เสพติดอันตราย...รักผู้ชายพันธุ์โหด
ตอนที่ 26
ระหว่างทางกลับคอนโด บรรยากาศภายในรถเต็มไปด้วยความเงียบ กดดัน และอะไรก็แล้วแต่ที่ทำให้ธีร์รู้สึกกลัวจนตัวสั่น ร่างโปร่งต้องทิ้งรถของตัวเองไว้ที่บริษัท เพราะพัฒน์ลากเขามาที่รถของตัวเอง แต่มันก็ทำให้รู้ว่าทำไมพัฒน์ถึงมาหาเขาที่บริษัทเร็ว
นั่นเป็นเพราะร่างสูงยังไม่ได้กลับคอนโด แต่ก็อยู่ที่ทำงานจนทุ่มถึงได้โทรหาเขาพอได้คำตอบก็เดินทางมาหาเขาทันที
“ไอ้พัฒน์...” ธีร์เรียกชื่อร่างสูง
“หุบปาก!”
“กูกับยัยนั่นไม่มีอะไรกันจริงๆ นะเว้ย ยัยนั่นแอบบขึ้นมาเอง แล้วอยู่ๆ ก็มาขึ้นบนตัวกู” ธีร์พยายามอธิบาย แม้เสียงจะสั่นแต่ก็ยัง
ใจสู้
“แล้วทำไมมึงไม่ผลักออก” ถามเสียงเหี้ยม
“กูผลักแล้ว”
“ก็ผลักแรงๆ สิวะ”
“นั่นผู้หญิงนะเว้ย!” ธีร์เถียงกลับไป
ถึงคำพูดเขาอาจจะมีดูถูกผู้หญิงบ้างหรือ ด่า ว่าผู้หญิงบ้าง แต่ก็ไม่คิดใช้แรงกับผู้หญิง เพราะถือว่าผู้หญิงเป็นเพศแม่ที่ควรให้
เกียรติ
“กูไม่เห็นสน”
“ก็มึงมันไม่มีหัวใจ” ธีร์ว่าไป
“ไม่มีหัวใจ...มึงว่าใคร” หันมาถามธีร์ด้วยความโกรธ
“ป่ะ เปล่า กูว่าตัวเอง”
“อย่ามาตอแหลไอ้ธีร์”
กูจะเอาตัวรอดจากสถานการณ์นี้ได้ยังไงกันนะ
“กูเปล่า”
“มึงรู้หรือเปล่ากูจะทำโทษมึงยังไง” พัฒน์ถาม
“ไม่รู้” ธีร์ตอบเสียงอ่อย
“งั้นกูจะบอกให้มึงรู้และเตรียมตัวไว้...” พัฒน์พูดบอกเสียงต่ำ ซึ่งทำเอาร่างบางถึงกับสั่นกลัว ใจตกไปอยู่ที่ตาตุ่มแล้ว
คงไม่รอดพ้นเรื่องอย่างว่า และครั้งนี้ก็ท่าทางจะรุนแรงมาก
“กูรู้แล้วว่ามึงจะทำอะไร” ธีร์บอก
เพราะการลงโทษของพัฒน์แต่ล่ะครั้ง ไม่เคยเป็นอย่างอื่นเลย
“งั้นก็เตรียมตัวเอาไว้ให้ดี”
ธีร์ต้องหาทางหนี ไม่ว่ายังไงก็หนี เขาไม่ได้ทำอะไรผิดเสียหน่อย
เอ๊ะ!! หรือว่าผิด เขายอมรับว่าถ้าพัฒน์มาช้ากว่านี้อีกหน่อย เขาคงเคลิ้มตาม แต่นี่มันยังไม่เกิดเสียหน่อย ทำไมต้องโมโหด้วยวะ
“กูไม่ผิดนะไอ้พัฒน์”
“แต่ถ้ากูไปไม่ทันมึงผิดเต็มๆ แต่ถึงทันมึงก็ผิด ที่กูให้มึงอ่านกฎบริษัทร้อยๆ ข้อนั่นไม่จำใส่กะโหลกเลยหรือไงวะ” ร่างโปร่งโดน
