นิยายรักของขวัญ 7 ปี <หนุ่ม IT กับ DJ สุดหล่อ>
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: นิยายรักของขวัญ 7 ปี <หนุ่ม IT กับ DJ สุดหล่อ>  (อ่าน 542298 ครั้ง)

Normalblue

  • บุคคลทั่วไป
ถึงหน้า 36 แล้ว  กำลังตามทันแว้ว  o13

ว่าแต่พี่เกียร์ผมหายไปไหน  ไม่เข้ามาสร้างสีสรรค์ให้กันหน่อยหละครับ

อยากให้พี่แกคอยเป็นคอนเมนเตเตอร์แต่ละบทๆ คงจะได้อรรถรสไปอีกแบบ

ปล.สมัครแล้วก็รู้จัก Log in หน่อยนะเพ่  ใช้ของคนอื่นมันไม่ดีนะ

จากน้องเกียร์

A_wAy_G_mAn

  • บุคคลทั่วไป
 :oni1: :oni1:มาต่อเรื่องให้ก่อนนะครับ

แล้วพรุ่งนี้สายๆจะเข้ามาตอบเม้นท์ครับ

พอดีออกจาก รพ.ตอนสองทุ่มกว่าๆ เลยมานั่งแต่งต่อให้เสร็จ อาการคุณย่าของพี่นิคน่าเป็นห่วงมากครับ :o12:




p.s. น้องวิลอย่าคิดมาก พี่แค่ล้อเล่น (ตอบกลับเป็นภาษาไทยได้ป่าวอ่ะ หรือว่าต้องเป็น Eng )

A_wAy_G_mAn

  • บุคคลทั่วไป
บทที่ยี่สิบห้า --- ข้อตกลง

หลังจากที่ผมกับพี่นิคตกลงปลงใจว่าจะคบกันในฐานะแฟนอย่างเป็นทางการแล้ว ผมก็ทำตัวของผมตามปกติทุกอย่าง มีแต่พี่นิคแหละที่บ้างครั้งทำตัวงอแงขี้อ้อนขึ้นเหมือนเด็กเวลาที่เราอยู่ด้วยกันสองคน บางครั้งก็แสดงอาการเอาอกเอาใจหรือออกอาการหึงหวงผมจนออกนอกหน้านอกตาจนเป็นที่ผิดสังเกตในหมู่เพื่อนหรือคณะคนทำงานด้วยกัน แต่เวลาเป็นการเป็นงานพี่นิคก็คงยังจริงจังและชอบดุผมว่าผมอยู่เป็นประจำ ชอบทำเสียงเข้มๆดุๆใส่อีกด้วย

ผมตัดสินใจเข้าไปทำงานในองค์การอีกครั้งหลังจากห่างหายไปเกือบสองเดือน  เรื่องที่ผมคบกับพี่นิคมีไม่กี่คนที่รู้ นอกนั้นก็เข้าใจว่าผมกับพี่นิคสนิทกันแบบพี่น้องที่รู้ใจกัน แม้ทางบ้านผมกับทางบ้านพี่นิคก็คิดยังนั้น เพราะเราสองคนยังแคร์สังคมอยู่มากในเรื่องนี้ เราไม่เคยคุยตกลงกันเรื่องการวางตัวต่อกันอย่างไร แต่เราทั้งสองก็รู้ดีว่าควรทำตัวต่อกันอย่างไรและเมื่อไหร่

(คนที่รู้เรื่องผมกับพี่นิคในตอนนั้นก็มีพี่หมอที พี่เก่ง พี่แป้ง หนึ่ง ไอ้อ๊อฟ สองคนหลังนี้เรียกว่าเป็นที่ปรึกษาให้ผมเลยก็ว่าได้ครับ ส่วนตอนนี้ก็มีพวกคุณๆที่กำลังอ่านอยู่เต็มไปหมดเลย -- จะดีใจดีไหมนี่)

เวลาส่วนใหญ่ของผมก็หมดไปกับการเรียน การทำกิจกรรมขององค์การซึ่งมันเป็นเวลาที่ผมได้อยู่ใกล้กับพี่นิค นอกจากเวลาส่วนตัวของเราสองคน เวลาพี่นิคไปจัดรายการก็ชอบหิ้วกระเตงผมไปด้วยทุกทีซิน่า ส่วนพี่แป้งก็ยังเจอนัดทานข้าวกันและเป็นเพื่อนที่ดีต่อกันบางทียังแซวผมเรื่องพี่นิคและแซวว่าจะแย่งผมมาจากพี่นิค หรือแย่งพี่นิคไปจากผมเลย  พี่หมอทีก็เป็นพี่ชายที่แสนดีเหมือนเดิมวางตัวอย่างดีเสมอต้นเสมอปลายจนบางครั้งผมกับพี่นิคเองรู้สึกอึดอัดแทนเจ้าตัว
ส่วนพี่เก่งก็พบกันน้อยลง ส่วนมากจะพบกันในงานของมหาวิทยาลัยที่พี่เขาไปถ่ายรูป แต่พี่เขาก็วางตัวกับผมได้ดีเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นระหว่างผมกับพี่นิค

“พี่ไม่ชอบกินไอติมเหรอครับ แล้วชวนผมมาทำไม”ผมถามพี่นิคที่เอาแต่จ้องหน้าผมแล้วตักไอติมเป็ปเปอร์มินท์ช็อคชิพรสโปรดเข้าปาก

“ชอบ”พี่นิคตอบสั้นๆแล้วก็เอาแต่จ้องหน้าผมเหมือนเดิมจนผมอายที่จะกินต่อ

“ชอบแล้วทำไมไม่กินล่ะครับ ไอติมละลายหมดแล้ว มานั่งจ้องหน้ากันทำไม”ผมบอกแก้เขิน

“ก็อยากมองเด็กน้อยกินไอติมน่ารักดี ถ้าอยากให้พี่กินก็ป้อนหน่อยดิ่”พี่นิคบอกออกมาหน้าตาเฉย

“ใครกันแน่ที่เด็ก กินไอติมเองก็ยังไม่เป็นต้องให้ป้อน”ผมบอกแล้วก็ตักไอติมรสกาแฟของพี่นิคมาทำท่าจะป้อนแต่ก็เอามาเข้าปากตัวเอง

“ฮ่าๆ สะใจได้แกล้งผู้ใหญ่ที่ทำตัวเป็นเด็ก”ผมหัวเราะแล้วพูดออกมา

“แกล้งใช่ไหม เอามานี่ไม่ต้องกินแล้ว”พี่นิคพูดพร้อมเอามือมาหยิบถ้วยไอติมของผมไปไว้ตรงหน้าตัวเอง

“โธ่......สั่งใหม่ก็ได้”ว่าแล้วผมก็สั่งไอติมรสกาแฟกับเป็ปเปอร์มินท์ช็อคชิพมาอีอย่างละถ้วย พี่นิคเห้นอย่างนั้นก็ไม่ยอมแพ้รีบกินของตัวเองให้หมดแล้วจะมาแย่งของผมไปอีก ผมก็สั่งใหม่อีก ไปๆมาๆกลายเป็นว่าเราสองคนเล่นแข่งกันไอติมกันไปซะงั้น

“โอ้ย....ไม่ไหวแล้ว เย็นท้อง แน่นท้องไปหมดแล้ว”ผมบ่นออกมาหลังจากที่สั่งไอติมถ้วยที่สิบมากินจนหมด เฉลี่ยเรากินคนละห้าถ้วย

“ยอมแพ้แล้วใช่ไหม เล่นกับใครไม่เล่น มาเล่นกับนิค รู้จักน้อยไปซะแล้ว”พี่นิคกล่าวอย่างผู้มีชัย

“พี่นิค เสาร์นี้ผมไม่ไปจัดรายการกับพี่นะ”ผมบอกในท่าที่เอาหลังพิงพนักเก้าอี้เอามือลูบท้องอย่างอิ่มเต็มที่

“อ้าว แพ้แล้วพาลนี่”พี่นิคทำท่าหาเรื่อง

“เปล่า”ผมปฏิเสธ

“แล้วทำไมไม่ไป เบื่อแล้วเหรอ”พี่นิคถามเชิงน้อยใจ

“อืม เบื่อแล้วมั้ง”ผมแกล้งแหย่ต่อ

“เบื่อไปจัดรายการกับพี่ได้ แต่ห้ามเบื่อพี่นะครับ”พี่นิคพูดแล้วยิ้มออกมา แต่ผมทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้ทำให้พี่นิคหุบยิ้มทันที

“ใช่นี่พี่มันน่าเบื่อชอบทำตัวจริงจังชีเรียส ชอบทำเสียงดุ พี่ไม่ได้น่ารักอ่อนหวานอบอุ่นโรแมนติกเหมือนใครเขานี่”พี่นิคน้อยใจว่ากระทบผมชิ่งไปหาพี่แป้ง พี่หมอทีกับพี่เก่ง ทีเดียวสามคนรวด

“งอนเหรอ”ผมถามออกมาอย่างยิ้มๆ (ดีใจที่แกล้งได้สำเร็จ)

“พี่มีสิทธิ์งอนเอด้วยเหรอ”พี่นิคพูดออกมาแต่ไม่มองหน้าผม มองไปทางนอกร้าน

“งอนจริงๆด้วย”ผมแหย่ต่อ

“ไม่ได้งอน คนไม่ได้งอนจะบอกให้งอนได้ยังไง”พี่นิคทำเสียงเข้มแต่ยังไม่มองหน้าผมอยู่ดี

“ว้า.......ว่าจะบอกว่าเสาร์นี้ที่ไม่ไปจัดรายการด้วยเพราะจะกลับชลไปทำบุญร้อยวันให้คุณพ่อ ตอนแรกก็อยากจะมาชวน แต่มีคนงอนแล้วคงไม่อยากไปด้วยแน่ๆ”ผมทำท่าพูดลอยๆขึ้นมา

“อะไรนะครับ ไปครับไป ไปด้วย”พี่นิครีบหันกลับมามองผมอย่างกระตือลือร้น

“จะให้ไปดีไหมน้า.......”ผมเริ่มแหย่ต่อเพราะถือไพ่เหนือกว่า

“พี่ไปด้วยนะครับ....... เอครับ...... พี่อยากไปบ้านเออีก เอไม่อยากพาว่าที่ลูกเขยไปแนะนำตัวอย่างเป็นทางการเหรอครับ”พี่นิคพูดพร้อมทำหน้าทะเล้น

“จะไม่ให้ไปก็เพราะพูดอย่างนี้แหละ”ผมบอกแล้วทำหน้ามุ่ย

“อ่ะๆ ขอโทษครับ ยอมรับผิดทุกอย่าง ขอไปด้วยคนนะ ให้ทำอะไรก็ยอม”พี่นิคทำเสียงสำนึกผิดแล้วอ้อนผม

“ทำอะไรก็ยอมจริงๆนะ”ผมถามซ้ำ

“จริงๆครับด้วยเกียรติของนายกองค์การนักศึกษาขอรับรอง”พี่นิคพยักหน้ารับ

“งั้นจ่ายค่าไอติมนี้ทั้งหมดเลย”ผมบอก

“ได้ครับ ไม่มีปัญหา”พี่นิคบอกพร้อมเรียกพนักงานมาคิดเงิน

“ทั้งหมดสิบถ้วย สี่ร้อยเก้าสิบบาทครับ”พนักงานคิดเงินบอก พี่นิคควักแบงค์ห้าร้อยให้แล้วบอกว่าไม่ต้องทอนเป็นถือว่าเป็นค่าบริการ

“โห.......กินแค่นี้ปาเข้าไปตั้งห้าร้อย ถ้าหนึ่งรู้มันด่าตายเลย นี่พี่ยังใจดีไปทิปให้เขาอีก”ผมบ่น

“ทิปแค่สิบบาทเองเอาเหอะน่า ก็ใครละสั่งมาได้”พี่นิคพูดแล้วมองมาทางผมที่ตอนกินเอาแต่สั่งมาๆ

“อ่ะช่วย”ผมยื่นแบงค์ร้อยให้พี่นิคสองใบ เพราะใจจริงก็อยากหารคนละครึ่งอยู่แล้ว แต่แกล้งทำให้พี่แกเลี้ยงไปอย่างนั้นแหละ

“ไม่เป็นไรครับ แค่นี้พี่เลี้ยงเอได้ ถ้าแค่นี้พี่เลี้ยงเอไม่ได้ ต่อไปข้างหน้าพี่จะเลี้ยงเอได้ยังไง แต่อย่างเอคงเลี้ยงไม่อยาก ข้าวคลุกกับปลาทูก็ได้แล้วมั้ง ใช่ไหมเจ้าแมวเหมียว”พี่นิคพูดตอนแรกทำเอาผมอายตอนหลังมาแอบแขวะผมซะนี่

“คนนะไม่ใช่แมว อย่างน้อยก็ต้องวิสกัสนะถึงจะยอมกิน”ผมรับมุขแล้วก็หัวเราะออกมา

ผมลุกขึ้นเดินออกจากร้าน พี่นิคเดินตามออกมาแล้วมาจับมือผม ผมเลยหยุดเดินแล้วมองไปที่มือ พี่นิคเข้าใจเลยรีบปล่อยมือออกแล้วมาเดินอย่างสงบเสงี่ยมข้างๆผมแทน

...

ผมกับพี่นิคออกเดินทางตอนเย็นวันศุกร์ เพราะงานทำบุญร้อยวันให้คุณพ่อตรงกับวันเสาร์พอดี พี่นิคก็เบี้ยวจัดรายการเป็นส่งเทปจัดแห้งอีกตามเคย มาถึงชลบุรีก็เกือบๆสี่ทุ่ม ผมให้พี่นิคขับรถตรงไปที่บ้านสวนเลย เพราะงานจัดที่บ้านสวนไม่ใช่บ้านหลังใน พอไปถึงญาติๆส่วนใหญ่ก็นอนกันหมดแล้ว ผมเลยพาแนะนำพี่นิคไปไหว้คุณแม่และแนะนำกับญาติๆได้เพียงไม่กี่คน ก็เข้าห้องพักเพื่อพักผ่อนหลับนอน เพราะพรุ่งนี้มีงานแต่เช้า (ที่จริงชวนหนึ่งมาด้วย แต่หนึ่งบอกว่าไม่อยากเป็นก้างขวางคอเลยไม่มา ที่จริงหนึ่งกลับอุดรไปหาแม่)

“อ้าวเอ ทำไมใส่เสื้อสีแดง ทำบุญร้อยวันไม่ใช่เหรอ”พี่นิคบอกหลังอาบน้ำเสร็จแล้วเดินออกมาจากห้องน้ำ ขณะที่ผมกำลังแต่งตัวเตรียมจะลงไปร่วมงานกับวงญาติในยามเช้า

“อืม ใช่  ทำบุญร้อยวันนะคนจีนเขาเชื่อว่าเป็นงานมงคง เป็นงานที่ส่งดวงวิญญาณของคนตายไปสวรรค์ห้ามเศร้าโศก ห้ามพูดเรื่องที่ไม่ดี ห้ามใส่เสื้อผ้าเสือหดหู่ ให้ใส่สีแดง สีสว่างๆ”ผมอธิบาย

“อ้าว แล้วก็ไม่บอก พี่ก็เอามาแต่สีขาว สีดำ สีเทา โทนนี้หมดเลย”พี่นิคบอก

“ไม่เป็นไรหรอกมั้ง เป็นแขกนี่ ไม่ใช่ญาติสนิท”ผมบอกอย่างไม่ได้คิดอะไร

“ได้ไง นี่ลูกเขยเลยนะ เอไม่มีให้พี่ยืมใส่ซักตัวเหรอ”พี่นิคทำพูดเสียงดังอย่างจริงจัง

“พูดเบาๆซิพี่ โอ๊ตอยู่ห้องข้างๆนี้นะ เดี่ยวก็ได้ยินกันหมดพอดี”ผมบอกพร้อมทำหน้าดุ

“ก็พี่พูดจริงๆนี่ หรือเอจะไม่ยอมรับว่าพี่เป็นแฟนเอ เป็นลูกเขยบ้านนี้”พี่นิคยิ่งเหมือนทำใส่ผมพูดเสียงดังขึ้นกว่าเดิม

“พี่นิค!”ผมทำเสียงดังเพื่อขู่ว่าซีเรียสจริงจังไม่ใช่เล่นๆ

“ก็ได้ๆ ไม่แกล้งแล้ว มีเสื้อให้ยืมเปล่าอ่ะ”พี่นิคทำท่าเดินเข้ามาง้อผม

“เดี๋ยวไปขอยืมโอ๊ตให้ แล้วก็รีบแต่งตัวซะ นุ่งผ้าเช็ดตัวเดินไปเดินมาอยู่ได้ เดี๋ยวก็จับปล้ำซะเลย”ผมบอกแซวเล่นแล้วรีบวิ่งออกจากห้องเพื่อไปห้องเจ้าโอ๊ตเพื่อยืมเสื้อสีสดใสมาให้พี่นิค

“แน่จริงอย่าหนีซิ พูดอย่างนี้ขึ้นเลยนะนี่”พี่นิคทำหน้าหื่นๆแล้วพูดไล่ตามหลังผมมา

หลังจากที่เอาเสื้อให้พี่นิคเรียบร้อยแล้วผมก็กำชับพี่นิคว่าวันนี้ญาติมาเยอะอย่าทำตัวประเจิดประเจ้อมากนัก ที่ผมบอกเพราะกลัวว่าพี่นิคจะเผลอแสดงพิรุธอะไรออกมาให้คนอื่นผิดสังเกตได้ว่าเราคบกันมากกว่าพี่น้องที่รู้ใจ

ในช่วงเช้าเจ็ดโมงมีการทำพิธีตั้งไหว้ร้อยวัน ของเครื่องไหว้ทุกอย่างล้วนถูกตกแต่งอย่างสวยงาม ส่วนมากจะต้องมีสีแดงและสีทองเป็นเป็นเครื่องประดับเป็นสีสัน อย่าซาลาเปาที่มีสีขาวก็ต้องหาสีแดงมาจิ้มเป็นจุดแดงๆอยู่ตรงกลาง เทียนที่จุดก็ต้องเป็นสีแดง เหล่าญาติพี่น้องเกือบๆสามสิบคนก็ล้วนแต่ใส่เสื้อผ้าสีแดง สีฉูดฉาดเป็นส่วนใหญ่ ถ้ามองผิวเผินข้างนอกคงคิดว่ามีงานสังสรรแบบว่า Red Day Party แน่นอน

หลังจากตั้งไหว้เสร็จแล้วก็ร่วมรับประทานอาหารเช้าด้วยกันในหมู่วงญาติ พอสายๆใกล้จะสิบโมงก็มีเหล่าญาติและพวกแขกทยอยกันมาเพราะจะมีการทำบุญเลี้ยงพระเพล หลังจากเลี้ยงพระทำบุญให้คุณพ่อเสร็จแล้วก็มีการเลี้ยงแขกที่มาร่วมงาน

จานั้นบ่ายๆก็ทยอยส่งแขกกลับบ้าน งานนี้มีของที่ระลึกเป็น หนังสือที่ระลึกร้อยวันที่เอาหนังสือคู่มือมนุษย์ของท่านพุทธทาสมาแจก เพราะคุณพ่อชอบอ่าน และตามธรรมเนียมความเชื่อของคนจีนเจ้าภาพจะต้องคอยส่งแขกพร้อมเอาส้มสี่ลูกกับน้ำตาลทรายให้แขกกลับบ้านด้วย หน้าที่แจกส้มกับน้ำตาลทรายเป็นของผมกับเจ้าโอ๊ต ที่ต้องคอยเอาให้แขกพร้อมกับกล่าวขอบคุณเป็นภาษาไทยบ้าง ภาษาจีนบ้าง

“ตั่วเจ๊ก กำเชี่ยะ ๆ”เสียงพี่นิคที่มายืนข้างๆผมแล้วช่วยส่งแขก เมื่อแขกเริ่มทยอยกลับกันมากขึ้นจนผมกับโอ๊ตแทบส่งไม่ทัน

“พี่มาทำไม เขาให้แต่ลูกๆมาส่งแขก”ผมกระซิบถามพี่นิค แต่มือก็ยังส่งถุงส้มกับน้ำตาลให้แขกพร้อมกล่าวขอบคุณไปเรื่อย

“ก็พี่เป็นลูกเขยไง ล้อเล่น พี่ถามอาอี๊แล้วบอกว่ามาช่วยได้ พี่ไม่อยากให้เอเหนื่อยมากนี่ครับ”พี่
นิคกระซิบตอบกลับมาแล้วช่วยส่งถุงส้มกับน้ำตาลให้แขกต่อพร้อมพูดขอบคุณเป็นภาษาจีน

“พูดจีนเป็นด้วยเหรอ”ผมถาม

“ก็เขามีแบล็คดีอาจารย์ดี”พี่นิคบอกพร้อมทำตามองไปทางอาอี๊

“พี่เอ ส่งเร็วๆดิ่ ไม่ทันแขกแล้ว มั่วแต่คุยอยู่ได้ พี่นิคยังทำได้ไวกว่าอีก”เจ้าโอ๊ตบอกเร่งผม

“ใช่ๆ มั่วแต่คุยอยู่ได้”พี่นิคผสมโรงกับเจ้าโอ๊ต

“ชิส์ เป็นปี่เป็นขลุ่ยเลยนะตั้งแต่ได้ใส่เสื้อเจ้าโอ๊ตนี่”ผมแอบกัด

“เอ้า ก็น้องโอ๊ตเขามีรสนิยมดีเลือกเสื้อได้สวยใส่แล้วเท่ ไม่เหมือนใครบ้างคนชอบใส่เสื้อเฉิ่มๆทำตัวเอ๋อๆ เน๊อะโอ๊ตเน๊อะ”พี่นิคโยนลูกให้เจ้าโอ๊ต

“ใช่ครับ ชอบทำตัวเอ๋อๆ แล้วอย่างนี้ใครเขาจะมาชอบ แล้วที่นี้ผมจะได้มีพี่สะใภ้กับเขาไหมนี่”ว่าแล้วเจ้าโอ๊ตกับพี่นิคก็หัวเราะ แต่ประโยคหลังทำเอาพี่นิคหัวเราะไม่ค่อยออก

...

หลังจากส่งแขกและเหล่าญาติๆบางส่วนกลับแล้ว ก็เหลือญาติๆอีกเจ็ดแปดคนที่จะค้างคืนแล้วค่อยกลับในวันรุ่งนี้ ผมนั่งพักที่ชิงช้าไม้ใต้ต้นมะยมข้างเรือนชานของบ้านเรือนไทยทรงประยุกต์หลังใหญ่

“เอมาทานข้าวก่อนซิลูก นี่มันจะเย็นแล้วนะ ยังไม่ได้ทานข้าวตั้งแต่เที่ยงเลยนี่”คุณแม่เรียกผมที่ยังนั่งพักอยู่

“ครับเดี๋ยวขึ้นไป” ผมตอบ

“บอกพี่เขา กับโอ๊ตขึ้นมาด้วยนะ สองคนนั้นก็ยังไม่ได้ทานเหมือนกัน”คุณแม่บอก

“ครับ”ผมตอบรับพร้อมมองพี่นิคกับเจ้าโอ๊ตที่แอบไปนอนสงบเหมือดอย่างหมดแรงที่เรือนแพริมน้ำ

“ตื่นๆ ตื่นได้แล้วทั้งสองคนนั่นแหละ คุณแม่เรียกไปทานข้าว”ผมเดินไปที่เรือนแพริมน้ำแล้วปลุกทั้งสองคนตามคำสั่งคุณแม่

“ครับๆ ตื่นแล้ว นอนไปตอนไหนนี่”เจ้าโอ๊ตงัวเงียตื่นขึ้นมาแล้วเดินออกไป
 
“พี่นิคตื่นซิครับ”ผมปลุกพี่นิคที่ยังนอนหลับสนิท ไม่มีเสียงตอบรับ แต่พี่นิคที่แกล้งหลับคว้าตัวผมลงไปแล้วหอมที่แก้มผมหนึ่งที ผมรีบผลักตัวออกทันทีเพราะกลัวโอ๊ตและคนอื่นมาเห็น

“พี่นิค เดี๋ยวโอ๊ตมันก็เห็นหรอก”ผมบ่นออกมาอย่างไม่พอใจ

“ไม่มีใครเห็นหรอก ขออีกทีให้ชื่นใจหายเหนื่อยหน่อย”พี่นิคทำท่าจะหอมแก้มผมอีกแต่ผมยกกำปั้นขึ้นมาแทน

“ลองดูดิ่”ผมบอกพร้อมทำท่าจะต่อย

“แฟนใครว่ะเนี่ยะ โหดชะมัด”พี่นิคบ่นออกมาแล้วลุกขึ้น

“เร็วๆ คุณแม่คอยทานข้าวอยู่”ผมบอกแล้วเดินนำออกไป

...
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 21-06-2008 08:29:23 โดย A_wAy_G_mAn »

christiyaturnm

  • บุคคลทั่วไป
เม้นก่อน อ่านทีหลัง
อิอิ :o8: :o8:

A_wAy_G_mAn

  • บุคคลทั่วไป
                 บทที่ยี่สิบห้า --- ข้อตกลง(ต่อ)

บนโต๊ะอาหารเย็นกับข้าวทั้งไทย จีน ถูกจัดวางไว้ ดังนั้นจึงไม่แปลกที่บนโต๊ะจะมีทั้งจาน ถ้วย ช้อน ส้อมและตะเกียบ เพื่อเลือกใช้ตามความถนัดและชนิดของอาหาร ผู้ร่วมวงอาหารเย็นวันนี้มีตั่วกู๋ ตั่วกิ๋ม อาเตี๋ยว หยี่อี๊ ซาอี๊ โซ้ยเจ็ก คุณแม่ ผม พี่นิคและเจ้าโอ๊ต ส่วนญาติคนอื่นๆ ขอตัวไปทานกันข้างนอกบ้านเห็นว่าจะไปนั่งทานแถวบางแสน  ตอนแรกเจ้าโอ๊ตกับพี่นิคชวนผมไปแต่ว่าผมเหนื่อยๆเลยไม่อยากไปอีกอย่างอยากอยู่กับคุณแม่ด้วย

“คุณตั่วตี๋จะรับเป็นข้าวสวย ข้าวต้ม หรือหมี่เตี๊ยวดีคะ”น้าคนที่เป็นแม่บ้านถามผมหลังจากตักไล่มาตามลำดับอาวุโสแล้ว

“เอาหมี่เตี๊ยวซิอาเอ อากิ๋มลงมือผัดเองเลยนะ”อาตั่วกิ๋มบอก

“คือมื้อเย็นอย่างนี้นะครับอากิม เอเขาไม่ชอบทานอะไรหนักท้องครับ ผมว่าเอาข้าวต้มดีกว่าครับ”ผมที่ยังไม่ทันได้ตอบอะไรก็มีพี่นิคเป็นคนตอบให้แทน น้าแม่บ้านหันมามอง ผมก็พยักหน้าเชิงเป็นสัญญาณว่าข้าวต้มก็ได้

ระหว่างทานข้าวไปก็พากันพูดคุยกันไปเรื่อย พี่นิคคุยเข้ากับทุกคนได้ดี ญาติที่ร่วมโต๊ะก็ชอบใจกันพอควร แต่ว่าพี่นิคเองเริ่มเผลอที่จะแสดงอาการเอาใส่ใจผมเป็นพิเศษออกมาอย่างไม่รู้ตัว จนบางครั้งผมถึงกับวิตกกังวลว่าจะมีใครระแคะระคลายเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างผมกับพี่นิค

“อาเอ นี่กินเยอะๆซิ อยู่ที่ขอนแก่นก็กินนิดเดียว นี่ไก่อบสมุนไพร”หยี่อี๊ใช้ตะเกียบคีบไก่ส่วนที่เป็นเนื้ออกมาให้ผม

“อาอี๊ครับ เอเขาไม่ชอบเนื้ออกหรอกครับ เขาชอบเนื้อน่องครับ งั้นเนื้ออกนี้ผมทานแทนเอนะครับ เดี๋ยวผมตักตรงน่องให้เอใหม่”พี่นิคบอกแล้วทำตามอย่างว่า (จะดีใจหรือเสียใจดีว่ะเนี๊ยะ จะมาทำเป็นคนรู้ใจอะไรตอนนี้ ถ้าญาติๆจับได้มีหวังตายแน่ --- ผมคิดในใจ)

“เอลูก ชิมนี่ดูหน่อยอะไรดีนะ”คุณแม่ตักลูกชิ้นยัดไส้ในแกงจืดมาให้ผม

“เดี๋ยวครับคุณแม่ มีกระเทียมเจียวติดมาด้วย เอเขาไม่ชอบน่ะครับ”พี่นิคบอกแล้วเขี่ยกระเทียมเจียวออกค่อยเอาลูกชิ้นมาให้ผม ( ฉึก—เสียงมีดปักในใจผม พี่นิคแกจะทำอะไรฟ่ะ เดี๋ยวคุณแม่ก็รู้หรอก)

“เอ เอาบัวลอยน้ำขิงล้างปากหน่อยไหม”โซ้ยเจ็กถามผมหลังทานข้าวเสร็จปกติบ้านเราก็จะตามด้วยของหวานกับผลไม้

“เอเขาชอบทานผลไม้มากกว่าครับ”พี่นิคตอบแทนผมอีกแล้ว (ฉึก ฉึก ---มีดสองเล่ม กูตอบเองได้โว้ยไอ้พี่นิค มากเกินไปแล้ว)

“แล้วพี่เอจะเอาแอปเปิ้ลหรือสาลี่ดี”เจ้าโอ๊ตถามต่อทันที

“เอเคยบอกว่าถ้าจะทานผลไม้ให้ทานผลไม้ที่มีรสเปรี้ยวก่อนแล้วค่อยทานผลไม้ที่มีรสหวาน จะได้ไม่เสียรสชาติ งั้นเอาแอปเปิ้ลมาก่อนค่อยต่อด้วยสาลี่”พี่นิคพูด เจ้าโอ๊ตก็ทำตามอย่างว่าง่าย (ฉึก ฉึก ฉึก –มีดสามเล่ม ใจคอจะให้รู้หมดวงศาคณาญาติเลยใช่ไหมไอ้คุณพี่นิค)

ตลอดเวลาที่นั่งอยู่บนโต๊ะอาหารพี่นิคคอยพูดคอยตอบแทนและจัดการให้ผมเกือบหมดทุกเรื่อง แต่ผมทานข้าวอย่างไม่มีความสุขเลย อาจจะเป็นเพราะผมวิตกกังวลหวาดระแวงไปเองก็ได้ที่กลัวคนในครอบครัวจะรู้เรื่องความสัมพันธ์ของผมกับพี่นิค เพราะดูทุกคนก็ยังเป็นปกติ

“แม่ว่าดูนิคเขาจะรู้ใจเอไปทุกเรื่องเลยนะ รู้จักลูกแม่ดีกว่าแม่เองซะอีก”คุณแม่พูดออกมาทำเอาผมเกือบสำลักน้ำ แต่พี่นิคกลับนั่งยิ้มหน้าบานในคำชมของคุณแม่ซะนี่

“นี่ถ้าว่าเป็นผู้ชายผู้หญิงจะต้องคิดว่าข้าวใหม่ปลามันแน่ๆ ดูตานิคทำซิเอาอกเอาใจขนาดนี้”อาตั่วกู๋พูดแซวเล่นๆ แต่ทำเอาผมกัดสาลี่ค้างเลย พี่นิคนั่งยิ้มน้อยยิ้มใหญ่

“นี่ๆ ลื้อยังไม่เห็นตอนไหว้พระจันทร์น้า มีป้อนส้มให้กันด้วย”อาเตี๋ยวผสมโรงแซวเล่นผมหยุดเคี้ยวสาลี่อยู่ในสภาวะกลืนไม่เข้าคายไม่ออกทันที แต่พี่นิคทำท่ายิ้มอายๆ

“มีป้อนส้มในวันไหว้พระจันทร์ด้วยเหรอพี่ มุขนี้ผมขอยืมไปจีบสาวหน่อยนะ”เจ้าโอ๊ตบอก

“อืมเอาดิ่ ไม่สงวนสิขสิทธิ์ ว่าแต่จีบใครอย่าลืมบอกพี่ด้วยนะ”พี่นิคตอบรับ ผมนั่งหน้าบึงยิ้มไม่ออกอยู่ในสภาวะน้ำท่วมปากเหมือนจะขาดอากาศหายใจ

“อานิคอีเป็นคนดี ไปบ้านที่ขอนแก่นหลายครั้งแล้ว อีเป็นดีเจด้วยนะ เสน่ห์อีแรง ใครได้ไปเป็นแฟนคงวาสนาดีมากๆ เสียดายน้า ลูกหลานเราผู้หญิงไม่ค่อยมี ไม่งั้นจะจีบอานิคไว้ให้ซักหน่อย”
อาอี๊บอกเสริมขึ้นมาแล้วทุกคนในโต๊ะก็หัวเราะ ผมเลยต้องฝืนหัวเราะแห้งๆออกไปด้วยเพื่อกลบเกลื่อน

“นิค ยังไงแม่ก็ฝากเอด้วย ช่วยๆดูให้หน่อยนะ แม่อยู่ทางนี้ก็ไกล ทางโน้นก็มีแต่อาอี๊แหละช่วยดูให้”คุณแม่บอก พี่นิคยิ้มกรุ่มกริ่ม (คุณแม่พลาดแล้วฝากปลาย่างไว้กับแมว – แล้วจะหาว่าเอไม่เตือน)

“คุณแม่จะให้พี่นิคเขาช่วยดูพี่เอเรื่องอะไรล่ะ”เจ้าโอ๊ตถามต่อ (ที่จริงนั่งเฉยๆก็ไม่มีใครว่าเป็นใบ้นะโอ๊ต --- ผมคิดในใจ)

“ก็ทุกเรื่องนั่นแหละ ก็รู้อยู่นิ่ว่าพี่ชายเราเป็นคนยังไง น่าห่วงแค่ไหน”คุณแม่ตอบโอ๊ตมีแอบกัดผมด้วยความหวังดีเล็กน้อย

“ระบุไปเลยคุณแม่ ให้พี่นิคช่วยพี่เอเรื่องหาแฟนใช่ม่ะ”โอ๊ตบอกต่อทำเอาทุกคนหัวเราะ (ไอ้โอ๊ตวันนี้ผีเจาะปากมาให้พูดหรือไงฟ่ะ --- ผมคิด)

“ที่จริง เอเขามีแฟนแล้วนะครับ ก็มี........อุ๊บส์”พี่นิคทำท่าจะพูดต่อ แต่ผมเอาเท้ากระทืบเท้าพี่นิคที่
อยู่ใต้โต๊ะอย่างแรงทำให้พี่นิคพูดไม่ออก

“จริงเหรอๆ พี่เอมีแฟนแล้วเหรอ ใครครับพี่นิค บอกผมหน่อย สวยหรือเปล่าครับคนที่จะมาเป็นพี่สะใภ้ผม”เจ้าโอ๊ตทำเป็นดีอกดีใจออกหน้าออกตา ทุกคนหัวเราะอย่างอารมณ์ดี

“เงียบไปเลยโอ๊ต พี่นิคด้วย”ผมบอกออกมาเบาๆแล้วผมก็กระซิบบอกพี่นิคว่า “หลังอาหารเรามีเรื่องต้องคุยกัน” แล้วพี่นิคก็ทำท่าไม่รู้ไม่ชี้

................................................................................................

หลังผ่านบรรยากาศการทานข้าวที่ผมกระอักกระอ่วนแล้ว  ผมรีบเก็บตัวหนีเข้าห้องเปิดคอมเล่นเกมระบายอารมณ์ทันที ปล่อยให้พี่นิคกับพวกญาติๆนั่งคุยกันต่อ

“ครอบครัวเอนี่น่ารักดีเน๊อะ คุยเก่งทุกคนเลย ไม่เหมือนเอ ว่าไง ทำไรอยู่จ๊ะที่รัก”พี่นิคเดินเข้ามาแล้วล้มตัวนอนลงบนเตียง

ผมได้ยินคำว่าที่รักถึงกับหันมามองพี่นิคอย่างเขม็งแล้วทำหน้าไม่พอใจใส่ที่พี่นิคพูดออกมาเสียงดัง

“ไหนมีเรื่องอะไรที่เราต้องคุยกัน ต้องคุยแบบตัวต่อตัว เสื้อผ้าไม่เกี่ยวหรือเปล่าน้า”พี่นิคยังทำหน้าทะเล้นพูดออกมาอย่างอารมณ์ดี

ผมปิดคอมแล้วเดินมานั่งบนเตียง พี่นิคคงสังเกตท่าทีที่จริงจังของผมเลยลุกขึ้นนั่งตาม

“อ่ะ มีอะไรว่ามาพร้อมจะฟังแล้ว”พี่นิคบอก

“พี่ ผมว่าเรามาสร้างข้อตกลงกันดีกว่า”ผมบอกด้วยน้ำเสียงจริงจัง

“ข้อตกลงอะไร ต้องลงนามเซ็นในนามนายกองค์การด้วยหรือเปล่า พี่ไม่ได้เอาตราประทับประจำตำแหน่งมาด้วยนะ”พี่นิคทำเป็นพูดเล่น

“พี่ครับ ผมจริงจัง ถ้าพี่อยากคบกับผมต่อเราต้องมีข้อตกลงกัน ไม่อย่างนั้นก็เลิกคบ”ผมยื่นคำขาด

“ทำไมต้องมีข้อตกลงอะไรด้วย พี่ว่าข้อตกลงอะไรก็ไม่สำคัญเท่ากับข้อตกลงในสัญญาใจของเราที่มีให้กันหรอก”พี่นิคพูดด้วยน้ำเสียงที่ธรรมดาแต่แฝงไปด้วยความจริงจัง

“ก็อย่างนั้นใครๆก็พูดได้ แต่ผมอยากให้มันเป็นรูปธรรมมากขึ้นอ่ะครับ”ผมบอก

“งั้นข้อตกลงอะไรว่ามา”พี่นิคถามพร้อมหันมามองผม

“พี่ก็รู้ว่าทางบ้านครอบครัวผมเขาคาดหวังมุ่งหมายอะไรกับผมไว้บ้าง ในฐานะลูกชายคนโตของครอบครัว ถึงแม้ว่าผมจะยอมรับตัวเองได้ว่าผมเป็นอะไร แต่ผมยังแคร์ความรู้สึกคนรอบข้าง แคร์คุณแม่แคร์โอ๊ตแคร์สังคมที่ผมอยู่  ผมอยากให้พี่วางตัวเวลาอยู่กับผมต่อหน้าคนอื่นให้เหมือนเราเป็นแค่พี่น้องกัน อย่าแสดงออกไปมากกว่านี้ อย่าให้เหมือนวันนี้ที่พี่ทำบนโต๊ะอาหาร”ผมก้มหน้าบอกออกมา

“เอครับ เอคิดมากไปหรือเปล่า วันนี้ที่โต๊ะอาหารทุกคนก็เล่นๆสนุกๆกัน อีกอย่างเรื่องหน้าที่ของเอพี่เข้าใจดีครับ พี่เองก็ไม่ต่างอะไรไปจากเอเท่าไหร่หรอกครับ เป็นลูกชายคนเดียว ไหนจะหน้าตาทางสังคม ตำแหน่งการงานหน้าที่ของพี่ที่ทำอยู่ พี่ยอมทำตามข้อตกลงนั้นครับ แล้วต่อไปพี่จะระวังการวางตัวของพี่ให้มากขึ้นครับ พี่เสียใจนะครับที่ความหวังดีของพี่ในวันนี้มันเหมือนเป็นการทำร้ายจิตใจของเอ มีข้ออื่นอีกไหมครับ”พี่นิคพูดออกมาเสียงเศร้าๆ ทำเอาผมพูดเกือบไม่ออก

“ก็อย่างที่รู้ๆอยู่ว่า ทั้งผมกับพี่ต่างมีหน้าที่ต้องทำคล้ายๆกัน ถ้าวันไหนเราต้องจากกันเพื่อไปทำตามหน้าที่ลูกที่ดี ขอให้บอกกันตรงๆ แล้วเรายังจะเป็นพี่น้องที่ดีต่อกัน ไม่ทะเลาะกัน ไม่ทำประชดใส่กัน พร้อมที่จะให้ต่างคนต่างไปตามทางหน้าที่ของแต่ละคนนะครับ”ผมบอกออกมาแล้วน้ำตาก็เริ่มไหล

“ตกลงครับ แต่พี่ว่ามันจะต้องไม่มีวันนั้น อย่าขี้แยซิ”พี่นิคเอามือมาเช็ดน้ำตาให้ผมแล้วจับคางผมให้เงยหน้าขึ้นพร้อมกับค่อยๆก้มหน้าตัวเองลงมาจะจูบที่ปากผม

“เดี๋ยว! ยังไม่หมด”ผมรีบพูดพร้อมขยับตัวหนี (พี่นิคคงคิดในใจว่าจบนิยายเรื่องนี้กูจะได้จูบไหมว่ะเนี่ยะ จะจูบที่ไรถูกขัดจังหวะทุกที พี่นิคคงหมั่นไส้ผมเต็มทน แต่ผมสะใจ 555+)

“อะไรอีกอ่ะ”พี่นิคทำเสียงงอแงเหมือนเด็กไม่ได้ดั่งใจ

“ก็เรื่อง.... เรื่อง.....อะไร...อะไร...อย่างว่าอ่ะ.....ทั้งหมดผมเป็นคนพิจารณาตัดสินใจเองทั้งหมด พี่นิคไม่มีสิทธิ์เกี่ยวข้อง”ผมบอกแบบอายๆ

“โห...ต้องตกลงกันถึงเรื่องนี้ด้วยอ่ะ”พี่นิคบ่น

“ไม่ได้หรอกก็พี่อ่ะเจ้าหมาป่าเจ้าเล่ห์ ชอบฉวยโอกาส เอาอย่างนี้นะถ้าเป็นวันพระ ก่อนวันพระ หลังวันพระ สามวันนี้ห้ามมีอะไรเด็ดขาดแม้กระทั่งจูบ หอม จับมือ ส่วนวันอื่นๆให้ผมพิจารณาเองทั้งหมด”ผมบอกออกมาอย่างสนุกไม่ได้คิดอะไรมาก

“โห............ไรว่ะ ทำอย่างนี้มาฆ่าพี่ให้ตายเลยดีกว่า แต่วันนี้ไม่ใช่วันพระ ก่อนและหลังวันพระด้วย แล้ววันนี้เอพิจารณาว่ายังไงคร้าบบบบบบ”ตอนแรกพี่นิคทำเสียงเหมือนจะตาย ตอนท้ายทำเสียงอ้อนมากๆ

“วันนี้พิจารณาแล้วว่าเราสองคนต่างคนต่างนอน ห้ามถูกเนื้อต้องตัวกันเด็ดขาด ไม่งั้นเลิกคบ”ผมได้ทีขี่แพะไล่

“ไรอ่ะ ตอนไม่คบกันยังได้จูบหน้าผาก พอคบกันแค่จับมือก็ไม่ได้”พี่นิคบ่นกระปิดกระปอย

“งั้นเลิกคบก็ได้นะครับ ตอนนี้เลยก็ได้”ผมท้าเพราะรู้ว่าพี่นิคไม่เลิกแน่ๆ

“ก็ได้ๆ ทีใครทีมัน แล้วถ้าถึงเวลานั้นอย่ามาเรียกร้องหานิคน้อยนะ”พี่นิคทำเป็นขู่ ทำเอาผมเขิน

“แล้วพี่ไม่มีข้อตกลงกับผมบ้างเหรอครับ”ผมถามแก้เขิน

“ก็อะไรดีล่ะ เอานี่แล้วกัน ต่อไปนี้เอมีเรื่องอะไรไม่ว่าจะเล็กเรื่องใหญ่ขอให้เอบอกพี่ทุกเรื่อง อย่าปิดบัง อย่าเก็บไว้คนเดียว เพราะเราทั้งสองคนต้องทำงานกับคนมากหน้าหลายตา ความไว้ใจกัน เชื่อใจกัน เป็นสิ่งสำคัญที่สุด เราจะไม่มีความลับอะไรต่อกัน”พี่นิคบอก

ความลับ คำนี้ทำให้ผมสะดุดคิดเรื่องที่พี่หมอทีกับพี่นิคเป็นแฟนกันขึ้นมาทันที ผมยังสงสัยว่าทำไมทั้งสองคนนี้ถึงเลิกกัน เพราะผมเป็นมือที่สามจริงๆหรือเปล่า

“ก็ได้ครับผมตกลง งั้นผมขอใช้สิทธิ์ข้อตกลงข้อพี่นิคก่อนเลย คือผม......ผมอยากรู้เรื่อง......ความลับระหว่างพี่......กับ....พี่หมอที.......งว่าทำไมถึง.....ถึง....เลิกกันครับ”ผมตัดสินใจถามออกไป พี่นิคที่กำลังทำหน้าซึ้งเปลี่ยนเป็นสีหน้าจริงจังขึ้นมาทันที

“คือ.....คือ....ถ้าพี่ไม่สะดวกพูด..ก็ไม่เป็นไรนะครับ  ผมไปอาบน้ำดีกว่า”ผมบอกแล้วลุกขึ้นจะเดินไปอาบน้ำ แต่พี่นิคก็พูดต่อทำให้ผมนั่งลงฟังต่อ

“คือเรื่องมันก็เกิดจากพี่เองแหละ ตอนปีหนึ่ง หมอทีเป็นพี่เลี้ยงน้องใหม่ให้กับกลุ่มของพี่ พี่เองไม่เคยได้ออกจากบ้านมาเจอกิจกรรมอะไรอย่างนี้ ก็รู้สึกดีและประทับใจมาก ตอนนั้นหมอทีดูแลน้องๆทุกคนในกลุ่มได้เป็นอย่างดีเสมอกันทุกคน จนวันที่สามของการเข้ากลุ่มสัมพันธ์พี่ทำกระเป๋าเงินหาย หมอทีเป็นเดือดเป็นร้อนแทนพี่มาก พาพี่ไปหาจนเจอ ตั้งแต่นั้นมาพี่ก็สนิทกับหมอทีมากขึ้นแต่ตอนนั้นพี่ประทับใจในความเป็นรุ่นพี่ที่ดีมากกว่า หมอทีเองก็ไม่คิดเกินเลยไปมากกว่าน้อง จนพี่ได้มารู้จักกับไอ้ริชแล้วไปห้องที่คอนโดของมันทำให้พี่รู้ว่าหมอทีอยู่ข้างๆห้องของไอ้ริช วันไหนว่างๆพี่ก็จะไปเล่นที่ห้องหมอทีบ้าง ชวนกันไปกินข้าวดูหนังบ้าง ตอนนั้นพี่ยังเรียกหมอทีว่าพี่หมออยู่เลย”พี่นิคเล่ามาถึงตอนนี้แล้วก็หยุดลง

“แล้วทำไม........”ผมว่าจะถามแต่ตัดสินใจไม่ถามดีกว่า ปล่อยให้พี่นิคเล่าเอง

“หมอทีรู้ว่าพี่มีความใฝ่ฝันอยากเป็นดีเจ เขาก็จัดหาพาพี่ไปออดิชั่นจนผ่าน จนพี่ได้เป็นดีเจ ตอนนั้นเพิ่งเริ่มขึ้นปีสองได้มั้ง หมอทีก็อยู่ปีสาม ด้วยความที่พี่เองก็เป็นเดือนคณะ หมอทีเองก็เป็นเดือนคณะ เวลาไปไหนมาไหนด้วยกันเลยมีเสียงหนาหูมากขึ้นว่าพี่กับหมอทีมีความสัมพันธ์แอบแฝงอย่างลึกซึ้ง ยิ่งตอนที่พี่มาเป็นดีเจแล้วเริ่มดังข่าวนี้ก็หนาหูมากขึ้น จนพี่รู้สึกกดดันมาก  พี่เองพยายามหลบหน้าหมอที ไม่ไปไหนมาไหนด้วย พอดีช่วงนั้นก็กำลังเป็นช่วงปลายภาคเทอมสองที่พี่จะลงสมัครนายกองค์การด้วย พี่ทนกระแสกดดันพวกนั้นไม่ไหว พี่เลยไปหาหมอทีที่ห้อง แล้วคุยให้มันรู้เรื่องไปเลย พี่ถามหมอทีตรงๆว่าหมอทีคิดยังไงกับพี่ หมอทีก็ได้แต่บอกว่าขอโทษที่ปล่อยให้ความสัมพันธ์มันเกินเลยพี่น้อง ตอนนั้นพี่ก็รู้ตัวเองแล้วแหละว่าชอบหมอที แต่ด้วยกระแสกดดันหลายๆอย่างทำให้พี่ยอมรับตัวเองไม่ได้  พี่กลัวว่าพี่จะต้องเสียงานดีเจที่อยากทำ กลัวเสียตำแหน่งนายกที่พี่เพิ่งจะลงสมัครไปเพราะทั้งสองอย่างนี้มันเป็นความฝันของพี่ พี่บอกกับหมอทีว่าเกินเลยพี่น้องก็แสดงว่าเราเป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน พี่เลยเลิกเรียกพี่หมอ มาเรียกหมอทีตั้งแต่ตอนนั้นเป็นต้นมาจนถึงเดี๋ยวนี้เพื่อตอกย้ำความเป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน”พี่นิคเล่า

ผมที่นั่งฟังน้ำตาไหลสงสารพี่นิคที่ต้องทิ้งความรักมาทำความฝันให้เป็นจริง สงสารพี่หมอทีเมื่อเวลาได้ยินพี่นิคเรียกหมอทีจะเจ็บในใจขนาดไหน แต่ก็แอบดีใจที่ผมไม่ได้เป็นมือที่สามของสองคนนี้ เพียงแต่ช่วงจังหวะที่ผมเข้ามาเป็นช่วงที่เขาสองคนเลิกกันพอดี

“ขี้แยอีกแล้ว เอะอะเป็นร้องไห้ พี่เล่าของพี่จบแล้ว เรามีความลับอะไรที่อยากเล่าให้พี่หรือเปล่า”พี่นิคถาม

“ไม่มีครับ........เอ๊ะ มีก็ได้ เรื่องพี่ไม่ใช่ผู้ชายคนแรกที่ขอคบกับผมเป็นแฟนแต่เป็นพี่เก่ง พี่ไม่ใช่ผู้ชายคนแรกที่จูบปากผมแต่เป็นพี่กำปั้น (ตอนนั้นมันเรื่องบังเอิญ) พี่ไม่ใช่ผู้ชายคนแรกที่ผมนอนกอดแล้วหนุนไหล่ซบอกแต่เป็นพี่พี่หมอที แต่พี่เป็นคนที่ผมเลือกแล้วจากทั้งสามเอ๊ยสี่คนดิ่ รวมพี่แป้งด้วย”ผมบอกออกมาอย่างอารมณ์ดีเพื่อแก้บรรยากาศเมื่อครู่

“โห.......แฟนเราทำไมเจ้าชู้จัง อย่างนี้ต้องคุมเข้มซะแล้ว”พี่นิคบอก

“ข้อตกลงข้อที่หนึ่งว่าไง เรื่องการวางตัวหมายถึงห้ามคุมผมด้วย เข้าใจ”ผมบอกออกมาทันที

“ครับๆ ยอมให้หมดทั้งตัวและหัวใจครับ”พี่นิคทำท่าล้อเลียนผม

หลังจากที่ผมอาบน้ำเสร็จ ก็เห็นพี่นิคที่อาบน้ำก่อนนอนอยู่บนเตียงหลับไปแล้ว ผมเลยปิดไฟแล้วล้มตัวลงนอน พี่นิคทำตามข้อตกลงได้ดีโดยเอาหมอนข้างมากั้นกลางเอาไว้ ผมเอาหมอนข้างออกแล้วเขยิบเข้าไปนอนกอดพี่นิค

“แน่ะๆ ใครทำผิดข้อตกลงที่สามก่อน แล้วอย่าหาว่าพี่ไม่เตือนนะ”พี่นิคพูดออกมาแต่ยังหลับตา

“ไม่ได้ผิดซักหน่อย ก็ผมบอกแล้วว่าแล้วแต่ผมพิจารณาเอง”ผมตอบ

“เอครับพี่เพิ่มข้อตกลงอีกสองข้อได้ไหมครับ”พี่นิคถามพร้อมเอามือมาลูบหัวผมเบาๆ

“อืมๆ”ผมขยับตัวเข้าไปซุกให้อ้อมกอดของพี่นิคให้มากขึ้น

“พี่อยากให้เอรักพี่ไปนานๆ บอกรักพี่ทุกวันได้ป่ะครับ ถ้าวันไหนไม่ได้เจอกันอย่างน้อยต้องโทรมา”พี่นิคบอก

“เรื่องรักให้นานๆผมว่าให้เป็นเรื่องของเวลาเถอะครับ ส่วนเรื่องบอกรักอ่ะ พี่เองก็ไม่เคยบอกรักผมเลย มีแต่ผมบอกรักพี่คนเดียว”ผมตอบ

“อีกข้อที่จะตกลง เลิกใช้คำแทนตัวเองว่าผมซักที พี่รู้สึกขัดๆยังไงไม่รู้ ให้ใช้ว่าเอดีกว่า หรือว่าจะใช้ว่าตัวเองกับเจ้าของก็น่ารักดีนะ หรือว่าจะเป็นเขากับที่รักดีอันนี้หวานดี”พี่นิคบอกแล้วหัวเราะเบาๆ

“สงสัยนอกจากความรักจะทำให้คนตาบอดแล้ว ยังทำให้คนปัญญาอ่อนได้อีกด้วย ขนาดพี่นิคสุดเท่ยังอยากใช้คำแทนตัวหวานๆ”ผมพูดออกมาแล้วก็นอนหลับไปทั้งคู่

ตั้งแต่นั้นมาผมก็ใช้คำแทนตัวเองว่า เอบ้าง เขาบ้าง เรียกพี่นิคว่าตัวเองบ้าง เจ้าของบ้างแล้วแต่โอกาสและอารมณ์มันจะพาไปแต่ส่วนใหญ่ก็ยังเรียกพี่หรือพี่นิคอยู่ดี (ก็มันติดปากแล้วอ่ะ ทำไงได้) แต่ว่าจะเรียกว่าอะไร มันก็ไม่สำคัญเท่าใจของเราสองคนเรียกหากันอยู่ตลอดเวลาหรอก (ใช่ป่ะ)

ข้อตกลงตั้งแต่วันนั้นจนถึงวันนี้เรายังใช้ร่วมกันอยู่ และคิดว่าจะใช้ร่วมกันไปอีกนานเท่าที่มันจะนานได้ (แต่ข้อตกลงข้อสามพี่นิคชอบละเมิดอยู่เลย อิอิ)

+++ จบบทที่ยี่สิบห้า +++

*** ข้อคิดคำคมประจำบท ***

-   ข้อตกลงอะไรก็ไม่สำคัญเท่ากับข้อตกลงในสัญญาใจของเราที่มีให้กัน
-   ทิ้งความรักมาทำความฝันให้เป็นจริง
-   นอกจากความรักจะทำให้คนตาบอดแล้ว ยังทำให้คนปัญญาอ่อนได้อีกด้วย
-   จะเรียกว่าอะไร มันก็ไม่สำคัญเท่าใจของเราสองคนเรียกหากันอยู่ตลอดเวลา
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 21-06-2008 08:32:20 โดย A_wAy_G_mAn »

christiyaturnm

  • บุคคลทั่วไป
ส่วนเราละเมิดหมดทุกกฏเลย

หุหุ :o8:

๐DoNuT๐

  • บุคคลทั่วไป
ตอนนี้น่ารักอีกแล้ววว
อื้อหือออ แอบเห็นใจพี่นิคกะพี่หมอทีเน๊อะ

meawmeaw

  • บุคคลทั่วไป
 :L2: เป็นกำลังใจให้คุณนิคคุณเอทั้งคู่นะคะ   :L2:

อ๊ะๆ คุณวิลด้วย อิอิ  :L2:


แต่ว่า...คิดถึง หนึ่ง นะเนี่ย เมื่อไหร่มีบทอีกจ๊ะ อิอิ คิดตึ๋ง พี่หมอทีด้วย  :m13:

Normalblue

  • บุคคลทั่วไป
เฮ้อ  กว่าจะมาอ่านตามทัน  สามวันเต็มๆๆๆๆๆ กว่าจะถึง  แต่ก็มันดีครับ  ลงเอยกันได้ซักที
ต่อไปก็ต้องลุ้นแล้วว่าเขาจะใช้ชีวิตต่อไปกันยังไง

แต่แค่นี้ถ้าเป็นหนังไทยมันก็จบแล้วครับ :m1:

ไม่น่าเชื่อนะ  พี่เกียร์ผมเนี่ยก็หน่อมแน๊มเหมือนกัน  มีแอบกุ๊กกิ๊ก..เหอะๆ  ปกติแล้วจะโฉดๆ

maabbdo

  • บุคคลทั่วไป
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 16-07-2008 15:07:44 โดย maabbdo »

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






แก้ว

  • บุคคลทั่วไป
มายกนิ้วให้คุณวิล  o13  +1 ด้วยความเต็มใจนะคะ


พี่นิคกะน้องเอคืนดีกันแล้ว ดีใจมากมาย  :m4:
เป็นกำลังใจให้ทั้งคู่นะคะ

ออฟไลน์ Joobperman

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 648
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +39/-1
 :m29: :m29:
น้องเออ่ะ...สร้างเงื่อนไขกะพี่นิคแบบกฏเหล็กเลย น่าเห็นใจพี่นิคจัง

แต่ดีใจที่พี่นิคชอบละเมิดข้อตกลงที่ 3....
ต้องอย่างนี้สิ...ถึงจะเป็นนิค
เอาคืนข้อนี้ก็ดีนะพี่นิค... น้องเออ่ะออกจะเจ้าเล่ห์เยอะเหลือเกิน....อิอิ




Eis

  • บุคคลทั่วไป
นายเอ สร้างเงื่อนไขเยอะจังเลย... รู้ว่าพี่นิคเขาไปไหนไม่รอดใช่ไหมละครับ  :m12:


ไม่รู้ตอนนี้ทุกอย่างคลี่คลายไปในทางที่ดีขนาดไหนแล้ว.. แต่ยังไงก็รักกันมากๆ นะครับ อย่าว่าผมสอนนะแต่เวลามีเรื่องอะไรที่ทำให้ไม่สบายใจ ก็ลองนึกถึงวันเวลาที่มีความสุขด้วยกันเน้ออ..
.
.
.
.
ว่าแต่เมื่อไหร่นิคน้อยจะออกโรงหนะครับ .. ขอเป็นแบบ ไดเร็กเตอร์คัท นะครับ ไม่เอาแบบผ่านกองเซนเซอร์  :o8:

ออฟไลน์ [€]ŝĊörŦ

  • ความพยามครั้งที่100 ดีกว่าคิดท้อถอยก่อนที่จะทำ
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2077
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +142/-0
เหอะๆ...

พี่เอทำไปได้...

กฏเยอะมั๊กๆๆๆ

 :m29:   :m29:

Estel

  • บุคคลทั่วไป
พี่เอเป็นไรมากเปล่า

วิลไม่โกรธแล้วก็ได้

ทำให้ผมเป็นห่วงอยู่เรื่อยเลย รู้สึกผิดไปเลย

ไว้เคลียร์กันหลังไมค์

ออฟไลน์ Mint

  • นิสัย!!
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2114
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +881/-17
 พี่นิคน่ารักจังเลย  :m1: :m1: :m1:

 :L2: :L2: เป็นกำลังใจให้ความรักของพี่ทั้งสองนะคะ  :L2: :L2:

 :กอด1: :กอด1: วิล  :กอด1: :กอด1:




ออฟไลน์ CHOKUN

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 371
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +23/-0
ยินดีด้วยที่เข้าใจกัน เราอยากให้นายกับพี่เขารักกันไปนาน ๆ นะ คนเราต่างที่มาแต่กว่าจะมีกันและกันมันก้อนานนะไม่อยากให้นายใช้อารมณ์ในการตัดสินใจ เราคิดว่านายคงเจอแล้วล่ะรักแท้นะ  ขอเป็นกำลังใจให้นะ 

A_wAy_G_mAn

  • บุคคลทั่วไป
สวัสดีครับ

ผมนิคเองนะครับ

พอดีเอไมเกรนขึ้นเข้าโรงพยาบาลตอนกลางดึกของเมื่อคืนครับ ผมเปล่าทำอะไรนะครับ ผมนอนของผมอยู่ดีๆ เอก็มาปลุกให้พาไปหาหมอ ปกติเอเขามียาติดตัวประจำครับ แต่ลืมเอามาด้วย ผมเลยพาไปหาหมอ ก็ไม่เป็นอะไรมากหรอกครับแค่ฉีดยาระงับก็หายแล้ว แต่ผมให้นอนที่โรงพยาบาลดีกว่าให้นอนเป็นเพื่อนย่าเลย แต่เอเขาฝากมาบอกว่าขอโทษวิลให้ด้วย ผมถามว่าเรื่องอะไรก็ไม่ยอมบอก เอาเป็นว่าผมขอโทษคุณวิลแทนเอของผมแล้วกันนะครับ

ผมเข้ามาอ่านpostหลายๆคนแล้วสนุกดีครับ ที่จริงอ่านมาหลายครั้งแต่ไม่ตั้งใจ ครั้งนี้ตั้งใจอ่านดูมีสีสันดีครับ เชื่อไหมครับข้อตกลงที่ผมคุยกับเอตั้งนานแล้ว เอเขายังให้ผมทำตามอยู่เลย เอใจร้ายกับผมใช่ไหมครับ แต่ร้ายยังไงผมก็รักครับ เรื่องละเมิดข้อสามก็นานๆทีครั้งครับ อย่างเอเขาถ้าไม่ยอม ผมก็ทำอะไรไม่ได้ครับ ขานี้ดื้อมาก ถ้าบอกว่าไม่ก็คือไม่ครับ พวกดื้อเงียบ มีคนอยากอ่านเรื่องนั้นของผมกับเอ ถ้าผมเขียนได้เก่งเหมือนเอเขาผมจะเขียนให้อ่านเลยครับว่าลีลานิคน้อยเป็นยังไง 555+

น้องเกียร์บอกให้ผมสมัคร แต่ผมคิดดูดีแล้ว ใช้userของเอเขาก็ดีครับจะได้เป็นการป้องกันคนมาจู่โจมเอไปในตัว อย่างนี้พี่ยังขอใช้ของแฟนพี่ไปก่อนนะไอ้น้อง เข้าใจไหมว่าแฟนพี่อ่ะ แล้วอีกอย่างพี่ไม่ได้หน่อมแน๊มเหมือนนายบอกโว้ย เขาเรียกว่าใช้จิตวิทยาเข้าช่วย รู้จักป่าว Csycology

ผมขอตัวไปเยี่ยมคนป่วยสองคนที่โรงพยาบาลก่อนนะครับ ไปสายเดี๋ยวผมโดนงอนอีก
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 21-06-2008 09:19:19 โดย A_wAy_G_mAn »

ออฟไลน์ SoN

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2965
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +123/-15

Normalblue

  • บุคคลทั่วไป
โห  ตื่นแต่เช้ามาเมนท์  พอดีวันนี้ อ.โอ่งยกเลิกคลาส  หวังว่าพี่คงจำ อ.โอ่งที่  ที่ให้เกรดโหดๆ  :a5:
เป็นเรื่องจนได้  พึ่งทราบว่าพี่เอเป็นไมเกรน  ผมว่าพี่เอแบกรับอะไรคนเดียวมากเกินไป...

หาเวลาไปเที่ยวไปพักผ่อน  ไปดูสโตนเฮนจ์  มาดริด หรือโรมก็ดีนะครับ  ไปเวนิชก็น่าอยู่มากๆ

อย่าเครียดนักเลย  ปล่อยๆ บ้างก็ดี  ผมเชื่อว่าพี่เกียร์ผมน่าจะเป็นกระโถนรองรับที่ดีได้  o13   :m14:
เอ๊ะ???  หรือว่าพี่เกียร์ผมใช้ Psycology มากไปพี่เอเลยคิดมาก   o12

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






sarin

  • บุคคลทั่วไป
 :L2:ฝากเยี่ยม K.เอ ด้วยคร้าบ :กอด1:
พักผ่อนมาก ๆ...อย่าเครียดฮะ....อย่าเครียด... :a11:
อ่านตอนนี้หวาน...ละลายแย้วจิ.....ลงปายเลื้อยเยยอ่ะ...อิ.อิ. :o8:..
ปายแร่ะ :oni1: :oni1:

ออฟไลน์ kdds

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1471
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +40/-5
หุ หุ หุ ตอนนี้หวาน ชอบบบ  :o8:

ฝากเยี่ยมคนป่วยด้วยจ้า  :L2: :L2: :L2:

ออฟไลน์ nana

  • 아주마 애기 두명 ㅋㅋ
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2759
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +138/-2

แก้ว

  • บุคคลทั่วไป
แก้วขอพรจากองค์พระธาตุดอยตุง พระธาตุดอยสุเทพ
ขอให้เอหายป่วยเร็ว ๆ นะคะ   :L2:

สำหรับดีเจพี่นิค  ถ้าแก้วจะขอให้พี่นิคเขียนเล่าเรื่องราวมุมมองของพี่ที่มีให้กับน้องเอได้มั้ยคะ
ไม่ต้องกังวลเรื่องสำนวนนะคะ เขียนสบายสไตล์พี่นิคดีที่สุดแล้วค่ะ
แล้วแต่พี่นะคะ ถ้าพี่ไม่สะดวกก็ไม่เป็นไรค่ะ

 :bye2:

ออฟไลน์ both^^

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3133
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +730/-4
หายป่วยเร็วๆ นะคะ

ตอนนี้หวานมาก

ข้อตกลงเยอะดี  555+

surichay

  • บุคคลทั่วไป
 :o8:หวานได้อีกจร้าอิอิ :o8:
น่ารักมากๆๆเลย เปงกำลังใจให้น่ะค่ะ

ออฟไลน์ [€]ŝĊörŦ

  • ความพยามครั้งที่100 ดีกว่าคิดท้อถอยก่อนที่จะทำ
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2077
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +142/-0
ขอให้หายปวยเร็วๆ นะครับ

ทั้งคุณย่าของพี่นิค ทั้งพี่เอด้วย

เป็นกำลังใจให้เสมอคร้าบบบบ

 :L2:   :L2:   :L2:

ken_krub

  • บุคคลทั่วไป

ออฟไลน์ IZE

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4601
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +227/-3
อืมๆๆหวานจริงๆๆด้วย   แต่ เป็นคนชอบของหวานเลย ไม่กลัวเบาหวาน อิอิ

ออฟไลน์ cassper_W

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2052
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +135/-1
เหอๆๆๆ

พี่นิคคคค   กฎ เค้ามีไว้แหกกกกกกกกกกกก  น่ะ ขอบอกกกกก   :laugh:

รออ่านวันที่ไม่ใช่ก่อนวันพระ หลังวันพระอยู่ กร๊ากกกกกกกกกกกกก

ขอให้เอ หายป่วยเร็วๆๆด้วยน๊า  ทางที่ดี พี่นิค จุ๊บๆๆๆ  โอ๋ๆๆๆ  ก็ดี  คริ คริ 

 :กอด1:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด