(ต่อเลยจ้า)
วันรุ่งขึ้น ปลายฝันตื่นขึ้นมาในตอนเช้าเพื่ออาบน้ำแต่งตัวไปเรียน เพราะลาป่วยมาสามวันแล้ว ไม่อยากลานานกว่านี้เพราะกลัวจะเรียนตามเพื่อนๆ ไม่ทัน เรื่องอาการก็ดีขึ้น ช่องทางด้านหลังเริ่มรู้สึกเจ็บน้อยลง อาจจะเป็นพ่อได้ยาดี และสามวันที่ผ่านมาปฐพีกับอัคนีไม่ปล่อยโอกาสให้ตนได้เดินเองมากนัก จะโดนอุ้มอยู่ตลอด ทำให้ปลายฝันไม่ค่อยได้ขยับเท่าไหร่ แผลก็เลยสมานไว แต่มันก็ยังมีเจ็บๆ บ้างเวลาเดิน
แต่ที่ปลายฝันหนักใจสุดๆ ไม่ใช่แผลที่ช่องทางด้านหลัง แต่เป็นรอยตามตัวนี่ต่างหาก เพราะจุดที่เห็นได้ชัดที่สุดก็คือตามคอ ที่ต้องสวมเสื้อไหมพรมคอเต่าไปเรียน ดีที่ว่ามันเริ่มเข้าฤดูหนาวแล้ว เลยไม่เป็นที่สงสัยสักเท่าไหร่นัก
“ดรีม อาการยังไม่ดีขึ้นหรือไง ใสเสื้อซะมิดเชียว” ญาณินถามยิ้มๆ
“ก็หนาวๆ นิดหน่อย ช่วงนี้อากาศก็เริ่มเย็นแล้วนะหญิง ไม่หาเสื้อแขนยาวมาใส่ล่ะ”
“พอดีเราชอบอากาศเย็นๆ น่ะ”
“อ๋อ แต่ระวังจะเป็นหวัดเอานะ”
“จ้า ว่าแต่ว่าเราไม่ได้ไปดูหนังกันเลยเนอะ ดรีมมาไม่สบายก่อนนี่สิ”
“คราวหลังนะ แล้วนี่ก้องไม่มาเรียนหรือ” ถามหาเพื่อนอีกคนทันที
“เดี๋ยวก็คงมาล่ะมั้ง ไม่รู้สิ เราไม่ได้เดินด้วยกันมาหลายอาทิตย์แล้ว บอกตรงๆ นะดรีมว่าเราไม่อยากคบก้องเป็นเพื่อนอีกต่อไป
แล้วล่ะ คนอะไรก็ไม่รู้ นิสัยแย่ชะมัดเลย” ญาณินบ่นอย่างทนไม่ไหว
“เฮ้อออ...เราขอถามหญิงหน่อยได้ไหม?” ปลายฝันถาม
“อะไรหรือจ้ะ”
“หญิงรู้ใช่ไหมว่าก้องคิดยังไงกับเรา”
“เอ่อ...ก็ใช่” ตอบไปแบบอึกๆ อักๆ เพราะตกใจ ไม่คาดคิดว่าปลายฝันจะรู้ความจริงแล้ว
“แล้วทำไมหญิงไม่บอกเรา เราจะได้เคลียร์เรื่องนี้ให้เร็วกว่านี้ ก้องจะได้เลิกหาเรื่องพี่ดิน พี่เพลิงเสียที” ปลายฝันอดไม่ได้ที่ต่อว่าเพื่อน
เพราะความไม่รู้ของตนนี่แหละ ที่ทำให้เรื่องมันบานปลายแบบนี้
“เราขอโทษ เราไม่คิดว่าก้องจะใช้วิธีนี้เพื่อชนะใจดรีม ไม่คิดว่าจะใช้วิธีน่าเกลียดแบบนี้” ญาณินบอกออกมาอย่างรู้สึกผิด จนปลายฝันรู้สึกตัวว่าพูดอะไรออกไป
“ขอโทษนะหญิง เราไม่ได้ตั้งใจจะต่อว่านะ”
“ไม่เป็นไร เราเข้าใจ แล้วดรีมจะทำยังไงต่อไป”
“เราจะเคลียร์เย็นนี้แหละ พี่ดินพี่เพลิงมารับน่ะ เพราะกลัวว่าก้องจะทำอะไรเรา” คนตัวเล็กพูดยิ้มๆ
“แต่เราคิดว่าก้องคงไม่เลวร้ายขนาดนั้นหรอกมั้ง แต่เชื่อพวกพี่ก็ดีแล้วแหละ แต่เย็นนี้เราอยู่ด้วยไม่ได้นะ มีนัดกับพี่นนท์” ญาณินพูดบอกยิ้มๆ
“ครับๆ เบื่อคนมีแฟนจริงๆ เลย ตัวแม่ของคณะนี่มีคนกล้าจีบด้วยหรือเนี่ย” แซวเพื่อนอย่างสนุก
“อย่ามาแซวน่าดรีม” ญาณินเขิน
“ก็มันน่าอิจฉานี่ ฮ่าๆ”
“จ้าๆ แต่คงไม่น่าอิจฉาเท่าดรีมหรอกเนอะ แฟนก็หล่อ บ้านก็รวย มีหน้าตาในสังคม ผู้ชายที่สาวๆ ส่วนใหญ่อยากจะได้ ที่สำคัญได้ทีเดียวถึงสองเลย ฮ่าๆ”
“พอแล้วน่า ไม่ได้เป็นแฟนกันเสียหน่อย หญิงก็พูดไป”
“แต่ก็เป็นคู่หมั้นกันนะ นี่ถ้าไม่ติดว่าดรีมไม่สบาย เราคิดไปแล้วนะเนี่ยว่าดรีมใส่เสื้อแบบนี้เพื่อปิดรอยอะไรบางอย่าง...เฮ้ย นี่จริงหรือเนี่ย” ญาณินพูดเล่นๆ แต่พอเห็นปลายฝันเงียบไปก็ถามอย่างตกใจ
“จะ จะบ้าหรือหญิง มันหนาวจริงๆ”
“โอเค๊! เชื่อก็ได้” ญาณินไม่เซ้าซี้ถามต่อ เพราะไม่ต้องการให้ร่างเล็กหนักใจไปมากกว่านี้
“สวัสดี ดรีม ไม่สบายหายดีหรือยัง เราเป็นห่วงดรีมมากเลยนะ โทรไปก็ไม่รับ ส่งไลน์ไปก็ไม่อ่าน พวกเขาไม่ให้ตอบหรือ” ก้องภพที่เข้ามาในห้องเรียนเอ่ยทักทายและถามไถ่ปลายฝันอย่างเป็นห่วง เอื้อมมือหวังจะสัมผัสใบหน้าเพื่อวัดอุณหภูมิแต่ปลายฝันก็ผละออกทัน จนมือหนายกค้างไว้กลางอากาศ ก่อนจะเอาเก็บที่เดิมด้วยความรู้สึกผิดหวัง
“พอดีว่าพี่ๆ เขาไม่อยากให้เราคุยน่ะ”
“แล้วดรีมก็เชื่อหรือ” ถามด้วยความอิจฉา
“ก็เขาเป็นผู้ปกครองของเรานี่ เราก็ต้องเชื่อฟัง” ปลายฝันเถียงก้องภพแบบใส่อารมณ์
“โอเคๆ แล้ววันนั้นดรีมโดนพวกเขาทำอะไรหรือเปล่า” ถามถึงเหตุการณ์วันนั้นด้วยความอยากรู้
“ก็ไม่ได้โดนทำอะไรนะ”
“ดรีมรู้หรือเปล่าว่าสามวันมานี้มีภาพและคลิปของเราที่คุณดินคุยกันวันนั้นด้วย เขาพูดถึงเราในทางที่ไม่ดีเลย ดรีม แต่เราไม่สนใจ ยังไงดรีมช่วยบอกให้พวกเขาจัดการเรื่องนี้ได้ไหมแล้วเราจะไม่ถือโทษโกรธเคืองอะไรเลย” ญาณินถึงกับเบ้ปากอย่างหมั่นไส้
“กล้าพูดนะยะ” พึมพำเบาๆ
ทำไมก้องถึงได้กล้าพูดขนาดนี้นะ คิดว่าเราโง่มากหรือไงวะ!!
“ก้องหยุดพูดแบบนี้เถอะ ก้องเป็นคนผิดนะที่หาเรื่องพี่ดิน พี่เพลิงก่อน” ปลายฝันโพล่งออกมาอย่างเหลืออด
ก้องภพเงียบ
“แล้วเราก็ดูคลิปที่โพสอยู่ตามเน็ตแล้ว ก็มีแค่ก้องที่พูดจาหาเรื่องอยู่คนเดียว ถามจริงเถอะก้อง คิดจะมีเรื่องกับพวกเขานี่รู้หรือเปล่าว่าพวกเขามีอำนาจมากขนาดไหน”
“นี่ดรีมขู่เราหรือ ขอบอกเลยนะว่าเราไม่ได้กลัวอะไรเลย”
“เราไม่ได้ขู่ ก้องก็เห็นนี่ว่าแค่คลิปไม่กี่นาทีก็สามารถทำลายก้องได้แล้ว” ปลายฝันว่า
“แต่เราไม่ได้อยากทำแบบนั้นนะ”
“แล้วมันเพราะอะไรล่ะก้อง” สบตาถามไปอย่างแน่วแน่ แต่ก้องภพกลับหลบสายตานั้น ทำเอาปลายฝันถึงกับถอนหายใจออกมาอย่างเหนื่อยหน่าย
“…”
“ถ้างั้นเย็นนี้เรามาคุยกันหน่อยนะก้อง หวังว่าตอนนั้นก้องคงจะมีคำตอบให้เราแล้ว” ปลายฝันพูดจบก็ลุกจากที่ที่นั่งอยู่ไปนั่งอีกที่หนึ่งซึ่งญาณินเองก็ตามไปด้วย ทิ้งให้ก้องภพนั่งคนเดียว
ฝ่ายก้องภพก็นั่งเหม่อลอย ในใจก็รู้สึกเจ็บปวดเมื่อเห็นท่าทีของปลายฝันที่มีต่อเขา ซึ่งก้องภพก็รู้ว่าตัวเองไปหาเรื่องปฐพีกับอัคนีก่อนจริงๆ แต่นั่นมันก็เพราะว่าไม่มีวิธีไหนที่เขาจะคิดออกนอกจากทำให้สามคนนั้นแตกคอกัน รวมถึงกับพูดจาหาเรื่องไป แต่เขาไม่คิดว่าจะมีนักศึกษาเอาคลิปที่ถ่ายถ่ายไว้ รวมทั้งภาพต่างๆ แชร์ลงโซเชียลเน็ตเวิร์ค มันก็ไม่ได้เดือนร้อนอะไรเขามากเราเพราะว่าก้องภพไม่ได้เป็นคนดังในสังคม แต่คนในมหาวิทยาลัยก็มองเขาในทางที่ไม่ดีเช่นกัน
เขาคิดมาตลอดว่า ทำยังไงก็ได้ที่ปลายฝันจะหันมารักเขา แม้ว่าใครหลายคนจะเกลียดเขาก็ตาม
แต่มันกลับผิดทั้งหมด!!
เพราะแม้แต่คนที่เขาอยากจะให้รัก ก็ดันไม่ชอบในสิ่งที่เขาทำ...
เมื่อถึงเวลาเลิกเรียนปฐพีก็ส่งข้อความมาบอกว่าใกล้จะถึงแล้ว ซึ่งปลายฝันก็ตอบไปสั้นๆ เป็นการตอบรับเท่านั้น คนตัวเล็กล่ำลาเพื่อนสาวของตนเรียบร้อยแล้วก็ตรงไปยังก้องภพที่กำลังเก็บของอย่างเอื่อยเฉื่อย
“เราไปรอที่โต๊ะม้าหินอ่อนหน้าตึกนะ เร็วๆ ด้วยล่ะก้อง”
“เราเสร็จแล้วล่ะดรีม เดินไปพร้อมกันได้ไหม” ถามเสียงค่อย
“ก็ได้”
ทั้งคู่เดินเคียงข้างกันไป ระหว่างทางก็ไม่มีใครพูดอะไรออกมา แต่ก้องภพก็รู้สึกได้ถึงความอึดอัดนี้ ไม่มีความสุขเลยสักนิด ถ้าต้องเป็นแบบนี้แล้วไม่มีความสุข
ควรจะถอยออกมาจะดีกว่าไหม...
...
...
...
ทั้งคู่นั่งลงบนเก้าอี้หินอ่อนหน้าตึกคณะแพทย์ ก้องภพมีสีหน้าเศร้าสร้อยอย่างเห็นได้ชัด ซึ่งปลายฝันก็สงสาร แต่จะนำความสงสารที่มีมาทำร้ายตัวเองไม่ได้
เพราะความใจอ่อน ทำร้ายตัวเราเองมานักต่อนัก
“เข้าเรื่องเลยนะก้อง ก้องทำไปเพราะอะไรน่ะ เกลียดเราหรือ” ปลายฝันพูดออกไปแบบนี้ ซึ่งมันตรงกันข้ามกับความจริงที่ทราบมา
และแน่นอนว่าไม่มีใครกล้าพอที่จะถามออกไปตรงๆ หรอกว่า ‘ชอบเราหรือ’
“เราไม่ได้เกลียดดรีมเลยนะ เราน่ะ คือว่า...เราชอบดรีมเกินกว่าคำว่าเพื่อน” สารภาพออกมาตรงๆ พร้อมกับมองหน้าร่างบางอย่างต้องการความเห็นใจ
ถึงปลายฝันจะรู้อยู่แล้วว่าก้องภพแอบชอบ แต่พอมาได้ยินจริงๆ ก็อดตกใจไม่ได้
“ตั้งแต่เมื่อไหร่ก้อง”
“ตั้งแต่ครั้งแรกที่เจอ เราไม่เคยคิดกับดรีมแค่เพื่อนเลย เราถลำลึกเข้าไปทุกวันๆ พอรู้ว่าดรีมหมั้น ก็ยิ่งทรมาน อยากจะให้ดรีมหันมามองเราบ้าง โดยการทำให้ดรีมกับคุณดินคุณเพลิงทะเลาะกัน แล้วเป็นที่ปรึกษาให้ดรีม แทรกเข้าไปยามที่ดรีมอ่อนแอ หวังว่าดรีมจะรู้สึกเหมือนกันกับเรา” ก้องภพก้มหน้าสารภาพ กำมือทั้งสองอย่างรู้สึกเจ็บปวด ยิ่งพูดก็ยิ่งตอกย้ำ
“ต้องขอโทษจริงๆ นะก้อง แต่เราคิดกับก้องเกินกว่าคำว่าเพื่อนไม่ได้จริงๆ” พูดออกมาตามความรู้สึกจริงๆ ของตัวเอง
“ถ้าไม่มีคุณดิน คุณเพลิง ดรีมจะให้โอกาสเราได้ไหม” สบตาถาม
“เราคิดว่ามันไม่ได้เกี่ยวกับการที่มีพี่ดิน พี่เพลิงหรอก มันขึ้นอยู่ที่หัวใจมากกว่า สำหรับเรา ก้องเป็นเพื่อนที่ดีมากๆ คนหนึ่งของเราเท่านั้น” และยิ่งคำตอบของปลายฝัน ก้องภพก็ต้องผิดหวังซ้ำแล้วซ้ำเล่า
“ให้โอกาสเราสักนิดไม่ได้หรือ” อ้อนวอนเสียงสั่น
“คำตอบเราก็คงยังเหมือนเดิม” สบตาคมแน่วแน่
“นั่นสินะ เราจะตัดใจนะดรีม ขอโทษที่ทำตัวไม่ดีในเวลาที่ผ่านมา” ก้องภพขอโทษอย่างรู้สึกผิดจริงๆ
ไม่อยากจะดันทุรันต่อไปแล้ว ก้องภพไม่ใช่คนที่เข้มแข็งพอที่จะสามารถทำเรื่องผิดๆ ได้ต่อไป ไม่ได้อดทนมากพอที่จะรับความผิดหวังซ้ำๆ ได้
“เราให้อภัยก้องได้เสมอ เพียงแค่ก้องไม่ทำตัวแบบที่ผ่านมา”
“เราจะเลิกแล้วล่ะ เราจะตัดใจ แต่ว่าเรา...ยังเป็นเพื่อนกันได้อยู่ใช่ไหม” ดวงตาคมของก้องภพสบเข้ากับดวงตากลมโตที่เขาหลงรัก แต่ตอนนี้กำลังจะเลิกรัก
“เรายังเป็นเพื่อนกันเสมอ” บอกเพื่อนไปยิ้มๆ
รอยยิ้มแรกที่ปลายฝันยิ้มให้เขา หลังจากที่ไม่เคยยิ้มให้อีกเลยหลังจากเกิดเรื่องมากมาย
ดีแล้วล่ะก้องภพ เป็นเพื่อนต่อไปก็ดีแล้ว
ได้เห็นรอยยิ้มนี้อีก ก็เพียงพอแล้ว...
“เราอยากจะขอโทษพวกเขา จะได้ไหม”
“เดี๋ยวก็คงมาน่ะ”
“เราเสียใจจริงๆ นะดรีม”
“เราเชื่อว่าก้องต้องเจอคนที่เหมาะสมแน่ เราไม่เห็นมีอะไรดีเลย” บอกด้วยน้ำเสียงติดตลก
“ฮะๆ ขอบคุณนะดรีม” ก้องภพพูดยิ้มๆ
แม้ได้แค่เพื่อน แต่แบบนี้ก็มีความสุขกว่าตั้งเยอะ
ปฐพีกับอัคนีที่เดินลงจากรถเพื่อไปหาปลายฝันที่นั่งคุยกระหนุงกระหนิงกับก้องภพด้วยรอยยิ้มมีความสุขก็ขมวดคิ้วด้วยความเครียด
“อ่ะแฮ่ม” ทั้งคู่กระแอมพร้อมกัน เรียกความสนใจจากทั้งคู่เป็นอย่างดี
“มาแล้วหรือฮะ”
“ก็อย่างที่เห็น”
“พี่เพลิงโกรธอะไรอีกล่ะ” ถามอย่างสงสัย
ก่อนจะได้คำตอบเมื่อเห็นว่าปฐพีกับอัคนีจ้องก้องภพแบบนิ่งๆ
“ผมกับดรีมเราเคลียร์เรียบร้อยแล้ว ต้องขอโทษที่ผ่านมามาโดยตลอดนะครับ” ก้องภพยกมือไหว้ปฐพีกับอัคนีจนคนถูกไหว้ถอยหลังอย่างตกใจ ก่อนมองไปยังปลายฝันก็พบว่าเจ้าของใบหน้าใสพยักหน้ายิ้มๆ
“เออ เรื่องมันแล้วก็ให้มันแล้วไป” ปฐพีพูด
“แต่อย่าให้มีตุกติกนะเว้ย ก็น่าจะรู้ว่าฉันสามารถทำอะไรได้บ้าง” อัคนีกับชับอีกที
ในเมื่อปลายฝันจัดการแล้วเรียบร้อย เขาก็ไม่มีปัญหาที่จะทำอะไรต่อไปอีก ที่สำคัญไม่อยากจะมีเรื่องกับเด็กด้วย มันเสียชื่อนักธุรกิจหมด
“ผมจะตัดแล้วล่ะครับ หวังว่าพวกพี่จะให้อภัยผมที่ทำตัวไม่ให้เกียรติเสมอมา”
“เออ พวกฉันให้อภัย เพราะพวกเราเชื่อว่า ไม่มีใครที่ไม่เคยทำผิดหรือผิดพลาดหรอก เพราะฉะนั้นพวกฉันก็จะให้โอกาสนายเป็นเพื่อนที่ดีของดรีมต่อไป” ปฐพีพูดบอกด้วยน้ำเสียงจริงจัง
“ขอบคุณครับ” ไหว้อีกที
“ส่วนฉัน ไอ้ดินว่าไง ก็ตามนั้น” อัคนีบอกสั้นๆ
ก้องภพมองผู้ชายตัวใหญ่กว่าตนตรงหน้าอย่างชื่นชม เข้าใจแล้วว่าทำไมปลายฝันถึงมีความสุขที่อยู่ด้วย ไม่ใช่เพราะเขารวยหรืออะไร
ถึงแม้ว่าเขาสองคนจะพูดไม่เพราะ แต่ก็ปกป้องปลายฝันเสมอ
ทำไมเราถึงคิดจะสู้พวกเขาสองคนนะ...
“เอาเป็นว่าทุกอย่างเคลียร์นะ ถ้างั้นก็กลับบ้านกันเถอะ” ปลายฝันพูดขึ้นมา
“อื้อ ดรีมกลับก่อนได้เลย เดี๋ยวเราต้องไปซื้อของเข้าร้านน่ะ” ก้องภพบอก
“งั้นพวกฉันไปก่อนนะ”
“สวัสดีครับ” ก้องภพไหว้ลา ซึ่งผู้ใหญ่ทั้งสองก็พยักหน้ารับแล้วเดินนำปลายฝันไปยังรถที่จอดไว้ทันที
“บายนะดรีม เจอกันพรุ่งนี้”
“บายก้อง” โบกมือลาเพื่อนเสร็จก็รีบวิ่งตามปฐพีกับอัคนีไปที่รถทันที
...
...
...
ระหว่างที่รถหรูกำลังแล่นอยู่บนถนนเพื่อนเดินทางกลับคอนโดหรูของตน ทั้งสามคนก็พูดคุยกันตามปกติ ถามไถ่เรื่องราวของกันและกันว่าแต่ละวันทำอะไรบ้าง
“ตรงนั้นยังเจ็บอยู่ไหม” อัคนีถามยิ้มๆ
“ทำไมพี่ชอบถามเรื่องแบบนี้จัง ไม่ต้องถามแล้วได้ไหม” ปลายฝันเลี่ยงที่จะไม่ตอบ
“หึ! ก็แค่เป็นห่วงเท่านั้นเอง กลัวจะช้ำน่ะสิ”
“ไม่เป็นไรแล้ว จบนะ!!” ตอบเสียงดัง หน้ามุ่ยลงด้วยความไม่พอใจ แต่ก็ไม่จริงจังนัก
ปฐพีกับอัคนีถึงกับหัวเราะออกมาน้อยๆ
“เรื่องนี้เคลียร์แล้วสินะ” ปฐพีถามขึ้น
“ก็บอกพี่ดินแล้วไงว่าดรีมเคลียร์ได้” คนตัวเล็กพูดอย่างอวดๆ
“เออ พ่อคนเก่ง แบบนี้แหละถึงจะเหมาะเป็นเมียพวกพี่”
“อย่ามามั่วน่าพี่เพลิง พูดแบบนี้ไม่ต้องกินข้าวเย็นเลยนะ” ขู่ออกมา
“เป็นคำขู่ที่น่ากลัวมาก” ลากเสียงแบบประชด
“เออใช่ พี่ว่าจะถามตั้งนานแล้ว” ปฐพีพูดขึ้น ขณะที่ตนกำลังขับรถอยู่
“อะไรหรือพี่ดิน”
“ทำไมถึงทำอาหารเป็น แถมยังทำเป็นหลายอย่างด้วย”
“อ๋อ…ก็เพราะว่าดรีมเคยทำงานร้านอาหารน่ะครับ ก็เลยได้สูตรมานิดหน่อย”
“เก่งนะเราน่ะ ถามจริงว่าตอนเด็กๆ ลำบากมากไหม” อัคนีถามต่อ
“ถ้าถามว่าลำบากไหม ก็ตอบไม่ได้หรอกเพราะดรีมชินกับมันแล้ว พวกพี่ต้องลองสัมผัสดูเอง แต่ที่รู้คือช่วงเวลาที่มาอยู่กับพวกพี่ คือช่วงเวลาที่ดรีมนอนอื่มที่สุด” คนตัวเล็กบอกยิ้มๆ
ปฐพีกับอัคนีเงียบไป ใจก็รู้สึกชื่นชมคนตัวเล็กเป็นอย่างมาก ตั้งแต่ตอนนี้เป็นต้นไป พวกเขาจะพยายามที่จะทำให้ปลายฝันสบายที่สุด...
และมีความสุขที่สุด เท่าที่พวกเขาจะทำได้...
สวัสดีค่ะ เอาตอนที่ 21 มาลงให้แล้วนะคะ และก็ตามที่ตกลงว่าตอนที่ 21 เป็นต้นไป ยูกิจะไม่ลงเป็นครึ่งต่อเครื่องแล้วจะลงทีเดียวไปเลย แต่ว่าคอมเม้นท์อย่าหายนะคะ ถ้าน้อยกว่าเดิมยูกิจะกลับมาลงแบบเดิมนะคะ เอาแบบค้างๆ ไปเลย หึหึหึ...ที่ผ่านมายูกิไม่เคยเรียกร้องเรื่องคอมเม้นท์แต่พอมันลดลงเลยรู้สึกเฟลมาก
ติดต่อ ติดตาม พูดคุยกับยูกิได้ที่แฟนเพจเลยนะคะ
https://www.facebook.com/sawachiyuki