ทักทายและปรึกษา หากเพื่อนๆ พบปัญหาอย่างผมจะเลือกทางเดินอย่างไร ช่วยคิดทีครับ
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ทักทายและปรึกษา หากเพื่อนๆ พบปัญหาอย่างผมจะเลือกทางเดินอย่างไร ช่วยคิดทีครับ  (อ่าน 2771 ครั้ง)

mabikung

  • บุคคลทั่วไป
สวัสดีครับทุก ๆ คนที่แวะมา ขอบคุณมากครับ ผมแฝงตัวในเล้ามานาน เคยโพสเรื่องความรักของผมไปครั้งหนึ่งแต่หาไม่เจอ ขอสรุปสั้นๆ เพื่อให้ทุกคนช่วยกันคิดทีครับ ถ้าเจอปัญหาอย่างผม เป็นคุณ คุณจะเลือกทางไหน

            ผมกับแฟนอยู่ด้วยกันมาทั้งหมด 16 ปีแล้ว เค้าเป็นแฟนคนแรกของผม ผมเป็นแฟนคนที่สองของเค้า เราเจอกันโดยบังเอิญตอนผมอายุ 15 เค้าเป็นเพื่อนของเพื่อน เจอกันครั้งแรกเค้าแทบไม่มองผมเลย เรานั่งทานข้าวด้วยกัน โต๊ะนึงสี่คน เค้าเป็นคนนิ่ง ๆ ส่วนผมด้วยมีปัญหาบางอย่าง จึงไม่อยากกลับบ้าน เลยหาเรื่องจนนอนบ้านเค้าได้ แน่นอน เรามีไรกันครับ ผมอยู่บ้านเค้าเจ็ดวันเลย กล้วก็กลับมาเคลียปัญหาที่บ้านเจ็ดวัน หลังจากนั้นก็ไปอยู่บ้านเค้าอีกสองปี หลังจากนั้นเค้าก็มาอยู่บ้านผม อยู่ด้วยกันอีกประมาณสี่ปี แล้วด้วยความเจ้าชู้ของผม เค้าก็ออกจากบ้านไปเพื่อไปมีคนใหม่ ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากบ้านผม แต่เราก็ไม่ได้เลิกกันอย่างเด็ดขาด ผมก็เป็นกิ๊กเป็นชู้ หรือจะเรียกเป็นน้อยก็ได้ สภาพนั้นมันแย่มากเลยครับ แต่หลังจากแยกกันซักอาทิตย์ แฟนผมชวนมากินข้าวแล้วพอตอนจ่ายตัง เค้าจะจ่ายด้วยบัตรเครดิตซึ่งผมก็โมโมทันทีว่ามันมาจากคนใหม่ของเค้า แล้วผมก็ตั้งใจว่าผมต้องเลิกท้อเลิกเมา หางานดี ๆ ได้เพราะตอนนั้นผมทำแต่งานพาร์ทไทม์เงินพอใช้ แต่ไม่มีอนาคต

           จังหวะหลังจากเลิกกัน ผมก็ได้งานที่ดีเกินคาด อย่างคาดไม่ถึง เงินเดือนสูง เป็นงานโรงแรมครับโรงแรมที่คนรู้จักทั้งประเทศ เป็นโรงแรมที่แม้แต่เด็กจบการโรงแรมยังหวาดๆ แทบไม่กล้าคิดไปสมัคร แต่ผมได้โดยบังเอิญ วันที่ผมบอกแฟน แฟนยังไม่เชื่อว่าผมได้งานที่นี่ สภาพผมดีขึ้น แต่แฟนก็ยังอยู่กับคนนั้นเหมือนเดิม แล้วผมก็ยังเป็นแค่ชู้เหมือนเดิม สภาพที่ต้องนั่งรอในวันหยุด หรือวันที่เค้าหลบมาหาเราได้ แต่ละวินาที มันนานนับชั่วโมง ผมทนอยู่บ้านไม่ได้ ทุกอาทิตย์ทุกวันหยุดต้องหาเรื่องออกไปตจว. เพื่อให้ลืมภาพนั้น หลังจากที่เป็นน้อยอยู่สองปี สุดท้ายผมทนกับความรู้สึกนั้นไม่ได้ ผมย้ายไปทำงานที่จังหวัดเชียงใหม่ เพื่อจะได้ไกลเค้ามากขึ้น แต่เราก็ยังติดต่อกัน สุดท้ายก็ทนคิดถึงเค้าไม่ไหว อยู่ได้ปีเดียว ก็ย้ายกลับมากทม แต่ระหว่างนั้น ตระเวณไหว้พระบนบานศาลกล่าวทุกที่ที่ไป (จนป่านนี้ยังจำไม่ไหวว่าไปบนที่ไหนบ้าง)
   
              วิธีหนึ่งที่เลือก คือคิดว่าเรากับเค้าหมดบุญกันแล้วมั๊ง เลยบวข บวชในวัดเกิดเค้าเพื่อเป็นของขวัญวันเกิด แล้วหวังว่าเราจะได้มาอยู่ด้วยกันอีก หลังจากสึกมาก็ได้งานใหม่ ระหว่างนั้นแฟนก็เจริญก้าวหน้ากับแฟนใหม่ มีธุรกิจด้วยกัน มีเงินซื้อรถ ผมก็ต้องยิ่งโหมทำงานให้เจริญก้าวหน้า เพื่อแข่งกับทางนั้น ไม่รู้เพราะโชค บุญหรือกรรม แฟนใหม่เค้าได้วีซ่าเวริค์แอนทราเวลที่ออสเตรเลีย ตอนแรกเค้าเตรียมแผนไปอยู่ด้วยกัน แต่ในวันแรกที่แฟนใหม่เค้าไป ผมก็ไปลากเค้ากลับมาอยู่กับผมเลย ช่วงนั้นเป็นเวลาที่ลำบากมากครับ เพราะแฟนผมก็ยังพยายามไปอยู่กับแฟนใหม่ที่ออสซี่ แล้วแฟนผมก็ยังพยายามกลับไปนอนบ้านโน่นอยู่ แต่สุดท้ายแฟนใหม่เค้าก็รู้ว่าเรากลับมาอยู่ด้วยกัน เค้าก็เริ่มๆ ห่างๆ ไป แล้วเค้าเริ่มอยู่ตัวกับทางนั้นด้วย ทางผมก็เลยกลับมาอยู่สภาพเดิม

               หลังจากนั้นวงการโรงแรมเริ่มแย่เพราะกีฬาสี และผมได้โอกาสจึงออกมาทำธุรกิจของตัวเอง โดยใช้เงินเก็บส่วนตัว บวกกับค่าแชร์ของแฟนด้วย ผมก็เริ่มทำธุรกิจส่งออกไปจีน ไปตระเวณขายของที่จีน ด้วยเพราะไม่มีประสบการณ์และไม่ไดภาษา ก็ทำให้ไม่ประสบความสำเร็จ แต่ก็ได้คอนเนคชั่นบางอย่าง มาต่อยอด แล้วโชคดีได้ทุนเรียนต่อด้านบริหารจึงเริ่มเข้าใจ และเริ่มออกต่างประเทศอีกครั้งโดยการไปดูไบ ซึ่งปกติคนส่วนใหญ่ไปแล้วก็จะขายของได้ ได้ตัง ได้กำไรไม่มากก็น้อย แต่ผมไปขายไม่ได้กำไรขาดทุนก็หาทางเปิดบริษัทที่ดูไบ เพราะมีผู้ร่วมทุนที่น่าจะทำงานด้วยกันได้ ในระยะแรกก็ขายของได้ แต่สุดท้ายไปๆ มาๆ ก็แย่อีก จนผมต้องออกจากบ้านเพราะขอตังที่บ้านไปส่วนหนึ่งแล้วไม่สามารถหากลับไปคืนได้ แฟนผมพ่อก็เสีย และผมก็เริ่มรู้สึกแย่ที่ไม่สามารถทำงานศพพ่อเค้าออกมาให้ดูดีได้

           ระหว่างนั้นตังก็ไม่ค่อยจะัมี วงการโรงแรมก็หางานยากขึ้น สุดท้ายก็ต้องลำบากเริ่มต้องขายของรักของหวงของสะสมกัน เค้ารักกล้องมากกก แต่สุดท้ายกล้องสองตัวซื้อมาเกือบครึ่งแสนก็ต้องขายขาดทุน คอม ผมเป็นคนรักหนังสือ สุดท้ายก็ต้องขายหนังสือที่เก็บไว้ เพื่อหาเงินกินประทังไปวันๆ ที่สุดได้พี่คนนึงที่มาช่วยพวกเราตั้งแต่ดูไบ หมดกับเราไปหลายตัง ยังออกทุนให้เราค้าขายที่มาเลเซีย ตอนแรก ๆ ก็ทำท่าจะดี ขายของได้ ยอดเดือนนึงเป็นแสน ๆ แต่สุดท้าย ค่าเงินก็แข็ง โดนไถมากขึ้น ของขายได้ ขายคล้าย ๆ ร้านขำไทย ซึ่งบางครั้งของเข้ายากมาก ทำให้บางช่วงไม่มีสินค้า ลูกค้ามาแล้วไม่มีของ ธุรกิจที่ทำท่าจะดี ก็เริ่มแย่ ประกอบกับห้างที่ขายก็ปิดซ่อม เงินที่กู้มาเพิ่มสุดท้ายก็จมอีก เลยถอยมาขายของสามชายแดนย้ายมาอยู่สงขลา  ก็คล้าย ๆ เดิม แรก ๆ ก็ทำท่าจะดี ทำท่าจะรอด สุดท้ายบางทีอยู่กันสองคนจากเคยจับเงินล้าน เป็นต้องกระเบียดกระเสียนกับเงินไม่กี่สิบบาท สภาพแย่มาก มาขายอาหารก็ขายได้แบบปะทังไปวัน ๆ ไม่มีเงินเหลือ แฟนก็ส่งเงินคืนบ้านไม่ได้ น้องแฟนก็ลำบาก เพราะต้องช่วยผ่อนบ้าน แม่แฟนจึงต้องออกไปขายของทั้งๆ ที่แก่แล้ว

         จังหวะผมเริ่มรู้จักคน เริ่มสร้างเครดิตได้ ตอนนี้กำลังจะได้เงินก้อนใหม่ จนแล้วจนรอด เงินก็ไม่ออกซักที เรากู้แบงค์ในนามพี่ที่ช่วยเรามาตั้งแต่ต้น พี่เค้าหมดกับพวกเราเยอะมาก พยายามดันให้เราเกิด ให้เรารุ่ง พอจะรุ่ง ๆ ก็ฟุบเจ๊ง ต้องหนีหนี้ ตอนนี้ผมมีหนี้กันหลายล้าน แต่เราสองคนก็ช่วยเหลือกัน ช่วยกันทำมาหากิน รักกันมากขึ้น ทะเลาะกันบ้างผมก็แอบแว๊บ ๆ บ้างแบบจับได้ก็โดนด่ากันไป สุดท้ายก็โดนคุมทุกฝีก้าว มอง ๆไปก็เหมือนครอบครัวฮา ๆ ครอบครัวหนึ่ง ผ่านไปสิบหกปี เรายังหอมแก้มกัน นอนกอดกัน บอกรักกัน มีชื่อน่ารัก ๆ เรียกกัน บางทีเงินไม่มีเราก็ทะเลาะกันเกือบแยกกันก็หลายหนเพราะปัญหาเรื่องเงิน แต่สุดท้ายเราก็ยังอยู่ด้วยกัน

          จนในที่สุดเงินกู้ก็ผ่าน พี่เค้าต้องลงมาร่วมเซ็นชื่อ แล้วไปๆ มาๆ เงินกู้ที่ว่าได้แน่ ๆ ลงมาเซ็นชื่แล้วเงินก็ไม่ออก เพราะมันต้องผ่านอีกหนึ่งโพรเซส แต่พี่คนนี้เค้าเป็นคนที่เชื่อเรื่องดวงมากกกกก เปลี่ยนชื่อมาหลายหนมากก เพื่อให้ชื่อถูกกับโฉลกในแต่ล่ะช่วงอายุ แล้วจังหวะที่พี่ลงมาเค้าก็มาหาอาจารย์ดูดวงคนนึง ไปๆ มาๆ ก็พาเราทั้งสองคนไปรู้จัก และดูให้เราซึ่งอาจารย์เค้าก็ดูให้ฟรี ๆ โดยไม่เสียตังด้วยความที่สงสารว่าเราไม่สามารถจ่ายได้ เพราะค่าดูแพงมากกก ถ้าดูเต็มรูปแบบต้องจ่ายถึงสามหมื่นบาท แต่พวกผมไม่ได้จ่ายซักบาท แล้วอาจารย์เค้ายังเลี้ยงข้าวด้วย แต่หลังจากที่ดู ปัญหาก็เกิดล่ะครับ

           ปัญหามันอยู่ตรงนี้แหละครับแกแทบไม่เชื่อว่าพวกผมเป็นแฟนกัน และอยู่มาด้วยกันนานมากก เพราะแกบอกว่าต่างคนต่างเป็นเจ้าแรรมนายเวรของกันและกัน ยิ่งอยู่ด้วยกัน ยั่งพากันล่มจม สุดท้ายก็จะไม่กันไม่รอด และเลิกกัน อาจารย์ดูดวงด้วยหลาย ๆ ศาสตร์ สุดท้ายผลก็ออกมาตรงกันคือทำงานด้วยกันได้ แต่ต้องเลิกกัน ไม่งั้นพากันล่มจมแน่ พี่ที่พาไปแกก็เครียดเพราะแกเชื่อแล้วประกอบกับพอมาคิดตอนเราแยกกันต่างคนก็ต่างรุ่ง แต่พอกลับมาอยู้ด้วยกันทำอะไรก็ไม่ขึ้นทั้ง ๆ ที่ทำอย่างตั้งใจขยันขันแข็ง สู้สุดใจ ก็ไม่รอด พี่เค้าบอกให้เราเปลี่ยนสเตตัสจากแฟนเป็นครอบครัวเป็นพี่น้อง เป้นเพื่อนที่รักกันดูแลกัน แล้วตั้งใจทำงาน เพราะอาจารย์เค้าทายแฟนผมไว้ว่าหลังจากเลิกกัน ต่างคนต่างจะเจอคู่ของตัว หลังจากเลิกแล้วจะเริ่มดีขึ้น ภายในหนึ่งปีจะเริ่มเข้าที ภายในสามปีน่าจะยืนได้สบาย ๆ

            พี่เค้าเชื่อเรื่องนี้มาก ก็เลยยื่นคำขาดว่าถ้าจะเอาเงินก้อนนี้มาทำงาน ก็เลิกกันซะ แต่ถ้าไม่เลิก เค้าก็ไม่อยากเสี่ยง ผมก็เครียด แฟนก็เครียด ตอนนี้ เค้าให้ผมกินมังสวิรัติเก้าวันแล้วหลังจากนี้ให้เริ่มแยกห้องนอน แยกเสื้อผ้า แยกกระเป่าเงิน เพราะผมกับแฟนเราแยกกันแต่แปรงสีฟัน นอนนั้นใช้ด้วยกัน ตังผมไม่เคยได้ถือซักบาทแฟนผมเก็บเรียบ จะซื้อไรก็ชี้ๆ เดี๋ยวเค้ามาจ่าย เราแบ่งงานกันชัดเจนเค้าเป็นบัญชี เอกสาร ผมฝ่ายขาย การตลาด กลยุทธต่างๆ ซึ่งต่างเติมเต็มซึ่งกันและกัน

            ขอบคุณที่อ่านกันถึงตรงนี้อยากถามว่าเป็นเพื่อน ๆ เพื่อนๆจะเลือกงานแล้วตัดส่วนหนึ่งของชีวิตของจิตใจส่วนหนึ่งของวิญญาณเพื่อหวังว่าชีวิตจะดีขึ้น หรือว่าฝืนดวงกันต่อไปแล้วรักกันต่อไป ช่วยกันคิดทีครับ แต่ขอบอกว่าหมอดูแม่นมากกกก   
Share This Topic To FaceBook

mabikung

  • บุคคลทั่วไป
วันแรกที่รู้ว่าเราอาจจะต้องเลิกกัน เนื้อเพลงนี้ขึ้นมาในหัวทันที เราสองคนรักกันมากกก รักแบบตายแทนกันได้ หลายคนอาจจะบอกว่าเว่อร์ แต่เราเคยประสบอุบัติเหตุใหญ่ ๆ ด้วยกันสามครั้ง ส่วนใหญ่แฟนผมจะขับรถเพราะผมคิดงานเยอะขับรถทางไกลไม่ค่อยได้ ผมขับเกียร์กระปุกเป็นก่อนเค้า ผมเป็นคนสอนเค้าขับรถ สุดท้ายเค้าก็มาขับรถให้ผมนั่งเป็นส่วนใหญ่ ผมรถชนหนักหนึ่งครั้งเพราะมีคนจะมักงานลักไก่กลับรถโดยไม่ดูรถทางตรง ประโยคสุดท้ายก่อนรถชนคือให้ผมระวังตัว อีกสองครั้งคือรถหมุน เพราะอะไรไม่ทราบ แต่ทุกครั้ง เค้าจะเอาข้างเค้าเข้าหารถก่อน ดีว่าไม่มีรถมาชน แล้วเค้าจะบอกให้ผมระวัง เมื่อเหตุการณืสงบทุกครั้งเค้าจะถามผมก่อนเลยว่าผมเป็นอะไรไหม

มีครั้งนึงเค้าไม่สบายขาเดาะห้องเราอยู่ชั้นสี่ผมต้องแบกเค้าขึ้นลงอยู่เกือบสองอาทิตย์ หรือเค้าไปถอนฟันเรานั่งรถเมลล์กลับบ้าน ผมดูว่าเค้ายืนไม่ไหวแล้ว ก็ขอที่นั่งให้เค้าได้นั่งหน่อยเถอะ หรือเค้าไม่สบายผมก็ไปเฝ้าหน้าห้องผ่าตัด ผมไม่สบายเกือบตายเค้าก็ลานายมาดูแลเกือบครึ่งเดือน เรารักกันมาก รักกันมากจริง ๆ เสมือนหนึ่งเป็นส่วนหนึ่งของกันและกัน ผมนึกภาพไม่ออก ว่าเราจะเลิกกันยังไง แล้วถ้าเค้ามีคนใหม่ ผมจะทำใจได้อย่างไร ทุกวันนีเค้าหยิบเสื้อผ้าให้ เลือกชุดให้ ผมมีความสุขมากๆๆครับ

http://www.youtube.com/watch?v=0Rk3FfHw6QE

ต่างคนเข้าใจ ต่างก็เรียนรู้ทุกอย่าง ด้วยสองเรา
แค่มองสายตา ก็พอรู้ใจ มีเธอมีฉัน
ก่อเป็นความหมาย ให้ใจผูกพัน ให้เรารักกัน ทุกๆนาที
* สิ่งเดียวที่มี นั่นก็คือรักยิ่งใหญ่ ที่ให้เธอ
แต่วันนี้เรา ไม่ควรพบกัน เพราะฉันไม่ดี
เหตุการณ์วันนั้น ต่างจากวันนี้ และเรารู้ดี ว่าต้องทำใจ
** ต่างคนต่างพูดไม่ออก ได้แต่มองตาเท่านั้น
รักที่ให้กัน เหมือนโดนกั้นขวางทางไป
อย่าเลยอย่ารู้ว่าฉัน ขาดเธอจะเป็นอย่างไร
แค่รู้ไว้ว่าโลกทั้งใบ จะให้เธอคนเดียว

ออฟไลน์ IsDeer

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2519
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +85/-8
อ้างถึง
            ขอบคุณที่อ่านกันถึงตรงนี้อยากถามว่าเป็นเพื่อน ๆ เพื่อนๆจะเลือกงานแล้วตัดส่วนหนึ่งของชีวิตของจิตใจส่วนหนึ่งของวิญญาณเพื่อหวังว่าชีวิตจะดีขึ้น หรือว่าฝืนดวงกันต่อไปแล้วรักกันต่อไป ช่วยกันคิดทีครับ แต่ขอบอกว่าหมอดูแม่นมากกกก   

