( ต่อ )
" ขอโทษ "
ปุณณัตต์ อภิมหาธนวัชร เจ้าพ่อเงินกู้ผู้สูงศักดิ์กำลังขอโทษอดีตลูกหนี้อย่างผมงั้นหรอ น่าขันสิ้นดี
" กูกลัว กลัวว่าถ้าพูดความจริงแล้วมึงจะทิ้งกูไป แต่กูไม่ได้คิดจะปิดบังอะไรมึงเลย กูตั้งใจจะบอกมึงทุกอย่าง....วันนี้ "
" เหอะ หลักฐานมัดตัวขนาดนี้ คงแถไม่ได้มากกว่า "
เจ้าหนี้จับหัวไหล่ผมให้หมุนไปเผชิญหน้า น้ำตาผมไหลออกมาเป็นสาย เหมือนความรู้สึกอัดอั้นมันกำลังจะระเบิด
" ถ้ากูไม่คิดจะบอกมึง กูคงไม่แต่งเพลงนั้นเพื่อมึงหรอก! "
แววตาดุดันระคนเจ็บปวดคู่นั้นจ้องผมอย่างอ้อนวอนให้ผมเชื่อ สองมือที่กุมหัวไหล่ เริ่มบีบแน่น ก่อนถ้อยคำบางคำจะดังออกมาอย่างแผ่วเบา แต่กลับดังก้องในหัวใจ
" กูรักมึง "
รักงั้นหรอ? แม้คำพูดจะเต็มไปด้วยความหมายและสายตาที่มองตรงมาอย่างเปิดเผย แต่กระนั้นหัวใจของผมกลับรู้สึกว่างเปล่า ภาพผู้ชายตรงหน้าซ้อนทับผู้ชายอีกคนในความทรงจำอันเลวร้ายครั้งอดีต ผมขืนตัวหวังจะหลุดจากการเกาะกุม แต่คนตัวใหญ่ไม่ยอมปล่อยพลางดึงผมไปกอดไว้แนบแน่น จนผมแทบจะจมลงไปในอ้อมกอดนั้น สุดท้ายผมเลยได้แต่ทุบอกแกร่งก่อนจะเปลี่ยนเป็นกำเสื้อเขาแทนเพื่อพยุงตัวไม่ให้ล้มทั้งยืน คนตัวสูงไม่ตอบโต้ เพียงแค่กอดผมไว้อย่างแผ่วเบา
" กูเห็นมึงครั้งแรกเมื่อปีที่แล้ว ถึงมันจะเป็นแค่รูปถ่าย แต่กูก็หลงรักมึงจนถอนตัวไม่ขึ้น "
น้ำตาผมเริ่มไหลรินอีกครั้งในระหว่างที่คนตัวใหญ่พยายามอธิบาย เจ้าหนี้เห็นท่าไม่ดีเลยพยุงคนที่กำลังสะอื้นฮักไปนั่งบนโซฟา แล้วเปลี่ยนท่ามากุมมือไว้แทน
" กูโง่เองที่คิดว่าคนในรูปเป็นน้องสาวมึง กูพาลใส่มึงสารพัดเพราะเจ็บใจที่พ่อมึงเอาคนที่กูอยากได้ไป แต่พอเวลาผ่านไป ยิ่งกูเอ่ยปากไล่มึงไปเท่าไหร่ กูยิ่งกลับฝ่ายเข้าหามึงเท่านั้น กูไม่เคยละสายตาจากมึงได้เลยสักที "
" บอส กูรักมึงจริงๆ รักแบบที่ไม่เคยคิดว่าจะรักใครได้อีก "
" คบกับกูได้มั้ย "
แดจาวู ?
วาเลนไทน์เมื่อ 4 ปีก่อน
" เมื่อกี้มึงเล่นเหี้ยอะไรวะ ไอ้โอ "
" กูไม่ได้เล่น กูตั้งใจ "
" ไอ้เชี่ย มึงกำลังจะบอกว่าที่มึงนอกบทเพราะตั้งใจจูบกูนี่นะ ไอ้สัตว์กูเป็นผู้ชายนะเว้ย มีไข่มีดุ้นเหมือนมึง "
" กูรู้ กูถึงชอบมึงไง "
" มึงนี่นะชอบกู!! "
" เออ ชอบแบบที่ไม่คิดว่าจะชอบใครได้อีก "
" ... "
" คบกับกูเหอะ "
วาเลนไทน์เมื่อ 2 ปีก่อน
" เมื่อกี้โอพูดว่าอะไรนะ "
" เรา..เลิกกันเถอะ "
" โออย่ามาเล่นแบบนี้ว่ะ ไม่ขำ วันนี้วาเลนไทน์ ไม่ใช่ April Fool's Day "
" บอส กูขอโทษ "
" ทำไมอ่ะโอ เพราะเรื่องนั้นใช่มั้ย งั้นคืนนี้เดี๋ยวบอสไปหาที่บ้าน "
" ไม่ใช่ sex บอส แต่กูกับมีน.. "
" มึงทำแบบนี้กับกูได้ไงวะ 2 ปีที่ผ่านมามันไม่มีค่าอะไรเลยรึไง กูไม่ดีตรงไหนมึงถึงได้กลับไปคบแฟนเก่าที่เขาทิ้งมึง ตอบกูสิ ฮื่อๆ "
" บอส.. "
" ฮื่อๆ มึงก็รู้ว่ามึงแม่งเป็นแฟนคนแรกของกู มึงเป็นจูบแรกของกู แล้วที่กูเป็นเกย์ทุกวันนี้ก็เพราะมึง ”
“ คนอย่างกูไม่เคยคิดเป็นตัวแทนใคร ถ้ามึงไม่คิดจะรักกูตั้งแต่แรก แล้วมาหลอกให้กูรักทำเชี่ยอะไรวะ! "
วาเลนไทน์ที่เคยเป็นจุดเริ่มต้นของความรักที่แสนหวาน
เพียงระยะเวลาไม่นานมันกลับเป็นจุดจบของความรักที่ขื่นขม
และเหตุการณ์ในวันนั้น จึงทำให้ผมเกลียดวันแห่งความรักมาจนทุกวันนี้
เมื่อ 14 กุมภาพันธ์เวียนมาถึง ผมจะไม่ออกจากบ้านและจะนอนร้องไห้อยู่ในห้องเพียงลำพังทุกครั้งไป เพื่อไว้อาลัยให้กับอดีตที่โง่งม ผมสัญญากับตัวเองตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ว่าจะไม่ยอมให้เหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นในชีวิตผมซ้ำเป็นครั้งที่ 2 ! วาเลนไทน์ในปัจจุบัน
" บอส กูรักมึงจริงๆ รักแบบที่ไม่เคยคิดว่าจะรักใครได้อีก คบกับกูได้มั้ย "
คำพูดที่เกือบจะเป็นประโยคเดียวกับในอดีตทำให้ผมไม่อาจตอบรับความรู้สึกคนตรงหน้า จะเรียกว่าผมเข็ดกับรักครั้งเก่าก็ได้
ถึงหลังจากเลิกกับไอ้เชี่ยโอ ผมจะเคยคบกับรุ่นพี่คนนึงตอนอยู่ ม.5 พี่เขาอายุมากกว่าผมซึ่งกำลังเรียนหมออยู่ วันที่ตกลงเป็นแฟนคือตอนต้นเดือนกุมภา แต่สุดท้ายผมก็เป็นฝ่ายชิงบอกเลิกพี่เขาก่อนวันวาเลนไทน์ 1 วัน เพราะกลัวประวัติศาสตร์จะซ้ำรอย แม้ว่าเขาจะตามง้อผมอยู่หลายเดือนก็เหอะ แต่ผมเป็นพวกตัดสินใจอะไรแล้วจะไม่มีวันเปลี่ยนใจเด็ดขาด
“ คำพูดของคุณมันเชื่อได้ด้วยหรอ ”
“ มึงไม่ต้องเชื่อกูก็ได้ กูแค่อยากให้มึงรอดู ”
“ รอดูอะไร ดูวันที่คุณทิ้งผมไปงั้นสิ! ”
น้ำตาระลอกใหม่ไหลอาบสองแก้มเนียน คนตรงหน้าเลยปล่อยมือจากการเกาะกุมเพื่อหวังจะช่วยปาดน้ำตาให้ แต่ผมสะบัดหน้าหนี แล้วพูดจาตัดพ้อ
“ ผมไม่รู้หรอกนะว่าคุณมั่นใจแค่ไหนถึงได้พูดคำๆ นั้นออกมา ”
" คำว่ารักที่พูดออกมาง่ายๆ โดยไม่คิด ทำลายชีวิตคนมานักต่อนักแล้ว คุณปูน "
เจ้าหนี้สูดลมหายใจเข้าเต็มปอดก่อนจะปล่อยออกมาเหมือนเป็นการสงบอารมณ์ ก่อนที่จะพูดประโยคใหม่อย่างใจเย็น
" กูไม่รู้หรอกว่ามึงเคยเจออะไรมา แต่อย่าเอาอดีตมาตัดสินสินปัจจุบันแล้วบั่นทอนอนาคตได้ไหม "
" หึ! คุณจะไปเข้าใจอะไร คนไม่เคยถูกหักหลัง คนที่ไม่เคยนึกถึงใจคนอื่นแบบคุณ ไม่มีวันเข้าใจหรอกว่าผมรู้สึกยังไง "
" บอส เรื่องของเรากูคิดทบทวนอยู่นานมากนะ กว่ากูจะยอมรับเสียงหัวใจตัวเอง ว่ากูกำลังชอบผู้ชาย ผู้ชายที่ไม่มีอะไรนอกจากความบริสุทธิ์ในรอยยิ้มและความใสซื่อในดวงตา ผู้ชายที่ขึ้นชื่อว่าเป็นลูกหนี้ ผู้ชายที่กำลังจะทิ้งกูไป "
" ผู้ชาย...ที่ทำให้กูรู้จักกับรักแท้ "
รักแท้มันมีจริงที่ไหน ? ไร้สาระ
" คุณพูดจบแล้วใช่มั้ย? ถ้างั้นเราก็คงไม่มีเรื่องติดค้างอะไรกันอีก ผมขอตัวก่อน ขอบคุณสำหรับทุกอย่างที่ผ่านมา "
พูดเสร็จผมก็ลุกขึ้นยืนเต็มความสูงก่อนจะหันหลังเดินไปทางประตูเตรียมจะออกไปอีกครั้ง แต่เสียงของคนด้านหลังก็ดังขึ้น
น้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความเย็นชาและโกรธเกรี้ยว ราวกับปุณณัตต์คนเดิมที่ผมรู้จักกำลังจะกลับมา
" ที่ผ่านมากูคงจะใจดีกับมึงมากไป มึงถึงกล้าพูดคำว่าจะไปได้อย่างเลือดเย็น ทั้งๆ ที่กูบอกว่ารักมึง ได้! ในเมื่อพูดกันดีๆ ไม่เข้าใจ ไม่ยอมเชื่อฟัง ก็คงต้องทำให้มึงมาเป็นของกู มึงจะได้รู้ไงว่ากูได้มึงแล้วยังจะทิ้งมึงอยู่ไม๊? "
" คุณจะทำอะไร อย่า..ไม่ อ๊ะ "
คนตัวใหญ่ตรงเข้าประชิดตัวก่อนจะอุ้มผมขึ้นพาดบ่ามาเหวี่ยงลงบนโซฟา พื้นที่แค่นี้ผมแทบไม่มีทางรอดใดๆ เหลือเลย ยิ่งถูกคนข้างบนใช้ฝ่ามือหนาเพียงข้างเดียวรวบมือทั้งสองของผมไว้เหนือศีรษะ ยิ่งไม่เห็นหนทางหนี
ขาแกร่งขึ้นคร่อมสะโพกสอบไม่ให้ขยับ ใบหน้าร้อนซุกไซ้ทั้งดูดทั้งกัดไปทั่วลำคอขาว จนคิดว่าตอนนี้มันคงแดงเป็นจ้ำหลายจุด ครั้นจะร้องตะโกน ปีศาจตรงหน้าก็รีบเอาริมฝีปากสีเชอร์รี่มาประกบ ส่วนมืออีกข้างก็รั้งท้ายทอยบังคับไม่ให้หันหนี
รสจูบทั้งหนักหน่วง รุนแรง แต่ทว่าอ่อนโยนในคราวเดียว จนทำให้เสียงครางที่กั้นไว้หลุดออกมา
" อืมมมม..ปล่อย อื้อออ "
ร่างที่ทับอยู่จึงใช้โอกาสนี้แทรกลิ้นอุ่นเข้ามาควานหาความหวานต่อภายใน เรียวลิ้นร้อนเกี่ยวกระหวัดไปทั่วโพรงปาก ทั้งนุ่มนวลทั้งวาบหวาม จนผมเผลอจูบตอบ
" เฮือก "
ทันทีที่เจ้าหนี้ถอดจูบออกมามองใบหน้าที่ชุ่มเหงื่อ ผมรีบหายใจเข้าให้เต็มปอดหลังจากจูบดูดวิญญาณเมื่อครู่ ริมฝีปากเซ็กซี่ของอีกฝ่ายยกยิ้มอย่างผู้มีชัย ก่อนจะจูบเบาๆ ที่ขมับเป็นการปลอบโยน แล้วเริ่มบทรักบทใหม่ที่ร้อนแรงกว่าเดิม
" อืมมม อ๊ะ "
มือข้างที่ว่างเลื่อนลงไปเกาะกุมแก่นกายของผม ก่อนทาบทับริมฝีปากลงมาอีกครั้งไม่ให้ผมตั้งตัว ผมเคลิ้มกับจูบนั้นนานแค่ไหนไม่รู้ รู้อีกทีตัวของผมก็ล่อนจ้อนไม่ต่างจากผู้ชายด้านบน
อื้อหื้อ หุ่นคุณปูน
ภายใต้ร่มผ้าที่ผมไม่เคยเห็น แอบซ่อนมัดกล้ามและซิกแพ็กขนาดนี้เลยหรอ แล้วไอ้นั่นที่กำลังชี้หน้าผมอยู่ แน่ใจนะว่ามันคือ น้องชายคุณปูนน่ะ น้องบ้าอะไรตัวใหญ่ขนาดนั้นวะ
" พ..พอเถอะ ผมกลัว ซี้ดดดด "
คุณปูนเงยหน้าจากการขบเม้นหน้าท้องผมขึ้นมามองหน้ายิ้มๆ ก่อนจะเลื่อนตัวมาจูบผะแผ่วที่ปลายจมูก แล้วลากริมฝีปากไปตามร่องแก้มก่อนจะหยุดคลอเคลียที่ใบหู
" บอสคนเก่งปากดีเมื่อกี้หายไปไหน หื้ม? "
" ผ..ผม "
" เป็นของกูนะ คนดี ที่ผ่านมากูมีแค่มึงและจะเป็นอย่างนั้นตลอดไป "
" แต่ อะ...อ๊า คุ..คุณ..ปูน "
ไม่พูดเปล่าลิ้นร้อนเริ่มแหย่เข้ามาในใบหูผม พร้อมกับมือที่จับน้องชายผมไว้เริ่มขยับขึ้นลงเร็วขึ้น ทันทีที่มืออีกข้างปล่อยผมให้เป็นอิสระ ผมก็รีบเอามาจิกหลังเนียนทันที ใบหน้าคนข้างบนซุกไซ้ลงไปเรื่อยๆ จนมาหยุดหยอกล้อที่ยอดอก เพิ่มความเสียวกระเส่าเข้าไปอีก
" อื้อออ..ย...หยุด...จะ..ไม่ไหว..แล้ว "
เสียงพูดแทบไม่ได้ศัพท์ถูกเปล่งออกมาด้วยความยากลำบาก ร่างกายท่อนล่างเริ่มส่งอาการอยากจะเสียน้ำให้คนกระทำเต็มทน แต่ยังไม่ทันจะได้ถึงฝั่งฝัน อยู่ๆ มือข้างนั้นก็หยุด คุณปูนเงยหน้ามามองผมด้วยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์
" กูให้โอกาสมึงครั้งนี้ครั้งเดียว ถ้าบอกให้หยุดกูก็จะหยุดทุกอย่างและปล่อยมึงไป "
" แต่ถ้าไม่พูด มึงจะไม่มีโอกาสนี้อีกเลย "
ถึงใจจริงจะอยากตะโกนคำๆ นั้นเพียงใด แต่ปากกลับพูดไม่ได้อย่างใจนึก ผลจากความทรมานที่ถูกอีกฝ่ายกระทำให้ค้างคา ทำให้ประโยคต่อมาเป็นประโยคที่หน้าอายที่สุดในชีวิต
" คุณปูน ช่วย..ผม "
ร่างกายคนฟังยังนิ่งสนิท มีเพียงรอยยิ้มพึงพอใจฉายชัดบนใบหน้าหล่อเหลา
" เรียกพี่ปูนสิครับ "
" ไม่ อื้อออ " คนถือไพ่เหนือกว่าเอานิ้วมาหยอกล้อส่วนนั้นของผม ราวกับกับมันเป็นตัวประกันในการเดิมพันครั้งนี้
" รีบพูดสิครับ ไม่สงสารบอสน้อยหรอ อยู่อย่างนี้คงอึดอัดน่าดู "
