[ เรื่องสั้น ] สะดุดรัก...กลิ่นหอม ตอนพิเศษ ความรักของพี่ชาย 2 จบ(4/9/57)
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: [ เรื่องสั้น ] สะดุดรัก...กลิ่นหอม ตอนพิเศษ ความรักของพี่ชาย 2 จบ(4/9/57)  (อ่าน 37280 ครั้ง)

ออฟไลน์ Phut

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 374
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +128/-3
***************************************************************************************
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ


ติดตามกฏเพิ่มเติมที่กระทู้นี้บ่อยๆ เมื่อมีการแก้ไขกฏจะแก้ไขที่กระทู้นี้นะครับ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0

ประกาศทั่วไปติดตามอัพเดทกันที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.0

ประกาศ กฎที่อื่นมีไว้แหก แต่ห้ามมาแหกที่นี่

1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
การสนใจและชื่นชอบนิยายและเรื่องเล่าของคนในเรื่องควรมีขอบเขตที่จะไม่สร้างความเดือดร้อนให้เจ้าของเรื่อง เช่นเดียวกับเป็ดที่ตอนนี้ถูกรังควานตามหาตัวจากคนด้านต่างๆ จนตัดสินใจไม่เล่าเรื่องต่อ.........เนื่องจากบางเรื่องเป็นเรื่องเล่า.....................บางคนไม่ได้เปิดเผยตัวตน  เขาพอใจจะมีความสุขในที่เล็กๆแห่งนี้โดยไม่ได้ตั้งใจให้คนภายนอกได้รับรู้เรื่องราวแล้วนำไปพูดต่อ   เพราะปฎิเสธไม่ได้ว่าสังคมไม่ได้ยอมรับพวกเราสักเท่าไหร่

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท,
หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง
หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์
และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด
การกระทำเช่นนั้นอาจทำให้คุณแบนทันที และถาวร . หมายเลข IP ของทุกโพสต์จะถูกบันทึกเพื่อใช้เป็นหลักฐาน
ในความเป็นจริงเป็นไปได้ยากมากที่จะให้แต่ละคนมีความคิดเห็นตรงกันทั้งหมด   คนเรามากมายต่างความคิดต่างความเห็น เติบโตมาภายใต้ภาวะแวดล้อมต่างกันการแสดงความคิดเห็นที่แตกต่าง   จึงควรทำเพื่อให้เกิดความเข้าใจกัน แบ่งปันประสบการณ์และมิตรภาพเพื่ออาจเป็นประโยชน์ในการใช้ชีวิต  และไม่ว่าจะอย่างไรก็ควรเคารพในความคิดเห็นที่แตกต่างของบุคคลอื่นช่วยกันสร้างให้บอร์ดนี้มีแต่ความรักนะครับ   

เรื่องบางเรื่องอาจจะเป็นทั้งเรื่องแต่งหรือเรื่องเล่าใดๆก็ขอให้ระลึกเสมอว่า  อ่านเพื่อความบันเทิงและเก็บประสบการณ์ชีวิตที่คุณไม่ต้องไปเจอความเจ็บปวดเล่านั้นเองเพื่อเป็นข้อเตือนใจ สอนใจในการตัดสินใจใช้ชีวิต   จึงไม่ต้องพยายามสืบหาว่าเรื่องจริงหรือเรื่องแต่งส่วนการพูดคุยนั้น   ก็ประมาณอย่าทำให้กระทุ้กลายพันธุ์ห้ามเอาเรื่องส่วนตัวมาปรึกษาพูดคุยกันโดยที่ไม่เกี่ยวพันกับเรื่องในกระทู้นิยาย  ถ้าจะวิจารณ์หรือแสดงความคิดเห็นทุกคนมีสิทธิแต่ขอให้ไปตั้งกระทู้ที่บอร์ดอื่นที่ไม่ใช่ที่นี่นะครับ

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อเจ้าของเรื่องเท่าที่จะทำได้หรือแจ้งมายังบอร์ดนี้ก่อนนะครับ  เนื่องจากเจ้าของเรื่องบางครั้งไม่ต้องการให้คนที่ไม่ได้ชื่นชอบนิยายชายรักชายเข้ามารับรู้  ลิขสิทธิ์ทั้งหมดเป็นของเจ้าของคนที่ทำขึ้นและเวปแห่งนี้นะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอมให้ส่งหรือติดต่อกันทางพีเอ็มจะปลอดภัยกว่าแล้วเมื่อมีการติดต่อสื่อสารกันให้พึงระวังถึงความปลอดภัย ความไม่น่าไว้ใจของผุ้คนทุกคนแม้จะมีชื่อเสียงในบอร์ดเป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละคนไป เพื่อลดความขัดแย้งภายในเล้า จึงไม่สนับสนุนให้มีการจีบกันในบอร์ดนะครับ

5.ห้ามจั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียวให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตาม
เพราะแม้จะเป็นเรื่องที่เขียนจากเรื่องจริง เมื่อนำมาพิมพ์เป็นเรื่องผ่านตัวอักษร ย่อมเลี่ยงไม่ได้ที่จะมีการเพิ่มเติมเพื่อให้เกิดสีสันในเนื้อเรื่อง ทางเล้าถือว่านั่นคือการเพิ่มเติมเนื้อเรื่อง จึงไม่อนุญาตให้จั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” แต่สามารถแจ้งว่าเป็น “นิยายที่อ้างอิงมาจากชีวิตจริง” ได้  มีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว

6.การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insearch qoute  ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ

8.Administrator และ moderator ของ forum นี้ มีสิทธิ์อ่าน, ลบ หรือแก้ไขทุกข้อความ. และ administrator, moderator หรือ webmaster ไม่สามารถรับผิดชอบต่อข้อความที่คุณได้แสดงความคิดเห็น (ยกเว้นว่าพวกเขาจะเป็นผู้โพสต์เอง).

9.คุณยินยอมให้ข้อมูลทุกอย่างของคุณถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูล. ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะไม่ถูกเปิดเผยต่อผู้อื่นโดยไม่ได้รับการยินยอมจากคุณ .Webmaster, administrator และ moderator ไม่สามารถรับผิดชอบต่อการถูกเจาะข้อมูล แล้วนำไปสร้างความเดือดร้อนต่างๆ

10.ห้ามลงประกาศลิงค์โปรโมทเวป  โฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ลงได้เฉพาะในห้องซื้อขาย ในเมื่อแนะนำเวปอื่นที่บอร์ดเรา ก็ช่วยแนะนำบอร์ดเราโดยลงลิงค์บอร์ดเรา เวป http://www.thaiboyslove.com  ในบอร์ดที่ท่านแนะนำมาให้เราด้วย  เมื่อจำเป็นต้องแนะนำลิงค์ให้ส่งลิงค์กันทาง personal message หรือพีเอ็มแทนนะครับจะสะดวกกว่า ส่วนในกรณีอยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนๆได้อ่านจริงๆนั้นพยายามลงให้ห้องซื้อขายซะ หรือถ้าม๊อดเดอเรเตอร์จะพิจารณาเป็นกรณีๆไป ถ้ารู้สึกว่าไม่ได้โปรโมทเวป แต่อยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนด้วยใจจริงจะให้กระทู้นั้นคงอยู่ต่อไป

11.บอร์ดนิยายที่โพสจนจบแล้วมีไว้สำหรับนิยายที่โพสในบอร์ด boy's love จนจบแล้วเท่านั้น จึงจะถูกย้ายมาเก็บไว้ที่นี่ หาอ่านนิยายที่จบแล้ว หรือคนเขียนไม่ได้เขียนต่อ แต่โดยนัยแล้วถือว่าพล็อตเรื่องโดยรวมสมควรแก่การจบแล้ว หากนักเขียนท่านใดได้พิมพ์เล่มกับสำนักพิมพ์ ต้องการลบเรือ่งบางส่วนออก โดยเฉพาะไคลแม๊ก หรือตอนจบที่สำคัญ ให้แจ้ง moderator ย้ายนิยายของท่านสู่ห้องนิยายไม่จบ เพื่อที่หากระยะเวลาเกินหกเดือนแล้ว เราจะได้ทำการลบทิ้ง หรือท่านจะลบนิยายดังกล่าวทิ้งเสียก็ได้ เนื่องจากบอร์ดนี้เก็บเฉพาะนิยายที่จบแล้ว

บอร์ดนิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบไว้สำหรับ
นิยายที่คนเขียนไม่ได้มาต่อนาน หายไปโดยไม่มีเหตุผลสมควร ไม่ได้แจ้งไว้หรือแจ้งแล้วก็ไม่มาต่อ 3 เดือน จะย้ายมาเก็บในนี้เมื่อครบหกเดือนจะทำการลบทิ้ง ส่วนเรื่องไหนที่จะต่อก็ต่อในนี้จนกว่าจะจบ แล้วถึงจะทำการย้ายไปสู่บอร์ดนิยายจบแล้วต่อไป

12.ห้ามนำเรื่องพิพาทต่างๆมาเคลียร์กันในบอร์ด

13.ผู้โพสนิยาย และเขียนนิยายกรุณาโพสให้จบ ตรวจสอบคำผิดก่อนนำมาลงด้วยครับ

14.ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน  ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ

15. การนำรูปภาพ บทความ ฯลฯ มาลงในเวปบอร์ด  ควรจะให้เครดิตกับ... 
(1) ผู้ที่เป็นต้นตอเจ้าของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ
(2) เวปไซต์ต้นตอที่อ้างอิงถึง
....ในกรณีที่เป็นบทความที่ถูกอ้างอิงต่อมาจากเวปไซต์อื่นๆ
- ถ้ามีแหล่งต้นตอของเจ้าของบทความ  ให้โพสชื่อเจ้าของต้นตอของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ  พร้อมทั้งเวปไซต์ที่อ้างอิง 
  (กรณีนี้จะโพสอ้างอิงชื่อผู้โพสหรือเวปไซต์ที่เรานำมาหรือไม่ก็ได้ แต่ควรมั่นใจว่าชื่อต้นตอของที่มาถูกต้อง)
- ถ้าไม่สามารถหาชื่อต้นตอของรูปภาพหรือเวปไซต์ที่นำมาได้ ควรอ้างอิงชื่อผู้โพสและเวปไซต์จากแหล่งที่เรานำมาเสมอ
- ควรขออนุญาติเจ้าของภาพหรือเจ้าของบทความก่อนนำมาโพสค่ะ(ถ้าเป็นไปได้) ยกเว้นพวกเวปไซต์สาธารณะ เช่น  หนังสือพิมพ์ออนไลน์ ฯลฯ ที่เปิดให้คนทั่วไปได้อ่านเป็นสาธารณะ ก็นำมาโพสได้ แต่ให้อ้างอิงเจ้าของชื่อและแหล่งที่มาค่ะ
- ไม่ควรดัดแปลงหรือแก้ไขเครดิตที่ติดมากับรูปหรือบทความก่อนนำมาโพส
- ถ้าเป็น FW mail  ก็บอกไปเลยว่าเอามาจาก FW mail

16.นิยายเรื่องไหนที่คิดว่าเมื่อมีการรวมเล่มขายแล้วจะลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออก กรุณาอย่าเอามาลงที่นี่ หรือสำหรับผู้ที่ขอนิยายจากนักเขียนอื่นมาลง ต้องมั่นใจว่าเรื่องนั้นจะไม่มีการลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออกเมื่อมีการรวมเล่มขาย อนึ่ง เล้าไม่ได้ห้ามให้มีการรวมเล่มแต่อย่างใด สามารถรวมเล่มขายกันได้ แต่อยากให้เคารพกฎของเล้าด้วย เล้าเปิดโอกาสให้ทุกคน จะทำมาหากิน หรืออะไรก็ตามแต่ขอความร่วมมือด้วย เผื่อที่ทุกคนจะได้อยู่อย่างมีความสุข

17.ห้ามแจ้งที่หัวกระทู้เกี่ยวกับการจองหรือจัดพิมพ์หนังสือ แต่อนุโลมให้ขึ้นหัวกระทู้ว่า “แจ้งข่าวหน้า...” และลงลิงค์ที่ได้ตั้งเอาไว้ในแล้วในห้องซื้อขายลงในกระทู้นิยายแทน  ถ้านักเขียนต้องการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการจอง หรือจัดพิมพ์หนังสือของตนเองผ่านกระทู้นิยายของตนเอง  นิยายเรื่องดังกล่าวจะต้องลงเนื้อหาจนจบก่อน (ไม่รวมตอนพิเศษ) จึงจะทำการประชาสัมพันธ์ในกระทู้นิยายได้ (ศึกษากฏการซื้อขายของเล้่าก่อน ด้วยนะคะ)

เอาข้อสำคัญก่อนนะครับเด่วอื่นๆจะทำมาเพิ่มครับเอิ้กๆหุหุ
admin
thaiboyslove.com.......................................                                                           

วันที่ 3 ธ.ค. 2551วันที่ 16 ก.ย. 2554 ได้เพิ่มกฏ ข้อที่ 7
วันที่ 21 ต.ค.2556 ได้ปรับปรุงกฏทั้งหมดเพื่อให้แก้ไข และติดตามได้ง่าย

เวปไซต์แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่างประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม

*****************************************************************************************

Share This Topic To FaceBook
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 04-09-2014 12:23:56 โดย Phut »

ออฟไลน์ Phut

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 374
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +128/-3
สวัสดีจ้า คุยกันก่อนเนอะ เรื่องนี้มีแรงบันดาลใจจากเพื่อนที่ชอบใช้น้ำหอม เวลาไปไหนเจอคนใช้กลิ่นเดียวกับเพื่อนก็จะหันไปมอง เลยคิดว่าถ้าตัวเอกของเราตกหลุมรักเพราะสะดุดกลิ่นหอมจะเป็นยังไง
ฝากด้วยนะจ้ะ

เนื้อเรื่องกับชื่ออาจไม่สอดคล้องกันเท่าไหร่ ติชมกันได้ตามสบายแฮ  :pig4:

******************************



สะดุดรัก...กลิ่นหอม



ผมเป็นหนุ่มหล่อ  หึหึ หล่อมากเลยล่ะ

ผมไม่ได้หลงตัวเอง คนรอบข้างเขาบอกแบบนั้น

แต่ผมยังโสด...ก็ไม่มีคนที่เข้ากันได้น่ะ

 แต่ผมไม่เจ้าชู้นะ!

ถ้าเจอคนที่ใช่ ผมก็ทุ่มหมดหัวใจเชียวล่ะ

ตอนนี้โสด แต่อีกสักพักคงไม่โสดแล้ว

เพราะผมกำลังสะดุดรัก ไอ้กลิ่นหอมนั่น

 ผู้ชายตัวหอม

คนอะไรตัวหอมเป็นบ้า





ตอนที่1

เราเจอกันในร้านกาแฟ...กลิ่นหวานขมของกาแฟกับกลิ่นกายของเขา....

"ขอโทษครับ...ขอผมนั่งด้วยนะ" พูดจบผมก็ทิ้งตัวลงนั่งรีบกางโน๊ตบุ๊คออกส่งงานด่วนผ่านไวไฟของร้านอย่างรีบร้อน
"ฮาโหล...ผมส่งรายละเอียดไปได้รึป่าว ดูให้ดีนะรายนี้เค้าเน้นรายละเอียดมาก ฝากด้วยนะครับ"

 เพราะคนเยอะ ไม่มีโต๊ะว่าง จึงต้องขอนั่งอย่างเสียมารยาท เคลียธุระเสร็จเก็บโน๊ตบุ๊คเข้ากระเป๋า เงยหน้ามาเจอเจ้าของโต๊ะที่นั่งอยู่ก่อน คนนี้หน้าคุ้นเคยเห็นในร้านนี้บ่อยๆ

"ขอโทษด้วยนะครับพอดีผมรีบ....โต๊ะเต็มหมด" ยิ้มอย่างขอโทษผมคงรบกวน เวลาเลิกงานคนกำลังแน่นร้านเลย
"ไม่เป็นไรครับ..."กล่าวยิ้มๆปากยิ้มแต่ตาไม่ยิ้มพลางยกกาแฟขึ้นดื่มแล้วลุกเดินออกไป

ปลายจมูกผมสัมผัสเข้าอย่างจังกับกลิ่นหอมอ่อน...

กลิ่นที่ผมจำได้ดีชวนหวนให้นึกถึงใครบางคนที่เคยคุ้น

และก่อนที่ผมจะทันตั้งสติเขาก็เดินหายไปแล้ว

  หลังเลิกงานผมรีบดิ่งมายังร้านกาแฟร้านประจำที่ๆจะทำให้ได้เจอกับเจ้าของกลิ่นหอมหวานนั้น....
ผมสั่งกาแฟและเค้กหนึ่งชิ้นเพื่อนั่งรอคนที่ผมไม่รู้จักแม้แต่ชื่อ

นั่งรอกว่าชั่วโมงพยามยามมองคนที่เข้ามาในร้านว่าใช่รึป่าว ผมเห็นเขาหลายครั้งก็จริง แต่สารภาพเลยผมไม่เคยสังเกตตั้งใจจดจำ
ผมจำลักษณะด้านหลังเขาไม่ได้ ผมจึงต้องตั้งใจมองทุกคนที่เข้ามาเพราะกลัวว่าจะพลาดไป จะได้เจอรึป่าว เห็นบ่อยใช่ว่าจะมาทุกวัน

รอจนมืดแต่เขาก็ไม่มา.......