ร่างแกร่งตวาด
“ก็จำได้”
“งั้นก็ยอมรับมาว่ามึงผิด”
“กูผิด”
ยอมรับมันทั้งๆ ที่ไม่อยากยอมรับเท่าไหร่
“งั้นก็ยอมให้ทำโทษ”
“ยอม” ร่างบางตอบเสียงอ่อย
ตอนจอดรถค่อยหาทางหนีก็แล้วก่อน ด้วยสปีดของนักวิ่งของมหาลัยนี่แหละ
พัฒน์เฝ้าสังเกตท่าทางของธีร์ตลอดเวลา รับรู้ด้วยสัญชาตญาณว่าอีกคนกำลังคิดหนีอยู่เป็นแน่ และเขาก็คิดแผนเอาไว้แล้ว ไม่มี
ทางที่เขาจะปล่อยไปแน่ๆ
ต่อให้ไม่ต้องเอากฎของบริษัทมาอ้าง เขาก็โมโหมันอยู่ดี
มันกล้าดียังไงถึงให้คนอื่นต้องต้องตัว ยอมรับว่าหวงร่างกายของธีร์มาก ทั้งหวง ทั้งโมโห ทั้งโกรธ ความรู้สึกทุกอย่างที่รุมเร้าเขาอยู่ตอนนี้ทำให้เขาแทบบ้า
“มึงต้องรับผิดชอบ” พัฒน์คำรามเสียงต่ำ
อารมณ์ทุกอย่างตอนนี้กูจะลงที่มึงทั้งหมด...
รอรับสิ่งที่มึงปฏิเสธมาตลอดเวลาได้เลย...
...
...
...
เมื่อรถจอดที่จอดรถประจำของตนแล้ว ธีร์ก็จัดการเปิดประตูรถแล้วออกวิ่งทันทีไม่คิดชีวิต แต่ก็ไม่รู้ว่าจะวิ่งไปทางไหน หันกลับมาเพื่อมองว่าพัฒน์ตามมาหรือเปล่าก็ต้องตกใจเพราะคนที่เขากำลังหนี ดันยืนด้วยสีหน้านิ่งก่อนจะจับแขนลากเขาเข้าไปในลิฟต์ แล้วตรงขึ้นไปชั้นของตัวเองทันที
หนีไม่รอด และไม่มีทางรอด
“พัฒน์ อย่าทำอะไรกูเลยนะ” ธีร์ขอร้องอ้อนวอนระหว่างที่อีกคนกำลังใช้มือกดรหัสห้องอยู่
“ทำไมกูต้องทำตามที่มึงขอ”
“ก็เพราะว่ากูไม่ผิดไง”
“มึงผิด บนรถก็พูดเข้าใจกันดีแล้ว” พัฒน์เย็นชาใส่ แต่แววตาของร่างแกร่งเต็มไปด้วยไฟร้อนที่พร้อมจะแผดเผาเขาทุกเมื่อ
“ม่ะ...ไม่ อย่าทำกู กูขอร้อง”
“อย่ามาขอร้องคนอย่างกู เพราะถ้ากูพิพากษาแล้วก็ไม่มีวันยกเลิกโทษแน่” พูดเสียงทุ้มต่ำ เป็นน้ำเสียงที่ทำให้ร่างกายที่สั่น
สะท้านด้วยความกลัวของธีร์แข็งทื่อไป
ตึก!
“อ๊ะ เดี๋ยว...พัฒน์ อืม”
แผ่นหลังกระแทกเข้ากับประตูห้องทันทีที่เข้ามาได้สำเร็จ พัฒน์พยายามทั้งจูบทั้งถอดเสื้อของธีร์ออกไปอย่างใจร้อน ร่างโปร่ง
เองก็พยายามที่จะขัดขืน หากแต่ก็สู้แรงของพัฒน์ไม่ได้ ริมฝีปากโดนอีกคนจู่โจมอย่างรุนแรง ไม่มีทีท่าว่าจะเป็นอิสระ
“อ่ะ...อื้อ”
แควก!!
เสื้อโดนกระชากออกจนขาดหลุดลุ่ยหมด ร่างบางคิดในใจ เสื้อนี่คงต้องทิ้งลูกเดียว เพราะมันเอากลับมาใส่ใหม่ไม่ได้แน่ๆ เขาถูก
อีกคนทั้งจูบทั้งบีบไปตามตัวเขา พากเดินไปเรื่อยๆ จนถึงโซฟาตัวใหญ่ พัฒน์ก็ผลักอีกคนลงไปกับโซฟาตัวยาวก่อนที่ตัวเองจะ
ทาบทับตามลงไป
“อ๊ะ เจ็บ” ธีร์ร้องเมื่อพัฒน์ถอดกางเกงของเขาออกด้วยความรุนแรง เมื่อเสื้อผ้าออกจากตัวของธีร์หมดแล้วก็จัดการของตัวเอง
บ้าง พัฒน์มองคนที่นอนนิ่งหอบหายใจหนักหน่วงอย่างพอใจนิดๆ มองร่างขาวตั้งแต่คอยันขา
น่าทำให้เป็นรอยทั้งตัว จะได้รู้ว่า มึงเป็นของใคร
“อย่าทำให้เป็นรอยนะเว้ย” ธีร์ห้าม แต่ก็เป็นคำพูดที่ไม่มีน้ำหนักเท่าไหร่ ในเมื่อพัฒน์ไม่คิดจะฟังและทำตามเลยสักนิด
เพี๊ยะ!!
ร่างแกร่งตบเข้าที่ต้นขาขาวแรงๆ ก่อนจะบีบระบายความหมั่นเขี้ยวของตน ร่างสูงก้มลงบดจูบที่ร้อนแรงลงไปอีกครั้ง ซึ่งธีร์ที่รู้ว่า
ตัวเองไม่รอดแน่ก็ทำได้เพียงตอบสนองกลับไป
แม้จะเจ็บแต่ก็รู้สึกดี
“อึก...อืม” ครางออกมาแผ่วเบาเพราะเคลิ้มกับรสจูบของพัฒน์ ลิ้นร้อนของทั้งคู่เกาะเกี่ยวกันราวกับว่ามันเป็นเกมส์ที่ต้องมีคน
ชนะ พัฒน์ผละริมฝีปากออกจากริมฝีปากของธีร์แล้วซุกไซร้ลงมาที่ซอกคอก แผ่นอกอย่างรีบร้อน ทุกสัมผัสทั้งปากทั้งมือมัน
รุนแรงจนร่างบางรู้สึกเจ็บไปหมด
หากแต่อารมณ์ของทั้งสองก็ยิ่งประทุขึ้น พัฒน์ที่ต้องทนไม่ทำอะไรธีร์มาตั้งนานก็ถือว่ามีโอกาสปลดปล่อยเต็มที่ ส่วนธีร์ที่ได้รับ
สัมผัสจากพัฒน์ก็ยิ่งร้อนเร่าขึ้นไปอีก แม้จะเป็นการเล้าโลมที่รุนแรงและสร้างความเจ็บให้กับธีร์ แต่เขาก็ยอมรับเลยล่ะว่ามัน
กระตุ้นอารมณ์มากกว่า
“ย่ะ...อย่า อ้ะ”
ปลายนิ้วบดคลึ้งที่ยอดอกอ่อนนุ่ม ไล่จุบลงมาตั้งแต่แผ่นอกจนถึงหน้าท้องที่กล้ามเนื้อหายไปแล้ว้พราะขาดออกกำลังกายอย่าง
ต่อเนื่อง ร่างแกร่งจับขาเรียวแยกออกอย่าใจร้อน ขาข้างหนึ่งพาดบนพนักโซฟา มือหยาบก็ยกสะโพกกลมขึ้น ก่อนจะบีบเค้น
อย่างมันมือ แต่ก็อดไล้ปลายนิ้วไปกับช่องทางที่ปิดสนิทที่ขมิบรออะไรบางอย่าง
“อ๊ะ” ธีร์ร้องครางเสียงหลงผะแผ่วเมื่อปลายนิ้วแกร่งของพัฒน์สอดเข้าไปในร่างกายของธีร์ ร่างโปร่งหอบหายใจหนักหน่วง แผ่น
อกกระเพื่อมตามจังหวะการหายใจ หัวใจเต้นแรงด้วยความตื่นเต้น พัฒน์เพิ่มนิ้วเข้าไปเรื่อยๆ เน้นย้ำจุดที่ทำให้ธีร์ครางหวานออก
มาแล้วถอนนิ้วออก มือแกร่งขยับความเป็นชายที่เตรียมพร้อมเข้าสู่ความอ่อนนุ่ม
