บทที่ 24
เมธา Talk
มหกรรมสอบคือความสนุกสนานของชีวิตในมหาลัยของนิสิตทั้งหลาย รวมถึงนิสิตแพทย์อย่างน้องดินด้วย เขาใช้เวลาทั้งหมดอยู่กับหนังสือและชีทกองโต ทบทวนแล้วทบทวนอีกเพื่อไม่ให้พลาดในการสอบครั้งนี้ ต่างจากผมเมื่อก่อนมาก ผมมักจะไปเที่ยวกินเหล้า สนุกสนานกับเพื่อนในช่วงเวลาเคร่งเครียดของทุกคน
เขาทำให้ผมเปลี่ยนไปความคิด เขาทำให้ผมรู้ว่าคนเราสามารถทำให้ชีวิตของเราดีขึ้นได้ด้วยอะไรหลายๆอย่าง หนึ่งในนั้นคือการศึกษา มันอาจจะมีทางอื่นเยอะแยะ แต่วิธีนี้ง่ายที่สุดสำหรับเด็กคนหนึ่งที่ชีวิตของเขาไม่มีอะไรเลยคือการเรียนได้สูงๆ จบไปมีงานทำมีชีวิตที่ดีขึ้น ไม่ผิดจริงๆที่ผมเลือกเด็กคนนี้เข้ามาในชีวิต
มันคือความสุขได้เห็นน้องค่อยๆเติบโต ค่อยๆก้าวเดินด้วยทางของตัวเอง ผมมีความสุขที่ได้กอดเขา พยุงเขาชี้แนะแนวทางหรือแม้แต่เดินไปด้วยกัน
“กินนมร้อนๆก่อนสิแล้วค่อยอ่านต่อ”ผมวางแก้วนมที่เพิ่งอุ่นร้อนๆวางบนโต๊ะอ่านหนังสือ น้องเงยหน้ามองผมด้วยสภาพอิดโรยก่อนจะโปรยยิ้มมาให้ ผมก้มลงไปหอมแก้มเขาอย่างอดไม่ได้ สงสารก็สงสาร เป็นห่วงก็เป็นห่วงแต่ทำอะไรไม่ได้นอกจากให้กำลังใจอยู่ห่างๆ
“ขอบคุณครับ”น้องกระซิบบอกเบาๆ ผมเลื่อนหน้าเข้าไปใกล้ใบหน้าเล็กของน้อง มองลึกเข้าไปในดวงตาใส แล้วยกตัวขึ้นจูบ
หน้าผากเล้กอย่างชื่นชม
“คนเก่งของพี่ สู้ๆนะครับ”น้องยกมือกอดรอบคอผม จากนั้นก็กลับไปอ่านหนังสือต่อ เขายกนมขึ้นดื่มเป็นระยะจนหมดแก้ว
ผมกลับไปนั่งตรวจข้อสอบเงียบๆบนเตียง การสอบเพิ่งผ่านไปสองวัน คะแนนของน้องอยู่ในระดับท็อปของกลุ่มที่ผมสอนอยู่ เขาทำได้ดีมากกว่าที่ผมคิด ผมไม่ได้สอนเขาเกินกว่าในห้องเรียนและไม่ได้ให้แนวข้อสอบอะไรกับเขาเลย ความภูมิใจเล็กๆกำลังทำให้ผมจุกอก ผมยิ่งรู้สึกรักน้องมากขึ้น มากขึ้นทุกวัน
ตีสาม ไปลงไปอุ้มน้องขึ้นมาบนเตียง ผมปิดไฟ และจูบราตรีสวัสดิ์เด็กน้อยที่นอนหลับบนเตียงด้วยความเหนื่อยล้า อวยพรให้การสอบของเขาในวันพรุ่งนี้โชคดี
ดินสอ Talk
โชคดีว่ามีสอบตอนบ่าย เพราะว่าวันนี้ผมตื่นสายสุดๆ ตื่นขึ้นมาบนเตียงพี่เมฆก็ไม่อยู่บ้านแล้ว สงสัยไปทำงาน ผมเดินลงไปหาอะไรกินในครัว พี่เมฆไม่ลืมทำอาหารง่ายๆไว้ให้ ผมรีบทานมันระหว่างนั้นก็อ่านชีทในมือไปด้วย
เมื่อคืนหลับไปตอนไหนไม่รู้ ตื่นขึ้นมาอีกทีก็อยู่บนเตียง
ผมทานอาหารเสร็จก็จัดการอาบน้ำแต่งตัวไปมหาลัยเพื่อสอบ ผมออกจากห้องสอบคนแรก วิชานี้ผมไม่ค่อยมันใจเท่าไหร่ผมไม่ค่อยถนัดแต่พอทำได้ ผมรีบกลับมาที่บ้าน นอนพักเอาแรงอีกนิด ตอนเย็นจะได้ลุกขึ้นมาอ่านวิชาสุดท้ายที่จะสอบในวันพรุ่งนี้
ผมตื่นมาเพราะเสียงรถของพี่เมฆเข้ามาจอดในบ้าน เดี๋ยวนี้เขาไม่เอารถไปซ่อนแอบไปข้างบ้านแล้วนะ แต่เข้ามาจอดข้างในเลย ประกาศตัวสุดๆ เขาเคยพาผมไปบ้านพักอาจารย์ที่เขาอยู่ เขาชวนผมนอนที่นั่นคืนนึง ผมไม่ได้นอนคุณก็รู้ เขาหื่นมาทำกับผมทั่วบ้าน จะเรียกว่าบ้านไม่ได้สิ มันเหมือนอพาเม้นต์สำหรับอาจารย์มากกว่า สองห้องนอน หนึ่งห้องนั่งเล่น สองห้องน้ำ ตั้งแต่วันนั้น
ผมก็หลีกเลี่ยงไปห้องเขาอีกเลย ถึงแม้ว่าจะถูกบังคับพาไปอีกสองสามครั้งและเราจบกันที่โซฟาในห้องนั่งเล่น
เขาบอกว่าพอผมเข้าไปในห้องนอนของเขาแล้วเขาต้องการผมอย่างมาก บ้าไปแล้ว ผมจะไม่คิดเรื่องแบบนี้ในหัวอีก
ผมลุกจากเตียงไปล้างหน้าแล้วเดินไปกอดเอวพี่เมฆที่ยืนทำกับข้าวในครัว อย่างออดอ้อน ผมก็แค่อยากกอดเฉยๆ ไม่ได้จะอ้อนอะไรสักหน่อย จริงๆนะ ไม่ได้จะหว่านสเน่ห์หรืออะไรทั้งสิ้น
“ว่าไง ทำข้อสอบได้มั้ย”เขาหันมาถามผม ไม่ลืมที่จะก้มลงมาหอมแก้มผมด้วยตาหมีหื่น
“พอได้ครับพอดีผมไม่ค่อยถนัดวิชานี้”เขาส่งยิ้มอ่อนดยนมาให้ และนั้นเพียงพอที่จะทำให้ผมยิ้มกลับไปอย่างอัตโนมัติ
“มะ มาช่วยพี่ทำกับข้าวหน่อยสิ”พี่เมฆดึงตัวผมไปกอดแล้วยืนซ้อนอยู่ด้านหลัง เรายืนหันผักด้วยกัน หัวเราะเพราะผมกำลังร้องไห้ให้กับหัวหอมอันใหญ่ที่ถูกเราหันเป็นชิ้น
“พี่เมฆแกล้งดิน”ผมเอศอกถองเขาเบาๆ
“ฮ่าๆ โอ๋มาเดี๋ยวพี่กันต่อเอง”เขาคว้ามีดจากมือผมไปหัน ผมหันหน้าซุกอกเขาจะได้ไม่โดนหัวหอม ตอนนี้เรายืนกอดกันอยู่ในครัว เขาหอมศีรษะผมตลอดเวลาระหว่างนั้น
“เสร็จแล้ว”เขาวางมีดแล้วเอื้อมไปหยิบกระทะ ผมดึงตัวออกแล้วดูว่าเขาจะทำอะไรต่อ
“ทำอะไรทานครับ”
“ผัดผัก ไข่เจียว ต้มจืดเต้าหูหมูสับ”ของโปรดผมทั้งนั้นเลย เขาทำเอาใจผมใช่มั้ย นี่ผมกำลังคิดเข้าบ้างตัวเองอยู่ใช่มั้ย หน้าผมร้อนผ่าวไปหมด
“แก้มแดงๆ”พี่เมฆก้มลงมาหอมแก้มผม เขาแซวแล้วหัวเราะเบาๆ
“ไม่เห็นมีอะไรน่าขำ”ผมมุดตัวออกจากแขนยาวๆของเขา เปิดตู้เย็นหยิบไข่ออกมาตอกใส่ชามแก้เขิน
“หึหึ”
“ไม่หยุดอีก”ผมหันไปเหวใส่แล้วเดินหนีไป ยืนตีไข่ที่อื่น
“อยากกินอะไรอีกมั้ยเดี๋ยวพี่ทำให้”เขาถามขณะกำลังผัดผักในกระทะ
“ไม่เอาครับแค่นี้พอแล้ว”ผมเปิดเตาอีกอันแล้ววางกระทะ ใส่น้ำมันเจียวไข่ ผมชอบเวลาไข่มันฟูๆ กรอบๆ อร่อยที่สุดกินกับข้าว
สวยร้อนๆ
“พี่ก็ว่างั้น”ผมหันไปหน้ายู่ใส่พี่เมฆ เบื่อคนแก่รู้ทัน
ผมทอดไข่เจียวเสร็จ พี่เมฆผัดผักเสร้จ ส่วนต้มจืดเสร้จก่อนผมจะลงมาเสียอีก อาหารถูกตั้งไว้บนโต๊ะอาหาร ผมรบตักเข้าปากอย่างรวดเร็ว อร่อย มีความสุข ฟินมากๆ
“ดินทานจนพี่รู้สึกอิ่มด้วยเลย”พี่เมฆแซวผม
“ก็มันอร่อยนี่ครับ”ผมตักข้าวเข้าปากอีกคำ
“เดี๋ยวพี่ทำให้ทานบ่อยๆเอามั้ย”
“เอาครับ”ผมพยักหน้ารัวๆ
“สอบเสร็จไปเที่ยวกันนะ”จู่ๆพี่เมฆก็พูดขึ้น
“ไปไหนครับ”
“เพชรบูรณ์ อากาศกำลังดีช่วงนี้คนไม่เยอะ”
“ใกล้ๆแค่นี้เอง”ผมรู้สึกตื่นเต้น เพชรบูรณ์ห่างจากมหาลัยผมไม่ถึงสองชั่วโมง อากาสดี มีที่เที่ยวเยอะมาก ระหว่างทาแวะชม
อุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้าก็ได้ ไปยืนแตะหมอกที่ภูทับเบิก หรือไปนอนดุดาวที่เขาค้อ
“นั้นสอบเสร็จเราแพ็คกระเป่าไปกันเลยนะ”
“คร๊าบบบบบบบบ”ผมหัวเราะอย่างดีใจ มีแรงอ่านหนังสือเลย พี่เมฆดูจะยิ้มหน้าบานที่หลอกผมไปเที่ยวได้ เขาดูจะปลื้มนักปลื้มหน้า
“ยิ้มไม่เลิก”ผมแกล้งแขวะ
“พี่กำลังคิดถึงม้าตัวโตๆที่จะขี่ไปชมดอกไม้ หรือจะทำมากกว่าขี่ม้าที่ลำธารหลังรีสอร์ก็ได้”ข้างแทบพุ่งให้ตายเถอะ ไอ้พี่เมฆสุดหื่น นี่เขาวางแผนจะพาไปผมเผด็จศึกที่เพชรบูรณ์อย่างนั้นหรอ
ของขวัญหลังสอบเสร็จที่ผมจะให้เขา
พี่เมฆมองผมสวยสายตาซุกซน
ให้ตายเถอะ ผมอยากเอาส้อมจิ้มตาเขาจังเลย
“อยากให้สอบเสร็จเร็วๆจังน้า โอ๊ย”ผมเอื้อมมือไปฟาดเขา ตอนนี้ได้แต่นั่งก้มหน้ากินข้าวอย่างเดียว
คนบ้าๆๆๆๆๆ
.....................................................................
พี่เมฆอ่ะ ไม่ได้คิดจะขี่ม้า แต่คิดจะขี่น้องใช่ม้า ร้ายกาจที่สุด
>/////< อะไรก็ไม่รู้ เขินแทนน้องงงงงง
หวานฉ่ำ ล้ำมากกกกกกกกกกกกกกก พูดเลย
ตอนหน้าเนี่ยยยยยย
เคยอ่าน NC 10 หน้า ++++ มั้ย
ไม่เคยเหมือนกันแต่จะลองแต่ง
ฮ่าๆๆๆๆ น้องดินมีสอบ ฝ้ายก็สอบเหมือนกัน
บ้ายๆไปอ่านหนังสือแล้วนะคะ