Chapter 8หลังจากการติดตั้งระบบจำลองเสร็จเรียบร้อย ภายในห้องก็เหลือเพียงผู้จัดการและผู้ช่วยอยู่ด้วยกันตามลำพัง ส่วนพวกลูกน้องออกไปทำงานตามไซต์งานกันหมดแล้ว ความเงียบจึงคืบคลานเข้ามาปกคลุมห้องแล็บอีกครั้ง มีเพียงเสียงจากปลายนิ้วกระทบคีย์บอร์ดรัวๆ สลับพูดคุยปรึกษางานกันเป็นระยะๆ เท่านั้น เวลาผ่านไปเนิ่นนาน แต่สองหนุ่มที่ใจจดจ่ออยู่กับจอมอนิเตอร์ก็ไม่ได้ใส่ใจ จนถึงเวลาเย็นที่ต่างคนต่างเริ่มรู้สึกหิว
ตฤณละสายตาจากจอมอนิเตอร์ไปยังนาฬิกาข้อมือแล้วอุทานด้วยความตกใจ “ชิบ! จะห้าโมงเย็นแล้วเหรอเนี่ย”
“หืม” ร่างโปร่งเงยหน้าขึ้นตาม “แย่จริง ลืมดูเวลาไปเลย”
“ยังไม่ได้ถึงตามที่กำหนดไว้เลยนะครับ แต่ว่า เราพักไปกินข้าวกันก่อนมั้ย ผมหิวจนตาลายแล้ว”
ผู้เป็นนายพยักหน้าหงึกหงัก “อืม... งั้นเดี๋ยวผมจะบอกให้คุณหลินโทรสั่งอาหารให้... พอดีจะไปเอาของในห้องด้วย เดี๋ยวพักไปกินอาหารกันในห้องทำงานก็แล้วกัน”
“เดี๋ยวผมจะตามไปนะครับ”
นภเกตน์บอกให้เลขาสาวจัดการเรื่องอาหารได้ทันก่อนเวลาเลิกงานพอดี จากนั้นเขาก็เข้าไปในห้องทำงาน เพื่อเลือกหยิบดูหนังสือที่จะต้องใช้อ้างอิงในโพรเจกต์ ระหว่างนั้น อาพีรพัฒน์ก็โทรเข้ามาถามไถ่ทุกข์สุข ชายหนุ่มจึงใช้เวลาอยู่ในห้องทำงานของตนไปพักใหญ่
ฝ่ายตฤณที่ทำงานมาแบบไม่หยุดพักเลยตลอดวัน เขารู้สึกว่าสมองอ่อนล้าและท้องหิวมากแล้วจึงหยุดพัก แต่ก่อนจะเดินออกจากห้องไปก็คิดว่าควรจะเช็กอีเมลสักหน่อย จึงกดเปิดโปรแกรมขึ้น
“หือ... ไอ้หมีภูส่งอะไรมาวะ”
Subject : เอาไว้แก้ง่วง รับรองตาสว่างเมื่อลองคลิกเข้าไปดู เขาเห็นว่ามันเป็นไฟล์วิดีโอ จึงกดโหลดทิ้งไว้ แล้วเดินออกจากห้องแล็บไปเพื่อยืดเส้นยืดสาย
ร่างสูงเดินวนไปวนมา บิดตัวไปมาสองสามที วันนี้ที่ทำงานเงียบจนผิดปกติ สงสัยว่าพวกลูกน้องจะยังไม่กลับจากไซต์ลูกค้า หรือไม่ก็ตรงกลับบ้านกันเลย เขาเดินผ่านโต๊ะที่ว่างเปล่านับสิบ ตรงไปยังห้องทำงานที่ตนใช้ร่วมกับเจ้านาย
หลิน... เลขาสาวคนสวยยังอยู่ที่นั่น แต่เธออยู่ในท่าเตรียมพร้อมกลับบ้านแล้ว “โอ๊ะ คุณตฤณ มาพอดีเลย! อาหารมาส่งแล้วนะคะ งั้นหลินกลับบ้านก่อนล่ะน้า” เธอไม่ได้อยู่รอคำตอบจากอีกฝ่าย แม้ในใจจะแอบกระหยิ่มยิ้มย่องที่เจ้านายกับตฤณจะอยู่เย็นด้วยกันตามลำพัง แต่เวลาเลิกงานก็เหมือนเวลาพักการจิ้นสำหรับเธอด้วย หญิงสาวโกยแน่บออกไปทันทีที่พูดจบ ทิ้งตฤณไว้กับอาหารสองจานในถาด
“อะไรจะรีบขนาดน้าน... อ้าว ผู้จัดการ” ชายหนุ่มผิวสีน้ำผึ้งเอ่ยทักร่างโปร่งที่เดินออกมาจากห้องพร้อมหนังสือเล่มหนาสองสามเล่มในมือ “คุณหลินชิ่งกลับบ้านไปแล้วล่ะครับ อาหารก็อยู่ที่นี่แล้ว เรากินกันก่อนค่อยกลับไปทำงานต่อนะครับ”
“โอเค งั้นเอาเข้าไปวางบนโต๊ะเล็กหน้าโซฟาเลย”
ทั้งสองจัดการกับอาหารเย็นกันอย่างรวดเร็วด้วยความหิว ใช้เวลาไม่ถึงสิบนาทีก็เกลี้ยงจานแล้ว
“โอย เวลาหิวๆ นี่อะไรก็อร่อยแฮะ” ตฤณพึมพำ “นี่ขนาดเพิ่งเริ่มโพรเจกต์ยังยุ่งขนาดนี้ ต่อไปคงจะยิ่งแย่นะครับ”
“...โพรเจกต์นี้มีรายละเอียดเยอะมาก แต่ก็น่าสนุกดีเหมือนกัน ผมเพิ่งเคยทำงานเป็นทีม แถมยังใหญ่ขนาดนี้เป็นครั้งแรก”
หือ? ร่างสูงเลิกคิ้วขึ้นด้วยความประหลาดใจ ก็นี่เป็นครั้งแรกที่เจ้านายเปิดใจคุยกับเขา “ปกติแล้วผู้จัดการออกไซต์งานเดี่ยวๆ เสมอเลยเหรอครับ”
“อือ... ที่บริษัทเก่าของผม เราต้องออกไซต์งานและทำงานตามกำหนดการ เมื่อเสร็จแล้วก็ต้องกลับทันที เวลาที่ใช้ในการเซอร์วิสลูกค้านั้นจะเอามาคำนวณรวมกับประสิทธิภาพในการทำงานด้วย”
“โห... โหดจัง มันก็ดีนะครับ แต่ผมชอบระบบการทำงานของที่นี่มากกว่า... สำหรับที่นี่ ถึงพวกเราจะแบ่งกลุ่มออกไปตามสาขาย่อย แต่เราก็เหมือนว่าทำงานไปด้วยกันตลอดเวลา” ...ตฤณเริ่มจะเข้าใจเจ้านายของตนมากขึ้น เพราะสังคมกับที่ทำงานเก่าสินะ ที่ทำให้อีกฝ่ายดูไร้มนุษยสัมพันธ์ ใบหน้าดูไร้อารมณ์และเย็นชาแบบนี้
“...ไปทำงานต่อกันเถอะ” ร่างโปร่งลุกขึ้นแล้วเดินนำออกไปยังห้องแล็บอีกครั้ง
บรรยากาศระหว่างทั้งสองหนุ่มดีขึ้นทีละน้อย ตฤณไม่ได้รู้สึกหมั่นไส้หรือไม่ชอบขี้หน้าเจ้านายเหมือนในตอนแรก ส่วนนภเกตน์เองก็เริ่มเปิดใจ และเป็นมิตรกับผู้ช่วยของตนมากขึ้น อะไรๆ ก็เหมือนจะดีขึ้น จนกระทั่งพวกเขากลับเข้าไปภายในห้องแล็บ
“อาห์ อาห์ อื้ม...”
“ซี้ด เอาอีก... อีกก... แรงๆ”เสียงและภาพเคลื่อนไหวของ ผู้ชาย ที่ร่างกายเปลือยเปล่าสองคนกำลังเฟียเจอริ่งกันนัวเนียและเมามันจากจอมอนิเตอร์บนแล็ปท็อปของตฤณทำให้สองหนุ่มชะงัก
ดวงตากลมเบิกโพลง ริมฝีปากสีแดงสดอ้าค้าง ชายหนุ่มผิวขาวรู้สึกเสียววาบตั้งแต่ร่องสะโพกแล่นริ้วขึ้นมาถึงก้านสมอง เขาถึงกับเบลอไปชั่วขณะ
“เฮ้ย!” ตฤณร้องลั่น
“คุณตฤณ!!!” แต่วินาทีนี้นภเกตน์ร้องดังกว่า “คุณเปิดดูอะไรในที่ทำงานเนี่ย!”
“เฮ้ย! ผมไม่ได้เปิดนะ!” ร่างสูงปราดเข้าไปปิดคลิปวิดีโอนั้นพร้อมกับนึกด่ารุ่นน้องสุดที่รักอยู่ในใจ... ไอ้หมีภูหน้ามึน ส่งอะไรของเอ็งมาวะ ไอ้เขาก็ดันตั้งค่าเอาไว้ว่าเมื่อโหลดคลิปเสร็จแล้วให้เล่นเองอัตโนมัติซะอีกด้วย
“ผมบอกคุณแล้วใช่มั้ยว่าอย่าทำรุ่มร่ามในที่ทำงาน! ฮื้ย! พอกันที!” ร่างโปร่งหมุนตัวกลับ แล้ววิ่งปรู๊ดออกจากห้องแล็บไปทันที
“เฮ้ย! ผู้จัดการ! คุณจะไปหน้ายยยยย!” ตฤณวิ่งตามไปติดๆ
ใบหน้าสวยเปลี่ยนเป็นสีแดงก่ำ ภาพและเสียงแสนจะอะเมสซิ่งที่เพิ่งเคยเห็นเป็นครั้งแรกยังคงตราตรึง ชวนให้หวาดเสียวอย่างบอกไม่ถูก ซ้ำยังทำให้เขานึกย้อนไปถึงไอ้ลูกค้าบ้ากามสมัยที่ตนยังทำงานอยู่อเมริกา ที่จู่ๆ ก็เข้ามาจับก้น กอดแล้วจูบ ก่อนที่จะโดนเขากระทืบจนแทบจมมิดลงไปใน raised floor (พื้นยกระดับสำหรับเก็บเคเบิล)
“ผู้จัดการเข้าใจผมผิดแว้ววววว”
นภเกตน์วิ่งกลับเข้าไปในห้องทำงาน ระหว่างทางก็ตบๆ ตามตัวเพื่อค้นหาโทรศัพท์มือถือไปด้วย แต่สักพักก็นึกขึ้นได้ว่าก่อนหน้ามีโทรศัพท์เข้ามา เมื่อคุยเสร็จแล้วเขาเลยวางโทรศัพท์ทิ้งไว้บนแล็ปท็อปในห้องแล็บ ชายหนุ่มผิวขาวจึงตรงไปยังโต๊ะของตนแล้วคว้าหูโทรศัพท์ขึ้น
แกร็ก! ร่างสูงถลาเข้ามากดตรงที่วางหู
“คุณจะโทรไปไหน!”
มือขาวข้างที่ว่างผลักไหล่กว้างออกเต็มแรง “ถอยไป! ผมจะต้องรายงานความประพฤติของคุณกับอาพีรพัฒน์!”
“เฮ้ย! เดี๋ยวก่อน เรื่องเมื่อกี้ผมอธิบายได้!”
“ผมบอกคุณแล้วใช่มั้ย ว่าคุณจะชอบผู้ชายหรืออะไรผมไม่ว่า แต่อย่าทำรุ่มร่ามในที่ทำงาน!” นภเกตน์ตะโกนลั่น
ชิบ! นี่เจ้านายยังคงปักใจเชื่อว่าเขาชอบผู้ชายไม่เลิกอีกเหรอวะเนี่ย “ผมไม่ได้....” เขาเถียงพลางจับข้อมือขาวไว้แน่น
“อื๊ยยย! ปล่อยนะเว้ย! ไอ้เกย์ถึก! ไอ้หน้าเหี่ยว!”
เกย์... ถึก... หน้าเหี่ยว... คำพูดของผู้เป็นนายก้องสะท้อนยู่ภายในหูของตฤณ ส่งผลให้เขาเริ่มจะมีน้ำโหขึ้นมาบ้าง
“คุณฟังผมก่อนเซ่ ไอ้คลิปนั่นน่ะ มีคนส่งมาให้ดูขำๆ เท่านั้น!”
แต่ร่างโปร่งยังคงไม่ยอมฟังอะไร เขาสะบัดข้อมือแรงๆ ให้หลุดจากการเกาะกุม “ปล่อย! ผมไม่ได้มีรสนิยมแบบคุณ ผมไม่ขำด้วยหรอก!”
“ผู้จัดการ! ฟังผมก่อน! ผมไม่ได้เป็นเกย์นะ!”
“อย่ามาโกหก! ผมเห็นนะ คุณชอบลวนลามลูกน้อง! แล้วผู้ชายที่ไหนเขาดูคลิปแบบนั้นกันฮะ!!”
“คุณจะบ้าเหรอ! ผมไปลวนลามใครตอนไหน!” ชายหนุ่มผู้ถูกกล่าวหาชักจะหัวเสีย ไม่แพ้เจ้านายของตนเช่นกัน
“ปล่อยสิเว้ย!” ยิ่งนภเกตน์ตะโกนและออกแรงสะบัดมากเท่าไร ก็ดูเหมือนว่าอีกฝ่ายจะบีบรัดข้อมือเขาแน่นมากขึ้นเท่านั้น
เปรี๊ยะ (เสียงสติแตก)
ตฤณฉุนหนัก ก็ไอ้เจ้านายหน้าจืดนี่ พูดกันดีๆ ไม่รู้เรื่องเลยนี่หว่า! มือหยาบที่พันธนาการข้อมือขาวไว้แน่นหนาเริ่มเกร็งจนสั่นระริกตามอารมณ์ที่พลุ่งพล่านของผู้เป็นเจ้าของ
“อื้อ! เจ็บนะเว้ย! ไอ้เกย์กลิ่นหืน!”
...โว้ย! ทำไมยัดเยียดความเป็นเกย์ให้กูจังวะ! อยากให้เป็นนักใช่มั้ย ได้! ตฤณจัดให้!
“อ๊ะ! โอ๊ย!”
มือใหญ่จับข้อมือทั้งสองข้างของนภเกตน์ไพล่หลัง แล้วกดอีกฝ่ายให้หมอบลงกับโต๊ะ ก่อนจะโน้มลำตัวกดทับเจ้านายไว้ใต้ร่าง พลางกระซิบชิดใบหูขาว “แหม ผมอุตส่าห์พยายามปิดบังแทบตาย คุณนภเกตน์ก็ดันมารู้ความลับของผมเข้าจนได้ อย่างนี้ผมคงต้องทำอะไรสักอย่างเพื่อปิดปากคุณซะแล้วสิ” พร้อมกับพ่นลมหายใจแรงๆ รดต้นคอขาว
ได้ผล... นภเกตน์ชะงักไปชั่วครู่ด้วยความตกใจ ก่อนจะร้องลั่น “ว้ากกกก! ปล่อยนะเว้ย! คุณจะทำอะไร!” ...เจ็บแสนเจ็บ จะดิ้นก็ดิ้นไม่หลุด ตฤณตัวโตกว่าเขามาก มือใหญ่แน่นแข็งแรงยังกับโซ่ ตัวก็หนักบวกกับแรงกดไม่ใช่น้อย ร่างโปร่งจึงถูกตรึงไว้นิ่ง “ผมจะให้อาพีรพัฒน์ไล่คุณออก ไอ้... ไอ้...”
