Extra วันสงกรานต์
ผมคิดว่าผมกำลังถูกงอน...
เออ...ใช้คำว่า คิดว่า ไม่ได้สิ
เอาเป็นว่า ตอนนี้ผมกำลังโดนงอน!!! แบบว่า แน่นอน มั่นใจร้อยเปอร์เซ็น แทบไม่ต้องคิดอะไรให้มากความ
เกือบสองวันที่ผ่านมาภายในห้องสี่เหลี่ยมขนาดใหญ่ในตึกสูงใจกลางเมืองแห่งนี้ได้เกิดบรรยากาศเย็นยะเยือกแบบแปลกๆที่ผมไม่สามารถอธิบายได้...และผมกำลังพยายามอย่างสุดความสามารถเพื่อเพิ่ม(บรรยากาศ)ความอบอุ่นให้กับห้องนี้ก่อนผมจะหนาวตายเพราะความเย็นยะเยือกที่ถูกปล่อยออกมาจากชายหนุ่มร่างสูงบนโซฟา
เขานั่งจ้องรายการวาไรตี้ยามบ่ายอย่างตั้งใจทั้งที่ปกติไม่เคยจะสนใจแถมยังทำเมินผมที่กำลังกลิ้งเกลือกอยู่บนพื้นพรมหนานุ่มใกล้ๆ ไม่ว่าผมจะพยายามก่อกวนเขาโดยการตะกรุยพรม ดึงขากางเกง ส่งเสียงหัวเราะดังๆกับมุกแสนฝืดในรายการ และต่างๆอีกมากมาย จดสุดท้ายก็ต้องขอพักยก(ที่ดูเหมือนผมจะโดนต่อยด้วยหมัดฮุกทั้งๆที่ฝ่ายตรงข้ามยังนั่งอยู่นิ่งๆ) พลางนึกย้อนไปถึงสาเหตุของความรู้สึกน่าอึดอัดนี้
เรื่องราวทั้งหมดเกิดขึ้นเมื่อวันก่อน....
เค้กและเพื่อนๆคนอื่นชวนกันไปเที่ยวเทศกาลสงกรานต์ที่ดูจะคึกคักมาก่อนหน้านี้แล้วหลายวันซึ่งแน่นอนว่าผมไม่ปฏิเสธ!
"อย่าเล่นนานนักนะครับ เดี๋ยวไม่สบาย ดูแลตัวเองดีๆนะครับ"ชายหนุ่มเชื้อสายยุโรปหน้าตาดีจนเหมือนรูปสลักกรีกยิ้มให้ก่อนจะสวมหมวกฟางใบเล็กลงบนหัวผมและขยี้เบาๆ
วิคเตอร์อยู่ในชุดลำลองสบายๆเสื้อยืดแขนสั้นสีขาวและกางเกงผ้าใส่สบายสีครีมเข้ม บ่งบอกว่าวันนี้เขาจะไม่ออกไปไหนและรวมถึงทุกวันในช่วงวันหยุดยาวนี้ด้วย ถึงแม้ว่าที่บริษัทของเขาจะหยุดงานแต่กองเอกสารที่เขาหอบกลับมาทำที่บ้านกลับไม่ได้ให้ความรู้สึกถึงวันหยุดเท่าไหร่ ขนาดที่ว่าผมชวนไปเล่นน้ำด้วยกันเขายังปฏิเสธด้วยสีหน้าจ๋อยสนิท แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังบอกให้ผมออกไปเที่ยวสนุกกับเพื่อนๆ
เฮ้อ บริษัทนี้ถึงจะเงินเดือนดีแต่ใช้งานพนักงานหนักชะมัดเลยแฮะ...
ผมยิ้มรับก่อนจะโบกมือบ๊ายบายวิคเตอร์ที่ออกมายืนส่งหน้าประตูและวิ่งมาตามโถงทางเดินยาวเพื่อมากดลิฟต์ลงไปชั้นล่าง
จริงๆแล้วพวกผมอยากจะออกมาเก็บภาพบรรยากาศช่วงสงกรานต์กันมากกว่าแต่ถึงอย่างนั้นก็คงจะหนีการเล่นน้ำไปไม่พ้น ด้านหลังผมจึงสะพายถังฉีดน้ำใบเล็กรูปการ์ตูนแมวสีฟ้าไม่มีหูเอาไว้พร้อมกับน้ำเต็มถัง และกล้องกันน้ำขนาดเล็ก(แต่ราคาไม่เล็กตาม)ที่ห้อยเอาไว้ด้านหน้า
ฮ่า!!! สนุกล่ะวันนี้!!!!!
"วิคเตอร์ ผมกลับมาแล้วววว" ผมร้องเรียกขณะเปิดประตูเข้ามาในห้อง อารมณ์ยังค้างจากความสนุกไม่หาย แต่ก็แยกกลับมาก่อนเพราะกลัวคนแถวนี้เป็นห่วง ทั้งๆที่ตอนดึกๆน่าจะคึกคักกว่านี้
ผ้าเช็ดตัวผืนเล็กถูกส่งมาให้เช็ดหน้าและผมจากคนที่เปิดประตูออกมาจากห้องทำงาน
"สนุกมั้ยครับ"
"อื้ม สนุกมาก คนเยอะมากเลย ผมได้รูปมาหลายร้อยเลยล่ะ คืนนี้แต่งรูปตาแฉะแน่ๆ"
"หึหึ ก่อนอื่นรีบเปลี่ยนชุดเลยนะครับ เดี๋ยวจะเป็นหวัดเอา ผมทำอาหารเย็นไว้บนโต๊ะนะ" ชายหนุ่มหัวเราะเบาๆพลางเดินเข้ามาใกล้ช่วยดึงเสื้อยืดสีกรมท่าที่ผมใส่อยู่ออก ส่วนผมก็ชูแขนสองข้างขึ้นสูงเพื่อให้เสื้อเปียกชื้นหลุดออกตามแรงดึงอย่างง่ายดาย วิคเตอร์ขยับเข้ามาใกล้พลางก้มลงหอมแก้มผมเบาๆหลังจากโยนเสื้อไปไว้มุมหนึ่งของห้อง
"หน้าแดงไปหมดแล้วนะครับ"เขาพูดยิ้มๆส่วนผมก็อับจนหนทางจะไปต่อ วันนี้แดดร้อนจัดจนรู้สึกเหมือนจะไหม้อยู่ตลอดเวลา จะหน้าแดงขึ้นมาก็ไม่แปลก แต่เมื่อกี้นี้ไม่รู้เพราะว่าแดดมันแรงหรือเพราะคนตรงหน้านี่ก็ไม่รู้ เฮ้อ...เขาถนัดทำผมเขินแบบไม่ให้ได้ตั้งตัวเลย
ผมหันกลับมาที่ชั้นวางของติดผนังยาวที่สูงประมาณเอวซ่อนใบหน้าที่คิดว่าจะแดงขึ้นกว่าเดิมและเริ่มวางสิ่งของที่พกไปด้วยวันนี้ลง มีบัตรสำคัญสองสามใบ ธนบัตรสีแดงสองใบและโทรศัพท์มือถือที่อยู่ในซองกันน้ำ กล้องถ่ายรูปขนาดเล็กถูงวางลงตามมาด้วยหมวกและถังใส่น้ำที่ผมเลือกจะวางพิงไว้ด้านล่างเพราะยังเปียกอยู่
"อาร์" เสียงทุ้มที่ฟังดูเย็นยะเยือกกว่าปกติผิดไปจากเมื่อครู่ลิบลับดังมาจากด้านหลังทำให้ผมชะงักและหันกลับไปมอง รู้สึกถึงลางร้ายพิกล
"คะ ครับ"
"นี่มันอะไรกันครับ" ชายหนุ่มชี้นิ้วมายังรอยแป้งสีขาวบริเวณลำคอผม
"หืม? อ้อ นี่แป้งที่เล่นสงกรานต์ไงครับ เวลาไปเล่นเขาก็ชอบเอามาป้ายกัน..."
"ผมรู้จัก...แต่ทำไมมันถึงมาอยู่ตรงนี้"
"....?"
วิคเตอร์ถอนหายใจเบาๆพลางเดินเข้ามาใกล้จนผมต้องถอยหลังไปจนชิดกับขอบชั้นวางของอย่างหวาดๆ
"ผมหมายถึงทำไมรอยพวกนี้มันถึงได้มาอยู่ใต้เสื้ออาร์ได้ล่ะครับ"ผมรู้สึกว่าตัวเองนิ่งค้างไปชั่วขณะยามสบลึกลงไปในดวงตาสีฟ้าอมเขียวที่จ้องมองมาอย่างคาดคั้น
"เออ...ผม ผมไม่รู้"
"ไม่รู้?"
"..ครับ คือ..ผมสนุกมาก ผะ..ผมไม่รู้สึกตัวเลยจริงๆนะว่ามีรอยพวกนี้ด้วย"
"...." ดวงตาเรียวหรี่มองอย่างจับผิดจนผมรู้สึกหนาวยะเยือกทั้งที่อุณหภูมิในห้องเย็นสบาย
"วิคเตอร์ ผมขอไปอาบน้ำก่อนนะครับ น้าา ผมแสบตัวไปหมดแล้ว น้า นะครับ" ผมช้อนสายตาขึ้นมองพยายามทำตัวให้น่ารักน่าสงสารประหนึ่งเจ้ากระรอกที่ต้นไม้นอกระเบียงที่จ้องมองผมด้วยดวงตาใสแป๋วแทบทุกวัน
"...."
"...ตกลงครับ"
"...."
"แต่...หลังจากนั้นเรามีเรื่องต้องคุยกัน" ผมลอบกลืนน้ำลายลงลำคอแห้งผากไปหนึ่งอึกขณะที่ร่างสูงผละตัวออกเดินไปทิ้งตัวนั่งบนโซฟา
ความสัมพันธ์ในแบบคนรักของเราราบเรียบเสียจนอาจจะดูน่าเบื่อในสายตาคนอื่นๆ แต่ผมกับวิคเตอร์กลับชอบความเรียบง่ายนั้น เราแทบไม่เคยทะเลาะกันเลย อย่างมากก็แค่ไม่เข้าใจกันบ้างเพราะวัยและการใช้ชีวิตที่ต่างกัน แต่ตอนนี้ก็เกือบจะเรียกได้ว่าลงตัว ส่วนเรื่องหึงหวงนั้นแทบจะไม่มี ถ้าพูดให้ถูกคือผมเคยน้อยใจบ้างเวลาเขามีสาวๆน่ารักเข้ามาใกล้แต่ก็ไม่จำเป็นต้องเก็บมาคิดมากมายอะไรเพราะทุกๆวันเขาทำให้ผมมั่นใจว่าผมสำคัญที่สุดสำหรับเขาเสมอ และถ้าให้พูดถึงความหึงหวงของวิคเตอร์นั้น ผมแทบไม่เคยเจอเลย หนักสุดก็แค่กระแอมเบาๆเวลาคุณรอยพูดจาหยอกล้อเท่านั้น (ซึ่งผมคิดว่าวิคเตอร์ไม่ติดใจอะไรมากมายด้วยซ้ำ)
ดังนั้นเหตุการณ์ครั้งนี้จึงเป็นครั้งที่รับมือยากที่สุดสำหรับผม
"อะ เออนี่! งั้นดูรูปในกล้องผมไปเพลินๆสิ ผมถ่ายมาเยอะมาก บรรยากาศสนุกๆทั้งนั้นเลยล่ะ" ผมยิ้มใจดีสู้เสื้อ(?) ยื่นกล้องถ่ายรูปขนาดกระทัดรัดไปให้ ชายหนุ่มรับไปด้วยสีหน้าเรียบเฉย ส่วนผมก็เผ่นเข้าห้องน้ำไปทันที...หวังว่ารูปที่ผมรัวถ่ายมาทั้งวันจะทำให้เขาอารมณ์ดีขึ้นพอจะลืมเรื่องเมื่อครู่ไปได้บ้าง
ผมมองตัวเองผ่านกระจกบานใหญ่ในห้องน้ำพลางถอนหายใจ ตั้งแต่หัวจรดเท้าเปียกชุ่มเลอะเทอะไปด้วยแป้งหลากสี บนตัวผมมีรอยแป้งที่เหมือนมีคนจงใจป้ายอยู่ทั่วจริงๆแต่นึกเท่าไหร่ก็นึกไม่ออกว่าไปได้มาตอนไหน ต่อให้จะสนุกสุดเหวี่ยงขนาดไหนก็ไม่น่าจะถึงกับไม่รู้ตัวว่ามีคนล้วงมือเข้ามาใต้เสื้อแบบนี้
"เฮ้อ..."
ผมใช้เวลาอาบน้ำประมาณยี่สิบนาที สิบนาทีแรกหมดไปกับการอาบน้ำและขัดคราบแป้งออกไปจากตัวจนรู้สึกแสบร้อนไปหมด ส่วนอีกสิบนาทีผมใช้มันไปกับการนั่งทำใจบนฝาชักโครก...
รู้สึกเหมือนกำลังจะต้องออกไปเผชิญกับสมรภูมิที่ไม่มีวันชนะยังไงยังงั้น
"วิคเตอร์" ผมเรียกเบาๆพร้อมกับทิ้งตัวนั่งคุกเข้าบนโซฟาด้วยท่าทางเหมือนเด็กถูกจับได้ว่าแอบกินขนมข้างๆชายหนุ่มที่กำลังเปิดโทรทัศน์ดูข่าวเศรษฐกิจอยู่
"ตอนแรกผมคิดว่าอาร์คงไม่ได้ตั้งใจให้เป็นแบบนั้น"
"อื้อๆ" ผมพยักหน้าตามจนคอแทบหลุด รู้สึกถึงโอกาสรอดชีวิตที่ปลายอุโมงค์มืดมิด ก่อนรอยยิ้มจะเหือดแห้งไปเมื่อได้ยินประโยคถัดมา
"...แต่ตอนนี้ผมคิดว่าคงไม่ใช่"
....ดะดะเดี๋ยวววนะ! ผมจ้องภาพบนหน้าจอกล้องที่วิคเตอร์ยื่นมาตรงหน้าหูตาแทบปลิ้น!!!
ไอ้คนสะพายถังฉีดน้ำแมวสีฟ้าห้อยหมวกฟางไว้ที่คอกำลังยืนเปลือยท่อนบนและยิงปืนฉีดน้ำเล่นอย่างสนุกสนานนั่นมันใครกัน!!!!? นั่นหน้าตามันแทบจะหล่อดูดีเหมือนผมมากเกินไปแล้วนะนั่น!!!!....เออ...จริงๆไอ้บ้ากึ่งเปลือยนั่นก็ผมเองนั่นแหละ...แบบว่า ชัดแจ๋วขนาดนี้ ต่อให้คนสายตาไม่ดียังรู้
"อะ อะ เออ..นั่น..." ให้ตายเถอะน่า นี่ผมทำอะไรลงไป ขุดหลุมฝังตัวเองแท้ๆทีเดียว!
ผมแทบจำไม่ได้ด้วยซ้ำว่ามีเหตุการณ์แบบนั้นด้วย ที่สำคัญคือไม่คิดว่าไอ้เพื่อนตัวแสบมันจะถ่ายเอาไว้เป็นหลักฐานให้ผมมีโอกาสถูกเล่นงานเข้าขั้นถึงชีวิต!
สมองเล็กๆ(?)ของผมเริ่มคิดประมวลผลทบทวนถึงเหตุการณ์ตลอดทั้งวันทันที
หลังจากผมและคนอื่นๆเดินเล่นไปได้เกือบครึ่งวันก็ตัดสินใจหาที่พักร้อนพร้อมกับหาอะไรกินรองท้องเพราะเริ่มจะรู้สึกเหนื่อยกันแล้ว เราเลยตัดสินใจเดินลัดเลาะเข้าไปตามซอยเล็กๆที่ผู้คนเล่นน้ำกันบางตาเมื่อเทียบกับถนนใหญ่เพื่อพักเหนื่อย
ผมตัดสินใจฝากกล้องไว้กับเค้กและถอดเสื้อยืดเปียกชื้นออกมาบิดเอาน้ำที่ซึมอยู่ในเนื้อผ้าออก ส่วนถังฉีดน้ำที่ฝากเพื่อนอีกคนไว้ก็รับคืนมาสะพายลวกๆ ไม่ทันสังเกตุเห็นคนกลุ่มใหญ่ที่เดินตรงเข้ามา คาดว่าใช้ซอยนี้เป็นทางลัดไปสู่อีกด้านหนึ่ง
ไม่ทันได้ตั้งตัว กลุ่มของพวกผมถูกจู่โจมด้วยสายน้ำเย็นเฉียบที่ระดมฉีดเข้ามาจนแทบลืมตาไม่ไหวนับเป็นสงครามปืนฉีดย้ำขนาดย่อมที่สนุกสนานใช้ได้ทีเดียว หลังจากนั้นผมก็สวมเสื้อที่สะบัดจนพอหมาก ใส่สบายตัวขึ้นเล็กน้อยและรับกล้องคืนมาโดยไม่รู้เลยว่าเหตุการณ์เล็กๆนั่นจะทำให้ผมต้องมาตกที่นั่งลำบาก
"คือ...เรื่องทั้งหมดก็เป็นแบบนี้แหละ...วิคเตอร์ ผมไม่ได้ตั้งใจจริงๆนะ ผมไม่รู้ตัวด้วยซ้ำ"
"...."
"...วิคครับ"
"ผมบอกอาร์แล้วใช่มั้ยว่าให้ดูแลตัวเองดีๆ" ชายหนุ่มถามเสียงเรียบ
"...ครับ"
"ผมหมายความถึงห้ามไม่ให้ใครมาลวนลามด้วย"
"...ผมขอโทษ"
"...."
"...."
"...คืนนี้ผมจะทำงานดึก เข้านอนก่อนเลยนะครับ" เขาพูดเสียงเรียบก่อนจะยันตัวลึกขึ้นเดินเข้าห้องทำงานและปิดประตูสนิท
"...."
"วิคเตอร์...ผมขอโทษนะ หายโกรธผมเถอะ" ผมใช้นิ้วจิ้มท่อนขาแข็งแรงภายใต้กางเกงผ้าเนื้อดีสีเข้มของร่างที่นั่งอยู่ เงยหน้ามองใบหน้าที่ดูดีสมส่วนแบบชาวตะวันตกที่มีเชื้อสายเอเชียเล็กน้อย
หลังจากเผชิญกับพายุ(หิมะ)ไปเมื่อวาน ผมก็เผลอหลับไปเพราะความอ่อนเพลียทั้งๆที่ตั้งใจว่าจะต้องคุยกันให้รู้เรื่องและตื่นเช้ามาพบกับอาหารเช้าหนึ่งชุดวางรออยู่บนโต๊ะในครัวทำให้ผมอดยิ้มไม่ได้
อย่างน้อยผมก็เชื่อว่าผมจะง้อเขาได้สำเร็จ...ล่ะมั้งนะ
"วิคคร้าบ...ผมขอโทษ ผมจะไม่ทำอีกแล้ว ผมจะดูแลตัวเองดีๆ ไม่ดื้อไม่ซน"
"...."
"วิคเตอร์ คุณจะไม่คุยกับผมจริงๆเหรอ..."
"...."
"คุณจะใจร้ายกับผมจริงๆเหรอ..."
"...."
"...."
"...." ชายหนุ่มปรายตามองผมที่นั่งคุกเข้ากับพื้นพรมเล็กน้อยเมื่อผมเงียบเสียง แต่ก็ไม่ได้พูดอะไรต่อจากนั้น
หนอยย ผมเริ่มจะโกรธแล้วนะ!
"ฮึ่มม!!" ผมลุกพรวดเดินปึงปังให้ไปในห้องนอนพร้อมกับปิดประตูเสียงดังพอให้ได้ยินทั้งห้อง (ปิดแรงเดี๋ยวความผิดเพิ่มอีกกระทง)
"ปึก!" ผมกระแทกแก้วน้ำใบเล็กจากในห้องน้ำลงบนโต๊ะ ภายในเต็มไปด้วยแป้งเด็กผสมกับน้ำจนเป็นของเหนียวหนืด
"นี่! เชิญเลย คุณโกรธที่มีคนปะแป้งผมใช่มั้ยล่ะ งั้นผมให้คุณแปะคืนเลย เอ้า!" ผมว่าพลางถอดเสื้อยืดโยนทิ้งไปบนพื้นกระโดดขึ้นนั่งขัดสมาธิยืดหลังตรงแหน่วบนโซฟาข้างๆวิคเตอร์ที่กำลังมองผมด้วยสายตาแปลกประหลาด
จะว่ายิ้มก็ไม่ใช่ แปลกใจก็ไม่เชิง แถมมุมปากบางยังกระตุกเบาๆเหมือนคนกำลังอดกลั้นอะไรบางอย่างอยู่ สุดท้ายเขาก็ยกมือขึ้นปิดปากและเริ่มส่งเสียงหัวเราะออกมา
"หึหึหึ...ฮะฮะ ฮ่าๆๆ อาร์...หึหึ คิดได้ยังไงครับเนี่ย"
"ฮ่าาา นั่นไง! คุณหัวเราะแล้ว หายโกรธผมแล้วใช่มั้ย"
"หึหึหึ"
"อย่าหัวเราะสิครับ ..ตอบผมมาก่อน" ผมรู้สึกตัวเองเริ่มหน้าบึ้งเล็กน้อยในเวลานี้ สุดท้านชายหนุ่มหน้าตาดี(จนไม่น่าเชื่อว่าเป็นคน)ก็ยอมพูกกับผมซักที
"ผมไม่ได้โกรธอาซักหน่อย"
"ไม่จริง ก็เมื่อวานยังดูโกรธสุดๆเลยนี่นา" ผมว่าพลางย่นจมูก
"ผมไม่ได้โกธร...แต่หึงเท่านั้นเอง"
"หะ? หึง? หึงผมเหรอ ...เฮ้ยยยย!!"ยังไม่ทันจบประโยควิคเตอร์ก็โถมเข้ามาใส่จนผมหงายหลังล้มตึงไปตามความยาวของโซฟา
"จะ จะทำอะไรผม"
"แล้ว...อาร์อยากให้ผมทำอะไรล่ะครับ" ดวงตาเรียวคมสีอปลกตาหรี่เล็กลงอย่างเจ้าเล่ห์
พลาด!! พลาดแท้ๆเลยทีเดียว ยังไม่ถึงสองวันผมหาเรื่องขุดหลุมฝังตัวเองได้ถึงสองเรื่อง ! อยากจะกลิ้งตกโซฟาตายให้มันรู้แล้วรู้รอดไปเลย พับผ่าสิน่า!
"ผมขี้หึงนะครับ อาร์รู้มั้ย" ชายหนุ่มกระซิบข้างหูของผมพร้อมกับขบกัดเบาๆจนขนลุกซู่ไปทั้งร่าง
"อื้ออ ที่ผ่านมาคุณยังไม่เคยเป็นแบบนั้นเลย" ผมขมวดคิ้ว พยายามผลักคนที่ทาบทับลงมาจนหนักออกเพื่อที่จะได้คุยกันได้ถนัดขึ้น
"หึหึ ผมหึงทุกคนนั่นล่ะ...แต่แค่ไม่อยากแสดงออกให้อาร์รำคาญ"
"...? " วิคเตอร์ยันกายขึ้นสบตากับผมตรงๆ ดวงตาสีอ่อนเป็นประกายหวานเชื่อม มือใหญ่กลูบเกลี่ยนเส้นผมที่ปลงลงมาตามใบหน้าของผมเบาๆ
"ผมไม่อยากให้เราต้องมีปัญหากันเพราะความขี้หึงของผม"
"...เรื่องนั้นน่ะ...."
"แต่ผมไม่ได้พูดก็ไม่ได้แปลว่าผมไม่หึงหรอกนะ...และ...."มุมปากบางยกขึ้นพร้อมกับตาที่หรี่เล็กลงเหมือนเอเลี่ยนเข้าไปทุกทีๆ
"ยังไงอาร์ก็หนีผู้ชายขี้หึงคนนี้ไปไหนไม่ได้แล้วล่ะ และนี่คือการลงโทษ!"
"อะ เอ้า! เฮ้ยยย อื้อออ วิค..วิคเตอร์ เดี๋ยว!"
"ทำไมถึงปล่อยให้คนแตะต้องตัวได้แบบนั้น แถมยังถ่ายรูปเอาไว้อีก หืม?" ชายหนุ่มว่าอย่างหมั่นเขี้ยว พร้อมกับซุกไซร้ซอกคอไปมาจนรู้สึกจั๊กกะจี้
"อะ ผมไม่ได้ตั้งใจ ผะผมบอก...แล้วไง"
"...ผมหวง...อาร์ต้องง้อด้วย เพราะผมโกรธ" ผมรู้สึกตัวลอยหวืขึ้นจากโซฟาเหมือนไม่มีน้ำหนัก ทั้งตัวถูกพาดอยู่บนบ่าแข็งแรงของอีกคนหนึ่ง ผมเองก็ไม่ได้ตัวเล็ก ผมมีรูปร่างแบบวัยรุ่นปกติทั้งน้ำหนักและส่วนสูงอยู่ในเกณฑ์ปกติ(เออ... ถึงส่วนสูงจะเกือบตกจากแถบเกณฑ์ปกติก็เถอะ) แต่ชายหนุ่มกลับยกผมได้ภายในพริบตาราวกับยกนุ่น
"ฮะ เฮ้ยยยย วิคเตอร์ ไหนคุณบอกว่าหายโกรธผมแล้วงายยยย วิคคคคค... ม๊ายยยยยยย!!!"
"อื้ออ... ผมเหนื่อยแล้ว" ผมพูดทั้งๆที่ยังไม่ลืมตาแต่รู้สึกถึงปลายจมูกโด่งที่คลอเคลียอยู่ข้างแก้ม แดดที่เคยแรงจ้าจากภายนอกตอนนี้น่าจะหายลับขอบฟ้าไปเกือบจะหมด รู้ได้จากไอร้อนที่ไม่ได้แผ่เข้ามาในห้องได้พักใหญ่แล้ว
"ครับ" เสียงตอบรับกลับมาเบาๆพร้อมกับเจ้าของเสียผละตัวออกไป ไม่นานเตียงก็ยุบตัวลงตามน้ำหนักอีกครั้งตามมาด้วยสัมผัสเย็นๆและกลิ่นแป้งเด็กจากแก้มทั้งสองข้าง
เมื่อลืมตาขึ้น ดวงตาสีฟ้าอมเขียวอยู่ใกล้จนผมมองไม่ชัดแต่นิ้วที่เปื้อนของเหลวสีขาวก็ยังคงป้ายไปมาตามใบหน้าไม่หยุด เหลือบไปมองหัวเตียงก็พบกับแก้วพลาสติกที่ผมผสมแป้งเด็กเอาไว้เมื่อตอนกลางวัน
"สวัสดีปีใหม่ไทยครับ" เสียงทุ้มกระซิบเบาๆพร้อมกับก้มลงหอมแก้มผมฟอดใหญ่
"อื้ม สวัสดีปีใหม่ครับ"
"ปีหน้าผมจะไปเล่นน้ำด้วย ถ้าคราวนี้อาร์ยังให้ใครทำแบบเมื่อวานอีกละก็..."
"อื้มมมม บ้าเหรอ ไม่มีแล้วล่ะ" ผมพูดดัก อดค้อนวงโตใส่คนพูดที่กำลังยิ้มอย่างอารมณ์ดีไม่ได้
แค่ครั้งนี้เขาก็ทำผมเหนื่อยจนต้องยกเลิกแผนเที่ยวที่นัดกับเพื่อนไว้วันพรุ่งนี้แล้ว.... ให้ตายเถอะน่า!!!!คุณวิคเตอร์เวอร์ชั่น(หึง)โหด
........................................
สวัสดีนักอ่านทุกท่านค่ะ ห่างหายจากเรื่องนี้ไปนานมากเลย
ช่วงนี้คอมถูกเจ้าไวรัสกินไปเป็นที่เรียบร้อย ต้อนรับปีใหม่ไทยกันเลยทีเดียวค่ะ
ดีที่ยังพอจะกู้ข้อมูลกับไฟล์งานเอาไว้ได้เกือบหมด
โชคดีที่ไฟล์นิยายยังกู้กลับมาได้ แถมยังเจอตอนเก่าๆที่แต่งค้างไว้ก็เลยเอามาเขียนต่อแล้วก็ลงให้ได้อ่านกันค่ะ (เหมาะเจาะพอดีช่วงนี้เลย
)
ตอนนี้ก็กำลังค้นไฟล์นิยายกับตอนพิเศษเก่าๆที่แต่งค้างไว้ค่ะ เพิ่งรู้ว่าตัวเองแต่งอะไรค้างไว้เยอะขนาดนี้
ยังไงก็ขอบคุณนักอ่านทุกท่านที่คอยติดตามมาตลอดนะคะ
ป.ล.ส่วนใครที่กำลังรอพี่มิณน้องเจย์ อีกไม่นานจงลงให้ได้อ่านกันนะคะ เพราะคอมไปโดนไวรัสมา เนื้อหาหลักนั้นไม่ได้หายไปไหนค่ะ แต่เนื้อหาส่วนที่แก้ไขสมบูรณ์ดันกู้กลับมาไม่ได้
ก็คงต้องขอเวลาแก้ไขให้สมบูรณ์อีกนิดหนึ่งนะคะ(เสริมและตัดเล็กๆน้อยๆ)
ยังไงก็ขอขอบคุณอีกครั้ง สำหรับการติดตามที่เหนียวแน่นนะค้าาา