ตอนที่ 34
คุณหนูไฮโซ
DINZ Chattel
ร่างสูงนั่งตรวจงานที่เป็นรายงานยอดขาย ที่ผู้จัดการฝ่ายการตลาดนำแฟ้มรายงานยอดขายของเดือนที่แล้วมาให้ปฐพีตรวจสอบ ก่อนจะเซ็นลายเซ็นตัวเองลงไปเพื่อตอบรับว่าตนเองได้ตรวจสอบแล้ว
“เดี๋ยวเอาไปให้พัฒน์ตรวจสอบอีกที”
“ได้ครับท่านประธาน”
“ยังไงเดือนนี้ก็อย่าให้น้อยกว่าเดือนที่แล้วล่ะ เดี๋ยวยังอาทิตย์หน้าจะเรียกประชุมผู้จัดการทุกแผนกก็แล้วกัน” พูดกับผู้จัดการการตลาดเสียงเนือยๆ
“ครับท่าน”
“เชิญ”
“ค่ะ...ครับ” ถึงแม้ว่าผู้จัดการคนนี้จะทำงานร่วมกับปฐพีมา 2 ปี กว่าๆ แล้ว แต่ก็ไม่ได้ทำให้เขาชินกับความเย็นชาของผู้ชายคนนี้เลย
ปฐพี มีความสามารถในการที่ทำให้ทุกคนในบริษัทเกรงกลัวได้ กลับกันแล้วความสามารถ ความเก่งกาจของเขากลับทำให้เขาได้รับความชื่นชมเช่นกัน
“คุณผกาเข้ามาข้างในหน่อยครับ” ปฐพีต่อสายไปยังเลขาของตนที่นั่งอยู่หน้าห้อง
(ได้ค่ะท่านประธาน)
นั่งรอไม่นานเลขานุการวัยกลางคนก็เดินเข้ามาในห้องก่อนจะถามเจ้านายของตนด้วยความสุภาพ
“พัฒน์บอกคุณแล้วใช่ไหมว่าลูกสาวคนโตของคุณปกรณ์จะมาฝึกงานที่นี่ ยังไงคุณช่วยสอนงานเธอด้วยก็แล้วกัน และคุณรู้ใช่
ไหมว่าผมจะบอกอะไรคุณ” ถามเสียงเรียบ
“ค่ะ...ห้ามให้คนที่ไม่ได้รับอนุญาตจากท่านเข้ามาที่ห้องนี้เด็ดขาดค่ะ”
“ก็ดี แล้วรู้ใช่ไหมว่าถ้าเข้ามาได้คุณจะได้รับอะไร”
“เอ่อ...ทราบค่ะท่าน”
“ก็ดี ถ้าเธอคนนั้นทำตัวไม่เหมาะสม ไม่เชื่อฟังคุณ ก็ให้แจ้งผมทันที และถ้าคุณไม่แจ้ง คงรู้ใช่ไหมว่าจะเจออะไร”
“ส่ะ ทราบค่ะ” รับคำสั่นๆ
เธอรู้ตัวดีว่าเจ้านายของเธอน่ากลัวขนาดไหน แม้ว่าเธอจะอายุมากกว่าเขายังไง ผู้ชายคนนี้ก็ไม่เคยสนใจเลยสักนิด แต่เธอก็ไม่ถือสาเพราะว่าสิ่งที่เธอโดนติก็คือสิ่งที่เธอทำพลาดจริงๆ
ไม่ใช่เจ้านายที่สักแต่ว่า ด่า หรือสั่งอย่างเดียว
“ไม่ต้องเกรงใจว่าเธอเป็นลูกสาวของลูกค้าของเรา เพราะมาฝึกที่นี่เธอก็คือลูกน้องของคุณ เข้มงวดได้ตามแบบของคุณเลยนะคุณผกา” ร่างสูงพูด
“ได้ค่ะท่าน”
“ทางนั้นติดต่อมาว่าจะมาวันนี้ตอน 9 โมงเช้า ให้คุณดูเวลาตอนนี้ไว้ พอเธอมา ก็แล้วแต่คุณเลย ผมมอบหน้าที่ให้กับคุณแล้ว”
“ค่ะท่าน”
“เชิญคุณทำงานต่อได้ครับ”
“ขอตัวค่ะท่าน” เธอโค้งตัวน้อยๆ แล้วเดินออกจากห้องทำงานส่วนตัวของปฐพีไป
ร่างสูงถอนหายใจออกมาน้อยๆ อย่างหนักใจ เพราะแค่วันแรกลูกสาวของปกรณ์ก็มาสายแล้ว บอกว่าจะมา 9 โมง ตอนนี้ 10 โมงกว่าๆ แล้วยังไม่ว่า ไม่ใช่ว่าเขารออะไรหรอก
แต่คนอย่างปฐพีไม่ชอบคนไม่ตรงเวลา เพราะมาให้ตรงเวลาแค่นี้ยังทำไม่ได้ แล้วจะเอาอะไรกิน
หน้าห้องทำงานของปฐพี
สาวสวยหุ่นดีในชุดทำงานรัดรูป เผยให้เห็นสัดส่วนโค้งเว้าของเจ้าตัวได้อย่างชัดเจน ใบหน้าแต่งหน้าจัดๆ สร้างความโฉบเฉี่ยวและเซ็กซี่ เจ้าของร่างเดินมาที่โต๊ะเลขาหน้าห้องของปฐพีด้วยความมั่นใจ สีหน้าวางเฉยเชิดหยิ่ง ประหนึ่งเป็นคุณหญิงและตระกูลผู้สูงศักดิ์
“สวัสดี ฉันมาฝึกงานที่นี่กับคุณปฐพี” เธอบอกจุดประสงค์ออกมา
“สวัสดีค่ะ ช่วยแนะนำชื่อด้วยค่ะ” เลขาของปฐพีลุกขึ้นถามยิ้มๆ โดยไม่รู้ว่าผู้หญิงตรงหน้าเป็นยังไง
“ฉันชื่อมัณฑิตา เรียกหมิวก็ได้” เธอตอบห้วนๆ
“ฉันชื่อผกา เรียกพี่แพรก็ได้ค่ะ อายุ 35 ปี” ผกาแนะนำตัวโดยที่เน้นคำว่าพี่กับอายุมากเป็นพิเศษ เผื่อผู้หญิงตรงหน้าจะรู้สึกนับถือและให้เกียรติตนมากขึ้น
“ช่างเถอะ ฉันจะเข้าไปหาคุณปฐพีเพื่อให้เขาสอนงานให้ฉัน” มัณฑิตาพูดแบบไม่ใส่ใจ ก่อนจะเดินไปที่ประตูห้องทำงานของปฐพี แต่ก็ไม่ได้เข้าไปง่ายๆ ในเมื่อร่างสูงโปร่งของเลขาของปฐพีได้มายืนขวางไว้ได้อย่างรวดเร็ว
“ห้ามเข้าไปค่ะคุณน้อง ท่านประธานไม่ชอบให้ใครเข้าไปถ้าหากท่านไม่อนุญาตหรือเรียกเข้าไป”
“ถ้างั้นเธอก็ต่อสายไปบอกคุณปฐพีสิยะ” เธอสั่งด้วยท่าทางที่มั่นใจ
เธอเชื่อว่าเธอควรจะเป็นคนได้เข้าไป เราะอย่างน้อยปฐพีก็ต้องให้เกียรติและไว้หน้าบิดาของเธอที่ขึ้นชื่อว่าเป็นลูกค้ารายใหญ่ของบริษัทนี้
“ท่านสั่งการมาที่ฉันแล้วค่ะน้องหมิวว่า ให้พี่เป็นคนสอนงานคุณน้องน่ะค่ะ” ผกาบอกด้วยสีหน้าที่เป็นต่อ
“เป็นไปไม่ได้”
“จริงๆ ค่ะคุณน้อง”
“ไม่ต้องมาเรียกฉันแบบสนิทสนมนะยะ นังขี้ข้า” ผกาถึงกับกำหมัดแน่น เพราะไม่เคยมีใครกล้าใช้คำพูดหยาบคายถึงเพียงกับ
เธอ
นี่เธอเป็นลูกไฮโซที่ออกแต่งานสังคมจริงๆ หรือเนี่ย ทำไมถึงชอบดูถูกดูแคลนคนที่ฐานะต่ำต้อยกว่าแบบนี้
“ถ้ายังอยากฝึกงานวันแรกอยู่ ช่วยพูดดีๆ กับฉันหน่อยนะคะ เพราะคนที่จะสอนงานหล่อนคือฉัน อย่าริอ่านมาแสดงมารยาททรามๆ ที่นี่ ก่อนที่ฉันจะเอาพฤติกรรมนี้ไปเรียนท่านประธาน” ผกาพูดเสียงจริงจัง
นี่คือสาเหตุที่ทำให้ปฐพีทำงานกับผกาได้ถึง 2 ปี เพราะเธอเป็นคนที่เข้มงวด จริงจัง พอๆ กับผู้เป็นเจ้านาย ทุกอย่างเลยไม่ค่อยมีงานผิดพลาดเสียเท่าไหร่
แต่ครั้งนี้ ท่านประธานให้งานยากเสียแล้วล่ะค่ะ
“อย่ามาขู่ฉันนะยะ คิดหรือไงว่าคุณปฐพีเขาจะกล้าทำอะไรฉัน ฉันเป็นลูกสาวของลูกค้ารายใหญ่เลยนะ”
“หรือคะ แล้วเธอคิดหรือว่าลูกค้ารายใหญ่มีแค่คุณปกรณ์คนเดียว”
“เอ่อ...ก็แล้วทำไมยะ”
“ถ้าไม่อยากให้คุณปฐพีเฉดหัวเธอออกจากที่นี่ ก็ช่วยเชื่อฟังฉันด้วย สั่งอะไรเธอก็ต้องทำ เพราะท่านประธานบอกฉันว่า ฉันเป็นเจ้านายของเธอ เพราะฉะนั้น นี่เป็นห้องทำงานส่วนตัว ถ้าไม่ได้รับอนุญาตก็เข้าไปไม่ได้ เพราะเป็นกฎข้อแรกๆ ที่ทุกคนต้องรับรู้ และฉันก็บอกเธอแล้ว จะมาใช้มารยาว่าตนเองไม่รู้ไม่ได้ โทษฐานของการเข้าไปในนี้ ก็คือจะต้องออก...” ผกาอธิบายยาวเหยียด
“ออกจากห้องหรือยะ” กอดอกถาม
“ออกจากที่นี่สิจ๊ะ!”
“ยังไงฉันก็ไม่เชื่ออยู่ดีจนกว่าจะได้ยินจากปากคุณปฐพี”
“ถ้างั้นฉันจะต่อสายให้” ผกาเดินไปที่โต๊ะของตัวเอง ก่อนจะกดหมายเลขภายในเข้าไปหาปฐพีทันที
(มีอะไรคุณผกา) เจ้านายของเธอถามออกมา ซึ่งมัณฑิตาก็ได้ยินชัดเจน
“พอดีว่าคนที่มาฝึกงานไม่เชื่อว่าฉันพูดจริงๆ ที่ท่านให้ฉันจัดการสอนน่ะค่ะ”
(บอกเธอไปว่าผมสั่งแบบนั้นจริงๆ)
“เธอยืนยันที่จะเข้าไปพบท่านค่ะ”
(บอกเธอไปว่าผมไม่อนุญาตให้คนอื่นเข้ามาในห้องผม) มัณฑิตาแทบจะกรีดร้องออกมาเมื่อได้ยินคำว่าคนอื่นออกจากปากปฐพี
“ค่ะท่าน”
(มีอะไรอีกไหม)
“ไม่มีแล้วค่ะ ขอบคุณค่ะท่าน”
(อืม...แล้วอย่าลืมทำโทษคนมาสายด้วยนะครับ ทุกอย่างต้องเป็นกฎ) สั่งเสร็จแล้วปลายสายก็ตัดไปทันที ผกาหันมาหามัณฑิตาที่ยืนกระฟัดกระเฟียดด้วยความโมโหอยู่อย่างสะใจ
“ชัดเจนไหมล่ะ”
“ชัด!! แล้วนี่ห้องทำงานฉันอยู่ไหน” เปลี่ยนเป้าหมายมาหาห้องทำงานของตัวเองทันที
“ห้อง? ตลกแล้วย่ะ ฝึกงานนะไม่ใช่มาทำงานถึงต้องมีห้องขนาดนั้น อย่างเธอโต๊ะนั้นก็หรูแล้วย่ะ” ผกาพูดก่อนจะชี้นิ้วไปยังตำแหน่งที่มีโต๊ะขนาดเล็ก เก้าอี้ไม้ธรรมดาๆ ที่ไม่มีความสบายอะไรเลยที่เธอได้เตรียมไว้ให้นักศึกษานอกที่จบใหม่มาฝึกงานโดยเฉพาะ
“นั่นหรือคือโต๊ะของฉัน!! จะบ้าหรือไงยะ เล็กก็เล็ก เก้าอี้ก็แข็ง” โดยวายออกมาอีก จนผกาเหนื่อยใจที่ต้องมาเจอคนแบบนี้
“แล้วจะทำหรือไม่ทำล่ะ”
“ทำ!! แต่ต้องเอาชุดใหญ่แบบของเธอมาให้ฉัน!!” ขึ้นเสียงเด็ดขาดตามแบบคนที่ถูกเลี้ยงมาอย่างตามใจ และไม่มีใครเคยขัดใจอย่างเธอ
“เอามาทำไม คิดว่าตัวเองจะได้นั่งหรือจ้ะ แค่โต๊ะนั้นวันทั้งวันเธอจะได้นั่งหรือเปล่าก็ไม่รู้ เพราะงานที่นี่เยอะ ไม่ได้ให้แค่มานั่งสวยอย่างเดียว”
“ยัยป้านี่”
“ทำไม ป้าแล้วทำไม”
“คอยดูฉันจะให้คุณปฐพีไล่ออก”
“เธอจะเอาอะไรไปพูดกับท่านล่ะ ขอบอกนะยะว่าท่านไปเชื่อหล่อนหรอก”
“ฉันขอบอกเลยนะว่า ถ้าเธอไม่ทำตามที่ฉันสั่งก็อย่าหวังว่าจะได้ทำงานต่อ เพราะฉันต้องรายงานท่านประธานด้วยความสัตย์จริง
เท่านั้น เชิญเอากระเป๋าสัมภาระของเธอไปเก็บที่โต๊ะนั่นซะ อ้อ การฝึกของเธอคือสองอาทิตย์ เพราะงั้นในเวลาอันสั้นนี้ฉันจะเคี่ยวเข็ญเธอจนมันเข้าไปในสมองเล็กๆ ของเธอเลย ไปสิ!!”
“แกสั่งฉันหรือยะ?”
“ใช่สิยะ ไปเร็วๆ สิ แล้วลงไปที่ชั้น 30 เอาเอกสารจากผู้จัดการขึ้นมาให้ฉันซะ!!!” เสียงเสียงดัง จนมัณฑิตาสะบัดหน้าแล้วเดินหนีไปที่โต๊ะของเธออย่างโมโห
ผกามองตามก่อนจะส่ายหน้าอย่างระอา มันเป็นอะไรที่เธอได้ยินข่าวมาบ่อยมากกับข่าวเกี่ยวกับนิสัยของลูกไฮโซแบบนี้ แต่ไม่คิด
ว่ามาเจอกับตัวเองจริงๆ แล้วมันหนักกว่าในข่าวเสียอีก
“เด็กอะไร ไม่มีสัมมาคารวะเอาเสียเลย ฉันอายุกว่าตั้งรอบหนึ่ง แต่ไม่เคารพกันเลย ขอบอกก่อนนะว่าเธอไม่ใช่เจ้านายของฉัน
ฉันไม่กลัวหรอกนะจ้ะ เพราะคนที่สามารถไล่ฉันออกได้มีเพียงท่านประธานเท่านั้น!!” พูดขึ้นมาลอยๆ
“อย่าให้ถึงทีฉันบ้างก็แล้วกัน!” มัณฑิตากัดฟันพูดอย่างเคียดแค้น
PLEUNG Estate
ร่างสูงของอัคนีกำลังหงุดหงิด และโมโหอย่างเป็นที่สุด เมื่อรับรู้จากธีรไนยว่า มาธวีลูกสาวของปกรณ์ที่บอกว่าจะมาตอน 9 โมง
แต่ตอนนี้ยังไม่มารายงานกับเลขของตนเลย
“ตาแก่นั่น คิดจะให้ลูกตัวเองมาทำตัวอย่างแย่ๆ ในบริษัทของฉันงั้นรึ”
บริษัทนี้ไม่เคยมีพนักงานมาทำงานสายเลยสักครั้ง แต่ก็มีบ้างที่พนักงานเข้างานช้าบ้าง แต่คนเหล่านั้นมีเหตุจำเป็นและโทรขอ
อนุญาตเจ้านายของตนเสมอ
แต่นี่อะไร มาฝึกงานวันแรกยังสาย
สำหรับอัคนีไม่ได้หงุดหงิดที่ต้องรอคอยมาธวีแต่อย่างไร แต่โมโหเพราะเกลียดคนไม่ตรงเวลา...โดยเฉพาะเกี่ยวกับการงาน เขา
จะโมโหสุดๆ ไปเลย
“คุณฉัตรเข้ามาพบผมหน่อย” อัคนีต่อสายไปยังเลขาด้านนอก
(ได้ค่ะ)
ไม่ถึงนาทีเลขาของอัคนีก็เข้ามาในห้องด้วยสีหน้านิ่งๆ ก่อนจะโค้งทำความเคารพน้อยๆ
“มีอะไรหรือคะ”
“ธีร์มันบอกคุณแล้วใช่ไหมว่าจะมีลูกสาวคนเล็กของคุณปกรณ์มาฝึกงานกับเรา” ถามด้วยน้ำเสียงเรียบๆ
“ทราบแล้วค่ะ”
“ถ้างั้นคุณคงจะรู้ใช่ไหมว่า ผมจะบอกอะไร”
“บอสจะให้ฉัตรจัดการสอนงานเธอคนนั้นใช่หรือเปล่าคะ” เลขาที่มีอายุมากกว่าอัคนีถึง 10 ปี เอ่อยออกมาอย่างรู้ทัน เพราะรู้จัก
นิสัยของเจ้านายตัวเองดี
นอกจากคนในบริษัท อัคนีจะไม่ลงไปสอนงานโดยตรงเด็ดขาด
“รู้ก็ดี ถ้างั้นผมขอฝากด้วยนะครับ และเข้มงวดกับเธอให้เหมือนที่คุณเข้มงวดกับพนักงานคนอื่นๆ”
“เรื่องนี้ได้เลยค่ะบอส”
“แล้วถ้าเกิดว่าเธอทำตัวไม่เหมาะสม ผมอนุญาตให้คุณลงโทษเขาได้ตามแต่คุณเลย แต่อย่าให้เข้ามาในห้องนี้เด็ดขาดถ้าผมไม่
ได้อนุญาต” สั่งด้วยความจริงจัง
สองพี่น้องมีส่วนที่เหมือนกันทุกๆ อย่าง แม้กระทั่งหวงความเป็นส่วนตัวอย่างห้องทำงาน
“ค่ะบอส ฉัตรเข้าใจทุกอย่าง”
“ครับ ขอบคุณคุณฉัตรมาก”
“มันเป็นหน้าที่ของฉัตรอยู่แล้วล่ะค่ะ” เธอบอกอย่างถ่อมตัว
“ลูกของคุณเป็นยังบ้าง อายุเท่าไหร่แล้ว”
ฉัตรระวีขมวดคิ้วอย่างสงสัย เพราะปกติเจ้านายของตนไม่เคยถามถึงเรื่องอื่นที่ไม่ใช่เรื่องงานเลยสักครั้ง แต่ก็ยินดีที่จะตอบไป
“ประมาณ 5 ขวบแล้วค่ะ วัยกำลังซนเลย”
“แล้วใครเลี้ยงลูกล่ะครับ”
“คุณแม่น่ะค่ะ”
“อย่างนี้นี่เอง ยังไงคุณออกไปทำงานต่อได้ครับ”
“ค่ะบอส” เลขาสาวก็เดินออกจากห้องไปอย่างรู้แปลกใจ
อัคนีพ่นลมหายใจออกมาแรงๆ อย่างหงุดหงิดใจ ไม่น่าให้หญิงสาวเข้ามาฝึกงานที่นี่เลย เพราะถ้าเขาไม่มีการลง พนักงานก็จะทำ
ตามได้
ใครที่คิดจะมาทำงานกับเขา แม้ว่าจะเป็นวันแรกที่สาย ก็ไม่มีคำว่าอนุโลม...
เมื่อฉัตรระวีกำลังจะนั่งลงที่เก้าอี้ หญิงสาวร่างเล็ก ในชุดรัดรูป เห็นส่วนเว้าส่วนโค้งอย่างชัดเจนเดินมาที่หาตนด้วยความมั่นใจ และด้วยความฉลาดของเธอทำให้รู้ได้ว่าผู้หญิงคนนี้คือใคร
“มาหาคุณอัคนี”
“ท่านไม่รับแขกค่ะ”
“บอกเขาไปว่าฉันมาฝึกงาน”
“ถ้างั้นก็ไม่ต้องเข้าไปค่ะ เชิญทำงานได้เลย โต๊ะทำงานไม่มี เดินอย่างเดียว แต่อนุญาตให้นั่งโซฟารับแขกด้านนั้นได้ถ้าเหนื่อย
เพราะฉะนั้นเดินลงไปที่ชั้น 10 เอาเอกสารให้หน่อย” ฉัตรระวีสั่งเลยไม่มีการแนะนำตัวใดๆ ทั้งสิ้น
แค่รูปลักษณ์ภายนอกเธอก็ไม่อยากรู้จักแล้ว
“มีสิทธิ์อะไรมาสั่งฉัน”
“สิทธิ์ที่คุณอัคนีให้ แค่นี้พอไหม!” เงยหน้าถามด้วยสีหน้านิ่งๆ
“เธอรู้ไหมว่าฉันเป็นใคร” ถามเสียงหงุดหงิด
“คุณยังไม่รู้จักตัวเองเลย แล้วฉันจะไปรู้ได้ยังไงคะ ทางที่ดีเธอควรจะเคารพฉันเพราะฉันอายุมากกว่าเธอ 10 กว่าปีแน่ๆ และเป็น
คนสอนงานของเธอ ถ้าอยากฝึกจนครบกำหนดก็เชื่อฟัง แต่ถ้าอยากออกก่อน...จะทำอะไรก็ทำ เพราะคุณอัคนีท่านไม่ชอบคนไม่
ทำงานแน่ๆ”
“ฉันเป็นลูกสาวของลูกค้ารายใหญ่ของที่นี่เลยนะยะ”
“แล้วไง ไม่ใช่คนหรือ?”
“แกควรให้เกียรติฉัน”
“อย่าหลงตัวเองคุณหนู ที่นี่บริษัทของคุณอัคนีไม่ใช่ของคุณ ทำไมฉันถึงจะต้องฟังคำพูดของเธอ”
“อีกไม่นานฉันก็จะเป็นเจ้านายเธอย่ะ”
“ตำแหน่งไหนไม่ทราบ”
“ภรรยา” ตอบกลับเชิดๆ
“น่าสมเพช เอ๊ย! สงสาร คุณอัคนีท่านมีคุณดรีมอยู่แล้ว คงจะน่ามืดตาบอดเอาเธอหรอกนะยะ” พูดออกไปอย่างทนไม่ไหว กล้าดี
ยังไงพูดมาแบบนี้
ไม่มีใครสู้ปลายฝันของเธอได้หรอก
“ก็ไม่แน่ ฉันออกจะสวย รวย เพียบพร้อม”
“แต่ไม่ใช่คนที่ท่านรักอยู่ดี อย่ามโนค่ะคุณลูก” พูดขัดขึ้นมา
“แก...ก่ะ...”
“อย่ากรี๊ด ถ้ากรี๊ดฉันจะเรียก รปภ มาลากเธออกไป”
“ชิ!! อย่าให้ถึงทีฉันบ้างละกัน ยัยเลขาหนังเหี่ยว”
“ถ้ายังพูดจาไม่ให้เกียรติฉันล่ะก็ ออกจากที่นี่ไปเลย”
“ก็ได้...ฉันมีมารยาทดี แต่จะทำต่อหน้าคุณอัคนีเท่านั้น เพราะยังไงเขาก็ต้องฟังฉันอยู่แล้ว ในเมื่อฉันเป็นลูกสาวของลูกค้าราย
ใหญ่ของที่นี่ ฉันมาธวี ชื่อเล่นไหม แล้วเธอล่ะ”
สาบานสิว่านี่คือการถามชื่อผู้ใหญ่ เด็กที่ถูกเลี้ยงอย่างตามใจ ให้ท้าย ไม่เคยดุด่า ว่าตีเลย โตมามักจะมีนิสัยแบบนี้แหละ ตัวเองดี
เด่นอยู่คนเดียว
“เอาเถอะ ฉันไม่ถือสาก็แล้วกัน ฉันชื่อฉัตรระวี เรียกพี่ฉัตรนะคะ” แนะนำตัวเองอย่างเหนื่อยใจ
“ค่ะ!! พี่ฉัตร!!” มาธวีเรียกแบบกระแทกเสียง
“รู้แล้วก็ลงไปเอางานที่สั่งสิคะ”
“ยัง...ฉันต้องได้พบคุณอัคนีก่อน”
“เพื่ออะไร” ถามกลับไปด้วยอารมณ์ที่เริ่มจะหงุดหงิด
“รายงานตัวว่าฉันมาถึงแล้วไง”
“นี่ยังจะหน้าด้านเข้าไปอีกนะยะ ฉันจะบอกกฎข้อแรกๆ ของที่เอาไว้เลยนะว่าถ้าคุณอัคนีท่านไม่เรียกหรืออนุญาตให้เข้าไปใน
ห้องทำงานของท่านได้ ใครหน้าไหนก็ไม่มีสิทธิเข้า อีกทั้งท่านก็เกลียดคนที่มาสายโดยไม่แจ้งล่วงหน้าอีกด้วย เพราะฉะนั้น เธอ
เข้าไม่ได้”
“ฉันจะเข้า ต่อสายเข้าไปสิ”
“ได้!! แล้วอย่างหน้าแตกเสียล่ะ”
“ใครกันที่จะหน้าแตก ไม่ใช่ฉันแน่ๆ” มาธวีพึมพำอย่างมั่นใจ
“บอสค่ะ มาธวียืนยันจะเข้าไปพบท่านค่ะ” เธอพูดออกไปให้คนปลายสายฟัง
(ห้ามเธอเข้ามา แล้ววันนี้ให้เธอไปฝึกกับแม่บ้านซะ ผมสั่ง โทษฐานที่มาสายตั้งแต่วันแรก)
“ค่ะบอส”
(ไม่มีอนุโลม) พูดจบก็ตัดไป เสียงหงุดหงิดจากปลายสายทำให้มาธวีที่ได้ยินถึงกับขนลุกด้วยความกลัว
น่ากลัว...อัคนีน่ากลัวจริงๆ จะให้คนอย่างเธอนี่นะไปฝึกกับแม่บ้าน ให้ตายยังไงก็ไม่ยอมล่ะ
“ได้ยินชัดไหมจ้ะ”
“ฉันไม่ทำ” ส่ายหน้าอย่างไม่ยอม
“ถ้าไม่ทำก็ออกไป ไม่ต้องฝึกแล้ว แต่ถ้าอยากอยู่ต่อ ก็ทำซะ!!”
มาธวีเม้มริมฝีปากบางแน่น สมองไตร่ตรองและคิดหนัก ตั้งแต่เกิดมาเธอไม่เคยต้องมาทำความสะอาด หรืองานอะไรที่เกี่ยวกับแม่
บ้านเลยสักครั้ง เพราะการแต่งตัวนานๆ ของเธอแท้ๆ ทำให้เธอต้องได้รับบทลงโทษแบบนี้ คิดว่ามาสายแล้วอัคนีจะไม่ว่าอะไร ก็
เลยแต่งสวยเพื่อให้ร่างสูงดู
แต่ทำไมเหตุการณ์มันถึงได้กลับกันแบบนี้นะ นอกจากจะโอนทำโทษแล้ว อัคนีไม่มีทีท่าว่าอยากจะพบเจอเธอเลยสักนิด
“แล้วคุณจะต้องเปลี่ยนใจ!!”
“คนบ้าอะไรวะ นิสัยแย่ชะมัดเลย หน้าตาก็สะสวยอยู่นะ แต่จิตใจนี่ดูไม่ได้ หวังว่าคงไม่ได้มาไม่ดีกับบอสใช่ไหม ผู้หญิงคนนี้ไม่
ธรรมดา สักวันคงจะรวบหัวรวบหางเจ้านายเราแน่ๆ” ฉัตรระวีพึมพำและมองเจ้าหล่อนที่เดินปึงปังไปยังชั้น 2 ที่เป็นชั้นแม่บ้าน
อย่างไม่สบอารมณ์
หวังว่าเจ้านายเธอจะดูออก...
...
...
...
(มีต่อ)