วันที่ 10
“กูไปเรียนก่อนนะ อย่าลืมกินยาละ วันนี้มีเรียนถึงแค่ 10 โมงเดี๋ยวกูรีบกลับ”ไอ้เชษฐ์เข้ามาสั่งเสียผมตั้งแต่เช้า จริงๆ วันนี้ผมก็ดีขึ้นมากแล้ว แต่ยังขี้เกียจอยู่เลยขอขาดเรียนอีกสักวันแล้วกัน
“ไปไหนก็ไปเหอะกูไม่ได้เป็นไรมากแล้ว”ผมบอกไปอย่างไม่ได้ใส่ใจมันนัก แต่ในใจก็นึกขอบคุณมันนะที่ดูแลผมอย่างดี ดีมากเลยละ ในฐานะแค่เพื่อนคนนึง หลายวันที่ได้มาใช้ชีวิตอยู่กับมันมานี่มันทำให้ผมมองไอ้เชษฐ์เปลี่ยนไปเยอะ ได้เห็นมันในอีกหลายๆ มุมที่คิดว่ามันไม่น่าจะเป็น
หลังจากไอ้เชษฐ์ออกไปได้สักพัก ผมก็ล้างหน้าล้างตา ลุกออกจากห้องนอนเสียหน่อย นอนมาเยอะแล้วยืดเส้นยืดสายหน่อยดีกว่า พลันได้ยินเสียงออดดังอยู่หน้าห้อง ใครหว่ามาแต่เช้า หรือไอ้เชษฐ์ลืมอะไรไว้ แต่ถ้าไอ้เชษฐ์ทำไมไม่เปิดเข้ามาละ คีย์การ์ดมันก็มี แล้วถ้าไม่ใช่เชษฐ์ ใครมันจะมาหาผม พวกเพื่อนๆ ก็ไม่น่าจะใช่ แล้วนี่ผมจะมัวคิดทำไมก็เปิดดูก็สิ้นเรื่อง
“มาบ”บุคคลที่ยืนอยู่ตรงหน้าผมทำเอาผมแปลกใจมากเลยทีเดียว เค้าไม่ใช่ใครที่ไหนหรอกครับ เค้าคือคนที่ทำให้ผมต้องไปดื่มเบียร์กับเพื่อนๆ และต้องมาเล่นเกมที่ไอ้การ์ดตั้งขึ้นมา ใช่แล้วละครับเค้าคือคนที่บอกเลิกผมไปเมื่อหลายวันก่อน
“มีธุระอะไรหรือเปล่า”ผมยังมองไม่เห็นความจำเป็นที่เค้าจะมาเจอผมเลย เพราะเค้าเป็นคนบอกเลิกผมเอง ถ้าถามว่าผมรู้สึกยังไงที่โดนบอกเลิก ผมก็เคยบอกไปแล้วว่ามันชินเสียแล้ว ส่วนเรื่องการมาเจอกันอีกแบบนี้ผมก็ไม่ได้ซีเรียสอะไรหรอกครับ แต่แค่แปลกใจว่าเค้าเป็นคนอยากจะตัดขาดจากผม แล้วเค้าไม่น่าจะเป็นคนมาหาผมแบบนี้
“ได้ข่าวว่าไม่สบาย เลยแวะมาเยี่ยม แล้วนี่เป็นไงบ้าง”เค้าพูดจาถามไถ่เหมือนกับว่าเราสองคนยังดีต่อกันอยู่ มันก็ใช่ที่เราไม่ได้โกรธเกลียดกัน แต่มันก็แปลกๆ ที่จะมาห่วงใยกันเหมือนเดิม เหมือนว่าระหว่างเรามันไม่ได้มีอะไรเปลี่ยนไปอย่างนี้
“ก็ดีขึ้นเยอะแล้วแหละ”ผมตอบอย่างเสียไม่ได้ เพราะยังไม่รู้ว่าตัวผมเองรู้สึกยังไงที่ได้เจอกับเค้าอีกแบบนี้
“แล้วจะให้ยืนคุยตรงนี้เหรอ”เมื่อผมทำตัวเป็นเจ้าของบ้านที่ไม่ได้เรื่อง เลยโดนแขกผู้มาเยือนเตือนสติครับ
“เอ่อ...โทษที เข้ามาข้างในก่อนก็ได้”เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายคงไม่ได้แค่มาทักทายแล้วจะกลับ ผมก็เลยต้องต้อนรับขับสู้แหละครับ อย่างน้อยระหว่างผมกับเค้าก็เคยมีช่วงเวลาดีๆ ด้วยกันมา
“แล้วนี่รู้ได้ไงว่าเราไม่สบาย”ผมวางแก้วน้ำที่หามาให้ผู้มาเยือน ลงตรงหน้าเค้าก่อนจะนั่งลงที่โซฟาข้างๆ นั้น
“ก็พอดีเมื่อวานไปหาตี๊ฟที่คณะแล้ว เค้าบอกว่าไม่สบาย กะว่าจะมาเยี่ยมตั้งแต่เมื่อวานแล้วแต่ ไม่รู้ว่าตี๊ฟย้ายห้อง กว่าจะสืบมาได้ว่าอยู่ที่นี่ก็เล่นเอาเหนื่อยเหมือนกันนะ”ชายหนุ่มตรงหน้าผมพูดทีเล่นทีจริง เค้ายิ้มให้ผมอย่างจริงใจ รอยยิ้มที่ผมเคยเป็นเจ้าของแต่เพียงผู้เดียว แต่ตอนนี้คนๆนี้ไม่ได้เป็นของผมแล้ว จะว่าไปเค้าก็ไม่ได้บอกผมว่าทำไมถึงอยากจะเลิกกับผม และผมเองก็ไม่ได้ถามเพราะผมคิดว่าในเมื่อเค้าอยากจะเลิกไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไรก็ตาม ผมก็ต้องยอมรับอยู่แล้วเลยไม่ได้ซักไซ้เค้า
“พอดีย้ายมาอยู่กับเพื่อนนะ”ผมบอกออกไปตามความจริง แต่ไม่ได้ทั้งหมดว่าที่ต้องมาอยู่กับเพื่อนนี่เป็นการพนันกันอยู่
“คนที่เป็นที่ซุบซิบคู่กับตี๊ฟ ไปจนทั่วมหาวิทยาลัยนั่นใช่ไหม”นั่นสินะ ผมก็ลืมไปเลยว่าเรื่องผมกับไอ้เชษฐ์มันเป็นที่กล่าวขานกันไปแล้ว มาบเองก็คงได้ยินข่าวลือเรื่องผมกับไอ้เชษฐ์มาอย่างผิดๆ นั่นด้วย
“คนเค้าก็พูดไปทั่วแหละ เรากับไอ้เชษฐ์ก็เป็นเพื่อนกันมาตั้งนานแล้ว ไม่มีอะไรหรอก”ผมกล่าวปฏิเสธอย่างรู้สึกแปลกๆ ว่าทำไมผมต้องมาอธิบายให้เค้าฟังด้วย
“ไม่มีอะไรแล้วทำไมต้องหน้าแดงด้วย”อะไรผมนี่อ่ะนะหน้าแดง หมายความว่าไง
“สงสัยจะยังไม่หายไข้นะ”ผมรีบเอามือจับหน้าตัวเองดูก็รู้สึก อุ่นๆ อยู่เหมือนกัน เป็นอันว่าหน้าผมคงแดงจริงๆ แต่ตามอาการที่ไม่สบาย ไม่ได้เกิดอาการเขิน อย่างที่มาบกำลังเข้าใจแน่ๆ ว่าแต่มาบบอกแล้วเหรอว่าเค้าคิดว่าผมเขิน ยังไม่ได้บอกนี่นา แต่ก็นั่นแหละไอ้สายตานั่นบ่งบอกว่าเค้ากำลังแซวผมอยู่
“อืม...จริงๆ ด้วยตัวยังรุมๆ อยู่เลย”มาบเอื้อมือมาสัมผัสที่หน้าผากผม ก่อนจะลูบไล้มาที่แก้ม สายตาจับจ้องที่ใบหน้าของผม
“ตี๊ฟ...กู...”เสียงหนึ่งตะโกนเรียกผม พร้อมกับประตูห้องที่เปิดออก เสียงตะโกนหยุดชะงักไม่พูดต่อ พร้อมกับสายตาของผมกับมาบที่หันไปมองประตูที่เปิดเข้ามา สายตาผมก็เห็นไอ้เชษฐ์ ที่ถือถุงอะไรบางอย่าง น่าจะเป็นโจ๊ก ไอ้เชษฐ์จ้องมองมาที่ผมกับมาบ ด้วยสายตาที่ไม่ค่อยจะพอใจเท่าใดนัก ผมไม่รู้หรอกว่ามันไม่พอใจอะไร แต่เห็นมันจ้องนานผิดสังเกตจะพูดอะไรก็ไม่พูด ผมเลยค่อยๆ จับมือของมาบที่วางอยู่บนหน้าออก ก่อนจะเอ่ยถามไอ้เชษฐ์
“ทำไมย้อนกลับมาอีก...ไม่ไปเรียนเหรอ”มันเพิ่งจะออกไปไม่กี่นาที แต่ย้อนกลับมาอีก ทั้งที่ควรจะไปเรียนได้แล้ว
“กูไม่น่าย้อนกลับมาใช่ไหม”ไอ้เชษฐ์ตอบกลับผมมาด้วยน้ำเสียงขุ่นๆ อะไรของมันเนี่ย
“กูถามดีๆ”ผมถามย้ำเพราะเห็นว่ามีเรียนแค่แป๊บเดียวแล้วนี่มันก็ออกไปแล้วจะเกิดเปลี่ยนใจไม่ไปเรียนหรือไงกัน
“พอดีอาจารย์เค้ายกเลิกไม่สอน ไอ้การ์ดเพิ่งโทรมาบอก กูเลยแวะซื้อโจ๊กมาให้มึง แต่มึงคงไม่อยากทานแล้วมั้ง”อะไรของมันอีกละเนี่ย ทำไมมันทำเหมือนจะเขม่นๆ มาบแบบนี้
“เดี๋ยววันนี้เรากลับก่อนแล้วกัน ตี๊ฟจะได้พักผ่อน”มาบลุกขึ้นก่อนจะบอกลาผม เหมือนมาบมีอะไรจะพูดกับผม แต่ก็ไม่ยอมพูด ก็แล้วแต่เค้าละกันถ้าอยากพูดจริงเค้าคงพูดออกมาแล้ว
“ก็รู้ว่าคนเค้าป่วยยังจะมารบกวนอีก”ไอ้เชษฐ์พูดขึ้นลอยๆ แต่จงใจให้ผมกับมาบไอ้ยิน ผมได้แต่มองไอ้เชษฐ์อย่างตำหนิด้วยสายตา ก่อนจะหันมายิ้มแห้งๆให้กับมาบ ซึ่งก็ดูเหมือนจะไม่ได้ถือสาในคำพูดของไอ้เชษฐ์
“ยังไงก็หายเร็วๆ นะ ไว้เจอกัน”มาบบอกก่อนจะขอตัวกลับไป
“เจ็บแล้วไม่รู้จักจำใช่ไหม”หลังจากที่มาบกลับออกไป ไอ้เชษฐ์ก็พูดขึ้นมาลอยๆ อีกแล้ว แต่ครั้งนี้ผมคิดว่ามันคงจะคุยกับผมนั่นแหละ
“อะไร”แม้พอจะเข้าใจในความหมาย แต่ความจริงถามว่าผมเสียใจไหม เจ็บไหม ตอนที่โดนบอกเลิก ผมก็ตอบไม่ได้เหมือนกัน
“ก็ไอ้มาบตาพุดนั่นไง ทั้งที่มันเป็นคนทิ้งมึง แต่มึงก็ยังยอมพูดดีกับมันอยู่อีก หรือยังรออยากให้มันมาง้อขอคืนดี”ผมพอจะเข้าใจเจตนาของไอ้เชษฐ์แล้วละครับ ถ้าให้คิดในทางที่ดีก็คือว่ามันกลัวว่ามาบจะมาทำให้ผมเจ็บช้ำน้ำใจอีก มันในฐานะเพื่อนผมเลยมีอาการเขม่นมาบอย่างที่เห็น
“เค้าชื่อมาบเฉยๆ ไม่ใช่มาบตาพุดอะไรของมึงสักหน่อย”ผมย้อนมันอย่างอารมณ์ดี นี่ถ้าผมกับมันไม่ได้อยู่ในฐานะเพื่อนผมคงเข้าใจว่ามันกำลังหึงผมอยู่นะเนี่ย หรือผมอยากให้มันหึงจริงๆ กันนะ เฮ้ยไม่ใช่ล่ะ ผมจะไปอยากให้มันหึงผมทำไมกัน
“เหมือนกันละน่า ก็กูอยากเรียกมาบตาพุด ใครจะทำไม ว่าแต่มึงนั่นแหละ คงอยากกลับไปคืนดีกับมันจนเนื้อเต้นสิท่า”แล้วทำไมมันต้องมาพูดประชดประชันผมแบบนี้ด้วย
“แล้วมึงทำไมต้องมาขึ้นเสียงใส่กูด้วย”เมื่อเห็นว่ามันทำตัวไม่ค่อยจะมีเหตุผลสักเท่าไหร่ผมเลยต้องเสียงแข็งใส่มันบ้าง
“ก็กูไม่อยากให้มึงกลับไปหลงคารมคนที่เคยทิ้งมึงไป”ไอ้เชษฐ์ตอบกลับมาด้วยน้ำเสียงหม่นๆ นี่มันห่วงผมขนาดนั้นเลยเหรอ
“แล้วใครบอกมึงว่ากูกับมาบจะกลับไปคบกัน”ผมพยายามจะอธิบายให้มันเข้าใจ เพราะอะไรไม่รู้แต่ผมก็ไม่อยากให้มันเข้าใจผิดไป
“มึงไม่ได้จะกลับไปคบกับไอ้มาบตาพุดนั่นจริงๆนะ”ไอ้เชษฐ์ยิ้มกว้างจนผมแปลกใจว่าทำไมมันปรับอารมณ์เร็วจังเมื่อสักครู่ยังดูหงุดหงิดอยู่เลย แต่ทีนี้ดูร่าเริงเกินไปไหม
“ก็เค้าไม่ได้มาขอคืนดีกับกู แล้วจะให้กลับไปคบกันได้ไง”ใช่แล้วละครับมาบไม่ได้มาขอคืนดีกับผม แล้วผมจะไปคืนดีด้วยได้ไง
“แล้วถ้ามันมาขอให้มึงกลับไปคบกันเหมือนเดิมล่ะ”เอาอีกแล้ว รู้สึกไอ้เชษฐ์นี่ปรับโหมดเร็วเหลือเกินคราวนี้มาเหมือนจะซีเรียสเลย
“ไม่รู้สิ”นั่นสินะ ถ้าเกิดเค้ามาขอให้เรื่องระหว่างผมกับเค้าเป็นเหมือนเดิม ผมจะตอบว่ายังไง
แวะมาต่อคร๊าบบบ
วันนี้มีอีกหนึ่งตัวละครเพิ่มเข้ามา 