06
[/b]
“ ทำไมวันนี้กลับเอาซะมืดเลยล่ะสัส ” เสียงของรูมเมทร่วมห้องเอ่ยทักขึ้นมา วันนี้รูมเมทผมอยู่ห้องด้วยแหะ ปกติตอนนี้มันยังไม่กลับหรอก มันต้องทำงานอยู่ที่สตูคณะมัน
ไอ้ “ กิ๊ก ” เรียนอยู่คณะสถาปัตครับ มันเรียนออกแบบพวกกราฟฟิกนี่แหละ แต่ไม่ใช่ถาปัตหลัก
วันแรกที่เจอกันตอนมาอยู่หออดตกใจกับความสูงของมันไม่ได้ มันสูงพอๆกันกับพี่เอ็มเลยครับ แต่ตัวมันจะผอมกว่าพี่เอ็ม รูปร่างสูงโปรงผิวออกขาวเหลือง จมูกโด่งเป็นสัน ดูท่าว่าจะโด่งกว่าพี่เอ็มด้วยซ้ำ ริมฝีปากมันดูอวบอิ่มเหมือนของผู้หญิงเลยครับฮ่าๆ
ผมชอบมองบ่อยๆ กิ๊กมันเป็นคนไม่ชอบออกกำลังกาย ผมเคยชวนมันไปที่ยิมมันก็ชอบบ่นนู้นนั้น อ้างทำงานบ้าง แต่ไอ้ที่เห็นว่าชอบแน่ๆนี่คือร้านเหล้าครับ ถ้าเอ่ยปากชวนขึ้นมานี่ มันไปแน่ๆ
ผมโยนกระเป๋าสะพายลงบนเตียงก่อนจะเดินไปดูมันทำงานที่โต๊ะคอม
“ ทำงานนิดหน่อย ” ผมตอบกลับคำถามมันที่ถามไปเมื่อกี้ เฮ้อใครมันจะไปกล้าบอกล่ะว่าโดนคนที่ตัวเองรักใช้ให้ไปร้องเพลงให้แฟนเก่าเขาคนนั้นฟังน่ะ เหอะ
ถ้าจะถามว่าผมทำใจไหวเหรอหลังจากออกมาจากห้องพี่เอ็มแล้ว .. ... ผมทำใจสักพักอยู่ที่ร้านกาแฟใกล้ๆหอก่อนจะขึ้นมา ผมถึงได้ขึ้นมามืดนี่ไงครับ
ถามว่าเจ็บไหม มันก็เจ็บ เหนื่อยท้อบ้างรึเปล่า ผมก็คงตอบว่าใช่ ผมเหนื่อยผมท้อ ผมอยากลืมๆไปซะว่าเคยรักเขา ผมอยากถอยห่าง
แต่เพียงแค่พี่เอ็มเรียกหา ผมก็พร้อมจะเดินกลับไปหาเขาแล้วส่งยิ้มให้เหมือนเดิม . .
ผมก็เคยคิดนะว่า . . ถ้าอยู่ๆพี่เอ็มก็มีคนคุยด้วยคนใหม่ มีแฟนใหม่ จะทำอย่างไง ผมจะทำอย่างไร
ผมจะยืนอยู่เฉยๆ ส่งยิ้มโง่ๆแล้วดูเขาสองคนรักกันอย่างนั้นเหรอ ผมจะกลับมายืนดูตรงจุดเดิมแบบนั้นเหรอว่ะ แบบที่ผมเคยมองพี่เอ็มกับพี่เฮนแบบนั้นเหรอ
ผมอยากมีความกล้าที่จะบอกเขา .. บอกว่าผมรักพี่ และคอยเฝ้ามองพี่มาตลอด
แต่ผมก็แค่อยาก ..
