บทที่ 6
“อยู่ทานข้าวด้วยกันก่อนไหมครับ”ไหนๆพี่เขาก็มาส่ง แถมยังลากรถพาไปเข้าอู่อีก ถึงแม้เขาจะพยายามให้ผมขายตัวก็เถอะ แต่เขาก็เป็นคนดีคนนึง (หรือเปล่า) ใจหนึ่งผมก็กลัว อีกใจก็ไม่กลัว ผมไม่อยากกินข้าวคนเดียวด้วยแหละ มันเหงานะบ้านหลังใหญ่ แต่มีคนอยู่แค่คนเดียว TT^TT
“นั้นพี่ไม่เกรงใจนะครับ”พี่เขาเลิกคิ้วขึ้นก่อนจะคลี่ยิ้มออกมา เขาปิดรถแล้วเดินตรงมาหาผม ผมเดินหันหลังเข้าไปในบ้าน ตอนแรกว่าจะมาเก็บกวาดสตูดิโอพ่อแต่ว่าน้องสนิมดันเสียก่อนเลยไม่ได้เก็บ ผมให้พี่เขานั่งรออยู่ตรงลานบ้านพ่อเอาม้านิ่งหินอ่อนมาตั้งไว้ต้นไม้ต้นใหญ้ขึ้นปกคลุมร่มรื่นดี
ผมเอาของเข้าไปเก็บแล้วก็เรียงไว้ในตู้ ก่อนจะหยิบเอาวัตถุดิบออกมาทำกับข้าว ผมว่าจะทำกับข้าวสองสามอย่าง ต้มยำกุ้ง ผัดผักแล้วก็ไข่เจียวหมูสับ ผมเงยหน้าจากกะทะเจียวไข่เห็นพี่แกยืนชโงกมองจากประตูครัว
“คือพี่เหงาอ่ะ นั่งอยู่คนเดียว มีอะไรให้ช่วยไหม”เขาพับแขนเสื้อขึ้นทำท่าอยากมาช่วยเต็มที่ ผมเลยส่งผักให้ล้าง แกล้างอยู่อ่างล้างจานข้างๆส่วนผมก็ทอดไข่เจียวพอพี่เขาล้างผักเสร็จผมก็หันผัก
พี่เขาเดินมากอดเอวผมแล้วเอาคางเกยที่ไหล่ ผมห่อไหล่ไว้เพราะมันรู้สึกแปลกๆ
“เก่งจัง”เขาชมผม ผมไม่ได้ว่าปล่อยให้เขากอดไปเรื่อยๆจนหันผักเสร็จ
“ช่วยผมแกะกุ้งหน่อยสิครับ”ผมยื่นถุงกุ้งให้
ฟอดดดด
“รับทราบคัรบ”เขาหอมแก้มผมก่อนจะรับเอาไปแกะ ไม่ต้องสอนเลยแฮะทำเป็นหมดเลยเก่งจัง
ผมผัดผักอย่างไว แล้วก็จัดเครื่องต้มยำ ปรุงเครื่องรอจนกุ้งเสร็จก็จับโยนใส่ลงไป พี่เขายืนคร่อมตัวผมมองผมทำนู้นนี่
“หอมจัง”พี่เขาพูดเบาๆพลางกุมท้องสงสัยจะหิวแล้ว
“ลองชิมดูไหมครับ”ผมตักน้ำต้มยำใส่ช้อนแล้วยื่นให้ แทนที่พี่แกจะเอามือหยิบไปชิมเอง แกดันก้มตัวลงมา ทำท่าเหมือนกับว่าผมป้อนอย่างนั้นแหละ
“อร่อย”แกตาโต แล้วยกนิ้วโป้งให้ผม
“เอ่อะคือ ตักข้าวรอเลยครับ เดี๋ยวผมยกกับข้าวไป”ผมรีบหันหลังให้พี่แกทันที พี่เขาชอบทำแบบนี้อยู่เรื่อย
ผมยกกับข้าวไปตั้งไว้บนโต๊ะกินข้าว มันอยู่หลังบ้าน พ่อปลูกพวกผักสวนครัวแล้วก็กล้วยไม้เอาไว้เวลากินข้าวมากินตรงนี้สวยดี พี่เขาช่วยยกหม้อข้าว ยกน้ำแล้วด็แก้วมาให้
“นั่งเลยครับเดี๋ยวผมจัดการเอง”ผมโบกมือไล่แก พี่เขาออกจากครัวแล้วไปนั่งที่ ผมหยิบซอสอีกสองสามขวดแล้วก็ไปตักข้าว
“บ้านสวยดีนะ”พี่แกชม ผมหัวเราะแฮะๆให้
“แล้วอยู่กับใครไม่เห็น พ่อกับแม่น้องเลย”
เคร้ง
ช้อนหล่นจากมือ ไม่คิดว่าพี่เขาจะถามแบบนี้ ผมก้มลงไปเก็บ เอามันไปไว้ในครัวแล้วก็หยิบช้นอีกคันมา ส่งให้พี่เขา
เขามองหน้าผมอย่างหาคำตอบ เหมือนอยากรู้มาก
“พ่อผมเพิ่งเสียไปเมื่อสามเดือนที่แล้ว ส่วนแม่เอจากไปนานแล้วครับ ตอนนี้ผมอยุ่คนเดียว”พี่แกทำหน้ารู้สึกผิดก่อนขอโทษขอโพยผมการใหญ่
“พี่ไม่รู้ว่าพ่อแม่น้องเอ่อะ พี่ขอโทษ”
“ไม่เป็นไรครับ ผมไม่ถือ กินข้าวเถอะพี่เดี๋ยวมันเย็นหมดไม่อร่อย”
ผมตักกับข้าวใส่จานแล้วเอาเข้าปากเคี้ยวตุ้ย พี่แกแกะกุ้งแล้วเอามาให้ผม
“ขอบคุณครับ”
“กินเยอะๆ”พี่แกบอกแล้วตักข้ามเข้าปากเหมือนกัน เรานั่งกินเงียบๆไม่ได้พูดอะไร เออ ลืมถามชื่อพี่เขาเลยเจอกันมาสามวัน แถมยังมีอะไรกันด้วย ผมไม่รู้ชื่อพี่เขาเลย
“พี่มีชื่อปะ”
“มีดิ ถามทำไม”แกตักข้าวกินอย่างแล้วเลิกคิ้วกวนๆ
“พี่ชื่ออะไรอ่ะพี่”
“ไม่บอก”
“อ้าว”กวนตีนอีก ผมวางช้อนมองหน้าพี่แกอย่างหาเรื่อง พี่แกหัวเราะลั่น
“ชื่อจริงชื่อเมธา ชื่อเล่นชื่อเมฆ”อ้อ เหอะๆ เรียกพี่เฉยๆมาตั้งนาน
“อื้อ”ผมตอบรับเบาๆ พี่แกทำหน้างงประมาณว่าแค่เนี่ยถามแค่นี้ไรงี้
“เรียนที่ไหนเราน่ะ”เออะเอาไงดี จะบอกดีไหมอ่ะ ว่าเรียนที่ไหน ถ้าพี่แกไปบอกมหาลัยงี้ว่าผมขายตัวขึ้นมาจะเกิดปัยหาหรือเปล่า
“อ้อผมเรียนมหาลัย…น่ะครับ”ผมบอกชื่อมหาวิทยาลัยรับบาลแห่งหนึ่งอยู่แถวภาคเหนือเป็นมหาลัยเปิดที่เราไปสมัครเข้าเรียนแล้วก็เรียนได้ที่บ้าน จะสอบก็ค่อยเข้าไปสอบในตัวมหาลัยงี้
“อ้อ ดีแล้วตั้งใจเรียนละ เรียนจบจะได้ทำงานดีๆ แต่ถ้าหายไม่ได้มาทำงานกับพี่ก็ได้นะ”แรกๆก็ดีหรอกแต่หลังๆนี่ยังไง
“แล้วพี่ทำงานอะไรอ่ะทำไมเงินเยอะจัง”
“ทำไมสนใจอยากทำงานกับพี่หรอ”นั่นยังไม่หยุด
“ไม่ใช่เหอะ ผมบอกแล้วไง ผมไม่ทำแล้ว ตอนนั้นผมแค่ไม่มีเงินจริงๆแล้วก็สิ้นคิดไปหน่อย”
“แล้วไม่ต้องการเงินอีกหรือไง”พี่แกส่งสายตาหวานเยิ้มมาหาคำตอบ ง่ะ อยากเอาส้อมจิ้มตา
“พี่นี่ยังไง รีบกินข้าวเลย”ผมดันกับข้าวไปตรงหน้าพี่เขา
พี่แกตักกับข้าวแล้วยังจ้องผมไม่เลิก ผมก้มหน้ากินไม่สนใจ
“เออพี่ขอบคุณมากนะที่มาช่วยอ่ะ ไม่ได้พี่สงสัยผมได้ลากรถไปอู่เองแน่ๆ”ผมขอบคุณจากใจ
“เปลี่ยนจากคำขอบคุณเป็นอย่างอื่นไม่ได้ดีกว่าหรอ”
“เฮ้ยพี่ก็บอกว่าไม่ทำแล้วไง”หยอดไม่เลิก แม่ง กลับบ้านไปเลยไป ผมนั่งเอาเท้ากระทืบดินหลายรอบ ส่วนพี่เมฆหัวเราะไม่หยุด
“อิ่มหรือยังพี่”ผมเร่งเร้าอยากให้พี่เขากลับบ้านใจจะขาดแล้วตอนนี้ถ้าอยู่ด้วยอีกอีกนิดนึง มีหวังผมได้เอาจานข้าวฟาดหัวพี่แกแน่
“อิ่มแล้ว”พี่แกวางช้อนแล้วลุกขึ้นช่วยผมเก็บจาน
“ผมเก็บเองได้พี่ พี่กลับไปเลยก็ได้”นี่เรียกว่าไล่เลยนะ พี่แกมึนไม่ยอมไปผมเลยเอาจานไปเก็บกวาดโต๊ะแล้วเข้าไปล้างจาน พี่เขาเดินตามเข้ามาแล้วเท้าแขนกับพนังห้องครัวมองดูผมล้างจาน
“ไม่กลับหรอพี่ ระวังฝนตกนะ”ผมมองดูฟ้ามืดครึ้มเตรียมตั้งเค้าตกเต็มที่
“อาหารอร่อยมาก วันหลังพี่มากินอีกนะ”แกไม่ตอบคำถาม ดันยกมือมาลูบหัวผมเสียอย่างนั้น
“มาครั้งหน้าผมคิดเงินนะพี่”ผมแซว
“แพงเท่าไหร่เรียกมาเลย”ผมละอิจฉาคนรวยจริงๆ เค๊ามีเงินมากมายพอจะซื้ออะไรหาความสุขใส่ตัวได้
“นี่เราจะไม่ลองตัดสินใจเรื่องที่พี่บอกอีกสักหน่อยหรอ”เขาเดินมาประกบหลังผมแล้วยื่นหน้าเข้ามาถาม
“ผมไม่ขายแล้วพี่”บอกอย่างหนักแน่น
“เสียดายจัง”พี่แกก้มหน้าเอาจมูกเฉียดแก้มผมไปมา สองมือก็จับเอวแล้วสอดมากอดไว้ด้านหน้า ผมรู้สึกอบอุ่นปนสยิวแปลกๆ
“พี่ครับปล่อยก่อน ผมล้างจานก่อน”ผมขยับตัวออกช้าๆ แต่พี่แกกอดมากยิ่งกว่าเดิม แถมยังขยับจนตัวผมติดอ่างล้างจาน
“อื้อ”ผมสะดุ้งเมื่อพี่แกเอาปากครอบลงบนลำคอขาวของตัวเอง มือหนาสอดเข้าไปในเสื้อตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้
“พ-พี่อย่า”ผมพยายามปฏิเสธแต่พี่แกไม่เลิก ใช้ปากจูบไซร้จากคอมาที่ใบหูเล็กแล้วมาบนแก้ม มือผมสั่นระริกจับจานแทบไม่อยู่
“อื้ม อื้ม”เป็นเสียงพี่เขาครางตลอดยามบรรจงจูบไปทั่วตัวผม
“พี่อย่า”ให้ตายเถอะ ปากปฏิเสธแต่ร่างกายผมไม่ขยับเลย มันตอบสนองพี่เขาเฉยเลย ร่างกายทรยศ
มือหนาลูบผ่านยอดไตทั้งสองข้างของผม ผมเอาวางจานลงแล้วเอามือมาจับมือพี่เมฆไว้ไม่ให้ขยับไปไหน
“อย่าทรมานพี่เลยนะครับน้องต้อม”เขาเรียกชื่อผม ชื่อเหมือนกับเป็นตัวตนของผมอีกคนซึ่งซ้อนอยู่
“พี่เมฆ ผมไม่แล้วครับ อื้อ”ไม่ทันได้ปฏิเสธพี่แกก็เล่นจูบปิดปากผมทันที เอวพี่แกกดลงมาโยกกับเอวผม จนขาสั่นไปหมด บด
เบียดทั้งช่วงบนและช่วงล่าง
“เด็กดี อยู่นิ่งๆนะแล้วจะดีเอง”พี่เมฆเอามือล้วงเข้ามาในกางเกงผม
“ไม่นะพี่ อ๊ะ”
TBC
...
เซอร์ไพรท์คนนอนดึก
ส่วนคำตอบก็คือ ข้อที่สองงค่าาาาาาาาาา
มีคนตอบถูกน้อยมาก ฮ่าๆๆๆ
ตอนหน้า เป็นตอนที่ทุกคนเฝ้ารอ
กรี้ดๆๆๆๆๆ
อ้อมีคนถามเข้ามาภาพประกอบ มาจากเรื่อง Boy meet boy นะคะ
พี่เมฆ เมธา กับน้องดินสอ >O<