เสพติดอันตราย...รักผู้ชายพันธุ์โหด
ตอนที่ 25
เวลาเดินไปอย่างรวดเร็ว จากเพียงทุ่มกว่าๆ ที่อรนภามาเยี่ยมคอนโดนของลูกก็เข้าสู่เวลาสี่ทุ่ม เธอไม่รู้เลยว่าตอนนี้มันดึกแล้ว มีแต่ธีร์ที่นั่งมองแม่ของตนกับพัฒน์คุยกัน
แม้ว่าแม่เขาจะพูดมากขนาดไหน พัฒน์ก็ยังคงตอบแบบสั้นๆ อยู่ดี
“แม่อยากกลับหรือยังครับ พ่อคงรอนานแล้ว” ธีร์ถามเมื่อเห็นว่าเวลามันเริ่มดึกแล้ว
“ตายจริง แม่ก็ไม่ได้บอกพ่อไว้ด้วย งั้นแม่กลับเลยดีกว่า”
“งั้นเดี๋ยวผมไปส่ง” ธีร์บอกพร้อมกับลุกขึ้น แต่คนเป็นแม่ก็ส่ายหน้าไปมา
“ไม่เป็นไร เดี๋ยวแม่ไปเอง”
“ได้ไงครับ ผมลงไปส่งน่ะดีแล้ว” ธีร์ไม่ยอม
“งั้นให้พี่พัฒน์ไปส่งแม่ ส่วนน้องธีร์ไปอาบน้ำได้แล้วไป”
ธีร์หันไปมองพัฒน์ ซึ่งร่างสูงก็พยักหน้าน้อยๆ เป็นคำตอบ
“ไปครับคุณแม่ ผมจะไปส่ง” พัฒน์บอก
“แม่ไปก่อนนะน้องธีร์”
“สวัสดีครับ เดี๋ยวผมจะโทรหานะครับ” ธีร์บอก ก่อนจะกอดแม่เบาๆ
“โอเคจ้า รักษาตัวด้วยนะลูก”
“แม่ก็ด้วยนะครับ”
“จ้ะ แม่รักน้องธีร์นะ” เธอบอกรักแล้วหอมแก้มของธีร์เบาๆ
“ผมก็รักแม่ครับ” ธีร์หอมกลับ
ธีร์กับแม่ล่ำลากันเสร็จแล้ว พัฒน์ก็ทำหน้าที่ไปส่งผู้สูงวัยที่เป็นแม่ของธีร์ที่ด้านล่าง พร้อมกับดูว่าคนขับรถของที่บ้านจะพาเธออก
ไปหรือยัง พัฒน์ถึงจะเดินกลับห้องของตัวเอง
พัฒน์กลับมาถึงห้องก็พบว่าธีร์อาบน้ำแต่งตัวเสร็จแล้ว อยู่ในชุดนอนพร้อมที่จะกระโดดขึ้นเตียงทุกเมื่อ ร่างโปร่งเมื่อเห็นว่าพัฒน์
เข้ามาในห้องแล้วก็เดินหนีเข้าห้องนอนไป ส่วนพัฒน์ก็มองตามยิ้มๆ ก่อนจะจัดการปิดไฟด้านนอกแล้วตามธีร์ไปด้านในห้องนอน
“มึงส่งจนรถแม่ของกูออกไปเลยไหม” ธีร์ถาม
“เออน่า” พัฒน์เดินมาเปิดไฟหัวเตียงไว้ แล้วเดินกลับมาปิดไฟดวงใหญ่ ก่อนจะไปนอนบนเตียงลงข้างๆ กับธีร์ ซึ่งร่างโปร่งก็ชิน
ที่จะนอนกับอีกคนไปแล้ว
นอกจากเพื่อนสนิทอย่างอินทัช ก็มีพัฒน์เป็นคนที่สองนั่นแหละที่เขานอนเตียงเดียวกัน คนที่สามก็เจโรมี
“จะนอนเลยไหม กูจะได้ปิดไฟ” พัฒน์ถาม
“เปิดไว้แบบนี้ก่อนก็ได้” ธีร์ตอบกลับไป ก่อนจะพลิกตัวหันหลังให้กับพัฒน์แล้วหลับตาลง
“พรุ่งนี้จะเข้าไปทำงานกี่โมง”
“วันนี้ไปโรงงานแล้ว พรุ่งนี้เข้าสายได้” ธีร์ตอบเบาๆ
“อืม”
“ถามทำไม”
“เปล่านี่”
“ไม่นอนวะ” ธีร์พลิกตัวมาถามอีกคน แต่เขาไม่รู้ว่าพัฒน์ก็นอนตะแคงมองแผ่นหลังของธีร์มาตั้งแต่แรกเลย จู่ๆ ธีร์ก็หันมาแบบนี้
เลยทำให้ทั้งสองกำลังนอนมองหน้ากันอยู่
“ก็นอนอยู่นี่ไง” อีกคนตอบพลางมองตาเขา
“นอนก็ปิดตาสิวะ”
“ก็จะนอนแบบนี้ใครจะทำไม” พัฒน์ตอบกวนๆ
“เออ ตามใจ” ธีร์พลิกตัวกลับไปนอนหันหลังให้เหมือนเดิม
ในขณะที่ธีร์กำลังจะหลับเขาก็เริ่มรู้สึกถึงอะไรบางอย่างที่ไล้ไปตามแผ่นหลังของเขา แน่นอนว่าธีร์เคลิ้มไปกับสัมผัสนี้ เพราะเมื่อ
ยามเด็ก ธีร์จะหลับได้ก็ต้องมีคนคอยเกาหลังให้
“อืม”
“หึ” พัฒน์หัวเราะในลำคออย่างพอใจ
ก็เพิ่งจะรู้เดี๋ยวนี้เองว่าธีร์ชอบการสัมผัสที่แผ่นหลังเบาๆ แบบนี้ ตอนแรกที่เขาทำ พัฒน์ไม่รู้ตัวเองด้วยซ้ำ แค่คิดว่าแผ่นหลังตรง
หน้านี้น่าสัมผัส มือมันก็ไปทันที
พรึ่บ!
ร่างแกร่งค่อยๆ ขยับเข้าไปหาร่างโปร่งที่กำลังนอนนิ่งอยู่
“หลับยัง” พัฒน์กระซิบข้างหู
“ยัง อย่าเอามืออกนะเว้ย ให้กูหลับก่อน” ธีร์สั่ง
“นี่กูกลายไปเป็นคนใช้มึงเมื่อไหร่”
“อืม...อย่าบ่นน่า” ธีร์เริ่มรำคาญ แต่สัมผัสที่แผ่นหลังยังคงให้ความรู้สึกเคลิ้มอยู่ดี
“หึหึ โอเค แต่ต้องมีรางวัลนะ” พัฒน์ต่อรอง ซึ่งธีร์ก็ไม่มีสติมากพอที่จะประมาวลคำพูดของพัฒน์แล้ว ได้แต่ครางรับอย่างเดียว
“เออ”
“ตกลงแล้วนะ”
“เออ”
“อย่าทำเป็นจำไม่ได้ล่ะ”
“เออ...”
“แน่นะ” พัฒน์ยังคงกวนธีร์ต่อไป ซึ่งมันทำให้ร่างโปร่งหมดความอดทน ธีร์หันกลับมาเผชิญหน้าพัฒน์อย่างรำคาญ ซึ่งก็เป็นการ
เผชิญหน้ากับพัฒน์ตรงๆ และแนบชิดกันมาก
“มึงจะขยับมาทำไมเนี่ย” ธีร์ถามกลบเกลื่อนความเขิน
“แขนกูสั้น”
“ตอแหล” ธีร์ด่าไปเมื่อร่างแกร่งพูดโกหก
ถ้าแขนพัฒน์สั้น ของเขาไม่เรียกด้วนหรือไง
“วันนี้ก็นอนกันแบบนี้ก็แล้วกัน” พัฒน์พูดบอก ซึ่งธีร์ก็ออกแรงดิ้นหนี แต่ก็ไปไหนไม่ได้ มีหวังตกเตียงแน่
“จะบ้าหรือไงไอ้พัฒน์ จั๊กจี้ตายห่า”
“บ้าอะไรล่ะ หรือว่ามึงลืมไปแล้วว่าเรามีอะไรที่เกินกว่าการนอนกอดกันอีก” เป็นประโยคที่สร้างสีแดงบนใบหน้าขาวของธีร์เป็น
อย่างดี
“อย่าพูดมันขึ้นมานะ”
“ทำไมล่ะ ก็กูพูดเรื่องจริงนี่หว่า”
“หุบปากแล้วนอนซะ!”
