ขอเอาตอนพิเศษคั่นก่อนนะคะ อย่าเพิ่งโกรธกันนะ เพราะตอนแต่งเราก็ตั้งใจเรียงลำดับเอาไว้แล้ว ไม่ได้ตั้งใจให้คนอ่านค้างเลยนะคะ สำหรับตอนนี้ถ้ามีอะไรผิดพลาด หรือคำผิดใดๆ ก็ขออภัย ณ ทีนี้ด้วยนะคะ 
# อย่าบอกใคร...ว่า...ฉันรักเธอ?#
ตอนพิเศษที่ 3
กวิน เศวตเจริญ
ความรู้สึกของตนเอง...
กวินมาโรงเรียนทุกวัน โดยที่สายตายังคงไล่มองเอยคนนั้นอยู่ตลอด หลายวันมานี้เอาแต่ถามตนเองว่ารู้สึกอย่างไรกันแน่ ทำไมถึงต้องมองตาม ทำไมถึงต้องอยากไปปรากฏตัวในสายตาของเอยคนนั้น แต่จนแล้วจนรอดก็ยังไม่เข้าใจตนเองนัก
ช่วงนี้ที่โรงเรียนจะจัดกิจกรรมอีกแล้ว เป็นงานวัฒนธรรมอะไรสักอย่าง ให้นักเรียนออกร้านขายของ เพื่อหารายได้เข้าห้อง ซึ่งที่ห้องก็ตกลงจะขายชา กาแฟ ขนมนมเนยอะไรพวกนั้น ตอนนี้มีการจัดร้านตกแต่งกันเพื่อให้ได้เรียกลูกค้า
และพอวันงานมาถึง เรื่องที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น เมื่อเพื่อนๆในห้องต้องการให้ตนเองและไทป์ไปนั่งเรียกแขก ซึ่งสำหรับกวินเป็นตรรกะที่ไร้เหตุผลมาก จะเอาผู้ชายมาเรียกลูกค้าผู้หญิงได้อย่างไร แต่แล้วก็คิดผิด ตอนนี้ทั้งร้านแน่นขนัดไปด้วยนักเรียนผู้หญิงต่างโรงเรียนที่เข้ามาเที่ยวในงาน โดยที่ตัวเรียกแขกเป็นตนและไทป์ที่นั่งหน้าหงิกหน้างออยู่ข้างๆอย่างเห็นได้ชัด
ผ่านไปได้สักพักดูเหมือนไทป์จะเริ่มไม่อยากนั่งแล้ว รายนั้นจึงรีบลุกไปยังข้างหลังร้าน ที่ตอนนี้กำลังวุ่นวายได้ที่ และได้ยินเสียงคนในห้องตะโกนสั่งงานกันวุ่น และแว่วได้ยินเสียงสั่งงานเอยคนนั้นด้วย ไม่นานนักไทป์ก็กลับมานั่งยังที่เดิม
ฉับพลันสายตาหันไปเห็นเอยคนนั้นถือถังน้ำเดินไปยังห้องน้ำ ไม่รอช้า กวินรีบลุกขึ้นไปทันที สิ่งเดียวที่รู้ตอนนี้คืออยากจะเดินไปหาเอยคนนั้น
“จะไปไหนกวิน?” ผู้หญิงในห้องถามขึ้น
“ไปห้องน้ำ” กวินบอกอย่างนั้น ก่อนที่จะเดินออกไปยังห้องน้ำ
เดินอย่างทิ้งระยะห่างออกมา เห็นริมฝีปากนั้นขมุบขมิบราวกับกำลังบ่นอะไรสักอย่าง เอยคนนั้นเริ่มล้างแก้ว โดยที่กวินยังคงแอบมองอยู่เช่นนั้น แล้วค่อยๆพาตนเองอ้อมไปหลบหลังต้นไม้ จนเอยคนนั้นล้างแก้วเสร็จแล้ว หิ้วทางเดินกลับไปยังร้านที่ขายของ กวินจึงเดินตามไปห่างๆ รู้สึกว่าตนเองแปลกเข้าไปทุกที ที่มาเดินสะกดรอยตามคนอื่นอยู่เช่นนี้
แต่ดูเหมือนเอยคนนั้นจะรีบเดินเอามากๆ ก้าวขายาวๆอีกทั้งเร็วๆ และทันใดนั้นร่างเล็กนั้นทำท่าจะหน้าคะมำลงไป ไม่รอช้ากวินรีบวิ่งเข้าไปคว้าเอยจากด้านหลังไม่ให้เอยคนนั้นล้มลงไป อีกทั้งมือหนึ่งคว้าหูหิ้วของถังนั้นไว้อย่างฉิวเฉียดทันเวลา
เอยคนนั้นหันกลับมา รู้สึกว่าทุกอย่างรอบข้างหยุดนิ่ง ตากลมนั้นสบมองดวงตาของกวิน ทั้งสองสบตากันเพียงครู่ กวินรู้สึกว่าหัวใจเต้นผิดจังหวะอีกแล้ว
“ขะ...ขอบคุณ” เสียงนั้นพึมพำบอก
ไม่ได้พูดอะไรออกไป เพราะยังคงตกใจในความรู้สึกของตนเองอยู่ รู้สึกว่าครั้งนี้ใจเต้นเหวี่ยงมากกว่าครั้งนั้นมาก แต่กวินยังคงท่าทีเอาไว้ ก่อนที่จะเดินหิ้วถังนั้นกลับไป เดินไปถึงร้าน ก็เห็นเพื่อนผู้หญิงในห้องโบกไม้โบกมือเรียก
“กวิน...หายไปไหนมา ลูกค้าตามหากันอยู่” น่าเบื่อหน่ายเมื่อได้ยินประโยคแบบนั้น
“มายกทำไมแก้วน้ำนี่ ให้เอยยกไปสิ” เธอคนเดิมพูดอีก พูดไม่พอยังดึงถังออกจากมือแล้ววางลงบนพื้น รู้สึกว่าอดทนไม่ไหวแล้วจึงพูดออกไป
“ฉันจะไปทำงานหลังร้าน” พูดจบก็ยกถังใบนั้นขึ้นมา แล้วเดินไปยังหลังร้านทันที แม้เธอคนนั้นจะพยายามห้ามแต่ก็ไม่ฟัง จะให้กลับไปนั่งเป็นตุ๊กตาเหมือนที่ผ่านมาคงจะไม่ไหว
กวินทำงานหลังร้านไป โดยที่เอยคนนั้นก็เดินกลับมาทำงานต่อ ชงกาแฟชงชาตามที่เพื่อนๆสั่งมา กวินลอบมองเป็นระยะๆ รู้สึกว่าเอยคนนั้นทำงานหนักกว่าใครๆ โดยที่ไม่ปริปากบ่นเลยสักคำ
พอถึงเวลาบ่าย ก็ถึงเวลาที่จะชมการแสดงที่จัดขึ้นที่เวทีกลาง และแน่นอนว่าทุกคนก็ต่างพากันไปดู โดยที่ไม่ได้เก็บข้าวของในร้านเลยทีเดียว ตอนนี้มองไปทางไหนก็มีแต่ข้าวของเกลื่อนไปหมด
แต่สายตาก็หันไปเห็น เอยคนนั้นก้มๆเงยๆเก็บของอยู่คนเดียว ไม่รู้เพราะอะไร กลับรู้สึกว่าอยากเข้าไปช่วย ทั้งๆที่ผ่านมากวินไม่ชอบที่จะยื่นจมูกไปยุ่งเรื่องของใครแท้ๆ แต่ตอนนี้กลับไม่ใช่
จึงเดินไปหิ้วถังน้ำมาเก็บแก้วที่วางอยู่เต็มโต๊ะ ใส่ถังเพื่อจะนำไปล้าง เก็บไปเก็บมาโดยที่จะพอรู้สึกตัวว่ามีสายตาของเอยคนนั้นจับจ้องมองมา ดูเหมือนกำลังอมยิ้มน้อยๆ คงจะดีใจที่มีคนช่วย
จนในที่สุดข้าวของทั้งหมดก็ถูกเก็บจนหมดสิ้น ตอนนี้ก็เหลือเพียงแต่นำแก้วไปล้างเท่านั้น เอยคนนั้นค่อยๆเดินเข้ามาอย่างเก้ๆกังๆ ก่อนที่จะพูดเบาๆขึ้นมา
“ดะ...เดี๋ยวเราไปล้างเอง” พูดออกมาแบบนั้น แต่เพราะหากให้หิ้วถังนี้อีก กลัวจะล้มแบบอีหรอบเดิม จึงตัดสินใจไม่พูดอะไรออกไป กลับหิ้วถังใบนั้นเดินไปยังก๊อกน้ำหน้าห้องน้ำแทน
เอยคนนั้นเดินตามมาจนถึงหน้าก๊อก สุดท้ายก็ลงเอยด้วยการช่วยกันล้าง แก้วมีเยอะพอสมควร กวินจึงลงมือล้างอย่างรีบๆ แต่จู่ๆก็ก็รู้สึกแปลบๆแสบที่ปลายนิ้ว...โดนปากแก้วที่บิ่นบาดเข้าเสียแล้ว
“โอ๊ย!!!” ร้องออกมาเพราะรู้สึกเจ็บแสบไม่น้อย
“เลือดออกนี่” เอยคนนั้นร้องออกมา ก่อนที่จะดึงมือของตนไปดู และรีบล้างเลือดทันที แม้น้ำจะเย็น แต่ก็ยังรู้สึกถึงความอุ่นจากมือนั้น
“เจ็บไหม?” ถามโดยที่ยังจ้องมองแผล รู้สึกได้ถึงความเป็นห่วงที่ส่งผ่านมา กวินเผลอจ้องมองใบหน้านั้น
“ไปห้องพยาบาลเถอะ” พูดออกมาเช่นนั้น แต่ส่ายหน้าปฏิเสธไป คิดว่าแผลแค่นี้เดี๋ยวคงหาย
“เลือดหยุดแล้ว” ตอนนี้เลือดดูเหมือนจะหยุดซึมแล้ว
“แต่ต้องปิดแผลนะ เดี๋ยวจะติดเชื้อ” เอยคนนั้นดูเหมือนจะไม่ยอม
พูดจบก็รีบวิ่งหายไป สักพักก็วิ่งกลับมา ในมือถือพลาสเตอร์มาด้วย คงจะไปหยิบมาจากห้องพยาบาลแน่ๆ พอมาถึงก็แกะพลาสเตอร์มาปิดแผลของกวินทันที ค่อยๆแปะมันลงอย่างเบามือ สายตาจดจ้องอย่างตั้งใจราวกับทำการณ์ใหญ่ รู้สึกอยากยิ้มออกมา และในที่สุดก็ห้ามไม่ได้ กวินยิ้มบางๆออกมา จดจ้องเอยคนนั้น รู้สึกอบอุ่นอย่างไม่บอกถูก รู้สึกถูกดูแลเอาใจใส่แม้แต่เรื่องเล็กน้อย...รู้สึก..ชอบ
“ชอบเหรอ....ไม่ใช่หรอก” กวินพูดในใจ ก่อนที่จะหิ้วถังนั้นกลับไปเก็บที่ห้อง
กวินกลับมาบ้าน ยังคงรู้สึกถึงสัมผัสที่ปลายนิ้วที่เอยคนนั้นสัมผัสอยู่ ยังจำท่าทางเหล่านั้นที่ตอนที่ปิดแผล เริ่มแน่ใจแล้วว่าความรู้สึกตอนนี้ไม่ธรรมดาแล้ว มั่นใจแน่แล้วว่าไม่ปกติเวลาที่อยู่ใกล้ๆเอยคนนั้น...คำตอบที่เฝ้าถามตนเองตอนนี้ใกล้จะกระจ่างแล้ว
...
..
.
สองสามวันที่ผ่านมานี้ เอาแต่เฝ้ามองอีกแล้ว พอรู้สึกตัวทุกครั้งสายตาก็จับจ้องมองไปยังเอยคนนั้นทุกทีไป ห้ามสายตา ห้ามความคิดตนเองไม่ได้แล้ว คงต้องปล่อยเลยตามเลย ทำตามความรู้สึกที่ต้องการอย่างไม่คิดจะห้ามต่อไป
พักเที่ยงทานข้าวเสร็จ ก็ตรงไปยังห้องสมุด เพื่อหาข้อมูลทำรายงานตามที่อาจารย์สั่ง ห้องสมุดที่เงียบก็จริงแต่มีนักเรียนทุกชั้นมากมายไปหมด สายตาดันเหลือบไปเห็นไทป์และเอยคนนั้นกำลังเดินอยู่ในห้องสมุด น่าจะมองหาหนังสือมาทำรายงานเหมือนกัน
กวินไล่สายตามองไป เห็นไทป์แยกออกไปแล้ว เหลือแต่เอยคนนั้นที่กำลังหาหนังสือ แต่ดูเหมือนหนังสือที่ต้องการอยู่สูงเกินกว่าจะหยิบถึง
กว่าจะรู้ตัวอีกทีกวินก็เดินไปยืนคร่อมหลังเอยคนนั้น และหยิบหนังสือเล่มนั้นยื่นให้เสียแล้ว เป็นอีกครั้งที่การกระทำรวดเร็วดั่งใจนึก
“เอานี่” พูดก่อนจะยื่นหนังสือให้ เอยคนนั้นหน้าแดงน้อยๆ
“เอ่อ...ขอบคุณ” พูดขอบคุณทั้งที่หน้ายังแดงๆ
“ไม่เป็นไร” ตอบออกไป ก่อนที่จะเดินหันหลังกลับไป โดยที่กวินไม่รู้ว่าเอยคนนั้นมองตามแผ่นหลังมา
กวินเดินออกไปจากห้องสมุด โดยที่ไม่ได้หนังสืออะไรติดมือมาสักเล่ม ระหว่างเดินก็มีกลุ่มนักเรียนม.ต้นเดินนำอยู่ข้างหน้า ได้ยินบทสนทนาของพวกเธอที่กำลังคุยอยู่อย่างไมได้จะตั้งใจแอบฟัง
“นี่ๆ...รู้สึกยังไงเหรอเวลาเห็นรุ่นพี่คนนั้นน่ะ?” เพื่อนของเธอถามขึ้นมา
“ก็รู้สึกลอยๆ ใจเต้นแรงๆ อยากมองพี่เขาไปทุกที่ที่พี่เขาเดิน เห็นเขาในสายตาตลอดเวลา แค่ได้มองก็ดีใจแล้ว” เธอบอกเพื่อนก่อนที่แอบกรี๊ดกันเบาๆ
“นี่สินะความรู้สึกของการแอบชอบใครสักคน ฉันอยากมีบ้างจัง” เพื่อนอีกคนพูด ก่อนที่จะพากันหัวเราะ
กวินได้ยินอย่างนั้นจึงนึกย้อนตนเอง...ใจเต้นผิดจังหวะ รู้สึกอยากมองไปในทุกทีที่เขาเดินไป แค่ได้มองก็ดีใจแล้ว ต้องยอมรับเลยว่าความรู้สึกทั้งหมดนี้ตนเองกำลังเผชิญอยู่
“แอบชอบ..”
กวินพูดขึ้นมาลอยๆ ก่อนที่จะหยุดเดิน และเงยหน้าขึ้นไปมองท้องฟ้า ไม่ผิดแน่แล้ว...ตนเองกำลังแอบชอบเอยคนนั้น เอยที่สวมแว่นใสๆตากลมๆ ร่างเล็กๆที่ดูจะอ่อนแอ ผู้ชายธรรมดาที่แสนจะจืดจางคนนั้น กวินตกใจกับความรู้สึกที่กระจ่างของตนเองแล้ว ทั้งๆที่คิดไว้ว่าหากกระจ่างแล้วจะตัดความรู้สึกเหล่านี้ออกไป แต่ดูเหมือนจะมาไกลเกินไปเสียแล้ว ยากที่จะตัดใจแล้ว เพราะสายตาเอาแต่ไล่มองจนห้ามตนเองไม่อยู่แล้ว ต้องยอมรับสภาพตนเองเสียแล้ว ยอมรับความรู้สึกที่เกิดขึ้นอย่างเลี่ยงไม่ได้เสียแล้ว...
...
..
.
ปีใหม่ก็ใกล้เข้ามาแล้ว อีกไม่นานจะมีวันหยุดยาวเนื่องในวันปีใหม่ นักเรียนต่างพากันดีใจที่จะได้หยุดเรียน และก่อนที่จะปิดปีใหม่ อาจารย์ให้ทำการ์ดปีใหม่ส่งสามใบ และเมื่อส่งเสร็จจะอนุญาตให้มอบแกเพื่อนๆได้ แต่ละคนก็ต่างคิดกันว่าจะเอาไปให้ใครดี
สำหรับกวินแล้ว คิดว่าหากทำแล้วจะให้การ์ดใครสักคน แค่ใบนั้นเดียวเท่านั้น และแค่คนเดียวที่จะมอบให้...คือเอยคนนั้น แต่กำลังคิดหาทนทางว่าจะให้อย่างไรโดยไม่เสียหน้า คิดว่าจะทำการ์ดออกมาแบบไหนดี สุดท้ายกวินก็เอาแต่คิดเรื่องนี้จนไม่ได้คิดเรื่องอื่น
และในที่สุดวันที่ส่งการ์ดก็มาถึง เมื่อตรวจเสร็จ อาจารย์ก็จะคืนให้ทันที และคนในห้องก็ต่างพากันแลกการ์ดให้กันและกัน
“เอ่อ...กวิน” เพื่อนผู้หญิงคนหนึ่งเรียกขึ้น
“มีอะไร?” กวินถามกลับ
“เราขอการ์ดของกวินสักใบได้ไหม?” เธอถามอย่างอายๆ
“คงไม่ได้” ปฏิเสธออกไปทันที อย่างไม่ต้องคิด
“ไม่ได้เลยจริงๆเหรอ?” เธอถามซ้ำ กวินไม่พูดอะไร แต่ก็เป็นสิ่งยืนยันแล้วว่าไม่ให้
และมีหลายต่อหลายคนมาขอ และเอาการ์ดมาให้กวินเสียมากมายจนเต็มโต๊ะ ตนรู้สึกเฉยๆ ไม่มีความรู้สึกตื่นเต้นใดๆทั้งนั้น จนตอนเลิกเรียนก็แล้ว สุดท้ายก็ไม่รู้จะหาวิธีไหนให้การ์ดกับเอยคนนั้น กวินถอนหายใจเบาๆ ก่อนที่จะกวาดการ์ดที่เพื่อนๆในห้องให้ทิ้งลงถังขยะภายในห้องเรียน คงจะไม่มีโอกาสมอบการ์ดให้เอยคนนั้นแล้ว
“ทำอะไร?” จู่ๆมีเสียงถามขึ้นมา กวินหันมองพบว่าเอยคนนั้นกำลังยืนอยู่ ในใจรู้สึกดีใจไม่น้อยที่เห็นเอยคนนั้นยังไม่กลับบ้าน
“ทิ้งขยะ” รีบดึงความคิดของตนเอง ก่อนจะตอบออกไป
“แต่นั่นเพื่อนๆอุตส่าห์ทำมาให้นะ” น้ำเสียงนั้นออกจาตำหนิกวินเล็กน้อย
“พาไปไม่หมด” อ้างไปอย่างนั้น ทั้งที่จริงไม่อยากรับของใครทั้งนั้น เอยคนนั้นตะกุกตะกัก เหมือนกำลังคิดอะไรอยู่สักพัก ก่อนที่จะยื่นการ์ดมาให้
“เอ่อ...เราให้”
เอยคนนั้นยื่นการ์ดมา ใบหน้านั้นแดงน้อยๆ ค่อยๆยื่นการ์ดใบนั้นมาให้ รู้สึกราวกับหัวใจพองคับอก เมื่อเห็นเอยคนนั้นยื่นการ์ดให้ มองการ์ดใบนั้นอย่างรู้สึกดีใจทนแทบจะยิ้มออกมา แต่ก็ต้องควบคุมตนเองเอาไว้ กวินดึงการ์ดในมือนั้นก่อนจะพูดออกไป
“ถ้าฉันเอามันทิ้งล่ะ?” ถามออกไปทั้งที่ไม่มีทางจะทิ้งการ์ดใบนี้แน่ๆ
“ก็แล้วแต่นายแล้วกัน” เอยคนนั้นบอก กวินไม่พูดอะไร กลับดึงการ์ดที่ตนเองทำจากกระเป๋ามายื่นให้เอยคนนั้น
“ให้...”
พูดพร้อมยื่นการ์ดให้เอยคนนั้น ที่ตอนนี้ตาโตอย่างตกใจ ดูเหมือนแปลกใจไม่น้อยที่ได้รับการ์ดใบนี้ เอยคนนั้นยืนนิ่งไป ก่อนที่จะพูดออกมา
“มะ..ไม่ต้องก็ได้ เรา เอ่อ...” ดูจะพูดไม่ออก อ้ำๆอึ้งๆ รู้สึกว่าน่าดูชอบกลกับท่าทางเช่นนั้น
“รับไป” ก่อนที่จะคว้ามือนั้นให้มารับการ์ดไป มือเล็กๆนั้นนุ่มนิ่มกว่าที่คิดไว้มาก
“ขะ...ขอบคุณนะ” เอยคนนั้นว่า พร้อมกับมองการ์ดใบนั้น รอยยิ้มกว้างระบายบนใบหน้า แค่เพียงเท่านั้นกวินก็รู้สึกพอใจเป็นอย่างมาก
“ไปล่ะ”
พูดก่อนที่จะเดินออกไปจากห้อง รอยยิ้มบางๆผุดขึ้นมาบนใบหน้า เอยคนนั้นจะรู้ไหมว่ากวินตั้งใจมอบการ์ดใบนั้นให้ เพราะเจาะจงเขียนชื่อให้เสียอย่างนั้น ถ้าเจ้าตัวไม่รู้ก็คงแปลกแล้ว
กลับมาถึงบ้าน กวินก็รีบกลับเข้าไปยังในห้อง รีบเปิดดูการ์ดของเอยคนนั้นที่ให้มา การ์ดนั้นมีสีขาว ตกแต่งด้วยการวาดรูปต่างๆดูไม่เยอะจนเกินไป กวินมองภายนอก ก่อนที่จะเปิดอ่านข้างไหน
“ในวาระดิถีขึ้นปีใหม่ ของให้สุขกายสุขใจ คิดสิ่งใดสมหวังทุกประการ...เอย” กวินอ่านออกเสียง ก่อนที่จะยิ้มออกมาน้อยๆ รู้สึกดีใจจนไม่รู้จะทำอย่างไรดี
มั่นใจแน่แล้วคิดอย่างไรกับเอยคนนั้น ความรู้สึกนั้นยากเกินกว่าจะห้ามได้แล้ว แรกนั้นว่าจะตัดความรู้สึกเหล่านี้ออกไป แต่ตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้ที่ตกหลุมนี้จนยากจะถอนตัวได้แล้ว....มั่นใจแน่แล้วว่าชอบเอยคนนั้น ชอบจนไม่รู้จะบรรยายออกมาเป็นคำพูดอย่างไรดี
และต่อจากนี้ไป จะต้องทำอย่างไร คงบอกความรู้สึกเหล่านี้ออกไปไม่ได้แน่นอน แต่กวินคิดไป ไม่แน่อาจจะเป็นแค่ความเผลอไผลชั่วครู่ชั่วคราวก็ได้ อาจจะเพราะเป็นมองบ่อยเกินไป ทำให้สลัดความคิดนี้ไปไม่ออก กวินยอมรับความรู้สึกนี้แล้วก็จริง แต่ไม่ได้หมายความว่าจะรู้สึกเช่นนี้ไปตลอดหรือไม่...คงต้องรอดูต่อไป ว่าต่อจากนี้ความรู้สึกเหล่านี้จะคงอยู่หรือจะหายไปกับสายลม คงต้องดูกันอีกนาน...
++++++++++++++++++++++++++++++++