เสพติดอันตราย...รักผู้ชายพันธุ์โหด
ตอนที่ 17 ครึ่งแรก
เหนื่อยสุดๆ
หลังจากที่เขาจัดการให้พยาบาลมาฉีดยานอนหลับให้กับธีร์ เพราะเจ้าตัวไม่ยอมนอน ทั้งๆ ที่ตากำลังจะปิดอยู่แล้ว โวยวายจะดูหนัง จะดูทีวีอยู่นั่นแหละ เขาก็ไปอาบน้ำ แล้วมาที่โซฟา ที่ที่จะเป็นที่นอนของเขาวันนี้
“มึงทำกูเหนื่อยมาก ไอ้ธีร์ หวังว่าพรุ่งนี้ไข้มึงคงจะลดสักทีนะ กูจะไม่ลำบากไปนานกว่านี้” พัฒน์ที่นอนแผ่อยู่บนโซฟาบ่นพึมพำ
อย่างคนทำงานลงพื้นที่เหนื่อย
จะว่าไปงานยังไม่เหนื่อยเท่าการดูแลธีร์ที่ป่วยแบบนี้
กินข้าวเสร็จ ตอนแรกบอกว่าง่วง แต่กินยาแล้วก็ไม่นอน ตอนกินยาบอกว่าจะไม่กินมันขม พอเขาวางไว้ มันก็หยิบไปกินหน้าตา
เฉย เปิดทีวีให้ดู ก็หลับ พอปิดก็ตื่นมาโวยวาย จนเขาทนไม่ไหว เรียกพยาบาลมาฉีดยานอนหลับซะ รำคาญมันเต็มทีแล้ว
“เฮ้อ...” เขาเดินไปปิดไฟ แล้วทิ้งตัวนอนจนผล็อยหลับไปด้วยความเหนื่อย...
เช้าวันใหม่ พัฒน์ลืมตาตื่นขึ้นมา ดูนาฬิกาก็พบว่า 8 โมงเช้าแล้ว มันเลยเวลากินข้าวเช้าของธีร์แล้วนี่ พอหันไปมองที่เตียงก็ไม่
พบร่างที่ควรอยู่ตรงนั้นเลย
“ไปไหนวะ”
แกร๊ก!
ร่างสูงหันไปยังต้นเสียงก็เห็นร่างบางเดินพยุงตัวเองพร้อมกับถือถุงน้ำเกลือด้วยตัวเองอย่างทุลักทุเล เห็นแบบนั้นเขาก็เดิน
เข้าไปช่วยแบบเงียบๆ ไม่พูดไม่จาอะไร
“กูทำเองได้” ธีร์บอกเบาๆ
“เฮ้อ...” พัฒน์หายใจอย่างโล่งอก
แม้ว่าเขาจะรู้สึกถึงไอความร้อนที่แผ่มาจากร่างเล็กกว่าอยู่ แต่เหมือนว่าจะเบาลงจากเมื่อวานแล้ว ธีร์ถึงได้พูดแบบเดิม แต่ก็
ดีแล้ว อย่าเป็นแบบเมื่อวานเลย
ทำอะไรไม่ถูกจริงๆ
“กินข้าวยัง” พัฒน์ถาม
“กินแล้ว มึงตื่นสายเอง”
“แล้วทำไมไม่ปลุก”
“กูคิดว่ามึงควรจะพักผ่อน ยังไงวันนี้มึงก็ต้องขับรถพากูกลับอยู่ดี” ธีร์ให้เหตุผล
“ไหวแล้วแน่นะ”
“เออ...มีเวียนหัวนิดหน่อย แต่ก็ไม่หนักเหมือนเมื่อวานแล้ว สองสามวันก็หาย”
“เดี๋ยวกูจะไปตามหมอก่อนว่าจะออกจากโรงพยาบาลได้หรือยัง”
“อือ”
พัฒน์เดินไปถามพยาบาลว่าหมอมาหรือยัง แต่ก็ได้คำตอบที่เขาไม่ค่อยชอบเท่าไหร่มา ประมาณ 10 นาที หมอจะเข้าไปตรวจธีร์
ซึ่งคนอย่างพัฒน์เกลียดการรอคอยที่สุด
ยิ่งพวกหมอไม่เคยจะตรงเวลาอยู่แล้ว หรือตรงเวลา แต่เขาก็ไม่ชอบที่จะรออยู่ดี
“ให้หมอมาที่ห้องของฉันให้เร็วที่สุด” สั่งทิ้งท้ายเสียงเข้มก่อนจะเดินกลับเข้าห้องพักพิเศษของธีร์ไป
“กลับได้ยัง” ธีร์ถามทันทีที่เห็นพัฒน์
“อีกประมาณ 10 นาที หมอจะเข้ามา เดี๋ยวกูไปอาบน้ำก่อน”
“อือ”
ธีร์ก็ล้มตัวลงนอนอีกครั้ง ส่วนพัฒน์ก็เอาสัมภาระเข้าไปในห้องน้ำเพื่ออาบน้ำ จนเวลาล่วงเลยถึง 15 นาทีกว่า หมอจึงเข้ามา ซึ่ง
พอเห็นหน้าพัฒน์ หมอก็ตัวสั่นด้วยความกลัว
บังอาจมาช้านะหมอ...
“โดยรวมแล้วถือว่าร่างกายของคุณธีรไนยอยู่ในสภาวะที่แข็งแรงมากครับ อุณหภูมิถึงได้ลดไว อาการเพ้อหรืออาการแปลกๆ ก็
ไม่มีแล้วด้วย ส่วนเรื่องยาที่ต้องทาตามรอย เอ่อ นั่นแหละครับ ก็ควรจะทาบ่อยๆ นะครับ ช่วงสองสามวันนี้ให้เช็ดตัวแทนการอาบ
น้ำไปก่อน แต่ถ้าจำเป็นต้องอาบ ก็ควรจะเป็นน้ำอุ่นนะครับ ส่วนยาเดี๋ยวให้แฟนคุณรอรับที่ช่องจ่ายยาเลยนะครับ และงดกิจกรรม
รุนแรงกันด้วยนะครับ” หมอพูดเล่นเอาร่างโปร่งบางถึงกับหน้าแดงด้วยความอาย จะอ้าปากเตรียมแย้งว่าพัฒน์ไม่ใช่แฟนก็ไม่ทัน
เพราะพัฒน์แย่งพูดตัดหน้าไปก่อน
“ตามนั้นหมอ แล้วนี่กลับได้แล้วใช่ไหม”
“ครับ เดี๋ยวพยาบาลจะมาถอดสายน้ำเกลือให้ คุณธีรไนยก็เปลี่ยนชุดรอแฟนคุณได้เลยนะครับ”
“ม่ะ...”
“เดี๋ยวกูจะไปเอายา จ่ายเงิน ส่วนมึงก็จัดการตัวเองให้เสร็จแล้วนั่งรอกูอยู่ในนี้ เข้าใจนะ”
“เออ” พยักหน้าน้อยๆ
พัฒน์เดินออกจากห้องไปเพื่อไปรับยาแล้วก็จ่ายค่ารักษาพยาบาลให้กับธีร์ ส่วนธีร์ก็เข้าไปเปลี่ยนชุดหลังจากที่ถูกถอดสายน้ำ
เกลือให้แล้ว
ธีร์เดินมานั่งที่โซฟาที่พัฒน์ใช้เป็นที่นอนตลอดทั้งคืน
“แข็งชะมัด ไม่ปวดหลังหรือไงวะ” ธีร์พึมพำเบาๆ ถึงแม้ว่าจะเป็นห้องพิเศษ แต่ก็อยู่ในตัวชนบทมันถึงไม่ได้ดูหรูขนาดนั้น ถึงต้อง
มีโซฟาราคาแพงๆ อยู่
“อยากกลับแล้ว อยากนอน”
บ่นกับตัวเองจบก็พบว่าพัฒน์เปิดประตูห้องเข้ามาพอดี ในมือใหญ่มีถุงยาอยู่ ก่อนที่จะเดินมาโยนให้ธีร์ถือ ส่วนเขาก็หยิบกระเป๋า
ของเขากับธีร์ขึ้นหิ้ว
“ตามมา จะได้กลับกรุงเทพสักที” พัฒน์เดินนำโดยที่มีร่างโปร่งเดินตามไม่ห่าง ธีร์มองแผ่นหลังกว้างของพัฒน์ด้วยความหวั่น
ไหว
เขาไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกัน แต่ว่าแผ่นหลังนั่น ร่างกายนั่น...ฝ่ามือ ใบหน้า และอ้อมกอด น้ำเสียงที่ฟังดูเหมือนต่อว่า แต่ก็เป็น
ห่วงเขา...
มันดูแลเขาตลอด กระทั่งเมื่อวานมันก็ไม่คิดจะทิ้งเขา...
ในสภาพที่ร่างกายอ่อนแอ จิตใจก็อ่อนไหวง่าย และในตอนนี้ ความรู้สึกที่เขาเคยเกลียด ไม่ชอบพัฒน์ ปากที่บอกเกลียดนัก
เกลียดหนา มันกลับเปลี่ยนไป
“จะนั่งข้างหน้าหรือข้างหลัง” พัฒน์ที่เก็บกระเป๋าที่ท้ายรถแล้วถามธีร์เสียงเรียบ
“ข้างหน้า”
“ไม่นอนหรือไง”
“เดี๋ยวมึงก็หาเรื่องว่ากูชอบทำตัวเป็นคุณชาย” ธีร์บอกเหตุผล
“เลอะเทอะ...ไม่ไหวก็นั่งหลังนั่นแหละ อยากนอนก็นอน” พัฒน์ว่าพร้อมกับผลักร่างเล็กกว่าในเข้าไปนั่งด้านหลัง ซึ่งร่างแกร่ง
เป็นคนเปิดปิดประตูให้
“แล้วใครจะอยู่เป็นเพื่อนมึง” ธีร์ถามเสียงแผ่ว แต่ก็ช้าไปแล้วเพราะร่างสูงมานั่งประจำที่คนขับแล้วออกรถจากโรงพยาบาลแห่งนี้
ไปทันที
“ทำเหมือนกับว่าตอนที่มา มึงไม่หลับงั้นแหละ” พัฒน์แขวะธีร์เล็กน้อย
“อย่างน้อยก็มีเพื่อนอยู่ข้างหน้า”
“มึงนี่เริ่มดื้อแล้วนะ ไข้ขึ้นอีกหรือไงวะ” ประโยคหลังพัฒน์พึมพำคนเดียวเบาๆ
“เปล่า...กูแค่...” ธีร์ชะงักไป เมื่อรู้ตัวว่าตัวเองกำลังจะหลุดอะไรบางอย่างออกไป
พัฒน์มองหน้าอีกคนผ่านกระจก ซึ่งก็ยกยิ้มน้อยๆ ที่เห็นว่าธีร์นิ่งไปไม่พูดต่อ เขารู้อยู่ว่ามันจะพูดอะไร มันกำลังเป็นห่วงเขา แต่
ไม่ห่วงสังขารตัวเอง
“ห่วงตัวเองก่อนเถอะ ไม่หายมันก็จะเป็นภาระกู”
“เออ...แล้วที่เป็นแบบนี้มันเพราะใครล่ะ” ธีร์ที่ยอมอ่อนลงให้ตอนนี้ไม่มีเค้าว่าจะลงแล้ว เนื่องจากพัฒน์พูดเหมือนเป็นความผิด
ของเขาคนเดียว
ทั้งๆ ที่เป็นเพราะร่างสูงนั่นแหละที่ทำให้ธีร์ไม่สบาย
“หึหึ กูทำแรงไปหรือไง แบบนี้ล่ะทำเป็นโกรธ ไอ้ตอนทำไม่เห็นจะห้าม” พัฒน์ย้อนจนธีร์พูดไม่ออก
ก็มันเรื่องจริง ตอนที่ทำอยู่ขาก็แค่สนุกและสุขไปกับมัน ไม่ได้คิดถึงเลยว่าหลังจากสุขแล้วมันจะมีปัญหาสุขภาพตามมา แต่ใน
สถานการณ์แบบนั้น ใครมันจะไปคิดอย่างอื่นนอกจากเรื่องนั้นกันล่ะ
“แล้วทำไมมึงไม่ห้ามตัวเองล่ะ”
“กูไม่ได้เป็นคนเริ่มนะ”
สิ้นคำพูดของพัฒน์ ธีร์ก็ปิดปากสนิททันที ก่อนจะทิ้งตัวนอนราบกับเบาะอย่างไม่พอใจ ที่ไม่ว่าจะเถียงอะไรไป เขาก็ไม่เคยชนะ
เสียที
แต่ถึงกูจะเริ่ม กูก็ไม่คิดจะห้ามตัวเอง
“อยากกินอะไรก็บอก อยากเข้าห้องน้ำก็บอก” เขายังคงพูดต่อ แม้ว่าร่างบางจะหันหลังหันหน้าเข้ากับเบาะไปแล้วก็ตาม แต่พัฒน์
ก็คิดว่าว่าธีร์คงจะไม่หลับในทันทีแน่ๆ
“เข้าใจใช่ไหม”
“เออ”
แม้ว่าจะไม่ได้ใช้น้ำเสียงที่ระรื่นหู การพูดจาก็เป็นเหมือนเดิม ใบหน้าก็ยังเย็นชาเหมือนเดิม ทั้งยังชอบสั่ง ชอบบังคับ ไม่ว่ายังไง
มันก็เหมือนเดิม
แต่ทำไม่ธีร์ถึงรู้สึกถึงการกระทำที่เปลี่ยนไป แม้มันจะไม่ได้ทำแบบให้เห็นชัดเจน แต่แค่นี้ก็ทำให้ธีร์หวั่นไหวและคิดเอาเองไป
แล้ว ว่าพัฒน์เป็นห่วงเขา มีความรู้สึกดีๆ ต่อเขา แม้ว่าจะไม่ชอบหน้ากันมาก่อนก็ตาม หากแต่ตอนนี้มันเป็นเปลี่ยนไปแล้วสำหรับ
ธีร์
ไม่มีความรู้สึกที่เกลียดอยู่ในอกแล้ว แต่มันกลับมีความรู้สึกบางอย่างเข้ามาแทนที่...
เขาชอบ...
แต่ทำไมมันเป็นความชอบที่ทรมานเหลือเกิน...
...
...
พัฒน์กับธีร์ใช้เวลาเดินทางมาถึงกรุงเทพฯ ประมาณ 5 ชั่วโมงโดยจอดทานข้าวเที่ยงก่อนที่จะตรงดิ่งมาที่คอนโด พัฒน์ยังคงทำ
หน้าที่ถือกระเป๋าให้กับธีร์จนมาถึงที่ห้องนั่นแหละ ดันมีปัญหาเกิดขึ้นอีก
“จนกว่าจะหาย กูจะให้มึงมาอยู่ที่ห้องของกูก่อน”
“เรื่องอะไรล่ะ ห้องกูก็มี” ธีร์ไม่ยอม
เขาต้องการที่จะออกห่างจากพัฒน์ให้มากที่สุด ไม่ต้องเจอกันบ่อยๆ น่ะดีแล้ว เขาอยากจะลบความรู้สึกแปลกๆ นี่ทิ้งไป เพราะยัง
ไงซะเขาสองคนก็เป็นผู้ชาย แม้ว่าเขาจะทำใจยอมรับได้แล้วว่าตัวเองชอบพัฒน์ที่เป็นผู้ชาย
แต่ก็ใช่ว่าความชอบนี้จะสมหวัง เพราะยังไง พัฒน์ก็ชอบผู้หญิงอยู่ดี
อย่างน้อยก็ขอให้เขาเอาตัวเองออกมา ก่อนจะถลำลึกไปมากกว่านี้...
“แต่กูไม่อยากจะได้ยินข่าวว่ามีคนตายคาห้อง”
“กูไม่ตายหรอก ถึงตาย มันก็ไม่ได้เดือดร้อนอะไรมึงนี่” ธีร์พูด
“ใครบอกล่ะ” พัฒน์มองหน้าธีร์เล็กน้อย ซึ่งมันทำให้คนจิตใจอ่อนไหวง่ายจากการเป็นไข้อย่างเขายิ่งใจเต้นแรงเข้าไปอีก
มันกำลังให้ความหวังเขา
“กูเดือดร้อนเต็มๆ เพราะยังไงกูก็ต้องจัดการเรื่องของมึงตามคำสั่งคุณดินคุณเพลิงอยู่ดี แล้วที่กูให้มึงมาอยู่กับกู ไม่ได้
หมายความว่ากูอยากดูแลนะ กูทำตามหน้าที่ที่คุณเพลิงสั่งมาก็เท่านั้น” พัฒน์พูดยาว
หัวใจดวงน้อยที่เต้นรัวด้วยความดีใจกลับหยุดเต้นไปเมื่อได้ยินประโยคที่อีกคนบอกอย่างไร้เยื่อใยออกมา
“งั้นก็ขอบคุณ แต่กูไม่ต้องการ รอให้กูตายก่อนก็แล้วกัน ค่อยทำหน้าที่นั้นทีเดียวเลย ขอตัว” ธีร์บอกด้วยใบหน้าที่เรียบนิ่งและ
เย็นชา ทำเอาพัฒน์ถึงกับใจเสียที่เห็นสีหน้าแบบนั้นจากร่างโปร่งบาง
เขาทำอะไรผิดหรือเปล่า
พรึ่บ!!
ในจังหวะที่เขากำลังคิดอยู่ มือขาวก็กระชากกระเป๋าของเจ้าตัวจากมือของเขาไปแล้ววิ่งไปที่หน้าประตูห้องของตัวเองทันที
“เป็นอะไรของมัน แต่ช่างเถอะ” พัฒน์หันมาเปิดประตูห้องของตัวเองอย่างไม่สนใจ แต่ในใจกลับคิดหนักเรื่องของอีกคน ไหนจะ
อาการป่วยที่ยังไม่หายดีนั่นอีก
รู้บ้างไหมว่าคนเป็นห่วง
“เป็นห่วง?” พูดทวนสิ่งที่คิดในใจออกมาเบาๆ ก่อนจะหันไปมองธีร์ก็พบว่าร่างนั้นกำลังเดินเข้าห้องไป
ไม่มีทาง...เป็นไปไม่ได้เด็ดขาด
เขาจะไม่มีวันปล่อยให้เรื่องที่ไม่ถูกต้องเกิดกับเขาแน่ๆ
“คงต้องทิ้งระยะห่างแล้วสินะ มันเองจะรู้สึกเหมือนกันไหม ถ้าเหมือนกัน...”
หัวใจแกร่งเต้นเร็วขึ้นจนควบคุมไม่ได้...
บอกไม่ถูกว่าคืออะไร ที่แน่ๆ คือดีใจถ้าอีกคนคิดเหมือนกัน พัฒน์รีบสะบัดใบหน้าไปมาเพื่อเอาความคิดที่ฟุ้งซ่านออกไป
“มันจะคิดหรือไม่คิดก็เรื่องของมัน”
ยังไงเขาก็ไม่มีทางกลืนน้ำลายตัวเองแน่ๆ
…
…
…
50%

มาลงกันให้อ่านกันต่อจ้า พรุ่งนี้จะมาลงอีกครึ่งนะคะ อดใจรอกันอีกนิด ขอบคุณสำหรับคอมเม้นท์ที่ให้กำลังใจกันเสมอมานะคะ มีอะไรสอบถามได้ที่แฟนเพจเลยฮะ
https://www.facebook.com/sawachiyukiใครที่อยากได้น้องดรีม จะเปิดให้อีกรอบในปีนี้ อันที่จริงกะเปิดปีหน้านู่นเลย แต่ที่เปิดเพราะมีคนยังไม่ได้หนังสือ พี่ไปรฯ ทำหายลงชื่อจองกันไว้นะคะ ถ้ายอดครบแล้วจะเมลไปบอก ^_^
https://docs.google.com/forms/d/1l3PtNmWapA5xCtOCUVr0B5MvOJxxFm_pJtWMYEO8pm4/viewform