“จะให้กูหุบยังไงล่ะ”
“ก็เอามือปิดปากตัวเองไปสิ”
“มือกูไม่ว่าง” พัฒน์ตอบ
ธีร์รู้ดีว่าเพราะอะไรมือของพัฒน์ถึงไม่ว่าง ก็เล่นกอดกักเขาไว้ไม่พอ ยังลูบไล้ไปทั่วแผ่นหลังบางอีกด้วย แต่ที่เขาไม่ค้านเพราะ
ชอบไง
ใจง่ายจริงๆ กู
“ก็เอาออกไป”
“แน่ใจนะ” พัฒน์ถาม ซึ่งธีร์มีสีหน้าที่ลังเลเล็กน้อย เพราะเขาเป็นคนที่นอนหลับยากมากถ้าหากไม่เหนื่อยจริงๆ ที่ผ่านมาเขาจะ
มองผ่านความมืดแล้วหลับตา จนหลับไปเองนั่นแหละ แต่ถ้ามีคนคอยเกาหรือลูบหลังให้ก็นอนหลับเร็วและสบายมากขึ้น
“เหมือนมึงจะไม่แน่ใจ ถ้าอย่างนั้น กูมีข้อแลกเปลี่ยน”
“อะไร” ธีร์เริ่มแสดงถึงความไม่ไว้ใจ เพราะข้อเสนอของอีกคนมันได้เปรียบเขาเสมอ
“กูจะคอยลูบหลังให้มึงก่อนนอนทุกๆ คืน” พัฒน์บอกออกไป
“แลกกับ...” ธีร์เลยถามกลับ
คนอย่างพัฒน์ ไม่มีทางที่จะทำอะไรให้ฟรีๆ หรอก
“กู๊ดไนท์...คิส” สิ้นเสียงธีร์ก็ส่ายหน้าทันที
“ไม่มีทาง”
“ก็แล้วแต่ ทุกๆ คืนกูสังเกตเห็นว่ามึงกระสับกระส่ายเวลานอนตลอด”
“แล้วทำไม”
“ก็ไม่ทำไม”
“มึงคิดว่ากูเป็นคนหลับยากจนต้องมีคนคอยเกาเหมือนเด็กๆ หรือไง” ธีร์โพล่งออกไปอย่างโมโห
“กูไม่ได้พูดนะ มึงพูดของมึงเอง”
“ไอ้บ้าเอ้ย!”
“เอาไงล่ะ แลกกับการนอนหลับไปอย่างสบายๆ” พัฒน์เอาเข้าล่อ
“แค่จูบ...ใช่ไหม” ธีร์ถามเบาๆ
“เออ”
“ไม่เกินเลย...ใช่ไหม”
“แน่นอน” ถ้ามึงไม่มีอารมณ์ร่วมด้วย
“มึงพูดจริงนะ”
“เออ กูไม่โกหกมึงหรอก”
“เอาเป็นอย่างอื่นไม่ได้หรือไง” ธีร์ต่อรอง
“งั้นเอาเป็นมีอะไรกันหนึ่งยก”
“โอเค กูเลือกจูบ” ธีร์รีบพูดขึ้นมา เพราะกลัวว่าพัฒน์จะเปลี่ยนใจยัดเยียดการมีอะไรกันมาให้เขา
“แค่นั้น...”
“งั้นก็นอนได้แล้ว กูง่วง อ้อ!! ให้กูหลับก่อนก็แล้วกันค่อยจูบ” ธีร์บอกก่อนจะหลับตาลงเพื่อหลบสายตาของอีกคน ที่นับวันมี
อิทธิพลกับหัวใจเขาเหลือเกิน
แล้วคิดหรือไม่ว่าพัฒน์จะยอมจุบตอนอีกคนหลับไปแล้ว
ไม่ได้รับการตอบสนอง ใครมันจะไปจูบกัน...
