สวัสดีพี่ๆน้องๆในเล้ากันเน้อ สมาชิกใหม่จร้า ติดตามมานานแต่ไม่เคยเปิดเผย 555+
ไหนๆเราก็นักเขียนเลยอยากจะเอาเรื่องที่เราแต่งไว้ที่บอร์ดเด็กส้มมาลงที่นี่บ้าง เรื่องนี้เขียนจบแล้วเลยอยากเเบ่งปัน
ชอบไม่ชอบยังไงก็บอกกันได้นะค่ะ
คำเตือน
อ่านอย่างระวัง เพราะหากไม่ระวังคุณจะตกหลุมรักพวกเขานะค่ะ
บทนำ
“เบค่อน ไปซื้อน้ำมาหน่อยสิ มันหมดแล้ว” เสียงเข้มลอยตามลมมากระทบประสาทการรับฟังของผม มันใช่เรื่องของผมรึเปล่าเนี่ย คนกำลังอ่านการ์ตูนสนุกๆอยู่ ขัดจังหวะชิบ
“แล้วใครใช้ให้แกกินหมดว่ะตี๋” ผมด่ามันแต่ก็ยังนั่งอ่านการ์ตูนอยู่ที่เดิม
“เอาน่า ก็อากาศมันร้อน แกก็อย่าบ่นมากนักสิว่ะ เอาเงินไป”
“ดีนะ ที่แกคิดจะซื้อ ไม่งั้นฉันกระโดถีบยอดหน้าแน่นอน”
“ทำเป็นโหดไปเถอะ เตี้ยแค่นี้ยังมาซ่าอีก”
“แล้วตกลงจะกินไหม อย่ากวนอารมณ์ ระวังอดนะเว้ย” คนกำลังอ่านการ์ตูนเพลินๆมาใช้งานเรื่องไม่เป็นเรื่อง นี่ถ้าไม่เห็นแกที่มันกำลังปั่นงานส่งอาจารย์นะ ผมไม่ยอมมันหรอก
“กินดิ รีบไปรีบกลับล่ะ อย่าไปหว่านเสน่ห์ใส่ใครอีกล่ะ กูล่ะเบื่อชิบ”
“ปากเมิงนี้เนอะ มันน่าซื้อไรให้กินดีไหมเนี่ย เออกูไปแล้ว เฝ้าห้องดีๆล่ะใครมาก็ดูก่อนค่อยกัด กูไปล่ะ”
“รีบไปเลยมึง ก่อนจะได้แดกตีนกู”ผมไม่ค่อยจะสนใจเรื่องคำพูดสักเท่าไหร่หรอกครับ พูดแบบนี้มันดูเป็นกันเองดีจะตาย นั่นไงผมลืมแนะนำตัวเลย กระผมนาย กันตนันธ์ ศิริไพศาลมงคล เป็นนักศึกษาปี3คณะสถาปัตย์ในมหาวิทยาลัยชื่อดังแห่งหนึ่งที่ค่าเทอมถือว่าแพงมากผมมีชื่อเรียกสั้นๆว่าเบค่อน แล้วไอ้คนที่ใช้ผมมันชื่อตี๋เป็นลูกเจ้าของห้างทองชื่อดังในประเทศนี่แหละ ตัวมันสูง,ขาว,หุ่นดีแบบนักกีฬา ก็มันเป็นนักบาสของมหาลัยด้วยล่ะครับ มันหล่ออะนะสาวงี้ตรึมต่างจากผมผู้หญิงแทบไม่เคยเข้ามาคุยเลยครับ เหตุผลหรอคุณเธอพากันบอกว่าผมน่ารักกว่าไงครับผมเป็นผู้ชายที่โชคร้ายมากๆเกิดมาทั้งทีแทนที่จะสมหวังกับผู้หญิงดันมีแต่ผู้ชายเข้ามาจีบถ้าไม่มีไอ้ตี๋นะผมเสร็จไปนานล่ะ ตัวของผมสูงประมาณ163-164ตี๋มันบอกว่าผมตัวเล็กแถวยังเอวบางอีก มันบอกว่าผมหุ่นดีกว่าผู้หญิงหลายคนด้วยซ้ำ คุยเพลินผมขับถึงไหนแล้วเนี่ย อ๋อผมลืมบอกไปถึงผมจะรวยมากแต่ผมรักโลกนะครับมันก็ไม่ไกลเท่าไหร่ผมก็เลยปั่นจักรยานมาแทนผมไม่ได้งกนะ ผมแค่ช่วยโลก เฮ้ยรัยว่ะ!! เอี๊ยด!! โครม!!!!!
“โอ้ย ไอ้หมาบ้าแกข้ามถนนมองรถบ้างดิ”
“ไอ้น้องเป็นยังไงบ้าง เจ็บตรงไหนรึเปล่า” แมร่งจะรีบลงมาเพื่อ ผมกะว่าจะหนีสักหน่อย ก็เพราะหลบหมาเมื่อกี๊เลยหักหลบไปชนรถสปอร์ตสุดหรูของใครบางคนโดยไม่ได้ตั้งใจ ซวยแล้วไง
“ไม่เป็นไรครับ ผมโอเค”พอพูดเสร็จผมก็เงยหน้าขึ้นไปมองชายตรงหน้าที่คาดว่าน่าจะเป็นเจ้าของรถคันนั้น เฮ้ยผู้ชายรัยว่ะออร่าวิ๊งเชียว ขาวโอโม่มาก แต่น้อยกว่าผมนะผมขาวกว่า แต่น่าจะสูงแต่สายตาพี่แกมองมามันน่าขนลุกยังไงก็ไม่รู้
“น่ารักชิบ”เสียงพูดเบาๆลอยเข้ามาในหูของผม ผมได้ยินไม่ค่อยถนัดเลยต้องถามอีกครั้ง
“อะไรนะครับ คุณพูดว่าอะไรนะ”
“เอ่อ...คือ...อ๋อ พี่บอกว่าน้องน่าจะขาหักหนะ”
“ออ ครับ”
“น้องลองยืนก่อนไหม แล้วยังไงถ้าไม่ไหวพี่จะพาไปโรงพยาบาล”
“ผมไม่เป็นไรมากหรอกครับ แค่นี้ โอ้ย...”ตอนที่ผมพยายามลุกขึ้นอยู่ดีๆขามันก็เจ็บแปลบขึ้นมา ข้าเท้าแพลงแน่เลย แล้วจะเอาไงต่อว่ะเนี่ย
“พี่ว่าน้องไปหาหมอเถอะ มาพี่ช่วย”
“เอ่อ...ไม่เป็นไรครับผมไปเองได้”พี่มันทำท่าจะเข้ามาอุ้มผมผมเลยถ้อยหลังแบบลืมตัวทำให้อาการเจ็บของข้อเท้าแล่นมาอีกครั้งจนต้องทิ้งตัวล้มลงอีกแต่โชคดีที่พี่มันมารับไว้ แต่น่าจะเป็นโชคร้ายเพราะพี่มันกำลังอุ้มผม ห๊ะ มันกำลังอุ้มผม
“อยู่นิ่งๆสิน้อง จะดิ้นทำไม พี่ไม่เอาน้องไปขายหลอก”
“แต่-“ผมพยายามที่จะแย้งแต่พี่มันดันสวนขึ้นมาก่อน
“ถ้าเถียงพี่จูบโชว์คนตรงนี้แหละ”
“เฮือก!!!!”ผมรีบเอามือปิดปากตัวเองอย่างรวดเร็ว
“ฮ่าๆๆ พี่พูดเล่นน้องนี่น่ารักเนอะ”แล้วพี่มันก็พาผมเข้าไปในรถคนนั้นแหละแต่ในรถคันนั้นเต็มไปด้วยชายชุดดำประมาณ2-3คน ตกลงพี่มันเป็นใครแล้วมันจะเอาไงกับค่ารถอีก
ผ่านไป10นาที หลังจากที่ผมออกจากห้องตรวจหมอบอกว่าผมแค่ข้อเท้าแพลงแต่เดี๋ยวก็หายแล้วก็คืนนี้อาจจะปวดมากก็ได้เลยให้ยาแก้ปวดกับผม ในขณะที่ผมจะลุกไปจ่ายค่ายาผู้ชายคนนั้นก็ยกมือห้ามและหันไปสั่งอะไรบางอย่างกับคนชุดดำสักพักก็หันมาหาผม
“เรื่องค่ายาฉันจะจัดการให้เองไม่ต้องห่วง”
“ไม่ได้ครับ ผมเป็นคนไปชนรถคุณผมจ่ายเองได้ครับ แล้วก็คิดค่าเสียหายมาเลยครับผมจะได้บอกที่บ้านให้เอาเงินมาให้”
“ฉันคิดแน่ค่าเสียหาย แต่ฉันไม่ต้องการเงิน ฉันต้องการนาย”
“เอ่อ...คือคุณหมายถึงอะไรครับ”จะบ้าหรออยู่ดีๆมาบอกว่าต้องการตัวผม ใครจะไปให้บ้าแล้ว
“ก็ตามที่บอก นายแค่มาอยู่กับฉันก็พอ เรื่องอื่นฉันจัดการเอง”
“คุณจะบ้าหรอ ผมมีที่อยู่ของผม ไม่จำเป็นหรอกครับที่จะต้องมาอยู่กับคุณแล้วก็ค่าเสียหายถ้าคุณไม่รับผมถือว่าผมบอกคุณแล้ว ลาก่อน”พูดจบผมก็ฝืนลุกเพื่อหนีออกมาจากสภาวะที่น่าอึดอัด
“ได้ ฉันให้โอกาสนายไปคิดแล้วขอให้นายจำไว้ว่าฉันถ้าอยากได้อะไรก็ต้องได้ไม่เว้นแม้กระทั่งตัวของนาย วันนี้ฉันจะปล่อยนายไป แต่ถ้านับตั้งแต่พรุ่งนี้ฉันเจอนายเมื่อไหร่ นายเตรียมตัวมาอยู่กับฉันได้เลย”ผมพยายามไม่หันกลับไปมองและไม่สนใจว่าคนคนนั้นพูดอะไรตอนนี้ผมต้องหลบออกมาก่อน เออลืมไปเลยต้องซื้อน้ำนี่หว่า หลังจากนั้นผมก็แวะเข้ามินิมาร์ทแถวนั้นเพื่อซื้อน้ำและของใช้แล้วรีบนั่งแท็กซี่กลับห้องให้เร็วที่สุด โดยที่ผมไม่ทันได้หันมามองว่ามีใครบางคนตามผมมาตั้งแต่โรงพยาบาลจนถึงที่พัก และถ้าผมเช็คดีกว่านี้ผมก็จะรู้ว่าบัตรนักศึกษาของผมได้มาอยู่ในมือของคนคนนั้นแล้ว
อีกฝั่งหนึ่งชายคนดังกล่าวกำลังนั่งมองบัตรนักศึกษาของเด็กน้อยที่เค้าเกิดอาการถูกใจและอยากได้มาครอบครองด้วยความยินดีมาก
“กันตนันธ์ ศิริไพศาลมงคล ถาปัตย์ปี3 อีกไม่นานเราจะได้มาอยู่ด้วยกันเด็กน้อย”
“แล้วนายจะเอาไงต่อครับ”
“วันนี้พอแค่นี้ก่อนพรุ่งนี้ฉันคิดว่าคงมีอะไรให้ทำอีกเยอะ พรุ่งนี้ฉันจะเข้าเรียนนะไม่เข้าบริษัท”
“ครับนาย”แล้วรถหรูคันนั้นก็ขับออกไปเพื่อมุ่งสู่คฤหาสน์หมื่นล้านซึ่งเป็น บ้านของ|นาย เอกพิทักษ์ รัตนมงคลยิ่ง|นักศึกษาหนุ่มที่ควบตำแหน่งประธานบริษัทสาธารนูปโภครายใหญ่ของประเทศในเครือ RTMK และเป็นบุคคลที่มีอำนาจล้นมือใครก็หวั่นเกรงยามได้สบตาคงมีเพียงเด็กน้อยผู้โชคร้ายเท่านั้นที่ไม่รู้สึกอะไรกับสายตาคู่นี้