ผมจะไปเอาความกล้าแบบนั้นมาจากที่ไหนล่ะครับ . มันเสี่ยง .... เสี่ยงที่ความสัมพันธ์แบบพี่น้องที่ยืดยาวกว่าจะหายไป
การที่แอบรักแอบชอบใครสักคนแล้วเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นกับตัวเอง .. . . .. ผมว่ามันเป็นตลกร้ายสำหรับผมจริงๆ
“ แอบส่องสาวรึส่องหนุ่มครับมึงงงงงง ” น้ำเสียงทะเล้นกึ่งแซวเอ่ยล้อผม ไอ้กิ๊กมันก็รู้ครับว่าผมรักพี่เอ็ม ก็ตอนช่วงพี่มันอกหักนั้นแหละที่ผมคอลไปบ้าง บางครั้งพี่ก็คอลมาบ้างจนผมหลุดเล่าเรื่องของผมไปให้มันฟัง มันก็ให้กำลังใจผมดี และไอ้กิ๊กมันก็บอกอีกว่า
“
ถ้ามันมากเกินไป หยุดก็ได้นะเว้ยมึง ความรักมันสวยงามก็จริง แต่ยิ่งยื้อเวลาออกไปมันก็ยิ่งเจ็บ จากความสวยงามที่เคยมองหา มันจะไม่เหลืออะไรอีกเลย ”
คำพูดที่มันเคยพูดกับผมกลับเข้ามาอีกครั้งในหัววันนี้ ซ้ำไปซ้ำมาเหมือนกดรีเพลย์ซ้ำๆ
“ กูไม่ใช่มึงนะเว้ย จะได้ชอบไปส่องสาว ” ผมแซวมันกลับ มันไม่ได้ตอบอะไรกลับมาอีกเพียงแค่ไหวไหล่เบาๆเท่านั้น
ผมยกมือขยี้ผมมันแรงๆจนฟูแล้วเดินกลับมาที่เตียง ทิ้งตัวนอนแผ่กลางเตียง ทั้งเบื่อทั้งเซ็งโว้ยยยย !
“ ติ๊ง ” ไลน์ : พี่บิ๊ก / สู้เว้ยมึง วันนี้แค่ไม่ใช่วันของมึงอย่าพึ่งท้อ !ผมเปิดอ่านไลน์ที่พี่บิ๊กมันส่งมาแล้วก็นึกขำ ถ้าคิดในแง่ดีแบบพี่บิ๊กก็คงแบบนั้นล่ะมั้ง
แค่วันนี้
ไม่ใช่วันของผมก็เท่านั้นเอง ผมกดปิดโทรศัพท์เพื่อตัดขาดจากโลกโซเชี่ยว แค่คืนเดียวก็ยังดีที่ผมไม่ต้องไปเปิดเจอสเตตัสที่พี่เอ็มโพสถึงแฟนเก่าพี่เขา
“ เพียงพอแล้วถ้าได้มีเธออยู่ใกล้ๆ ได้ยินเสียงได้คอยดูแลอยู่ไม่ไกล ”
เสียงร้องเพลงแทนนาฬิกาปลุกประจำห้องเริ่มดังขึ้นเรื่อย เจ้าตัวยังคงอ้าปากร้องปาวๆ ไอ้กิ๊กมันนึกคึกอะไรร้องเพลงแต่เช้าเลยว่ะแม่ง
ผมนอนมองร่างมันที่ตอนนี้ดูท่าแล้วเหมือนจะแต่งตัวออกไปไหน
“ ตื่นได้แล้วไอ้เชี่ย สายล่ะนะมึง เออวันนี้มึงออกไปถ่ายรูปเป็นเพื่อนกูหน่อยดิ ”
“ ไม่ไปได้ป่าวครับมึงงงงงงงงงงง กูง่วงจะตายห่า ”
ผมบ่นแล้วทำท่าจะนอนต่อดึงผ้าห่มคลุมโปงขึ้นอีกครั้ง
“ มึงนอนตั้งแต่สามทุ่ม ง่วงบ้านมึงดิครับ ” ไอ้กิ๊กแม่งย้อนผมครับ สามทุ่มก็ง่วงได้โธ่ๆ
“ มึงนี่ไม่รู้อะไรไอ้กิ๊ก กูนี่นอนสิบห้าชั่วโมงอย่างต่ำ ”
“มึงนอนหรือซ้อมตาย” ผมโดนไอ้กิ๊กตอกกลับมาอีกรอบ เจ็บแสบจริงๆเพื่อนกู
“รีบตื่นแล้วไปอาบน้ำไปแม่ง เร็วๆ เดี๋ยวกูเลี้ยงน้ำปั่น ควิกลี่ๆครับมึง ”
“กระแดะใช้ภาษาอังกฤษ โถ่ๆ ” ผมขยับตัวลุกขึ้นนั่งบนเตียงดีๆก่อนจะลุกออกจากเตียงไปหยิบผ้าเช็ดตัวที่แขวนไว้บนราว อย่าหาว่าเห็นแก่กินเลย นานๆทีมันจะเลี้ยงผมอ่ะนะ ฮ่าๆ
ก่อนที่ผมจะได้ก้าวขาเข้าห้องน้ำเพื่อไปทำธุระส่วนตัวเสียงของรูมเมทตัวดีก็เอ่ยเรียกผมอีกครั้ง
“ เฟรน มึงยังจะพยายามเรื่องพี่เอ็มอยู่อีกป่ะว่ะ ”
ผมหันหน้ากลับไปหาไอ้กิ๊กทันทีที่มันพูดเรื่องพี่เอ็ม
“ ทำไมว่ะมึง แล้ว .. ถ้ากูบอกว่ากูจะพยายามอีกล่ะ ”
“ กูก็ไม่ได้ว่าอะไร ก็กูเห็นเหมือนคืนพี่เอ็มของมึงมันโพสตัสว่ะ ว่าโสดทำนองนี้แหละ ”
“ ก็เรื่องของพี่มันเหอะขี้เกียจจะใส่ใจ ” ผมหันหน้ากลับมือกำลังคว้าลูกบิดประตูห้องน้ำ แต่รูมเมทปากดีก็ยังส่งเสียงท้วงผมอีกครั้ง
“ ขอถามอีกอย่างนะเว้ยมึง
พอใจแค่ไหนว่ะที่เป็นได้แค่พี่น้องแบบนี้ ถ้ามึงเสี่ยงพูดออกไปก็แฟร์ดี ถ้ามันเจ็บก็ให้เจ็บไปเลยคราเดียว ถ้ามันสุขก็ให้มันสุขสุดๆไปเลยดิว่ะ กูเห็นแบบนี้แล้วอึดอัดแทนชิบหาย ”
ผมพูดขึ้นทั้งๆที่ไม่ได้หันไปมองหน้ามัน
“ กูไม่กล้าบอกพี่เอ็มหรอกมึง ”
“
แล้วมึงจะรอให้หมามันคาบไปกินก่อนมึงว่ะ อยู่ใกล้แค่นี้จะทำอะไรก็ทำเลย ให้รู้กันไปเลยว่าสุดท้ายแล้วผลที่ออกมาจะเป็นอย่างไง มึงคิดว่ามึงจะทนสภาพแบบนี้ไปได้อีกนานแค่ไหนกันล่ะ กูไม่พูดยุมึงล่ะ มึงไปอาบน้ำไปๆ เดี๋ยวแสงหมดกันพอดี ไม่ต้องถ่าย ”
คำพูดของไอ้กิ๊กมันวนเวียนอยู่ในหัวผมหลายวันเลยทีเดียว บางครั้งตอนผมเผลอหรือเหม่อคำพูดพวกนี้ที่ผมอยากจะลืมๆไปก็กลับมา
พร้อมทั้งภาพในช่วงเวลาที่ผมอยู่กับพี่เอ็มก็ไหลเวียนเข้ามาอีกครั้งเรื่อยๆไม่รู้จักจบสิ้น
นี่ก็ผ่านมาหลายวันจนเกือบจะเป็นอาทิตย์อยู่แล้วล่ะครับ ที่ผมไม่ได้คุยกับพี่เอ็มแบบจริงๆจังเหมือนเดิมซักที ได้แต่ถามคำตอบคำ พี่มันก็เหมือนจะชวนคุยนั้นแหละครับแต่กลับกลายเป็นผมเอง ที่ตอบแบบสั้นๆกลับไป
ก็เพราะบางครั้งเรื่องที่พี่เอ็มชวนคุยก็เป็นเรื่องสาวๆที่กลับมาหาพี่เอ็มบ้าง . . ก็โสดแล้วนี่เนาะสาวๆก็กลับมาหาพี่เขาเยอะแยะ บางครั้งผมก็เห็นพี่เอ็มไปกินข้าวกลางวันกับผู้หญิงบ่อยๆในช่วงนี้
มันอาจจะเป็นเรื่องบังเอิญที่ผมไปกินข้าวที่โรงอาหารนั้นพอดี แต่เปล่าเลย
ผมจงใจต่างหาก ผมไปกับพี่บิ๊กบ้าง บางครั้งก็ไปกับเพื่อนในคณะ เพื่อที่จะได้เจอหน้าพี่เอ็มบ้าง แค่แปปเดียวก็พอ แต่สิ่งที่ได้กลับมาทำเอาตกใจ มากๆเลยทีเดียว บางครั้งที่ไปเจอหรืออาจจะเดินสวนกันผมกับพี่เอ็มก็ได้แต่ยิ้มทักทายกันเท่านั้น ไม่ได้เข้าไปพูดคุยเหมือนแต่ก่อน
อาจจะเป็นเพราะผมเองที่ทำตัวห่างออกมาอีกก้าว
หรืออาจจะเป็นที่พี่เอ็มเองก็กำลังหาใครบางคนเข้ามาแทนที่พี่เฮนอยู่ก็ได้ เขาก็คงต้องการผู้หญนิงนิสัยดีน่ารักคนนึงที่พร้อมจะจริงใจกับเขานั้นแหละ ใครๆก็ต้องการคนแบบนี้ใช่มั้ยล่ะครับ
1 อาทิตย์ผ่านไป
จากที่เคยมีข้อความคุยกลับไปมากลับขาดช่วงไป . . กลายเป็นว่าตอนนี้ผมกับพี่เอ็มนั้นไม่ได้คุยกันเลย เจอหน้ากันผมยิ้มส่งไปแต่พี่เอ็มกลับมีสาวสวยเดินอยู่ข้างกาย พวกเขาทั้งสองคนดูเหมาะสมกันจริงๆครับ
แรงบีบจากจากคนข้างตัวผมทำให้ผมกลับมามีสติอีกครั้ง พี่เอ็มกับผู้หญิงอีกคนกำลังเดินผ่านหน้าผมไป ทั้งคู่คุยกันอย่างอารมณ์ดี ทั้งหัวเราะทั้งส่งยิ้มให้กัน
ผมหันหน้าไปหาไอ้กิ๊กที่บีบไหล่ผมเบาๆเป็นเชิงปลอบ ผมสบตากับมันที่ตอนนี้ขอบตาผมเริ่มร้อนผ่าวผมกระพริบตาถี่ๆเพื่อเรียกสติให้อยู่กับตัวมากที่สุด
แค่ตอนนั้นเห็นพี่เอ็มอยู่กับพี่เฮนยังไม่เป็นไรเลยเฟรน
แล้วทำไมตอนนี้ถึงเป็นแบบนี้ล่ะว่ะ
พี่เอ็มกับผู้หญิงคนนั้นไม่ได้เป็นอะไรกันซักหน่อย . ...
พี่เอ็มเขาก็แค่คุยกับผู้หญิงคนอื่น .. เปิดใจให้คนอื่น . ... แล้ว
ถ้าผมมีความกล้ามากกว่านี้ก็คงจะดีซินะ ผมจะได้บอกพี่เอ็มไปเลยว่ารู้สึกอะไรอยู่
เสียงของคนกายพูดออกมาตอนผมจมอยู่ในห้วงความคิด ประโยคที่ไอ้กิ๊กมันพูด ดึงผมกลับมาอีกครั้ง
“ กูบอกมึงแล้วไงว่าจะรออะไร เห็นไหมสัส
หมามันคาบไปแดกแล้ว เป็นไงล่ะมึง เหวอเลยดิ อึ้งเลย เป็นไงล่ะพี่เอ็มของมึงน่ะ เขาเปิดใจให้คนอื่นแล้ว มึงทำอะไรกับความรักของมึงได้บ้าง นอกจากส่งยิ้มโง่ๆให้พี่มันหน่ะ ”
คำพูดของไอ้กิ๊กที่ออกมาจากปากมันนั้น ผมไม่โกรธหรอกก็ที่มันพูด .. เป็นเรื่องจริงทุกอย่างนี่ครับ
ผมไม่กล้าพอเองที่จะพูดออกไป แล้วผมจะมาเศร้าทำไมในเมื่อไม่มีสิทธิ์อะไรสักนิดในตัวของพี่มันเลย
มือบางของคนข้างตัวยกขึ้นมาลูบหัวผมเบาๆ .. ผมได้ยินเสียงถอนหายใจหนักๆของไอ้กิ๊กมันออกมาด้วยแหละครับ ผมรู้ที่มันว่าผมมากมายขนาดนี้ก็เพราะว่ามันห่วงผม
ห่วงคนที่ไม่กล้าจะทำอะไรเลยเพื่อความรักของตัวเอง ผมยกมือขึ้นเสยผมตัวเองแล้วหยิบโทรศัพท์เครื่องบางออกมาจากกระเป๋า กดเข้าแอพแชทที่คนทั่วๆไปเขานิยมใช้กัน
.. ผมไม่อยากให้โอกาสมันหลุดลอยไปต่อหน้าต่อตาอีกแล้ว ผมอยากทำอะไรเพื่อความรักของผมบ้าง
หน้าจอแสดงบทสนทนาระหว่างผมกับพี่เอ็มเมื่อ 1 อาทิตย์ก่อนหน้านี้ ที่มีแค่ผมที่ส่งไปแล้วพี่เอ็มอ่านไม่ตอบ
ผมไล่สายตามองประโยคที่ผมพิมพ์ขึ้นมาก่อนจะตัดสินใจกดส่ง โดยที่มีไอ้กิ๊กยืนมองผมอยู่เหมือนไม่เข้าใจว่าผมจะทำอะไร
“ พี่เอ็ม ”
“ ผมชอบพี่ครับ ”
======================================================================
มาแล้วนะตัวเธอออออออออออ เรามาแล้ว ขอโทษน้าช่วงนี้เนื่อจากใกล้ปิดเทอมแล้วคืองานเยอะและกิจกรรมก็มีบานเบอะเลยเฮ้อ
แต่ก็กลับมาต่อแล้วนะค้าบบบบบบบบบบบบบ คิดถึงพี่เอ็มน้องเฟรนกันมั้ย
ฝากติดตามไปเรื่อยๆเลยน้า อย่าพึ่งทิ้งน้องๆกันเลย ตอนนี้มีตัวละครมาเพิ่มอีกแล้วหู้ย เพิ่มมันทุกตอน 55555555555
ฝากติชมด้วยนะค้า คิดถึงทึกคนเลยฮือ จะกลับมาอัพเร็วๆเลยนะคะเมื่อมีโอกาส
ฝากติดตามพี่เอ็มน้องเฟรนด้วยนะ มารอลุ้นว่าตอนหน้าเมื่อพี่เอ็มเปิดอ่านแชทแล้วอะไรจะเกิดขึ้น
ปล.กลัวคนอ่านไม่ค่อยอินหรือเข้าใจในตัวเฟรนตอนนี้จังเห้อม