ขอบคุณมากนะคะ ตอนที่แล้วคอมเม้นท์ถล่มทลายเลย หรือเพราะน้องเอยเสียตัวรึเปล่าคะ? ฮ่าๆ ขอบคุณที่ชอบนิยายเรื่องนี้นะคะ ถ้าผิดพลาดประการใดก็ขออภัยด้วยค่ะ

# อย่าบอกใคร...ว่า...ฉันรักเธอ?#
ตอนที่ 40
มื้อเที่ยงที่แสนอึดอัด...
ตอนนี้เป็นเวลาสิบโมงกว่าแล้ว เอยเข้ามาเตรียมของสำหรับทำมื้อเที่ยง ซึ่งต้องทำจำนวนมาก เพราะทานกันทั้งครอบครัว ไหนจะมีมินตราและแม่ของเธอเพิ่มเข้ามาอีก โดยที่กวินก็เดินเข้าเดินออก คล้ายอยากจะช่วยเอย แต่ดูเหมือนจะมาสร้างความวุ่นวายให้เอยเสียมากกว่า และไม่ต่างจากกรินเลย ที่เข้ามาในครัว พลางหยิบนั่นหยิบนี่เข้าปาก ความเหมือนของสองพี่น้องคงจะเป็นเรื่องความวุ่นวายเมื่อได้เข้าครัว
เอยทำกับข้าวสี่ห้าอย่างด้วยกัน และแน่นอนว่าต้องมีแกงเขียวหวานไก่ที่คุณเกริกอยากทาน และไข่เจียวรวมมิตรที่กวินขอไว้ด้วย เอยใช้เวลาทำนานเพราะกับข้าวหลายอย่างอีกทั้งจำนวนเยอะกว่าทานสองคน
“เสร็จแล้วเหรอเอย?” คุณวิดาที่เดินเข้ามาในครัว มองดูกับข้าวบนโต๊ะทั้งหมดที่ดูน่าทานเหลือเกิน
“น่ากินจัง เอยนี่เก่งกว่าแม่อีก” คุณวิดาว่า
“ใช่ๆ แม่นะทอดไข่เจียวยังไหม้เลย” กรินพูดขึ้นมาพลางหัวเราะ และแน่นอนว่าคุณวิดาค้อนขวับพร้อมตีแขนกรินเสียงดัง
“เจ้าลูกคนนี้ กล้าว่าแม่ได้ยังไง” คุณวิดาว่า กรินไม่ได้รู้สึกสะทกสะท้าน ยังคงหัวเราะเสียงดังอยู่เช่นนั้น
“คุณแม่คะ นี่ใกล้จะเที่ยงแล้ว ตั้งโต๊ะกันเลยดีไหมคะ?” ชมพูว่า
เด็กรับใช้พากันนำอาหารออกไปตั้งโต๊ะ เอยที่ขอกวินกลับห้องเพื่อไปล้างหน้าล้างตาเพราะตามตัวมีแต่กลิ่นอาหาร กวินจึงเดินขึ้นไปบนห้องกับเอย
เมื่อเดินลงมาถึงก็พบว่า มินตราเดินเข้ามาพอดี พร้อมกับแม่ของเธอ มินตราปรายตามองเอย สายตาเธอช่างเย็นยะเยือกยามที่มองมาที่เอย
“สวัสดีค่ะคุณเกริก สวัสดีค่ะคุณวิดา” เสียงแม่ของมินตราทักทายหวานจนเลี่ยนหู คุณเกริกแค่พยักหน้ารับเท่านั้น
“สวัสดีค่ะคุณภัสสร” คุณวิดากล่าวทักทาย
“สวัสดีค่ะคุณลุงคุณป้า” มินตรายกมือไหว้ทั้งสอง
“จ้ะ หนูมินตรา เดี๋ยวมาทานข้าวด้วยกันนะ ป้าขอไปดูโต๊ะอาหารก่อน” คุณวิดาพูด ก่อนที่จะเดินไปยังห้องทานอาหาร คุณเกริกจึงเดินตามคุณวิดาไปด้วย ตอนนี้จึงเหลือแค่กวิน เอย มินตราและคุณภัสสรเท่านั้น
“สวัสดีครับคุณป้าภัสสร” กวินยกมือไหว้ เอยจึงยกมือไหว้ตามกวิน
“สวัสดีจ้ะกวิน....แล้วนั่นใคร?” เธอรับไหว้กวิน ก่อนที่จะหันมามองเอยที่ยืนอยู่ข้างๆกวิน
“เอ่อ...ผมชื่อพีระนัมครับ” เอยแนะนำตัว มินตราค่อยๆพ่นลมหายใจออกมา คุณภัสสรหันไปมองลูกสาวของเธอก่อนที่จะหันมามองเอยหัวจรดเท้า
“คนนี้อย่างนั้นเหรอ?” เธอจ้องมองเอยราวกับเอยเป็นสิ่งแปลกประหลาดพลางเบ้ปากใส่เอย กวินมองหน้าของคุณภัสสรด้วยสายตานิ่งๆ ไม่ได้พูดอะไรออกมาที่เธอทำท่าทางเช่นนั้นใส่เอย
“คุณภัสสร เชิญมาทานข้าวด้วยกันเถอะค่ะ” คุณวิดาเดินมาเรียก และเธอไม่ทันเห็นกิริยาของคุณภัสสรที่มีต่อเอย
“ค่ะคุณวิดา ไปกันเถอะมินตรา” คุณภัสสรเธอเรียกมินตราให้เดินตามไป
“เดี๋ยวตามไปค่ะคุณแม่” มินตราพูดเช่นนั้น คุณภัสสรจึงเดินล่วงหน้าไปก่อน
“สุขสันต์วันเกิดย้อนหลังค่ะกวิน” มินตราพูด ก่อนที่จะยื่นถุงผ้าให้ ซึ่งข้างในมีกล่องของขวัญอีกที
“ขอบใจ” กวินพูดแค่นั้น ก่อนที่จะเรียกเด็กรับใช้ให้มารับของขวัญไปเก็บ เอยที่ยืนอยู่นั้น ได้แต่ยืนก้มหน้า เพราะไม่รู้จะมองไปทางไหนดี กวินเอื้อมมือไปแตะหลังของเอย
“ไปทานข้าวกันเถอะ” กวินบอกกับเอยเช่นนั้น มินตรามองภาพที่อยู่ตรงหน้า ใบหน้าของเธอค่อยๆบึ้งตึง ก่อนที่จะเดินไปยังห้องทานอาหาร จากนั้นเอยและกวินจึงเดินตามเข้าไป
ทั้งหมดนั่งลงที่โต๊ะทานข้าว โดยที่คุณเกริกนั่งหัวโต๊ะ ถัดไปซ้ายมือเป็นคุณวิดา คุณภัสสร และมินตรา ส่วนทางขวามือเป็นกวิน เอย และกริน สุดท้ายตรงกันข้ามคุณเกริก กฤศ ชมพู และฝาแฝดก็ครองทั้งหมด เรียกได้ว่าคนล้อมรอบโต๊ะอาหารจนไม่มีที่ว่างเลยทีเดียว
“อาหารน่าทานทั้งนั้นเลยนะคะคุณวิดา” คุณภัสสรพูดขึ้น ทั้งหมดเริ่มลงมือทานอาหารโดยทันที
“ไม่ต้องเกรงใจค่ะคุณภัสสร หนูมินตรา” คุณวิดาว่า ก่อนที่จะหันไปถามผู้เป็นสามีที่กำลังตักแกงเขียวหวานชิมอยู่
“แกงเขียวหวานเป็นไงบ้างคะคุณ?”
“อร่อย” คุณเกริกพูดแค่นั้น ก่อนที่จะตักแกงเขียวหวานทานต่อ ส่วนกรินก็แย่งไข่เจียวรวมมิตรของกวิน จนกวินต้องหันไปมองด้วยหางตาเป็นการเตือนอยู่หลายครั้ง
“อร่อยทุกอย่างเลยค่ะคุณวิดา ฝีมือคุณวิดาใช่ไหมคะ?” คุณภัสสรเอยขึ้นมา คุณวิดาหัวเราะน้อยๆ
“ไม่ใช่หรอกค่ะ ดิฉันทำอาหารไม่เป็น” คุณวิดาว่า คุณภัสสรเธอทำหน้าเจื่อนไปเล็กน้อย
“ถ้าอย่างนั้นแม่ครัวที่นี่ฝีมือดีนะคะ” คุณภัสสรพูดต่อ
“ไม่ใช่หรอกครับ ฝีมือพี่เอยต่างหาก” กรินเป็นคนพูดขึ้นเอง
“ใช่ค่ะ เอยเป็นคนทำทั้งหมดเลยค่ะ” คุณวิดาว่าก่อนที่จะหันไปยิ้มให้เอย
เมื่อได้ยินอย่างนั้น มินตราที่กำลังทานอยู่รีบวางช้อนลงทันที พร้อมๆกับที่คุณภัสสรก็รีบรวบช้อนวางเช่นกัน มินตรามองเอย สายตาของเธอเต็มไปด้วยความไม่พอใจ ส่วนกวินยังคงทานไปเฉยๆอย่างเอร็ดอร่อยพอๆกับกรินที่ยังคงตั้งหน้าตั้งตาเคี้ยวอาหารอยู่อย่างนั้น ส่วนฝาแฝดก็ทานอาหารของตนเองไป ชมพูที่ได้แต่มองมินตราที่กำลังจ้องมองเอยอยู่ พลางสะกิดกฤศที่นั่งทานอาหารอยู่
“ที่รัก...ดูน้องมินตราสิ จ้องน้องเอยใหญ่เลย” ชมพูกระซิบบอกกฤศ กฤศเองก็มองไปที่มินตรา จริงอย่างที่ชมพูบอก...มินตราจ้องมองเอยอย่างไม่พอใจ ส่วนเอยเอาแต่ก้มหน้าทานอาหารอยู่อย่างนั้น โดยไม่ได้มองไปที่ใครเลย
“อิ่มแล้วเหรอคะคุณภัสสร ทานไปนิดเดียวเอง” คุณวิดาถามอย่างแปลกใจ
“ทานไม่ค่อยลงค่ะคุณวิดา” คุณภัสสรหันไปจิกสายตาใส่เอยเพียงแวบเดียวเท่านั้น
“หนูมินตราก็ด้วยเหรอ?” คุณวิดากันไปถามมินตรา
“หนูกำลังควบคุมน้ำหนักค่ะ” มินตราละสายตาจากเอย มาตอบคำถามคุณวิดา
“เสียดายจัง ทั้งที่กับข้าวออกจะอร่อยแท้ๆ” กรินว่าอย่างไม่สนใจใคร ก่อนที่จะเรียกให้เด็กรับใช้มาเพิ่มข้าวให้อีก กวินและกฤศก็เช่นเดียวกัน ต่างขอเพิ่มข้าวกันทุกคน ไม่เว้นแม้แต่คุณเกริกก็ด้วย
“จะลดน้ำหนักทำไมหนูมินตรา แค่นี้ก็หุ่นสวยแล้วนะ” คุณวิดาว่า
“ถึงหุ่นจะสวยขนาดไหน ก็ยังมัดใจใครบางคนไม่ได้อยู่ดีค่ะ” มินตราพูดเช่นนั้น ก่อนจะยิ้มออกมา คุณวิดานั้นมองสีหน้าของมินตรา ที่แสดงออกมาอย่างชัดเจนว่าไม่ชอบเอย
“เรื่องแบบนี้มันไม่เกี่ยวกับหุ่นหรอกครับพี่มินตรา มันเกี่ยวกับความรักล้วนๆ เนอะพี่ชมพู” กรินที่พูดขึ้นมา พลางพยักพเยิดไปทางชมพูที่พยักหน้าอย่างเห็นด้วย
“เด็กๆพูดเรื่องอะไรกันคะนี่” คุณภัสสรหัวเราะเบาๆ ก่อนที่จะใช้สายตามองลูกสาวของเธอเอง เชิงปรามว่าห้ามพูดอะไรอีก
จนในที่สุด ทุกคนก็ทานเสร็จ กรินลุกขึ้นไปเป็นคนแรกพลางอุ้มกริมออกไปด้วย กฤศและชมพูจึงต้องพากริฟออกไปเช่นกัน เอยที่นั่งอยู่รู้สึกอึดอัดไม่น้อย อยากออกไปจากโต๊ะนี้ให้เร็วที่สุด เพราะรู้สึกถึงแรงกดดันของของคุณภัสสรและมินตราที่ส่งมาทางตนเอง
“เอย วันหลังมาทำกับข้าวให้พวกเราอีกนะลูก อร่อยมากเลย” คุณวิดาว่า
“ครับ” เอยพยักหน้ารับ
“ถ้าอย่างนั้นเราไปนั่งคุยกันหน่อยดีไหมคะคุณวิดา” คุณภัสสรเอ่ยชวนคุณวิดา
“ได้สิคะ เชิญทางนี้เลยค่ะ” คุณวิดาลุกขึ้นเดินออกไปจากโต๊ะทานอาหารไปยังห้องนั่งเล่น มินตราจึงลุกตามแม่ของเธอไป ตอนนี้จึงเหลือแค่คุณเกริก กวินและเอยเท่านั้น
“คุณเกริก...ดูเหมือนคุณป้าภัสสรเธอจะไม่ยอมครับ” จู่ๆกวินก็พูดขึ้นมา
“คงทำใจลำบาก เพราะดูเหมือนทางนั้นเล็งแกมาตลอด” คุณเกริกพูดด้วยใบหน้านิ่งๆ
“แต่ผมปฏิเสธไปนานมากแล้วนี่ครับ” กวินยังคงพูดต่อ เอยที่นั่งอยู่ได้แต่ฟังอย่างเงียบๆ
“รอดูแม่แกพูดกับทางนั้นก่อน จากนั้นค่อยว่ากัน” คุณเกริกพูดแค่นั้นก่อนที่จะลุกกลับไปยังห้องหนังสือของตนเอง
“ดูเหมือนทุกคนจะลำบากเพราะผมนะครับ” เอยพูดขึ้นมาเมื่ออยู่ลำพังกับกวินสองคน
“เธอไม่ได้เป็นคนทำ แต่เพราะพวกนั้นพูดไม่เข้าใจต่างหาก” กวินว่า ก่อนที่จะจูงมือเอยเดินกลับไปยังห้อง
“ผม...ขอไปเล่นกับกริฟกริมได้ไหมครับ?” เอยของกวิน
“ได้สิ” กวินว่า ก่อนที่จะเปลี่ยนเส้นทางไปยังอีกด้านหนึ่ง ซึ่งเป็นห้องสำหรับเด็กของฝาแฝดนั่นเอง
กวินเคาะประตูห้อง ชมพูเป็นคนมาเปิดประตูห้องให้ เห็นกรินกำลังจับกริมชูตัวขึ้นลงบนอากาศ โดยที่กริฟคล้ายจะรอคิวต่อไป
“พี่กฤศไปไหน?” กวินถามขึ้น
“อยู่ที่ห้องทำงาน เห็นว่ามีงานด่วนเข้ามาจ้ะกวิน” ชมพูบอก
“พี่ไม่อยู่คุณกับป้าภัสสรหรอกเหรอ?” กรินถาม
“ไม่อยากคุยด้วย” กวินว่า ก่อนที่จะเอาตัวกริฟมาจับเหวี่ยงไปมา
“เบาๆครับ เดี๋ยวกริฟตกใจ” เอยว่า
“ดูจะชอบมากกว่า” กวินว่า เสียงหัวเราะของกริฟดังเอิ๊กอ๊ากอย่างถูกใจที่โดนเล่นแรงๆ
“เด็กบ้านนี้ชอบความรุนแรงจ้ะน้องเอย” ชมพูว่า จู่ๆก็มีเสียงเคาะประตูดังขึ้น ชมพูคิดว่าเป็นกฤศจึงตะโกนบอก
“เปิดเข้ามาเลย” ชมพูบอกเช่นนั้น แต่คนที่เปิดประตูมากลับไม่ใช่กฤศ แต่เป็นมินตราแทน
“อ้าว....น้องมินตราเหรอ” ชมพูอุทานอย่างงงๆ
“ค่ะ มินเอง” เธอพูดเช่นนั้น ก่อนที่จะนั่งพับเพียบข้างๆกวินแล้วพยายามจะเล่นกับกริฟ
“น้องกริม มาเล่นกับน้ามินหน่อยมา” มินตราเธอเรียกเช่นนั้น
“น้องมินตรา...นั่นกริฟจ้ะไม่ใช่กริม” ชมพูบอก เธอเสียหน้าทันทีที่ชมพูทักเช่นนั้น ด้านกรินก็พยายามกลั้นหัวเราะอยู่
“ขอโทษด้วยค่ะ” เธอพูดออกมาอย่างนั้น
“ไม่เป็นไรจ้ะ” ชมพูว่า กวินที่นั่งนิ่งๆไม่พูดไม่จาอะไรกับมินตราเลย
“กวินคะ....เพื่อนๆตอนเรียนที่อังกฤษเขานัดไปปาร์ตี้กันพรุ่งนี้ เขาชวนกวินผ่านมินมา ไปด้วยกันไหมคะ?” มินตราถามกวิน
“งานยุ่ง คงไม่ได้ไป” กวินบอกเช่นนั้น
“แต่เพื่อนๆจะมากันครบนะคะ” มินตรายังคงพยายามชวนกวิน เอยที่ได้ยินก็นั่งฟังนิ่งๆ นิ่งเสียจนปล่อยให้กริมที่กรินปล่อยมานั่งบนตักของเอย ดึงแว่นไปเล่นเสียได้
“คงไปไม่ได้” กวินบอกเช่นนั้น มินตราหน้านิ่งไป ก่อนที่จะยิ้มพรายออกมา
“ชวนคุณเอยไปด้วยสิคะ ไปเปิดตัวในฐานะแฟน เพื่อนๆคนอยากจะทำความรู้จัก” มินตราพูดออกมาเช่นนั้น
“ต้องการอะไรมินตรา?” กวินถาม น้ำเสียงเริ่มไม่พอใจเท่าที่ควร ก่อนที่จะยื่นกริฟให้ชมพูที่รอรับอยู่
“ก็ไม่ต้องการอะไรนี่คะ แค่คิดว่าเพื่อนๆคงอยากรู้จักแฟนกวิน หรือว่า....คุณอายที่จะพาแฟนที่เป็นผู้ชายไปเปิดตัว”
มินตราพูดออกมาพลางยิ้มหวาน แต่คำพูดของเธอช่างสวนกับรอยยิ้มนั้นจริงๆ คำพูดช่างร้ายกาจต่างกับยิ้มหวานบนใบหน้า ชมพูและกรินที่นั่งฟังอยู่อดไม่ได้ที่จะเหลือบมองมินตราที่พูดออกมาเช่นนั้น
“ฉันไม่จำเป็นต้องทำแบบนั้น” กวินพูดออกไปแค่นั้น เอยที่นั่งอยู่รู้สึกแย่มากไปกว่าเดิม เพราะทั้งสองกำลังถกเถียงกันว่าด้วยเรื่องของเอย
“ถ้าไม่อายก็พาไปสิคะ?” มินตรายังคงไม่ลดละ
“มินตรา...หยุดพูดเพื่อให้เอยรู้สึกแย่เถอะ คุณทำไม่สำเร็จหรอก” กวินพูดแค่นั้น ก่อนที่จะลุกขึ้น
“ไปกันเถอะ” กวินหันไปบอกเอย ชมพูจึงรีบดึงแว่นจากมือกริมยื่นให้เอย เอยจึงลุกขึ้นตามกวินไป
“พี่มินตรา....ผมรู้สึกว่าพี่นิสัยเสียว่ะ พี่ชายผมไม่ชอบพี่ แต่ไม่ได้หมายความว่าเขาจะเกลียดพี่สักหน่อย แต่ถ้าพี่ยิ่งทำแบบนี้ ไม่แน่เขาอาจจะเริ่มเกลียดพี่แล้วก็ได้” กรินพูดก่อนที่จะลุกขึ้นบิดขี้เกียจเบาๆ
“สวยแต่ใจแคบ อย่างนั้นก็ไม่น่าสนนะครับพี่มินตรา”
กรินพูดทิ้งท้าย ก่อนที่จะเดินออกไปจากห้อง ทิ้งให้มินตรากัดฟันอย่างโมโห ที่โดนทั้งพี่และน้องตำหนิได้ถึงขนาดนี้ ชมพูที่ได้ยินก็พยายามกลั้นยิ้ม ก่อนที่จะทำท่าคุยเล่นกับฝาแฝด โดยไม่สนใจมินตรา
“ไปไหนกันหมดแล้ว?” กฤศที่เดินเข้ามาพอดี เอ่ยถามขึ้น
“ขอตัวนะคะ” มินตราพูดแค่นั้น ก่อนที่ลุกออกไปจากห้องพลางบีบกระเป๋าถือแน่นไปด้วย
“น้องมินตรานี่ร้ายนะคะที่รัก” ชมพูพูดแค่นั้น กฤศเลิกคิ้วอย่างงงๆว่าภรรยาของตนเองพูดถึงเรื่องอะไร
...
..
.
กวินที่เดินจูงมือเอยออกมา และพาเข้าไปในห้องนอน ก่อนที่จะล็อคประตูกันคนเข้ามา เอยนั่งลงบนเตียง พลางคิดถึงคำพูดของมินตรา ใช่ว่าคิดมากเรื่องที่กวินจะพาไปเปิดตัวหรืออะไร เพราะเอยไม่ต้องการเช่นนั้นอยู่แล้ว แต่ที่เอยกำลังคิด คือสิ่งที่มินตราทำ นั่นแปลว่าเธอไม่ยอมหลีกทางแม้กวินจะเลือกเอยแล้วก็ตาม
“คิดมากเหรอ?” กวินถามขึ้น
“ปะ...เปล่าครับ” เอยว่า
“อย่าโกหกฉัน” กวินพูด ก่อนที่จะนั่งลงข้างๆ และดึงเอยเข้ามากอด
“ผมคิดเรื่องคุณมินตราครับ...เธอคงตัดใจจากคุณไม่ได้จริงๆ” เอยว่า
“คิดว่าเรื่องนั้นเสียอีก” กวินพูดขึ้น
“เรื่องอะไรเหรอครับ?” เอยถามขึ้น
“เรื่องพาเธอไปพบเพื่อน” กวินว่า
“เรื่องนั้นผมไม่คิดอะไรหรอกครับ” เอยบอก
“ฉันไม่เคยอายที่มีเธออยู่ข้างๆ แต่ฉันไม่ชอบให้ใครมามองเธอนอกจากฉัน ยิ่งพวกนั้นเป็นพวกปากว่ามือถึง ฉันเลยไม่อยากพาเธอไป” กวินว่า
“ผมไม่ได้คิดเรื่องนั้นจริงๆครับ” เอยยืนยัน
“ทั้งที่วันนี้ฉันจะอยู่กับเธอทั้งวันแท้ๆ แต่ดันมีเรื่องน่ารำคาญเสียได้” กวินว่า
“ไม่เป็นไรครับ แค่นนี้ผมก็มีความสุขแล้ว” เอยบอก
ที่บ้านของกวินยอมรับตน ให้การต้อนรับที่แสนอบอุ่นขนาดนี้ เพียงเท่านี้เอยก็มีความสุขมากพออยู่แล้ว ส่วนเรื่องของมินตรานั้นเอยไม่อาจจะทำอะไรได้ ทุกอย่างต้องอยู่ที่การตัดสินใจของกวินเท่านั้น
“ไปเที่ยวกันไหม?” กวินถามขึ้น ก่อนที่จะยกตัวเอยให้มานั่งบนตัก
“ไม่ดีกว่าครับ อยู่เล่นกับกริฟและกริมดีกว่า” เอยว่า
“เห็นเจ้าลิงแฝดดีกว่าฉันเหรอ?” กวินถาม
“มะ...ไม่ใช่นะครับ” เอยส่ายหน้า
กวินกอดเอยจากข้างหลัง ก่อนที่จะยกตัวเอยให้นอนลงบนเตียง แล้วโน้มตัวลงไปจูบเอยอย่างแผ่วเบา ก่อนที่งับริมฝีปากของเอยเบาๆ และสอดลิ้นเข้าไปในปาก เอยเบิกตากว้างขึ้น เพราะตอนนี้เป็นเวลากลางวันแท้ๆ จึงพยายามบีบแขนกวินเชิงห้าม
“อื้อ...ยะ...อย่าครับ” เอยพยายามผละออกมาจากการถูกกวินจูบ
“นิดเดียว” กวินว่า ก่อนที่จะก้มลงจูบไปเรื่อยๆ มือไม้เริ่มไล่ลูบสีข้างของเอยอย่างช้าๆ ก่อนที่จะเลิกเสื้อของเอยขึ้นมา
“คะ...คุณกวิน พอแล้วครับ” เอยพยายามห้ามปราม แต่ดูเหมือนกวินจะไม่ฟัง ก้มลงดูดึงยอดอกของเอย พยายามเลาะลิ้มชิมมันจนเอยเริ่มบิดกายเบาๆ กวินละจากอีกข้าง ก่อนที่จะลากลิ้นมายังอีกข้าง แต่กลับมีเสียงเคาะประตูดังขึ้นมาเสียก่อน
“กวิน...แม่เองลูก”
เสียงของคุณวิดาเรียก กวินถอนหายใจออกมาอย่างเสียดาย แต่เอยกลับถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก แม้ใบหน้าจะแดงก่ำแต่ก็โชคดีที่คุณวิดามาขัดเสียก่อน ไม่เช่นนั้นกวินคงจะไม่ยอมหยุดแน่ๆ กวินยืนนิ่งๆเพียงสักครู่ ก่อนที่จะเดินไปเปิดประตู
“ว่ายังไงครับคุณวิดา?” กวินถาม เอยรีบลุกขึ้นมายืนข้างๆกวินทันที คุณวิดาเดินเข้ามาในห้อง ก่อนที่จะนั่งลงบนเตียง
“ทำอะไรกันอยู่ทั้งสองคน?” คุณวิดาถามพลางยิ้มออกมา
“ปะ..เปล่าครับ” เอยเป็นคนตอบ
“มีเรื่องอะไรรึเปล่าครับ?” กวินถาม
“คุณภัสสร....เมื่อครู่เธอคุยเรื่องแกกับหนูมินตรา เธอดูจะไม่ยอมที่แกปฏิเสธมินตราแบบนั้น แถมยังอ้างเรื่องสมัยก่อนขึ้นมาอีก” คุณวิดาว่า
“แล้วคุณวิดาว่าอย่างไรครับ?” กวินถามอีก
“แม่ก็บอกว่ามันเป็นเรื่องของเด็กๆ แม่ยุ่งไม่ได้ อีกอย่างกวินเลือกแล้วว่าต้องการอะไร แม่ก็ยอมรับสิ่งนั้นด้วย” คุณวิดาว่า
“แล้วยังไงต่อ?” กวินถามอีก
“เธอก็ดูไม่พอใจ แล้วก็กลับไป” คุณวิดาบอก
“อย่างนั้นเหรอครับ?”
“ใช่...แม่ไม่รู้หรอกว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นอีก แต่เราสองคนต้องอดทนผ่านมันไปให้ได้นะ โดยเฉพาะเอย...ต้องอดทนนะลูก” คุณวิดาว่า
“ครับ” เอยพยักหน้า
“ถ้าอย่างนั้นก็ตามสบายเถอะ เดี๋ยวแม่ไปหาชมพูกับเจ้าแฝดเสียหน่อย” คุณวิดาว่า ก่อนที่จะลุกออกไปจากห้อง
เมื่อคุณวิดาออกไป เอยก็ถอนหายใจออกมา กวินที่เห็นอย่างนั้นแล้วจึงดึงเอยเข้ามากอด ก่อนที่จะหอมแก้มเอยเบาๆ เอยสบตามองกวิน รู้สึกหนักใจไม่น้อยที่ต้องมาเจออะไรเช่นนี้
“ไม่ต้องกังวล อยู่กับฉัน...เราจะผ่านมันไปด้วยกัน” กวินว่า
“ครับ...”
“ไปหาฝาแฝดกันดีกว่าไหม?” กวินถามขึ้น
“ไปครับ” เอยยิ้มออกมา ทั้งสองจึงเดินออกไปจากห้องเพื่อไปหาฝาแฝดกริฟกับกริม...
+++++++++++++++++++++++++++++