[นิยายตลกขบขัน] เพราะเขาเป็นพ่อเลี้ยง
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: [นิยายตลกขบขัน] เพราะเขาเป็นพ่อเลี้ยง  (อ่าน 280551 ครั้ง)

ออฟไลน์ ฤดูใบไม้หลากสี

  • ผู้เป็นอิสระเหนือทุกสิ่ง
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 544
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +17/-2
    • อิสระ ไม่อาจพรากไปจากเรา, จินตนาการก็อยู่คู่เราจนสิ้นลมหายใจ
โอย ลุ้นได้อีก สรุปนี้น้องกานต์เสร็จพ่อเลี้ยงไปแล้วใช่ไหม

ออฟไลน์ ภาพวาดคลุง

  • ห่ะไรนะ
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 183
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +483/-6
    • ผู้ซึ่งหลงรักหญิงสาวในภาพวาด
บทที่ 12 : หรือควรจะเสี้ยนในเรื่องอย่างว่า

 

 

 

ผมแทบไม่กระพริบตา

ยังไงดี ผมแค่กลัวว่าถ้าช่วงเสี้ยววินาทีเปลือกตาได้ปิดลง ชีวิตอาจจะพลาดอะไรดีๆไปก็ได้

เวลาล่วงเลยไม่เท่าไหร่ ไม่มีใครรู้ หรือใส่ใจ พวกนั้นเพียงเริ่มเล่นไปตามเกมที่พวกเขาต่างหลงใหลกัน

น้ำหวาน ขนม กับไพ่หนึ่งสำรับ ใครสักคนในกลุ่มชวนผมเล่น ซึ่งไม่เชิงการพนัน แต่แน่นอน ผมเล่นไม่เป็นจึงขอเป็นฝ่ายดูอย่างเดียวก็พอ

สักพักพวกเขาก็เริ่มเชื่องช้า หัวเราะ ยิ้ม เป็นยิ้มโง่ๆโดยไม่มีความหมาย

สาดูล่องลอย เธอดูต่างจากหญิงสาวที่ผมเคยคิดว่ารู้จัก นั่นคงเคยเป็นมุมที่เธออยากให้ผมเห็น แต่ตอนนี้ผมได้เห็นอะไรดีๆกว่ากันเยอะ แววตาเธอเหมือนคนไม่ต้องการรับรู้อะไร อยู่กับตัวเอง

พีเดินมานั่งข้างๆ กระป๋องที่สองสำหรับเขาในการกรอกเบียร์ลงท้อง ผมไม่ได้แสดงสีหน้าตื่นตระหนกกับสิ่งที่พวกเขากำลังเริ่ม และไม่ได้ถามว่าทำไมพีถึงไม่ลงไปคลุกคลีกับเพื่อนของเขาด้วย

“สักหน่อยมั้ย”

พีว่างั้นก่อนจะหัวเราะ หลังจากเขายื่นของมึนเมามาให้ ทันทีที่ปฏิเสธ ผมเห็นรอยยิ้มหยันๆของตัวเองในดวงตาอีกฝ่าย ดวงตาพีหยดเยิ้มราวกับใครสักคนไปหยอดน้ำผึ้งใส่ตาเขา อาจเกิดจากฤทธิ์แอลกอฮอล์ที่เจ้าตัวดูสนุกกับมันอย่างเต็มใจ

“แล้ววันนี้คิดยังไงถึงมา”

ผมหันไปมองเจ้าของประโยคคำถาม พีพูดมาก บางครั้งผมรำคาญ

“เบื่อ”

“อือฮึ” พีพยักหน้า

ผ่านไปนาน จริงๆถ้าลองเปิดตา เปิดใจ แล้วเดินห่างออกมาสักก้าวเพื่อเฝ้ามอง ให้เห็นโลกหรือวิสัยทัศน์ที่กว้างกว่านี้ ผมว่านั่นเป็นสิ่งที่น่าเพลิดเพลินไม่น้อยไปกว่ากัน แต่ก็ไม่เชิงสักทีเดียว แค่ความล่องลอย มัวเมา เหมือนพวกหลงทิศทั้งๆที่แผนที่นำทางก็อยู่แค่ปลายเท้าของพวกเขาเองทั้งนั้น หรือไม่ก็รู้อยู่แก่ใจแต่ความตื่นเต้นย่อมน่าลิ้มลอง

จู่ๆพวกเขาหัวเราะ จู่ๆพวกก็กระซิบกระซาบ หรือจู่ๆพวกก็เสียงดัง ครึกครื้นอย่างไม่มีสาเหตุ แมลงบินผ่านมันยังเอาขำได้ โธ่ ผมว่าผมเป็นคนเส้นตื้นแล้วนะ เจอพวกนี่ไปผมขอยอมแพ้โดยสดุดี

ผมพอเข้าใจอาการพวกนั้น มันคงวิเศษมากแค่ในระยะสั้นๆ

ตัวเบาๆ ไม่รับรู้อะไรสักอย่างบนโลกและพร้อมที่จะสลายตัวเหมือนปุยเมฆได้ตลอดเวลา แต่ทันทีที่ฤทธิ์ยาหมด ลูกโป่งที่ถูกเข็มปัก พวกเขาหวาดผวา แทบจะไม่เป็นอันทำอะไรมากกว่าเก่า