“จะไล่ผมออกเลยเหรอครับ หึ... ทำได้ก็เอาซิ” ตฤณค่อยๆ ปลดเนกไทของอีกฝ่ายออก แล้วเอามามัดข้อมือทั้งสองข้างไว้ด้วยกัน จากนั้นก็แหวกเสื้อสูทออก พร้อมกับเลื่อนมือไปปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตทีละเม็ด
ใบหน้าสวยซีดเผือด เขาถามออกไปเสียงสั่น “คุณจะทำอะไร! อุ๊บ!”
ตฤณจับคางมนให้หันมาทางตนแล้วประกบปิดริมฝีปากที่เผยอต่อว่าตนเสียงแหว ขณะเดียวกันมืออีกข้างหนึ่งก็ล้วงหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมากดถ่ายรูป
แช้ะ แช้ะ แช้ะ
เรียวปากหยักไล้ไปตามลำคอระหง ผ่านไปยังหัวไหล่ พร้อมกับถ่ายรูปไว้เป็นระยะๆ
“อื้อ! ปล่อย ไอ้บ้า! ไอ้แมวลอบกัด!”
ร่างสูงปล่อยคนใต้ร่างให้เป็นอิสระในที่สุด “หึหึ... เป็นไงครับ ยังมีฤทธิ์อยู่อีกมั้ย อืม... รูปถ่ายออกมาดูดีเลยนะเนี่ย ถ้าผมส่งร่อนไปทั้งบริษัท จะเป็นยังไงนะ... คุณนภเกตน์ หลานชายท่านประธานพีรพัฒน์... เป็นคู่เกย์กับผู้ช่วย...”
นภเกตน์เงยหน้าขึ้นพรวด “ไอ้...!”
“อ๊ะๆ ผมว่าเรามาตกลงกันดีๆ ดีกว่านะครับ” ตฤณยิ้มกริ่ม
ฟันซี่เล็กกัดลงบนริมฝีปากอิ่มจนห้อเลือด... โดนขโมยจูบยังไม่พอ เขายังอยู่ในสภาพที่ดูทุเรศสุดๆ แล้วยังรูปถ่ายพวกนั้น... นัยน์ตาสีน้ำตาลจ้องมองผู้ช่วยของตนอย่างเคียดแค้น
“คุณต้องการอะไรจากผม!”
“ก็ไม่มีอะไรมาก... ผมขอแค่คุณนภเกตน์ไม่พูดเรื่องผมเป็นเกย์กับใครเด็ดขาด”
“....”
“ว่าไงครับ”
“เออ! เข้าใจแล้วน่ะ เราเจ๊ากันไปก็ได้”
ร่างสูงยิ้มมุมปาก ซึ่งเป็นรอยยิ้มที่อีกฝ่ายไม่ชอบใจเอาเสียเลย “ถ้าคุณเหยียบความลับของผมไว้มิด ผมก็จะไม่ปล่อยให้รูปพวกนี้หลุดไปให้ใครเห็น ตกลงตามนี้นะครับ”
นภเกตน์กำมือแน่น อยากจะกระโดดเข้าไปขยุ้มคอคนตรงหน้าแล้วต่อยแรงๆ “.....”
“เอาล่ะ ดูนะครับ” ตฤณยื่นโทรศัพท์ให้อีกฝ่ายดู เขาใส่อีเมลของตนลงไปกับของนภเกตน์ “ผมจะส่งก๊อบปี้รูปพวกนี้ไว้ให้คุณดูเล่นด้วย... ส่วนอีกเมล... จะถูกแอ็กทิเวตแล้วส่งไปทั่วบริษัททันทีที่คุณผิดข้อตกลงกับผม”
ร่างโปร่งโกรธจนตัวสั่น แต่ก็ทำอะไรไม่ได้ ถ้าจะให้คนอื่นๆ เห็นรูปเขาจูบกับผู้ช่วยที่เป็นผู้ชาย เขาขอยอมตายดีกว่า “รู้แล้วน่ะ แล้วจะแกะมือผมที่มัดไว้ได้รึยัง”
“คุยกันง่ายๆ แบบนี้ค่อยยังชั่วหน่อย” มือหยาบเอื้อมไปปลดปมเนกไทออก “ถ้างั้นเรากลับไปทำงานต่อกันเถอะครับ”
ทันทีที่ข้อมือหลุดจากพันธนาการ นภเกตน์ก็รีบยกขึ้นดู ข้อมือทั้งสองข้างมีรอยมัดสีแดงชัดเจนซึ่งเกิดจากตอนที่เขาออกแรงดิ้นและกระชาก เสื้อผ้าก็หลุดลุ่ย มือขาวรีบจัดเสื้อผ้าให้เข้าที่ ก่อนจะเดินนำออกจากห้องไปอย่างกระแทกกระทั้น
สีหน้าตื่นๆ ของเจ้านายทำให้ตฤณลอบหัวเราะ “หึหึ... ก็สนุกดีเหมือนกันแฮะ”
TBC~*
อ้าว พี่ตฤณ หน้าซื่อๆ ทำไมทำกันด้ายยยยย คุณนภแย่แล้วซี...
ฮรือออ... รอนานกันมั้ยคะสำหรับนิยาย นิสรีนกับเงาจันทร์ยังไม่ได้ลงตอนใหม่ เพราะชีวิตกำลังเฟลจัด...
หลายคนคงรู้แล้ว ว่ามีบล็อกหนึ่งก๊อบนิยายของฮัสกี้ไป เรื่องตะวันเคียงเดือนทั้งเรื่องกับนิสรีน
โกรธมาก โมโหมาก เสียใจมาก เฟลมาก... ทำไมคะ ทั้งที่ลงนิยายให้อ่านได้เป็นประจำ ยังไม่พออีกเหรอคะ ทำไมจะต้องก๊อปไปแปะไว้ที่บล็อกของคุณ โดยที่ไม่ใส่ชื่อคนเขียน ก๊อปไปแม้กระทั่งปกนิยาย ถ้าหากคุณได้กลับมาอ่าน มาเจอข้อความนี้ ฮัสกี้ขอร้องให้คุณลบนิยายของฮัสกี้ออกจากบล็อกของคุณด้วยค่ะ
นิยายทุกเรื่องของฮัสกี้ ไม่อนุญาตให้นำไปโพสต์ที่อื่น นอกจากฮัสกี้นำไปโพสต์เอง ฮัสกี้ตั้งใจและใช้เวลาเขียนแต่ละเรื่องนานหลายเดือน นิยายทุกเรื่องฮัสกี้รักมากค่ะ ยินดีแบ่งปันให้กับทุกคนได้อ่านเสมอ ขออย่าให้ฮัสกี้ต้องหยุดเขียนเพราะความเห็นแก่ตัวของคนบางคนเลย
#ร้องไห้หนักมาก
สุดท้าย ขออภัยที่บ่นยาว ไม่ได้ตั้งใจทำให้ทุกคนรู้สึกไม่ดีค่ะ ขอบคุณที่แวะมาอ่านพี่ตฤณกับน้องนภนะคะ