สูญเสีย....................................
ทำไมวันไม่รับโทรศัพท์วะ !
"รัก .. กูยืมมือถือแปปดิ"
"เออหยิบตรงโต๊ะโน่น"
ผมเป็นห่วงมันจัง ที่จริงตอนนี้ก็ตีสองแล้ว แต่ยังไงผมก็ต้องบอกมัน ถ้าเจนี่ไม่หลุดพูดออกมา ป่านนี้ผมก็ยังไม่รู้เรื่อง แล้วนี่วันมันจะรู้บ้างหรือยังวะ ผมปวดหัวมาก ความจริงมันก็เป็นเรื่องปกติของคนอย่างพวกเขาที่จะหาคนร่วมเตียงไปเรื่อย ไม่มีทางจะมาคบกันจริงจัง เชิดหน้าชูตาหรอก แต่วันมันรักคุณอมรมากจริงๆ ผมกลัวมันจะเสียใจ
พอเจนี่หลุดพูดออกมา ผมก็เค้นจนมันยอมบอกทุกอย่าง มันบอกว่าช่วงที่พวกผมกลับบ้านวัน คุณอมรเหมือนจะเริ่มมีซัมติงกับเด็กใหม่ที่ชื่อน้ำ ซึ่งมันก็ไม่แน่ใจว่าไปสปาร์คกันตอนไหน แต่ผมมั่นใจว่าต้องเป็นตอนที่เขาจะไปตามวันแล้วโดนเด็กน้ำพากันออกไปแน่ๆ
"แม่งไม่รับว่ะ งั้นกูไปนอนละ เจอกันนะมึง เก็บของเสร็จรีบมานอนล่ะ" ผมบอกรัก วันนี้มันยืนหน้าบาร์ ส่วนผมช่วยเสิร์ฟ วันนี้แขกไม่เยอะเท่าไหร่ ส่วนเจนี่ก็อย่างที่รู้กันว่าถ้าวันไหนมันต้องทำงานก็มีจะชายหนุ่มหน้าตาดีผิวสีแทนมาออฟไป เออ ส่วนอายมันรับแขกน่ะ เฮ้อ ชีวิตเรามันต้องวนเวียนอยู่แบบนี้จริงหรอ
จะว่าไปคุณดริณไม่เรียกให้ผมไปนวดมาตั้งแต่หลังจากวันที่เขาทำแผลให้ แต่เขาก็ยังฝากเงินมาให้ผมอยู่เรื่อยๆ ซึ่งผมว่าตอนนี้ผมไม่จำเป็นต้องให้เขามาช่วยเหลือผมอีกแล้ว จริงสินะ ผมยังไม่ได้บอกเขาเลยนี่ ว่าหนี้ทั้งหมด ผมได้ใช้ร่างกายผมแลกกับมันมาแล้ว
........
"เจ๊ติ๋ม .. วาขอกลับบ้านนะครับ นี่กำลังรอรถอยู่ พอดีเมื่อกี้ไม่เห็น เลยออกมาก่อน "
(( เออ เอาเถอะวา ดูแลตัวเองด้วย ))
"ขอบคุณครับ "
วันนี้ผมจะไปหาแม่ จะไปคุยเรื่องที่ผมปลดหนี้แล้ว ผม .. ผมคิดว่าผมจะบอกความจริงท่าน ท่านคงไม่ว่าผมหรอก เงินเยอะแยะขนาดนั้นจะไปหาที่ไหนได้ล่ะ
ปรี๊นนน! ปรี๊นนนนน
"วา .. จะไปไหน ?"
"เอ่ออ .. กลับบ้านครับ"
ผมหันไปตามเสียงเรียกและเสียงบีบแตรรถ คุณดริณนี่นา เขาออกมาจากซอยบาร์เลิฟโฮลิคนี่ สงสัยผมไม่ได้สังเกตว่ามีรถเขาจอดอยู่ นี่มันเพิ่งจะเก้าโมงกว่า เขามาทำอะไรนะ
"ขึ้นมาสิ .. ฉันไปส่งเอง" คุณดริณพูดแล้วเร่งให้ผมขึ้นรถ นี่ผมยืนรอแท็กซี่มาสักพักแล้ว ยังไม่มีเข้ามาบ้างเลย
"บ้านเธออยู่ไหนเนี่ย"
"... ครับ ไม่ไกลมากเท่าไหร่"
"เอ้า .. ทางผ่านไปบ้านผมพอดี ถ้างั้นไม่ต้องเกรงใจหรอก ตามสบาย ดีซะอีก ผมไปส่งวา จะได้ดูแลไปอีกขั้น"
คุณดริณพูดยิ้มๆ เคาะนิ้วกับพวงมาลัยตามจังหวะเพลง ผมนั่งตัวเกร็งนิดหน่อย ไม่คิดว่าจะได้เจอกัน ไม่คิดว่าจะได้นั่งรถเขา รอยยิ้มคุณดริณสวยมาก มันทำให้ผมใจเต้น และรู้สึกหน้าแดงได้ แค่ผมนั่งข้างๆเขา มือผมก็สั่นแล้ว
แต่แล้วความผิดวูบหนึ่งก็แทรกขึ้นมา ผม .. ผมไม่ใช่วาคนเดิมอีกแล้ว ผมไม่บริสุทธิ์แล้ว ผมขายตัวเองแลกกับหนี้ ผมมันไม่คู่ควรกับเขาเลยสักนิด
"คิดอะไร .. ดูน่าปวดหัวนะ"
"อ.. เอ่อ .. ผมแค่คิดว่ารถกรุงเทพนี่ติดจังเลยนะครับ"
"ฮ่าา ผมชินแล้วล่ะ .. ถ้ารีบๆ บางทีผมก็นั่งวิน ไม่ก็จักรยานคันโปรด สะดวกดี "
ผมยิ้มขำๆ คุณดริณ เจ้าของธุรกิจหลายอย่าง ทั้งยังเป็นนายแบบเนี่ยนะ ปั่นจักรยาน
"จอดตรงนี้ล่ะครับ .. ขอบคุณมากนะครับที่มาส่ง"
"อืมม .. ไม่ต้องเกรงใจ .. ผมไปละ"
ผมรีบวิ่งเข้าบ้าน ไม่อยากให้เขาเห็นว่าผมกำลังหน้าแดง ผมเปิดเข้ารั้วเล็กๆมา ไขกุญแจบ้านเข้ามา ทำไมบ้านดูเงียบๆ หรือวันนี้แม่ไปวัด ส่วนพ่อ เขาไม่กลับบ้านสักพักแล้วจากที่คุยโทรศัพท์กับแม่
"แม่.."
"แม่ครับ .. "
ผมเดินเข้ามาเปิดประตูหลังบ้าน ลมจะได้โกรกเข้ามา บ้านจะได้เย็นๆ แม่ไปไหนนะ
ตื๊ดดดด .. ตื๊ดดด .. ตื๊ดดด .... ไม่มีสัญญาณตอบรับจากหมายเลขท ...
ผมกดวางโทรศัพท์แล้วโทรออกใหม่
ตื่อ ดือ ดื๊อ ตื่อ ดือ
เสียงริงโทนดังออกมาจากในห้องนอนพ่อกับแม่ ผมค่อยๆเดินไปเปิดประตูไม้สีน้ำตาล ในมือยังถือโทรศัพท์แนบหู นี่แม่ผมลืมเอาโทรศัพท์ไปด้วยอีกแล้วสิเนี่ย
.
ผมก้าวเข้ามาในห้อง สิ่งที่ผมรับรู้ได้เป็นสิ่งแรกคือกลิ่นคาวเลือดที่ลอยมาแตะจมูก ผมเริ่มมือสั่น โทรศัพท์ที่เคยถือไว้แนบหูตอนนี้ตกลงไปอยู่บนพื้นแตกกระจายเป็นเสี่ยงๆ ผมก้าวขาที่สั่นเทิ้มเข้าไปใกล้ๆเตียง สิ่งที่ผมเห็นคือรอยเลือดที่สาดกระเซ็นเต็มผนังสีขาว ผมตัวสั่น สายตาพร่ามัว น้ำใสๆเริ่มหยดลงมาที่แก้ม มันไม่จริง มันต้องไม่ใช่ ผมแค่ฝันไป นี่ไม่ใช่เรื่องจริง มันไม่จริง
.
ภาพที่ผมไม่มีวันลืม ภาพผู้หญิงที่ผมรักที่สุดนอนจมกองเลือดพร้อมผู้ชายอีกคน คนที่ผมมักจะต่อว่า คนที่ผมมักจะต่อต้าน คนที่สร้างหนี้สินให้ครอบครัวเรา ในมือพ่อมีปืนสั้นอยู่หนึ่งกระบอก นี่สินะ สิ่งที่เขามอบให้ผมเป็นรางวัลที่ผมใช้ร่างกายปลดหนี้ให้ นี่สินะคือรางวัลที่ผมยอมทำงานเพื่อหาเงินมาใช้หนี้
ผมทรุดตัวลงข้างๆเตียง ร่างกายผมไร้เรี่ยวแรง แต่ผมกลับกำมือแน่นจิกเล็บเข้าไปที่ฝ่ามือ .. มันจบแล้ว .. หมดสิ้นทุกอย่าง
"วาาา .. เมื่อกี้ผมลืมให้ของฝากที่ผมไปฮ่องกงมา .. วาอยู่ไหน ผมโทรหาแล้วแต่ไม่ติด .."
"นี่มัน .. อะไร .. เห้ย... วาอย่า .. วา .. วางปืนลง .. วา"
เสียงผู้ชายที่เข้ามาไม่ได้ช่วยให้ผมรู้สึกตัว ผมไม่มีความรู้สึกใดๆทั้งสิ้น รู้ตัวอีกทีผมก็ถูกคุณดริณชาร์ตตัวไว้ ปืนที่อยู่ในมือผมถูกเขาเขวี้ยงออกไปนอกห้อง
"ไม่ !!!!! ม่ายยยยยยย !!!!! .. ฮึ่ก .. ฮืออออออ"
เมื่อสติกลับมาผมผลักเขาออกไป แล้วลงไปกอดแม่ผมที่นอนเลือดอาบอยู่อย่างบ้าคลั่ง ผมเหมือนคนบ้า ผมกอดแม่แล้วเขย่าตัวแม่ ปลุกแม่ ให้ตื่นขึ้นมาหาผม ตื่นขึ้นมาฟังสิ่งที่ผมจะบอก
"แม่.. แม่จ๋าาาาา .. อึ่ก. .. แม่ .. วาปลดหนี้ให้แม่แล้วว .. บ้านหลังนี้กลับมาเป็นของแม่แล้ว .. อึ่ก .. ผมทำฝันของแม่เป็นจริงแล้ว .. ฮืออ .. แม่ตื่นขึ้นมาสิ .. ตื่นมาอยู่กับผม .. ตื่นมาฟังผมสิ .. ฮืออ .. แม่จะทิ้งผมไว้คนเดียวไม่ได้นะ .. อึ่กก .. แม่ !!!"
"วาา .. สงบก่อน .. ตั้งสตินะ .. วาาาา .. ชู่วว "
"คุณจะไปรู้อะไร .. ออกไปนะ .. อึ่ก. ออกไป .. ฮือออ"
"ไม่วา .. สงบสติอารมณ์ซะ .. ผมเรียกตำรวจให้แล้ว อีกเดี๋ยวคงถึง"
"ออกไป .. ฮือออ .. เอาปืนมา .. ผมจะตายตามพ่อกับแม่ผม .. ผมจะไม่อยู่คนเดียว .. ผมจะตามไป .. อึ่กก .. ปล่อย .. ผมบอกให้ปล่อยย .. ฮือ"
ผมดิ้นพล่านไปกับพื้น ผมขัดขืนทุบแขนเขา ผมจะไปหยิบปืน ผมจะยิงตัวตายตามพ่อกับแม่ ไม่มีพวกเขา ผมอยู่ไม่ได้ ปล่อยผมสิ ฮืออ ปล่อยให้ผมเป็นอิสระเถอะนะ ให้ผมไปที่ไกลๆนั้นเถอะ ผมจะไปอยู่กับพวกเขา !!!
........
ดริณพาร์ท "ขอบคุณนะครับคุณตำรวจ .. ส่วนศพพรุ่งนี้ผมจะพาลูกชายเขาเข้าไปรับ .. ครับ .. สวัสดีครับ "
ผมพูดบอกผู้กองที่มาทำคดี เขาสรุปแล้วว่าพ่อของวายิงแม่ก่อนจะยิงตัวเองตายตาม เสียชีวิตมาแล้วไม่น่าต่ำกว่า 10 ชั่วโมง ซึ่งเขาต้องขอนำศพไปตรวจสอบที่สมิติเวชก่อน
ผมที่เข้าบ้านมาโดยไม่ได้ขออนุญาตเพราะจะเอาของฝากมาให้วาและจะฝากไปให้วันด้วย กลับต้องตกใจเอามากๆที่เห็นภาพสลดในห้องนอน ภาพที่วาพยายามจะเอาปืนจ่อหัวตัวเอง มันเป็นภาพที่หดหู่มาก ผมรีบเข้าไปจับตัววา ดึงปืนออกแล้วกอดปลอบ ไม่ให้วาทำร้ายตัวเองแบบนี้ ผมรู้สึกสงสาร และ เจ็บปวดแทนวามาก ถ้าผมเป็นวา ผมก็คงจะพยายามฆ่าตัวตายตามพ่อกับแม่ไปเหมือนกัน
ผมขับรถพาวาที่เป็นลมสลบไปตั้งแต่กรีดร้องจบมาที่คอนโดผม ผมต้องทำแบบนี้เพราะวาคงไม่เหมาะจะอยู่ในบ้านหลังนั้นมันจะทำให้เขาหดหู่จนคิดจะฆ่าตัวตายอีก จะให้กลับไปที่บาร์ก็คงไม่ดี ผมเลยต้องพาเขามาที่นี่
ผมใช้ผ้าชุบน้ำเช็ดหน้าเช็ดตาวา น้ำตาของเขายังไหลออกมาจากหางตาอยู่เลย มันน่าสลดนะที่ชีวิตต้องมาเจออะไรแบบนี้ พ่อกับแม่มาเสียพร้อมกัน แล้ววาจะทนรับสภาพไปได้อีกเท่าไหร่ล่ะ
"ฮึ่กก .. แม่จ๋าา .. พ่อจ๋าาา "
ผมรีบวิ่งออกมาจากห้อง โถ่ .. วาแค่ละเมอหรอกหรอ เฮ้ออ
"อย่าไป .. วาไม่ให้ไปนะ .. ฮึ่กก .. อยู่ด้วยกันนะ .."
วาดึงแขนผมไว้ ผมเลยต้องลงไปนั่งบนโซฟา แล้วดึงตัววา ผู้ชายตัวเล็กๆที่ผมอุปการะเสมือนน้องชายมาได้สักพักขึ้นมา .. ผมดึงเขาเข้ามากอดปลอบ ผมรู้สึกสงสารวาจับใจ จากบ้านจะถูกยึด จากเป็นหนี้ มันก็หนักหนาพอแล้วสำหรับผู้ชายตัวคนเดียวแบบวา
ผมมองคนในอ้อมกอด วายังหลับตาอยู่ แต่กลับมีน้ำตาไหลออกมาตลอดเวลา วาสะอื้นไป พร่ำเพ้อถึงคนที่ไม่อยู่ในโลกนี้อีกแล้วไป ผมกระชับอ้อมกอดแน่น กดจูบลงไปบนกระหม่อมบาง ผมตัดสินใจได้แล้ว
ต่อจากนี้ผมจะเป็นคนดูแลวาเอง **************************************************
TBC.
ดราม่าเล็กๆพอค่ะ แต่สารภาพเลยว่าคนเขียนร้องไห้อยู่หลายรอบเลยล่ะ