6ผมเป็นคนโมโหร้าย ยิ่งพอเหล้าเข้าปากด้วยแล้ว....
เมื่อคืนผมโกรธมาก
โกรธกิมที่ปล่อยตัวจนเมามายให้เพื่อนผมลวนลาม
โกรธไอ้คิวที่มันมาจับต้องล่วงเกินคนของผม
และผมโกรธตัวเองที่ชะล่าใจปล่อยกิมไปกับไอ้คิวทั้งที่รู้ว่ามันเป็นคนยังไง ก็เห็นเอาแต่นั่งเงียบคิดว่าคงเบื่อเลยให้ไป ไม่คิดว่าไอ้คิวมันจะกล้าทำกับผมแบบนี้
ด้วยฤทธิ์แอลกอฮอมันทำให้เลือดสูบฉีดจนขึ้นหน้าบวกกับท่าทางที่ต่อต้านผมและคำพูดประชดประชันของกิมผมเลยขาดสติจนอยากขย่ำให้แหลกคามือ
ถึงจะเห็นแก่ตัว แต่ผมก็รักของผม กิมต้องเป็นของผมคนเดียวใครหน้าไหนก็มาเอาไปไม่ได้ทั้งนั้น
วันทั้งวันผมนั่งเครียดอยู่กับงานกองโตที่ทำเท่าไหร่ก็ไม่มีวี่แววว่าจะเสร็จสักที
ทำไมนะ...ช่วงนี้ชีวิตผมมันถึงได้วุ่นวายไปหมด งานก็มีปัญหาต้องคอยตามแก้อยู่ตลอดเวลา แล้วไหนจะเรื่องส่วนตัวอีก
เมื่อเช้ากิมก็หลบหน้าผม หนีเข้าห้องทำงาน ผมทั้งเรียก ทั้งขอโทษ ไม่ว่าจะอ้อนจะเว้าวอนยังไงก็ไม่ยอมออกมา
เหนื่อยกาย ยังไม่เท่าเหนื่อยใจ รู้ตัวว่าผมทำเกินกว่าเหต ผมเองก็เสียใจและรู้สึกผิด แต่บางครั้งผมก็ไม่เข้าใจกิมเลยจริงๆ
ผมแวะซื้อเค้กที่เขาชอบหวังว่าจะเอาไปง้อ อยากกลับไปหากิมเร็วๆ อยากพูดคุยปรับความเข้าใจไม่อยากให้โกรธ
ผมกลัว....กลัวกิมจะหมดรักในตัวผม
แต่จนแล้วจนรอดก็ยังไม่ได้กลับบ้านเพราะลูกค้ารายสำคัญเกิดใจร้อนเปลี่ยนนัด ลากผมมาคุยในผับหรูแล้วดื่มกันต่อ จะขอตัวกลับฝ่ายนั้นก็ไม่ยอมท่าเดียว....
เว้ยเพราะเป็นลูกค้ารายใหญ่หรอกนะ....หงุดหงิดเว้ย ผมส่งข้อความไปบอกกิมเมื่อตอนหัวค่ำว่าคุยงานติดพันอาจกลับดึก กิมไม่ตอบอะไร ผมกังวลใจเหลือเกิน
กลับถึงบ้านตอนเที่ยงคืนในบ้านเงียบสงัด
ในห้องนอนสลัวแสงสีนวลจากหัวเตียงมีร่างที่คุ้นเคยนอนกอดตุ๊กตาหมีที่ผมซื้อให้
ผมรีบอาบน้ำล้างกลิ่นเหล้า เข้าไปนอนกระชับตัวกิมเข้ามากอด ได้กลิ่นหอมแปลกๆ แตกต่างไปจากเดิม แต่นั่นไม่ใช่เรื่องที่ผมต้องสนใจ
สิ่งที่ผมต้องใส่ใจคือร่างกายอุณภูมิสูงกว่าปกติในอ้อมแขนของผม
"หลับแล้วหรอ......"ถามเขาเสียงอ่อน กิมยังคงหลับตานิ่งลมหายใจสม่ำเสมอ เหงื่อซึมตามไรผม ตัวรุมๆเหมือนมีไข้....เป็นเพราะผมทำรุนแรงกับกิม
คิดแล้วผมก็รู้สึกผิดและยิ่งปวดใจเมื่อเห็นว่าเขาโทรมขนาดไหนขอบตาบวมช้ำเหมือนผ่านการร้องไห้มาอย่างหนัก ริมฝีปากแห้งผาก แต่แก้มขึ้นสีระเรื่อเพราะพิษไข้ ทั้งที่ผมทนุถนอมกิมมาโดยตลอดแต่เขากลับต้องมีสภาพนี้เพราะผม
ทำไมผมเป็นคนแบบนี้วะ จะสามสิบอยู้แล้วไม่มีความคิดเอาซะเลย
ผมใช้ผ้าขนหนูหมาดๆบรรจงซับใบหน้าที่ชื้นเหงื่อของคนป่วย กิมลืมตาขึ้นมามอง
"เป็นไงบ้าง....ปวดหัวรึป่าว หรือหิวน้ำ"ผมเตรียมจะไปเอาน้ำให้ดื่ม แต่กิมรีบดึงมือผมกระชับไว้แน่น
"พี่พัฒ... นอนเถอะ" น้ำเสียงระโหยโรยแรง ผมขยับเข้าไปเอนตัวกึ่งนั่งกึ่งนอนใกล้ๆ โอบกระชับกิมไว้หลวมๆ
"กินข้าวกินยาหรือยัง....."พูดพลางเกลี่ยปอยผมที่ลงมาปิดหน้าให้
กิมพยักหน้ารับและพยายามกระเถิบตัวออกห่างแต่ผมรั้งเอาไว้
"นี่ก็ดึกแล้วเดี๋ยวกินยาซ้ำอีกสักหน่อยนะ รอเดี๋ยวนะพี่ไปเอาให้"
"ลุกไหวไหม"กิมพยักหน้าผมจึงค่อยๆพยุงกิมขึ้นนั่ง กิมนิ่วหน้าเล็กน้อย รับน้ำกับยาไปทาน
"เช็ดตัวหน่อยนะ กิมมีไข้ตั้งแต่เช้าแล้วใช่ไหม ทำไมไม่บอกพี่" ผมจะแกะกระดุมเสื้อให้แต่กิมรีบตะครุบมือผมไว้ เพิ่งสังเกตุเห็นร่องรอยที่ผมทำไว้เมื่อคืน มันแดงเป็นจ้ำหลายจุดบนคอขาวและคงมีอีกเยอะใต้เสื้อผ้านั่น
ผมจำได้ทุกเหตุการณ์เป็นผมเองที่ทำให้กิมเจ็บขนาดนี้ผมรู้ทุกอย่างแต่ผมไม่ห้ามตัวเอง ปล่อยให้ความโกรธความหึงหวงเข้าครอบงำ ยิ่งกิมกรีดร้องยิ่งเขาสะอื้นไห้ผมยิ่งย่ามใจ
เหมือนมันช่วยยืนยันว่าเขาเป็นของผม
ผมทำร้ายคนรักลงไปแล้ว
"เอ่อ ไม่ต้องเช็ดหรอก เอ่อ...ผม เอ่อ...ผมอยากนอนแล้ว" เสียงกิมเรียกผมออกมาจากห้วงความคิด คำพูดตะกุกตะกัก กิมคงไม่อยากให้ผมเห็นรอยช้ำพวกนั้น
"กิม......พี่ขอโทษนะ......"ผมค่อยๆกระชับกิมเข้ามากอดอย่างเบามือที่สุด ตัวกิมสั่นเทาตามมาด้วยเสียงสะอื้นในลำคอซุกหน้าลงกับอกผมและเริ่มร้องไห้หนักขึ้นสะอึกสะอื้นจนตัวโยน ใจผมบีบแน่นจนเจ็บไม่เคยเห็นกิมร้องไห้หนักขนาดนี้
และไม่อยากเห็น....
"ไม่ร้องนะคนดี พี่ขอโทษ....อย่าร้องเลยนะ...พี่ใจไม่ดีเลย...พี่ขอโทษนะ....นิ่งนะกิม..." ผมได้แต่เอ่ยคำขอโทษซ้ำไปซ้ำมา ยิ่งผมลูบหลังพยามยามปลอบให้เขานิ่งเสีย กิมก็ยิ่งร้องไห้ฟูมฟายซุกหน้ากับอกผม
"..พี่พัฒฮึก... จะ..ใจร้ายมากเลย....กิมเสียใจ...ฮืออออ ตะ...แต่...ฮึก..
กิมรักพี่พัฒนะ.....ฮึก...พะ..พี่พัฒอย่าทิ้งกิมนะ....ฮืออออออ" กิมตัดพ้อร้องไห้เหมือนใจจะขาดเสียให้ได้อยู่ครู่ใหญ่ก่อนจะหลับไปในอ้อมอกของผม
เหมือนมีมือที่มองไม่เห็นล้วงเข้ามาบีบคั้นหัวใจของผมจนแทบแหลกลานมันเจ็บปวดทรมานแสนสาหัส นี่ผมทำร้ายเขาขนาดนี้ได้อย่างไร
ผมดึงผ้ามาห่มกอดกิมไว้แน่นให้เขารู้ว่าผมจะอยู่ตรงนี้ จะไม่ทิ้งเขาไปไหน
ทำไมกิมกลัวถูกทิ้ง?...ผมไม่เคยมีความคิดนั้นในสมองเลย กลัวจะเป็นฝ่ายถูกทิ้งเสียด้วยซ้ำ
นึกถึงเรื่องเมื่อคืนวานผมพลาดเองพี่พากิมไปเจอแฟนเก่าแบบนั้น ก็ไม่รู้ว่าปรายจะมา
ผมไม่คิดอะไรก็จริงแต่ใช่ว่ากิมจะไม่คิด ถ้าเดาไม่ผิดกิมคงหึงผมกับปรายแน่ คนรักผมถึงได้งอแงประชดประชันผมแบบนั้นเพราะปกติกิมไม่ใช่คนที่จะโวยวายเสียงดังใส่ผม เขามักเกรงใจผมเสมอ และเขาไม่ใช่คนชอบดื่มต่างจากผมที่จะดื่มประจำเพิ่อระบายความเครียดจากงาน
พรุ่งนี้เราคงต้องเปิดอกคุยกันจริงจังให้เคลียสักที....
"ใครบอกให้อาบน้ำ แล้วนี่สระผมอีก ตัวเองป่วยอยู่ทำไมไม่เจียมตัวเลย" ผมเผลอดุทันทีที่เห็นร่างขาวผมเปียกเดินออกมาจากห้องน้ำ ที่พูดก็เพราะเป็นห่วง
เขาเดินมานั่งหน้ากระจกพลางใช้ผ้าขนหนูเช็ดผมยาวที่เปียก ไม่แม้แต่จะชายตามามองผม
"ผมหายแล้ว" เรียบและเย็นชามากทั้งหน้าและน้ำเสียง คงยังโกรธผมอยู่
"กิม...." เรียกได้คำเดียว เขาก็เปิดไดร์เป่าผมกลบสิ่งที่ผมตั้งใจจะพูด ปกติเห็นหัวอ่อนพูดง่ายแต่บทจะงอนขึ้นมาก็เอาเรื่องอยู่
นั่งรอให้เขาเป่าผมแต่งตัว ตาก็สำรวจทุกอากัปกิริยาของเขา กิมทำเหมือนผมเป็นอากาศธาตุไม่พูดไม่ถามไม่แม้เแต่จะมองหน้า ปกติผมจ้องขนาดนี้กิมได้อายม้วนไปแล้ว
"กิม...พี่ขอโทษ...." ผมเข้าไปกอดกิมไว้จากด้านหลังตอนที่เขาลุกขึ้นยืน ได้กลิ่นหอมสะอาดจากเส้นผมนุ่มที่คาดว่าน่าจะเป็นยาสระผมขวดใหม่
"กิมจะไม่คุยกับพี่เลยหรอ"
เขายังคงเงียบและพยายามขืนตัว แต่ผมไม่ปล่อยง่ายๆหรอก เอาคางวางเกยบ่ากิมไว้แล้วพูดเสียงอ่อน
"นี่...พี่รู้ว่าพี่ผิด รู้ว่าเราโกรธ แต่พี่เสียใจนะที่ทำแบบนั้น ก็ทำไมกิมถึงปล่อยตัวเองให้เมาแบบนั้นล่ะ ถึงไอ้คิวมันจะเป็นเพื่อนพี่ก็ใช่ว่ามันจะไว้ใจได้ แล้วยังจะมาประชดพี่อีก"
ไม่มีเสียงโต้ตอบ มีเพียงแววตาเคลือบแคลงสงสัยสบมองตาผมผ่านกระจกบานใหญ่ก่อนจะหลุบมองต่ำ
สีหน้าครุ่นคิดเหมือนในช่วงแรกๆที่ผมจีบเขา
เพิ่งสังเกตุว่าสารพัดขวดที่เคยอยู่บนโต๊ะมันหายไปหมดแม้แต่น้ำหอมขวดที่กิมชอบใช้
ขวดที่ผมจำได้ว่ามันเป็นกลิ่นเดียวกับที่ปรายใช้ ผมว่าผมรู้แล้วล่ะว่าคนรักผมคิดอะไร
กิมกำลังระแวง...บางทีเขาอาจจะไม่ได้โกรธเรื่องที่ผมใช้กำลังเพียงเรื่องเดียว
ผมค่อยๆจับเขาหันมาเผชิญหน้ากันตรงๆ สัมผัสแก้มขาวอย่างเบามือแล้วดันขึ้นน้อยๆให้เราสบตากัน บอกถ้อยคำที่ผมรู้สึกและอยากให้เขามั่นใจ
"พี่รักกิมนะ...คุยกับพี่หน่อยได้ไหม น้อยใจอะไร...หืม" ผมพยายามใช้น้ำเสียงที่ติดว่าอ่อนโยนที่สุด มองสบเข้าไปในตาสีอ่อนที่มีแววไหวน้ำตาคลอ
"ก็พี่พัฒไปอี๋อ๋อกับแฟนเก่าจะให้กิมคิดว่าไง คนชื่อปรายเขาบอกว่าอีกไม่นานพี่พัฒก็ต้องทิ้งกิมแน่ ช่วงสองสามอาทิตย์ที่ผ่านมาพี่ก็ไม่ค่อยสนใจกิมเลยเอาแต่ออกไปกินเหล้า! คุยโทรศัพท์ก็บ่อย คุยกับคนชื่อปรายใช่มั้ยล่ะ!! แล้วยังมาหาว่ากิมยั่วเพื่อนพี่อีก กิม ก็ ฮึก สะ..เสียใจเป็น นะ ฮือออออ"
จากที่พูดเรียบๆ ก็เริ่มใส่อารมณ์ แล้วสุดท้ายร้องไห้ซะงั้น ผมล่ะสับสนตามอารมณ์ไม่ถูกเลย ทั้งน่ารักและน่าสงสาร ที่กิมพูดมันก็จริง เพราะงานมันเครียดเจอไอ้คิวมันชวนผมก็เลยร่อนตามมันไป แต่เรื่องปรายนี่ไม่ถูกละ ไม่คิดว่ากิมจะคิดมากขนาดนี้ ปรายนี่ร้ายใช่ย่อยนะมาเป่าหูคนของผม
"มานี่มา" ผมพากิมมานั่งบนเตียง แล้วจับศีรษะเขาซุกเข้ากับอก ลูบหลังเบาๆเพื่อปลอบโยน แล้วเริ่มอธิบาย
"เรื่องปรายน่ะพี่ไม่ได้มีอะไรกับเขาเลยนะเลิกไปตั้งนานแล้ว ที่ถึงเนื้อถึงตัวมันก็เป็นนิสัยของเขาพี่ไม่ได้คิดอะไรไม่ได้เจอกันบ่อยๆด้วย ส่วนเรื่องโทรศัพท์พี่คุยเรื่องงาน ที่ช่วงนี้พี่เอาแต่ออกไปกินเหล้าก็เพราะงานมีปัญหาเลยเครียดๆ แล้วเรื่องที่ว่ากิม พี่ขอโทษ...พี่หึงน่ะ เห็นมันชวนกิมคุย พี่ก็ไม่อยากคิดมาก กิมบอกอยากเปิดหูเปิดตาพี่ก็เลยปล่อยแต่จริงๆแล้วพี่ขี้หวงนะ แฟนเก่าทั้งหลายที่เลิกกันไปก็เพราะทนอารมณ์ร้ายๆของพี่ไม่ได้ แต่กิมจะไม่ทิ้งพี่ใช่ไหม?..."
ผมคายออกมาหมดไม่มีกั๊ก ทั้งความจริงและสิ่งที่ผมกลัว
"พี่พูดจริงหรอ..."กิมผละออกจากอกเงยหน้าขึ้นมามองผมตาแป๋ว ได้โปรดอย่ามองพี่แบบนั้นพี่อดใจไม่ไหว...
ผมหอมแก้มนุ่มแล้วค่อยซุกจมูกเข้ากับซอกคอที่มีรอยของผมอยู่ชัดเจน
"จริงสิ พี่มีกิมคนเดียวนะ การกระทำที่ผ่านมาช่วยยืนยันอะไรไม่ได้เลยหรอ" ผมไล้ปลายนิ้วเกลี่ยซับคราบน้ำตาที่หลงเหลือเพียงนิด แล้วจูบเบาๆที่มุมปากกระจับได้รูป
หรือมันจะจริงที่เขาบอกว่าทำดีร้อยครั้งไม่เท่าทำชั่วเพียงครั้งเดียว พลาดเพียงนิดความดีที่เคยทำมาก็มลายหายไปสิ้น
"กิมก็เชื่อพี่มาตลอดถึงได้ยอมหอบผ้าหอบผ่อนตามมาอยู่ด้วยแต่คราวนี้การกระทำของพี่มันน่าสงสัยจริงๆนี่นา กลัวพี่พัฒเปลี่ยนใจ...อย่าล้วง!!"
เขารีบตะครุบมือผมที่กระดึบเข้าไปในกางเกงของเขา คิดว่าผมจะยอมรึ
ผมจับเขานอนลงแล้วขึ้นคร่องเขาไว้ จูบซับทุกส่วนบนใบหน้าอย่างรักใคร่
"กิมครับ คราวหน้ามีอะไรก็ถามพี่ตรงๆนะ พี่ไม่โกหกหรอก พี่ไม่อยากให้กิมคิดเองเออเองแล้วมานั่งน้อยใจอยู่คนเดียว เข้าใจไหม"
"ขะเข้าใจครับ พี่พัฒอย่าถอด เอ่อ กิมยังเจ็บอยู่เลยยย..." ไม่รู้ว่าอุบายหรือเจ็บจริง แต่ที่เขินนี่ของจริงแน่ๆ แดงไปถึงหูแล้ว
"เจ็บก็อย่าดิ้นสิครับ...ขอพี่ชิมปรากริมหน่อยนะ ยังหวานเหมือนเดิมรึเปล่า"
แล้วผมก็จัดการแบบไม่ฟังเสียงค้านและไม่ต้องสนใจว่าเขาจะขัดขืนอย่างไร เพราะเพียงแค่ผม
ชิมด้วยปาก เขาก็เต็มอกเต็มใจแอ่นสะโพกให้ผมได้ลิ้มรสจนหนำใจเชียวล่ะ
**************************
ตกใจมีแต่คนด่าอิพี่พัฒของเค้า
ต่างคนต่างมุมมอง กิมมันคิดมากไปเอง จริงๆนะ
ขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาอ่านและติดตาม
แนะนำติชมกันได้เน้อ จะได้ปรับปรุง
วันนี้ดึกเพราะหนังมันติดพัน ดูเพลินไปหน่อย
ขอบคุณคำแนะนำเรื่องยาของคุณ suntrang จะลองนำไปใช้นะจ้ะ
จะพยายามรีบหายน้าาา
ขอบคุณทุกท่านที่เป็นกำลังใจให้จ้าาาา