สวัสดีปีใหม่นะคะ ขอให้คนอ่านทุกท่านมีความสุขตลอดทั้งปี สุขภาพแข็งแรง คิดสิ่งใดก็ให้สมปรารถนาทุกประการ ค่า 
# อย่าบอกใคร...ว่า...ฉันรักเธอ?#
ตอนที่ 28
ยังไม่ถึงเวลา
เช้าวันอาทิตย์ของวันนี้มีแสงแดดอ่อนๆลอดผ่านผ้าม่านเข้ามาภายในห้อง เอยค่อยๆลืมตาก่อนที่จะขยี้ตาเบาๆ รู้สึกว่าตัวหนักๆชอบกล พอเอียงหน้าไปอีกนิดก็พบแผ่นอกของกวินตรงหน้า เอยเงยหน้าก็พบว่าตอนนี้ตนนอนหนุนแขนของกวินและถูกกวินกอดไว้ เอยหน้าแดงนิดๆตั้งแต่ยังไม่ตื่นเต็มตาเสียด้วยซ้ำไป คิดว่าหากขยับตัวตอนนี้ก็กลัวจะทำให้กวินตื่นเอาได้ เอยจึงค่อยๆหลับตาลง และหลับไปอีกครั้งแม้ว่าตอนนี้จะเช้าแล้วก็ตาม
...
..
..
.
เสียงสั่นครืดๆดังบนโต๊ะข้างเตียง เอยผงกหัวขึ้นมาอย่างงัวเงีย เอื้อมมือไปคว้าเอาโทรศัพท์มือถือที่ตั้งสั่นไว้ กวินที่นอนกอดเอยอยู่ก็พลางขยับตัวตื่นตามเสียงนั้นเช่นกัน
“ครับ” เอยรับโทรศัพท์โดยที่ไม่มองว่าใครโทรมา
“ไอ้เอย....นั่นมึงอยู่กับไอ้กวินใช่ไหม นี่กูมาหาที่บ้านแม่มึงบอกว่ามึงไปนอนค้างกับเพื่อนที่ชื่อกวิน?” ไทป์นั่นเองเป็นคนโทรมา พูดยาวเป็นชุดจนเอยต้องลุกขึ้นนั่งเรียกสติ
“อ่อ...เราอยู่คอนโดกวิน” เอยตอบเสียงอ่อยๆ กวินลืมตาขึ้นมามองเอยที่ตอนนี้กำลังคุยโทรศัพท์กับไทป์
“เดี๋ยวนี้เป็นเด็กใจแตกนะมึงไอ้เอย คบกันไม่เท่าไหร่มึงก็ไปนอนกับมันแล้วเหรอ รีบมาหากูเลย มาให้กูสั่งสอนซะดีๆ”
“ไทป์ใจเย็นๆสิ ให้ไปหาตอนนี้เลยเหรอ?” เอยถาม
“นี่สิบโมงกว่าแล้ว มาหากูก็ใกล้เที่ยงแล้ว” ไทป์ยังคงพูดจาอย่างโมโห เอยตกใจมองนาฬิกาดิจิตอลที่วางบนโต๊ะ จริงของไทป์ที่ตอนนี้เป็นเวลาสิบโมงกว่าแล้วจริงๆ
“เดี๋ยวเราขออาบน้ำก่อนนะ เดี๋ยวไปหา” เอยว่า
“เอาไอ้กวินมาด้วย กูก็มีเรื่องจะคุยกับมัน” ไทป์ว่า
“เดี๋ยวเราลองถามเขาก่อนนะ” เอยว่า ก่อนที่จะตัดสายไป
“ไทป์โทรมาเหรอ?” กวินที่ยังนอนอยู่แต่ตื่นแล้วถามเอยขึ้น เสียงของกวินตอนเช้าดูแหบพร่าไปกว่าปกติ
“ครับ ไทป์บอกให้ไปหา แล้วก็...เอ่อ ให้ชวนคุณไปด้วย” เอยบอก
“ได้สิ ไปอาบน้ำกันเถอะ” กวินว่าก่อนที่จะลุก
“ผมว่า...ผมไปอาบอีกห้องดีกว่าครับ” เอยพูดแค่นั้นก่อนที่จะรีบลุกขึ้นวิ่งออกไปจากห้องทันที ทิ้งให้กวินมองอย่างรู้สึกตลกในท่าทางของเอย
