THIRTEEN
“อึก!”
ผมสะดุ้งสำลักน้ำ เผลอหลับในอ่างอาบน้ำจนเกือบจมน้ำตายไม่รู้ตัว ผมไออยู่สองสามทีเพราะน้ำและฟองสบู่ไหลลงคอ เนื่องจากผุดลุกเพราะจะจมน้ำอย่างเร็วทำให้ผมรู้สึกเวียนหัว เริ่มรู้สึกถึงปวดร้าวระบมไปทุกสัดส่วนของร่างกาย เจ็บมากหน่อยก็ที่หัว
ปึก!
หือ? เสียงอะไรข้างนอก
“ออกไป!!!”
เสียงอาซาตวาดดังลั่น ผมตกใจรีบลุกขึ้นจากอ่างอาบน้ำ มองจ้องไปที่ประตูเหมือนจะมองทะลุผ่านให้ได้เห็นว่าข้างนอกเกิดอะไรขึ้น
“ฮือออ”
ตามมาด้วยเสียงผู้หญิงร้องไห้ ผมหันรีหันขวางมองหาผ้าเช็ดตัวมาพันเอวไว้ เปิดประตูผลั๊วออกไปดูว่าเกิดอะไรขึ้น
“...!” ผมกำลังอึ้งสุดๆเมื่อเห็นสภาพของอาซากับจูเลียต...สองคนนี้ทำอะไรกัน ข้าวของในห้องระเกะระกะไม่เรียบร้อยโดยเฉพาะบนเตียง
“ฮึก...” เสียงสะอื้นจากจูเลียตดังเรียกความสนใจ เธอนั่งอยู่บนพื้นโดยมีผ้าห่มของอาซาคลุมตัวเอาไว้ มือบางกำผ้าห่มปกปิดร่างกายแน่น ก้มหน้าสะอื้นไห้เสียงแผ่ว ผมหันกลับไปมองอาซาที่นอนหายใจหอบอยู่บนเตียงครางเสียงต่ำเหมือนกำลังทรมานกับอะไรสักอย่าง
ผมเดินเข้าไปดูจูเลียต นั่งยองๆอยู่ตรงหน้าเธอ ผมไม่รู้หรอกว่าเกิดอะไรขึ้นระหว่างสองคนนี้ตอนที่ผมอาบน้ำอยู่ แต่ผู้ชายเวลาเห็นผู้หญิงร้องไห้ก็ย่อมทนเห็นไม่ได้
“เป็นอะไรไหม” ผมถาม เธอเงยหน้ามองผมเคืองๆ เม้มริมฝีปากแน่น
“อย่ามายุ่ง!” เธอผลักผมอย่างแรง เพราะไม่ทันตั้งตัวผมจึงหงายหลังลงไปกับพื้น เธอลุกขึ้นวิ่งออกไปจากห้องของอาซาทั้งๆที่ยังร้องไห้ ผมยันตัวลุกขึ้นมองตามหลังบางที่เปลือยเปล่าอย่างงงๆ
อย่าบอกนะว่าตอนที่ผมอาบน้ำ สองคนนี้กำลังจะ...
“อ๊าก!” เสียงอาซาทำผมสะดุ้งอีกรอบ ผมรีบลุกขึ้นไปดูเขาที่นอนทุรนทุรายบนเตียงกว้าง เหงื่อเม็ดโตผุดขึ้นตามเนื้อตัวเต็มไปหมดจนเปียกชุ่ม สีหน้าเขาดูทรมาน ผิวกายที่เคยเป็นสีขาวซีดลับสีแดงกล่ำ เส้นเลือดตามลำแขนปูดโปนจากอาการเกร็ง
“อาซา เป็นอะไรหรือเปล่า เจ็บตรงไหนไหม” ผมมองสำรวจร่างกายของอาซารนๆ ทั้งตัวเขามีเพียงกางเกงขายาวปกปิดร่างกาย อวดโชว์แผงอกให้ใจระส่ำเล่น แต่นี้ไม่ใช่เวลาจะมาเขิน ผมต้องทำอะไรสักอย่าง ก่อนหน้านี้เขายังดีๆอยู่เลย ทำไมถึงเป็นแบบนี้ได้
ผมแตะมือบนหน้าผากของอาซาเช็คอุณหภูมิ แต่แตะได้แค่ผิวเผินเสียงตวาดก็ดังยับยั้งการกระทำของผม
“อย่าแตะต้องฉัน! อื้อ โธ่เว้ย!”
ผมตกใจทำอะไรไม่ถูก ไม่รู้ว่าอาซาเป็นอะไร เจ็บปวดที่ตรงไหน ผมพยายามจะโดนตัวเขาอยู่หลายครั้ง แต่ทุกครั้งอาซาก็จะกัดฟันพูดห้ามไม่ให้ผมแตะตัวเขา เหมือนกับว่าสัมผัสจากผมเป็นหนามแหลมที่คอยทิ่มแทงให้เขาเจ็บปวด เมื่อผมช่วยอะไรไม่ได้ ผมเลยตัดสินใจว่าจะไปตามคนอื่นมาช่วยเขา ต้องมีใครสักคนที่นี่ช่วยอาซาได้อย่างแน่นอน เพราะพวกเขาเป็นครึ่งคนครึ่งงูเหมือนกัน
“อ๊ะ! คาร์เตอร์”
เปิดประตูห้องเตรียมไปเรียกคนอื่นๆให้มาช่วยอาซา ก็เจอกับคาร์เตอร์ที่ยกมือขึ้นกำลังจะเคาะประตู เขาดูงงๆที่ผมเรียกชื่อเขาเหมือนดีอกดีใจ ผมลากแขนเขาเข้ามาในห้องตรงไปที่เตียงด้วยความรีบร้อน
“มีอะไรโยชิ แล้วทำไมไม่ใส่เสื้อผ้าให้เรียบร้อย...ไอ้อาซา” เขาถาม แต่พอเห็นอาซาที่นอนคู้ตัวส่งเสียงอื้ออ้าฟังไม่ได้ศัพท์ก็ถึงกับอุทานว่าเวรแล้ว ตกลงอาการที่อาซาเป็นมันร้ายแรงมากใช่ไหม
“เขาเป็นอะไรเหรอคาร์เตอร์” ผมถาม มองคาร์เตอร์ที่วางกระเป๋าเครื่องมือบนเตียงแล้วก็เปิดรื้อหาของพร้อมไล่ให้ผมไปแต่งตัว ผมเดินไปหยิบเสื้อผ้าที่อาซาเตรียมไว้ให้ในห้องน้ำมาใส่ลวกๆ เสียงคาร์เตอร์บ่นฟังไม่ได้ศัพท์ออกมาเสียยาวยืดเพราะหาของไม่เจอ เขาล้วงโทรศัพท์ออกมาจากกระเป๋ากางเกงกดโทรออกหาใครสักคน ตาก็มองคนบนเตียงที่เริ่มจะแย่หนักเข้าไปทุกที
ผมขึ้นไปนั่งบนเตียงข้างอาซา จับตัวเขาพลิกนอนหงาย อาซาขืนตัวคำรามเสียงต่ำดื้อดึงไม่ยอมทำตาม ผมจิ๊ปากขัดใจออกแรงมากขึ้น อาซาต้านแรงผมไม่ได้ผมเลยจับเขานอนหงายได้สำเร็จ เขาเหมือนคนไร้เรี่ยวแรงจนน่าประหลาดใจ ก่อนจะตกใจเมื่อเห็นสิ่งผิดปกติที่เบื้องล่างกึ่งกลางตัว มันพองตัวตั้งตรงดันเนื้อผ้านุ่มของกางเกงจนโป่งนูนสังเกตเห็นได้ชัด
“ไอ้ฟรินน์ เอายา...มาให้ฉันที่บ้านพักอาซาเดี๋ยวนี้เลย ด่วน! อะไรนะ...แล้วแกไปทำอะไรที่นั่นวะ รีบกลับเดี๋ยวนี้เลย”
“เอ่อ...นาย” ผมมองส่วนนั้นก่อนจะกลืนน้ำลายเหนียวๆลงคอ
“ใครเอายาให้มันกิน” คาร์เตอร์ถามผม สีหน้าเขาเครียดนิดหน่อย
“ยาอะไร?” ผมขมวดคิ้วถาม
“ยาปลุกเซ็กส์ แต่ร้ายแรงกว่าเพราะมันมีฤทธิ์ทำให้อ่อนแรงแต่ความต้องการจะพุ่งสูงขึ้นเรื่อยๆถ้าหากไม่ได้ปลดปล่อย เอาไว้ใช้กับผู้หญิง ฉันเป็นคนคิดสูตรนี้เอง ตกลงว่านายไม่ได้เป็นคนเอาให้มันกินใช่ไหม”
“เปล่า! ฉันไม่ได้เอาให้เขากิน” ผมส่ายหน้าแรงๆ ตกใจเรื่องที่อาซาโดนยาปลุกเซ็กส์พอๆกับที่รู้ว่าคาร์เตอร์ผู้ชายนิ่งๆดูสุขุมเป็นคนคิดค้นยาอะไรแบบนี้ ดูไม่ออกเลยว่าจะเป็นคนหื่น
“ถ้าอย่างนั้นใครเอาให้มันกิน”
“ฉันไม่รู้ เอ๊ะ...”
“อะไร” คาร์เตอร์ถาม ผมส่ายหน้าปฏิเสธอีกรอบ
“เปล่าๆ ไม่มีอะไร”
หรือว่าจะเป็นจูเลียต แต่เธอจะทำแบบนั้นไปทำไม ยิ่งเห็นอาซาทรมานผมก็ยิ่งสงสาร ผมไม่เคยมีอารมณ์แบบนั้นเลยไม่รู้ว่ามันให้ความรู้สึกเจ็บปวดและทรมานมากแค่ไหน แต่ก็คงหนักเอาการอยู่ จากภาพที่อาซานอนกระสับกระส่ายด้วยท่าทางอ่อนระโหย และสีหน้าอดทนอดกลั้น
“เดี๋ยวฉันไปเอายาถอนเอง ส่วนนายก็ช่วยมันไปก่อน” เขาพูดแล้วเดินไปที่ประตู
“เดี๋ยว แล้วฉันจะช่วยเขาได้ยังไง”
“อะไรก็ได้ จะกอดจูบลูบคลำ หรือจะช่วยมันปลดปล่อยก็ได้ ทำไปเถอะ นายเป็นแฟนมันนี่ มันไม่ลำบากเกินไปใช่ไหม”
“ห๊า?”
คาร์เตอร์ออกจากห้องไปแล้ว ผมนั่งอึ้งกับคำแนะนำของเขา หันกลับไปมองอาซาอยู่พักใหญ่ ก่อนจะสูดลมหายใจลึกๆ รวบรวมกำลังแรงใจ เอาวะ...ก็คงไม่หนักหนาหรอก ยังไงก็ผู้ชายด้วยกัน เรื่องพวกนี้เป็นเรื่องธรรมชาติ ไม่มีอะไรต้องกังวล ผมบอกกับตัวเอง
แต่ความจริงผมโคตรจะกังวลเลย!
“อาซา” ผมเรียก เขาลืมตามองผมแค่นิดเดียว พอผมขยับตัวเข้าหา เขาก็ขยับตัวออกห่าง แล้วอยู่ๆร่างของอาซาก็กระตุกอย่างแรง เขาร้องเสียงดัง ผมแทบไม่ต้องคิดอะไรให้มากความ ก้มหน้าลงไปจูบอาซาทันที เขาขัดขืนแค่ตอนแรก แต่เพราะฤทธิ์ยาทำให้เขาเป็นฝ่ายบดเบียดริมฝีปากเข้าหาผมเอง ผมปล่อยให้เขาทำตามอำเภอใจเพราะความสงสาร และอีกความรู้สึกก็คือ ผมเองก็อยากจูบเขา
เราจูบกันอยู่สักพัก และเหมือนว่าการกระทำแค่นี้มันไม่พอที่จะปลดปล่อยเขาออกจากความทรมาน ผมกอดอาซาเอาไว้แน่นรับรู้ถึงอุณหภูมิร่างกายที่สูงขึ้นของอีกฝ่าย ประสบการณ์การจูบของผมก็มีไม่มาก แต่ก็พยายามจะทำให้ดีที่สุดเพื่อช่วยเขา
ผมถอนจูบออกเงยหน้าขึ้นสูงก่อนจะสูดลมหายใจเข้าเต็มปอดเพราะรู้สึกหายใจไม่ทั่วท้อง อาซาครางฮึมในลำคออย่างขัดใจ ผมเลยใช้มือสัมผัสเขาแทน ลูบไล้ที่หน้าอกตึงแน่น หัวคิดสะระตะไปว่าผมควรจะทำยังไงต่อไปดี ไม่เคยมีแฟนมาก่อนด้วยไม่ว่าจะหญิงหรือชาย ผมจึงทำอะไรไม่ถูก
“อาซา ไหวไหม”
“อ๊า...” เขาไม่ตอบ แต่แสดงออกทางสีหน้าที่ดูก็รู้ว่าไม่ไหว
ในเมื่อไม่รู้ก็ต้องลอง เริ่มแรกผมใช้นิ้วสะกิดหน้าอกของอาซา เขาครางเสียงต่ำทันทีที่ผมสัมผัส ผมอมยิ้มนิดๆ ลงมือจัดการกับเม็ดทับทิมสีเข้มหนักมือขึ้น มืออีกข้างก็เลื่อนต่ำลงข้างล่าง
“ยะ อย่า...” อาซารีบห้าม เขาจับมือผมไว้เบาๆ
“ทำไม” ผมถาม
“มะ ไม่ใช่ตอนนี้...” เขากัดฟันกรอด ผมไม่เข้าใจ ในเมื่อร่างกายเขาต้องการขนาดนี้ ยังมีอะไรที่ต้องลังเล
“แต่นายจะยิ่งทรมานนะ”
“ช่างมัน...แต่ ฉัน จะ ไม่ ทำ เรื่อง แบบ นั้น ตอน ที่ ฉัน ควบ คุม ตัว เอง ไม่ ได้ เด็ด ขาด!” เขาพูดอย่างยากลำบาก ผมสงสารเขาจับใจ แต่แล้วประตูก็เปิดออก ผมหยุดเรื่องที่ทำอยู่หันไปมอง คาร์เตอร์เดินเข้ามาใกล้ ก่อนจะยัดยาบางอย่างใส่ริมฝีปากที่แหบแห้ง อาซากลืนยาเข้าไป สีหน้าบูดเบี้ยวไม่คลายความกำหนัด
“เขาจะดีขึ้นใช่ไหม” ผมถามคาร์เตอร์
“อืม...มันจะมีแรงขึ้น ไม่ใช่นอนตัวอ่อนปลวกเปียกแบบนี้”
“แล้ว...อาการอย่างว่าล่ะ มันก็จะหายไปหรือเปล่า” เพราะดูแล้วอาซาอาการไม่ดีขึ้นเลยหลังจากที่กินยาแก้ไปแล้วเกือบสิบนาที อาซาเริ่มขยับตัวและลุกขึ้น แต่บางอย่างที่กึ่งกลางตัวยังไม่คลายความสงบ กลับพองตัวใหญ่โตมากยิ่งขึ้น
“ไม่หายหรอก ยาที่ให้กินไปมันเป็นยาที่ให้ผลตรงกันข้ามกับตัวก่อนหน้า แต่มีสรรพคุณเดียวกันคือ...ทำให้ซู่ซ่ากระปรี่กระเปร่า”
หมอนี่! ยังจะมีหน้ามายิ้มสนุก ในเมื่ออาซากำลังจะแย่
“ออกไป!” อาซาหันมาตวาดพวกผมสองคน สองมือกำเข้าหากันแน่นจนเส้นเลือดสีเขียวขึ้นปูดโปนเห็นได้ชัด คาร์เตอร์หัวเราะเบาๆในลำคอ
“ให้แฟนแกช่วยสิ เดี๋ยวฉันจะกลับไปรอที่บ้าน พร้อมทำแผลเมื่อไหร่ก็โทรไปเรียก”
เขานี่มันกวนประสาทจริงๆ ทีนี้ก็เหลือแค่ผมในห้อง ผมกำลังจะเข้าไปใกล้ๆ แต่อาซาลุกออกจากเตียงถอยหนี ผมคู้ตัวหนีผม
“ให้ฉันช่วยไหม” ผมอาสา เขาหันมาขึงตาใส่ผม กัดฟันกรอดเหมือนโกรธ แต่ผมว่าเขากำลังข่มอารมณ์ตัวเองมากกว่า
“ไม่ต้อง ออกไปโยชิ”
“แต่นาย...”
“ออกไป! ไม่ต้องสนใจฉัน!!!” เขาขยับอีกครั้งพร้อมกับพ่นลมหายใจร้อนอย่างขัดเคือง ผมรั้งรอ แต่พอเขาตวาดใส่ผมอีกครั้ง และผมยังไม่ทันออกจากห้อง เขาก็กลายร่างเป็นงูขนาดตัวเท่าผมเลื้อยออกไปทางหน้าต่าง ผมรีบวิ่งตามไปดู แต่เขาเร็วมาก หายเข้าไปในความมืด ผมรีบวิ่งออกไปที่ห้อง เจอฟรินน์เดินขึ้นมาพอดี
“ฟรินน์! อาซาเขาออกไปนอกบ้านแล้ว!” ผมรีบบอก
“อะไรนะ ก็ไหนไอ้คาร์เตอร์บอกว่านายกับมัน...” เขาทำมือจิ้มกัน ผมไม่มีเวลามาเขิน รีบอธิบายสิ่งที่เกิดขึ้นให้เขาฟัง ฟรินน์ดูไม่แปลกใจเลยที่อาซาไล่ผมออกจากห้องแล้วตัวเขาพุ่งทะยานหายไปทางหน้าต่าง
“ไม่ต้องเป็นห่วงไปหรอก มันแค่มีความต้องการ ปลดปล่อยสักหน่อยเดี๋ยวก็หาย” ฟรินน์พูด แต่ผมตัวแข็งเหมือนถูกน้ำแข็งเกาะ
“ขะ เขา...จะอออกไปนอนกับคนอื่นเหรอ” ผมถามเสียงเบาจนน่าใจหาย ฟรินน์ยักไหล่ กดโทรศัพท์โทรตามคาร์เตอร์อีกรอบให้กลับมาทำแผลให้ผม
“ก็อาจจะใช่แล้วไม่ใช่ อย่าทำหน้าเศร้าขนาดนั้น ที่มันทำแบบนั้นก็เพราะนาย” ฟรินน์ลูบหัวผมปลอบไม่ให้คิดมาก
“เพื่อฉัน? ไม่เห็นเข้าใจ”
“นายเป็นมนุษย์ปกติ อาจจะไม่รู้ว่าพวกนากินีอย่างเรา เวลาที่มีความต้องการจะมีมากยิ่งกว่ามนุษย์ถึงห้าเท่า แล้วมันโดนยาเข้าไปแบบนี้ ปลดปล่อยมากกว่าสิบรอบดูท่าว่าก็ไม่น่าหาย”
ห๊า!? ร้ายแรงขนาดนั้นเลยเหรอ
“มันคงรู้ว่าถ้ามันทำนาย นายตายคาเตียงแน่ มันถึงได้ต้องออกไปข้างนอกยังไงล่ะ”
อาซา...เขาทำเพื่อผมอีกแล้วหรอกเหรอนี่
“ถ้านายนอนกับอาซาเมื่อไหร่ นายจะได้รู้จักตัวตนที่แท้จริงของมัน แต่ระวังไว้หน่อยนะ มันเป็นงูที่เก็บกดมาหลายชาติ คาดว่านายคงยับคาเตียงแน่ๆ”
บอกผมทีว่านั่นเป็นคำบอกเล่าธรรมดา คำเตือน หรือคำขู่
อ่านต่อด้านล่าง