัดขืน กลิ่นที่คุ้นเคยก็ทำให้ธีร์หยุดและยืนกอดอกยิ้มๆ
เล่นบ้าบออะไร คนยิ่งขี้ตกใจด้วยช่วงนี้
“อ่อย” ธีร์สั่งเสียงอู้อี้
“หึหึ” พัฒน์ค่อยๆ เอามืออกจากปากของธีร์
“มาทำไมเนี่ย” หันมาถามอย่างเอาเรื่อง
“ก็มารับ”
“มารับ? รับทำไมครับคุณพัฒน์ ผมก็มารถของตัวเองเนี่ย” เอ่ยด้วยวาจาประชดประชันแล้ว แต่พัฒน์ไม่ตอบโต้อะไรอีกนอกจากยิ้มมุมปากนิดๆ ดึงแขนธีร์ให้เดินตาม
“จะไปไหน รถกูอยู่นี่” ธีร์พยายามยื้อแขนตัวเองไว้ แล้วคนตัวเล็กกว่าจะสู้แรงคนที่ตัวใหญ่กว่าได้ยังไง เลยล้มเลิกเดินตามคนรักเงียบๆ
มันพาเขาเข้ามาในตัวตึกที่เขาเพิ่งจะออกมาเมื่อกี้ ขึ้นลิฟต์ไปยังชั้นบนสุด ก่อนที่ขายาวของพัฒน์จะเดินนำไปที่บันไดพาไปที่ดาดฟ้า ธีร์ที่เดินตามก็ไม่พูดไม่ถาม ไม่บ่น รอดูว่าอีกคนจะทำอะไร
ฉลองคริสมาสต์บนดาดฟ้าหรือเปล่า แต่ก็ไม่ใช่อย่างที่คิดเพราะสิ่งตรงหน้า
“เครื่องบินเจ็ท?” ธีร์พึมพำชื่อเจ้าสิ่งที่เขากำลังเห็นอย่างตะลึง
“ไปเถอะ”
“ด่ะ เดี๋ยว จะไปไหน”
“วันหยุดยาวปีนี้กูจะพามึงไปเที่ยว”
“ที่ไหน”
“ตามมา ถึงแล้วก็รู้เอง” ก็ยังคงยืนยันแบบนี้ ธีร์เลยเดินตามขึ้นไปยังเครื่องบินส่วนตัวอย่างช่วยไม่ได้ มองความสุดยอดของมัน คิดในใจอย่างตื้นตัน
ตั้งแต่รู้จักมันมานอกจากเครื่องบินที่นั่งไปต่างประเทศหรือต่างจังหวัด กูก็มีโอกาสได้นั่งเฮลิคอปเตอร์แล้วก็เครื่องบินส่วนตัวอีกด้วย
บุญของกูจริงๆ ครับ
“ของใครอีกเนี่ย”
“พี่โรม”
“คุณโรมัน อะไรนั่นใช่มั้ย”
“อือ”
คงจะรวยอย่างที่ไอ้อินบอกจริงๆ นั่นแหละ เห็นแล้วก็อิจฉาพัฒน์ที่ได้รู้จักกับคนรวยๆ แบบนี้ แถมยังเป็นลูกนายพลอีก เคยเห็นหน้าจากหนังสือพิมพ์แล้ว หล่อเหี้ยๆ เลยครับ หล่อ สูงจนกูอิจฉา หล่อราวกับเทพบุตรจุติลงมาเกิด นี่แค่เห็นในรูปนะเนี่ย ถ้าตัวจริง คงไม่กล้าเข้าใกล้
“เสื้อผ้ากูล่ะ” ถามเมื่อนึกขึ้นได้
“เอามาแล้วน่า”
“ทำเป็นรำคาญ ไม่พูดแล้วก็ได้วะ” ธีร์สะบัดหน้าหนี มองดูท้องฟ้าที่มืดสนิทยามค่ำคืน พลางคิดไปด้วยว่าพัฒน์จะพาเขาไปไหน อาจจะพาไปกระบี่เหมือนเดิมก็ได้ เพราะคราวที่แล้วก็ไม่ได้เที่ยวเท่าไหร่ แต่คนอย่างพัฒน์ไม่น่าจะพาไปที่เดิมๆ หรอก
เดาเอาน่ะ…
เครื่องบินเจ็ทค่อยๆ ลงจอดที่ลานจอดแห่งหนึ่งที่ธีร์มองไปทางด้านซ้ายก็เจอกับบ้านพักหลังพอดีๆ ไม่ใหญ่เว่อร์เหมือนบ้านพักตากอากาศที่กระบี่ของโรมัน นี่มันลานจอดอยู่ด้านหลังของบ้านสินะ มองไปรอบๆ ก็เจอต้นมะพร้าว ทราย เลยไปเป็นทะเลตอนมืด
เป็นทะเล แต่ไม่ใช่ที่เดิม…เขาชอบทะเลจัง
“ที่นี่ที่ไหน”
“บ้านพักแถวทะเลแหวก” พัฒน์ตอบ
“จังหวัด?” มันคุ้นๆ จนต้องถามออกไป
“กระบี่”
“อ๋อ อยากมานานแล้ว แต่ไม่มีโอกาส คราวนี้จะเที่ยวให้หนำใจเลย ฮ่าๆ ทำดีมากเลยพัฒน์ เยี่ยมๆ” ยกนิ้วโป้งให้คนรักอย่างสุขใจ ความเครียดที่สั่งสมมาตลอดทั้งวันจางหายไปหมด
“ก็ปิดยาวนี่ กูไม่อยากทนฟังมึงด่าเหมือนปีที่แล้ว”
“เลยตัดสินใจพามาก่อนว่างั้น แล้วนี่จะอยู่กี่วัน”
“มึงอยากอยู่ถึงวันที่ 5 ไหมล่ะ” พัฒน์ถามนิ่งๆ
“จะบ้าหรือไง นานไปเว้ย” ธีร์ไม่เห็นด้วย
ในเที่ยวที่เดิมๆ ในวันหยุดยาวแบบนี้เนี่ยนะ ไม่ไหวป่ะ พัฒน์ก็หัวเราะออกมาเบาๆ เรื่องเที่ยวนี่ขอให้บอก ธีร์แลดูชอบเป็นพิเศษ ไม่ต้องกังวลหรอก พัฒน์มีแพลนเยอะ
ก็บอกแล้วว่าไม่อยากให้ธีร์ด่าเขาถ้าหากว่าเขาไม่มีแผนพาไปเที่ยวที่ไหนเลย ก็จัดให้นานๆ ครั้งเท่านั้นแหละ
“หึหึ วันที่ 30 ธันวาคม เราจะเดินทางไปบ้านพักของพวกกูที่ภูเรือ เป็นบ้านพักตากอากาศที่กูกับไอ้พุฒิสร้างขึ้นเพื่อไปเที่ยวไปพัก พ่อกับแม่ชอบไปเที่ยวจังหวัดเลยบ่อยๆ อาจจะเป็นเพราะว่าเพื่อนท่านอยู่ที่นั่นเยอะล่ะมั้ง” พัฒน์เล่าให้ฟัง ซึ่งคนรักอย่างธีร์ก็รับฟังอย่างตั้งใจ เพิ่งจะรู้เหมือนกันว่าพัฒน์มีบ้านพักที่จังหวัดเลยด้วย
“อยากไปแล้วอ่า”
“เอาไว้เที่ยวที่นี่ก่อนแล้วค่อยไปหนาวที่นั่น”
“จริงด้วย ที่นั่นต้องหนาวมากแน่ๆ”
“ไม่ต้องห่วง” พัฒน์พึมพำเบาๆ จ้องใบหน้าใสของคนรักอย่างมีความหมาย ที่ร่างโปร่งเห็นแล้วต้องหลบสายตาหนี ก็เล่นจ้องอย่างกับจะกลืนกินแบบนี้
ใครจะไปสู้ไหว...
“ทำไม...”
“กูจะจุดไฟเผามึงให้” สิ้นคำตอบที่ทำเอาบรรยากาศหวานๆ หายไป ธีร์ก็เตะที่หน้าแข้งของพัฒน์แรงๆ สามสี่ทีให้หายหมั่นไส้
ปัก ปัก ปัก ปัก
“พอแล้วมั้ง ขาคนไม่ใช่ฟุตบอล” พัฒน์ยกขาดันขาของธีร์ที่ทำท่าจะเตะเข้ามาอีก จนธีร์เกือบล้ม แต่ดีที่ทรงตัวเอาไว้ได้
“ทำไมถึงเงียบจัง”
“ทะเลแถวบ้านพักพี่โรมเปิดให้เข้ามาเดินเล่น หรือขายของได้ตอน 8 โมงถึง 1 ทุ่ม ตอนนี้มันสามทุ่มกว่าแล้วนี่ เลยเงียบ” พัฒน์ตอบ แล้วพากันเดินตามคนของพัฒน์ที่เดินนำทั้งคู่ไปยังตัวบ้าน
“คนเลยเชื่องั้นหรือ เชื่อฟังดีแฮะ”
“คนของพี่โรมคอยไล่ตอนปิดน่ะ” สุดยอดของอำนาจที่แม้ว่าเจ้านายของพวกเขาไม่อาจจะสู้ได้ ก็แน่นอนล่ะ เขาเป็นถึงลูกของนายพล ทำธุรกิจนำเข้าอาวุธส่งกองทัพ
ใครได้คุณโรมันเป็นแฟนหรือสามี คงจะโชคร้ายในความโชคดีสินะ
“อ้อ!!” อย่างนี้นี่เอง
ทั้งสองคนเดินเข้ามาในบ้านจากประตูด้านหลัง เพราะด้านหน้าเป็นอีกฝั่งหนึ่ง พัฒน์เล่าให้คนรักฟังว่าด้านหน้าประตูหันเข้าหาทะเล มีสระว่ายน้ำที่เชื่อต่อไปยังทะเลด้วย พูดแค่นี้ธีร์ก็ตื่นเต้นจนไม่อยากหลับอย่านอนแล้วล่ะ
“สวัสดีครับคุณพัฒน์ ดีใจที่ได้เจอกันอีกครั้งนะครับ”
“ครับ นี่ธีร์นะครับ” พัฒน์แนะนำ ซึ่งผู้ดูแลบ้านหลังนี้ก็ทำความเคารพอย่างนอบน้อม
“สวัสดีครับ” ร่างโปร่งยกมือไหว้ ซึ่งคนอายุมากกว่าก็รับไหว้ยิ้มๆ
“สถานที่เรียบร้อยแล้วนะครับ” หันมารายงานพัฒน์ ซึ่งเขาก็พยักหน้ารับเบาๆ ก่อนจะหันมาพูดบอกคนข้างกาย
“ไปอาบน้ำเปลี่ยนชุดก่อน เดี๋ยวค่อยมาหาอะไรกิน”
“อือ”
ทั้งคู่ตรงไปยังห้องพักที่คนงานจัดไว้ให้ ห้องนอนห้องนี้อยู่ฝั่งทะเล เวลาเปิดม่านหรือเปิดประตูระเบียงก็จะเป็นทะเล น่าจะเป็นห้องท้ายๆ หน่อย เพราะเดินเลยห้องแรกๆ มาเยอะมาก
“ห้องออกจะมีตั้งเยอะ แล้วทำไมกูต้องนอนกับมึงตลอด” ธีร์บ่นพลางเดินไปหยิบผ้าเช็ดตัวที่ถูกเตรียมไว้ให้แล้ว เปิดตู้เสื้อผ้าก็ตกใจว่าชุดพวกนี้มันมาตอนไหน แสดงว่าพัฒน์วางแผนเอาไว้อีกแล้วล่ะสิท่า
เตรียมการเอาไว้ดีมาก
“ก็จะเปลืองทำไม ที่สำคัญ มันหนาวนะ”
“หึหึ กลัวอะไร มีฮีทเตอร์นี่”
“อยากให้พูด?”
“แล้วอะไรล่ะ บอกมาสิ”
“ถ้าไม่กอดมึง...” เว้นราวกับต้องการแกล้ง แต่ร่างโปร่งก็นิ่งตั้งใจฟังเป็นอย่างดี
“…”
“กูนอนไม่หลับ”
“ชิ!! น่าหมั่นไส้” ธีร์หนีเข้าห้องน้ำไปด้วยความเขินอายอย่างที่สุด วันนี้พัฒน์ทำตัวเลี่ยนๆ แปลกๆ จนธีร์นึกสงสัยว่าอะไรเข้าสิง
แต่ช่างเถอะ ไม่ว่าพัฒน์จะทำอะไร เขาก็รับได้และชอบทั้งนั้นแหละ
50%

เมื่อวานไม่ได้ลงเพราะเดี้ยงค่ะ ฮ่าๆ ยังไงก็เม้นท์ติชมได้ คิดถึงพัฒน์ธีร์ก็บอกกล่าวกัน พูดคุย สอบถาม ทวงนิยายได้ที่แฟนเพจของยูกิเลยค่ะ ^_^
https://www.facebook.com/sawachiyuki/