ผมพยายามจะใช้มือไปช่วยตัวเอง เพราะมันเริ่มไม่ไหวจริงๆ แต่ก็ถูกเจ้าหนี้ขัดขวาง จนในที่สุดผมเลยต้องยอมพูดขอร้องอีกฝ่าย
" พ..พี่ปูนครับ ช่วยบอสด้วย "
" แค่นั้นแหละ คนดีของพี่ "
มือที่หยอกล้อส่วนนั้นเมื่อกี้ ขยับแก่นกายผมขึ้นลงเร็วขึ้นกว่าที่แรก จนในที่สุด น้ำสีขาวขุ่นก็ถูกพ่นออกมาเลอะขาทั้งสองข้างพร้อมกับเสียงคราง
“ อ๊าาาาาาาาาาส์ ”
คุณปูนเอื้อมมือไปหยิบทิชชูที่วางไว้บนโต๊ะใกล้ๆ มาเช็ดน้ำรักของผมให้ ก่อนจะช้อนร่างที่หมดแรงในท่าเจ้าสาวแล้วไปวางที่เตียงอย่างเบามือ
“ ต่อเลยนะ ”
“ หื้อ? ผมยังไม่..อุบ ” ผมยังไม่พร้อม ต้องมาต่อประโยคในใจ เมื่อริมฝีปากถูกครอบครองอีกครั้ง ครั้งนี้จุมพิตนั้นไม่หลงเหลือความร้อนแรงแล้ว มีเพียงความอ่อนละมุนที่ค่อยๆ ลิ้มชิมรสหวานอย่างใจเย็น จนผมได้แต่หลับตาพริ้ม ปล่อยให้ทุกอย่างดำเนินต่อไป
มือทั้งสองข้างของคุณปูนแปะป่ายไปทั่วร่างผมอย่างซุกซน ริมฝีปากร้อนนั่นก็เช่นกัน
“ อื้อ ” ผมสะดุ้งเฮือกเมื่อรู้สึกเย็นที่ช่องทางด้านหลัง ลืมตาขึ้นมามองอีกครั้งก็เห็นคนตัวใหญ่จัดการแยกขาผมออก ก่อนจะบีบเจลหล่อลื่นใส่นิ้วแล้วเตรียมจะป้ายลงไปที่เดิม
“ ด..เดี๋ยว ”
“ ถ้าคิดจะห้ามตอนนี้ บอกเลยว่ามันสายเกินไปแล้ว ”
“ อึก จ..เจ็บ ” เสียวด้วยแต่เรื่องอะไรจะพูด ร่างกายผมเขยื้อนถดหนีอัตโนมัติ แต่มีหรือที่คนเอาแต่ใจแบบนั้นจะยอมอยู่เฉย นิ้วเรียวเริ่มขยับเข้ามามากขึ้นจนน้ำตาเริ่มไหล
“ ฮื่อ คุณ..ปูน อ๊ะ..อ๊ะ...อ๊ากกกกก ”
เจ้าหนี้แทรกนิ้วเข้ามาจนสุดแล้วดึงออกในคราวเดียวทำให้ผมแหกปากร้องลั่น
“ ถ้าไม่อยากเจ็บก็เรียกพี่สิครับ ” ไอ้คนซาดิสพูดพลางทำหน้ามุ่ยแต่แค่แปปเดียวเท่านั้นแหละ ก่อนแววตาปีศาจจะกลับมาอีกครั้ง “ หรือว่าชอบแบบนี้ พี่ก็ทำได้นะ ”
สลัดคร้าบ ผมเป็นคน ไม่ใช่ตุ๊กตายาง ที่จะทำรุนแรงแค่ไหนแล้วไม่รู้สึกอ่ะ
“ พี่ปูน ”
เจ้าของชื่อประกบจูบผมรวดเร็วก่อนจะค่อยๆ แทรกนิ้วนั้นเข้ามาอีกครั้ง ถึงจะเชื่องช้าและแผ่วเบา แต่สำหรับคนที่ไม่เคยถูกใครสัมผัสมันก็คับแน่นจนเจ็บอยู่ดี
นี่แค่นิ้วนะ ไม่อยากจะคิดตอนที่ไอ้มังกรนั้นเข้าถ้ำเลยจริงๆ
ช่องทางที่ไม่เคยมีใครล่วงล้ำ บัดนี้กำลังถูกผู้บุกรุกรุกรานหนักขึ้นจนไม่อาจขัดขืน ครั้งใดที่นิ้วเรียวเคลื่อนผ่านจุดกระสัน ผมเป็นอันต้องร้องครางอย่างช่วยไม่ได้ น้องชายผมเองก็เริ่มตื่นตัวไม่ต่างจากไอ้นั่นของอีกฝ่ายที่แข็งจนดุนเรียวขาขาว
“ บอสครับ ”
“ อ๊ะ..อ๊ะ..ฮื้ม? ”
“ พี่รักบอสนะ ”
พรวด!!
“ เอือก ”
ไอ้เชี่ยปูน ขออภัยในความหยาบคาย แต่มันสมควรได้รับครับ ก็แม่งเล่นทีเผลอดันส่วนนั้นเข้ามา ถึงจะเข้าได้แค่หัว แต่ก็เจ็บจนจุกพูดไม่ออกร้องครางไม่ได้อยู่พักใหญ่
“ อย่าเกร็งสิ ”
มึงก็พูดได้หนิ ลองให้กูยัดใส่มึงบ้างมั้ยล่ะ? คนพูดขำเล็กๆ เหมือนได้ยินเสียงในความคิดในหัวผม ก่อนโน้มหน้าลงมาจูบที่หางตาเพื่อซับน้ำใสๆ ที่กำลังไหล
“ ช้าๆ นะ ” ช้าพ่อง! มึงพูดเสร็จมึงก็ยัดไอ้นั่นเข้ามาอีกไม่ให้โอกาสกูร้องขอเลย
“ เจ็บบบบ ฮื่อ ” พูดตอนนี้ก็คงไม่ทัน ในเมื่อคนด้านบนเริ่มขยับช้าๆ อีกครั้ง ช้าจริงๆ ช้ามาก ขยับทีเดียวเข้ามาทั้งดุ้นเลยสัด! “ โอ้ยย ย ย ยยย ย ย ”
ตอนนี้ไอ้คุณปูนอยู่ในท่านั่งจับขาผมขึ้นพาดบ่า ส่วนนั้นก็ยังคาอยู่ที่เดิมไม่ยอมขยับไปไหน จนผมเริ่มหงุดหงิด
“ จะทำอะไรก็ทำ อย่าลีลา ”
“ ใจร้อนสมเป็นวัยรุ่นจริงๆ ทำน่ะทำแน่ แต่พี่มีข้อแม้ ”
เรื่องมากอะไรนักหนาว่ะ เอาๆ ไปสิจะได้จบๆ กูเจ็บ “ จะเอาไรอีก! ”
“ มีน้องก็ดุ ไม่คิดว่ามีเมียยังจะดุด้วยอีกคน ” พูดพลางอมยิ้ม แต่คนฟังนี่สิหน้าร้อนผ่าวเลย ไม่คิดว่าสถานะตัวเองจะถูกเปลี่ยนเร็วขนาดนี้ จากลูกหนี้กลายเป็นเลขาคนสนิท จากเลขาคนสนิทกลายเป็นอดีตลูกหนี้ จนตอนนี้เลื่อนขั้นมาเป็นเมียเจ้าหนี้ตัวเองเรียบร้อยแล้ว
“ มองหน้าพี่ตอนทำแล้วเรียกชื่อพี่นะ ร้องออกมาดังๆ ก็ได้ พี่ชอบเสียงบอส ”
ถึงไม่อยากจะทำตามข้อแม้ที่ยาวเป็นหางว่าวนั่น แต่หัวใจกลับปฏิเสธไม่ได้ว่ารู้สึกยังไงกับเขา
สุดท้ายผมเลยต้องยอม ยอมแพ้คนตรงหน้า ยอมแพ้ให้กับความอ่อนแอของตัวผมเอง
“ พี่ปูน ทำเถอะครับ ”
------------------------------------
TBC ซอรี่จิงๆ ที่มาช้า คือ ฉากนี้มันเป็นซีนอารมณ์ผสม NC ที่ยากสำหรับเรามากๆ (ยากทุกฉากเลยได้ข่าว - -)
ก็เราไม่รุ้นี่น่าว่า ผช เค้าทำอะไรกันยังไง ฮ่าๆ
ทุกข้อความ ทุกการกระทำ ทุกความรุ้สึก ล้วนเป็นความมโนของเราทั้งสิ้น
ติชมได้กันเต็มที่เลย เราน้อมรับฟังทุกความคิดเห็น
ยังไงก็ฝากฉากนี้ไว้ด้วยนะคะ เรายังใหม่กับเรื่องนี้จริงๆ