ตอนนี้ทั้งกวินและเอยอาบน้ำแต่งตัวเสร็จแล้ว ทั้งสองก็รีบลงไปยังลานจอดรถ วันนี้กวินใช้รถสปอร์ตคันเดิม ก่อนที่จะขับไปยังที่หมายทันที
วันนี้กวินแต่งตัวสบายๆ เสื้อยืดและกางเกงยีนส์เท่านั้น แต่ดูแล้วเหมือนนายแบบเสียมากกว่า เอยเดินข้างๆกวินอย่างรู้สึกประหม่า จนทั้งสองเดินมาถึงร้านเพชรของไทป์ ที่ตอนนี้เจ้าของร้านยืนหน้าหงิกหน้างอรออยู่
“มาช้าว่ะเอย” ไทป์บ่น
“วันนี้วันอาทิตย์ รถมันเลยติดอะไทป์” เอยว่า ไทป์หันไปมองกวินด้วยหางตาก่อนที่จะดึงมือเอยให้มายืนข้างๆ แต่กวินไวกว่า รีบดึงเอยมาเสียก่อน
“มึงจะหวงอะไรหนักหนา นี่ก็เพื่อนกูนะ” ไทป์ว่า
“แล้วไง” กวินว่า ก่อนที่จะดึงเอยให้มายืนข้างๆตน
“ไอ้คนขี้หวง” ไทป์ว่าใส่กวินที่ทำหน้านิ่งเฉย ไม่รู้ร้อนรู้หนาวกับคำพูดของไทป์
“รอเดี๋ยวนะ ไอ้ดาวกำลังมา” ไทป์บอก ไม่ทันพูดจบ ดาวก็เดินมาพอดี
“มาแล้วจ้า” ดาวส่งเสียงมาแต่ไกล ก่อนที่จะหันไปเจอกวินเข้า
“อ้าว กวิน มาด้วยเหรอ?” ดาวหันไปถามกวินอย่างแปลกใจ
“ไปๆ ไปหาอะไรกินกัน....มึงก็มาด้วย” ไทป์ลากดาวให้เดินไป ก่อนจะหันไปบอกกวิน
“ไปกันเถอะ” เอยพูด ทั้งสี่คนจึงตรงไปยังร้านอาหารญี่ปุ่นร้านเดิม
เมื่อเข้ามาถึง ไทป์ก็สั่งอาหารเป็นคนแรกเช่นเคย ด้านกวินแค่ชี้เมนูที่เอยเปิดดู เอยก็สั่งตามที่กวินชี้ทั้งหมด ดาวนั่งมองท่าทางของกวินและเอยก่อนที่จะยิ้มออก
“นี่ๆ ชั้นพลาดอะไรไปรึเปล่า?” ดาวสะกิดไทป์ก่อนจะกระซิบถาม
“เรื่องอะไร?” ไทป์ก็ถามกลับ ดาวชี้ไปยังกวินและเอยที่นั่งเลือกเมนูกันอยู่
“ออร่าแปลกๆ....เหมือนคนเป็นแฟนกันเลย” ดาวกระซิบต่อพลางจ้องมองอย่างพิจารณา
“มึงนี่เก่งนะ มองปุ๊บก็รู้ปั๊บ” ไทป์พูดอย่างเซ็งๆ
“หา!!!” ดาวร้องออกมาเสียง จนเอยตกใจกันมามองดาว
“เป็นอะไรดาว?” เอยถาม
“เอย...เอยกับกวิน....” ดาวพูดก่อนที่จะเอานิ้วชี้สองนิ้วมาชนกัน
“อะไรเหรอดาว?” เอยถามอย่างงงๆ
“ก็อะไรล่ะไอ้เอย ไอ้ดาวมันสงสัยว่ามึงสองคนเป็นแฟนกันเหรอ มึงก็บอกๆมันไม่สิว่าคิดถูกแล้ว” ไทป์เป็นคนพูดขึ้นมาเอง ดาวยิ่งตาโตตกใจ กวินยังคงทำท่านิ่งเฉย ส่วนเอยห้ามหน้าลงอย่างรู้สึกอาย
“นี่จริงๆเหรอ คบกันอยู่จริงเหรอ ตั้งแต่เมื่อไหร่ อะไรยังไง ตายแล้ว ฉันมีเพื่อนเขยเป็นกวิน” ดาวร้องออกมาอย่างดีใจ จนเอยไม่รู้จะตอบคำถามไหนก่อนอี
“ก็...สักพักหนึ่งแล้ว” กวินเป็นตอบคำถามนั้นแทนเอย
“เอยนะ เก็บเงียบไม่บอกดาวเลย น่าน้อยใจจัง” ดาวบ่นพลางเชิดหน้างอนใส่
“ขอโทษนะดาว” เอยว่า
“ก็ได้ แต่มื้อนี้กวินต้องเลี้ยงเป็นการไถ่โทษนะ” ดาวว่า ก่อนที่จะหัวเราะ
“ได้สิ” กวินตอบ
ทั้งสี่ลงมือทานอาหารทันทีที่อาหารมาเสิร์ฟ ดาวมองเอยกับกวินไปพลางยิ้มไป จนไทป์อดไม่ได้ที่จะรู้สึกขนลุกกับท่าทีของดาว
“มึงจะยิ้มอะไรหนักหนาวะดาว?” ไทป์หันถามดาว
“ก็...มันปลื้มอะ เห็นเอยเป็นแฟนกับกวิน แกไม่ดีใจรึไง?” ดาวพูดพลางกุมแก้มตนเอง ก่อนจะหันไปแหวไทป์
“เออ ดีใจมาก.....ที่เพื่อนกูพอได้แฟนเป็นตัวเป็นตน แถมเป็นผู้ชายอย่างไอ้กวินอีก” ไทป์พูดพลางกัดฟันจนดาวหัวเราะ
“นี่กวิน รู้ไหม ไทป์น่ะเขาไม่ชอบกวินมาตั้งแต่สมัยเรียนแล้วนะ เพราะกวินหล่อกว่าไง” ดาวหันไปบอกกวิน ที่กำลังยกยิ้มมุมปาก
“เดี๋ยวเหอะมึงได้ดาว กูหล่อกว่าเหอะ” ไทป์ว่า เอยได้แต่หัวเราะ
“หัวเราะอะไรมึง เรื่องไปนอนค้างด้วยกันกูยังไม่ได้ชำระความเลยนะ” ไทป์ชี้หน้าเอย
“หา!! ไปนอนค้างกันหรอ ตั้งแต่เมื่อไหร่?” ดาวถามออกมาอย่างอยากรู้
“สองสามครั้งแล้วล่ะ” กวินเป็นคนตอบ
“จริงเหรอ...หวานกันจัง” ดาวร้องออกมาอย่างรู้สึกอิจฉา
“พอเลยมึง แดกๆไป” ไทป์ผลักหัวดาวเบาๆ ก่อนที่จะลงมือทานต่อ
ทั้งสี่ทานอาหารเสร็จเรียบร้อยแล้ว เอยนั่งลูบท้องเบาๆอย่างรู้สึกอิ่ม กวินยื่นกระดาษเช็ดปากให้เอย ไทป์นั่งมองการกระทำเหล่านั้นอย่างเงียบๆ กวินดูจะเอาใจใส่เอยพอสมควร ไทป์สังเกตมาตั้งแต่เริ่มมื้ออาหารแล้ว หยิบนั่น หยิบนี่ คีบอาหารให้เสมอ แม้ใบหน้าจะนิ่งเฉย แต่แววตานั้นเต็มไปด้วยความห่วงใยจนไทป์ยังรับรู้ได้
“ดาว มึงจะไปไหนต่อ?” ไทป์หันไปถาม
“ก็ว่าจะไปดูร้านที่กำลังตกแต่งอยู่น่ะ” ดาวตอบ ตอนนี้ดาวกำลังเปิดห้องผ้าของตนเองที่ห้างนี้เช่นกัน
“เอย...มึงไปเป็นเพื่อนดาวดูหน่อยสิ” ไทป์ว่า
“นั่นสิ อยากเห็นร้านดาวเหมือนกัน” เอยว่า
“งั้นก็ไปกันสิ” ไทป์พูด
“เอ่อ..คุณกวิน ผมขอไปกับดาวนะครับ” เอยหันไปขอกวิน
“ไปสิ” กวินว่า ใช่จะไม่รู้ว่าที่ไทป์เอ่ยปากเช่นนั้นหมายความว่าอย่างไร
“ไปกันเถอะเอย แปบเดียวเดี๋ยวจะพาเอยมาคืนนะกวิน” ดาวว่าก่อนที่จะจูงมือเอยเดินออกไปจากร้านอาหาร ตอนนี้ก็เหลือแค่ไทป์กับกวินเท่านั้น
“มีอะไรจะพูด?” กวินเอ่ยถามไทป์อย่างรู้ทัน
“ดีที่รู้ตัวว่ากูจะถาม....มึงจริงจังกับเพื่อนกูไหม?” ไทป์ถาม หน้าตาจริงจัง กวินเงียบไปอึดใจก่อนตอบ
“ถ้าตอบว่าใช่...แล้วจะทำไม?” กวินว่า
“ถ้ามึงจริงจังก็ดีไป” ไทป์พูด
“อ่อ บอกก่อน ถึงคบกันก็ถนอมมันหน่อย พวกมึงเพิ่งจะคบกัน อย่าใจเร็วกันนัก” ไทป์พูดต่อก่อนที่จะจิบน้ำชา กวินยกยิ้มมุมปากเมื่อได้ยินประโยคนั้น
“มันห้ามได้ที่ไหน เรื่องแบบนั้น” กวินพูด
“กูรู้หรอก แต่มึงก็ห้ามใจตัวเองบ้าง ห่า” ไทป์ขึ้นเสียงขึ้นมา กวินอดไม่ได้ที่จะหัวเราะในลำคอ
“รักเพื่อนมากนี่” กวินพูด
“แน่สิ ไอ้เอยมันจะไปทันคนแบบมึงได้ยังไง ที่พวกมึงคบกันนี่กูก็แปลกใจจะแย่แล้ว” ไทป์ว่า
“ไม่ต้องห่วง จะถนอมให้ดีที่สุด” กวินบอก
“อีกข้อนึง....สัญญากับกูมา ว่าจะไม่ทำให้มันเสียใจ กูไม่รู้หรอกนะว่าพวกมึงจะคบกันนานขนาดไหน แต่บอกก่อนถ้ามึงทำเพื่อนกูเสียใจ ต่อให้เป็นคนนามสกุลเศวตเจริญกูก็ไม่ยอม” ไทป์บอก สีหน้านั้นไม่แตกต่างจากคำพูด
“อืม” กวินรับปาก
“ไอ้เอย..มันเป็นพวกหัวช้าในเรื่องแบบนี้ มึงต้องชัดเจน พูดตรงๆกับมัน มันถึงจะเข้าใจ ถ้าเผลอปล่อยทิ้งไว้มันจะเข้าใจผิดและชอบคิดไปเอง นี่คือนิสัยจริงๆของมัน” ไทป์ว่าพร้อมมองหน้ากวิน
“เรื่องนั้นฉันรู้ดี” กวินบอก
“กูมีเรื่องจะพูดแค่นี้แหละ” ไทป์ว่า
“ขอบใจ...สำหรับที่ผ่านมาที่ดูแลเอยมาตลอด” กวินว่า ใบหน้านิ่งเฉยก็จริงแต่ไทป์กลับรู้สึกได้ว่ากวินกำลังขอบคุณตนจริงๆ
“กูไม่รู้หรอก ว่ามึงชอบมันตั้งแต่เมื่อไหร่ ถ้ากูเดาไม่ผิดตอนนั้นใจมึงคงจะตรงกับมัน แต่ทำไมปล่อยผ่านมาจนถึงวันนี้ เรื่องนี้แหละที่กูคิดไม่ออก” ไทป์ว่า ตนคิดเช่นนั้นมาเสมอว่ากวินเองก็ต้องคิดอะไรกับเอยมาตั้งแต่สมัยเรียนม.หกแล้ว
“ยังไม่ถึงเวลาที่จะพูด” กวินว่า
“เรื่องของมึงเถอะ ยังไงกูก็ไม่ชอบขี้หน้ามึงอยู่ดี” ไทป์พูดก่อนที่จะหันไปมองนอกร้าน พบว่าเอยและดาวกลับมาแล้ว
“คุยอะไรกันเหรอ?” ดาวนั่นลงก่อนจะถาม
“เรื่องทั่วไป” ไทป์เป็นคนตอบ
“แล้วนี่จะไปไหนต่อไหม?” ดาวหันมาถามไทป์
“ว่าจะไปเมืองกาญ ไปคุยที่โรงงานต่อ” ไทป์บอก
“กวินล่ะ?” ดาวถามกวิน
“ว่าจะกลับแล้ว” กวินบอก
“แปลว่าเอยต้องกลับด้วยสินะ งั้นเอาไว้เจอกันคราวหน้านะ” ดาวบอก ก่อนที่กวินจะเป็นคนจ่ายเงินทั้งหมดและแยกย้ายกลับทางใครทางมัน
...
..
.
เวลาบ่าย กวินและเอยกลับมายังคอนโด เพราะไม่รู้จะไปไหนดี ก็เลยกลับมาที่นี่แทน กวินเดินไปเปิดโน้ตบุ๊ก ดูเหมือนว่ามีงานต้องทำ เอยจึงได้แต่เดินดูชั้นหนังสือที่มีหนังสือหลากหลายประเภท
“เอ่อ...คุณกวิน ผมขออ่านหนังสือพวกนี้ได้ไหมครับ” เอยหันไปขออนุญาตกวิน
“เอาสิ” กวินเอ่ย
เอยจึงหยิบหนังสือออกมานั่งอ่าน ส่วนใหญ่จะเป็นหนังสือเกี่ยวกับวิสัยทัศน์ในการทำธุรกิจเสียมาก บางเล่มก็มีวรรณกรรมแปลอยู่บ้าง เอยนั่งอ่านผ่านๆจากนั้นจึงหยิบหนังสือเล่มอื่นมาเปิดอ่านต่อ
“เอ๊ะ?”
มีอะไรบางอย่างหล่นมาจากหนังสือเล่มที่เอยเปิด เอยหยิบมันขึ้นดู เป็นรูปภาพที่ไม่ใหม่ไม่เก่ามากนัก เอยมองดูรูปใบนั้นก่อนที่จะตาโตตกใจ เพราะคนในรูปนั้นไม่ใช่ใครที่ไหน แต่เป็นเอยตอนไปทำกิจกรรมออกค่ายเมื่อตอนปีสอง ในรูปเอยกำลังแจกน้ำให้รุ่นน้องดื่ม เอยหยิบรูปใบนั้นไปหากวินทันที
“เอ่อ....คุณกวิน รูปนี้มัน?” เอยยื่นรูปนั้นให้กวิน สีหน้าของกวินดูจะแปรเปลี่ยนไปเล็กน้อย
“ไม่มีอะไร” กวินตอบ ก่อนที่จะหันไปมองจอต่อ
“นี่มันรูปผมตอนเรียนมหาวิทยาลัยปีสอง คุณมีมันได้ยังไงครับ?” เพราะความอยากรู้จริงๆ มันน่าสงสัยที่กวินมีรูปของเอยหลังจากที่เรียนจบม.หกแล้ว กวินยังคงนิ่งเงียบก่อนที่จะบอกไป
“จำกี้ห้องสองได้รึเปล่า?”
กวินถามขึ้นมา ไม่ต้องนึกให้เสียเวลา เอยจำได้ดีว่ากี้ห้องสองที่กวินพูดถึงคือกี้หรือกีรติ เพื่อนของเพื่อนดาวที่เป็นประธานชมรมบรรณารักษ์ เพราะเอยเองก็เป็นรองประธานชมรมเลยสนิทกับกี้พอสมควร
“จำได้ครับ” เอยตอบ
“เขาเป็นคนถ่ายรูปส่งมาให้ฉัน” กวินบอก
“กี้....เขาสอบติดที่เดียวกันกับผม แต่คนละคณะกันนะครับ?” เอยพยามนึกอีกว่าเพราะอะไรกี้ถึงถ่ายรูปนี้มาได้ เมื่อนึกไปนึกมาก็นึกออก ว่าออกค่ายครั้งนั้นปีสองทั้งหมดจะต้องไปร่วมด้วย
“แล้วทำไมเขาถึงถ่ายมาให้คุณล่ะครับ?” เอยถามอีก
“อยากรู้จริงๆเหรอ?” กวินถามกลับ
“ครับ” เอยยืนยัน
“จูบฉันสิ แล้วจะตอบ” กวินว่าก่อนที่จะใช้นิ้วแตะที่ริมฝีปากตนเอง
“อะไรนะครับ...ผม เอ่อ” เอยหน้าขึ้นสี กวินชอบต่อรองเอยอยู่เรื่อย
“ถ้าอยากรู้ก็จะตอบ แต่ต้องจูบก่อน” กวินยังคงยืนกรานอยู่เช่นนั้น
“คุณกวิน....” เอยร้องออกมาเบาๆ อย่างหมดหนทาง กวินต้องมีข้อแลกเปลี่ยนเสมอ เอยยืนลังเล ครั้งนี้อยากรู้มากจริงๆ จึงตัดสินใจเดินเข้าไปหากวินที่นั่งอยู่ ก่อนที่จะโน้มตัวลงจูบปากกวินอย่างแผ่วเบาและรีบเด้งตัวออกมา กวินหัวเราะในลำคอ
“แค่นี้เองเหรอ จูบน่ะไม่ใช่แค่นี้ มันต้องแบบนี้ต่างหาก”
กวินพูดก่อนที่จะดึงเอยให้มานั่งลงบนตัก และเริ่มจูบเอยอย่างนุ่มนวล บดคลึงริมฝีปากอยู่เช่นนั้นก่อนที่จะสอดลิ้นเข้าไปทักทายความหวานที่อยู่ภายใน เอยเกาะไหล่ของกวินพลางบีบแน่น เพียงไม่นานนักกวินก็ผละออก
“บอกให้ก็ได้....ฉันเป็นคนสั่งกี้ให้ถ่ายรูปเธอส่งมาให้เอง” ในที่สุดกวินก็ตอบคำถามของเอย
“สั่งให้กี้ทำเหรอ เพราะอะไรครับ?” เอยยังคงถามอีก
“ไม่รู้จริงๆเหรอ” กวินพูดขึ้นมา สีหน้ายังคงนิ่งเฉยๆ แต่ในใจกลับกำลังคิดอะไรบางอย่างอยู่ เอยนิ่งเงียบไป
“ผะ...ผม ไม่อยากคิดเข้าข้างตัวเอง” เอยก้มหน้าลงก่อนพูด
“ไม่ผิดหรอกที่จะคิด เพราะมันเป็นอย่างที่เธอคิดจริงๆ......เธอแอบมองฉันมาตลอด เธอรู้ตัวรึเปล่า?” กวินกว่า ก่อนที่จะเกลี่ยผมของเอยช้าและเหน็บไว้ที่ข้างหู เอยเม้มริมฝีปากอย่างครุ่นคิด
“ตอนนั้น...ผมไม่มั่นใจครับ แต่ไทป์ก็บอกมาแบบนั้น ว่าผม...ชอบคุณมาตั้งแต่ตอนนั้นแล้ว” เอยว่า
“ที่ไทป์บอกคือความจริง...” กวินพูดออกมา ก่อนที่จะโอบเอวของเอยให้แน่นขึ้น
“แล้วคุณล่ะครับ?” เอยถามอีก กวินยิ้มบางๆออกมา
“เมื่อถึงเวลาแล้วฉันจะบอก” กวินว่า ก่อนที่จะจูบไหล่ของเอย เอยได้แต่นั่งหน้าแดงก่อนที่จะรีบลุกขึ้นจากตักของกวิน
“นี่ก็ใกล้จะเย็นแล้ว...เดี๋ยวผมไปเตรียมทำอาหารดีกว่าครับ” เอยว่า
“เอาสิ” กวินเห็นด้วย ก่อนที่จะหันไปทำงานต่อ และเอยก็เดินเข้าไปในครัวเพื่อเตรียมทำกับข้าวมือเย็น
...
..
.
ตอนนี้เป็นเวลาค่ำแล้ว เอยและกวินได้ทานมื้อเย็นโดยฝีมือของเอย และถึงเวลาที่เอยจะต้องกลับบ้าน แม้ตอนแรกกวินบอกให้เอยค้างที่คอนโด แต่เอยปฏิเสธเพราะไม่ได้เตรียมเสื้อผ้าทำงานมา และกลัวแม่จะสงสัยว่าทำไมค้างสองคืนติดกัน ตอนนี้กวินก็ขับรถมาส่งเอยที่หน้าบ้านแล้ว
“ขับรถกลับดีๆนะครับ” เอยบอก ก่อนที่จะปลดที่คาดนิรภัยออก
“เจอกันพรุ่งนี้” กวินว่า ก่อนที่จะหอมแก้มเอย
“คะ...ครับ” เอยยังคงไม่ชินกับการที่กวินทำแบบนี้ แม้จะบ่อยครั้งแล้วก็ตาม
เอยลงจากรถ ก่อนที่จะโบกมือให้กวิน เมื่อกวินขับรถออกไปจนลับตา เอยถึงจะยอมเดินกลับเข้าบ้านไป...
+++++++++++++++++++++