 :เฮ้อ: จากที่อ่านมาทั้งหมด ก็พอจะเชื่อว่าซวยจริง แต่ลึกตื้นหนาบางเราไม่รู้
เรื่องบางอย่างไม่ใช่แค่ดวงหรือพรหมลิขิต
ไม่แน่นะว่าพวกหลายๆอย่างที่คุณทำอยู่มันอาจจะดีแล้ว แต่หลายๆสิ่งมันอาจจะดูเกินตัว
ด้านธุรกิจอย่าลืมว่า high risk high return
เราเข้าใจว่าหลายๆคนอยากทำงานมีตังค์เยอะๆ แต่ก็ต้องเสี่ยง
ถ้าคุณมีเครดิตด้านการโรงแรมดีจริง เราว่าพวกรีสอร์ตหลายๆที่ก็รับทำงานนะ
เราขอถามคุณว่า ชีวิตคุณถ้าอยู่กับแฟนไปวันๆมีความสุขไหม จำเป็นมั้ยที่ต้องมีตังค์เป็นล้านๆถึงจะมีความสุข
ทำไมไม่ลองกลับไปอยู่ใกล้ๆครอบครัวคุณดูล่ะ

เราคงไม่สามารถตัสินใจเรื่องนี้แทนคุณได้ อาจแค่พิมพ์อะไรให้คุณอ่านแล้วได้คิด เพราะเราไม่ได้รู้อะไรเกี่ยวกับคุณมากเลย
ขนาดเรื่องที่คุณพิมพ์มาให้อ่านเรายังรู้สึกว่าคุณปิดตัวเองอยู่ด้วยซ้ำ เราสัมผัสอะไรไม่ได้จากสิ่งที่คุณพิมพ์มา = =!
เรื่องของหัวใจคุณ คุณยังเลือกไม่ได้เหรอ ถ้าคุณคบกันมาแค่สองสามปี เราเข้าใจว่ามันอาจจะหักห้ามกันได้บ้าง
แต่นี่คุณคบกันมาสิบห้าปี เราว่าคุณก็ควรคิดได้นะ
ถ้าเชื่อเรื่องดวงนะ ลองถามหมอดูสิว่า ถ้าจะยังคบกันอยู่ให้ทำยังไง ถึงจะดี
วิธีแก้มันไม่เหมือนกันในแต่ละคู่ บางคู่ก็เลิกกันแต่ยังอยู่ด้วยกัน อะไรยังงี้

ส่วนเรื่องเกี่ยวกับดวง ชะตาลิขิต อื่นๆ เราไม่อยากพูดถึงเพราะมันเยอะมากกกกกกกก
และการที่ไม่รู้อะไรกับคุณสักเท่าไหร่ การช่วยเหลือทางด้านชะตาลิขิต ก็ไม่สามารถช่วยได้เช่นกัน

ปอลิง: ศาสตร์เห็นการดูดวงเป็นสิ่งที่ทำนายความน่าจะเป็นที่จะเกิดจากสิ่งบอกเหตุต่างๆในอดีต
ไม่ได้หมายความว่าจะแม่น 100% เพราะบางทีอาจมีการตีความผิด หรือมีเจกปัจจัยทำให้ไม่สามารถเผยดวงชะตาได้
ส่วนอีกแขนงหนึ่งคล้ายๆดูดวงแต่จะขอยกรายละเอียดเพราะตัวเองก็ไม่รู้ว่าจะอธิบายให้คนอื่นเข้าใจได้ยังไง
โทษทีนะ  :mew6:

ปอลิงปอลิ่ง : ทำไมที่ฉันพิมพ์มาเหมือนช่วยอะไรไม่ได้เลยเนี่ย
อย่าเครียดมากนะ อยากให้ทำในสิ่งที่ตัวเองจะไม่เสียใจภายหลังก็พอแล้ว <= ประเด็นสำคัญ อิอิ

ออฟไลน์ คนอ่าน

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1438
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +67/-13
เราอยากให้คุณเลิกอ่าค่ะเพราะถ้าหมอดูดวงแม่นมากก็แสดงว่าเป็นจริง
อยากให้คุณเจอคู่แท้ของตัวเอง
เพราะอยู่ไปแล้วมีความทุกข์มากกว่าสุข

zengped

  • บุคคลทั่วไป
ถ้ารักกันจิง ไม่ต้องเลิกกันครับ
หมอดูเป็นแค่การพยากรณ์ตามสถิติดวงดาว
ไม่จำเป็นว่าสิ่งที่เค้าทายต้องถูกทุกครั้ง
คนใกล้้ตัวผมหลายคนหลายคู่ได้รับคำทำนายที่่แย่มาก แต่พวกเค้าไม่ท้อถอย
พวกเค้ากลับยิ่งพยามสู้ จนสุดท้ายเค้าก็เปลี่ยนดวงชะตาตัวเองได้ทุกคน ทุกคู่ ย้ำว่าทถกคนทุกคู่
ไม่มีอะไรจะมีอิทธิพลเหนือการกระทำของตัวมนุษย์คนนั้นเอง ขอเพียงอดทนตั้งใจ ไม่ย่อท้อ คู่คุณฝ่าฟันได้แน่นอน
ชีวิจเรากำหนดได้ด้วยตัวเราครับ ไม่ใช่ต้องทำตามเดินตามคำพยากรณ์จากสถิติของหมอดู
สู้ๆครับ พวกคุณ2คนฝ่าฟันไปได้ด้วยกันแน่นอน

ออฟไลน์ badmanners

  • โคอาล่ามาร์ช สตาร์ทไว ใส่ใจทุกรูตูด
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1183
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1583/-14
เชื่อตัวเองเหอะ

อยุ่กันนานล่อกันจนตูดบานขนาดนี้

แต่อย่างว่าแหละนายดูจะรับผิดชอบชีวิตคนอื่นอื่นเกินไปป่าววะ
เหมาแม่งทั้งน้องแฟนแม่แฟนทั้งครอบครัว
ออกแนวแม่เลี้ยงมันจะเหลือเงินมั้ย
เอาตัวเองให้รอดก่อนเหอะ
ประหยัดรายจ่ายให้ได้
แยกให้ออกว่าเงินจะใช้กับของที่ควรมี
หรือของที่อยากมี
ถึงจะพอแดก


จะหากินอาชีพไหนของชีวิตก็เอาให้มันแน่ๆ
ไม่ใช่ปัจจัยหลักมาจากคู่ขาทั้งนั้น
ดูเหมือนตั้งใจหาแดกนะ....แต่กูว่าไม่ใช่
หาเงินเลี้ยงแฟนรึป่าว?

เลี้ยงทั้งครอบครัวอีกต่างหาก

แยกออกรึยังวะ
ว่าคบกับคนที่คิดว่ารักนานๆเนี่ย
หล่อเลี้ยงหรือว่ายื้อ?

เพราะรักและผูกพันหรือด้วยเงิน

พอเงินหมดก็กัดกัน

ถ้าใครอยุ่กับกูเพราะกูจ่ายตังดี....แม่งไม่ได้รักกูแล้วล่ะ

ยิ่งคบกันนาน
และคุณมึงก็ดูจะทุ่มเงินสุดตัวเพื่อคนที่คิดว่ารัก

คิดแบบเหี้ยๆเลยนะ
กูไม่ทุบหม้อข้าวตัวเอง
กูจะแทงกั๊กเอาไว้เผื่อที่หมายใหม่แม่งพลาด
ยังกลับมาแดกของเก่าได้อีก

บอกเลิกตรงๆมึงก็คงไม่ยอมแน่ๆ

หมอดูคือการบอกเลิกที่เนียนที่สุดแล้วนะกูว่า
ไอ้พี่ที่จะกู้ให้กูว่าแปลกๆ
ใครให้กูค้ำประกันให้เศรษฐกิจแบบนี้
พี่กูแท้ๆกูก็ไม่ค้ำให้

แฟนมึงน่ะล่อตูดแม่งมานานแค่ไหนละมึงเสือกไม่รู้เองรึป่าว
มองเผื่อไว้บ้างเหอะว่ะ
อย่าโลกสวยนักเลย
ชีวิตแม่งเหี้ยคิดเผื่อมั่ง

ถ้าเป็นกูนะกูปากหมา
กูจะบอกว่าถ้ามึงไม่เลิกกับอีควายนี่อย่าหวังจะได้แดกตังกู

เอะใจตั้งแต่หมอดูฟรีสามหมื่นละ
ดูให้ฟรีทำKไร
อยากให้มึงเลิกกันก็บอกตรงๆ  คิดมั่งดิ

อดีตแม่งไม่ได้หมายความว่าจะเป็นอนาคตนะ
อนาคตมึงอาจเป็นกูก็ได้ใครจะไปรู้.....

แต่ก็ไม่แน่....กูอาจคิดผิด
แค่อยากเสือกอ่ะ
ชัดมะ

mabikung

  • บุคคลทั่วไป
ขอบคุณนะครับสำหรับทุกคอมเม้นท์อย่างน้อยมันก็ไม่ทำให้ผมรู้สึกว่าอยู่คนเดียวนัก เพราะเวลามีปัญหาปกติเราสองคนก็คุยกัน

ที่รายละเอียดอาจะไม่เยอะนักเพราะผมก็สับสนเหมือนกัน

เอาเรื่องที่อธิบายง่าย ๆ ก่อน

1. ผมไม่ได้ต้องการที่จะดูแลทั้งครอบครัวแฟน แต่ถ้าเราดูแลกันและกันแค่สองคนได้ มันก็จะทำให้บ้านเค้าไม่เหนื่อยนัก เพราะทุกวันนี้น้องแฟนเค้าก็ผ่อนบ้านอยู่คนเดียว ซึ่งในช่วงเวลาที่ซื้อในช่วงแรก น้องออกครึ่ง ทางเราสองคนออกครึ่งมันก็เป็นเงินไม่กี่พันบาท แต่ตอนนี้ ทางเรารับผิดชอบส่วนนี้ไม่ได้ ม้าเลยต้องช่วยน้องหา หากเราแค่ดูแลในส่วนของเราได้ น้องก็ดูแลม้าได้เอง

2. มิตรภาพของผมกับพี่คนนี้ มันเป็นเหมือนกับครอบครัว พี่เค้าไม่มีสายสัมพันธ์ทางสายเลือดกับผมใด ๆ ทั้งสิ้น หากแต่เรามีอะไรที่เหมือน ๆ กัน เราเริ่มจากแค่ผมเป็นผู้ร่วมงานแสดงสินค้าพี่เค้าเป็นหัวหน้าใหญ่ฝ่ายออกาไนซ์ ในวันที่พี่เค้ามีปัญหาหน้างานที่ต่างประเทศ แล้วทางคนของเค้าไม่มีทักษะในการทำงานด้านนั้น ทำให้ปัญหาบานปลาย ทางผมซึ่งมีประสบการณ์ในด้านนั้นมาก็โดดลงไปช่วยแก้ปัญหาทำให้สามารถแก้ปัญหาเฉพาะหน้าได้ แล้วพี่เค้าเห็นผมทำงานอย่างหนักและตั้งใจ ก็เริ่มที่จะให้คำปรึกษา แล้วก็เริ่มลงมาทำงานด้วยกัน อย่างที่บอกแต่แรก หลายๆ ครั้ง ที่มันเหมือนเริ่มจะดี แต่มีอุบัติเหตุมาทำให้มันพัง ทั้งๆ ที่มันน่าจะเดินไปด้วยดี
      ถามว่าผมกับพี่เค้า มีอะไรกันหรือไม่ บอกเลยว่าไม่มี ยิ่งแฟนผมเป็นไปไม่ได้ใหญ่เพราะเราอยู่กันคนล่ะจังหวัด แล้วผมกับแฟนอยู่ด้วยกันยิ่งกว่าปาท่องโก๋ เพราะทำงานด้วยกัน กินอยู่หลับนอนด้วยกัน เพราะฉะนั้นประเด็นที่บอกมายืนยันได้ครับว่าเป็นไปไม่ได้
      แล้วอย่างเรื่องการกู้เงินนั้น คือพี่เค้าพยายามที่จะหาทางให้เรายืนได้ เลยพยายามแก้ปัญหาเพราะในเรื่องของการทำงานถ้าเค้าไม่เห็นการทำงานที่ผมพยายามทำให้ดีที่สุดทุกงาน แกก็คงไม่ลงมาร่วมวงด้วย

3.เราทำอะไรเกินตัวหรือไม่ โลภหรือไม่ กินอยู่ฟุ่มเฟือยไปไหม ถ้าสมัยทำงานโรงแรม(ช่วงนั้น แยกกันอยู่)อู้ฟู่กว่านี้อีกเยอะครับ ใช้จ่ายสิ้นเปลืองมากแต่ก็ยังเหลือเงินเก็บมาทำการค้า การค้าที่ทำก็อยู่บนฐานของความรู้ที่มี เราไม่ได้หวังกำไรจนร่ำรวย แค่หวังว่าเราจะมีกินมีใช้เหลือเก็บสมกับฐานานุรูป ไม่ได้หวังไปเมืองนอกเมืองนา หรือกลับไปกินโรงแรมห้าดาว ถ้าช่วงที่เงินผมเยอะที่สุดก็ช่วงที่อยู่คนเดียวนี่แหละ

4. ผมเลี้ยงแฟนไหม ไม่เลยเราใช้กระเป๋าเดียวกัน แต่บางช่วงเค้าหาเงินได้เยอะกว่าผมอีก บางทีผมหาได้เยอะกว่าเค้า แต่ถัว ๆ แล้วก็หาได้พอ ๆ กัน บวกลบกันก็ไม่น่าเกินหมื่นต่อเดือน แฟนโยกเงินให้ที่บ้านไหม น้อยมาก ก็ให้แบบเล็ก ๆ น้อย ๆ พอกินพอใช้ไม่กี่พันบาทต่อเดือน เรื่องกินเรื่องเที่ยวเราก็แทบไม่ได้ไปกินไปเที่ยวแบบเว่อร์ ๆ เอาว่าก่อนกลับมาคบกันผมยังมีโอกาสได้เที่ยวมากกว่า เงินส่วนใหญ่ก็เอามาลงทำงานเพื่อเราทั้งสองคนมากกว่า

5. ถามว่าผมเชื่อเรื่องพวกนี้ไหม บอกเลยว่า ไม่ กล้าพูดเพราะ ผมเลี้ยงตัวเองตั้งแต่อายุ 12 พ่อแม่ตายหมด ส่งเสียตัวเองเรียน ลองผิดลองถูกกว่าจะเดินมาถึงวันนี้ ผมก็ผ่านอะไรมาเยอะเป้นเด็กวัดมาก่อน ผมเชื่อในการทำความดี ละเว้นความชั่ว ไม่เชื่อในไสยศาสตร์ ก่อนนอนฟังธรรมสายพระป่า ไม่เคยดูดวง ไม่เล่นหวย เชื่อมั่นในตัวเอง เวลาคุยต้องเอาเหตุผลมาหักล้างกันเท่านั้น

     แล้วถ้าถามว่าทำไมถึงมาถาม หมอดูคนนี้ก็ไม่ได้ดูง่าย ๆ และไม่ได้ดูให้ใครฟรี ๆ แต่มันเกิดจากความจริงใจที่เราตั้งใจทำให้เค้า เค้าถึงอยากลองดูให้ว่าทำไมมีปัญหาทั้งๆ ที่เราพยายามอย่างที่สุด ตอนแรกเค้าก็ไม่ได้อยากพูดหรอก แต่ไป ๆ มา ๆ ก็เลยพูดถามว่าเชื่อไหม เรื่องบางเรื่องพี่เค้าไม่รู้ เพราะฉะนั้นเค้าบอกหมอไม่ได้แน่ ไม่ได้จิตวิทยาหมู่เพราะไม่ได้มีการให้ข้อมูลมาก่อน เลยเล่นเอาเสียเซลฟ์ไปเหมือนกัน

       หลายท่านบอกให้เดินต่อหมอดูคู่กับหมอเดา ผมก็คิดครับ ลิขิตฟ้าหรือจะสู้มานะคน งานใหญ่ๆ ที่ผมเคยทำหลายครั้งไม่มีใครคิดว่ามันจะเป็นไปได้ก็ทำให้มันเกิดมาแล้ว ผมไม่ได้หวังรวย ทุกวันนี้ที่ทำอย่าว่าโลกสวยเลยคร้าบชีวิตเกย์ไม่มีครอบครัว อยู่กันสองคนจะหาไรมากมาย พอกินพอใช้พอเพียงเหลือทำบุญให้ทุนการศึกษา พอแล้วคร้าบแค่นี้จริง ๆ นี่แกหมอแกบอกว่าถ้าอยากลอง ลองเริ่มจากการแยกห้องนอน แยกกระเป๋าเงิน แยกเสื้อผ้าก่อน แล้วหลังจากนั้นค่อยว่ากัน แต่ผมกลัวเหมือนกัน กลัวมันจะได้ผล ไม่ว่ามันจะเกิดจากจังหวะหรือเวลาน่ะซิ เพราะถ้าต้องเปลี่ยนสถานะ จากแฟนเป็นครอบครัวในสถานะอื่นมันคงทำใจยาก เพราะว่า เรายังรักกันดี ขอบคุรเพื่อน ๆ อีกครั้งครับ ยินดีที่ได้คุยกัน

ออฟไลน์ IsDeer

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2519
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +85/-8
ถ้าอยากทราบชื่อหมอดู จะบอกได้มั้ย
อาจจะมีรู้จัก ว่าเค้าเป็นแบบไหน แต่เราไม่ชัวร์นะ
บางทีที่เราว่าดูแม่นไม่แม่น หมอบางคนก็ใช้จิตวิทยาในการพูด
ถ้าคุณเคยเจอหมอดูที่เราไปดูแล้วไม่ต้องถามอะไร
แต่เค้ากลับบอกเรื่องที่เราอยากรู้โดยไม่ต้องถามนี่สิสุดยอดจริง

ส่วนเรื่องอื่นๆเราว่าคุณคิดได้ในระดับหนึ่ง
เหลือแค่กลัวสิ่งที่จะเกิดขึ้นแล้วทึกทักว่าเป็นเพราะดวง

ที่ยังสงสัยคือ ที่คุณบอกว่าชอบพอมีพอกิน
แต่ทำไมเราเห็นว่าบางอย่างคุณเหมือนจะพยายามลงทุนธุรกิจเอาให้แบบรวยๆกันไปเลย
เห็นเล่าว่ามีออร์เดอร์เป็นแสนๆ เลยคิดว่าก็ตามหลัก high risk high return อยู่แล้ว
มีคนประสบความสำเร็จธุรกิจมากมายแต่ที่ล้มเหลวมีมากกว่าเป็นร้อยเท่า
ไม่งั้นป่านนี้คงไม่มีใครเป็นหนี้  :mew5:

ออฟไลน์ abocardos

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 110
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-0
House is made from brick and stone.
But the home is made from love alone.

บ้านของคุณใช้อะไรสร้างครับ...อิฐ หิน หรือความรัก

ถ้าเลือกได้แล้ว คำตอบก้อเป็นไปตามนั้นครับ

mabikung

  • บุคคลทั่วไป
หมอชื่อภูมิครับ อายุห้าหกสิบได้แล้ว ส่วนใหญ่ดูแต่มาเลเซียครับ

ผมไม่ได้หวังรวยอะไรนะคร้าบ ยอดขายสินค้าหลักแสนต่อเดือนเนี่ยะถือว่าไม่เยอะนะครับ คิดเป็นกำไรก็ไม่ได้มากมายอะไร ดูอย่างร้านก๋วยเตี๋ยวซิคร้าบร้านที่ขายแบบพออยู่ได้วันนึงยอดขายก็สามพันห้าพัน ขายดี ๆ วันนึงก็หลายหมื่นนะคร้าบ เดือนนึงเยอะกว่าผมอีก ทุกวันนี้ผมทำแค่เป็นตัวแทนจำหน่ายกินส่วนต่างราคาแค่นั้นเอง

อ้อ แล้ววันนี้เป็นวันแรกที่เราสองคนได้คุยกัน ว่าจะเอากันยังไงต่อไป อันดับแรก ขอทำบุญกันก่อนพอดีได้จังหวะพรุ่งนี้จะถวายอาหารเช้าพระและเณรฤดูร้อน สอง ถ้ามาเรื่องดวงก็ขอท้าดวงด้วยการกินมังสวิรัติซักระยะหนึ่งเพื่อสร้างกุศล สามสรุปกันได้ว่า เราก็จะแค่แยกห้องนอน แยกกระเป๋าเงิน แยกเสื้อผ้า ส่วนเรื่องเลิกก็ขอฟ้าแล้วกันว่าถ้าจะให้เลิกกันก็ขอให้มันไปด้วยเพราะเราสองคนไปกันไม่ได้ ไม่ใช่เพราะใครมาบอกเราให้เลิกกัน

แฟนผมก็เศร้าเหมือนกันว่าเมื่อไหร่เราจะยืนได้ด้วยตัวเองเราจะได้ไม่ต้องพึ่งพาใครจะได้ไม่ต้องอยู่ใต้อาณัติใคร อารมณ์นี้อารมณ์ ประมาณเมืองไทยตอนปี 40 คือไปเอาเงินไอเอ็มเอฟมา แต่ก็ต้องทำตามนโยบายไอเอ็มเอฟ ซึ่งตอนนี้อะไรตามน้ำไปได้ก็ตามน้ำไปก่อนแล้วกัน

ตอนนี้ผมสองคนก็ขอเน้นทำบุญ สวดมนต์ ไหว้พระ ทำกุศล เพราะเราสองคนอยู่ด้วยกันจนคิดไม่ออกว่าจะแยกกันยังไง เพราะเราคือส่วนหนึ่งของกันและกันไปแย้วววว

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ IsDeer

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2519
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +85/-8
ถ้ารักกันมากขนาดนี้จริงๆ ไม่จำเป็นต้องเลิกกัน
รักกันแล้วจับมือกันไปให้สุดทาง

ขอให้อดทนจนฝ่าอุปสรรคไปได้นะ
มีคนลำบากอีกตั้งเยอะแยะ สู้ๆนะ

เราว่าประสบการณ์ทั้งหลายของคุณหาพวกงานประจำทำน่าจะได้หลายอยู่นะ ลองดู

ออฟไลน์ silverspoon

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2426
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +275/-12
เลิกดูหมอ แล้วชีวิตจะดีขึ้นค่ะ

เอาเวลา เงินทอง มันสมอง กำลังกาย

ไปเรียนรู้ข้อผิดพลาดแล้วเอามาแก้ไขป้องกันไม่ให้เกิดเถอะค่ะ จะปรึกษาคัมภีร์ ถามผู้รู้ หรืออ่านและพบปะผู้คนให้เยอะเพื่อสั่งสมความรู้ประสบการณ์และคอนเนคชั่นก็ได้ แต่ต้องไม่ใช่พึ่งหมอดูค่ะ

ลองนึกภาพ สตีฟ จ๊อบ  กับมาร์คซักเกอร์เบิรกปรึกษาหมอดูสิคะ นึกไม่ออกเลย ใครมีภาพก็เอามาแปะนะ ดิฉันเหนแต่ภาพคนจำพวก one of a kind ของโลกใบนี้รวมทั้งของประเทศเรา กำลังทำงาน แล้วพลาด แล้วเริ่ม แล้วพลาด แล้วทำต่อ ชีวิตก้มีแค่นี้แหละค่ะ เรามีโอกาสจะหกล้มและบทเรียนรออยู่ทุกก้าว

ถ้าคุณจะเจ๊ง เพราะคุณพลาด คุณยังอ่อนประสบการณ์เอง หรือโอเค คุณซวย แต่ไม่เกี่ยวกะที่หมอบอกหรอกค่ะ

ชีวิตหนึ่งที่มี ใช้เอง อย่าให้คนอื่นกำหนดค่ะ

แต่ถ้าฝ่ายใดฝ่ายนึงเชื่อหมอดูฝังหัวมาก ก็แยกกันเถอะค่ะ แปลว่าระดับสติและปัญญา พร้อมทั้งจริต ต่างกันมากไปละ

ออฟไลน์ PoP~Pu

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1739
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +134/-5
หายากนะคะ คู่ที่จะรักกันนานขนาดนี้
ร่วมทุกข์ร่วมสุขด้วยกันมาตั้งมากมาย เรารู้สึกเสียดายที่คุณจะต้องเลิกกัน ฮ่าๆ
ดีแล้วค่ะที่ไม่เลิกกัน สู้ๆนะคะเป็นกำลังใจให้

ออฟไลน์ manutty

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 846
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +92/-0
ถ้าเป็นตัวเอง บอกเลยว่า

"ไม่เลิก"

ถามตัวเองว่ามีความสุขดีไหมกับทุกวันนี้ที่เป็นอยู่ ถ้าตอบได้ว่า มี

ถามตัวเองว่า รักไหม ถ้าตอบได้ว่า รัก

ถามตัวเองว่า ลำบากจะอยากอยู่กับเขาไหม ถ้าตอบได้ว่า อยู่

ถามตัวเองว่า แล้วมึงจะเลิกไปทำไมวะ ถ้าคำตอบได้ว่า นั่นสิ กูจะเลิกไปทำไม

และเอาคำถามนี้ถามคนที่คุณอยู่ด้วยมาสิบหกปี ถ้าได้คำตอบตรงกัน

จะเลิกไปทำไม

ความรักเอาชนะทุกสิ่งได้ ถ้าตราบใดคนสองคนรักกัน จับมือเดินไปด้วยกัน ยังไงก็ไม่หมดหนทางหรอก เชื่อกันและกันไว้ให้มาก :n1:



ชีวิตมันแค่ลำบาก แต่ไม่ถึงกับตาย แล้วจะกลัวอะไร สิ่งที่น่ากลัวที่สุดน่าจะเป็น การแยกจากทั้งที่รักกันอยู่ มากกว่า มันเหมือนตายทั้งเป็นนะเราว่า  :monkeysad: อย่าให้คำทำนายมากำหนดชีวิตของคุณเลย ตอนเลือกคุณยังเลือกด้วยตัวเองไม่มีใครบังคับสักนิด และ แฟนคุณ คุณก็เป็นคนไปฉุดเขามาอยู่ด้วย ทั้งที่เขาจะไปจากคุณอยู่แล้ว แต่คุณรั้งเขาเอาไว้ทุกอย่าง แต่ไม่สำคัญเท่ากับ แฟนคุณยอมที่จะอยู่กับคุณมาตั้งสิบหกปี เพื่ออะไร คุณสองคนรู้ดีอยู่แล้วว่าเพราะอะไร :L1:

ลองเปลี่ยนการทำมาหากินแบบให้พอเพียงกับตัวเองดูก็ได้ เริ่มจากน้อยไปหาใหญ่ หาสิ่งที่คิดว่าเราทำแล้วชอบ เราทำแล้วมีความสุข เชื่อว่าคุณกับแฟนต้องมีดีในตัวบ้างล่ะ อย่าทำในสิ่งที่คนอื่นยัดเยียด ถึงเขาจะหวังดีแต่เราไม่ไหวก็อย่าฝืนเลย ตอบแทนความหวังดีเขาด้วยวิธีอื่นก็ได้ถ้าเขามีบุญคุณกับเรา

หาเวลาไปทำบุญทำทานด้วยกันก็เป็นอาณิสงฆ์อย่างหนึ่ง แต่อย่าทำบุญทำทานเวลาไม่สบายใจอย่างเดียว คุณต้องทำด้วยใจและทำเมื่อพร้อม ไม่มีก็ไม่ต้องทำ มันจะทำให้เราเป็นทุกข์ และให้ดีนะทำกับพ่อแม่ดีที่สุด ไม่ได้จะสั่งสอนนะ ตัวเองก็ไม่ใช่คนดีอะไรมาก แต่เคยได้รับคำแนะนำแบบนี้ มันก็ทำให้สบายใจและสู้กับปัญหาต่อไปได้ ไม่มีอะไรมาทำให้เราสุข ทุกข์ ได้เท่ากับตัวเองหรอก เชื่อมั่นใจตัวเองและคนที่เรารักเอาไว้ดีกว่า สู้ต่อไปด้วยกัน ต้องมีสักวันที่มันจะดีขึ้นแน่นอน :L2:

คนเราถ้ามันไม่ใช่คู่กันมันก็ไม่ใช่ แต่ถ้าเรายังรักกันจะต้องไปกังวลทำไม ปล่อยให้มันเป็นไปตามธรรมชาติจะดีกว่า ถ้าคุณสองคนจะเลิกกันนะไม่ใช่เพราะใคร แต่เพราะตัวคุณสองคนนั่นแหละทำให้มันเป็นไปตามคำทำนาย :katai2-1:


mabikung

  • บุคคลทั่วไป
ถ้าถามว่า ผมสองคนมีใครเชื่อหมอดูไหม บอกได้เลยว่าไม่มี มีคนเดียวที่เชื่อคือพี่ที่เป็นหุ้นส่วน

ช่วงนี้ใช้สติกันเยอะหน่อย เพราะวันแรก ๆ ที่พี่เค้ามาก็เสียศูนย์พอดี ตอนนี้ก็เริ่มตั้งศูนย์ล่ะ เพราะก็คิดเหมือนกันว่าอยู่กันมาขนาดนี้จะเลิกกันทำไม

แต่เมื่อวานจะบ้าตายบ้านแทบแตก เพราะทะเลาะกัน เรื่องบ้าจี้มาก ซื้อไข่ผิดเบอร์

แหมแต่จะบอกแกทายไม่มีอะไรดีเลยนะ บ้านไม่ดี ต้องหาใหม่ ผมสองคนก็อยู่กันไม่ได้ การค้าก็ไม่ดี มานั่งนึกว่า โหเฮียทายซะหมดเลยไปตายดีไหมเนี่ยะ(ประชด) นี่ยังชะลอ ๆ ไว้นะ เพราะพี่เค้าจะให้ผมสองคนเปลี่ยนชื่อด้วย ผมเลยบอกชื่อนามสกุลผมสมเด็จเจ้าอาวาสให้มา คงเปลี่ยนให้ไม่ไหวอ่ะ เบื่อจุง เหมือนมีคนบงการชีวิต อยากให้เราทำอะไรก็ต้องทำ

เรื่องงานเรื่องการค้าก็ช่วยนี้ทรง ๆครับ เดี๋ยวอีกซักพักน่าจะดีขึ้นสภาพบ้านเมืองก็น่าเบื่อ ทำกำลังซื้อตกหมดเล้ยยย

แต่ผมมองเสมอนะ ว่าชีวิตคนที่ต่ำกว่าเราก็มี

ออฟไลน์ oaw_eang

  • Global Moderator
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8418
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2122/-586

ออฟไลน์ Poes

  • คนแรกของหัวใจ คนสุดท้ายของชีวิต
  • Administrator
  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 11342
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2405/-22

ออฟไลน์ hembetaro

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1122
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +112/-1

เราเป็นคนเชื่อเรื่องดวงนะ คิดว่ามันน่าจะส่งผลต่อชีวิตนะ  แต่อีกอย่างนึงที่เชื่อมากกว่า คือ คนเราทำอย่างไรได้อย่างนั้น  คือ  ถ้าหมอดูบอกว่าชีวิตบั้นปลายจะสบาย จะไม่ลำบาก จะมีคนอุปถัมธ์ แล้วคือเราไม่ต้องทำกินแล้วสิ  รอคนอุปถัมธ์อย่างเดียว  ถ้าคนไม่หาเลี้ยงตัวเองใครมันจะอยากมาอุปถัมธ์ค้ำชู  ยิ่งเรื่องเงินเรื่องทองยิ่งแล้วใหญ่  หมอดูบอกให้เลิกกันแล้วจะโชคดีมากกกก ดังนั้นนายทุนบอกให้เลิกกัน  โอเค งั้นกรุเลิกกัน แต่กรุขอรอโชคดีที่ว่านั่นเฉยๆ อีนายทุนจะยอมไหมล่ะ  ก็เชื่อหมอดูนิ ก็ต้องยอมนะ

ในกรณีนี้เราว่าคุณทั้งคู่ผ่านอะไรมาด้วยกันเยอะมากกกก  ที่เป็นอยู่ตอนนี้ถ้ามันไม่ได้ลำบากกว่าที่เคยผ่านมาจะต้องเชื่อหมอดูทำไม  ในเมื่อลำบากกว่านี้พวกคุณยังอดทนผ่านมาด้วยกันได้แล้ว  นั่นแสดงว่าพวกคุณผ่านจุดที่แย่ที่สุดมาแล้วยังมีอะไรที่ต้องกลัวอีก   :n1:

เป็นกำลังใจให้พวกคุณนะคับ  เชื่อว่าฟ้าหลังฝนของคุณทั้งสองคนจะต้องสวยงามกว่าการเลิกกันตามคำพูดของหมอดูมาก

ปล. หากนายทุนไม่เห็นชอบกับทางเลือกของพวกคุณ  ก็อยู่ที่พวกคุณแล้วล่ะว่าจะเลือกนายทุน หรือคู่ชีวิต ล่ะ

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด