Chapter 7
ผมตื่นขึ้นมาเพราะรู้สึกไม่สบายตัวพอจะลุกเท่านั้นแหละอะไรต่อมิอะไรตีขึ้นมาจนต้องวิ่งไปห้องน้ำอาเจียนออกมาจนหมด มันมึนๆเวียนหัวยังไงไม่รู้ ผมล้างหน้าแปรงฟันแล้วอาบน้ำเลยทั้งๆที่ยังไม่สว่างเดินออกจากห้องน้ำมาก็แทบหงายหลังก็ไอ้เป้มันมายืนอยู่หน้าห้องน้ำ
"ไอ้เป้แม่ง กูตกใจหมดมายืนทำไรตรงนี้วะ" นี่ถ้ากูหัวใจวายตายขึ้นมานะ กูจะมาเอามึงไปอยู่ด้วย!
"กูตื่นมาไม่เจอมึงได้ยินเสียงมาจากห้องน้ำเลยลุกมาดูเผื่อมึงเป็นไร" นี่มึงเป็นเด็กน้อยติดแม่เหรอวะ
"หื่อ ไม่ได้เป็นไรกูตื่นมาเข้าห้องน้ำเลยอาบน้ำไปเลย มึงไปนอนต่อก็ได้ยังไม่ 6โมงเลย" ผมสั่นหัวตอบมัน
"ไม่อ่ะ มึงหิวไหมเดี๋ยวกูลงไปทำอะไรให้กินนะ กูล้างหน้าก่อน" มันพูดพร้อมยิ้มกว้างแล้ววิ่งเข้าห้องน้ำไปไม่นานก็ออกมาแล้วลงไปข้างล่าง มึงยิ้มบ่อยไปนะช่วงนี้ ผมควรพามันไปหาหมอไหม? ผมขำมันแล้วมาแต่งตัวแล้วก็หาชุดไอ้เป้ออกมาแขวนไว้ให้มันด้วยเผื่อตอนมันขึ้นห้องมาจะได้ไม่ต้องหาให้ยุ่งยาก ผมเป็นคนดีใช่ไหมล่ะ ผมเดินลงมาข้างล่างเห็นไอ้เป้ต้มอะไรสักอย่างอยู่กับป้าอิ่ม ผมก็ยืนพิงผนังแอบดูอยู่ตรงทางเข้า(ทำไมนางชอบแอบ)
"ป้าอิ่มใส่ไข่เลยไหมอ่ะ" ไอ้เป้มันทำอาหารไม่เป็นนี่หว่าแล้วบอกจะมาทำให้กิน โด่ว
"ยังค่ะน้องเป้ ใส่ตอนนี้ข้าวต้มได้คาวพอดี ถ้าน้องหลิวทานไม่ลงป้าจะขำให้"
"โหยป้าอ่ะก็เป้ไม่รู้นี่ มันจะอร่อยไหมอ่ะป้าอิ่ม"
"ก็ทำให้รสชาติเป็นกลางไว้ แล้วค่อยให้น้องหลิวปรุงเพิ่มก็ได้ค่ะ อีกอย่างน้องเป้ตั้งใจขนาดนี้ต้องอร่อยอยู่แล้ว"
"ก็เป้อยากให้ไอ้หลิวกินข้าวเยอะๆลูกจะได้แข็งแรงแต่ไอ้หลิวมันชอบกินรสจัด กินข้าวทีไรมันก็เติมน้ำปลาเติมพริกตลอดเลย"
"ต่อไปทำแบบนั้นไม่ได้แล้วนะคะน้องเป้"
"ก็ใช่ไงป้าอิ่ม เป้จะเอาเครื่องปรุงห่างไอ้หลิวให้ไกลๆเลย เดี๋ยวลูกเป้ไม่แข็งแรง"
"แล้วถ้าไม่แข็งแรงจะไม่รักรึไงคะน้องเป้ แต่แหมคุณพ่อทั้งดูแลทั้งเอาใจใส่แข็งแรงแน่ๆค่ะ"
"โหย รักดิป้าอิ่มลูกเป้ทั้งคนเลยนะ แต่เป้ก็อยากให้เขาแข็งแรงอยากเห็นหน้าไวๆด้วย ^^" อะไรชื้นๆที่แก้มวะ เห้ย นี่กูซึ้งจนร้องไห้เลยเหรอ โอ๊ยอ่อนไหวปานนางเอกละครไทย
"คนทางนี้ก็ตื่นเต้น แต่คนท้องเองถ้ารู้แล้วจะตกใจแค่ไหนกันนะ"
"นั่นสิครับแต่ไม่เป็นไรเป้จะค่อยๆบอกไอ้หลิวเอง"
"ป้าเอาใจช่วยนะน้องเป้ เอ้าเดือดได้ที่แล้วค่ะใส่ไข่ได้แล้ว น้องหลิวลงมาจะได้ทานเลย"
"ครับ ^^" หึ ไม่ต้องคิดว่าจะตกใจแค่ไหน ก็แค่เกือบช้อคเอง แต่แหมพ่อมันดูแลเอาใจใส่ขนาดนี้ก็นะ เขินอ่ะ ผมที่ยืนบิดไปบิดมาเหมือนสาวน้อยวัย 18 ที่กำลังถูกบอกรักก็ต้องรีบเดินออกจากตรงนั้นแล้วทำเนียนไปนั่งเล่นที่โซฟาก่อนไอ้เป้จะเดินออกมา
"อ้าวหลิว กูให้กูป้าอิ่มสอนทำข้าวต้มแหละมึงหิวยังกินเลยไหมกูจะเอามาให้" มันเดินมานั่งข้างผมแล้วถาม
"ไม่เอาอ่ะ กูจะรอกินพร้อมมึง มึงรีบไปอาบน้ำแล้วลงมากินข้าวดิ" ไม่อยากกินคนเดียวอ่ะ
"อื้อ งั้นเดี๋ยวกูรีบอาบรีบลงมานะ" มันพยักหน้ารัวๆเหมือนเด็กน้อยแล้วหอมแก้มผมก่อนวิ่งขึ้นบันไดไป มันเขินนะเว้ย
"เป็นไงมึง อร่อยไหม" ไอ้เป้มันนั่งมองผมกินข้าวโดยที่มันยังไม่กินเลยสักคำแล้วยังทำท่าทางลุ้นเหมือนเด็กกำลังจะได้ของขวัญ
"ก็...งั้นๆอ่ะ" ก๊ากกกก หน้าไอ้เป้อย่างฮาอ่ะ
"กูตั้งใจทำเต็มที่เลยนะเว้ย มันไม่อร่อยเห..."
"มึงทำอะไรมากูก็ชอบทั้งนั้นแหละ" มันเงยหน้ามามองผมแบบอึ้งๆแล้วรีบฉีกยิ้มจนจะถึงรูหู
"จริงดิ งั้นกินเยอะๆนะ"
"เออ มึงอ่ะกินได้แล้วเดี๋ยวก็ไปเรียนสายหรอกมึง" ผมมองมันแล้วอดขำไม่ได้ คือมึงเด็กไปปะ
ตอนนี้พวกผมอยู่บนรถกำลังจะไปมหาลัย รถติดอีกตามเคยอ่ะผมกำลังนั่งฟังเพลงที่เปิดในรถเพลินๆอยู่ดีๆไอ้เป้ก็เอื้อมมือมันมาจับมือผม อารมณ์ไหน?
"หือ จับมือกูไมเนี่ย ไม่ตั้งใจขับเดี๋ยวก็โดนรถคันหลังก็จูบตูดเอาหรอก"
"หลิว กูมีอะไรจะบอกมึง" น้ำเสียงจริงจังแบบนี้กูพอจะรู้แล้วล่ะครับ ดูซิว่ามันจะบอกผมว่าไง ผมรอฟังพร้อมกับอีกมือก็เล่นโทรศัพท์ไปด้วย
"อือ มีไรวะ เห้ยอะไรวะ โผล่มาอีกรายละ"
"มึงจะไม่ฟังกูใช่ไหมเนี่ย" ไอ้เป้มันทำหน้าเซ็ง ฮ่าๆ ก็กูตกใจข่าวนี่หว่า
"มึงดูดิ เรื่องซื้อเพชรในเกมอ่ะโผล่มาอีกแล้วเว้ยรายก่อนสองแสน รายนี้เกือบหกแสน โอ๊ย คอยดูเลยมึงว่าจะมีโผล่มาอีกหรือเปล่า เรื่องแบบนี้พ่อแม่น่าจะดูกับลูกด้วยเนอะ มึงว่ามะ" จริงๆนะ ผมว่าเรื่องแบบนี้จะว่าไปก็โทษใครไม่ได้ มันเกิดจากความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ของเด็ก พ่อแม่เอาสมาร์ทโฟนให้ลูกใช้ก็น่าจะดูแลลูกด้วยเกิดเป็นแบบนี้ไปเรื่อยมันจะแย่เอานา ผมนี่เป็นคนมีสาระชะมัด
"อือ เป็นลูกกู กูก็จะดูแลให้ดี" แหนะ พูดแล้วยังหันมามองอีก
"มึงจะไปมีลูกกับใครรึไง" ถามไปงั้นแหละ รู้ทั้งรู้
"หลิว มึงจำเรื่องที่เราฝันเหมือนกันได้ไหม" สีหน้าไอ้เป้โคตรจริงจังอ่ะ เห็นแบบนี้แล้ว...โคตรน่าแกล้งเลย
"ตอนไหนว๊า ไม่เห็นจะนึกออก"
"ก็ที่มีลุงคนนึงมากับเด็กไง แล้วบอกว่าเป็นลูกเรา มึงว่าเป็นไปได้ไหม" ได้ไม่ได้กูก็เจอลุงมาแล้วล่ะครับเป้
"ไม่รู้ดิ ไมมึงถามงั้นล่ะ" เนียนไปก่อนๆ
"ถ้ากูบอกมึงแล้วมึงอย่าตกใจนะเว้ย" ฮื้ออออออ กูไม่ตกใจเลยเพราะกูตกใจไปแล้ว
"เออ"
"เมื่อวานอ่ะที่มึงสลบไป พวกกูได้คุยกับหมอ หมอบอกว่า..." มึงจะลากเสียงยาวให้กูลุ้นทำไม ทำยังกับละครหลังข่าวที่นางเอกจะบอกความจริงพระเอก เดี๋ยวก็มีอะไรมาขัดหรอกมึง กูพูดเอง
"กูท้อง เรื่องนี้ใช่ไหม" มึงไม่พูดกูพูดเอง
"มึงรู้เหรอ(เออรู้) มึงรู้ได้ไง(ผีมาบอก) งั้นที่มึงหายไปเมื่อวานก็เพราะเรื่องนี้เหรอ(เออเรื่องนี้แหละ) ทำไมไม่บอกกูว่ามึงรู้(ตอนนั้นกูเพี้ยน) แล้ว..." ผมขี้เกียจจะตอบไอ้เป้(ในใจ)แล้วนะ
"โอ๊ยพอๆ กูได้ยินที่หมอพูด" ถ้าผมบอกด้วยว่าลุงมาบอกผมในกระจกไอ้เป้จะว่าผมบ้าไหม แต่มันก็พูดถึงเรื่องความฝันแสดงว่ามันก็ต้องเชื่อดิวะ
"งั้น...มึงโอเคไหมหลิว" ไม่โอเคก็ต้องโอเค เขาเกิดมาแล้วนี่หว่า
"ทำไม หรือมึงไม่โอเค" ตอบให้มันดีๆนะมึง เมื่อเช้ากูอุตส่าห์ซึ้ง
"เห้ย ไม่โอเคได้ไงวะ นั่นลูกกูนะเว้ยกูต้องดีใจดิวะ แต่กูเป็นห่วงมึงกูกลัวมึงคิดมาก กูดีใจมากนะเว้ยที่จะมีลูกกับมึง ถึงเรื่องมันจะแปลกไปหน่อยก็เถอะแต่กูก็รักลูกกูนะเว้ย ...รักแม่มันด้วย" เจ้าข้าเอ๊ยยยยยยย ไอ้เป้มันหน้าแดงตอนพูดประโยคหลังด้วยแหละ หึ ว่าแต่มันผมนี่ร้อนไปทั้งหน้า บ้าน่าตัวเองก็...
"ก็ดี๊" ผมพูดแค่นั้นแล้วหันหน้าหนีมัน เมื่อยแก้มอ่ะยิ้มเลยได้ไหมขี้เกียจกลั้น >///<
..……………………
"อิหลิว เป็นไงบ้างมึง เมื่อวานมึงหายไปไหนมาห๊ะ พวกกูตามหาจนทั่วโรงบาลนี่ถ้าไอ้เป้ไม่โทรบอกว่ามึงกลับบ้านแล้วนะกูแจ้งตำรวจแน่ๆอ่ะ" ไอ้ดรีม มาถึงก็ร่ายยาวเลย กูปวดตับ แต่อย่างว่าเพื่อนเป็นห่วงต้องซึ้งๆ
"เออกูไปหาไรกิน กูหิว ขอโทษที่ทำให้เป็นห่วง"
"ป่าว กูจะเม้าท์กับมึงแสดงความยินดีกับมึงต่างหากล่ะ มึงรู้เรื่องยังว่ามึงกำลังจะมีลูก กูฟินจนฝันดีอ่ะมึง" เอ้า เอาเข้าไป ผมแทบกุมขมับกับอาการไอ้ดรีม
"ไอ้เป้ไอ้หลิวมาแล้วเหรอวะ ดีขึ้นแล้วเหรอมึง" คู่หูผู้แตกต่างไอ้บีมไอ้ต้น
"เออ กูไม่เป็นไรละ"
"มึงๆไอ้หลิวมันรู้ยังวะว่ามันท้อง" อื้อหือ เสียงกระซิบมึงเบามากอ่ะบีมเบ๊าเบา กระซิบงี้ตะโกนถามกูง่ายกว่า จะว่าไปพวกนี้ก็รู้กันหมดนี่หว่า ก็ดีแล้วแหละที่รู้กันแค่นี้ ถึงไอ้ดรีมจะมีกลุ่มสาววายสุดแซบของมันไม่ค่อยได้มาก่อกวนพวกผมเท่าไหร่แต่มันก็เป็นเพื่อนที่ดีมากคนหนึ่ง
"อือรู้ละ"
"เฮ้อออออ รู้ก็ดีแล้วมึงจะได้ดูแลตัวเอง เข้าใจไหมขุ่นแม่" เข้าใจครับขุ่นเพื่อน! พอพวกมันล้อผมจนสะใจแล้วก็พากันขึ้นเรียน ผมตัดสินใจแล้วล่ะว่าผมจะไม่ดรอปเรียน ใครถามกูก็จะบอกว่ากูอ้วน เอาซี้จะมีใครกล้าคิดไหมว่ากูท้อง พักเที่ยงพวกผมก็มาหาไรกินที่โรงอาหารคณะ
"พี่เป้ พี่เป้! อุ๊ยสวัสดีค่ะพี่หลิวพี่บีมพี่ต้น มากินข้าวกันเหรอคะ" ไม่ม้าง มาขูดหินปูนแหละ ว่าแต่เธอผู้นี้คือใครรุ่นน้องในคณะก็ไม่น่าใช่
"เอ่อ ครับ" พวกผมพร้อมใจกันทำหน้างง ขนาดไอ้ต้นที่ว่าตื่นตัวกับเพศตรงข้ามแล้วมันยังงงอ่ะ แต่สวยๆแบบนี้มึงไม่น่าพลาดนะ
"หนูชื่อ 'เมอร์รี่คริสต์มาส' ค่ะอยู่ปี1 เป็นเพื่อนสนิทดาวค่ะ หนูเคยมาหาดาวที่คณะแล้วเคยเจอพวกพี่ๆด้วย" คุณพระ!! สาบานซิว่าพ่อแม่ตั้งชื่อนี้ให้ตั้งแต่เกิด น้องเขาไม่คิดถึงตอนตัวเองแก่เหรอวะ 'คุณยายเมอร์รี่คริสต์มาส' โอยยยย
"อ่าจ้ะๆ แล้วเพื่อนหนูไปไหนกันซะล่ะ" ไอ้บีมมันเป็นคนตอบ
"เมอร์รี่ก็ไม่รู้เหมือนกันค่ะ เมอร์รี่ขอนั่งด้วยคนนะคะ เมอร์รี่ไม่กล้ากินข้าวคนเดียว ต่างถิ่นอ่ะค่ะ" น้องเขาทำหน้าเศร้าซะเวอร์เชียว ผมไม่ได้หาเรื่องอะไรนะเว้ย
"ได้สิแต่พวกพี่มีแต่ผู้ชายน้องเมอ เอ่อ น้องเมอร์รี่คริสต์มาสจะเบื่อได้นะ"
"เรียกเมอร์รี่เฉยๆก็ได้ค่ะ ไม่เบื่อหรอกค่ะพี่ๆน่าจะคุยสนุก จริงไหมคะพี่เป้ พี่เป้กินอะไรรึยังคะ พาเมอร์รี่ไปซื้อข้าวได้ไหมเอ่ย เมอร์รี่ไม่กล้าเดินไปคนเดียวอ่าค่ะ" บุ่ยๆๆๆ คนมีเป็นร้อยคนเดียวที่ไหน ดูเหมือนจะมนุษยสัมพันธ์ดีเนาะ แต่น้องมาอ้อนมาเกาะแขนผัวพี่ทำไมครับ -.-
"น้องเมอ เอ่อ เมอร์รี่ ร้านข้าวมันมีหลายร้านไม่ไกลด้วยพี่ว่าน้องเมอร์รี่น่าจะเดินไปเองได้นะ" ไอ้เป้มันตอบน้องเมอ(เรียกง่ายดี)อย่างสุภาพที่สุดแล้วค่อยๆแกะแขนน้องเมอออก โอเคผ่าน!
"แต่เมอร์รี่ไม่กล้าอ่ะค่ะ เมอร์รี่ไม่เคยไปไหนมาไหนคนเดียว" อุต๊ะ! ไม่กล้าไปไหนคนเดียวแล้วที่คุณน้องวิ่งมาหาพวกพี่คนเดียวนี่ล่ะ ผมชักจะได้กลิ่นแปลกๆจากคุณน้องเมอแล้วนะ
"คนเต็มโรงอาหารเลยน้อง'เมอร์รี่คริสต์มาส'เดินชนกันจนจะหลอมรวมเป็นร่างเดียวแล้วครับน้อง ถ้ากลัวมากไปกับพี่ก็ได้นะเดี๋ยวพี่คุ้มครอง" ไอ้บีมมันมองน้องเมอทีไอ้เป้ทีแล้วพูดขึ้นมา
"อื้มใช่ ไปกับไอ้บีมนะ ป่ะหลิวซื้อข้าวกัน หรือมึงจะรอนี่" โอเคสองผ่าน!
"ไปด้วย อยากเลือก ^^" แล้วผมกับไอ้เป้ก็เดินออกมาซื้อข้าวโดยปล่อยน้องเมอให้ไอ้บีมคอยคุ้มครองอยู่ข้างหลัง ผมเป็นสุภาพบุรุษใช่ไหมล่าาาาาา
Tbc.
ในที่สุดนางก็คุยกันรู้เรื่อง ไม่ค้างกันแล้วใช่ไหม 5555 ว่าแต่คุณน้อง 'เมอร์รี่คริสต์มาส' คือใคร? นางมาทำอะไร?
คนอ่านอย่าทิ้งเค้านะ
กอด
(โบกมืออย่างนางงาม)