   ผมไม่ละความพยายามสามสี่วันมาแล้วที่ผมมารอเขาทุกวันแล้ววันนี้ผมก็ไม่ได้รอเก้อ ดวงหน้าขาวซีดปรากฏพร้อมกับเสียงกรุ้งกริ๊งของกระดิ่งหน้าประตูดังขึ้น

"คาปูชิโน่ แล้วก็เค้กบลูเบอร์รี่"สั่งเสร็จก็กวาดสายตาคงมองหาที่นั่งผมจึงรีบทักออกไป
"สวัสดีครับ...วันนี้คนเยอะนะครับ....ถ้าไม่รังเกียจนั่งกับผมเถอะ"ผมดีใจตั้งแต่เห็นเขาเข้ามาในร้านแล้ว
ผมยิ้มกว้างอย่างเป็นมิตร แต่เขายังลังเลที่จะนั่งกับผม คนเยอะก็จริงแต่ใช่ว่าจะแน่นจนไม่มีโต๊ะว่าง

"ตอบแทนที่ให้ผมนั่งด้วยเมื่อวันก่อน"ผมยิ้มกว้างส่งสายตาอ้อนวอนให้เขามานั่งด้วยท่าทางเขายังลังเลแต่ก็ยอม
"ผมเห็นคุณบ่อยๆ คุณชอบทานเค้กหรอ"ผมเริ่มชวนคุยมองใบหน้าหน้าสีซีดที่ไม่บ่งบอกอารมณ์
"ครับ"
"ผมชื่อพัฒครับ...คุณล่ะ"
"เอ่อ...เรียกกิมก็ได้ครับ" ตอบพร้อมมองสบตานิ่ง นัยตาสีน้ำผึ้ง พาใจผมเต้นโครมครามนี่ผมเป็นอะไร?!!
"ขออนุญาตเสริฟครับ"เสียงบุคคลที่สามแทรกขึ้น

แอบโล่งอกเมื่อสายตาคู่นั้นเปลี่ยนเป้าหมายไปมองเค้กตรงหน้าพร้อมรอยยิ้มจางๆ

ถ้าเขาจ้องนานกว่านี้ผมคงหัวใจวาย

  ผมมองพิจารณาคนตรงหน้าที่กำลังสนใจกับเค้กชิ้นเล็กน่ารับประทานกิมเป็นผู้ชายสูงโปร่งค่อนข้างผอม หน้าตาก็ธรรมดาไม่ได้หล่อเหลาอะไร แถมชอบทำหน้านิ่งๆอีกเหมือนคนเย็นชา ผมยาวหยักศกนิดๆที่ถูกรวบไว้หลวมๆ ปอยผมบางส่วนลงมาปรกคิ้วและแก้ม แต่ที่ทำให้รู้สึกสะดุดก็คงเป็นสีผิวที่มันขาวจัดจนเรียกว่า'ซีด'จะเหมาะที่สุด ในตาสีน้ำผึ้งภายใต้เปลือกตาสองชั้นที่ไม่ถึงกับโตแล้วพอพูดถึงดวงตาเจ้าของตาสีอ่อนก็มองสบตาผมอีกครั้งเล่นเอาผมหน้าร้อนผ่าวเลยแต่ผมก็ไม่ได้หลบตา

"เอ่อ...อร่อยมั้ย"รีบถามกลบเกลื่อน ดันเผลอจ้องซะนาน
"ครับ" ตอบก่อนจะยกแก้วกาแฟขึ้นดื่ม จ้องตาผมเขม็ง เฉยชาสุดๆ

"กิมอยู่แถวนี้หรอ"
"ครับ" ตอบสั้นอีกแล้ว นี่ใจคอเขาจะพูดอยู่คำเดียวนี่ใช่ไหม?
"ผมขอตัวก่อนนะครับ…มีงานต้องทำต่อ"

"เอ่อ...ครับ....พรุ่งนี้มามั้ย"ผมโพล่งถามทันทีที่เขาลุกขึ้น
"น่าจะครับ"ผมยิ้มดีใจกับคำตอบ เขาก็ยิ้มน้อยๆตอบกลับมาเช่นกัน

ยิ้มที่ไม่ใช่ยิ้มตามมารยาท...ยิ้มที่คิดว่ามาจากใจ เพียงเท่านี้หัวใจสั่นไปหมด มีเสน่ห์เหลือเกิน

     ไม่รู้ว่าตัวเองตั้งใจจะทำอะไรกันแน่แค่กลิ่นหอมที่ทำให้สะดุด ผมอยากเจอเขาอีก อยากรู้จักพูดคุย และอยากเห็นเขายิ้มอีกครั้ง
พอเลิกงานปุ๊บ ก็ดิ่งมาร้านกาแฟปั๊บด้วยใจที่เบิกบานโชคดีจริงๆที่ช่วงนี้ไม่มีโปรเจคใหญ่ ผมถึงได้เลิกงานตรงเวลา
วันนี้ผมมาเร็วและฉีกยิ้มกว้างทันทีที่เห็นเขา คงมาได้สักพักแล้วดูจากเค้กที่แหว่งไปหลายคำ

แวบแรกผมเห็นเขายิ้ม ก่อนปรับเป็นสีหน้าเรียบเฉย

"สวัสดีครับ...กิมมานานแล้วหรอ"
"สักพักครับ"สั้นและนิ่งอีกเช่นเคย

"ขออนุญาตเสริฟครับ"
"วันนี้พี่พัฒไม่ทานเค้ก?" คำถามถูกส่งมาพร้อมคิ้วที่เลิกขึ้นเล็กน้อย เขาชวนผมคุยรึนี่
"เครปเค้กเค้าหมดพอดีน่ะพี่ไม่ค่อยชอบอย่างอื่น" ตอบไปยิ้มไปครับ แอบดีใจนะเนี่ย เขาเรียกพี่ผมก็แทนว่าพี่เลยแล้วกัน
เขาน่าจะเด็กกว่าผมหลายปี

"กิมอายุเท่าไหร่ครับ"ถามให้หายข้องใจ
"24ครับ....พี่พัฒล่ะ"เขาเด็กกว่าผมจริงๆด้วย
"ลองทายดู"
"28มั้งครับ....."

ผมอึ้งนิดนึงไม่คิดว่าจะทายถูก
"เดาแม่นนะ...28แล้ว ดูแก่เลยมั้ย"
"....."ไม่มีคำพูดเพียงแค่ยิ้มนิดๆ พร้อมส่ายหน้าไปมา

"พี่พัฒเคยชิมเค้กบลูเบอร์รี่เขารึยัง...อร่อยนะครับ" พูดแล้วก็ตักเค้กบลูเบอร์ของตัวเองเข้าปากพร้อมอมยิ้ม ท่าทางมีความสุขคงจะชอบมาก เห็นเค้ายิ้มพลันหัวใจผมสั่นไหวขึ้นมาเสียดื้อๆ ยิ่งเขาสบตาใจก็ยิ่งเต้นเร็วแรงมันพองฟูย้ำชัดจนผมมั่นใจในความรู้สึก

'ผมชอบเขา' ไม่ได้รู้สึกแบบนี้มานานแค่ไหนนะ
ยามลิ้นเรียวไล้เลียขอบปากกระจับได้รูปที่เลอะครีม ใจผมสั่นไปหมด เขาตั้งใจยั่วรึป่าว


"กิม......"
มองผมนิ่งๆเมื่อผมเรียก เหมือนรอให้ผมพูดต่อ แต่พอสบตาผมแล้วกลับหลบตาเอียงอาย
ผมว่า....เขาคิดเหมือนผมนะ

"....มีแฟนรึยัง....."

อย่าเพิ่งมีนะ....
"......." หน้าที่ขาวจัดเริ่มขึ้นสีจนแดงจัด กัดริมฝีปากด้วย

.
"ไม่มีครับ" ก้มหน้างุดผมมองไม่เห็นหน้าแต่หูเขาแดงมากเลย เขินแบบนี้แปลว่ามีใจรึป่าว??

 ผมกำลังตื่นเต้น และกำลังรอดูว่าเขาจะทำอย่างไร เราต่างคนต่างเงียบจนในที่สุดกิมก็พูดขึ้นก่อน

"เอ่อ.....ผมกลับก่อนนะครับ เอ่อ.....มีงานค้างอยู่" เขารีบลุกขึ้นท่าทางรีบร้อน คงจะทำตัวไม่ถูกสินะ
"เอ่อ...เดี๋ยวสิ!พี่ไปส่งนะ" ผมไม่อยากรออีกแล้วงานนี้ต้องรีบรุกสถานเดียว

ท้องฟ้าเปลี่ยนสีแล้วสายลมพัดผ่านจนผมกิมสะบัดหอบเอากลิ่นกายเขามาเข้าจมูก ผมแอบสูดกลิ่นเขาเต็มปอด

"พี่พัฒเป็นเกย์หรอ?"ผมยิ้มกว้างกับคำถามตรงๆของกิม
"อื้ม"

กิมก้าวขาเดินช้าๆโดยมีผมเดินข้างๆ ที่พักกิมอยู่ไม่ไกล เราจึงเดินมาด้วยกันอย่างใจเย็น
"รังเกียจพี่รึป่าว"
"ป่าวครับ!"ตอบทันที ท่าทางลนลาน ผมขำเบาๆ กิมมาดนิ่งคนที่ผมเจอในตอนแรกหายไปไหนแล้ว

"ไปกินข้าวกับพี่ก่อนได้ไหม....งานรีบรึป่าว"ผมอยากยืดเวลาออกอีกสักนิด
"ครับ" ก้มหน้าลงต่ำ ต้องเขินแน่
"ครับนี่...ไปครับหรือรีบครับ ??"ถามเขาหยอกๆ ชอบเวลาเขาเขินจัง
"ไปครับ!....พี่พัฒ....." ได้ผลครับหน้าเริ่มขึ้นสีแล้ว

"ทำไมต้องหน้าแดง" ผมคงเข้าข้างตัวเองได้ใช่ไหม
"ก็....ผมเขิน....."พูดเบาๆเหมือนพึมพำกับตัวเอง จริงๆแล้วผมเองก็เขินและตื่นเต้นเหมือนกันที่พูดแหย่แต่มันมีตวามสุขแปลกๆ
สีหน้าเปลี่ยนไปมา ไม่เหลือมาดนิ่งในคราวแรกที่เราเจอกันผิวที่ขาวซีดอยู่แล้วทำให้เห็นความเปลี่ยนแปลงได้ชัดมากขึ้น
เมื่อมันแปรเปลี่ยนเป็นสีแดงระเรื่อ

"เลี้ยวข้างหน้าก็ถึงร้านแล้วล่ะ"
"ระวังนะ....คนกำลังเยอะเลย"ผมโอบเอวบางของกิมเดินเข้ามาในร้านเบียดกับคนที่เดินสวนออกมา กลัวเขาโดนชนจนเซถลา ตัวยิ่งผอมๆอยู่
แต่หลังกิมเกร็งจนผมรู้สึกได้ ผมคงมือไวเกินไปรีบปล่อยมือเมื่อถึงโต๊ะ

กิมสั่งต้มจืดเต้าหู้ กับกุ้งผัดบล็อกโคลี่ ส่วนผมสั่งต้มยำกุ้งกับผัดหมูป่า แซบสะใจ

"อิ่มแล้วหรอเด็กน้อย...หึหึ"เอ่ยแซวเมื่อเห็นเขาวางช้อนยกน้ำขึ้นดื่ม
"อิ่มแล้วครับ!"ตอบแบบเคืองๆก็ผมแอบขำตั้งแต่ได้ยินเขาสั่งเมนูแล้ว เห็นตักมะเขือเทศในต้มยำกุ้งไปกินแค่คำเดียวกินน้ำหมดเป็นขวด

เจ้าตัวคงพอจะรู้ว่าผมขำเรื่องอะไร

"ก็กินเก่งนี่ทำไมถึงผอมแบบนี้ล่ะ"
"ผมกินยาก...นิยมแต่ผักแล้วก็ไม่ค่อยมีเวลากิน"นึกแล้วเชียวเห็นตักกินแต่ผักต้มจืดก็กินแต่เต้าหู้
"งั้นหรอ...ไม่เป็นไรเดี๋ยวต่อไปพี่ขุนเองเอาให้กลมไปเลย......น้องเช็คบิลเลยครับ"
"กิมไม่ต้องนะ...พี่จ่ายเอง"กิมดึงบิลไปดู
"ไม่ได้หรอกผมเกรงใจ..คนละครึ่งละกัน" แล้วก็ส่งเงินให้พนักงานแต่ผมไวกว่าดึงมือกิมไว้แล้วส่งแบงเทาให้พนักงาน

"เอาไว้คราวหน้าค่อยเลี้ยงพี่"
"ผมเลี้ยงได้แค่ตามสั่งนะ... ผมจน"
"จ้า....พี่ก็ไม่ได้รวยมาจากไหนหรอกแต่วันนี้พิเศษ"พูดพร้อมกับอมยิ้ม กิมเลิกคิ้วขึ้นเป็นเชิงถาม

"ไปกันเถอะ...กลับเลยนะเดี๋ยวพี่เดินไปเป็นเพื่อน" ผมจับมือกิมไว้หลวมๆพาเขาเดินออกมาจากร้านที่คนเริ่มซาลงแล้ว
     
เราเดินมาด้วยกันต่างคนต่างเงียบเพียงแค่คอยสังเกตุสีหน้าด้านข้างของเขากิมคิ้วขมวดนิดๆตลอดทาง คงคิดอะไรอยู่
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 10-07-2014 12:15:16 โดย Phut »

ออฟไลน์ roseen

  • เก็บความทรงจำที่ดีๆของวันวาน เพราะมันคือกำลังใจของวันนี้
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8646
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +947/-16

ออฟไลน์ golove2

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4478
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +277/-6
น้องกิมต้องเป็นคนขี้อายแน่ ๆ เ่ลย


 :mew3: :mew3:

ออฟไลน์ threetanz

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 766
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +41/-1
น้องกิมคิดอะไรอยู่อะ มาต่อไวไวนะคะ

ออฟไลน์ aimjjj

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 28
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
น้องกิมน่ารักกกก พี่พัฒหล่ะก็ชอลแหย่น้อง :o8:

ออฟไลน์ Phut

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 374
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +128/-3
************************
ผมเป็นพวกชอบระแวง เขาต้องการอะไรถึงมาชวนคุยมาตีสนิท ว่ากันว่าดวงตาเป็นหน้าต่างของหัวใจ ถึงผมจะไม่รู้ว่าเขาคิดอะไรต้องการอะไร แต่อย่างน้อยสายตาเขาคงบอกได้ว่า 'จริงใจ'แค่ไหน เขามองสบตาไม่หลบตาผมใบหน้าแต้มไปด้วยรอยยิ้ม...

คงจะจริงใจมั้ง

พูดได้เลยว่าเขาหล่อ สูงกว่าผมและตัวหนากว่ามากผิวไม่ถึงกับขาวออกเหลืองมากกว่า ลักษณะภายนอกเหมือนพวกคุณชายท่าทางมนุษสัมพันธ์ดี.....ก็พี่ยิ้มกว้างจนเห็นฟันแทบทุกซี่เล่นเอาใจผมเต้นแทบหลุดออกมานอกอกอยู่แล้ว

ใบหน้าที่เคยนิ่งเป็นเรื่องปกติของผมกลับรู้สึกว่ามันทำยากมากเหลือเกิน ทำไมผมใจง่ายแบบนี้เพียงแค่เขายิ้มหล่อๆให้ใจผมก็แทบจะละลายอยู่ตรงนี้

เขาเดินมาส่งผมถึงหน้าอพาทเมนต์ ก่อนจะหยิบปากกาดึงมือผมไปเขียนยุกยิกใส่ฝ่ามือ
"เบอร์พี่ อย่าลืมโทรหาพี่นะ....พี่รออยู่นะเด็กน้อย..." คำพูดท้ายประโยคถูกเน้น นี่เขาจะล้อผมไม่เลิกสินะ ตั้งแต่กินข้าวแล้ว ก็ผมมันลิ้นบางกินเผ็ดไม่ได้นี่

"ฮ่าๆพี่ล้อเล่น...อย่าทำคิ้วผูกโบว์สิ" สนุกเหลือเกิน ชอบล้อจังนะ
"เอ้า...โกรธพี่จริงหรอ หน้าแดงหมดเลย "
"ป่าว....ผมไม่ได้โกรธ"

ผมตื่นเต้น

"งั้นเดี๋ยวผมโทรหานะ สี่ทุ่มนะ...ดึกไปไหม" ผมพยายามผ่อนคลายที่สุดเพื่อให้เสียงฟังดูไม่เครียด ผมเป็นพวกนกฮูกชอบทำงานตอนกลางคืน สี่ทุ่มไม่รู้ดึกไปไหมสำหรับเขา
"โอเค....พี่จะรอนะ.....บายครับ" แล้วเขาก็ยิ้มให้ผมอีกครั้งยกมือมาจับแก้มผมเบาๆแล้วโบกมือให้

โอย...อยากเป็นลม ยิ้มแบบนี้เดี๋ยวผมก็ลากขึ้นห้องหรอก

 ก็ได้แค่คิดเล่นๆ ผมไม่พาใครมาห้องหรอกแต่ถ้าเป็นเขาคนนี้ก็ไม่แน่

"บายครับ"โบกมือให้เขาแล้วเดินเข้าตัวอาคารเขายืนรอจนผมขึ้นมาแล้วพอมองจากหน้าต่างห้องก็เห็นหลังเขาเพิ่งเดินออกไปไม่ไกล

ผมเองก็ไม่ใช่เด็กๆ ท่าทางแบบนี้เขาจะจีบผมใช่ไหม...มือไวเป็นบ้า

เขาเจ้าชู้รึป่าวนะ หล่อขนาดนี้ทำไมถึงจีบผม จะลองให้โอกาสเขาและให้โอกาสตัวเองได้ไหม

....อยากลองเสี่ยงอีกสักครั้ง

****************


มาหยอด

ผิดตรงไหน แปลกยังไง ติชมกันได้นะจ้ะ :pig4:

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 28-04-2014 10:45:50 โดย Phut »

ออฟไลน์ Phut

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 374
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +128/-3
เพลงในเรื่องคือ เพลงหอม-ไอซ์ ศรัณยู นะจ้ะ
http://www.youtube.com/watch?v=k51thDn01Yw

***************************

2

22.00 PM.
สี่ทุ่มแล้วกิมจะโทรมาไหม รู้อย่างนี้น่าจะเอาเบอร์เขามาโทรเองจะได้ไม่ต้องมานั่งลุ้นใจตุ้มๆต่อมๆ
ผมนั่งจ้องโทรศัพท์ในมือ และรีบกดรับทันทีเมื่อมันสั่น....ตื่นเต้นราวกับวัยรุ่นที่คุยกับแฟนครั้งแรก

"ฮาโหลกิม"เสียงผมคงดีใจมากไปหน่อยปลายสายถึงตอบกลับมาด้วยน้ำเสียงปนหัวเราะ
"ฮาโหลครับ....พี่พัฒ....นอนรึยังครับ"
"นอนแล้วครับ"
"อะ...ขอโทษครับ ฝันดีครับ"
"อย่าเพิ่งวางงงง พี่ล้อเล่น ฮ่าๆๆ พี่ยังไม่นอนหรอกครับ รอกิมอยู่ไง..."
"พี่พัฒ..." เรียกซะเสียงเข้มเลยสงสัยจะเคือง 

ผมคุยกับกิมนานเป็นชั่วโมงรู้สึกว่าน้ำเสียงเขาใสและดูผ่อนคลายกว่าตอนเจอหน้ากัน
ชื่อเล่นแบบเต็มๆของเขาคือ'ปลากริม' ชักอยากชิมแล้วสิ ตอนบอกชื่อกิมผมก็นึกว่าเขาเป็นลูกคนจีนซะอีก

เขาบอกว่ารู้สึกตื่นเต้นและประหม่ามากเวลาอยู่ต่อหน้าผม นี่คงเป็นสาเหตุที่เขาพยายามปั้นหน้านิ่งๆสินะ
ฃตอนนี้ผมมั่นใจมากว่าเขาต้องชอบผมเช่นกัน ถึงจะไม่ได้พูดว่าชอบตรงๆก็ตาม...


Phat: เย็นว่างไหม....เลิกงานพี่พาไปดูหนัง
Gimm: ว่างนิดนึงก็ได้...เจอที่ไหนดีครับ
Phat: ว่างเยอะๆไม่ได้หรออยากอยู่กับแฟนนานๆ คิดถึง
Gimm: อ้าว....พี่พัฒมีแฟนแล้วหรอครับ?ไม่รู้นะเนี่ย
Phat: กวนนักนะเราน่ะ เลิกงานเดี๋ยวไปรับ

คุยกันทุกวันจะเป็นเดือนแล้ว ส่งข้อความหากันนับครั้งไม่ถ้วน ไม่เรียกแฟนแล้วจะเรียกอะไร
คนเป็นเพื่อนเค้าไม่บอกคิดถึงกันหรอกยิ่งผู้ชายด้วยแล้ว แต่คนทางโน้นก็หน้ามึนเฉไฉตลอด
.
.

เธอหอม แบบไม่ต้องใส่น้ำหอม
ใจฉันมันยังต้องยอม
ก็หอมกระจายได้อีก อยากได้กลิ่นอีก


เพลงดนตรีสนุกถูกร้องขึ้นในใจ พร้อมกับการตบเท้ากับพื้นให้จังหวะ

"อยากดูเรื่องไหน...." ผมถามขณะยืนดูโปรแกรมหนัง กอดคอกิมไว้หลวมๆ แอบสูดดมเส้นผมเป็นพักๆ

หอม สดชื่นจนอยากจะหอม
อยากได้เธอมาไว้ครอง
ถนอมเธอทั้งเนื้อตัวและหัวใจเลย


"ดูการ์ตูนเรื่องนี้ไหมครับ ภาพสวยดี น่าดูนะ"ตอบตาเป็นประกายเชียว ผมก็เล็งไว้อยู่
"อื้ม...เอาสิพี่ก็อยากดูอยู่ กิมไปนั่งรอนะเดี๋ยวพี่ซื้อตั๋วให้" แล้วผมก็มาเข้าคิวซื้อตัว ตาก็คอยมองกิมอยู่เรื่อยๆ
เจ้าตัวก็มองผมเช่นกันแต่พอสบตากันก็ก้มหน้าซะอย่างนั้น ไม่ได้สังเกตุเลยว่าคนอื่นๆเขามองตัวเองอยู่

เฮ้ออ.....ที่ผ่านมาทำไมผมไม่สังเกตุเห็นนะก็เขาสะดุดตาซะขนาดนั้น เหมือนผมจะเคยบอกว่าหน้าตากิมไม่ได้หล่อเหลาอะไร
แต่เขาน่ะ มีเสน่ห์มาก...มากๆเลยล่ะ

อย่า.....อย่ายิ้ม! เดี๋ยวคนอื่นมันเห็นเกิดต้องตามันลากไปพี่จะทำยังไง

 โรงหนังมืดๆแอร์เย็นๆบรรยากาศเหมาะแก่การลวนลาม หึหึ...ผมไม่ใช่สุภาพบุรุษหรอกนะ

จับมือกิมเจ้าตัวสะดุ้งนิดหน่อยก่อนจะพลิกฝ่ามือมาจับมือผมไว้เช่นกัน แล้วก็ต่างคนต่างตั้งใจดู
เห็นท่าทางเขาตั้งใจมากผมก็เลยไม่อยากขัดจังหวะ

แอบเห็นกิมน้ำตาไหลตอนพระเอกต้องเสียขาข้างหนึ่งไป ผมลูบหัวกิมเบาๆตาก็ยังคงมองจอยักษ์ตรงหน้า

อ่อนไหวจัง.... น่ารักจริง ผมก็ขยับเข้าไปจูบแก้มกิมเบาๆ ...นุ่มจัง

ได้กลิ่นหอมเย้ายวนสติแทบหลุด


ตัวเธอมันก็หอมอยู่ มือเธอคงยิ่งหอมกว่า
มันก็อยากจะรู้แก้มเธอขนาดไหน

อยู่ห่างๆ ก็ได้กลิ่น มันรัญจวนจนได้ใจ
ก็มันอยากจะขอใกล้เธอมากกว่านี้


อยากได้มากกว่านี้.... ผมประคองแก้มอีกข้างให้หันมา

จ้องเข้าไปในดวงตาที่เบิกกว้างเป็นประกายสบตาผมอย่างตื่นเต้น
ผมมองไล่ลงมาถึงริมฝีปากอิ่มโน้นหน้าเข้าไปใกล้จนรู้สึกถึงลมหายใจอุ่นที่เป่ารดกันปลายจมูกเราสัมผัสกัน
กิมค่อยๆหลับตาลง ผมประทับลงบนกลีบปากล่างเลาะเล็มอย่างแผ่วเบากิมสั่นน้อยๆ แต่กับยอมเปิดปากรับลิ้นผมเข้าไปสำรวจ
ผมค่อยควานหาความหวานจนทั่วทั้งโพรงปากปลายลิ้นเราเกี่ยวกระหวัดพันกันอย่างดูดดื่ม

ความหอมหวานที่ได้สัมผัสกำลังทำผมเตลิด ใจผมเต้นแรงอารมณ์บางอย่างกำลังประทุ
และก่อนที่อะไรๆมันจะเลยเถิดไฟก็สว่างขึ้นเสียงคนรอบข้างดังจอแจเราผละออกจากกันโดยอัตโนมัติ เห็นคนหน้าแดงก้มหน้างุดปล่อยให้ผมโอบเอวออกจากโรงหนัง...

คบกับใครมาหลายคนแต่ไมได้รู้สึกแบบนี้มานานมากแล้ว คนนี้แหละที่ผมอยากได้....


"หนังสนุกไหม?"
 "สนุกครับ!กิมชอบมากเลย เล็งไว้ตั่งแต่เห็นโฆษณาแล้ว เดี๋ยวต้องหาแผ่นเก็บไว้ดู" พูดไปยิ้มไป ท่าทางดี๊ด๊ามาก
"สนุกแล้วร้องไห้ทำไม...." ผมถามอมยิ้ม
"อย่าล้อสิ...ก็มันซึ้ง น่าสงสารพระเอก หรือพี่ไม่สงสาร?"
"ไม่นะ พี่สงสารตัวเองมากกว่า แฟนไม่สนใจเลยเอาแต่ดูหนัง" ผมพูดแสร้งทำเสียงเศร้า
"แฟนพี่คนไหนล่ะ" ยิ้มกวนน่าหยิกให้หายมันเขี้ยว "กิมแอบมองตั้งหลายครั้งเห็นพี่พัฒจ้องจอตาไม่กระพริบเลย"
พูดจบก็เม้มปากเหมือนตัวเองหลุดพูดอะไรออกมา

"แหนะ....แอบมองทำไมมองพี่ตรงๆก็ได้ พี่ไม่คิดตัง....ทำมากกว่ามองยังได้" เพราะพี่เองก็อยาก....อะหึอะหึ


"พรุ่งนี้วันหยุด....นอนด้วยคนได้ไหม" ผมถามทีเล่นทีจริง แต่เขามีท่าทีลำบากใจ

ฉันไม่ใช่ช่อมาลี ฉันไม่ใช่แค่ราตรี
ฉันไม่ใช่ดอกไม้ จะได้ยอมจะได้ยอม

ฉันไม่ใช่เล็บมือนาง ฉันไม่ใช่แค่กุหลาบ
ฉันไม่ใช่ดอกไม้ คงไม่ยอมคงไม่ยอม

 
คงยังไม่เชื่อใจพี่สินะ....ไม่เป็นไรพี่รอได้ เรื่องแบบนี้ไม่จำเป็นต้องรีบร้อน

จากประสบการณ์ที่ผ่านทำให้เรียนรู้ว่าความรักที่ค่อยๆบ่มเพาะมันจะยิ่งหอมหวานและมีคุณค่ามากกว่าความรักที่ฉาบฉวย
เหมือนสุภาษิตไทยที่ว่า ช้าๆได้พร้าเล่มงาม ...เกี่ยวไหม?

"ฝากมันนอนด้วยได้ไหม" แล้วผมก็ยื่นถุงให้ เห็นกิมมองๆอยู่ตอนเดินดูของ เลยแอบซื้อให้ซะเลย
"หมีขาว....ขอบคุณครับ ชอบมากเลย" นึกแล้วว่าต้องถูกใจ
พอเปิดถุงปุ๊บก็ยิ้มกว้างทันที เห็นแล้วอยากลวนลามแต่ต้องทนไว้

"แล้วชอบคนให้ไหม"
"........" ก้มหน้างุด ไม่พูด...แปลว่า????

แล้วก็ได้ยินเสียงสูดหายใจเข้า ตามมาด้วยจูบเบาๆที่แก้มซ้ายของผม
ก่อนจะหันหลังกลับอย่างรวกเร็วจนปลายผมสะบัดได้กลิ่นหอมฟุ้งจากเส้นผม

ประตูปิดไปแล้วแต่ผมยังยืนยิ้มค้าง วันนี้ผมคงหลับฝันหวานทั้งคืน......

*********************
ตุ๊กตาหมีสีขาวขนนุ่ม กอดมันแล้วก็คิดถึงคนให้ คนอะไรน่ากอดชะมัด ทั้งใจดี แถมยังอ่อนโยนอีก ยังมีจริงๆเหรอคนแบบนี้เนี่ย แล้วยังรอยยิ้มเป็นประกายวิ้งๆ นั่นอีก บรรยากาศรอบตัวเขาออกแนวโลกสดใสผู้ชายอ่อนโยน ไม่รู้ว่าพี่หลุดมาจากละครเรื่องไหน นี่คงเป็นช่วงโปรโมชั่นสินะ

ผมคิดว่าผมค่อนข้างแมนนะถึงจะขี้อายไปบ้างก็เถอะแต่อารมณ์ ณ ตอนนี้คือสาวน้อยมาก น้ำเสียงทุ้มต่ำกับคำพูดที่คอยหยอกให้ผมเขิน ไม่อยากจะคิดว่าถ้าผมยอมให้เขาค้างด้วยแล้วต่อจากนั้น....อยากดิ้นตาย แค่ถูกเขาจูบผมก็อ่อนระทวยไปทั้งตัวแล้ว ประสบการณ์เรื่องนี้ของผมนับครั้งได้เลย

ก็นับว่าเขาเป็นสุภาพบุรุษมาก ยังให้โอกาสผมไม่ได้มัดมือชกรวบหัวรวบหางผมไปซะก่อน ซึ่งมันแปลกสำหรับปัจจุบันที่เซ็กเป็นเรื่องปกติมากกับคนที่ถูกใจกันแม้จะเพิ่งเจอกันแค่วันเดียวก็ตาม
แต่มันไม่ใช่สำหรับผม ผมอยากได้คนที่รักผมจริงๆ คนที่จะอยู่กับผมไปนานๆ คนที่ผมมั่นใจที่จะฝากหัวใจและร่างกายไว้ให้เขาดูแลโดยผมจะปล่อยให้เวลาและการกระทำของเขาเป็นเครื่องพิสูจน์....หวังว่าคนคนนั้นจะเป็นพี่พัฒ....ทำไมผมน้ำเน่าจัง

ไม่รู้จะพิสูจน์เขาหรือพิสูจน์ความอดทนตัวเองกันแน่ เพราะตอนนี้ผมชักอยากให้หมีตัวนี้มันกลายเป็นพี่พัฒซะเหลือเกินแล้วเราก็คงไม่ได้แค่นอนกอดกัน เหอๆๆ
*****************************



ขอขอบพระคุณทุกท่านที่เข้ามาอ่าน :pig4: :pig4:

เนื่องจากคนเขียนเป็นมือใหม่หัดเพ้อ อาจมีมึนๆ งงๆ ผิดพลาดประการใดขออภัยมา ณ ทีนี้  :call: :call:

ติชมกันได้เน้อ :laugh: :laugh:

 :bye2:

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 29-04-2014 16:51:16 โดย Phut »

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13216
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26

ออฟไลน์ golove2

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4478
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +277/-6
พี่พัฒห้ามมาหลอกน้องกิมนะ ไม่งั้นจะโกรธจริง ๆ ด้วย

 :กอด1: :กอด1:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ Phut

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 374
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +128/-3
 :pig2:   :pig2:

****************

3

เผลอแปปเดียวก็สามเดือนแล้ว เราเจอกันแค่อาทิตย์ละไม่กี่วันรู้สึกว่ามันไม่พอเลยจริงๆ
กิมเคยเปรยว่าจะย้ายที่อยู่เพราะเจ้าของไม่ต่อสัญญาเช่า  โอกาสของผมมาแล้ว....

วันนี้งานยุ่งชะมัดผมลากร่างอันเหนื่อยล้ามายังห้องของกิมเคาะไม่กี่ครั้งรอครู่นึง บานประตูก็เปิดออก
ผมทิ้งน้ำหนักเข้าโอบกอดคนรักด้วยความคิดถึงหลับตานิ่งอยู่ครู่หนึ่ง

"หึหึ..งานยุ่งหรือครับ...เหนื่อยหรอ" เสียงหัวเราะกับน้ำเสียงแสดงความเป็นห่วง สองแขนโอบหลังผมหลวมๆพร้อมกับลูบเบาๆ
"พี่ชอบกลิ่นกิมจังเลย" ผมสูดกลิ่นกายหอมอ่อนๆเข้าเต็มปอดค่อยๆลืมตาขึ้น แล้วก็ตกใจกับสภาพในห้อง
"เก็บของแล้วหรอ…ไม่บอกเลยจะได้ช่วย"
"ไม่เป็นไรหรอกครับ ก็พี่เหนื่อยขนาดนี้.....กิมว่าจะจ้างคนมาช่วยย้าย " พูดพลางรินน้ำเย็นส่งมาให้


"ไปอยู่กับพี่สิ...ขนให้ฟรีๆเลย อยู่ก็ฟรีไม่คิดเงิน ขอแค่ใจดวงเดียวพอ...." ได้โอกาสแล้วไม่ปล่อยให้พลาดชวนเขาไปอยู่ด้วยเลย
ดึงเขามากอดซุกหน้าลงกับซอกคอ

เขาเริ่มชินแล้วหลังจากที่ผมค่อยลวนลามเขาทีละนิดๆหน่อยๆไม่เกร็งตัวเหมือนครั้งแรกที่ผมโอบเอว
"น้ำเน่า....ยุงเพียบเลย....กิมหาห้องไว้แล้วครับ"พูดแบบนี้คงไม่ไปด้วยแน่ ขอหยอดอีกหน่อยแล้วกัน
"ตามมาตบยุงให้พี่ที่บ้านด้วยนะ"
"พี่พัฒ.......อย่าล้อเล่นสิ เดี๋ยวก็หอบผ้าหอบผ่อนไปอยู่ด้วยจริงๆหรอก"
"แล้วใครบอกว่าพี่ล้อเล่น.....พูดแบบนี้เดี๋ยวพี่จะไปเอารถมาขนของกิมไปบ้านพี่ กิมก็หอบผ้าหอบผ่อนตามมาละกัน" 
พูดจบก็ขโมยหอมแก้มไปหนึ่งฟอดใหญ่ๆ
"พี่พัฒ….."
"จ๋า.....น้องกิม" แก้มขึ้นสีแล้วครับ ไปต่อไม่เป็น เถียงไม่ออก แล้วก็เดินเข้าห้องน้ำไปเลย

"กิม...พี่ไปนะ...ตัดสินใจได้แล้วโทรมาบอกพี่ด้วย" ตะโกนบอกคนในห้องน้ำทั้งที่เพิ่งมาถึง รีบกลับไปเตรียมตัวดีกว่า

พูดเหมือนให้เลือกได้เลย แต่จริงๆไม่มีหรอกทางเลือกน่ะ ต้องไปสถานเดียว และเพื่อไม่เป็นการเสียเที่ยว
ผมฉวยเอาเคทคอมเค้าอุ้มติดมือมาด้วยอะไรจะเหมาะเจาะขนาดนี้ หึหึ กิมเอ๋ยยังไงคืนนี้ก็ต้องวิ่งตามคอมมาแน่ๆ เสร็จพี่ล่ะน้อง!!

*****
แล้วผมก็ต้องหอบผ้าหอบผ่อนตามเขามาจริงๆ ก็พี่เล่นยกเครื่องมือหากินผมมาแล้วจะให้ผมทำยังไง
 เมื่อเย็นพี่ที่ให้งานมาเค้าก็โทรมาเร่งยิกๆงานก็ต้องทำห้องก็ต้องย้าย สรุป..ผมเลยต้องรีบแจ้นมาบ้านพี่พัฒ ปั่นงานส่งลูกค้า
เจ็บใจ!!ไม่น่าเดินหนีเข้าห้องน้ำเลย!!
ผมนั่งวินมาบ้านพี่พัฒ กำลังจะกดออด เจ้าของบ้านก็วิ่งออกมาเปิดรั้วให้ผมซะก่อน

"มาแล้วหรอ...มาพี่ช่วย" เขาดึงกระเป๋าใบย่อมที่บรรจุเสื้อผ้าและของใช้จำเป็นไปจากมือผม ยิ้มร่าเชียวนะ...
"นิสัยเสีย!!" พูดได้แค่นั้น แล้วก็รีบจ้ำเข้าบ้านไป ขืนว่ามากเดี๋ยวจะโดนทำร้ายร่างกายเอาได้ได้ยินเสียงเขาหัวเราะเดิมตามมา

   พี่พัฒอยู่บ้านนี้คนเดียวเดิมทีพี่เค้าอยู่กับพี่ชายและพ่อแต่ตอนนี้ท่านย้ายไปลงหลักปรักฐานอยู่อังกฤษกับเมียฝรั่ง
นานๆจะกลับมาที พี่ชายก็แต่งงานมีครอบครับอยู่เชียงใหม่ ส่วนแม่เสียตั้งแต่พี่เขา10ขวบ ผมเคยมานั่งเล่นที่นี2-3ครั้ง
จากสภาพบ้านพี่พัฒคงเป็นคนมีฐานะดีพอสมควร ช่างแตกต่างกับผมเหลือเกิน

ความจริงผมดีใจนะตอนที่พี่เค้าชวนผมมาอยู่แต่ผมกลัว...เราเพิ่งคบกันได้ไม่นานมีอีกหลายเรื่องที่เราต้องเรียนรู้ซึ่งกันและกัน
หากเขารับนิสัยบางอย่างผมไม่ได้ล่ะ ที่จริงเขาดีกับผมมากๆ  คอยโทรมาหา ถามนู่นนี่นั่น กินข้าวหรือยัง
ไม่เคยมีเรื่องเจ้าชู้ให้ผมกังวลใจ

หรือเขาเนียนจนผมจับไม่ได้ก็ไม่รู้

เขาแตกต่างจากทุกคนที่ผ่านมาและผมเองก็รักเขามาก แต่มันไม่มีอะไรที่จะยืนยันได้ว่าเขาจะไม่เปลี่ยนไป
ถ้าวันไหนเขาเบื่อผมขึ้นมาล่ะเหมือนกับคนนั้นที่ทิ้งผมไป จะทำอย่างไร ผมจะอยู่ได้ไหม

ดังนั้นผมจึงคิดว่าควรเว้นระยะให้มีพื้นที่ส่วนตัวระหว่างกันจะดีกว่า เพราะเมื่อวันนั้นมาถึง...ผมจะได้มีพอมีพื้นที่ให้พักรักษาหัวใจ....

     งานเสร็จเร็วกว่าที่คิด ผมชัตดาวน์เครื่อง นั่งเอนหลังยกมือขึ้นนวดกระบอกตา
"เสร็จแล้วหรอ"เสียงมาจากด้านหลังผมลืมไปสนิทเลยว่าเขาก็อยู่ในห้องนี้ด้วย เขาดูหนังโดยใช้หูฟังคงกลัวเสียงจะรบกวนผม
"ครับ...พี่พัฒไม่ง่วงหรอ ตี1แล้ว...."
"อื้ม...พี่ก็ว่าจะไปนอนแล้ว....ป่ะ" พูดพลางลุกขึ้นยืน พร้อมดึงผมลุกขึ้นด้วย
"กิมไปอาบน้ำก่อนดีกว่า...พี่นอนเหอะ"เกรงใจเขามากเลยอุตส่านั่งรอผม
"ไปอาบในห้องพี่ก็ได้ มีเครื่องทำน้ำอุ่นจะได้ไม่หนาว"
"ครับ"ตอบรับแล้วปล่อยให้เค้าจูงมือมาถึงห้องนอน รีบคว้ากระเป๋าเดินเข้าห้องน้ำทันที

ผมคิดไปไกลแล้ว เราคบกันหลายเดือนแล้วแต่ยังไม่เคยไปไกลเกินจูบเลย ส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะเขาเกรงใจผม
และอีกส่วนก็คงเป็นที่โอกาสมันไม่อำนวย

อย่างคราวที่แล้วกำลังได้อารมณ์แล้วเพื่อนบ้านนิสัยดีดันมาเคาะห้องเอาของฝากจากไปเที่ยวมาให้แล้วก็คุยโม้ซะยืดยาว
จนโทรศัพท์ทวงงานของผมดังพี่แกถึงยอมไป พี่พัฒเลยรีบกลับเพราะผมต้องรีบทำงาน

แต่วันนี้คงไม่มีใครมาขัดหรอกมั้ง ดึกแล้วนี่ คิดแล้วตื่นเต้นไปหมด ผมขัดทุกซอกทุกมุม'ล้างทุกส่วน'
จนมั่นใจว่าสะอาดดีแล้วเตรียมตัวเตรียมใจกับเหตุการณ์ที่คิดว่าต้องเกิดแน่ๆ ดีนะที่เพิ่งสระผมเมื่อเช้าไม่งั้นคงได้อาบนานกว่านี้
นี่ก็ปาจะครึ่งชั่วโมงแล้วมั้ง

ออกจากห้องน้ำในห้องเงียบสงบ

เขาหลับแล้วหรอ? ก็เหนื่อยมาทั้งวันนี่นะ ผมค่อยๆทิ้งตัวลงนอนให้เงียบที่สุด ได้กลิ่นของพี่พัฒที่ระจายอยู่ทั่วห้อง
นอนมองใบหน้าด้านข้างของเขาที่กระทบกับไฟสีส้มจากหัวเตียง

จมูกโด่งจัง หล่อขนาดนี้มาชอบผมได้ไงนะ ผมไม่เห็นมีอะไรดีเลยหน้าตาก็งั้นๆ ผิวก็น่ากลัวซีดอย่างกับศพ แถมยังจนอีกต่างหาก

สายตาผมสำรวจทั่วใบหน้า เรื่อยลงมาที่ลำคอกระเดือกนูนใหญ่ย้ำชัดถึงความเป็นชาย แผงอกกว้างใต้เสื้อนอนที่ติดกระดุมไม่หมด
เซ็กซี่.....

ผมหน้าร้อนกับความคิดตัวเองรีบพลิกกายหันหลังให้เขาอย่างรวดเร็ว ขืนมองนานกว่านี้ได้ทำเรื่องน่าอายแน่
"อาบเสร็จแล้วหรอ....."น้ำเสียงงัวเงีย ขยับเข้ามากอดกระชับผมจากด้านหลัง ก้มหน้าซุกซอกคอ แค่นี้ก็ร้อนวูบวาบแล้ว

"หอมจัง....พี่ชอบกลิ่นตัวกิมมากเลย" เขาสูดหายใจเข้า เสียงเขาทุ้มอยู่ข้างหูรู้สึกถึงลมหายใจแรงที่เป่ารด แผงอกแนบหลัง
หัวใจเขาเต้นแรงเหมือนกันกับผม ตอนนี้ผมรู้สึกหายใจไม่ทั่วท้องลมหายใจติดขัดไปหมด
มือเขาค่อยสอดผ่านเสื้อยืดตัวบางที่ผมมักใช้ใส่นอน ไล้แผ่วเบาจากชายโครงขึ้นมาถึงอกเขี่ยยอดอกผมอย่างเบามือ
ผมหลับตารอรับสัมผัสจากเขา

มือเขาค่อยช้อนประคองศีรษะผมให้หันไปรับจุมพิตแผ่วเบาที่เปลือกตาแล้วค่อยพรมจูบซับลงมาเรื่อยจนถึงริมฝีปาก
เลาะเล็มอยู่ครู่ผมเผยอปากตอบรับการประกอบจูบที่แนบแน่นขึ้นพร้อมกับเรียวลิ้นชื้น ที่ลุกล้ำเข้ามาในโพรงปากอย่างอ่อนโยนและดูดดื่ม

มันเป็นจูบที่อ่อนหวานเหลือเกินมันซาบซ่านจนล้นปรี่ในอก ความเสียวแผ่ซ่านตามแนวสันหลังไปยังสะโพก
เขาถอนริมฝีปากออก ซุกไซร้ใบหน้าเข้ากับลำคอผม รู้สึกถึงสัมผัสนิ้มๆหยุ่นๆ ก่อนจะเปลี่ยนเป็นความชื้นของลิ้นที่ดูดดุด

เขาโอบรอบคอ รั้งเสื้อขึ้นมารวมที่คอก่อนไล้ฝ่ามือมานวดวนแล้วบีบเบาๆที่ยอดอก
มืออีกข้างลูบวนเค้นคลึงสะโพกผมผ่านกางเกงผ้าเนื้อบาง ปากพรมจูมสลับกับทั้งดูดทั้งเลียบนแผ่นหลังท่อนบนจนทั่วเท่าที่ท่านอนจะอำนวย

ผมได้แต่ระบายความเสียวซ่านผ่านปลายนิ้วที่จิกกับผ้าปูที่นอนแน่น บิดกายไปมาตามพายุอารมณ์
พยายามกลั้นเสียงที่หลุดครางออกมาทุกครั้งที่หายใจ ผู้ชายครางมันไม่น่าฟังนักหรอก

พี่พัฒดึงให้ผมนอนหงาย ก่อนยันกายลุกขึ้นมาคร่อมผมไว้ทั้งตัว ผมปรือตามอง เห็นเขายิ้มกรุ้มกริ่ม
สายตาแทะโลม ผม
รีบดึงเสื้อลงอย่างรวดเร็วด้วยความอาย
"กิมน่ารักจัง...."น้ำเสียงทุ้มต่ำปลายนิ้วเกลี่ยซับน้ำที่หางตาผม เขาโน้มหน้าเข้ามาใกล้จนปลายจมูกเราชนกัน
จูบผมอีกครั้งก่อนรั้งถอดเสื้อยืดผมออก
"พี่พัฒใช้อะไรมองเนี่ย...ตาถั่ว"ไม่เข้าใจมองยังไงถึงบอกว่าน่ารัก
"ใช้นี่ไง..."ดึงมือผมไปข้างนึงจับมือผมแนบกับอกซ้ายที่ไม่มีเสื้อปกปิดแล้ว รับรู้ถึงจังหวะหัวใจที่เต้นรุนแรงและมั่นคง

หน้าผมมันคงแดงกว่านี้ไม่ได้แล้วล่ะ แต่หัวใจผมอาจหยุดเต้นได้

"เดี๋ยวกิมก็หัวใจวายตายหรอก" แค่เห็นอกเปลือยกำเดาแทบพุ่ง แต่ผมไม่หื่นนะ!!
"หึหึ...ไหนขอดูหน่อยซิ" จูบลงที่อกซ้าย
"เต้นแรงขนาดนี้ สงสัยต้องพาไปหาหมอบ้างแล้ว...."
จูบเลียยอดอกเบาๆแล้วแปรเปลี่ยนเป็นดูดดุนเน้นย้ำแรงๆ ผมเสียวสยิวจนต้องแอ่นอกรับ

"พี่พัฒปิดไฟได้ไหม....กิมอาย" เขาไม่พูดอะไรยิ้มบางส่งสายตาหยาดเยิ้ม เอื้อมมือไปปิดไฟที่หัวเตียง
ร่างกายท่อนล่างของเราบดเบียดกัน รับรู้ได้ว่ามันกำลังตื่นตัวเต็มที่ทั้งของผมและของเขา
เขาค่อยจูบลงไปเรื่อยผ่านหน้าท้องจนมาถึงขอบกางเกง ค่อยๆรั้งลงช้าๆแล้วแยกขาผมออก
ผมสะดุ้งเมื่อเขาตวัดลิ้นเลียให้ผม นิ้วมือที่ชุ่มโชกตามมานวดคลึงให้ผมก่อนจะสอดเข้ามา

พี่พัฒเบามือมากผมแทบไม่เจ็บเลย ปลายนิ้วผมลูบไล้เข้าไปในเรือนผมสีดำขลับบิดเร่าด้วยความรัญจวน ความใคร่ทวีคูณ

พี่พัฒเชี่ยวมาก ทั้งปากทั้งมือปรนเปรอผมเพียงครู่เดียวผมก็รู้สึกทนไม่ไหว ไม่เคยมีใครทำให้ผมขนาดนี้มาก่อน
"พี่พัฒ.....พอแล้ว....จะไม่ไหวแล้ว"บอกเขาแบบนั้นเสียงผมคนสั่นน่าดู เขาไม่ยอมปล่อยแต่เป็นผมที่ปล่อยใส่ปากเขาเต็มๆ

"เฮ้ยพี่พัฒกิมขอโทษ......เฮ้ย!!!!......คายออกมา... สกปรก!!"...ไม่ทันแล้ว......
"หึหึ..."ได้ยินเสียงเขาหัวเราะในลำคออย่างพอใจ พรมจูบไปทั่วขาอ่อนด้านใน และยังไม่หยุดมือ

ผมพยายามผ่อนคลายไม่เกร็งและรู้สึกว่าด้านในจะคลายตัวแล้วเช่นกัน ตอนนี้ผมทั้งง่วงทั้งเสียวในเวลาเดียวกัน
ผมถูดฉุดให้ลุกขึ้นมานั่งคร่อมร่างเปลือยของพี่พัฒ เขาซบจูบลาดไหล่ผม กระซิบเสียงพร่าที่ข้างหู

"ทำให้พี่หน่อยนะ...พี่ไม่อยากทำกิมเจ็บ"ผมพยักหน้ารับมือไม้สั่นไปหมด 'ไม่ใช่เล็กๆเลย'ผมกลืนน้ำลายเหนียวหนืดลงคอ
จัดแจงให้เข้าที่เข้าทาง แล้วค่อยๆกดสะโพกลงช้าๆ ทีละนิด ...ทีละนิด พร้อมผ่อนลมหายใจ ซุกหน้าลงกับบ่ากว้าง
มันแน่นคับไปหมดความเจ็บค่อยๆแทรกขึ้นมา ได้ยินเสียงพี่เขาสูดปาก...

พี่พัฒใจเย็นมากๆเขารอ ไม่เร่งรัด ฝ่ามือข้างหนึ่งลูบไล้แผ่นหลัง อีกข้างนวดเฟ้นที่สะโพก และขยำเบาๆที่แก้มก้น
ปากพรมจูบซุกไซร้ทั่วลำคอ ผมได้ยินเสียงลมหายใจหอบสั่นชัดเจน
"พี่รักกิมนะ....."คำบอกรักแบบจริงจังครั้งแรก คำที่ช่วยตอกย้ำความหมายของทุกการกระทำตลอดสามเดือนที่ผ่านมา......

หัวใจผมพองฟูมันเต็มตื้นไปหมด

"กิมก็รักพี่พัฒครับ.." ผมยิ้มในความมืด เขารั้งท้ายทอยผมเข้าไปจูบ
ผมค่อยๆขยับตัวขึ้นลงช้าๆ ความเจ็บยังหลงเหลืออยู่เพียงนิด ที่มากกว่าคือความเสียว
ผมใช้บ่าเขาพยุงตัวกระแทกสะโพกลงไป มือเขาจับประคองที่เอวผม ขยับสะโพกสวนรับ

ผมเชิดหน้าขึ้นครางอย่างกลั้นไม่อยู่เสียวแปรบทั่วท้องน้อยและสะโพก พี่พัฒกัดฟันกรอดสูดปากเป็นพักๆ
โอบกระชับเอวผมเข้าหา ดูดเน้นยอดอกอย่างหนักหน่วงตามห้วงอารมณ์รัก

"ฮ่าห์....ซีดดดด.....กิม....ถ้าไม่ไหว....บอกนะ....ฮื่มมม..." ขย่มเขาได้อีกพักใหญ่ๆแล้วผมก็ต้องหยุดไม่ไหวจริงๆแข้งขาสั่นไปหมด
ไม่ต้องรอให้พูดพี่พัฒประคองผมลงนอนกระชับขาผมไว้ทั้งสองข้างแล้วจัดการขยับสะโพกต่อ
เขาถนอมผมมากไม่ทำรุนแรงคงกลัวผมเจ็บ

แต่ผมไม่บอบบางขนาดนั้น

"พี่พัฒแรงอีกสิ....กิมไม่เป็นไร...." พูดแค่นั้นพี่พัฒกัดฟันกรอดโถมกายเข้าหากระแทกกระทั้นไม่ยั้ง
ก้มลงมอบจูบร้อนแรงส่งเสียงจ๊วบจ๊าบ จูบที่เรียกได้ว่ามันส์มากสำหรับผม ผมขนลุกเสียวกระสันไปทั้งตัวจิกปลายนิ้วลงกับแผ่นหลัังกว้าง
เสียงจูบประสานกับเสียงเนื้อกระทบกันดังทั่วห้องที่เงียบสงัดเรียกอารมณ์ดิบเถื่อนเร้าใจสุดๆจนผมทนไม่ไหวร้องลั่น

"ฮ่าห์.....ซีดดดด....อื้มมม...ไม่ไหวแล้ว อ่ะ..อ๊ะ...อ๊าาาาาพี่พัฒฒฒ...."พี่พัฒเร่งจังหวะถี่รัวกระแทกแรงอีก2-3ครั้ง

ผมเกร็งกระตุกของเหลวสีขุ่นเจือจางก็พุ่งกระจายเต็มหน้าท้องผม เขาแช่ตัวไว้ในส่วนลึกที่สุดอยู่ก่อนค่อยๆถอนออกอย่างช้าๆ
เอื้อมมือไปเปิดไฟที่หัวเตียงหยิบทิชชู่มาเช็ดให้ผม ผมรีบดึงผ้าห่มมาปิดด้วยความอายพี่พัฒทิ้งร่างลงมานอนข้างๆกระชับผมเข้าไปกอดแนบแน่นอกของเราแนบชิดกันจนรู้สึกถึงจังหวะหัวใจที่เต้นแรงของเราทั้งคู่ อ้อมกอดอบอุ่นที่ผมโหยหา ตัวใหญ่อย่างกับหมีขาวขั้วโลกเลย เขากดจูบหนักๆที่หน้าผากผม

หัวใจอิ่มเอมร้องบอกว่าผมกำลังมีความสุข กิจกรรมที่เพิ่งผ่านพ้นไปเป็นการทำรัก ไม่ใช่แค่ระบายความใคร่
ไม่อยากห่างจากอกอุ่นนี้เลย ……

*************************


อย่ามองเค้าแบบนั้น :-[ คิดอยู่นานว่าจะลงดีไหม แต่ลงแหละดีแล้ว ชิวๆอยู่แล้วเนอะ :laugh:

ขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาอ่าน และขอบคุณมากกก สำหรับท่านที่ติดตามและ+ ให้เค้า :pig4:

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 17-08-2014 06:09:43 โดย Phut »

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13216
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
อย่างเขินอะฉากนี้ หวานๆเบาๆ

ออฟไลน์ golove2

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4478
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +277/-6
พี่พัฒกินปลากริมแล้วววววววว


 :mew3: :mew3:

ออฟไลน์ michiri.sama

  • ลูกเป็ดที่หมกมุ่นในโลกสีม่วง (´∀`)♡
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 78
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-0
เง้อออ เสียเลือดเลย 5555
โอ๊ยยย ตอนนี้หวานมาก หวานๆหวามๆ ฮ่าๆ
พี่พัฒต้องทำให้กิมเชื่อใจด้วยการกระทำให้ได้นะ
ชอบมากเลยค่ะ เรื่องนี้ ><

ออฟไลน์ Phut

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 374
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +128/-3
 :pig2: สวัสดีจ้า มาเติมหวานกันอีกสักตอน ตอนหน้าไม่หวานละนะ  :katai3:
**************
4
ตื่นมาเจอแดดแรงเชียวคงจะสายมากแล้ว นอนมองคนรักที่นอนหลับใหลใบหน้าครึ่งหนึ่งซุกแนบอยู่กับแขนผม ปอยผมสีน้ำตาลตกลงมาปกคลุมแก้มขาวส่วนที่เหลือสยายเต็มหมอนและที่นอน

ผมก้มลงไปหอมแก้มขาวเน้นๆ โดยไม่ลืมสูดแรงๆจนเนื้อแทบหลุดติดจมูก แอบมันเขี้ยวและมีความสุขมาก

ยิ่งนึกถึงเรื่องเมื่อคืนผมยิ่งไม่อยากปล่อยเขาไปไหนเลย
สอดนิ้วไล้ไปตามเรือนผมนิ่มอยากจะปล่อยให้นอนต่ออีกหน่อยแต่เห็นปากสีอ่อนนั่นแล้วอดเป็นห่วงไม่ได้ จำใจปลุกคนหลับขึ้นมา

ผมปล่อยให้เขาอาบน้ำส่วนผมลงมาทำผัดผักที่คิดว่ากิมคงชอบกับไข่เจียวกับข้าวง่ายๆที่ผมทำกินเองบ่อยๆ
"อร่อยมากเลย.....พี่พัฒปรุงยังไง..."ออกปากชมเปาะ แววตาระยิยระยับ
"บอกไม่ได้หรอก มาอยู่กับพี่สิพี่ทำให้กินจนเบื่อเลย" ผมพูดพร้อมสบตาเขาที่นั่งข้างๆด้วยสายตาจริงจัง
"ไม่ได้หรอกครับ รบกวนพี่เปล่าๆ"เขาพูดแบบนั้นไม่ยอมสบตาผม ทำไม?
"ไม่ได้รบกวนสักนิด.....มันอาจจะเร็วไปสำหรับกิมแต่พี่อยากเจอหน้าเราทุกวัน ช่วงที่ผ่านมาก็ยุ่งๆ จนแทบไม่ได้เจอกันเลย "
"ก็นั่นแหละถึงไม่อยากเพิ่มภาระให้พี่พัฒ ทำงานเหนื่อยๆจะได้พักผ่อนให้เต็มที่"
"แต่พี่คิดถึงเรามากนะรู้มั้ย....."
"ได้นอนกอดกิมพี่มีความสุขมากๆ"
"ไม่คิดถึงพี่บ้างหรอ.....พี่อยากอยู่กับกิมนะ" ผมพูดเสียงอ่อนส่งสายตาอ้อนวอน

"......." กิมไม่โต้ตอบ เขานิ่งอึ้ง แววตาสั่นระริก ผมเอื้อมมือไปจับหลังมือกิมกุมกระชับไว้
"เรารักกันไม่ใช่หรอ กิมไม่อยากอยู่กับพี่หรือ" สบตาอย่างหาคำตอบ บีบเบาๆที่หลังมือของเขา
ยอมใจอ่อนซะทีสิ พี่อ้อนแล้วน้า......
"มาอยู่กับพี่เถอะนะ.....อยู่ด้วยกัน" ผมยิ้มบางส่งไปให้ อยากให้เขารับรู้ว่าผมจริงจังและจริงใจมากแค่ไหน

"ครับ...!" กิมโผเข้ากอดผมนัยย์ตารื้นทว่าเต็มไปด้วยรอยยิ้ม
 
     เราปรับตัวเข้าหากันที่จริงเรียกว่ากิมปรับตัวเข้าหาผมมากกว่า รับงานน้อยลงจากที่ชอบทำงานเวลากลางคืนก็เปลี่ยนมาทำตอนกลางวันเพื่อที่จะได้เข้านอนพร้อมผม เขาทำงานบ้านและถ้ามีเวลาผมก็จะช่วยทำ อยากบอกว่ากิมทำกับข้าวอร่อยมากมีเสน่ห์ปลายจวักจนผัวรักผัวหลงเลยทีเดียว

     วันนี้วันหยุดผมเลยตั้งใจพาเขาไปกินข้าวนอกบ้านบ้างและเดินเล่นซื้อของกัน
"ดื่มนี่รองท้องไปก่อนนะ...เดี๋ยวพี่เช็ครถแปปนึง"กิมรับแก้วนมไปดื่มอย่างว่าง่าย ผมมีรถกระบะ4wd แต่ไม่ค่อยได้ใช้ โน่นเลยรถเมล์ฟรีจากภาษีประชาชน ไม่ก็วินมอไซด์ดีกว่าขับเองน้ำมันแพง รถติดอีกต่างหาก ผมเตรียมความพร้อมให้เครื่องยนต์เสร็จเขาก็เดินออกมาพอดี
"ป่ะ...พร้อม ขึ้นรถได้!" ได้ยินเขาขำเบาๆ ปิดประตูรั้วบ้านแล้วขึ้นมานั่งรัดเข็มขัดเรียบร้อย ขับมาได้สักพักเขาก็ถามขึ้น
"เราจะไปไหนกันครับ"
"กิมอยากกินอะไรล่ะ...บอกมาเลยเดี๋ยวป๋าพาไป"ที่จริงก็มีที่หมายในใจแล้วล่ะ แต่ลองถามดูจะได้ถูกใจเขา
"หึหึ....อะไรก็ได้ตามใจป๋าเลย" นึกแล้วว่าต้องพูดแบบนี้ อะไรก็ได้นี่เห็นเลือกกินแต่ผักทุกที
แล้วเราก็มานั่งในร้านสุกี้ จัดเต็มอีกเช่นเคยครับ
"พี่พัฒสั่งทำไมเยอะแยะ จะกินหมดเหรอ"
"กิมก็กินเยอะๆสิจะได้หมด"หน้าเขาเริ่มมุ่ยแล้วครับ คงเริ่มรู้ชะตากรรมตัวเอง
"เอาน่า....เดี๋ยวก็หมดพี่กินเก่งจะตาย"
     และแล้วก็เรียบครับ หมู หมึก กุ้ง ผักทุกต้น หมดเกลี้ยง กิมทำหน้าเหมือนจะตายให้ได้ ก็โดนผมบังคับตักโน่น คีบนี้ให้ คะยั้นคะยอให้กินเกือบครึ่งจนเจ้าตัวบอกไม่ไหวแล้วจริงๆ ท้องจะแตกตาย ผมถึงได้ยอมหยุด

 อันที่จริงตอนนี้กิมดูมีน้ำมีนวลขึ้นเยอะน้ำหนักขึ้นมาสิบกว่ากิโลเลยผิวก็ไม่ซีดเหมือนเมื่อก่อนและผมว่าขนาดนี้แหละกำลังดีแล้วกอดเต็มไม้เต็มมือดีกำลังน่าฟัดเลย เนื่องจากเมื่อก่อนกิมผอมมาก มีครั้งหนึ่งที่เขาข้อมือซ้นแต่ไม่ยอมไปหาหมอผมเลยบังคับไปพร้อมตรวจร่างกายด้วยเลยปรากฏว่าเลือดจางเกล็ดเลือดแดงต่ำมากๆหมอถึงกับจะสั่งให้เลือดเลยทีเดียวแต่กิมขอแค่ยามาบำรุงพอ ผมไม่แปลกใจเลยคนเลือดจางมักพบในกลุ่มคนที่กินมังสะวิรัส กิมเล่นกินแต่ผักเลือดจางก็ไม่แปลก หลังจากนั่นผมก็ใช้มาตการโหดคือถ้าไม่กินตามผมบอกผมจะโกรธ คราวนี้ผมเลยได้ขุนกิมซะอ้วนตามใจอยาก เริ่มกินเผ็ดตามผมด้วย

"เอ้า.....อ้า" ผมส่งช้อนป้อนลอดช่องถึงปาก
"ไม่ไหวแล้วพี่....."เขารีบเอียงตัวหนีปฏิเสธเป็นพัลวัน
"คำเดียว!"ผมต่อรอง
"แน่นะ" เขาหรี่ตามองอย่างไม่ไว้ใจ ก่อนจะเอื้อมมือจะดึงช้อนจากมือผม แต่ผมดึงมือหนี
"อ้าดิ......อ้า" ส่งถึงปากอีกครั้งเขาลังเล ย่นคิ้ว มองซ้ายมองขวาก่อนจะรีบกินลอดช่องในช้อนอย่างรวดเร็ว
"ฮ่าๆๆ...กลัวผู้ปกครองเห็นว่ามากับป๋าหรอหนุ่มน้อย" เขากลั้นยิ้มปั้นหน้าบึ้งทันทีก็เห็นอยู่ว่าอมยิ้ม เขินล่ะสิ
"ป๋าที่ไหน.....มีแต่หมีนั่งหัวเราะอยู่นี่"อ่าวเฮ้ย...นี่เขาเห็นผมเป็นหมีเหรอ
"น่ารักล่ะสิ ชอบมั้ยล่าาาาา"พูดเข้าข้างตัวเองซะเลย
"อืม...น่ารักดี" ยอมรับหน้าตาเฉย โดนผมแหย่บ่อยจนชินแล้วมั้ง

"แหย่ผมอยู่นั่นแหละน้ำแข็งจะละลายหมดแล้ว" พูดพลางพยักเพยิด มาที่ถ้วยลอดช่องตรงหน้าผม
"ละลายสิ ใจพี่ยังละลายเลย......โอ้ย......" คนเขินหยิกหลังมือผมเต็มแรงเลย เจ็บๆคันๆดี

เรียกเก็บเงินเสร็จ ผมก็พากิมมาเดินย่อย ดูของไปเพลินๆ ผมลากเขาเข้าร้านนั้นออกร้านนี้ ได้แต่ของกิมล้วนๆ ซึ่งผมเป็นคนซื้อให้เรียกว่ายัดเยียดอาจเหมาะกว่า

"ไม่เอาแล้วพี่พัฒ....พอเหอะ"เขาพูดขัดขณะผมทาบเสื้อยืดสีขาวลายอาร์ทมากๆเข้ากับตัวกิม
"ไม่สวยหรอ....เท่ออก"
"ถ้าพี่ชอบก็ซื้อใส่เองสิครับ ไม่ต้องซื้อให้กิมแล้วนะ" พูดหน้างอ คนขายอมยิ้มใหญ่เลย เฮ้ยคิดไรกับคนของผมรึเปล่า แล้วสายตาผมก็เหลือบไปเห็นเสื้อสีดำลายเหมือนกันเป๊ะ ต่างกันตรงที่เสื้อขาวลายดำ ส่วนเสื้อดำลายขาว

"สีดำตรงนั้นมีไซด์ผมมั้ย ผมขอดูหน่อย" แล้วเจ้าของร้านก็ไปยืนเลือกส่งมาให้ผมดู ผมยกเสื้อสองตัวขึ้นเทียบกัน
เชบบ๊ะ เหมือนเสื้อคู่เลยครับ สีดำใหญ่กว่าก็จริงแต่ผมว่ามันพอดีตัวไปหน่อย กิมใส่น่าจะกำลังโอเค
"นี่ใหญ่สุดหรือครับ"ผมถามคนขาย
"ยังครับแต่สีดำของหมด ถ้าเป็นสีขาวก็มีอยู่ เดี๋ยวผมเอาให้ดู"

แล้วผมก็ได้เสื้อคู่(?) หิ้วกลับบ้านอย่างสบายใจ มีถุงเสื้อผ้าอีก3-4ถุง ที่ผมบังคับซื้อให้กิมเจ้าตัวบ่นอุบเลย

ทำให้ได้รู้ว่าบางครั้งเมียผมก็ขี้บ่นเหมือนกันนะ

แต่ก็รักอยู่ดี.....

**********
คนเขียนเป็นอีสุกอีใส อยากบอกว่าทรมานมาก ใครไม่เคยเป็นต้องลองดูแล้วคุณจะรู้ :z10: :z10:

ขอบพระคุณทุกท่านที่เข้ามาอ่าน ดีใจที่มีคนชอบเรื่องนี้ มีกำลังใจขึ้นเป็นกองเลย ขอบคุณจ้า :pig4: :pig4: :L2:

ออฟไลน์ golove2

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4478
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +277/-6
คนเขียนแอบสปอยส์ ว่าตอนหน้าไม่หวาน
อย่าดราม่าเยอะนะคะ  สงสารน้องกิม  (มโนไปก่อน)

เราก็พึ่งเป็นอีสุกอีใสเมื่อตอนปลายปีที่ผ่านมา
เข้าใจเลยค่ะ มาเป็นตอนโตนี่ลำบากสุด ๆ


 :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ:

ออฟไลน์ =นีรนาคา=

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2546
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +296/-6
ตอนหน้าไม่หวานแล้วหรอ
ขอมาม่าเบาเบานะ คึคึ

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13216
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
อย่าหนักน้าเขากลัว :ling3:

ออฟไลน์ Phut

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 374
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +128/-3
 :pig2: เอาอินซูลินแก้โรคเบาหวานมาแจก  :katai5:

***************
5

ผมนอนจับไข้ อยู่บ้านคนเดียว พี่พัฒส่งข้อความมาบอกว่าติดลูกค้าอาจกลับดึก

หึ...ติดลูกค้าหรือติดถ่านไฟเก่าอยู่กันแน่

พอได้อยู่ด้วยกันจริงๆ ผมถึงได้รู้...

ผมเชื่อคนง่ายเกินไป...

พี่พัฒที่ใจดี อบอุ่นอ่อนโยน มีเหตุผล นั่นเป็นเพียงการสร้างภาพสินะ

ทั้งที่เขาทำผมเจ็บทั้งกายและใจ แต่ผมก็เกลียดเขาไม่ลง เพียงเพราะรัก แค่คำๆเดียวเท่านั้น

ต้องย้อนกลับไปเมื่อสองอาทิตย์ก่อน เพื่อนเขาโทรมาชวนไปกินเหล้า ผมก็ไม่ได้ว่าอะไร

ถึงลึกๆจะไม่ชอบใจก็เถอะ

หลังจากนั้นก็เห็นเขาคุยโทรศัพท์บ่อยๆ ทุกครั้งที่รับสายเขาจะเลี่ยงไปคุยคนเดียว

อยากรู้...แต่ก็เก็บความสงสัยไว้ไม่กล้าถาม พยายามเข้าใจ

ใครๆก็ต้องมีเรื่องส่วนตัวกันทั้งนั้น

ผมไม่อยากงี่เง่าในสายตาพี่พัฒ

จนกระทั่งเมื่อคืนนี้ผมก็เข้าใจจนกระจ่างแจ่มแจ้ง

"พี่คิวชวนไปกินเหล้าหรอครับ"
"อื้ม...เหมือนเดิม"
ผมเดินเข้าไปใกล้แล้วยิ้มอ้อนๆ "ขอกิมไปด้วยได้ไหม"
"อยากไปหรอ ทุกทีไม่เห็นสนใจ" เขายิ้มเอามือโยกศีรษะผม
"ลองไปเปิดหูเปิดตาบ้างก็ไม่เสียหายนี่....."

ในร้านที่นักท่องราตรีอัดตัวยัวะเยี้ย ผมก็เห็นรูปร่างคุ้นตาของพี่คิวนั่งคุยอยู่กับผู้ชายตัวเล็กอีกคน
คนที่พี่พัฒแนะนำว่าเป็นเพื่อน....

"พกแฟนใหม่มาเรียกร้องความสนใจจากแฟนเก่าหรอพัฒ..." ใบหน้าหวานนั้นกำลังยิ้มมุมปาก เหล่มองผม

เขาจะสื่ออะไรกันแน่

"ไม่ใช่ละปราย..." พี่พัฒพูดขำๆ แต่ใจผมมันไม่ขำด้วยแล้ว
ท่าทีสนิทสนมกันขนาดนั้นมันคืออะไร สายตาหวานเยิ้มหยดย้อย
กับท่านั่งที่มันออดอ้อนออเซาะซะเหลือเกิน พวกเขาเป็นอะไรกัน

ผมนั่งจิบเหล้าเพราะรู้ลิมิตตัวเองดี โดยมีพี่คิวคอยชวนคุย
"กิมขาวขนาดนี้เรืองแสงได้ป่ะ ฮ่าๆๆๆ" คำแซวเล่นของพี่คิวทำให้ผมยิ้ม แต่มันก็แค่นั้น

ทั้งที่ผมมากับแฟน แต่เขากลับสนใจคนอื่นมากกว่าผม ผมได้แต่ข่มใจบอกตัวเองว่าเขาก็แค่เพื่อนกัน

ก็ในเมื่อที่ผ่านมาพี่พัฒก็ดีกับผมมาตลอด เขาคงไม่ทำผมหรอก

จนกระทั่งพี่พัฒกับพี่คิวไปเข้าห้องน้ำ ทิ้งให้ผมอยู่กับคนชื่อปรายตามลำพัง

"ขอโทษนะกิม ที่พี่โทรหาพัฒบ่อยๆ ก็อย่างว่าล่ะนะคนรู้ใจกันมาก่อน...." ผมละสายตาจากแก้วในมือมองสบตาเขา สายตานั่นมันมันไม่จริงใจ

เขายื่นหน้าเข้ามาใกล้แล้วแสยะยิ้มให้

ผมได้กลิ่นน้ำหอมแบบเดียวกับที่ผมใช้

กลิ่นที่พี่พัฒพร่ำบอกว่าชอบนักชอบหนา

เหมือนเลือดไม่เดินมันชาไปทั้งตัว

ผมมันน่าสมเพช

"หึหึๆ..พัฒน่ะ เขาขี้เบื่อ จืดชืดแบบนี้อีกไม่นานเขาก็ทิ้ง" เขายิ้มเยาะเย้ยให้ผมอีกครั้ง

ผมคงโง่มากสินะ

"ขอบคุณนะครับคุณปรายที่หวังดีขนาดนี้ แต่ถึงยังไงซะตอนนี้ผมก็ยังได้ชื่อว่าเป็นแฟนไม่มีคำว่า'เก่า'พ่วงท้ายเหมือนใครบางคน แล้วเราก็ยังเร่าร้อนกันทุกคืน คงอีกนานเลยล่ะครับกว่าที่ผมจะถูกทิ้งแบบคุณ"

และก่อนที่ผมจะซัดกับใคนบางคน พี่คิวกับคนที่ได้ชื่อว่าเป็นแฟนของผมก็กลับมาที่โต๊ะพอดี

คุยกันไปสิ อ้อนกันเข้าไป นี่ผมเป็นอะไรสำหรับพี่พัฒกันแน่ มีแค่ผมที่เป็นคนโง่ไม่รู้เรื่องรู้ราวนั่งเดือดเลือดขึ้นหน้าอยู่คนเดียว

ผมคงไม่โวยวายให้อายชาวบ้านแน่

พี่พัฒเองก็คงลืมไปแล้วว่าผมยังอยู่ตรงนี้


"กูยืมตัวแปปนะ" พี่คิวพาผมมากลางฟลอที่ผู้คนต่างเต้นกันไปตามดนตรีที่เร้าใจ
"ผมเต้นไม่เป็น"ตะโกนแข่งกับเสียงเพลงที่ดังจนหูแทบแตก ที่เที่ยวแบบนี้ผมเคยมากับเพื่อนแค่ไม่กี่ครั้งและถ้าไม่เมาผมเต้นไม่ได้จริงๆ

"ไม่เอาน่าดิ้นๆไปเดี๋ยวก็มันเอง สุดเหวี่ยงไปเลยไม่ต้องอาย...เอางี้" ดึึงผมมาที่บาร์สั่งเหล้าอะไรไม่รู้แต่แรงมากให้ผมกระดกสองแก้วเต็มๆ
แล้วก็ลากผมมาที่เดิม เห็นผมเป็นตุ๊กตามั้งลากไปลากมาอยู่ได้

พี่แกแดนซ์กระจาย จนเหล้าที่ผมกินเข้าไปเริ่มออกฤทธิ์
โลกหมุนนิดๆแล้ว พี่คิวจับบ่าผมให้โยกไปตามจังหวะเพลง ความมันเริ่มมา
ไม่รู้อะไรเป็นอะไร รู้แค่ว่ามันมาก รู้สึกดีแบบมึนๆ สมองโล่งแบบกลวงๆ เรื่องงาน เรื่องพี่พัฒ ฟุ้งกระจายหายไปไหนไม่รู้

เต้นไปเต้นมาสักพักใหญ่ เหมือนแขนขาที่แดนซ์กระจายอยู่เมื่อกี้มันอ่อนแรง อยากลงไปนอนกับพื้น ณ ตรงนี้ตอนนี้เลยทีเดียว
แต่แน่นอนว่ามันยังนอนไม่ได้ผมจึงหาที่ยึดเหนี่ยว ใช้แขนคล้องคอพี่คิวไว้เพื่อพยุงตัว ซบลงกับบ่าพี่เขา  โลกหมุนติ้วๆเลย แต่ก็ยังไม่หยุดเขย่าตัวไปตามจังหวะเพลง.....

รู้สึกเหมือนมีมือมาโอบเอว

"พี่พัฒ......."ผมเรียกเหมือนเพ้อ

ฮ่าๆบ้า...เขาไม่สนแกหรอกกิม คนชื่อปรายโน่นตัวจริงเขาโผล่มาแล้ว

แล้วผมก็ต้องหงุดหงิดเมื่อมีมือไล้เข้ามาในร่มผ้า อีกมือขยำแรงๆที่ก้นผม ใครวะเวลาปกติพี่พัฒไม่ทำแบบนี้แน่ แล้วสติสัมปชัญญะอันน้อยนิดก็บอกผมว่ามันน่าจะเป็นมือพี่คิวก็ผมเกาะพี่เขาอยู่มันจะเป็นใครไปได้

ผมพยายามยืนทรงตัว แล้วผลักพี่เขาออกแต่ไม่เป็นผลก็แรงคนเมาน่ะ รู้สึกเหมือนมีอะไรมานัวเนียข่างแก้ม รวบรวมแรงผลักพี่เขาอีกครั้งแต่เป็นผมที่กระเด็นออกมาตามแรงกระชากที่ต้นแขนและปะทะเข้ากับอกคนข้างหลัง

"มึงทำเหี้ยไรไอ้สัตว์คิว"ผมได้แต่เกาะคนที่จับต้นแขนของผมไว้แน่นเพื่อทรงตัว ปรือตามองแต่มันไม่ค่อยชัดแม้ว่าเสียงในตอนนี้จะเครียดและดุดันจนน่ากลัวแต่ผมมั่นใจว่าต้องใช่พี่พัฒแน่

"เฮ้ย...เอ่อ...กูขอโทษ....อารมณ์มันพาไป.......กิมมันยั่วกูเองนี่หว่า"
"ไอ้เหี้ยคิว"ผมเซถลาล้มลงพื้นเมือที่ยึดเหนี่ยวสลัดผมออก ได้ยินเสียงกรีดร้องจากสาวๆที่ยืนรอบๆ

แล้วผมก็สัมผัสถึงอกอุ่นที่คุ้นเคย รู้สึกโครงเคลงก่อนสติจะดับวูบไป

ผมสะดุ้งตื่นเพราะสัมผัสเย็นที่แก้มลืมตามาก็เจอผ้าเย็น กับสายตาเย็นวาบของคนรักที่ผมไม่แน่ใจว่าพี่เขายังรักผมอยู่รึป่าว หรือเจ้าของเขามาทวงคืนไปแล้ว

"พี่พัฒ....พี่พาผมกลับมาหรอ" ผมเต้นอยู่กับพี่คิวไม่ใช่หรอแล้วก็เหมือนมีคนทะเลาะกัน? สมองยังมึนๆตื้อๆอยู่เลย สงสัยยังไม่สร่าง

"ทำไมอยากให้มันมาส่งหรือไง.....หรืออยากไปนอนกับมัน " ผมชะงักทันที เขาพูดอะไร ทั้งน้ำเสียงทั้งสีหน้าเครียดขึง เขาโกรธอะไร...ที่ผับเขาไม่สนใจผมด้วยซ้ำ ผมสิที่ต้องโกรธ

"แล้วพี่พาผมกลับทำไมกำลังสนุกเลย พี่พัฒน่าจะอยู่นานๆจะได้คุยกับ'เพื่อน'ให้หายคิดถึง" ผมประชดออกไปเน้นย้ำคำว่าเพื่อนเมื่อนึกถึงคนนั้นขึ้นมา

"อย่ามาประชดพี่นะ! เป็นบ้าอะไรขึ้นมา ปล่อยตัวให้เมาขนาดนี้! " เขาพูดเสียงเครียด ลุกขึ้นมาบีบแขนผมอย่างแรงจนผมเจ็บ

เขาไม่เคยทำกับผมแบบนี้

"ประชดอะไร! พูดจริงจากใจเลยล่ะ จะมาสนใจทำไม โอ้ย!!มันเจ็บนะ!"ผมกระแทกเสียงใส่ พยายามแกะมือที่บีบแรงขึ้นจนทั้งเจ็บทั้งปวดไปหมด เขาไม่ปล่อยกระชากผมยืนขึ้น

"ชอบไอ้คิวมันใช่มั้ย!ยั่วอย่างที่มันพูดใช่มั้ย!!!" บีบแขนสองข้างผมแน่น และตะคอกใส่หน้าผมเสียงดัง ยั่วหรอ ?
หึหึ....ใครกันที่มันปล่อยให้เพื่อนลากผมไปแล้วมาว่าผมยั่วเพื่อนตัวเองเนี่ยนะ

 ......ผมหมดค่าหมดความหมายแล้วใช่ไหม

"หึหึ....ใช่ผมยั่ว!!ใครจะทำไม พี่คิวเค้าก็หล่อออก ใส่ใจผมอีกต่างหาก" พยายามยืนทรงตัวให้ตรง เหมือนโลกมันยังหมุนติ้วๆ แล้วผมก็ประชดออกไปอีกครั้งเหยียดยิ้มเยาะเย้ย แต่หัวใจผมกำลังร่ำไห้....ผมน้อยใจเหลือเกิน พี่พัฒคนที่เข้าใจผม คนที่อ่อนโยน คนที่แคร์ความรู้สึกผม...หายไปไหน?

รอยยิ้มน่ากลัวถูกจุดบนหน้าพี่พัฒ"ได้.....กิมคงลืม...ถ้าอย่างนั้นพี่จะฟื้นความจำให้.....กิมเป็นของพี่!! พี่จะทำให้ไปยั่วใครไม่ได้อีกเลย!" เขาขึ้นเสียงในท้ายประโยคแววตาวาวโรจน์กัดฟันกรอดจนเห็นกรามนูนขึ้น จับแขนผมไว้แน่นแล้วออกแรงลากทันที

"ปล่อยผมนะ......ปล่อย!!!!!" เขาทั้งดึงทั้งลาก กระชากผม ท่าทางน่ากลัวมากอย่างที่ผมไม่เคยเห็นมาก่อนผมพยายามเกาะทุกอย่างที่คิดว่าจะพอจะยึดเหนี่ยวได้แต่ผมก็สู้แรงพี่พัฒไม่ไหวพยายามแกะมือพี่เขาก็แกะไม่ออก เขาลากผมถูลู่ถูกังจนมาถึงหน้าห้องนอนผมคว้าขอบประตูห้องได้แล้วเกาะไว้แน่น พี่พัฒออกแรงกระชากอีกครั้งจนมือผมหลุด เหวี่ยงผมลงเตียงทันทีและตามมาดึงทึ้งเสื้อผ้าจนผมล้อนจ้อน
"พี่พัฒอย่านะ!"ผมผลักเขาออกขณะที่เขาซุกไซร้ที่ต้นคอขบเม้มรุนแรงจนผมเจ็บ เขาชะงักไปเล็กน้อนัยน์ตาสั่นระริก 
"ทำไมโดนมันลูบมันคลำนิดหน่อย หวงตัวกับผัวแล้วหรอ หรือไม่ใช่แค่คลำคงพากันไป......" ผมตบหน้าเขาทันที รู้ว่าเขาจะพูดอะไร เขาดูถูกผม ผมทั้งโกรธทั้งเสียใจ

แวบหนึ่งวาวตาตัดพ้อถูกส่งมาก่อนนัยน์ตาพี่พัฒจะวาวโรจน์ขึ้น สีหน้าเต็มไปด้วยความโกรธ
"กิมกล้าตบพี่งั้นหรอ"สิ้นคำพูดพี่พัฒบดจูบรุงแรงจนได้กลิ่นคาวเลือด มือหนาบีบเฟ้นขยำขยี้จนผมเจ็บไปทั้งตัว 

"อย่านะ อย่าทำแบบนี้ พี่พัฒ!! อย่า...."ผมทั้งดิ้นทั้งร้องห้ามทันทีที่ปากเป็นอิสระ แต่พี่พัฒไม่ฟังเขากำลังหน้ามืดด้วยความโกรธ ผมพยามยามผลักเขาออกครั้งแล้วครั้งเล่าแต่พี่พัฒทับผมไว้ทั้งตัวจนผมหนีไปไหนไม่ได้ ผมทำได้เพียงนิ่งรับสัมผัสรุงแรงของเขา เขาไม่ถนอมผมอีกต่อไปแล้ว พี่พัฒแทรกตัวเข้ามารุนแรงอย่างไม่ปราณี ข้อมือสองข้างผมถูกกดไว้แน่น ปากถูกบดขยี้จนเจ็บช้ำซ้ำแล้วซ้ำเล่าอย่างไม่เต็มใจ ทำได้เพียงสะอื้นไห้ในลำคอ
น้ำตาหลั่งรินไม่ขาดสาย ผมเจ็บ ทรมาน เหมือนร่างกายถูกฉีกออกเป็นขิ้นๆพร้อมกับหัวใจที่แตกสลาย อยากหายไปจากตรงนี้ หลับตานิ่ง ไม่คำร้องขอ ไม่มีคำอ้อนวอนใดๆ ผมไม่อยากรับรู้อะไรอีกต่อไปแล้ว..........

********************


 :katai1: :katai1: :katai1:
ยังคงคันด้วยพิษอีสุกอีใส โปรดชี้แนะข้าน้อยด้วย ทรมานเหลือเกิน :ling1:
 ติชมกันได้น้า อยากได้คำแนะนำ

ขอบคุณมากจ้า :L1:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 17-08-2014 06:17:19 โดย Phut »

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13216
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
โอ้ย  :katai1: หวานมาตลอดจะมาดีแตกตอนนี้เนี่ยน่ะ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ fuku

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4479
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +462/-20
กรรมยิ่งกว่านอกใจ คือ ไม่เชื่อใจ


หึงหน้ามืดซะงั้น

suntrang

  • บุคคลทั่วไป
 :pig4: ชอบครับ....ติดตามและตามติด
......................................................................


ยังคงคันด้วยพิษอีสุกอีใส โปรดชี้แนะข้าน้อยด้วย ทรมานเหลือเกิน ...
ถ้ายังไม่มียาทา  ลองใช้ กีลาโลชั่น  (ขวดละ๒๐กว่าบาท)  ลองทาดูสิครับ ลองทาดูน้อยๆก่อน เผื่อจะแพ้ยาตัวนี้...

   ส่วนสมุนไพรทาแก้รอยด่างดำน่าเกลียด...
ใช้ยาสีฟันทิพย์นิยมแบบผงหรือดินสอพอง...และ...ใบตำลึงสดพอประมาณ..มาคั้นน้ำแช่ตู้เย็นไว้...
ผสมกันพอข้นๆครั้งละพอใช้...ทาบ่อยๆ
....รอยด่างดำน่าเกลียด ของอีสุกอีใส    จะจางลงและหายไปในที่สุด...(ดีกว่าไปหาหมอ ค่ารักษารอยนึงหลายตังค์คร้าบ...)

ลองทาดูน้อยๆก่อน เผื่อจะแพ้
 ขอให้หายเร็วๆนะครับ.. :bye2:



ออฟไลน์ =นีรนาคา=

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2546
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +296/-6
อ้าวววววววว
อิพี่พัฒ  :z6:

ออฟไลน์ golove2

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4478
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +277/-6
เลวทั้งพัฒ เพื่อน และแฟนเก่า

 :z6: :z6:

ออฟไลน์ Phut

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 374
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +128/-3
6

ผมเป็นคนโมโหร้าย ยิ่งพอเหล้าเข้าปากด้วยแล้ว....

เมื่อคืนผมโกรธมาก
โกรธกิมที่ปล่อยตัวจนเมามายให้เพื่อนผมลวนลาม
โกรธไอ้คิวที่มันมาจับต้องล่วงเกินคนของผม
และผมโกรธตัวเองที่ชะล่าใจปล่อยกิมไปกับไอ้คิวทั้งที่รู้ว่ามันเป็นคนยังไง ก็เห็นเอาแต่นั่งเงียบคิดว่าคงเบื่อเลยให้ไป ไม่คิดว่าไอ้คิวมันจะกล้าทำกับผมแบบนี้

ด้วยฤทธิ์แอลกอฮอมันทำให้เลือดสูบฉีดจนขึ้นหน้าบวกกับท่าทางที่ต่อต้านผมและคำพูดประชดประชันของกิมผมเลยขาดสติจนอยากขย่ำให้แหลกคามือ
ถึงจะเห็นแก่ตัว แต่ผมก็รักของผม กิมต้องเป็นของผมคนเดียวใครหน้าไหนก็มาเอาไปไม่ได้ทั้งนั้น

    วันทั้งวันผมนั่งเครียดอยู่กับงานกองโตที่ทำเท่าไหร่ก็ไม่มีวี่แววว่าจะเสร็จสักที

ทำไมนะ...ช่วงนี้ชีวิตผมมันถึงได้วุ่นวายไปหมด งานก็มีปัญหาต้องคอยตามแก้อยู่ตลอดเวลา แล้วไหนจะเรื่องส่วนตัวอีก

เมื่อเช้ากิมก็หลบหน้าผม หนีเข้าห้องทำงาน ผมทั้งเรียก ทั้งขอโทษ ไม่ว่าจะอ้อนจะเว้าวอนยังไงก็ไม่ยอมออกมา

เหนื่อยกาย ยังไม่เท่าเหนื่อยใจ รู้ตัวว่าผมทำเกินกว่าเหต ผมเองก็เสียใจและรู้สึกผิด แต่บางครั้งผมก็ไม่เข้าใจกิมเลยจริงๆ

ผมแวะซื้อเค้กที่เขาชอบหวังว่าจะเอาไปง้อ อยากกลับไปหากิมเร็วๆ อยากพูดคุยปรับความเข้าใจไม่อยากให้โกรธ
ผมกลัว....กลัวกิมจะหมดรักในตัวผม

แต่จนแล้วจนรอดก็ยังไม่ได้กลับบ้านเพราะลูกค้ารายสำคัญเกิดใจร้อนเปลี่ยนนัด ลากผมมาคุยในผับหรูแล้วดื่มกันต่อ จะขอตัวกลับฝ่ายนั้นก็ไม่ยอมท่าเดียว....

เว้ยเพราะเป็นลูกค้ารายใหญ่หรอกนะ....หงุดหงิดเว้ย ผมส่งข้อความไปบอกกิมเมื่อตอนหัวค่ำว่าคุยงานติดพันอาจกลับดึก กิมไม่ตอบอะไร ผมกังวลใจเหลือเกิน

กลับถึงบ้านตอนเที่ยงคืนในบ้านเงียบสงัด
ในห้องนอนสลัวแสงสีนวลจากหัวเตียงมีร่างที่คุ้นเคยนอนกอดตุ๊กตาหมีที่ผมซื้อให้

ผมรีบอาบน้ำล้างกลิ่นเหล้า เข้าไปนอนกระชับตัวกิมเข้ามากอด ได้กลิ่นหอมแปลกๆ แตกต่างไปจากเดิม แต่นั่นไม่ใช่เรื่องที่ผมต้องสนใจ
สิ่งที่ผมต้องใส่ใจคือร่างกายอุณภูมิสูงกว่าปกติในอ้อมแขนของผม

"หลับแล้วหรอ......"ถามเขาเสียงอ่อน กิมยังคงหลับตานิ่งลมหายใจสม่ำเสมอ เหงื่อซึมตามไรผม ตัวรุมๆเหมือนมีไข้....เป็นเพราะผมทำรุนแรงกับกิม

คิดแล้วผมก็รู้สึกผิดและยิ่งปวดใจเมื่อเห็นว่าเขาโทรมขนาดไหนขอบตาบวมช้ำเหมือนผ่านการร้องไห้มาอย่างหนัก ริมฝีปากแห้งผาก แต่แก้มขึ้นสีระเรื่อเพราะพิษไข้ ทั้งที่ผมทนุถนอมกิมมาโดยตลอดแต่เขากลับต้องมีสภาพนี้เพราะผม

ทำไมผมเป็นคนแบบนี้วะ จะสามสิบอยู้แล้วไม่มีความคิดเอาซะเลย

ผมใช้ผ้าขนหนูหมาดๆบรรจงซับใบหน้าที่ชื้นเหงื่อของคนป่วย กิมลืมตาขึ้นมามอง
"เป็นไงบ้าง....ปวดหัวรึป่าว หรือหิวน้ำ"ผมเตรียมจะไปเอาน้ำให้ดื่ม แต่กิมรีบดึงมือผมกระชับไว้แน่น

"พี่พัฒ... นอนเถอะ" น้ำเสียงระโหยโรยแรง ผมขยับเข้าไปเอนตัวกึ่งนั่งกึ่งนอนใกล้ๆ โอบกระชับกิมไว้หลวมๆ
"กินข้าวกินยาหรือยัง....."พูดพลางเกลี่ยปอยผมที่ลงมาปิดหน้าให้
กิมพยักหน้ารับและพยายามกระเถิบตัวออกห่างแต่ผมรั้งเอาไว้
"นี่ก็ดึกแล้วเดี๋ยวกินยาซ้ำอีกสักหน่อยนะ รอเดี๋ยวนะพี่ไปเอาให้"

"ลุกไหวไหม"กิมพยักหน้าผมจึงค่อยๆพยุงกิมขึ้นนั่ง กิมนิ่วหน้าเล็กน้อย รับน้ำกับยาไปทาน

"เช็ดตัวหน่อยนะ กิมมีไข้ตั้งแต่เช้าแล้วใช่ไหม ทำไมไม่บอกพี่" ผมจะแกะกระดุมเสื้อให้แต่กิมรีบตะครุบมือผมไว้ เพิ่งสังเกตุเห็นร่องรอยที่ผมทำไว้เมื่อคืน มันแดงเป็นจ้ำหลายจุดบนคอขาวและคงมีอีกเยอะใต้เสื้อผ้านั่น

ผมจำได้ทุกเหตุการณ์เป็นผมเองที่ทำให้กิมเจ็บขนาดนี้ผมรู้ทุกอย่างแต่ผมไม่ห้ามตัวเอง ปล่อยให้ความโกรธความหึงหวงเข้าครอบงำ ยิ่งกิมกรีดร้องยิ่งเขาสะอื้นไห้ผมยิ่งย่ามใจ
เหมือนมันช่วยยืนยันว่าเขาเป็นของผม

ผมทำร้ายคนรักลงไปแล้ว

"เอ่อ ไม่ต้องเช็ดหรอก เอ่อ...ผม เอ่อ...ผมอยากนอนแล้ว" เสียงกิมเรียกผมออกมาจากห้วงความคิด คำพูดตะกุกตะกัก กิมคงไม่อยากให้ผมเห็นรอยช้ำพวกนั้น

"กิม......พี่ขอโทษนะ......"ผมค่อยๆกระชับกิมเข้ามากอดอย่างเบามือที่สุด ตัวกิมสั่นเทาตามมาด้วยเสียงสะอื้นในลำคอซุกหน้าลงกับอกผมและเริ่มร้องไห้หนักขึ้นสะอึกสะอื้นจนตัวโยน ใจผมบีบแน่นจนเจ็บไม่เคยเห็นกิมร้องไห้หนักขนาดนี้

และไม่อยากเห็น....

"ไม่ร้องนะคนดี พี่ขอโทษ....อย่าร้องเลยนะ...พี่ใจไม่ดีเลย...พี่ขอโทษนะ....นิ่งนะกิม..." ผมได้แต่เอ่ยคำขอโทษซ้ำไปซ้ำมา ยิ่งผมลูบหลังพยามยามปลอบให้เขานิ่งเสีย กิมก็ยิ่งร้องไห้ฟูมฟายซุกหน้ากับอกผม

"..พี่พัฒฮึก... จะ..ใจร้ายมากเลย....กิมเสียใจ...ฮืออออ ตะ...แต่...ฮึก..
กิมรักพี่พัฒนะ.....ฮึก...พะ..พี่พัฒอย่าทิ้งกิมนะ....ฮืออออออ" กิมตัดพ้อร้องไห้เหมือนใจจะขาดเสียให้ได้อยู่ครู่ใหญ่ก่อนจะหลับไปในอ้อมอกของผม

เหมือนมีมือที่มองไม่เห็นล้วงเข้ามาบีบคั้นหัวใจของผมจนแทบแหลกลานมันเจ็บปวดทรมานแสนสาหัส นี่ผมทำร้ายเขาขนาดนี้ได้อย่างไร

ผมดึงผ้ามาห่มกอดกิมไว้แน่นให้เขารู้ว่าผมจะอยู่ตรงนี้ จะไม่ทิ้งเขาไปไหน

ทำไมกิมกลัวถูกทิ้ง?...ผมไม่เคยมีความคิดนั้นในสมองเลย กลัวจะเป็นฝ่ายถูกทิ้งเสียด้วยซ้ำ

นึกถึงเรื่องเมื่อคืนวานผมพลาดเองพี่พากิมไปเจอแฟนเก่าแบบนั้น ก็ไม่รู้ว่าปรายจะมา
ผมไม่คิดอะไรก็จริงแต่ใช่ว่ากิมจะไม่คิด ถ้าเดาไม่ผิดกิมคงหึงผมกับปรายแน่ คนรักผมถึงได้งอแงประชดประชันผมแบบนั้นเพราะปกติกิมไม่ใช่คนที่จะโวยวายเสียงดังใส่ผม เขามักเกรงใจผมเสมอ และเขาไม่ใช่คนชอบดื่มต่างจากผมที่จะดื่มประจำเพิ่อระบายความเครียดจากงาน

พรุ่งนี้เราคงต้องเปิดอกคุยกันจริงจังให้เคลียสักที....

"ใครบอกให้อาบน้ำ แล้วนี่สระผมอีก ตัวเองป่วยอยู่ทำไมไม่เจียมตัวเลย" ผมเผลอดุทันทีที่เห็นร่างขาวผมเปียกเดินออกมาจากห้องน้ำ ที่พูดก็เพราะเป็นห่วง

เขาเดินมานั่งหน้ากระจกพลางใช้ผ้าขนหนูเช็ดผมยาวที่เปียก ไม่แม้แต่จะชายตามามองผม

"ผมหายแล้ว" เรียบและเย็นชามากทั้งหน้าและน้ำเสียง คงยังโกรธผมอยู่

"กิม...." เรียกได้คำเดียว เขาก็เปิดไดร์เป่าผมกลบสิ่งที่ผมตั้งใจจะพูด ปกติเห็นหัวอ่อนพูดง่ายแต่บทจะงอนขึ้นมาก็เอาเรื่องอยู่

นั่งรอให้เขาเป่าผมแต่งตัว ตาก็สำรวจทุกอากัปกิริยาของเขา กิมทำเหมือนผมเป็นอากาศธาตุไม่พูดไม่ถามไม่แม้เแต่จะมองหน้า ปกติผมจ้องขนาดนี้กิมได้อายม้วนไปแล้ว

"กิม...พี่ขอโทษ...." ผมเข้าไปกอดกิมไว้จากด้านหลังตอนที่เขาลุกขึ้นยืน ได้กลิ่นหอมสะอาดจากเส้นผมนุ่มที่คาดว่าน่าจะเป็นยาสระผมขวดใหม่

"กิมจะไม่คุยกับพี่เลยหรอ"
เขายังคงเงียบและพยายามขืนตัว แต่ผมไม่ปล่อยง่ายๆหรอก เอาคางวางเกยบ่ากิมไว้แล้วพูดเสียงอ่อน

"นี่...พี่รู้ว่าพี่ผิด รู้ว่าเราโกรธ แต่พี่เสียใจนะที่ทำแบบนั้น ก็ทำไมกิมถึงปล่อยตัวเองให้เมาแบบนั้นล่ะ ถึงไอ้คิวมันจะเป็นเพื่อนพี่ก็ใช่ว่ามันจะไว้ใจได้ แล้วยังจะมาประชดพี่อีก"

ไม่มีเสียงโต้ตอบ มีเพียงแววตาเคลือบแคลงสงสัยสบมองตาผมผ่านกระจกบานใหญ่ก่อนจะหลุบมองต่ำ
สีหน้าครุ่นคิดเหมือนในช่วงแรกๆที่ผมจีบเขา

เพิ่งสังเกตุว่าสารพัดขวดที่เคยอยู่บนโต๊ะมันหายไปหมดแม้แต่น้ำหอมขวดที่กิมชอบใช้
ขวดที่ผมจำได้ว่ามันเป็นกลิ่นเดียวกับที่ปรายใช้ ผมว่าผมรู้แล้วล่ะว่าคนรักผมคิดอะไร

กิมกำลังระแวง...บางทีเขาอาจจะไม่ได้โกรธเรื่องที่ผมใช้กำลังเพียงเรื่องเดียว

ผมค่อยๆจับเขาหันมาเผชิญหน้ากันตรงๆ สัมผัสแก้มขาวอย่างเบามือแล้วดันขึ้นน้อยๆให้เราสบตากัน บอกถ้อยคำที่ผมรู้สึกและอยากให้เขามั่นใจ

"พี่รักกิมนะ...คุยกับพี่หน่อยได้ไหม น้อยใจอะไร...หืม" ผมพยายามใช้น้ำเสียงที่ติดว่าอ่อนโยนที่สุด มองสบเข้าไปในตาสีอ่อนที่มีแววไหวน้ำตาคลอ

"ก็พี่พัฒไปอี๋อ๋อกับแฟนเก่าจะให้กิมคิดว่าไง คนชื่อปรายเขาบอกว่าอีกไม่นานพี่พัฒก็ต้องทิ้งกิมแน่ ช่วงสองสามอาทิตย์ที่ผ่านมาพี่ก็ไม่ค่อยสนใจกิมเลยเอาแต่ออกไปกินเหล้า! คุยโทรศัพท์ก็บ่อย คุยกับคนชื่อปรายใช่มั้ยล่ะ!! แล้วยังมาหาว่ากิมยั่วเพื่อนพี่อีก กิม ก็ ฮึก สะ..เสียใจเป็น นะ ฮือออออ"
จากที่พูดเรียบๆ ก็เริ่มใส่อารมณ์ แล้วสุดท้ายร้องไห้ซะงั้น ผมล่ะสับสนตามอารมณ์ไม่ถูกเลย ทั้งน่ารักและน่าสงสาร ที่กิมพูดมันก็จริง เพราะงานมันเครียดเจอไอ้คิวมันชวนผมก็เลยร่อนตามมันไป แต่เรื่องปรายนี่ไม่ถูกละ ไม่คิดว่ากิมจะคิดมากขนาดนี้ ปรายนี่ร้ายใช่ย่อยนะมาเป่าหูคนของผม

"มานี่มา" ผมพากิมมานั่งบนเตียง แล้วจับศีรษะเขาซุกเข้ากับอก ลูบหลังเบาๆเพื่อปลอบโยน แล้วเริ่มอธิบาย

"เรื่องปรายน่ะพี่ไม่ได้มีอะไรกับเขาเลยนะเลิกไปตั้งนานแล้ว ที่ถึงเนื้อถึงตัวมันก็เป็นนิสัยของเขาพี่ไม่ได้คิดอะไรไม่ได้เจอกันบ่อยๆด้วย ส่วนเรื่องโทรศัพท์พี่คุยเรื่องงาน ที่ช่วงนี้พี่เอาแต่ออกไปกินเหล้าก็เพราะงานมีปัญหาเลยเครียดๆ แล้วเรื่องที่ว่ากิม พี่ขอโทษ...พี่หึงน่ะ เห็นมันชวนกิมคุย พี่ก็ไม่อยากคิดมาก กิมบอกอยากเปิดหูเปิดตาพี่ก็เลยปล่อยแต่จริงๆแล้วพี่ขี้หวงนะ แฟนเก่าทั้งหลายที่เลิกกันไปก็เพราะทนอารมณ์ร้ายๆของพี่ไม่ได้ แต่กิมจะไม่ทิ้งพี่ใช่ไหม?..."
ผมคายออกมาหมดไม่มีกั๊ก ทั้งความจริงและสิ่งที่ผมกลัว

"พี่พูดจริงหรอ..."กิมผละออกจากอกเงยหน้าขึ้นมามองผมตาแป๋ว ได้โปรดอย่ามองพี่แบบนั้นพี่อดใจไม่ไหว...

ผมหอมแก้มนุ่มแล้วค่อยซุกจมูกเข้ากับซอกคอที่มีรอยของผมอยู่ชัดเจน

"จริงสิ พี่มีกิมคนเดียวนะ การกระทำที่ผ่านมาช่วยยืนยันอะไรไม่ได้เลยหรอ" ผมไล้ปลายนิ้วเกลี่ยซับคราบน้ำตาที่หลงเหลือเพียงนิด แล้วจูบเบาๆที่มุมปากกระจับได้รูป

หรือมันจะจริงที่เขาบอกว่าทำดีร้อยครั้งไม่เท่าทำชั่วเพียงครั้งเดียว พลาดเพียงนิดความดีที่เคยทำมาก็มลายหายไปสิ้น

"กิมก็เชื่อพี่มาตลอดถึงได้ยอมหอบผ้าหอบผ่อนตามมาอยู่ด้วยแต่คราวนี้การกระทำของพี่มันน่าสงสัยจริงๆนี่นา กลัวพี่พัฒเปลี่ยนใจ...อย่าล้วง!!"
เขารีบตะครุบมือผมที่กระดึบเข้าไปในกางเกงของเขา คิดว่าผมจะยอมรึ

ผมจับเขานอนลงแล้วขึ้นคร่องเขาไว้ จูบซับทุกส่วนบนใบหน้าอย่างรักใคร่

"กิมครับ คราวหน้ามีอะไรก็ถามพี่ตรงๆนะ พี่ไม่โกหกหรอก พี่ไม่อยากให้กิมคิดเองเออเองแล้วมานั่งน้อยใจอยู่คนเดียว เข้าใจไหม"

"ขะเข้าใจครับ พี่พัฒอย่าถอด เอ่อ กิมยังเจ็บอยู่เลยยย..." ไม่รู้ว่าอุบายหรือเจ็บจริง แต่ที่เขินนี่ของจริงแน่ๆ แดงไปถึงหูแล้ว

"เจ็บก็อย่าดิ้นสิครับ...ขอพี่ชิมปรากริมหน่อยนะ ยังหวานเหมือนเดิมรึเปล่า"

แล้วผมก็จัดการแบบไม่ฟังเสียงค้านและไม่ต้องสนใจว่าเขาจะขัดขืนอย่างไร เพราะเพียงแค่ผมชิมด้วยปาก เขาก็เต็มอกเต็มใจแอ่นสะโพกให้ผมได้ลิ้มรสจนหนำใจเชียวล่ะ

**************************
ตกใจมีแต่คนด่าอิพี่พัฒของเค้า :hao4:

ต่างคนต่างมุมมอง กิมมันคิดมากไปเอง จริงๆนะ

ขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาอ่านและติดตาม
แนะนำติชมกันได้เน้อ จะได้ปรับปรุง
วันนี้ดึกเพราะหนังมันติดพัน ดูเพลินไปหน่อย  :laugh: :laugh:

ขอบคุณคำแนะนำเรื่องยาของคุณ suntrang จะลองนำไปใช้นะจ้ะ
จะพยายามรีบหายน้าาา

ขอบคุณทุกท่านที่เป็นกำลังใจให้จ้าาาา :pig4:

ออฟไลน์ nunnan

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2275
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +124/-6
เข้าใจกันก็ดีแล้ววว  :mew4: :mew4:

ออฟไลน์ golove2

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4478
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +277/-6
เชอะ น้องกิมน่าจะงอนอีกหน่อย





ตอนเราเป็นอีสุกอีใส แม่เราซื้อน้ำสมุนไพรจากร้านขายยาจีน
ไม่เชิงสมุนไพร เป็นพวกรากๆ นะค่ะ
ช่วยลดอาการร้อนจากในตัว
เราจำไม่ได้เรียกว่าอะไร
แต่เป็นขวดพลาสติกสีขาว รสชาติเหมือนน้ำธรรมดา
เราดื่มแทนน้ำเลยค่ะ

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13216
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
ดีแล้วที่ดีกัน

ออฟไลน์ =นีรนาคา=

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2546
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +296/-6
เฮ้ออออออ เคลียร์นะ
 :เฮ้อ:

ออฟไลน์ Phut

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 374
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +128/-3
7 จบ

ผมกำลังอารมณ์ดี
อารมณ์ดีเพราะมีความสุข~
สุขมากๆเลยล่ะ เพราะอะไรน่ะหรอ

เพราะผมได้มาเที่ยวทะเลน่ะสิ ผมชอบทะเลลล.....
และที่สำคัญกว่านั้นผมมากับแฟนหนุ่มสุดหล่อสุดสวาทขาดใจของผม

หลังจากผ่านเรื่องคืนนั้นมานานมากๆแล้ว พี่พัฒเลิกไปกินเหล้ากับพี่คิว
ช่วงแรกผมก็ยอมรับว่าระแวงอยู่บ้าง ก็พอมันมีเหตุใครมันจะไปวางใจได้ร้อยเปอร์เซ็นกันล่ะ แต่พี่พัฒก็สามารถทำให้ผมกลับไปเชิ่อใจเขาได้

สัปดาห์ที่ผ่านมาพี่รีบเคลียร์งานแล้วหาวันหยุดยาวพาผมมาเที่ยวทะเลเป็นเกาะแถบภาคตะวันออก อากาศดีมากๆ น้ำทะเลใสแจ๋วเลย

เก็บของเข้าที่พักเสร็จเราก็มาเดินมาร้านอาหารด้วยกัน
"ยิ้มอาราย....." รู้สึกจะจ้องผมนานแล้วยิ้มกรุ้มกริ่มอีกต่างหาก
"หาดทรายขาวน้ำทะเลสีเขียวกับหนุ่มน่ารักมาดเซอร์ผมยาวตัวขาวจัวะ นี่มันสวรรค์บนดินโดยแท้~" พูดหน้าบานหลับตาเหมือนเพ้อแล้วก็เอาแขนมาคล้องคอผมเข้าไปกอด ผมเลยสอดมือเข้าไปกอดเอวพี่พัฒไว้
"พูดเป็นคนแก่ไปได้ โอ๊ะลืมไป ป๋าจะสามสิบแล้วแก่จริงด้วย ฮ่าๆๆ"
"ไม่สนหรอกเด็กมันชอบ พอป๋าบอกจะพามาทะเลนะ เด็กป๋ามันทำตัวดี๊ด๊าเป็นปลาได้น้ำเลย"
"กิมเจ็บนะ พี่พัฒแม่ง" พี่ไม่พูดเปล่าเอามือมาบีบจมูกผมแล้วโยกไปมา ผมก็โวยสิ นี่ถ้าผมยัดมาคงต้องวิ่งกลับไปหาหมอแทบไม่ทัน มือไม่ใช่จะเบาๆเลย

 ยังจะหัวเราะอีก!

"น้องหมูแกะเป็นเปล่าพี่แกะให้ไหม?" ฉายาใหม่ของผมเมื่อไม่นานมานี้ ขุนผมซะกลมจนตัวเองอุ้มไม่ไหวละยังมาว่าผมอีก
"ดูถูก...เดี๋ยวโชว์" แกะปูนี่ผมขั้นเซียนเลยนะผมชอบมาก ยิ่งกุ้งเผานี่ไม่ต้องถาม น้ำจิ้มเผ็ดผมก็สู้ แต่ผมว่าผมไม่น่าโชว์พาวเลย

"อ้า..." นั่นไง...มาแล้วป๋าหน้ามึน มุกนี้ประจำ!
"บ้าเหรอพี่พัฒอายชาวบ้านเขา...มือตัวเองก็มี" ผมพูดพร้อมกวาดสายตามองไปยังโต๊ะอื่นๆ ที่มีคนนั่งประปรายจะส่งใส่จานให้พี่เขาก็ยกจานหนี
"ป้อนหน่อยสิ อ้า" ลองหน้าลอยตาตื๊ออยู่นั่นแหละนี่ถ้าหน้าตาไม่ดีพี่จะทุเรศมากเลยรู้ตัวมั้ย เฮ้อ...
"จิ้มไหม"
"จิ้มครับ" แล้วผมก็จับปูเนื้อแน่นจิ้มน้ำจิ้มซีฟูดรสเด็ดส่งให้เขาถึงปาก...มีแอบดูดนิ้วผมอีก
"พี่พัฒ.....!"นี่ผมทำเสียงดุอยู่นะ ยังจะยิ้มหวานอีก รู้สึกหน้าร้อนอีกแล้วสิ

หลังจากซัดซะเต็มคราบโดยพี่พัฒไม่ต้องบังคับเราก็นั่งย่อยกันจนแดดร่มลมตก เวลาของผมมาถึงแล้ว
"ป่ะ..." ผมลุกขึ้นเตรียมลากคนตัวใหญ่ลงทะเล ตอนนี้พี่ตาปรือมากเลย สงสัยหนังท้องตึงหนังตาหย่อน หน้าตาพี่น่า...มาก

แต่ไม่ใช่ตอนนี้ ทะเลกำลังรอผมอยู่

"เอาจริงหรอ..."
"จริง!!มาทะเลก็ต้องเล่นน้ำด้วยสิถึงจะครบสูตร ฮั่นแน่....หรือพี่พัฒกลัวดำ?"

ยื่นหน้าเข้าไปใกล้ยิ้มล้อเลียน พี่พัฒทำหน้าเหมือนมันเขี้ยวผมเต็มแก่ จะดึงผมเข้าไปกอดแต่ผมรู้ทันเลยวิ่งหนีลงทะเลซะเลย

"ตามมาให้ไวเลยครับ!" ผมตะโกนไม่อายสายตาใครซึ่งต่างจากปกติอาจเป็นเพราะนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่เป็นชาวต่างชาติและมีจะนวนไม่มากเพราะไม่ใช่ฤดูท่องเที่ยว

เราเล่นน้ำไปหยอกกันไป ผมลืมคนรอบข้างไปเลยเหมือนกับว่า ณ ตอนนี้โลกนี้มีเพียงเราสองคน รอยยิ้มอบอุ่นที่คุ้นเคยส่งมาให้ผมตลอดวัน อะไรทำให้เขารักผมได้นะ

"ทำไมมองพี่แบบนั้น...อยากได้แบบเอาท์ดอร์หรอ" เขาพูดแล้วเข้ามาซ้อนกอดผมจากด้านหลังเอาจมูกมาซุกแถวแก้มและคอของผม แถมยังเอาไอ้นั่นมาถูข้างหลังผมอีก คนกำลังจะซึ้งพี่พาหิ่นซะงั้น

"ทะลึ่ง อย่าสิ...ฝรั่งมองแล้ว" พูดเสียงพร่า ผมไม่ใช่พระอิฐพระปูนนะ พี่เอาสะโพกมาเบียดมือก็ทั้งลูบทั้งคลึง แล้วกลางทะเลแบบนี้มีฝรั่งมองอีก ผมก็ตื่นดิ

อะไร...
ผมหมายถึงตื่นเต้น

"พี่พัฒกิมจะเล่นน้ำ"
"ไปเล่นต่อในห้องนะ" กระซิบจบพี่ก็พาผมกลับที่พักทันที ผมไม่ขัดหรอกวันนี้ก็เล่นน้ำทะเลไปเยอะแล้ว เล่นน้ำอย่างอื่นบ้างละกัน เดี๋ยวป๋าเขาจะเฉาตาย หึหึหึ
.
.
เกือบสี่ทุ่มแล้วเรานั่งอยู่ที่ระเบียงรับลมทะเลยามค่ำคืนเสียงคลื่นกระทบฝั่งดังให้ได้ยินเป็นระลอก ผมสูดกลิ่นทะเลเข้าปอด
"หนาวไหม"คนตัวใหญ่ที่นั่งซ้อนหลังสองแขนโอบกอดผมอยู่ถามเสียงนุ่ม เอาแก้มมาแนบแก้มผม ...อุ่นจัง
ผมส่ายหน้า เอนหลังพิงอกแกร่งขณะที่แก้มยังคงแนบกันอยู่ ชอบความรู้สึกนี้จัง
"ชอบทะลมากเลยเหรอ"
"ครับ ชอบมาก"
ผมพูดพลางทอดสายตายังท้องทะเลดำมืด ทั้งที่มันดูน่ากลัว แต่ผมกลับรู้สึก สงบ อบอุ่นและปลอดภัย เพราะอ้อมกอดของคนรักที่คอยอยู่เคียงใกล้และให้ความอบอุ่นเสมอมา

ผมรู้สึกว่าตัวเองเป็นคนที่โชคดีจริงๆที่ได้มาเจอกับพี่พัฒและโชคดีที่เขารักผม ผมเคยน้อยใจคิดว่าเขาชอบผมเพราะกลิ่นกายที่เหมือนกับแฟนเก่าของเขาแต่ไม่ว่ามันจะเริ่มจากอะไรนั่นมันก็แค่เพียงจุดเริ่มต้น ผมไม่จำเป็นต้องใส่ใจในเมื่อ ณ ตอนนี้ เขาอยู่กับผมและใส่ใจในทุกอย่างที่เป็นผม

ใส่ใจขนาดไหนน่ะหรอ ก็เลี้ยงซะจนผมอ้วนจะกลิ้งได้อยู่แล้วเนี่ย บ่นกลัวผมเป็นเบาหวานแต่ก็ซื้อเค้กมาประเคนให้ผมกินแทบทุกวัน จำอาหารที่ผมชอบได้ พาผมเที่ยวทั้งที่ตัวเองงานยุ่งแทบตาย รู้สึกจะหมดช่วงโปรแล้วนะแต่เขาก็ยังเอาใจผม

เห็นใจดีแบบนี้อย่าเผลอทำให้โมโหเชียว อารมณ์ร้ายมาก แต่ก็นั่นล่ะยังไงผมก็รักเขาไปแล้ว อยากบอกเขาจัง

"รักพี่พัฒจังเลย"

เพราะอกเขาแนบหลังผมจึงรู้สึกเหมือนเขากลั้นหายใจไปครู่หนึ่ง

เขาเป็นอะไร ?

อย่าบอกนะว่าไม่รักผมแล้ว ?

"เฮ้ยอย่าทำหน้าแบบนั้น พี่แค่ตกใจก็กิมไม่เคยบอกพี่แบบนี้ พูดมาไม่มีปี่มีขลุ่ยพี่ก็...ดีใจน่ะสิ"
คนหน้ามึนแบบพี่พัฒกำลังหน้าแดง โอ้วหาดูได้ยาก

ผมพลิกตัวยื่นหน้าเข้าไปหอมแก้มเขาแล้วซุกกายเข้าหาอกอุ่น สอดแขนเข้าไปกอดเอวหนาเอาไว้ ได้กลิ่นหอมน้ำยาปรับผ้านุ่มจากเสื้อที่ผมซักรีดให้เขาเองกับมือ

เขาลูบศีรษะผมเบาๆอีกมือก็กอดผมเอาไว้
"พี่ก็รักกิมนะ รักมากด้วย อย่าทำพี่เสียใจนะรู้ไหม... หึหึ"เขาหัวเราะเบาๆ ก้มมาดมศีรษะผม ได้ยินเสียงหัวใจเขาเต้นสม่ำเสมอมั่งคง

ผมยิ้มแก้มแทบปริ จะสำลักความสุขตาย หัวใจเต้นแรงรัดแน่นแล้วพองฟูล้นปรี่อยู่ในอก

เขาสอนผมให้รู้จักรัก สอนให้ผมรู้ว่าการถูกรักมันเป็นยังไง ผมมั่นใจว่าผมไม่มีวันทำพี่พัฒเสียใจแน่ๆ ไม่มีวันที่ผมจะเปลี่ยนใจไปจากคนๆนี้ คนที่ทำให้ผมรักจนหมดหัวใจ

ผมเคยกลัวความรัก เคยถูกทิ้งอย่างคนไร้ค่าในสายตาใครบางคน จนผมกลายเป็นคนขี้ระแวงคนที่เข้าหาผม แต่ก็ต้องขอบคุณใครคนนั้นที่ทิ้งผมไปและสอนให้รู้จักความเจ็บปวด
ผมถึงได้มาเจอกับพี่พัฒ และรู้ว่าความสุขที่ได้รับในตอนนี้มันมีค่ามากเพียงใด

ความสุขของผมก็เพียงเท่านี้ไม่ได้ต้องการอะไรมากเลย แค่เพียงมีคนที่ผมรัก และเขาก็รักผมอยู่เคียงข้างกัน เข้าใจกัน ไม่ว่าอะไรหรือสิ่งอื่นใดมันก็ไม่สำคัญแล้ว....


"พี่พัฒ...จุ๊บๆหน่อย"

(OoO)

(^///^)

*********************


จบแล้ว.......

ขอบคุณทุกคอมเมนต์ และขอบคุณที่ติดตามจ้า

คุณgolove2 ยาที่บอก ใช่เขากุยรึเปล่าเอ่ย
ขอบคุณที่แนะนำจ้า

 :L1: :L1:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 04-05-2014 17:34:30 โดย Phut »

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด