วันที่ 7 ข้อความ >>>>> ปุ่น
[ดาด้า.....ไปเจอเราที่ร้าน xxx ตอน 2 ทุ่ม บอกว่าเป็นเด็กพี่ปุ่นนะจ๊ะ]
ต้นกล้าตื่นเต้นจนเกือบจะเสียแผน
เด็กหนุ่มยืนลับ ๆล่อ ๆ หน้าร้านเหล้าในตัวเมืองอยู่นานเลยทีเดียว กว่าจะตัดสินใจก้าวขาออกไป แน่นอนว่าเขาต้องถูกการ์ดขอตรวจบัตร ซึ่งเขาก็ไม่มีเวลาทำบัตรปลอมเสียด้วยสิ แต่พอชูหน้าจอโทรศัพท์ที่มีข้อความของไอ้ปุ่นให้การ์ดร่างยักษ์ดู พวกนั้นก็ยอมปล่อยให้เขาเข้าไปอย่างง่ายดาย เอาเป็นว่าต้องขอชมคุณน้ากะเทยคนนั้น ที่เนรมิตเด็กผู้ชายหน้าจืดอย่างเขา ให้ออกมาสวยราวกับไอคอนสาวญี่ปุ่น
ร้านนี้ถ้าจำไม่ผิด ญาติของไอ้เสือเป็นหุ้นส่วนอยู่ แล้วพี่ชายของไอ้ปุ่นก็ทำงานอยู่ในนี้
‘น่ารักดีว่ะ.....’ต้นกล้าได้ยินเสียงพวกการ์ดพูดถึงเขาลับหลัง ขนลุกชะมัด ถึงจะเป็นคำชมก็เถอะ
เด็กหนุ่มกระชับกระเป๋าถือในมือแน่น
และรอคอยเวลา
‘รีบ ๆมาเสียทีสิวะ เหนียวตัวจะแน่อยู่แล้ว’ชั่วอึดใจเดียว ไอ้ปุ่นก็โผล่มานั่งอยู่ข้าง ๆเขาเสียแล้ว ตั้งแต่ตอนไหน เมื่อไหร่ก็ไม่รู้ เสียงเพลงข้างในนั้นดังเหลือเกิน แล้วแสงสว่างนั้นก็น้อยเต็มที จนยากจะมองออกว่าใครเป็นใคร
“มองหาเราอยู่เหรอตัวเธอ”
“ปุ่น....”
“ดื่มอะไรหน่อยไหม”
“โค้ก”
“ตื่นเต้นเหรอ.....ทำไมต้องทำเสียงห้าวด้วยล่ะ.....”
“อื่อ.....นิดหน่อย”
ไม่เคยคิดว่าจะต้องมาทำอะไรน่าอายแบบนี้ ความรู้สึกนั้นติดลบยิ่งกว่าเป็นไอ้ขี้แพ้เสียอีก ไอ้ปุ่นเองก็ดูเหมือนว่าจะเมามาพอสมควร ไม่จากเหล้าก็ยา มันถึงได้ถือวิสาสะถึงเนื้อถึงตัวเขาแบบนี้ ไอ้ครั้นจะขัดขืนหรือก็กลัวว่าเหยื่อจะหลุดมือไป จำต้องปล่อยให้มันเข้าใจไปเองว่ากำลังเดทอยู่กับเด็กสาวใจง่าย
“ตัวจริงน่ารักกว่าในรูปอีกนะ”
“ขอบใจนะ”
“ถ้าเสียงหวานกว่านี้จะแจ่มมากเลย....เหมือนกะเทยอ่ะ....กะเทยป่ะเนี่ย”
“บะ.....บ้าเหรอ.....ไม่ใช่.....เราเป็นผู้หญิง”
“เราก็แซวเล่น”
“ปุ่น......เที่ยวคนเดียวเหรอจ๊ะ”
“ปกติก็ไม่อ่ะ....ไปกันเป็นกลุ่ม แต่วันนี้ไม่พามา เดี๋ยวหญิงตื่น....ฮ่าฮ่าฮ่า พวกมันมีแต่หน้าเหี้ย ๆอ่ะ เดี๋ยวด้าตกใจนะ”
“เหรอ.....”
จากโอบ ไอ้ปุ่นก็เริ่มกอดเขาแน่นขึ้น มันกดจมูกฝังลงไปบนแก้มของเขาแล้วบอกว่าหอมดี มือของมันเองก็อยู่ไม่สุข ลูบไล้ท่อนขาของเขาบ้าง พยายามจะล้วงเข้าไปข้างในเสื้อบ้าง ต้นกล้าหายใจติดขัด เขานึกถึงไอ้ชดกับสัมผัสที่น่าขยะแขยงของมัน
อีกประเดี๋ยวจุดจบของมันก็คงไม่ต่างไปจากไอ้ชดและไอ้แม็ค
“ไปต่อกันเถอะ”
“เห?”
“ไม่ทำอะไรน่ะ.....แค่ไปคุยกันเฉย ๆ อยากรู้จักมากกว่านี้”
“ที่ไหน?”
“ก็ที่ที่มันเป็นส่วนตัวแล้วก็เงียบกว่านี้ไงครับผม”
“จ้ะ”
“ดีมากกกก.....มานต้องงงงยางง้านนนน”
ไอ้ปุ่นขับรถ(ที่น่าจะเป็นของพี่....หรือไม่ก็ของพ่อมัน)พาเขาไปยังโรงแรมม่านรูด ต้นกล้าเหลือบมองดูตัวเองในกระจกมองหลัง สภาพของเขาตอนนี้ดูไม่ค่อยโอเคเหมือนตอนมา ถูกมันหอมและจูบจนเครื่องสำอางหลุดลอกออกไปบางส่วน ซอกคอของเขาเองก็แดงเป็นจ้ำเนื่องจากแพ้อะไรสักอย่าง บางทีอาจเป็นชุดที่เขาใส่มา หรือไม่ก็วิกผม แต่ยังดีที่ไอ้ปุ่นนั้นเมาจนแยกแยะอะไรไม่ถูก ขนาดขับรถยังเป๋ไปเป๋มาเลย
“จะเข้าไปจริง ๆเหรอ ในว่าแค่คุยไง”
“ที่นี่......ห้องราคาไม่แพง....ของคนรู้จัก”
"แล้วไง"
"ก็นี่ไง....ที่ที่เงียบแล้วก็เป็นส่วนตัว แหม่ตัวเธออย่าคิดลามกดิ เข้าม่านรูดก็ใช่ว่าจะต้องมีอะไรกันนี่จริงไหม ระแวงแบบนี้แสดงว่าด้าก็คิดเหมือนกันแหละ"
"หึ....เข้าใจแล้ว"
"งั้นไปกันเถอะ เดี๋ยวสั่งอะไรเย็น ๆดื่มกัน เปิดเพลงเพราะๆ"
“แต่เรามีที่ที่เจ๋งกว่านั้นนะ”
“ที่ไหน”
“ขับตามที่เราบอกสิ.......”
“จะหลอกให้พากลับบ้านน่ะสิ.....ไม่หลงกลหรอกน่า”
“เปล่านะปุ่น.....เราเอาไอ้นี่มาด้วย”
ไอ้ปุ่นแทบสร่างเมาเมื่อเห็นสิ่งที่อยู่ในกระเป๋าถือทรงหวานแหวว ในนั้นมีซองพลาสติกซึ่งบรรจุผงขาวอยู่ พร้อมอุปกรณ์การเสพครบ ไอ้ปุ่นเงยหน้าขึ้นมองคู่เดทของมัน น้องดาด้ากำลังยิ้มหวานให้มัน เป็นยิ้มที่ดูน่ากลัวนิด ๆแต่ก็มีเสน่ห์ชวนให้หลงใหลอย่างน่าประหลาด
“ไปเอามาจากไหนวะ”
“ก็หามาได้ละกัน”
“เจ๋งเหมือนกันนี่หว่า”
“สนมั้ยล่ะ”
“ไหน.....แล้วไอ้ที่ที่ว่าเจ๋ง ๆน่ะมันอยู่ที่ไหน”
“รู้จักตึกร้างที่อยู่ติดกับสรรพากรไหม ตรงปากทางเข้าเมืองน่ะ เรากับเพื่อนไปที่นั่นกันทุกอาทิตย์แหละ”
“น่ากลัวออก”
“ตื่นเต้นจะตาย นายกลัวรึไง....ถ้ากลัว....งั้นเราเข้าโรงแรมก็ได้นะ......ก็แค่ผิดหวังนิดหน่อย นึกว่านายจะ.....”
“โอเค.....ตามนั้น จัดไปที่รัก”
ไอ้ปุ่นทำทีท่ากล้าหาญไปอย่างนั้น เอาเข้าจริง ๆแล้วมันกลับเป็นฝ่ายเดินตามหลังเขาต้อย ๆเมื่อไปถึงที่หมาย ต้นกล้าพามันเข้าไปในตึกร้างที่เงียบสงัดและปราศจากผู้คน แถวนั้นไม่มีบ้านคน แต่เป็นที่ดินรกร้าง และมีสถานที่ราชการที่ตั้งอยู่อย่างกระจายตัว บรรยากาศในตึกนั้นลึกลับราวกับสถานที่รวบรวมพลังวิญญาณอันชั่วร้าย เหมือนในรายการเรียลลิตี้ท้าผี ไม่ก็หนังสยองขวัญทุนต่ำ
ที่ที่เขาเตรียมไว้สำหรับมันนั้น อยู่ชั้นบนสุด ไอ้ปุ่นทั้งกลัวและทั้งตื่นเต้น ด้วยความที่เป็นคนเซ็กส์จัด ความกลัวจึงค่อย ๆแปรเปลี่ยนเป็นความปรารถนาอันแปลกประหลาด เลือดในกายนั้นสูบฉีดพล่าน และของสงวนของมันก็กำลังตื่นตัวจนปวดหนึบ
“ตรงนี้แหละ”
“มีไฟฉายยักษ์ด้วย”
“ก็บอกแล้วไงว่ามาบ่อย.....ขี้เกียจขนกลับไปน่ะ”
“งั้นเรามาทำกันเลยมั้ย”
“ไหนว่าคุยกันเฉย ๆไงปุ่น”
“หึหึหึ”
“สักปึดไหม”
ต้นกล้าส่งซองผงขาวให้มัน ไอ้ปุ่นรับมาด้วยมืออันสั่นเทา ค่อย ๆบรรจงฉีกห่อออกและเทผงนั้นลงกับกระดาษที่ใช้รอง
“เห?......นี่มัน”
“อะไรจ๊ะ”
“นี่มันแป้งนี่เฮ้ย”
“ก็ใช่น่ะสิ”
“โอ้ยยยยยยย”
ผลั้วะ!!!ต้นกล้าฟาดมันเต็มแรงถึงสี่ครั้ง ด้วยท่อนเหล็กที่ตกอยู่แถวๆนั้น ไอ้ปุ่นร้องโอยโอดด้วยความเจ็บปวด เสือผู้หญิงเจ้าคารมอย่างมันคงไม่คิดเหมือนกันว่าจะมีวันนี้ วันที่เสือร้ายนั้นถูกเด็กสาวซัดจนหมอบ
“มึง......โอ้ยยยยยยย”
“เจ็บดีไหมไอ้เหี้ย......ซึมซาบเข้าไปซะ จะได้รู้ว่าเหยื่อของมึงคนก่อนๆหน้านี้เขาเหมือนตกนรกทั้งเป็นยังไง”
“มึงเป็นใคร.....ใครส่งมึงมาวะ”
“พระเจ้าไงล่ะไอ้ปุ่น พระเจ้าส่งกูมาเพื่อจัดการกับคนชั่วอย่างมึง”
"อีเหี้ยด้า....พอแล้ว...มันเจ็บโว้ยยยย"
ไอ้ปุ่นเองก็ใช่ว่าจะยอมถูกตีอยู่ฝ่ายเดียว มันสู้กลับโดยการกระโจนเข้าใส่อีกฝ่ายด้วยแรงทั้งหมดที่มี ต้นกล้าเสียหลักล้ม เขาถูกมันชกที่ใบหน้า รู้สึกถึงรสชาติประแล่มของเลือดที่เขาคุ้นเคยเป็นอย่างดี เด็กหนุ่มประมาทไปนิด เหยื่อในคราวนี้ตัวโตกว่าเขามากนัก ไม่ได้ตัวเล็กผอมเกร็งอย่างไอ้แม็ค ไอ้ปุ่นรวบลำคอของเขาด้วยมือที่แกร่งราวคีมเหล็กของมัน ทว่ามันไม่ได้ออกแรงบีบเคล้นในทีเดียว มันค่อย ๆเพิ่มน้ำหนักลงมาทีละนิด.....ราวกับจงใจทรมาน
“มึงเป็นใคร”
“กู....อึก....บอกแล้วไง.....กูเป็พระเจ้า....ฮ่า....ฮ่า”
“เดี๋ยวนะ......นี่มึงเป็นผู้ชายนี่หว่า......แถมเสียงมึงคุ้นชิบหาย......อ่ะ.....ไอ้เชี่ยกล้า....มึงงงง”
“เออ.....กูเอง......โจ๊กกกกกกกก”
ไอ้ปุ่นมัวแต่สนใจเขา มันคิดที่จะฆ่าเขาให้ตาย จนลืมไปว่าในตึกร้างนี้ยังมีอีกสิ่งหนึ่งซึ่งอดทนรออย่างหิวกระหาย
ตึกๆๆๆๆๆง่ำ“อ๊ากกกกกก”
“กรรรรรรร์”
ไอ้โจ๊กออกมาตามเสียงเรียก เหมือนที่ได้ซักซ้อมเอาไว้เป็นอย่างดี ยิ่งได้เห็นผู้เป็นนายถูกอาหารของมันทำร้ายแบบนี้ จิตใจของมันก็ยิ่งเจ็บแค้น เพิ่มพลังโจมตีขึ้นเป็นทวีคูณ งับแรกเข้าที่บ่าหนา ๆ กระชากเอาชิ้นเนื้อก้อนใหญ่เต็มคำ เลือดนั้นพุ่งกระฉูดราวกับน้ำพุ ทิ้งไว้แต่เพียงเสียงครางอย่างเจ็บปวดที่ไม่ดังมากนัก มันกัดกินไอ้ปุ่นอย่างบ้าคลั่งด้วยฟันที่ทั้งแหลมและแข็งแรงของมัน ฉีกเนื้อของเหยื่อออกเป็นชิ้น พยายามมุดตัวเข้าไปในร่างเพื่อกัดกินเครื่องใน หากไม่เพราะถูกจู่โจมทางด้านหลังแบบนี้ ไอ้ปุ่นเองก็คงจะสามารถสู้กับไอ้โจ๊กไอ้อย่างง่ายดาย ด้วยขนาดตัวที่ต่างกันราวยักษ์ใหญ่กับเด็กประถม
เพราะแบบนี้ต้นกล้าถึงได้พยายามยั่วโทสะของมันเพื่อเบี่ยงเบนความสนใจ
ต้นกล้าเลือกที่จะไม่วางยา หรือตีมันที่จุดสำคัญ เขาไม่อยากทำให้มันสลบ เขาอยากให้มันรู้สึก ให้ร่างกายของไอ้สัตว์เดรัจฉานในคราบเด็กมัธยมปลายได้รับรู้ถึงความเจ็บปวดทรมานก่อนจะสิ้นใจ
แบบที่มันทำกับเขา
และกับคนอื่น ๆ
“กิ๊”
“ทำดีมากโจ๊ก.......อย่ารีบกินหมดล่ะ.....เก็บไว้กินวันหลังบ้าง....เพราะรายต่อไปมันคงยากขึ้นแล้ว”
“กล้า......สวยยยยย”
“ฮ่าฮ่าฮ่า.....เหรอวะ.....ไปจำมาจากไหนวะไอ้กร๊วก”
“กล้า....นอน....นี่....นะ”
“เฮ้ย....ไม่ได้ ๆ บอกแล้วไง ว่าต้องแยกกันก่อน อย่างอแงน่า กูไม่ทิ้งก็คือไม่ทิ้ง สัญญาว่าจะมาหาอีก จะมาให้มึงเห็นหน้าทุกวัน”
“กอดโจ๊ก....กอดโจ๊ก”
ไอ้โจ๊กนั้นเริ่มงอแงเมื่อเขาจะกลับ ไอ้สัตว์ประหลาดเริ่มโวยวายเป็นภาษาคน และจ้องเขาอย่างน่าสงสารเต็มที ต้นกล้าจำต้องคว้าตัวมันมากอดไว้แนบอก เสียงไอ้โจ๊กสะอื้นเฮือกอย่างน่าสยอง แต่พอลูบหัวไปสักพัก มันก็สงบลง และยอมปล่อยเขาไปแต่โดยดี
"อย่า...ทิ้งงงง....โจ๊กกกก....นะ....."
ตอนนี้เหมือนกับว่าเขามีลูกเล็ก ๆที่ต้องเลี้ยงดู
ลูกที่กินเก่งเป็นบ้า
...........................................................
“เข้ามาล้างหน้าก่อนสิ”
“ครับ”
เด็กหนุ่มแวะหากะเทยแก่คราวแม่ก่อนกลับบ้าน....โดยสัญชาติญาณ เจ้าหล่อนเปิดประตูรับเขาด้วยท่าทางไม่ยินดียินร้าย แม้ว่าร่างของเขาจะชุ่มโชกไปด้วยเลือดของไอ้ปุ่นก็ตาม เขาจนปัญญาที่จะคิดหาคำแก้ตัวที่เข้าท่าเข้าทางกว่านี้ รู้แค่เพียงว่าให้คนเพี้ยนๆอย่างหล่อนเห็น ยังจะดีกว่าให้แม่ของเขาเห็น และสงสัยเขาหนักเข้าไปอีก
“คือ....ผม....โดนแกล้งสาดสีมาน่ะครับ เปื้อนหมดเลย แหะๆ”
“พวกนั้นคงเอาเลือดหมูสาดใส่เธอ...กลิ่นคาวเป็นบ้า”
“เอ่อ.....คงงั้นมั้งครับ...ค่าชุดนี่ผมจะชดใช้....” ต้นกล้าพูดติดขัด เขารู้ว่าหล่อนรู้ เพียงแต่แกล้งทำเป็นไม่สนใจเท่านั้น หล่อนยกมือขึ้นปฏิเสธ ก่อนจะชี้ไปยังห้องน้ำ
“ช่างเถอะ.....ไปเปลี่ยนชุดซะ แล้วก็เอาชุดนี้ถอดใส่ถุงดำเอาไว้”
“ครับ”
“อาบน้ำให้สะอาด....แม่เธอจะได้ไม่สงสัย”
“ครับคุณน้า”
บางครั้งต้นกล้าก็สงสัย ว่าทำไมหล่อนถึงได้เย็นชานัก ใจหนึ่งเด็กหนุ่มก็อยากจะไว้ใจ แต่เพราะชีวิตของเขานั้นไม่เคยมีใครที่ไว้ใจได้เลยสักคนเดียว เว้นเสียแต่ไอ้โจ๊ก....ซึ่งมันก็ไม่ใช่มนุษย์ เขาจึงลังเลที่จะรู้สึกไว้เนื้อเชื่อใจหล่อน จะมีก็แต่ความหวาดระแวง แต่ก็ยังคงต้องพึ่งพา หากไม่ได้หล่อนแล้ว เขาก็คงไม่อาจจัดการไอ้ปุ่นได้ในร่างของไอ้ขี้แพ้ต้นกล้า ก็หวังว่าหล่อนจะไม่เอาไปโพนทะนา หรือคาบเรื่องไปบอกใคร เห็นเงียบ ๆเก็บตัวแบบนี้ก็ใช่จะไว้ใจได้ เขาน่ะอยากให้หล่อนคิดว่าตัวเขาเป็นพวกกะเทยฝึกหัดที่แอบแม่มาแต่งหญิงมากกว่า แต่ดูท่าแล้วหล่อนคงไม่โง่เชื่อ.....
“ขอบคุณครับ”
“อืม.....กลับไปนอนได้แล้ว”
“เอ่อ....แล้วเสื้อ”
“ชั้นจัดการเอง ไปให้พ้น ๆเสียทีเถอะไป๊....ชั้นง่วงแล้ว”
เก็บหล่อนเอาไว้....เพราะหล่อนไม่ปากมากและยังมีประโยชน์ ตราบใดที่หล่อนไม่ทำให้ชีวิตเขาแย่ หล่อนก็จะยังมีมือเอาไว้แต่งหน้า และมีชีวิตอยู่เพื่อส่องดูความงามอันผิดเพี้ยนของหล่อนเองตราบนานเท่านาน
สิ่งสำคัญกว่าการกังวลเรื่องของหล่อน คือการหาอาหารให้ไอ้โจ๊กต่างหากเล่า
"คนต่อไป.....อืม......ใครกันนะ.....ใครดี......ใครก่อนดี"
เด็กหนุ่มแทบจะฮัมออกมาเป็นเพลงเลยทีเดียว
.
.
.
.
.
.
.
to be con
3 ศพแล้ว เย่เย้
เรื่องนี้ภาษาอาจจะดิบ ๆห้วน ๆไปบ้างนะคะ ซึ่งหากนำไปเสนอ สนพ. ทำรวมเล่มคงต้องแต่งแต้มต่อเติมอีกเยอะเลยทีเดียว(ถ้าเขาสนใจนะคะ) เอาเป็นว่าให้ "กลับมาจากนรก" ออกมาเป็นรูปเป็นร่างก่อนดีกว่าเนอะ

ใจร้อน อยากเห็นเหมือนกัน 5555+