“มองอะไร” ผมมองพีกลับเมื่อเขาเอาแต่จ้อง

“เคยสูบมั้ย”

“ไม่”

“แล้วชอบมั้ย”

“ก็ไม่”

ไม่ว่าจะจริงหรือเท็จ ถ้าไม่ติดที่ว่าภาพยังตราตรึงใจขัดออกได้ยาก

จุดเริ่มต้นที่ดีเขาว่ากันว่าเริ่มจากตัวเองไม่ก็คนข้างกาย พ่อผมไง ถึงแม้ชีวิตผมจะเลิศเลอไปหน่อยแต่คงไม่ดีแน่ถ้าหากผมเอาตัวเองไปผูกกับระเบิดชิ้นใหญ่อย่างนั้น

คับคล้ายคับคลาว่าวันนั้นผมเห็นพ่อติดมันอยู่ ไม่เป็นอันทำอะไรสักอย่าง แถมยังสร้างภาระให้แม่และผมอีกต่างหากนั่นแหละปัญหาเลย ไม่ต่างอะไรจากขยะชิ้นเลว

หลังจากเขาเริ่มเมายา รู้ไหม คนสติดีๆที่ไหนจะแหกปากทะเลาะกับเมียตัวเองให้ชาวบ้านเขาได้ยิน บ้าหรือเปล่า แหกปากบอกไปแบบนั้น แล้วบลา บลา บลา หลังจากประโยคน่าเลื่อมใส ขออภัยจริงๆที่ผมลืมจดจำมาอีกให้รกสมอง ด้วยเหตุที่ว่าวินาทีนั้นผมขำไม่หยุดเลย คุณก็รู้ มันยากมากๆที่จะบังคับมุมปากไม่ให้ฉีกยิ้ม

อยากจะแจ้งตำรวจอยู่หรอก แต่ความอันมีคุณธรรมสูงส่งบอกผมว่าพ่อทุกคนรักลูกด้วยกันทั้งนั้น ผมกลัวคำสบถด่าทอว่าผมเองเป็นพวกอกตัญญูไม่รู้บุญคุณ ให้ตาย เขาอุตส่าห์เป็นต้นกำเนิดน้ำเชื้อแท้ๆ (ถึงแม้จะเป็นน้ำเชื้อที่ตั้งใจปล่อยทิ้ง แต่ใครสนวะ) ไอ้เด็กดีอย่างผมกลัวความเลวอย่างมาก เขาจึงได้ใช้ชีวิตอันรุ่งโรจน์เกาะผู้หญิงอย่างแม่ต่อไปในระยะเวลาที่โคตรนาน

และผมคงเป็นลูกที่แย่มากถ้าหากสร้างความอับเฉาให้ชีวิตเขาต้องดับพัง

ผมเคยได้ลองๆมาบ้าง แค่นิดเดียว ไม่ได้ขออนุญาตใครและไม่ได้โดนบังคับ เรียกว่าเป็นการลักลอบหรือแอบดี นั่นแหละ แค่ให้รู้ว่ามันเป็นยังไง ถึงแม้ฤทธิ์แต่ละตัวจะต่างกัน อย่างน้อยผมก็ได้รู้หนึ่งอย่างแล้ว ว่าอย่าเลย

“ทำไมดูไม่ตกใจเท่าไหร่”

พีจุดบุหรี่สูบอีกมวน ปลายนิ้วของเขาคีบบุหรี่อย่างคล่องแคล่ว

“ต้องตกใจเหรอ”

“ถ้าโดยส่วนใหญ่ก็น่าจะเป็นอย่างนั้น” พีสบตา สรุปโดยย่อเขาชอบสบตาคนพอๆกับซักถาม ไม่มีการซ้อมดนตรีอย่างที่บอกไว้ในทีแรก จะว่าตามจริงผลลัพธ์ก็ค่อนข้างห่างไกลจากสิ่งที่ผมคิดว่าไว้อย่างสิ้นเชิง

ถ้าต้องเป็นสภาพนั้น เหม่อลอย ไร้สติ แค่นี้สติผมแทบไม่สมประดีอยู่แล้ว ไม่อยากจะเพิ่มภาระให้ตัวเองเลย ฉะนั้นคงต้องบอกว่าขอบคุณในความหวังดีที่พามาฆ่าเวลาให้ได้มองอะไรอย่างนี้

ในสายตาพี ผมพอเดาออกและจุดประสงค์ของเขาที่ไม่ลงไปเล่นกับคนพวกนั้นในทีแรก

ว่ากันว่าเมื่อถึงจุดหนึ่ง พวกเขาอาจจะมีอารมณ์ทางเพศสูงสุดหรือไม่ก็เคลิบเคลิ้มจนสติไม่อยู่กับตัว เกิดอะไรขึ้น ตื่นมาอีกทีจะจำได้หรือเปล่ายังไม่แน่ใจเลย

พีบี้บุหรี่ทิ้งก่อนจะเดินเข้าไปหาสา น่าแปลก หัวใจผมราบเรียบเกินไป ไร้สภาวะการเปลี่ยนแปลงเกินไป อย่างน้อย ถ้าหากเห็นผู้หญิงหน้าตาสะสวยคนหนึ่งกำลังจะเปลือยเปล่าเผยผิวขาวๆและเรือนร่างของเธอโดยมีผู้ชายเป็นกลุ่มล้อมอยู่ ใช่ อย่างน้อยชีพจรผมต้องเต้นแรงกว่านี้หรือเร็วกว่านี้บ้าง

ใจจริงผมอยากลงไปจูบเธอ สาเป็นผู้หญิงที่สวย เธอมีต้นทุนที่ดีมาแต่กำเนิด ผมเชื่อว่าถ้าใครได้รู้ว่าคงได้แต่นึกในใจว่าไม่น่าเลย กระนั้น คาดเดาโดยพฤติกรรม ผมเริ่มไม่แน่ใจว่าการลงไปคลุกคลีแบบนั้นจะเป็นผลดีแน่ เธออาจจะมีโรคร้ายที่ฝังในตัวอยู่ก็ได้ ผมว่าผมคงต้องหักห้ามใจและยอมถอยออกมาแต่โดยดี

ที่โต๊ะอีกนั่นแหละ ผมเจอผงขาวๆคล้ายกันกับแบบที่พวกนั้นเล่นอยู่ จริงๆผมไม่แน่ใจด้วยซ้ำว่าเพื่อนร่วมห้องของผมเขาเล่นอะไรกันบ้างเพราะมันมั่วมาก

และแล้ว ผมหยิบมันมา ซ่อนไว้ในกระเป๋านักเรียนซึ่งดูเข้ากันอย่างน่าประหลาด ถือว่าเป็นของแถมกับเพื่อนกลุ่มนี้คงไม่ว่ากัน

พีรู้ว่าผมไม่ปากโป้ง

ผมอาจไม่สนด้วยซ้ำตราบใดที่เขายังไม่ได้ฆ่าเธอ หรือถ้าเขาฆ่าเธอจริงๆมันก็ไม่เกี่ยวอะไรกับผมถ้าหากผมไม่เห็นเหตุการณ์น่ะนะ แต่ช่างเถอะ พวกเขากำลังจะสร้างปฏิสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน ไอ้ประเด็นข้างต้นมันก็แค่ข้อสมมติฐาน

ผมเปิดดูโทรศัพท์พร้อมกับมองนาฬิกา ถึงอย่างนั้นแต่คงต้องยอมรับว่าผมเพลิดเพลินใจและสนุกมากสำหรับวันนี้

 

น่าเสียดาย

ถ้าไม่ติดที่ว่ามีสายโทรเข้าเป็นร้อยๆสายผมคงได้อยู่เล่นกับพวกเขานานกว่านี้แน่นอน

 

 

 

 

ทันทีที่เปิดประตูบ้านเสียงสวรรค์ก็ต้อนรับผมอย่างอบอุ่น

“หายไปไหนมา”

เขาดูหงุดหงิด

ผมกำลังคิดว่าควรจะพูดความจริงหรือปิดปากเงียบดีนะ

มันอาจไม่ได้ผลดีร้อยเปอร์เซ็นต์แต่อย่างน้อยผมควรจะทำอะไรสักอย่างไม่ให้ตัวเองบาดเจ็บจากผลกระทบในการกระทำนั้นมากนัก ผมเบื่อหน่าย รำคาญ แต่การแสดงยังไม่จบ นักแสดงที่ดีควรเล่นให้สมบทบาทราวกับเป็นตัวละครตัวนั้นจริงๆนี่นะ

“ไปทำงานครับ”

“ที่ไหน งานอะไร”

“งานกลุ่ม”

“แล้วทำไมพี่โทรไปถึงไม่รับ ทำไมถึงทำให้คนอื่นเป็นห่วง” เขาว่า คิ้วขมวดลงอย่างเห็นได้ชัด ไม่มีรอยยิ้มอีกแล้ว

“ก่อนหน้านี้ผมเรียน และไม่ได้เปิดเสียงโทรศัพท์”

“งั้นเหรอครับ”

ผมเงียบ ก่อนจะนึกถึงแม่ เหมือนว่าเธอจะไม่อยู่ ยังไม่กลับเหรอ ไม่รู้สิ ความจริงผมว่าเธอควรจะกลับได้แล้ว

“ไม่โทรไปบอกพี่ พี่จะได้ไปรับได้ถูก การที่กานต์ทำตัวแบบนี้มันไม่ดีเลย วุ่นวายกันไปหมด” เขาคลายเนกไท นิ้วมือแตะที่หัวคิ้ว คงเครียดมากหรือไม่ก็กำลังโกรธจัด

ผมรู้สึกแย่จริงๆ รู้สึกผิดถึงขั้วหัวใจ

ผมไม่ใช่เด็กห้าขวบที่แม้แต่ทางมาเรียนกับทางกลับบ้านยังไปไม่ถูก ก็ผมไม่ใช่ไง คุณเห็นอะไร เขาเห็นอะไร เด็กเหรอ ผู้หญิงก็ว่าไปอย่าง ผมเข้าใจว่าบ้านเมืองที่นี้มันป่าเถื่อน แต่อย่างน้อยผมเป็นผู้ชาย มีไอ้นั่นเหมือนเขา ต้องให้ระบุส่วนไหนอีกด้วยไหม

“กานต์จะไปไหน”

เขาก้าวเข้ามาใกล้จังหวะเดียวกับที่ผมก้าวถอย ผมไม่ตอบแต่บางอย่างบอกให้ผมวิ่งตรงไปที่บันไดนั่นแล้วขึ้นห้อง และล็อคประตูซะ

สมองผมกับร่างกายช่วงนี้ทำงานพร้อมเพรียงกันดีเสียจริงๆ ผมวิ่งขึ้นห้องและปิดประตูตามแผนที่วางไว้ชุ่ยๆก่อนหน้า ผมหอบหายใจอยู่ตรงนั้นหลังบานประตูที่ปิดอย่างรีบร้อน ผมจินตนาการไปว่าประตูบานนี้จะหายไปเหลือเพียงกำแพงวิเศษที่ไม่มีสิ่งใดทุบผ่านมาได้ ซึ่งเป็นฝันกลางวันที่จบลงภายในระยะเวลาอันสั้น สั้นอย่างมาก ถ้าคุณเดาได้น่ะนะ

“กานต์ กานต์!”

แม่ไม่อยู่

เธอยังไม่กลับ

หรือเธอไม่กลับ

มีแต่ความคิดนี้ที่เริ่มมีอิทธิที่สุดในหัวสมอง ผมกระวนกระวาย ใช่ ผมรู้สึกได้ว่าฝ่ามือกำลังเย็นเชียบและมันลามไปทั่วทั้งร่าง

“กานต์ ล็อคประตูทำไม เปิดเดี๋ยวนี้ พี่ยังคุยกับกานต์ไม่จบ”

เสียงเคาะประตูดังพอๆกับเสียงคนข้างนอก

ผมหอบหายใจ ผมไม่ใช่พวกออกกำลังกายบ่อยนะ มันเหนื่อย สายตาผมมองหาหนทางหรือประตูวิเศษลอดผ่านทุกสิ่งอย่างสักบานนึง ประตูระเบียงห้องเปิดไม่ได้ มีคนมาล็อกมันไว้ ร้อยวันพันปี สาบานได้ผมไม่เคยคิดว่ามันจะล็อกได้เลย ผมพยายามทำให้กลอนมันคลายออก แต่ดูจะเปล่าประโยชน์ ผมหยิบโทรศัพท์ ตลกร้ายนิดๆ ในสถานการณ์ฉุกเฉิน เบอร์เหล่านั้นสายไม่ว่าง น้ำเน่าฉิบหาย

“กานต์”

โชคเข้าข้าง เขาเข้ามาพร้อมกับแม่กุญแจและพวงกุญแจอีกหลายดอก ผมจึงได้แต่ถอยหลังติดกำแพง ก่อนที่การก้าวขาจะหยุดลงเมื่อผมคิดว่าไม่ควรแสดงอาการเสียมารยาทกับเขา ในใจผมแอบนึกๆอยู่ว่าถ้าเดินฝ่าเข้าไปเพื่อออกทางประตูห้องจะหลบพ้นไหม ซึ่งดูแล้วคำตอบเดียวก็คือไม่

“กานต์หนีพี่ทำไม”

เขาถามเสียงอ่อน

“กานต์กลัวพี่เหรอครับ”

ผมเพียงมอง ไม่ตอบรับหรือปฏิเสธ อีกฝ่ายพูดเสียงเบาลง น้ำเสียงนุ่มๆกับรอยยิ้มและสีหน้าขอโทษ

“พี่ไม่ได้ตั้งใจ พี่แค่เป็นห่วงกานต์ พี่นึกว่ากานต์อาจจะเจอเรื่องไม่ดี อย่างน้อยโทรมาบอกพี่ก่อนก็ได้นี่ ถูกมั้ยครับ”

ใช่ ถูกของเขา ผมไม่ขอเถียง

“ไหน วันนี้เรียนเป็นไงบ้าง เหนื่อยหรือเปล่า” เขาเอื้อมมือ ลูบเส้นดำนั้น เล้าโลมใบหน้านั้น ก่อนที่ฝ่ามือนั้นจะไล่ตามริมฝีปาก

“มีอะไรอีกมั้ยครับ ถ้าไม่ผมจะได้อ่านหนังสือ”

“…วันนี้กานต์ทำพี่โกรธมาก เป็นห่วงมาก รู้บ้างไหม”

ผมพบว่าตนเองกำลังพะอืดพะอมเป็นเวลาหลายนาทีและอาจสืบเนื่องนานกว่านั้นจนเกิดผลเสียกับสุขภาพ เขาแค่กลัวผมหลุดจากการควบคุม มันเป็นเรื่องของผลประโยชน์

“คุณต้องการอะไร”

ผมสลัดคำห่วงหาของเขา ไม่แยแส ตอแหลทั้งนั้น พอเถอะ ช่วงนี้ผมกินของหวานมากไปแล้ว มันเลี่ยน เขาชะงัก และดูแปลกใจในทันที ก่อนคนตรงหน้าจะค่อยๆคลายยิ้มและหัวเราะเบาๆ

 

“กานต์อยากกลับไปใช้ชีวิตแบบเดิมๆเหรอครับ หรือกานต์อยากเห็นแม่ลำบาก?”

 

อ่า นั่นแหละ ตรงประเด็นสุดๆ

หน้ากากนั้นถูกฉีกกระชากจนไม่เหลือหนังกำพร้าแล้ว

ผมรู้ ผมรู้ มันไม่ดี ผมกำลังทำบาป ผมขอโทษ จริงๆนะ เฮ้ นี่ไม่ได้ล้อเล่นนะ ผมไม่ตอแหลด้วย แค่เกือบๆ

อ้างพ่ออ้างแม่ชาวบ้าน แบบนี้คนดีๆที่ไหนจะกล้าขัดขืนกัน

เมื่อผมสะบัดมือที่กำลังจับแขนตัวเองอยู่ เขาจึงเปลี่ยนเป็นกระชากตัวผมลงกับเตียง ไร้ซึ่งความนุ่มนวลและเยื่อใยจากที่พยายามแสร้งสร้างขึ้นมาในทีแรก ผมพยายามมองโลกด้วยดวงตาอันสดใส แต่ยากหน่อยที่วันนี้ท้องฟ้าดูไม่ค่อยสวยนัก เขาขึ้นทับตัวผมและแรงที่กำลังบีบข้อมือมันไม่น้อยเลย ไม่เลย

แม้จะเหนื่อยแต่ผมก็ลองดิ้นรนดูอีกสักหน่อย อย่างเช่น ถีบเขาซะ หรือไม่ก็กัดเขาซะ เขาร้องออกมา เจ็บปวด เป็นไง รู้สึกใช่ไหม ผมตะเกียดตะกายลุกขึ้นแล้ววิ่งไปที่ประตู แค่เอื้อมมือ ผมเปิดมันได้แล้ว น่าเสียดายที่เขาอึดไปนิด ผมจึงถูกโอบอุ้มกลับมานอนราบกับเตียงดังเดิม

ไม่มั่นใจว่าแรงมากพอกับตอนที่ผมเคยตบยัยเมียน้อยนั่นไหม

แต่มันอาจแรงมากพอที่จะทำให้ทุกอย่างหยุดชะงัก

ฝ่ามือที่กระทบลงมา

ใบหน้าผมหันขวับ แบบว่าทันทีทันใด สามารถใช้คำนี้ได้เลยจริงๆ อีกทั้งเสียงฝ่ามือที่กระทบมันดังก้องอยู่ในโสตประสาท เล่นเอาผมมึน วินาทีที่มือนั้นง้างขึ้นแค่นั้นผมก็สามารถเดาได้ง่ายดายว่าแรงคงไม่น้อย

ยอดเยี่ยม

ตัวผมสั่น อาจด้วยความโกรธ แค้น รังเกียจเดียดฉันท์ ผมรับรู้ได้ถึงความแสบทั่วใบหน้าและริมฝีปากที่มีรสชาติแปร่งๆ

เขากดผมแน่น กางเกงถูกถอดลงอย่างชำนาญและเร่งรีบ ริมฝีปากอีกฝ่ายราวกับต้องการเอาคืนทุกๆอย่างที่ผมเป็นต้นเหตุให้เขาเจ็บแค้น เขากัดลงมาแทบทุกตารางนิ้วที่เขาต้องการ โอเค ถ้ามีคนบอกว่าเขาเป็นหมาที่กำลังอยู่ในช่วงติดสัตว์ ผมเชื่อ

เชือกที่เขามักพกมาด้วย ผมหมายถึง ผมไม่แน่ใจอีกเหมือนกันว่าเขาพกมันแทบตลอดเวลาหรือเปล่าแต่ที่แน่ๆ มันใช้ได้ดีมากอย่างเหลือเชื่อกับการมัดข้อมือ

เขาจูบผม จูบไปมา และสัมผัสอันกักขฬะบ่งบอกให้รู้ว่าเราควรจะไปอ้วก

 

การประสานกันระหว่างร่างกาย คงเหมือนกับการที่ดวงตาผมประสานกับดวงตาอีกคู่ในช่องว่างเล็กๆของประตูที่ปิดไม่สนิท

 

ผู้หญิงคนนั้นหน้าเหมือนแม่มาก หรือจริงๆแล้วเธออาจเป็นคนเดียวกัน

แววตาเว้าวอนแค่ไหน หรือในช่องว่างนั้นมีระยะห่างมากแค่ไหน

 

ผมไม่รู้

รู้แค่ว่าดวงตาเธอเบิกกว้างก่อนจะหลุบต่ำ

ร่างกายแข็งขืนกดทับ เหมือนกระดูกสักชิ้นกำลังแตกสลาย ตัวเขาเสือกไสเข้ามาพร้อมฝ่ามือที่ประกบไม่ให้เสียงผมเล็ดลอด

 

 

ช่องว่างนั้นหายไป

ไม่ต้องเดาเลย ต่อหน้าต่อตา

 

 

 

 

ในเมื่อแม่แท้ๆที่เป็นคนปิดประตูบานนั้นลงด้วยมือของเธอเอง

 

 

 

TBC
[04/01/2558]
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 16-08-2015 01:17:12 โดย อ๊ายอาย »

ออฟไลน์ Akikojae

  • พี่ยุนรักน้องแจ ★彡
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1404
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1137/-17

ออฟไลน์ rk

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 254
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-2

ออฟไลน์ oilzaza001

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 619
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-1

ออฟไลน์ ╰Äρρłәßәѓѓÿ╮

  • There can be miracles When you believe
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 458
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-0
    • Twitter

ออฟไลน์ dragon123

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 744
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +105/-2
ม่ายยยยยย คนร้ายคือแม่ตัวเองงั้นเหรอ!!!!  :a5: :a5: :a5: :a5: o22 o22 :sad4: :sad4: :sad4: :o12: :o12: :o12:

ออฟไลน์ bonuses

  • จงเสพติดจิตนาการ
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 35
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0

ออฟไลน์ Freja

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2394
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +145/-4
ว่าแล้วเชียว  แม่กานต์รู้เรื่องและยอมเพราะว่าไม่อยากกลับไปลำบากเหมือนเดิมเลยยอมเซ่นด้วยลูกชาย

แล้วอิพ่อเลี้ยงก็เริ่มรุนแรงสินะ มีพกเชือกด้วย

ออฟไลน์ karmdodcom

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 145
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-0
ถึงกับต้องล็อกอินเข้ามาเม้นเรื่องนี้เลยทีเดียว....
...คือมองด้วยสายตาเรา
กานต์ก็แค่เด็กม.ปลาย วันรุ่น ครอบครัวมีปัญหา แม่แต่งงานใหม่ โดนพ่อเลี้ยงข่มขืน ขู่แลกกับความสบายของแม่ แม่รู้แต่แม่ก็ทำเป็นไม่รู้...แล้วพยายามมองให้มันเป็นเรื่องตลกเท่านั้นเอง..
เออเนอะ...คือกลัวค่ะ กลัวตอนจบของเรื่องนี้
ผ่ารเข้ามาในชีวิตกานต์แต่ละคนนี่ดีๆทั้งนั้น เชียร์ไม่ขึ้นไม่ว่าใครก็ตาม...
..เราว่ากานต์ก็รักแม่อยู่พอตัวนะ...แต่เจอแบบนี้ไปก็ไม่รู้ว่าหลังจากนี้จนถึงตอนจบกานต์จะเป็นยังไง
แต่คืบอกเลยค่ะ...ประโยคสุดท้ายมันจี๊ดมากเลยจริงๆ
ให้เราเดา...แม่กานต์ก็คงรู้ เห็น...ไม่ได้อยากว่าเสียหายด้วยการคาดเดา แต่เรากลัวว่า ที่แม่ของกานต์ทำเป็นไม่รู้ไม่เห็นก็เพื่อแลกกับความสบายของตัวเอง
..ถ้าเป็นอย่างนัเนจริง ต่างอะไรกับขายลูกกินคะ?
..
แต่ก็นั่นล่ะค่ะ มันเป็นแค่การคาดเดา
ส่วน พ่อเลี้ยงนี่หาคำอื่นนอกจาก (สันด--)ทราม มาบรรยายให้ไม่ได้
คุณแม่ก็ตามที่เราได้คาดเดาไป
 คุณเพื่อนก็วัยรุ่นเสเพลปกติ แต่ก็หวังว่าถ้าเกิดพวกนี้โดนอะไร กานต์จะไม่โดนหางเลข(ว่าแต่หนูเก็บยาใส่กระเป๋ามาทำไมลูก แก้ช้ำใจหลังจากคุณแม่ปิดประตูใส่หรอลูก)
ส่วนกานต์..จากตอนล่าสุด...สิ่งที่กานต์แสดงออกมาคงเป็นความกลัว(ไม่แปลกสำหรับกรณีนี่) ความจริงกานต์ก็แค่วัยรุ่นอยู่ผิดที่ ผิดทาง ผิดคน แล้วพยายามมองโลกให้ตลกร้ายเท่านั้นเอง  เราไม่โทษกานต์หรอกค่ะ ว่า ทำไมถึงไม่ไปหาทาง หาโลกที่ดีกว่านี้...เด็กม.ปลายปกติ โลกของเขาก็จะอยู่แค่ เพื่อน กับ ครอบครัวค่ะ (ถ้าไม่มีแฟนน่ะนะ)..แล้วเพื่อนก็ใช่ว่าเราจะสามารถสนิทได้ง่ายๆด้วยค่ะ

จริงๆนะ...คืออยากจะรู้ว่า ทั้งคุณพ่อเลี้ยง ทั้งคุณแม่ทำกับกานต์กันขนาดนี้  ถ้าเกิดวันหนึ่งกานต์ 'เสีย' หรือ 'พัง' ไป จะทำยังไงกัน?

ปล. อิพ่อเลี้ยงเล่นแรงกว่าเดิม มีเชือกด้วย..ถ้ากานต์กลัวหนักขึ้นมาจะทำยังไงฮะ!!!
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 05-01-2015 00:21:42 โดย karmdodcom »

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ zombi

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1385
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +63/-5
อยากให้กานต์  พบในสิ่งที่ทำให้ชีวิตสว่างบ้าง
อย่าทำตัวอย่างนี้เลย  มีแต่เสียกับเสียนะ

ออฟไลน์ Ryoooo

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3146
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +288/-2
แม่!!!! นี่คือไร :katai1:
ทำไมคนเป็ฯแม่ถึงทิ้งลูกไปแบบนี้ล่ะ
อิตาพ่อเลี้ยงก็น่ะ
ตลกร้ายเกินไปแล้วววว :laugh3:

ออฟไลน์ U_Ton

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 753
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +57/-0
 :a5: อ่านเเล้วเงิบงาบเลย...

ไม่รู้สิตั้งเเต่เริ่มมา ถึงตอนที่กานต์โดนพ่อเลี้ยง...จุด จุด จุด... แอบคิดไว้เหมือนกันว่า คุณแม่จะรู้เห็นรึเปล่า

มาตอนนี้คิดว่า...ถึงเเต่ก่อนไม่เคยรู้เห็น แต่เมื่อตอนนี้รู้แล้วกลับปิดประตูเงียบซะงั้น น่าคิดนะว่าเป็นเเค่ความขี้ขลาด

ของผู้หญิงคนหนึ่งที่อยากมีความสุขเลยยอมปิดหูปิดตา หรือเป็นแค่ผู้หญิงที่อยากสบายเลยขาดผู้ชายคนนี้ไม่ได้

(หมายถึงผู้ชายช่วยเหลือเลี้ยงดู) เเม่ของกานต์ล่ะคิดยังไง...ถึงยอมให้ลูกชายลูกโทนของตัวเองเป็นเครื่องเซ่นสามี

ใหม่อย่างนี้  :katai1:

กานต์น่ะรักแม่เเน่นอนอยู่เเล้ว ไม่ว่าจะด้วยหน้าที่ลูก เด็กดี หรือมนุษย์คนหนึ่งที่สังคมพึงหวังให้มอบความรักเเก่

ผู้ให้กำเนิด แม้จะปากแข็งอ้างเหตุผลนู้นนี้เป็นบรรทัดฐานในการปฏิบัติ... สุดท้ายกานต์จะเป็นยังไง หลุดจากวงจรนี้

ได้ไหม แล้วพ่อเลี้ยงนี้เลวชัวร์ๆ เลยใช่ไหม หรือว่าคุยกับเเม่ของกานต์ไว้เเต่เเรกแล้ว (แต่ทั้งเเม่เเละพ่อเลี้ยงก็

ชูปี้ดูวับ ปั๊บ กันไปแล้วนี่) แบบนั้นก็ดูนิยายไป ไม่สมจริงเป็นภาพโฟร์ดีเหมือนความคิดกานต์เลย เดาไม่ถูกว่าจะ

จบยังไง  :ling1:

ออฟไลน์ hongzaa

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 500
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +54/-2
 "แม่!!!!"

มือสั่นเลย ขอวิ่งไปอ้วกนะ
มันแบบเกินความคาดหมาย
แต่คิดว่าแม่อาจจะเพิ่งรู้ ....
ตอนแรกอาจจะแค่ระแคะระคาย
นี้โลกสวยสุดๆนะนิ ที่ปิดประตูไป
อาจจะช๊อค และเริ่มมาคิดว่า
ไม่อยากเสียความสบายงี้ งงๆมะ
นี่ก็งงๆ ยังช๊อคๆอยู่ ใจสั่นวะ

ออฟไลน์ Merrychrista

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 64
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-0

ออฟไลน์ blur

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 145
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-0
คือนิยายเรื่องนี้มันดีมันยอกอารมณ์ตัวละครได้ขาดมาก สไตล์เล่าแบบนี้ไม่ค่อยเจอเลย เหมือนดูหนังเล่า ชอบมากกกก

ออฟไลน์ mukmaoY

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3956
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +145/-7

ออฟไลน์ Dark_Noah

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 838
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +22/-3
โอ้ย กานต์ทำไมชีวิตหนูถึงรันทดอย่างงี้ล่ะลูก แม่ใช้เหตุผลอะไร ทำไมปล่อยให้ลูกตัวเองพบเจอเรื่องแบบนี้ ทำมายยยยยย  :katai1:

ออฟไลน์ BeeRY

  • ❤。◕‿◕。ยิ้มเข้าไว้นะ。◕‿◕。❤
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 9404
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +897/-8
สงสารกานต์จัง แล้วเหตุการณ์แบบนี้มันเกิดขึ้นได้อยู่แล้ว ลงข่าวหน้าหนังสือพิมพ์บ่อยๆ  :katai1:
เด็กคนหนึ่งที่ไม่แรงจะสู้กับผู้ใหญ่เลวๆ หรือแม้แต่คนเป็นแม่ก็อาจสมรู้ร่วมคิดด้วย เพื่อผลประโยชน์ของตัวเอง :serius2:
บางทีก็เคยคิดว่าคนที่เขาคิดฆ่าตัวตาย เขาคงสุดจะทนกับปัญหาจริงๆ เราล่ะกลัวกานต์จะหมดกำลังใจในการมีชีวิตอยู่ต่อไปนี่สิ :mew4:
แต่เพราะนี่คือนิยาย บางทีมันอาจมีทางออกที่ดีเนอะ :กอด1:

ออฟไลน์ Veesi3

  • coHon3 {ต้นฝ้าย}
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 715
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-2
เข้มข้นมาก มาตอนนี้อะไรๆ มันเริ่มกระจ่างขึ้นมามากจริงๆ
ทั้งรอยข้อมือที่โดนถาม ทั้งทำไมกานต์ถึงถูกปล่อยให้อยู่กับพ่อเลี้ยงนานจนเป็นเรื่อง
อ่านตอนนี้แล้วสงสารกานต์จริงๆ มันเหมือนความหวังสุดท้ายของตัวเองพังทลายไปแล้วอ่ะ
คิดไม่ออกเลยว่าเค้าจะทำยังไง คือต้องยอมอยู่อย่างนี้ต่อไป
หรือหนี หรืออะไรยังไง แล้วไหนจะพ่อเลี้ยงเพราะตั้งแต่ต้น
เรื่องทั้งหมดถูกเล่าโดยกานต์ ซึ่งโอยยย....หน่วง เครียด มากข่ะ
ไม่เคยได้รับรู้ความเป็นพ่อเลี้ยงเลยแม้แต่ชื่อ เห้ออออ.....  :z3:  o13
สุดยอดจริงๆ เราชอบเรื่องนี้มากค่ะ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






jaejoong22

  • บุคคลทั่วไป

ออฟไลน์ JustWait

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3348
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +80/-4
โอ๊ยยยยยย น้องกานต์ของฉันน

คุณแม่คะะ

ออฟไลน์ แมวดำ

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 784
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-2
โอ่ยจุกเรย

ขุ่นแม่นี่เห็นแก่ตัวมาก

ส่วนอีพ่อเลี้ยงนี่นับวันยิ่งเลว

พระเอกของเรื่องอยู่หนายยยยย

โผล่ออกมาซักที :hao5:

ออฟไลน์ iforgive

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +844/-80
ถ้าบอกว่านิยายเรื่องนี้จะจบแบบ happy ending แบบพ่อเลี้ยงกับลูกเลี้ยงได้ใช้ชีวิตร่วมกันอย่างมีความสุขล่ะก็
ก็สมควรแล้วล่ะ ที่คนแต่งจะบอกว่าเรื่องนี้เป็นนิยายตลกขบขัน ....
เพราะคนอ่านต่างรับรู้สถานการณ์ความเป็นไปผ่านตัวละครเพียงตัวเดียวที่ต้องบอกเลยว่า dark มาก
กานต์มักใช้ความคิดอยู่กับตัวเองคนเดียว คนเดียวจริง ๆ มองทุกอย่างทุกเรื่องราวผ่านระบบการคิดของตัวเองคนเดียว
ไม่มีเพื่อนสนิท ไม่มีคนที่ให้คำปรึกษา ไม่มีใครสักคนที่จะรับฟังให้กานต์ได้ระบายความคับแค้นออกไปบ้าง
.... จริง ๆ แล้ว เรืองราวหรือเหตุการณ์ต่าง ๆ น่าจะรายละเอียดมากกว่านี้ ... อาจไม่ใช่อย่างที่คิดทั้งหมด หรืออาจจะใช่
คนแต่งคงจงใจที่จะให้คนอ่านได้รับรู้ผ่านตัวละครเพียงตัวเดียวที่มีวิธีคิดของตัวเอง
ถือว่าเป็นการดึงดูดให้คนอ่านติดตามต่อไปอย่างเหนียวแน่นเพราะอยากรู้ว่า .. ต่อไปมันจะเป็นยังไง  ต่อไปมันจะเป็นยังไง ต่อไปมันจะเป็นยังไง

ออฟไลน์ กำแพงเมืองจีน

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 113
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
กานต์คงรู้สึกเหมือนถูกทรยศ

ยิ่งคนๆนั้นเป็นแม่แท้ๆของตัวเองด้วยแล้ว   แต่กลับไม่ช่วยลูก

แต่ชอบกานต์นะ  ทัศนคติดูตรงดี  ถึงจะไม่แสดงออกก็เถอะ

กานต์เจอเรื่องร้ายๆมาตั้งแต่เด็ก  แต่เอามาพูดเหมือนไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร  คงจะ'ด้านชา'ไปแล้ว

--------------------

รอตอนต่อไปนะคะ   

ออฟไลน์ L@DYMELLOW

  • กำลังงงๆ เพราะหาทางลงจาก “คาน” ไม่เจอ
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 356
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +826/-4
    • facebook
............ :sad2: :dont2: :o7: :sad3: :freeze: :sad5: o6 :o11: :undecided:.............

มันพูดอะไรไม่ออกอ่ะ กับชีวิตเด็กคนนึง.....

อ่านมาถึงตอนนี้เพิ่งจะตาสว่างว่าอ๋อ...ที่เด็กคนนี้มองโลกในแง่ร้ายเอามากๆ ไม่ใช่เพราะสังคมหรอก

แต่เป็นครอบครัวที่ทำให้มันเกิดขึ้นสินะ

มันต้องมีอย่างนี้บ้างแหละในชีวิตจริง ที่คนเป็นแม่ยอมให้พ่อเลี้ยงกระทำชำเราลูกตัวเอง

มาถึงจุดๆนี้ ถ้าอยากให้จบเรื่องแบบ Happy End ก็ดูจะเป็นการโลกสวยมากเกินไป

แต่มันคงจะดีไม่น้อย ถ้ามีใครสักคนที่เป็นคนดีจากแก่นแท้ ยื่นมือเข้ามาช่วยเด็กที่สิ้นหวังกับชีวิตคนนี้

คนอ่านได้แต่หวังว่าเมื่อจบแล้ว กานต์จะมองเห็นโลกใบนี้ในมุมที่ดีขึ้นบ้างก็พอ

ปูลู...กานต์มาอยู่กับพี่นะครับ จะเลี้ยงดูปูเสื่ออย่างดีเลย :impress:

ออฟไลน์ enjoy0189

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 119
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0

ออฟไลน์ fuku

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4479
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +462/-20

ออฟไลน์ senal

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 2
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0

ออฟไลน์ flimflam

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 881
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +14/-4
โอ๊ยยยย อิพ่อเลี้ยงงง
ทำไมเลวแบบนี้  :katai1: :katai1: :katai1:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด