บทที่ 12
เปิดเผย
แบงค์พยายามโทรเข้าไปหาพี่ท็อปอยู่เป็นสิบๆสายแต่อีกฝ่ายไม่พยายามแม้แต่จะรับสายเขาสักสายเดียว ทั้งยังไลน์ไปหาก็ไม่ขึ้นว่าอ่านแล้วด้วยซ้ำ เหมือนพี่ท็อปโยนโทรศัพท์ทิ้งหายไปเลย ไม่สนใจการติดต่อทั้งสิ้น
“ทำไมถึงเป็นคนไร้เหตุผลแบบนี้นะพี่ท็อป” แบงค์บ่น รู้สึกอยากจะร้องไห้ ไม่คิดว่าพี่ท็อปจะทำพฤติกรรมแบบนั้นกลางพื้นที่สาธารณะ “พรุ่งนี้มีหวังโดนคนพูดถึงทั้งโรงเรียนแน่เลย” เขาคิด พลางมองนาฬิกาที่ปาเข้าไปตี 1 แล้ว ตั้งแต่กลับบ้านมา เขาก็พยายามโทรติดต่อพี่ท็อป แต่เจ้าตัวก็ไม่มีวี่แววตอบรับอะไร ยิ่งทำให้แบงค์ร้อนใจจนนอนไม่หลับ ต้องคอยลุกขึ้นมาดูโทรศัพท์เป็นระยะๆว่าพี่ท็อปอ่านข้อความแล้วหรือยัง แต่ก็ไม่
เขาลุกๆหลับๆตื่นๆทั้งคืนจนกระทั่งเช้า ด้วยความร้อนใจจึงรีบอาบน้ำและรีบไปถึงโรงเรียนแต่เช้าตรู่
เมื่อไปถึง แบงค์ก็พยายามชะเง้อมองหาพี่ท็อปตลอดว่าเดินผ่านเข้ามาในโรงเรียนรึยัง เพราะปกติเดี๋ยวนี้เช้าๆ พี่ท็อปก็จะแวะมาหาเขาก่อนที่จะไปสมทบกับพี่คาร์พเสมอๆ พอเมื่อวาย่างเข้าช่วงสาย ๆ เกมส์ก็รีบวิ่งมาหาเมื่อมาถึงโรงเรียนด้วยสีหน้าตื่น ๆ
“แบงค์ พี่ท็อปไปก่อเรื่องอะไรที่ร้านนมวะ” เขาพูดขึ้นทันทีที่เจอหน้าแบงค์
“เกมส์รู้ได้ไง?” แบงค์ถามงง ๆ
เกมส์จึงหยิบเอาโทรศัพท์มือถือของตัวเองขึ้นมาแล้วเปิดคลิปที่ชื่อว่า “ลูกอาจารย์ก่อเรื่องในร้านนม” ให้แบงค์ดู
ในคลิปวิดิโอบันทึกเอาทุกอย่างที่เกิดขึ้นเอาไว้หมด ตั้งแต่พี่ท็อปเริ่มโวยวายใส่แบงค์และพี่กาย รวมถึงพฤติกรรมรุนแรงที่ผลักอกพี่กายด้วย “เฮ้ย!!” แบงค์อุทาน “ใครถ่ายเอาไว้แล้วอัพลงยูทูบบ์เนี่ย ตายห่าแล้ว”
“ตอนนี้คงรู้กันทั้งโรงเรียนแล้ว มันแชร์กันตั้งแต่เมื่อคืนแล้วนะ เราโทรไปหานายแต่สายไม่ว่างเลยเลิกโทรไป” เกมส์บอก สงสัยว่าจะโทรเข้ามาตอนที่แบงค์พยายามติดต่อพี่ท็อปแน่ๆ
“เอาไงดีเนี่ย” แบงค์พึมพำ ก่อนที่จะเลื่อนลงดูคอมเมนต์ในเฟซบุคที่แชร์ๆวิดิโอนี้กันในหมู่นักเรียน
<เฮ้ย นี่พี่ท็อปที่ป๊อบๆ ที่อยู่ม.5 นี่หว่า ทำไมทำนิสัยแบบนี้วะ?>
<คิดว่าหล่อแล้วจะทำอะไร ระรานใครก็ได้อย่างงั้นเหรอ แย่ที่สุด>
<เขามีเรื่องกันมาก่อนหน้านี้หรือเปล่า ตอนกีฬาสีอะ>
<ดรัมเมเยอร์สีชมพูปะ คนนั้น>
<หลังๆ ก็เห็นพี่ท็อปชอบไปไหนมาไหนกับดรัมเมเยอร์สีชมพูนะ กิ๊กกันหรือเปล่า>
<แย่งแฟนกันแหงๆ ผู้ชายที่ยืนห้ามอยู่นั่นไง น่าจะเป็นแฟนใหม่>
<ผู้ชายเดี๋ยวนี้ หาแท้ๆยากจังเลย ชะนีเหนื่อยค่ะ เดี๋ยวนี้ถึงขนาดผู้ชายต่อยแย่งผู้ชายกันแล้วเหรอ>
“เฮ้ย เราว่ามันไม่โอเคว่ะ” แบงค์พูด ก่อนจะกดรีพอร์ตวิดิโอไป “ถ้าอาจารย์สายัณห์ได้ดูมีหวังตายกันทั้งเรา พี่ท็อป แหงเลย”
สักพัก เกดและเปิ้ลก็รีบวิ่งเข้ามาสมทบด้วย
“มันเรื่องอะไรกันวะ เห็นแชร์กันตั้งแต่เมื่อคืน พอตื่นมาตอนเช้าเห็นหน้าฟีดแชร์กันใหญ่เลย” เกดถามอย่างสงสัยเมื่อเห็นแบงค์ที่นั่งหน้าตาเครียดๆอยู่
“เมื่อวานมีเรื่องเข้าใจผิดกันนิดหน่อย เราก็งงๆเหมือนกันไม่รู้ไปโมโหใครมา มาถึงก็ระเบิดลงเลย” แบงค์ตอบ
“แล้วที่พี่ท็อปพูดเรื่องสัญญาอะไรกัน แกไปสัญญาอะไรกับพี่เขาเนี่ย ทุกคนเขาจิ้นไปถึงไหนถึงไหนกันแล้วนะ” เปิ้ลถามอีกคน
แบงค์นิ่งเงียบ หลบตาเพื่อนๆ หันไปมองหน้าเกมส์ เกมส์ก็มองหน้าแบงค์แบบกระอักกระอ่วน ไม่รู้จะเสริมหรือพูดอะไรออกมาได้อีก
“เฮ้ย...อย่าบอกนะว่า แกกะพี่ท็อป” เกดและเปิ้ลอุทานพร้อมๆกัน อ้าปากค้างแบบไม่อยากคิดไปเอง
แบงค์พยักหน้าช้า ๆ “อือ อย่างที่พวกแกคิดนั่นแหละ...ก็ตั้งแต่วันที่พี่เขาไปชวนเล่นแบดครั้งแรกแล้ว”
เกดตบบ่าแบงค์อย่างเข้าใจ แต่เปิ้ลยังมีแววของความประหลาดใจอยู่บนใบหน้า “นี่พี่ท็อป เป็น.....”
“เขาเรียกรสนิยมเว้ย อิเปิ้ล อย่ามาบอกว่าใครเป็นอะไรๆเลย แล้วนี่แกจะเอายังไงต่ออะแบงค์ ได้คุยกับพี่ท็อปรึยัง”
“ตั้งแต่เมื่อวานก็ยังติดต่อไม่ได้เลย เอาไงดีวะเนี่ย เดี๋ยวเรื่องถึงอ.สายัณห์เมื่อไร มีหวังตายกันหมดแหง” แบงค์พูด
ตลอดทั้งวันแบงค์และเพื่อนๆก็ยังไม่ได้เจอพี่ท็อปเลย ตัวแบงค์เองในวันนี้ไปไหนมาไหนก็มีแต่คนมองและกระซิบกระซาบกันไปหมด เขารู้สึกอายระคนโกรธที่มีคนถ่ายคลิปเอาไว้แล้วเอามาประจานในเฟซบุค ทำให้เรื่องนี้กระจายไปในหมู่เพื่อนนักเรียน
พี่ท็อปนั้นเหมือนตอนนี้จะปิดโทรศัพท์ไปแล้วและไม่อ่านข้อความใดๆที่แบงค์ส่งไปหาแม้แต่สักข้อความ แบงค์รู้สึกร้อนใจไปหมดแต่ก็ไม่สามารถทำอะไรได้เลย จะวิ่งไปหาพี่ท็อปที่ห้องเรียนก็เหมือนว่าจะยิ่งไปก่อให้ไฟมันยิ่งลุกโชน คิดว่าอยู่นิ่งๆน่าจะดีกว่า
“อย่าไปสนใจคนอื่น เดินๆไป ทำตัวปกติ” เกมส์พูด “ถ้ายิ่งทำตัวประหม่าพวกนั้นจะยิ่งสนใจ” เกมส์บอกมองหน้าแบงค์ที่มองคนกระซิบกระซาบกันอย่างหวั่นๆ “เดี๋ยวคนก็ลืม เชื่อเหอะ”
เมื่อถึงเวลาเลิกเรียน ก็มีเสียงประกาศดังขึ้นแทรกเสียงออดประกาศเลิกเรียน “ประกาศ นายอัครวินท์ เชาวกรกุล ม.5/1 นายเจนภพ รัชตะไพบูลย์ ม.4/5 นายกายสิทธิ์ ศิริโสภณ ม.6/2 เชิญพบอ.ปรีชาที่ห้องปกครองเวลา 15.30 ค่ะ” เสียงประชาสัมพันธ์ดังขึ้นทั่วทั้งโรงเรียน ทุกคนในห้องหันหน้ามามองแบงค์เป็นตาเดียวเมื่อได้ยินเสียงประกาศนี้ แบงค์รู้สึกเหมือนหัวใจหล่นไปอยู่ที่ตาตุ่ม เรื่องทุกอย่างกลายเป็นเรื่องบานปลายอย่างที่ตนคิดจนได้ เขามองไปที่นาฬิกาที่แขวนอยู่หน้าห้อง ตอนนี้ 15.20 นาทีแล้ว ในอีก 10 นาทีเขาต้องอยู่ที่ห้องปกครองและรอรับชะตากรรมที่เกิดขึ้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
เมื่อไปถึงห้องปกครอง อ.ปรีชารออยู่แล้ว พร้อมด้วยเก้าอี้ 3 ตัว ที่รอให้นักเรียนต้นเหตุทั้งสามคนมานั่ง พี่กายมารออยู่ก่อนหน้านี้แล้ว ยิ้มทักทายเมื่อเห็นแบงค์เดินเข้ามาในห้อง อ.ปรีชามองหน้าแบงค์อย่างพินิจพิเคราะห์ “เธอที่เป็นดรัมเมเยอร์สีชมพูปีนี้ใช่ไหม?” อาจารย์ถามขึ้นเมื่อเห็นหน้าของเขา
“ครับ อาจารย์” แบงค์ตอบ ก่อนที่จะนั่งลงที่เก้าอี้ข้างๆพี่กาย
“เป็นไงมั่งแบงค์ เมื่อวานได้คุยกับท็อปอีกไหมหลังเกิดเรื่อง” พี่กายถามขึ้น แต่แบงค์ก็ได้แต่ส่ายหน้า เพราะไม่พี่ท็อปเองก็ไม่ยอมรับโทรศัพท์เขาเลย
“แล้วอัครวินท์ละครับ อาจารย์” พี่กายหันหน้าไปถามอาจารย์ปรีชาที่กำลังชะเง้อมองนอกประตูห้อง
“อ๋อ เดี๋ยวคงมากับพ่อเขานั่นแหละ” อาจารย์บอกสั้นๆ
ไม่ทันขาดคำ พี่ท็อปก็เปิดประตูห้องปกครองผางออกมา สีหน้ายังคงมุ่ยและดูหัวเสียมากๆ คนที่ตามมาคืออาจารย์สายัณห์ที่หอบหนังสือเตรียมการสอนมาด้วย พี่ท็อปโยนกระเป๋าลงที่ข้างเก้าอี้ก่อนจะทุ่มตัวลงนั่งเก้าอี้ข้างๆแบงค์ พลางกอดอก คิ้วขมวดจ้องไปยังอาจารย์ปรีชาที พ่อที
“มากันครบองค์ประชุมแล้วนะ” อาจารย์ปรีชาเริ่ม “พวกเธอน่าจะรู้กันอยู่แล้ว ที่มีภาพวิดิโอทะเลาะวิวาท....”
“พอเหอะครับ อาจารย์ ไม่ต้องพูดเกริ่นแล้ว มีอะไรก็รีบคุยให้จบดีกว่า ผมไม่อยากเสียเวลามาก” ท็อปพูดแทรกขึ้นมา
“ท็อป !! ขอโทษอาจารย์ปรีชาเดี๋ยวนี้” อาจารย์สายัณห์ตะคอกใส่ลูกชาย “พ่อไม่เคยสอนให้ลูกก้าวร้าวแบบนี้นะ”
ท็อปมองหน้าพ่ออย่างเคืองๆ ก่อนที่จะกอดอก นั่งสั่นขา หันหน้าไปมองทางอื่น อาจารย์ปรีชาหันหน้าบุ้ยใบ้ไปทางอาจารย์สายัณห์ว่า ไม่เป็นไร ก่อนที่จะเริ่มพูดต่อ
“งั้นก็สั้นๆเลย มันเป็นการทำลายชื่อเสียงของโรงเรียนมากที่มีวิดิโอแบบนั้นอยู่ในโลกโซเชี่ยล ครูอยากรู้ว่ามันมีสาเหตุมาจากอะไร? ทำไมถึงทะเลาะกัน ใครจะอธิบายให้ครูฟังได้บ้าง พวกเธอจะได้เคลียร์กันด้วย อยู่โรงเรียนเดียวกัน ต้องรักกัน ไม่ใช่ทะเลาะกัน” อาจารย์ปรีชาบอก
พี่กาย เล่าให้อาจารย์ฟังว่า เขาเองแวะมาซื้อนมกลับไปกินที่บ้านแล้วเจอกับแบงค์ จากนั้นก็นั่งคุยกันเรื่องกีฬาสีที่เพิ่งจบไปแล้วก็เรื่องสัพเพเหระตอนรอร้านค้าทำให้ แต่พอท็อปมาเห็นเขาคุยกับแบงค์ก็เกิดความไม่พอใจ โวยวายแล้วก็ลงผลักกันอย่างที่เห็นในวิดิโอ
“แต่พี่ท็อปไม่ได้ผิดนะครับ ผมทำให้พี่เขาเข้าใจผิดเอง เพราะพี่ท็อปยังโกรธที่พี่กายชนะการแข่งปีนี้ แล้วในฐานะที่อยู่สีเดียวกัน พอพี่เขาเห็นผมคุยกับพี่กาย ก็เลยอาจจะไม่พอใจ” แบงค์พูดพยายามแก้ต่างให้พี่ท็อป “เรื่องนี้ผมผิดเองครับ”
ท็อปหันหน้ามามองแบงค์แบบไม่อยากจะเชื่อหูตัวเอง เพราะเรื่องเมื่อวานคนที่ก่อเรื่องและไม่ยอมฟังเหตุผลคือเขา ท็อปเองก็อยากจะขอโทษ แต่รู้สึกว่าศักดิ์ศรีมันค้ำคอเสียจนไม่กล้าพูดคำนั้นออกมา
“อย่าโกหกเลย เจนภพ” จู่ๆ อาจารย์สายัณห์ก็พูดขึ้นมา “ครูรู้มาพักนึงแล้วล่ะ”
แบงค์และท็อปหันหน้าไปมองอาจารย์สายัณห์แบบตกใจ ส่วนอาจารย์ปรีชาและพี่กายก็มองสวนกลับไปแบบงงๆ
“รู้อะไรเหรอ อาจารย์สายัณห์” อ.ปรีชาถาม
“ผมขอคุยกับเด็กสองคนนี้ลำพังได้ไหมครับ อยากให้นายกายกลับไปก่อน เพราะดูจากมูลเหตุแล้วลูกชายผมน่าจะผิดเต็มๆ”
อาจารย์สายัณห์แนะนำ ซึ่งอ.ปรีชาเองก็เห็นด้วย จึงอนุญาตให้พี่กายกลับบ้านไปก่อนได้ เหลือในห้องก็มีแค่อ.ปรีชาด้วยอีกคนที่รอฟังเนื้อความทั้งหมด
“พ่อรู้อะไร” ท็อปถาม รู้สึกกลัวคำตอบจับใจ
“พวกเธอสองคนเป็นอะไรกัน ทำไมพ่อจะไม่รู้ พ่อเป็นพ่อท็อปนะ จะปิดกันไปได้นานสักแค่ไหนกัน แล้วนี่ถึงขั้นพาลไปทะเลาะกับคนอื่นเพราะเรื่องความสัมพันธ์ของแกกับรุ่นน้องนะท็อป ที่ผ่านมาแกคบกับใครพ่อไม่เคยว่า แต่แบบนี้.......ปัญหามันเกิด เห็นไหม?” อ.สายัณห์พูด จ้องหน้าลูกชายเขม็ง
“ทำไมล่ะพ่อ ? ท็อปผิดตรงไหน ท็อปเป็นคน ท็อปก็มีโกรธ มีรัก มีเกลียด เป็นเรื่องปกติของมนุษย์ พ่ออย่ามาเปลี่ยนประเด็นเลยดีกว่า” ท็อปตอบกระชากเสียง
อ.ปรีชามองสองพ่อลูกโวยวายใส่กันอย่างงงๆ ก่อนจะหันหน้ามามองแบงค์ที่นั่งมองทุกคนราวกับจะหาคำตอบได้จากเขา
“แกเป็นลูกอาจารย์ในโรงเรียนนี้นะท็อป ทุกคนรู้จักแก แล้วก็รู้จักพ่อ หัดทำตัวไว้หน้าพ่อบ้างเถอะ เวลาคนอื่นเขารู้ความจริงเข้า พ่อจะเอาหน้าไว้ที่ไหน” อ.สายัณห์ตะคอก
“หน้าของพ่อก็เอาไว้ที่เดิมนั่นแหละ ไม่เห็นจะต้องสนใจ การที่ท็อปจะรักใครมันก็ไม่เกี่ยวอะไรกับพ่ออยู่แล้วแต่แรกนี่ ทีพ่อยังทิ้งแม่ไป แล้วไง? ความรักของพ่อมันก็มีปัญหาเหมือนกันนั่นแหละ พ่อเป็นคนที่ทำให้แม่ทิ้งท็อป!!” ท็อปตะคอกกลับ หน้าแดงก่ำด้วยความโกรธ
“ไอ้ลูกทรพี” อ.สายัณห์บันดาลโทสะ ตบหน้าลูกชายอย่างแรง จนท็อปล้มลงกับพื้น ทั้งอ.ปรีชาและแบงค์ต่างก็วิ่งเข้ามาห้ามและกันพ่อลูกออกจากกัน “แกมันไอ้ลูกไม่รักดี เป็นผู้ชายดีๆไม่ชอบ มารักผู้ชายด้วยกันเพื่ออะไร แค่นี้พ่อยังอับอายขายขี้หน้าคนเขาไม่พอหรือไง”
“ท็อปรักผู้ชายแล้วมันผิดตรงไหนล่ะ พ่อ มันก็เหมือนผู้ชายรักผู้หญิงนั่นแหละ พ่ออย่าสร้างปัญหาให้มันเยอะนักเลย ความรักของท็อปมันไม่เกี่ยวอะไรกับชีวิตของพ่อ ศักดิ์ศรีของพ่อมันกินไม่ได้ ” ท็อปยังไม่เลิกต่อปากต่อคำ เอามือจับหน้าตรงที่ถูกตบเอาไว้รู้สึกเจ็บร้าวไปหมด
“หยุดเดี๋ยวนี้นะ ท็อป พูดจาให้เกียรติพ่อแกหน่อย ครูเห็นแกมาตั้งแต่เล็กๆนะ ไม่เคยเห็นมีพฤติกรรมหยาบคายก้าวร้าวแบบนี้เลยนะ” อ.ปรีชาตะคอกใส่ด้วยอีกคน
ท็อปเงียบ น้ำตาซึมด้วยความเจ็บที่พ่อตบหน้าเขาอย่างแรง ทั้งหน้าของเขาแดงเรื่อทั้งด้วยความโกรธและด้วยแรงจากการถูกตบหน้า
“เธอก็เหมือนกันเจนภพ ทำไมเธอไม่คอยห้ามท็อป ว่ามีพฤติกรรมแบบนี้มันไม่ดี เธอก็ไม่เห็นแก่ครูเลย” อาจารย์สายัณห์บอก หันหน้ามามองแบงค์อย่างโกรธๆ
แบงค์รู้สึกอึ้งและตกใจที่อาจารย์ก็หันมากล่าวโทษเขา แท้จริงแล้วนัยยะที่อาจารย์กำลังจะบอกก็คือ เขาคือสาเหตุของปัญหาทั้งหมด
“ครูไม่เคยเลี้ยงท็อปมาเป็นเด็กก้าวร้าวแบบที่เจอวันนี้”
“พ่อหยุดเถอะ พ่อจะมาโทษน้องทำไม ผมผิดเองที่ทำตัวไม่ดี” ท็อปพูด น้ำตาที่รื้นอยู่หยดลงมา แบงค์ก็รู้สึกจุกที่ลำคอแต่ก็ไม่สามารถจะพูดอะไรออกมาได้ นอกจาก “ขอโทษครับอาจารย์ ผมไม่ได้คิดว่าอะไรๆมันจะบานปลายมาถึงขนาดนี้”
“แบงค์ไม่ผิดเลยนะ” พี่ท็อปหันหน้ามาบอก “พี่ทำผิดเองทุกอย่าง พี่เป็นคนเริ่มทุกอย่าง”
แบงค์ส่ายหน้า เม้มริมฝีปากแน่น เป็นนัยบอกให้ท็อปเลิกพูดต่อว่าตัวเอง เขาก็น้ำตาไหลออกมาโดยไม่รู้ตัว รู้สึกหน้าร้อนผ่าวไปหมด “พี่ท็อปกับพ่อไม่ควรจะมาทะเลาะกันด้วยเรื่องของแบงค์ แบงค์เป็นคนนอก พี่ควรจะให้ความสำคัญกับพ่อมากกว่ากับแบงค์นะพี่”
อ.ปรีชาหันหน้ามองทุกคน รู้สึกกระอักกระอ่วนใจไม่ต่างกัน “มันกลายเป็นปัญหาครอบครัวไปแล้วนะ อาจารย์สายัณห์ ผมคิดว่า ต่อจากนี้คุณต้องไปเคลียร์กับลูกชายเอาเองแล้วล่ะ เจนภพ ครูว่าเธอกลับบ้านได้แล้วล่ะ”
“ไม่ แบงค์อย่าเพิ่งไป” ท็อปพูดสวนขึ้นมาคว้าแขนแบงค์ไว้ “ผมรักรุ่นน้องที่เป็นผู้ชายมันผิดตรงไหนครับ อาจารย์ปรีชา ผมไม่ได้ทำให้ใครเดือดร้อนสักหน่อย มีแต่คนอื่....”
“พอเหอะ พี่ท็อป แบงค์ว่า มันเริ่มจะเลอะเทอะไปกันใหญ่แล้ว” แบงค์พูดสวนทำเอาท็อปอึ้งไปด้วย “ผมขอตัวกลับบ้านก่อนนะครับ ผมสัญญาว่าต่อจากนี้ ผมควรจะห่างๆกับพี่ท็อป เพื่อความสบายใจของอาจารย์ครับ ผมขอโทษที่ทำให้ทุกอย่างมันลงเอยแย่ๆแบบนี้ ขอโทษนะครับอาจารย์” แบงค์ไหว้อาจารย์ทั้งสองท่านก่อนที่จะเก็บของแล้วรีบเดินออกจากห้องปกครอง น้ำตานองหน้า
ท็อปไม่รอช้า รีบกระโจนคว้ากระเป๋าแล้ววิ่งตามออกไป
“ท็อป จะไปไหน” อาจารย์สายัณห์ร้อง เมื่อเห็นลูกชายกำลังจะหุนหันออกไป “อัครวินท์ เธอจะไปไหน” อ.ปรีชาก็ช่วยเรียกด้วยคน แต่พี่ท็อปไม่หยุดแม้แต่จะหันมามอง
“แบงค์ เดี๋ยวก่อน” ท็อปตะโกนวิ่งไล่ตามแบงค์ที่พยายามวิ่งหนีออกไป เมื่อไล่กวดไปจนใกล้จะถึงหน้าโรงเรียนที่ตอนนี้นักเรียนก็เหลือกันอยู่น้อยเพราะเลิกเรียนนานแล้ว
“เลิกตามมาเถอะ พี่ท็อป เรื่องมันมาถึงขนาดนี้แล้ว สงสารพ่อพี่มั่งเถอะ” แบงค์บอกปากสั่นน้อยๆ ด้วยความกระอักกระอ่วน
“ไม่สิแบงค์ ถึงมันจะเป็นแบบนี้ แต่พี่ก็ยังยืนยันว่า พี่จะไปต่อ เรื่องเมื่อวานพี่ขอโทษ พี่โกรธไม่ลืมหูลืมตาเอง” ท็อปบอกคว้ามือแบงค์เอาไว้แน่น
“แล้วทำไมไม่รับโทรศัพท์ ไลน์ก็ไม่ตอบ อะไรก็ไม่ติดต่อมา” แบงค์ตะคอกกลับ “รู้ไหมว่าแบงค์เป็นห่วงขนาดไหน วันนี้ทั้งวันก็ไม่ได้เจอ แถมไม่มีมาหาเพื่อปรับความเข้าใจอะไรเลย มันคืออะไรกันพี่ท็อป”
“โทรศัพท์พี่หล่นหายไป น่าจะตกอยู่แถวหน้าร้าน วันนี้ตอนเช้าพี่ก็ไปหายันเที่ยงแต่ก็ไม่เจอ ตอนบ่ายก็เลยเพิ่งเข้ามา” ท็อปอธิบาย “พี่ไม่ได้มีเจตนาจะหนีหน้าแบงค์เลยนะ”
“ยังไงก็ช่าง แบงค์ว่า เราหยุดความสัมพันธ์ของเรากันเถอะพี่ พ่อพี่ออกปากขนาดนั้นแล้ว จะให้แบงค์มีหน้าคบกับพี่ต่อได้เหรอ? อีกอย่างพ่อพี่สอนเลขแบงค์นะ แบงค์จะมีหน้าไปเรียนต่อยังไงล่ะ” แบงค์พูดน้ำตาหยด
ท็อปเม้มปาก น้ำตารื้นขึ้นมาอีก “แบงค์อย่าทำแบบนี้กับพี่สิ เราสัญญากันแล้วไง”
“ความฝันกับความจริงมันต่างกันนะ พี่ท็อป รักเรามันคงเป็นไปไม่ได้ เรายังเด็กเกินไปที่จะเข้าใจมัน” แบงค์บอก “วิธีที่ดีที่สุดแล้วล่ะ คือเราต้องหยุดไว้เท่านี้”
“ไม่ พี่ไม่ยอมรับ” ท็อปกระชากแขนแบงค์ พยายามลากตัวเข้ามากอด แต่แบงค์ก็ขัดขื้นเต็มที่เช่นกัน ก่อนที่จะผลักหน้าอกท็อปให้ห่างออกไป “ทำไมแบงค์ทำกับพี่แบบนี้” หน้าของท็อปแดงก่ำด้วยความเสียใจ
“พี่ท็อป....แบงค์อยากบอกว่า แบงค์รักพี่ท็อปจริงๆนะ แต่เวลานี้ แบงค์ก็อยากบอกกับพี่ท็อปว่า ถึงแบงค์จะรักพี่แค่ไหน แล้วไม่ว่าพี่ท็อปจะรักแบงค์แค่ไหน พ่อพี่ก็ยังสำคัญที่สุดสำหรับพี่ แบงค์ไม่อยากทำให้พี่กับพ่อต้องทะเลาะกันเพราะเรื่องไม่เป็นเรื่องแบบนี้”
“แบงค์รักพี่ก็ต้องอยู่ข้างพี่สิ ค่อยๆอธิบายให้พวกเขาเข้าใจด้วยกันก็ได้ อย่าหนีพี่ไปแบบนี้” ท็อปโอดครวญ
“คำอธิบายไม่มีประโยชน์ที่จะคุยกับผู้ใหญ่หรอกพี่ท็อป เราอยู่ในสังคมที่ผู้ใหญ่ตีกรอบให้เราเดิน....”แบงค์พยายามอธิบาย
“ไม่ ... กรอบอะไรพี่ไม่สน พี่สนแค่แบงค์จะต้องอยู่กับพี่ พี่รักแบงค์แล้วไม่มีใครจะมาขวางพี่ได้” ท็อปบอก
“พี่ท็อป....” แบงค์โอดครวญ มองหน้าท็อปอย่างสงสาร แก้มที่มีรอยมือของพ่อ ใบหน้าเปื้อนน้ำตา แก้มสีแดงเรื่อด้วยความโกรธระคนเสียใจของพี่ท็อป ไร้คำพูดอื่นใดแล้วที่เขาจะกล่าวออกมาในเวลานี้
แบงค์ถอนหายใจด้วยความสับสน เหนื่อยใจ ลำบาก กระอักกระอ่วน ก่อนที่จะหันหลังให้พี่ท็อปแล้วรีบเดินจากไป แม้พี่ท็อปจะไล่ตามแต่แบงค์ก็รีบพาตัวเองให้ไปให้ไกลที่สุดจากสถานการณ์เหล่านี้ น้ำตาไหลพรุ่งพรูไหลออกมาอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน พี่ท็อปหยุดตามก่อนที่จะหันกลับไปยังโรงจอดรถมอเตอร์ไซค์ของโรงเรียน เขาไม่อยากให้ความรักของเขาที่ดีที่สุดเท่าที่เคยมีมา จบลงเพียงเท่านี้ ทุกอย่างมันจะต้องดีกว่านี้ได้ ต่อให้ต้องแลกด้วยอะไรก็ตาม เขาจะต้องไม่ยอมให้ปัญหาศักดิ์ศรีของพ่อมาหยุดความรู้สึกของเขาที่มีต่อรุ่นน้องคนนี้แน่นอน
จบบทที่ 12 (ติดตามตอนที่ 13 ต่อได้ในวันจันทร์ที่ 23/02/2015 ได้เวลาเดิมครับ)