เดือนเกี้ยวเดือน #ตอนพิเศษ วัน(ไม่)ธรรมดาของหมอเถื่อน
“ตกลงที่ๆเราจะไปเรี่ยไรก็คือบริเวณทางเข้าตลาดนัดนะ โอเคมั้ย ทุกคนต้องตั้งใจนะ เราไม่ค่อยมีเวลา และก็ที่สำคัญ...” หัวหน้ากลุ่มที่เกรดสูงชะลูดหันเหสายตาของเธอมาที่พวกผม “คิท บีม และก็โดยเฉพาะ..ป่า สามคนนี้ต้องไป เรี่ยไรเงินคราวที่แล้วก็ไม่ยอมไป ไม่รู้ทำอะไรกันอยู่ คราวนี้ต้องไปนะ สาวๆถึงจะได้มาบริจาคกันเยอะหน่อย โอเคมั้ย”
ผมกลอกตาขึ้นไปข้างบนอย่างเซ็งๆ ปกติแล้วหน้าที่ของผมคืออยู่เบื้องหลังโครงงานชิ้นนี้ต่างหาก ไม่ใช่อยู่เบื้องหน้าแบบนี้ หมดกันเลย เดทอันสวยหรูที่ผมคิดไว้ตลอดคาบที่เรียนทั้งวันว่าจะพาโยไปกินจิ้มจุ่ม...หมดกัน
เพื่อนผมแต่ละคนแม่งก็ไม่รู้เป็นห่าไรกัน ไอ้คิทเล่นโทรศัพท์ทั้งวี่ทั้งวันมีคนทักมาหามันไม่หยุด เหมือนมันจะทำหน้ารำคาญนะครับ แต่เอาเข้าจริงๆแม่งตอบกลับชิบหาย กลายเป็นว่าเหมือนจะคุยยาวไปซะฉิบ ทั้งๆที่มันบอกว่าไม่ต้องทักมาแล้วรำคาญ แต่มันก็ตอบกลับไปอยู่เนืองๆ
เห็นชื่อคนทักอยู่รำไร...มุ้งมิ้งๆอะไรของแม่งนั่นแหละ...เหอะ ท่าจะเสร็จเด็กวิศวะก็งานนี้เพื่อนผม
ส่วนอีกคน...ผมไม่รู้ว่าไปกินรังแตนที่ไหนมา หงุดหงิดชิบหายตั้งแต่เช้ายันเย็น หงุดหงิดแบบที่ผมกับคิทก็ไม่กล้ายุ่ง มันเบ้ปากใส่โทรศัพท์และก็โยนไปให้ไอ้คิทบอกเอาไปไกลๆกู...เห็นแว้บๆว่ามีกี่มิสคอลก็ไม่รู้
ตกลงพวกแม่งสองคนก่อเรื่องอะไรไว้รึเปล่านี่ ทำไมโดนตื๊อโดนตามอะไรขนาดนี้
“เห้ย...บีม มึงไหวป่ะวะ” ผมจับแขนเพื่อนเอาไว้ มันเดินท่าแปลกๆแถมสะกิดนิดเดียวมันก็อาจจะล้มได้ “ไปทำเหี้ยไรมา ออกกำลังกายผิดท่าเหรอ”
“งั้นมั้ง” มันบอกปัดเสียงแข็ง
“ได้ข่าวว่าไปกินกับพวกไอ้โฟร์ทมานี่ ไม่ชวนเลยนะสาด” คิทโวยวาย หลังจากนั้นไอ้บีมแม่งก็หงุดหงิดไปมากกว่าเดิม...ผมกับคิทมองหน้ากันด้วยความงง จนกระทั่งพวกเราเดินหอบหิ้วฟิวเจอร์บอร์ดโครงการปันรักให้น้องที่เป็นโครงงานที่พวกเราจะไปทำมายังหน้าคณะ และผมก็มองเห็นคนใส่เสื้อช้อปสีน้ำเงินอยู่ไหวๆ
มันเดินมาทางนี้ทันทีที่เห็นพวกผม...ผมหรี่ตามองมันอย่างจับผิด ไอ้เชี่ยโฟร์ทมาทำอะไรแถวนี้ว้า
“เห้ยโฟร์ท หวัด...” คิทกำลังจะทักทายเดือนวิศวะปีผม แต่ไอ้นั่นมันไม่ได้สนใจหรือไม่ได้ยินก็ไม่รู้แม่งพุ่งมาหาเพื่อนผมที่อยู่อีกข้างเฉยเลย
ไอ้บีม...
“ไม่รับสายเลยวะ”
“กูเรียนอยู่” บีมพยายามเดินหนี
“อย่างน้อยก็ตอบแชทกูหน่อยดิวะ”
“ไม่ตอบโว้ย...กูจำเป็นต้องตอบมั้ยล่ะไอ้สัด”
“จำเป็นสิ...กูเป็นห่วงมึงนะ”
ว๊อทเดอะฟัx
อะไรของพวกแม่ง ผมกับคิทมองหน้ากันแล้วรู้เลยว่ามีคำถามเหมือนกันเกิดขึ้นในหัว
เกิดอะไรขึ้นกับพวกมันสองคน
“พวกมึงสองคนไม่รับกันเหรอวะ ยัยหัวหน้าแม่งเร่งแล้วอ่ะ” บีมเดินนำหน้าพวกผมไป มีไอ้โฟร์ทเดินเดินตาม และมีผมกับคิทเดินตามอย่างงงๆอยู่หลังสุด
“กูช่วยถือ” โฟร์ทแย่งของในมือไอ้บีมไปถือ
“เห้ย เอามา”
“ไม่เป็นไร สบายมาก...มึงโอเคอยู่ใช่มั้ย”
“กูจะไม่โอเคเพราะมึงเนี่ย เอาของกลุ่มกูมา”
“ไม่” โฟร์ทหันกล่องบริจาคหนีไปทางอื่นไม่ให้บีมมันแย่งได้
“ไอ้เชี่ย มึงนี่มัน...”
“กูต้องพยุงมึงมั้ย...มึงเดินไหวแน่นะ”
“ไม่ต้อง”
“แน่นะ...แล้วเมื่อคืนมึงได้กินยาป่ะ”
“ไม่กินเหี้ยไรทั้งนั้นอ่ะ”
“หมอเชี่ยไรไม่ดูแลตัวเอง แล้วอย่างงี้จะหายเจ็บเหรอวะ”
“แล้วมันเพราะใครกันล่ะวะ!”
ตอนนี้พวกมันเหมือนอยู่ในโลกของมันสองคนไปแล้ว โดยที่มีผมกับคิทอยู่ในโลกแห่งความงงจากทางด้านหลัง ไม่กล้าเอ่ยถามอะไรทั้งนั้น แต่ที่แน่ๆก็คือมันไปสนิทกันมากกกกกกกกกขึ้นมาแบบนี้ได้ยังไง เพราะที่ผ่านมาตั้งแต่ไปกินเหล้าด้วยกันมา ผมกับไอ้โฟร์ทสนิทกันที่สุด คิทกับบีมค่อยตามหลังมา เพียงแต่ว่าผมไม่ค่อยได้ไปกินกับโฟร์ทหลังจากนั้นเพราะมีเรื่องโยแทรกขึ้นมา
ไม่ว่าจะยังไง ไอ้บีมก็ไม่น่าจะไปสนิทกับไอ้โฟร์ทแบบสนิทกันเร็วขึ้นเพียงชั่วข้ามคืนแบบนี้
“มึง...มีอะไรจะถามไอ้เชี่ยบีมใช่มั้ยวะ” คิทเอียงคอมากระซิบกับผม
“ไม่ต้องถามหรอก ให้แม่งเล่าเองดีกว่า”
“แต่ว่า...มันจะเล่าเหรอวะ”
“ไม่รู้แต่ที่แน่ๆ...เชี่ยโฟร์ทนี่แม่งตื๊อเพื่อนเราชิบหาย”
ไม่ว่าจะเดินไป นั่งรถของมหาลัยไป ไอ้เชี่ยโฟร์ทแม่งก็ตามติดไอ้บีมอย่างกับปลิง มันไม่สนใจที่บีมทำหน้ารำคาญชิบหาย มันเอาแต่ถาม ถาม และก็ถาม ทำตัวให้บีมมันอยากจะถีบมากอะไรมาก ผมกับคิทไม่มีโอกาสแม้แต่จะพูดกับพวกมันสองคนเลยครับ
จนกระทั่งมาถึงทางเข้าตลาดนัดนั่นแหละ ไอ้โฟร์ทมันถึงปล่อยให้บีมมันได้ถือกล่อง และมันก็เดินถอยหลังไปดูอยู่ห่างๆ
ผมที่เดินมาอยู่ข้างๆไอ้บีม เตรียมที่จะถามคำถามเรียบร้อย(ไหนผมบอกจะไม่ถามวะ?) แต่ก็ต้องฟังยัยหัวหน้าพูดอยู่ดีว่าควรพูดแบบไหนให้เขาสนใจที่จะมาร่วมทำบุญกับพวกเรา
“ทำไมเชี่ยโฟร์ทต้องมาตามติดมึงขนาดนี้ด้วยวะ” ไม่ใช่ผมที่ถาม แต่เป็นไอ้คิท มันยืนอยู่อีกข้างของผมและมันก็ถามแบบข้ามหน้าข้ามตาผมไปเฉย
บีมถอนหายใจเสียงดังพรืด ก่อนที่จะบอกว่า “พวกมึงต้องช่วยกูนะ กันเชี่ยโฟร์ทออกไปจากกู”
“ทำไมวะ”
“มัน...” บีมสะดุดไปนิดหน่อยก่อนที่จะพูดออกมาด้วยใบหน้าบูดบึ้ง “...น่ารำคาญ”
“ปกติมึงออกจะปลื้มมันนี่” คิทตั้งข้อสังเกต “มึงออกจะชมมันบ่อยไปลับหลังมันอ่ะว่าหล่ออย่างงั้น เท่อย่างงี้ เหมาะกับเดือนมหาลัยมากกว่าไอ้ป่า”
“เห้ย อันนั้นกูแกล้งไอ้ป่ามันเฉยๆเวลากูโมโห” มันเถียง
“ไม่มั้ง...” ผมนึกถึงตอนที่มันพูด “มึงออกจะจริงจัง”
“ไอ้พวกเชี่ย” บีมบ่น “เอาเป็นว่า...ถ้ามึงรักเพื่อนมึง กันไอ้เชี่ยโฟร์ทให้มันออกไปห่างๆกูละกัน”
“พวกกูอยากรู้เหตุผล” คิทกับผมยังคงเซ้าซี้มันอย่างต่อเนื่อง
“มันทำร้ายกู”
ทำร้าย? ผมกับไอ้คิทมองหน้ากัน ยังไม่ทันจะได้ปรึกษาหาความอะไรกัน ยัยหัวหน้าก็เดินมาควบคุมความประพฤติแล้ว ให้พวกผมปั้นหน้าหล่อๆเรียกคนมาบริจาคกันเยอะๆแทนที่จะจับกลุ่มคุยกันไม่เป็นการเป็นงาน
ใช้เวลาไม่นานนัก กล่องในมือผมก็มีสารพัดธนบัตรสารพัดเหรียญหลั่งไหลมาหยอดใส่ไม่หยุด ผมโค้งและกล่าวขอบคุณจนเหนื่อย กล่องของไอ้บีมกับไอ้คิทก็ไม่ได้มีว่างเว้นมีมาอย่างต่อเนื่อง แต่มันไม่ปกติตรงไหนรู้มั้ยครับ
ถ้ามีผู้ชายปีหนึ่งท่าทางโมเอะๆหน่อย(เอาเป็นว่าเป็นโยเวอร์ชั่นตัวเล็กๆเตี้ยๆละกัน) มาหยอดกล่องไอ้บีม ซึ่งมันก็ออกจะชอบสไตล์นี้ มันเอาแต่ยิ้มรับ และก็ส่งสายตาเจ้าชู้ใส่น้องเขา (ตกลงมึงหญิงก็ได้ชายก็ดี?) ไอ้คนที่ใส่เสื้อช้อปอยู่ห่างๆมันจะเดินมาหยอดกล่องไอ้บีม...ตัดหน้าน้องผู้ชายโมเอะๆพวกนั้น ผมกับไอ้คิทนับกันเล่นๆประมาณห้าครั้งแล้วที่โฟร์ทมันทำแบบนี้
ผิดปกตินะนี่...ไม่น่าจะกวนตีนไอ้บีมเฉยๆ...เพราะมันไม่ได้สนใจว่าไอ้บีมจะหน้าหงิกแค่ไหน มันเอาแต่จ้องหน้าบีมแบบโหดๆ
แม่ง...หมอเถื่อนต้องจับเข่าคุยแล้วล่ะครับแบบนี้
“ป่า ทำไมมึงไม่กันไอ้โฟร์ทช่วยกูเลยวะ” บีมเหน็บผม
“กันห่าไร มันเอาเงินมาบริจาคก็ต้องรับสิ กูเห็นแต่แบงก์สีเทาๆ” ยัยหัวหน้านี่ชอบนักเชียวแบงก์ใหญ่สีเทานั่นน่ะ
“ไอ้สัด...”
“ก็ได้ๆ...ถ้ากูกันให้...มึงสัญญากับกูมาก่อนว่ามึงจะเล่าเรื่องมึงกับโฟร์ทให้กูฟัง”
ไอ้บีมชะงัก...ใบหน้ามันมีสีระเรื่อขึ้นเล็กน้อย ผมกับคิทมองหน้ามันอย่างจับผิด แต่ก็ทำอะไรมากไม่ได้เพราะต้องรับยอดบริจาคที่เข้ามาอย่างล้นหลาม
ไม่นานนักผมก็ได้เห็นใครบางคนเดินเข้ามาหาไอ้โฟร์ท สองคนนั้นทำท่าเหมือนจะทักทายกันธรรมดา ที่พบเห็นเพราะโฟร์ทมันยืนประจันหน้าอยู่ฝั่งตรงข้าม และที่เด็ดไปกว่านั้นคือคนที่มาหามันนั่นแหละ
แฟนผมนี่หว่า...
“เชี่ย” ผมสบถ จะโยนกล่องรับบริจาคไปให้เพื่อนข้างๆมันถือแทนก่อนแล้วแต่ทว่าโยหันมาทางผมพอดี ส่งยิ้มแป้นให้พร้อมๆกันโบกมืออย่างแรงมาให้ผม
จะหึงมันก็หึงอยู่หรอก แต่เจอยิ้มมัดจำแบบนั้นแล้ว คืนนี้ต้องจ่ายเต็มด้วยการจูบสักหน่อย...
โยไม่เข้ามาหาผม ท่าทางจะปล่อยให้ผมทำงาน เขายืนกินลูกชิ้นถุงใหญ่ส่งให้ไอ้โฟร์ทที่ส่ายหน้าปฏิเสธด้วย ส่วนข้างๆโยอีกฝั่งนั่นคือไอ้มิ่ง...มันไม่ได้กินลูกชิ้น แต่มันยืนนิ่งๆราวกับว่ามาเป็นบอดี้การ์ดให้เพื่อนของมันแน่ะ
มิน่าล่ะมีอะไรยุกยิกๆอยู่ข้างหลังผม...เพราะไอ้มิ่งมานี่เองไอ้คิทถึงเอาแต่หลบมันอยู่ข้างหลัง
“เชี่ยไรเนี่ย” ผมบ่น “หลบมันทำไม...”
“ไม่รู้...มันจ้องกูทำซากอะไร”
“มันก็มองปกติป่ะวะ”
“ไม่รู้ แต่กูไม่กล้า เอ๊ย ไม่อยากมองหน้ามัน”
“อะไรของมึงเนี่ย”
ตอนนี้ในแก๊งหมอเถื่อนมีผมนี่แหละที่ปกติสุด...ไม่นานนักไอ้เดือนมหาลัยปีนี้ก็เดินหล่อเข้ามาข้างหน้าพวกผมพร้อมๆกับเปิดกระเป๋าตังค์ล้วงแบงก์ออกมา สีเทาด้วยครับพี่น้อง!
“อะไร” ผมแกล้งถามหาเรื่องไอ้มิ่ง
“พี่ป่า...พี่คิทอยู่ไหนอ่ะ” มันแกล้งโง่หน้าๆไอ้หน้าหล่อเนี่ย
“เกาะเป็นปรสิตอยู่หลังกูเนี่ย”
ผมว่ามันควรจะโผล่ไปให้ไอ้มิ่งเห็นหน้ามากกว่านะ ทำแบบนี้ยิ่งน่าอายไอ้สัด...
“บอกเขาโผล่ออกมาหน่อยได้มั้ยครับ ผมอยากบริจาคอ่ะ”
“หย่อนลงกล่องกูก็ได้” รักเพื่อนต้องหวงเพื่อนนิดนึง...มันจะได้เลี้ยงเหล้า
“แต่...”
“หยิบออกมาอีกแบงก์เชี่ยคิทจะโผล่”
ไอ้มิ่งมองหน้าผมอย่างอึ้งๆ ผมยักคิ้วจึกๆท้าทายมันอย่างนึกสนุก(จะดีมั้ยเนี่ยเรี่ยไรเงินโดยเอาเรื่องที่เพื่อนโดนจีบมาช่วยเนี่ย) ไอ้มิ่งยิ้มมุมปาก ก่อนที่จะควักออกมาอีกใบ
สีเทาอีกแล้ว...ไอ้พวกเดือนวิศวะมันจะรวยอะไรปานนั้นวะ
ผมใช้ศอกสะกิดไอ้คิทให้โผล่ไปรับเงิน ไอ้คิทเอาแต่ดิ้นอยู่นั่น
“ไม่เอา”
“โผล่ออกไปดิสาด...”
“กูไม่...”
“มึงไปทำห่าไรไม่กล้าโผล่หน้าไปเจอมันเนี่ย”
“กูส่งสติ๊กเกอร์ผิด...”
ผมปล่อยให้ไอ้มิ่งยืนรออยู่ข้างหน้าต่อไป แล้วหันมาเผือกกับไอ้เพื่อนตัวเล็กที่เกาะหลังผมแทน
“ส่งไปว่าไง”
“แม่ง...”
“ว่าไงล่ะ...”
“รักนะ...”
“ฮ่าๆๆ”
“ไม่ขำนะเว้ย”
“ก็บอกมันไปดิว่าส่งผิด”
“กำลังจะบอกอ่ะแหละ...แต่แม่งรัวใส่หูมาเต็ม หัวใจนี่เพียบ...บอกรักนี่ก็เพียบ สติ๊กเกอร์ทั้งนั้น”
“และมึงก็อาย แค่นั้นใช่มั้ย?”
“เออ”
“สาด ก็แค่สติ๊กเกอร์...”
“ไม่รู้โว้ย เหี้ย เสียแมนหมดเลยกู”
ผมแอบเหลือบมองเพื่อนอยู่ข้างหลังแม่งหน้าแดงแปร๊ด...รู้สึกว่าตัวเองแมนกว่าเพื่อนก็คราวนี้ ผมต้องดูแลมันกันท่าไอ้หนุ่มที่มาจีบมันให้มันใช่มั้ยนี่
ผมจับแขนมันให้โผล่หน้ามารับเงิน...ไอ้มิ่งทำหน้ายิ้มเล็กยิ้มน้อยส่องดูเพื่อนตัวเล็กข้างหน้าผม ท่าทางมันจะแหย่เก่ง และไอ้คิทตอนนี้ก็พ่ายแพ้ต่อการโดนแหย่เหลือเกิน
“มองทำเหี้ย...รีบหยอดแล้วก็รีบไปดิ”
มันโวยวาย...หลับหูหลับตาพูด...
“เสร็จกี่โมง กลับกับผมนะ” ไอ้มิ่งพูดกับคิท
“ใครบอก มันกลับกับกู” ผมแกล้งสวมรอยเพื่อนผู้หวงเพื่อน ไอ้คิทมองผมเหมือนผมเป็นฮีโร่ ส่วนไอ้มิ่งเลิกคิ้ว...
“แล้วพี่จะไม่กลับกับโยเหรอครับ วันนี้มันบ่นอยากกินจิ้มจุ่มแน่ะ มันรอกินกับพี่นะ”
“หา...จริงเหรอ” ผมร้องก่อนที่จะมองหน้าโยที่ยืนข้างโฟร์ท...น้องมันอยากกินจิ้มจุ่มจริงเหรอวะ ก็เห็นยังเคี้ยวลูกชิ้นตุ้ยๆอยู่นั่น “อืม...งั้นให้เชี่ยคิทกลับกับมึง”
ไอ้คิทอ้าปากหวอใส่ผม
“ตามนั้นครับพี่...ขอบคุณนะครับพี่ป่า ผมกับโยรอแถวนี้นะ!”
ตอนที่ไอ้มิ่งเดินออกไป...ผมมองหน้าไอ้คิทก่อนจะยิ้มแหย...กูโหดได้เท่านั้นแหละเพื่อน และอีกอย่างมิ่งมันก็เป็นคนดี ยอมๆมันไปเหอะ
“อูย...” ผมได้ยินเสียงที่ยืนอยู่อีกข้างร้องโอย
“มึงเป็นไร...”
“กูเหนื่อยเฉยๆ”
“เออว่ะ หน้ามันซีดๆนะ แถมยังยืนไม่ค่อยจะอยู่” คิทออกความเห็น
จู่ๆมันก็คงป่วยขึ้นมาล่ะมั้ง ผมบอกมันให้ไปพักตรงนู้น แต่มันบอกว่าให้ยอดบริจาคเต็มกล่องก่อนมันค่อยไปพัก...ไม่นานนัก ไอ้เสื้อช้อปสีน้ำเงินก็โผล่มาอีกแล้ว คราวนี้อ้อมมาทางด้านหลัง
“เอามานี่...ช่วย” ไอ้โฟร์ทแย่งกล่องไอ้บีม ซึ่งมันไม่ยอม
“ไม่...เสือกจริงวะ”
“นี่น้ำ” น้ำที่มือไอ้โฟร์ทที่เปิดฝาพร้อมเสียบหลอดถูกยื่นเข้าจ่อปากไอ้บีม “ดื่มสิ”
“ไม่...”
“กูเห็นมึงเลียปาก มึงกระหาย”
“ไอ้สัด”
“ดื่ม”
“ไม่”
“หรือจะให้ใช้ปากกูป้อน”
ไอ้เหี้ย...
เหี้ย...
เหี้ยยยยยยยยยยยยยยยยยยย
ผมได้ยินอะไรผิดหูป่ะวะ....ผมอ้าปากค้างมองหน้าพวกมันสองคนด้วยสายตาตื่นตะลึงไม่ต่างจากไอ้คิท มันเกิดเหี้ยอะไรขึ้นกับพวกมึงสองคนไม่ทราบ
ผมกระแอม...ก่อนที่ดึงไอ้บีมมาข้างหลังผมแล้วประจันหน้ากับไอ้โฟร์ท(เล่นบทเพื่อนผู้หวงเพื่อนครั้งที่สอง)
“เพื่อนกูบอกว่าไม่ก็คือไม่ไง”
“ถ้ามึงรู้ว่ามันเป็นอะไรกูก็จะปล่อยมันให้อยู่กับมึง แต่นี่มึงไม่รู้”
“ทำไมกูจะไม่รู้” ผมสาดเสียงใส่ แต่ข้างในจิตใจตะโกนเสียงดังว่า เออ กูไม่รู้วววววว! พวกมึงบอกกูเส่ะ!
“ถ้ารู้แล้วก็ถอยไป...ให้กูได้รับผิดชอบ”
ผมคิดว่าผมได้เค้าลางๆแล้วล่ะว่าเกิดอะไรขึ้นกับพวกมันทั้งสองคน แต่ถ้าพูดตรงๆไอ้คนที่สดใสมาตลอดอย่างไอ้บีมมันอาจจะต่อยเอาได้
ผมมองหน้าเพื่อนอย่างชั่งใจ...เพื่อนเอาแต่จ้องผมเขม็ง...สรุปคือกูต้องกลายเป็นคนที่ดูแลพวกมึงไม่ให้ผู้ชายมากร้ำกรายแล้วเหรอวะเพื่อน?
“ถ้ามึงทำมากกว่ารับผิดชอบเฉยๆ...กูถึงจะถอย”
ผมจ้องหน้าไอ้โฟร์ทเขม็ง หวังเป็นอย่างยิ่งให้มันเข้าใจว่าผมหมายความว่าไง ผมกับมันรู้ใจกันดีในระดับหนึ่งจากที่เคยๆนั่งกินเหล้าโต๊ะเดียวกันมา ผมว่ามันน่าจะรู้ว่าผมหมายความว่าไง
ทำมากกว่ารับผิดชอบในความหมายของผม...ก็คือยกหัวใจให้เพื่อนผมและก็ดูแลเพื่อนผมดีๆซะ...
ไอ้โฟร์ทไม่ใช่คนโง่ มันยิ้มมุมปากก่อนจะตอบ
“ดูจากการกระทำกู...มึงก็น่าจะรู้นะ...กับโยกูไม่ได้เยอะขนาดนี้”
ตกลงมันตัดใจได้แล้วใช่มั้ย...ผมจ้องหน้ามันราวกับให้มันตอบคำถามผมผ่านทางสายตา ซึ่งมันก็บ่งบอกชัดเจนว่ามันตอบว่าไง
“งั้นก็...” ผมยักไหล่ “...ป้อนมันแบบนั้นมันไม่แดกหรอก เอามานี่”
ผมแย่งน้ำในมือไอ้โฟร์ทมา แล้วส่งให้ไอ้บีม ตอนแรกมันก็จะไม่ดื่มหรอก แต่พอเห็นสถานการณ์มันบีบบังคับ อีกอย่างที่นี่แม้จะเย็นแล้วแต่แดดก็ยังร้อน มันคงกระหายจริงๆนั่นแหละ...
“กินน้ำมั้ยครับ”
ไอ้มิ่งที่โผล่มาจากไหนก็ไม่รู้ยื่นน้ำมาให้ไอ้คิท แกะขวดให้พร้อมๆกับเสียบหลอดเหมือนบรรพบุรุษเดือนวิศวะของมันเด๊ะๆ ไอ้คิทตกใจมากในตอนแรก
“กู...” มันก็เป็นเหมือนไอ้บีม หิวน้ำเหมือนกันก็เลยต้องเอามาดื่มกินแบบขี้เกียจลีลา
ไอ้บีมมีไอ้โฟร์ท แล้วไอ้คิทมีไอ้มิ่ง ผมล่ะ?
“พี่ป่าาาาาาา”
ไม่ทันขาดคำ...โยของผมก็มาแล้วครับ...จิ้มลูกชิ้นให้ผมลูกหนึ่ง และก็บอกให้ผมอ้าปาก “อ้าปาก...อ้ำ อ้ำ”
หึหึ...ชนะเพื่อนใสๆ หัวหน้าก็คือหัวหน้า หวานที่สุดมากกว่าใครเพื่อนอยู่แล้ว ผมยิ้มให้โยก่อนที่จะอ้าปากตามที่เขาขอ ตอนที่ผมเคี้ยวลูกชิ้นที่เขาป้อนให้ ดูเขามีความสุขมากเลยทีเดียว
“เดี๋ยวนางฟ้ามันจะมารับไปทำรีพอร์ตแลปนะ เจอกันที่หอเย็นนี้นะ”
ผมชะงัก... “อ้าว...โยไม่ได้อยากกินจิ้มจุ่มหรอกเหรอ พี่ว่าจะพาไปกิน”
“พี่ป่าต่างหากที่ชวน โยไม่เคยบอกว่าอยากกินนะ”
ผมหันไปหาไอ้มิ่งที่ตอนนี้สะดุ้งโหยง...ก่อนที่จะทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้
กูไม่ไฟเขียวให้มึงแล้ว ไอ้สัด!
“คิท มึงมานี่” ผมกระชากตัวเพื่อนให้มายืนใกล้ผม ไอ้มิ่งมองตามไอ้คิทสายตาละห้อย “กลับกับกูเนอะ...”
“แน่นอน” ข้อเสนอนี้ไอ้คิทชอบมาก
“กูกลับด้วยสิ” ไอ้บีมพูดแทรก
ผมมองหน้าไอ้โฟร์ท...กูไม่รู้กูพาล...เพื่อนกูกูหวงป่ะวะ
“ได้ บีมกับคิทกลับกับกู พวกมึงไม่ต้องรอแล้ว”
ผมทำหน้าเหมือนกุมชัยชนะ...แกล้งพวกเดือนวิศวะนี่มันสนุกจริงๆ...แม่งมาทำให้หมอเถื่อนของผมเกิดวันที่วุ่นวายแบบนี้ได้
“นี่แน่ะ” โยเอื้อมมือมาต่อยท้องผมเบาๆ
“อะไรเนี่ย” เสียงของผมเปลี่ยนไปจากโหดๆกลายเป็น...แห้วๆ
“หมั่นไส้..”
“หมั่นไส้ไรเล่า”
“แกล้งเพื่อนโยทำไม แกล้งพี่โฟร์ทอีก...”
“อะไรเล่า เพื่อนใครใครก็หวงป่าว”
“ไม่ต้องเยอะเลยนะ...”
“เยอะไรล่ะ”
“…”
“งอนเหรอ”
“…”
“นี่งอนเหรอ...โย...งอนพี่เหรอ”
“เสียงดังใส่ทำไม”
“หา”
“พี่ป่าเสียงดังใส่โยอ่ะ”
“ตอนไหน...มีแต่อธิบายนะ”
“ตอนนี้ไง...”
“หา...”
“ฮ่าๆๆ”
จู่ๆโยก็หลุดหัวเราะ...แล้วตอนที่ผมรู้ตัวว่าโดนแกล้ง รอบตัวผมก็ไม่มีหมอเถื่อนเหลือสักคน
ทางซ้ายมือไอ้คิทโดนไอ้มิ่งลากเข้าไปในตลาดนัด
ทางขวามือไอ้บีมโดนไอ้โฟร์ทลากให้ออกไปจากที่ๆวุ่นวาย
เพื่อนเอ๋ย...กูขอให้พวกมึงโชคดีละกัน...
ผมหันมายิ้มใส่โยก่อนจะแกล้งบ่นน้อยๆ “ไอ้ตัวแสบ...”
“พี่คิท...หิวใช่ม้า...อยากกินอะไรกินไปเลย”
“มึงนี่มันตื๊อจริงๆ”
“เดี๋ยวพี่จะหาว่าผมส่งสติ๊กเกอร์สวนทางกับการกระทำ”
“…”
“ชอบก็คือชอบไง รักก็คือรักไง...พี่เข้าใจใช่มั้ย”
“ไหวมั้ย...กูพยุงมั้ย”
“ไอ้สัด กูไม่ได้ท้อง!”
“งั้นกูอุ้มดีกว่า”
“ไม่!”
“โวยวายเสียงดังดีจัง...วู้...กูชอบ”
“ไอ้เหี้ยเอ๊ย!”
TBC*
TALK : สามคู่ชูชื่น...ใครที่รอคอยให้พี่ป่าเผด็จศึกน้องโยอยู่ใจเย็นๆนะจ๊ะ 555
