[นิยายแนวม.ปลาย] (Updated จบซีรียส์ อัพ 14/05)
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: [นิยายแนวม.ปลาย] (Updated จบซีรียส์ อัพ 14/05)  (อ่าน 58306 ครั้ง)

ออฟไลน์ blur

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 145
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-0
ปลาคาร์พคู่กายด่วน ! 55555555

ออฟไลน์ akiraakka

  • Deus Deorum (God of Gods)
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 57
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +14/-0
    • เพื่อน(?)ผมเป็นผู้วิเศษ ภาคแรก
บทที่ 12
เปิดเผย


แบงค์พยายามโทรเข้าไปหาพี่ท็อปอยู่เป็นสิบๆสายแต่อีกฝ่ายไม่พยายามแม้แต่จะรับสายเขาสักสายเดียว ทั้งยังไลน์ไปหาก็ไม่ขึ้นว่าอ่านแล้วด้วยซ้ำ เหมือนพี่ท็อปโยนโทรศัพท์ทิ้งหายไปเลย  ไม่สนใจการติดต่อทั้งสิ้น

“ทำไมถึงเป็นคนไร้เหตุผลแบบนี้นะพี่ท็อป” แบงค์บ่น รู้สึกอยากจะร้องไห้ ไม่คิดว่าพี่ท็อปจะทำพฤติกรรมแบบนั้นกลางพื้นที่สาธารณะ “พรุ่งนี้มีหวังโดนคนพูดถึงทั้งโรงเรียนแน่เลย” เขาคิด พลางมองนาฬิกาที่ปาเข้าไปตี 1 แล้ว ตั้งแต่กลับบ้านมา เขาก็พยายามโทรติดต่อพี่ท็อป แต่เจ้าตัวก็ไม่มีวี่แววตอบรับอะไร ยิ่งทำให้แบงค์ร้อนใจจนนอนไม่หลับ ต้องคอยลุกขึ้นมาดูโทรศัพท์เป็นระยะๆว่าพี่ท็อปอ่านข้อความแล้วหรือยัง แต่ก็ไม่

เขาลุกๆหลับๆตื่นๆทั้งคืนจนกระทั่งเช้า ด้วยความร้อนใจจึงรีบอาบน้ำและรีบไปถึงโรงเรียนแต่เช้าตรู่
เมื่อไปถึง แบงค์ก็พยายามชะเง้อมองหาพี่ท็อปตลอดว่าเดินผ่านเข้ามาในโรงเรียนรึยัง เพราะปกติเดี๋ยวนี้เช้าๆ พี่ท็อปก็จะแวะมาหาเขาก่อนที่จะไปสมทบกับพี่คาร์พเสมอๆ พอเมื่อวาย่างเข้าช่วงสาย ๆ เกมส์ก็รีบวิ่งมาหาเมื่อมาถึงโรงเรียนด้วยสีหน้าตื่น ๆ

“แบงค์ พี่ท็อปไปก่อเรื่องอะไรที่ร้านนมวะ” เขาพูดขึ้นทันทีที่เจอหน้าแบงค์

“เกมส์รู้ได้ไง?” แบงค์ถามงง ๆ

เกมส์จึงหยิบเอาโทรศัพท์มือถือของตัวเองขึ้นมาแล้วเปิดคลิปที่ชื่อว่า “ลูกอาจารย์ก่อเรื่องในร้านนม” ให้แบงค์ดู
ในคลิปวิดิโอบันทึกเอาทุกอย่างที่เกิดขึ้นเอาไว้หมด ตั้งแต่พี่ท็อปเริ่มโวยวายใส่แบงค์และพี่กาย รวมถึงพฤติกรรมรุนแรงที่ผลักอกพี่กายด้วย “เฮ้ย!!” แบงค์อุทาน “ใครถ่ายเอาไว้แล้วอัพลงยูทูบบ์เนี่ย ตายห่าแล้ว”

“ตอนนี้คงรู้กันทั้งโรงเรียนแล้ว มันแชร์กันตั้งแต่เมื่อคืนแล้วนะ เราโทรไปหานายแต่สายไม่ว่างเลยเลิกโทรไป” เกมส์บอก สงสัยว่าจะโทรเข้ามาตอนที่แบงค์พยายามติดต่อพี่ท็อปแน่ๆ

“เอาไงดีเนี่ย” แบงค์พึมพำ ก่อนที่จะเลื่อนลงดูคอมเมนต์ในเฟซบุคที่แชร์ๆวิดิโอนี้กันในหมู่นักเรียน

<เฮ้ย นี่พี่ท็อปที่ป๊อบๆ ที่อยู่ม.5 นี่หว่า ทำไมทำนิสัยแบบนี้วะ?>
<คิดว่าหล่อแล้วจะทำอะไร ระรานใครก็ได้อย่างงั้นเหรอ แย่ที่สุด>
<เขามีเรื่องกันมาก่อนหน้านี้หรือเปล่า ตอนกีฬาสีอะ>
<ดรัมเมเยอร์สีชมพูปะ คนนั้น>
<หลังๆ ก็เห็นพี่ท็อปชอบไปไหนมาไหนกับดรัมเมเยอร์สีชมพูนะ กิ๊กกันหรือเปล่า>
<แย่งแฟนกันแหงๆ ผู้ชายที่ยืนห้ามอยู่นั่นไง น่าจะเป็นแฟนใหม่>
<ผู้ชายเดี๋ยวนี้ หาแท้ๆยากจังเลย ชะนีเหนื่อยค่ะ เดี๋ยวนี้ถึงขนาดผู้ชายต่อยแย่งผู้ชายกันแล้วเหรอ>


“เฮ้ย เราว่ามันไม่โอเคว่ะ” แบงค์พูด ก่อนจะกดรีพอร์ตวิดิโอไป “ถ้าอาจารย์สายัณห์ได้ดูมีหวังตายกันทั้งเรา พี่ท็อป แหงเลย”
สักพัก เกดและเปิ้ลก็รีบวิ่งเข้ามาสมทบด้วย

“มันเรื่องอะไรกันวะ เห็นแชร์กันตั้งแต่เมื่อคืน พอตื่นมาตอนเช้าเห็นหน้าฟีดแชร์กันใหญ่เลย” เกดถามอย่างสงสัยเมื่อเห็นแบงค์ที่นั่งหน้าตาเครียดๆอยู่

“เมื่อวานมีเรื่องเข้าใจผิดกันนิดหน่อย เราก็งงๆเหมือนกันไม่รู้ไปโมโหใครมา มาถึงก็ระเบิดลงเลย” แบงค์ตอบ

“แล้วที่พี่ท็อปพูดเรื่องสัญญาอะไรกัน แกไปสัญญาอะไรกับพี่เขาเนี่ย ทุกคนเขาจิ้นไปถึงไหนถึงไหนกันแล้วนะ” เปิ้ลถามอีกคน
แบงค์นิ่งเงียบ หลบตาเพื่อนๆ หันไปมองหน้าเกมส์ เกมส์ก็มองหน้าแบงค์แบบกระอักกระอ่วน ไม่รู้จะเสริมหรือพูดอะไรออกมาได้อีก

“เฮ้ย...อย่าบอกนะว่า แกกะพี่ท็อป” เกดและเปิ้ลอุทานพร้อมๆกัน อ้าปากค้างแบบไม่อยากคิดไปเอง

แบงค์พยักหน้าช้า ๆ “อือ อย่างที่พวกแกคิดนั่นแหละ...ก็ตั้งแต่วันที่พี่เขาไปชวนเล่นแบดครั้งแรกแล้ว”
เกดตบบ่าแบงค์อย่างเข้าใจ แต่เปิ้ลยังมีแววของความประหลาดใจอยู่บนใบหน้า “นี่พี่ท็อป เป็น.....”

“เขาเรียกรสนิยมเว้ย อิเปิ้ล อย่ามาบอกว่าใครเป็นอะไรๆเลย แล้วนี่แกจะเอายังไงต่ออะแบงค์ ได้คุยกับพี่ท็อปรึยัง”

“ตั้งแต่เมื่อวานก็ยังติดต่อไม่ได้เลย เอาไงดีวะเนี่ย เดี๋ยวเรื่องถึงอ.สายัณห์เมื่อไร มีหวังตายกันหมดแหง” แบงค์พูด
ตลอดทั้งวันแบงค์และเพื่อนๆก็ยังไม่ได้เจอพี่ท็อปเลย ตัวแบงค์เองในวันนี้ไปไหนมาไหนก็มีแต่คนมองและกระซิบกระซาบกันไปหมด เขารู้สึกอายระคนโกรธที่มีคนถ่ายคลิปเอาไว้แล้วเอามาประจานในเฟซบุค ทำให้เรื่องนี้กระจายไปในหมู่เพื่อนนักเรียน
พี่ท็อปนั้นเหมือนตอนนี้จะปิดโทรศัพท์ไปแล้วและไม่อ่านข้อความใดๆที่แบงค์ส่งไปหาแม้แต่สักข้อความ แบงค์รู้สึกร้อนใจไปหมดแต่ก็ไม่สามารถทำอะไรได้เลย จะวิ่งไปหาพี่ท็อปที่ห้องเรียนก็เหมือนว่าจะยิ่งไปก่อให้ไฟมันยิ่งลุกโชน คิดว่าอยู่นิ่งๆน่าจะดีกว่า

“อย่าไปสนใจคนอื่น เดินๆไป ทำตัวปกติ” เกมส์พูด “ถ้ายิ่งทำตัวประหม่าพวกนั้นจะยิ่งสนใจ” เกมส์บอกมองหน้าแบงค์ที่มองคนกระซิบกระซาบกันอย่างหวั่นๆ “เดี๋ยวคนก็ลืม เชื่อเหอะ”

เมื่อถึงเวลาเลิกเรียน ก็มีเสียงประกาศดังขึ้นแทรกเสียงออดประกาศเลิกเรียน “ประกาศ นายอัครวินท์ เชาวกรกุล ม.5/1 นายเจนภพ รัชตะไพบูลย์ ม.4/5 นายกายสิทธิ์ ศิริโสภณ ม.6/2 เชิญพบอ.ปรีชาที่ห้องปกครองเวลา 15.30 ค่ะ” เสียงประชาสัมพันธ์ดังขึ้นทั่วทั้งโรงเรียน ทุกคนในห้องหันหน้ามามองแบงค์เป็นตาเดียวเมื่อได้ยินเสียงประกาศนี้ แบงค์รู้สึกเหมือนหัวใจหล่นไปอยู่ที่ตาตุ่ม เรื่องทุกอย่างกลายเป็นเรื่องบานปลายอย่างที่ตนคิดจนได้ เขามองไปที่นาฬิกาที่แขวนอยู่หน้าห้อง ตอนนี้ 15.20 นาทีแล้ว ในอีก 10 นาทีเขาต้องอยู่ที่ห้องปกครองและรอรับชะตากรรมที่เกิดขึ้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้


เมื่อไปถึงห้องปกครอง อ.ปรีชารออยู่แล้ว พร้อมด้วยเก้าอี้ 3 ตัว ที่รอให้นักเรียนต้นเหตุทั้งสามคนมานั่ง พี่กายมารออยู่ก่อนหน้านี้แล้ว ยิ้มทักทายเมื่อเห็นแบงค์เดินเข้ามาในห้อง อ.ปรีชามองหน้าแบงค์อย่างพินิจพิเคราะห์  “เธอที่เป็นดรัมเมเยอร์สีชมพูปีนี้ใช่ไหม?” อาจารย์ถามขึ้นเมื่อเห็นหน้าของเขา

“ครับ อาจารย์” แบงค์ตอบ ก่อนที่จะนั่งลงที่เก้าอี้ข้างๆพี่กาย

“เป็นไงมั่งแบงค์ เมื่อวานได้คุยกับท็อปอีกไหมหลังเกิดเรื่อง” พี่กายถามขึ้น แต่แบงค์ก็ได้แต่ส่ายหน้า เพราะไม่พี่ท็อปเองก็ไม่ยอมรับโทรศัพท์เขาเลย

“แล้วอัครวินท์ละครับ อาจารย์” พี่กายหันหน้าไปถามอาจารย์ปรีชาที่กำลังชะเง้อมองนอกประตูห้อง

“อ๋อ เดี๋ยวคงมากับพ่อเขานั่นแหละ” อาจารย์บอกสั้นๆ

ไม่ทันขาดคำ พี่ท็อปก็เปิดประตูห้องปกครองผางออกมา สีหน้ายังคงมุ่ยและดูหัวเสียมากๆ คนที่ตามมาคืออาจารย์สายัณห์ที่หอบหนังสือเตรียมการสอนมาด้วย พี่ท็อปโยนกระเป๋าลงที่ข้างเก้าอี้ก่อนจะทุ่มตัวลงนั่งเก้าอี้ข้างๆแบงค์ พลางกอดอก คิ้วขมวดจ้องไปยังอาจารย์ปรีชาที พ่อที

“มากันครบองค์ประชุมแล้วนะ” อาจารย์ปรีชาเริ่ม “พวกเธอน่าจะรู้กันอยู่แล้ว ที่มีภาพวิดิโอทะเลาะวิวาท....”

“พอเหอะครับ อาจารย์ ไม่ต้องพูดเกริ่นแล้ว มีอะไรก็รีบคุยให้จบดีกว่า ผมไม่อยากเสียเวลามาก” ท็อปพูดแทรกขึ้นมา

“ท็อป !! ขอโทษอาจารย์ปรีชาเดี๋ยวนี้” อาจารย์สายัณห์ตะคอกใส่ลูกชาย “พ่อไม่เคยสอนให้ลูกก้าวร้าวแบบนี้นะ”

ท็อปมองหน้าพ่ออย่างเคืองๆ ก่อนที่จะกอดอก นั่งสั่นขา หันหน้าไปมองทางอื่น อาจารย์ปรีชาหันหน้าบุ้ยใบ้ไปทางอาจารย์สายัณห์ว่า ไม่เป็นไร ก่อนที่จะเริ่มพูดต่อ

“งั้นก็สั้นๆเลย มันเป็นการทำลายชื่อเสียงของโรงเรียนมากที่มีวิดิโอแบบนั้นอยู่ในโลกโซเชี่ยล ครูอยากรู้ว่ามันมีสาเหตุมาจากอะไร? ทำไมถึงทะเลาะกัน ใครจะอธิบายให้ครูฟังได้บ้าง พวกเธอจะได้เคลียร์กันด้วย อยู่โรงเรียนเดียวกัน ต้องรักกัน ไม่ใช่ทะเลาะกัน” อาจารย์ปรีชาบอก

พี่กาย เล่าให้อาจารย์ฟังว่า เขาเองแวะมาซื้อนมกลับไปกินที่บ้านแล้วเจอกับแบงค์ จากนั้นก็นั่งคุยกันเรื่องกีฬาสีที่เพิ่งจบไปแล้วก็เรื่องสัพเพเหระตอนรอร้านค้าทำให้ แต่พอท็อปมาเห็นเขาคุยกับแบงค์ก็เกิดความไม่พอใจ โวยวายแล้วก็ลงผลักกันอย่างที่เห็นในวิดิโอ

“แต่พี่ท็อปไม่ได้ผิดนะครับ ผมทำให้พี่เขาเข้าใจผิดเอง เพราะพี่ท็อปยังโกรธที่พี่กายชนะการแข่งปีนี้ แล้วในฐานะที่อยู่สีเดียวกัน พอพี่เขาเห็นผมคุยกับพี่กาย ก็เลยอาจจะไม่พอใจ” แบงค์พูดพยายามแก้ต่างให้พี่ท็อป “เรื่องนี้ผมผิดเองครับ”

ท็อปหันหน้ามามองแบงค์แบบไม่อยากจะเชื่อหูตัวเอง เพราะเรื่องเมื่อวานคนที่ก่อเรื่องและไม่ยอมฟังเหตุผลคือเขา ท็อปเองก็อยากจะขอโทษ แต่รู้สึกว่าศักดิ์ศรีมันค้ำคอเสียจนไม่กล้าพูดคำนั้นออกมา

“อย่าโกหกเลย เจนภพ” จู่ๆ อาจารย์สายัณห์ก็พูดขึ้นมา “ครูรู้มาพักนึงแล้วล่ะ

แบงค์และท็อปหันหน้าไปมองอาจารย์สายัณห์แบบตกใจ ส่วนอาจารย์ปรีชาและพี่กายก็มองสวนกลับไปแบบงงๆ

“รู้อะไรเหรอ อาจารย์สายัณห์” อ.ปรีชาถาม

“ผมขอคุยกับเด็กสองคนนี้ลำพังได้ไหมครับ อยากให้นายกายกลับไปก่อน เพราะดูจากมูลเหตุแล้วลูกชายผมน่าจะผิดเต็มๆ”
อาจารย์สายัณห์แนะนำ ซึ่งอ.ปรีชาเองก็เห็นด้วย จึงอนุญาตให้พี่กายกลับบ้านไปก่อนได้ เหลือในห้องก็มีแค่อ.ปรีชาด้วยอีกคนที่รอฟังเนื้อความทั้งหมด

“พ่อรู้อะไร” ท็อปถาม รู้สึกกลัวคำตอบจับใจ

“พวกเธอสองคนเป็นอะไรกัน ทำไมพ่อจะไม่รู้ พ่อเป็นพ่อท็อปนะ จะปิดกันไปได้นานสักแค่ไหนกัน แล้วนี่ถึงขั้นพาลไปทะเลาะกับคนอื่นเพราะเรื่องความสัมพันธ์ของแกกับรุ่นน้องนะท็อป ที่ผ่านมาแกคบกับใครพ่อไม่เคยว่า แต่แบบนี้.......ปัญหามันเกิด เห็นไหม?” อ.สายัณห์พูด จ้องหน้าลูกชายเขม็ง

“ทำไมล่ะพ่อ ? ท็อปผิดตรงไหน ท็อปเป็นคน ท็อปก็มีโกรธ มีรัก มีเกลียด เป็นเรื่องปกติของมนุษย์ พ่ออย่ามาเปลี่ยนประเด็นเลยดีกว่า” ท็อปตอบกระชากเสียง

อ.ปรีชามองสองพ่อลูกโวยวายใส่กันอย่างงงๆ ก่อนจะหันหน้ามามองแบงค์ที่นั่งมองทุกคนราวกับจะหาคำตอบได้จากเขา
“แกเป็นลูกอาจารย์ในโรงเรียนนี้นะท็อป ทุกคนรู้จักแก แล้วก็รู้จักพ่อ หัดทำตัวไว้หน้าพ่อบ้างเถอะ เวลาคนอื่นเขารู้ความจริงเข้า พ่อจะเอาหน้าไว้ที่ไหน” อ.สายัณห์ตะคอก

“หน้าของพ่อก็เอาไว้ที่เดิมนั่นแหละ ไม่เห็นจะต้องสนใจ การที่ท็อปจะรักใครมันก็ไม่เกี่ยวอะไรกับพ่ออยู่แล้วแต่แรกนี่ ทีพ่อยังทิ้งแม่ไป แล้วไง? ความรักของพ่อมันก็มีปัญหาเหมือนกันนั่นแหละ พ่อเป็นคนที่ทำให้แม่ทิ้งท็อป!!” ท็อปตะคอกกลับ หน้าแดงก่ำด้วยความโกรธ

“ไอ้ลูกทรพี” อ.สายัณห์บันดาลโทสะ ตบหน้าลูกชายอย่างแรง จนท็อปล้มลงกับพื้น ทั้งอ.ปรีชาและแบงค์ต่างก็วิ่งเข้ามาห้ามและกันพ่อลูกออกจากกัน “แกมันไอ้ลูกไม่รักดี เป็นผู้ชายดีๆไม่ชอบ มารักผู้ชายด้วยกันเพื่ออะไร แค่นี้พ่อยังอับอายขายขี้หน้าคนเขาไม่พอหรือไง”

“ท็อปรักผู้ชายแล้วมันผิดตรงไหนล่ะ พ่อ มันก็เหมือนผู้ชายรักผู้หญิงนั่นแหละ พ่ออย่าสร้างปัญหาให้มันเยอะนักเลย ความรักของท็อปมันไม่เกี่ยวอะไรกับชีวิตของพ่อ ศักดิ์ศรีของพ่อมันกินไม่ได้ ” ท็อปยังไม่เลิกต่อปากต่อคำ เอามือจับหน้าตรงที่ถูกตบเอาไว้รู้สึกเจ็บร้าวไปหมด

“หยุดเดี๋ยวนี้นะ ท็อป พูดจาให้เกียรติพ่อแกหน่อย ครูเห็นแกมาตั้งแต่เล็กๆนะ ไม่เคยเห็นมีพฤติกรรมหยาบคายก้าวร้าวแบบนี้เลยนะ” อ.ปรีชาตะคอกใส่ด้วยอีกคน

ท็อปเงียบ น้ำตาซึมด้วยความเจ็บที่พ่อตบหน้าเขาอย่างแรง ทั้งหน้าของเขาแดงเรื่อทั้งด้วยความโกรธและด้วยแรงจากการถูกตบหน้า

“เธอก็เหมือนกันเจนภพ ทำไมเธอไม่คอยห้ามท็อป ว่ามีพฤติกรรมแบบนี้มันไม่ดี เธอก็ไม่เห็นแก่ครูเลย” อาจารย์สายัณห์บอก หันหน้ามามองแบงค์อย่างโกรธๆ

แบงค์รู้สึกอึ้งและตกใจที่อาจารย์ก็หันมากล่าวโทษเขา  แท้จริงแล้วนัยยะที่อาจารย์กำลังจะบอกก็คือ เขาคือสาเหตุของปัญหาทั้งหมด

“ครูไม่เคยเลี้ยงท็อปมาเป็นเด็กก้าวร้าวแบบที่เจอวันนี้”

“พ่อหยุดเถอะ พ่อจะมาโทษน้องทำไม ผมผิดเองที่ทำตัวไม่ดี” ท็อปพูด น้ำตาที่รื้นอยู่หยดลงมา แบงค์ก็รู้สึกจุกที่ลำคอแต่ก็ไม่สามารถจะพูดอะไรออกมาได้ นอกจาก “ขอโทษครับอาจารย์ ผมไม่ได้คิดว่าอะไรๆมันจะบานปลายมาถึงขนาดนี้”

“แบงค์ไม่ผิดเลยนะ” พี่ท็อปหันหน้ามาบอก “พี่ทำผิดเองทุกอย่าง พี่เป็นคนเริ่มทุกอย่าง”

แบงค์ส่ายหน้า เม้มริมฝีปากแน่น เป็นนัยบอกให้ท็อปเลิกพูดต่อว่าตัวเอง เขาก็น้ำตาไหลออกมาโดยไม่รู้ตัว รู้สึกหน้าร้อนผ่าวไปหมด “พี่ท็อปกับพ่อไม่ควรจะมาทะเลาะกันด้วยเรื่องของแบงค์ แบงค์เป็นคนนอก พี่ควรจะให้ความสำคัญกับพ่อมากกว่ากับแบงค์นะพี่”

อ.ปรีชาหันหน้ามองทุกคน รู้สึกกระอักกระอ่วนใจไม่ต่างกัน “มันกลายเป็นปัญหาครอบครัวไปแล้วนะ อาจารย์สายัณห์ ผมคิดว่า ต่อจากนี้คุณต้องไปเคลียร์กับลูกชายเอาเองแล้วล่ะ เจนภพ ครูว่าเธอกลับบ้านได้แล้วล่ะ”

“ไม่ แบงค์อย่าเพิ่งไป” ท็อปพูดสวนขึ้นมาคว้าแขนแบงค์ไว้ “ผมรักรุ่นน้องที่เป็นผู้ชายมันผิดตรงไหนครับ อาจารย์ปรีชา ผมไม่ได้ทำให้ใครเดือดร้อนสักหน่อย มีแต่คนอื่....”

“พอเหอะ พี่ท็อป แบงค์ว่า มันเริ่มจะเลอะเทอะไปกันใหญ่แล้ว” แบงค์พูดสวนทำเอาท็อปอึ้งไปด้วย “ผมขอตัวกลับบ้านก่อนนะครับ ผมสัญญาว่าต่อจากนี้ ผมควรจะห่างๆกับพี่ท็อป เพื่อความสบายใจของอาจารย์ครับ ผมขอโทษที่ทำให้ทุกอย่างมันลงเอยแย่ๆแบบนี้ ขอโทษนะครับอาจารย์” แบงค์ไหว้อาจารย์ทั้งสองท่านก่อนที่จะเก็บของแล้วรีบเดินออกจากห้องปกครอง น้ำตานองหน้า

ท็อปไม่รอช้า รีบกระโจนคว้ากระเป๋าแล้ววิ่งตามออกไป

“ท็อป จะไปไหน” อาจารย์สายัณห์ร้อง เมื่อเห็นลูกชายกำลังจะหุนหันออกไป “อัครวินท์ เธอจะไปไหน” อ.ปรีชาก็ช่วยเรียกด้วยคน แต่พี่ท็อปไม่หยุดแม้แต่จะหันมามอง

“แบงค์ เดี๋ยวก่อน” ท็อปตะโกนวิ่งไล่ตามแบงค์ที่พยายามวิ่งหนีออกไป  เมื่อไล่กวดไปจนใกล้จะถึงหน้าโรงเรียนที่ตอนนี้นักเรียนก็เหลือกันอยู่น้อยเพราะเลิกเรียนนานแล้ว

“เลิกตามมาเถอะ พี่ท็อป เรื่องมันมาถึงขนาดนี้แล้ว สงสารพ่อพี่มั่งเถอะ” แบงค์บอกปากสั่นน้อยๆ ด้วยความกระอักกระอ่วน

“ไม่สิแบงค์ ถึงมันจะเป็นแบบนี้ แต่พี่ก็ยังยืนยันว่า พี่จะไปต่อ เรื่องเมื่อวานพี่ขอโทษ พี่โกรธไม่ลืมหูลืมตาเอง” ท็อปบอกคว้ามือแบงค์เอาไว้แน่น

“แล้วทำไมไม่รับโทรศัพท์ ไลน์ก็ไม่ตอบ อะไรก็ไม่ติดต่อมา” แบงค์ตะคอกกลับ “รู้ไหมว่าแบงค์เป็นห่วงขนาดไหน วันนี้ทั้งวันก็ไม่ได้เจอ แถมไม่มีมาหาเพื่อปรับความเข้าใจอะไรเลย มันคืออะไรกันพี่ท็อป”

“โทรศัพท์พี่หล่นหายไป น่าจะตกอยู่แถวหน้าร้าน วันนี้ตอนเช้าพี่ก็ไปหายันเที่ยงแต่ก็ไม่เจอ ตอนบ่ายก็เลยเพิ่งเข้ามา” ท็อปอธิบาย “พี่ไม่ได้มีเจตนาจะหนีหน้าแบงค์เลยนะ”

“ยังไงก็ช่าง แบงค์ว่า เราหยุดความสัมพันธ์ของเรากันเถอะพี่ พ่อพี่ออกปากขนาดนั้นแล้ว จะให้แบงค์มีหน้าคบกับพี่ต่อได้เหรอ? อีกอย่างพ่อพี่สอนเลขแบงค์นะ แบงค์จะมีหน้าไปเรียนต่อยังไงล่ะ” แบงค์พูดน้ำตาหยด

ท็อปเม้มปาก น้ำตารื้นขึ้นมาอีก “แบงค์อย่าทำแบบนี้กับพี่สิ เราสัญญากันแล้วไง”

ความฝันกับความจริงมันต่างกันนะ พี่ท็อป รักเรามันคงเป็นไปไม่ได้ เรายังเด็กเกินไปที่จะเข้าใจมัน” แบงค์บอก “วิธีที่ดีที่สุดแล้วล่ะ คือเราต้องหยุดไว้เท่านี้”

“ไม่ พี่ไม่ยอมรับ” ท็อปกระชากแขนแบงค์ พยายามลากตัวเข้ามากอด แต่แบงค์ก็ขัดขื้นเต็มที่เช่นกัน ก่อนที่จะผลักหน้าอกท็อปให้ห่างออกไป “ทำไมแบงค์ทำกับพี่แบบนี้” หน้าของท็อปแดงก่ำด้วยความเสียใจ

“พี่ท็อป....แบงค์อยากบอกว่า แบงค์รักพี่ท็อปจริงๆนะ แต่เวลานี้ แบงค์ก็อยากบอกกับพี่ท็อปว่า ถึงแบงค์จะรักพี่แค่ไหน แล้วไม่ว่าพี่ท็อปจะรักแบงค์แค่ไหน พ่อพี่ก็ยังสำคัญที่สุดสำหรับพี่ แบงค์ไม่อยากทำให้พี่กับพ่อต้องทะเลาะกันเพราะเรื่องไม่เป็นเรื่องแบบนี้”

“แบงค์รักพี่ก็ต้องอยู่ข้างพี่สิ ค่อยๆอธิบายให้พวกเขาเข้าใจด้วยกันก็ได้ อย่าหนีพี่ไปแบบนี้” ท็อปโอดครวญ

“คำอธิบายไม่มีประโยชน์ที่จะคุยกับผู้ใหญ่หรอกพี่ท็อป เราอยู่ในสังคมที่ผู้ใหญ่ตีกรอบให้เราเดิน....”แบงค์พยายามอธิบาย

“ไม่ ... กรอบอะไรพี่ไม่สน พี่สนแค่แบงค์จะต้องอยู่กับพี่ พี่รักแบงค์แล้วไม่มีใครจะมาขวางพี่ได้” ท็อปบอก

“พี่ท็อป....” แบงค์โอดครวญ มองหน้าท็อปอย่างสงสาร แก้มที่มีรอยมือของพ่อ ใบหน้าเปื้อนน้ำตา แก้มสีแดงเรื่อด้วยความโกรธระคนเสียใจของพี่ท็อป ไร้คำพูดอื่นใดแล้วที่เขาจะกล่าวออกมาในเวลานี้

แบงค์ถอนหายใจด้วยความสับสน เหนื่อยใจ ลำบาก กระอักกระอ่วน ก่อนที่จะหันหลังให้พี่ท็อปแล้วรีบเดินจากไป แม้พี่ท็อปจะไล่ตามแต่แบงค์ก็รีบพาตัวเองให้ไปให้ไกลที่สุดจากสถานการณ์เหล่านี้ น้ำตาไหลพรุ่งพรูไหลออกมาอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน พี่ท็อปหยุดตามก่อนที่จะหันกลับไปยังโรงจอดรถมอเตอร์ไซค์ของโรงเรียน เขาไม่อยากให้ความรักของเขาที่ดีที่สุดเท่าที่เคยมีมา จบลงเพียงเท่านี้ ทุกอย่างมันจะต้องดีกว่านี้ได้ ต่อให้ต้องแลกด้วยอะไรก็ตาม เขาจะต้องไม่ยอมให้ปัญหาศักดิ์ศรีของพ่อมาหยุดความรู้สึกของเขาที่มีต่อรุ่นน้องคนนี้แน่นอน

จบบทที่ 12 (ติดตามตอนที่ 13 ต่อได้ในวันจันทร์ที่ 23/02/2015 ได้เวลาเดิมครับ)
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 20-02-2015 23:09:26 โดย akiraakka »

ออฟไลน์ brookzaa

  • Chill out
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1416
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-6
มาม่ากำลังงาม  :hao5:

วันจันทร์ เมื่อไหร่จะถึงวันจันทร์  :ling1:

รอลุ้นตัวโก่งอยู่นะก๊าบ  :hao7:

ออฟไลน์ blur

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 145
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-0
อ่าาาา จุกอะ เอาเรื่องของปลาคาร์พกายมาขัดดราม่าหน่อยซิ 55555555

ออฟไลน์ 4559

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3978
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-8

ออฟไลน์ สายลมที่หวังดี

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 508
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +138/-1
น่าสงสารทั้งสองคนเลยนะ


ท๊อปควรลดความใจร้อนวู่วามลงให้มากๆเลยหล่ะ เพราะปัญหาต่างๆที่เกิดตั้งแต่เรื่องกดแบงค์จนถึงเรื่องกายนี่ก็เพราะความใจร้อน ไม่มีเหตุผลจนทำให้เกิดเรื่อง ไหนจะปัญหาเรื่องพ่อไม่ให้คบอีก คงต้องห่างกันสักพัเพื่อทบทวนและแก้ไขปัญหานะจ๊ะ

ออฟไลน์ yowyow

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4188
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +139/-7

ออฟไลน์ akiraakka

  • Deus Deorum (God of Gods)
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 57
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +14/-0
    • เพื่อน(?)ผมเป็นผู้วิเศษ ภาคแรก
บทที่ 13
คำสารภาพของเพื่อนสนิท   
   
                        
เสียงออดหน้าบ้านดังสองสามครั้ง เมื่อแม่ของแบงค์มองดูนาฬิกาที่แขวนไว้บนฝาผนังบอกเวลาสามทุ่มครึ่ง ดึกขนาดนี้ใครกันที่มาเรียกที่หน้าบ้าน เธอค่อยๆเปิดผ้าม่านหน้าต่างแง้มดูก็เห็นเพื่อนลูกชายที่ชื่อท็อป ยืนชะเง้อมองเข้ามาในบ้านอยู่ ตั้งแต่กลับมาบ้านว่า เธอสังเกตลูกชาย วันนี้หน้าตาดูเครียดๆ กลับบ้านมาแล้วก็ขึ้นนอนปิดตัวเองอยู่ในห้อง พอถามว่าข้าวปลาจะกินอะไรก็บอกว่าไม่กิน อยากนอนเพราะเจ้าตัวบอกเหนื่อยมาก  ง่วงและอยากจะนอนไวๆ เธอจึงไม่ได้รบเร้าจะถามเจ้าตัวนัก
แม่จึงเดินออกไปรับแขกหน้าบ้านแทนลูก “ท็อปมาทำอะไรดึกดื่นป่านนี้ลูก” เธอทัก

“เอ่อ สวัสดีครับคุณแม่ แบงค์ล่ะครับ?” ท็อปถามพลางกระชับกระเป๋าเป้ที่สวมมาให้แน่นบ่า

“วันนี้กลับมาบ้านเขาก็รีบขึ้นไปนอนเลย เห็นบอกว่าเหนื่อย ๆ มีธุระอะไรด่วนไหม?” แม่พูด มองดูสภาพของท็อปที่ขนทั้งเป้มา แสงไฟหน้าบ้านแม้ไม่สว่างนักแต่ก็สังเกตเห็นรอยช้ำแดงๆบนใบหน้าข้างขวาของเขา กับตาที่บวมของท็อป

“เอ่อ...” ท็อปอ้ำอึ้ง รู้สึกลึกๆว่าแบงค์จะไม่ต้อนรับเขา “คือ...ผมอยากจะ...ขอ...”

แม่เดาทางออกว่าท็อปจะขออะไร “เข้ามาเลยลูก เอารถมาจอดข้างใน แม่รู้ว่าแบงค์เขายังไม่นอนหรอก เพราะเห็นไฟในห้องยังเปิดอยู่นั่น” เธอพูดก่อนจะหันหน้าไปทางชั้นสองของบ้านที่ยังมีแสงไฟลอดม่านออกมา “คืนนี้มานอนที่นี่ก่อน” เธอทึกทักเอาว่าท็อปคงต้องมีปัญหาอะไรบางอย่าง จากสภาพที่ขนข้าวขนของ หน้าตาสะบักสะบอมหน่อยๆ การที่ท็อปจะขอมาพักที่บ้านเธอก่อนก็ดีกว่าปล่อยให้ตะลอนๆไปที่อื่นที่อาจจะไม่ปลอดภัยในยามวิกาล

“ขอบคุณครับแม่” ท็อปบอก รู้สึกเป็นบุญคุณ ก่อนที่จะค่อยๆเข็นรถเข้ามาในรั้วบ้านที่แม่เปิดไว้ให้

“ที่บ้านรู้ไหมว่าจะมาค้างข้างนอก?” แม่ถาม

ท็อปอ้ำอึ้งอยู่สักครู่ ก่อนจะตอบว่า “ก็น่าจะรู้นะครับ ปกติพ่อไม่ค่อยกลับบ้านเร็ว บางวันก็ไม่ได้กลับบ้านน่ะครับ”

“ท็อปลองขึ้นไปเรียกแบงค์ดูนะที่ชั้นสอง นอนด้วยกันก็ได้ เตียงเขานอนได้สองคน แบงค์เขาชอบนอนที่กว้างๆ แล้วก็รีบๆนอนกันนะ อย่าคุยกันดึก พรุ่งนี้ยังต้องไปโรงเรียนอีก” แม่บอก  เธอเดาทางได้เลยว่าท็อปอาจจะมีปัญหากับที่บ้านมา เธอจึงไม่อยากรบเร้าถามถึงปัญหาอะไรมากมายนัก คิดว่าปล่อยให้เด็กๆอยู่กันเองน่าจะดีกว่า อย่างน้อยก็ยังอยู่ในเคหะสถานที่ปลอดภัยของเธอ

ท็อปไหว้ขอบคุณแม่อีกครั้ง ก่อนที่จะรีบขึ้นบันไดไปยังชั้นสองของบ้าน แล้วเคาะประตูห้องแบงค์สองสามครั้ง

“หืม?....แม่มีอะไรเหรอ?” เสียงแบงค์พูดตอบมาอย่างงัวเงีย ดูเหมือนว่าแบงค์จะหลับไปแล้วจริง ๆ
ท็อปยังคงระดมเคาะอยู่ โดยที่ไม่ได้ขานตอบ “มีอะไรอะแม่?” แบงค์ถามซ้ำก่อนที่จะเปิดประตูผางออกมาแล้วพบกับคนที่แสนคุ้นเคย

“พี่ท็อป มาได้ไงเนี่ยดึกๆ ดื่นๆ” แบงค์อุทานดังลั่น ก่อนที่ท็อปจะทำท่าจุ๊ปากแล้วบุ้ยใบ้ให้เข้าไปในห้อง แล้วรีบปิดประตู

“พี่ขนของออกจากบ้านมา” พี่ท็อปบอก

“หา บ้าไปแล้วพี่ท็อป แล้วพ่อพี่จะไม่โวยวายตามหาพี่เหรอ” แบงค์ร้องลั่น คิดไม่ถึงว่าท็อปจะวู่วามได้มากขนาดนี้ “พี่ทำแบบนี้พ่อจะหาว่าแบงค์เสี้ยมพี่ให้เป็นเด็กไม่ดีเอานะ”

“แต่...พี่ก็เขียนจดหมายบอกพ่อแล้ว ตอนจะออกมา ว่าพี่จะไปนอนบ้านเพื่อน” พี่ท็อปพูดหลบสายตาแบงค์ ทำเป็นวางกระเป๋าเป้ลงข้างๆเก้าอี้เขียนหนังสือ

“อย่ามาโกหก พี่ทะเลาะกับพ่อแล้วก็ออกจากบ้านมาเลยใช่ไหม?” แบงค์คาดคั้น “อย่าคิดว่าแบงค์ไม่รู้จักพี่ท็อปดีพอนะ”

พี่ท็อปมองหน้าแบงค์แบบสำนึกผิดหน่อยๆที่แบงค์รู้ทัน “ก็...ให้ทำไงได้ล่ะ พ่อไม่ยอมฟังเหตุผลของพี่เลย”

แบงค์ถอนหายใจเฮือกใหญ่ ก่อนที่จะตบที่นอนเป็นสัญญาณให้พี่ท็อปมานั่งคุยกันใกล้ ๆ “แล้วเราจะเอาไงกันต่อดี” แบงค์ถาม เมื่อพี่ท็อปขึ้นมานั่งบนเตียง ขัดสมาธิประจันหน้ากัน

“บอกไว้ก่อนนะ พี่ไม่มีวันเลิกกับแบงค์ ฆ่าพี่ให้ตายก็ยังดีกว่า” ท็อปบอกเสียงเด็ดขาด

“จะบ้าเรอะ มาพูดเรื่องตายๆ อะไรที่นี่พี่...ปัญหามันอาจจะใหญ่สำหรับเราสองคนแต่มันไม่ต้องถึงกับคอขาดบาดตายนะ” แบงค์แหวใส่ด้วยความตกใจ “ว่าแต่....พี่ท็อป...”

“หืม?” ท็อปเลิกคิ้วมองหน้าแบงค์ที่จู่ๆก็เปลี่ยนเรื่อง

“เจ็บไหม?” แบงค์ค่อยๆเอื้อมมือเข้ามาสัมผัสที่แก้มขวาของท็อปที่ถูกพ่อตบมาอย่างแผ่วเบา ท็อปจับมือของแบงค์ที่กำลังลูบหน้าของเขา

“เจ็บสิ แต่มันก็ไม่เจ็บเท่าที่พี่รู้สึกอยู่ข้างในหรอก” พี่ท็อปพูด แล้วแบงค์ก็กระโจนเข้าสวมกอดพี่ท็อปไว้แน่น แล้วระเบิดร้องไห้ออกมาเหมือนเขื่อนแตก กับความรู้สึกอัดอั้นทีเก็บเอาไว้มาตลอดทั้งเย็นที่ผ่านมา

“แบงค์ขอโทษ ... ที่ตอนนั้นช่วยอะไรพี่ท็อปไม่ได้เลย มันอึดอัดจนไม่อยากจะพูดอะไรออกมาได้อีกแล้ว แบงค์ไม่ชอบความรู้สึกนี้เลยพี่ท็อป” เขาคร่ำครวญ สะอึกสะอื้นไม่หยุด พี่ท็อปต้องคอยลูบหัวปลอบ กลับกลายเป็นว่าพี่ท็อปต้องมาปลอบแบงค์เสียเอง

“พี่ไม่เป็นไรแล้ว เราสัญญาไงว่าเราจะอยู่ข้างกัน โอ๋นะ น้องรัก พี่ไม่เจ็บแล้ว พี่หายแล้ว ๆ” ท็อปบอกลูบหลังลูบหัว เขาก็รู้สึกอยากร้องไห้ออกมาเหมือนกัน แต่เวลานี้เขาต้องเข้มแข็งเพื่อให้แบงค์สงบใจลงบ้าง

เมื่อทั้งสองคลายสวมกอด แบงค์ก็ใช้ทั้งสองมือขยี้หน้าขยี้ตาเหมือนเด็กเล็กๆ ดูน่าเอ็นดูในสายตาท็อปนัก เขาลูบหัวรุ่นน้อง ยิ้มให้ “พี่จะสู้ เพื่อให้มันผ่านไปให้ได้ ทุกคนต้องเข้าใจเรา แบงค์เชื่อพี่ไหม?” ท็อปถาม

“พี่ท็อป เรากำลังต่อกรกับผู้ใหญ่ที่เป็น ทั้งพ่อทั้งอาจารย์ เลยนะ” แบงค์ถามกลับ “แค่เราเลิกกันก็น่าจะเป็นทางออกที่ง่ายกว่าดันทุรังต่อไปนะพี่”

“พี่ว่าปัญหามันแค่บานปลายจากการที่พี่ไปก่อเรื่องที่ร้านพี่หลิน เราต้องให้ทุกคนไปสนใจกับเรื่องที่พี่ไปก่อเรื่องมากกว่ามาสนใจว่าเราสองคนเป็นอะไรกันน่าจะดีกว่า พี่อาจจะต้องขอโทษพี่ม.6 คนนั้นอย่างเป็นทางการ ทุกคนจะได้ลืมๆกันไป ดีไหม?”

แบงค์พยักหน้าเชิงตอบรับ “ส่วนเรื่องของเราที่ว่าพ่อจะยอมรับหรือไม่นั่นอีกเรื่องนึง พี่ว่าถ้าเงียบๆไป แกก็คงไม่สนหรอก”

“แต่พ่อพี่ท็อปดูแล้วแกก็เป็นคนเอาจริงนะพี่” แบงค์เสริม “เขาคงไม่ปล่อยเราเอาไว้อย่างนี้แน่ๆ”

“นี่มันยุคไหนแล้ว? มีคนเคยบอกว่า ความรักมันกำหนดเหตุผลไม่ได้ พี่รักแบงค์จริงๆ ถึงตอนนี้เขายังไม่เข้าใจแต่วันนึงถ้าเราพิสูจน์ให้เขาเห็นได้ สักวันเขาต้องยอมรับสิ” พี่ท็อปบอกเพิ่ม

“แต่ว่า...” แบงค์พยายามขัด

“พอได้แล้ว ไอ้หมาน้อย” ท็อปดุ ก่อนจะเขย่าหัวรุ่นน้อง “เลิกคิดแง่ลบได้แล้ว ปัญหามันยังไม่เกิด อย่าเพิ่งตีตนไปก่อนไข้ วันนี้แค่เรามีกันและกันก็พอแล้ว พรุ่งนี้ใครจะว่ายังไงก็ช่าง พี่ตัดสินใจแล้วว่าพี่จะรักแบงค์ต่อไป ถ้าแบงค์ยังคงรักพี่แบบนี้ต่อไปเหมือนกัน” พี่ท็อปบอก

แบงค์ยิ้มให้ น้ำตารื้นด้วยความตื้นตันที่พี่ท็อปยังคงอยู่ข้างๆเขา

“ที่รัก พี่ง่วงแบ้วว” พี่ท็อปพูดน้ำเสียงอ้อนๆ ก่อนจะอิงหัวลงกับตักของแบงค์ “นอนกันเหอะ”

“พี่ท็อปมาเนี่ย ทำเอาแบงค์ตื่นเลยนะ ตัวกวนแท้ๆ อุตส่าห์หลับไปได้แล้ว” แบงค์แซวเริ่มยิ้มออกขึ้นมาบ้าง “ปิดไฟให้หน่อย... ผ้าห่มจะห่มด้วยกันก็ได้นะ”

ท็อปยิ้มแบบทะเล้นๆ ก่อนจะลุกไปปิดไฟแล้วรีบเข้ามาซุกใต้ผ้าห่มเดียวกัน “ขอหอมก่อนนอนสักทีได้ไหม?”ท็อปถาม แบงค์ไม่ตอบแต่หันแก้มขวาให้ ก่อนที่ท็อปจะหอมเสียงดังฟอดใหญ่ “ชื่นใจจัง” ท็อปพูด

แล้วทั้งสองก็สวมกอดกัน อากาศเย็นๆในห้อง ได้เปลี่ยนไปเต็มด้วยความอบอุ่นจากเด็กหนุ่มทั้งสองคนเติมเต็มช่องว่างให้แก่กันและกันเพื่อก้าวข้ามผ่านราตรีนี้ไปด้วยกัน

====================================

เช้าวันต่อมา ท็อปรีบลุกขึ้นมาแต่เช้าตรู่ โดยที่แบงค์ยังไม่ได้ตื่นนอน มาจิ้มกดที่แท็ปเลตที่เขาพกใส่เป้มาด้วย แล้วลองโพสต์สถานะใหม่ลงหน้าเพจของตัวเอง “ ผมท็อป อัครวินท์ ม. 5/1 อยากจะขอโทษทุกๆคน ทั้งเพื่อนและบรรดาอาจารย์ที่เป็นตัวอย่างที่ไม่ดีที่ไปก่อเรื่องทะเลาะวิวาทในที่สาธารณะ ต้องขอโทษพี่กาย ม.6 ด้วยครับ ที่วันนั้นทำตัวไม่เป็นสุภาพบุรุษ ยอมรับว่าผมยังเคืองเรื่องแพ้กีฬา ยังไงก็ขอให้ทุกคนอภัยและให้โอกาสผมด้วยนะครับ ปีหน้าเราจะชนะกันด้วยเกมส์กีฬาไม่ใช่กำลังแน่นอนครับ ขอโทษทุกๆคนอีกครั้งครับ”  จากนั้น เขาจึงรีบกระจายโพสต์ขอโทษของเขาทุกอย่างลงในเน็ทให้เร็วที่สุด เพื่อยุติการแชร์วิดิโอวิวาทของเขาและพยายามเบี่ยงประเด็นที่คนสนใจเรื่องความสัมพันธ์ของท็อปกับแบงค์ อย่างน้อยที่สุดก็ดีกว่าไมได้ทำอะไรเลย เพราะท็อปก็ไม่อยากจะให้มันเอิกเริกมากมายถึงกับต้องแถลงข่าวจริงจัง เมื่อทุกอย่างเรียบร้อยเขาก็ค่อยๆเดินที่ไปเตียงกอดผ้าห่มที่แบงค์กำลังห่มอยู่แล้วเขย่าปลุกเบาๆ

“ตื่นได้แล้วนา...หกโมงกว่าแล้ว” ท็อปพูดลากเสียงก่อนจะบดจมูกหอมที่แก้มแบงค์ฟอดใหญ่ๆ

“หืม?ไม่เอาน่า พี่ท็อป เหม็นปากอะ” แบงค์บอกก่อนจะดึงผ้าห่มขึ้นมาปิดหน้า “หกโมงกว่าๆเอง ให้ครึ่งก่อนแล้วค่อยปลุกใหม่นะ”

“ตื่นมาเล่นกันเหอะน้า น้า...”ท็อปอ้อน มุดผ้าห่มไปไซ้หน้าอกแบงค์ “เค้าเหงาอ่า ตื่นกันเถอะ”

แบงค์ค์ค่อยๆลืมตาขึ้นมาเพราะทนที่พี่ท็อปกวนไม่ไหว “อ่ะ ตื่นก็ได้ ปะๆ ตื่นๆๆๆ” แบงค์บอกรีบลุกขึ้นนั่ง “รีบไปอาบน้ำแต่งตัวกันดีกว่า เดี๋ยวไปหาอะไรกินเช้าๆข้างนอกกัน”

ท็อปพยักหน้า ก่อนที่จะจูงมือแบงค์ลากขึ้นมาจากเตียงแล้วคว้าผ้าเช็ดตัว จะดึงไปอาบน้ำด้วยกัน

“เฮ้ย !! อาบทีละคนเซ่” แบงค์โวยวาย

“อ้าว เห็นบอกให้รีบอาบน้ำแต่งตัวกัน นึกว่าจะชวนให้อาบด้วยกัน” ท็อปพูดตีหน้าทะเล้นใส่ “ขั้นนี้แล้วไม่มีอะไรมาอายแล้ว มาเถอะ”

แบงค์ทำหน้ามุ่ยใส่ แล้วรีบผลักพี่ท็อปเข้าห้องน้ำแล้วรีบปิดประตูดังปัง “อาบน้ำนะ ไม่ใช่ตีแบดจะได้เล่นเป็นคู่” เขาพึมพำ

เมื่อทุกอย่างเรียบร้อย ทั้งสองจึงรีบแต่งตัวแล้วลงมาข้างล่าง ดูเหมือนว่าแม่จะยังไม่ตื่น เพราะปกติแล้ว ตอนเช้า แบงค์มักจะตื่นก่อนแล้วออกไปหาอะไรกินที่โรงเรียนตามปกติ

“วันนี้ไปกินโจ๊กกันไหม?” แบงค์ถาม “แถวนี้มีร้านอร่อยๆด้วยนะ”

“จริงเหรอ? ไปสิ เพิ่ง เจ็ดโมงเอง ขี่มอไซค์ไปก็แป๊บเดียว” พี่ท็อปบอกก่อนจะพาแบงค์ขับมอเตอร์ไซค์บึ่งไปร้านที่ว่า เมื่อไปถึงหน้าร้านก็เจอเข้ากับน้ำหวานประธานนักเรียนที่เป็นคู่กรณีเก่าของทั้งแบงค์และท็อปเข้าพอดี

“อ้าว...สองคนนี้ ไปไหนกันแต่เช้าเลยเนี่ย” หวานร้องทัก เมื่อเห็นทั้งสองคนมาด้วยกัน

“มากินข้าวไง” ท็อปตอบ เมื่อเห็นแบงค์ยังอ้ำอึ้งอยู่ “หวานล่ะ มากินร้านนี้ประจำเหรอ?”

“ก็บ่อยๆนะ วันนี้โชคดีเจอดาราดังทั้งสองคนพอดีเลย” เธอพูด “ถามจริงนะท็อป...ท็อปไม่อายบ้างเหรอ?”

“อายอะไรวะ?” ท็อปถามย้อน เริ่มรู้สึกหงุดหงิดขึ้นมานิด ๆ “ก็แค่ทะเลาะกัน ผู้ชายที่ไหนๆเขาก็ต่อยกันเป็นเรื่องปกติรึเปล่าวะ”

“ก็ เรื่องของท็อปกับแบงค์ต่างหาก ตอนนี้ใครๆเขาก็รู้กันไปทั่วแล้วนะ ว่าเธอสองคนเป็นอะไรกัน จะให้เราย้ำอีกเหรอไง?” หวานบอก ยืนกอดอกส่งสายตาดุๆมาให้

“เราว่ามันไม่ใช่เรื่องของหวานว่ะ พอเหอะ เมื่อวานเราก็ทะเลาะกับพ่อมามากพอแล้ว เราไม่อยากให้เพื่อน มาทำหน้าที่แม่ ด้วยอีกคน” ท็อปสวนกลับ

“ทำไมล่ะท็อป...เราชอบท็อปมาตั้งแต่ม.ต้น แถมเรายังพยายามทำดีกับท็อปมาตั้งเยอะตั้งแยะ ทำไมท็อปไม่เคยเห็นจะสนใจเราบ้าง แต่กับไอ้เด็กที่ไหนก็ไม่รู้ ทำไมท็อปถึงเลือกมัน? มันดีกว่าผู้หญิงจริงๆอย่างเราตรงไหนกัน !!!” เธอโวยวายใส่ท็อปอย่างเหลืออด

“พี่หวาน แบงค์ว่า เราสงบสติอารมณ์กันก่อนเถอะพี่” แบงค์ปราม พี่ท็อปก็ยืนมองพี่หวานอย่างโกรธๆ เขากัดฟันกำหมัดแน่นเพื่อระงับอารมณ์ “คนในร้านเขายืนมองเรากันหมดแล้ว”

“พวกหนูๆ ไปทะเลาะกันที่อื่นได้ไหม? ป้าจะขายของ” ป้าเจ้าของร้านพูดขึ้นเมื่อเห็นจังหวะแทรกได้

แบงค์ยืนไหว้ขอโทษแทนพี่ๆทั้งสองคนก่อนจะลากท็อป กลับมาที่มอเตอร์ไซค์ ท็อปยังคงหันหน้ามามองหวานอย่างหงุดหงิดพลางสตาร์รถ หมดอารมณ์จะกิน ส่วนหวานเองก็รู้สึกหน้าร้อนฉ่าด้วยความโกรธ สงครามครั้งนี้ เธอจะหยุดมันเอง รู้ดีว่าสักวันที่เธอต้องลงมือจัดการอะไรที่มันไม่ถูกต้องในสายของประธานนักเรียนอย่างเธอจะต้องมาถึง

หวานนึกถึงคืนวันก่อนที่เรื่องราววิวาทได้เกิดขึ้น เธอกำลังนั่งอ่านหนังสืออยู่ที่อีกมุมของร้าน เมื่อตอนที่ท็อปเดินเข้ามาโวยวายในร้านด้วยความโกรธ ทุกคนในร้านต่างก็นิ่งหยุดการเคลื่อนไหว มองดูท็อประเบิดโทสะอยู่กับกายที่ดูเหมือนจะไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไรเท่าไรนัก หวานรีบคว้าโทรศัพท์เครื่องใหม่ของเธอขึ้นมาเพื่อถ่ายคลิปเก็บเอาไว้เป็นหลักฐาน และครั้งนี้เธอตั้งใจจะปล่อยมันลงโซเชียลเน็ตเวิร์กโดยไม่สนใจจะถามความสมัครใจเหมือนหนก่อน

ทันทีที่ท็อปรีบผลุนผลันออกไป แล้วแบงค์พยายามวิ่งไล่ตามออกจากร้านไป หวานก็ค่อยๆเดินตามออกมานอกร้านเงียบๆ มองเห็นโทรศัพท์มือถือของท็อปที่ร่วงตกอยู่แถวๆพงหญ้าข้างบันไดหน้าร้านนม เธอจึงเก็บเอาไว้เผื่อว่าจะเอามาคืนท็อปในวันต่อมา แต่ตลอดทั้งคืนแบงค์โทรเข้ามาไม่ขาดสายพร้อมไลน์ที่เด้งเข้าๆ เธอสามารถมองเห็นทุกข้อความที่ขึ้นเตือนได้โดยที่ไม่ต้องกดเข้าไปดู เกือบทั้งคืน หวานก็ได้แต่นั่งเฝ้าโทรศัพท์ของท็อปเพื่ออ่านข้อความของแบงค์ที่ส่งให้ท็อป เพื่อให้ตนเองรู้ถึงความสัมพันธ์ที่แท้จริงของทั้งสองคนนี้อย่างชัดเจน พร้อมกันนั้น เธอก็ยังอัพโหลดวิดีโอของท็อปที่ก่อเรื่องในร้านพี่หลินลงในยูทูบบ์แล้วแชร์ในบอร์ดโรงเรียนอย่างเมามันโดยใช้ไอดีที่สร้างขึ้นใหม่เพื่อไม่ให้มีคนรู้ว่าเธอคือต้นเหตุของการปล่อยคลิปฉาวนี้...

เมื่อถึงโรงเรียน ท็อปและแบงค์ต้องแยกกันชั่วคราวตามที่แบงค์ขอไว้ เพื่อให้เรื่องมันซาเร็วที่สุด ท็อปจึงรีบเดินอาดๆไปที่ใต้อาคาร 5 ซึ่งเป็นอาคารที่มีห้องสมุดอยู่ชั้นบนและมีสวนหย่อมเล็กๆพร้อมม้านั่งหินอ่อนเอาไว้ให้นักเรียนนั่งทำการบ้านหรือพักผ่อนช่วงนี้ยังเช้าอยู่ นักเรียนส่วนใหญ่มักจะอยู่ที่โรงอาหาร จึงเป็นการดีที่ท็อปจะได้ปลีกวิเวกสงบๆบ้าง

“ไง คุณนักเลงหน้าหล่อ” เสียงคาร์พทักขึ้นมาจากข้างหลังท็อป ที่กำลังจะคว้าแท็ปเลตขึ้นมาเล่นเกมส์

“เหอะ ขำเข้าไป เยาะเย้ยกันเข้าไป” ท็อปว่า ส่งสายตาเคืองๆใส่เพื่อนที่เดินเข้ามาแซว “มึงก็ไม่ช่วยกูเลยนะเว้ย ปล่อยให้กูโดนพ่อกับครูปรีชาดุซะไม่เหลือซากเลย” ท็อปบ่น

“มึงทำตัวเองเหอะ ไอ้ท็อป ไม่ต้องมาโทษกูเลย ... แต่เมื่อเช้ากูเห็นโพสต์ขอโทษมึงในเฟซละ มีคนแชร์ไปหลายสิบคนละนี่” ปลาคาร์พบอกข้อมูลพร้อมกับยื่นโทรศัพท์ของตนมาให้เพื่อนดู ท็อปจึงรีบกดเปิดมาดูคอมเมนต์ว่า แนวโน้มจะไปทิศทางไหน

<ก็ดีที่รู้ตัวว่าผิด ออกมาขอโทษกันตรงๆ ก็แฟร์ ๆ ดี แต่จะดีกว่านี้ถ้าไปขอโทษกันซึ่งหน้านะครับ>
< ให้อภัยกันดีกันนะคะ>
<ได้ข่าวว่าโดนเรียกเข้าห้องปกครองไปแล้ว คงเคลียร์กันไปด้วยดีแล้วล่ะ>
<กลับตัวกลับใจได้ ก็ดีแล้ว สู้ๆ งับ>


แนวโน้มของทุกคนก็ดูจะมีไปในทางบวกมากขึ้น ท็อปยิ้มให้กับตัวเอง เมื่อเลื่อนอ่านดูในแต่ละลิงค์ที่มีคนแชร์ อย่างน้อย มันก็น่าจะเบี่ยงประเด็นเรื่องเขากับแบงค์ไปได้เป็นเรื่องของการทะเลาะวิวาทส่วนตัวกับพี่กายแทน
ปลาคาร์พมองท็อปอย่างไม่ค่อยสบอารมณ์เท่าไรนัก เมื่อเห็นเพื่อนดูหน้าบานขึ้นเมื่อเห็นคอมเมนต์แต่ละประโยค

“ท็อป กูว่าตั้งแต่มึงไปคบหากับไอ้แบงค์ กูว่านิสัยมึงเปลี่ยนไปเยอะเลยนะ ที่เขาลือๆกันมานี่ มันจริงหรือเปล่าวะ?” คาร์พถามสีหน้าซีเรียส “กูไม่อยากปล่อยให้มันคาราคาซังนะ ยิ่งกูรู้มาจากแม่ว่ามึงทะเลาะกับพ่อที่ห้องปกครอง กูยิ่งรู้สึกว่ามันชักจะเลยเถิดไปใหญ่แล้ว”

ท็อปยื่นโทรศัพท์คืนให้แล้วหันหน้ามามองปลาคาร์พด้วยสีหน้าเรียบเฉย “ไอ้คาร์พ ทุกครั้งที่กูอยู่กับมึงกูสบายใจนะเว้ย อย่าให้กูต้องมานั่งตอบคำถามพวกนี้เลย” ท็อปตัดบท

“เนี่ย มึงเปลี่ยนไปชัดเจน มึงไม่เคยปิดอะไรกูเลยสักเรื่อง ทำไมเรื่องนี้มึงไม่พูดตรงๆวะ ว่ามึงกับแบงค์เป็นแฟนกัน กูก็เคยถามมึงมาหนนึงแล้ว มาจนป่านนี้มึงก็ไม่บอก ทำตัวลับๆล่อๆให้กูเดาไปเอง แล้วนี่ ถึงขนาดแม่กูมาเล่าให้ฟัง แล้วมาถามกูว่า รู้เรื่องไหม? กูนี่อึ้งไปเลยเหมือนกันนะ” ปลาคาร์พบอก “มึงน่าจะเห็นแก่กูบ้าง”

“ก็เพราะกูเห็นแก่มึงไง ไอ้คาร์พ กูรู้ว่ามึงจะต้องเป็นแบบนี้ กูถึงไม่พูดไง” ท็อปตอบหลบสายตาเพื่อน “แค่นี้กูก็ทำคนรอบข้างเสียใจเพราะกูมากพอแล้ว”

“มึงอย่าหลบตากูดิวะ ใช่ก็บอกว่าใช่ ไม่ใช่ก็บอกว่าไม่ใช่ ทำยังกะกูอ่านมึงไม่ออกงั้นแหละ” ปลาคาร์พตะคอก

“เออ กูกับแบงค์เป็นแฟนกัน พอใจรึยัง? ถ้าอยากรู้นัก พอใจไหม?” ท็อปตะคอกกลับ ก่อนจะเก็บกระเป๋าเป้ที่วางอยู่ขึ้น พร้อมจะเดินหนีการสนทนานี้

ปลาคาร์พเงียบ ท็อปหันมามองเพื่อนอีกครั้ง ในใจก็รู้สึกเสียใจที่ตัวเองพูดจารุนแรงขึ้นๆ เพราะโดนเพื่อนถามซักไซ้จนโมโห แต่อีกใจเขาก็อยากจะตัดๆเรื่องทั้งหมดให้จบไป “เอ่อ...กูขอโทษ กูโมโหไปหน่อย กูไม่ได้ตั้งใจจะว่ามึง”

“พอเหอะ ไอ้ท็อป เพราะไอ้แบงค์คนเดียวที่ทำให้มึงกับกูเป็นแบบนี้” ปลาคาร์พพูด เสียงสั่น

“อย่าเอาน้องมาเกี่ยวดิวะ มันเรื่องระหว่างมึงกะกูปะ?” ท็อปถามย้อน “ที่กูไม่อยากบอกมึงก็เพราะงี้ ดูมึงดิ เดี๋ยวก็งอนกู โมโหใส่กูอีก นึกว่ากูไม่รู้เรอะไง?”

“ทั้งๆที่มึงก็รู้ว่ากูคิดยังไงกับมึงแท้ๆ...” ปลาคาร์พตัดพ้อ น้ำตารื้น แต่เขาก็พยายามสะกดกลั้นไว้ น้ำตากับลูกผู้ชายนักกีฬาไม่ใช่สิ่งที่จะมาควบคู่กัน

ท็อปเดินเข้าไปสวมกอดเพื่อน “กูรู้ไง กูถึงไม่บอกมึง กูรู้ว่ามึงรักกู แต่มึงเป็นเพื่อนที่ดีของกูมาก กูคิดเกินกว่านั้นไม่ได้จริงๆ กูก็อยากให้มึงรักกูแบบที่กูรักมึงเหมือนกัน มันยั่งยืนยาวนาน กูกลัวว่าถ้าวันนึงกูรักมึงแบบนั้นไป แล้วเกิดเราเลิกกันกูกลัวจะเสียมึงไป ยังไงไอ้คาร์พ มึงคือเพื่อนที่ดีที่สุดของกูนะ”

ปลาคาร์พสวมกอดตอบเพื่อน พลางถอนหายใจออกมา นานเท่าไรแล้วหนอที่เขาไม่ได้กอดกันอบอุ่นแบบนี้

“กูขอโทษมึงเหมือนกันว่ะ” ปลาคาร์พพูด

“เฮ้ย..กูต่างหาก” ท็อปรีบปฏิเสธ “กูผิดที่กูดันเกิดมาหล่อไป ใครๆก็ดันชอบกูไปซะหมด หล่อเลือกได้ก็งี้แหละ” ว่าแล้วท็อปก็หัวเราะร่า พยายามเปลี่ยนบรรยากาศ

“ไอ้เชี่ยเอ๊ย” ปลาคาร์พว่า รู้สึกหมั่นไส้ท็อปขึ้นมาทันที ถึงกับไล่เตะเพื่อน “มึงมาให้กูเตะแก้แค้นคืนเลย มึงทำกูเสียความรู้สึก”
ท็อปคว้ากระเป๋าเป้ได้ปุ๊บก็รีบวิ่งหนีไปทางโรงอาหาร ในขณะที่ปลาคาร์พก็รีบคว้าเป้แล้ววิ่งไล่เพื่อนตามมา

จบตอนที่ 13 ครับ พบกันตอนที่ 14 ได้ในวันศุกร์ที่ 27/02/2014 ครับ

**ชอบกันก็เม้น Thanks ได้นะครับ ขอบคุณที่สนับสนุนผลงานครับ** ต่อจากนี้จะยิ่งเข้มข้นจนต้องกัดฟัน ขยำมือ ตามเนื้อรเื่องกันเลยทีเดียว ช่วยเป็นกำลังใจให้กับรักห้าเส้าหนนี้ด้วยนะครับ T^T
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 25-02-2015 21:09:34 โดย akiraakka »

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11
รักห้าเศร้าเลยเหรอออ. โอ้ พระเจ้า :katai1: :katai1: :katai1:

ออฟไลน์ 4559

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3978
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-8

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ blur

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 145
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-0
หาคู่ให้คาร์พด่วนนนน

ออฟไลน์ brookzaa

  • Chill out
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1416
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-6

ออฟไลน์ zipboy

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 309
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +65/-0
เป็นไปในทางที่ดีขึ้นบ้างแล้ว สองตอนก่อนหน้า อึดอัดแทนคู่ท็อปกับแบงค์จริงๆ

รออ่านต่อนะครับ^^

ออฟไลน์ poohanddew

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 635
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-2
นังหวานมันน่าโดนกระโดดถีบขาคู่จริงๆ
 :z6: :z6: :z6:

ออฟไลน์ yowyow

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4188
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +139/-7

ออฟไลน์ akiraakka

  • Deus Deorum (God of Gods)
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 57
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +14/-0
    • เพื่อน(?)ผมเป็นผู้วิเศษ ภาคแรก
บทที่ 14
ความอดกลั้นที่หมดลง


เรื่องท็อปทะเลาะกับพี่กายค่อยๆซาลงไปหลังจากนั้นไม่กี่สัปดาห์ แม้ว่าท็อปจะเสียคะแนนนิยมลงไปบ้างแต่ว่าตอนนี้ สถานการณ์เริ่มกลับสู่สภาวะปกติ เรื่องของดรัมเมเยอร์สีชมพูกับป๊อบปูล่าร์บอยประจำม. 5 อย่างท็อปกลายเป็นคู่จิ้นเริ่มเป็นที่ชื่นชอบของสาวๆม.ต้น ม.ปลายที่ปลื้มทั้งแบงค์และท็อป และแม้ว่าพ่อของท็อปนั้นยังคงปั้นปึ่งกับแบงค์ แต่ก็ยังทำหน้าที่ของอาจารย์ได้อย่างดีเยี่ยมเช่นเดิม ต้องนับถือใจของความเป็นครูที่แยกแยะเรื่องส่วนตัวกับเรื่องงานได้เป็นอย่างดี

ความสัมพันธ์ของแบงค์และท็อปค่อยๆดีขึ้นเรื่อยๆ แม้ว่าทั้งสองคนจะตัดสินใจแล้วว่า จะเจอกันแค่ช่วงระหว่างพักและตอนเย็นบ้างเมื่อมีเวลา แบงค์บอกพี่ท็อปว่า ให้ใช้เวลาอยู่กับเพื่อนๆอย่างพี่คาร์พบ้าง เพื่อไม่ให้คนอื่นรู้สึกไม่ดีกับแบงค์ ส่วนแบงค์ก็รู้สึกสบายใจที่ทุกอย่างกำลังมีแนวโน้มไปในทิศทางที่ดีขึ้น

หลังเลิกคาบเรียนวิชาภาษาอังกฤษ แบงค์ได้รับคำสั่งจากอาจารย์ประจำวิชาให้ยกเอาสมุดการบ้านไปส่งที่ห้องพักครู กองสมุดสูงเป็นพะเนินกว่า 50 เล่มที่เขาจะต้องยกไปอีกอาคารหนึ่ง เกมส์อาสาจะไปเป็นเพื่อนแต่แบงค์รีบปฏิเสธไปเพราะเห็นว่าเพื่อนกำลังรีบทำการบ้านในวิชาต่อไป เขาจึงไม่อยากให้เกมส์มาเสียเวลากับแค่เรื่องยกกองสมุดไปส่งที่ห้องพักครู

“แน่ใจนะว่ายกคนเดียวไหว” เกมส์ถาม มองหน้าแบงค์แบบเกรงใจ

“เฮ้ย ไม่เป็นไรหรอกน่า อยู่ตึกใกล้ๆนี่เอง เผื่อได้คะแนนจิตพิสัยเพิ่ม เกมส์รีบลอกการบ้านหน้านี้ให้เสร็จเลย เดี๋ยวอาจารย์วิชาสังคมเข้ามาแล้วนายจดไม่ทันส่ง จะยิ่งมีปัญหานะ” แบงค์บอกแล้วค่อยๆ ลองยกกองสมุดขึ้นมา

“เออ ได้ โทษทีนะเว้ย ไม่ลองให้คนอื่นช่วยยกไปล่ะ” เกมส์ออกความคิดเห็นแต่แบงค์กลับส่ายหน้า

“ยกไหวอยู่น่า งั้นเดี๋ยวเราไปก่อนนะ” แบงค์บอกแล้วค่อยๆ หอบสมุดทั้งหมดไปโดยไม่ยอมให้เพื่อนคนอื่นๆช่วย

เขาค่อยๆประคองเดินลงอาคารมาพอดีกับที่เป็นช่วงเปลี่ยนคาบเรียน นักเรียนหลายๆชั้นต่างพยายามเดินไปเข้าห้องเรียนห้องใหม่ บ้างก็วิ่งเล่นกันตามระเบียง แบงค์เลยต้องพยายามมีสมาธิกับการเดินไปข้างหน้าอย่างมากเพราะหนังสือกว่าห้าสิบเล่มถ้าล้มครืนลงมา ก็ต้องมานั่งเสียเวลาเก็บใหม่อีก แต่เท่าที่เขาคะเนน้ำหนักดูแล้วมันก็ไม่ได้ประคองยากเย็นนัก

แต่ทว่าแบงค์ก็ประคองได้ไม่ได้นานนัก กลุ่มเด็กม.1ที่กำลังจะมาเรียนที่อาคารนี้ วิ่งสวนแบงค์มาแต่ไม่ทันได้มองว่ามีรุ่นพี่กำลังแบกสมุดงานกองโตอยู่ข้างหน้าจึงชนโครมเข้าให้เต็มๆ ทำให้สมุดทั้งหมดหล่นกระจายอยู่กับพื้น แถมแบงค์ก็ก้นจ้ำเบ้าลงกับพื้นหินอ่อนเย็นๆอีก

“ขอโทษครับ พี่” รุ่นน้องบอก ก่อนที่จะรีบช่วยแบงค์เก็บสมุดที่กองตกอยู่

“ทีหลังน้องอย่าวิ่งที่ระเบียงทางเดินสิ เนี่ยเวลาเดินชนคนอื่นมันก็เจ็บตัวทั้งคู่เห็นไหม ?” แบงค์ดุ แต่ก็ไม่ได้ว่าอะไรมาก เพราะเห็นว่ามันเป็นอุบัติเหตุ พอดีกับที่พี่กายเดินเข้ามาเห็นแบงค์กับเด็กม.1กำลังนั่งเก็บสมุดอยู่พอดี

“อ้าว น้องแบงค์ ใครมาเดินชนจนสมุดระเนระนาดแบบนี้เนี่ย” พี่กายถามขึ้น สีหน้าตกใจ รีบก้มลงเก็บช่วยอีกแรง

“ผมเดินชนพี่เขาเองครับ” น้องม. 1 บอก สีหน้สำนึกผิด “ผมกลัวจะเข้าเรียนไม่ทัน เลยรีบวิ่งมา”

“งั้นไม่เป็นไร เดี๋ยวพี่ช่วยเอง น้องไปเรียนก่อนเถอะ” พี่กายบอก

น้อง ม.1ไหว้เป็นเชิงขอบคุณจากนั้นจึงรีบวิ่งไปเข้าห้องเรียนที่อยู่ถัดไปไม่ไกล

“ขอบคุณครับพี่กาย” แบงค์บอก “จริงๆพี่ไม่ต้องช่วยก็ได้นะครับ เรื่องแค่นี้เอง เดี๋ยวแบงค์เก็บเองก็ได้” แบงค์บอก

“แบงค์น่าจะเรียกเพื่อนคนอื่นมาช่วยนะ มันน่าจะช่วยกันถือสองคนน่าจะดี นี่มันตั้งเยอะ” พี่กายบอก แล้วอุ้มขึ้นมาครึ่งกองแบ่งให้แบงค์ อีกครึ่งหนึ่งเขาถือเอาไว้ “เดี๋ยวพี่ช่วยยกไปด้วย จะได้ไม่ร่วงอีก”

“จะดีเหรอพี่ เดี๋ยวพี่ก็เข้าเรียนสายหรอก” แบงค์รีบทักท้วง ใจหนึ่งก็กลัวว่าเดี๋ยวพี่ท็อปจะเจอเข้าอีก เรื่องหนที่แล้วก็อุตส่าห์ซาๆลงไป แบงค์ไม่อยากให้มีคดีใหม่เกิดขึ้นในระยะนี้

“คิดมากน่า ให้พี่ช่วยนั่นแหละ ห้องหมวดภาษาอังกฤษใช่ไหม ?” พี่กายถามขึ้นมาหลังจากมองดูหน้าสมุดที่เขียนชื่อรายวิชาเอาไว้

“ค...ครับ” แบงค์ตอบ ยอมให้รุ่นพี่ช่วยยกไปแม้ไม่เต็มใจ

ในระหว่างที่เดินไปด้วยกัน แบงค์รู้สึกกระอักกระอ่วนไม่น้อย พอมานั่งนึกๆถึงเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อหลายอาทิตย์ก่อน ที่เขาและพี่ท็อปเป็นสาเหตุที่ทำให้พี่กายโดนเรียกเข้าห้องปกครองไป ตัวพี่ท็อปก็ไม่ได้ออกมาขอโทษพี่กายแบบตัวต่อตัว ทำให้แบงค์ยิ่งรู้สึกไม่ดีเข้าไปอีก

“เรื่องหนก่อน...แบงค์ขอโทษแทนพี่ท็อปด้วยนะครับ ไม่คิดว่าอะไรมันเลยเถิดไปขนาดนั้น” แบงค์พูด ตัดสินใจเป็นคนเริ่มขอโทษพี่กายก่อน

“อ๋อ เรื่องนั้นไม่เป็นไรหรอก” พี่กายตอบ  หันมายิ้มให้ สีหน้าของพี่กายไม่ได้แสดงความกังวลอะไรแม้แต่น้อย “ตอนแรกพี่ยังรู้สึกงงๆว่าทำไมท็อปถึงต้องหัวฟัดหัวเหวี่ยงขนาดนั้น”

“โดนเรียกเข้าห้องปกครองกันหมดเลย กลัวว่าจะทำให้พี่กายเสียประวัติไปด้วย” แบงค์พูดเสียงอ่อยๆ

“อย่าคิดมาก น้องแบงค์ เรื่องนี้พี่ไม่ได้ทะเลาะกับท็อปเขาต่อ ตั้งแต่เขาจะมาต่อยพี่แล้ว ดังนั้นถ้ากลัวพี่จะเสียชื่อคงไม่เป็นแบบนั้นหรอก พี่ห่วงว่าฝ่ายที่จะเสียคือท็อปต่างหาก ขานั้นเป็นถึงลูกอาจารย์ ถ้ามีพฤติกรรมไม่น่าพอใจ ฝ่ายนั้นคงโดนเยอะกว่าพี่” พี่กายบอกอย่างมีเหตุผล

“ก็จริงของพี่นั่นแหละครับ” แบงค์พูด เดินขึ้นตึกใกล้ๆที่มีห้องพักครูหมวดภาษาอังกฤษอยู่

“พี่ก็เลยพอเดาๆได้ว่า เพราะอะไรท็อปถึงโมโหพี่ขนาดนั้น” พี่กายบอก หันมายิ้มแบบมีเลศนัยให้แบงค์

“เดา ? พี่กายจะเดาว่า ?” แบงค์ถามกลับ หันหน้ามองรุ่นพี่อย่างสงสัย

“ท็อปกับแบงค์ไม่น่าจะเป็นแค่รุ่นพี่รุ่นน้องธรรมดากันแล้วละมั้ง ?” พี่กายพูดลอย ๆ ในขณะที่เดินนำไปด้านหน้า แบงค์จึงรีบเร่งฝีเท้าตาม แต่ไม่ได้ถามกลับ รู้สึกหัวใจเต้นระรัวขึ้นมา

“พี่กายกำลังหมายถึง...?” แบงค์เกริ่น

“ท็อปเขาชอบแบงค์เหมือนที่พี่ก็ชอบแบงค์ใช่ไหมล่ะ?” พี่กายหันหน้ามาตอบตรงๆ แบงค์สตั๊นยืนนิ่งไปหลายวินาที

“พี่กายอย่ามาล้อเล่นกันแบบนี้สิ” แบงค์บอก เขาเริ่มหัวเสียขึ้นมาบ้างแล้ว ห้องพักครูหมวดวิชาภาษาอังกฤษอยู่ใกล้ๆนี้เอง เขาคิดว่าควรจะรีบไปจัดการวางสมุดส่งให้เสร็จให้เร็วที่สุดน่าจะดีกว่า เขาไม่อยากเปิดโอกาสให้พี่กายเข้ามามีความสัมพันธ์กับเขามากนัก แค่คำพูดเหล่านี้ก็ทำให้แบงค์รู้แน่ชัดแล้วว่าพี่กายคงสังเกตพวกเขามาพอสมควรแล้ว

“พี่ไม่ได้ล้อเล่นนะ” พี่กายบอกสีหน้าหนักแน่น “พี่ชอบความกล้าของแบงค์ กับความเด็ดเดี่ยวที่แบงค์มีตั้งแต่ตอนที่แข่งแบดกับพี่วันนั้นแล้ว แถมตอนนี้ดูเหมือนแบงค์จะป๊อบขึ้นมาหน่อยๆ หลังงานกีฬาสี พี่ถึงไม่แปลกใจเลยว่าทำไมท็อปถึงหวงแบงค์ขนาดนั้น”

แบงค์ไม่ตอบ เขาไม่อยากจะพูดอะไรมากกว่านี้อีก จึงรีบเดินเข้าไปในห้องพักครูที่มีอาจารย์นั่งรออยู่สมุดงานอยู่ กายก็เดินตามเข้ามาติด ๆ ที่โต๊ะอาจารย์รัชนีกร แม่ของพี่คาร์พ แบงค์เห็นพี่คาร์พกำลังนั่งอยู่ที่โต๊ะแม่พอดี กำลังหาของอะไรสักอย่าง ทั้งสองคนสบตากันในวินาทีนั้น ปลาคาร์พมองหน้าแบงค์และผู้ติดตาม ส่วนแบงค์ก็นิ่งอึ้งอยู่  ไม่คิดว่าจะเจอพี่คาร์พที่นี่ ยิ่งมีโอกาสเป็นไปได้สูงว่า พี่ท็อปอาจจะอยู่แถวๆนี้ด้วย

แบงค์รีบวางสมุดทั้งหมดลงที่โต๊ะอาจารย์ที่สอนภาษาอังกฤษของเขา พี่คาร์พมองทั้งสองคนอย่างสงสัยไม่วางตา  แน่นอนว่าปลาคาร์พต้องจำพี่กายได้แน่นอนจากในคลิปวิดิโอที่ถูดอัดประจานเอาไว้

“เอางานมาส่งเหรอ?” ปลาคาร์พทัก

“ใช่ครับ” แบงค์ตอบ หลบสายตารุ่นพี่ พยายามรีบส่งแล้วรีบเดินออกไป

“แบงค์จะรีบไปไหนน่ะ” พี่กายร้องเรียก แล้วเดินเร็วๆตามรุ่นน้องที่หนีออกมา “ทำไมถึงดูลุกลี้ลุกลนแปลกๆ”

“อ๋อ ไม่มีอะไรหรอกครับ แบงค์อยากจะรีบกลับไปเรียน วิชาสังคมมีรายงานต้องส่ง เดี๋ยวไม่ทันส่งงาน” แบงค์บอกปัดๆ แล้วรีบเดิน ส่วนพี่กายก็พยายามเดินตามมาติด ๆ

“แล้วแบงค์คิดยังไงกับท็อป ?” พี่กายถามขึ้นมาอีก

แบงค์ไม่ได้หยุดเดิน แต่ตอนนี้เขาเปลี่ยนอัตราเป็นการวิ่งแทนเป็นที่เรียบร้อย “พี่กายอย่าถามแบงค์เลย ถึงยังไงแบงค์ก็คิดกับพี่กายแบบรุ่นพี่อยู่ดีนะครับ”

“เดี๋ยวก่อน” พี่กายรีบคว้าแขนของแบงค์เอาไว้ “อย่าเพิ่งตัดโอกาสของพี่สิ แบงค์ยังไม่ได้ลองคบกับพี่เลย แบงค์จะรู้ได้ยังไงว่าพี่ไม่ดีพอที่จะคบกับแบงค์”

แบงค์หันหน้ามามองรุ่นพี่แบบกังวล “เชื่อแบงค์เถอะพี่กาย ความรักมันไม่ได้ง่ายแบบนั้น ที่ผ่านมาปัญหามันก็เกิดขึ้นมาตลอดกับความสัมพันธ์แบบนี้ แบงค์ไม่อยากจะเป็นสาเหตุให้พี่ต้อง...”

“อย่าตีตนไปก่อนไข้สิ” กายพูด ทำให้แบงค์นึกถึงประโยคเดียวกันกับที่พี่ท็อปพูดกับเขาในคืนที่เรื่องแดงขึ้นมา “ถ้าพี่ตัดสินใจที่จะบอกกับแบงค์แบบนี้ แสดงว่าพี่ยินดีรับสภาพมันไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นมาก็ตาม”

แบงค์นิ่งเงียบ ... เขาไม่อยากจะบอกพี่กายไปว่าเขากับท็อปนั้นคบกันอยู่ เพราะกลัวว่าถ้ามีคนรู้เรื่องนี้มากขึ้นเรื่อยๆ ก็จะไม่เป็นผลดีกับพี่ท็อปเลย “แล้วพี่จะให้แบงค์ทำยังไง?”

“ลองคบกับพี่ดูไหม?” พี่กายถามขึ้นมา “พี่ไม่ใช่คนอารมณ์ร้อน อย่างคนอื่นๆที่แบงค์อาจจะเคยคบ และพี่เชื่อว่าพี่จะทำให้แบงค์มีความสุขได้”

“พี่พูดเหมือนว่าการที่จะรักใครชอบใครมันง่ายดายอย่างนั้นแหละ ไม่ใช่ว่าแบงค์ไม่ชอบพี่กายนะ แต่ว่า..ให้เวลาแบงค์คิดหน่อยได้ไหม?” แบงค์บอกปัดๆ จริงๆเขาตั้งใจจะแค่ตัดบทแล้วจากมามากกว่า

“ได้สิ ถ้าแบงค์ขอพี่แบบนี้” พี่กายบอก “แค่ให้โอกาสพี่ได้ดูแลแบงค์บ้าง แบงค์จะได้รู้ชัดเจนว่าระหว่างพี่กับอีกคนหนึ่งของแบงค์ ใครที่คู่ควรมากกว่ากันดีไหม?”

“ใครอีกคนที่พี่พูดหมายถึงใคร?” แบงค์ถามย้อน “แบงค์ยังไม่ได้พูดชี้นำอะไรเลยนะครับพี่กาย อย่าเพิ่งเข้าใจผิด”

“แบงค์ไม่ต้องปิดพี่หรอก พี่รู้ว่าแบงค์กลัวว่าท็อปมันจะโกรธ แบงค์กับท็อปคบกันอยู่พี่ก็รู้เหมือนกัน” พี่กายบอก

แบงค์นิ่งเงียบ สรุปแล้ว พี่กายก็รู้ความจริงมาตลอดนับตั้งแต่วันนั้น แม้ว่าแบงค์จะพยายามหาเรื่องบ่ายเบี่ยงแต่ว่าอีกฝ่ายคงรู้ชัดเจนแล้ว ถึงได้กล้าถามเขาตรงๆขนาดนี้

“ถ้าอย่างนั้น จะให้แบงค์บอกพี่กายยังไงดี” แบงค์พูด เอามือเกาหัว เพราะสุดจะคิดว่าจะบอกรุ่นพี่คนนี้อย่างไรไม่ให้เสียน้ำใจ
“พี่รู้ว่าแบงค์ก็ไม่ได้ชอบท็อปขนาดนั้น นิสัยเธอสองคนเข้ากันไม่ได้หรอก ลองให้โอกาสพี่ดูสิ อย่าปิดกั้นตัวเอง” พี่กายบอก
จริงของพี่กาย สิ่งหนึ่งในตัวพี่ท็อปที่แบงค์ไม่ชอบใจนักคือความเจ้าอารมณ์ และไม่ชอบฟังเหตุผล เอาแต่ใจตัวเองหน่อยๆ แต่จะให้เลิกกับพี่ท็อปมาคบกับพี่กายมันก็ไม่ใช่ประเด็นอีกเหมือนกัน การที่เขาหลงรักพี่ท็อป มันก็ไม่ใช่เพราะว่าเขาเป็นคนเริ่มก่อน แต่เป็นเพราะความผูกพันที่มันค่อยๆซึมเข้ามาเรื่อยๆต่างหาก

“แบงค์ไปก่อนนะครับ เลยเวลาเรียนไปมากแล้ว” แบงค์พูดแล้วรีบเดินจากมา

“งั้นพี่ถือว่าเป็นคำตกลงนะครับ” กายพูดไล่หลัง ทึกทักเอาว่าแบงค์ตอบตกลง

แบงค์ไม่ตอบแต่รีบเดินลงจากตึกแล้วกลับขึ้นไปที่อาคารเรียนของตัวเองทันที ส่วนกายก็เดินลงจากอาคารไปอีกทาง ทั้งสองคนไม่ทันสังเกตเห็นท็อปที่ยืนแฝงเร้นกายอยู่ที่มุมเสาใกล้ๆ เพื่อฟังบทสนทนาของทั้งคู่ ท็อปกับคาร์พต่างก็แวะมาเอาเอกสารที่หมวดภาษาอังกฤษเหมือนกัน แต่เขาไปเข้าห้องน้ำเสียก่อน เลยให้ปลาคาร์พนำไปก่อน พอเดินกลับมาก็เจอเข้ากับแบงค์และพี่กายคุยกันพอดีที่ริมระเบียงทางเดิน เขาจึงค่อยๆเขยิบเข้ามาฟังสิ่งที่ทั้งสองคนคุยกัน รู้สึกโมโหและโกรธจนหน้าแดง มือกำหมัดแน่นตลอดเวลาที่ได้ยินทั้งสองคนคุยกัน แต่ก็ไม่ได้ออกมาให้ทั้งคู่เห็น

===========================================

เมื่อถึงเวลาเลิกเรียน ท็อปมารอแบงค์ที่หน้าห้องเรียนวิชาสุดท้ายทันทีที่มีเสียงออดบอกเวลาเลิก เขานั่งสั่นขารออยู่ที่หน้าระเบียง ตาจ้องไม่วางรอแบงค์ออกมาจากห้อง

“แบงค์ พี่ท็อปมารอแกที่หน้าห้องว่ะ” เกมส์บอก เมื่อเขาหันมาเห็นพี่ท็อปนั่งอยู่หน้าระเบียง

“มาทำไมของเขานะ” แบงค์พึมพำ แล้วรีบเก็บของจากนั้นจึงเดินออกมาหาท็อปที่หน้าห้อง

ท็อปไม่พูดพร่ำทำเพลง หรือแม้แต่จะทักทายแบงค์สักคำ เขารีบคว้าแขนแบงค์อย่างแรงแล้วเดินลากน้องไปที่ห้องเรียนที่ว่างอยู่ข้าง ๆ

“โอ๊ย พี่ท็อป แบงค์เจ็บนะพี่” แบงค์ร้องบอก

“ทีตอนคุยกับไอ้กาย ไม่เห็นเป็นแบบนี้เลย คุยกันเสียงอ่อนเสียงหวาน จับมือถือแขน พอพี่ลากมาแบบนี้บ้างมาทำโวยวาย” พี่ท็อปแขวะใส่

แบงค์นึกขึ้นได้ทันที แสดงว่าพี่ท็อปน่าจะเห็นเขากับพี่กายสนทนากันที่ใกล้ห้องพักครูหมวดภาษาอังกฤษแน่ๆ

“พี่ท็อปเอาอีกแล้วนะ ทำไมพี่ชอบโมโหแบบไม่มีเหตุผลแบบนี้เรื่อยเลย” แบงค์บอกเสียงหงอยๆ “ไม่เคยเชื่อใจกันบ้าง”

“ก็จะให้เชื่อใจได้ยังไงล่ะ ก็เห็นอยู่คาตาว่าอยู่กับไอ้กายนั่น ทำไม ? ได้กับมันมาแล้วหรือไง ถึงไปทำตัวสนิทสนมกันนัก” พี่ท็อปโวยวาย

แบงค์สูดลมหายใจเข้าลึกๆ หลับตา พยายามระงับอารมณ์โกรธเอาไว้ไม่ให้ปะทุออกมาบ้าง

“ตอบมาดิวะ แบงค์ นี่มันหนที่สองแล้วนะ ที่แบงค์ทำกับพี่แบบนี้” ท็อปบอกผลักอกแบงค์จนเซ

“ไม่คุยด้วยแล้ว พี่ท็อปไปสงบสติอารมณ์มาก่อนเหอะ แล้วค่อยมาคุยกัน” แบงค์บอก คว้ากระเป๋าเป้ที่วางอยู่ข้างๆขึ้นมาแล้วรีบเดินออกจากห้องเรียน แต่ท็อปก็กระชากกระเป๋าของแบงค์เอาไว้

“เฮ้ย แบงค์ พี่ไม่ให้ไป อย่าให้พี่ต้องใช้ความรุนแรงมากกว่านี้นะ” พี่ท็อปตะคอก “ตอบมา ไปมีอะไรกับมันมาแล้วใช่ไหมถึงมีมันตามติดต้อยๆแบบนั้น”

“พี่ท็อปจะบ้าเหรอ ใครจะไปมีอะไรกับคนอื่นไปทั่วเหมือนพี่ท็อปล่ะ กว่าจะมาถึงแบงค์ พี่เอาไปกี่คนแล้ว ยังมีหน้ามาพูดอีก” แบงค์ระเบิดอารมณ์โต้กลับเสียงดังลั่นห้อง

“ไอ้แบงค์” ท็อปกระชากคอเสื้อแบงค์ด้วยความโกรธ “มึงเคยคิดไหมว่ากูรักมึงแค่ไหน ทำไมมึงทำกับกูแบบนี้วะ”

“พี่ท็อปไม่เคยฟังเหตุผลอะไรจากแบงค์เลย” แบงค์ตะคอกกลับ โมโหสุดขีดเหมือนกัน “แบงค์ไม่อยากจะคอยตามอารมณ์พี่ท็อปตลอดเวลาแบบนี้แล้วนะ ถ้าขืนพี่ทำแบบนี้กับแบงค์เรื่อยๆ ต่อไปนี้แบงค์จะตัดขาดกับพี่จริงๆนะพี่ท็อป”

“ก็มึงไปมีอะไรกับมันมา จะให้กูต้องรอฟังเหตุผลอะไรอีก” พี่ท็อปตะโกนใส่

“พี่ก็คิดไปเอง แบงค์พูดตอนไหนว่าแบงค์ไปมีอะไรกับพี่กาย แบงค์อยู่ของแบงค์ดีๆ ไม่ได้ทำอะไรให้ใครเลย มีแต่พวกพี่นั่นแหละที่ชอบเอาปัญหามาให้แบงค์” แบงค์บอกเขาอยากจะร้องไห้ออกมาเหมือนกัน แต่สถานการณ์กำลังบอกว่า เขาต้องอดกลั้นเอาไว้

“เออ กูมันตัวปัญหา” ท็อปผละมือออกจากแบงค์ “ที่ผ่านมากูไม่เคยทำดีกับใครได้เลย มีแต่สร้างเรื่องตลอด” ท็อปโวยวาย “พอกันที ต่อไปนี้เราจะได้ไม่ต้องเจอกันอีก”

“สุดท้าย พี่ท็อปนั่นแหละที่จะเป็นคนทิ้งแบงค์ ทุกอย่างทั้งหมดก็เพราะตัวพี่เองทั้งนั้น ถ้าพี่รู้จักควบคุมอารมณ์ตัวเองบ้าง ฟังเหตุผลมากกว่านี้บ้าง แบงค์ว่าพี่คงจะเป็นคนที่น่ารักมากกว่านี้นะพี่ท็อป” แบงค์พูดตัดพ้อ เขาพยายามสะกดกลั้นใจของเขาอยู่เช่นเดียวกัน

ท็อปปล่อยมือจากคอเสื้อของรุ่นน้องแล้วยืนหันหลังให้เขา มองออกไปนอกหน้าต่าง กำหมัดแน่น ขบฟันด้วยความโกรธ

“แบงค์ก็บอกไปตั้งแต่แรกว่า เราน่าจะเลิกกันไปตั้งแต่ตอนที่เราออกมาจากห้องปกครองแล้ว แบงค์พยายามเลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้พี่ แต่พี่ไม่เคยยอมรับ แล้วก็มารั้งแบงค์ไว้ พอมาถึงจุดนี้ พี่ก็ไม่ฟังเหตุผลแล้วก็มาไล่แบงค์ไป เนี่ย พี่เห็นรึยังล่ะว่าอะไรมันเป็นยังไง” แบงค์บอก

“เออ กูมันเลว” ท็อปบอก

“แบงค์ไม่ได้จะว่าพี่แบบนั้นนะพี่ท็อป” แบงค์บอก “พี่ท็อปจะโกรธแบงค์ทำไม? ที่ผ่านมา เราเจออะไรมาขนาดนั้น แบงค์ก็ยังสัญญาว่าแบงค์จะอยู่ข้างพี่ แล้วพี่ท็อปมาโมโหใส่แบงค์แบบนี้มันถูกต้องหรือเปล่า ? ทำไมไม่คุยกันดีๆล่ะ”
ท็อปไม่ตอบได้แต่หันหน้ามาจ้องแบงค์ สูดหายใจฟืดฟาดแบบคนกำลังยั้งอารมณ์

“พี่ท็อปต้องการอะไรกันแน่” แบงค์ถาม มองหน้าท็อปด้วยสายตาเหนื่อยใจ “แบงค์ไม่รู้จะเอาใจพี่ท็อปแบบไหนแล้ว ที่ผ่านมาแบงค์ก็ยอมพี่มาหมดแล้ว พี่จะเอาอะไรอีก”

ท็อปหลับตา พยายามสงบสติอารมณ์ลง “พี่ไม่ต้องการอะไร” ในที่สุดเขาก็พูดขึ้น “พี่แค่อยากให้แบงค์อยู่กับพี่คนเดียวเท่านั้น แบงค์เป็นของพี่ และพี่ก็เป็นของแบงค์ พี่ไม่อยากให้ใครหน้าไหนมันมาเอาแบงค์ไปจากพี่”

“พี่ท็อป” แบงค์เรียกน้ำเสียงเศร้าใจ “ที่ผ่านมาแบงค์ไม่เคยไปไหนจากพี่ท็อปเลยนะ”

“แล้วไอ้กายนั่นไงล่ะ? ก็เห็นคุยกันสัญญงสัญญาว่าจะลองเปิดโอกาสให้มันคบกับแบงค์ นี่มันคืออะไร พี่ได้ยินหมดทุกคำพูดนะ” ท็อปแหวใส่อีก

“แบงค์ไม่เคยสัญญา วันนี้แบงค์พยายามเลี่ยงตอบตลอดรู้ไหม แบงค์ไม่อยากให้เขารู้ด้วยซ้ำว่าเราคบกัน เพราะเดี๋ยวพี่ท็อปจะเจอปัญหากับพ่อแล้วก็คนอื่นอีก รู้ไหมว่าแบงค์ต้องพยายามแค่ไหนเพื่อที่จะปกปิดเรื่องที่เรารักกัน พี่ท็อปเป็นลูกอาจารย์ แล้วอาจารย์ก็ไม่ได้ชอบให้พี่ท็อปมารักแบงค์ พี่ท็อปหัดเข้าใจบ้างสิ ว่าแบงค์ลำบากใจแค่ไหนที่ต้องมาหลบซ่อนๆแบบนี้” แบงค์ตะโกนโต้ตอบ

ท็อปยืนกัดฟันกรอด “สรุปว่าแบงค์อยากเลิกกับพี่แล้วใช่ไหม? เราคงไปต่อกันไม่ไหวแล้วใช่ไหม?”

“พี่ท็อป แบงค์ยังคงยืนยันว่าแบงค์รักพี่ท็อป แต่ตอนนี้แบงค์ไม่รู้ว่าความรักที่แบงค์มีให้พี่ท็อปมันคือความรักแบบเดียวกับที่พี่ท็อปรักแบงค์หรือเปล่าก็แค่นั้น บางทีมันอาจจะเป็นความผูกพัน หรือไม่ แบงค์อาจเป็นแค่เป็นคนที่คอยสนองความต้องการของพี่อย่างเดียว” แบงค์ตอบปากสั่นด้วยความเสียใจ เขาไม่คิดว่าจะต้องพูดอะไรแบบนี้ออกมา  พยายามสะกดกลั้นน้ำตาของเขาเต็มที่

เขาหยิบเป้ที่หล่นลงพื้นขึ้นมาแล้วสะพายพาดบ่า พลางจัดเสื้อที่ถูกท็อปกระชากคอให้เรียบร้อย“แบงค์ขอตัวกลับบ้านก่อนนะพี่ท็อป พี่ท็อปไม่มีไลน์อยู่แล้วนี่ตอนนี้โทรศัพท์ก็ยังหาไม่เจอ มันอาจจะเป็นช่วงเวลาที่เราสองคนจะได้ทบทวนกันได้บ้างว่าต่อจากนี้เราทั้งสองคนควรจะย่ำต่อหรือจบกันตรงนี้” พูดจบแล้วแบงค์จึงรีบเดินจากห้องไป

ท็อปไม่ร้องเรียกรุ่นน้องให้กลับมา เขาโกรธผู้ชายชื่อกายคนนี้อย่างหมดความอดทนเหลือเกิน ครั้งนี้เป็นครั้งที่สองที่เขาต้องมีเรื่องมีราวกับแบงค์ ปัญหาทุกอย่างเกิดขึ้นเพราะว่ากายเข้ามายุ่งในความสัมพันธ์ของเขา ขอแค่ได้เจอกับกายสักหนเมื่อไร ท็อปสัญญากับตัวเองเลยว่า จะไม่ปล่อยให้หมอนี่กลับออกไปในสภาพที่สามารถกลับมาตอแยกับคนที่เขารักที่สุดได้เป็นอันขาด

จบบที่ 14 ครับ (พบกับบทที่ 15 ในวันจันทร์ที่ 2/03/2015 ครับ เวลาเดิมครับ วันนี้มาช้านิดนึงพอดีพาวเวอร์ซพพลายพังเลยต้องใช้โน้ตบุ๊คแทน เลยอัพโหลดโปรแกรมกันวุ่นเลย)
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 27-02-2015 23:27:52 โดย akiraakka »

ออฟไลน์ yowyow

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4188
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +139/-7

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11
เฮ้อออ. หน่วงมากๆ ท๊อปก็อารมณ์ร้อน ส่วนแบงค์ก็งี่เง้า จะกลัวอะไรมากมาย คบกันแล้วจะกลัวอะไร ทำไมไม่ชื่อใจท๊อป. บอกแต่ให้ท๊อปเชื่อใจ  ไม่ชอบแบงค์แล้วอะ คิดเล็กคิดน้อย งองแง่งมากๆ. คนมาจีบทำไมไม่ปฏิเสธ.  เปลี่ยนนายเอกเลยดีกว่า. รมณ์เสีย

ออฟไลน์ zipboy

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 309
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +65/-0
ความอ่อนไหวทางอารมณ์ของแบงค์สูงจริงๆ แต่เชื่อว่าต่อจากนี้ น่าจะมีทางออกกันแหละ

ติดตามอยู่ครับ^^

ออฟไลน์ blur

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 145
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-0
ปวดใจ เมื่อไหร่คาร์พจะกดกายสักที

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ akiraakka

  • Deus Deorum (God of Gods)
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 57
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +14/-0
    • เพื่อน(?)ผมเป็นผู้วิเศษ ภาคแรก
ความอ่อนไหวทางอารมณ์ของแบงค์สูงจริงๆ แต่เชื่อว่าต่อจากนี้ น่าจะมีทางออกกันแหละ

ติดตามอยู่ครับ^^

ขอบคุณที่ติดตามและเขียนฟีดแบ็คให้นะครับ ผมก็เชื่ออย่างนั้นเหมือนกัน นั่งเฝ้าดูทั้งสองคนนี้แต่ละวันๆ ผมก็แอบเหนื่อยใจแทน
ไม่รู้จะลงเอยกันอีท่าไหนได้...

ออฟไลน์ akiraakka

  • Deus Deorum (God of Gods)
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 57
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +14/-0
    • เพื่อน(?)ผมเป็นผู้วิเศษ ภาคแรก
บทที่ 15
เสียงสะท้อนจากความทรงจำ


“คุณไม่เคยจะสนใจเลยว่าฉันกับลูกจะอยู่กันยังไง เอาแต่กลับบ้านดึก ไปไหนมาไหนก็ไม่เคยบอกแล้วแบบนี้จะให้ฉันไว้ใจคุณได้ยังไง?” แม่ของท็อปโวยวายขึ้นมากลางดึกจนทำให้ท็อปวัยหกขวบที่นอนอยู่ในห้องตื่นขึ้นมาด้วยความงัวเงีย

“ผมทำงานหาเงินมาให้คุณใช้อยู่ทุกวันๆแบบนี้ ยังหาว่าผมไปเถลไถลอีกเหรอ ?” อาจารย์สายัณห์ตะคอกกลับ แล้วรีบถอดเนคไทของตนเองที่สวมอยู่ออก

“ทำงานเหรอ หาเงินเหรอ ดูนี่ซะ” แม่ของท็อปโยนรูปสองสามใบลงกับพื้น เป็นรูปแอบถ่ายหลายใบ เป็นภาพพ่อของท็อปกำลังพานักศึกษาสาวเข้าโรงแรมม่านรูด และแต่ละภาพนั้นนตัวนักศึกษาไม่ซ้ำคนกันเลย “คุณมีคำอธิบายเรื่องพวกนี้ให้ฉันไหม”

พ่อของท็อปหยิบรูปขึ้นมาดู “นี่คุณจ้างคนมาสะกดรอยผมเหรอ ?”

“นี่ไง ทำงานของคุณ เป้าหมายของการเป็นอาจารย์ในมหาวิทยาลัยของคุณก็เพราะแบบนี้ใช่ไหม ? นิสัยเจ้าชู้ของคุณน่ะมันเลิกไม่ได้หรอก ฉันต้องทนกับเรื่องพรรค์นี้มาไม่รู้เท่าไรต่อเท่าไรแล้ว” แม่ของท็อปร้องไห้ไปด้วยโวยวายไปด้วย แล้วก็พุ่งเข้าไปตบตีอาจารย์สายัณห์ด้วยความโกรธ

“คุณจะมาโวยวายทำไม เรื่องแบบนี้ตบมือข้างเดียวมันไม่ดังหรอก ถ้าพวกเด็กๆมันไม่เล่นด้วย” พ่อของท็อปแก้ตัว
พอดีกับที่ท็อปค่อยๆเดินงัวเงียเข้ามาในห้องนั่งเล่น เห็นพ่อกับแม่ทะเลาะกันอย่างรุนแรงทั้งตบทั้งตี แต่ด้วยวัยที่ยังเล็กและยังไม่ตื่นนอนดี จึงพยายามจ้องดูว่าพ่อกับแม่ทำอะไรกัน

“อ้างแบบนี้เหรอ ถ้าคุณไม่ไปสนองพวกมัน แล้วมันจะเป็นแบบนี้ไหม?” แม่ของท็อปร้องไห้ “ไอ้ชั่ว ไอ้เลว ไม่รู้จักพอ ชีวิตฉันยอมมาตลอดเพราะคุณ แต่ทำไมคุณถึงทำกับฉันแบบนี้”

“งี่เง่าที่สุดเลยนะคุณ เรื่องแบบนี้ผู้ชายที่ไหนเขาก็ทำกันทั้งนั้นแหละ อย่าทำตัวเป็นกบในกะลานักเลย” พ่อของท็อปบอก พยายามเอามือปัดป้องตัวเองจากการถูกภรรยาจิกตี พ่อของท็อปรู้สึกโกรธมากขึ้นเรื่อยๆเพราะถูกเปิดโปงในที่สุด ไร้แววตาสำนึกผิด

“ไอ้เลว เคยคิดบ้างไหมว่าฉันอยู่บ้านคอยดูแลลูก ทำกับข้าว รอคุณกลับบ้านมา จัดการเรื่องงานในบ้าน ฉันพยายามทำตัวเป็นแม่และเมียที่ดี แล้วดูคุณทำกับฉัน” เธอยังคงไม่หยุดตบตี

“มันจะมากไปแล้วนะภา ผมก็ไม่อยากทนอยู่กับผู้หญิงน่าเบื่อแบบคุณแล้ว วันๆเอาแต่จับผิดไม่เป็นอันทำอะไร” พ่อของท็อปตอบแล้วผลักแม่ของท็อปจนล้มลงกับพื้น

ท็อปรู้แล้วว่าพ่อกับแม่กำลังทะเลาะกัน ด้วยความตกใจที่เห็นแม่ถูกพ่อทำร้าย เขาจึงรีบวิ่งเข้าไปห้ามและเข้าไปกอดแม่ทันที
“พ่ออย่าทำอะไรแม่นะครับ” ท็อปบอก “แม่อย่าร้องไห้นะครับ”

“ตื่นมาทำไมล่ะลูก” แม่ของท็อปถาม พลางลูบหัวลูกชายตัวน้อย “กลับไปนอนนะจ๊ะ คนดี”

“เนี่ยเพราะคุณนั่นแหละ โวยวาย ลูกเลยตื่นเลยเห็นไหม? ทำตัวเป็นเมียที่ดี กับแค่ระงับอารมณ์ยังทำไม่เป็นเลย” พ่อของท็อปบอก สีหน้าดูถูก

“ใช่สิ ใครจะไปยอมรับการกระทำพวกนี้ได้ล่ะ คุณจะไปรู้อะไร ถ้าขืนคุณยังทำแบบนี้อีก ฉันจะขอหย่าขาดกับคุณ” แม่ของท็อปร้องไห้ ท็อปจึงร้องไห้ตามแม่ไปด้วยแม้จะไม่เข้าใจในบทสนทนาที่ผู้ใหญ่พูดเท่าไรนัก

“ดี ได้ ถ้าคุณอยากหย่านักละก็ หย่ากันวันนี้เลยก็ดี ผมไม่อยากจะทนอยู่แล้วเหมือนกัน” พ่อของท็อปพูดตัดบท อารมณ์เสีย จากนั้นก็มากระชากตัวท็อปที่กอดคอของแม่อยู่ไปอุ้ม “ส่วนลูก ผมจะดูแลเอง”

“ไม่นะ เอาลูกฉันคืนมา ฉันไม่ยอมให้คุณเอาลูกไปเลี้ยงเด็ดขาด ไม่อยากจะให้ลูกมันได้นิสัยชั่วๆเหมือนพ่อของมัน” แม่ท็อปร้องพยายามยื้อแย่งลูกชายคืนมา

“อย่ามายุ่ง” พ่อของท็อปผลักแม่ออกไปชนราวบันไดใกล้ๆจนท้องกระแทกกับราวบันไดอย่างแรง แม่ล้มลงฟุบไปกับพื้น เธอกุมท้องด้วยความเจ็บ “นี่ลูกชายผม ผมจะเลี้ยงเอง โตมาจะได้ไม่เป็นคนระแวงชอบจับผิดชาวบ้านเหมือนคุณ”

“ไม่มีทาง ฉันไม่ยอม เอาลูกคืนมา” แม่ของท็อปพยายามยื้อตัวท็อปที่ร้องไห้จ้าออกจากมือของพ่อ “อีกอย่างฉันไม่ได้จับผิด ฉันสืบหาความจริงต่างหาก”

“พ่อจ๋า อย่าทำแม่เจ็บ” ท็อปร้อง แต่พ่อของท็อปก็ไม่ฟัง รีบพาลูกชายที่ร้องไห้หาแม่ ขึ้นรถเก๋งของตัวเองแล้วขับบึ่งออกไป ปล่อยให้นิภาผู้เป็นภรรยาและเป็นแม่ของท็อปวิ่งไล่ตามรถ ร้องไห้ไป ล้มลุกคลุกคลาน ท็อปได้แต่ร้องไห้ เกาะกระจกหลังรถหาแม่ที่ค่อยๆห่างออกไป ห่างออกไปในความมืด จนลับสายตา....

“อัครวินท์...อัครวินท์” เสียงอาจารย์นพพรร้องปลุกท็อปขึ้นมาในคาบเรียนวิชาภาษาไทย เขากำลังฟุบหลับอยู่บนโต๊ะเรียน เพราะทั้งคืนเขาไม่ได้หลับเลย มัวแต่คิดถึงเรื่องของแบงค์กับกาย เช้าวันนี้เขาจึงเผลอฟุบหลับไปบนโต๊ะเรียนโดยไม่รู้ตัว แถมยังฝันเสียยืดยาว

“เธอไม่สบายหรือเปล่า เหงื่อออกเยอะเลย หน้าแดงๆ” อาจารย์ทักขึ้นเมื่อเห็นสภาพของเขาเมื่อเงยหน้าขึ้นมา
ท็อปตกใจตัวเองที่เผลอหลับในคาบเรียน น้ำตาไหลออกมาจากดวงตาอันแดงก่ำ เขาจึงรีบใช้แขนเสื้อปาดออก ทุกคนในห้องต่างจับจ้องมาที่เขาว่าวันนี้ทำไมท็อปถึงได้เพลียขนาดนี้

“ขอโทษครับ จารย์...ผมเพลียไปหน่อยเลยเผลอหลับไป” ท็อปบอก รีบทำตัวเองให้ตื่น
 “ไม่ได้ป่วยนะ?” อาจารย์ถามให้แน่ใจ

“ครับ เรียนต่อกันดีกว่าครับ” ท็อปบอก สะบัดหัวเรียกสติ จากนั้นจึงรีบนั่งตัวตรง ปลาคาร์พนั่งมองเพื่อนด้วยสายตาเป็นห่วง ท็อปไม่ใช่คนชอบหลับในห้องเรียน ปกติแล้วเป็นคนร่าเริงด้วยซ้ำ แถมยังคอยหยอกเย้าอาจารย์ในแต่ละวิชาเพื่อให้เพื่อนๆได้ขำกันบ้าง แต่หมู่นี้ นับตั้งแต่หลังเกิดเรื่อง ท็อปซึมมากขึ้น หน้าตาดูเครียดตลอดเวลา พูดน้อยลง และไม่อยู่เล่นกีฬากับเขาอย่างที่เคยตอนหลังเลิกเรียน

เมื่อหมดคาบเรียนวิชาภาษาไทย ปลาคาร์พจึงชวนท็อปไปเข้าห้องน้ำด้วยกัน เพื่อให้เพื่อนได้ล้างหน้าล้างตาบ้าง

“มึงเครียดอะไรหรือเปล่าวะ พักหลังๆกูดูมึงซึมๆ ยังไม่หายโกรธเรื่องที่ต่อยตีกันที่ร้านนมเหรอ ?” คาร์พถาม ในขณะที่ทั้งคู่กำลังยืนปัสสาวะอยู่ข้างๆกัน

“เรื่องนั้นไม่ได้ติดใจอะไรแล้วก็เคลียร์กันในห้องปกครองจบแล้ว” ท็อปตอบ ยืนมองจ้องไปที่ผนัง เหม่อลอย

“อ้าว แล้วมึงจะมีเรื่องอะไรให้ต้องเครียดอีกวะ ไม่เห็นต้องสนใจอะไรแล้วนี่ มึงดูโทรมลงด้วย เหมือนคนไม่ค่อยได้หลับได้นอน” ปลาคาร์พถามเพื่อนด้วยความเป็นห่วง

“กูไม่ได้เป็นอะไรหรอกน่า มึงนี่ก็ช่างสังเกตกูจังเลย” ท็อปบอกแล้วรีบรูดซิบกางเกงก่อนที่จะเดินออกมาล้างมือล้างหน้าข้างนอก

“กูก็แค่เป็นห่วงมึง เดี๋ยวนี้กีฬามึงก็ไม่เล่น อะไรๆก็ไม่ทำอย่างแต่ก่อน จะไม่ให้กูคิดมากได้ไง” ปลาคาร์พบอก เดินตามๆกันออกมาล้างมือด้วย

ท็อปหันหน้ามามองปลาคาร์พแว่บหนึ่งในขณะที่ปลาคาร์พเริ่มล้างหน้าของตัวเอง “ขอบใจนะเว้ยที่มึงยังอยู่ข้างกู ไม่ไปไหน”

ปลาคาร์พยิ้มตอบแต่ก็เป็นยิ้มแบบไม่เต็มใจนัก “กูก็อยู่ที่เดิมของกูนั่นแหละ มีแต่มึงที่ไปไหนมาไหนเอง”

ท็อปสะบัดน้ำจากมือที่ยังเปียกใส่เพื่อน “แทนคำขอบคุณ”

“ขอบคุณเชี่ยอะไร มันเปียก ไอ้ท็อป!” ปลาคาร์พร้อง สาดน้ำที่ไหลออกจากก๊อกแกล้งเพื่อนคืน

“จริงๆกูอยู่กับมึงก็สบายใจดีเหมือนกันแฮะ ไม่เห็นต้องไปแสวงหาอะไรมากมายจากคนอื่นเลย” ท็อปพูดขึ้นมาในที่สุด

“มึงหมายความว่าไง?” คาร์พย้อนถามกลับไป

“ก็เรื่องสารพัดที่เกิดขึ้นที่ผ่านมานี่ไง กูคิดว่าจริงๆแล้ว ถ้ากูไม่มีความรักเลยมันน่าจะดีกว่าไหม? จริงๆกูอยู่กับมึงแบบนี้ก็สบายใจดีอยู่แล้ว เย็นมาเล่นแบด เล่นบาส ออกไปหาอะไรกินตอนเย็นก่อนกลับบ้าน แค่นี้ก็พอแล้วล่ะสำหรับกู” ท็อปพูด สีหน้าเริ่มร่าเริงขึ้นมาบ้าง

ปลาคาร์พยิ้มตอบ บางทีต่อจากนี้ เขาอาจจะมีความหวังขึ้นมาบ้างกระมังว่าอย่างน้อย ท็อปก็ยังคงอยากอยู่ข้างๆเขา “กูก็คิดเหมือนมึงนั่นแหละ ทุกครั้งที่กูอยู่กับมึง กูโคตรมีความสุขเหมือนกัน”
“มึงพากูเข้าโหมดนี้อีกละ” ท็อปแซว ชกหน้าอกเพื่อนเบา ๆ

“โหมดอะไรของมึง?” ปลาคาร์พถาม

“โหมดเพื่อนกูรักมึงว่ะไง” เขาบอกบอก แล้วก็ระเบิดหัวเราะออกมา “ไว้กูจะรับไว้พิจารณาอีกทีนะพวก”

ปลาคาร์พไม่ได้โต้แย้งอะไร แต่ก็หัวเราะไปด้วยกันกับท็อป อย่างน้อยเวลานี้ท็อปก็ดูเหมือนจะมีชีวิตชีวาขึ้นมาบ้าง แม้จะสงสัยว่าท็อปน่าจะเครียดเรื่องของแบงค์แ ต่ในตอนนี้ หน้าที่ของเขาคือดูแลเพื่อนคนนี้ให้ดีที่สุดไม่ว่าจะทุกข์หรือสุข แต่เมื่อไรก็ตามที่ท็อปอยู่ใกล้เขา เขาก็อยากทำให้ท็อปมั่นใจว่า เพื่อนคนนี้แหละที่รักเขามากที่สุดเช่นเดียวกัน

=================

แบงค์กับเกมส์กำลังนั่งกินข้าวเที่ยงอยู่ที่โรงอาหาร เขายังคงตัดใจที่จะไม่ติดต่อพี่ท็อปเนื่องจากอารมณ์ฉุนเฉียวของพี่ท็อปที่นับวันจะรุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ

“เฮ้ย แบงค์ วันนี้ซึมทั้งวันเลย ไม่สบายหรือเปล่าวะ” เกมส์ถาม มองหน้าแบงค์อย่างกังวล

“สบายดี แค่คิดมากเฉยๆ” แบงค์ตอบ ม้วนเส้นก๋วยเตี๋ยวในชามวนไปวนมา

“อย่าบอกนะว่าเรื่อง...” เกมส์ถามเหมือนจะรู้ว่าสาเหตุคืออะไร

“อืม...”แบงค์ตอบสั้น ๆ

“ขอพี่นั่งด้วยได้ไหม?” เสียงพี่กายเรียก ขณะที่เข้ามาใกล้ๆโต๊ะกินข้าวของแบงค์และเกมส์ “พอดี โต๊ะอื่นๆ ดูท่าจะเต็มกันหมด”

“เอาเลยครับพี่” เกมส์บอก แล้วเขยิบที่ให้ แต่พี่กายกลับไปนั่งแทรกข้าง ๆ แบงค์แทนจึงทำให้เกมส์มองด้วยความฉงน

“เป็นยังไงมั่ง? พี่ส่งข้อความไปไม่ตอบกลับมาเลยนะ” พี่กายถาม วางจานข้าวลงบนโต๊ะ

“แบงค์ไม่ได้เปิดโทรศัพท์ไว้น่ะครับ ปวดหัว กลับถึงบ้านก็รีบนอน” แบงค์บอก

“อ้าว แล้วนี่หายปวดหัวรึยัง ตัวร้อนหรือเปล่า” กายถามขึ้น รีบเอามือไปจับที่หน้าผากของแบงค์เพื่อวัดอุณหภูมิ “แต่ตัวก็รุมๆนะ ร้อนนิดหน่อย ให้พี่ไปเอายาที่ห้องพยาบาลให้ไหม จะได้ดีขึ้น”

“ไม่ต้องหรอกครับพี่กาย แบงค์ไม่ได้ป่วยขนาดนั้น แค่นอนน้อยไป” แบงค์ตัดบท แล้วรีบซดน้ำซุป

“นี่พี่กับแบงค์ไปสนิทกันตั้งแต่เมื่อไรครับเนี่ย” เกมส์ถามแทรกขึ้นมา เมื่อเห็นแบงค์และพี่กายคุยกัน

“อ๋อ ก็สักพักนึงแล้วแหละ พอดีพี่เห็นทักษะการเล่นแบดน้องแบงค์แล้วรู้สึกอยากช่วยสอนน้อง พี่ชอบคนกล้า สถานการณ์แบบกีฬาสีวันนั้น ถ้าใจไม่ใหญ่จริงก็ลงแข่งไม่ได้หรอกนะ”

อ๋อ เหรอครับ” แบงค์หันหน้ามาตอบแทนเกมส์ “พี่กายรีบกินข้าวดีกว่าครับ เดี๋ยวจะหมดเวลาพักเที่ยงซะก่อน”

กายหัวเราะแบบเขินๆ แล้วเริ่มลงมือกินข้าว ชวนน้องๆทั้งสองคุยไปด้วย

ท็อปกับคาร์พที่เพิ่งจะกินข้าวเสร็จจากอีกฝั่งของโรงอาหารกำลังเดินออกมาจากตัวอาคาร สายตาของปลาคาร์พมองเห็นกายกำลังนั่งอยู่กับแบงค์พอดี เขาจึงจ้องอย่างไม่เชื่อสายตานัก ในตอนแรกท็อปไม่ได้สังเกตเห็นแบงค์ว่าอยู่ทีไหนแต่เมื่อเห็นว่าปลาคาร์พจ้องมองใครอยู่จึงได้มองเห็นชัดๆว่าแบงค์กับกายกำลังนั่งอยู่ด้วยกัน

โทสะที่เก็บมาจากเมื่อวานจึงผุดขึ้นมาอีกครั้ง ท็อปกำหมัดแน่น สายตาจ้องเขม็ง ปลาคาร์พเห็นอาการของเพื่อนแล้วจึงรีบคว้าบ่าของเพื่อนเอาไว้

“อย่าใช้แต่อารมณ์ดิวะ ท็อป มึงก็รู้ว่าที่ผ่านมาปัญหามันเกิดขึ้นเพราะมึงไม่ระงับอารมณ์ตัวเองเลย” ปลาคาร์พเตือนสติ

“กูรู้ดีน่า แต่เห็นแบบนี้คาตา ถ้าเป็นมึง มึงจะทนดูได้เหรอวะ แฟนมึงทั้งคนนะเว้ย” ท็อปโวยวาย

ปลาคาร์พสะดุดกึกกับคำว่าแฟนที่ท็อปพูดออกมา

“ยังไงก็เหอะ มึงเป็นเพื่อนกู กูไม่อยากเห็นมึงไปมีปัญหาอีก ไป มึงไปห้องสมุดกับกูดีกว่า ปล่อยเขาไป” ปลาคาร์พออกปากชวน แล้วรีบคว้าแขนเพื่อนออกมาจากพื้นที่

แต่ท็อปจับแขนของปลาคาร์พออกแล้วเดินปรี่เข้าไปยังโต๊ะของแบงค์ที่กำลังกินข้าวอยู่ทิ้งให้ปลาคาร์พยืนมองอย่างไม่สบอารมณ์นัก

ทุกคนที่นั่งอยู่ที่โต๊ะนี้ต่างตกใจเมื่อเห็นท็อปยืนจังก้ามองหน้าทั้งแบงค์และพี่กาย จู่ๆก็โผล่มาจากไหนไม่รู้ ยืนจ้องด้วยสายตาดุ กายกระเดือกน้ำลายลงคอ วางช้อนส้อมลงทันทีที่เห็น ส่วนแบงค์ก็มองพี่ท็อปอย่างตกใจ ในใจคิดเลยว่า ระเบิดลูกใหม่กำลังจะมาอีกระลอกแล้ว

“กินข้าวกันอร่อยมากไหมครับ” ท็อปถามพี่กายห้วนๆ

“เอ่อ...ก็....อร่อยดี” พี่กายบอก พยายามดูท่าทีของท็อปว่าถ้าเกิดใช้ความรุนแรงขึ้นมาอาจจะต้องมีการปะทะกันบ้างหนนี้

“พี่ท็อปอย่าทำตัวนักเลงแถวนี้นะ” แบงค์ขู่ทันทีที่เห็น

พี่ท็อปรีบลงมานั่งแทรกระหว่างกายและแบงค์ คั่นกลางเอาไว้ หันหน้ามองสลับกันทั้งแบงค์และกาย กุมมือเท้าแขนไว้กับโต๊ะ

“ได้ครับ ถ้าพี่กายจะขอแบบนี้” ท็อปพูดขึ้นมาในที่สุด

“ได้อะไรเหรอครับ ท็อป พี่แค่มานั่งกินข้าวกับน้องๆเฉยๆ” พี่กายบอก

“ผมรู้ว่าพี่มาหาแบงค์ทำไม และผมก็รู้ว่าพี่คงรู้เรื่องของผมกับแบงค์” ท็อปบอก ยื่นหน้ามามองพี่กาย สายตาดุดัน

“พี่ท็อป อย่าทำอะไรพี่กายนะ ที่นี่มันโรงอาหาร ถ้าขืนพี่ท็อป แตะต้องตัวพี่กายอีกล่ะก็ หนนี้ แบงค์จะยื่นคำขาดแล้วนะ” แบงค์รีบเตือนเพราะกลัวจับใจว่าพี่ท็อปจะต่อยหน้าพี่กายขึ้นมา ยิ่งอยู่ใกล้ขนาดนี้ก็ยิ่งเสี่ยง ส่วนพี่กายก็ดูเหมือนจะไม่ยอมถอยเหมือนกัน

“พี่ก็จะให้โอกาสแบงค์เหมือนกัน” ท็อปหันมาบอกแบงค์ “พี่กายเขาขอมาขนาดนี้ว่าอยากลองคบกับแบงค์ด้วย พี่ก็จะเปิดโอกาสให้”

“อะไรของพี่ท็อปอีกเนี่ย แบงค์ไม่เล่นเกมส์อะไรของพี่ท็อปแล้วนะ” แบงค์บอกกลับ น้ำเสียงไม่พอใจ

“เรามาแข่งกันไหมล่ะครับ ? ว่าระหว่างผมกับพี่ แบงค์จะเลือกใคร อย่างที่พี่อยากลอง” ท็อปพูดหันหน้ามามองกายอีกครั้ง

“พี่ท็อป แบงค์ยังไม่ได้สัญญาอะไรกับพี่กายแบบนั้นเลยนะ” แบงค์ร้องออกมา

“ไม่เป็นไร ในเมื่อพี่กายอยากได้แบงค์นักล่ะก็ มาลองแข่งกัน ว่าแบงค์จะเลือกใคร ภายในสองอาทิตย์ ให้แบงค์อยู่กับพี่อาทิตย์หนึ่ง อยู่กับผมอาทิตย์หนึ่ง  ถ้าแบงค์เลือกพี่ ผมจะไปเอง แล้วถ้าแบงค์เลือกผม พี่ต้องเลิกมายุ่งกับแบงค์ ได้ไหมล่ะครับ” ท็อปยื่นข้อเสนอให้

“ข้อเสนอของท็อปน่าสนนะ” พี่กายบอก หันหน้าไปสบตากับแบงค์ที่นั่งกระอักกระอ่วนอยู่ “พี่ยินดีรับคำท้า ถ้าท็อปเล่นแบบแฟร์ๆ”

“อะไรของพี่ท็อป แบงค์ไม่ใช่แมวนะ จะมาโยนให้ใครเลี้ยงโดยไม่ถามความสมัครใจไม่ได้นะ” แบงค์โวยวายออกมา

“พี่กำลังหาทางออกให้เรื่องนี้อยู่นี่ไง ก็อุตส่าห์คุยดีๆแบบคนมีเหตุผลอยู่อย่างที่แบงค์อยากได้ พี่ก็พยายามอยู่เห็นไหม?” พี่ท็อปบอกดุๆ

แบงค์นิ่งเงียบ รู้สึกโกรธพี่ท็อปสุดๆแต่ก็ยังดีกว่าที่พี่ท็อปคิดจะตัดสินใจต่อยหน้าพี่กายเยอะ

“โอเคนะครับ พี่กาย ... แบงค์เป็นของผมมานานแล้ว และผมก็ไม่มีวันปล่อยของมีค่าของผมไปอยู่ในมือคนอื่นแน่ๆ จำไว้ให้ดีนะครับ” ท็อปพูดเสียงเย็นเป็นเชิงขู่ให้กับพี่กาย แล้วรีบยันตัวลุกขึ้นมาจากโต๊ะ

“ได้เลย แบงค์ก็จะได้รู้เหมือนกันว่าจากนี้เขาจะเลือกคนที่ถูกต้องสักที ว่าคนที่ชอบใช้กำลังตัดสินปัญหา อยู่ด้วยยังไงก็อยู่ไปไม่ยืด” พี่กายแขวะกลับ ทำเอาท็อปเลือดขึ้นหน้าขึ้นมาอีก แต่เขาก็พยายามระงับอารมณ์เอาไว้

“ครับ” ท็อปตอบสั้นๆ มองหน้าแบงค์แล้วถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่แล้วรีบลุกจากโต๊ะ เดินจากมา

“พี่ท็อป เดี๋ยว” แบงค์เรียกแต่พี่ท็อปเหมือนจะไม่ได้ยิน เขารีบเดินกลับไปสมทบกับปลาคาร์พที่ยืนอยู่ใต้ตึกใกล้ๆรอท็อปเสร็จธุระเพื่อที่จะไปห้องสมุดด้วยกันต่อ “ไปซะแล้ว”

“ทีนี้จะได้เห็นกันชัดๆกันสักทีนะครับ ว่าใครจะชนะ แบงค์ก็ต้องเปิดใจให้กว้างๆเอาไว้ด้วยนะ” พี่กายพูดพลางลูบหัวแบงค์
แบงค์ปัดมือของพี่กายออก “การที่เราจะรักใครได้ มันไม่ได้ใช้เวลาแค่อาทิตย์เดียวหรอกนะครับพี่กาย มันมีอะไรตั้งเยอะกว่าคนเราจะรักกันได้” แบงค์บอก

“เปิดใจให้พี่หน่อย แล้วจะได้รู้ว่าถ้าเรามีโอกาสเลือกสิ่งที่ดีกว่า เราก็ควรจะเลือก ไม่ใช่จมปลักอยู่กับกรอบเดิมๆที่สุดท้ายนอกจากไม่มีอะไรดีขึ้นแล้วตัวเราเองก็เสียสุขภาพจิตไปเปล่าๆนะ” พี่กายบอกเป็นแง่คิด

“คือ ทุกคนทำเหมือนเราไม่ได้นั่งอยู่ด้วยเลย” เกมส์พูดขัดบทสนทนาของทุกคน “น้อยใจนะเว้ยพวก”

“คิดมากน่า...เราก็ไม่ได้เตี๊ยมมานะ ใครจะรู้ว่าจู่ๆก็จะเจอโจทก์กันพร้อมหน้า” แบงค์บอก

“งั้นเดี๋ยวตอนเย็นพี่มารับกลับบ้านด้วยกันได้ไหม?” พี่กายถามขึ้นมา

“คือ...แบงค์ไม่อยากจะทะเลาะกับพี่ท็อปอีกน่ะครับพี่กาย ถึงจะเห็นว่าเขาบอกว่าเขาเปิดโอกาสก็เถอะ แต่พี่เชื่อสิ พี่ท็อปไม่ใช่คนแบบนั้น ที่ผ่านมา แบงค์ไม่อยากจะให้พี่เขามาทะเลาะกับพี่อีก ปัญหาที่ผ่านมามันเกิดขึ้นยังไม่พออีกเหรอ?” แบงค์บอก พยายามเลี่ยงปัญหาที่จะเกิดขึ้นข้างหน้า

“พี่ว่าท็อปเขาเป็นลูกผู้ชายมากพอนะแบงค์ ถ้าเขาบอกว่าเขายอมเปิดโอกาสให้แบงค์ได้เลือก พี่ว่าครั้งนี้เขาคงพูดแบบนั้นจริงๆ ถ้าท็อปมาถามวันนี้ก็ลองบอกเขาว่า นัดไว้กับพี่แล้ว แบงค์จะได้รู้ ว่าท็อปเขาพูดแล้วทำได้อย่างที่พูดหรือเปล่า” พี่กายบอกสีหน้าเคร่งขรึม

“ทำไมพี่ถึงมั่นใจขนาดนั้น แบงค์อยู่กับพี่ท็อปมาตั้งนาน ยังไม่ได้รู้สึกเชื่อมั่นได้ขนาดนี้เลย” แบงค์ถามกลับ

“คนเป็นนักกีฬาด้วยกัน มันดูออกอยู่แล้วว่าตอนไหนทีเล่นทีจริง และครั้งนี้ ทอปมันเอาจริงนะ พี่เลยยิ่งอยากรู้แล้ว ว่าแบงค์มีอะไรดีถึงขนาดที่ทำให้ท็อป คนที่ได้ชื่อว่าหนึ่งในแก๊งเดอะปริ๊นซ์ที่เปลี่ยนผู้หญิงไม่เลือกหน้า มาลงเอยกับผู้ชายอย่างแบงค์ได้ยังไง” พี่กายบอกแล้วลุกขึ้น เตรียมไปเก็บจาน

แบงค์ไม่ตอบ ได้แต่ถอนหายใจ ไม่รู้ว่าพี่ท็อปคิดอะไรของเขาอยู่กันแน่ถึงออกปากมาแบบนี้ เขากลัวเหลือเกิน ในใจของเขารู้ตัวเองดีว่า เขานั้นรักพี่ท็อปหมดใจไปแล้ว แต่ก็อีกใจหนึ่งก็กลัวเหลือเกินว่าถ้าเกิดพี่กายทำให้เขาหวั่นไหวได้จริงๆ เขาจะตัดสินใจยังไงกันแน่


จบบที่ 15

**เนื่องจากสัปดาห์นี้มีวันหยุดหนึ่งวัน จึงเพิ่มวันอัพเนื้อเรื่องให้อีก 1 วัน คือวันพุธที่ 04/03/2015 นี้นะครับเวลา 12.00
มาตามเรื่องของแบงค์และท็อปกันต่อเหมือนเดิม กำลังเข้มข้นเลย ความสัมพันธ์เริ่มพัวพันมะรุมมะตุ้มกันไปหมดแล้ว จะเอายังไงต่อล่ะทีนี้มาลุ้นกันต่อไปครับ


ออฟไลน์ yowyow

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4188
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +139/-7
55555 สุดยอดเลย มีการอัพตามวันหยุดนักขัตฤกษ์ด้วยอ่ะ

 :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ brookzaa

  • Chill out
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1416
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-6

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11
แบงค์หลายใจ ไม่รักจริง ท๊อปไปรักกับคาร์ฟดีกว่า. ไม่ต้องสนใจคนโลเล

ออฟไลน์ zipboy

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 309
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +65/-0
แบงค์นี่...ซ้ายก็เล็ง ขวาก็คิดถึง...น้องมันน่าอิจฉาจริงๆ

แต่สงสารท็อป เรื่องตอนเด็ก ทำให้เป็นคนมีปมทางอารมณ์แบบนี้จริง.ๆ

ออฟไลน์ akiraakka

  • Deus Deorum (God of Gods)
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 57
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +14/-0
    • เพื่อน(?)ผมเป็นผู้วิเศษ ภาคแรก
55555 สุดยอดเลย มีการอัพตามวันหยุดนักขัตฤกษ์ด้วยอ่ะ

 :pig4: :pig4: :pig4:


555+ เนื้อเรื่องมันเขียนไว้จบแบ้ววว แค่เอามาอัพให้อ่านเรื่อยเฉยๆ จะอัพทุกวันเดี๋ยวจะเบื่อซะก่อน 555+ เห็นทุกคนตามกัน คนเขียนก็มีความสุขครับ อิอิ

ออฟไลน์ everlastingly

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 476
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-1
 :pig4: อึนๆ ครึมๆ รออ่านต่อไป

ออฟไลน์ akiraakka

  • Deus Deorum (God of Gods)
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 57
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +14/-0
    • เพื่อน(?)ผมเป็นผู้วิเศษ ภาคแรก
บทที่ 16
เหยื่อของการเดิมพัน


เมื่อออดบอกเวลาเรียนสิ้นสุดลงในวันนี้ แบงค์รีบเดินออกจากห้องเพื่อมาหาพี่ท็อป เขาไม่อยากให้ปัญหานี้มาเป็นประเด็นกับตัวเขาและรุ่นพี่ เพราะส่วนหนึ่งเขายังไม่ยอมรับกติกาของพี่ท็อปแม้แต่ข้อเดียว และที่สำคัญตัวของเขาเองรู้ดีว่าสำหรับเขา พี่ท็อปยังคงเป็นคนที่เขาชอบอยู่ตลอดเวลาไม่ใช่พี่กายที่เพิ่งจะได้เข้ามาในชีวิต

“จะโทรหาก็โทรไม่ได้ โทรศัพท์ก็ไม่มีอีก” แบงค์บ่นพึมพำเมื่อหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดู ถึงท็อปจะพกแท็ปเลตเอาไว้ใช้งานแต่ก็ไม่ได้เชื่อมต่อไวไฟตลอดเวลา แถมยังโทรเข้าโทรออกไม่ได้อีกต่างหากเลยพาลทำให้ชีวิตไม่สะดวกเอาเสียเลย

เขารีบเดินทะลุอาคารไปเพื่อไปยังที่หมาย ทันเห็นหลังพี่ท็อปกำลังเดินลงบันไดไปที่อีกฟากของอาคาร สะพายเป้เดินลงมากับพี่คาร์พเพื่อนสนิท

“พี่ท็อป” แบงค์ตะโกนเรียก เพื่อให้รุ่นพี่รอก่อน “พี่ท็อป”

ปลาคาร์พหันมามองแบงค์ที่กำลังวิ่งมาจากระเบียง แล้วสะกิดเพื่อนให้หันหน้ามามอง ทั้งสองคนหยุดรออยู่ที่ขั้นบันได

“อ้าว แบงค์ มาหาพี่ถึงนี่เลยเหรอ” ท็อปถาม สีหน้าแปลกใจเล็กน้อย

“อือ คุยกันยังไม่รู้เรื่องเลยนะพี่ จะรีบกลับบ้านเหรอ?” แบงค์บอก เมื่อเดินไปถึง

“เปล่าหรอก แต่ก็ดีเลย พี่กำลังคิดว่าจะไปดักหาแบงค์ที่ทางออกโรงเรียนอยู่นั่นแหละ” ท็อปถาม

“เหรอ งั้นเรามาคุยอะไรกันหน่อยได้ไหม พี่ท็อป” แบงค์บอก

ท็อปหันหน้ามามองคาร์พ ที่ยิ้มให้เพื่อนแบบเจื่อนๆ “เดี๋ยวกูกลับก่อนก็ได้นะ มึงก็จัดการธุระมึงไปละกัน” คาร์พบอก รู้สถานะของตัวเองในตอนนี้ดี “มีอะไรก็โทรมาหากูก็แล้วกัน มึงจำเบอร์กูได้อยู่แล้วนี่ กดตู้โทรมาก็ได้”

“อือๆ โทษทีว่ะ ที่ไม่ได้กลับด้วย เดี๋ยวไว้คุยกันละกัน” ท็อปบอก แล้วปลาคาร์พจึงเดินลงบันไดไป

เมื่อคาร์พเดินลับสายตาไป แบงค์จึงรีบเริ่มเรื่องทันที “พี่ท็อปคิดจะทำอะไรของพี่ท็อปกันแน่เนี่ย ไม่คิดว่าเดี๋ยวเราก็ต้องมานั่งทะเลาะกันอีกเหรอ แบงค์ไม่อยากจะทะเลาะกับพี่แล้วนะ”

“พี่ไม่ได้อยากจะชวนแบงค์ทะเลาะนะ พี่จำได้ทุกประโยคเมื่อวันก่อนที่แบงค์เอาแต่ว่าพี่ว่าพี่ไม่มีเหตุผลกับชอบใช้อารมณ์ตัดสินปัญหา” ท็อปพูดมองจ้องหน้าแบงค์ “พี่อยากให้แบงค์รู้ว่าพี่ก็มีเหตุผลพอเหมือนกันไม่ใช่เอาแต่ใจอย่างที่แบงค์คิด”

“ก็ที่พี่มาใช้แบงค์เป็นเป็นของพนันกันระหว่างพี่กับพี่กายเนี่ยแหละ ไม่เอาแต่ใจตรงไหน แบงค์ขอไม่เอาด้วยได้ไหม” แบงค์บอกเสียงอ้อนวอน “พี่ท็อป แบงค์ไม่อยากทำแบบนี้เลย”

“แบงค์รักพี่หรือเปล่าล่ะ ?” ท็อปถามสั้น ๆ “ถ้าแบงค์รักพี่ก็ไม่เห็นต้องคิดอะไรมากเลย เว้นแต่ว่าถ้าแบงค์ไม่รักพี่แล้ว จะหวั่นไหวไปกับเขา อีกอย่างตัวแบงค์ก็จะได้รู้ใจตัวเองสักที ว่าที่แบงค์รู้สึกกับพี่มันแค่หวั่นไหวไปเองหรือว่ารักพี่จริงๆ”

“พี่ท็อปอย่าทำแบบนี้กับแบงค์เลยนะ อย่าให้แบงค์ต้องมาอยู่ในสงครามความรู้สึกแบบนี้เลยนะพี่” แบงค์พูดเริ่มรู้สึกโกรธขึ้นมาบ้าง เพราะพี่ท็อปยังคงดึงดันต่อไป

ท็อปลูบหัวรุ่นน้องอย่างเอ็นดู “พี่ขอโทษ แต่พี่พูดออกไปแล้ว พี่ยอมรับว่าพี่หวงเรามาก มันเป็นวิธีเดียวที่พี่คิดได้ตอนนั้นเพื่อจะไล่ไอ้พี่กายออกไปจากชีวิตของพวกเราแบบถาวรสักที เราก็ต้องแข่งกันในฐานะนักกีฬา”

แบงค์ปัดมือของท็อปออก “แบงค์ไม่ใช่ลูกขนไก่ที่พี่จะตีไป โต้มาเล่นๆได้นะพี่ อย่าลืมนะพี่ท็อป ยิ่งพี่ตีแรงเท่าไร ลูกขนไก่ก็จะยิ่งถูกตีจนเละมากขึ้น เจ็บมากขึ้นเท่านั้น สุดท้ายก็จะพังใช้งานต่อไม่ได้ พี่ไม่สงสารแบงค์เหรอ ถ้าเกิดว่าแบงค์ดันไปหวั่นไหวกับพี่เขาขึ้นมา พี่ท็อปจะทนได้จริงๆเหรอ?”

“แล้วแบงค์คิดว่าพี่จะยอมให้เขาเอาชนะได้ง่ายๆเหรอ หมอนั่นชนะพี่มาหนนึงตอนกีฬาสีแล้ว หนนี้พี่ไม่ยอมแพ้มันหรอก” ท็อพูดเสียงดัง

“จำคำของพี่เอาไว้ให้ดีนะ ถ้ามาถึงตอนที่ตัวเองมานั่งร้องห่มร้องเสียใจเพราะเรื่องที่ตัวเองก่อขึ้นมาล่ะก็รับผิดชอบเอาเองด้วย แบงค์ไม่ยุ่งด้วยแล้ว” แบงค์บอก รู้สึกหงุดหงิดและโมโหที่พี่ท็อปสนใจแต่จะเอาชนะพี่กายให้ได้โดยไม่แคร์ความรู้สึกของเขาเลย เขาหยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดเบอร์โทรของพี่กาย

“จะโทรหาใครน่ะ?” ท็อปถาม มองหน้าแบงค์อย่างสงสัย ส่วนแบงค์ก็หันหน้ามามองตอบด้วยสายตาดุๆ

“พี่กายเหรอครับ มารับแบงค์ที่หน้าโรงเรียนได้ไหม ? พี่กายบอกว่าจะพาแบงค์ไปส่งบ้าน เดี๋ยวเราแวะกินอะไรที่ร้านนมกันก่อนนะพี่แล้วค่อยกลับ แบงค์จะรอนะ เจอกันในอีก สิบนาที” เมื่อสนทนาจบแบงค์จึงวางสายและเก็บโทรศัพท์เข้ากระเป๋ากางเกง

“เฮ้ย เดี๋ยว อะไรของแบงค์เนี่ย โทรเรียกมันมารับทำไม จะให้พี่ไปส่งไม่ใช่เหรอ ?” ท็อปตกใจ

“ใครบอกว่าวันนี้แบงค์จะกลับกับพี่ท็อป พี่กายเขานัดแบงค์ตั้งแต่ตอนที่พี่ท็อปท้าเขาแล้วนะ เขาบอกว่าจะเล่นตามเกมส์พี่ ดูซิว่าใครจะชนะ ... พี่ท็อปเริ่มก่อนเองนี่นา จะโทษแบงค์ก็ไม่ถูก” แบงค์พูด

“เฮ้ย แต่มันต้องไม่ใช่อย่างนี้ดิวะ แบงค์อุตส่าห์มาหาพี่ถึงที่นี่แล้วจะทิ้งพี่ไปหามันเนี่ยนะ มอไซค์พี่ก็มี พี่ก็จะได้ไปส่งเหมือนเดิมไง” ท็อปบอก รีบง้อรุ่นน้องทันที

“ช้าไปแล้วแหละ พี่ท็อปไปคิดหาวิธีเอาชนะพี่กายให้ได้ก็แล้วกัน คนละอาทิตย์ เริ่มตั้งแต่วันนี้ให้โอกาสพี่กายก่อน อาทิตย์หน้าถ้ามีโอกาสก็ค่อยมาเจอกันก็ได้นะ แบงค์จะได้รู้ว่าคนที่แบงค์จะรักคือใครกันแน่ อย่างที่พี่ท็อปอยากให้แบงค์ลองไง” แบงค์พูดเสียงดังใส่พี่ท็อปที่ยืนเหวออยู่ เขารีบเดินเสียงดังลงบันไดไป โดยมีท็อปวิ่งไล่ตามหลังมาติดๆ

“ไม่เอาสิแบงค์ อย่าโกรธพี่ดิ พี่อุตส่าห์ทำทั้งหมดนี้เพื่อแบงค์นะ” พี่ท็อปบอก “อย่าให้พี่รู้สึกผิดไปมากกว่านี้เลย ที่พี่ทำไปก็เพราะรักแบงค์มากนะ”

แบงค์ไม่ตอบ รีบเดินไปโดยไม่สนใจหันหลังกลับมามองท็อปแม้แต่น้อย ท็อปเลิกตามรุ่นน้องที่พยายามหนี รู้สึกโกรธแต่ก็ทำอะไรไมได้ สภาพตอนนี้ของเขาคือกลืนน้ำลายตัวเอง แน่นอนว่าเขาไม่อยากแบงค์ไปอยู่กับนายกายอะไรนั่น แต่เพราะเขาได้ยื่นข้อเสนอนั้นไปแล้ว จึงเป็นการยากที่จะมาแก้ไขสิ่งที่ตัวเองพูดไปแล้ว และยิ่งเมื่อแบงค์หัวเสียเพราะท็อปเห็นเขาเป็นเครื่องมือของเกมส์นี้ ทำให้ท็อปยิ่งหมดข้อต่อต้านใดๆที่จะช่วยให้แบงค์รู้สึกดีขึ้น เขาจึงได้แต่ยืนถอนหายใจระคนกระอักกระอ่วนอยู่ใต้อาคารมองแบงค์เดินจากไป

แบงค์เดินอย่างเหม่อลอยไปถึงหน้าโรงเรียน รู้สึกว่าตัวเองหน้าร้อนฉ่าราวกับไปตากแดดมาหลายชั่วโมง ด้วยความโกรธและความอัดอั้นที่นับวันพี่ท็อปก็ยิ่งเอาแต่ใจตัวเองมากขึ้นเรื่อยๆกับเขา ทำให้เขารู้สึกหัวเสียอย่างควบคุมตัวเองไม่ได้ เขาไม่ได้อยากให้อะไรมาลงเอยแบบนี้สักนิด ตัวของเขานั้นรู้ดีอยู่เสมอว่าพี่ท็อปคือรักแรกของเขาที่เขายังคงรักอยู่แม้ในขณะนี้ แต่ด้วยความที่อีกฝ่ายเป็นคนไม่ยอมคนและเป็นชอบเอาชนะ เมื่อเห็นโอกาสที่จะได้สู้กับพี่กายอีก จึงไม่แปลกใจที่พี่ท็อปจะเอาแบงค์เข้ามาเป็นเหยื่อในเกมส์นี้อย่างช่วยไม่ได้

“เราไม่ใช่ของเล่นที่ใครจะมาทำอะไรก็ได้นะ” แบงค์พูดกับตัวเอง “พี่ท็อปเอาแต่สร้างปัญหาให้เราอยู่เรื่อย เมื่อไรจะโตสักทีก็ไม่รู้”

“แบงค์” เสียงพี่กายเรียกจากหน้าประตูโรงเรียน

แบงค์รีบตีสีหน้าเป็นปกติ อย่างน้อยพี่กายก็ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับเรื่องนี้มากนัก เพราะคนเริ่มเรื่องคือพี่ท็อป เขาควรจะมีมารยาทต่อพี่กายดีกว่าจะแสดงอารมณ์ฉุนเฉียว จึงเข้าไปทักทายด้วยสีหน้าปั้นยิ้ม

“แบงค์จะไปกินขนมที่ร้านมองดูวัวเหรอ?” พี่กายถาม “พี่ยังไม่ค่อยอยากกลับไปเหยียบร้านนั้นสักเท่าไรเลย ยังอายไม่หาย”

“แบงค์อยากไปขอโทษพี่หลินเขาด้วยน่ะครับ พี่กาย ตั้งแต่วันที่เกิดเรื่องก็ยังไม่ได้ไปขอโทษตรงๆเลย พี่ท็อปก็ไม่ได้แวะไปอีก” แบงค์บอก

“อืม ก็ดีเหมือนกันนะ ร้านนั้นขนมปังปิ้งอร่อย คงเสียดายแย่ ถ้าไม่ได้กินอีกเพราะเรื่องแบบนั้น” พี่กายบอกหัวเราะชอบใจ
แบงค์ยิ้มตอบแต่ก็เป็นยิ้มที่เขารู้ตัวว่าไม่ได้ออกมาจากใจสักนิด

เมื่อไปถึงที่ร้าน พี่หลินยังคงยืนต้อนรับลูกค้าที่หน้าเคาน์เตอร์เช่นเดิม เมื่อเห็นแบงค์พี่หลินก็ร้องทักด้วยความเป็นห่วงทันที ส่วนพี่กายก็รีบเดินไปหาที่นั่งเพื่อสั่งของกินมากินก่อน ปล่อยให้แบงค์นั่งคุยกับพี่หลินอยู่ที่เคาน์เตอร์

“อ้าวแบงค์ พี่ไม่ได้เห็นหน้าเรานานเลย” พี่หลินบอก “ตั้งแต่วันนั้นที่ท็อปโวยวายในร้าน พี่ก็ไม่เห็นพวกเราเลย กลัวว่าพวกเราจะโกรธกัน เห็นมีคนแชร์คลิปกันอีก คนที่เอาไปแชร์นี่นิสัยไม่ดีเลยจริงๆ” เธอบ่นเมื่อเห็นหน้าแบงค์เดินเข้ามาสวัสดี

“ขอโทษจริงๆนะครับพี่หลิน แบงค์ไม่คิดว่าพี่ท็อปเขาจะโมโหไร้สาระแบบนั้น” แบงค์บอกยังคงยกมือไหว้ปะหลกๆ

“พี่รู้นิสัยมันมาแต่ไหนแต่ไรแล้ว ขานั้นน่ะ เหมือนพ่อเขานั่นแหละ” พี่หลินบอก

“เหมือนพ่อ? อาจารย์สายัณห์นะเหรอครับ?” แบงค์ถามอย่างสงสัย “อาจารย์ออกจะขรึมๆ ไม่น่าใช่คนอารมณร้ายนะครับพี่หลิน”

“ตอนสมัยหนุ่มๆน่ะ ลือกันให้แซ่ด ตอนอาจารย์โดนสั่งย้ายจากการที่เป็นอาจารย์มหาลัย มาสอนโรงเรียนมัธยมเพราะมีเรื่องชู้สาวในวิทยาลัยน่ะ” พี่หลินบอก ถอนหายใจ

“จริงเหรอครับพี่หลิน” แบงค์ร้องถามอย่างตกใจ “อาจารย์สายัณห์เนี่ยนะ”

“สมัยเขาหนุ่มๆนะแบงค์ หน้าก็หล่อเหมือนไอ้ท็อปเนี่ยแหละ นักศึกษาสาวเห็นแล้วก็ไล่จีบอาจารย์กันทั้งนั้น บางคนยอมพลีกายถวายตัวสารพัด จนแม่ท็อปจับได้ ก็เกิดมีปากเสียงกัน ทะเลาะกันหลายครั้งเลยนะ จนแม่ท็อปเจ็บหนักจนต้องเข้าโรงพยาบาลเลยหนสุดท้ายแล้วก็มีเรื่องฟ้องหย่ากัน ว่ามีการใช้กำลังในครอบครัว”

“ผมไม่เคยรู้เรื่องนี้มาก่อนเลย” แบงค์บอก ตกใจกับสิ่งที่ตนเองได้ยิน

“เรื่องนี้ท็อปมันคงไม่อยากเล่าเท่าไรหรอก ท็อปน่าจะเหมือนพ่อเขานั่นแหละ อารมณ์ร้อน แล้วเห็นว่าพ่อกับแม่ตบตีกันให้เห็นบ่อยช่วงที่เขายังเล็กๆ เลยอาจจะเป็นไปได้ว่าเขาจะติดนิสัยเหล่านั้นโดยไม่รู้ตัว” พี่หลินเสริม

“แต่เท่าๆที่เห็นกันก็เหมือนว่า พี่ท็อปมีแต่คนชอบนี่นาที่โรเรียน ไม่ค่อยมีข่าวลบๆเรื่องพี่ท็อปขี้เหวี่ยงแบบนี้เลยนะครับพี่หลิน” แบงค์ถามกลับไป

“มันคบใครมั่งล่ะ นอกจากปลาคาร์พที่สนิทๆกันน่ะเห็นไหม? มีเจ้าหนุ่มคนนั้นคนเดียวที่ทนมันได้ แต่จริงๆท้อปมันไม่ใช่คนแย่อะไรขนาดนั้นเมื่อเทียบกับพ่อของเขาตอนหนุ่มๆนะ แค่น่าจะอยู่ในวัยฮอร์โมนพลุ่งพล่านมากกว่า เข้าใจเขาหน่อยก็แล้วกัน” พี่หลินบอก

“แล้วแม่พี่ท็อปล่ะครับ? แล้วทำไมพี่ท็อปถึงได้อยู่กับพ่อทั้งๆที่พ่อเขาน่าจะแพ้คดีไม่ใช่เหรอ?” แบงค์ถาม เพราะดูจากมูลเหตุแล้วคนเป็นพ่อน่าจะผิดเต็มๆ

“ไม่ได้ว่าระบบยุติธรรมของไทยไม่ดีนะ แต่ในชั้นศาลเพื่อนของอาจารย์แกเป็นผู้พิพากษาแล้วก็คอยช่วยอาจารย์แกให้ชนะความให้ได้ท็อปมาเลี้ยง เขาอ้างเรื่องทรัพย์สินแล้วก็มรดกฝั่งพ่อเขามีมากพอที่จะดูแลลูกชายมากกว่าอยู่กับแม่ ท็อปจะได้รับการศึกษาที่ดีกว่าและชีวิตที่ดีกว่า ประมาณนั้นแหละ” พี่หลินพูด

แบงค์พยักหน้าหงึกหงัก พี่ท็อปมีอดีตแบบนี้นี่เอง เขาไม่เคยเล่าให้ใครฟังและแม้แต่แบงค์เองก็ไม่ค่อยจะกล้าถามเรื่องอดีตของพี่เขาเท่าไรนัก เพราะพี่ท็อปก็ดูไม่เต็มใจจะเล่าเท่าไร คอยบอกแค่ว่าสนใจแต่ตอนนี้ ปัจจุบันนี้ก็พอแล้ว

“เหมือนเพื่อนเราจะสั่งเสร็จแล้ว แบงค์ไปเอาใบออร์เดอร์ที่โต๊ะมาส่งให้พี่หน่อย เดี๋ยวพี่จะทำให้เองจ๊ะ” พี่หลินวาน
แบงค์จึงรีบเดินไปที่โต๊ะ ถามพี่กายถึงของที่อยากจะสั่งแล้วจึงเดินกลับไปยื่นออร์เดอร์แล้วเดินกลับมา พอดีกับที่ประตูร้านเปิด ลูกค้าอีกคนที่หน้าตาคุ้นเคยก็เข้ามาในร้าน

“อ้าวแบงค์ วันนี้มากินนมเหรอ?” หวาน ประธานนักเรียนสาวก้าวเข้ามาในร้านพร้อมถือกระเป๋าสองใบทั้งกระเป๋านักเรียนและกระเป๋าใส่ของยี่ห้อ Harrod “มากับท็อปล่ะสิ”

“อ๋อ เปล่าครับพี่หวาน” แบงค์ตอบ ใจดีสู้เสือ “พอดีว่ามากับพี่.....”

ไม่ทันที่เขาจะพูดจบ หวานก็กวาดตามองไปรอบร้านเห็นพี่กายกำลังนั่งก้มหน้ามองดูเมนูอื่นๆที่วางอยู่บนโต๊ะ หวานจึงรีบเดินปรี่เข้าไปหาพี่กายทันที

“พี่กาย แวะมาเหมือนกันเหรอคะเนี่ย” หวานร้องทัก แล้วรีบนั่งตรงข้ามพี่กาย

“อ้าว หวาน ทำไมถึงโผล่มาอยู่ที่นี่ได้ล่ะเนี่ย” พี่กายเงยหน้าขึ้นมามองอย่างประหลาดใจ “ไม่รีบกลับบ้านเหรอเดี๋ยวคุณป้าก็บ่นเอาหรอก”

“โถ่พี่กาย แม่ก็ดุไปอย่างนั้นเองแหละ แล้วพี่ทำไมมานั่งกินอยู่คนเดียวล่ะเนี่ย นัดสาวที่ไหนเอาไว้หรือเปล่า?” หวานแซวยิ้มให้อย่างมีเลศนัย “เดี๋ยวนี้ป๊อบนะคะ คุณพี่เนี่ย”

แบงค์ได้แต่ยืนมองแบบอึ้งๆอยู่ จดๆจ้องๆไม่กล้าจะเดินเข้าไปนั่งร่วมวงสนทนาด้วยสักเท่าไร

“อ๋อ พี่มากับน้องแบงค์” พี่กายพูดขึ้นมา ชี้มาที่แบงค์ที่กำลังยืนเก้ๆกังๆยู่ “เดี๋ยวพี่แนะนำให้หวานรู้จัก”

หวานหันหน้ามามองแบงค์อย่างไม่สบอารมณ์นัก “ไม่ต้องแนะนำหรอกค่ะ รายนี้ คนรู้จักทั้งโรงเรียน”

“เอ่อ....นั่น..สินะ” พี่กายพูด นึกถึงคลิปของตัวเองที่โดนท็อปผลักในร้านนมขึ้นมา

“มานั่งก่อนดีกว่าแบงค์” พี่กายเรียก แล้วยกเก้าอี้มาให้

“พี่กายไปสนิทกับน้องแบงค์ตั้งแต่เมื่อไรเนี่ย หวานไม่เห็นรู้เรื่องมาก่อนเลย” หวานถามขึ้นมาอย่างไม่ไว้หน้าแบงค์สักนิด

“ก็ตั้งแต่หลังแข่งแบดด้วยกันนั่นแหละ ก็เลยมีคุยๆกันบ้าง” พี่กายตอบ

“เอ่อ...พี่กายกับพี่หวานรู้จักกันเหรอครับ?” แบงค์ถามแทรกขึ้นมา หันหน้ามองทั้งคู่ พยายามสร้างบรรยากาศที่ดีขึ้นในการสนทนา

“หวานเขาอยู่บ้านติดกับพี่น่ะ เห็นกันมาตั้งแต่เด็กๆแล้วเหมือนกัน สมัยเด็กๆยัยนี่ชอบวิ่งเข้าออกบ้านพี่เหมือนบ้านตัวเอง ตัวป่วนดีๆเนี่ยแหละ” พี่กายพูด หัสเราะร่า

“มาเผากันซึ่งๆหน้าเลยนะพี่กาย ไม่ขนาดนั้นหรอกน่า ก็แม่พี่กายทำขนมอร่อยจะตาย หวานก็ต้องแบบขอเข้าไปเอาอะไรมากินบ้างอะไรบ้าง ให้ชีวิตได้มีความหวานสมชื่อ” เธอพูด

“แน่ะ ยังมาเถียงอีกแน่ะ” พี่กายบอก เอานิ้วไปดีดหน้าผากหวาน “เดี๋ยวนี้เป็นถึงประธานนักเรียนแต่ก็ยังไม่เลิกแก่นแก้วสักที”
“ดูพี่สองคนสนิทกันดีจังเลย” แบงค์บอก

“ก็อยู่กันมานานนี่เนอะ” พี่กายบอก “เดี๋ยวพี่มานะ ขอไปเข้าห้องน้ำแป๊บนึง ออกมาพี่เขาคงเอานมกับขนมปังมาเสริ์ฟพอดี”พูดจบพี่กายก็รีบเดินออกไปปล่อยให้หวานและแบงค์นั่งประจันหน้ากันแทน

“เธอแน่มากเลยนะแบงค์” หวานพูดขึ้นมาขัดจังหวะความเงียบในร้าน พร้อมกับส่งสายตาที่แสดงออกถึงความไม่พอใจมาให้

“พี่หวานหมายถึงอะไรครับ?” แบงค์ถามย้อนกลับไป เขาไม่น่ามาเจอพี่หวานแล้วต้องอยู่กันลำพังแบบนี้เลย

“นอกจากเธอยังเป็นหนามยอกใจของฉันเรื่องท็อปแล้วตอนนี้เธอยังมีหน้ามาหนีบพี่ชายข้างบ้านฉันไปอีกเนี่ยนะ” หวานพูดอย่างหัวเสีย “คนอย่างเธอนี่มันมีอะไรดีนักถึงได้มีแต่คนมารุมทึ้ง”

แบงค์นิ่งเงียบไม่กล้าพูดอะไรออกมามากมายนัก เพราะตอนนี้เขารู้ดีว่าพี่หวานได้อคติกับเขาอย่างมากเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว การต่อปากต่อคำจึงไม่ใช่เรื่องที่ดีนัก

“แบงค์ไม่ได้ตั้งใจจะทำให้พี่หวานไม่พอใจนะครับพี่” แบงค์บอก พยายามเจรจา

“โทษทีเถอะ แค่การที่เธอมีตัวตนอยู่ตอนนี้มันก็ทำให้ฉันไม่พอใจมากๆเลยล่ะ” เธอพูดห้วนๆ พอดีกับที่พี่หลินยกถาดขนมปังปิ้งราดหน้าต่างๆมาเสิร์ฟให้ที่โต๊ะ แบงค์รู้สึกขอบคุณพี่หลินจับใจที่จู่ๆก็เข้ามาขัดจังหวะการสนทนาจากนั้นพี่กายก็เดินกลับมาจากห้องน้ำด้วยเช่นกัน

“น่ากินเหมือนเดิมเลยนะครับพี่หลิน” แบงค์ร้องชม

“จะขอส่วนลดเหรอไง แหม พ่อหนุ่ม ชมตลอด” พี่พลินพูด ส่งยิ้มให้

“งั้นเดี๋ยวเราลงมือกินกันเลยเนอะ” พี่กายบอกแล้วยื่นช้อนส้อมมาให้

เนื่องจากตอนนี้พี่หวานได้นั่งเป็น กขค. ระหว่างพี่กายและแบงค์เป็นที่เรียบร้อย ในใจหนึ่งแบงค์ก็รู้สึกว่าดีแล้วที่มีพี่หวานมาขัดไว้เพราะไม่เช่นนั้นพี่กายอาจจะโจมตีแบงค์แบบรัวๆเรื่องความสัมพันธ์ของเขากับแบงค์ที่พี่กายอยากจะสานเริ่ม ดูท่าแล้วพี่กายก็เหมือนไม่ค่อยพอใจเท่าไรที่หวานมานั่งขัดคออยู่เรื่อยๆ ผิดแผนที่วางไว้แต่แรกว่าเขาจะได้มีโอกาสอยู่กับแบงค์ตามลำพัง
เท่าที่ดูๆแล้ว พี่กายไม่ใช่คนไม่ดีอะไร เขาเป็นผู้ชายอบอุ่นและดูมีไมตรีดีในสายตาของแบงค์ ทุกครั้งที่พี่กายหัวเราะ ทำเอาคนรอบข้างๆต่างมีความสุขไปด้วยเพราะรอยยิ้มของพี่กายนั้น เรียกได้ว่าทำเอาสาวๆหลงได้เลย เพราะรูปหน้าคมเข้มกับผมดำสนิทของพี่กาย บวกกับเสียงทุ้มๆแบบหนุ่มอารมณ์ดี ก็พาลทำให้เคลิ้มไปง่ายๆ

เมื่อทุกอย่างถูกจัดการเรียบร้อยๆ แบงค์จึงขอแยกกลับบ้านเองไม่ได้ไปกับพี่กายด้วย แรกทีเดียวพี่กายพยายามคะยั้นคะยอจะไปส่งแบงค์ให้ได้ แต่เมื่อเห็นว่าหวานอยู่ด้วยแล้วจึงตกลงกันว่าแยกทางกันน่าจะดีกว่า เพราหวานก็อยู่ใกล้บ้านพี่กายและการปล่อยเด็กผู้หญิงเดินกลับบ้านในช่วงค่ำนั้นคนเดียว น่าเป็นห่วงกว่าที่แบงค์จะเดินกลับบ้านคนเดียว

เขาจึงลาพี่กายและพี่หวานจากนั้นจึงโบกรถมอเตอร์ไซค์รับจ้างแถวๆร้านนมเพื่อให้ไปส่งที่บ้าน
ในสมองของแบงค์คิดวนไปวนมาสรตะว่าจะเล่นตามเกมส์พี่ท็อปและเปิดโอกาสดูจริงๆดีหรือไม่ พี่กายดูท่าแล้วจะเป็นคนที่เทคแคร์คนรักและอบอุ่นเอามากๆถ้าเอามาเทียบกับพี่ท็อปจอมทะเล้นแต่ขี้โวยวายเหลือเกิน อีกทั้งพี่กายมีความเป็นผู้ใหญ่กว่าและมีพี่หวานเป็นน้องข้างบ้านเลยยิ่งทำให้รู้จักวางตัวและระงับอารมณ์ได้ดีกว่า ในใจลึกๆก็กลัวใจตัวเองเหลือเกินว่าจะหวั่นไหวไปกับรุ่นพี่คนใหม่ที่เข้ามาในชีวิต

จบบทที่ 16 (สำหรับบทที่ 17 สัปดาห์นี้ขออนุญาตอัพเป็นวันเสาร์แทนนะครับ)

ออฟไลน์ zipboy

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 309
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +65/-0
หวาน = ผู้หญิงที่ทำให้ผู้ชายยุคนี้น้อยลง น่ารำคาญจนสมควรแล้วที่ไม่มีใครเอา

แบงค์เอย รักพี่ท็อป ก็เลิกเล่นทางอ้อมกับพี่กายเถอะ

รออ่านตอนต่อไปครับ

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด