เครื่องปรุง ผมพาน้องไปอาบน้ำ เพราะตาน้องจะปิดอยู่แล้ว เกี๊ยวร้องไห้จนเพลีย คุณไลลาก็ช่างใจร้าย เด็กก็ยืนอยู่เฉยๆแท้ๆ ดันชนไปได้ จะทะเลาะอะไรกันก็อย่ามาลงที่เด็กสิ .. พอน้องหลับผมถึงได้เดินออกมาดูคนเป็นพ่อ นี่คิดจะหมกตัวอยู่แต่ในห้องทำงานหรือไง
"ขออนุญาตินะครับ". ผมเคาะประตูแล้วเปิดเข้ามาในห้องทำงาน ทำไมมันเละเทะขนาดนี้เนี่ย แฟ้มเอกสาร กระดาษต่าง กระจัดกระจายเต็มห้องไปหมด นี่ฝีมือใครระหว่างฝีมือคุณไลลาหรือฝีมือเจ้านายผม ?
ผมเดินเก็บเอกสารทั้งหมดเข้าที่ แล้วเดินไปหาเขาที่นั่งอยู่บนโซฟา ตาเขามองไปที่แก้วเหล้าอย่างเหม่อลอย หืออ เหม็นเหล้ามาก แขนยังไม่หายดีเลยดื่มเหล้าได้ไง
"คุณจะเสียใจหรือทุกข์ทรมานแค่ไหนก็ไม่น่าพึ่งของมึนเมานะคุณถุงทอง" ผมพูดแล้วดึงแก้วในมือเขาออก เขายอมปล่อยมือง่ายๆแล้วเอนตัวพิงโซฟาดูแล้วก็น่าอนาถใจ แต่ผมก็เข้าใจนะ ตอนที่ผมแอบฟังคือผมเดินไปเข้าห้องน้ำล้างหน้าด้านบน พอเดินผ่านห้องทำงานเขา ผมได้ยินเสียงโวยวายออกมาจากในห้อง มันเสียงดังมากจนผมต้องเสียมารยาทแอบฟัง ได้ยินไม่กี่ประโยคหรอก แต่ก็จับใจความได้ว่าคุณไลลาไปแอบมีชู้ แล้วคุณถุงทองจับได้ เฮ้อ เท่าที่ดูๆก็รักกันดีออก แต่ก็อย่างว่าอ่ะเนอะ เธอทั้งสวย แถมยังอยู่ในสังคมบันเทิง ห่างกันขนาดนี้ก็คงเผลอไผลไปบ้าง
"ฉันมันไม่ดีพอใช่ไหม ฉันมันคนมีภาระ หึ ที่จริงฉันควรเป็นคนเจียมตัวนะ ว่าเขาคงไม่เอาผู้ชายที่มีลูกติดแบบนี้หรอก " เขาพูดจาเยาะเย้ยตัวเองแล้วหัวเราะออกมา ผมลองดูโถเหล้า นี่ดื่มไปเยอะใช้ได้เหมือนกันนะ
"คุณออกไปอาบน้ำนอนเถอะ อย่ามัวแต่มาคิดมากเลย มันไม่สมเป็นคุณเลยนะ". ผมพูดแล้วหยิบขวดเหล้าไปเก็บ
"เฮ้ย ! คุณถุง". คุณถุงคว้าเอวผมไว้ตอนกำลังจะเดินเอาโถเหล้าไปวาง ไอ้บ้านี่มาคว้าผมไว้ทำไมกันเล่า
"อยู่นิ่งๆ .. อึ่ก .. สักพักได้ไหม". เขาถามแล้วเอาหน้าซุกมาที่ท้องผม ไม่เปิดโอกาสให้ผมได้ตอบหรือปฏิเสธเลย
ผมปล่อยให้เขากอดผมไว้ บางทีคนที่ดูเข้มแข็งแบบเขาอาจต้องการที่พึ่งพิงบ้าง คุณถุงทองเขาก็แค่ผู้ชายคนหนึ่งที่โดนทำร้ายจิตใจมา ถ้าผมเป็นเขาผมก็อาจจะเฮิร์ทแบบนี้ หรืออาจจะยิ่งกว่านี้ก็ได้
"คุณต้องเข้มแข็งนะครับคุณถุง .. อย่าลืมสิว่าคุณยังมีน้องเกี๊ยวที่ต้องดูแล" ผมปลอบใจเขา แม้เขาจะไม่มีน้ำตาออกมาสักหยดเดียว แต่ก็สัมผัสได้ว่าเขาเจ็บปวดไม่น้อย
"การที่เราอยากจะมีใครสักคนมาคอยดูแลมันผิดมากใช่ไหมปรุง" เขาพูดตัดพ้อออกมา ผมเห็นใจเขานะ เขากับคุณไลลาก็คบกันมาตั้งนาน ไม่น่ามาเจอเรื่องแบบนี้เลย
"ไม่ผิดหรอกครับ ใครๆก็อยากจะมีคนดูแลทั้งนั้น .. คุณไหวไหม ไปกันเถอะครับ แล้วนี่ปวดตรงไหนหรือเปล่า" ผมช่วยพยุงคุณถุงกลับห้อง เขาบอกว่าเจ็บแขนนิดหน่อย ผมเลยเสนอว่าพรุ่งนี้ไปหาหมออีกสักรอบ เขาก็ตกลง สรุปแล้วเขาก็เช็ดตัว ล้างหน้าแปรงฟัน เข้านอนตามปกติ ส่วนผมก็ไปนอนกับเกี๊ยว ผมไม่ได้นอนกับคุณถุงนานแล้วตั้งแต่เขาจูบผม แต่ผมว่าตอนนี้เขาคงคิดได้แล้วแหละ ที่เขาจูบผมก็คงเพราะว่าเหงาและคิดถึงคุณไลลามากเกินไป เป็นผมเองเสียอีกที่แอบหวั่นไหวในรสจูบและความอบอุ่นที่ได้รับจากเขา ผมนี่มันแย่จริงๆนะ สงสัยต้องหาแฟนสักคนแล้วมั้ง
....
เช้านี้เราตื่นมาทานข้าวพร้อมกันหมด ดูคุณถุงจะแฮงค์ๆนะ ส่วนเกี๊ยวน้องกลับมาร่าเริงเหมือนเดิมแล้ว พอทานเสร็จผมก็พาคุณถุงทองไปหาหมอ ทิ้งน้องให้อยู่บ้านเล่นกับสายชูไป กลับมาจากหาหมอก็พักผ่อนกันตามปกติ คุณถุงทองดูซึมๆคงเพราะยังไม่หายเฮิร์ท ส่วนเรื่องแขนหมอบอกว่าอีกไม่เกินสองอาทิตย์ไหปลาร้าคงหายดี เหลือแค่แขนคงอีกเป็นเดือน เดี๋ยววันจันทร์นี้ผมต้องไปโรงงาน คุณถุงทองจะเข้าบริษัทแล้ว เขาบอกว่าเขาไหว ผมก็ไม่ได้ว่าอะไรเพราะมันใกล้จะหายแล้ว คงไม่เกินกว่าแขนจะรับได้
.
"ถ้าจะรอให้ถอดเฝือกเสร็จคงไม่ได้ ถ้าอย่างนั้นจันทร์หน้าตีตั๋วไปเลยนะ นายไปกับฉันด้วย จองสองที่ไฟลท์ตีห้ามีไหม เอาอันนั้นแหละ เย็นเลิกงานรีบกลับมานะ คืนนี้ฉันจะพาไปดินเนอร์ . อ.. เอ่อ หมายถึงเกี๊ยวน่ะ พาเกี๊ยวไปดินเนอร์"
เขาโทรมาสั่งให้ผมจองตั๋วเครื่องบิน คุณถุงทองต้องไปประชุมบอร์ดบริหารร่วมกับผู้จัดการสาขาของจีน ไม่ไปก็ไม่ได้ นี่ก็ผ่านมาอาทิตย์นึงแล้วตั้งแต่เกิดเรื่อง หลังๆมานี่เขาดูปกติขึ้นนะ แต่ที่ไม่ปกติคือการกระทำของเขา บางทีก็แปลกๆเหมือนอยากจะพูดแต่ไม่พูด เวลาที่เขามองผมสายตามันเปลี่ยนไป แถมเวลานั่งทำงานยังรู้สึกว่าเขาจ้องผมตลอดเวลา นี่วันนี้เขาไม่ได้เข้าบริษัทเพราะไปตัดไหมดามไหปลาร้า หมอเอ็กซเรย์แล้วกระดูกต่อสนิทไม่มีอาการแทรกซ้อน แต่ต้องระวังไม่ให้กระแทกหรือทำกิจกรรมหนักๆ .. ผมรีบจองตั๋วการบินไทยสองที่นั่ง เรียบร้อยก็เอาไปให้พี่จินโอนเงิน เห็นว่าแม่พี่แกไม่ค่อยสบายช่วงนี้เลยต้องรีบกลับบ้าน ผมปิดห้องให้เรียบร้อยแล้วขับรถกลับบ้านคุณถุงทอง วันนี้อากาศร้อนมาก ตอนเที่ยงต้องสั่งข้าวมากิน ไม่ออกไปข้างนอกเลย .. ผมไปดูบ้านมาเมื่อสองสวันที่แล้ว บ้านยังอยู่ดี ผมก็จ่ายค่าเช่าตามปกติ ตอนแรกคุณถุงจะออกให้ แต่ผมเกรงใจ อย่างไรก็เอาไว้เก็บของ เดี๋ยวเขาหายดีผมก็ต้องกลับมาอยู่ที่นี่อยู่ดี
"พี่ปรุงงงง .. ไปดินเนอร์กัน .. ไปดินเนอร์กัน" ผมก้าวเข้าบ้านก็เจอเด็กน้อยใส่ชุดคอสมอสเต็มรูปแบบ รองเท้าสีแดงสดหุ้มข้อ จัดเต็มมากไปป่ะเนี่ย
"นายไปล้างหน้า ล้างตา เปลี่ยนชุดไป เดี๋ยวฉันรอ เกี๊ยวอย่าวิ่งลูก เดี๋ยวลื่น" คุณถุงทองนั่งอยู่ที่โซฟา ใส่เสื้อโปโลสีขาวแดงกางเกงสามส่วนสีครีม สงสัยแตจะช่วยใส่ให้ ผมรีบจัดการธุระตัวเอง เปลี่ยนเสื้อผ้า แล้ววิ่งลงมาด้านล่าง
"ผมขับไปเองดีกว่าครับ พี่แจ่มจะได้พัก" เขาพยักหน้า เราเลยขึ้นรถกัน เขาบอกว่าจองโต๊ะไว้ที่เพลินตา โห ไกลมากอ่ะ สามสิบโลได้ แต่อย่างว่าเนอะ ที่นี่ไม่มีร้านดีๆต้องเข้าในเมือง
"ถ้าเกี๊ยวจะทานไอศกรีมก็ต้องทานข้าวในจานให้หมดนะลูก". คุณถุงทองปรามน้อง เพราะเกี๊ยวร้องจะกินแต่ไอติม
"ก็ได้ฮะ .. แต่หนูขอสองถ้วยเลยนะ" ตัวเล็กพูดแล้วตั้งหน้าตั้งตาทานข้าวไป ผมสังเกตความผิดปกติรอบๆตัว ผมว่าโต๊ะอื่นเขามองมาทางโต๊ะเราแล้วยิ้มๆ บางโต๊ะกระซิบกระซาบกัน มีอะไรหรือเปล่านะ
"ขอโทษนะคะคุณพ่อทั้งสอง พี่ขอยืมตัวน้องตัวเล็กมาถ่ายรูปคู่ได้ไหมคะ" มีคุณป้าท่านหนึ่งถือแท็บเลตมาขอถ่ายรูปเกี๊ยว แต่เดี๋ยวนะ คุณพ่อทั้งสองอย่างนั้นหรอ พูดเหมือนกับพวกเราเป็นคู่เกย์เก็บเด็กมาเลี้ยงอย่างนั้นแหละ
"มีลูกชายน่ารักขนาดนี้อิจฉามากเลยค่ะ หน้าน้องหวานอย่างกับเด็กผู้หญิงเลย ขอบคุณมากๆนะคะ ป้าไปแล้วนะลูก บายยย"
"เกี๊ยวไหว้ขอบคุณคุณป้าสิ ". คุณถุงบอกน้อง เกี๊ยวไหว้แล้วรับไอศกรีมมาจากคุณคนนั้น ได้กินแล้วสินะเจ้าตัวเล็ก
"คุณพ่อถุง กับ คุณพ่อปรุง คิก คิก" เห้ย เกี๊ยวพูดอะไรเนี่ย พ่ออะไรเล่า
"เกี๊ยว .. พี่ไม่ใช่พ่อเรานะ พูดแบบนี้เดี๋ยวป๊าเราว่าพี่หรอก" ผมบอกน้อง เอ้า คุณถุงก็ไม่ช่วยอธิบายเลย นั่งยิ้มอะไรอยู่ได้
"ถ้าอย่างนั้นคงต้องเป็น คุณป๊าถุง กับ คุณพ่อปรุง ดีไหมฮะะะ" เกี๊ยวแยกยิ้มกว้างตักไอศกรีมรสวานิลลาเข้าปาก ฮึ่มม เมียยังไม่มีเลยจะเป็นพ่อเราได้ไงล่ะ ขอเป็นพี่ชายที่แสนดีก็พอนะ
.
"อาบน้ำเลยนะลูก ให้พ่อปรุงอาบให้ เอ้ย ตีฉันทำไมเล่า" ก็ดูพูดดิ มันน่าตีแรงๆที่เฝือกให้นอนหงิกร้องโอดโอยเลย
"พูดจาระวังหน่อยคุณ เด็กมันจะจำ มาครับ อาบน้ำกัน"
"อ้าว ก็ไม่เห็นจะเป็นไรเลย นายก็ดูแลเกี๊ยวเหมือนลูกอยู่แล้วนี่ เอ้า เอ้า มาทำหน้าบึ้ง ไม่เรียกแล้ว ไปอาบน้ำเถอะ .. นี่ตกลงใครเป็นเจ้านายกันแน่วะ" เขาบ่นๆเเล้วเดินออกจากห้องไป นี่มันนอกเวลางานเว่ย เจ้านายก็เจ้านายเถอะ .. ผมอาบน้ำให้เกี๊ยว แต่งตัวให้เสร็จถึงจะเข้าไปอาบน้ำในห้องคุณถุง อาบจนเสร็จ อุตส่าห์กะว่าไม่ลืมแล้วนะ แต่ไอ้บ้าเอ๊ย ดันลืมหยิบเสื้อเข้ามา ผมเดินออกมาด้วยบ็อกเซอร์ตัวเดียว เปิดตู้รื้อๆดู เสื้อกล้ามไปไหนวะ
"นายวางไว้บนที่นอนฉัน". เขาพูดชี้ไปที่ปลายเตียง ผมเลยเดินไปหยิบเสื้อมาใส่ คุณถุงทองเป็นบ้าอะไรวะ ทำไมต้องยิ้มแล้วจ้องร่างกายผมด้วย โดยเฉพาะหน้าอก ไม่เคยเห็นคนหุ่นดีหรอ
"คุณจะมองให้ทะลุเลยไหม" ผมถามรีบใส่เสื้อ รู้สึกโหวงๆไงไม่รู้
"ก็แค่อยากมองคนหุ่นดี .. " บ้าแล้ว พูดแบบนี้มันแปลกๆนะ แค่นึกก็พอมั้ง ไม่ต้องพูดออกมาก็ได้ เล่นซะผมหน้าร้อนไปหมด หน้าต้องแดงแน่ๆเลย แล้วผมจะมาเขินอะไรผู้ชายด้วยกันเนี่ย
"นอนกับฉันเถอะ" เขาพูดออกมา ทำให้ผมคิดถึงวันนั้น วันที่เขาแอบจูบผมตอนหลับ
"ไม่เอาหรอก นอนกับคุณผมไม่ปลอดภัยเลย ไปแล้วนะ"
"โอ๊ยย เวรเอ้ย" ผมที่กำลังจะเดินออกไปจากห้องรีบหันกลับมามอง อ้าว จะเอาของทำไมไม่บอกล่ะ ผมรีบเดินเข้าไปหา คุณถุงเอื้อมไปหยิบหนังสือที่หัวเตียง สงสัยเอี้ยวตัวเยอะไปมั้ง ถึงได้ร้องขนาดนี้
"เป็นอะไรมากไหมคุณ เจ็บตรงนี้หรอ"
"อือ. โอ๊ย เบาๆสิปรุง"
"อ้าว โทษครับ นอนลงดีๆนะ ไม่ต้องอ่านแล้ว " ผมหยิบยาให้เขาทานแล้วจัดท่านอนให้ดี
"ปรุง"
"ค.. ครับ"
"ขอบคุณนะ"
เขาหลับตาลงไปแล้ว ผมเดินไปปิดไฟรีบเดินออกมานอกห้อง ใจผมเต้นรัวตอนที่เขาจับมือผมไว้แล้วพูดคำว่าขอบคุณออกมา ไอ้ปรุงเอ้ย อาทิตย์นี้ทั้งอาทิตย์มึงใจเต้นกับเจ้านายมึงไปกี่รอบแล้วเนี่ย ...
....
ถุงทองผมนอนหลับสบายเมื่อคิดถึงเรื่องเมื่อคืน อันที่จริงก็คิดมาทั้งสัปดาห์ เรื่องไลลาผมทำใจได้แล้วล่ะ มันแค่เจ็บปวดที่ถูกหักหลัง แต่ผมก็ผิดไม่น้อยที่มักไม่เลือกเธอเป็นอันดับแรก จันทร์หน้าผมกับปรุงต้องไปประชุมที่จีน ถ้าผมจะใช้ช่วงเวลานั้นค่อยๆสานสัมพันธ์ของผมกับปรุงจะดีไหมนะ .. บางคนคิดว่าผมเหงาเลยสนใจปรุง แต่มันไม่ใช่แค่นั้น ผมว่าผมรู้สึกดีและผูกพันธ์กับเขามากขึ้นทุกวัน โดยเฉพาะเรื่องเกี๊ยว ผมค้นพบแล้วว่าเครื่องปรุงเข้ากับลูกผมได้ดี แถมปรุงยังดูแลลูกผมได้ดีกว่าผมอีก ..
จะผิดไหมถ้าผมจะขอดูแลเขา ไม่ต้องเป็นคนรักก็ได้ ไม่ต้องมีอะไรกัน ขอแค่อยู่ด้วยกัน ดูแลกัน .. ปรุงทำให้ผมมีรอยยิ้ม เขาแบ่งเบาภาระผมได้เกือบหมด บางทีผมสับสนนะ ว่าผมคิดกับปรุงแบบไหน แบบน้องชายหรอ ไม่อ่ะ ถ้าแบบน้องชายผมคงไม่อยากจูบ ไม่อยากอยู่ใกล้ ไม่หึงเวลาเห็เขายืนคุยกับใคร ทำไมผมเป็นคนแบบนี้วะ ผมเป็นเกย์ทั้งๆที่ตัวเองมีลูกแล้วเนี่ยนะ
ช่วงหลังๆมานี้ผมพยายามทำตัวปกติ ทั้งๆที่เวลามองหน้าเขาผมอยากหอม อยากจูบตลอดเวลา ผมจำได้มีอยู่วัน ที่ปรุงเผลอหลับบนโต๊ะทำงานเขา ผมเหมือนคนโรคจิต เดินไปยืนมองแล้วก้มลงไปหอมแก้มขาวๆนั่น ผมเป็นเอามากจริงๆ ผมบ้าไปแล้ว ถ้าปรุงไม่ได้คิดแบบนั้นกับผมเขาต้องเกลียดผมแน่ๆ อยากถอดเฝือกไวๆ จะได้ทำอะไรได้สะดวก เป็นแบบนี้ผมไม่ชอบเลย มันหงุดหงิดที่ทำอะไรไม่ได้ ...
............
"เกี๊ยวครับ"
"ฮะ ปะป๊า"
"ฟอดดด .. ลูกชอบพี่ปรุงไหม"
"เกี๊ยวชอบพี่ปรุง ไม่ๆ เกี๊ยวรักพี่ปรุง"
"เกี๊ยวอยากให้พี่ปรุงมาอยู่กับเราถาวรไหมครับ"
"ได้เหรอครับป๊าาา .. อยากสิ อยากที่สุดเลยยย"
"ถ้าอย่างนั้นเกี๊ยวต้องช่วยป๊านะลูก .. ร่วมมือกัน .. เครไหม"
"ได้เลยฮะะะ "
ผมคงต้องให้ลูกช่วย ใครจะมองว่าผมใจง่าย ใครจะมองว่าผมเห็นแก่ตัวผมไม่สนใจแล้วตอนนี้ ถ้าปรุงมาอยู่กับผมถาวร ผมก็จะได้คนมาดูแลลูกผม จะได้ไม่ต้องเช่าบ้านให้เสียตัง ผมเอ็นดูเขานะ ปรุงไม่มีใคร เขาอยู่คนเดียว . ไม่รู้ว่าปรุงจะยอมรับความหวังดีของผมหรือไม่ แต่ผมอยากช่วยเขาจริงๆ ส่วนความสัมพันธ์ของเราก็คงต้องปล่อยให้มันเป็นไปตามทางของมัน
TBC.
~~~ เรื่อยๆ มาเรียงๆ ~~~