สร้างรักคู่ที่ห้า: Daichi x Sora (จบ)
ไดจิต้องตามมาถึงสถานที่จัดงานเพราะเขาคลาดกับฮิคารุไปเพียงนิดเดียว และเจ้ารุ่นพี่ตัวแสบนั่นก็ดันปิดโทรศัพท์มือถือเสียอีก แต่ความโชคร้ายของเขามันไม่หมดแค่นั้น ยามหน้าอาคารไม่ยอมให้เขาเข้าไปข้างในเพราะเขาไม่มีบัตรเชิญ
ชายหนุ่มรีบร้อนตามฮิคารุจนเขาลืมคิดที่จะขอบัตรเชิญจากมิสุชิมะเซนเซย์เสียสนิท
ถ้าอยู่ในสภาพปกติ เขาคงโทรกลับไปหามิสุชิมะเซนเซย์และขอให้ช่วยติดต่อเจ้าของงานให้ แต่ตอนนี้สติของเขาไม่อยู่ในสภาพสมบูรณ์เต็มร้อย เขาจึงนึกอะไรไม่ออกนอกจากดึงดันจะเข้าไปในงานให้ได้อย่างเดียวจนมีเรื่องทุ่มเถียงกับยามเสียงดังลั่น
“มีเรื่องอะไรกัน”
ชายหนุ่มรูปร่างสูงใหญ่ใส่สูทสีเข้มเดินตรงเข้ามาหา เขาขมวดคิ้วมองเจ้าหน้าที่และมองไดจิที่ใส่แจ็กเก็ตยีนยับย่นด้วยความสงสัย
“คุณคนนี้ครับไม่มีบัตรเชิญแต่ต้องการจะเข้าไปในงานให้ได้ ทำยังไงก็ไม่ยอมครับ”
ชายหนุ่มในชุดสูทหันมามองไดจิเต็มตา
“ผมชื่ออัตสึชิ เป็นเจ้าหน้าที่ของงาน อีเว้นท์นี้จัดเป็นการภายใน เฉพาะแขกที่มีบัตรเชิญเท่านั้นครับ กรุณาเข้าใจด้วย และถ้าคุณไม่หยุดก่อปัญหา ทางเราจะต้องแจ้งตำรวจ”
“แต่ผมต้องเข้าไปข้างใน ผมต้องการพบโซระ”
ชายหนุ่มร่ำร้องด้วยอาการฮึดฮัด ก่อนจะนึกได้จึงเสริมว่า
“ผมชื่อไดจิ เป็นรุ่นน้องของฮิคารุซัง”
“รุ่นน้องของฮิคารุเหรอ?” อัตสึชิทวนคำ มองไดจิด้วยสายตาเหมือนไม่อยากจะเชื่อ แต่ชายหนุ่มก็ยกมือเป็นเชิงบอกให้รอ แล้วดึงโทรศัพท์มือถือจากกระเป๋าเสื้อสูทขึ้นมากด
“พี่ครับ ฮิคารุอยู่กับพี่รึเปล่า ครับ ขอผมพูดด้วยหน่อย”
ชายหนุ่มรออยู่ครู่หนึ่ง เมื่อได้ยินเสียงจากปลายสาย เขาก็พูดว่า
“ที่หน้างานมีคนมาอ้างตัวเป็นรุ่นน้องนาย ชื่อไดจิ”
ไดจิได้เข้ามาในงานจนได้เพราะเมื่อฮิคารุรู้เรื่อง เขาก็เดินออกมารับพร้อมกับส่งเสียงทักทายอย่างร่าเริง
“ไง ไดจิคุง มาถึงนี่เชียวนะ มีธุระอะไรล่ะ”
“ฮิคารุซัง” ไดจิก้มศีรษะให้ ท่าทางของเขาอ่อนน้อมลงจนฮิคารุรู้สึกได้
“ผมอยากพบโซระ กรุณาด้วยเถอะครับ” ไดจิขอร้อง
ฮิคารุเลิกคิ้ว ยิ้มมุมปากนิด ๆ
“อยากพบทำไม ตอนนี้โซระกำลังเตรียมตัวอยู่ ไม่ว่างมาพบนายหรอก” ฮิคารุตัดบทไม่เหลือเยื่อใย ตอนนี้เขากำลังสนุกสนานเหลือเกินที่ได้แกล้งเจ้ารุ่นน้องอวดดีคนนี้ ดูเหมือนคนโดนแกล้งก็รู้ตัวดีเช่นกัน แต่ตอนนี้เขาไม่มีทางเลือก นอกจากต้องยอมกัดฟันง้อเจ้ารุ่นพี่ร้ายกาจคนนี้
“ผมมีเรื่องส่วนตัวต้องพูดกับโซระครับ ขอร้องเถอะครับฮิคารุซัง ขอผมพบโซระเถอะ”
“สำคัญไหมล่ะ ถ้าไม่สำคัญก็รอจนงานเลิกละกัน นี่อีกแป๊บนึงงานก็จะเริ่มละ โซระไม่มีเวลามาพบนายหรอก”
ฮิคารุยืนกราน แต่ก็ยอมอนุญาตว่า
“นายจะเข้าไปในงานด้วยก็ได้นะ แต่ถ้าจะรออยู่ข้างนอกก็ตามใจ”
ไดจิยอมทำตามที่ฮิคารุพูดอย่างไม่มีทางเลือก เขาเดินตามหลังฮิคารุเข้าไปในห้องที่ใช้จัดงาน ดูเหมือนว่างานนี้จะเป็นแฟนมีตติ้งที่ทางค่ายจัดขึ้นเพื่อให้โมเดลได้พบปะแฟนคลับและทำกิจกรรมร่วมกัน รวมทั้งยังจะใช้งานนี้เป็นการแนะนำนักแสดงหน้าใหม่ ซึ่งในครั้งนี้คือโซระ
ชายหนุ่มเฝ้าถามตัวเองมาตลอดว่า เขารู้สึกอย่างไรที่โซระแสดงจีวี โซระที่เขารักกอดจูบและมีเซ็กซ์กับผู้ชายคนอื่น
คำตอบเหมือนเดิมทุกครั้ง เขาไม่แคร์ ต่อให้มันยิ่งกว่านี้ เขาก็ไม่แคร์ ถ้านั่นเป็นงานของโซระ เป็นสิ่งที่โซระเลือกแล้วว่าจะทำ เขาก็พร้อมจะยอมรับในสิ่งที่โซระเลือก
แต่ตอนนี้เขาอยากเจอโซระ
ไฟในห้องหรี่ลงจนสลัว เหลือแค่บนเวทีเท่านั้นที่มีไฟส่องสว่าง พิธีกรเชิญโมเดลที่เป็นเกสต์ในครั้งนี้ออกมา เขาได้ยินเสียงเรียกชื่อ นางิ โช สึบาสะ คาสุกิ ชุน และไค ต่อจากนั้นก็ได้ยินแฟนคลับในงานกรีดร้องและส่งเสียงเรียกชื่อแต่ละคนดังสนั่น แต่ชายหนุ่มไม่สนใจใครทั้งนั้น เขารอจนได้ยินเสียงเรียกชื่อโซระ และเห็นเด็กหนุ่มเดินออกมาจากเวทีด้านหนึ่ง สวมสูทสีน้ำเงินเข้ม ดูเป็นผู้ใหญ่และเคร่งขรึมผิดกับเด็กดื้อคนที่อยู่กับเขาในช่วงที่ผ่านมา แต่นั่นก็คือโซระแน่นอน ดวงตาของเด็กหนุ่มใสแจ๋วเหมือนลูกแก้ว แต่ติดจะเศร้านิด ๆ
“โซระ!”
ไดจิเผลอตะโกนออกไปโดยไม่รู้ตัว แล้วก็จำเพาะต้องเป็นจังหวะที่ทุกคนในห้องจัดงานพร้อมใจกันเงียบพอดี เสียงของเขาจึงดังชัดเจน และสายตาของทุกคนในห้องก็เบนมาที่เขาเป็นจุดเดียว รวมทั้งโซระด้วย
เด็กหนุ่มตะลึงจนตัวแข็ง
ไดจิตัดสินใจฉับพลัน เขาตรงดิ่งไปที่เวทีทันที
“ไดจิซัง” เด็กหนุ่มแทบไม่เชื่อสายตาตัวเอง ไดจิมาที่นี่ได้อย่างไร แล้วรู้เรื่องเขามาจากไหน ในเมื่อผลงานที่เขาถ่ายไว้ยังไม่ได้วางขายสักหน่อย
“ฉันมารับนายกลับบ้าน ไปเถอะโซระ เรามีเรื่องต้องคุยกันนะ”
ไดจิจับต้นแขนโซระแล้วดึงให้เดินตามมา แต่ชายหนุ่มในชุดสูทคนหนึ่งที่นั่งอยู่ใกล้ที่สุดก้าวออกมาขวางไว้เสียก่อน
“นายจะทำอะไรน่ะ แล้วนายเป็นใคร จะพานักแสดงของเราไปไหน”
“ไคคุง” เสียงเรียกดังมาจากด้านข้าง ชายหนุ่มในชุดสูทชะงัก เขาหันไปหาคนเรียกซึ่งก็คือนางิ ฝ่ายนั้นสั่นศีรษะเป็นเชิงห้าม ไคจึงยอมหลีกทางให้
“ขอบคุณครับ” ไดจิก้มศีรษะให้นางิ เขาดึงแขนโซระอีกครั้ง แต่คราวนี้เด็กหนุ่มขืนตัวไว้หลังจากสงบสติอารมณ์ได้แล้ว
“ไดจิซังมาที่นี่ทำไมครับ คุณไม่ควรมาที่นี่นะ คนอื่นรู้เข้าจะเป็นยังไง”
“ช่างมันสิ” ชายหนุ่มไม่สนใจ “ฉันอยากคุยกับนาย”
“แต่ผมไม่มีเรื่องอะไรจะคุยกับคุณแล้ว กลับไปเถอะครับ คุณกำลังรบกวนการทำงานของพวกเรานะ”
“ฉันรบกวนเวลานายไม่นานหรอกโซระ ฉันแค่อยากรู้ว่าทำไมนายไม่บอกความจริงกับฉันว่านายเป็นใคร ทำอะไรอยู่ แล้วนายไปจากฉันทำไม”
โซระอึ้งไปเมื่อได้ยินชายหนุ่มเน้นเสียงที่คำถามหลังสุด
ภายในห้องจัดงานตอนนี้เงียบกริบ ดูเหมือนว่าทุกคนกำลังรอฟังคำตอบอยู่เหมือนกัน
“คุณก็น่าจะรู้ดีว่าทำไม ผมทำอาชีพแบบนี้ ส่วนคุณเป็นนายแบบชื่อดัง ถ้าคนอื่นรู้ คุณเองนั่นแหละที่จะแย่ ผมไม่อยากจะทำร้ายคุณ”
“นายทำร้ายฉันอยู่แล้วตอนนี้ ตั้งแต่ที่นายไปจากฉันนั่นแหละ” ไดจิโต้ “ส่วนเรื่องงานของนาย ฉันไม่แคร์ ได้ยินไหมโซระ ฉันบอกว่าฉันไม่แคร์เลยสักนิด ถ้านั่นเป็นสิ่งที่นายเลือกจะทำ ฉันก็ไม่แคร์”
“คุณไม่แคร์ได้จริง ๆ เหรอ” โซระถามด้วยความไม่มั่นใจเลย “ผมเป็นนักแสดงจีวีนะ คุณก็รู้ว่ามันเป็นยังไง”
ไดจิไม่ตอบ แต่เขาดึงโซระเข้ามาจูบ
เท่านั้นก็เหมือนกับมีคนเปิดสวิตช์เครื่องขยายเสียง แฟน ๆ ที่อยู่ในห้องจัดงานส่งเสียงกรี๊ดกันสนั่นกับฉากง้องอนหวาน ๆ ที่เห็นตรงหน้า นางิปรบมือพลางยิ้มอย่างอบอุ่น ทำให้นักแสดงคนอื่น ๆ ที่ยังจับต้นชนปลายไม่ถูกพลอยทำตามไปด้วย เสียงปรบมือจึงดังประสานกับเสียงกรี๊ดของแฟน ๆ
ข้างล่างเวที ฮิคารุปรบมือด้วย แต่เขามีบริการพิเศษคือผิวปากยาว ๆ แถมท้ายด้วยความชอบอกชอบใจ
อัตสึชิมองฮิคารุด้วยสายตาที่เหมือนรู้ทัน ก่อนจะอดแดกดันไม่ได้ว่า
“ฝีมือนายอีกล่ะสิ”
ฮิคารุหันมายักคิ้วข้างหนึ่งให้แทนคำตอบ
บนเวที ไดจิถอนริมฝีปากออก เขามองโซระด้วยสายตาที่บอกความในใจออกมาทั้งหมด
เด็กหนุ่มพูดอะไรไม่ออก
“รู้แล้วใช่ไหมว่าฉันไม่แคร์”
“แต่ว่า...” โซระยังมีปัญหา “แล้วเรื่องงานของไดจิซังล่ะครับ”
“เป็นนายแบบ ไม่ใช่ไอด้อล ไม่ต้องรักษาภาพลักษณ์ขนาดนั้นหรอก กะอีแค่มีแฟนเป็นนักแสดงจีวี มันไม่ใช่เรื่องใหญ่โตอะไรเลย หรือถ้ามันจะทำให้ฉันต้องเลิกอาชีพนายแบบก็ช่างมัน ฉันไปทำอย่างอื่นก็ได้ อย่างน้อยรุ่นพี่ฮิคารุที่รักก็ต้องรับผิดชอบอะไรบ้างล่ะ”
ไดจิพูด ปลายเสียงของเขาสะบัดด้วยความหมั่นไส้เล็ก ๆ เมื่อพูดถึงตัวต้นเหตุที่ทำให้เขาตกอยู่ในสภาพนี้
โซระตาโตด้วยความตกใจ ไดจิพูดต่อว่า
“อย่านึกว่าฉันไม่รู้นะ มาถึงขั้นนี้แล้ว”
“ผมขอโทษ” โซระพูดเสียงอ่อย ๆ ไดจิจึงใช้นิ้วดีดหน้าผากเด็กหนุ่มเหมือนที่ทำสมัยก่อนเวลาลงโทษกระต่ายของเขาตอนที่มันดื้อและทำผิด
“ถึงเวลาพูดความจริงได้แล้วใช่ไหม โซระ นายสัญญากับฉันได้ไหมว่าต่อไปจะไม่โกหกหรือปิดบังอะไรฉันอีก”
เด็กหนุ่มพยักหน้า ไดจิจึงประคองหน้าของอีกฝ่ายไว้ด้วยมือทั้งสองข้าง พร้อมกับพูดว่า
“ฉันรักนาย โซระ แล้วนายล่ะ คิดยังไง”
ถึงตอนนี้ ในดวงตาของเด็กหนุ่มไม่มีรอยเศร้าอีกต่อไป โซระยิ้มหวาน
“ผมก็รักคุณครับไดจิซัง”
แล้วทั้งสองคนก็กอดกันท่ามกลางเสียงกรีดร้องของแฟน ๆ ในห้องจัดงานที่ดังยิ่งกว่าฉากจูบเมื่อสักครู่นี้เสียอีก
ด้านหลังที่เก้าอี้ของนักแสดง คาสุกิผิวปากหวือ บ่นลอย ๆ ว่า
“โดนเจ้าเด็กใหม่แย่งซีนกระจายเลยแฮะ”
“อย่าบ่นน่าคาสุกิ เป็นอย่างนี้ก็ดีแล้วนี่นา น่ายินดีจะตาย” สึบาสะหันไปยิ้มให้คนรักอย่างอ่อนโยนพร้อมกับเอื้อมมือไปบีบมือคาสุกิ ข้างตัวเขา โชโน้มตัวไปกระซิบถามข้างหูนางิว่า
“คนนี้เองสินะเป้าหมายของฮิคารุจังที่เอามาคุยกับนายวันนั้นน่ะ แล้วออกมาเป็นยังงี้จะดีเหรอ”
นางิกระซิบตอบ
“ดีสิ วิน-วินทุกฝ่าย ฮิคารุจังได้แกล้งคนสมใจ แถมมีผลพลอยได้อีกต่างหาก นายไม่เห็นเหรอ อีเว้นท์นี้ดังระเบิดแน่ มีนายแบบชื่อดังโผล่มาเซอร์ไพรส์บอกรักนักแสดงขนาดนี้ ยอดขายของบริษัทก็คงทะลุเป้า ส่วนคนที่ลงแรงมากที่สุดอย่างโซระก็ได้โปรโมต แถมได้แฟนไปอีกคน”
“ร้ายอะ” โชทำท่าขนลุก นางิหัวเราะชอบใจ
ด้านล่างเวที อัตสึชิส่ายหน้าด้วยความระอาใจ งานป่วนหมด ทีนี้จะทำไงต่อดีล่ะเนี่ย แล้วเขาก็เห็นฮิคารุเดินไปกระซิบอะไรบางอย่างกับพิธีกร
พิธีกรสวมสูทสวมแว่นตาดำประกาศขอเสียงปรบมือให้แก่ไดจิและโซระเป็นครั้งสุดท้าย
“แล้วนี่ก็คือนักแสดงหน้าใหม่ของเรานะครับ โซระคุง หลังจากนี้โซระคุงมีงานต่อ ดังนั้นจึงต้องขอตัวกลับเลยนะครับ แต่ก่อนกลับขอให้โซระคุงพูดอะไรสักเล็กน้อยกับแฟน ๆ ครับ เชิญครับ”
โซระกล่าวขอบคุณแขกที่มาในงานพร้อมกับยิ้มสดใส แล้วเขาก็ฝากผลงานที่กำลังจะออกวางขายกับแฟน ๆ ซึ่งก็ได้รับเสียงกรี๊ดดังลั่นเป็นการตอบรับ
“ขอบคุณโซระคุงครับ ต่อไปขอเชิญทุกท่านร่วมสนุกกับการตอบคำถามกับนักแสดงหกท่านบนเวทีนะครับ ขอกระดานไวท์บอร์ดให้นักแสดงด้วยครับ...”
เสียงพิธีกรพูดอะไรอีกยืดยาว แต่ทั้งไดจิและโซระไม่ได้ยินแล้ว ทั้งสองคนเดินลงจากเวทีและเดินมาทางที่ฮิคารุกวักมือเรียก
เมื่ออยู่กันสามคนข้างหลังเวที ฮิคารุก็บอกโซระว่า
“นายกลับเลยก็ได้นะ ฉันบอกอั๊คคุงกับสึโยชิซังไว้แล้วล่ะ”
“ขอบคุณครับฮิคารุซัง เอ้อ...” เด็กหนุ่มชะงัก แล้วเหลือบไปมองไดจิซึ่งถึงแม้จะมีทีท่าฝืนใจอยู่นิด ๆ แต่ก็ไม่ถึงขนาดเป็นปฏิปักษ์อย่างสมัยก่อน
“ขอบคุณที่ให้ผมเจอโซระ”
ชายหนุ่มพูด และมิวายเสริมต่อท้ายด้วยว่า
“แต่ว่านะ ฮิคารุซัง ถ้าคุณอยากจะสั่งสอนผม คราวหลังต่อยกันเลยตั้งแต่แรกดีกว่านะครับ ใช้วิธีนี้มันโหดไป”
ฮิคารุหัวเราะชอบใจ เขาตบไหล่นายแบบรุ่นน้องหนัก ๆ
“โหดตรงไหนกัน ฉันหาแฟนให้นายทั้งคนเลยนะ”
เจอคำตอบแบบนี้เข้าไปแม้แต่ไดจิก็ไปต่อไม่ถูก ส่วนโซระที่ถูกพาดพิงเช่นกันไม่พูดอะไร เพียงแต่อมยิ้มและหน้าแดงนิด ๆ มือของเขาถูกไดจิกุมเอาไว้แน่น
ไดจิเดินจูงมือโซระออกมาข้างนอก
ท้องฟ้าตอนกลางคืนคืนนี้ปลอดโปร่ง ไม่มีเมฆ เหมือนกับใจของเขาตอนนี้ ชายหนุ่มหันมาหาโซระ
“กลับบ้านกันเถอะ”
แต่สภาพบ้านต่างออกไปจากเดิมนิดหน่อย โซระตาโตมองสภาพห้องนอนที่เละเทะ แล้วหันมามองไดจิที่ทำหน้ายุ่ง ชายหนุ่มโทษว่า
“เพราะนายแหละ จู่ ๆ ก็หายไปแบบนั้น ฉันเลยเสียใจมากไปหน่อย”
“ผมขอโทษ” โซระยอมรับผิดแต่โดยดี หน้าจ๋อยลงทันควัน
ไดจิทำท่าเหมือนจะงอน เพราะพูดจบก็เดินหนีออกไปจากห้อง โซระเดินตาม พลางร้องเรียก
“ไดจิซังครับ”
แต่เมื่อเขาตามออกมานอกห้องนอน เด็กหนุ่มก็เห็นไดจินั่งอยู่บนโซฟา อุ้มอะไรอย่างหนึ่งไว้บนตัก
“กระต่าย” โซระอุทาน เขานั่งลงชิดไดจิ ชายหนุ่มก็ส่งกระต่ายตัวอ้วนสีขาวให้
“ซื้อมาวันที่นายหายไป กะจะเซอร์ไพรซ์ซะหน่อย กลายเป็นฉันเองที่โดนเซอร์ไพรซ์เต็ม ๆ”
“ผมขอโทษนะ” โซระพูดพร้อมกับเอนศีรษะพิงไหล่ไดจิ ชายหนุ่มดึงเอากระต่ายจากมือเด็กหนุ่มใส่กลับเข้าไปในกรง แล้วดึงตัวโซระมากอดเอาไว้ ทั้งสองคนล้มตัวลงไปนอนอยู่ด้วยกันบนโซฟาแคบ ๆ โดยที่ไดจิโอบกอดโซระจากข้างหลังเหมือนที่เขาเคยทำเวลานอนทุกคืน แล้วชายหนุ่มก็พูดว่า
“สองวันที่ผ่านมาฉันนอนไม่หลับเลย แต่คืนนี้คงเป็นคืนแรกที่ฉันจะหลับได้เต็มตาเสียที แล้วถ้าฉันตื่นขึ้นมาในตอนเช้า ฉันจะเจอนายใช่ไหม นายจะไม่หายตัวไปไหนอีกนะ”
เด็กหนุ่มสั่นศีรษะแรง ๆ เขาวางมือทาบลงไปบนแขนทั้งสองข้างของไดจิ
“ผมจะไม่ไปไหนแล้ว ผมจะอยู่กับคุณที่นี่”
“ดีจัง” ไดจิถอนใจยาว เขาผล็อยหลับไปตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้ แต่เมื่อเขาลืมตาขึ้นมา เขาก็ยังคงกอดโซระเอาไว้แน่น แล้วพอเขาขยับตัว โซระก็รู้สึกตัวตื่นขึ้นมา
“อรุณสวัสดิ์ครับ ไดจิซัง”
เด็กหนุ่มทัก เขาพยายามจะพลิกตัวโดยที่ลืมไปว่ากำลังนอนอยู่บนโซฟาแคบ ๆ โซระดิ้นขลุกขลักอยู่ในอ้อมแขนของไดจิครู่หนึ่ง แต่แล้วก็กลิ้งตกลงมาบนพื้นห้องด้วยกันทั้งคู่
ไดจิกับโซระหัวเราะขำตัวเอง ก่อนที่ฝ่ายแรกจะบ่นพึมว่า
“ต้องซื้อโซฟาใหม่ที่ใหญ่กว่านี้ซะแล้ว”
คอลเล็กชั่นเปิดตัวแบรนด์เครื่องประดับซึ่งเป็นแบรนด์ลูกของ Aki ได้นักแสดงจีวีระดับสตาร์ของค่ายมาเป็นนายแบบให้ตามที่อากิ มิสุชิมะตั้งใจไว้
นางิ โช คาสุกิ สึบาสะ โซระ ร่วมกับนายแบบรับเชิญคือไดจิและฮิคารุ
ในวงการฮือฮากันอีกครั้งกับแฟชั่นเซ็ตนี้ รวมทั้งข่าวเรื่องไดจิมีความรักกับหนึ่งในนักแสดงจีวีที่มาเป็นแบบในครั้งนี้ด้วย แต่ข่าวก็ไม่ได้กระทบกับหน้าที่นายแบบของชายหนุ่มมากนักเพราะอย่างน้อยเขาก็ผูกขาดการเป็นนายแบบของแบรนด์ Aki ไปได้อีกหลายซีซั่น
ไดจิรู้ว่ามันต้องมีการแทรกแซงจากฮิคารุอยู่ด้วยนิดหน่อย
ข้างตัวของเขา โซระกำลังเลือกเครื่องประดับในกล่องอย่างตั้งอกตั้งใจ เครื่องประดับที่ใช้ถ่ายแบบในครั้งนี้เป็นเครื่องเงินประดับอัญมณี มิสุชิมะเซนเซย์อนุญาตให้นักแสดงเลือกไปได้เป็นของขวัญคนละหนึ่งชิ้น ไดจิเลือกแหวน แต่ไม่ได้ให้ตัวเอง เขาตั้งใจจะให้โซระ
“ไดจิซัง คุณว่าอันไหนสวยกว่ากันครับ” โซระชูเครื่องประดับสองชิ้นให้เขาดู จี้ไม้กางเขนประดับไพลินสีน้ำเงินเข้มกับป้ายแท็กที่มีประทับลายหน้าต่างกุหลาบสเทนกลาส ชายหนุ่มชี้ที่ไม้กางเขน โซระก็เลือกชิ้นนั้น
เมื่อกลับมาถึงที่บ้าน ไดจิรั้งตัวโซระไว้ที่หน้าประตู เขาเอามือปิดตาเด็กหนุ่มไว้ก่อนที่จะเดินเข้าไปในบ้านด้วยกัน
“โซฟาใหม่”
โซระอุทานยิ้ม ๆ เมื่อไดจิคลายมือออกและเขามองเห็นโซฟาตัวใหม่ที่กว้างและใหญ่กว่าของเดิม
“ยังไม่หมดนะ”
ไดจิดึงมือโซระเข้าไปในห้องนอน สภาพห้องนอนตอนนี้กลับมาเป็นปกติแล้ว ข้าวของที่พังไปเพราะฝีมือไดจิถูกขนออกไปจนหมด และตรงที่ที่เคยวางเตียงเดี่ยว โซระเห็นเตียงขนาดคิงไซส์วางอยู่แทน
“คราวนี้ก็ไม่ต้องนอนฟูกบนพื้นแล้วละนะ”
ไดจิพูด เด็กหนุ่มหัวเราะ เขาคิดถึงวันแรกที่เข้ามาอยู่ในห้องนี้กับไดจิ เขาหอบหมอนไปนอนบนฟูกที่พื้นข้าง ๆ ไดจิเพราะไม่อยากนอนบนเตียงคนเดียว แล้วตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมา ทั้งสองคนก็นอนด้วยกันบนฟูกที่ปูบนพื้นมาตลอด
“ขอบคุณครับ” โซระเขย่งขึ้นจูบไดจิ แล้วเด็กหนุ่มก็อยู่ในอ้อมแขนของไดจิที่กอดเขาแน่นและกอดเขาแบบนั้นทั้งคืนบนเตียงนอนนุ่ม ๆ ที่ซื้อมาใหม่
โซระถอนหายใจยาวอย่างมีความสุขอยู่ในอ้อมกอดของไดจิ
ที่นิ้วนางข้างขวาของเขาสวมแหวนที่ได้รับมาจากชายหนุ่ม
เด็กหนุ่มนอนหลับไปพร้อมกับเสียงกระซิบของไดจิที่ข้างหูว่า
“เอาไว้จะหาแหวนที่ดีกว่านี้มาสวมให้ที่นิ้วนางข้างซ้ายนะ”
.........................
จบคู่ที่ห้าแล้วค่ะ พรุ่งนี้จะมาอัพต่อคู่สุดท้ายนะคะ
ขอบคุณสำหรับคอมเม้นท์นะคะ อย่าโกรธฮิคารุกันเลยน้า เธอฝากมาบอกว่าเธอแก้ตัวให้แล้วในตอนสุดท้ายนะ