เครื่องปรุง จากวันที่เก๋ากับคุณแบงค์เข้ามาขอคบกัน คุณถุงก็เข้าควบคุมความประพฤติสองคนนั้นอย่างจริงจัง คุณถุงสั่งให้คบกันได้แต่ต้องมีขอบเขต ตามดูอยู่ได้สักระยะตัวเขาเองก็ต้องเดินทางไปต่างประเทศเรื่องสัญญา ส่วนผมก็อยู่ทำงานที่ไทย เพราะมีสาขาเปิดใหม่ทำให้มีออเดอร์เข้ามาเยอะ บางวันผมทำงานแทบจะไม่ได้นอน เขาก็สไกป์มาหาเพราะเป็นห่วง บางทีเราก็คุยกันทั้งสามคน ตอนนี้เกี๊ยวเริ่มโตแล้วน้องจะเข้าอนุบาลสามเดือนหน้า นี่แหละปัญหาที่คุณถุงกำลังเครียดอยู่ตอนนี้ เขากลัวว่าน้องจะรับไม่ได้หากรู้ว่าเราคบกันในฐานะอะไร ผมเองตอนแรกก็ไม่ได้วิตก แต่พอคิดดูอีกที เราเองก็ยังไม่เคยบอกน้องว่าคบกันในฐานะแฟน ซึ่งนั่นคือตำแหน่งแม่ใหม่ในความคิดน้อง ถ้าหากว่าน้องรับไม่ได้ล่ะผมจะทำอย่างไร หรือควรจะให้เขาโตกว่านี้ก่อนค่อยบอก
"เกี๊ยวทำการบ้านเสร็จแล้วฮะ ตอนนี้หิวแล้วด้วย ท้องร้องจ๊อกๆ" เกี๊ยวเดินมาหาผมแล้วเอาพุงน้อยๆมายื่นใส่หน้าทำให้เจ้าตัวดีถูกผมดึงมากอดแล้วฟัดไปที่พุงขาวจนเจ้าตัวหัวเราะเอิ๊กอ๊ากเสียงดัง
"ฟอดด อยากทานอะไรเอ่ยคนเก่ง" ผมหอมแก้มใสแล้วปัดผมให้เข้าทรง ลูกใครน้าา พ่อไม่อยู่
"เกี๊ยวอยากหม่ำไอติม คิคิ" ไม่ใช่แล้วมั้งเกี๊ยว
"เอาของคาวก่อนน คิดแต่ของหวานนะเรา" ผมบอกเอาหัวชนหน้าผากเล็กแสนเจ้าเล่ห์ ไอ้ที่หิวเนี่ยแค่อยากทานไอศกรีมสินะ
"งั้นเราไปกินเอ็มเคได้มั้ยฮะ .. มีไอติมด้วย" น้องบอก ผมเลยสรุปว่าไปทานเอ็มเค เก็บข้าวของเรียบร้อยก็เตรียมตัวออกจากบริษัท ช่วงนี้ผมขับรถมาเองไม่ได้ใช้บริการพี่แจ่ม มาถึงห้างก็นั่งรอสักพักถึงได้คิว โทรไปบอกแตเรียบร้อยว่าไม่ทานข้าวบ้านแล้วเดี๋ยวจะซื้อเป็ดย่างไปฝาก ทานกันเสร็จก็ขับรถกลับบ้าน ตอนนี้เวลาประมาณสองทุ่มแล้วผมเอาของที่ซื้อมาไปให้แตที่ครัวก่อนจะตามน้องขึ้นมาด้านบน เดี๋ยวนี้เกี๊ยวอาบน้ำเองได้แล้วไม่ต้องพึ่งพาใคร แต่บางครั้งผมก็ยังอาบให้บ้างถ้ามีเวลา ผมอาบน้ำเสร็จก็มานอนกับน้องที่ห้อง เรานอนกันสองคนมาเกือบอาทิตย์แล้วครับ คุณถุงไปครั้งนี้ไปเป็นอาทิตย์กันเลยทีเดียว หวังว่าหมดช่วงนี้ไปทุกอย่างจะกลับมาเป็นเหมือนเดิม ทานข้าวด้วยกัน เที่ยวด้วยกัน นอนด้วยกันเหมือนเดิม
แล้ววันที่เจ้านายผมเดินทางกลับก็มาถึง เกี๊ยวตื่นแต่เช้าออกไปรับคุณถุงจากสนามบินส่วนผมกับแตช่วยกันทำอาหารต้อนรับเจ้าของบ้านจนเต็มโต๊ะไปหมด รอไม่นานพ่อลูกก็เดินจูงมือกันเข้ามา พี่แจ่มเดินเข้ามาพร้อมถุงของฝากมากมาย เกี๊ยวดูมีชีวิตชีวาขึ้นมากและผมก็มีความสุขเช่นกันที่ได้เห็นภาพเหล่านี้ มันเป็นความสุขที่หาซื้อไม่ได้จริงๆ
"อยู่นี่สบายดีหรือเปล่า คิดถึงนะ" เขาเดินเข้ามาคล้องเอวผมที่กำลังจัดผักสดใส่จาน กลิ่นตัวหอมที่คุ้นเคยทำให้ผมรู้สึกอบอุ่น เขาก็ยังคงเป็นคุณถุงของผมคนเดิม
"สบายดีครับ คิดถึงเหมือนกันนะ" ผมบอกเอนตัวไปหาเขาเล็กน้อยเพื่อเป็นการรู้ว่าเราสองต่างคิดถึงกัน หลังจากนั้นเราก็ผละจากกัน หลังจากสัปดาห์แห่งงานยุ่ง วันนี้เป็นวันแรกที่ได้อยู่พร้อมหน้าพร้อมตาทานข้าวด้วยกัน ดูหนัง พูดคุย พักผ่อน ทำกิจกรรมด้วยกันจนเหนื่อย เราก็เข้านอนกันสามคน เป็นชีวิตที่มีความสุขจริงๆ ไม่ต้องคิดมากเรื่องใคร เพราะนี่คือครอบครัว
.........
เช้าวันจันทร์ผมกับคุณถุงไปส่งน้องเข้าเรียนเสร็จก็เดินทางไปชลบุรี เราต้องไปดูวัสดุล็อตใหม่ที่เอามาลงที่สนามบิน ตรวจเช็คสภาพเสร็จก็ปาไปบ่ายสาม เดินทางอีกสองชั่วโมงกว่าจะถึงบ้านเลยต้องให้พี่แจ่มไปรับน้องกลับจากโรงเรียนก่อนทั้งๆที่สัญญาไว้แล้วว่าจะพาไปทานข้าวข้างนอกแต่งานกลับเสร็จช้า
ถึงบ้านเกี๊ยวก็มานั่งรออยู่ก่อนแล้ว ตัวเล็กนั่งอยู่บนโซฟาคนเดียว เสื้อผ้ายังไม่ถอดเลย ในมือมีหุ่นคอสมอสที่กำลังหมุนไปหมุนมา น้องทำหน้ามุ่ย เบ้ปาก เตรียมร้องไห้เต็มที่ ผมกับคุณถุงพอเห็นแบบนี้แล้วอดใจหายไม่ได้ โดยเฉพาะเขาที่ตอนนี้รีบเดินเข้าไปหาลูกอย่างเร็ว
"เกี๊ยวครับ" คุณถุงเข้าไปคุกเข่าข้างเกี๊ยวแล้วลูบหัว เจ้าตัวเล็กไม่ยอมเงยหน้าขึ้นมา ทำให้พวกผมยิ่งใจเสีย
"ปะป๊ามาแล้วไวครับ ป่ะ ไปทานข้าวกันดีกว่าเนอะ" คุณถุงทำท่าจะอุ้มเจ้าตัวเล็กแต่เหมือนน้องจะงอแง เริ่มเบะปาก น้ำตารื้น ไม่ยอมให้คุณถุงอุ้ม
"โกรธอะไรครับคนดี หืม ไม่เอาลูก ปะป๊ากับพี่ปรุงไปทำงานนะ" คุณถุงปลอบน้อง แค่เพียงก้มลงไปจูบขมับเท่านั้นแหละครับ ร้องไห้ออกมาเหมือนกลั้นไว้นาน เห็นแล้วก็อดสงสารไม่ได้ เด็กยังไงก็ยังเป็นเด็กอยู่วันยังค่ำ จะให้มาเข้าใจว่าป๊าไปทำงานตลอดมันก็คงไม่ได้
"ฮึ่ก .. ปะป๊า .. ฮึ่ก .. พี่ปรุง .. ทิ้ง .. ฮึ่ก .. เกี๊ยว" เกี๊ยวสะอื้นร้องไห้ออกมาจนตัวโยน คุณถุงรีบอุ้มน้องขึ้นตักแล้วกอดปลอบลูบหลังคนตัวเล็กอย่างอ่อนโยน คงจะกลัวมากสินะว่าพวกผมจะทิ้งให้เขาอยู่คนเดียว
"ปะป๊ากับพี่ปรุงไปทำงานนะลูก ไม่ได้ทิ้ง ปะป๊ารีบขับรถกลับมาเพราะหนูเลยรู้ไหม ไม่เอาไม่ร้องนะคนดี เห็นหนูร้องป๊าจะร้องตามแล้วนะ" คุณถุงพูดประโลม เกี๊ยวที่สะอื้นยังไม่ยอม น้องนั่งหันหน้าเข้าหา ซุกหน้าส่ายไปมาจนน้ำมูกน้ำตาติดเต็มเสื้อคุณถุง
"ไม่มีใครลืมเกี๊ยวน้าาา ไหนมานี่สิครับ ทำไมวันนี้งอแงจังเลย" ผมเห็นไม่ได้การเลยอุ้มน้องมากอดเสียเอง เกี๊ยวยังสะอื้นแต่กอดคอผมไว้แน่น
"เกี๊ยว .. ฮึ่ก .. เกี๊ยวกลัว .. เพื่อนในห้อง .. ล้อเกี๊ยว .. ว่าไม่มีแม่ .. แล้วบอก .. ฮึ่ก .. บอกว่า .. ปะป๊า .. จะหาแม่ใหม่ .. ฮืออ .. เกี๊ยวไม่เอา .. เกี๊ยวไม่เอาแม่ใหม่!" สุดท้ายน้องก็เผยเหตุผลที่ทำให้เจ้าตัวเก็บมาคิดมาก งอแง เฮ้อ เรื่องล้อกันมันก็เป็นเรื่องที่ห้ามกันไม่ได้ แต่แบบนี้เจอบ่อยๆน้องก็คงแย่เหมือนกัน
"ปะป๊าไม่มีใหม่หรอกครับ ไม่ต้องห่วงนะ .. หยุดร้องได้แล้วลูก ลูกผู้ชายต้องเข้มแข็งสิ" คุณถุงบอกลูบหัวตัวเล็กที่เงียบไป
"เกี๊ยวไม่ชอบ .. ฮึ่ก .. ไม่ชอบอยู่คนเดียว" น้องกอดผมแน่นขึ้นแล้วพูดอู้อี้อยู่แถวหน้าอกผม
"โอเค ครั้งนี้ปะป๊าขอโทษ ครั้งหน้าจะไม่ทำแล้ว สัญญา" เขายื่นนิ้วก้อยให้ตัวเล็ก น้องเบะปากนิดหน่อยแล้วค่อยๆยื่นนิ้วเล็กออกไปหา หลังจากที่ทำสัญญาใจกันเรียบร้อย เจ้าตัวเล็กของผมก็โดนฟัดกันไปตามระเบียบ กว่าจะออกไปทานข้าวกลับมาก็ดึก ทีนี้ล่ะเงียบเลย ไม่มีแรงแม้แต่จะอาบน้ำ พอหัวถึงหมอนเท่านั้นแหละ หลับเป็นตาย
"เครียดเรื่องน้องหรอครับ" ผมเพิ่งอาบน้ำเสร็จ พอออกมาก็ไม่เจอใครในห้อง เลยเดินออกมาดูด้านนอกเห็นคุณถุงยืนเหม่อดูดาวอยู่คนเดียว
"เฮ้อ ก็ใช่อ่ะนะ เดี๋ยวฉันคงต้องโทรไปแจ้งครูประจำชั้นไว้หน่อย จะได้ไม่เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นอีก" เขาพูดดึงผมไปกอด ดวงดาวกรุงเทพฯแม้จะไม่สวยเท่าที่อื่น แต่คืนนี้มันช่างดูสว่างจนทำให้เห็นรอบๆกรุงเทพได้เป็นอย่างดี
"ถ้าเป็นแบบนี้ เรื่องของเรา ผมว่ารอให้น้องโตก่อนดีกว่าครับ ตอนนี้น้องยังเด็กเกินไป อาจทำใจรับไม่ได้ที่ผมเข้ามาแทนแบบนี้" ผมพูดเสียงแผ่ว อีกใจก็เชื่อว่าเกี๊ยวรักผม แต่อีกใจมันกลับลังเลกลัวน้องรับไม่ได้
"เอาแบบนั้นก็ได้ แต่ขอให้นายรู้ไว้ ว่าถึงแม้ใครจะรับเรื่องของเราไม่ได้ แต่ฉันจริงใจและรักนายจริงๆ" เขาพลิกตัวผมให้กลับมาเผชิญหน้ากัน ไม่ว่าวันนี้หรือวันข้างหน้า ผมก็จะเชื่อคุณครับ คุณถุง
"ขอให้นายมั่นใจในตัวฉันและพร้อมที่จะก้าวเดินไปด้วยกัน มันไม่มีสิ่งใดที่จะทำให้เราหมดรักกันได้ จริงไหม" เขากดจูบมาที่ริมฝีปากผมเนิบช้า มันเป็นจูบที่เต็มไปด้วยไอรัก คนคนนี้ไม่ได้มีดีแค่พูด แต่เขาทำให้ผมเห็นว่าเขาห่วงและรักผมมากขนาดไหน เขาไม่เคยทำหน้าที่บกพร่องไม่ว่าจะการงานหรือครอบครัว เขาก็สามารถเติมเต็มมันได้ไปพร้อมๆกัน
"รักฉันบ้างหรือเปล่าปรุง นายรักฉันบ้างไหม" เขาถามกดจูบย้ำๆเหมือนไม่อยากผละออก ผมจูบเขาอีกครั้งส่งลิ้นหวานที่บ่งบอกว่าผมรักเขาแค่ไหน จากความเกรงใจ ความเชื่อใจ สุดท้ายมันก็กลายเป็นความรัก จากลูกน้องที่ไม่มีอะไรเลย ตอนนี้ผมกลับได้เขามาดูแลชีวิต มันยิ่งกว่าคำว่าโชคดี แม้ผมจะไม่มีพ่อแม่แล้ว แต่ตอนนี้ชีวิตทั้งหมด ผมฝากไว้กับคนคนนี้
"รักสิครับ ผมรักคุณ รักมาก รักหมดหัวใจ" ผมบอกคำว่ารักออกไป คุณถุงน้ำตารื้นรวมทั้งผม เรากอดกันจนพอใจ ผมหันกลับไปมองท้องฟ้าโดยมีเขายืนกอดซ้อนหลังอยู่
ถ้าหากวันนั้นผมไม่คิดจะมาทำงานที่ตงฮว่า
หากวันนั้นผมตัดสินใจไปเรียนต่อโทรที่จีน
หากผมไม่ต้องดูแลเขาตอนเข้าโรงพยาบาล
วันนี้ผมก็คงไม่ได้มีชีวิตที่มีความสุขขนาดนี้หรอก
ผมคงไม่มีวันได้มาเจอคนที่มาดร้าย จอมโหด แต่อบอุ่น และจริงใจคนนี้
และเด็กน้อยแสนซนและน่ารักอย่างเกี๊ยว
ถ้าหากว่ามันคือพรมลิขิตที่บันดาลให้เรามาเจอกัน
ผมคงจะพูดได้คำเดียวว่าผมโชคดีมากจริงๆ
สุดท้ายที่ผมอยากจะบอกก็คือ
เครื่องปรุง รัก ถุงทอง
.......
สิบสามปีต่อมา"ป๊าครับ ป๊า วู้ววววว" เสียงห้าวของเด็กผู้ชายวัย 18 ที่กำลังอยู่ในวัยสอบเข้ามหาลัยร้องโวยวายลั่นบ้านจนคนเป็นพ่อต้องเดินออกมาปรามจากในครัว เพราะจากเสียงแล้วลูกชายเขากำลังตรงมาทางนี้
"มีอะไรลูกเสียงดังเชียว" เสียงของพ่อปรามลูกชายที่กำลังเดินเข้ามาพร้อมใบอะไรสักอย่าง ใบหน้าหวานติดแม่ยิ้มจนตาโตดำขลับตอนนี้กลายเป็นตี่ปิดกันจนแทบจะมองไม่เห็น
"พ่อครับ ป๊าล่ะ น้องมีอะไรจะอวดป๊าล่ะ" ถามคนเป็นพ่อที่อยู่ในชุดกันเปื้อนสีน้ำเงิน ตอนนี้หนุ่มน้อยกำลังโวยวายอยู่กลางบ้าน ลูกชายเพียงคนเดียวของถุงทอง เจ้าของกิจการชื่อดัง
"เอะอะโวยวายอะไรครับเกี๊ยว" เสียงหล่อที่กำลังเดินเข้ามาจากหน้าบ้านเรียกความตื่นตัวให้กับหนุ่มน้อยเป็นอย่างมาก เขารีบเดินไปจูงมือป๊าและพ่อมานั่งโซฟาอย่างงุนงง ก็นั่นสินะ ลูกคนนี้จะมีอะไรมาเซอร์ไพรส์พ่ออีกล่ะ
"ทำใจดีๆนะครับ คือ .. น้อง .. น้อง .. น้องติด .. น้องติดวิศวะจุฬาแล้ววว .. วู้ววว .. ดีใจไหมป๊า .. น้องเก่งไหมครับ" เจ้าตัวที่ยืนอยู่ด้านหน้าเหมือนกำลังโชว์ผลงานให้อาจารย์ฟังพูดอย่างตื่นเต้น เขาทำได้แล้ว เขาทำเพื่อป๊าได้แล้ว
"เก่งมากลูก เก่งมาก คะแนนท็อปเลยไหม หืม" คนเป็นพ่อทั้งสองดึงลูกลงไปกอด ตอนนี้ลูกชายเพียงคนเดียวของเขาถือว่ากำลังก้าวไปสู่ความเป็นผู้ใหญ่อีกขั้นแล้ว
"เกือบครับ ที่สอง แต่แค่นี้ก็ดีแล้ว จริงไหมครับพ่อ" หันไปหาคู่ชีวิตของพ่อแล้วกอดซุกอย่างรักใคร่ ใครจะไปรู้ว่าชีวิตคนเรามันจะเร็วขนาดนี้
"พอแล้ว น้องมาบอกแค่นี้แหละ เดี๋ยวขึ้นไปเม้ากับเพื่อนแล้วจะลงมาทานข้าวด้วยนะครับ รักป๊า มัวะ รักพ่อปรุง มัวะะะ" กอดคอหอมแก้มกันเรียบร้อยก็วิ่งขึ้นไปเม้ากับเพื่อนด้านบนต่อ เหลือเพียงคนเป็นพ่อสองคนที่มองตามลูกขึ้นไปอย่างใจหาย
"เขาโต เราก็ยิ่งแก่ลงเรื่อยๆ" คนเป็นพ่อแท้ๆพูด เวลานี้พวกเขาก็ปาไปเลขสี่กันแล้ว
"ดีใจที่ได้อยู่ดูลูกแบบนี้ เรายังไม่ตายกันง่ายๆหรอกเนอะคุณถุง" คนตัวเล็กกว่าพูดจาชวนขำ เวลานี้พวกเขาแทบจะไม่มีอะไรต้องห่วงอีกแล้ว เขามีทุกอย่างเพียบพร้อม สามารถใช้ชีวิตกันอย่างสบายใจ
ไม่มีคำพูดใดหลังจากนั้น มีแค่คนสองคนที่นั่งมองหน้ากัน เสียงลมหายใจที่สามารถรับรู้ว่ายังมีชีวิตอยู่ และสองมือที่ประสานกันอย่างลงตัว นี่สินะ คำว่า รักแท้ ที่ทุกคนตามหา และเป็นเขาสองคนที่ได้มีโอกาสเจอมันแล้ว รักแท้ของกันและกัน
The End
ขอบคุณทุกกำลังใจที่ติดตามกันมานะคะ
คงไม่มีใครคิดว่าจบไวไปเนอะ เพราะเรื่องทุกอย่างเคลียร์เรียบร้อยแล้ว
แม้จะจบเรื่องคุณถุงแต่ของแบงค์เก๋ายังมีน้า
รบกวนรอสักหน่อยนะคะ
รักคนอ่านทุกคนค่ะ
