นิยายรักของขวัญ 7 ปี <หนุ่ม IT กับ DJ สุดหล่อ>
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: นิยายรักของขวัญ 7 ปี <หนุ่ม IT กับ DJ สุดหล่อ>  (อ่าน 541752 ครั้ง)

ออฟไลน์ wan

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5575
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +643/-10
 :m23: ไม่ได้เข้ามาหลายวัน มันมีเรื่องเกิดขึ้นมากมาย แต่ผลสรุปออกมาคงเป็นเรื่องดี  :oni2:

ยังไงซะ ขอให้ทั้งน้องเอ และ พี่นิค ปรับความเข้าใจกันนะ มีอะไรค่อย ๆ พูด จากัน

อะไรก็ไม่สำคัญ เท่ากับความเข้าใจกัน คนเราคบกัน มันก็เหมือน ลิ้น กับ ฟัน ยังไงมันก็มี

กระทบ กันบ้าง ให้นึกถึงวันเวลาที่ผ่านมา มันมีความหมายมากแค่ไหน  อย่าให้ความคิดเพียงชั่ววูบ

ทำให้เราต้องเสียใจไปตลอดชีวิตเลย ครับ เป็นกำลังใจให้ทั้ง 2 คน นะครับ  :กอด1: :L1: :m1:

ออฟไลน์ kdds

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1471
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +40/-5
อยู่ฝ่ายให้กำลังใจจ๊ะ 
:L2: :L2: :L2: :L2:
มีรักต้องถนอมนะ

A_wAy_G_mAn

  • บุคคลทั่วไป
 :oni1: กลับมาถึงขอนแก่นโดยสวัสดิภาพครับ

กลับมาก็เจอใครบางคนนั่งทำหน้ายักษ์ใส่  o12รู้อย่างนี้ไม่กลับมาดีกว่า

อาอี๊ก็เข้าข้างแต่คนนั้น น้อยใจแล้ว  :m15:


ผมเลยรีบหนีมาลงนิยายให้ก่อนแล้วกันตอนนี้เขียนเสร็จตั้งนานก่อนที่จะเกิดเรืองอีก เสร็จแล้วว่าจะไปอาบน้ำนอน :a12: วันนี้ขับรถทั้งวันเหนื่อยครับ

ผมขอตอบคอมเม้นท์รวมๆเลยแล้วกันนะครับ

เรื่องนิยายจะจบเรื่องจริงครับ เรื่องนี้ผมตั้งไว้แล้ว 30 บท ก็เหลืออีก 6 บทนับจากนี้ไป (แต่ว่าจะมีตอนพิเศษออกมาอีกแน่นอนครับ อยากน้อยก็ตอนที่เพิ่งเกิดเรื่องนี้ไปแหละครับ แต่ยังไม่รู้เลยว่ามันจะจบแบบไหน)

เรื่องของผมกับพี่นิคตอนนี้ อาจมีหลายคนเข้าใจผิดว่าที่ผมบอกว่าผมกลับมาเป็นเหมือนเดิมคือผมจะกลับมาทำงานมาเขียนและลงนิยายพร้อมทักทายทุกท่านเหมือนเดิมครับ ไม่ใช่ว่าจะเหมือนเดิมกับพี่นิค เรื่องนี้ต้องคอยดูไปก่อนผมยังไม่กล้าตัดสินใจอะไรในตอนนี้

 :pig4: :L2:ขอบคุณทุกท่านนะครับที่เข้ามาให้ข้อคิดอะไรดีๆกับผมมากมายครับ ขอบคุณทุกกำลังใจ ขอบคุณทุกคนที่เฝ้าติดตามนะครับ :L1: :กอด1:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 20-06-2008 00:32:27 โดย A_wAy_G_mAn »

A_wAy_G_mAn

  • บุคคลทั่วไป
บทที่ยี่สิบสี่ --- ตามหา

ตลอดเวลาที่ผมอยู่บนรถโดยสารที่แน่นแออัดไปด้วยผู้คนจากเชียงใหม่ปลายทางคือขอนแก่น แต่ใจของผมกลับเบาและสบายอย่างบอกไม่ถูก ในหัวผมคิดแต่เรื่องพี่นิค เราจะเริ่มตรงไหนดี จะพูดยังไงคราวนี้เราจะยอมพี่นิคหมดทุกอย่าง ต่อให้พี่นิคจะโกรธจะว่าเรายังไง ขอให้เพียงแต่ให้เราได้เจอพี่นิค ได้พูดความในใจของเราบางก็เท่านั้นเอง (ตอนแรกผมตั้งใจว่าจะจองตั๋วไปหนองคาย แต่ไม่มีรถไป เลยเลือกที่จะไปลงขอนแก่นก่อนแล้วจะขับรถต่อไปที่หนองคายเอง ผมจำการขึ้นรถครั้งนี้ได้ไม่มีวันลืมจากเชียงใหม่ถึงขอนแก่นใช้เวลาประมาณเกือบ 12 ชั่วโมง ผมซื้อตั๋วนั่งแต่พอขึ้นรถกลับเป็นตั๋วยืน แล้วก็ได้ยืนยาวซะด้วยเกือบ 6 ชั่วโมงพอไปถึงพิษณุโลกค่อยได้นั่ง ได้นั่งไม่ถึงชั่วโมงก็ต้องลุกให้หญิงท้องนั่งอีก ทำให้ผมได้ยืนยาวมาถึงขอนแก่น จากเก้าโมงเช้าที่เชียงใหม่มาถึงเกือบๆสี่ทุ่มที่ขอนแก่น)

“ทำไมมันปวดขาอย่างนี้ว่ะ”ผมบ่นพึมพร่ำกับตัวเองระหว่างที่เดินลงจากรถเมื่อถึงที่หมาย

“คุณเอ มาครับลุงช่วยถือกระเป๋า”ลุงชัยมาคอยรับผมที่สถานีรถปรับอากาศ (ผมโทรบอกให้มารับเพราะคิดอยู่แล้วว่าต้องมาถึงขอนแก่นดึก)

“ขอบคุณครับ”ผมบอกพร้อมส่งกระเป๋าให้ทันที ก่อนเดินไปขึ้นรถ

“เห็นอาเนี๊ยะบอกว่าคุณเอมีธุระในมอเลยรีบกลับ ก็ดีครับ ปีใหม่กลับมาฉลองที่บ้านเราดีกว่าตอนนี้เถ้าแก่ก็อยู่ที่บ้านแล้วนะครับ”ลุงชัยรายงาน

“อะไรนะครับ อาเตี๋ยวก็อยู่บ้านแล้วเหรอ งั้นลุงช่วยไปส่งผมในมอเลยดีกว่าครับ ผมไม่เข้าบ้านแล้ว”ผมบอกระหว่างทางที่ใกล้จะถึงบ้านแล้ว ผมคิดว่าถ้าผมเข้าบ้านตอนนี้รับรองว่าไม่มีทางได้ไปไหนแน่ จุดประสงค์ของผมไม่ได้กลับบ้านนิ่ ผมต้องไปหนองคายไปตามหาหัวใจของผม

“ทำไมล่ะครับ น่าจะเข้าบ้านก่อนนะครับ”ลุงชัยทวงแต่ก็กลับรถเพื่อไปในมอ

“พอดีรถผมอยู่ในมอครับ ไว้ผมทำธุระเสร็จ ผมจีบเข้าบ้านนะครับ”ผมบอกลุงชัยไป

แล้วลุงชัยก็มาส่งผมที่หอพักในมอ ก่อนกลับลุงชัยยังกำชับอีกว่าให้โทรบอกอาอี๊ว่าผมเลือกที่จะเข้ามาในมอทำธุระก่อนที่จะเข้าบ้าน ผมรับปาก

ตอนแรกผมกะว่าพอเข้ามาถึงหอให้ได้อาบน้ำแล้วคงสดชื่นขึ้นมาอีกครั้งแล้วจะได้ขับรถไปหนองคายต่อ พอไปถึงที่นั่นก็เที่ยงคืนอย่างน้อยถ้าพี่นิคยกโทษให้ก็ขอนอนด้วยหนึ่งคืน แต่ถ้าไม่ก็หาโรงแรมนอนแล้วตอนเช้าค่อยไปว่ากันใหม่ แต่เปล่าเลยมันไม่เป็นตามที่ผมคิดคงเป็นเพราะร่างกายที่ต้องทนยืนมาบนรถที่อัดแน่นไปด้วยผู้คนเกือบสิบชั่วโมง ทำให้ผมเผลอหลับไปจนเช้าของอีกวัน

............................................................................................

“อะไรว่ะเนี่ยะ หลับไปตั้งแต่เมื่อไหร่ แล้วนี่มันกี่โมงแล้วนี่”ผมตื่นขึ้นมาเพราะรู้สึกเจ็บที่แขนขวาเนื่อมาจากผมนอนตะแคงทับแขนตัวเองข้างเดียวทั้งคืน

“ดีนะเพิ่งแปดโมง ไม่สายมาก วันสิ้นปีแล้วซินะ วันสิ้นปีแต่เราต้องไม่สิ้นใจ เอสู้ๆ เตรียมพร้อมรับมือกับพี่นิคได้แล้ว ภารกิจแรกอาบน้ำแต่งตัว ภารกิจที่สองทานข้าวเช้า ภารกิจที่สามขับรถไปหนองคาย ภารกิจที่สี่ตามหาพี่นิคเพื่อเอาหัวใจตัวเองกลับมา รับทราบ”ผมทำเสียงพูดกับตัวเองเหมือนทหาร

“ทราบ ปฏิบัติ”ผมทำเสียงตอบรับตัวเองแล้วเริ่มลงมือทำตามแผนที่วางไว้

ผมขับรถมาอย่างสบายใจไม่เร่งรีบมาก รถบนท้องถนนก็มีไม่มากแล้วเพราะวันนี้เป็นวันสิ้นปีต่างคนต่างอยู่กับครอบครัวไม่ใช่วันเดินทาง ระหว่างขับรถผ่านเมืองอุดรผมคิดอะไรขึ้นมาได้ ผมเลยแวะเข้าตัวเมืองอุดร ตอนที่ไปบ้านพี่นิคครั้งแรกพี่นิคพาผมไปตัดผมซื้อคอนเทคมาให้ เสื้อผ้าอีก แต่คราวนี้ผมไม่ได้ไปทำอะไรอย่างนั้น เพราะผมคิดว่าตอนนี้ผมพร้อมและดูดีที่สุดแล้วไม่ต้องแต่งองค์ทรงเครื่องมากนัก

แต่ผมคิดว่าการที่ผมจะไปตามหา ตามจับหัวใจมันต้องมีเครื่องมือช่วย  ผมเลยแวะห้างเพื่อหาซื้อเครื่องมือช่วย ผมเดินอยู่นานในห้างกว่าจะเจอเครื่องมือที่ใช้การได้ เครื่องมือที่ว่าก็ไม่ใช่อะไรหรอกครับ มันเป็นตุ๊กตาตัวเท่าฝ่ามือสองตัว ตัวหนึ่งเป็นแมวสีขาวขนปุยนั่งทำหน้าเอ๋อๆใส่แว่น อีกตัวหนึ่งเป้นน้องหมาขนสีน้ำตาลอ่อนๆ ทำหน้าย่นแยกเขี้ยวแบบน่ารักน่าชัง แล้วผมก็ซื้อผ้าพันแผลสีขาวบางๆมาหนึ่งม้วน เอามาพันที่มือข้างขวาของเจ้าหมาแล้วโยงมาพันที่อกด้านซ้ายของน้องแมวตัวนั้น ก่อนที่จะให้เขาห่อของขวัญให้ สิ่งที่ผมทำไปนั้น ผมต้องการจะสื่อเป็นการขอโทษที่ทำให้พี่นิคต้องเจ็บมือแต่ผมนั้นเจ็บที่ใจ (อะไรจะสวีทขนาดนั้น....อิอิ – ขอแซวตัวเองหน่อย นั่งพิมพ์ไปยิ้มไปอยู่คนเดียว บ้าป่าวหว่า)
...

ยิ่งผมขับรถเข้ามาใกล้เขตจังหวัดหนองคายเท่าไหร่ ผมยิ่งดีใจ ใจผมยิ่งเบิกบานจนฟูออกมาทางหน้าตาที่ผมเห็นตัวเองยิ้มออกมาบ่อยๆอย่างไม่มีสาเหตุ ตอนนี้ใจผมมีความสุขมาก ความสุขกับสิ่งที่รอคอย รอที่จะไปตามหาจนเจอ

เข้าเขตอำเภอโพนพิสัยอีกไม่นานก็จะถึงบ้านพี่นิคแล้ว ใจผมยิ่งเต้นรัวแทบจะออกมาข้างนอกวิ่งแซงรถออกไป ไปตามหาสิ่งที่มันเรียกร้องจากก้นบึงตลอดเวลา เพียงแต่ผมเก็บมันเอาไว้ กดทับมันเอาไว้ไม่ให้ออกมานั่นเอง

ผมคิดว่าเราน่าจะโทรไปบอกพี่นิคก่อน แต่อีกใจก็คิดว่าไปอย่างนี้เซอร์ไพร์กว่า น่าจะเรียกคะแนนสงสารความเห็นใจได้มาก ครั้งนี้ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นเราก็ได้ทำตามใจของเราแล้ว ผลมันจะออกมาเป็นอย่างไรก็ขึ้นอยู่กับสิ่งที่เรากำลังจะทำลงไปนี่แหละ

ไม่ถึงสิบนาทีรถของผมก็มาจอดที่หน้าประตูโรงงาน แล้วผมก็ลงจากรถเพื่อติดต่อกับน้ายามที่อยุ่ในป้อมเพื่อตรวจคนเข้าออก

“สวัสดีครับ ถ้าจะมาติดต่อธุระเกี่ยวกับโรงงาน โรงงานปิด 4 วันครับ วันที่สองค่อยมาใหม่นะครับ”น้ายยามรีบรายงานเมื่อผมเดินไปถึง

“เอ่อ...ไม่ใช่ครับ ไม่ได้มาติดต่อธุระในโรงงานครับ พอดีจะมาหาคนที่อยู่ในนี้ครับ”ผมบอก

“คนงานส่วนใหญ่กลับบ้านช่วงปีใหม่ครับ อาจจะมีอยู่บ้างก็ส่วนน้อยครับ จะมาหาใครล่ะครับเดี๋ยวผมจะลองติดต่อให้อีกที”น้ายามทำหน้าที่ได้ดี

“คือผมมาหาคุณ..................................... ผมเป็นเพื่อนกับคุณนิคครับ”ผมบอกออกไป

“ครับๆ แล้วไม่บอกผมแต่แรก ผมจะได้เชิญไปนั่งที่ห้องรับรองก่อน ขอโทษด้วยนะครับ”น้ายามกุลีกุจอทันทีที่ผมบอกชื่อพี่นิคออกไป

“ไม่เป็นไรครับ ผมเคยมาที่นี้แล้วครับ เดี๋ยวผมขับรถผ่านโรงงานเข้าไปที่บ้านของคุณนิคเลยก็ได้ครับ ผมรู้จัก”ผมบอกเพื่อไม่ให้น้ายามรู้สึกผิด

“แต่พวกคุณๆเขาไม่อยู่กันนะครับ เห็นออกไปกันแต่เช้าว่าจะไปฝั่งโน้น ไปไหว้ธาตุหลวงเวียงจันทน์”คำตอบน้ายามทำให้ใจผมที่ฟูเบิกบานเต็มไปด้วยความหวังที่จะมาตามหากลับห่อเหี่ยวยุบแฟบลงทันที

“แล้วรู้ไหมครับว่าเขาจะกลับกันวันไหน”ผมถามออกไปเสียงอ่อยๆอย่างหมดหวัง

“ไม่ทราบซิครับ ถ้าไม่เป็นเย็นนี้ก็คงเป็นพรุ่งนี้ครับ”น้ายามตอบ

“ครับ ขอบคุณครับ”ผมพาร่างกายและจิตใจที่เหี่ยวเฉาจากคำตอบของน้ายามกลับมานั่งในรถ คิดอะไรไม่ออก ผมหวังมาเต็มที่ว่าจะได้มาเจอพี่นิคพูดจากันให้เข้าใจ ถึงแม้ว่าพี่นิคจะโกรธจนไม่ให้อภัยก็ตามอย่างน้อยก็ขอแค่ให้ได้เจอ แต่นี้คงเป็นบาปกรรมที่ผมทำไว้มันได้คืนสนองผมแล้ว แม้แต่คนที่อยากเจอที่สุดในตอนนี้ก็ไม่ได้เจอ

ติ๊ด.............ติ๊ด...............เสียงโทรศัพท์ผมดังขึ้น ผมกดรับอย่างไม่ใส่ใจ

“ครับ ... เย็นๆจะเข้าไปนะครับ..ครับทำธุระใกล้เสร็จแลครับ...แค่นี้นะครับอาอี๊”ผมพูดกลับไปแล้วตัดบททันทีเพราะไม่มีอารมณ์จะพูดต่อ

ตอนแรกผมตั้งใจว่าจะหาโรงแรมค้างซักคืนเพื่อคอยพี่นิคกลับมาแต่อาอี๊ดันโทรมาบอกว่าวันนี้ที่บ้านมีปาร์ตี้เล็กๆในหมู่เครือญาติอยากให้ผมเข้ามานอนที่บ้าน ผมก็เลยตอบรับไปอย่างปฏิเสธเสียไม่ได้

ผมมองไปที่กล่องของขวัญที่ตั้งใจจะเอามาให้พี่นิค แล้วก็หยิบมันไปฝากไว้กับน้ายามโดยที่ผมไม่ได้เขียนการ์ดหรือบอกอะไรไว้เลย แค่บอกว่าฝากของขวัญปีใหม่ให้คุณนิคด้วย

แล้วผมก็รีบบึ่งรถกลับขอนแก่นทันที พอเข้าตัวเมืองหนองคายตอนขามาผมคงตื่นเต้นมากจนลืมที่จะแวะไหว้หลวงพ่อพระใส ขากลับผมจึงแวะกราบหลวงพ่อพระใส ผมขอให้เรื่องทั้งหมดนี้จบสิ้นกันซักทีในวันสิ้นปี ส่วนมันจะจบแบบไหนก็แล้วแต่หลวงพ่อท่านจะเมตตา แต่ตอนนี้ในใจของผมมันคงรู้แล้วว่ามันคงจบแบบไม่ได้เจอพี่นิคอีกต่อไปแน่ๆ

ระหว่างทางผมได้แต่คิดโทษตัวเองว่า เป็นเพราะผมคนเดียวที่ช้าเกินไปเสมอ  เป็นเพราะผมคนเดียวที่ไม่แน่ใน ไม่หนักแน่นพอ ไม่เข็มแข็งไม่อดทน ผมทิ้งภาระหน้าที่ทุกอย่างเพื่อทำตามใจตัวเองแล้วผลที่ออกมามันเป็นยังไงล่ะ  มันคุ้มกันแล้วเหรอ 

“นี้เหรอเอ ที่บอกว่าทำตามหัวใจแล้วจะมีความสุข กลับไปทำตามหน้าที่ที่ควรทำดีกว่า หน้าที่ลูกที่ดีของคุณแม่ พี่ที่ดีของน้อง ลูกชายคนโตที่ดีของครอบครัว เหอะ....”ผมพ่นกับตัวเองเพื่อเป็นการตอกย้ำที่ตัดสินใจผิดในการทิ้งหน้าที่ของตัวเองเพื่อมาตามหาหัวใจ

กว่าจะขับรถถึงขอนแก่นได้ผมเกือบเอาชีวิตไม่รอดเพราะผมมัวแต่คิดใจลอย ไม่ได้ดูรถคันที่อยู่ข้างหน้าทำให้เบรกกะทันหันบ้าง รถออกไปแดงแล้วไม่ยอมไปบ้าง เหยียบเร็วเกินพิกัดบ้างจนได้ใบสั่งมาเป็นของขวัญวันสิ้นปีหนึ่งใบ

กลับมาถึงบ่ายสี่โมงกว่าๆ ผมยังไม่พร้อมที่จะเข้าบ้านในสภาพจิตใจแบบนี้ ผมเลยตัดสินใจขึ้นไปที่หอล้มตัวลงนอนแล้วก็ร้องไห้ออกมา จะร้องด้วยเหตุอันใดผมก็ไม่รู้ได้ รู้แต่ผมสัญญากับตัวเองว่านี่จะเป็นน้ำตาสุดท้ายที่จะมีให้กับเรื่องพวกนี้ ต่อไปนี้จะไม่มีอีก เราจะต้องไม่เสียน้ำตากับเรื่องพวกนี้อีก เราต้องไม่มีหัวใจให้ใคร เราจะได้ไม่ต้องไปตามหาให้เจ็บปวดแบบนี้ เราจะต้องทำตามหน้าที่ของเราเท่านั้น

ผมหันไปเห็นหมอนข้างผมก็พาลว่าที่นอนกับหมอนข้างว่าเมื่อคืนนี้ถ้าเราไม่หลับคงได้เจอพี่นิค มันพาลไปหมั่นไส้ขาตัวเองที่ปวดแล้วทำให้อยากนอนหลับพักผ่อน สุดท้ายผมพาลที่จะเกลียดตัวเองที่เป็นคนแบบนี้

“ไม่ได้ เราต้องทำตามหน้าที่ของเรา เรื่องทุกอย่างมันจบแล้ว”ผมบอกกับตัวเองพร้อมลุกขึ้นปาดน้ำตาแล้วหายใจเข้าปอดสูดใหญ่ๆ ก่อนที่จะไปล้างหน้าเพื่อขับรถเข้าบ้านทำหน้าที่หลานที่ดีของ
อาอี๊และเหล่าบรรดาญาติๆ

 บรรยากาศตอนห้าโมงเย็นดูโพล้เพล้ วังเวงพิกล ในมอที่เต็มไปด้วยผู้คนแต่ช่วงวันหยุดยาวอย่างนี้ไม่ต้องพูดถึงเงียบเหมือนป่าช้า ผมขับรถออกมาทางฝั่งประตูสีฐาน สองข้างถนนเต็มไปด้วยทิวสนใหญ่ที่โอนลู่ตามลม บรรยากาศอย่างนี้ทำให้ใจผมหนาวสั่นเย็นยะเยือกขึ้นมาทันทีพร้อมกับน้ำตาที่พาลจะไหลออกมาอีกรอบ ผมเลยตัดสินใจหาที่จอดรถ ปิดมือถือ แล้วเดินไปนั่งตรงสนามหญ้าที่เป็นลานกว้างของบึงสีฐานฝั่งตะวันตก ปล่อยอารมณ์ความคิดให้มันไหลไป มองดูพระอาทิตย์สุดท้ายของปีที่กำลังจะลาลับจากท้องฟ้า เหล่านกนานาพันธุ์ที่บินเป็นฝูงกลับรัง

ข้างที่ผมนั่งไกลออกไปพอสมควรมีครอบครัวหนึ่งมานั่งปิกนิกกัน พ่อวิ่งเล่นกับลูกตัวเล็กที่อายุน่าจะซักห้าหกขวบได้ แม่นั่งอยู่ในเสื่อถักเปียให้ลูกสาวที่มองดูก็รู้ว่าอายุไม่น่าจะเกินสิบปี
ภาพนี้ทำให้ผมคิดถึงบ้านและครอบครัวของผมขึ้นมาทันที ถ้าป่านนี้เราไปเชียงรายเราคงได้อยู่พร้อมหน้ากับคุณแม่และเจ้าโอ๊ตแล้ว แต่นี้เราทำอะไร เราเห็นแก่ตัว เราเห็นพี่นิคสำคัญกว่าอย่างนั้นเหรอ แล้วเป็นยังไงล่ะ คนที่เราตามหา คนที่เราให้ความสำคัญ สุดท้ายมันเป็นยังไง ว่าแล้วผมก็นั่งกอดเข่าก้มหน้าร้องไห้ออกมา

ผมร้องไห้ออกมานานเท่าไหร่ไม่รู้ รู้แต่ว่ามันมีบ้างอย่างมาขัดจังหวะการร้องไห้ของผม มันเหมือนมีตัวอะไรมันบินตอมแถวๆต้นคอ ผมใช้มือปัดแต่ยังก้มหน้าร้องไห้อยู่ มันก็หายแล้วก็มาใหม่ เป็นอย่างนี้อยู่สามสี่ครั้ง จนผมรำคาญ ผมเลยเงยหน้าขึ้นพร้อมหันไป สิ่งที่ผมเห็นคือ...................

A_wAy_G_mAn

  • บุคคลทั่วไป
             บทที่ยี่สิบสี่ --- ตามหา(ต่อ)

ผมร้องไห้ออกมานานเท่าไหร่ไม่รู้ รู้แต่ว่ามันมีบ้างอย่างมาขัดจังหวะการร้องไห้ของผม มันเหมือนมีตัวอะไรมันบินตอมแถวๆต้นคอ ผมใช้มือปัดแต่ยังก้มหน้าร้องไห้อยู่ มันก็หายแล้วก็มาใหม่ เป็นอย่างนี้อยู่สามสี่ครั้ง จนผมรำคาญ ผมเลยเงยหน้าขึ้นพร้อมหันไป สิ่งที่ผมเห็นคือ...................

พี่นิคกำลังใช้ดอกหญ้ามาแหย่ที่ต้นคอผม พอผมหันไปพี่นิคแกก็ยิ้มให้แล้วทำเสียง “เหมียวๆ”ออกมา  ในจังหวะนั้นผมบอกไม่ถูกว่าจะดีใจหรือเสียใจหรือมีความรู้สึกอะไรกันแน่

ผมไม่พูดอะไรและไม่คิดอะไรทั้งนั้น ผมรีบคว้าตัวพี่นิคเข้ามาโผลกอดไว้อย่างแน่นราวกับว่าจะกลัวพี่นิคจะหนีหายไปไหนอีก พี่นิคที่ไม่ทันตั้งตัวก็ตกใจกับการตอบรับของผมเหมือนกัน

“เอ เอครับ พอแล้ว พี่ไม่ใช่ปลาทูนะครับ จะกินกันเลยเหรอไง กอดซะแน่นเชียว หายใจไม่ออก”เสียงพี่นิคพูดออกมาอย่างติดขัด คงเป็นเพราะผมกอดแน่นจริง

ผมเอามือออกแล้วนั่งก้มหน้า ไม่กล้าพูดหรือแม้กระทั่งแต่มองหน้าก็ยังไม่กล้า พี่นิคเองก็นั่งนิ่งไม่ทำอะไรจนเวลาผ่านไปนานพอควรพี่นิคทำท่าเหมือนไปหยิบอะไรที่อยู่ข้างหลังออกมาส่งให้ผม
มันเป็นตุ๊กตาที่ผมเพิ่งเอาไปให้พี่เขาเมื่อเช้าเอง แต่สภาพมันเปลี่ยนจากที่พันมือน้องหมาพันหน้าอกน้องมามาเป็น ทั้งสองตัวนี้กำลังกอดกันแล้วพันด้วยผ้าผืนเดิม (คล้ายๆตุ๊กตาคุณไสยรักยมเลย..ฮ่าๆ)

ผมเห็นตุ๊กตาคู่นั้นก็พอที่จะทราบความหมายที่พี่นิคมีให้ต่อผมคือให้อภัยและยังรักเหมือนเดิม ผมรับตุ๊กตาคู่นั้นมาพร้อมกับถามว่า “พี่รู้ได้ยังไงว่าผมอยู่ที่นี่”

“ก็ไม่เห็นยากนี่ แค่พี่เห็นตุ๊กตาในกล่องของขวัญพี่ก็รู้แล้วว่าใครที่มีนิสัยเด็กๆเอาของอย่างนี้มาให้พี่ได้นอกจากเรา พี่เลยโทรหาเราแต่ไม่ติด ตอนแรกพี่ก็ไม่แน่ใจเท่าไหร่ว่าเป็นเรา เพราะเห็นว่าเราจะไปเชียงใหม่กับหมอที พี่เลยโทรเช็คกับหมอที หมอทีบอกว่าเราจะมาหาพี่ พี่เลยมั่นใจว่าต้องเป็นเรา พี่เลยรีบขับรถกลับมาขอนแก่น เข้าไปหาเราที่บ้านอาอี๊ อาอี๊บอกว่าเรายังอยู่ในมอโทรหาก็ไม่ติด พี่เลยเข้ามาหา ในมอมันกว้างก็จริงนะ แต่ที่สำหรับคนที่คิดว่ากำลังจะอกหักนะมันมีไม่กี่ที่หรอกที่จะมานั่งทำใจ พี่เลยมาหาเราเจอไง”พี่นิคอธิบายซะยืดยาว

ผมได้แต่เงียบฟังแล้วคิดตามตลอดเวลาที่ผมพยายามหลบหน้าพี่นิค ไม่ใส่กับพี่นิคแต่พี่นิครู้เรื่องของผมตลอด รู้กระทั่งว่าผมจะไปเชียงใหม่กับพี่หมอที

“ไหนยามเขาบอกว่าพี่ไปฝั่งลาว”ผมถามขึ้น

“ก็ไปไง ไปตั้งแต่เช้าไปไหว้ธาตุหลวงแล้วก็กลับ ตอนแรกว่าจะกลับเย็นๆแต่พี่รู้สึกสังหรณ์ใจยังไงไม่รู้อยู่ดีๆก็อยากกลับบ้าน เลยบอกกับทุกคนว่าไม่ปวดหัวค่อยสบายอยากกลับบ้านไปพักผ่อน
พอกลับมาบ่ายสองได้มั้ง น้ายามก็เอากล่องของขวัญมาให้ พี่เลยรีบตามมาหาเรานี่แหละ”พี่นิคบอก

“แล้ว....พี่...ไม่โกรธผมเหรอ.....ที่....ผม........เอ่อ.........”ผมพูดอย่างไม่เต็มปากที่จะถามเรื่องที่ผมเคยปฏิเสธพี่เขาไป

“ถ้าโกรธแล้วจะมาหาไหมเนี่ยะ ดูตุ๊กตาซิว่าเขาทำอะไรกัน ถ้าโกรธตุ๊กตาหมาคงไม่มายืนกอดตุ๊กตาแมวอย่างนี้หรอก พี่คงจับให้ตุ๊กตาหมาเหยียบตุ๊กตาแมวให้ขาดเป็นสองท่อนไปแล้ว”พี่นิคพูดพร้อมเอาตุ๊กตาที่มือผมไปทำท่าประกอบ ทำให้ผมยิ้มออกมาได้

“พี่ๆ ขอๆ ขอตุ๊กตา”เสียงเด็กน้อยผู้ชายที่เดินมาตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้มาทำท่าแบมือขอตุ๊กตาอยู่ข้างหลังผมกับพี่นิค

“จะเอาตุ๊กตาเหรอครับ เอาตัวไหนดีเอ่ย เอาตุ๊กตาน้องแมวไปแล้วกันน่ารักดี”ผมบอกพร้อมหยิบตุ๊กตาแมวจากมือของพี่นิคส่งไปให้เด็กคนนั้น พี่นิคทำตาโตเหมือนไม่พอใจใส่ผมแล้วคว้าตุ๊กตาแมวคืนมา ผมทำหน้างงๆ เด็กคนนั้นก็มองหน้าพี่นิค

“งั้นเอาตุ๊กตาน้องหมาก็ได้นะ ดูดุหน่อยแต่น่ารักดี”ผมทำท่าจะคว้าตุ๊กตาหมาจากมือพี่นิคแต่พี่นิคเอาหลบ

“ไม่ให้ ของเขาอยู่เป็นคู่กัน จะมาแยกกันได้ยังไง”พี่นิคพูดขึ้นลอยๆเชิงบอกผม

“งั้นเอาไปสองตัวเลยนะ เดี่ยวพี่เอาให้”ผมบอกกับเด็กน้อย แต่พี่นิคถือตุ๊กตาไปซอ่นไว้ข้างหลังทั้งสองตัว

“ไม่ให้ อยากได้ไปเอาตัวอื่น เด็กอะไรขี้ขอชะมัด”พี่นิคพูดออกมา เด็กคนนั้นเริ่มเบะปากทำท่าจะร้องไห้

“พี่นิคให้น้องเขาตัวหนึ่งดิ่ น้องเขาจะร้องไห้แล้ว เดี๋ยวผมซื้อให้พี่ใหม่ก็ได้”ผมบอกพร้อมทำท่าจะโอ้เด็ก

“ไม่ได้ๆ ไม่เหมือนกัน ไม่ให้ด้วย”พี่นิคทำท่าหวงของเล่นเป็นเด็กๆ

“งั้นเดี๋ยวไปกับพี่นะครับ ไปเอาตุ๊กตาในรถกับพี่นะ”ผมบอก

“ไม่เอา จะเอาตัวนี้ จะเอาๆ”เด็กน้อยเริ่มงอแง

“ไม่ให้ บอกว่าไม่ให้ไง ไม่เข้าใจหรือไง”พี่นิคทำเสียงดุหันไปพูดกับเด็กน้อยคนนั้น เด็กน้อยคนนั้นร้องไห้แงออกมาเลย

“ซวยแล้วพี่นิคทำลูกเขาร้องไห้ โอ๋...ๆๆๆ.....อย่าร้องนะ   พี่นิคเอาตุ๊กตามาซิ เร็วๆ”ผมปลอบเด็กพร้อมบอกพี่นิคให้เอาตุ๊กตามา แต่พี่นิคกลับยืนเฉยทำไม่รู้ไม่ชี้

“โอ๋ๆ  ลูกพ่อ หยุดร้องนะครับ กลับบ้านกัน ขอโทษนะครับที่เด็กมากวน”คนเป็นพ่อเด็กเดินมาหลังจากได้ยินเสียงร้องไห้ของลูกตัวเองแล้วอุ้มลูกกลับไปที่รถเพื่อกลับบ้าน

“ไม่เป็นไรครับ ขอโทษครับที่ทำให้ร้องไห้”ผมบอกออกไปพี่นิคทำเฉย

“คนอะไรไม่รู้ใจร้ายแม้กระทั่งกับเด็ก”ผมบ่นออกมาลอยๆ

“ว่าใคร เรายังมีความผิดอยู่นะ”พี่นิคพูดพร้อมหันมามองหน้าผม

“ความผิดอะไร ผมทำอะไรผิด”ผมหันกลับมาเป็นจังหวะเดียวกันกับที่พี่นิคเงยหน้ามามองผมทำให้ผมกับพี่นิคเราสองคนสบตากัน

นานแค่ไหนแล้วนะที่ผมไม่ได้มองดวงตาของพี่นิคได้เต็มๆแบบนี้ ดวงตาที่ชวนลุ่มหลงเหมือนมีมนต์สะกดสำหรับผม ดวงตาคู่นี้ที่สื่อผ่านอะไรบางอย่างออกมาจากใจ ผมหยุดนิ่งค่อยๆหลับตาลงพี่นิคเองก็ค่อยๆบรรจงเอาริมฝีปากมากำลังจะประกบกับริมฝีปากของผม แล้วก็มีเสียงดังขึ้นว่า

“.............เวลา 18 นาฬิกา เตรียมเคารพธงชาติ.........”เสียงที่เข้ามาขัดจังหวะ ทำให้เราทั้งสองคนต้องผละออกจากกันเพื่อยืนตรง ผมหันหน้าออกจากพี่นิคทันทีพร้อมแก้มที่แดงและเขินอาย

“เสียสละเพื่อชาติ”พี่นิคกัดฟันบ่นออกมา

เพลงชาติดังขึ้น ผมยืนตรงหันหลังในพี่นิค

“เอ เพลงชาติจบแล้ว หันมาซิ”พี่นิคบอก

“หึ...”ผมส่งเสียงปฏิเสธออกมาจากลำคอ พร้อมส่ายหน้าด้วยความเขินอาย

“หันมาเร็วๆ อย่าดื้อน่า”พี่นิคพูดบ่นรำคาญนิดๆ

“ไม่ๆหมดเวลาแล้ว ไปดีกว่า”ผมบอกปัดด้วยความอายแล้วทำท่าเดินหนี

“จะไปไหน”พี่นิคเอื้อมมือมาจะจับมือผม ผมรู้ทันเลยวิ่งหนีแต่สายตาผมเหลือบเหมือนไปเห็นใครบางคน ผมไม่ได้สนใจอะไรมากแล้วตะโกนกลับไปว่า

“จะเข้าบ้านไปปาร์ตี้กับอาอี๊”

“เออ....ใช่ ตอนที่พี่เข้าไปถามหาเอ อาอี๊ก็ชวนพี่ด้วย”พี่นิคบอก

“ไม่ใช่อยากไปกับเขา เลยขี้ตู่เอาเองหรือป่าว”ผมบอกเล่นแบบแหย่ๆ

“ไม่ไปก็ได้”พี่นิคบอกแบบงอนๆ

“ดีจะได้ไม่มีคนแย่งกิน ไปดีกว่า”ผมบอกแล้วทำท่าเดินหนี แต่พี่นิคเร็วกว่าคว้าข้อมือผมแล้วดึงตัวผมเข้ามากอดไว้

“จะหนีพี่ไปไหน คราวนี้พี่จะไม่ปล่อยให้เอหนีไปไหนกับใครอีกแล้ว”พี่นิคบอก

“ผมก็จะไม่ยอมให้พี่หนีผมอีกแล้ว ผมเบื่อที่จะตามหาพี่”ผมตอบกลับ

พี่นิคทำท่าจะก้มลงจูบผมแต่ผมเบือนหน้าหนี ทำเอาพี่นิคชะงักแล้วปล่อยผมออกจากอ้อมกอด

“พี่ไม่คิดเลยว่าเราจะมีวันนี้ วันสิ้นปีเหมือนสิ้นปัญหาทุกอย่างที่พี่แบกรับเก็บมาไว้นานคนเดียว”พี่นิคบอกออกมาพร้อมส่งสายตาทอดยาวออกไปที่ริมบึงสีฐาน

“ใครว่าพี่แบกรับคนเดียว ผมก็แบกไม่น้อยไปกว่าพี่เลย พี่นิคครับ พี่เป็นเหมือนหัวใจของผมนะครับ เวลาพี่หนักใจผมก็หนักด้วย พี่นิคครับ..........ผม..........รัก.......พี่นะครับ”ผมได้โพล่งความรู้สึกในใจออกไป

พี่นิคหันมายิ้มแล้วบอกกับผมว่า “วันนี้เป็นวันที่พี่มีความสุขที่สุดเลยครับ พี่ว่าปีหน้าทั้งปีคงมีแต่เรื่องดีๆเข้ามาทำให้พี่มีความสุขแน่เลยครับ เอครับไปกับพี่นะครับ ไปจัดรายการกัน วันนี้พี่มีความสุขพี่อยากส่งความสุขนี้ให้กับคนฟัง ไว้จัดรายการเสร็จค่อยเข้าไปบ้านอาอี๊พร้อมกันนะครับ” ผมพยักหน้า พี่นิคบอกว่าให้เอารถไปคันเดียวแล้วก็จัดแจงบอกให้ผมเอารถไปจอดที่หอ แล้วพี่แกจะขับตามไปรับ

ผมเดินมาที่รถ ผมเห็นสิ่งที่ผิดสังเกตคือที่กระจกมองข้างมีถุงพลาสติกสีออกชมพูแดงๆห้อยไว้อยู่ ผมเลยเดินไปเอามาดู ปรากฏว่าข้างในถุงนั้น มีรูปถ่ายตอนที่พี่นิคจะจูบผมอยู่ที่ใต้ภาพมีวันที่และเวลาบอกอย่างชัดเจนว่ามันคือวันนี้และเวลาก่อนเคารพธงชาติเล็กน้อย ผมพลิกดูไม่เห็นมีข้อความอะไร ดูจากกระดาษภาพถ่ายแล้วรู้ได้ว่าภาพนี้มาจากกล้องโพลาลอยด์แน่ๆ ผมคิดในใจว่าจะใช่คนๆนั้นหรือเปล่า แลว้ต้องใช่กับคนที่ผมเห็นแวบๆตอนวิ่งหลบพี่นิคด้วย เพราะผมคุ้นท่าทางเขาดี

ผมดูในถุงนั้นอีกก็พบลูกอมรูปหัวใจ 6 เม็ด ที่นี้ผมมั่นใจเลยว่าใช่เขาแน่ๆ จะเป็นใครไปไม่ได้นอกจากพี่เก่ง ผู้ชายคนแรกที่บอกรักผมที่สุพรรณตอนที่เราไปงานแต่งพี่สาวของไอ้บอย แล้วให้ลูกอมรูปหัวใจกับผม 6 เม็ดโดยพี่แกบอกว่าทั้งซองมันมี 12 เม็ด พี่เก่งแบ่งให้ครึ่งหนึ่งเหมือนกับใจพี่เขาที่ให้ผมมาครึ่งหนึ่ง ว่าแต่ว่าพี่เก่งมาทำอะไร ไม่กลับบ้านเหรอ แล้วเขาถ่ายรูปผมกับพี่นิคทำไม หรือว่าไว้แบล็คเมล์ แต่ผมรู้และเชื่อใจพี่เก่งว่าไม่ได้มีนิสัยอย่างนั้นแน่นอน

“เอ เป็นอะไร ทำไมไม่ขึ้นรถไปซักที”เสียงพี่นิคที่นั่งอยู่ในรถของตัวเองตะโกนเรียกผม ทำให้ผมรีบขึ้นไปในรถแล้วขับออกไปทันที

...

หลังจากที่ผมเอารถไปเก็บไว้ที่หอแล้วก็มานั่งรถพี่นิค ตลอดทางไปสถานีพี่นิคจับมือผมไว้ตลอดเวลา

“อ้าวนิค ไหนว่าจะกลับหนองคาย มาโผล่ที่นี้ได้ไง อย่าบอกนะว่าจะมาเข้ารายการ พี่เห็นนิคส่งเทปมาแล้วนี่”พี่เจ้าหน้าที่ฝ่ายเทคนิคสถานีทักพี่นิค

“หวัดดีครับพี่ วันนี้ผมมีความสุขผมอยากจัดสด ไม่อยากจัดแห้งเปิดเทปอ่ะครับ”พี่นิคพูดพร้อมดึงตัวผมเข้ามากอดไหล่

ระหว่างที่พี่นิคจัดรายการผมสังเกตว่าวันนี้พี่นิคดวงตาดูสดใสเป็นประกาย พูดไปยิ้มไปหัวเราะไป ทักทายกับผู้ฟังเป็นอย่างดี เพลงแต่ละเพลงที่เลือกมาเปิดก็เป็นเพลงเกี่ยวกับความรัก ความสุข ความสมหวังทั้งนั้น

“น้องรู้เปล่านิคมันเป็นอะไร วันนี้มันเปิดเพลงแต่เพลงแนวนี้จนพี่เลี่ยน”พี่เจ้าหน้าเทคนิคเอ่ยถามผม

“ไม่รู้ครับ สงสัยพี่เขากำลังมีความสุขอินเลิฟมั้งครับ”ผมบอกออกไป

“..........ครับต่อไปเป็นช่วงขอเพลงหน้าไมค์นะครับ มาแล้วครับสายแรก สวัสดีครับแนะนำตัวเองเลยครับ”เสียงพี่นิคพูดจัดรายการกับผู้ฟังที่โทรศัพท์เข้ามาขอเพลง

“ผมขอเพลงหน่อยครับ”เสียงตอบกลับมา เสียงนั้นทำเอาผมคุ้นหู

“จะไม่แนะนำตัวหน่อยเหรอครับ ซักนิดก็ยังดีนะครับ”พี่นิคตอบ

“เรียกผมว่าตากล้องหมดหัวใจก็แล้วกันครับ”เสียงปลายสายตอบกลับมา

“ครับ คุณตากล้องหมดหัวใจครับ จะขอเพลงอะไรดีครับ”พี่นิคถามต่อ

“ผมขอเพลงฉันยังเหมือนเดิม ของศิริศักดิ์ให้กับ A SC ครับ”เสียงนั้นตอบกลับมาแล้วก็วางสายไปทันที ผมฟังแล้วก็ถึงกับกังวลทันที เพราะคนที่ใช้ชื่อว่าตากล้องหมดใจฟังจากเสียงผมก็พอจำได้ว่าเป็นพี่เก่ง แล้วเพลงที่ให้ก็คือผม ชื่อเอ SC ชื่อย่อของคณะที่ผมเรียน แต่ดูเหมือนพี่นิคจะไม่ฉุกคิดอะไรเลย อย่างนี้แหละน้าคนกำลังมีความสุข หรือความรักทำให้คนหูหนวกตาบอดกันแน่

“วางสายไปแล้วนะครับ แต่ไม่เป้นไรครับ เราจัดให้ มาฟังเพลงฉันยังเหมือนเดิมของศิริศักดิ์ที่คุณตากล้องหมดใจ ขอให้กับคุณ A  SC กันนะครับ ไปฟังกันเลยครับ..........”พี่นิคเกริ่นนำก่อนเข้าเพลง

(http://www.imeem.com/lowso501/music/AEQdBmHg// ---ฟังเพลงฉันยังเหมือนเดิม ของศิริศักดิ์)

..........ไม่รู้ทำไม ฉันจึงได้พบเธอ แม้เพียงแรกเจอ ก็เหมือนคุ้นเคยมานาน
เหมือนมีอะไรบันดาล ระหว่างเธอกับฉัน ทั้งที่เราสองคนก็คนละใจ
 แค่ได้มองตา ลึกๆในใจก็สั่น ยิ่งได้คบกัน ยิ่งคิดฝันไปมากมาย
เหมือนมีอะไรเป็นพิเศษ ที่เธอไม่เหมือนใคร คล้ายๆว่าเธอคือคนที่ฉันรอ

ผมนั่งฟังเพลงนี้ไป ก็คิดถึงเรื่องราวดีๆที่เกิดขึ้นระหว่างผมกับพี่เก่ง เรื่องราวที่แสนจะโรแมนติก แม้ว่าพี่เก่งจะพยายามเอาใจผม ดูแลผมมากเท่าไหร่ แต่ความรู้สึกของผมก็มีให้พี่เขาได้แค่เพื่อนหรือพี่ได้แค่นั้นจริงๆ ไม่เหมือนพี่หมอทีที่บางครั้งใจผมยังกล้าถลำมากไปกว่านั้น

ถ้าหากว่าเป็นกำหนดจากฟ้า ให้เราเกิดมาคู่กัน ก็ขอให้เป็นอย่างนั้นตลอดไป
แต่หากว่าเป็นแค่เหตุบังเอิญ ที่ฟ้าไม่ได้ตั้งใจ ก็ไม่เป็นไรใจฉันจะยังเหมือนเดิม
ไม่ว่ายังไงฉันก็ยังรักเธอ.....................

การที่พี่เก่งขอเพลงนี้ให้ผมเหมือนต้องการบอกผมเป็นนัยๆว่า ไม่ว่าผมจะมีใคร หรือเป็นยังไงพี่เก่งก็ยังจะคงรักผมเหมือนเดิม ข้อนี้ผมเลยคลายความกังวลใจเรื่องรูปถ่ายเมื่อตอนเย็นไปได้ว่าพี่เก่งไม่มีเจตนาอื่นแอบแฝงแน่นอน แล้วพี่เก่งเองก็คงพร้อมที่จะหลีกทางให้ผมเดินไปกับพี่นิค

หลังจากพี่นิคจัดรายการเสร็จ เราสองคนก็เข้าไปที่บ้านของอาอี๊ร่วมสมทบวงปาร์ตี้ของเหล่าวงศาคณาญาติร่วมๆสิบคน จนเที่ยงคืนทุกคนนับถอยหลังพร้อมกัน อาเตี๋ยวเตรียมประทัดไว้ 1000 นัดเพื่อจุดฉลองตอนผ่านเที่ยงคืนเข้าสู่ปีใหม่ แล้วหน้าที่จุดประทัดนี้ก็ไม่ใช่ใครเป็นพี่นิคของเรานี่เอง งานนี้ทำให้ผมรู้ว่าพี่นิคกลัวประทัด แต่กลัวเสียฟอร์มเลยต้องจำใจไปจุดเพื่อเอาหน้ากับอาเตี๋ยว หลังจากผ่านเที่ยงคืนไปได้นิดหน่อย บางคนก็พากันขอตัวเข้านอน บางคนก็ยังคุยกันต่ออย่างออกรสออกชาติ พี่นิคก็เป็นหนึ่งในนั้น นั่งวงกับกลุ่มของอาเตี๋ยวอาเจ๊กดื่มไวน์กัน ส่วนผมที่ขับรถไปกลับขอนแก่นหนองคายเริ่มไม่ไหวแล้วเลยขอตัวไปนอน

ผมอาบน้ำเสร็จก็เห็นพี่นิคมานอนอยู่บนเตียงเรียบร้อยแล้ว ในมือนอนกอดตุ๊กตาสองตัวนั้นอยู่ ผมเลยไปปลุกพี่นิคให้อาบน้ำ พี่นิคงัวเงียขึ้นมาแล้วทำเป็นสดชื่นพร้อมบอกผมว่า

“ถ้าพี่อาบน้ำเสร็จ แล้วทำเหมือนตุ๊กตานี้นะ”พี่นิคพูดจบก็ส่งตุ๊กตาสองตัวนั้นมาให้ผมแล้วลุกขึ้นไปอาบน้ำทันที

ผมมองตุ๊กตาสองตัวนั้นอย่างงงๆก่อนที่จะตะโกนไล่ตามหลังพี่นิคไปว่า “ทะลึ่ง บ้า” เหตุที่ผมพูดไปอย่างนั้นก็เพราะว่าตุ๊กตาที่พี่นิคส่งมาให้มันอยู่ในท่าทีแบบว่าน้องหมานอนทับเจ้าแมวเหมียวอยู่แล้วก็เอาผ้าพันแผลสีขาวบางๆผืนเดิมนั่นแหละ พันทับตรงเป้าของตุ๊กตาทั้งสองตัวเอาไว้

ผมรีบแก้ผ้าพันแผลนั้นออกเปลี่ยนเป็นให้เจ้าแมวเหมียวหันหลังให้น้องหมาเอาผ้ามาพันมือพันเท้าของน้องหมาแทนแล้วก็วางไว้ตรงหมอนพี่นิค ก่อนที่ผมจะล้มตัวลงนอนและไม่ลืมเอาหมอนข้างมากั้นอาณาเขตบนเตียงด้วย

“เอใจร้าย”พี่นิคบ่นเมื่ออาบน้ำเสร็จแล้วเดินมาเห็นตุ๊กตาที่ผมเปลี่ยนท่าให้มันใหม่แล้ววางไว้ที่หมอนของพี่นิค

“รีบๆนอนเลยพี่ ถ้าพี่ยังไม่อยากนอน ผมจะไปนอนห้องอื่น พรุ่งนี้ต้องไปทำบุญวันปีใหม่กับอาอี๊แต่เช้านะ”ผมบอกเป็นการขู่ไปในตัว

พี่นิคไม่ตอบ ผมหันกลับไปดูเห็นพี่นิคเปลี่ยนท่าตุ๊กตาให้มันนอนคู่กันแบบธรรมดาบนหมอนข้างที่ผมเอามาคั่นไว้ตรงกลาง แล้วตัวพี่แกเองก็นอนหันหลังให้ผม

“งอนเหรอ”ผมถามพร้อมเอามือจี้ที่เอวพี่นิค แต่พี่นิคก็เฉย

“โกรธผมเหรอครับ ก็พี่อ่ะ เราเพิ่ง......จะ....เป็นแฟนกันเอง......ผม.......ไม่.......เคย..เรื่อง...”ผมอายที่จะพูดต่อแต่เอามือไปหยิบหมอนข้างออกแล้วก็ขยับตัวเข้าไปกอดพี่นิค

“ขอผมกอดพี่หน่อยนะครับ”ผมบอกออกมาเบาๆ ได้ผลพี่นิคหันมาแล้วทำท่าจะจูบผมแต่ผมเบี่ยงหน้าหนีตามเคย

“หลบพี่ทำไมครับ”พี่นิคถามแล้วยังพยายามจะใช้จมูกมาไซร้ที่ต้นคอผมให้ได้ แต่ผมเอามือดันไว้

“ผมขอกอดพี่เฉยๆ”ผมบอกออกไป

“โธ่เอ๊ย แล้วมายั่วให้อยาก...”พี่นิคบ่นพร้อมหันหลังกลับทันที

“ไม่กอดก็ได้”ผมเริ่มงอนบ้าง ว่าแล้วก็หันหลังให้พี่นิคบ้าง

“จะกอดหรือไม่กอด”พี่นิคพูดขึ้น ผมเงียบ

“ถ้าไม่กอดพี่จะปล้ำละนะ”พี่นิคขู่ทำเอาผมรีบหันกลับมาทันที แล้วพี่นิคก็เอาตัวผมไปอยู่ในอ้อมกอด ผมนอนซบอกซอกแขนตรงหัวไหล่ของพี่นิค มันให้ความรู้สึกที่บรรยายไม่ได้ออกมา ถึงแม้ว่าพี่นิคจะไม่อบอุ่นแสนดีเหมือนพี่หมอที ไม่โรแมนติกเหมือนพี่เก่ง แต่พี่นิคก็คนที่ผมเลือกแล้วนั่นเอง

+++ จบบทที่ยี่สิบสี่ +++


*** ข้อคิดคำคมประจำบท ***
-   วันสิ้นปีแต่เราต้องไม่สิ้นใจ
-   ความสุขกับสิ่งที่รอคอย รอที่จะไปตามหาจนเจอ
-   ผลมันจะออกมาเป็นอย่างไรก็ขึ้นอยู่กับสิ่งที่เรากำลังจะทำลงไปนี่แหละ

ออฟไลน์ Mint

  • นิสัย!!
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2114
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +881/-17
^
^
^

 :laugh: จิ้มๆพี่เอ  :laugh:



ความรักมักจะมีบททดสอบต่างเข้ามาเรื่อยๆ ...

เดินไปพร้อมกันช่วยกันแก้ปัญหาดีกว่า...นะคะ

เป็นกำลังใจให้พี่สองคนนะคะ  :L2: :L2:

ออฟไลน์ kdds

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1471
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +40/-5
ค่อยๆคิดแก้ปัญหาไปนะ
 :L2: :L2: :L2:

Estel

  • บุคคลทั่วไป
เอครับ นี่พี่นิคเองนะครับ

พี่นั่งอยู่ในห้องเอ ใช้คอมของเอนี่แหละครับพิมพ์
พี่เห็นเอonlineทิ้งไว้แล้วไปอาบน้ำ พี่เลยมานั่งดู พี่ไม่กล้าใช้ user ของเอที่เปิดทิ้งไว้ พี่เลยเอาuserนี้เข้ามา
ตอนแรกพี่ตั้งใจว่าจะไม่postในนี้อีกแล้ว  แต่เอกลับมาแล้วก็ไม่ยอมคุยกับพี่เลย  
จะคุยก็ต่อเมื่ออยู่ต่อหน้าอาอี๊ แล้วอย่างนี้เราจะคุยกันรู้เรื่องเหรอครับ
ขนาดพี่ขออาอี๊นอนค้าง เอยังจะไล่พี่ไปนอนที่ห้องอื่นเลย
พี่มาpostฟ้องทุกคนที่กำลังลุ้นเป็นกำลังใจให้คู่ของเรานะครับ
คืนนี้ถ้าเอยังไม่ยอมพูดกับพี่ พี่จะจัดการกับเอขั้นเด็ดขาดนะครับ พี่คิดว่าทุกคนในนี้คงอยากให้พี่ทำอย่างนั้น
พรุ่งนี้วันศุกร์แล้วนะครับ พี่จะไปหนองคายไปเยี่ยมย่า ถ้าเอไปด้วยแสดงว่าความสัมพันธ์ของเรายังจะเดินต่อไปนะครับ แต่ถ้าเอไม่ไปด้วยแสดงว่าคงถึงเวลาจบของเราสองคนเหมือนกันนะครับ แล้วพี่จะมาคอยตอนบ่ายสามโมงที่บ้านอาอี๊นะครับ

ตอนนี้พี่เข้าใจเอทุกอย่างแล้วครับ  พี่อยากให้เรากลับไปเป็นเหมือนเดิมนะครับ
เอครับ พี่ขอโทษ  ถึงแม้ไม่รู้ว่าพี่ทำอะไรผิดก็ตาม แต่พี่ก็ขอโทษเอด้วยแล้วกันนะครับ

ปล.พี่ไปนอนห้องข้างๆนะครับ พี่ไม่กวนใจเอแล้วครับ ถ้าอยากคุยกับพี่ก็ไปเรียกได้ตลอดนะครับพี่จะคอยถึงเช้า ถ้าเช้าไม่มา พี่จะมาคอยตอนบ่ายสามโมงนะครับ

maabbdo

  • บุคคลทั่วไป
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 16-07-2008 15:17:40 โดย maabbdo »

Normalblue

  • บุคคลทั่วไป
โอ้โห :o

ทำไมพี่เกียร์ผมโหดร้ายใช้มาตรการแตกหักเลยหละครับ
คบกันมา 7 ปีบอกเลิกกันวันเดียว   แคลคูลัสไม่ช่วยอะไรพี่เลยเหรอครับ
ผมว่า Optimization ใน Math1 พี่น่าจะกลับไปทบทวนนะครับ เพ่
อย่าหาว่าน้องใจร้ายสั่งสอนพี่เลยนะ :a4:

แต่พี่น้องครับ...  ผมเชียร์พี่ๆ ทั้งสองคนนะครับ...  ผมเสียดายอย่างมาก
ที่ผมไม่รู้ว่าพี่ๆ เป็นใคร  ทั้งๆ ที่ตอนที่พี่อยู่ผมก็ไม่เคยสนใจว่าพี่จะเป็นนายก  นาเย็กอะไร
แถวพลาดไม่ได้ดูรูปพี่ๆ ตอนต้นๆ อีก  ช่างโชคร้ายอะไรยังงี้

รู้งี้มาอ่านไวกว่านี้ซักเดินนึงคงดี  แต่นี่ก็เร่งอ่านแล้วนะครับ  วันละ 10 ตอนเห็นจะได้ T-T ตาแทบปลิ้น

จะยังไงก็  ขอใช้ไสยศาสตร์ครอบงำ  โอม  จงคืนดีกัน  จงไปนอนด้วยกันซะดีๆ :oni3:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






A_wAy_G_mAn

  • บุคคลทั่วไป
 :angry2:ไอ้พี่นิคผีบ้บบบบบบ้า  มาห้องเขายังมาใช้คอมเขาว่าเขาอีก  คนอะไรชอบฉวยโอกาส

ดีไปนอนห้องอื่นเลย :o ทีหลังไม่ต้องมาเข้าทางอาอี๊ของเขาเลย

วันนี้ยังไงก็ไม่พูดด้วย ใครจะทำไม  จ้างก็ไม่กลัวจะล็อคห้องนอนด้วย :m20:

น้องวิลก็รู้เห็นเป็นใจให้เขาอยู่นั่นแหละ o12 ปล่อยให้เขาใช้ชื่อตัวเองมาว่าพี่อยู่ได้ ไหนว่าเป็นน้องที่ดีไง




พรุ่งนี้จะไปเยี่ยมคุณย่าด้วย เห็นแก่คุณย่าหรอกนะ ไม่ได้อยากไปเพราะใคร อย่าเข้าใจผิด :m14:

a22a

  • บุคคลทั่วไป
คุณ เอ คับผมอยากให้ คุณ เอ ลองกลับไปอ่านบทที่ยี่สิบสี่(ตอนตามหาหลายๆรอบนะคับมันจะมีอะไรหลายๆอย่างในที่ คุณ เอ เขียนใว้)แยะมากค่อยๆอ่านแล้วค่อยๆคิดไปตามตัวอักษ
ยิ่งตอนที่คุณ เอ ได้เจอ คุณ นิคนะคับคุณมีความรู้สึกอย่างไรตอนนั้นลองคิดดูนะคับ ก่อนที่จะตัดสินใจทำร้ายตัวคูและคนที่คุณรักคับ เป็นกำลังใจให้ทั้งคู่นะคับ :L2:

Normalblue

  • บุคคลทั่วไป

ออฟไลน์ DeShiWa

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4332
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +150/-9
 :L2: :L2: :L2: :L2: :L2: :L2:

อ่าครับผม ไม่รู้ว่าพี่เอกับพี่นิคมีปัญหาไร

แต่ผมก็อยากให้กลับมารักกันเหมือนเดิมนะครับผม

รักพี่เอกับพี่นิค ครับ

 :L2: :L2: :L2: :L2: :L2: :L2:

ออฟไลน์ wan

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5575
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +643/-10
 :m29: เหงื่อ ตกเลย แต่ก็ต้องลุ้นกันต่อไป แต่ฟังดูน้ำเสียง ( ตัวหนังสือ ) มีลางบอกเหตุ ว่า :m12:

พี่นิคใจเย็นไว้ อย่าพึ่งพลีพลาม ยังไงก็  :a2:  มองโลกในแง่ดี

ความรักนั้นบริสุทธิ อยู่ที่ใครจะนำมันไปกระทำอย่างไร แต่มันก็ยัง :L1: อยู่นั่นเอง

เป็นกำลังใจให้ทั้ง 2 คนนะครับ  ผมเองเคยเจอเหตุการณ์อย่างนี้มาแล้ว ใช้ความอดทน  เหตุผล และความรู้สึก 

ของคำว่า  :L1: จนในที่สุด มันก็ผ่านไปได้ด้วยดี  พยายามต่อไปพี่นิค ของน้องเอ  ( เชียร์อย่างนี้น้องเอ

จะโกรธผมหรือเปล่าวา ) พี่นิค สู้ ๆๆๆๆ

อยากให้น้องเอ อ่านบทที่ 24 ดูหลาย ๆ เที่ยวนะครับ  รักนายทั้ง 2 คน  :L2: :L2: :bye2:

 

A_wAy_G_mAn

  • บุคคลทั่วไป
อรุณสวัสดิ์ครับ

ผมนิคเองนะครับ ไม่ใช่เอ(เด็กดื้อ)ที่รักของผมนะครับ

เห็นผมใช้ user ของเอแบบนี้ได้แล้วก็แสดงว่าผมกับเอเขา เราสองคนตกลงกันเรียบร้อยแล้วครับ
กว่าเอเขาจะยอมเปิดประตูมาคุยกับผม ปล่อยให้เคาะประตูเรียกเกือบ2ชม.
พอเราคุยกันปรับความเข้าใจกันทุกอย่างก็ดีขึ้นครับ
ทั้งหมดนี้มีบางส่วนที่ผมได้มาจากแง่คิดดีๆและกำลังใจในบอร์ดแห่งนี้ครับ
ผมเลยรีบเอาข่าวดีนี้มาแจ้งครับ ขอบคุณทุกท่านมากนะครับ
ผมต้องขอตัวไปนอนก่อนนะครับ ยังไม่ได้นอนทั้งคืนเลย
ส่วนเจ้าตัวหลังยอมคุยกับผม ยอมบอก pass ผมก็นอนหลับปุ๋ยไปเรียบร้อยแล้วครับ
คงเพลียขับรถมาครึ่งวัน มาอดนอนอีกทั้งคืน
ยังไงผมจะช่วยปลุกตอนสายๆให้มานั่งแต่งนิยายให้พวกคุณๆได้อ่านต่อนะครับ


ปล.เอครับ พี่อยากให้เอเอาเรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมดในตอนนี้มาเขียนเป็นนิยายจังเลยครับ  โดยเฉพาะตอนแก้ปัญหา พี่ว่าคงสนุกดีพิลึก

A_wAy_G_mAn

  • บุคคลทั่วไป
ผมลืมบอกไปอีกเรื่องหนึ่งครับ
คนที่ชื่อ บีม ใช้ user bm_boy
ผมส่ง E-mail พร้อมเบอร์โทรของผมไปในข้อความส่วนตัวของคุณแล้ว
ผมว่าเรามีหลายเรื่องที่ต้องเคลียร์กันนะครับ

ปล.เคลียร์กันอย่างศักดิ์ศรีเกียร์มอดินแดงเลยไอ้น้อง
ส่วนคนอื่นที่คิดจะยุ่งกับเอผมขอเตือนไว้ก่อนนะครับ
เด็กวิดวะมอขอไม่เคยยอมใครง่ายๆ ถ้าใครอยากลองก็เชิญได้ครับ

A_wAy_G_mAn

  • บุคคลทั่วไป
สุดท้ายที่ลืมไม่ได้ครับ
ผมขอบคุณคุณวิลมากนะครับ
ที่ช่วยเหลือในหลายๆเรื่อง
ตอนพิมพ์อยู่นี่ก็ยัง online คุยกันอยู่เลยครับ
เอาเป็นว่าคุณวิลเป็นน้องชายของพี่เอ ก็มาเป็นน้องชายของพี่นิคอีกคนนะครับ
กลับมาจากอเมริกาเมื่อไหร่งานนี้พี่จะเลี้ยงฉลองให้เองครับ

ปล.ไม่ไหวแล้วครับ เริ่มตาลาย ง่วงชะมัด ขอตัวไปนอนก่อนนะครับ
แล้วผมจะเข้ามาเยี่ยมบ่อยๆนะครับ ....... nick'a

marchmenlo

  • บุคคลทั่วไป
 :m4: :m4: อ่ะน่ะ เยี่ยม ๆ พี่นิด  ยินดีด้วยคับผม

ถึงไม่ใช่เด็กมอดินแดง แต่เด็กเทคโนไทย ก็ขอเชียร์ด้วยคนละกันคับ  :laugh: :laugh:

ออฟไลน์ kdds

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1471
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +40/-5
 :mc4: :mc4: :mc4: :mc4:
เย้ๆๆๆๆ ดีกันแย้ววววว คนอ่านก็สุขใจตามไปด้วย
นอนพักผ่อนเยอะๆ ขับรถเดินทางปลอดภัยจ้า

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






NighT

  • บุคคลทั่วไป
กว่าจะดีกันได้
ลุ้นแทบตายเลย o7 o7

มารอตอนต่อไปคับ

เปนกำลังจัยหั้ยคับ

ปล.น่าอิจฉาคู่นี้จิง จิง :laugh: :laugh:



jurassic

  • บุคคลทั่วไป
 :L2:....ยินดีด้วยนะค่ะ ที่ทำความเข้าใจกันได้อย่างดี....

ความเข้าใจเป็นสิ่งแรกๆ ของความรักเลยนะเนี่ยะ

ขอให้ทั้งคู่มีความรักที่ดีๆ อย่างนี้ตลอดไปนะค่ะ ((จะได้มีมาบอกกล่าวกันที่บอร์ดนี้เรื่อยๆ อ่ะ...หุหุ))

ดูแลสุขภาพด้วยนะค่ะ

ออฟไลน์ [€]ŝĊörŦ

  • ความพยามครั้งที่100 ดีกว่าคิดท้อถอยก่อนที่จะทำ
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2077
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +142/-0
เย้ๆ...

ยินดีด้วยครับที่คืนดีกันแล้ว

ขอให้รักกันมากๆ ขึ้นไปอีกนะครับ

เป็นกำลังใจให้พี่นิค และพี่เอ คับ

 :L2:    :m1:   :L2:

ออฟไลน์ THIP

  • Global Moderator
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7674
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +986/-10
ยังตามอ่านไม่ทัน
แต่มาเป็นกำลังใจให้น้องวิศวะมอขอก่อน  :oni2: :oni2:

@#Jackie#@

  • บุคคลทั่วไป
ดีแล้วครับ ค่อย ๆ แก้ปัญหากันไป  :L2: :mc4:

ปัญหาทุกอย่างมีทางออกเสมอ  :m4: :m1:


Normalblue

  • บุคคลทั่วไป
ป๋มโดนของไปเต็มๆ...  ไม่รู้ว่าวิญญาณแววูฟที่ไหนสิงร่างพี่นิค  หาว่าผมเจ๊อะแจ๊ะพี่เอซะงั้น

น้องเกียร์ไม่ปีนเกลียวครับ (แต่ต่อบันไดขึ้นไปตรงๆ เลย  จะได้ไม่เวียนหัววนรอบๆ) :a3:

แต่จริงๆ แล้วผมไม่ได้เป็นปลื้มขนาดนั้นนะครับ :sad2:  แค่ผมอยากรู้จักว่าเป็นใคร...

ให้ตายเุถอะครับ  บอกตรงๆ ก็ได้  ที่อ่านมาเนี่ยสดุดเพราะดันเป็นเรื่องของรุ่นพี่ผมเอง  ผมเลย

สนใจพิเศษ  อ่านมาก็งงเอง อืม...  รุ่นพี่ตูๆๆ  โชว์ได้เว้ย...   o13

แต่ก็ดีใจกับพี่สองคนด้วยครับ  ขอให้สมรักกันไวๆ  ส่วนน้องนั้นก็เดินตามทางสายกลางต่อไป


    ใครรู้บ้างเอ่ยว่าไอสไตน์เป็นยิว  แต่เขาเคยเอ่ยไว้ว่า  หากเขาจะนับถือศาสนาซักศาสนา
เขาจะเลือกศาสนาพุทธ  เพราะคำสอนของศาสนาพุทธ ตั้งอยู่บนหลักเหตุและผล
แล้วพี่ๆ ว่าไงอะ???

ออฟไลน์ fc_fic

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2590
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +84/-7
 :m4: :m4: :m4:  ดีใจกับ น้องเอ+นิค ด้วยที่ดีกันแล้ว  ขอให้รักกันตลอดไปน๊า :m4: :m4: :m4:

 :L2: :L2: :L2: :L2: :L1: :L1: :L1:

three

  • บุคคลทั่วไป
ขอให้มีความสุขทั้งคู่นะครับที่สำคัญเดินทางไปเยี่มคุณย่าของพี่นิคดีๆนะครับผม :L2:

ken_krub

  • บุคคลทั่วไป

sarin

  • บุคคลทั่วไป
 :m4:ดีจัยด้วยคร้าบ...ที่เคลียร์กันด้ายแร่ะ :กอด1:
เอ่อ..พักผ่อนบ้างค้าบ...อย่าหักโหม..อิ.อิ.
ปายแร่ะ :m32:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด