( ต่อจากด้านบน (เสร็จทันด้วยวุ้ย ))
" แก!! "
" สวัสดีครับ คุณนิธิศ คุณหญิง "
" อย่าบอกนะว่าไอ้เด็กนี่คือลูกชายที่แกพูดถึง "
" พูดอะไรกันครับ แล้วพ่อไปรู้จักกับพ่อบอสตั้งแต่เมื่อไหร่ "
ปุณณัตต์ระเบิดความสงสัยออกมาถามบิดา คนอื่นๆ ที่สงสัยไม่ต่างกัน ทำได้แค่มองใบหน้าของชายวัยกลางคนทั้งสองสลับกันและรอฟังคำอธิบายอย่างตั้งใจ
" หึ งั้นเรื่องมันก็ยิ่งง่าย ปูน เลิกยุ่งกับไอ้เด็กนั่นซะ นี่คือคำสั่ง! "
" มีเหตุผลหน่อยสิครับ ผมบอกแล้วไงว่า.. "
" ผู้ชายคนนี้ติดหนี้พ่อร้อยล้าน และนี่คือสาเหตุที่พวกเรากลับเมืองไทย บังเอิญจริงๆ นะนายยงยศฉันกะว่าจะนัดเจอแกพรุ่งนี้แท้ๆ "
ภายในห้องโถงเงียบกริบ ยวิษฐามองหน้าพี่ชายเชิงถามว่าเกิดอะไรขึ้น คนเป็นพี่ทำได้เพียงใช้มือข้างที่ว่างบีบมือน้องสาวแทนคำอธิบาย เพราะตัวเขาเองก็ยังอยู่ในสภาวะที่ยังจับต้นชนปลายไม่ถูกเช่นกัน
อยู่ๆ ปุณณัตต์ก็ยกยิ้มที่มุมปาก ก่อนจะหันไปพูดกับบิดา
" เรื่องนี้ง่ายเหมือนที่พ่อพูดไว้จริงๆ นะครับ เงินร้อยล้าน.. "
" ถ้าลูกคิดจะใช้หนี้แทนเมียละก็ หยุดความคิดนั้นซะ! "
" ใครว่าละครับ เรื่องแค่นี้ไม่เห็นต้องมีใครเสียเงินเสียทองเลยซักบาท " ปุณณัตต์พูดพลางยืนขึ้นมองหน้าบิดา " ร้อยล้านที่พ่อบอสติดหนี้บ้านเรา ก็ถือซะว่าเป็นเงินค่าสินสอดที่ผมขอบอสมาเป็นสะใภ้ของบ้านอภิมหาธนวัชรก็แล้วกัน แค่นี้เอง ทุกอย่างก็แฮปปี้เอนดิ้ง "
" ... "
ยศพัทธ์มองหน้าสามีที่หันมายิ้มให้อย่างอ่อนโยน แววตาคู่นั้นไร้ความกังวล เมื่อคิดว่าวิธีของตนเป็นทางออกที่ดีที่สุด แต่ทว่าผู้เป็นบิดากลับคิดตรงกันข้าม
" ฮ่าๆ ไม่อยากจะเชื่อว่าลูกจะหลงเมียขนาดนี้ พ่อบอกแล้วไงถ้าไอ้เด็กนี่มีหลานให้พ่อไม่ได้ ก็อย่าหวังจะเข้ามาเป็นสะใภ้บ้านนี้เลย อ่อ ฉันมีอีกทางเลือกมานำเสนอ "
นายนิธิศหันไปสบตากับยศพัทธ์ก่อนจะพูดทางเลือกใหม่ที่ตนเพิ่งคิดได้สดๆ ร้อนๆ ออกมา
" ตัดขาดความเป็นพ่อลูกกับนายยงยศซะ แล้วฉันจะพิจารณาเรื่องนี้ใหม่อีกที "
“ พ่อ! ”
“ คุณนิธิศ!! ”
ยศพัทธ์เรียกชื่อคนพูดในทันที ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าเขาจะคิดข้อเสนอแบบนี้ออกมา ข้อแรกว่าเป็นไปไม่ได้แล้ว ข้อสองยิ่งเป็นไปไม่ได้มากกว่า
“ พ่อพูดอะไรออกมา ถ้าพ่อจะขัดขวางความรักของผมขนาดนี้ งั้นผม.. ”
" อย่าคิดใช้แผนเหมือนพระเอกในละครน้ำเน่าที่จะลาออกจากกองมรดกแล้วจะหนีไปอยู่ด้วยกันนะ เพราะสายเลือดอภิมหาธนวัชรเป็นแล้วไม่มีทางเลิกเป็นได้ ! "
ยศพัทธ์คิดตามประโยคนั้นพลางน้ำตาไหล
...สายเลือดเศรษฐพงษ์ก็เช่นกัน ถึงเราจะจน แต่ยังไงเลือดก็ย่อมข้นกว่าน้ำ แม้ว่าน้ำที่ว่าจะหมายถึงความรักที่ล่อเลี้ยงชีวิตมาตลอด 3 ปีกว่าก็ตาม...
ปุณณัตต์ทรุดตัวลงข้างคนรักอย่างหมดแรง ในเมื่อสิ่งที่เขาต้องการไม่สามารถสมปรารถนาได้เลย หนทางการจะได้อยู่ร่วมกับคนที่รักช่างเลือนราง ไม่สิ ช่างมืดมนคล้ายติดอยู่ในถ้ำปิดตาย
ยศพัทธ์เองก็รู้สึกไม่ต่างกัน แม้ว่าในตอนนี้มือของคนทั้งคู่ยังจับกันไว้แน่น แต่อีกไม่นานพวกเขาก็ต้องปล่อยมันออกจากกันอยู่ดี เมื่อคำพูดประมุขของบ้านถือเป็นสิทธิ์ขาด ซึ่งลูกหนี้อย่างเขาไม่ม่สิทธิ์ต่อรอง
" แม่ช่วยพี่ปูนกับพี่บอสด้วย ฮื่อๆ ปันขอนะ แล้วปันจะไม่โกรธแม่กับพ่อเรื่องที่ทิ้งพวกเราไปเลย ปันสัญญาว่าจะเป็นเด็กดี ทำตามที่แม่กับพ่อสั่ง แต่ช่วยพี่ปูนด้วย ได้โปรด "
“ ปันลูก... ”
คุณหญิงพูดได้เท่านั้นก็ร้องไห้สะอึกสะอื้นตามลูกสาว มือทั้งสองค่อยๆ ประคองปัณณ์ณิชที่วิ่งมาทรุดตัวลงที่พื้นบริเวณหัวเข่าให้ลุกขึ้นมานั่งที่โซฟาแล้วกอดเธอไว้แน่น ครั้งสุดท้ายที่เธอเห็นลูกสาวคนเก่งร้องไห้พลางทำเสียงอ้อนวอนแบบนี้ก็คือเมื่อ 10 ปีก่อน ตอนที่เธอและสามีกำลังจะออกจากบ้านหลังนี้ไป
ภาพที่เห็นสร้างความสะเทือนใจให้กับทุกคนในห้อง ไม่เว้นแม้แต่หนุ่มลูกครึ่งที่ฟังภาษาไทยผิดๆ ถูกๆ อย่างโทนี่
" ถ้าเรื่องที่บอสกับคุณปูนรักกันไม่ได้เป็นเพราะเรื่องเงิน ผมจะขอชดใช้แทนให้ ทั้งต้นทั้งดอกไม่ให้ขาดแม้แต่สตางค์เดียว "
เสียงทุ้มของโทนี่เรียกความสนใจจากลูกและเมียของคุณนิธิศได้เป็นอย่างดี
สายตาคมมองไปยังหนุ่มลูกครึ่งอย่างพิจารณา
...ไอ้เด็กนี่ เป็นอะไรกับลูกของไอ้ยงยศกันแน่ ทำไมถึงต้องอาสาช่วยกันถึงขนาดนี้
" แต่ถ้าเป็นเพราะบอสไม่สามารถมีทายาทให้คุณได้.. "
" ฉันก็จะเป็นคนท้องแทนพี่ชายเอง "
" ฉันไม่ให้เธอท้อง! "
" นายมีสิทธิ์อะไรมาห้ามฉันฮะ! "
" อยากรู้ใช่มั้ย งั้นออกไปคุยกับฉันข้างนอก "
ว่าแล้วหนุ่มลูกครึ่งก็ลุกไปลากตัวหญิงสาวที่นั่งฝั่งตรงข้ามออกจากห้องโถงไป ท่ามกลางสายตาของทุกคนที่ไม่เข้าใจในการกระทำของชายหนุ่ม
“ มานี่! บอสฉันขอยืมตัวน้องนายแปปนึงนะ ”
คำพูดเหมือนขออนุญาตแต่ท่าทางช่างตรงข้ามคำนั้นอย่างสิ้นเชิง
“ ฉันไม่ไป ปล่อย ”
“ จะไปดีๆ หรือจะให้อุ้มฮะ! ”
“ ฉัน.. ”
เสียงปะทะฝีปากของทั้งคู่เริ่มไกลออกไปจนในที่สุดห้องโถงกลับเข้าสู่ความสงบอีกครั้ง เป็นจังหวะเดียวกับที่คุณนิธิศส่งสัญญาณให้คุณปรเมศวร์เลขาคนสนิทมาพาภรรยาและลูกสาวขึ้นไปบนห้อง เมื่อคิดว่าทั้งคู่เหนื่อยกับเรื่องนี้มามากเกินพอแล้ว
คนที่อยู่ในห้องโถงจึงเหลือแค่สองพ่อลูกของสองตระกูลที่ต้องมาเผชิญหน้ากันในฐานะเจ้าหนี้และลูกหนี้
" คุณนิธิศ ผมอยากให้คุณแยกเรื่องหนี้กับเรื่องลูกของเราได้มั้ยครับ ผมยินดีชดใช้ให้คุณทุกอย่าง ขอแค่.. "
“ คิดว่ากล้าขอแล้วฉันจะกล้าให้งั้นสิ หึ ฉันยังจำคำพูดของแกตอนอยู่มาเก๊าได้นะ ”
คนพูดมองคนฟังตาไม่กะพริบ
เรื่องราวในวันนั้นย้อนกลับเข้ามาเหมือนน้ำป่าที่ไหลหลาก เขาไม่เคยลืมเหตุการณ์ที่ทำให้เขาฝังใจกับผู้ชายตรงหน้ามาจนถึงทุกวันนี้
“ หนี้ที่ยืมไปจะว่าไง ”
“ ไม่ต้องห่วงหรอกครับคุณนิธิศ เงินแค่ร้อยล้านผมหามาจ่ายคุณได้แน่นอน สามีของลูกผมเป็นถึงเศรษฐีอันดับต้นๆ ของประเทศไทย เงินแค่นี้ถือว่าเล็กน้อยมากครับถ้าเทียบกับทรัพย์สินที่เขามี ”
“ ถ้ามีจริงก็รีบๆ จ่ายมาซะสิ พูดมากอยู่ได้ ”
“ จ่ายอ่ะจ่ายแน่ แต่ต้องให้ผมกลับถึงเมืองไทยก่อน ถ้าผมอยู่นี่แล้วผมจะไปขอลูกเขยผมได้ยังไง จริงมั้ยครับ? ”
“ ดูมั่นใจนะว่าลูกเขยจะยอมให้ ”
“ คนอย่างยงยศถ้าไม่มั่นใจอะไรก็ไม่พูดให้เปลืองน้ำลายหรอกครับ ลูกเขยผมน่ะตกหลุมรักลูกผมตั้งแต่แรกเห็นแล้ว ลองไม่ให้เงินผมดูสิ ผมจะพาลูกหนี มีหวังเขาต้องรีบมาอ้อนวอนเอาเงินมาประเคนผมแทบไม่ทัน ในเมื่อเขารักลูกผมมากขนาดนั้น ” คนประเภทที่นายนิธิศเกลียดมากที่สุดคือพวกเล่นการพนัน และประเภทต่อมาคือพวกที่ใช้ลูกหากิน ซึ่งนายยงยศมีคุณสมบัติที่นายนิธิศเกลียดครบทุกประการ ดังนั้นจึงไม่แปลกที่เขาจะทำทุกวิถีทางเพื่อให้ต้องมีชีวิตข้องเกี่ยวกับนายยงยศอีก
" ถ้าวันนั้นฉันรู้ว่าลูกเขยที่แกพูดถึงคือลูกของฉันแล้วล่ะก็ แกคงไม่มีโอกาสได้มายืนต่อรองฉันอยู่ตรงนี้แน่! "
“ คุณจะทำอะไรผม ผมยอมทุกอย่าง ให้ผมออกจากบ้านหลังนี้ไปก็ได้ ขอแค่ให้ลูกผม.. ”
“ ทำอะไรก็ได้งั้นหรอ? หึ ไอ้เดชไอ้ชาติจัดการ ”
“ ครับ ”
สองบอดี้การ์ดหุ่นล่ำบึกที่มาจากไหนไม่มีใครทราบวิ่งตรงไปจับตัวนายยงยศกดลงที่พื้น
“ ถ้าทนได้ฉันก็จะยอมรับข้อเสนอ แต่ถ้าใครคิดเข้าไปช่วยละก็ฉันจะถือว่าทุกอย่างเป็นโมฆะ ”
สิ้นเสียงคำสั่ง บอดี้การ์ดทั้งสองก็ซัดหมัดหนักๆ ไปที่ชายวัยกลางคนที่หลับตาเตรียมพร้อมอยู่ก่อนแล้ว
“ หยุด!! พอซะทีเถอะ ได้โปรด ”
ยศพัทธ์สะบัดมือออกจากสามีก่อนจะวิ่งไปเกาะขาคุณนิธิศและก้มลงกราบแทบเท้า
“ บอส! ”
เสียงเรียกชื่อของสามีเป็นเหมือนลมที่พัดผ่านหูไป ในเมื่อตอนนี้เขาไม่ได้ยินเสียงอะไรอีกแล้วนอกจากเสียงร้องไห้ของตัวเอง และสิ่งที่เขาต้องทำคือการช่วยเหลือบิดาของตน จะให้เขาก้มลงกราบคนตรงหน้าร้อยครั้งพันครั้ง เขาก็ยอม
“ ผมยอมแล้ว พอเถอะครับ ผมยอมคุณทุกอย่างแล้ว อย่าทำอะไรพ่อผมอีกเลย ขอแค่คุณปล่อยเราไป ”
“ บอส ไม่ อย่าทำแบบนี้ ไม่ ”
ปุณณัตต์เตรียมถลามาหาคนรักแต่ก็ถูกคุณพิทเลขาคนสนิทคว้าตัวไว้ได้ก่อน ด้วยเรี่ยวแรงที่เหลือน้อยเต็มทีทำให้เขาไม่อาจขัดขืนการจับกุมของคุณพิทได้
ยศพัทธ์ยังคงสะอึกสะอื้นก้มหน้าจนคางชิดอกมองดูน้ำตาที่หล่นกระทบพื้นหยดแล้วหยดเล่า เขาไม่กล้าเงยหน้าขึ้นมามองภาพของคนที่กำลังเรียกชื่อเขาได้
หัวใจของคนทั้งคู่เจ็บปวดไม่ต่างกัน ยิ่งเห็นหน้ายิ่งยากเกินจะตัดใจ แต่ในเมื่อเส้นทางที่เขากำลังเดินอยู่ถึงทางแยก และหนทางที่ต้องก้าวไปมีเพียงทางเดียวโดยไม่อาจจะย้อนกลับคืนมาทางเก่าได้ ดังนั้นเขาต้องทำในสิ่งที่ถูกต้องที่ลูกทุกคนพึงกระทำ
นั่นคือการเลือกบิดาผู้ให้กำเนิด“ ปล่อยพ่อผมไปนะครับ คุณนิธิศ ผมสัญญาว่าผมกับพ่อจะออกจากบ้านหลังนี้และจะไม่กลับมาเหยียบที่นี่อีก ”
“ พูดเองนะว่าจะไม่กลับมา หึ งั้นก็ดี ทำตามที่พูดออกไปจากบ้านหลังนี้ซะแล้วฉันจะยกหนี้ทั้งหมดให้ แลกกับข้อเสนอง่ายๆ อย่ามายุ่งกับลูกชายฉันอีก ถ้าไม่เชื่อฟังละก็ครั้งหน้าก็เตรียมหาเงินทำศพพ่อแกได้เลย! ”
“ … ”
“ คนอย่างนายนิธิศพูดคำไหนคำนั้น จำไว้! ”
...สิ่งที่พ่อทำอาจจะดูโหดร้ายในสายตาของทุกคน แต่พ่อทำเพื่อลูกนะปูน การที่ลูกชอบผู้ชายมันเป็นเรื่องยากมากที่พ่อจะยอมรับ แต่พ่อเชื่อว่าสักวันพ่อจะยอมรับมันได้แม้ว่าต้องใช้เวลานานก็ตาม
แต่การที่พ่อต้องอยู่ร่วมชายคาเดียวกับพวกที่มาเกาะลูกกินแบบนั้น พ่อทำไม่ได้ หวังว่าลูกคงเข้าใจ ลูกก็รู้ดีว่าทำไมพ่อเกลียดคนเล่นการพนัน ถ้าไม่ใช่เพราะปู่ของลูกเองก็เคยตกเป็นทาสของมันจนทำให้ย่าต้องทิ้งพ่อไปตั้งแต่เด็ก กว่าพ่อจะสร้างอภิมหาธนวัชร ลูกรู้มั้ยว่าพ่อต้องปากกัดตีนถีบขนาดไหน พ่อโชคดีที่พ่อเจอแม่ของลูก ผู้หญิงอดทนต่อสู้กับความลำบากมาพร้อมกับพ่อ เพราะฉะนั้นอย่าผู้ชายคนนั้นมาทำลายสิ่งที่พ่อสร้างขึ้นมาเลย
ความจริงพ่อไม่ได้เกลียดเด็กคนนั้นหรอกนะ พ่อยอมรับว่าตอนเห็นเด็กนั้นครั้งแรกพ่อรู้สึกถูกชะตาอย่างบอกไม่ถูก แต่พอรู้ว่าเขาเป็นคนรักของลูก พ่อก็รู้สึกอคติกับเด็กนั่นขึ้นมา จนถึงต้องตั้งกฎบ้าๆ ให้ลูกสองคนมีลูกด้วยกันทั้งๆ ที่มันเป็นไปไม่ได้ จริงๆ พ่อแค่อยากจะลองใจว่าลูกรักกันแค่ไหน จะจับมือผ่านอุปสรรคเหล่านี้ไปด้วยกันได้รึเปล่าแค่นั้น
เด็กนั่นดูเป็นคนดีและรักลูกจริงๆ นะ ไม่งั้นยัยปันคงไม่มาขอร้องแม่ของลูกแถมบอกจะหายโกรธพ่อกับแม่แบบนั้นหรอก นี่ไม่นับตอนที่ไอ้ลูกครึ่งบอกจะใช้หนี้ให้และน้องสาวของมันบอกจะท้องแทนอีก ติดก็แต่ว่ามันเป็นลูกของไอ้ยงยศ ไม่อย่างนั้นพ่อคงจะยอมรับมันมาเป็นสะใภ้บ้านเราแล้ว
ถึงพ่อจะทิ้งลูกไปเป็น 10 ปี แต่ความรัก ความห่วงใย ความหวังดีที่พ่อมีมันยังเหมือนเดิมตั้งแต่พ่อเห็นลูกครั้งแรกไม่เปลี่ยนไป
แม้ว่าลูกจะไม่เข้าใจเหตุผลที่แท้จริงของพ่อก็ไม่เป็นไร แค่ขอให้พ่อได้ทำหน้าที่ของพ่อก็พอ...
--------------------------------------
TBC 
วิ่งไปร้องไห้แพร้บ #ร้องไห้หนักมาก
ไหนแกบอกว่าจะจบแล้วไงยัยบลูนี่ แล้วไหงมาดราม่าขนาดนี้ (เริ่มด่าตัวเอง = =)
ทุกคนอย่าเพิ่งดราม่าแล้วเลิกอ่านนะ
ตอนหน้าสัญญา ว่าจะจบแล้วจริงๆ

มาลุ้นกันว่าทั้งสองจะมาลงเอยกันแบบไหน จะมีลูกตามคำสาป(แช่ง)จริงรึเปล่า?
วันนี้ไม่ไหวแล้ว ขอบคุณทุกคนที่ติดตามกันมานะคะ
ฝันดีจุ๊ฟๆ รักคนอ่าน ม๊วฟ

ปล อาจจะเจอกันอีกทีหลังสงกรานต์ปู้นเลยเน้อ ><