“ฮืม...” พัฒน์ครางเสียงต่ำเมื่อตนเริ่มสอดใส่เข้าไป ธีร์เม้มปากแน่นเพื่อไม่ให้เสียงของตนเล็ดลอดออกมา ใบหน้าคมเข้มของ
พัฒน์เงยขึ้นเล็กน้อยตามความรู้สึกเสียวซ่านที่แล่นปราดไปทั่วร่างกาย มือของธีร์วางไปตามแนวของโซฟาเพื่อหาที่จับ ก่อนจะ
ขยุ้มมันสุดแรงเมื่อความใหญ่โตของพัฒน์ค่อยๆ ดันเข้ามาลึกๆ ไออุ่นที่รัดเขาทำให้พัฒน์รู้สึกแทบบ้า อยากจะใส่อารมณ์มากกว่า
นี้ แต่ธีร์รัดมันแน่นเกินไป อาจจะทำให้ช่องทางของธีร์ฉีกขาดได้ถ้าเขาไม่รอให้ร่างโปร่งผ่อนคลายเสียก่อน เหงื่อมากมายผุดขึ้น
ตามตัวและใบหน้าของทั้งคู่ เพราะเข้าห้องมา พัฒน์ก็เข้านัวเนียไม่ทันได้เปิดแอร์ แต่ไฟจะเปิดอัตโนมัตเมื่อเปิดประตูเข้ามา
“อ๊า...อ้ะ” ธีร์ร้องครางเมื่อพัฒน์เริ่มขยับ ส่วนเขาเองก็เริ่มผ่อนคลายลง มือแกร่งของพัฒน์ตีเข้าที่สะโพกของเขาซ้ำๆ หลายที
จนรู้สึกชา พัฒน์หันหน้าใช้ฟันงับที่ขาของธีร์ที่พาดอยู่บนพนักโซฟา กัดมันแรงๆ หลายๆ ที่ที่สามารถกัดถึง ปลายลิ้นร้อนไล้เลีย
ตรงรอยกัดที่เขาทำไว้ ก่อนที่มือแกร่งจะจับต้นขาขาวให้แยกไปอีก ออกแรงดึงร่างบางเข้าแนบกลายส่วนเขาก็เสียดสีรุนแรงใส่
ร่างโปร่งถึงกับอ้าปากครางด้วยความเสียวซ่าน ซึ่งเสียงของธีร์ก็เป็นสัญญาณให้เร่งเครื่องเร็วและแรงขึ้นอีก
โซฟาหรูที่คิดว่าแข็งแรงกลับเคลื่อนนิดๆ เมื่อพัฒน์ใส่แรงเต็มที่ ธีร์เองก็ตอดรัดตามจังหวะสวนกายเข้าออกของพัฒน์ตาม
ธรรมชาติและความเคยชิน
“อืม...ดีมาก” พัฒน์ชมอีกคนพร้อมกับครางออกมาเล็กน้อย
“อ๊า...แรงๆ อ้ะ แรงอีก” ธีร์สั่งอีกคนด้วยน้ำเสี่ยงที่สั่นและแหบพร่าด้วยอารมณ์แห่งราคะที่เขาและร่างแกร่งต่างกับมัวเมากับมัน
เต็มที่
ธีร์ไม่คิดว่ามันจะเป็นบทลงโทษด้วยซ้ำ เพราะไม่มีใครมีความสุขกับบทลงโทษอย่างเขาแน่ๆ
พัฒน์สวนกายแรงและถี่รัว ธีร์เองก็เงยหน้าขึ้นร้องครางเสียงแผ่ว ในจังหวะที่ทั้งห้องและร่างกายทั้งคู่ร้อนผ่าวจนแทบจะระเบิด
พัฒน์ก็จับแขนอีกคนให้ลุกขึ้นนั่งบนแก่นกายที่ยังคงแช่อยู่ในร่างของธีร์ พัฒน์หันหลังให้พนักโซฟาแล้วพิงมันอย่างเหน็ดเหนื่อย
ธีร์ที่กำลังจะถึงจุดสูงสุดรู้สึกถึงความไม่ได้ดั่งใจ เช่นนั้นร่างโปร่งจึงประกบจูบลงที่ริมฝีปากหนาอย่างรุนแรงบ้าง ทั้งคู่ยังคงไม่
ขยับร่างกายให้มันยังคงแช่อยู่แบบนั้นจนธีร์รู้สึกไม่พอใจ กัดปากล่างของพัฒน์เพื่อนกระตุ้น ซึ่งก็ได้รับการตอบรับเป็นการสวน
กายขึ้นหนึ่งครั้ง แต่ก็ทำเอาธีร์ถึงกับครางพอใจ
พัฒน์ไล่จูบที่ซอกคออีกครั้งครั้งนี้ทั้งกัดทั้งทำรอยคิสมาร์ค ไล่ลงมาที่แผ่นอกขาว ร่างธีร์ก็เป็นฝ่ายขยับตัวขึ้นลงแทน พัฒน์ยก
ยิ้มอย่างพอใจ มือแกร่งก็จัดการจูบไล้ไปทั่วแผ่นหลังขาวก่อนจะลงมาบีบเค้นสะโพกกลมตึงเป็นการหยอกล้อ ร่างสองร่างเร่ง
เครื่องอีกครั้ง คราวนี้ทั้งแรงและลึกกว่าเมื่อกี้เป็นไหน ทำเอาธีร์ร้องครางอย่างซาบซ่านทุกจังหวะการเข้าออก ส่วนพัฒน์ก็ได้แต่
ครางเบาๆ กับการสัมผัสไปทั่วกายด้วยริมฝีปากร้อน มือของธีร์ไม่รู้จะวางไว้ตรงไหนก็วางเข้าที่ไหล่แกร่งของพัฒน์ แล้วลุกนั่งๆ
แรงๆ อย่างที่ตัวเองต้องการ
“อ๊า..ร่ะ แรง อ้ะ พ่ะ พัฒน์” ธีร์ร้องขออีกคนอีก มือแกร่งเปลี่ยนจากลูบไล้มาจับกายของธีร์กดขึ้นและยกลงอย่างเร็ว เพราะตัวเอง
ก็อยากจะปลดปล่อยเต็มที
พัฒน์ยกร่างของธีร์ขึ้นจนกายที่พองโตของตนหลุดออกจากความอ่อนนุ่มของธีร์ ก่อนจะกดร่างเล็กกว่าเข้าหาแก่นกายของตน
อย่างแรงและลึกเป็นครั้งสุดท้าย
“อ๊า...” ธีร์เงยหน้าครางอออกมาเมื่อน้ำรักร้อนผ่าวถูกปลดปล่อยเข้าที่ช่องทางอ่อนนุ่มของตน ส่วนของตนก็พุ่งไปที่หน้าท้อง
แกร่งของพัฒน์ ร่างกายแกร่งกระตุกเกร็งจนเห็นเส้นเลือดของความแข็งแรง ธีร์ที่เห็นมันอย่างลางๆ ก็ได้มองด้วยความหลงใหล
ร่างกายที่สมชายของพัฒน์กระตุ้นความอารมณ์ดิบของเขาอีกครั้ง ซึ่งความเย้ายวนของธีร์ที่ถูกสวมกอดก็ทำให้พัฒน์เกิดความ
ร้อนขึ้นมาอีก
และแน่นอนว่าคืนนี้ ไม่หยุดอยู่ที่ครั้งหรือสองครั้งแน่ๆ
“อึก” ธีร์ซบหน้าลงที่บ่าแกร่ง ลมหายใจของทั้งคู่ดังหอบแข่งกัน ก่อนที่ร่างกายขาวบางจะถูกโอบอุ้มด้วยคนที่แกร่งกว่าอย่าง
พัฒน์ที่ยังมีพลังเหลือล้น
เป้าหมายต่อไปที่ร่างสูงจะพาไปก็คือห้องนอน พัฒน์อุ้มอีกคนเข้าไปวางบนเตียงแล้วเปิดแอร์เย็นๆ เอาไว้ ธีร์ที่ยังคงเหนื่อยก็ไม่
ค่อยมีแรงจะทำอะไรซึ่งก็ได้แต่นอนเฉยๆ ส่วนคนตัวใหญ่ก็หายเข้าไปที่ห้องแต่งตัวแล้วกลับมาพร้อมกับเนคไทสองเส้น ธีร์มอง
ด้วยสายตาหวาดหวั่น แต่หัวใจก็เร่งเร้าอย่างจะรู้
“ม่ะ มึงจะทำอะไร” ธีร์ถามอย่างกลัวๆ
“เมื่อกี้ไม่ใช่การลงโทษ” พัฒน์บอกด้วยรอยยิ้มที่มุมปาก ทำเอาธีร์ถึงกับขนลุกชัน
ทั้งกัด ทั้งบีบ ทั้งตี นี่ยังไม่ลงโทษอีกหรือไง แล้วไอ้เนคไทพวกนั้น ดูยังไงก็ไม่น่าไว้ใจเลยสักนิด
“ม่ะ หมายความว่ายังไง”
“จากนี้ต่างหากล่ะ”
พัฒน์ตรงเข้ารวบแขนธีร์ไว้เนื้อหัวแล้วจับมัดเอาไว้ เนคไทอีกเส้นก็ปิดตาของร่างโปร่งเอาไว้ จนธีร์มองไม่เห็นอะไรเลย ทำหัวใจ
ดวงน้อยเต้นแรงด้วยความตื่นเต้นเข้าไปอีก
ใจหนึ่งก็กลัว ใจหนึ่งก็อยากรู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น เคยได้ยินมานักต่อนักแล้วว่าการปิดตามีอะไรกันจะทำให้คนโดนปิดรู้สึกมากยิ่ง
กว่านี้อีก
“แล้วมึงจะรู้ว่า การลงโทษแบบนี้...มึงจะชอบมากเป็นพิเศษ”
สิ้นเสียงของพัฒน์ ร่างสูงก็จัดการสอดใส่อารมณ์ของตัวเองเข้าไปอีกครั้ง ทั้งรุนแรง เร่าร้อน รัวเร็ว จนแทบหายใจไม่ทัน ต่าง
ฝ่ายต่างมอบสัมผัสให้แก่กันและกันไม่มีหยุดหย่อน ความต้องการทางกายยิ่งปลดปล่อยก็ยิ่งทวีความเร่าร้อน พร้อมกับเสียงคราง
ของทั้งคู่ที่ดังระงมทั่วห้องอยู่ตลอดทั้งคืน....
...
...
...
“คุณดินครับ วันนี้ผมขอเข้าบ่ายนะครับ” พัฒน์ที่ตื่นก่อนหลังจากได้นอนเพียงแค่ 4 ชั่วโมงเท่านั้นจากกิจกรรมการลงโทษธีร์
ตั้งแต่คืนเมื่อวานจนถึงเช้าวันใหม่ เขาก็รีบลุกขึ้นมาโทรศัพท์ขอเข้างานสายกับเจ้านายรวมทั้งใจดีโทรไปหาอัคนีให้กับธีร์ด้วย
เพราะอีกคนที่กำลังนอนค่ำโดยมีแค่ผ้าห่มห่มแค่ท่อนล่างนั้นไม่อาจจะตื่นง่ายๆ เพราะเสียพลังไปมาก และนอนได้แค่ 4 ชั่วโมง
“คุณเพลิงครับ ตอนนี้ไอ้ธีร์มันไม่ค่อยสบายนิดหน่อย ไม่ทราบว่ามันมีงานด่วนหรือเปล่า”
(ไม่มีนะ เพราะงานด่วนของอาทิตย์นี้ฉันให้มันทำเสร็จหมดแล้ว มีอะไรหรือเปล่า) อัคนีถามกลับ
“มันเหมือนจะอ่อนเพลียน่ะครับ”
(ป่วยอีกแล้วหรือวะ) ถามด้วยน้ำเสียงที่เป็นห่วง
“ครับ”
(ไปทำอีท่าไหนให้มันป่วย)
หลายท่าเลยล่ะ แต่ใครจะไปตอบแบบนั้นกันล่ะ
“มันคงทำงานหนักน่ะครับ เมื่อวานก็เห็นบ่นๆ ว่าปวดหัว” พัฒน์พูดออกไป
(ถ้ามาทำงานไหวก็มา เพราะมันต้องเตรียมงานไปต่างจังหวัดอาทิตย์หน้าด้วย แต่ถ้าไม่ไหว พรุ่งนี้ก็ค่อยมาก็แล้วกัน ฉันจะให้
คุณเอมเขาจัดการงานรอให้)
“ครับ”
(ดูแลมันดีๆ ด้วย ตั้งแต่ไอ้ธีร์มันรู้จักกับแกนี่มีแต่เรื่อง ทั้งเจ็บตัว ทั้งป่วย เฮ้อ) บ่นเสร็จอัคนีก็วางสายไปทันที พัฒน์ได้ยินแบบนั้น
ก็ยกยิ้มนิดๆ
“มึงก็เคยพูดนี่ว่ากูเป็นตัวอันตราย” พัฒน์พึมพำก่อนจะแทรกตัวลงนอนข้างๆ กับธีร์ มองแผ่นหลังขาวที่เต็มไปด้วยรอยกัดและ
รอยจูบของเขาเต็มไปหมดอย่างพอใจกับศิลปะนี้
“แต่ตัวอันตรายอย่างกูนี่แหละ ที่จะทำให้มึงเสพติดจนไปไหนไม่ได้” พัฒน์พูดบอกอีกคนไปเบาๆ ก่อนจะปิดตานอนหลับไปด้วย
ความเหนื่อย
จนกว่ากูจะอนุญาต...
มึงไม่มีสิทธิไปจากกู!!!
สุดท้าย...ธีร์ก็ไปทำงานในตอนบ่ายไม่ได้ เพราะเจ็บสะโพกเกินกว่าจะเดินในเวลานานๆ ได้ พัฒน์เองก็ต้องลางานไปโดยปริยาย
เหตุผลเพราะไม่อยากจะให้ธีร์อยู่คนเดียว
“มึงมันแย่” ธีร์ด่าอีกคนหลังจากเห็นรอยตามตัวของตัวเอง
“ปากดี”
“มึงอยู่เงียบๆ ไปเลยไอ้พัฒน์ ไอ้คนเอาแต่ใจตัวเอง”
“เออๆ มึงก็กินๆ ไปซะข้าวนี่นะ” พัฒน์บอกให้ธีร์ทานข้าวเสียที
“แล้วมึงล่ะ”
“กูก็จะกินนี่ไง”
“เออ” ธีร์ลงมือทานอาหารตรงหน้าทันด้วยความหิว พัฒน์เองก้มองหน้าขาวเล็กน้อยก่อนจะลงมือทานข้าวเช่นเดียวกัน
พัฒน์ตื่นอีกทีก็พบว่าเที่ยงกว่าๆ แล้วเพราะฉะนั้นก็ไปทำงานไม่ทันเลยตัดสินใจลาไป 1 วันเต็มๆ ส่วนธีร์เองยังคงนอนหลับไม่
ได้สติอยู่บนเตียงเหมือนเดิม เห็นแบบนั้นพัฒน์ก็ลุกขึ้นอาบน้ำแต่งตัว แล้วจัดการหาอาหารเช้าที่จะทานในรอบบ่ายโมงทันที
เพราะกลัวว่าธีร์จะโมโหหิวถ้าตื่นขึ้นมา
และก็เป็นไปตามคาด ธีร์โมโหจริงๆ แต่ไม่ใช่โมโหหิว
“ล้างจานด้วย” ธีร์สั่งแล้วลุกจากโต๊ะ แล้วเดินอย่างทุกลักทุเลไปที่โซฟานุ่มที่มีอะไรกันครั้งแรกของเมื่อคืน ร่างโปร่งไปเห็นก็พบ
ว่ายังมีคราบต่างๆ อยู่เลยตัดใจไม่นั่ง ตรงดิ่งไปที่ห้องนอนทันที
กลัวความทรงจำมันโผล่เข้ามาทำให้หัวใจเขาเต้นไม่เป็นส่ำอีก
แต่เตียงนี่ก็เหมือนกัน ความทรงจำเร่าร้อนของเมื่อคืนกลับเข้ามาในหัวอีกครั้ง ยิ่งตอนที่มัดมือปิดตานั่นอีก มันช่างทรมานจริงๆ
แต่ก็เสียวซ่านสุดๆ เช่นกัน
“โอ๊ย!!! จะไปคิดถึงมันทำไมวะ” ธีร์ส่ายศีรษะไปมาเพื่อสลัดความคิดออกไป
แต่นี่เราก็มีอะไรกับมันไปแล้ว ก็กลับไปอยู่ห้องตัวเองได้แล้วสิ
“ใช่แล้ว...เราหมดสัญญากันแล้วนี่หว่า”
(มีต่อ)