ตอนที่ 7
' อึดอัด ' ความรู้สึกแรกตอนที่ลืมตาตื่นขึ้นมาในห้องที่อากาศเย็นเกินกว่าจะนอนได้แบบสบายๆ คนตรงหน้าหลับสนิท เสียงลมหายใจของมันผ่อนออกมาเป็นจังหวะ มองลงไปด้านล่างตรงเอวกับขา ผมหาคำตอบที่ตัวเองรู้สึกอึดอัดได้ทันที ทั้งผ้านวมผืนใหญ่ ทั้งคนปากแข็งที่บอกว่าเกลียดผม กอดรัดตัวผมแน่นยิ่งกว่างูรัดซะอีก
ผมพยายามดิ้นตัวออกห่าง แต่พอมาคิดดูให้ดีแล้ว นอนมองหน้าคนปากร้ายที่เงียบลงได้น่าจะดีกว่า ..
' ไอ้ปากหมา ไอ้คนใจร้าย ไอ้เหี้ย มึงคิดว่าตัวเอง หล่อมากรึไงว่ะ ถึงทำได้ชอบทำร้ายจิตใจคนอื่นนัก " จ้องหน้ามันที่ยังหลับผมพูดแบบไม่ออกเสียงตอนที่กำลังด่ามัน ทั้งๆที่โดนด่าขนาดนี้ก็น่าจะต่อยมันแล้วก็เดินออกไปแบบไม่ต้องแคร์อะไรแท้ๆ แต่แม้กระทั้งตอนนี้ก็ยังนอนให้มันกอดอยู่ได้ ' ไอ้เหี้ยหน้าหล่อ แม่ง ' หน้าอยู่ใกล้กันแค่นี้หัวใจเต้นโครมครามของผมสั่งให้เลื่อนหน้าเข้าไปใกล้มันอีก จูบเบาๆลงบนปากของมัน ผมเม้มปากก่อนจะก้มหน้างุด
“ เป็นเหี้ยอะไรตั้งแต่เช้าว่ะ " เสียงง่วงของคนที่กอดผมถามออกมา ผมหลับตาลง " ก็ยังไม่ตื่นนี่หว่า " ยกมือขึ้นลูบหัวผม ไอ้เสือเงียบลงไป
' ถ้าไม่มีใจให้ มึงจะลูบหัวกูทำไม ไอ้นิสัยเสีย ' ลุกขึ้นจากที่นอนอุ่นๆผมรู้สึกเย็นตอนที่พยายามดึงตัวเองออกจากกองผ้าห่มที่ห่อตัวอยู่
“ หนาวชะมัด นอนเข้าไปได้ไงว่ะ " ผมเดินออกมานอกห้องนอน มองเวลาบนเพดานที่ปาเข้าไปเกือบเที่ยงวัน " หิว ห้องมันจะมีอะไรแดกบ้างว่ะเนี้ย " เปิดตู้เย็นที่มีแต่น้ำเปล่ากับเบียร์เกือบครึ่งตู้ " ให้มันได้แบบนี้ดิ "
ผมถอนหายใจออกมา ก่อนจะเดินไปหยิบมือถือที่ตั้งอยู่บนโต๊ะ กดเบอร์โทรของไอ้ฝน คนที่คิดว่าต้องช่วยเหลือผมได้แน่นอนในเวลาแบบนี้
“ ว่าไงค่ะมึง ตื่นสายเชียวนะ "
“ มึงอยู่ไหนว่ะ "
“ คอนโดดิ วันนี้ไม่มีเรียน มึงมีอะไร "
“ ที่ห้องมีอะไรให้แดกบ้างว่ะ "
“ โดนแดกจนต้องหาของแดกเลยโน๊ะ " ผมขมวดคิ้วกับคำพูดของมัน แต่ยังไม่ถามอะไรไอ้ฝนก็พูดขึ้นมาก่อน " ขึ้นมาเอาดิ มีอยู่เยอะ มาเลือกแล้วกัน "
“ โอเค " ผมกดวางสายก่อนจะเดินเข้าไปในห้องอีกครั้ง ไอ้เสือยังนอนอยู่ ก็อยากจะปลุกแล้วบอกมันอยู่หรอกนะ แต่ว่าท่าทางที่หลับสนิทแบบนั้น คิดว่าไม่กวนท่าจะดีกว่า
เดินลงไปที่ห้องไอ้ฝน มันที่ยืนยิ้มอยู่หน้าหน้าเตรียมแซวเต็มที่ " เป็นยังไง เป็นยังไง ท่าทางไม่อิดโรยนี่หว่า สุขสบายดี "
“ ก็ยังไม่ได้โดน มึงจะให้กูอิดโรยทำไม "
“ อ้าว ยังไม่ได้โดนเหรอว่ะ ผิดวิสัยเว้ย ปกตินอนกับผู้ชายไม่ได้ต้องให้เค้าเอา "
“ อีหยาบ " ผมด่ามันก่อนจะเดินเข้าไปในห้อง " มีอะไรแดกบ้างวะ "
“ ขนมปัง ข้าว มาม่าก็มี ขนมที่วันก่อนมึงซื้อมาก็ยังไม่หมด เอาไปดิ "
“ เอาแค่ขนมพอ ขี้เกียจเอาอย่างอื่น " ผมหยิบขนมสี่ห้าถุงที่มันมีกับขนมปังอีกก้อนมาใส่ไว้ในถุง
“ ถามจริงๆเถอะ คนนี้ โอเคได้รึยัง "
“ ไม่รู้สิ " ผมว่าแบบนั้นไอ้ฝนก็เดินเข้ามาหา มันพิงตัวเองกับเค้าเตอร์
“ กูอยากให้มึงมีใครที่รักมึงแบบจริงจังสักทีนะปิง กูไม่อยากให้มึงใช้ชีวิตแบบ มีความสุขกับเค้าบ้าง ไม่ใช่ร่อนไปร่อนมาแบบนี้ " ยื่นมือมาลูบหัวผม ไอ้ฝนยิ้มหวาน
“ แล้วมึงคิดว่ากูไม่อยากจะจริงใจกับใครสักคนเหรอวะ กูก็อยากจริงใจกับใครสักคนเหมือนกัน แต่ติดที่ว่าเค้าไม่ได้จริงจังกับกูนะสิ "
“ แล้วคนนี้ละ "
“ ไม่รู้ว่ะ " ผมมองมันไม่ออกหรอก ว่ามันต้องการอะไร หรืออะไรกับตัวผม ปากร้ายที่ชอบด่าผมแม้จะสวนทางกับความเป็นห่วงที่ไม่แสดงออก ไม่รู้เลยจริงๆ ว่ามันคิดอะไรของมันอยู่
“ แล้วใจมึงคิดยังไง "
“ ก็ หล่อดี " บอกแบบนั้นก่อนจะเม้มปากตัวเอง มันมีอะไรมากกว่านั้นแต่ผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่ามันคืออะไร
“ แค่นั้น "
“ อย่าถามมากน่ามึง กูไม่รู้จะตอบยังไง " บอกแค่นั้นผมเดินออกไปจากห้องมัน " กูไปละ "
“ เออ เจอกัน "
...............................................
ลืมตาตื่นขึ้นมา ผมพบว่าสิ่งที่ผมกอดเป็นเพียงแค่ผ้านวมไปเสียแล้ว คนที่ซุกอยู่ข้างในนี้เมื่อคืนไม่ได้ได้อยู่ที่นี่แล้ว ลุกขึ้นมาจากเตียงแบบรวดเร็วผมมองซ้าย มองขวาก็พบว่าทั้งห้องก็มีแต่ความว่างเปล่า ไม่มีเสียงอาบน้ำ หรือแม้แต่ดูทีวี
“ ไปไหนของมันว่ะ " เสื้อผ้าที่ใส่เมื่อวานยังอยู่ แม้แต่เสื้อผ้าที่เอามาให้เพื่อใส่วันนี้ก็ยังวางอยู่ " ใส่ชุดนอนไปเหรอว่ะ " ผมหันมองนาฬิกามันบอกเวลาเที่ยงวัน นั่งลงบนที่พักแขนของโซฟามองไปที่ประตูเหมือนสั่งให้มันเปิดออก ' เดี๋ยวมันต้องกลับมาแน่ๆ ' ผมคิดแบบนั้นตาก็จ้องอยู่แต่ที่ประตูไม่เคลื่อนไปไหน
แกร๊ก .. ประตูที่เปิดออกพร้อมกับเสี้ยวหน้าของมันที่ได้เห็นผมถามขึ้นมาทันที " ไปไหนมา "
“ ไปเอาขนม " ชูถุงพลาสติกจากร้านสะดวกซื้อขึ้นมาให้ดู
“ ไปชุดนี้ " พยักหน้าให้แบบไม่ใส่ใจ ผมถอนหายใจออกมา ชุดกางเกงขาสั้นแค่คืบของมึงแค่ใส่ในห้องนอนกูยังอันตรายเลยไอ้เหี้ย แล้วแดดร้อนแบบนั้นมึงจะออกไปตากมันทำไมว่ะ ขาขาว โดนแดด คนแม่งก็มอง แต่มึงคงโชว์จนเป็นนิสัยไปแล้วสินะ ผมไม่รู้จะพูดหรือแสดงอารมณ์อะไรออกไป ทำได้แต่เดินหนีเข้าไปในห้อง
“ อะไรของมันว่ะ " เสียงสถบที่ได้ยินมันเดินตามผมเข้ามา " เสือ หนมมั้ย "
“ ไม่หิว "
“ เที่ยงแล้วนะ " หันไปมองถุงขนมที่มันถือ มีแต่ขนมขบเคี้ยวกับขนมปังถุงเล็กๆที่มีขนมอยู่ประมาณห้าชิ้น กินคนเดียวยังไม่อิ่มเลย
“ แล้วนั่นคือ อาหารเที่ยงของมึง "
“ ก็ใช่ "
“ งั้นกูไปอาบน้ำก่อนแล้วกัน " บอกแค่นั้นก่อนที่ตัวเองจะเดินเข้าไปอาบน้ำ กูไม่สงสัยแล้วว่าทำไมมึงถึงตัวเล็กนัก แดกแค่นี้นี่เอง
“ อื้ม "
เข้าไปอาบน้ำแต่งตัวอยู่สักพัก กลับออกมันก็ยังกินขนมอยู่แบบนั้น แต่หมดไปมากกว่าสองถุงแล้ว โยนผ้าขนหนูคลุมตัวมันไอ้ปิงดึงมันลงมา
“ ไปอาบน้ำ "
“ เดี๋ยว ขี้เกียจ "
“ เร็วๆ " บอกแบบนั้นอีกคนก็หันหน้ามามอง " กูหิวข้าว "
“ ก็สั่งมาแดกดิ "
“ กูจะไปแดกที่ร้าน " พอพูดแบบนั้นอีกคนก็ทำตาโตขึ้นมาทันที
“ งั้นที่บอกว่าให้กูไปอาบน้ำมึงจะพากูไปกินข้าวงั้นสิ " ผมไม่ได้ตอบอะไร สายตากลมๆก็ลุกขึ้นจากที่นั่งมายืนอยู่ตรงหน้ามือของมันจับที่มือผม " ไปกินอาหารอิตาเลี่ยนกันนะ "
“ ไปอาบน้ำ "
“ ครับ รับทราบแล้ว "
' นานสัด ' ผมสถบกับตัวเองตอนที่มันผ่านมาแล้วเกือบครึ่งชั่วโมงสำหรับการอาบน้ำแต่งตัวของมันที่ยังไม่ออกมาจากห้อง ผมเดินเข้าไปในห้องนอนเคาะประตูห้องน้ำที่เงียบลงไปแต่มันก็ยังไม่ออกมา
ก๊อก ก๊อก ก๊อก
" ออกมาได้แล้วมั้ง กูจะแดกวันนี้นะ "
“ ยังไม่เสร็จแปปนึง "
“ ทำเชี้ยอะไรอยู่ กูจะไปแล้วนะ " ผมบอก อะไรมันจะนานขนาดนี้ แน่ใจนะว่าอาบน้ำ ไม่ได้เป็นลมตายอยู่ในนั้น
“ ไปด้วย อย่าทิ้งกูดิ อีก 10 นาที "
“ มึงทำเชี้ยไรวะ "
“ ทาผิวอยู่ "
“ กูไปละ " ว่าแบบนั้นก่อนจะหมุนตัวเดินออกจากห้อง ประตูห้องน้ำถูกเปิดอออกไอ้ปิงนุ่งแค่ผ้าขนหนูเดินออกมา
“ รอด้วย "
“ ทำไมไม่แต่งตัวให้เสร็จก่อน " ผมมองผิวขาวๆของมันก่อนจะหันหน้าไปทางอื่น
“ ก็มึงบอกจะไปแล้ว กูกลัวมึงทิ้งกู "
“ กูไม่ทิ้งมึงหรอก " หันมาบอกมันแบบนั้น ไอ้ปิงนิ่งไปมันจ้องหน้าผม ผมเองก็เหมือนกัน
“ จริงนะ " คำถามที่เหมือนจะเป็นคนละประเด็นจากเรื่องที่พูด ผมกลืนน้ำน้ำลายตัวเองก่อนจะตอบมันไป
“ จริง " ตอบออกไปแบบนี้ทุกอย่างก็ยิ่งเงียบ " แต่ถ้ามึงไม่รีบแต่งตัวให้เสร็จภายในห้านาทีนี้ กูทิ้งมึงแน่ "
“ ขี้เก็ก " ต่อยเข้าที่ท้องผมเบาๆ มันเดินผ่านตัวผมเข้าไปที่ห้องน้ำ แต่ก็ขอบคุณที่มึงเข้าใจ ความหมายในประโยคของกู
ที่บอกว่า ห้านาที ไม่มีจริงหรอก ผมคอยมันอีก ยี่สิบนาทีกว่ามันจะเสร็จเรียบร้อย ผมลุกขึ้นจากโซฟาตอนที่มันมายืนอยู่ตรงหน้าแล้วยิ้มเฉ่ง ก็ไม่ใช่ว่าจะสวยขึ้นเท่าไหร่ก็เหมือนเดิม
“ ตกลงว่าจะพาไปไหน "
“ พามึงไปส่งคอนโดไง "
“ ไม่ได้จะพาไปกินข้าวก่อนเหรอวะ " มันหันหน้ามาถามตอนที่เรากำลังขึ้นรถ ผมถอนหายใจไม่ได้พูดอะไร มันเปิดประตูเข้ามานั่ง สตาร์ทรถมันก็เปิดเพลง " ฟังเพลงนะ "
“ เรื่องกุญแจจะเอายังไง "
“ ไม่เอายังไง " บอกแบบนั้น ผมก็หันไปมองปิงหยิบบางอย่างออกมาจากกระเป๋ากางเกงของตัวเอง " กูเจอแล้วละ "
“ เหรอ " หัวใจของผมเหมือนตกลงไปบนพื้น รู้สึกหน้าของตัวเองเปลี่ยนสีตอนที่มันส่ายคีย์การ์ดของมันไปมาอยู่ตรงหน้าผม เมื่อคืนตอนที่แอบเอาไว้ก็ไม่ได้ใส่ใจอีกเลย ว่ามันจะไปอยู่ไหน
“ ในกระเป๋ากางเกงของมึง " ผมเงียบไปแต่มันยิ้ม " บอกหน่อย ว่ามันไปอยู่ในนั้นได้ไง "
“ แล้วทำไมกูต้องตอบ "
“ เพราะถ้ามึงไม่ตอบ กูก็จะคิดว่า มึงจงใจพากูไปนอนกับมึงที่คอนโด "
“ แล้วมึงเจอคีย์การ์ดตัวเองได้ไงละ "
“ ในตะกร้าผ้าที่มึงใส่แล้ว " พูดออกมาแบบนั้นมันยิ้ม
“ แอบดมกางเกงในใช้แล้วของกูเหรอ "
“ เชี้ย กูไม่ได้ลามกขนาดนั้นไอ้สัด กูแค่เห็นอะไรขาวๆโผล่ออกมาจากกางเกงมึงมันก็เท่านั้นเหละ ตอนแรกก็คิดว่า ของสำคัญจะเอามาให้ ควาย กูไม่ได้โรคจิตขนาดนั้นสักหน่อย " เถียงไปก็หน้าแดงไปมันเก็บคีย์การ์ดตัวเองใส่กระเป๋า
“ เจอแล้วงั้นก็ดี กูจะพามึงไปส่งคอนโด "
“ อย่า พาไปเลี้ยงข้าวก่อนเลย " ยื่นมือมาจับมือผมที่จับพวงมาลัยรถอยู่มันทำหน้างอ " เมื่อคืนกอดกูทั้งคืน พากูไปเลี้ยงเลย "
“ ใครกันแน่ที่กลิ้งเข้ามาให้กูกอด "
“ กูเหรอ " ชี้หน้าเข้าหาตัวเอง ผมที่ทำหน้านิ่งจนมันเริ่มเม้มปาก หน้าประหม่าของมันที่ผมเห็นครัั้งแรกแอบหลุดยิ้มออกมาตอนที่รีบหันไปอีกด้านเพื่อไม่ให้มันเห็น
“ กูไม่คิดจะกอดมึงก่อนอยู่แล้วละ "
“ แล้วถ้ากูกอดจริงทำไมมึงไม่ผลัก กอดกลับกูทำไม "
“ ตอนนอนกูไม่รู้เรื่องหรอก มึงอาจจะอยากมากก็ได้ ก็เลยทำบุญสงเคราะห์ให้ "
“ ไม่อยากจะไปกินข้าวกับมึงแล้วก็ได้ กลับบ้านเลยดีกว่า " ขี้งอนชะมัด ผมสถบอยู่ในความคิดตอนที่ขับรถออกไปจากใต้คอนโด ทางที่ผมมาไม่ใช่ทางกลับคอนโดของมัน แต่กลับเป็นทางไปร้านอาหารอิตาเลี่ยนที่ผมชอบ เป็นร้านที่แยกโซนของเป็นสองส่วน ทั้งร้านของหวาน และของคาว ชื่อร้านบอกเอกลักษณ์ความหอมหวานของพืชชนิดนึง ตั้งอยู่ในซอยทองหล่อ
“ นี่มันไม่ใช่คอนโดกู "
“ อยากกลับไปคอนโดตัวเองก็ไปสิ กูจะกินข้าว " ผมว่าแบบนั้นตอนที่ลงจากรถแล้วก็เดินเข้าไปในร้าน ไอ้ปิงที่กำลังจะหันตัวเองออกไปทางถนน ผมหันกลับไปจับมือมันให้เดินเข้าไป
“ ไม่ไปเว้ย "
“ ไหนบอกว่าอยากแดก นี่ก็พามาแล้วไง "
“ นี่พากูมาเหรอ " มันเหล่มองผม ถอนหายใจใส่ผมปล่อยมือมันก่อนจะเดินเข้าไปในร้าน หันมองไอ้ปิงที่ยังนิ่งผมหยุดก่อนจะพูดกับมัน
“ แล้วจะแดกมั้ยล่ะ "
“ แดกสิ " วิ่งมายืนอยู่ข้างๆ เป็นพวกชอบเอาชนะสินะ มันถึงไม่ยอมอะไรผมเลยแบบนี้ เปิดประตูเข้ามาในร้าน พนักร้านบอกให้เราไปนั่งโต๊ะที่อยู่ด้านนอก แต่ผมเลือกที่จะเดินไปนั่งด้านในมากกว่า
“ นั่งซะหลบมุมเลยมึง " ไม่ตอบอะไรมันสักพัก บริกรก็ยื่นเมนูมาให้
“ เมนูครับ "
“ เอาเครปเห็ดกับเบคอน แล้วก็สปาเก็ตตี้หมูกรอบสไปซี่ "
“ สปาเก็ตตี้มีสบอล แล้วก็น้ำเปล่า "
“ น้ำเปล่าด้วยครับ "
“ ครับ " ยิ้มตอบกลับให้ปิงที่ยิ้มหวานส่งไปให้ พนักงานเดินออกไป มันก็พูดขึ้น
“ มึงรู้ใจจัง กูชอบกินอาหารอิตาเลี่ยนร้านนี้ที่สุด " ผมมองไปรอบๆ ผมเองก็ชอบครับ มาค่อนข้างบ่อย
“ กูมาบ่อยอยู่แล้ว ไม่ได้เกี่ยวกันกับมึง "
“ มึงแม่ง ถามจริงๆเถอะ เคยมีแฟนกับเค้าบ้างเปล่าวะ "
“ ถามทำไม " มองหน้ามันไอ้ปิงยิ้มเยาะผม
“ ก็อยากรู้ว่านิสัยแบบนี้ จะมีใครทนมึงได้บ้าง กูพนันเลยว่า ตอนเลิกกันมันต้องบอกเลิกมึงก่อนแน่ "
“ กูทิ้งก่อนทุกคน " ผมว่าแบบนั้น ไอ้ปิงก็หุบยิ้ม และเป็นฝ่ายผมเองที่ต้องยกยิ้มบ้าง " เพราะกูเบื่อ "
“ เหี้ยว่ะ "
“ เหี้ยยังไง "
“ มึงเลิกกับเค้าเพราะแค่เบื่อ นี่นะเหรอวะ "
“ ก็มันเรื่องจริง จะให้โกหกทำไม ถ้าจะบอกว่าไม่รักแล้ว ก็พูดไม่ได้ เพราะยังไงกูก็ไม่ได้รักมันมาตั้งแต่แรกอยู่แล้ว "
“ ใจร้ายชะมัด "
“ กูทำแบบนี้กับทุกคนนั่นละ " บอกแบบนั้นตอนที่ผมจ้องตามันไอ้ปิงหลบหน้า
“ มึงทำแบบนั้นเค้าไม่เสียใจแย่เหรอวะ "
“ กูไม่ได้บอกให้ทนอยู่กับกูนิ ถ้ามันอยากอยู่ มันก็อยู่ ไม่อยากอยู่ก็ไป มันก็แค่นั้น "
“ ไม่เคยคิดจะรักใครจริงๆเลยเหรอ " เสียงที่ถามออกมาจริงจังจนผมต้องคิดคำตอบ มองหน้ามันที่เหมือนว่ากำลังลุ้นผมกลืนน้ำลายลง
“ ก็ยังไม่เจอ คนที่อยากจริงจังด้วย มากกว่า "
“ อาหารที่สั่งได้แล้วครับ " อาหารที่วางลงตรงหน้าตัดประโยคของเราที่กำลังจะพูดต่อ แต่ก็ดีแล้ว ความรู้สึกของปิงจริงจังกว่าจะมาพูดกับคนที่เอาแต่บ่ายเบี่ยงแบบผม
ก้มหน้าลงกินอาหารของใครของมัน ผมที่ไม่รู้จะพูดอะไรก็เลยไม่รู้อะไรที่ตัวเองจะต้องเริ่ม เครปคือจานสุดท้ายที่วางลงตรงหน้าเรา ไอ้ปิงเอื้อมมือไปหั่นมันเป็นชิ้นๆ ก่อนจะยื่นป้อนมาให้ผม
“ อร่อย ลองกินดู "
“ วางลงดิ " ผมบอกมันที่ยังไม่วางลงบนจานของผม ช้อมส้อมที่ยื่นมาตรงหน้า มันส่ายหน้าให้กับความต้องการที่จะกินเองของผม
“ แดกๆไปเหอะน่า ไม่มีใครเห็นหรอก " อ้าปากรับอาหารของมันอย่างเสียไม่ได้อีกคนยิ้ม ก่อนจะก้มลงกินของตัวเองบ้าง " รสชาติเป็นไง "
“ ก็อร่อยดี "
“ เอาอีกมั้ย "
“ เอาอีก " คราวนี้มันตักมาไว้บนจานผม นิ่งอยู่สักพักผมตักมันเข้าปาก แต่ก็รู้สึกว่ารสชาติมันไม่เหมือนเดิม " ไม่อร่อย "
“ อะไรของมึง เมื่อกี้ยังบอกว่าอร่อยอยู่เลย "
“ ก็ตอนนี้มันไม่อร่อยแล้ว "
“ ไหนกูจะชิม " มันชิมของตัวเอง แต่ยิ่งเคี้ยวมันก็ยิ่งขมวดคิ้ว " ก็อร่อยเหมือนเดิม "
“ ไม่อร่อย " ตักของตัวเองขึ้นมากิน มันที่ไม่ยอมตักเครปป้อนผมอีกคำ
“ อะ อีกคำ "
“ อร่อยดี " บอกแค่นั้น ไอ้ปิงก็ขมวดคิ้ว
“ อะไรของมึง "
“ อร่อยก็บอกว่า อร่อย ไม่ไม่อร่อยก็คือไม่อร่อย "
“ เรื่องมาก " บ่นแบบนั้นมันก็ก้มลงกินสปาเก็ตตี้ของมันต่อ เป็นสปาเก็ตตี้แบบเผ็ดที่เข้ากับมันดีครับ " อยากกินของหวาน "
“ ก็กินสิ "
“ แต่มันอยู่อีกร้านนึง " มองออกไปด้านนอก ผมเห็นหยาดฝนที่กำลังโปรยปรายลง " แต่ฝนตกแล้ว "
“ งั้นก็แดกอะไรที่มันมีที่นี่ไปก่อนสิ "
“ อื้ม " ตอบแบบไม่อยากจะตอบเท่าไหร่ หน้าตาเสียดายของมัน น่ารักดี จนต้องเผลอยกยิ้ม
“ รอให้ฝนซาแล้วค่อยออกไปกินสิ "
“ กูว่าดูท่าคงนานว่ะ " พูดแบบนั้นก่อนจะมองออกไปนอกหน้าต่างร้าน ท้องฟ้าครึ้มที่บอกว่าตกคราวนี้ได้ติดฝนกันยาวแน่ๆ
“ นานก็นานสิ " นานก็ดีเหมือนกัน จะได้อยู่กันนานๆ
“ มึงไม่เบื่อรึไงว่ะ "
“ ไม่นี่ " บอกแบบนั้นก้มลงกินอาหารคำสุดท้ายในจาน ยกน้ำขึ้นดื่มแต่ดูเหมือนว่าอีกคนจะยังไม่เสร็จ มันก้มลงกินของตรงหน้า ท่าทางการกินของมันดูน่าอร่อย ไม่รู้ทำไมถึงเป็นแบบนั้น ไม่ว่าจะกิน จะนอน หรือทำอะไรก็แล้วแต่ อยากรู้นักว่ามีมุมไหนที่ดูไม่น่ารักบ้าง
“ มองอะไร อยากแดกอีกเหรอ "
“ เปล่านี่ " ผมก้มลงหยิบมือถือขึ้นมาเล่น เหลือบมองมันที่กำลังกินเป็นระยะ
“ เมื่อไหร่ฝนจะแล้งวะ "
“ ก็คงอีกสักพัก "
“ เออ ถามหน่อยสงสัยตั้งแต่เมื่อคืนละ มึงเป็นคนต่างจังหวัดเหรอ "
“ เปล่า "
“ อ้าว แล้วทำไมอยู่คอนโดคนเดียว "
“ พ่อแม่อยู่ต่างประเทศ " บอกแบบนั้น ไอ้ปิงก็พยักหน้า
“ ประเทศอะไร "
“ สิงคโปร์ "
“ เหรอ " มันเงียบลงไปก่อนจะก้มลงกินอาหารต่อ ท่าทางแปลกๆของผม ทำให้ผมเลือกที่จะถามต่อ
“ เป็นอะไร "
“ เปล่านี่ "
“ แล้วมึงละ "
“ เป็นคนเชียงราย " ก็คิดอยู่แล้วว่ามันไม่น่าจะใช่คนกรุงเทพ
“ อ้าว ปิง " เสียงนึงที่ดังทักมัน หันไปมองผมเจอกับผู้ชายคนนึงที่อายุน่าจะเท่าๆกับเรา หน้าตาดีครับดูเป็นหนุ่มตี๋ มันยืนส่งยิ้มมาให้ไอ้ปิงที่ก็หันไปยิ้มตอบมันพยักหน้า " เป็นไงบ้างว่ะ ไม่เจอกันเลย "
“ ก็สบายดี มึงละแพ็ค "
“ กูก็สบายดี เพิ่งกลับมาจากอเมริกาอะ ตอนแรกว่าจะโทรหา ดันมาเจอมึงซะได้ "
“ ก็นะ " บอกแบบนั้น มันส่งสีหน้าเจื่อนๆ มาให้ผม
“ แล้วนี่ "
“ เพื่อนนะ พอดีมากินข้าวด้วยกัน "
“ อ้อ งั้นเดี๋ยวโทรหา ยังใช้เบอร์เดิมใช่มั้ย " พยักหน้าตอบรับไปอีกคนก็ยิ้มก่อนจะเดินกลับไปที่โต๊ะของตัวเอง
“ ผัวมึงนี่ เยอะนี่นะ "
“ แค่เพื่อน " บอกแค่นั้น ก่อนจะวางช้อนที่กินข้าวลงมันถอนหายใจก่อนจะกินน้ำของตัวเอง ผมยิ้มออกมาตอนที่มันตอบแบบนั้น " ยิ้มเหี้ยอะไร "
“ ยิ้มให้คำโกหกที่ไม่เนียนของมึง "
“ กูไม่ได้คิดอะไรกับมันสักหน่อย "
“ เคยเอากันรึยัง " คำถามของผม มันอาจจาบจ้วงแต่มันก็เป็นคำถามที่ผมอยากรู้ที่สุด ตั้งแต่มันเดินเข้ามาหา มันคุยกัน ผมรู้สึกว่า ท่าทางและสายตาของมันทั้งคู่คงไม่ใช่แค่เพื่อนกันอย่างที่ผมเองก็อยากจะให้เป็นแค่นั้น " หึ ไม่น่ารอด มันนะไม่น่าจะรอดมือมึงหรอก "
“ พูดเหี้ยอะไรว่ะ "
“ ก็ตามที่เห็น ถามจริงเถอะ คนที่มึงเอากับเค้านะมึงบอกว่าเป็นเพื่อนทุกคนรึเปล่าวะ " ผมเว้นเสียงตอนที่มองหน้ามัน " จริงๆเมื่อคืนที่มึงยั่วกูแบบนั้นกูน่าจะเอามึง ก็กูเป็นเพื่อนมึงเหมือนกันนิ " ไม่รู้หงุดหงิดอะไร แต่แค่ไม่เข้าใจว่าทำไมใครๆถึงสนใจในตัวมันนัก แล้วที่ไม่เข้าใจเลยก็คือ ทำไมมันถึงทั่วถึงกับคนที่เข้ามาหามันไปหมดทุกคน " งั้นไอ้ไทนี่ เสร็จมึงยังว่ะ "
“ มึงแม่ง เหี้ยว่ะ " คำพูดลอดไรฟัน ก่อนวินาทีต่อมาน้ำที่มันถือจะถูกสาดมาที่หน้าผม " มึงไม่รู้จักกูดี อย่ามาดูถูกกูนะ ไอ้สัด " พูดจบแค่นั้นมันเดินออกจากร้านโดยไม่สนใจผมเลยสักนิด ฝนที่ตกกระหน่ำ ผมเช็ดหน้าตัวเองก่อนจะวางเงินบนโต๊ะไว้สองพันแล้ววิ่งตามมันออกไป
ร่างบางเสื้อขาวที่วิ่งตากฝนออกไป ทางไกลที่มันเดินเร็ว ผมก็รีบวิ่งตามก่อนจะจับแขนมันไว้ " พูดความจริงแค่นี้มึงโกรธเหรอวะ "
“ อย่าพูดเหี้ยอะไรอีกเลยว่ะ มึงพอเหอะ ถ้ามึงพูดออกมาแล้วพูดแบบนี้ มึงหุบปากไปเถอะ "
“ ขึ้นรถ " ดึงมันให้เดินไปทางที่รถของผมจอดอยู่ แต่มันก็สะบัดแขนผมออก
“ กูกลับเองได้ ไม่จำเป็นต้องพึ่งมึงหรอก " สายตาแดงๆของมันหันมามองผม ในสายฝนที่ตกกระหน่ำลงมา ปิงกำลังร้องไห้ " จริงๆ กูแม่งโคตรโง่ กูคิดว่ากูน่าจะเปลี่ยนความคิดมึงได้ ด้วยความจริงใจของกู แต่กูว่ากูคิดผิดว่ะ มึงแม่ง นอกจากหล่อแล้ว มึงไม่มีอะไรดีเลย ทั้งเหี้ย แถมความคิดก็ยังต่ำอีก กูยอมแพ้มึงเสือ มึงชนะแล้ว พอกันที " ทุกอย่างตรงนั้นเงียบไอ้ปิงมองหน้าผม สายตาที่ไม่เคยเห็นมาก่อน " รู้มั้ยตอนแรกกูคิดว่ามึงมีใจให้ จนบางทีกูก็ฝัน ฝันว่าเราจะรักกันได้ "
“ ขอ.. "
“ ถ้ามึงยังจมอยู่กับอดีตของกู กูก็ไม่มีวันชนะใจมึงได้หรอก แต่มึงอย่าลืมนะว่า มึงเองก็มีอดีตเหมือนกัน กูเอากับคนไปทั่ว แล้วมึงละ มึงไม่เอากับคนไปทั่วรึยังไงวะ มึงแม่งไม่แฟร์เลย อยากได้ของดีแต่Kตัวเองก็ไม่ได้ซิงซะหน่อย มึงแม่งก็ร่านเหมือนกันนั่นเหละ ควายเอ้ย " พูดแบบนั้นในประโยคยาวๆ มันยกยิ้มตอนที่มองหน้าผม " กูจะไม่วิ่งตามมึงแบบที่กูวิ่งอีกแล้ว พอที แท็กซี่! “
รถแท็กซี่คันสีชมพูพุ่งเข้ามาจอด มันเข้าไปนั่งก่อนที่รถจะแล่นออกจากสายตาของผมไป ' ขอโทษว่ะ กลับกับกูเถอะ ' เมื่อกี้ที่อยากจะพูดออกไป แต่ผมรู้ว่ามันคงสายไปแล้ว .. ไม่ทันแล้ว
..................................................อ่านตอนนี้แล้วรู้สึกว่า
เสือแม่งโคตรเหมาะกับเพลง " พูดไม่คิด " ของ Season Five feat. ฟักกลิ้ง ฮีโร่ โคตรๆเลย
จนแต่งเสร็จก็มานั่งฟังก็พบว่า เออ เพลงนี้ประกอบนิยายเรื่องนี้ได้เลยนะ
ตอนหน้าขอเพลงนี้ประกอบอีกที มันแบบรู้สึกอิน
ฝากแท็ก #เสือปิง ด้วยนะคร่า สำหรับใครที่มีทวิตและเฟส
ขอบคุณที่เข้ามาอ่านและคอมเม้นท์นะคะ
