ตอนที่ 21 บางครั้งเรื่องบางเรื่องก็วุ่นวายเกินทำความเข้าใจ 03/08/2557
แสงแดดสีส้มจางสาดส่องผ่านช่องแตกของน้ำเข้ามาภายในถ้ำที่เคยมืดมิด มอบแสงสว่างและความอบอุ่นให้แก่สองร่างที่กอดกายกันอยู่บนฟูกนิ่ม ดวงตาสีเทาคู่สวยเปิดลืมขึ้นรับแสงแดดก่อนจะขยับกายไล่ความเมื่อยขบแล้วพบว่าเขาขยับไม่ได้
จมูกโด่งพ่นลมหายใจออกมาด้วยความเหนื่อยหน่ายก่อนจะยกท่อนแขนสีน้ำผึ้งและท่อนขาขนาดใหญ่ออกจากตัว เจ้าหมาในร่างมนุษย์ขยับตัวเหมือนรำคาญแต่ก็ยังไม่ตื่น นี้อาจเป็นครั้งแรกที่เขาเห็นว่ามันขี้เซาและถือโอกาสได้พิจารณาหน้ามันชัดๆ ทั้งเส้นผมสีน้ำตาลยุ่งๆ คิ้วเข้มสีเดียวกัน ขนตายาวสีน้ำตาล จมูกโด่งและริมฝีปากหนานั้น ไม่นับรวมดวงตาที่เมื่อก่อนมักทอประกายสดใสจนหน้าหมั่นไส้แต่ตอนนี้ในบางครั้งเขากลับเห็นมันหม่นลงและทอประกายเศร้า ซึ่งทั้งหมดก็เกิดจากเขาเอง
จากมาเฟียคนหนึ่งที่หลงเข้ามาในป่าบ้าๆและจับพลัดจับพลูเข้ามาอยู่ในกลุ่มหมาปีศาจเพียงเพราะช่วยลูกหมาตัวหนึ่งเอาไว้ เขาไม่เคยรู้ว่าเมื่อก่อนมันเป็นแบบไหน นิสัยยังไง มีแววตาแบบไหนเพราะมันไม่เคยเล่าและเขาไม่เคยถาม ครั้งแรกที่เห็น มันก็มองเขาด้วยดวงตาเป็นประกายคู่นั้นแล้ว เขาไม่รู้ว่ามันรักเขาตรงไหนและไม่รู้ว่าคำว่ารักที่มันบอกหนักแน่นและเชื่อได้มากแค่ไหน แต่ตอนนี้เขาอยากจะภาวนาวิงวอนกับพระเจ้าที่ไม่เคยเชื่อว่ามีจริง ขอให้ความรักที่มันบอกกับเขาเป็นแค่เรื่องขำขันหรือไม่ก็เป็นรักที่ไม่นานก็ลืมลง แม้จะคิดแบบนั้นแล้วหน่วงในอกแต่มันก็ดีแล้ว มันไม่สมควรมารักคนแบบเขา คนแบบคาเซอริโอ ซิสิอาโน ที่ไม่เหลือหัวใจไว้รักใครอีก
“แกควรเลิกโง่ได้แล้วเจ้าหมา”มือขาวลูบเบาๆที่เส้นผมสีน้ำตาลก่อนจะยันตัวลุกขึ้น เจ้าตัวด้านข้างส่งเสียงึมงำเหมือนขัดใจแต่ไม่นานก็นิ่งไปเหมือนเดิม แม้จะขัดยอกไปทั่วร่างแต่ในที่สุดเขาก็สามารถสะสางทำความสะอาดร่างกายที่เหมือนผ่านสงครามจากเมื่อคืนไปได้ พอเดินออกไปที่หน้าถ้ำก็พบว่ามีเจ้าหมาตัวเล็กกำลังนอนหมอบมองเขาด้วยแววตาเศร้า นั้นสินะเมื่อคืนมันโดนขู่ไล่ออกมานี่น่า
“ไปเดินเล่นเป็นเพื่อนฉันหน่อยสิ”มือขาวฉวยเอาตัวกลมอ้วนขึ้นมาโดยไม่รอคำตอบ แล้วออกเดินโดยมีเจ้าหมาขนหยิกอยู่ในมือข้างหนึ่ง
“แกกับฉันมาอยู่ที่นี้นานแค่ไหนแล้วนะ คิดถึงบ้านที่โน่นแล้วรึยัง”มืออีกข้างที่ว่างเอื้อมไปลูบหัวกลมนั้นเบาๆ
บ็อก!!
“นั้นสิ กลับบ้านกันดีกว่า แกอยากไปอยู่กับฉันไหม”
บ็อก!!
“ฮ่าๆ เอางั้นเหรอแต่ที่นั้นมีแต่หมาตัวใหญ่ๆนะ มันอาจจะกัดแกเล่นก็ได้”
หงิ๊ง
“เอาเถอะ บางทีเฟอร์ดินน่าจะช่วยดูแกได้”คาเซอริโอยกยิ้มแม้จะไม่แน่ใจนักว่าเจ้าเด็กเฟอร์ดินนั้นจะชอบ แต่ถ้าเป็นคำสั่งเขาเจ้าหนูนั้นขัดไม่ได้อยู่แล้ว ส่วนเรื่องกลับไป เขาเองก็ไม่รู้ว่าจะต้องทำยังไงแต่คงมีใครบางคนที่ช่วยเขาได้แน่ๆ แต่ไม่รู้จะยอมช่วยเขาดีๆรึเปล่า ถ้าไม่ก็คงต้องขู่ ถึงเขาจะไม่ชอบขู่พวกลูกกระจ๊อกที่จับได้เพราะความอดทนไม่ถึงจนยอมยิงทิ้งก่อนก็เถอะ ภาวนาให้มันไม่หาเรื่องเขาจนเกินพอดีก็แล้วกัน
เป้าหมายที่ยืนอยู่ตรงหน้าทำให้คาโลทั้งอยากถอนหายใจและอมยิ้มในเวลาเดียวกัน เมื่อหมอหน้าขาวที่เป็นเป้าหมายยืนอยู่ข้างเจ้าหมาร่างยักษ์ที่ตวัดตาสีทองแดงคู่นั้นมองเขาทันทีที่เข้ามายืนใกล้ในระยะ 2 เมตร
“ไงฮิโตะ”คนที่กำลังง่วนอยู่กับการตากกองเศษไม้อะไรสักอย่างเงยหน้าขึ้นมาตามเสียงเรียกก่อนจะยิ้มกว้างแล้วเดินเร็วๆมาหา เหมือนหมาเวลาที่ถูกเจ้าของเรียก น่าเอ็นดูปนหมั่นไส้นิดๆ
“คุณคาโลเป็นยังไงบ้างครับ”
“ก็ดี คิดว่าไม่ได้เป็นไรอะไรมาก”
“แน่ใจแล้วเหรอครับ ผมว่ายังไงทานยา..”
“อย่าทำตัวเป็นหมอเรื่องมากแถวนี้น่า”
“ก็ผมเป็นหมอจริงๆนี้ครับ”คนที่อ้างตัวว่าเป็นหมอเริ่มนิ่วหน้าเมื่ออดีตคนไข้อย่างเขาเริ่มดื้อ
“เอาเป็นว่าฉันรู้ตัวเองดีว่าไหวไม่ไหวและไม่ต้องบังคับให้ฉันกินยาอีกถ้าไม่อยากโดนเหมือน..”
“ก็ได้ครับ”คนหน้าขาวที่บัดนี้หน้าเริ่มเปลี่ยนเป็นสีแดงระเรื่อสวนขึ้นทันควัน
“ซาเวียร์ไปไหน”เจ้าตัวที่ยืนเงียบอยู่นานเปิดปากถามขึ้น
“นอน”คำตอบสั้นๆของเขาทำให้เจ้าหมาตัวยักษ์เลิกคิ้วขึ้นข้างหนึ่งจะด้วยไม่เข้าใจหรือสงสัยอะไรก็แล้วแต่ ส่วนหมอข้างๆก็ดันหน้าแดงหนักขึ้นไม่รู้คิดไปไกลถึงไหนกับแค่คำว่านอนคำเดียวของเขา
“นึกว่ามันจะตามเจ้าต้อยๆ”
“ฉันคิดว่าตัวเองคงไม่ต้องการผู้คุมประพฤติแบบมัน”
“คุมประพฤติ อ๋อ เจ้านั้นขอเป็นคนดูเจ้าตอนเข้ามาใหม่ๆสินะ”คำพูดเรียบๆของเจ้าหมาเยอร์เซ็พทำให้คาเซอริโอเข้าใจอะไรบ้างอย่างได้มากขึ้น เจ้าหมานี่มันไม่ได้สนใจที่จะเป็นผู้คุมเขาแต่แรก ก็แค่โดนหางเลขจากเจ้าซาเวียร์ลากมาเอี่ยวพอให้น่าเชื่อถือเท่านั้นสินะ
“แล้วคุณคาโลลงมาที่นี้มีอะไรรึเปล่าครับ”
“ฉันอยากคุยกันนาย ตามลำพังได้ไหม”หมอหน้าขาวทำหน้านิ่วเหมือนเขาขอในเรื่องที่ตัดสินใจยาก ก่อนจะหันไปมองหมายักษ์ข้างตัวที่กลับมาทำหน้านิ่วคิ้วขมวดอีกครั้ง
“ก็ได้”เสียงผู้คุมออกปากอนุญาตก่อนเจ้าตัวจะเดินไปยืนพิงต้นไม้ที่อยู่ห่างตัวบ้านออกไปเล็กน้อย
“งั้นเชิญข้างในก่อน คุณคาโลรับชาไหมครับ”
“ไม่หละ ฉันไม่ถนัดเท่าไหร่”
“เออ คงเหลือแค่น้ำเปล่า ยังไงผม..”หมอหน้าขาวทำท่าลำบากใจที่ไม่มีของมารับแขกดังใจคิด
“มีอะไรก็เอามาเถอะ”คาเซอริโอตอบตัดปัญหา เป้าหมายของเขาในการมาครั้งนี้ไม่ใช่มากินแต่มาหาข้อมูลอะไรบางอย่างต่างหาก
“ครับ งั้นนั่งก่อนนะครับ”เจ้าบ้านเชื้อเชิญให้เขานั่งลงที่เก้าอี้ไม้ข้างโต๊ะรกๆที่เจ้าของรีบกวาดบรรดาเศษไม้ทีเรียกว่าสมุนไพรมากมายออกจากโต๊ะก่อนจะเดินว่อนไปทั่วบ้านเพื่อหาน้ำมาให้เขา
“ได้แล้วครับ แล้วเรื่องที่เออ..”
“เรื่องของริวจิ”
“ครับ”คิ้วของหมอหน้าขาวขมวดฉับก่อนใบหน้านั้นจะฉายแววกังวล
“ฉันรู้ว่ามันอาจเป็นเรื่องที่ไม่ควรพูด แต่ถึงฉันไม่พูดตอนนี้เดี๋ยวก็มีคนพูดอยู่ดี”
“คุณคาโลหมายถึง..”
“ริวจิเป็นสายให้มนุษย์ที่เข้ามาล่าพวกหมา”
“ล้อเล่นใช่ไหมครับ”
“หน้าฉันเหมือนล้อเล่นรึไง”คาเซอริโอตอบเรียบๆแต่ดวงตาของคนตรงหน้ากลับไหวระริกเหมือนคนคิดอะไรบางอย่างในใจ
“แต่ว่าคุณริวจิเขาอยู่ที่นี้มานานแล้ว แม้จะไม่นานเท่าผม แต่ผมคิดว่า ไม่มี...”
“แล้วเวลาสำคัญยังไง ในเมื่อทรยศก็คือทรยศ”
“คุณมีหลักฐานอะไร”คนตรงหน้าเริ่มขึ้นเสียง
“ไม่มี”คาเซอริโอตอบเสียงเรียบ แน่นนอนว่าเขาไม่มี เขาไม่ใช่พวกตำรวจที่ต้องหาหลักฐานมาก่อนจะจับคนร้าย เขามันผู้ร้ายที่ทำตามสัญชาตญาณและสัญชาตญาณของเขาก็บอกออกมาแบบนี้ เจ้านั้นมีหลายอย่างให้เข้าสงสัยทั้งบุคลิกแปลกๆ ดวงตาที่ดูหลุกหลิกนั้น
“ถ้าไม่มีคุณก็ไม่ควรปรักปรำเขา”
“ฉันก็ไม่ได้จะปรักปรำ แค่พูดไปตามที่คิดเท่านั้น”
“คุณคาโล”ดวงตาสีดำคู่นั้นมองเขาด้วยความตกใจและผิดหวัง
“ฉันแค่บอกให้รู้ในฐานะที่นายรู้จักเจ้านั้น แล้วก็อยากถามอะไรบางอย่างด้วย”
“แล้วถ้าผมไม่บอกหละครับ”
“ฉันก็คงต้องไปหาทางเค้นเอาจากเจ้าตัวแทน”
“คุณกำลังขู่ผม”
“เปล่าเลยฮิโตะ ฉันแค่พูด นายไม่อยากโดนมาเฟียอย่างฉันขู่หรอกจริงไหม”ร่างผอมที่นั่งอยู่ตรงข้ามเกร็งตัวขึ้นมาทันที
“ฉันแค่อยากรู้ว่าเจ้านั้นเข้ามาในกลุ่มนานแค่ไหนแล้ว”
“เออ..ราวๆ 3 ปีครับ”หมอหน้าขาวตอบเสียงอ่อน
“เข้ามาได้ยังไง”
“ผมไม่ทราบเรื่องดีนัก รู้แค่ว่าเขาถูกพาเข้ามาในกลุ่ม ในสภาพเออสะบักสะบอมเหมือนโดนซ้อม เออเขา..”
“ใครเป็นคนพาเข้ามา”คาเซอริโอตัดบทคำพูดที่น่าจะยาวยืดออกไปไกล มันจะเข้ามาแบบไหนไม่ใช่เรื่องที่เขาจะสนใจสักเท่าไหร่
“เออ เหมือนจะเป็นคุณแซมเบอร์นะครับ”
“แซมเบอร์”คาเซอริโอขมวดคิ้วเมื่อได้ยินชื่อที่เหมือนจะคุ้นหู
“เขาเป็นเพื่อนกลุ่มเดียวกับคุณจายาแล้วก็คุณซาลูกิ”
“อ๋อ”ใบหน้าพยักขึ้นลงน้อยๆเหมือนเข้าใจ เจ้าหัวนกแก้วซาลูกิเป็นแนวหน้าของพวกหมาปีศาจ เพื่อนของมันก็ไม่น่าจะต่างกัน แนวหน้าจะออกไปเจอมนุษย์ในป่าบ้างมันก็ไม่ใช่เรื่องแปลก
“แล้วเจ้าริวจิสนิทกับแซมเบอร์อะไรนั้นแค่ไหน”
“เออผมก็ไม่แน่ใจครับ แต่เคยได้ยินมาว่าพวกเขา..”พูดไปคนพูดก็เขินน่าแดงไป เท่านี้ก็นิยามความสัมพันธ์พิลึกของพวกนั้นได้แล้ว ในตอนที่ประชุมกันเจ้าหมาซาเวียร์ก็พูดอกมาว่าแซมเบอร์เลือกคู่เป็นมนุษย์และเวลาที่อยู่ที่นี้มาก็ทำให้รู้ว่าในกลุ่มตอนนี้มีมนุษย์แค่ 3 คนเท่านั้น 1 คือเขา 2 ก็เจ้าหมอฮิโตะ 3 ก็ริวจิ
“เข้าใจหละ ขอบใจ”
“แต่ว่าคุณคาโลครับ คุณริวจิเขาเป็นคู่ของคุณแซมเบอร์ไม่มีทางที่เขาจะทรยศ”
“อย่าเพิ่งตัดสินใจอะไรง่ายๆแบบนั้นสิเด็กน้อย โลกนี้น่ากลัวกว่าที่นายคิด”
“คุณคาโลหมายถึง..”
“ถ้าริวจิทำอย่างที่ฉันพูดจริง เจ้านั้นก็อันตรายที่สุดและที่น่าสงสารที่สุดคงไม่พ้นเจ้าหมาแซมเบอร์นั้น ลาละ”คาเซอริโอเดินออกไปที่ประตูเงียบๆทิ้งให้หมอหน้าขาวนั่งจมอยู่กับความคิดของตัวเอง แน่นอนว่าทันทีที่ก้าวออกมาจากบ้านเขาก็เจอดวงตาคู่หนึ่งที่จ้องเขม็งมาก่อนเจ้าตัวจะหันหลังเดินจากไป เหมือนจะส่งสัญญาณให้เขาตามไป และแน่หละเขาไม่มีเหตุผลอะไรต้องปฏิเสธ
“เจ้ากำลังคิดจะทำอะไร”ออกมาได้ห่างจากบ้านพอที่คนข้างในจะไม่ได้ยินมันก็เปิดปากถามขึ้น
“ทำเรื่องที่สมควรทำ”
“เจ้าจะไม่บอกข้า”
“ไม่ใช่เรื่องสำคัญที่ต้องบอก ที่แน่นอนคือฉันไม่ดึงฮิโตะเข้าไปเกี่ยวข้องด้วย”
“ก็ดี”
“มีแค่นี้ใช่ไหมเรื่องที่แกอยากถาม ฉันมีธุระต้องไปจัดการ”
“เรื่องซาเวียร์ เจ้าตัดสินใจแล้วงั้นเหรอ”
“หืม ตัดสินใจเรื่องอะไร”
“ซาเวียร์เลือกเจ้า คิดว่าเจ้าไม่น่าจะลืม และเรื่องที่เจ้ากำลังคิดจะทำ”ประโยคยาวๆของเยอร์เซ็พทำให้เขาเงียบไป
“มันเคยอยู่มาได้โดยไม่มีฉันยังไง มันก็อยู่ต่อไปแบบนั้นหละ”
“เจ้ากำลังคิดจะไป”คาเซอริโอเลิกคิ้วก่อนจะถอนหายใจปลงๆ เขาเพิ่งปล่อยไก่เรื่องที่จะทำให้มันฟัง เป็นไก่ตัวใหญ่ที่น่ายิงทิ้งซะด้วย
“ฉันก็บอกไว้ตั้งแต่แรกแล้วนิ”
“ไม่คิดจะเปลี่ยนใจ”
“ทำไมคิดว่าฉันต้องเปลี่ยนใจ”
“ซาเวียร์ไม่น่ามารักคนแบบเจ้า”ประโยคเรียบๆแต่เจ็บหน่วงในใจคนฟังอย่างเขา ใช่ มันไม่สมควรมารักคนแบบเขาตั้งแต่แรก
“งั้นก็ฝากแกช่วยหาคนหรือหมาที่คู่ควรให้ด้วยก็แล้วกัน”
“หากเจ้าจะทำอะไรก็รีบทำเพราะฝั่งนั้นเองก็เริ่มเคลื่อนไหวแล้ว”
“แกแอบฟังฉัน”เจ้าหมาตรงหน้านั้นไม่ตอบแต่เคาะนิ้วที่หูตัวเองเบาๆแทน นั้นสิเขาก็ลืมไปว่าเจ้าหมาปีศาจพวกนี้มันหูดี เขาเองก็ไม่ได้คุยแบบกระซิบกระซาบมันจะได้ยินก็ไม่แปลก แต่เรื่องที่มันพูดนั้นหละ
“แกสงสัยเรื่องนี้ตั้งแต่แรก”
“ไม่ใช่แค่ข้า ทุกคนก็สงสัย ตั้งแต่ตอนที่ได้แผนที่แผ่นนั้นจากเจ้า”
“อ๋อ”คาเซอริโอส่งเสียงในลำคอ เริ่มสงสัยกันแล้วสินะ แล้วก็สงสัยคนเดียวกับเขาด้วย
“งั้นทำไมไม่ทำอะไรสักอย่างหละ”
“แซมเบอร์เลือกเขาเป็นคู่”
“หืม” คราวนี้คาเซอริโอส่งเสียงในลำคอด้วยความสงสัย เลือกเป็นคู่แล้วยังไงทำผิดแล้วเล่นงานไม่ได้รึไง จะปล่อยเมียที่ฆ่าพวกพวงของตัวเองไปงั้นเหรอ
“พวกแกนี้มันชอบมีเรื่องมาให้ฉันประหลาดใจอยู่เรื่อย”
“เราไม่มีหลักฐานเรื่องนี้ หากฝืนทำอะไรลงไปเราอาจเสียแซมเบอร์และมือดีหลายคน ตอนที่กำลังมีปัญหาแบบนี้การรวมกลุ่มกันไว้สำคัญที่สุด”ประโยคยืดยาวของมันอธิบายเรื่องได้หลายอย่าง มันรู้มากพอกับที่เขารู้ สงสัยอย่างที่เขาสงสัยแน่นอนว่าการพุ่งเป้าไปสงสัยที่คนนอกมันง่ายกว่าที่จะสงสัยพวกเดียวกัน แต่ถึงจะเป็นคนนอกแต่ก็เป็นคนนอกที่เป็นคู่ของหมาปีศาจ เขาไม่รู้ว่าคำว่าคู่ของพวกมันสำคัญแค่ไหน จะแค่คู่นอนวันเดียวแบบของมนุษย์ คู่แต่งงานที่แค่จดทะเบียนแล้วพร้อมเซ็นต์ใบหย่าหรือคู่แท้ชั่วฟ้าดินสลาย แต่การที่พวกมันไม่บุ่มบ่ามทำอะไรลงไปก็คงเพราะคำว่า “คู่” นั้นแหละนะ แม้จะสงสัยแต่ถ้าไม่มีหลักฐานก็ไม่ควรทำอะไรเพราะหากแซมเบอร์ไม่เล่นด้วยงานนี้คงได้มีพังกันไปข้าง แตกคอกันเพราะมนุษย์คนเดียวที่ยังไม่รู้ว่าทำผิดจริงหรือเปล่ามันก็ไม่คุ้ม แต่หากมนุษย์นั้นหายไปเพราะมนุษย์ด้วยกันมันก็อีกเรื่องสินะ
“แกมีหลักฐานเรื่องนี้มากแค่ไหน”
“ไม่มี มีแค่คำบอกเล่าที่เห็นริวจิหายออกไปตอนกลางคืนบ่อยๆและกลิ่นมนุษย์คนอื่นที่ติดมาบนเสื้อเท่านั้น”
“แค่นั้นก็มากพอแล้ว ไม่เห็นต้องมายืมมือฉัน”
“เจ้าต่างหากที่ต้องยืมมือพวกข้า”คาเซอริโอหรี่ตามองหมาในร่างคนยักษ์ตรงหน้า ใครบอกว่าหมาฉลาดน้อยคงไม่จริงแล้วสินะโดยเฉพาะหมาที่แปลงเป็นคนได้แบบนี้
“งั้นก็แสดงว่าเจ้านั้นเป็นของฉันแล้วสินะ”
“ถ้าเจ้าอยากให้เป็นแบบนั้น”
“หึ งั้นก็ขอบใจล่วงหน้าแล้วกันที่จะอำนวยความสะดวกให้”
“เจ้าจะลงมือเมื่อไหร่”
“เร็วที่สุดหลังจากที่ทุกอย่างลงตัว หากเป็นแบบที่แกพูดจริงมันคงเร็วกว่าที่คิด”
“ข้าจะรอ”เจ้าหมาเยอร์เซ็พพูดเสียงเรียบก่อนจะหมุนตัวจากไปเงียบๆ ไม่ได้กลับเข้าไปที่บ้านหมอฮิโตะแต่กลับมุ่งตรงเข้าไปที่กลางกลุ่มคงไปรายงานใครสักคน คงไม่พ้นทีเบอริส
เขาเองก็มีอีกที่หนึ่งต้องไปเหมือนกัน อย่างน้อยก็ไปลาสักหน่อยก่อนหายไป เขายังไม่ได้ขอบใจเจ้าหล่อนเลยสักนิดที่ช่วยดูแล
“ไงชินริ”
“อ่ะ ท่านคาโล”ภาพสาวน้อยที่เงยหน้าขึ้นมาจากราวไม้ข้างบ้านเพื่อมายิ้มให้เขาเป็นภาพที่ดูเจริญหูเจริญตาเป็นที่สุดยามที่แขนเสื้อและกระโปรงยาวนั้นถูกถลกขึ้นเพื่อไม่ให้เปื้อนน้ำจากการตากผ้าที่ทำพื้นดินรอบๆแฉะ
“ฉันแวะมาเยี่ยมนะ”
“อ่ะคะ เข้าไปด้านนั้นก่อนไหมคะ”
“ไม่หละฉันแค่แวะมาแป๊บเดียวเท่านั้น”
“อ่ะคะ ข้า..”ใบหน้างดงามนั้นสลดลงพร้อมกับใบหน้าที่ก้มต่ำ
“ไม่เอา อย่าทำหน้าแบบนั้นสิเดี๋ยวไม่สวยนะ”มือขาวของเขาวางปุบลงบนหัวของเจ้าหล่อนคนที่เขานึกเอ็นดูแบบน้องสาว
“ข้า ข้าแค่..”
“อย่าขี้แยสิสาวน้อย”ปลายนิ้วโป้งเอื้อมไปปาดน้ำตาที่ข้างแก้มใสนั้นให้ บางทีพวกผู้หญิงก็แสนจะดูออกง่ายว่าคิดอะไรอยู่แต่บางทีก็ดูยากยิ่งกว่าการดูลายแทงขุมทรัพย์
“ข้าไม่ได้ขี้แยนะคะ ข้าแค่..”
“เอาเถอะข้าเชื่อว่าเจ้าเป็นคนเข้มแข็ง และแข็งแกร่งมากพอที่จะดูแลตัวเองได้”ดวงตากลมโตคู่นั้นเงยขึ้นมองเขาก่อนน้ำใสๆจะไหลออกมาอีกครั้ง
“เป็นจริงสินะคะที่ท่านซาเวียร์พูด เรื่องที่ท่านกับท่านซาเวียร์....”คาเซอริโอลอบถอนหายใจที่การล่ำลาของเขาเพราะจะกลับบ้าน เจ้าหล่อนดันเข้าใจกลายเป็นอีกเรื่อง ให้มันได้แบบนี้สิน่า
“เธอเสียใจงั้นเหรอ”
“อ๊ะ ไม่ ไม่คะข้า ข้าดีใจเพราะท่านคาโลเป็นคนดีแล้วท่านซาเวียร์ก็เป็นคนดี”
“งั้นเหรอ แต่ฉันอาจไม่ใช่คนดีแบบที่เธอคิดหรอกนะ”
“เอ๊ะ ทำไมท่าน..”
“เพราะคนดีๆเขาคงไม่หักอกสาวน้อยน่ารักแบบเธอหรอก”
“คือ ข้า ข้าไม่เป็นไรคะ บางทีความรักก็กำหนดไม่ได้นี้คะ ขอแค่ท่านคาโลมีความสุขข้าก็.”
“เด็กโง่”ร่างบอบบางนั้นถูกเขาดึงมากอดก่อนที่เจ้าหล่อนจะสะอื้นแล้วเริ่มร้องไห้กับอกเขา นี่เขาหักอกเจ้าหล่อนเข้าให้จริงๆแล้วสินะ แม้จะแอบเสียใจที่ทำสาวน้อยแสนสวยร้องไห้แต่เหตุผลที่เจ้าหล่อนเข้าใจผิดจนร้องไห้โฮนี้สิมันไม่น่าปลื้มใจสักนิด แต่ก็เอาเถอะ ถึงชินริจะเข้าใจไปแบบไหนผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นกับเธอก็คงไม่ต่างกัน เป็นแบบนี้บางทีมันอาจจะดีแล้วก็ได้
“ขอบโทษคะ ข้าทำเรื่องขายหน้าแล้วยังเสื้อท่าน”เนินนานกว่าที่ชินริจะหยุดร้องไห้และเขารู้สึกว่าอกเสื้อตัวเองเหนอะไปด้วยคราบน้ำตา
“ร้องไห้ไม่ใช่เรื่องขายหน้าหรอกนะ”คาเซอริโอจ้องตอบดวงตาคู่นั้นที่บัดนี้เริ่มแดงก่ำ
“คะ”
“ดูแลตัวเองด้วยนะชินริ”
“เออ ท่านคาโลคะ”
“หืม มีอะไรรึเปล่า..”
“เปล่าคะ”
“งั้นข้าไปก่อนนะ”
“คะ แล้วพบกันใหม่นะคะ”คาเซอริโอไม่ตอบทำเพียงโบกมือให้เจ้าหล่อนเท่านั้น เจอกันใหม่งั้นเหรอ ไม่รู้จะมีโอกาสรึเปล่านะสิ
“จะไปไหนเหรอชินอู”เจ้าเด็กหัวน้ำตาลหยุดตามเสียงเรียกก่อนจะตวัดตาขวางๆนั้นมองเขา
“ข้าก็จะไปทำเรื่องที่ผู้ใหญ่อย่างข้าสมควรทำนะสิ”
“เรื่องของผู้ใหญ่งั้นเหรอ”คาเซอริเปรยเรียบๆก่อนจะยิ้มให้เจ้าเด็กที่สูงไม่ถึงคอเขาดี
“นี้เจ้า ชิ อย่างน้อยข้าก็ได้เข้าร่วมกับการตามนางงูนั้นหละ”
“อ๋อ ฟังดูหน้าสนใจ งั้นก็แสดงว่าเห็นนางแล้วสินะ”
“เออ อืมมีคนเห็นงูแว๊บๆนะพวกข้าก็เลยจะไปดู”
“อืม งั้นเหรอคงไม่ใช่เจ้าตัวที่ตายแล้วใช่ไหม”
“ใช่ซะที่ไหนกันหละเจ้าตัวนั้นตายที่หน้าผาพวกข้าเพิ่งเห็นมันเมื่อสาย ส่วนตัวนี้นะ..”
“เป็นอีกตัวงั้นสิ”
“เจ้ารู้ได้ยังไง”
“ก็เจ้าเพิ่งบอกข้าไปเองว่าเจ้าตัวนั้นตายอยู่หน้าผา ส่วนตัวนี้..”
“ชิ อึ๊ย เจ้ากำลังทำข้าเสียเวลา ไปรวมไม่ทันนะรู้ไหม”
“อ๋อ งั้นเหรอ ตามสบายนะ”คาเซอริโอเอื้อมมือไปขยี้ผมสีน้ำตาลนั้นจนยุ่งไม่สนใจเสียงโวยวายที่ดังลั่นมาตามหลัง เด็กยังไงก็ยังเป็นเด็กอยู่วันยันค่ำ
เจ้างูตัวนั้นตายจริง หากนางงูนั้นรู้ ไม่นานก็คงมาถล่มที่นี้แน่ๆคงได้วุ่นวายกันใหญ่ เจ้าพวกหมาเจอซากงูแล้วเมื่อตอนสายๆแล้วงูอีกตัวที่เห็นแว๊บๆนั้นหละนางงูหรือเจ้าตัวประหลาดคูลาตัสหรือจะเป็นงูตัวอื่น แต่ไม่ว่ายังไงตอนนี้พวกนั้นก็กำลังยุ่งเป็นโอกาสที่เขาจะลงมือทำอะไรบางอย่าง
ขาสองข้างออกแรงพาเจ้าของเดินไปตามที่ใจหมายและเมื่อไปถึงถ้ำเขาก็ไม่เห็นเจ้าหมาซาเวียร์เหมือนจะถูกเรียกไปอย่างที่เจ้าหนูนั้นบอก แบบนี้ก็ทางสะดวกเขาไม่ต้องล่ำลาไม่ต้องคอยหาเรื่องปลีกตัวแบบนี้หละดีแล้ว
ข้าวของไม่กี่ชิ้นที่ติดตัวมาจากโลกโน้นถูกกวาดใส่กระเป๋า ปืนลูกรักและกระสุนสำรองอยู่ในสภาพพร้อมใช้ ดวงตาสีเทาคู่คมกวาดมองไปรอบๆถ้ำก่อนจะระบายลมหายใจเพื่อบรรเทาอาการอัดแน่นในอก การพักร้อนของเขาสิ้นสุดลงถึงเวลาต้องไปแล้ว
“กำลังจะไปไหนงั้นเหรอ”
มาส่งตอนใหม่แล้วคะ ดีกันได้ไม่นาน หวานๆกันได้สักแป๊บก็เหมือนจะมีเรื่องอึนๆแทรกเข้ามาอีกแล้ว
ครั้งนี้คาโลของเราตั้งมั่นแล้วว่าจะกลับไปให้ได้ คว้าของเก็บกระเป๋าเตรียมตัวเดินทางเรียบร้อย อยู่ๆก็มีเสียงปริศนาโผล่ขึ้นมาอยากรู้ว่าเป็นเสียงใคร คาโลจะได้เดินทางกลับไหมต้องติดตามต่อตอนหน้าคะ
ปล.นักอ่านหลายท่านบอกว่าซาเวียร์ขี้อ้อน เหมือนเด็กเวลาอยู่ใกล้คาโล ส่วนคาโลก็ใจอ่อนกับซาเวียร์ บังเอิญคนเขียนชอบคาเเรคเตอร์ที่ประมาณว่ากับคนอื่นดูโหดดูน่ากลัวแต่กลับคนของตัวเองดันน่ารัก ประมาณนี้คะ ตัวละครก็เลยออกมาแนวนี้ แล้วพบกันใหม่ตอนหน้านะคะ