“ปัง!!!! พี่ใหญ่!!!!”ผมสะดุ้งลุกขึ้นนั่งพรวดเมื่ออยู่ๆเสียงเรียกพร้อมกับเสียงเดินเข้ามาใกล้ ทำให้พี่ใหญ่ก็พลอยผวาตื่นขึ้นมาด้วย แต่แขนแกร่งก็ยังรัดพุงผมเอาไว้แน่น
“พี่ใหญ่พวกเขา …” เขามองหน้าผมนิ่ง ก่อนจะยอมพลิกตัวนอนหงายและลุดขึ้นนั่ง ประจวบเหมาะกับที่พวกโอปอล์เดินเข้ามาพอดี เค้ามากันครบแก๊งเลย ผมกำลังหลับสบายๆเลยแท้ๆ
“ทานข้าวด้วยกันไหมค่ะ แล้วไปเล่นกันนะ”คนชื่อหลิวพูดยิ้ม ก่อนจะก้มลงมาจูงมือผมลุกขึ้น ผมเองที่สะลืมสะลือลุกตามพวกเขาอย่างงงๆ มารู้ตัวอีกทีก็นั่งอยู่ในวงส้มตำไก่ย่างที่เต้นท์พวกเขาแล้ว หันไปมองข้างๆก็เจอกับคนชื่อดิวแล้วก็หลิว
“นั่งนี้เลยค่ะนั่งนี้” ผมขมวดคิ้วนิดๆเมื่อพี่ใหญ่ถูกลากไปนั่งตรงข้างๆโอปอล์ โดยที่อีกข้างเป็นฟรังก์แฟนของหลิว ผู้หญิงคนนี้ประหลาดอ่ะ ยังไงก็ไม่รู้
“กินสิ”
ผมตกใจเมื่ออยู่ๆน่องไก่ใหญ่ๆก็มาอยู่ในจาน หันไปมองเจอดิวก็กำลังมองผมอยู่ …. ดิวก็หล่อนะครับขาวตี๋ แต่พี่ใหญ่ของผมหล่อกว่า แหะๆ เค้าทำตัวดีก็ชมเขาหน่อยสิเนอะ ผมเหลือบมองพี่ใหญ่ที่มองมาที่ผมนิ่ง ก่อนที่จะหันไปคุยกับโอปอล์ที่อยู่ข้างๆ … ใจร้าย
บรรยากาศในวงดูสดใสร่าเริงดูครับแต่ผมกลับไม่รู้สึกสงบด้วย กลับรู้สึกอึดอัดซะมากกว่า แต่ไหนแต่ไรแล้วที่ผมมักเข้ากับคนอื่นไม่ค่อยได้ เพราะนิสัยผมเป็นแบบนี้ละมั่งครับเลยทำให้ผมเลือกที่จะอยู่เงียบๆถามคำตอบคำมากกว่า ถึงได้รู้ว่าพวกของโอปอล์เป็นนักศึกษาชั้นปีที่ 2 ของมหาลัยชื่อดังเมืองน่าน อายุเท่าๆกับผม พี่ใหญ่เลยเป็นคนที่อายุเยอะที่สุดในกลุ่ม ใครจะไปเหมือนพี่ใหญ่ละ หัวเราะต่อกระซิกกันอยู่นั้นละ เมื่อกี้ยังกอดผมอยู่แท้ ๆ เป็นแบบนี้ตลอดอ่ะ ใจดีกับคนอื่นแต่ชอบโหดใส่ผม
“ปังเป็นอะไรหรือเปล่า” หลิวถามผมขึ้น
“ปะเปล่าครับ ไก่มันเหนียว” ผมเงยหน้าจากจานโฟมขึ้นมาพูดเบาๆ กินไก่ชิ้นเดิมขึ้นมาฉีกกิน
“ไม่อร่อยเหรอ”
“อร่อยสิ” ผมหันไปตอบดิวอีกคน
“อร่อยงั้นก็กินเยอะๆ เห็นเล็มแต่ผัก ไม่ยอมกิน” ดิวพูดพร้อมกับตักส้มตำมาใส่จานผมอีก ผมก้มหัวขอบคคุณนิดๆ
“ขอตัวแปปนะ” เสียงพี่ใหญ่ดังขึ้น ก่อนจะลุกจากวงไป ผมมองตามแต่ไม่ได้เดินตามไปดูด้วย หันมาก้มหน้ากินส้มตำในจานต่อเงียบๆ
“ปังกับพี่ใหญ่เป็นอะไรกันเหรอ”
พรึบ! “อ่ะ ขอโทษนะดิว เลอะหมดเลย” ผมที่ซุ่มซามเพราะไม่ทันตั้งตัวกับคำถามของนายสินที่พูดออกมาซะเฉยๆ จนส้มตำทั้งจานหล่นคว่ำลงบนขากางเกงของดิวเต็มไปหมด
“ไม่เป็นไร เดี๋ยวผมไปล้างเอง”
“ดะ เดี๋ยวปังไปช่วยล่างไหม”
“เอาสิ” ผมลุกขึ้นยืนพร้อมๆกับดิวก่อนจะพากันออกมาที่ก๊อกน้ำสำหรับนักท่องเที่ยวที่อยู่ไม่ไกลนัก
“ผมขอโทษนะ เลอะเทอะหมดเลย”
“แค่นี้เอง” ดิวหัวเราะและพูดขึ้นเบาๆ เขานิสัยเหมือนพี่ใหญ่จัง ไม่ค่อยพูดอะไรสีหน้าชอบเรียบเฉยอยู่ตลอดเวลา
“งั้นยืนนิ่งๆนะ เดี๋ยวผมล้างให้” ผมว่าและก้มลงไปนั่งยองๆจะล้างขากางเกงที่เปื้อนให้ดิวเขาชะงักนิดๆเตรียมจะร้องห้าม แต่ไม่ทันมือหนาก็จับแขนให้ผมลุกขึ้นยืน … ไม่ครับ ไม่ใช่ของดิวแต่เป็นของพี่ใหญ่
“ทำอะไร ?”
“…” ผมไม่ตอบแต่ถอยหลังหนี แรงบีบที่แขนทำให้ผมเจ็บ พี่ใหญ่กำลังโมโห
“กูถามว่าทำอะไรกัน” เขาหันไปถามรอดลายฟันกับดิว
“พี่ใหญ่ฟังปังก่อนคือปังทำน้ำส้มตำตกใส่ดิว แล้วปังก็แค่จะล้างให้”
“ต้องก้มไปล้างให้มันเยอะไปหรือเปล่า และทำไมต้องมายืนอี๊อ๋อกันขนาดนี้” พี่ใหญ่พูดสวนผมขึ้นอย่างหงุดหงิด เพิ่มแรงบีบที่แขนและจ้องไปที่ดิวเหมือนพร้อมที่จะพุ่งเข้าหาตลอดเวลา … อย่ามีเรื่องกันเพราะเรื่องแค่นี้ได้ไหม !
“แล้วคุณกับปังเป็นอะไรกันละผมสองคนถึงจะไปไหนมาไหนด้วยกันไม่ได้ ถ้าแค่เพื่อนก็ไม่น่าจะห่วงขนาดนี้”
“ไม่ใช่เรื่องที่กูต้องพูดกับคนที่เพิ่งรู้จัก แต่ถ้ามึงอยากรู้มากนัก กูเป็นผัวของมัน ชัดเจนไหม ถ้ารู้เรื่องแล้วก็เลิกยุ่งกับมันสักที ถ้ายังอยากที่จะอยู่กันสงบสุขอ่ะนะ” ผมก้มหน้านิ่งสะดุ้งเป็นพักๆกับคำพูดพี่ใหญ่ … ฮืออออออออออออออออ
“เอ่อ มีอะไรกันหรือเปล่าครับ” บรรยากาศ มาคุถูกทำลายลงเพราะสินที่วิ่งเข้ามาดูพวกเราในขณะที่ทั้งวงก็นั่งมองเราสามคนอยู่
“ขอตัว” พี่ใหญ่พูดและดึงผมออกมาจากตรงนั้นกลับมาที่เต้นท์ของเราทันทีไม่ทันได้บอกลาใครเลย …
“เก็บของ” เขาสะบัดข้อมือที่กุมผมแน่นที่หน้าเต้นท์
ผมยืนทำอะไรไม่ถูกมองพี่ใหญ่ที่คลานเข้าไปในเต้นท์ สักพักเขาก็ออกมาเลิกคิ้วมองผมที่ยืนเจี๋ยมเจี้ยมอยู่ ผมไม่อยากกลับนี้ ผมยังอยากเที่ยว นานๆทีผมกับพี่ใหญ่จะมาเที่ยวกันสักที … ทำไมบรรยากาศต้องเป็นอย่างงี้ด้วย
“ผมยังไม่อยากกลับ”
“กลับอะไร”
“ผมไม่อยากกลับบ้าน อยากเที่ยวก่อน นานๆทีเราจะได้เที่ยวด้วยกัน”
อยู่ๆน้ำตาก็ไหลจนผมต้องเช็ดออกโดยเร็ว ไม่อยากให้พี่ใหญ่หงุดหงิดไปมากกว่านี้ตะแต่ อากาศตอนกลางคืนต้องดีมากๆ พี่ใหญ่เป็นคนชอบภูเขา ผมก็เหมือนกัน ละ แล้ว จะกลับตอนนี้มันน่าเสียดาย ฮึก
“ไร้สาระ จะร้องไห้ทำไมวะ” เค้าพูดกอดจะจับหัวผมเข้าไปซบที่ไหล่แกร่ง ผมคว้าเอวเขาทันที
“ก็ผมไม่อยากกลับนี้ แล้วเรื่องดิวก็ไม่มีอะไรด้วย พี่กับโอปอล์นั้นแหละที่มี ฮึก”
“อะไร?” เขาดันหัวผมออก
“ก็พี่นั้นแหละ ชอบเค้าใช่ไหมละ เห็นคุยกันถูกคอนี้”
“พูดอะไรของมึง”
“แล้วทำไมต้องพูดแบบนี้ด้วย!” ผมตะโกนออกมานิดๆ กะ ก็เขารังแกผมอ่ะ พูดเพราะๆสิ ทำไมต้องพูดกูมึงด้วย เกิดในสมัยพ่อขุนรามหรือไง!
“ขอโทษ … พี่กับโอปอล์ก็ไม่มีอะไร เมียนั่งอยู่ตรงนั้นใครจะกล้าวะ เห็นพี่แบบนี้พี่ก็รักเมียนะ”
“ฮึก กะ ก็ …” น้ำตาแหมะใหญ่ไหลหลากออกมาอีก คนบ้า! เขินนะ
“เออๆ เลิกร้องได้ละยิ่งพูดยิ่งร้องเป็นเด็กหรือไง เก็บของและไปน้ำตกกัน” ผมพยักหน้ารับก่อนจะเข้าไปเปลี่ยนกางเกงในเต้นท์ให้เป็นแบบที่สบายๆกว่านี้ แสบจมูกหมดเลย ทำไมต้องแกล้งกันด้วย
“พวกนั้นไปน้ำตกสะปันใช่ไหม ?”
“ฮะ” ผมพยักหน้าระหว่างที่รถยนต์ที่จอดเอาไว้ ตอนแรกจะเดินไปแต่พอศึกษาเส้นทางจากเจ้าหน้าที่แล้วผมว่านั่งรถเถอะก่อนที่ผมจะหมดแรง
“งั้นเราไปน้ำตกห้วยห้ากัน ไกลหน่อยแต่ปลอดภัย”
“ปลอดภัย ?”
“ก็ปลอดภัยจากไอ้เด็กห่านั้นแหละ”
“ขี้หึง นั้นเพื่อนใหม่ปังนะ” ผมงอแง
“หึ ไม่หึงเลยสินะ” เขาหยิกจมูกผมอย่างหมั่นไส้ หึ ใครหึง ไม่ได้หึงนะแค่ไม่ชอบ
“ลำพังคนอื่นถ้าเข้ามาดีๆนี้ไม่เคยว่าหรอกนะ แต่เห็นเงาก็รู้ว่าเสป็กเหมือนกู สาด จะแย่งหมูกูแดกฝันไปเถอะ” พี่ใหญ่บ่นอะไรไม่รู้ง๊องแง๊งๆ มือก็ขับรถไปเรื่อยๆ ผมหัวเราะออกมาเพราะพี่ใหญ่พูดจาตลก
“แล้วงี้ปังจะมีเพื่อนผู้ชายได้ยังไง”
“ก็ไม่ต้องมี”
“แต่ปังเป็นผู้ชายนะ”
“หึ งั้นนายเป็นผู้หญิงซะ”
“บ้าเหรอ พี่นั้นแหละดึงดูดผู้หญิงจัง”
“ถ้าฉันไม่เอาใครจะบังคับ ? มีหมูอยู่หนึ่งตัวแล้วจะไปหาแรดมาเพิ่มอีกทำไม”
“ว่าผู้หญิงอย่างงั้นไม่ได้นะพี่ใหญ่”
“เอานมถูขนาดนั้นจะให้เรียกว่าอะไร กระต่าย ?” ผมเผลอหัวเราะออกมา
จริงครับโอปอล์เอาหน้าอกถูแขนพี่ใหญ่อย่างสนิทสนมเลย ผมเห็นแล้วแต่พยายามไม่ทำอะไร คิดนะ แต่ไม่อยากทำให้ตัวเองและพี่ใหญ่มีปัญหากลัวว่าจะถูกมองประหลาด คิก ผมก็มีเสืออยู่ตัวนึงแล้วเหมือนกัน โหดด้วยไม่เอาใครมาทำให้เสือกัดผมหรอก
“สวยยยยยยยยยยยยยยยยยยยมว๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก”
น้ำตกห้วยห้า ! น้ำตกที่สวยที่สุดในโลกที่ผมเคยเจอ ธรรมชาติอุดมสมบูรณ์ น้ำใสเห็นตัวปลา อากาศบริสุทธิ์ แถมคนไม่เยอะด้วย แบ่งเป็นห้าชั้น แต่เจ้าหน้าที่บอกชั้นที่ 3 นั้นสวยงามที่สุด ผมเลยให้พี่ใหญ่พาผมไปชั้นที่ 3 แล้วก็ไม่ผิดหวังเลย น้ำตกไหลแรงสุดๆ แอ่งน้ำที่สำหรับเล่นดูเย็นสบายล้อมรอบด้วยพืชไม้นานาพันธ์น้อยใหญ่ดูเป็นธรรมชาติโอโซนที่แท้จริง ถ้าผมได้ผมกรี๊ดไปแล้ววววววววววววววววววววววววว!!!!
“ลงมาสิ” ผมยิ้มเขินๆเมื่อพี่ใหญ่ลงไปอยู่บนน้ำและยื่นมือกลับมาให้ผมจับ
“แม๊นแมน อ๊ะ!” ผมร้องออกมาอย่างตกใจเมื่อกำลังเดินไปหาพี่ใหญ่แต่กลับลื่นหินจนถลาเข้าไปกอดพี่ใหญ่เอาไว้แน่น ฮืออออออออออออ สะเทือนใจ นึกว่าหัวจะพาดซะแล้ว
“หึหึ อ่อย ?”
“บะ บ้า” ว่าเขาเบาๆก่อนจะผละออกจากอกแกร่งและเดินไปที่กลางลานน้ำตก อ๊า น้ำเย็นชื้นใจปังปังจริงๆ มองไปทางไหนก็มีแต่ป่ากับน้ำใสๆ โชคดีที่ชั้นนี้ไม่มีคนเลยนะ คิกๆ น้ำตกของปัง!
ผมเล่นน้ำกับพี่ใหญ่สักพัก ก็มานอนให้น้ำไหลผ่านตัวไปอย่างสบายอารมณ์โดยจับมือพี่ใหญ่ที่นั่งอยู่บนโขดหินเอาไว้แน่น อย่าปล่อยปังนะถ้าปล่อยปังไปอาจจะไหลตกน้ำตกไปเลยก็ได้ … แต่ผมเชื่อว่าพี่ใหญ่ไม่ปล่อยผมหรอก เพราะเค้าเป็นเสือร้ายที่ชอบแกล้งหมูไงละ
“อ่ะ! พี่ใหญ่เม่น!!!!!!” ด้วยความที่ตื่นเต้นผมเลยเผลอตะโกนออกมาเสียงดังทำให้เจ้าตัวนั้นวิ่งลุ่นๆเข้าป่าไป … เม่น ๆๆๆๆๆๆ เม่นป่า!!!
“เม่นอะไรออกมาตอนนี้” ผมลุกขึ้นไปยืนหน้างออยู่ข้างๆพี่ใหญ่และพยายามอธิบายลักษณะของเม้นที่ผมเจอให้ฟัง
“มันขนแหล่มตัวเท่าแมว ถ้าไม่ใช่เม่นแล้วจะตัวอะไร ปังเห็นจริงๆ”
“เออเม่นก็เม่น หึหึ น่ารัก”
“เม่นหรอครับ”
“มึงนี้แหละ” พะ พูดจาไม่เพราะ ผมก้มหน้าซ่อนเขินก่อนจะหันไปหอมแก้มเขาโดยเร็วและทำท่าจะเดินหนี แต่ก็ถูกดึงคอเสื้อเอาไว้
ผุบ “หนีหรอไอ้หมู บังอาจนะเดี๋ยวนี้ ได้ทีแล้วคึกใหญ่” เขากระซิบก่อนจะหอมซอกคอผมเบาๆ จะ จั๊กกะจี้อ่ะ
“ปังทำไม่ได้เหรอครับ” ผมถามเศร้า ๆ … จะไปเศร้าอะไรละครับผมล้อเล่น หยอกพี่ใหญ่ไปงั้น
“ได้ทุกอย่างนั้นแหละ” มือแกร่งของเขาค่อยๆหันผมไปเผชิญหน้าก่อนจะก้มลงมาจูบที่แก้มผมทั้งสองข้างอย่างหนักหน่วง … ขะเขิน …
“แต่ตอนนี้ขอชิมหมูแดงหน่อยนะครับ” ผมยิ้มและพยักหน้าเบาๆ และก็ต้องตกใจเมื่อเขาจับหลังศีรษะของผมให้อยู่นิ่งและก้มลงมาจูบที่ริมฝีปากชื้นของผม มืออีกข้างก็โอบเอวผมเอาไว้ ลิ้นร้อนๆค่อยๆไล่ต้อนผมช้าๆ ก่อนจะเปลี่ยนเป็นจูบที่เร้าร้อนและรุนแรงในเวลาไม่กี่วินาทีต่อมา
“อื้อพะ พี่ใหญ่” อดร้องท้วงขึ้นไม่ได้จริงๆครับก็ตอนนี้มือปลาไหลของเสือหื่นเริ่มถกเสื้อของผมขึ้นและชอนไชเข้าไปลูบหลังของผมเบาๆ เขาไม่ปล่อยให้ผมประท้วงอีกเลื่อนริมฝีปากจากซอกคอขึ้นมาจูบปิดปากผมไว้อีกรอบ
“อื้อ!” เสือหื่นเริ่มบีบสะโพกผมล๊าวววววววว! แกะออกไปเล่นเลยไหมถ้าจะบีบขนาดนี้ ฮืออออออออ
“พะพี่ใหญ่ ดะ เดี๋ยวครับ ผะ ผมอยากเล่นน้ำอ่ะ”
“หึหึ ก็ได้” เขาหัวเราะในลำคอก่อนจะขย่ำก้นผมอีกทีถึงปล่อยผมที่หน้าร้อนฉ่าไปหมดให้เป็นอิสระ และก็ต้องหลบตาวูบเมื่อตาเจ้ากรรมดันไปเห็นน้องเสือน้อยของพี่ใหญ่ปูดออกมาจากกางเกงนิดๆ … หะ หื่นเกินไปไหมเนี้ย !
“อย่างน้อยก็ช่วยกันหน่อยไม่ได้เหรอครับ” เขากระซิบที่ริมหูของผมมือทั้งสองข้างกอดเอวผมไว้หลวมๆ จมูกซอกไซไปตามลำคอจนผมจั๊กกะจี้
“ไม่ครับ เห็นไหมมันที่แจ้งเป็นที่สาธารณะ อย่าน้องก็ให้เกียรติสถานที่เขาหน่อยนะครับ” ผมพูดเสียงดุนิดๆ จริงๆผมเขินมากเท่านั้นเอง เขาหัวเราะก่อนจะแนบปากลงมาจุ๊บผมอีกรอบโดยไม่ล่วงเกินอะไรปล่อยให้ผมได้เล่นน้ำตามเดิม
ผมและพี่ใหญ่เล่นน้ำจนบ่ายแก่ๆ จึงพากันไปอาบน้ำและเปลี่ยนเสื้อผ้าที่ห้องน้ำรวมก่อนจะเดินทางกลับจุดกางเต้นท์ในเวลา 4 โมงเย็น ผมก็สังเกตเห็นว่าพวกของดิวยังไม่กลับมา พี่ใหญ่จึงชวนผมหั่นหมูหั่นผักจุดไฟถ่านที่เจ้าหน้าที่เตรียมเอาไว้ให้แล้ว กว่าจะจุดได้นี้แทบตาย ดีนะที่พี่ใหญ่เอาเหล้าที่อยู่ในรถมาสาดทีเดียวไฟติดพรึบเลย … วิชาลูกเสือพี่ใหญ่ใช้เหล้าด้วยหรือเปล่าเนี้ย …
จนเสร็จสรรพพร้อมจะปิ้งกันในเวลา 5 โมงเย็นเป็นเวลาช่วงที่ฟ้าเริ่มคลายเป็นสีส้มอ่อนๆ อากาศเริ่มเย็นขึ้นมาอีก ผมจึงนั่งห่อตัวอยู่ในผ้าห่มผืนหนามองพี่ใหญ่ที่กำลังตั้งกระทะบนไฟที่กำลังแรงได้ที่ มีบางทีที่ครอบครัวเต้นท์อื่นเดินมาคุยมาถามบ้างทำให้ผมรู้สึกอบอุ่นเพราะที่นี้มีแต่คนที่จิตใจดีสุด ๆ
“เอ่อ … ขะ ขอโทษค่ะ”
“อ้าวหลิว” ผมพูดทักขึ้นเมื่อเห็นหลิวมาทำท่ายงโย่ยงหยกมองผมสองคนอยู่ด้านหลังของพี่ใหญ่ที่นั่งหันหลังอยู่
“คืองี้นะคะ พวกเรา เอ่อ … มึงออกมานี้ไอ้2 ตัวดี” หลิวพูดพร้อมกับหันไปกระชากดิวกับโอปอล์ออกมาจากหลังเต้นท์ของผมที่บังอยู่และก็ตามออกมาด้วยสินและฟรังก์ที่ยืนเกาหัวแกรกๆยิ้มแหยะๆมาให้ผมและพี่ใหญ่
“ขอโทษเขา 2 คนซะ พวกมึงนี้นะ” หลิวพูดเสียงดังนิดๆ โอปอล์เงยหน้ามองผมกับพี่ใหญ่สลับกันก่อนจะพูดขึ้นเบาๆ
“ปอขอโทษ คือปอ … ปอคิดว่าทั้งคู่เป็นเพื่อนกัน ปอเลย … ขอโทษนะคะ”
“ไม่เป็นไรครับ แต่ครั้งหน้าอย่าทำแบบนี้อีกนะครับ น้องยังเด็กและเป็นผู้หญิงด้วย มันดูไม่งาม ถึงสมัยนี้ผู้หญิงและผู้ชายจะเท่าเทียมกัน แต่เราก็ยังเป็นผู้หญิงคนที่เสียหายคือเราไม่ใช่เขา พี่เตือนด้วยความหวังดีและพี่ก็ไม่ได้โกรธอะไร”พี่ใหญ่พูดพร้อมกับยิ้มออกมานิดๆ โอปอล์สีหน้าดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด พยักหน้ารับปากกับพี่ใหญ่ ก่อนจะหันมามองผมด้วยสายตาขอร้อง
“ผมก็ไม่ได้โกรธ” ผมว่าก่อนจะยิ้มออกมา … แต่ถ้าเอาหน้าอกมาถูพี่ใหญ่อีกที ผมเอาหมูยัดปากนะ ฮึ!
“มึงละไอ้ดิว”
“พี่ใหญ่!” ผมเอ็ดพี่ใหญ่ออกมานิดๆ ไปเรียกเขาแบบนั้นได้ยังไง พี่ใหญ่ไม่สนใจยืนขึ้นเต็มสัดส่วนทำให้เขาสูงกว่าดิวอีก ก่อนจะเลิกคิ้วถามอย่างกวนๆ ผมรีบลุกขึ้นไปยืนตรงกลางทันทีส่วนคนอื่นก็พอกันมาอยู่ด้านหลังผม
“พี่ใหญ่นี้เวลาโมโหน่ากลัวนะครับ” ฟรังก์พูดขึ้นเบาๆ ผมละอยากพยักหน้าตอบแต่ไม่ใช่เวลาที่มาคุแบบนี้
“ผมชอบปัง” ฉิบ…หาย …. ดิว!!!! ทำไมพูดแบบนั้น
“เฮ้ย! มึง เดี๋ยวพี่เค้าก็ต่อยมึงหรอก” นายสินพูดออกมา
“ผมชอบเขา แต่ผมไม่ได้คิดจะแย่ง พี่มองหน้าแฟนพี่ดิ ตาคมออกหวานจมูกโด่ง ริมฝีปากสีชมพู ดัดฟันอีก ผิวขาวด้วย แล้วไหนจะหุ่นที่ไม่ผอมไม่อ้วนแบบนั้นอีก เป็นใครใครจะไม่ชอบวะพี่ กระตุ้นต่อมหื่นฉิบขนาดนั้น” ดิวชี้มาที่ผม อะ … เอ่อ นั้นผมหรือ
“ของกู!” พี่ใหญ่ตะคอกทำเอาผมสะดุ้งกันเป็นแถว
“ผมรู้ว่าของพี่ก็ผมบอกแล้วผมแค่ชอบ แต่ไม่คิดจะแย่งไง”
“ปวดหัวโว้ย มึงจะไปไหนก็ไปไป๊!!!!” พี่ใหญ่พูดอย่างหงุดหงิด ก่อนจะเดินมานั่งดูเตาที่เริ่มเดือดแล้วอย่างหงุดหงิด
พรึบ!
“ผมจะกินหมูกระทะ” ดิวที่นั่งลงไปแล้วพูดขึ้น ทำเอาทุกคนค้างนิ่งสงัด … เอ่อ คือ… กวนตีนใช่ไหมดิว
“สัด มึงนี้แม่ง” พี่ใหญ่บ่นเบาๆ ก่อนจะหันไปเอาหมูที่หมักอยู่ในหม้อลงปิ้งด้วยอารมณ์กรุ่นๆ
“เอ่อ … แหะๆ ทุกคนมากินหมูกระทะกันนะ” ผมเอ่ยชวนทุกคนก่อนที่จะนั่งลงข้างๆพี่ใหญ่
หลังจากนั้นวงหมูกระทะของเราก็มีสมาชิกเหมือนเมื่อตอนกลางวันซึ่งฝั่งของดิวเองก็เอาของสดที่มีมาร่วมกระทะด้วย บรรยากาศเป็นไปอย่างครื้นเครง ไม่มีการทะเลาะเบาะแว้งกันอีก มีแค่พี่ใหญ่ที่ทำท่าจะฮึมๆใส่ดิว เราคุยกันถูกคอมากขึ้นเพราะปอเองก็ไม่ทำท่าที่เบี่ยงไปทางชู้สาวกับพี่ใหญ่แล้ว ผมจึงสบายใจขึ้น ตกดึกประมาน 3 ทุ่มพวกเขาก็กลับที่พักไปและนัดกันไว้ว่าช่วงเช้าจะตื่นไปดูพระอาทิตย์ที่ช่องเขาด้วยกัน เพราะอากาศที่เริ่มหนาวหนักขึ้นเรื่อยๆผมกับพี่ใหญ่เดินเล่นตามลำธารกันสักพักก็ชวนกันเข้าเต้นท์เหมือนกัน
“ในเต้นท์นี้อุ่นนะครับพี่ใหญ่” ผมมองเพดานเต้นท์และหันไปบอกกับพี่ใหญ่ที่นอนอยู่ข้างๆ เขาหัวเราะนิดๆก่อนจะพยักหน้ารับ จากนั้นทุกอย่างก็เงียบลง
“งั้นราตรีสวัสดิ์นะครับ” ผมพูดและหันหน้าเข้าหาเข้า หลังจะซุกกายและหลับไปในคืนนี้ เขาเองก็สอดแขนแกร่งเข้ามาให้ผมหนุนก่อนจะหอมหน้าผากผมหนึ่งทีกอดผมเอาไว้เหมือนในทุกๆคืน
.
.
.
NC ไม่ไหวโปรดมองข้าม “อื้อ พะ พี่ใหญ่”
ร่างอวบของปังบิดไปมาใต้ร่างแกร่งที่อยู่ด้านบน เมื่อสะดุ้งตื่นขึ้นหลังจากหลับไปได้สักพักเพราะสัมผัสเปียกชื้นที่หน้าท้องของตัวเอง กว่าจะรู้ตัวเสื้อผ้าทั้งหมดของปังก็ถูกปลดพันธนาการออกแล้วหมดสิ้น เสือร้ายในยามนี้หิวโหยจนกว่าจะเอาอะไรมาฉุดรั้งไว้ได้ เสียงลำธารดังคลอขึ้นไปกับเสียงครางน้อยๆในลำคอของปังปัง
“อะ ฮะ อื้อ ผะ ผม”
เสียงขาดห้วนของปังปังถูกปิดด้วยริมฝีปากหนาที่ซุกซนและซอกซอนในโผล่งปากอุ่นหอมหวานของเจ้าหมูน้อยที่กำลังจะกลายเป็นเหยื่ออันโอชะของเสือหิว มือหนาไล่ละไปตามร่างกายขาวโพนอวบอั้นเต็มไม้เต็มมือของเจ้าปังในความมืดของพงไพร ก่อนจะดูดซับไปตามต้นคอปลุกอารมณ์ให้กับเจ้าปังที่นอนทรมานไปด้วยความเสี่ยวซ่านไปทั้งร่างกาย
“ทำให้พี่หน่อยนะครับ”
เสียงแหบพร่านกระซิบก่อนจะพลิกตัวให้ปังขึ้นไปอยู่ด้านบน ใบหน้าหวานแดงซ่านด้วยความเขินอาย ก่อนจะก้มลงที่ริมฝีปากหนาไล่ละไปตามลำคอแกร่งเสียงครางทรงเสน่ห์ทำให้เจ้าปังได้ใจจูบไล่ไปตามหน้าปกเปลือยเปล่าสีแทนเนียนแข็งไปด้วยกล้ามเนื้อที่แสดงถึงการชอบออกกำลังกายของร่างสูง ริมฝีปากน้อยๆไล่มาจนถึงลอนที่ท้องแกร่ง จนพี่ใหญ่กระตุกนิดๆก่อนที่เจ้าปังจอมซุกซนจะล่นตัวจนลงไปถึงแก่นกายที่ในตอนนี้ขึงขังใหญ่โตจนน่ากลัว มือสั่นน้อยๆบรรจงจับท่อนแกนนั้นอย่างกล้าๆกลัวๆ และค่อยๆทำตามที่พี่ใหญ่คอยสั่งสอนมาตลอด
“อืม ดีครับที่รัก เก่งมาก”
มือแกร่งจับที่หัวทุยของเจ้าปังก่อนที่เจ้าปังจะค่อยๆผงกหัวขึ้นลงช้าๆ ตามที่มือของเขากำกับจากช้ากลายเป็นเร็ว เสียงครางแหบต่ำในลำคอแสดงถึงความพึงพอใจเป็นอย่างมาก และเมื่อริมฝีปากเล็กๆของปังละออกมาจากแกนกลางนั้นด้วยความเหนื่อยหอบ แขนแกร่งก็ดึงร่างอวบอั๋นขึ้นมาให้เสมอกันและจูบหยอกล้อกับริมฝีปากน้อยๆนั้นอย่างขี้เล่น
“ขอบคุณครับปังของพี่”
ร่างแกร่งพลิกกายขึ้นมาอยู่ด้านบนก่อนจะบรรจงจูบที่ขมับอันเต็มไปด้วยเหงื่อ และทำแบบเดียวกับที่เจ้าปังทำให้เมื่อกี้ แขนแกร่งยกขาของปังขึ้นมาแนบสีข้างเอาไว้ ก่อนจะล่นตัวลงไปด้านล่างในขณะที่เจ้าปังกำลังเคลิบเคลิ้มกับการเล้าโลมที่แสน
อ่อนโยน
“อ่ะ พี่ใหญ่ ฮึก มะ มันสกปรก ฮะ อ่ะ อื้อ”
ลิ้นอุ่นๆหยอกล้อกับช่องทางด้านหลังของคนรักอย่างชำนาญจนเจ้าปังต้องหยิบเอาผ้าห่มมากัดเพื่อระงับเสียงครางที่กลังจะดังรอดไปให้ใครได้ยิน เมื่อพี่ใหญ่พอใจแล้วก็ยืดตัวขึ้นมาจูบเบาๆที่ริมฝีปากอวบอิ่มของปังๆ ก่อนจะค่อยๆสอดนิ้วเข้าไปใน
ช่องทางด้านหลังจนเจ้าปังสะดุ้งพรวด แต่ไม่มีโอกาสจะได้ท้วงติงเพราะพี่ใหญ่ไม่ปล่อยให้ริมฝีปากน่ารักๆนั้นออกห่างเขี้ยวเล็บแม้แต่น้อย
“ผ่อนคลายนะครับ” เสียงกระซิบแหบพร่านนั้นทำให้ร่างอวบที่นอนอยู่ด้านใต้รู้ชะตากรรมดี เพราะบัดนี้พี่ใหญ่ได้ทำงานเบิกทางด้านหลังเอาไว้ด้วยนิ้วสากแล้วถึงสามนิ้ว
“บะ เบาๆนะครับ”
รู้ว่าไม่มีทางหลีกหนีได้แล้วการขอร้องจึงเป็นทางออกที่ดีที่สุด ร่างหนาลุกผละออกจากร่างที่บิดไปมาอย่างเสียวซ่านก่อนจะเอื้อมตัวไปหยิบอุปกรณ์ช่วยต่างๆมาสวมใส่ สัมผัสเย็นๆถูกบรรจงป้ายไปถามด้านช่องทางหลังของเจ้าปังเพียงไม่นานก็ต้องสะดุ้งเมื่อความรู้สึกว่าเป็นสิ่งที่ใหญ่กว่านิ้วหลายเท่ากำลังสอดใส่เข้ามาด้วยความปรารถณาที่มากล้น
“อ่ะ อืม ผมเจ็บ”
“จะสุดแล้วครับทนอีกนิดนะ”
“มะ มันลึกมาก ฮึก พะ พี่ใหญ่ อะ อ๊า!”
แก่นกายใหญ่ถูกร่างแกร่งกระแทกเข้าไปจนสุดอย่างลืมตัว ทำให้เจ้าปังผวากอดบ่าแกร่งเอาไว้แน่น ริมฝีปากชื้นจูบซับไปตามแก้ม ซอกคอและบ่าลาดเนียนของเจ้าปังและจะวกกลับมาจูบเป็นการปลอบใจหมูน้อยของเขา
พรึบ สะโพกหนาเริ่มบรรจงเข้าออกอย่างฝืดเคือง เพราะถึงแม้จะมีตัวช่วยถูกตามหลังแล้วความแน่นและตอดรัดทำให้เขาขยับตัวลำบากไม่ว่าจะกี่ครั้งต่อกี่ครั้งที่ได้สัมผัสก็ตาม
“ผ่อนคลายนะครับที่รัก” ร่างแกร่งกระซิบก่อนที่จะโฉยโอกาสที่เจ้าปังผ่อนลมหายใจทิ่มสวนเข้าไปอีกนิด เสียงร้องครางนั้นทำให้พี่ใหญ่ต้องรีบลงไปจูบเอาไว้แน่น ก่อนที่ใครจะเอาร่วมแบ่งปันเสียงหวานนี้กับเสือร้าย ทุกอย่างที่เกี่ยวกับปัง เขาคนนี้แสนห่วงแสนรัก ไม่เสียทั้งหมด
“อื้อ ฮะ ฮะ อื้อ อ่า อะ อะ”
เจ้าปังครางต่ำอย่างไม่เป็นคำเมื่อร่างแกร่งเริ่มขยับสะโพกจากช้าเป็นเร็ว และร้อนแรงขึ้นจนต้องใช้มือดันหน้าท้องแกร่งเอาไว้ทั้งสองข้าง แต่ก็ไม่ทำให้พี่ใหญ่เบาแรงลงเลยแม้แต่น้อย มือหนาจับขาทั้งสองข้างของปังปังฟาดบนบ่าและจับมือทั้งสองข้างกอดคอเขาเอาไว้แน่น ก่อนจะเริ่มขยับอีกครั้ง
“อ่ะ จะเจ็บ อื้ออ อื้อ อ่ะ”
“ดีครับ อื้ม ปะ ปังของพี่”
“อะ พะ พี่ใหญ่ ฮึก ปะปังจะเสร็จแล้ว อะ ปะ ปัง”
“แปปเดียวครับ พี่จะเหมือนกัน อื้อ”
“อ๊า อ่ะ อ่ะ อื้ออออออออออ” เสียงร้องในลำคอของปังดังขึ้นพร้อมกับความสุขที่ปล่อยออกมาพร้อมๆกัน เมื่อร่างแกร่งเห็นเช่นนั้นก็หัวเราะออกมาเบาๆอย่างพอใจและเริ่มเดินเครื่องแรงขึ้นต่อต้านกับความตอดที่เพิ่มขึ้น
“เสร็จแล้วครับ อืมมม ” เสียงครางต่ำของพี่ใหญ่ทำให้เจ้าปังรีบผงกหัวขึ้นไปจูบอย่างแรง
หลังจากเสร็จกิจ พี่ใหญ่ก็โหมตัวกอดร่างนุ่มนิ่มเอาไว้ลูบไล้ไปตามลำตัวอุ่นๆ ที่เต็มไปด้วยเหงื่อของสุดที่รักก่อนจะจูบไล้ละไปทั่วบริเวณซอกคอ
“ขอบคุณครับที่รักพี่มีความสุขมากๆ”
“พะ พอนะครับพี่ใหญ่เดี๋ยวพรุ่งนี้ปังไม่ไหว” เจ้าปังจับมือหนาที่กำลังเป็นปลาไหลรอบสองอยู่ ก่อนที่พี่ใหญ่จะหัวเราะออกมาและลุกขึ้นมาหยิบทิชชู่เปียกมาทำความสะอาดให้เจ้าปังและตัวเองเพราะดึกมากแล้วเค้าไม่อยากให้ปังออกไปด้านนอก ถึงจะอยู่ในอุทยานแต่ก็เป็นป่า อยู่ด้านในเต้นท์ยังคงปลอดภัยในระดับหนึ่ง
หลังจากใส่เสื้อผ้าและเก็บเศษซากต่างๆลงถุงพลาสติกเรียบร้อยแล้ว เจ้าปังก็ที่หลับไปในทันทีที่พูดห้ามเขาก็พึมพำละเมออะไรออกมาไม่ได้ศัพษ์ ร่างหนามองคนรักอย่างเอ็นดู ก่อนจะล้มตัวลงนอนเคียงคู่ ดึงเจ้าปังเข้ามากอดแนบอกเอาไว้อย่างห่วงแหน …
“พี่จะทำให้ปังมีความสุข และมีทุกอย่าง พี่สัญญา” เสียงแหบพร่านพึมพำออกมาก่อนจะบรรจงจูบที่ขมับใสค่อยๆม่อยหลับไปตามคนรัก …
===========================
มาแล้ววววววววววววววววววววววววววววววว
หวานๆ จบลงด้วย NC ป่วงๆ ฮ่าๆๆๆ เค้าเพิ่งหัดแต่ง NC นะคะ
เอาใจคนอยากให้พี่ใหญ่สมหวังเลยนะเนี้ย
ตอนหน้าปังปังจะจบแล้วนะคะ 50 ตอนพอดีเลย แล้วจะแจ้งตอนพิเศษ + เรื่องของพี่อลัน VS ปาล์มให้อีกทีนะคะ
เจอกันตอนหน้าคะ ตอนสุดท้ายของเรื่องหลักของปังปัง
ฝากเพจนะคะ
ห้องเก็บนิยาย pa_pa
