ผมเปิดก๊อกน้ำแล้วเอามือถูกันในนั้น น้ำไหลเอื่อยๆที่ผ่านผิวทำให้ผมใจลอยไปชั่วขณะ ผมเงยหน้ามองตัวเองในกระจกก็เห็นใบหน้าของตัวเองที่ดูไม่ดีเท่าไหร่ ตาผมแดงและคลอไปด้วยม่านน้ำตา ผมเกลียดความรู้สึกที่อัดแน่นอยู่ตอนนี้จริงๆ เกลียดจนไม่อยากมาเจออะไรแบบนี้เลย
“น้องลม น้องลมครับ น้องลม โอ๊ย” เสียงสบถของพี่เพลิงทำให้ผมปิดน้ำรีบออกจากห้องน้ำเพื่อออกมาดูว่าเกิดอะไรขึ้น พี่เพลิงเหมือนจะพยายามลุกนั่งโดยที่รีนไม่ค่อยได้ช่วยพยุงเลยดูลำบาก ผมวิ่งเข้าไปแทรกระหว่างรีนกับพี่เพลิงแล้วพยุงพี่เพลิงให้ลุกนั่ง
“เรียกลมทำไมล่ะ” ผมทำน้ำเสียงประชดอีกแล้ว อยากจะตบปากตัวเองแรงๆสักครั้งจังครับ
“รีนว่ารีนกลับก่อนดีกว่าค่ะ… อยู่ไปก็ไร้ค่า หายไวๆนะคะพี่เพลิง พี่ไปนะคะน้องลม”เธอคว้ากระเป๋าถือมาคล้องแขนไว้ก่อนจะฉีกยิ้มให้ผมและพี่เพลิง ยอมรับว่างงมากๆครับ เธอไม่น่าจะเป็นคนที่ปล่อยโอกาสให้หลุดลอยไปง่ายๆแบบนี้เลยสักนิด
“ผมไปส่งไหมครับ” ปากผมพูดไปโดยที่ไม่ได้ผ่านการคิดเลยสักนิดครับ แต่เธอก็ส่ายหน้าไปมาแล้วก็ไม่ได้พูดอะไรอีกแถมยังเดินออกไปเลยอีกต่างหาก
“เล่า!! ทำไมเขาเป็นแบบนั้นอ่ะ วันนั้นยังจะตบแพรอยู่เลย” ผมเอามือตบเตียงเสียงดังพร้อมพยายามทำหน้ากดดันพี่เพลิงให้มากที่สุด
“น้องลมเคยบอกให้พี่ปฏิเสธตรงๆใช่ไหม” ผมขมวดคิ้วเล็กน้อยแต่ก็พยักหน้างึกงักตอบรับ ผมเคยพูดจริงๆครับผมจำได้ดี
“พี่ก็ทำตามที่น้องลมบอกไงครับ” พูดยังไม่ชัดเจนสักอย่างแต่กลับหันไปคว้ารีโมทโทรทัศน์เปิดดูซะงั้นครับ นั้นทำให้ผมยกมือขึ้นขยี้หัวอย่างหงุดหงิดที่คำตอบมันไม่ตรงใจเลยสักนิดเดียวแต่คนตอบกลับเลื่อนหาช่องดูรายการอะไรก็ไม่รู้
“เล่าให้ฟังเดี๋ยวนี้เลย ลมสั่งนะเนี่ยสั่งงง” ผมเริ่มงอแงอยากรู้เรื่องที่เกิดขึ้นระหว่างที่เราห่างกันไปพี่เพลิงทำอะไรบ้างก็ไม่รู้ รู้แค่ผมไม่ได้ทำอะไรเลยนอกจากไปเรียน เมา ทำงานกลุ่ม กลับบ้าน เรียกได้ว่าโคตรไร้สาระเลยครับ ผมเหมือนกลับไปใช้ชีวิตตามปกติแต่ก็ยังอึนๆตลอดเวลา
“ไม่มีอะไรจริงๆครับ พี่ก็แค่พูดทุกอย่างไปตรงๆ ผู้หญิงแบบรีนไม่จำเป็นต้องมาตามตื้อพี่ด้วยซ้ำครับ ส่วนเรื่องแพรพี่ไม่รู้ว่าผู้หญิงเวลาไม่ชอบกันเขาจะราวีกันขนาดไหน แต่พี่ว่ารีนคงไม่ยุ่งกับพี่แล้วล่ะครับ ที่ผ่านมาพี่ไม่เด็ดขาดแล้วก็ปล่อยเลยตามเลยมากเกินไปจริงๆ มันดูเหมือนพี่ไปทำลายความรู้สึกเขา พี่นี่แย่จริงๆนะครับ”
ผมมองหน้าพี่เพลิงแต่คำพูดของพี่เพลิงทำให้ผมนึกถึงมัน นึกถึงไอ้พีท ผมทำลายความรู้สึกของมันอย่างไม่มีชิ้นดีเลยสักนิด ผมไม่ได้แค่ปล่อยเลยตามเลยแบบพี่เพลิง แต่ผมทำเลยเถิดไปมากกว่านั้นอีกและมันก็ไม่ได้ว่าอะไรผมสักคำ
“ทำไมทำหน้าแบบนั้นครับ” พี่เพลิงยกมือขึ้นจับผมของผมทัดหูไว้แล้วเกลี่ยแก้มผมอย่างแผ่วเบา ผมผมเริ่มยาวแล้วครับ ตั้งแต่ที่ผมยุ่งๆงงๆกับชีวิตแล้วผมก็ไม่ได้ไปยุ่งกับมันเท่าไหร่ หน้าม้าเริ่มยาวจนแทบจะปิดตาผมด้านหลังก็เริ่มทิ่มคอจนน่ารำคาญ
“เปล่า ไม่มีอะไร” ผมพูดปัดๆไปแล้วจับมือพี่เพลิงให้ทาบกับหน้าไว้แบบนั้น อ้อนครับ ผมอยากอ้อน พี่เพลิงยิ้มออกมานิดหน่อยผมได้แต่เม้มปากอย่างทะเล้นพร้อมกับถูแก้มลงบนมือพี่เพลิง
“ไม่หรอก น้องลมมีอะไรอยู่ในใจหรือเปล่า หน้าน้องลมมันฟ้องทุกอย่างเลยนะครับ” ผมนิ่งแล้วก้มหน้าก้มตาทันทีครับ ไม่รู้จะพูดยังไง เพราะพี่เพลิงหายไปหรอกผมเลยไปเล่นพิเรนทร์กับไอ้พีท เพราะพี่เพลิงนั่นแหละ เพราะพี่เพลิงคนเดียวเลยด้วยครับ
“ฟ้องยังไง?” ผมเงยหน้าแล้วยิ้มทะเล้นออกมาอีกครั้ง
“ก็ดูสับสน ดูมีอะไรที่คิดมากอยู่ในหัว มีอะไรจะบอกพี่หรือเปล่า” ผมส่ายหน้าพรืดทันที แล้วหย่อนตัวลงนั่งกับเก้าอี้ข้างเตียงพร้อมยกขาขึ้นขัดสมาธิบนนั้น
“เครียดที่พี่เพลิงเจ็บแบบนี้ไง” ผมโบ้ยไปเรื่อยพี่เพลิงก็ทำหน้าไม่เชื่อแต่ก็ไม่ได้ว่าอะไรออกมา เสียงจากโทรทัศน์ที่พี่เพลิงเปิดยังดังขึ้นมาอย่างต่อเนื่องเรียกความสนใจผมและพี่เพลิงให้หันไปมอง
“น้องลมเบื่อไหม พี่อยู่คนเดียวก็ได้นะ” ผมส่ายหน้าไปมาอีกครั้ง ปกติผมก็ไม่ค่อยได้ออกไปไหนอยู่แล้วครับ นั่งโง่ๆอยู่บ้าน เล่นเกม ทำนู้นนี่ปกติ กับอีแค่นั่งแบบนี้ผมไม่เบื่ออะไรหรอกครับ
“ลมรักพี่เพลิงนะ รักจริงๆนะ” อยู่ดีๆผมก็พูดขึ้นมาอย่างไร้เหตุผล ย้ำซ้ำๆกับตัวเองอยู่หลายรอบแต่ไม่กล้ามองตาพี่เพลิง พี่เพลิงเงียบ ทั้งห้องก็เงียบลงมีแต่เสียงโทรทัศน์ที่ดังออกมาเรื่อยๆ ผมหัวใจเต้นรัวอย่างบอกไม่ถูกตอนที่เผลอไปมองตาพี่เพลิง
“พี่ก็รักเด็กดื้อครับ” ผมขมวดคิ้วหน้ายุ่งไปนิดหน่อยอย่างไม่พอใจ
“ใครดื้อ”
“น้องลมไง”
“ไม่เอาาาา ลมไม่ดื้อ” ผมพูดเถียงทั้งรอยยิ้มพี่เพลิงก็ยกมือขึ้นทำท่าจะผลักหัวผมแล้วก็ผลักจริงๆครับ ผมเลยปัดมือพี่เพลิงออก
ผมเถียงอู้อี้กับพี่เพลิงจนกระทั่งพี่แม่บ้านเอาอาหารเที่ยงมาให้ครับ ผมก็ทำหน้าที่ป้อนเหมือนเดิม ทำทุกๆอย่างเหมือนเดิมก่อนที่จะลงไปกินข้าวด้านล่าง ตอนประมาณเย็นๆหน่อยแม่พี่เพลิงก็แวะเอาขนมมาให้ ไม่ได้ให้ผมครับให้พี่เพลิง ผมก็ได้แต่นั่งตัวลีบตามเคย แต่พ่อพี่เพลิงชวนผมคุยอยู่บ้างนะครับ ผมเกร็งนิดหน่อยแต่ผมคิดว่าอีกไม่นานก็คงชินแล้วล่ะครับ ยิ่งนึกสภาพถ้าผมต้องไปอยู่บ้านพี่เพลิง…
สงสารตัวเองจริงๆ
ผมได้แต่ยิ้มแห้งๆให้กับภาพตรงหน้า แม่กับพ่อพี่เพลิงคุยเล่นกันเหมือนผมเป็นอากาศที่ไม่มีตัวตนในห้อง
……………………………………………………………………………
“หวัดดีครับ” ผมยกมือไหว้แม่พี่เพลิงลวกๆอย่างตกใจ
วันนี้หมอให้พี่เพลิงกลับบ้านแล้วครับ แต่มันบังเอิญเป็นวันเรียนผมเลยแยกกับพี่เพลิงโดยผมเข้าไปเช็คชื่อแล้วออกมาอย่างแนบเนียน และฝั่งพี่เพลิงพ่อพี่เพลิงก็พากลับมาอยู่บ้าน เอาล่ะครับ แม่พี่เพลิงเริ่มมองผมอย่างสำรวจอีกแล้วครับ ตอนนี้ผมอยู่ในชุดนักศึกษาที่หลุดลุ่ยและผมที่ยุ่งเหยิงเพราะนั่งพี่วินมา
“ตาเพลิงอยู่บนห้อง” แม่พี่เพลิงสะบัดหน้าไปทางบันได ผมงงๆไปนิดหน่อยแต่ก็ยกมือไหว้อีกครั้งพร้อมเดินขึ้นไปหาพี่เพลิง ทำไมยังไม่เลิกทำเสียงแบบนี้ใส่ผมก็ไม่รู้ ผมได้แต่ส่ายหน้าไปมาเบาๆก่อนที่จะจับลูกบิดประตูก้าวเข้าไปในห้องพี่เพลิง
“เฮ้ยๆๆๆ ทำอะไร” ผมรีบร้องห้ามเพราะพี่เพลิงทำท่าจะลงจากเตียงเอง ผมรีบดันไหล่พี่เพลิงให้นั่งอยู่อย่างนั้น
“พี่อยากเข้าห้องน้ำครับ” พี่เพลิงพูดออกมาหน้าตายทำให้ผมอับอายแทนครับ ผมถอนหายใจออกมาแล้วคว้าแขนข้างที่ปกติที่ขึ้นคล้องคอแล้วดึงตัวพี่เพลิงขึ้นอย่างยากลำบาก ตัวก็หนักชิบหายผมล่ะอย่างกลับบ้านไปฟิตกล้ามมาอุ้ม แต่ก็ได้แค่คิดเพ้อเจ้อไปเรื่อยครับ
“น้องลมไม่ต้องช่วยพี่นะ พี่อยากหัดใช้ไอ้นั่นครับ” พี่เพลิงพูดพร้อมชี้ไปที่ไม้ค้ำยันสองอันที่วางไว้ข้างเตียง ผมพยักหน้างึกงักอย่างเข้าใจแล้วพยุงให้พี่เพลิงหยิบไม้ค้ำยัน ก่อนที่จะปล่อยให้พี่เพลิงยืนด้วยตัวเอง
“ต้องเข้าไปด้วยไหมอ่ะ” ผมถามขึ้นตอนอยู่หน้าห้องน้ำ พี่เพลิงยุกยิกอะไรอยู่ก็ไม่รู้สักพักแล้วก็ถอนหายใจออกมา
“ไม่ต้องก็ได้ครับ”
ผมไม่ให้ปิดประตูห้องน้ำครับเผื่อเป็นอะไรผมจะเข้าไปช่วยได้ ผมก็ยืนหรี่ตาบ้างเอามือขึ้นบังบ้างแล้วแต่อารมณ์ พี่เพลิงดูเก้ๆกังๆมากจนเห็นได้ชัด เสียงบ่นพึมพำดังออกมาเป็นระยะเพราะการใช้มือที่ไม่ถนัดมาทำธุระครับ แล้วเมื่อไหร่จะเสร็จวะเนี่ย ผมตื่นเต้นเหมือนไปฉี่เองแล้วนะเว้ย
“เสร็จยัง” ผมถามเร่งออกไปเพราะผมไม่ได้อยากดูคนเข้าห้องน้ำขนาดนั้น
“เสร็จแล้วครับ” พี่เพลิงจัดการกับกางเกงตัวเองแล้วใช้ไม้ค้ำยันพยุงตัวให้หันกลับมาหาผม ผมหลบให้พี่เพลิงออกมาแล้วเดินอยู่ข้างๆจนถึงเตียง ผมรับไม้ค้ำยันมาแล้วให้พี่เพลิงนั่งลง
“ลำบากไหมพี่เพลิง” ผมพูดขึ้นแล้วนั่งคุกเข่ากับพื้นข้างเตียง พี่เพลิงขยับตัวเปลี่ยนท่าแล้วนอนลงกับเตียงครับ
“ก็นิดนึงครับ นอนเฉยๆมันก็เบื่อด้วย” ผมพยักหน้างึกงักอย่างเข้าใจแล้วก็ไม่ได้พูดอะไรอีก คนเจ็บคงจะต้องเจียมตัวสักหน่อยแล้วล่ะครับ เพราะสภาพแบบนี้ผมก็ไม่อยากให้พี่เพลิงออกไปไหนด้วยสิ
“แล้วน้องลมทำไมไม่ไปเรียน หืม?” ผมยิ้มแห้งๆออกมาทันทีเมื่อพี่เพลิงหันมาทำหน้าดุใส่ผม อาจารย์ที่สอนยังไม่ทำหน้าโหดเท่าพี่เพลิงเลยครับ เหอะๆ
“ลมห่วงพี่เพลิงไง แต่ลมเข้าไปเช็คชื่อมาแล้วนะ... ไม่เห็นต้องทำดุใส่แบบนี้เลยนี่หว่า” ผมโวยวายกลบเกลื่อนไปเพราะจริงๆแล้วผมก็ขี้เกียจเรียนด้วยนั่นล่ะครับ และเหมือนพี่เพลิงก็รู้นิสัยผมดีเลยทีเดียว
“ขอโทษครับ แต่พรุ่งนี้ไม่เอาแล้วนะ ต้องไปเรียนตามปกตินะครับ” เหมือนมีพ่อเพิ่มมาครับ ไม่สิพ่อผมไม่ด้วยซ้ำ ทำตัวเหมือนเป็นพ่อผมเลยนะเนี่ย ผมได้แต่เบ้ปากอย่างหมั่นไส้แล้วก็นั่งเงียบอย่างไม่รู้จะคุยอะไร แต่อยู่ดีๆเสียงไลน์จากโทรศัพท์ผมก็ดังขึ้น ผมเลื่อนเพื่อเปิดดูข้อความเต็มๆแล้วก็ต้องนั่งหน้าซีดอยู่อย่างนั้น
กูมีอะไรจะบอก
แม่กูเห็นตอนที่มึงจูบกับกู
เขาไปล็อคบ้านพอดี
แต่ก็อธิบายไปหมดแล้ว
แค่อยากบอกเห็นวันนี้ไม่เข้ามอ
ไม่มีไรหรอก
ผมเงยหน้ามองพี่เพลิงแล้วก้มลงอ่านข้อความอีกครั้ง พี่เพลิงทำหน้าสงสัยผมเลยยิ้มออกมาบางเบาให้พี่เพลิงเห็น
“ลมไปคุยโทรศัพท์แป๊บนึงนะพี่เพลิง”
“ครับ”
ผมระบายลมหายใจออกมาอย่างร้อนรนแล้ววิ่งลงบันไดไปทางฝั่งสระว่ายน้ำ กดเบอร์ไอ้พีทแล้วเดินวนอยู่อย่างนั้น ทีอย่างงี้แม่งรับช้าชิบหาย แม่มันเห็นนะครับ มันไม่ใช่เรื่องเล่นๆเลยนะเว้ย ถึงมันจะบอกว่าอธิบายไปแล้วก็เถอะแต่ผมกังวลและรู้สึกไม่ดีอย่างบอกไม่ถูกเลยครับ
‘ฮัลโหล’ เสียงจากปลายสายทำให้ผมตกใจแล้วรีบขานรับตอบไปทันทีก่อนที่จะพูดถามมัน
“มึงหมายความว่าไงวะพีท” มันเงียบไปพักนึงแล้วก็พูดตอบมา
‘ก็แม่กูเห็น กูก็บอกไปว่ามึงมีผัวแล้ว กูแค่ชอบมึงฝ่ายเดียว ก็แค่นั้น’ แค่นั้น?? นี่แม่งกล้าพูดคำว่าแค่นั้นอัดหน้าผมเลยหรอครับ ผมเครียดนะเว้ย แม่มันผมรักยิ่งกว่าแม่ตัวเองด้วยซ้ำแล้วท่านต้องมารู้อะไรแบบนี้ท่านจะรู้สึกยังไง จะเกลียดผมไหมก็ไม่รู้
“แม่มึงจะเกลียดกูไหม” ผมนั่งชันเข่าแม่งตรงนั้นแล้วพึมพำบ่นกับมัน มันหัวเราะออกมาเบาๆแบบที่มันชอบทำแล้วก็พูดตอบผม
‘แม่กูรักมึงมากกว่ากูอีกมั้ง กูยังคิดเลยว่าจริงๆแล้วนั่นแม่กูหรือแม่มึง’
“กูไม่ตลกไอ้เหี้ย”
‘แล้วมึงหัวเราะทำไม หึ’ แม่งโคตรเหี้ยปนน่ารักเลยจริงๆครับ ผมหลุดยิ้มออกมาไม่หยุดแล้วคุยต่อเรื่องอื่นกับมัน
มันถามอาการพี่เพลิงผมก็ตอบไปแถมมันยังบอกว่ารอเสียบอีกต่างหากผมก็ด่ามันสิครับ แต่ผมรู้ว่ามันไม่ได้คิดจริงจังอะไรอยู่แล้ว ผมได้ยินเสียงไอ้เคนแทรกเข้ามาทั้งที่พวกมันน่าจะเรียนอยู่แท้ๆ พอผมถามมันก็บอกว่าออกเมาหาอะไรกนด้วยกัน อีกอย่างมันบอกผมด้วยว่าช่วงนี้มันเดินกับไอ้เคนบ่อย น่าสงสัยจริงๆ
“งั้นแค่นี้นะมึง กูไปละ”
‘อย่าคิดมากนะมึง มันไม่มีอะไรหรอก’
“โอเค” ผมยิ้มก่อนที่จะกดวางสายแล้วหันกลับไปจะเดินเข้าไปในตัวบ้าน แต่คนที่มาขวางผมอยู่ตรงหน้าผมตอนนี้ คือแม่พี่เพลิง ผมยืนนิ่งและกำโทรศัพท์แน่นด้วยความเกร็ง
“ฉันขอถามหน่อย หนูต้องการอะไรจากตาเพลิง” ผมเงียบไม่เข้าตรรกะความคิดของคนรวยๆเลยจริงๆ แม่พี่เพลิงคิดว่าผมกับแพรเข้าหาพี่เพลิงเพราะเงินหรือไง บ้าชิบหาย
“ผมไม่ได้ต้องการอะไรทั้งนั้นแหละครับ” ผมพูดตอบไปแต่ก็ไม่กล้าสบตาแม่พี่เพลิงอยู่ดีครับ ยอมรับว่ากลัวและกลัวมากจริงๆ
“หวังว่าคงไม่ใช่เงิน ไม่รู้ว่าตาเพลิงขนซื้ออะไรให้หรือเปล่าถึงได้ตามติดกันขนาดนี้” มองผมด้วยสายตาเหยียดหยามตั้งแต่หัวจรดเท้า ผมหัวเราะออกมาเบาๆอย่างไร้สาเหตุ
“ผมคิดว่าแม่พี่เพลิงกับพ่อพี่เพลิงเป็นคนน่ารัก วันที่ผมมาที่นี่ครั้งแรกในฐานะน้องชายของแพรพวกคุณทำให้ผมอิจฉาพี่เพลิงที่มีครอบครัวดูแลดีแบบนั้น สำหรับเด็กที่พ่อแม่ทิ้งไปแบบผมแล้ว ผมอิจฉา อิจฉามากจริงๆ ผมอยากเป็นส่วนหนึ่งในครอบครัวนี้ ผมรักพี่เพลิง พี่เพลิงก็เอ็นดูผมมาก แต่คุณกำลังทำให้ผมผิดหวัง”
“ทำไมต้องทำกับผมขนาดนี้ด้วย เพราะผมเป็นผู้ชายหรอ” แม่งเอ้ย น้ำตาเสือกไหลครับ ผมรีบมองด้านบนแล้วเอามือเช็ดน้ำตาลวกๆ พูดมาซะยืดยาวใครจะมารับฟัง เกลียดตัวเองที่พอมีอะไรมาจี้ปมแล้วก็ชอบน้ำตาไหลออกมาง่ายๆ น่ารำคาญชิบหายเลยครับ
“ฉัน.. ” แม่พี่เพลิงยืนนิ่งแต่มีสีหน้าตกใจ ไม่ให้ตกใจได้ไงครับก็มีคนบ้ายืนน้ำตาคลออยู่ตรงหน้า
“ผมขอโทษครับ” ผมพูดขอโทษไปพร้อมกับก้มหัวให้แม่พี่เพลิงเพื่อขอทางแต่แม่พี่เพลิงก็ไม่ยอมหลบให้ผม ผมเลยเงยหน้าขึ้นมองแม่พี่เพลิง
“มาให้แม่กอดมา” ผมก็ได้แต่ยืนงงอยู่อย่างนั้นจนแม่พี่เพลิงคว้าตัวผมเข้าไปกอด
“ฉันก็เคยเป็นแบบหนู เคยไม่มีใครเลย แต่ฉันมีเขา ทั้งๆที่หนูเหมือนฉันขนาดนี้แต่ฉันกลับใจร้ายได้ลงคอ” ผมประมวลผลไม่ทันครับ ผมรับรู้ทุกๆประโยคที่แม่พี่เพลิงพูดแต่ผมไม่เข้าใจมันเลยสักนิด อาจจะเพราะผมดีใจมากจนหูมันอื้ออึงไปหมด
ขอบคุณโลกใบนี้ที่ทำให้ใครๆก็ไม่รังเกียจผม ขอบคุณจริงๆครับ
“ยังไงซะ หนูก็ไม่รู้เรื่องในอดีตอยู่แล้ว ฉันจะยอมรับหนูแล้วกัน”
______________________________________________________________
(คลานเข้ามาอัพ) มาช้ารอบที่ล้านค่ะ แง พอดีว่าปั่นสลับกับอีกเรื่องหนึ่ง จากที่ช้าอยู่แล้วก็เลยช้ากว่าเดิม
ขอบคุณทุกคนที่ติดตามกันมาถึงตอนนี้นะคะ ตอนหน้าจบแล้วค่ะ ขอบคุณจริงๆนะคะ รักทุกคนเลยยย