เสพติดอันตราย...รักผู้ชายพันธุ์โหด
ตอนที่ 29
ธีร์เพิ่งจะเคยนั่งเฮลิคอปเตอร์ส่วนตัวก็คราวนี้แหละ เป็นครั้งแรกในชีวิต เลยออกจะตื่นเต้นเล็กน้อย ที่สำคัญเขาได้นั่งนั่งลำใหญ่ที่สุดของลำนี้นั่งได้ประมาณ 3 คน ซึ่งมีเขาที่นั่งด้านข้างสุด พัฒน์นั่งตรงกลาง ข้างๆ ก็วางกระเป๋าสองใบ กับคนขับสองคนด้านหน้าที่เป็นคนของเพื่อนพุฒิส่งมาให้รับพัฒน์กับธีร์
“ทำอย่างกับไม่เคยนั่งเครื่องบิน” พัฒน์แขวะเบาๆ แน่ใจว่าอีกคนไม่ได้ยินหรอกเพราะเสียงมันดังมาก ต่างคนต่างใส่หูฟังที่ครอบหูกันทั้งคู่
ธีร์ไม่ได้สนใจพัฒน์เลยสักนิดมองวิวอย่างตื่นเต้น มองทะเลด้านล่างที่เห็นไกลๆ อย่างชอบใจ พัฒน์เองก็มองหน้าอีกคนยิ้มๆ เท่านั้น
อย่าคิดเรื่องสถานะให้วุ่นวายใจเลย แค่อยู่ด้วยกันแล้วสบายใจก็พอ...
ธีร์ที่ลงจากเฮลิคอปเตอร์เมื่อมันจอดที่ลานจอดของบ้านพักตากอากาศของเพื่อนสนิทพี่ชายของพัฒน์ ก็อ้าปากกว้างด้วยความตะลึง เห็นจากด้านบนมันดูเล็กๆ แต่พอเอาเข้าจริงๆ มันใหญ่มากๆ ทะเลใสสมกับเป็นน้ำทะเลของกระบี่มากๆ เห็นแล้วอยากจะวิ่งลงน้ำดับความร้อนจากอากาศ
“กูรู้ว่ามึงคิดอะไร นี่มันเย็นแล้ว เล่นน้ำไปมึงก็ไม่สบายเปล่าๆ” พัฒน์ปรามอย่างรู้ทัน
“แต่กว่ากูอยากเล่นนี่”
“มึงเข้าไปเขตบ้านพักก่อนที่นั่นมีสระว่ายน้ำ” พัฒน์บอก ก่อนจะจับเสื้อของอีกคนให้เดินตามแรงลากมา พอเข้าไปในเขตบ้านพัก
นั้นธีร์ก็ต้องตะลึงอีกครั้งเพราะมันใหญ่ สวย และน่าอยู่มาก เหมือนรีสอร์ทมากกว่าบ้านพักเสียอีก คนดูแลบ้านพักหลังนี้ก็เยอะ
มากๆ ทั้งแม่บ้าน คนสวน คนดูแล แม้แต่รปภ.ก็มี
บ้านคนธรรมดาแน่หรือวะเนี่ย
“สวัสดีค่ะคุณพัฒน์ คุณพุฒิรออยู่ด้านในค่ะ เชิญทานอาหารเย็นได้เลยนะคะ แม่บ้านตั้งโต๊ะรอแล้วค่ะ ส่วนห้องพักทางแม่บ้าน
ก็ได้จัดไว้ให้แล้วเช่นกัน อยู่ทางชั้นสองจะแปะป้ายว่า แขก 2 นะคะ ดิฉันเป็นหัวหน้าแม่บ้านชื่อแก้วค่ะ”
“ป้าครับ ไม่ต้องพิธีรีตองก็ได้ครับ ผมเกรงใจ” ธีร์เอ่ยออกไป
“ไม่ได้ค่ะ คุณๆ เป็นแขกของคุณโรมัน ซึ่งถือเป็นเจ้านายคนหนึ่ง” หญิงสูงวัยยังคงตอบแบบนี้
พัฒน์ที่เห็นว่าต่อให้ธีร์พูดต่อไปก็ป่วยการเปล่าๆ ก็จัดการลากร่างบางเข้าไปในตัวบ้าน ธีร์ที่เห็นความอลังการของตัวภายในก็อด
ไม่ได้ที่จะยกกล้องมือถือขึ้นถ่าย
ของพวกนี้มันช่างสวยและดูดีมากๆ
“ไปกินข้าว” พัฒน์ผลักศีรษะของธีร์ให้เข้าไปทางห้องครัว
ที่ร่างแกร่งรู้จักบ้านพักตาอากาศหลังนี้ดีก็เพราะว่าค่อนข้างที่จะสนิทกับโรมันเพื่อนสนิทของพุฒิเลยได้มาพักผ่อนที่นี่บ่อยมาก
“ไงธีร์ ไม่เจอกันนานคิดถึงจัง” เจดรมีวิ่งมากอดธีร์เบาๆ ทำท่าจะหอมแก้มของเขา แต่มือเขาก็ยันหน้าของเจโรมีเอาไว้ได้ทัน
“หยุดเลย”
“นิดเดียวเอง” เจโรมีมุ่ยหน้า
“เจ็ม มานั่งที่เดิม” พุฒิสั่งเสียงเข้ม มองหน้าธีร์ด้วยสายตาไม่เป็นมิตรอย่างรุนแรง ร่างโปร่งบางที่เห็นสายตาของพุฒิก็นึกสนุก
อยากจะแกล้ง
“เจ็ม นั่งกินข้าวด้วยกัน” ธีร์ควงแขนคนที่รูปร่างเท่าๆ กับตนไปนั่งอีกฝั่งหนึ่ง ให้เจโรมีนั่งฝั่งตรงข้ามกับพุฒิ ส่วนเขาก็นั่งข้างๆ
กับเจโรมี โดยมีพัฒน์มามานั่งฝั่งตรงข้ามกับเขา
พุฒิมองหนี้ธีร์ดุๆ ซึ่งทำให้ร่างโปร่งของธีร์คิดในใจอย่างขำๆ
สองพี่น้องตัว พ. นี่นิสัยเหมือนกันชะมัด ชอบปั้นหน้านิ่งๆ ดุๆ
“โอเคๆ ทานข้าวกันเถอะ หิวชะมัดเลย” เจโรมีทำลายความอึดอัดนี้ด้วยน้ำเสียงที่ร่าเริงเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ก่อนที่พวกเขา
ทั้งสี่คนจะลงมือทานอาหาร โดยมีแม่บ้านคอยดูแลและบริการอย่างดี
เมื่อทานข้าวเย็นกันเสร็จเรียบร้อยแล้ว พัฒน์กับธีร์ก็พากันเดินขึ้นไปดูห้องนอนโดยมีแม่บ้านคอยนำทางให้ ซึ่งเมื่อถึงห้องก็พบว่า
มีป้ายติดไว้จริงๆ
“ห้องของคุณทั้งสองค่ะ” เธอผายมือไปที่ห้อง
“ห้องเดียวหรือครับ” ธีร์ถาม เลิกคิ้วขึ้นนิดๆ
“ใช่ค่ะ ก็คุณพุฒิแจ้งมาแบบนี้ ดิฉันเลยเตรียมห้องเดียวตามคำสั่งค่ะ”
“พี่ชายมึง...” ธีร์กัดฟันพูดกับพัฒน์ ซึ่งคนตัวสูงก็ยักไหล่อย่างไม่ใส่ใจ
“ก็เรามาพักฟรี มึงก็ช่วยประหยัดหน่อยสิวะ” พัฒน์ให้เหตุผล
ที่จริงก็ไม่ใช่เหตุผลนี้เลยสักนิด เป็นพัฒน์เองนั่นแหละที่โทรให้พุฒิเตรียมห้องให้แค่ห้องเดียว
“ขอบคุณนะครับป้า เชิญป้าพักผ่อนได้” พัฒน์เอ่ยเรียบๆ กับหัวหน้าแม่บ้านไป ซึ่งเธอก็ยิ้มอย่างยินดีแล้วก็เดินจากไป ทิ้งให้ธีร์
ยืนนิ่งอย่างนั้น
“จะเข้าไม่เข้า ห้องนอนที่นี่สวยนะ” พัฒน์เอาเรื่องที่ธีร์ชอบเข้าล่อ
ร่างโปร่งยังคงนิ่ง แต่พัฒน์กลับเปิดประตูห้องเข้าไปก่อน ซึ่งธีร์ก็ก้าวตามไปติดๆ เห็นห้องนอนก็แทบจะตะโกนโห่ร้องด้วยความ
ดีใจ
มันสวยมาก สวยสุดๆ นี่เศรษฐีระดับไหนนะ ท่าทางจะพอๆ กับอภิหชัยบดินทร์หรือไม่ก็มากกว่า ถึงได้แต่งบ้านสไตล์ยุโรปทั้ง
หลังแบบนี้
“สุดๆ เลยว่ะ”
พัฒน์ยิ้มน้อยๆ เดินไปเลื่อนประตูระเบียงที่สามารถนอนดูดาวได้เพราะมีเตียงไม้ตั้งเอาไว้อยู่สองเตียง กับโต๊ะคั่นกลาง 1 ตัว
ถ้ามาฮันนีมูนนี่ถือว่าโรแมนติกมากๆ นอนดูดาวพร้อมกับจิบไวน์ไปด้วย
แต่มากับพัฒน์แบบนี้ก็รู้สึกดีไปอีกแบบ...
“มึงอยากจะนอนเลย หรือว่าจะไปเล่นกับไอ้เจ็ม” พัฒน์ถาม
“มึงถามอย่างกับกูเป็นเด็ก ใช้คำว่าเล่นเลยหรือวะ” เหวี่ยงกลับไป
“แล้วจะให้ใช้คำว่าอะไร”
“พูดหรือคุย แบบนี้ก็ได้”
“หึหึ ก็เหมือนกัน” พัฒน์ตอบหลังหัวเราะในลำคอเบาๆ
“เหมือนกัน? ถามจริงตอนเรียนตกภาษาไทยใช่ไหม ถึงไม่รู้ว่าพูดคุยกับเล่นมันคนละความหมายกัน” ธีร์ได้ทีก้ใส่เป็นชุด
“เอาที่มึงสบายใจ กูจะไปดื่มเหล้ากับไอ้พุฒิที่ริมสระไหว้น้ำ สนใจจะไปด้วยหรือเปล่า” พัฒน์ถาม
“เชิญมึงกับพี่ชายตามสบาย กูกับไอ้เจ็มจะเดินเล่นชมบรรยากาศทะเลยามค่ำ”
“ก็แล้วแต่ จะไปเล่นก็เปลี่ยนกลางเกงด้วยล่ะ” พัฒน์พูดสั่ง ตัวเองเข้าไปเปลี่ยนกางเกงให้นั่งสบาย ก่อนจะเดินออกจากห้องไป
ไม่วายสั่งธีร์เสียงเข้มอีกครั้ง
“ห้ามไปไหนไกลจากสายตากู เกาะส่วนตัวก็จริงแต่ใช่ว่าจะไม่มีอันตราย”
“เออออ” ธีร์ลากเสียงตอบหน่ายๆ
แกร็ก!
พัฒน์เปิดประตูออกไปก็เจอเข้ากับพุฒิและเจโรมีทันที พุฒิกับพัฒน์พากันออกไปก่อน ส่วนเจโรมีก็เดินเข้ามาหาธีร์ในห้อง
“เอาไง จะเดินเที่ยวหรือว่ายน้ำดับร้อน”
“นายจะยั่วพี่ไอ้พัฒน์ล่ะสิ” ธีร์แซวอย่างรู้ทัน
“บ้าหรือไง ระดับนี้ไม่ยั่วก็เสร็จ” เจโรมียักคิ้วอวดๆ
“มั่นใจจังนะ”
“แน่นอน แต่ฉันอยากว่ายน้ำว่ะธีร์ เชื่อหรือเปล่าว่ามาถึงตั้งแต่เมื่อวาน น้ำทะเลยังไม่ได้แต่ สระน้ำก็ไม่ได้ลง อะไรกันนักกันหนา”
เจโรมีบ่นอุบอิบ คิดว่ามีเพื่อนอย่างธีร์พุฒิต้องให้ลงแน่ๆ
อย่างน้อยที่สระว่ายน้ำก็ยังดี ไม่ต้องเป็นทะเลจริงก็ได้
“ว่ายน้ำก็ได้ เดี๋ยวขอหาชุดที่พอว่ายน้ำได้ก่อนนะ” ธีร์ตอบ ก่อนจะลุกขึ้นไปยืนหาเสื้อผ้าในตู้ที่แม่บ้านจัดการจัดจากกระเป๋าให้
แล้วเรียบร้อย
“นายไม่ได้เอาชุดว่ายน้ำมาหรือไง มาทะเลทั้งที”
“ก็ฉันให้ไอ้พัฒน์จัดกระเป๋าให้ ไม่รู้ว่ามันจะใส่มาหรือเปล่า” ธีร์ตอบ ตากับมือก็หาเสื้ออย่างตั้งใจ ไม่เห้นสีหน้าของเจดรมีเลยว่า
ตกใจมากแค่ไหนที่ได้ยินประโยคเมื่อกี้
“ว่ะ ว่าไงนะ คุณพัฒน์จัดให้”
“ก็ใช่ไง ทำไมหรือ”
“นี่รู้หรือเปล่า ว่าเรื่องแบบนี้คุณพัฒน์ไม่ทำเด็ดขาด ขนาดของตัวเองยังไม่อยากจะทำเลย นี่ทำให้นายด้วย สุดยอดเกินไปแล้ว”
“อะไร? ใครสุดยอด” ธีร์หันมาสบตาคนพูดอย่างเจดรมีน้อยๆ เมื่อเลือกเสื้อยืดสีขาวตัวเดียวที่มีนอกนั้นเป็นเสื้อที่ไว้ใส่ไปข้างนอก
กับคอปกเสียส่วนใหญ่ และกางเกงขาสั้นถึงเขาที่เขาชอบใส่ในห้อง
นี่แหละ ชุดว่ายน้ำของเขา
“ก็นายไง ทำเอาคุณพัฒน์ต้องมาฟังคำสั่งนายนี่ไม่ใช่เล่นๆ ฉันเองก็แปลกใจตั้งแต่นายเอาของไปจัดห้องแล้ว ไอ้เราก็คิดว่าจะ
ได้จัดงานศพในวันต่อมาแต่ก็เงียบ” เจโรมีพูดด้วยความแปลกใจ
เพราะทุกอย่างที่เคยเป็นพัฒน์ ทั้งบ้าอำนาจ ชอบดุ ชอบด่า ชอบว่า ทั้งใจดำ เลือดเย็น ไม่มีความเป็นสุภาพบุรุษ หรืออะไรที่เขา
รู้จักในตัวของพัฒน์ ธีร์ไม่เคยที่จะได้รับมันเลย
“ใครว่ามันไม่ว่าอะไร น่ากลัวฉิบหายเลยเจ้านายนายน่ะ แต่ฉันมีวิธีไง เลยรอด ฮุฮุ” ธีร์หัวเราะ แล้วเดินไปเปลี่ยนชุดในห้องน้ำ
ออกมาพร้อมเล่นน้ำเต็มที่
“นี่ขนาดน่ากลัวนะ”
“ฉันก็แค่มีข้อตกลงอะไรกันนิดหน่อย”
เจโรมีเองก็ไม่อยากจะสงสัยอะไรมาก เพราะยังไงก็รู้ๆ อยู่ว่าธีร์กับเจ้านายของเขาถึงขั้นไหนกันแล้ว ไม่ใช่ว่าไม่รู้ แต่ยิ่งกว่ารู้ต่าง
หาก
“เอาล่ะ ไปเล่นน้ำกันเถอะ”
ทั้งสองคนเดินยิ้มตลอดทางไปสระว่ายน้ำ ซึ่งเจโรมีเป็นคนนำ ทุกๆ อย่างที่เป็นที่นี่ถูกใจธีร์มาก จากที่ทำงานเหนื่อยมาทั้ง
อาทิตย์หายเหนื่อยเป็นปลิดทิ้ง ธีร์กับเจโรมีเดินไปถึงสระว่ายน้ำ ก็เจอพัฒน์กับพุฒินั่งดื่มเหล้าอยู่ข้างๆ สระเขานั่งบนเตียง
อาบแดดกันคนละตัว ตรงกลางเป็นโต๊ะวางเครื่องดื่มสองพี่น้องพูดคุยเรื่องงานกัน บ้างก็นอกเรื่อง และก็ดื่มกันเงียบๆ มองดูทั้งธีร์
และเจโรมีเดินเข้ามาหา
“จะเล่นน้ำหรือ” พุฒิถาม
แต่อย่าคืดว่าคนที่เขม่นเขาตั้งแต่แรกเห็นอย่างพุฒิจะถามธีร์ ถามเจโรมีต่างหาก เขาก็ได้แค่กอดอกมองทั้งคู่พูดกันเท่านั้น พัฒน์
ก็ดื่มเหล้าแบบไม่สนใจเขาเท่าไหร่
“ใช่แล้ว คุณพุฒิไม่ต้องห้ามเลยนะ”
“ก็ไม่ได้จะห้าม แต่อย่าเล่นนาน ถ้าฉันให้ขึ้นก็ต้องขึ้น”
“ครับ” เจโรมีรับคำ
ธีร์กับพัฒน์เผลอสบตากัน ร่างโปร่งยื่นมือขอดื่มแก้วที่อยู่ในมือ ซึ่งร่างแกร่งก็ยื่นให้แต่โดยดี มือขาวยกแก้วเหล้าขึ้นดื่มรวดเดียว
หมด แล้วส่งแก้วเปล่ากับก้อนน้ำแข็งคืนไป
“ชงเข้มว่ะ”
“ดื่มหมดแล้วเพิ่งจะรู้” พัฒน์พูดเบาๆ “ถ้าหนาวก็รีบขึ้น กูไม่อยากดูแลมึงตอนป่วย”
“ทำไม กูรับมือยากล่ะสิ ฮ่าๆ” ถามไปด้วยความอารมณ์ดี
“เออ...แม่งอย่างเด็ก”
“ชิ!! มึงก็อย่าเมาแล้วกัน”
“กูไม่เคยกินจนเมา” พัฒน์มั่นใจกับคำตอบมาก
“จะรอดู เฮอะ!! ไปเถอะเจ็ม ลงน้ำกันเว้ย!!” ธีร์หันไปชวนร่างโปร่งที่ยืนอยู่ข้างตน ซึ่งอีกคนก็ยิ้มอย่างดีใจ เดินไปที่ขอบสระ
เตรียมตัวหย่อนลงเบาๆ แต่ก็ถูกธีร์แกล้งด้วยการผลักลงไปเต็มแรง จนคนที่เป็นต้นเหตุยืนหัวเราะด้วยความสนุกที่แกล้งเจโรมีได้
เอาคืนที่เคยแกล้งเขาจนทำให้พัฒน์โมโห และเป็นเหตุให้เขาอยากโดนกระทืบจนต้องใส่เฝือกอ่อน
“แค่กๆ ธีร์ ทำบ้าอะไรวะ สระมันลึกนะเว้ย” เจโรมีที่โผล่จากน้ำได้ด่าพร้อมกับสำลักน้ำน้อยๆ
“ก็ตื่นเต้นดีออกนะ” ธีร์ตอบพลางค่อยๆ หย่อนตัวเองลงน้ำ พอลงไปได้ก็โดนเจโรมีว่ายน้ำมาประกบก่อนจะจับแขนของธีร์มาแล้ว
บังคับให้ว่ายตามมาอีกด้านหนึ่งของสระ
“ไปไหน”
“ว่ายน้ำแข่งกัน”
“มันไกลไปนะเว้ย” ธีร์ค้าน
“แบบนี้แหละมันส์ ใครแพ้จะต้องทำตามคนชนะนะ นับจำนวนครั้งที่ชนะได้เลย” เจโรมีเสนอ มีสีหน้าที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความหวัง
มาก
เจโรมีว่ายน้ำเก่งพอตัวเลยล่ะนะ ธีร์จะสู้ไหวหรือเปล่า
“ก็เอาสิ แต่ถ้านายแพ้ ห้ามเกี่ยง ห้ามเถียงว่าฉันจะให้ทำอะไรนะ” ธีร์กำชับกฎที่เจโรมีเสนออีกที
“แน่นอน ฉันไม่มีทางแพ้”
“เหมือนนายจะมั่นใจจังเลยนะเจ็ม” ธีร์ถามยิ้มๆ
“ฮ่าๆ เอาล่ะถึงแล้ว ขึ้นฝั่งก่อน แล้วค่อยกระโดดเหมือนนักกีฬาว่ายน้ำ”
ธีร์ขึ้นไปตามที่เจมีบอกทุกอย่าง ปั้นหน้านิ่งๆ เอาไว้ เจโรมีไม่รู้หรอกว่าธีร์กำลังแอบยิ้มอยู่ในใจอย่างนึกสนุกแค่ไหน
นายเสร็จฉันแน่เจ็ม
“ตั้งท่าสิวะธีร์”
“โอเคๆ” ธีร์รับคำก่อนจะโน้มตัวลงตามที่เจโรมีสั่ง ก่อนที่คนชวนเล่นจะนับหนึ่งถึงสามเพื่อเป็นสัญญาณการปล่อยตัว
“1 2 3!!”
ตุ้ม!!!
เจโรมีออกตัวเป็นคนแรก ธีร์ก็เว้นช่วงไว้ประมาณ 2 วินาทีแล้วค่อยกระโดลงไปตาม ก่อนจะว่ายน้ำไปเรื่อยๆ ด้วยความเร็วที่คน
เห็นก็อดตกใจไม่ได้ ร่างโปร่งของธีร์ค่อยๆ แซงเจโรมีที่ออกตัวก่อนด้วยความรวดเร็ว ก่อนจะเร่งสปีดไม่ให้อีกคนตามได้ ทิ้งระยะ
ห่างเป็นวา ไม่นานเขาก็มาถึงจุดที่พัฒน์กับพุฒินั่งดื่มเหล้าอยู่ เงยหน้าจากน้ำขึ้นหายใจ หอบน้อยๆ เพราะไม่ได้ว่ายน้ำมานาน
“หึ!” ธีร์หัวเราะในลำคอเมื่อยังไม่เห็นทีท่าว่าเจโรมีจะมาถึงเส้นชัย ไม่ถึง 1 นาทีเจโรมีก็เอามือแตะขอบสระได้สำเร็จ เงยหน้า
หายใจอย่างเหน็ดเหนื่อย มองหน้าธีร์อย่างไม่พอใจนิดๆ
“เมื่อกี้นายออกตัวก่อนใช่ไหม”
“อย่ามาแพ้แล้วพาลน่า ถามพวกมันดูสิว่าใครออกก่อนใคร” ธีร์โบ้ยไปฝั่งพัฒน์กับพุฒิที่นั่งดูการแข่งขันนี้อยู่
“คุณพุฒิ เมื่อกี้ใครออกตัวก่อนครับ” เจโรมีหันไปถามคนรักเบาๆ
“นายนั่นแหละเจ็ม” พุฒิตอบ ซึ่งทำเอาเจโรมีหน้าหงอไปเลย
“ฮ่าๆ ฉันลืมบอกนายไปว่ะเจ็ม ฉันเป็นนักกีฬาว่ายน้ำของมหาลัยฯ เหรียญทอง 2 ปีซ้อน และเป็นตัวแทนแข่งด้วย ฉันตอนนั้นแม้
จะเสเพล เรียนไม่เข้า แต่กีฬาไม่ขาดนะ ฮ่าๆ” ธีร์บอกไปอย่างอารมณ์ดี เขาปิดเรื่องที่เป็นนักกีฬาเอาไว้เพื่อพูดกับอีกคนตอนที่
ชนะแบบนี้แหละ สะใจกว่าเยอะ
“แล้วทำไมไม่บอกตั้งแต่แรกวะ” เจโรมีหงุดหงิด
“บอกก็ไม่มันส์ดิ”
“เอาเถอะๆ ฉันแพ้แล้ว จะให้ทำอะไรก็ว่ามา”
“ใจเย็นสิ ขอคิดก่อนไม่ได้หรือไง” ธีร์ทำท่านึกว่าจะให้เจโรมีทำอะไร มองหน้าพุฒิเล็กน้อยก็พบว่าอีกคนทำหน้าข่มขู่เขาอยู่ เป็น
นัยๆ ว่า ห้ามแกล้งเจโรมีเด็ดขาด
อ้อ!! นึกออกแล้วล่ะ
“ไปจูบกับพี่ชายไอ้พัฒน์”
“ห๊ะ!!!” อ้าปากกว้างด้วยความตกใจทันทีที่ได้ยินคำสั่งของธีร์ แต่เป็นคำตอบที่ทำให้พุฒิแอบยิ้มพอใจหน่อยๆ อย่างน้อยธีร์ก็ไม่
ได้เลวร้ายอะไร
“เร็วๆ สิ อ้อ!! ไม่ใช่แค่ปากประกบปากนะ ดูดดื่มด้วย คุณทำได้ใช่ไหม?” ประโยคหลังีร์หันมาถามพุฒิ ซึ่งร่างแกร่งที่สูงและตัว
ใหญ่กว่าพัฒน์ก็พยักหน้าน้อยๆ มองหน้าเจโรมีอย่างเจ้าเล่ห์
ธีร์ก็ไม่ได้ชอบที่จะเห็นเขาสวีทหรือจูบอะไรแบนี้หรอก แค่อยากจะแกล้งก็เท่านั้น
“อย่างอื่นได้ไหม” เจโรมีขอร้อง
“ไม่ได้ นายบอกเองนี่ว่าคนแพ้ต้องทำตามคนชนะ เพราะฉะนั้นอย่าเกี่ยง”
“แต่นี่มันมากเกินไป”
“เกินไปตรงไหน พี่ชายไอ้พัฒน์เป็นแฟนนายไม่ใช่หรือไง ฉันไม่ได้ให้จูบกับไอ้พัฒน์สักหน่อย” เจดรมีหน้าแดงอายเพราะคำพูด
ตรงๆ ของธีร์ ไม่กล้ามองพุฒิสักเท่าไหร่
“ต่ะ...แต่”
“ทำเลย ไม่อย่างนั้นฉันทำเองนะเว้ย” ธีร์แกล้งขู่ออกไป แต่เป็นคำขู่ที่ไปกระตุ้นอารมณืของพัฒน์เข้าเสียได้ คิ้วหยักของพัฒน์
กระตุกนิดๆ เมื่อได้ยินว่าธีร์จะจูบพี่ชายตน
“ย่ะ อย่านะ” รีบห้ามทันที พุฒิยกยิ้มอย่างชอบใจ หันไปยักคิ้วให้กับธีร์เล็กน้อย
เรื่องที่เขม่นกันนั้นก็หายกันเลยก็แล้วกัน เพราะธีร์เองก็ไม่ได้อยากจะแย่งเจโรมีไปจากเขาแน่ๆ ที่สำคัญ มันเป็นเมียของน้องชาย
เขาด้วยนี่
“ก็รีบทำ ถ้าไม่ทำฉันจะจูบพี่ชายไอ้พัฒน์จริงๆ ใช่ไหมวะ” ธีร์หันไปถามร่างแกร่งอย่างพุฒิเพื่อให้เจ้าตัวช่วยกระตุ้นเจโรมีอีกแรง
“อืม”
“คุณพุฒิ!!” เจโรมีเรียกชื่อคนรักเสียงแข็ง รีบยันตัวเองขึ้นไปบนสระทันที เพราะเหมือนว่าร่างแกร่งจะคล้อยตามธีร์ไปแล้ว
“หึหึ” ธีร์หัวเราะอย่างชอบใจ ก่อนจะแอบตกใจนิดๆ ที่เจโรมีเดินหยุดหน้าพุฒิแล้วก้มลงจูบไปเบาๆ บนริมฝีปากหนาของพุฒิ
ทั้งๆ ที่ตัวเองเป็นคนสั่งแท้ๆ แต่ทำไมถึงยังตกใจล่ะเนี่ย
ร่างโปร่งหันออกไม่มองฉากจูบของสองคนนั้น แหวกว่ายน้ำเล่นต่อราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น ส่วนพัฒน์ก็ส่ายหน้าไปมากับ เดิน
ตามร่างโปร่งที่ว่ายน้ำไปอีกฝั่งหนึ่งทันที ปล่อยให้สองคนนั้นโชว์สวีทจูบกันไป
“ไง สนุกเหรอที่แกล้งมันเล่นน่ะ” พัฒน์ถาม ยืนมองอีกคนที่แหวกว่ายอยู่ในสระ
“ก็สนุกดี”
“จะขึ้นได้หรือยัง”
“แต่กูเพิ่งจะลงเองนะ”
“เล่นนานเดี๋ยวก็ป่วย นี่ก็เกือบจะสามทุ่มแล้ว” พัฒน์ว่า
“แต่กูยังลงได้ไม่ถึง 20 นาทีเลยนะ” ธีร์เถียง
“พรุ่งนี้จะเที่ยวไหม”
“ไหนว่าทำงาน”
“ก็พรุ่งนี้เที่ยวก่อนไงวะ” พัฒน์เริ่มโมโห
“เที่ยวที่ไหน?”
“ไอ้ธีร์!! พูดมากอยู่นั่นแหละ ขึ้นมาได้แล้ว” พัฒน์สั่งเสียงเข้ม จนธีร์สะดุ้ง มองคนตัวโตก่อนจะว่ายหนีพัฒน์ เพราะร่างแกร่งไม่
ลงมาในน้ำแน่ๆ เลยว่ายหนีอีกคนไปตรงกลางสระที่ห่างจากพัฒน์มากๆ
“เรื่องอะไรที่กูจะต้องทำตามมึงวะ” ธีร์บ่นก่อนจะดำลงไปในน้ำ
พัฒน์ยืนกอดอกมองอีกคนอย่างโมโหที่ธีร์ไม่เชื่อฟังเขา และเห็นทีว่าเขาจะใจดีกับร่างโปร่งมากเกินไป ก็เลยได้ใจแบบนี้
“กูเตือนมึงแล้วนะ!!” พัฒน์ตะโกนเสียงกร้าว
“ไอ้พัฒน์ กูพาเมียไปนอนแล้วนะเว้ย” พุฒิที่อยู่อีกฟากตะโกนบอก ข้างกายมีเจโรมีที่ยืนก้มหน้าก้มตาอายๆ อยู่
“เออ! อย่านอนเสียงดังล่ะ” พัฒน์ตะโกนกลับไป ทำให้เจโรมีชี้เจ้านายตัวเองอย่างอายๆ แต่ก็โดนร่างแกร่งของพุฒิลากไปก่อน
ตอนนี้ก็เหลือแค่เขากับไอ้ดื้อที่ยังไม่โผล่จากน้ำสินะ
(มีต่อ)