“อื้อ...ไอ้อัด” ดวงตาเบิกกว้างด้วยความตกใจที่ร่างแกร่งกดริมฝีปากลงมาโดยที่ไม่บอกกล่าว และเพราะเป็นแบบนี้เลยเปิด
โอกาสให้ลิ้นร้อนเข้าไปเกาะเกี่ยวกับลิ้นของธีร์อย่างง่ายดาย ดวงตาของธีร์ค่อยๆ ปิดลงอีกครั้งด้วยความเคลิบเคลิ้มกับจูบที่ร้อน
แรงที่ร่างแกร่งมอบให้ อีกทั้งมือร้อนที่สัมผัสทั่วแผ่นหลังของเขาอีก กลายเป็นว่าตอนนี้ เขากับพัฒน์กำลังนอนจูบกันอยู่
ความร้อนของร่างกายเริ่มประทุขึ้น พัฒน์บดจูบลงมา ดูดดุด เกาะเกี่ยว ไล่เลีย พัวพันอยู่ภายในปากของธีร์ซ้ำแล้วซ้ำเล่า หลาย
ต่อหลายครั้ง ธีร์เองก็ตอบสนองรสจูบกลับเป็นอย่างดี มือข้างหนึ่งของร่างโปร่งเอื้อมสัมผัสใบหน้ากับผมของพัฒน์เพื่อต้องการ
ระบายอารมณ์วาบหวามจากการจูบ
“อื้อ...ย่ะ อย่าไอ้เหี้ย” ธีร์ร้องห้ามเมื่อพัฒน์ฝังจมูกกับริมฝีปากร้อนของตนที่ต้นคอขาวเนียน ขบเม้มเบาๆ จนเกิดรอยที่แสดง
ความเป็นเจ้าของ
พัฒน์มีอะไรกับใครไม่เคยทิ้งรอยไว้บนตัวของคนๆ นั้น ซ้ำแล้ว ความรุนแรงของตนก็ใช้ไม่ได้กับใครอื่น แน่ล่ะ...ใครจะไปยอมรับ
ความรุนแรงได้ เวลามีอะไรกับผู้หญิงที่ผ่านมาเขาเคยไม่ค่อยเล้าโลมเท่าไหร่ มีอารมณ์ก็ปลดปล่อยอย่างเดียว ก็เลยไม่เคยรู้สึก
เต็มเปี่ยมได้อย่างตอนมีอะไรกับธีร์
“ไหนว่าแค่จูบไงวะ” ธีร์ถามปนหอบหน่อยๆ
“ก็แค่จูบไง” พัฒน์ตอบหน้าตาเฉย
“แล้วมึงทำอะไรกับคอกู”
“รู้อยู่แล้วจะถามทำไม” พัฒน์พูดบอกอีกคนไป
ร่างโปร่งนอนนิ่งตัวแข็งทื่อเพราะตอบไม่ได้เหมือนกัน ก็เขารู้อยู่แล้วว่าพัฒน์ทำอะไรกับคอเขา พรุ่งนี้เช้าส่องกระจกก็คงเห็น
เข้าใจหรือเปล่าว่ามันเป็นคำถามที่ไม่ต้องการคำตอบน่ะ
“กูก็ถามไปงั้นๆ แหละ”
“กูบอกว่าแค่จูบก็คือจูบ ไม่เกินเลยหรอก ถ้ามึงไม่ยอม” ประโยคท้ายเขาเพียงแค่พึมพำเบาๆ เท่านั้น แต่ธีร์เองก็ซื่อบื้อเกินกว่าที่
จะรู้สึกหรือได้ยิน
“ว่าไงนะ”
“นอนได้แล้ว”
“มึงก็บอกมาก่อนสิว่าเมื่อกี้พูดอะไร” ธีร์ไม่ยอมง่ายๆ
“ก็ไม่ได้พูดอะไร”
“มึงพูด แต่มึงไม่บอกกู”
พัฒน์ชักจะทนไม่ไหวกับความดื้อของอีกคนแล้วนะ
“จะนอนดีๆ ไหม หรืออยากจูบกันอีก”
“ฝันดี” ธีร์บอกพัฒน์ไปแล้วหลับตาลงอย่างจำยอม เนื่องจากจะกลัวพัฒน์จูบตนอีกครั้ง แน่นอนว่าธีร์มั่นใจ ว่ามันจะไม่จบที่จูบ
แน่ๆ
ไม่ใช่เพราะใคร แต่เป็นเพราะหัวใจของเขาเองนั่นแหละ...
“หึหึ” พัฒน์หัวเราะเล็กน้อยก่อนจะพลิกตัวกลับไปปิดไฟที่หัวเตียงก่อนจะกลับมาสวมกอดธีร์แล้วลูบหลังกล่อมให้ธีร์นอนหลับต่อ
เมื่อเห็นว่าร่างโปร่งหลับไปแล้ว เขาก็ค่อนลดมือที่ลูบลง แต่ก็ยังคงกอดเอาไว้อยู่ พัฒน์หอมผมบางของธีร์เบาๆ แล้วหลับตาไป
ด้วยรอยยิ้ม
มันช่างเป็นคืนที่หลับสบายและนอนฝันดีเหลือเกิน
...
...
...
“ตื่นได้แล้ว ไอ้ธีร์ มึงต้องไปประชุมเก้าโมงนะเว้ย” พัฒน์ทำการปลุกธีร์ในเช้าวันใหม่ ปกติเขาไม่จำเป็นต้องปลุกด้วยซ้ำ แต่วันนี้
ธีร์ทำท่าจะไม่ตื่น
ขนาดเขาแต่งตัวเตรียมจะไปทำงานอยู่แล้วมันยังไม่ตื่นเลย พัฒน์ที่ต้องไปทำงานให้ทัน 8 โมงเช้าก็ต้องเลื่อนเวลาไปเพื่อปลุก
ธีร์ในตื่นก่อน
“อื้อ...อีกแป๊บ” ร่างโปร่งครางตอบอย่างงัวเงีย
“จะ 8 โมงแล้วไอ้ธีร์”
ร่างโปร่งได้ยินแบบนั้นก็ดีดตัวลุกขึ้นด้วยความรวดเร็ว มองนาฬิกาที่หัวเตียงฝั่งตัวเองด้วยความตกใจ เห็นว่าเจ็ดโมงครึ่งก็ถอน
หายใจอย่างโล่งอก แต่ถึงอย่างนั้น ธีร์ก็รีบลุกจากที่นอนเพื่อไปทำธุระส่วนตัว อาบน้ำแต่งตัวเพื่อไปประชุมในทันตอนเก้าโมง
“ธีร์กูไปทำงานก่อนนะ” พัฒน์ตะโกนหน้าห้องน้ำที่ธีร์กำลังอาบน้ำอยู่
“เออ ไปเลย” อีกคนตะโกนจากในห้องน้ำ
“เดี๋ยวโทรหา”
พัฒน์พูดแค่นี้ก็เดินหยิบกระเป๋าทำงานของตนไป แล้วออกจากห้องไปทันที เพราะคงจะไปถึงบริษัทช้ามากๆ เนื่องจากตอนนี้ก็
ใกล้จะแปดโมงเต็มที
“ให้ตายสิ ต้องทำงานสายเพราะมันเนี่ย สมเหตุสมผลเหลือเกิน” พัฒน์บ่นคนเดียวระหว่างทาง
แม้จะบ่นไปแบบนั้นก็เถอะ แต่ทำไมปากถึงได้ฉีกยิ้มด้วยล่ะ
ธีร์เดินทางมาถึงบริษัทก่อนเวลาประชุม 15 นาที ซึ่งก็เป็นความโชคดีของเขาเป็นอย่างมากมีเวลาเตรียมตัวในการประชุม ก็ยังดี
กว่าไม่ได้เตรียมอะไรเลย ธีร์ใช้เวลาประชุมไปประมาณ 2 ชั่วโมงกว่าๆ เกี่ยวกับโครงการที่กำลังสร้างอยู่ ส่วนโครงการใหม่จะ
สามารถสร้างได้อีก 3 ปีนับจากผ่านการนำเสนอ
“ผมขอปิดการประชุมเพียงเท่านี้ครับ” อัคนีพูดเสียงทุ้ม บอกกับกรรมการทุกคนด้วยสีหน้านิ่งเรียบ เพื่อรักษามาดของผู้นำเอาไว้
ได้ยินแบบนั้นธีร์ก็โค้งให้กับเจ้านาย แล้วเดินออกจากห้องประชุมไปยังห้องตัวเองทันที
ระหว่างที่ธีร์กำลังนั่งทำงานอยู่ในห้องของตัวเอง เลขาของธีร์ก็เข้ามาในห้องหลังจากได้รับอนุญาตผ่านอินเตอร์โฟนแล้ว
“คุณธีร์คะ ตารางงานของอาทิตย์หน้าค่ะ”
“โอ้...ต่างจังหวัดทั้งอาทิตย์เลยหรือครับ” ธีร์ถามเมื่อเห็นตารางงานทั้ง 6 วันของอาทิตย์หน้าเป็นต่างจังหวัดทั้งหมด
“ใช่ค่ะ คุณธีร์ เชียงราย 3 วัน ค้าง 2 คืน จากนั้นก็ไปเชียงใหม่ต่อค่ะ กลับเย็นวันเสาร์ค่ะ”
“จัดการเรื่องตั๋วเครื่องบินกับติดต่อรถของฝั่งนู้นไว้เรียบร้อยแล้วสินะครับ” ธีร์ถาม เพราะดูจากสีหน้าของเธอแล้ว คงจะทำงาน
เสร็จแล้ว ถึงได้ดูสดชื่นแบบนี้
“เรียบร้อยแล้วค่ะ เมื่อไปถึงแล้วผู้จัดการโรงแรมในตัวเมืองจะมารับที่สนามบิน คุณธีร์จะได้พักโรงแรมของบริษัทค่ะ” เอมิกา
อธิบาย
“คือสองจังหวัดนี้กำลังจะสร้างสาขาใหม่ในต่างอำเภอใช่ไหม”
“ใช่ค่ะ เราสร้างตามสถานที่ท่องเที่ยว โครงการนี้เขียนมา 5 ปีค่ะ เพิ่งจะได้สร้างได้ปีนี้ คุณธีร์อ่านรายละเอียดโครงการแล้วใช่
ไหมคะ”
“ครับ ผมศึกษามันดีมากๆ แล้ว สานต่อคุณอิสระได้สบาย”
“คุณธีร์นี่เก่งจังเลยนะคะ ทั้งๆ ที่เพิ่งจบใหม่แท้ๆ” เอมิกาชมเจ้านายของตนอย่างทึ่งๆ
“ไม่หรอกครับ ผมก็ใช้ประสบการณ์ที่ผ่านมาทำงานนั่นแหละครับ” ธีร์ถ่อมตัว ก่อนจะยกนาฬิกาที่ข้อมือขึ้นมาดูก็พบว่าเป็นเวลา
เที่ยงแล้ว
“ถึงเวลาพักกลางวันแล้วครับ” ธีร์บอกยิ้มๆ
“โอ๊ะ! จริงด้วยค่ะ”
“งั้นเราไปทานข้าวกันเถอะครับ ผมเลี้ยงเอง” ธีร์ว่าพลางลุกขึ้น
“เอ๋?” เอมิกามีสีหน้าที่งงงวยอย่างเห็นได้ชัด
“ฮ่าๆ ไม่ว่าอะไรคุณเอมก็จำได้เป็นอย่างดี แต่นัดของผมกลับจำไม่ได้เสียงั้น” ธีร์พูดด้วยน้ำเสียงติดตลก เลขาของเขาก็เลยจำ
ได้ขึ้นมาว่าเมื่อวานธีร์นัดทานข้าว
“ขอโทษด้วยค่ะ ดิฉันจำไม่ได้จริงๆ” เธอรีบโค้งให้ธีร์ทันที
“ไม่เป็นไรครับ ถ้าคุณเอมกลัวคนอื่นมองไม่ดี ผมยินดีให้พาเลขคุณเพลิงไปด้วย” ธีร์บอกอีก
“จะกลัวทำไมคะ ดิฉันมีลูก มีสามีแล้ว ใครๆ ก็ทราบกัน”
“งั้นก็ไม่มีปัญหานะครับ”
“ไม่มีปัญหาค่ะ”
“ถ้าอย่างนั้นเราไปกันเลยครับ”
“ค่ะ”
ธีร์พาเอมิกาเลขาคนเก่งของตัวเองออกไปทานอาหารเที่ยงเพื่อสานสัมพันธ์ให้สนิทกันมากขึ้น ทำให้ร่างโปร่งรู้จักกับเอมิกามาก
ยิ่งขึ้นจากการคุยกัน เมื่อทานอาหารเสร็จแล้วพวกเขาก็กลับมาที่บริษัท ซึ่งธีร์ก็ให้เลขาของตนขึ้นไปก่อน ส่วนตนก็ยืนสั่งงานที่
ชั้นล่างก่อน
“ช่วยปรับเปลี่ยนตามที่ผมว่าเลยนะคะ”
“ได้ครับ”
“ผมขอตัว”
ในจังหวะที่ธีร์กำลังจะเดินไปที่ลิฟต์หางตาของเขาก็ไปเห็นมีนายืนอยู่ที่มุมหนึ่งของเสาใหญ่ ทำท่าด้อมๆ มองๆ เขาอยู่ ราวกับ
ต้องการสังเกตอะไรบางอย่าง ธีร์ตรงเข้าไปหาเธอทันที
“ตามฉันมา”
มีนาเดินตามธีร์ไปอย่างว่าง่าย ก็เพราะว่าเธอตั้งใจจะมาดักรอธีร์อยู่แล้ว ร่างโปร่งพาเธอมาคุยในห้องรับรองแขกที่เธอเพิ่งจะมี
โอกาสได้เข้ามา
(มีต่อ)