DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายTHIRD&PUIMEK❁FIVE❁14-04-16 [P.72]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายTHIRD&PUIMEK❁FIVE❁14-04-16 [P.72]  (อ่าน 671472 ครั้ง)

ออฟไลน์ RiRi

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 568
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +595/-8
    • RiRiWorld
B.L.O.O.D.L.I.N.E
TWENTY-FIVE





        YATCH

        “อยากได้ตัวพี่ชายนายคืนกับรักษาชีวิตอเล็กซ์ไว้ ก็เอาชีวิตไอ้อาซามาแลก!” เอเดนประกาศกร้าวให้ได้ยินกันทั่วหน้า เอเดนให้ลูกน้องเขาล้อมเราไว้ทุกทาง โยชิถูกผู้ชายร่างโตรวบตัวเอาไว้ ส่วนอเล็กซ์สลบไม่ได้สติ ไม่รู้เอเดนทำอะไรกับเขา เขาใช้ผู้หญิงคนหนึ่งในการทำร้ายจนอเล็กซ์หมดสติไป เรากำลังจนตรอก

        “ปล่อยผมเอเดน!”

        “ถ้าไม่อยากให้น้องชายคุณเป็นอะไร ไปกับผมเสียดีๆ” เอเดนกระซิบข้างหูผม ผมต้องยอมงั้นสินะ

        “ไปให้คุณเอาผมไปต่อรองเพื่อทำเรื่องเลวๆอย่างนั้นน่ะเหรอ!” ผมระเบิดอารมณ์ไม่สนใจว่าจะก่อให้เกิดผลร้ายต่อตัวเองอย่างไรในภายหลัง ถ้าหากว่าเอเดนอยากจะทำ

        ผมยังไม่ทันได้รู้เรื่องราวใดๆ ก็พลาดท่าโดนจับได้ พวกเราคงคิดน้อยเกินไปที่คิดว่าเอเดนจะหลงกล ผมยอมรับเลยว่าเขาฉลาด แต่มันไม่ใช่เรื่องเลยที่เขาเอาความฉลาดมาใช้ในทางที่ผิด

        “ก็แล้วแต่จะคิด เดินตามมา!” เอเดนกระชากแขนผมให้เดินตาม

        “ฮึก พี่ยอร์ช เอเดน! อย่าทำอะไรพี่ยอร์ชนะ นายอย่าทำแบบนี้”

        ผมหันไปมองโยชิ น้องชายของผมที่เอ่ยขอร้องวิงวอนอย่างน่าสงสาร พยายามดิ้นให้หลุดออกจากการจับกุมแต่น้องชายผมตัวเล็กขนาดนั้นจะไปสู้แรงคนตัวโตกว่าได้ยังไง ผมกลัวว่าคนพวกนั้นจะทำร้ายโยชิ

        “อย่าให้พวกเขาทำร้ายน้องผม” ผมบอกกับเอเดนเสียงเบา เขาหันมองไปทางด้านหลังที่ผมมองจ้องโยชิด้วยความเป็นห่วง “เอเดน ผมขอร้อง”

        เพียงเรื่องเดียวเท่านั้นที่คนอย่างผมยอมทิ้งศักดิ์ศรี

        “ห้ามทำอะไรเด็กคนนั้นเกินกว่าที่ฉันสั่ง” เอเดนพูดสั่งลูกน้อง ผมสบายใจมากขึ้น อย่างน้อยตอนนี้โยชิจะปลอดภัย ยอมเดินตามเอเดนอย่างไม่ยินยอมพร้อมใจนัก

         “ขึ้นรถไป!” ผมสะบัดตัวหลุดออกจากแขนของเอเดน ถึงเขาจะตัวใหญ่กว่าผมอยู่หน่อย แต่นั่นไม่ใช่ปัญหาในการขัดขืน ถ้าคิดจะสู้จริงๆผมคิดว่าผมไม่มีทางแพ้ ถ้าเขาจะไม่กลายร่างเป็นงูเพื่อสู้กับคนธรรมดาอย่างผม ผมว่าผมกับเขาก็สูสีกันพอตัว

        ผมเข้าไปนั่งในรถแต่โดยดี เพราะเป็นห่วงความปลอดภัยของน้องชาย สำหรับผมแล้ว ผมให้โยชิได้ทุกอย่างแม้กระทั่งชีวิต ผมจะไม่ยอมให้น้องชายสุดที่รักที่ผมเลี้ยงดูเขามาตั้งแต่เขาเกิดให้มีอันตราย ผมสัญญากับพ่อและแม่ไว้แล้วว่าจะรักและดูแลโยชิให้ดีที่สุด ดีเท่าที่พี่ชายคนหนึ่งจะทำได้

        “คุณต้องการอะไร คุณต้องการตัวอาซาไปทำไม” ผมถามดีๆ ข่มอารมณ์ให้เย็นดุจน้ำแข็ง สูดลมหายใจเข้าออกช้าๆลึกๆ ถ้าเจรจาได้ ผมก็ไม่อยากใช้กำลังในการระบายความโกรธ แต่ทว่า บางครั้ง ความหงุดหงิด สับสนและความไม่สบายใจก็ตีปะทุเหมือนน้ำที่เดือดจัดฟองล้นออกนอกขอบหม้อได้เหมือนกัน

        “คุณไม่จำเป็นต้องรู้” เอเดนปล่อยอำนาจก้าวร้าวในดวงตาใส่ผมยามที่ตวัดสายตามามอง

        “แต่ผมไม่คิดอย่างนั้น เพราะตอนนี้ผมเข้ามาเกี่ยวเรื่องของพวกคุณเต็มๆ และผมควรจะต้องได้รู้ว่าเพราะอะไรที่ทำให้คุณเป็นคนแบบนี้”

        “ผมสั่งให้คุณทำอะไรก็ทำไปเถอะ อย่าถามมาก น่ารำคาญ”

         “เหอะ โทษทีนะ ผมไม่จำเป็นต้องเชื่อฟังคนที่ไม่เคยคิดจะเชื่อใครอย่าคุณหรอกน่ะเอเดน ไม่มีความจำเป็นสักนิด คนอย่างคุณน่ะ” ผมพูดเสียงแข็ง ห่างเหิน

        “คนอย่างผมมันทำไม!” เขาย้อนถามอย่างไม่พอใจ

        ผมยิ้มเยาะกวนประสาทเอเดนอย่างไม่กลัวตาย “ต้องให้ผมพูดถึงความสารเลวของคุณเหรอ อย่าเลย คุณน่าจะรู้อยู่แก่ใจ”

        “ยอร์ช!” เอเดนตวาดเรียกชื่อผมเสียงลั่น

        “ทำไม”

        “คุณไม่รู้อะไรสักอย่างเกี่ยวกับผม” เขากัดฟันพูดหน้าแดงอย่างโมโห

        “ใช่ ผมไม่รู้ หึ ไม่รู้จักคุณแม้แต่น้อย แต่ผมรู้ตัวช้าเกินไป ไม่อย่างนั้นก็คงไม่ไว้ใจมากับคุณถึงที่นี่”

        เขาไม่ตอบอะไร หันหน้าหนีออกไปนอกหน้าต่าง ความเร็วรวดเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

        “ไม่ว่าเหตุผลจะด้วยเหตุผลอะไรที่คุณทำลงไป ผมผิดหวังในตัวคุณมาก ผมเคยคิดว่าคุณไม่ได้เลวร้ายอะไร ความคิดผิดๆเพี้ยนๆของคุณในบ้างเรื่องไม่ใช่สิ่งที่จะเอามาชี้วัดว่าคุณเป็นคนดีหรือคนเลว ผมจึงพยายามที่จะเข้าใจและมองคุณในแง่ดีมาโดยตลอด” ผมผิวหวังมากถึงมากที่สุด เพราะผมเปิดใจให้เขา ไม่ตัดสินเขาง่ายๆเพียงแค่จุดเล็กๆบางจุดของเขาที่ไม่ค่อยจะโอเค และเมื่อทุกสิ่งที่คิด ทุกสิ่งที่คาดหวังมันบิดเบี้ยวไปหมด เมื่อทุกอย่างไม่เป็นไปอย่างที่ผมคิด ก้อนความเสียใจและความผิดหวังจึงกดทับที่หน้าอกทำให้หายใจไม่ออก

        ก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมผมต้องรู้สึกกับเขามากมายถึงเพียงนี้ เอเดนก็เป็นคนคนที่ผ่านเข้ามาในชีวิตโดยน้ำคำที่ว่าอยากร่วมธุรกิจกับผม ผมจึงคิดว่าเราน่าจะเป็นเพื่อนที่ดีต่อกันได้ และเพราะเขาไม่ได้ทำร้ายใส่ผมหรือเปิดเผยแผนการชั่วๆให้ผมได้รับรู้ตั้งแต่ที่แรก ผมจึงหลงผิดคิดว่าเขาเป็นคนดี

        “ผม...” เอเดนเหมือนจะพูดอะไรสักอย่าง แต่เขาไม่ยอมพูดมันออกมา เม้นปากแน่นด้วยใบหน้าเครียดขึง แววตาของเขาเต็มไปด้วยความเจ็บปวด ซึ่งไม่ควรเป็นแววตาของคนที่ทำผิดโดยไร้สามัญสำนึก

        เขาจะเสียใจไปทำไม ในเมื่อเขาไม่คิดจะหยุดทำร้ายคนอื่น จะเสียใจที่หลายๆคนหมดสิ้นความรู้สึกดีๆที่มีให้เขา ในเมื่อเขาไม่คิดจะกลับตัว

        “เลิกได้ไหม เลิกทำร้ายคนอื่นเสียที”

        “แล้วทีคนอื่นทำร้ายผมล่ะ ที่ผมต้องเจ็บปวด มีใครสนใจบ้าง!” ดวงตาของเอเดนแดงกล่ำน่ากลัว ผมเงียบไม่พูดอะไร ก็จริง ผมไม่รู้เรื่องราวของเขา แต่ผมก็ยังคงยืนยันคำเดิม

        “แต่การที่คุณทำแบบนี้ก็ไม่ช่วยทำให้คุณรู้สึกดีหรอก อาซาอาจจะทำให้คุณเจ็บช้ำ แต่แล้วยังไง ถ้าคุณฆ่าอาซา คุณจะหายเจ็บปวดอย่างนั้นเหรอ บอกผมสิว่าคุณจะรู้สึกดี”

        “ไม่มีมัน ผมก็จะยิ่งใหญ่ที่สุด”

        ผมไม่พูดอะไรอีกต่อไป หันหน้าหนีอย่างจนปัญญา เอเดนไม่คิดจะฟังใครหน้าไหนทั้งนั้น เขากำลังหลงทางกำลังเดินทางผิด ต่อให้ผมอยากช่วยฉุดรั้งให้เขาเดินไปในทางที่ถูก แต่ถ้าเจ้าตัวไม่ต้องการ ใครจะไปบังคับได้

        “เอาโทรศัพท์ของคุณมาให้ผม”

        “ทำไมผมต้องให้คุณ”

        “คิดว่าคุณไม่รู้หรือไงว่าคุณกับน้องชายติดต่อกันยังไง” เอเดนหัวเราะเยาะใส่ผม ใช่ ผมโง่มากที่คิดว่าเขาไม่รู้ไม่สงสัย

        “เอามา!” เขาพูดเสียงเข้ม

        “คุณจะสั่งผมได้ก็ตอนนี้เท่านั้น จำไว้” ผมล้วงโทรศัพท์มือถือส่งให้เอเดน เขารับไป มองหน้าผมนิ่งอย่างผู้ได้รับชัยชนะ ก่อนที่เขาจะกดปุ่มให้กระจกรถเลื่อนลงแล้วขว้างโทรศัพท์มือถือของผมออกไปนอกรถ ผมหันหลังมองทางด้านหลัง เห็นเพียงเศษซากโทรศัพท์มือถือที่เละไม่มีชิ้นดีอยู่กลางถนน

        “เอเดน!!!” ผมกระชากคอเสื้อเขาด้วยแรงทั้งหมดที่มี มือที่กำคอเสื้อของเขาจิกแน่น เส้นเลือดปูดขึ้นเห็นเป็นรอยตามผิวหนัง และเมื่อผมไม่สามารถระงับความโกรธได้อีกต่อไป ผมฟาดหวัดใส่หน้าเอเดนอย่างแรงไม่มีออมน้ำหนัก หน้าเขาหันไปตามแรงมือ ผมกำเสื้อเขาเอาไว้แน่นอีกพร้อมจะส่งหมัดใส่หน้าเขาได้ทุกเมื่อ

        “มันจะเกินไปแล้วนะ!” ผมกรนเสียงต่ำในลำคอ เอเดนเพียงแค่ใช้ลิ้นกวาดไปมาที่กระพุ้งแก้ม มีเลือดไหลซึมตามมุมปาก “อย่าให้ฉันต้องหมดความอดทน”

        “คุณคิดว่ามนุษย์ตัวเล็กๆอย่างคุณจะทำอะไรผมได้อย่างนั้นเหรอ”

        อ่อ ใช่สิ ผมลืมไปได้ยังไงว่าเขาเป็นอะไร

        “ผมอาจสู้คุณด้วยพละกำลังไม่ได้หรอกนะไอ้งูขี้อิจฉา แต่ว่า...ผมมีสิ่งที่ยิ่งใหญ่ที่คุณไม่มี”

        “...”

        “หัวใจที่ไม่เคยหลงผิดทำร้ายคนอื่นโดยเฉพาะคนในครอบครัวยังไงล่ะ และเสียใจด้วย คุณเสียสิ่งที่ผมเคยให้คุณไปแล้ว ความรู้สึกดีๆและความเป็นเพื่อน”




        รถมุ่งหน้าออกนอกเมืองเรื่อยๆ ผมไม่คิดที่จะพูดกับเอเดนต่อให้เสียความรู้สึกมากไปกว่านี้ ป่านนี้โยชิกับพวกของอาซาน่าจะกำลังตามมา ผมพยายามที่จะทำหัวให้โล่ง เลิกคิดในสิ่งที่ตัวเองยังไม่รู้ต้นสายปลายเหตุของเรื่องราวทั้งหมดที่กำลังเกิดขึ้น

        นานร่วมสองชั่วโมงที่ผมนั่งนิ่งไม่ขยับเขยื้อนหรือเอื้อนเอ่ยสิ่งใด จนกระทั่งได้เห็นโบสถ์เก่าตั้งอยู่เบื้องหน้า เป็นสิ่งเดียวที่ผมสังเกตเห็นตั้งแต่ขึ้นรถมากับเอเดน ระหว่างทางผมเอาแต่คิดว่าอะไรที่ผมควรทำได้ ซึ่งคำตอบก็คือ ไม่มีอะไรที่ผมพอทำได้ในตอนนี้

        เอเดนลงจากรถ ไม่ลืมลากผมลงไปด้วย ข้อมือของผมที่ถูกเขาจับแน่นถูกลากให้เดินตาม รอบด้านเป็นทุ่งกว้าง สภาพของโบสถ์เบื้องหน้าเหมือนโบสถ์ร้าง เก่าและจวนพัง ร่างไร้สติของอเล็กซ์ถูกห่ามผ่านหน้าผมกับเอเดนเดินเข้าไปในโบสถ์

        “คุณจะทำอะไรเขา” ผมไม่รู้จักว่าผู้ชายที่ชื่ออเล็กซ์เป็นใคร แต่ผมรู้ว่ามาเพื่อช่วยผมและเราทุกคน

        เอเดนปรายตามองผมว่าอย่ายุ่งเรื่องของเขา ผมถอนหายใจรำคาญใส่ ไม่พูดไม่บอก ใครจะไปเข้าใจว่าเขาคิดอะไร

        “เจ้านั่นยังอยู่ไหม” เอเดนถามชาร์ลที่เดินเขามาใกล้ ผมส่ายหัวเมื่อเห็นหน้าอีกคนที่รู้จัก ไม่น่าเลยจริงๆ

        “ยังอยู่ มันพยายามจะหาทางหนี แต่ก็หนีไม่พ้น สวัสดียอร์ช” เขาหันมาทักผมด้วยสีหน้าสบายใจ

        “ก็ดี อีกไม่นานอาซามันจะมาที่นี่ เราต้องเตรียมทุกอย่างให้พร้อมเพื่อต้อนรับมัน” เอเดนพากผมเข้าไปในโบสถ์ร้าง ภายในมืดและเหม็นอับ ที่นั่งทุกตัวมีฝุ่นจับทุกพื้นที่

        “นั่งตรงนี้” เอเดนกดตัวผมให้นั่งลงที่ม้านั่งด้านหน้าสุด เบื้องหน้าคือแท่นพระเยซูบนไม้กางเขนที่เต็มไปด้วยหยากไย้และฝุ่นผง

        “อ่ะ เอาไป” ผู้ชายอีกคน รูปร่างผอมสูงโปร่ง ดวงตาเรียวรีลุคดูเฉี่ยว เขาเพียงมองผมด้วยหางตา ท่าทางดูหยิ่งไม่เป็นมิตร เขาส่งโซ่เส้นใหญ่ให้เอเดน

        “ขอบใจ” เอเดนบอก เขาก้มมองดูโซ่เส้นใหญ่ประมาณหนึ่งในมือ

        “จะให้จัดการไอ้นั่นเลยไหม” ผู้ชายร่างผอมถามเอเดนพยักหน้าไปทางอเล็กซ์ที่ถูกจับให้นั่งบนเก้าอี้เหล็กเก่าๆตัวหนึ่ง ร่างกายของอเล็กซ์ถูกพันไว้ในโซ่ลักษณะเดียวกับเส้นที่อยู่ในมือของเอเดน

        ผมขมวดคิ้วมองพวกเขาสลับกัน พวกเขาจะทำอะไรกับอเล็กซ์ ผู้หญิงคนเดิม ผมสีน้ำตาลแดงของเธอยาวคลอเคลียใบหน้าไปจนถึงกลางหลัง เธอเดินเข้ามายืนใกล้พวกเรา มองจ้องผมอย่างไม่เป็นมิตร สายตาหน้ากลัวดูแลไม่ใช่สายตาของมนุษย์ หรือว่าเธอจะเป็นงูเหมือนเอเดน แต่ผมคิดว่าไม่น่าใช่ แววตาแบบนี้มันไม่เหมือนงู

        “ชู่ อย่ายุ่งกับคนของฉัน” เอเดนปรามเมื่อเธอแยกเขี้ยวใส่ผม เธอมีเขี้ยวและมันทำให้ผมมั่นใจเพิ่มขึ้นถึงร้อยเปอร์เซ็นต์แล้วว่าเธอไม่ใช่มนุษย์จริงๆด้วย “พาเธอไปทำหน้าที่ได้แล้วเบนก่อนที่พวกนั้นจะมาถึง” เอเดนสั่งผู้ชายร่างผอมที่เขาเรียกว่าเบน

        “ชาร์ล มาช่วยกันหน่อยดิ” เบนตะโกนเรียกชาร์ลที่ยืนเฝ้าอยู่ที่หน้าประตู

        ผมหันกลับมาทางเอเดน เมื่อเขาเอาโซ่ในมือพันร่างกายผม ผมผุดลุกยืนในทันที แต่เอเดนกดไหล่ผมให้นั่งลงจนเจ็บ ใช้ดวงตาดุร้ายของอสรพิษในการข่มขวัญให้ผมปฏิบัติตม ความรู้สึกของผมต่อต้านผ่านทางแววตา แต่จำต้องยอมให้ร่างกายทำตามความต้องการของเขา

        โซ่เส้นหนาพันรอบตัวของผม แขนทั้งสองข้างถูกไพร่ไปทางด้านหลัง เก้าอี้ตัวยาวที่วางตั้งในโบสถ์ไม่ถ้าเก้าอี้ตัวเล็กๆ แต่เอเดนก็พยายามอย่างมากที่จะมัดผมไว้กับมัน  ตามด้วยใช้กุญแจตัวใหญ่พันธนาการผมไว้ไม่ให้หลุดออกไปขัดขืน

        เขามองผมโดยไม่ได้มองตาเป็นครั้งสุดท้ายก่อนจะเดินตรงไปหาเพื่อนเขาที่ยืนล้อมอเล็กซ์เอาไว้ ผมหันไปมองทางประตูโบสถ์ มีลูกน้องของเอเดนจำนวนหนึ่งคอยเฝ้าดูต้นทาง โยชิกับอาซาและพวกน่าจะกำลังมา ผมรู้ได้จากนิสัยของน้องชายและคำพูดยั่วยุของเอเดน แต่คงไม่ใช่ภายในห้านาทีหรือสิบนาทีข้างหน้านี้ที่พวกเขาจะมาถึง

        ผมหันกลับไปมองจุดที่พวกเอเดนยืนอยู่อีกครั้ง ผู้หญิงผมสีแดงอยู่อยู่เบื้องหน้า เธอเอียงคอไปมามองจ้องอเล็กซ์อย่างสนอกสนใจ ไม่ต่างจากอเล็กซ์เป็นของเล่นชิ้นหนึ่ง คนที่ชื่อเบนเดินอ้อมไปข้างหลังเก้าอี้ที่อเล็กซ์นั่งหมดสติ  เสียงพูดของเอเดนเอ่ยกับผู้หญิงคนนั้น ผมได้ยินไม่ถนัด เอเดนหันมามองผมอีกครั้ง ใบหน้าเขาเรียบนิ่งไม่บ่งบอกความรู้สึกนึกคิดใดๆ ไม่บ่งบอกว่าเขารู้สึกยังไงในเวลานี้

        และเมื่อเอเดนหันกลับไปทางเดิม เขาอ้าปากขยับเพียงคำสองคำกับผู้หญิง เป็นคำสั่งอะไรสักอย่างที่ทำให้เธอพุ่งเข้าบีบศีรษะของอเล็กซ์ด้วยมือทั้งสองข้าง มือมนุษย์เปลี่ยนเป็นมือของสัตว์ที่มีขนสีน้ำตาลอ่อน การสันนิฐานของผมเป็นจริง ผู้หญิงคนนี้ไม่ใช่คน แต่เธอเป็นสัตว์อะไรสักอย่างที่ผมยังเดาไม่ได้

        มือที่เธอบีบศีรษะของอเล็ซก็เกร็งจนเห็นกล้ามเนื้อ เธอโน้มใบหน้าจรดที่หน้าปากของอเล็กซ์ และอยู่ๆอเล็กซ์ที่ไม่ได้สติก็สะดุ้งก่อนจะกรีดร้องเสียงโหยหวนอย่างทรมาน ร่างกายของผมขยับจะเข้าไปช่วย แต่ลืมนึกไปว่าผมถูกโซ่เส้นใหญ่มัดร่างกายเอาไว้กับโต๊ะ ทำให้ลุกออกไปไม่ได้ ใบหน้าของอเล็กซ์บิดเบี้ยวเข้าไปทุกที เขายังคงร้องไม่ได้สติ ทุรนทุรายก โลหิตสีแดงฉานไหลออกมาจากจมูกและปาก แสงสีขาวบางอย่างลอยออกมาจากจุดที่เลือดไหล

        “หยุด! หยุดทำร้ายเขาเดี๋ยวนี้ เอเดน!” ผมตะโกนห้ามพวกเขา แต่ไม่มีใครสักคนคิดจะใส่ใจฟังคำทัดทานของผม ผมกระชากแขนตัวเองอย่างคนสิ้นคิด ต่อให้ผมดิ้นมากกว่านี้ก็ไม่สามารถทำให้โซ่เหล็กขาดสะบั้นอย่างง่ายดายเช่นเส้นฟาง

        “อ๊ากก! อ๊อก!! อื้ออ!!!” เสียงร้องของอเล็กซ์ดังเสียแทงหูบีบคั้นความรู้สึก อเล็กซ์กระอักเลือดออกมาเรื่อยๆ ร่างกายของเขากระตุกสั่นจนตัวโยน ผมพยายามกระชากตัวออกจากโซ่ตรวนที่หนาแน่น แต่ไม่ว่าจะขยับยังไงก็ไม่หลุดพ้น ซ้ำแต่จะทำให้ร่างกายได้รับบาดแผลและความเจ็บปวด อเล็กซ์ทำเพียงปรายตามองผม แววตาเขาต่อว่าการกระทำที่งี่เขาไร้ประโยชน์ของผม แต่ต่อให้รู้ว่าทำไปก็เจ็บตัวเปล่า ผมก็ไม่อาจอยู่นิ่งนั่งมองคนใกล้จะตาไปต่อหน้าต่อตาเหมือนเอเดนที่ยืนมองนิ่งอย่างไม่สะทกสะท้าน

        แน่ละ เขาจะไปรู้สึกอะไรได้ยังไง ในเมื่อเขาเป็นคนออกคำสั่ง

        ปึกๆ! แกร๊ง!!

        “โธ่โว้ย!! หยุด บอกให้หยุดไง เอเดนอย่าทำร้ายเขา!!!”

        ผมตะโกนจนคอจะแตก แต่เสียงขอผมไม่เข้าไปถึงจิตใจของผู้ชายคนนั้น คนที่ผมเคยรู้สึกดีด้วย

        “เฮือก อั่ก!!!” ร่างของอเล็กซ์กระตุกจนตัวโยนเป็นครั้งสุดท้าย ผู้หญิงคนนั้นปล่อยมืออกจากหัวของเขา เธอหอบหายใจแรงเหมือนเหนื่อยจัด ผมเองก็ไม่ต่างกัน นั่งนิ่งๆหยุดขยับเคลื่อนไหว ผิวกายเต็มไปด้วยรอยช้ำจากการเสียดสีกับโซ่ ถลอกจนเลือดซิบ แต่ผมไม่รู้สึกเจ็บปวดเลย กลับกัน ภาพของอเล็กซ์ทำให้ผมเจ็บมากกว่า อเล็กซ์ทำผิดอะไร ทำไมเอเดนต้องทำร้ายเขาอย่างเลือดเย็น

        “ได้ความอะไรบ้างวาเนสซ่า เล่าสิ มีเรื่องอะไรเกี่ยวกับหัวใจบาซิลิสก์บ้าง” เอเดนพูดน้ำเสียงเร่งเร้ากับเธอ

        เธอสูดลมหายใจลึกก่อนจะพ่นพรืดเสียงดัง “หัวใจของบาซิสิก์ ของวิเศษที่บาซิลิสร่ายคำสาปเอาไว้ให้แก่คนที่ถูกเลือก เพื่อเป็นตัวแทนของมัน ถึงร่างจะตายสลายไป แต่ถ้าหัวใจยังอยู่ ก็เท่ากับว่ามันยังมีชีวิตอยู่”

        เสียงของวาเนสซ่าดังเป็นโทนเดียว ไม่มีจังหวะจะโคน ฟังดูเอื่อยเฉื่อยอย่างกับหุ่นยนต์ ไร้ชีวิตชีวา

        “อำนาจของหัวใจบาซิลิสก์ผู้ที่ได้ชื่อว่าเป็นราชาของงู ผู้ที่ถูกเลือกให้ได้ครอบครองจะมีพลังอำนาจทุกอย่างดังที่บาซิลิกซ์มี พลังทุกอย่างที่นากินีได้รับมาจากไอพิษของบาซิลิกซ์นั้นน้อยนิดกว่าอำนาจที่แท้จริงหลายร้อยเท่า พลังดั่งปีศาจทำให้ผู้ที่ครอบครองมีอำนาจพิเศษเหนือสิ่งมีชีวิตอื่นใดในโลก แต่ในทางตรงกันข้าม หากผู้ที่ครอบครองไมรู้จักวิธีควบคุมมัน...”

        เธอพูดเรื่องอะไร ผมไม่เข้าใจ

        “ว่าต่อสิ เร็ว” เอเดนเอ่ยเร่งให้วาเนสซ่าที่หยุดช่วงพูด

        “ถ้าผู้ที่ครอบครองใช้อำนาจจากหัวใจบาซิลิกซ์ไม่ถูกวิธี ทุกอย่างบนโลกไปนี้จะพลังพินาศ สูญสิ้นไม่มีชิ้นดี ผูที่รู้ว่าหัวใจบาซิลิกซ์อยู่ที่ใคร ก็มีเพียงเจ้าตัว ผู้กุมความลับ และ ทายาทของพ่อมดเฮอร์โป”

        “ความทรงจำอะไรอีกที่เธอดึงออกมาได้”

        “ตอนนี้หัวใจบาซิลิกซ์เคยอยู่กับอาซา แต่ตอนนี้ ครึ่งหนึ่งถูกแบ่งไปอยู่ทีโยชิ...”

        ร่างของผมชาเหมือนถูกแช่แข็งเมื่อได้ยินชื่อน้องชายของตัวเองออกจากปากวาเนสซ่า โยชิเกี่ยวข้องอะไรกับหัวใจบาซิลิกซ์ที่พวกเขาว่า สรุปแล้วมันยังไงกันแน่ ทำไมน้องผมถึงมีหัวใจบาซิลิสก์อยู่ที่ตัวครึ่งหนึ่ง มันเป็นไปได้ยังไง ผมไม่เข้าใจ สิ่งที่พวกเขาพูดกันมันเกินกว่าที่มนุษย์ธรรมดาอย่างผมจะหยั่งถึง

        “อะไรนะ!?” เอเดนถามอย่างไม่อยากเชื่อหู

        “มันถูกแบ่งออกเป็นสอง ครึ่งหนึ่งอยู่ที่คนที่ชื่ออาซา อีกครึ่งอยู่ที่คนชื่อโยชิ” วาเนสซ่าย้ำอีกครั้ง

        หัวผมอื้อคล้ายถูกฟ้าผ่าลงกลางกระหม่อม หมายความว่ายังไง ถ้าสิ่งที่เอเดนต้องการอยู่ที่โยชิด้วย นั่นหมายความว่า เขาจะฆ่าน้องชายผมอย่างนั้นเหรอ

        “โยชิ” เอเดนพึมพำชื่อน้องชายที่รักของผมก่อนจะหันมามองผมด้วยแววตาอยากที่จะเข้าใจ แต่ผมรู้สึกด้วยประสาททุกเส้นในร่างกายว่าเอเดนเอาจริง

        “มีอะไรอีกไหม” เอเดนถามวาเนสซ่าอีกครั้ง

        “ไม่มี” เธอส่ายหน้าสองที

        “หึ ขอบใจมาก เบน ให้รางวัลแม่สาวเลโอฝึกหัดคนนี้หน่อยสิ” เอเดนแสยะยิ้มที่มองยังไงก็ชั่วร้ายที่สุด บางอย่างที่เลวร้ายครอบงำเขาจนไร้สตินึคิด

        เอเดนก้าวถอยห่างให้เบนเดินเข้าไปใกล้วาเนสซ่า เบนเดาะลิ้นที่กระพุ้งแก้ม แล้วกลายร่างเป็นงูอย่างรวดเร็วรัดร่างของวาเนสซ่าแน่น เสียงกรี๊ดร้องดังเพียงเสี้ยววินาทีก่อนที่ร่างของเธอจะสลายเป็นฝุ่งลงล่วงลงสู่พื้น

        ผมเบิกตาโตมองเบนและเอเดนอย่างไม่เข้าใจ นี่เหรอคือรางวัลตอบแทน อย่างน้อยเธอก็ช่วยเขา ทำไมต้องฆ่าเธอด้วย เอเดนยังมีหัวใจอยู่ไหม

        “คุณมันเลว” ผมพูดเสียงปกติให้เอเดนได้ยิน เขาเลิกคิ้วหันหน้ามาทางผม เสียงเอ่ยกับเบนที่กลายร่างกลับสู่สภาพมนุษย์

        “ไปพาตัวผู้ช่วยคนสำคัญมาที่นี่ที ใกล้จะถึงฉากสำคัญแล้ว”

        “ไอ้ทายามพ่อมดนั่นน่ะนะ มันจะมีแรงลุกขึ้นมาไหวหรือเปล่า ลูกน้องเราเล่นยังเสียขนาดนั้นเพราะมันไม่ยอมคลายความลับ” เบนบ่นหัวเสีย

        “ฉันมีวิธี ทำตามที่ฉันสั่งก็พอเบน”

        “เออ” เบนเดินออกไป เมื่อเขาเดินผ่านผม เขาเพียงส่ายหน้าและถอนหายใจใส่เท่านั้น

        เอเดนเดินมาใกล้ๆผม เขาทิ้งตัวนั่งลงข้างๆ ผมไม่อยากแม้แต่จะอยู่ใกล้แต่ขยับตัวหนีไม่ได้

        “ที่คุณรังเกียจอาซาที่เป็นน้องตัวเอง เพียงเพราะเขามีหัวใจบาซิลิกซ์เนี่ยนะ” ผมกล้าพูดได้เลยว่า ต่อให้โยชิมีอะไรที่พิเศษหรือดีกว่าผมเป็นร้อยเท่า ผมก็ไม่มีวันที่จะเกลียด เพราะเขาเป็นน้องชายเป็นคนในครอบครัว แต่กับเอเดนมันคงไม่เหมือนกัน ผมรู้ จิตใจของคนไม่เหมือนกันไปหมดซะทั้งโลก

        เอเดนชะงัก ในชั่วขณะสั้นๆ ใบหน้าที่ดูดีจนเข้าขั้นยอดเยี่ยมของเขาฉายแววเจ็บปวดอย่างไม่คาดฝัน

        “คุณจะไปเข้าใจอะไรยอร์ช คนที่เกิดมาในครอบครัวอบอุ่นอย่างคุณไม่มีวันเข้าใจความรู้สึกของผม” เขากัดฟันพูดระบายความในใจ

        “พ่อคุณรักคุณ คุณภาคภูมิอยู่ในตำแหน่งลูกชายคนโตและพี่ชายที่แสนดีแล้วคุณคิดว่าคุณสามารถเอาชีวิตครอบครัวที่แสนเพอร์เฟ็คของตัวเองมาตีกรอบครอบครัวของคนอื่นได้เหรอ”

        เขาส่ายหน้าช้าๆ มองเข้ามาในดวงตาของผม “ผมเป็นลูกชายคนโต ถูกเคี่ยวเข็ญให้ทำทุกอย่างตามกฎระเบียบของตระกูลเพื่อวันหนึ่งจะขึ้นครองตำแหน่ง แต่แล้ว พ่อก็ไปคว้านากินีชั้นต่ำมาทำเมีย แม่ทนไม่ได้ฆ่าตัวตายจากไป ในวันที่แม่ตาย เป็นวันเดียวกับที่อาซาเกิด คุณไม่มีวันลืมวันที่น่าอัปยศที่สุดในชีวิต แค่หลับตาก็เห็นภาพที่แม่ตายอย่างโดดเดี่ยวเพราะพ่อมัวแต่ชื่นชมการเกิดมาของมัน!” เขาตะคอกสุดเสียง มือทั้งสองข้างกำแน่นขึ้นเห็นเส้นเลือดปูดโปน

        “และที่เลวร้ายมากกว่านั้น ผู้ตรวจดวงชะตาทำนายว่ามันจะเป็นผู้ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดเหนือใครในโลกใบนี้ พ่อดูจะดีกว่าการที่มีผมเป็นลูก ดูแลประคบประหงมมัน เตรียมให้มันได้ขึ้นครองตำแหน่งแทน แล้วผมล่ะ ฮะๆๆ ก็หมาหัวเน่าดีๆนี่เอง ทำไมต้องเป็นมัน ทำไมไม่เป็นผม ผมที่เกิดจากนากินีชั้นสูง เป็นลูกที่เกิดเมียที่ถูกต้องตามกฎหมาย มันควรเป็นผมที่ได้ทุกอย่าง แต่พ่อกับประเคนไปให้มัน!!! คุณบอกผมสิ ว่าผมสมควรจะเห็นมันเป็นน้องอย่างนั้นเหรอ มันเกิดมาเพื่อที่จะแย่งทุกอย่างไปจากผม แย่งความรักจากพ่อจากคนรอบข้าง แย่งอนาคตที่พึงเป็นของผม แต่สุดท้ายก็กลายเป็นของมัน”

        ผมจุกกับสิ่งที่รับรู้จนพูดไม่ออก เอเดนพูดถูก ผมไม่รู้เรื่องอะไร  แต่ยังไงผมก็ไม่เห็นด้วยกับสิ่งที่เขากำลังทำอยู่

        “ผมน่ะ เจ็บกับการเป็นคนที่ถูกมองข้ามมาเกินพอแล้ว” สีหน้าเจ็บปวดของเขาดูเป็นสัญญาณอันตรายชอบกล

        “ถ้าผมได้มันมา ทุกคนจะต้องอยู่ในอำนาจของผม จะไม่มีใครลืมผม จะไม่มีใครเพิกเฉยต่อผม ทุกอย่างที่ผมอยากได้ผมจะได้!!!”

        “ใช่ คุณจะได้ทุกอย่าง ยกเว้นความรักและความจริงใจ ผู้คนอาจก้มหัวให้กับอำนาจของคุณ แต่ไม่ใช่เพราะเขารักหรือรู้สึกดีต่อคุณ แต่เพราะเขาเกรงกลัวต่างหาก” ผมพยายามใช้น้ำเย็นเข้าลูบ พยายามชี้ทางสว่างให้กับเอเดนผู้ที่หลงอยู่ในความมืด

        “แต่อย่างน้อยอาซาก็เป็นน้องของคุณ ไม่ว่าจะยังไงเขาก็คือคนในครอบครัว คุณต้องรู้จักปล่อยวางและพอใจในสิ่งที่คุณได้ ซึ่งมันมากกว่าคนอื่นด้วยซ้ำ”

        “พ่อพระดีนี่” เขาทำเสียงประชดประชัน ใบหน้าของเขาแข็งขึง

        “แต่ขอโทษทีนะคุณยอร์ช คุณอาจมองโลกในแง่ดีจนเกินไป ผมถามหน่อย ถ้าคุณมาเป็นผม มายืนอยู่ในจุดที่ผมยืน คุณจะทำได้อย่างที่พูดจริงๆน่ะเหรอ คุณจะปล่อยวางทุกความทุกค์ความเสียใจนานนับพันปีได้อย่างนั้นเหรอ!” เอเดนกัดฟันกรอด

        “ถ้าคุณลองได้มาเป็นผมจริงๆนะยอร์ช คุณจะไม่มีทางพูดแบบนั้นเหรอ ไม่มีทาง” น้ำเสียงของเขาแฝงแววเยาะเย้ย

        “แต่ที่คุณกำลังทำอยู่ตอนนี้มันก็ไม่มีอะไรดี เชื่อผมเถอะนะ หยุดเถอะ” ผมยืนกราน พูดทุกคำ ช้าๆชัดๆ เพื่อให้เขาเข้าใจ และพยายามระงับความโกรธของตัวเองไปในตัว

        “ผมมาไกลเกินกว่าจะถอยหลัง และผมไม่มีความจำเป็นต้องเชื่อคนอย่างนาย”

        ผมอึ้งไปพักหนึ่ง รู้สึกไม่ชอบใจตัวเองเล็กๆกับความสงสารที่ผุดขึ้นมาเมื่อสักครู่

        “ถ้าคุณต้องการอย่างนั้น ก็เชิญ และจงจำเอาไว้ ถ้าคุณทำร้ายน้องผมแม้เพียงปลายเส้นผม ผมสาบานเลยว่าจะเป็นหนึ่งคนที่จะเกลียดคุณไปจนวันตาย!”



        ...........................
        ตอนนี้บอกได้เพียงว่า...เอาที่พี่สบายใจนะเอเดน เอาตามที่สบายใจเล้ยยยยยย
        ตอนหน้าใครรอน้องโยบู๊ หึหึ เจอกัน
        ป.ล. อ่านแล้วเม้นให้เขาหน่อยนะตัวเองงงงง ใกล้จบล่ะ ขอกำลังใจนิด  :กอด1:
        จุ๊บ~ :mew1:




ออฟไลน์ •ผั๑`|nกุ้va’ด•

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1278
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +111/-69
โยชิ ปกป้อง อาซาด้วยนะ

ออฟไลน์ jbook

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 148
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
=_= เอเดน เมื่อไหร่จะสำนึกครัชชชชช

ออฟไลน์ yymomo

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 921
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-3
 :o12: :sad4:  โถๆๆๆ พ่ออเล็กซ์ของช๊านนนน จะเป็นอะไรมั้ยเนี่ย อย่าเป็นอะไรเลยเถอะ   :hao5:

เอเดนนนนน แกมันเลวยันวินาทีสุดท้าย  เอิ่มม อันนั้นคือแรกที่คิดนะ แต่พอมาฟังอดีตที่เอเดน เล่าแล้วแอบสงสารจับใจ

เหมือนกันนะ เพราะถ้า อาซา ไม่ได้มีนิสัย ไม่อยากได้อะไรจากผู้เป็นพ่อแล้วล่ะก็ เอเดนคงอยู่ต่ำเตี้ยกว่าอาซาไปหลายขุมจริงๆ

ดีนะที่อาซาไม่ใช่คนแบบที่บอกเอเดนจินตนการไปเอง ก็ได้แต่หวังว่าพ่องูใหญ่ของเรา จะรู้ตัวสักทีว่ามีเนื้อคู่อยู่ในมือแล้ววว


ออฟไลน์ saruttaya

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 926
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +40/-6
รำคาญอีตาเอเดนจริงๆเลย โดนพี่ยอร์ชเกลียดแล้วจะรู้สึก

ออฟไลน์ 111223

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 909
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +276/-5
เมื่อไรเอเดนจะกลับตัวกลับใจสักทีเน้อ เราลุ้นแล้วลุ้นอีก
ระวังเถอะ โดนเกลียดขึ้นมาแล้วจะรู้สึก หึหึ

ออฟไลน์ Min*Jee

  • เอวรี่ติงจิงกะเบล
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2792
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +89/-5
พี่ยอร์ชของเค้าาาาาาาาาาาาาาาาา เกลียดมันเลยค่ะ เกลียดมันเยอะๆๆๆๆๆๆๆ
บังอาจมาทำร้ายเรา แบบนี้ต้องเจอ!!!!
รอตอนหน้า น้องโยจะบู๊แล้วววววว

ออฟไลน์ janeyuya

  • ชี่น้อยวิ่งหัวซุกหัวซุน... (*¯︶¯*)
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 178
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-0
    • สมาคมศรีพันยาแห่งบ้านทาคาคิ
โอ้ยยยยยยยยยย เอเดน อิบ้าาาาาาาาาาา
อยู่มาได้ไงตั้งพันปีคะสมองคิดเป็นอยู่แค่เนี้ย
พี่ยอร์ชไม่ต้องไปสงสารค่ะ เสียความรู้สึกจริงๆ
ไอ้เราก็อุตส่าห์เคยคิดว่าน่าจะฝากผีฝากไข้พี่ยอร์ชเราได้ อิเลวววววววว

ออฟไลน์ hoshinokoe

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1042
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +31/-0
โห่  ดราม่าแล้ววว    พี่ยอร์ช กะ พี่เอเดน อิๆ
ชอบโมเม้น สองคนนี่กุ๊กกิ๊กกันนะ 
รอตอนหน้า น้องโย บู๊นะจ๊ะ
ปล จะจบภาคแล้วเหรอออ

ออฟไลน์ bobie

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2182
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +269/-7
สงสารเอเดนนะ
แต่การกระทำของเอเดนก็เกินไปอ่ะ
ทำคนที่ไม่เกี่ยวข้องด้วยทำไม
ระวังเหอะจะโดนพี่ยอร์ชเกลียดเข้าจริงๆ


CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ BeauBeeiiz

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 420
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-1
อยากเห็นโยชิบู้ อย่าให้โมโหนะ!!


สงสารอเล็กซ์!!เจ็บไปด้วยเลย

ออฟไลน์ ☾❤Nyanpire❤☽

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1836
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +148/-2
ปัญหาทุกอย่างของเรื่องเกิดจากพ่อที่ไม่รู้จักพอ ทำให้แม่เอเดนช้ำใจ แถมยังฆ่าคนรักของลูกชายอีก
พ่อสำนึกผิดแล้วก็ควรแก้ไขปัญหาด้วยกันกับฝ่ายอาซา

ถึงเอเดนจะน่าสงสาร แต่ที่ทำมันก็เกิดไป ฆ่าคนเป็นว่าเล่น
ไม่คู่ควรกับยอร์ช เกลียดเลยยยยยผู้ชายแบบนี้


อยากเห็นน้องโยชิกลายเป็นงูขาวแล้วอะ

ออฟไลน์ HanATarO

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2141
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +132/-2
งานนี้ขอเถอะค่ะ ขอกระทืบหน้า เอเดน สักล้านทีได้มั้ยค่ะ เอาให้สมองกลับเลยยิ่งดี เกลียดมันโว้ยยยยยยยย

 :z6: :z6: :z6: :z6: :z6: :z6: :z6: :z6:

เดี๋ยวแกก็จะได้สำนึก เอเดน หึ!!!


ออฟไลน์ ioohja

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 115
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-0
บางทีก็สงสารเอเดน บางทีก็อยากจะกระโดดเตะ อ๋อยยยยยยยยย  :katai1:

ออฟไลน์ Yร้าย

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 732
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +39/-1
สมน้ำหน้าเอเดนโดนยอร์ชเกลียดซะเลย เดี๋ยวหาแฟนใหม่ให้พี่ยอร์ชดีกว่า...อิอิ..มโนว่าเป็นแฟนกันแล้ว..55555...

ออฟไลน์ bodun

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 10
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
 o13 รอดูลูกเจี๊ยบ เอ้องูดื้อสำนึกผิด                                                     ป         

ออฟไลน์ Rambluesky

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 439
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +29/-3
รออ่านต่อนะครับ  :L1: :pig4:

ออฟไลน์ ice.sp0211

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 224
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
เพราะอำนาจ...เอเดนนายระวังจะไม่เหลือใครเลยนะ....

 :z2: :z2: :z2: :z2: :z2:

ออฟไลน์ DeShiWa

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4332
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +150/-9
มาตามมาให้กำลังใจจ้า

ออฟไลน์ mild-dy

  • ☆ ทาสแมว ☆
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8891
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +389/-80
ผมล่ะเพลียกับเอเดน
ฮีไมสำนึกซักที พี่ยอร์ชจัดไปซักทีดิ๊
จะได้รู้สึกตัวบ้างงงงง

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ ronlbb

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1209
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +27/-0
สรุปตัวร้ายคือพ่อสินะ  ทุกอย่างเลยนะๆๆ

ออฟไลน์ Glitterycandy

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 169
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-0
รอให้ยอร์ชเกลียดเอเดนจริงๆ

ออฟไลน์ vamo

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 5
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
 :z6: :z6: :z6: :z6:
เอาล่ะ..เอเดนโดนพี่เขาเกลียดเลย
แล้วจะทำไงต่อดีล่ะเนี้ยะ..เอเดน



 :z3: :z3: :z3: :z3:
มาต่อเร็วๆน่า...ชอบมากๆเลยค่า

ออฟไลน์ loveromance

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 187
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-1
เฮ้อออ เอเดนนะเอเดน น่าสงสารและน่าหมั่นไส้ไปพร้อมๆกัน แต่ก็นะ ถ้าล้มเลิกง่ายๆก็คงยังไงอยู่ ในเมื่อเจ็บปวดมาตั้งเป็นพันๆปี แต่อย่าลืมนะ ถ้าทำตัวไม่ดีพี่ยอร์ชจะไม่รัก แล้วอย่าหาว่าเราไม่เตือน 5555

ออฟไลน์ p9hmiew

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 91
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
สนุกมากกกค่ะ ชอบแนวนี้จัง
ส่วนตัวไม่ชอบอ่านนิยายที่ยังแต่งไม่จบด้วย เพราะเดี๋ยวลงแดงแบบตอนนี้ :ling1:
แล้วก็ปกติไม่เคยเม้นกดดันคนเขียนเลย เรื่องนี้เรื่องแรก เพราะฉะนั้นรีบมาต่อเถอะนะคะ   :กอด1:

ออฟไลน์ lovelypolly

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 348
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +59/-3
 :katai1: โอ้ยยยย เกลียดเอเดนจิงเชียว
พี่ยอร์ชอุตส่าช่วยชี้ทางสว่างให้แล้วก็ไม่เอา แล้วเป็นไงล่ะ สนน.โดนพี่ยอร์ชเกลียดเลย ชิ
หนูโย รีบตามมาช่วยพี่เร็วๆนะ
แท็กทีมกันรุมเอเดนเลย
ข้อหาทำตัวหน้าหมั่นไส้  :13223:
 :pig4: คนเขียนมากและรอตอนต่อไปคร้าาา

ออฟไลน์ Kissing

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 84
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-1
เอเดนนนนน. โอ๊ยยยย. ไม่เห็น โลงศพไม่หลั่งน้ำตาสินะ :ling1:

ออฟไลน์ RiRi

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 568
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +595/-8
    • RiRiWorld
B.L.O.O.D.L.I.N.E
TWENTY-SIX






        YOSHI

        “ให้ฉันไปด้วยไม่ได้เหรอ” ผมเดินอ้อมหน้าอ้อมหลังอาซาที่กำลังจะออกไปช่วยพี่ยอร์ช คล้อยหลังเอเดนที่จับตัวพี่ยอร์ชไปอีกครั้งไม่นาน อาซากับคนอื่นๆก็วิ่งมาหาผมที่ทรงตัวลงหมดแรงอยู่กับพื้นท่าทางทีหัวเสีย เขาบอกว่าเอเดนรู้ทันเกมของเราทั้งหมด เขาแค่ออกไปเพื่อให้เราตายใจ แต่ใช้ให้ลูกน้องล่ออาซากับพวกไปทางอื่น ก่อนที่เอเดนจะย้อนกลับมาหาผมและพี่ยอร์ชและทำการจับตัวพี่ชายกับอเล็กซ์ไปได้ในที่สุด

        ผมรู้แล้ว การจะต่อกรเล่นแง่กับเอเดนไม่ง่ายอย่างที่คิด

        อาซาหันมาประจันหน้ากับผมหลังจากที่เขาหันซ้ายหันขวาอย่างรีบร้อนเพื่อตรวจเช็คห้องพัก“ไม่ได้ มันอันตราย นายยังกลายร่างให้เป็นปกติไม่ได้เลย รออยู่ที่นี่”

        ทางเลือกทางเดียวที่เขายื่นให้ผมหลังจากรู้ว่าพี่ยอร์ชถูกเอเดนจับไป เขาต้องการให้ผมอยู่ที่นี่แล้วรอเขากลับมา

        ผมจับใบหน้าของเขาไว้ให้อยู่นิ่ง จ้องเข้าไปในดวงตาคู่ดำสนิทดุจรัตติกาล “แต่ฉันเป็นห่วงนายนะอาซา ได้โปรดเห็นใจฉันบ้าง”

        มือหนาเย็นเชียบยกกุมทับมือเล็กบางของผม “แต่ฉันไม่ต้องการให้นายเป็นอะไร”

        “ฉันแค่อยากช่วยนายได้บ้าง ที่มากกว่าแค่รอ”

        “ฉันรู้”

        “ถ้าฉันกลายร่างเป็นงูได้ ถ้าฉันไม่ได้อ่อนแอในร่างมนุษย์ นายจะยอมไหม” ผมถามจริงจัง แต่อาซาแค่ยิ้มขำกับสิ่งที่ผมพูด

        ผมทำหน้าบึ้ง ที่อาซาเห็นความจริงจังของผมเป็นแค่เรื่องตลก “ฉันพูดจริงนะ”

        “งั้นก็ลองกลายร่างสิ ถ้าทำได้ฉันจะให้ไปด้วย แต่เร็วหน่อยนะ ฉันต้องรีบไปช่วยพี่ชายนาย” ใบหน้ายิ้มขำของเขาเปลี่ยนเป็นเครียด

        “ถ้านายเป็นห่วงฉัน นายต้องตั้งสติและสมาธิให้แน่วแน่ดึงทุกความทรงจำนายกลับมา ทุกอย่างไม่ว่าจะเป็นความสามารถพิเศษดั่งเช่นนากินีหรือความสามารถของดวงใจบาซิลิสก์อีกครึ่งหนึ่งที่อยู่ในตัวนาย ตอนนายเกิดนายก็ไม่ได้กลายร่างได้เลย แต่ละคนมีวิธีที่ไม่เหมือนกัน ไม่มีวิธีตายตัวขึ้นอยู่กับปัจจัยรอบด้านในขณะนั้น ถ้านายทำได้นาโยชิ มันจะทำให้นายรู้ว่าฉันอยู่ที่ไหนและกำลังทำอะไร” อาซากระชับมือที่กุมหัวไหล่ของผมแน่น อธิบายวิธีที่จะทำให้ผมกลายร่างได้ให้อย่างใจเย็น ทั้งๆที่ตอนนี้เขาร้อนรุ่มเหมือนผม ผมรู้ได้เพราะผมก็เป็น

        “เหมือนนั่งสมาธิหรือเปล่า” ผมถามพาซื่ออย่างที่เข้าใจ

        “อะไรทำนองนั้น” เขาโคลงหัว “ทำจิตใจให้สงบ ดวงจิตจะผูกกันและรับรู้สิ่งที่อีกคนรู้สึกได้แม้จะอยู่ห่างกันเป็นร้อยไมล์”

        “ฉัน...” ผมเก็บคำว่ากลัวลงคอ ผมต้องไม่กลัว ผมต้องเป็นที่พึ่งให้อาซาได้บ้าง สักทางใดทางหนึ่ง “ฉันจะพยายาม ฉันจะพยายามให้ดีที่สุด”

        “ขอบคุณ”

        ผมสวมกอดอาซาไว้แน่นอีกที ไม่อยากปล่อยมือให้เขาเดินออกไปหาอันตราย

        “ถ้านายทำได้ไม่เกินคืนนี้ก่อนพระจันทร์จะกลายเป็นสีเลือด ก็รบกวนตามไปช่วยฉันทีนะ” เขาบอกทิ้งท้าย กดจูบที่หน้าผาก ส่งยิ้มเป็นกำลังใจให้ ก่อนที่เขาจะเดินออกไปและทิ้งผมไว้ในห้องพักเพียงลำพัง

        สุดท้าย ผมก็ยังเป็นโยชิคนเดิมที่ไร้ประโยชน์ ช่วยเหลือใครก็ไม่ได้

        “บ้าเอ้ย!” นี่ไม่ใช่เวลาจะมากรนโทษตัวเอง เวลามีไม่มาก ผมต้องหาวิธีที่จะทำให้ตัวเองกลายร่างเป็นงูให้เร็วที่สุด ก่อนที่ทุกอย่างจะสายเกินแก้

        ผมจะไม่ยอมให้ทุกอย่างเป็นดั่งความฝัน เรื่องเลวร้ายแบบนั้นจะต้องไม่เกิดขึ้น

        เอาล่ะ เริ่มแรกก็ต้องทำจิตใจให้สงบสินะ ถ้าทำตามที่อาซาบอก ผมต้องพยายามจำให้ได้ว่าผมเป็นใคร ตัวตนของผมคืออะไร

        ผมนั่งขัดสมาธิลงบนเตียง หลับตาลงช้าๆ ผมเองก็ยังไม่แน่ชัดว่าควรจับจุดที่ตรงไหน แต่ที่แน่นอนที่สุดคือจิตใจผมจะลนลานไม่ได้ เพราะอย่างนั้น ผมจะนั่งสมาธิก่อนเป็นอันดับแรก เพื่อปรับจิตใจที่ร้อนรุ่มพะว้าพะวงให้สงบและเกิดสติ

        ลมหายใจผ่อนเข้าออกเป็นจังหวะ สมองว่างเปล่าไม่คิดอะไร กว่าหัวจะโล่งผมก็ใช้เวลาไปนานพอตัว พูดก็พูด ครั้งลาสุดที่นั่งสมาธิน่าจะเป็นตอนอยู่มัธยมปีที่ห้า ดังนั้นการนั่งสมาธิจึงไม่ใช่สิ่งที่ทำจนเคยชิน เป็นแค่สิ่งที่เคยทำ พอได้มาเริ่มอีกครั้ง ก็จับจุดอยู่นาน ในที่สุด ผมก็สามารละทิ้งทุกอย่างจนรับรู้ได้ถึงความโล่งกว้างที่ไหลเวียนอยู่ในหัว เหมือนตัวจะลอยได้อยู่กลางอากาศ

        ภาพบางอย่างที่สะท้อนออกมาทำให้ผมรู้สึกว่าตัวเองลืมอะไรไปบางอย่าง อะไรที่ผมลืม ผมพยายามคิด แต่ยิ่งคิดภาพที่แตกตัวมองไม่ชัด

        แบบนี้ไม่ได้ ผมต้องทำจิตใจให้สงบ ต้องมีสติ ต้องมีสมาธิ อย่าร้อนรน ใจเย็นๆ

        จู่ๆก็รู้สึกเย็นวาบที่หน้าอก ผมยกมือจับก็เจอกับจี้คริสตัลสีแดง ผมลืมตามองสำรวจนิ่ง ไม่คิดอะไร เพียงแค่มองด้วยใจที่จดจ่อ ความเย็นที่แผ่ออกมาจากจี้ทำให้ผมสงบอย่างน่าเหลือเชื่อ ตาของผมที่มองจ้องแทบไม่กระพริบเห็นความเปลี่ยนแปลงบางอย่างภายในคริสตัล ก้อนแร่สีแดงสดกลายเป็นจอสะท้อนภาพอย่างน่าแปลกใจ ก่อนที่ผมจะถูกดูดเข้าไปให้เห็นภาพบางอย่างราวกับกำลังระลึกชาติ ร่างผมนั่งอยู่ที่เดิม แต่ดวงตาที่กำลังจ้องจี้ในมือกลับไม่เห็นสิ่งที่ถือ แต่เห็นเป็นภาพเคลื่อนไหวที่แสนจะคุ้นชินในความรู้สึก

        ของในมือสิ่งที่อาซาบอกว่าเป็นสมบัติที่แม่ผมให้ไว้ แม่ที่เป็นนากินี ไม่ใช่คนที่ผมเกิดมาในชาติปัจจุบัน


        ‘ดาร์เรลของแม่ ออกมาทำไม ข้างนอกมันอันตราย ลูกยังกลายร่างเป็นคนไม่ได้นะ เกิดมนุษย์มาเห็นและทำร้ายลูกเขาเจ้าจะทำอย่างไร”

        “แม่จ๋า ข้ามารอแม่กลับมา”

        “แม่รู้จ้ะลูกรัก ตามแม่กลับเข้าถ้ำเถอะ เลื้อยดีๆล่ะ อย่าออกนอกทางที่แม่เตรียมเอาไว้ ไม่งั้นตัวเป็นแผลอย่ามาร้องงอแงนะ”


        “แม่ ทำไมข้ากลายร่างไม่ได้เหมือนเพื่อนๆ”

        “นั่นเพราะเจ้ายังไม่เข้าใจตัวเอง”

        “ยังไง”

        “เจ้าต้องเข้าใจและเจ้าถึงในสิ่งที่เจ้าเป็น”

        “แต่งูตัวอื่นไม่เห็นยุ่งยากเลย เมลปาบอกข้าว่า เขาตื่นมาก็กลายร่างเป็นคนได้เลย”

        “นั่นเพราะเขาเข้าใจในสัญชาติญาณทั้งของงูและของมนุษย์”

        “ข้าไม่เข้าใจ”

        “เด็กโง่เอ้ย เจ้าปิดกั้นตัวเอง เปิดใจสิเมื่อเจ้าเปิดใจ เจ้าจะทำได้”



        เปิดใจอย่างนั้นเหรอ?

        ภาพความคิดเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว สิ่งที่เห็นคือเด็กทารกในท้องมารดา ภาพเคลื่อนไหวเร็วเหมือนกดกรอ ผมเข้าถึงวิวัฒนาการของเด็กที่กำลังจะเกิด และเด็กที่ผมเห็นก็คือตัวผม จนกระทั่งผมคลอดและเติบโต สิ่งที่ผมเป็นผมเข้าใจมันได้อย่างไม่ยากเย็น แล้วตัวตนอีกด้านล่ะ...

        ‘เปิดใจสิ เมื่อเจ้าเปิดใจ เจ้าจะทำได้ทุกอย่างที่เจ้าต้องการ’

        พรึบ!

        ใช่...ใช่แล้ว แค่เปิดใจเท่านั้นผมจะทำได้ เพราะผมเป็นดาร์เรล นากินีคือตัวตนของผม

        ไม่ว่าสิ่งที่ปิดกั้นจิตใจผมจะเรียกว่าทิฐิ อคติ หรือความกลัวที่ก่อตัวเป็นกำแพงหนาทึบปิดกั้นความเป็นนากินี บัดนี้ได้ทลายลงไปแล้ว พร้อมกับร่างกายของผมที่เปลี่ยนไปไม่เหมือนเดิม หยดเลือดทุกอย่างที่ไหลเวียนในร่าง ทุกอวัยวะในร่างกายผมรับรู้และสัมผัสได้ถึงการมีอยู่ ตอนเป็นคนผมสามารถใช้มือใช้เท้าได้โดยไม่ติดขัดฉันใด มาตอนนี้ผมก็สามารถเลื้อยและใช้ทักษะของการเป็นงูได้อย่างง่ายดายไม่ผิดแปลกฉันนั้น

        “นี่ใช่ไหมแม่ แค่เปิดใจและเข้าถึงตัวตนของตัวเอให้ได้ ผมก็จะเป็นส่วนหนึ่งของมัน เป็นส่วนหนึ่งของนากินี”

        แต่แค่นี้ยังไม่พอ ผมต้องทำได้มากกว่านี้ ผมต้องลองจนกว่าจะกลายร่างได้คล่อง ผมลองตั้งจิตและสติเพื่อคืนสู่ร่างมนุษย์ ยากนิดหน่อยเพราะทำไม่สำเร็จในครั้งแรกที่ตั้งใจ แต่เมื่อลองอีกครั้งผมก็ทำได้ ผมตื่นเต้นมากที่ความตั้งใจบรรลุผล อยากจะอวดอาซา แต่เขาไม่อยู่ตรงนี้ นั่นไม่ใช่ปัญหา ผมกลายร่างได้แล้ว ผมจะตามไปช่วยเขาให้พ้นอันตรายจากพี่ชายของเขา

        ความหวังฉายชัดอยู่เบื้องหน้า ฝันร้ายที่ติดอยู่ในใจกำลังจะหายไป

        จุดมุ่งหมายต่อไปคือตามไปช่วยอาซาและพี่ยอร์ช ถึงผมจะยังเป็นนากินีฝึกหัด แต่ผมจะไม่ยอมแพ้ แม้ว่าจะต้องสู้กับเอเดน นากินีที่มีฝีมือร้ายกาจเข้าขั้นน่ากลัว

        ผมใช้เวลาไปมากโขสำหรับการเรียนรู้ที่จะเป็นนากินีอีกครั้ง ข้างนอกหน้าต่างที่เคยสว่างจ้ามืดมิดเพราะตะวันลาลับ พระจันทร์เต็มด้วงลอยเด่นอยู่บนฟ้า คืนนี้จะเป็นคืนที่พระจันทร์เป็นสีแดง เป็นช่วงเวลาที่นากินีจะอ่อนแรง ยกเว้นอาซาและผมที่มีหัวใจบาซิลิสก์อยู่ในครอบครอง ตอนนี้พระจันทร์ยังคงเป็นสีขาวนวลสว่างตา ลมด้านนอกพัดแรงเกิดเสียงหวีดหวิว ผมต้องตามหาอาซาให้เจอก่อนที่พระจันทร์จะกลายเป็นสีเลือด

        แต่ประตูห้องพักเป็นสิ่งขวางกั้นปราการด่านแรกที่ไม่ขัดขวางไม่ให้ทำได้ดั่งใจ คนที่ล็อคมันก็คงเป็นไม่ใช่ใคร อาซาคงไม่เชื่อว่าผมจะทำได้จริง แล้วเขาจะต้องขอโทษที่ประมาณความสามารถของผมต่ำจนน่าน้อยใจ

        ผมปล่อยมือที่จับลูกบิดออก กลายร่างกลับเป็นงูอีกครั้ง แต่ขนาดเล็กเกินไป ผมต้องตัวใหญ่กว่านี้ ห่างหายการเป็นงูมานานเป็นพันปี ไม่ต่างจากเครื่องจักรที่ขึ้นสนิท อาจต้องเคาะสักหน่อยถึงจะใช้ได้เหมือนเดิม แต่ตอนนี้จิตวิญญาณของการเป็นนากินีได้กลับคืนสู่ผม น่าแปลกมากที่พอกลายร่างได้ผมก็เข้าใจว่าต้องทำยังไง ไม่เหมือนกับว่าผมเพิ่งเป็น เหมือนผมเป็นมานานแล้ว ถ้าให้เทียบก็อาจจะเหมือนคนที่ขี่มอเตอร์ไซค์เป็นแล้วไม่ได้ขี่มาเป็นสิบปี เมื่อถึงเวลาที่จะขี่ ก็สามารถขี่ได้ รู้ว่าต้องทำอย่างไร ต้องเริ่มจากตรงไหน อาจมีไม่มั่นใจบ้าง แต่ยังไงก็ทำได้

        แน่นอน ทฤษฏีที่ผมอาจจะคิดเองเออเองนั่น มันได้ผล

        ผมแพร่พิษสลายลูกบิดประตูได้อย่างง่ายดาย ประตูที่เคยถูกล็อคแง้มออกกว้างเชื้อเชิญให้ผมออกสู่โลกภายนอก

        ซู่ววว ซี่~

        ‘ชักสนุกแล้วสิ’


        ผมออกจากโรงแรมในสภาพคนธรรมดา ไม่งั้นคนอาจจะแตกตื่นถ้าผมยังเป็นงูแล้วเลื้อยเผล้นพล่าน แต่ปัญหามันไม่ได้อยู่ตรงนั้น มันอยู่ที่ว่า ตอนนี้อาซาอยู่ที่ไหนและผมจะไปยังไง ผมรู้แค่ว่าเป็นโบสถ์ที่อยู่ในเมืองนี้ แต่ไม่รู้ว่ามันอยู่ตรงไหน ผู้คนในเมืองบางตาลงมากเพราะต่างก็แยกย้ายกับเข้าบ้านใครบ้านมัน ร้านค้าต่างๆก็ปิด มีแค่ไม่กี่ร้านที่ยังเปิดอยู่

        พลันรอบตัวก็มืดลงกว่าที่เป็น ผมเงยหน้าขึ้นมองฟ้า เมฆก้อนใหญ่ลอยเคลื่อนบดบังดวงจันทร์ ปิดกั้นแสงสว่างที่ส่องสะท้อนลงมายังพื้นโลก ไฟตามบ้านเรือนดับลงทีละดวงๆ เหลือแสงสว่างเพียงน้อยนิดส่องทางให้แก่คนที่ยังอยู่ด้านนอก

        ฝั่งตรงข้ามมีชายผู้หญิงยืนสูบบุหรี่ เขาน่าจะเป็นคนที่นี่เพราะเมื่อตะกี้เขาพูดคุยทักทายกับชายอีกคนที่เดินสวนกับตอนเขาออกมาจากร้านอาหารอย่างสนิทสนมราวรู้จักกันมานานนม ถ้าไปถามชายคนนั้น เขาอาจจะรู้ว่าโบสถ์เก่าแก่ของเมืองบรักเซมส์

        ผมมองซ้ายขวาจนแน่ใจว่าไม่มีรถวิ่งมาในระยะใกล้จึงได้เดินข้าม เหลือเพียงไม่กี่ก้าวก็จะถึงตัวผู้ชาย แต่เสียงหวีดร้องที่ดังก้องอยู่ในหัวดังขึ้นให้สะท้านไปทั้งตัว

        ‘อ๊ากกกก! ฉะ ฉัน...ฮึก ไม่มีวัน...”

        ...เสียงนั่น…

        “ไม่มีวันยอมแพ้ ไม่ยอมแพ้ อั่ก!’

        ผมหันขวับไปทางต้นเสียง รับรู้ได้ว่าร่างกายสั่นเทิ้มจนไม่อาจควบคุม เหมือนมีค้อนใหญ่ทุบเข้าที่หัวอย่างจัง เสียงมาจากตรงนั้น ขาที่แข็งค้างออกวิ่งก่อนที่สมองจะสั่งการ ผมวิ่งและวิ่งสุดแรง ได้กลิ่นเลือดของอาซาลอยมาแต่ไกล เห็นภาพว่าเขากำลังโดนทำร้ายยังไง รู้ได้ว่าโบสถ์นั้นตั้งอยู่ตรงไหนทั้งที่ก่อนหน้าผมยังไม่รู้และหาคนให้คำตอบอยู่เลยด้วยซ้ำ

        ความสามารถพิเศษเช่นนี้มาจากหัวใจบาซิลิสก์ใช่หรือไม่ ที่อาซาบอกผมไว้ว่าถ้าผมทำได้ ถ้าผมกลายเป็นนากินีอย่างสมบูรณ์ ผมจะสามารถรับรู้ได้ว่าเขาอยู่ที่ไหนและกำลังทำอะไร เมื่อครั้งที่ผมกลายเป็นงูเอเดน อาซาก็หาผมเจอได้เพราะใจเขาสื่อกับผม ใจของเราสื่อถึงกัน เพราะเรามีหัวใจเป็นหนึ่งเดียว

        ผมสิ่งแล้วก็วิ่ง ไม่มีหยุดพัก ไม่สนว่าระยะทางยาวกว่ากี่กิโลเมตร ผมอยากกลายร่างเป็นงูแล้วเลื้อยไปให้เร็วที่สุด แต่ผมยังคงกังวลว่าจะมีใครเห็น มันไม่น่าจะใช่เรื่องดีถ้ามีมนุษย์คนไหนเห็นงูตัวใหญ่เลื้อยไปตามท้องถนน จินตนาการได้ว่าเรื่องยุ่งเหยิงจะตามมาอีกเป็นกระพรวน

        จนผมเริ่มจะหายใจไม่ทัน วิ่งสะดุดลมหน้าหวิดจะทิ่มพื้นหลายรอบ แต่เสียงร้องของอาซา เสียงต่อสู้ดังกรอกหูผมเป็นระยะ ผมไม่อาจหยุดตัวเองได้ ผมเร่งความเร็ว สับเท้าถี่ด้วยใจที่ร้อนรน

        ผมกำลังจะแย่!!!

        แต่คนที่กำลังจะแย่กว่าคืออาซา...เอเดนกำลังจะฆ่าเขา!!!

        ขาทั้งสองข้างวิ่งสลับสับถี่เพื่อเร่งให้เร็วที่สุดเท่าที่จะเร็วได้ วิ่งไปหอบไปแต่ก็พยายามฝืนร่างกาย ฟันขบกัดแน่นข่มความเจ็บปวดตามร่างกาย ทั้งขาที่ชาดิก ท้องที่เกร็งปวดจากการเหนื่อยหอบที่ต้องวิ่งมายาวนาน แต่หยุดไม่ได้ ต่อให้ต้องวิ่งจนขาดใจตายก็ต้องทำ

        สถานที่รอบตัวผมแน่ใจว่าไม่เคยมา แต่ทุกอย่างกลับคุ้นเคย ผมรู้ว่าผมจะต้องวิ่งไปที่ไหน โบสถ์เก่าในเมืองที่ห่างไกลความเจริญเป็นสถานที่แรกที่แวบขึ้นมาในห้วงความคิด และตอนนี้อาซาอยู่ที่นั่น

        อาซา...ได้โปรดอดทนไว้ ฉันกำลังจะไปช่วยนาย

        กึก!

        ขาทั้งสองข้างหยุดวิ่งเหมือนภาพเดจาวูในความฝันกลับมาหาผม และผมกำลังทำตามมันอย่างไม่ฉุดคิด จะปล่อยให้เป็นอย่างนี้ไม่ได้ ถ้าผมดำเนินทุกอย่างตามความฝันที่วางเอาไว้ให้เดิน บทสรุปจะต้องเป็นแบบเดิม อาซาจะแย่ เขาจะจากผมไป ผมปล่อยให้เป็นแบบนั้นไม่ได้

        ป่าสองข้างทางเป็นหนทางที่ดีที่สุด ผมวิ่งเข้าไปในป่ารกชันที่ทั้งทึบและเฉอะแฉะ มองเส้นทางแทบไม่เห็นถ้าหากผมใช้สายตาคนปกติมอง แต่ถ้าเป็นสายตาของอสรพิษที่สามารถใช้ได้ดีในความมืดมิดจากการตรวจจับความร้อนแล้วละก็ ไม่น่ามีปัญหา

        สวบ!

         ‘อ๊ากกกกก นะ นายจะไม่มีวันได้สิ่งๆนั้น! ไม่มีวัน!!!’

        ประโยคของอาซาที่ดังก้องโสตประสาทคล้ายเทปที่รีเพลย์ซ้ำแล้วซ้ำเล่า ต้องเร็วกว่านี้ เร็วอีก ไม่สนว่าลำตัวยาวขนาดใหญ่ของผมจะเลื้อยชนต้นไม้หักต้นแล้วต้นเรา ไม่เจ็บ ไม่รู้สึกอะไรกับร่างกาย มีเพียงใจเท่านั้นที่เจ็บร้าวเพราะเขา คนที่ผมรักกำลังได้รับอันตราย

        โบสถ์ที่กำลังตามหาอยู่ไม่ใกล้นักจากภาพที่ฉายแวบในความคิด ผมจะโผล่พ้นที่ด้านหลังของโบสถ์ ที่ด้านหน้าผมได้ยินเสียง เวสตัน ปารีส ฟรินน์ และจูเลียตกำลังต่อสู้กับลูกน้องของเอเดนที่มีอยู่นับร้อย ผมพยายามจับเสียงว่าพี่ยอร์ชอยู่ที่ตรงไหน

        ‘เอเดน หยุด อย่าทำร้ายอาซา!!! อย่าทำเขา’

        ขอบคุณพระเจ้า พี่ยอร์ชยังมีชีวิตอยู่ แต่อเล็กซ์ ผมไม่ได้ยินเสียงของเขาเลย แต่วางใจอะไรไม่ได้เลยแม้แต่น้อยเมื่อเสียงร้องของอาซาดังโหยหวยยาวนานกว่าทุกที ผมพุ่งทะยายร่างกายเพียงเสี้ยวนาทีถึงโบสถ์ที่ว่า ผมพุ่งเข้าชนโดยไม่สนใจว่าสิ่งก่อสร้างที่เก่าแก่หลังนี้จะเสียหายหรือไม่

        โบสถ์พังผมสร้างให้ใหม่ได้ แต่ชีวิตอาซา ถ้าเสียไปใครจะหาคืนมาให้ผมได้ คงไม่มี

        กำแพงโบสถ์ส่วนหลังพังครืนลงมาเป็นแถบ ความโกรธเกรี้ยวของผมถูกกระตุ้นจากน้ำมือของเอเดน ไม่ผิดจากความฝัน ทุกอย่างไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงแม้ว่าผมจะรีบมาให้ทัน

        ท่อนลำตัวสีเงินสะท้อนแสงจันทร์ที่สาดผ่านหลังคาโบสถ์ที่พังจะเปิดกว้างรัดร่างของเอเดนแน่น ตามตัวของทั้งคู่เต็มไปด้วยบาดแผล หัวหนึ่งของเอเดนอ้างับที่ลำคอของอาซา เลือดไหลลงกระทบพื้นไม่ต่างจากน้ำตกที่ไหลจากที่สูงลงสู่ที่ต่ำ ส่วนอีกหัวเตรียมจะสังหารคนที่ได้ชื่อว่าเป็นน้องชายของเขา แต่ยังไม่ทันที่เขาจะลงมือ ผมที่โผล่เข้ามาขัดขวางทำให้เขาหันมามอง

        กระแสความโกรธตีวนในร่างกายผมรุนแรงยิ่งกว่าพายุ ผมพุ่งตัวเข้าหาเอเดนไม่ทันให้เขาได้ตั้งตัว ร่างของผมกระแทกร่างของเอเดนเท่าแรงทั้งหมด ร่างอสรพิษใหญ่ทั้งสามของพวกเราพุ่งชนกับกำแพงอีกด้านหนึ่ง อาซาเป็นอิสระแล้ว เขามองผมก่อนจะเอ่ยเรียกเสียงโหย

        “โย โยชิ...”

        “อาซา”

        ร่างของอาซากลับคืนสู่ในร่างของมนุษย์ ผมอยากเข้าไปดูเขา แต่เอเดนกำลังตั้งตัวได้ ผมหันหัวกลับไปทางคนใจร้าย

        “อาซาเป็นน้องนายนะ!” ผมตะวาดเอเดนผ่านภาษาพาเซลไปพร้อมกับเข้าสู้กับเอเดนสะเปะสะปะ เลือดในกายสูบฉีดเดือดปุดเป็นลาวาร้อน

        “อย่ามายุ่งเรื่องของฉัน!” เอเดนโต้กลับอย่างไม่รับรู้ถึงความผิดที่ตัวเองก่อ ผมพ่นไฟใส่เขา แต่เขาหลบหลีกได้ทัน เอเดนเลื้อยไปทางซ้ายสลับกับผมที่ไปทางขวาเพื่อหาจังหวะโจมตี

        “ทำใจไว้อาซา อย่าหมดสติ!”

        “โย โยชิ”

        “อะไรนะ โยชิทำไม โยชิไม่ได้อยู่ที่นี่”

        “เอเดน อย่าทำอะไรโยชิ อั๊ก!!!”

        “อาซา อย่าบอกนะว่า งูตัวสีขาวนั่นคือโยชิ คือน้องชายของฉัน”

        “ชะ ช่วยโยชิ อย่าให้เอเดนทำอะไรเขา อย่า...”

        “อาซา! มีสติไว้ อดทนไว้ อาซา!!!” เสียงของพี่ยอร์ชที่เรียกสติอาซาอย่างร้อนรนเร่งกระตุ้นให้กระแสเกี้ยวโกรธของผมแตกตัวจนถึงขีดสุด

        ผมหน้ามืดกระโจนเข้าหาเอเดน ผมไม่รู้ว่าพลังของตัวเองทำอะไรได้บ้าง แต่ผมใช้ทุกความสามารถที่มีเพื่อแก้แค้นให้อาซา ผมไม่มีวันปล่อยให้เขามีชีวิตรอดไปทำร้ายอาซาให้อีก ผมจะทำให้เอเดนได้รู้รสชาติของการจะถูกฆ่าให้ตายอย่าทรมาน ผมสาบาน ผมจะทำ!

        เลือดของเอเดนสาดกระเซ็นโดนลิ้นของผมยามที่ผมใช้ส่วนหางเลื้อยไปตวัดฟาดที่กลางลำตัวซ้ำตรงแผลเหวอะให้เจ็บหนักเข้าไปอีก ผมลิ้มรสความบ้าคลั่งของเอเดนผ่านปลายลิ้นสองแฉก ความกระหายทีไม่เคยมีแล่นพล่านไปทั่วร่าง นี่คงเป็นรสชาติของเลือด อาหารหลักของมนุษย์กลายร่างที่แท้จริง ช่างหอมหวานชวนให้ลิ้มลองอีกครั้งและอีกครั้ง

        ผมพุ่งเข้าใส่เพื่อที่จะแพร่พิษใส่เอเดน แต่เขาหลบทันและสะบัดตัวผมให้พ้นทาง เขาเลื้อยไปหาอาซาที่นอนไม่ได้สติอยู่ที่พื้น พี่ยอร์ชลุกขึ้นเดินถอยหนีเอเดนที่เข้าไปใกล้ ไม่ทันที่เอเดนจะได้เข้าใกล้อาซา ผมกัดเข้าที่หางของเอเดนก่อนจะปล่อยพิษร้ายแรงเข้าสู่ร่างกายสีเงินจนเอเดนตัวกระตุกกระแทกพื้นอย่างแรง

        ผมรู้ว่าเอเดนต้องการอะไร เขาจะเอาหัวใจบาซิลิกส์ที่อยู่กับอาซา เขาไม่มีวันได้มันไป เพราะผมไม่ยอม หากจะมีใครที่ต้องสูญเสีย มันจะต้องเป็นเอเดน ไม่ใช่อาซา

        ซี่ๆๆ!

        เสียงร้องของเอเดน ร่างของเอเดนกระตุกแรงอยู่ที่พื้น ผมจ้องไปที่กลางลำตัวลงไปถึงช่วงหา ปล่อยพิษทำลายร่างของเขาจนเป็นแผลเหวอะหนัก ด้วยฤทธิ์ของหัวใจบาซิลิสก์อีกครึ่งที่อยู่ในตัวผม เขาไม่มีทางทนพิษที่รุนแรงกว่านากินีธรรมดาได้ เอเดนร้องลั่นเหมือนที่อาซาเคยร้อง ผมมองภาพนั้นด้วยความสะใจ ยังไม่พอ แค่นี้ยังไม่สาสม

        หัวของเอเดนยกขึ้นมองมาทางผม มองจ้องด้วยดวงตาสีแดงฉานทั้งสี่ข้างสองคู่ ผมทำให้เขายั๊วะ ผมไม่กลัว รอให้เขาลุกขึ้นมาเพื่อสู้

     

(ต่อข้างล่าง)
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 12-06-2015 11:40:54 โดย RiRi »

ออฟไลน์ RiRi

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 568
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +595/-8
    • RiRiWorld
        พลันก้อนเมฆที่บดบังดวงจันทร์ก็เคลื่อนคล้อยเปิดเผยให้เห็นสิ่งที่ซ่อนอยู่เบื้องหลังทีละนิด ดวงจันทร์ทรงกรดที่เคยมีสีขาวนวลกลายเป็นสีแดงฉานดังสีเลือดของอาซาที่ไหลรินนองทั่วบริเวณ เส้นความอดทนเส้นสุดท้ายขาดสะบั้นเมื่อผมจับลมหายใจและจิตวิญญาณของอาซามันไม่ได้ หายไป แล้วไปแล้วจากผม

        ผมหันไปมองร่างของอาซา ภายในกรีดร้องอย่างบ้าคลั่งแทบขาดใจ ผมกลายร่างกลับเป็นคนวิ่งเข้าไปดูอาซา พี่ยอร์ชมองผมอย่างตกตะลึง

        “โยชิ...”

        “อาซา!!! ฮือ ไม่นะ นายอย่าเป็นอะไรนะ อดทนไว้ อาซา ฮืออ” ผมกอดร่างอาซาแน่น แต่เขาไม่รู้สึกตัวอีกต่อไป เขาไม่หายใจ

        ตึกๆๆ

        เสียงฝีเท้าวิ่งของคนหลายคนดังเข้ามา ผมกอดร่างอาซาแนบอก ร่างกายเจ็บปวดเหมือนกริชแหลมทิ่มแทง ไม่จริง เขายังอยู่กับผม ยังไม่จากไปไหน

        “อาซา! เอเดน!” เสียงของคุณจอร์จดังเข้ามาใกล้ ผมเงยหน้ามอง แวบหนึ่งผมโกรธผู้ชายแก่คนนี้ คนที่เป็นของอาซา เพราะเขาที่ทำให้อาซาต้องเป็นแบบนี้ เพราะพวกเขา ทั้งคุณจอร์จและเอเดน

        คุณจอร์จนั่งคุกเข่าเข้ามาดูอาซา จับตามจุดชีพจรก่อนจะเรียกให้คนมาพาอาซาออกไปเพื่อนำส่งหาหมอให้เร็วที่สุด แต่ทำไปก็ไร้ประโยชน์ เพราะหัวใจเขาไม่เต้นอีกต่อไป

        ผมปล่อยตัวอาซาลงให้กับคุณจอร์จ ลุกขึ้นยืนท่ามกลางสายตาเศร้าเสียใจของทุกคน เดินกลับไปหาเอเดนที่ยังคงไม่มีแรงลุก ตอนที่สู้กับอาซาเขาก็คงหมดแรงหมดพลังไปมาก แต่ถึงอย่างนั้นอาซาก็ไม่รอด

        “เขา...” ผมเสียงสั่นพูดกับเอเดน “อาซาเป็นน้องของนายนะ”

        ผมยังคงพูดย้ำประโยคเดิม ประโยคที่ต่อให้พูดเป็นร้องเป็นพันเอเดนก็ไม่มีทางซึมซับมัน

        “นายทำได้ยังไง นายฆ่าเขาได้ยังไง ตอบ!!!”

        “นั่นไม่ใช่เรื่องของนาย” เอเดนตอบกลับน้ำเสียงระโหย

        แรงกดดันในกายแตกตัวกระจ่ายซ่านไปทั่วร่าง พอกันทีสำหรับความอดทนและยับยั้งชั่งใจ การสั่งสอนเล็กๆน้อยๆไม่อาจทำให้คนชั่วรับรู้ถึงบทเรียน

        “นายฆ่าน้องชายนายได้ ฉันก็ฆ่านายที่เป็นใครไม่รู้ได้เหมือนกัน ฉันจะไม่ปล่อยให้นายรอดในขณะที่อาซาต้องตาย” ผมกระหยิ่มยิ้มในใจไปพร้อมกับน้ำตาที่ตกในเพราะความจริงตอกย้ำว่าอาซาไม่ได้อยู่กับผมอีกแล้ว

        พลังในกายทั้งหมดระเบิดออกจากกล่องที่กักขังมัน เกิดแสงจ้าจนใครก็ตามไม่อาจทนมอง อานุภาพสามารถทำให้คนที่จ้องตาบอดได้ ก่อนที่แสงจะดับลงเมื่อผมคืนสู่ร่างงู มีบางอย่างที่ไม่เหมือนเดิม ปีกสีขาวทั้งสองข้างสยายกางออก ขนปีกที่แซมเป็นเหล็กแหลมพร้อมสังหารทุกสิ่งที่ขวางหน้า แม้ดวงใจบาซิลิสก์ในร่างผมจะมีเพียงครึ่ง แต่อานุภาพของมันทรงพลังมากกว่าที่จะคาดเดา

        เอเดนรวบรวมแรงที่เหลืออยู่ลุกขึ้นเพื่อหลบร่างผมที่ฉกวูบเข้าไปที่หัวข้างหนึ่งของเขา เขาหลบทันแต่ไม่ระวังอีกหัว ผมกัดงับก่อนที่จะแพร่พิษใส่อีกรอบ เอเดนร้องโหยหวนอย่างทรมาน

        ผมหงุดหงิดมากขึ้นเมื่อเอเดนทำเหมือนไม่สู้ เขาไม่สู้ผม ทำไม จะทำอ่อนแอทำไม ผมรู้ว่าเขาไหว เขามีแรงที่จะสู้ผม แต่เขาไม่ทำ ท่าทางเหมือนจะยอมแบบนั้นทำให้ผมโมโหเกินบรรยาย ผมโถมทุกความโกรธแค้นลงบนร่างของเอเดน

        “สู้สิ สู้ให้เหมือนที่นายสู้กับอาซา ทำร้ายฉันให้เหมือนที่นายทำกับเขา ทำสิ!!!”

        “อย่า!!!” เสียงร้องห้ามของพี่ยอร์ชดึงความสนใจของเอเดน ผมใช้จังหวะนั้น ตวัดหางรัดที่เสาะต้นใหญ่ ออกแรงหักมันให้ล้มทับเอเดนจนไม่อาจขยับตัวหนีไปได้

        น่าแปลกที่เอเดนเหมือนไม่สนใจผม หัวทั้งสองข้างของเขามองไปทางพี่ยอร์ช ไม่ว่าด้วยเหตุผลกลได้ ไม่มีอะไรที่สามารถหยุดผมได้ในตอนนี้

        “ถึงเวลาตายของนายแล้ว” พูดจบผมก็รวบพลังอำนาจไปที่ปีกทั้งสองข้าง เพื่อตรียมจะยกตัดร่างของเอเดนให้ขาดออกเป็นท่อนๆ ยามที่ปีกของผมยกขึ้นและวินาทีที่ฟาดฉับลงไปยังร่างสีเงิน ร่างเล็กๆร่างหนึ่งก็วิ่งเข้ามาบังเอาไว้

        “โยชิ อย่า! พอ พอได้แล้ว!!”

        พี่ยอร์ชเข้ามาขวางในจังหวะที่ผมกำลังจัดการเอเดนให้สิ้นซากจากโทสะที่ลุกโชนเกินต้านทานยับยั้ง แต่เพราะคนที่เข้ามาขวางเป็นพี่ยอร์ช สติจึงถูกดึงเข้าร่างได้ทันก่อนที่ผมจะทำผิดพลาดจนต้องเสียใจไปตลอดชีวิต ถ้าผมยั้งไม่ทัน ร่างที่จะขาดสะบั้นก็คงเป็นพี่ยอร์ช ไม่ใช่เอเดน

        “พอแล้วโยชิ หยุดเถอะน้องรัก อย่าฆ่ากันให้มีบาปกรรมเลยนะ” พี่ยอร์ชมองผมอย่างหวาดกลัว ผมถอยหลังห่างออกไปหน่อยเพื่อให้ห่างจากร่างพี่ยอร์ชให้มากที่สุด

        ผมฟึดฟัดหัวเสียที่พี่ยอร์ชเข้ามาห้าม  แต่ถึงผมพูดอะไรออกไปพี่ยอร์ชก็คงไม่เข้าใจเพราะพี่ยอร์ชเป็นคนธรรมดาที่ไม่อาจเข้าใจภาษาพาเซล

        “โยชิ เชื่อพี่นะ พอเถอะ กลับคืนเป็นมนุษย์เถอะนะ อย่าฆ่าใคร พี่ขอร้อง” พี่ยอร์ชลุกขึ้นเดินเข้ามาหาผม มือใหญ่ที่บัดนี้เล็กกว่าตัวผมมากแตะลงบนเกร็ดสีขาวที่ทอแสงสว่าง มือคู่นั้นที่อบอุ่นเลี้ยงดูผมมา ดึงจิตวิญญาณความเป็นมนุษย์ให้กลับคืนสู่ร่าง ผมตั้งสติที่หลงระเริงไปกับสัญชาตญาณแรงอาฆาตแค้นของอสรพิษให้กลับคืนสู่ปกติและคืนร่างเป็นคนเช่นดังเดิม

        ผมหันไปมองทางเอเดน เขานอนหายใจโรยรินเป็นตายเท่ากัน แต่มันยังไม่สาแก่ใจ มันเทียบไม่ได้กับชีวิตอาซาที่สูญเสีย

        “พี่ยอร์ชห้ามโยทำไม เขาฆ่าอาซา ผมจะฆ่าเขา!” ผมยืนกำมือแน่ในอ้อมกอดของพี่ยอร์ช

        “ต่อให้โยฆ่าเขา มันก็ไม่ทำให้อะไรดีขึ้น”

        “อย่างน้อยผมก็สะใจ!”

        “ไม่หรอก ถ้าโยทำจริง โยจะไม่รู้สึกแบบนั้น เด็กดีที่แสนใจดีของพี่ไปไหนแล้ว ทำไมเหลือแต่คนที่เต็มไปด้วยอาฆาตแค้น” พี่ยอร์ชเสียงสั่นจากแรงสะอื้น ผมทำให้พี่ชายร้องไห้

        “พี่ยอร์ช อาซาจากผมไปแล้ว เขาไม่อยู่แล้ว ฮึก” ผมกอดพี่ยอร์ชแน่น ร้องไห้กับอกพี่ชายเหมือนตอนเป็นเด็กตัวเล็กๆที่ร้องไห้เมื่อรู้ว่าพ่อตีงูที่ผมอยากเลี้ยงเพราะเขาพูดกับผมได้ตาย งูตัวนั้นคืออาซา ตอนนั้นเขาไม่ตาย แต่ตอนนี้ไม่เหมือนกัน เขาทิ้งผมไปแล้วไม่เหมือนครั้งนั้น

        เขาจะไม่มีวันกลับมาหากัน

        “โยชิ อย่าเพิ่งคิดแบบนั้น คุณจอร์จพาอาซาขึ้นเฮลิคอปเตอร์ไปหาหมอแล้ว อาซาจะต้องหาย” เวสตันมายืนอยู่ข้างๆผมตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้

        “แต่เขาไม่หายใจ” ผมพูดเสียงสั่น หางตาเห็นลูกน้องของคุณจอร์จเข้าไปดูเอเดน ยิ่งเห็นเขาผมก็ยิ่งอย่างเข้าไปฆ่าเขาให้ตายฆ่ามือ

        ทุกคนยืนล้อมผมกับพี่ยอร์ชเอาไว้ ส่งกำลังใจมาให้ผ่านดวงตา

        “ถ้าเป็นมนุษย์ก็คงหมดหวัง แต่กับมนุษย์กลายร่าง ถึงแม้ว่าจะไม่หายใจ แต่ก็ยังมีโอกาสรอด” เวสตันบอก

        ผมหยุดสะอื้น เบิกตาโต “จริงเหรอ เขาจะรอดเหรอเวสตัน”

        “อืม ถ้าโชคดี”

        หัวใจที่พองโตเหี่ยวลงทันที งั้นก็หมายความว่า ถ้าโชคไม่ดี อาซาก็จะไม่ฟื้นใช่ไหม

        “เรารีบตามไปดูอาซาเถอะ คุณจอร์จเตรียมเฮลิคอปเตอร์ไว้ให้ด้านนอกแล้ว” ฟรินน์พูด ไม่มีท่าทีขี้เล่นอย่างเคย

        ทุกคนวิ่งออกไปข้างนอกเพื่อจะตามไปดูอาซา ผมวิ่งไปได้สองก้าวก็ต้องหยุดเพราะพี่ยอร์ชกลับเดินไปทางในตรงกันข้าม

        “พี่ยอร์ชจะทำอะไร อย่าเข้าไปใกล้เขา เอเดนอาจทำร้ายพี่” ผมรีบห้าม จะสาวเท้าเข้าไปดึงพี่ยอร์ช แต่พี่ชายของผมแค่หันมายิ้มก่อนจะส่ายหน้า

        “เขาจะไม่ทำอะไรพี่ พี่แค่อยากพูดอะไรบางอย่างกับเขาเท่านั้น” สีหน้าและน้ำเสียงของพี่ยอร์ชหนักแน่น

        “แต่” ผมไม่ไว้ใจเอเดน เขามันงูพิษ ไว้เนื้อเชื่อใจไม่ได้

        “พี่เชื่อว่าเขาจะไม่ทำอะไรพี่ แต่ถ้าเขาทำ พี่อนุญาตให้โยฆ่าเขาได้ตามใจชอบ”

        เมื่อพี่ยอร์ชยืนยันมาแบบนั้น ผมจึงทำได้แค่ยืนออยู่ตรงนี้ มองพี่ยอร์ชและเอเดนไม่วางตา เฝ้าระวังเต็มที่เผื่อเอเดนคิดจะทำร้ายพี่ชายผมจริงๆ

        พี่ยอร์ชเดินไปหาเอเดนแล้วนั่งยองๆใกล้คนร้ายที่นอนเจ็บหนักในร่างคนธรรมดา ลูกน้องของคุณจอร์จถอยห่างเมื่อพี่ยอร์ชพูดอะไรสักอย่างกับพวกเขา เสียงพูดจากพี่ยอร์ชดังแว่วแต่จับใจความไม่ได้
 


        “คุณน่ะ เป็นหนี้ชีวิตผม”

        “ช่วยทำไม คุณน่าจะ...อยากให้ผมตาย”

        ยอร์ชส่ายหน้า “คุณอาจจะสมควรตาย แต่ถ้าคุณตายโดยยังไม่ได้สำนึก ผมคิดว่า นรกอาจจะพินาศเพราะมีคนอย่างคุณลงไปอยู่”

        “เหอะ ฮ่าๆๆ”

        “ต่อจากนี้เราไม่มีอะไรต้องข้องเกี่ยวกันอีก ทั้งเรื่องธุรกิจ ความแค้น และ...”

        “...” แววตาของเอเดนวูบไหวหม่นแสง

        “ช่างเถอะ ผมขอค่าตอบแทนที่ผมช่วยชีวิตคุณไว้แลกกับการเลิกจองล้างจองผลาญพวกเราสักที อาซาคือน้องเขย คือคนในครอบครัวของผม ผมรักเขาเหมือนที่รักพ่อและโยชิ เพราะฉะนั้นคุณไม่มีสิทธิ์จะทำอะไรเขาอีกต่อไป หากคุณต้องการทวงสิทธิ์อะไรที่ควรเป็นของคุณในครอบครัว ก็ไปทวงหาเอากับพ่อของคุณเอง เพราะนับแต่นี้ต่อไป อาซาคือคนในครอบครัวของผมที่ผมจะปกป้องดูแล”

        “ผมไม่ได้ขอให้คุณช่วยชีวิตผมสักหน่อย” เอเดนแค่นหัวเราะก่อนจะไอออกมาเป็นเลือดจำนวนมาก

        “จะบอกว่าเสียใจที่ผมไม่ปล่อยให้คุณตายงั้นสิ เสียใจด้วยนะ ที่ผมช่วยคุณเพราะหวังผลอยู่แล้ว คุณเป็นคนแรกที่ได้รับเกรียตินี้ สำนึกบุญคุณเอาไว้ด้วยล่ะ ถ้าคุณไม่ทำตามที่ผมสั่งเมื่อไหร่ มันจะไม่มีครั้งที่สองที่ผมจะปล่อยให้คุณได้หายใจหรือเที่ยวเร่ร้องหาความรักจากใคร ครั้งนี้ครั้งเดียว ครั้งสุดท้าย”

        เสียงปลายเท้าของยอร์ชดังห่างออกไปเรื่อยๆพร้อมกับเสียงกระซิบที่ไม่มีใครได้ยิน

        “ฉัน...ไม่ได้ทำร้ายน้องชายนายเลย ไม่เห็นหรือไง”



        ……………………………………
        ขอพระเจ้าจงคุ้มครองอาซา  :m15:
        หลังจากนี้เอเดนจะได้รับบทเรียนที่สาสม
        เรามาร่วมเป็นกำลังใจอาซาปลอดภัยกันเถอะ  :monkeysad:
        ป.ล. หากฉากบู๊แลดูทุเรศไปบ้างได้โปรดให้อภัย ริริพยายามสุดความสามารถแล้ว แต่งจนไมเกรนขึ้น  :katai1:จะทำการแก้ไขในภายหลังสำหรับฉากบู๊ทุกฉากในเรื่องนี้ อาเมน (ไว้อาลัยให้ตัวเอง) :sad2:
        ป.ล.2 หากมีคำผิด ใครใจดีโปรดแจ้ง ยังมีได้ตรวจ นั่งแต่งทั้งวัน สายตาเริ่มจะไม่สู้
        ขอให้ทุกคนรอตอนต่อไปอย่างมีความหวัง แล้วพบกันค่ะ :impress:


       
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 12-06-2015 11:45:14 โดย RiRi »

ออฟไลน์ jbook

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 148
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
 :z3: ฮื่อๆๆๆๆ T^T เศร้าใจจังเลย เอเดนนนนนนนนนนนนนนนนT^T ทำไมนายทำแบบนี้

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด