ตอนที่ 34“ เต “ เสียงเบาๆที่เอ่ยเรียกผม ตอนมือข้างที่กุมกันแน่นค่อยๆหลุดออกไป น้ำตาที่ไหลลงมาผมเอาแต่หันหลังให้คนที่ยืนอยู่ข้างหลังของตัวผมเอง ในห้องพักอาจารย์ที่ตอนนี้ไม่มีใครอยู่ ไฟท์เดินเข้ามาอยู่ข้างหลังใกล้ๆ
“ ถ้าอยากจะร้องไห้ ไหล่กูว่างนะ “ มือที่ยื่นมาลูบหัวของผมเบาๆ “ จะร้องไห้เพราะเจอเค้าก็ไม่เป็นไร แต่ให้กูอยู่เป็นเพื่อนนะ “
“ ไฟท์ “ ผมเรียกชื่อมันเสียงเบาๆก่อนจะหันไปกอดมันไว้แน่น ซบหน้าที่อาบไปด้วยน้ำตา “ ขอโทษ กูขอโทษ กูร้องไห้เพราะมันอีกแล้ว ขอโทษนะมึง “
“ ไม่เป็นไร ไม่เห็นเป็นอะไรเลย “ เสียงที่บอกออกมา ไฟท์กอดผมไว้แน่นเช่นกัน มันลูบหลังผมเบาๆ “ อยากจะร้องไห้ ก็แค่ร้องไห้ออกมา ก็เท่านั้น “
“ ไม่อยากจะทำแบบนั้นเลย ช่วยหน่อยเถอะ “ ผมเงยหน้าขึ้นมองหน้าไฟท์ “ ช่วยทำให้กู หยุดร้องไห้ที “
“ ได้สิ “ มือที่กำลังสวมกอดเลื่อนออกมาก่อนจะเชิดปลายคางของผมขึ้น ริมฝีปากที่แนบสนิทลงมาผมหลับตาลงตอนที่เผยอปากออกเล็กน้อยเพื่อตอบรับลิ้นชื้นที่แทรกเข้ามา มือที่วางนิ่งเลื่อนขึ้นไปกอดคอของไฟท์เอาไว้ เอนตัวตอบรับแรงที่โหมลงมาใส่ตัว ลมหายใจของเราขาดช่วงลงจนต้องผละออกจากกันช้าๆ “ สบายใจขึ้นบ้างมั้ย “
“ ไม่ “ ผมส่ายหน้า อีกคนก็หัวเราะ
“ งั้นจะให้ทำไงดี “
“ ไม่รู้ กูไม่รู้อะไรเลย “ ยื่นหน้าเข้าไปกอด ผมวางคางลงบนไหล่ของมัน หวนนึกถึงใบหน้าของมันที่มองผม สายตาที่สั่นไหวเหมือนไม่เชื่อเรื่องราวที่เกิดขึ้นตรงหน้า สายตาที่กำลังบอกกับผมว่า มันกำลังทรมานเป็นสายตาเดียวกันกับวันที่มันขอร้องให้ผมยืนอยู่ข้างๆ “ ผ่านมาตั้งนานแล้ว ทำไมกูยังจำมันได้อยู่อีกวะ “
“ คนเราจดจำสิ่งที่ทำให้เราเจ็บปวดได้ดีกว่าสิ่งที่ทำให้เรามีความสุขเสมอเหละ “
“ อย่างงั้นสินะ “ ผมผละออกจากอ้อมกอดของไฟท์ ตอนที่เงยหน้าขึ้นมองมัน อีกคนก็ยิ้ม “ มึงเจ็บมั้ย “
“ เจ็บยังไง “
“ ตรงนี้นะ เจ็บมั้ย “ ยื่นมือไปจับที่หัวใจของมัน อีกคนก็ลูบหัวผม “ ตอนที่กูร้องไห้เรื่องของแฟนเก่าให้มึงฟัง มึงเจ็บมั้ย กูขอโทษนะ “
“ ลืมไม่ได้ก็ไม่ต้องลืมหรอก คนเรายิ่งพยายามลืมก็ยิ่งจำนะ กูคิดว่า กูเองก็ไม่ใช่คนที่ดีพร้อมอะไร กูมีข้อเสีย แล้วทำไมกูจะต้องอยากได้คนดีพร้อมไปหมดว่ะ ลืมไม่ได้ก็ไม่ต้องลืม อยากจะจำก็จำมันเอาไว้ แต่ว่า อย่าจมอยู่กับ เพราะมึงต้องเริ่มต้นใหม่กับกู “
“ ไฟท์ “ ผมยิ้มออกมาตอนที่ฟังคำนั้นของมัน พยักหน้าให้ “ อื้ม กูจะจำคำมึงไว้ “
“ กลับบ้านกันเถอะ วันนี้แวะกินอะไรอร่อยๆที่ไหนดี “ ลำตัวที่ดึงห่างออกจากตัวผม ไฟท์ยิ้มทั้งๆที่ในแววตาก็ยังเศร้าอยู่ ความเศร้าที่ผมไม่รู้ว่า มันกำลังเรื่องของผม หรือว่าเรื่องของเพื่อนสนิทคนนั้น
“ กินที่บ้านดีกว่า เดี๋ยวกูจะทำให้กินเอง “
“ เอาดิ ไม่เปลืองตังค์ด้วย “
“ อื้ม “ พยักหน้าไปให้ ตอนที่หันหลังเก็บของใช้ส่วนตัวบนโต๊ะลงกระเป๋า คำพูดที่บอกว่าโรมว่ามีสอนต่อเมื่อครู่ไม่จริงสักนิด “ นี่ไฟท์ รู้สึกยังไงเหรอ ที่เห็นเพื่อนตัวเองมากับโรม “
“ กูเหรอ “
“ อื้ม “ ผมเงียบตอนที่ตั้งใจฟังมันพูดมือก็เหมือนจะหยุดชะงักไป
“ ดีแล้วเหละ มันคงมีความสุขมากกว่าที่จะอยู่กับกู “ ผมปิดซิปกระเป๋าตอนที่หันไปหา มือสองมือก็ประคองหน้ามันขึ้นมา “ มีอะไร “
“ แล้วรู้ได้ไง ว่าเค้ามีความสุข “
“ มึงคิดว่าคนรักกันที่รักกันมากๆ มีสิทธิเลิกกันได้มั้ย “ ผมพยักหน้า แน่นอนว่าต้องตอบแบบนั้นเพราะประสบการณ์ที่ผ่านมากับรักครั้งเก่าก็สอนผมแบบนั้น “ กูไม่อยากเสียมันไป มันเป็นเพื่อนคนเดียวที่กูมี ให้มันเป็นเพื่อนกูดีกว่า เพราะเพื่อนกันไม่มีวันเลิกกันหรอก “
“ อยากจะบอกว่า แฟนกันรักกันมากก็ไม่มีวันเลิกกันหรอก หรือไม่ก็ งั้นก็อย่าเลิกกันสิ .. แต่โทษทีว่ะ จากประสบการณ์ของกู กูแนะนำด้วยคำพูดนี้ไม่ได้ “
“ มึงซวยนะ ที่มารู้จักกับคนแบบกู “ ผมหัวเราะออกมาตอนที่ไฟท์พูดออกมาแบบนั้น มันพูดออกมาด้วยท่าทางเซงๆ จนผมได้แต่นิ่งอยู่อย่างงั้น แล้วหัวเราะ
“ มึงก็ไม่ได้โชคดีหรอก มึงก็ซวยเหมือนกันเหละน่า “
................................................
“ วันนี้มีสอนเหรอวะ “ ผมหันไปตามเสียงที่ทัก พยักหน้าให้ไฟท์ที่ตื่นขึ้นมานั่งบนที่นอน ท่าทางงัวเงียของมันอ้าปากหาวออกมาในเช้าวันใหม่ที่ไม่มีสอน
“ มึงนอนต่อเถอะ วันนี้มึงไม่มีสอนไม่ใช่รึไง “
“ ก็อื้ม “ ว่าแบบนั้นก่อนจะล้มตัวลงนอนแต่ก็ไม่คิดจะหลับตาลง สายตาที่ยังคงมองมาที่ผมที่กำลังแต่งตัว ใส่เนคไทก่อนจะล้มตัวลงนั่งไฟท์ก็เลื่อนตัวมานอนตัก “ มึงมีสอนด้วยรึไง “
“ สอนแทนอาจารย์สุดารัตน์ที่ขอลาคลอดไง จำไม่ได้รึไง มึงก็มีสอนแทนไม่ใช่เหรอ “
“ ก็ใช่แต่คนละคราสกัน ของกูไม่ใช่วันนี้ “ ถอนหายใจออกมาก่อนจะพลิกหน้าซบลงกับ
“ ไม่ใช่ก็นอนไป จะรีบตื่นทำไม “
“ ก็มึงตื่นแล้ว “
“ เกี่ยวอะไรกัน นอนต่อเลยไปนานๆทีจะได้มีวันหยุดนะมึง “ ส่ายหน้าให้มัน มือที่ดันหัวมันออกพร้อมๆกับขาที่กำลังจะลุกแต่อีกคนก็รั้งเอาไว้ “ มีอะไร “
“ สอนเสร็จก็รีบกลับนะ มึงสอนแค่คาบเช้าใช่มั้ย “
“ อื้ม “
“ จะคอยกินข้าวเที่ยงด้วยแล้วกัน “
“ แล้วถ้ากูกลับช้าล่ะ “ ผมถาม
“ จะหิ้วท้องรอ มึงจะได้ไม่บ้างานแบบนั่งทำนู้นนี่นั่นที่มหาลัยจนเย็นแบบทุกทีไง “ ผมหัวเราะออกมาตอนที่มันพูดคำนั้น เพราะทุกครั้งก็มักเป็นแบบนั้น เวลาสอนเสร็จถ้าไฟท์ยังสอนไม่เสร็จผมจะนั่งคอยมันด้วยการทำนู้นทำนี้เรื่อยเปื่อยอยู่ในห้องพักแล้วก็รอกลับพร้อมกัน
“ มึงไม่อยู่ กูจะนั่งอยู่ทำไมเล่า “
“ ก็เผื่อมีอาจารย์ คนไหนชวนมึงไปกินข้าว “
“ พูดมากจังเว้ย นอนๆไปเลยไป “ ผมว่าตอนที่ลุกขึ้นยืนมันก็พลิกตัวกลับไปนอนที่เดิม “ แล้วกูจะรีบกลับแล้วกัน “
“ ขับรถดีๆนะ ถึงแล้วก็ไลน์มา “
“ ครับๆ สั่งมากจังเลย “
ผมขับรถออกมาจากคอนโดจนถึงมหาลัย ตอนที่กำลังเก็บเอกสารอยู่ภายในรถก็รู้สึกมีเงาดำของใครบางคนยืนมองผมอยู่หน้ารถ แต่ตอนนี้ที่หันไปมอง ทุกอย่างรอบตัวตรงนั้นก็เหมือนหยุดนิ่ง แฟนเก่าที่เพิ่งเจอหน้ากันเมื่อวาน ตอนนี้มันยืนอยู่ตรงนี้แล้ว ก็น่าจะคิดหน่อยว่า ถ้ามันรู้ว่าตอนนี้ผมอยู่ไหนยังไงก็ต้องกลับมาหาอีกอยู่แล้ว
ผมเสหน้าไปทางอื่นฝืนกลืนน้ำลายเหนียวๆลงคอ ก่อนที่ใครอีกคนจะเดินมายืนอยู่ข้างๆประตูของคนขับ มือหนายกขึ้นเคาะกระจกรถ
“ รู้แบบนี้ให้ไอ้ไฟท์มาด้วยก็ดี “
“ ลงมาหน่อย “ เสียงเรียบๆที่ดังอยู่ข้างนอก ผมสูดลมหายใจเข้าเต็มปอดก่อนจะเปิดประตูรถแล้วก็ก้าวเท้าลงไป
“ มีอะไรครับ “ ถามออกไป ทั้งๆที่ใจของผมสั่น
“ หึ “ ยิ้มที่ยกขึ้น ผมขมวดคิ้วมองมัน “ ไม่เจอกันนานเลยนะ เมื่อวานยังไม่ได้คุยอะไรกันเลย “
“ ไม่มีอะไรต้องคุยหรอก จริงๆนะ “ ผมเดินเลี่ยงออกจากตัวมัน แต่มือนั้นก็ฉุดดึงเอาไว้ ผมหันไปมองมือของมันที่จับมือแขนของผม จ้องมันอยู่นานในใจผมก็คิดสัมผัสแบบนี้ ยังอุ่นเหมือนเดิม
“ แอล “
“ กูจะไปสอนหนังสือ ได้เวลาแล้ว “ ผมหันไปบอกมัน ตอนที่ดึงแขนออกจากการจับกุมนั้นผมเดินห่างออกมาก่อนจะหันไปบอกอีกคนที่ยังยืนนิ่งตรงนั้น
“ กูไม่ได้ชื่อแอลอีกแล้ว กูชื่อเต แล้วตอนนี้กูก็กำลังมีชีวิตใหม่แล้ว มึงเองก็มีชีวิตใหม่เหมือนกันไม่ใช่เหรอ “
“ ที่มาก็แค่อยากรู้ ว่ามึงลืมเรื่องของเราไปแล้วจริงๆเหรอวะ “
คำถามที่ยังคงวนเวียนอยู่ในสมอง คำถามที่ถูกเอ่ยถามเมื่อเช้าแต่ก็ไม่ได้ตอบกลับอะไรออกไป ผมไม่รู้ว่ามันโรมจะมาสอนที่นี่อีกนานเท่าไหร่ ทั้งๆที่มีคำถามมากมายที่อยากจะถาม แต่ก็พูดออกไปไม่ได้ สายตาของผมจ้องไปที่สไลค์ที่กำลังสอนนักศึกษา ช่วงเวลาที่กำลังให้ทำการบ้านส่งในคาบก็เหมือนจะเป็นช่วงเวลาที่ทำให้ผมจมดิ่งลงไป
“ อาจารย์เตวิชย์ค่ะ อาจารย์ “ ผมเงยหน้าขึ้นมอง นักศึกษาสาวที่เดินมายืนอยู่ตรงหน้า
“ ครับ มีอะไร “
“ เสร็จแล้วค่ะ “ เธอว่าก่อนจะวางกระดาษคำตอบที่ผมให้ทำตอนท้ายชั่วโมงลงบนโต๊ะ “ วางไว้ตรงนี้นะคะ “
“ ครับ “ ผมพยักหน้า เธอก็เดินกลับไปที่โต๊ะของตัวเอง ผมมองไปรอบๆห้องที่กำลังสอน ถอนหายใจออกมากับตัวเองที่ไม่มีสติอะไรเลยในการทำงาน “ ใครที่ทำเสร็จแล้วก็มาส่ง แล้วกลับได้เลยนะ “
ผมมองไปที่ประตูห้องที่เริ่มมีนักศึกษาทะยอยกลับไป ประตูที่ถูกเปิดออกผมพบว่ามีใครบางคนกำลังรออยู่ตรงนั้น ถอนหายใจออกมา ผมกรอกตาไปมาตอนที่ก้มเก็บของตัวเองในใจก็คิด “ กัดไม่ปล่อยเลยเว้ย นิสัยเสียจริงๆ “ มันเป็นเหมือนเมื่อก่อนไม่มีผิดเลย โรมเป็นคนประเภทที่ว่า ถ้าโกรธกันมันจะตามง้อจนกว่าจะหายคืนนี้ น่ารำคาญ แต่ทุกครั้งที่โกรธกันเพราะเป็นแบบนั้นเลยผ่านมาได้ตลอด
นั่นคือเหตุผลที่ว่าทำไมผมถึงหนีไป เพราะถ้าไม่หนี ก็ต้องกลับไปจมอยู่กับความเสียใจพวกนั้น ความเสียใจที่จะต้องทรมานตลอดไปทั้งชีวิต
“ อาจารย์ครับ นี่ครับ “
“ วางไว้ตรงนั้นเลยครับ “ ผมบอก เด็กนักศึกษาที่เอางานมาส่งก็ยิ้ม “ มีอะไร “
“ เปล่าครับ ไม่มีอะไร “ พอหันไปจ้องแล้วถามออกไปแบบนั้น เค้าก็หลบตาแล้วก็กลับออกไปหากลุ่มเพื่อน เสียงถอนหายใจเสียดายของเพื่อนๆ เชิงล้อ
“ โหยมึงกล้าหน่อยดิวะ “
“ ไม่กล้าว่ะ “
“ ป๊อดสัดๆ มา กูจัดการให้ “ คนที่กำลังจะลุกขึ้นยืน ถูกเด็กคนนั้นรั้งมือเอาไว้
“ เฮ้ยๆ ไม่ต้องๆ ช่างมันเถอะ “
“ ก็แค่ถามเอง “
“ อาจารย์เตวิชย์ครับ ผมมีคำถาม “
“ เฮ้ย ไอ้เชี้ย “ เพื่อนที่ดึงแขนกันไว้ เหมือนกำลังห้ามสิ่งที่คนตั้งคำถามอยากจะถามผม
“ จะถามว่าอะไร “
“ มันก็ไม่ใช่ในวิชาเรียนอะไรหรอกนะครับ แต่ผมแค่อยากรู้ ว่า อาจารย์มีแฟนรึยัง “ ทุกอย่างในห้องเรียนเงียบลง ตอนนี้มีเด็กผู้หญิงอยู่สองสามคนแล้วก็กลุ่มของเด็กผู้ชายคนนั้นที่เข้ามาส่งงานเมื่อสักครู่ แค่ดูก็รู้แล้วว่าคิดอะไรกันอยู่
“ ทีหลังช่วงถามคำถามที่เป็นประโยชน์ต่อตัวเธอเองด้วยนะ ไม่ใช่คำถามแบบนี้ แต่ครั้งนี้จะตอบแล้วกัน ผมมีแฟนแล้วครับ “ ลุกขึ้นยืนจากที่นั่งสอน ผมมองไปรอบ “ มีใครยังไม่ส่งงานอีกมั้ย “ ทุกคนมองหน้ากันก็เป็นอันว่าครบเรียบร้อย “ ฝากบอกเพื่อนๆด้วยว่า ถ้ายังมีเพื่อนคนไหนยังไม่ส่งเอาไปส่งที่ห้องพักครูนะ “
“ ครับ “
“ งั้นเจอกันชั่วโมงหน้านะ “ ผมลุกขึ้นจากที่นั่งสอน ตอนที่กำลังเดินออกไปจากห้อง นักศึกษาผู้หญิงก็พูดขึ้น
“ พวกโง่ ดูไม่ออกรึไง ว่าอาจารย์เตวิชย์คบกับอาจารย์พิริยะ อยู่ไง “
“ บ้า จริงเหรอ “
“ เค้ากลับบ้านด้วยกันทุกวัน มีคนเห็นด้วยว่าอยู่คอนโดเดียวกัน สนิทกันออกขนาดนั้นจะไม่เป็นแฟนกันได้ไง เคยเห็นอาจารย์เตวิชย์สนิทกับอาจารย์คนไหนมั้ยล่ะ วันก่อนเห็นมีเด็กที่ชอบอาจารย์พิริยะทำแซนวิชไปให้ยังโดนอาจารย์เตวิชย์ซิ่วไปกินเลย เค้าหวงกันจะตาย “
“ มึงแม่ง ช้า เห็นมั้ย “
เปิดประตูออกไปนอกห้องเรียน เผลอยิ้มออกมากับสิ่งที่ได้ยิน หวนคิดถึงคนที่บอกว่ากำลังหิ้วท้องรออยู่ข้อมือก็ถูกยกขึ้นมาดูเวลา เหลือเวลาอีกเยอะ แวะซื้อของสดเข้าไปทำอะไรง่ายๆ กินกันสองคนดีกว่า
“ สอนเสร็จแล้วเหรอ “
“ โรม “ ผมหันไปตามเสียง คนที่เมื่อครู่เห็นอยู่นอกห้องยังคงคอยอยู่ “ มีอะไร “
“ ไปกินข้าวด้วยกันหน่อยมั้ย “
“ ไม่ล่ะ กูมีนัดกินข้าวกับไฟท์แล้ว “
“ เหรอ “ มันพยักหน้า ผมที่กำลังจะก้าวขาเดินออกไปก็หันมาบอก “ เอาเวลาไปสนใจแฟนกับลูกของมึงเถอะ ถ้าเค้ารู้ว่ามึงมาที่นี่เค้าคงไม่สบายใจ เค้ายังไม่รู้ใช่มั้ยล่ะ ว่ากูเป็นใคร เพราะงั้นอย่าทำอะไรที่เค้าไม่สบายใจเลย กลับไปเถอะ “
“ กูแค่อยากจะคุยกับมึงให้รู้สึกก็ไม่ได้เหรอวะ “
“ ไม่เห็นมีอะไรต้องคุย เรื่องพวกนั้นมันจบไปตั้งหลายปีแล้ว มันจบไปแล้ว “
“ แต่กูยังมีจบนะ ยังมีเรื่องที่อยากจะถามมึงเยอะแยะ “ มือที่ยื่นมาจับข้อมือของผมไว้ ตอนที่หันไปมองโรมก็ส่งสายตาอ้อนวอนมาให้ เหมือนตอนนั้นเลย ตอนที่ที่มันข้อร้องไม่ให้ผมไป
“ แต่กูไม่มีแล้ว ชีวิตของกูมันเริ่มต้นใหม่แล้ว “
“ มึงลืมทุกอย่างไปหมดแล้วจริงๆ เหรอวะ ความรู้สึกทั้งหมดของเรามันได้ง่ายขนาดนั้นเลยเหรอวะ “
“ แล้วทำไมคนเราต้องจำเรื่องที่ทำให้เสียใจด้วยวะ “ ผมถาม
“ แล้วมึงคิดว่า มึงเสียใจอยู่คนเดียวรึไง “ เสียงตะโกนกลับของโรม ผมหันมองรอบๆเหล่านักศึกษากำลังหันมามองเรา ผมจ้องมันนิ่งๆก่อนจะถอยหลังจะหนีออกมา แต่นั่นก็ช้ากว่ามือที่ดึงผมไว้ โรมลากผมออกไปจากด้านหน้าคณะ มาถึงลานจอดรถ “ ขอคุยด้วยดี ๆ “
“ กูไม่มีอะไรจะคุย เราเคลียร์กันไปนานแล้ว ตอนนี้มึงมีเค้าคนใหม่ เค้าคนที่เข้ากับลูกของมึงได้ เค้าคนนั้น คนที่ไม่ใช่กู มึงต้องการอะไรอีกวะ เคลียร์กับกู เคลียร์ทำไม เพื่ออะไร มันจะได้ะไรขึ้นมาว่ะ ในเมื่อต่างคนต่างก็มีคนใหม่ หรือมึงคิดจะกลับมา “ ทุกอย่าเงียบโรมไม่ตอบอะไรผม เอาแต่มองหน้านิ่งๆ “ ถ้ามึงจะคิดแค่ว่าเคลียร์ไปเพื่อที่จะกลับมาเพื่อนอะไรแบบนั้น มึงเลิกความคิดพวกนั้นไปเถอะ เพราะมึงกับกูเรากลับไปเป็นแบบนั้นไม่ได้แล้วเเหละ “
“ ทำไมวะ ทำไมไม่ได้ ทำไมต้องทำกันถึงขนาดนี้ มึงเปลี่ยนชื่อเพื่อหนีกู ทำไมวะมันเจ็บมากเหรอ แต่กูก็เจ็บนะเว้ย มึงคิดว่ากูอยากมีลูก มึงคิดว่ากูอยากเลิกกับมึงเหรอ ไม่เลยเว้ย ถ้ากูย้อนเวลากลับไปได้กูเองก็อยากจะอยู่กับมึง อยากจะรักกับมึงเหมือนเดิม ไม่อยากมีลูก ไม่อยากพลาดทำใครท้องเหมือนกัน “
“ เจ็บมากเหรอ มึงถามคำถามนั้นออกมาได้ยังไง เจ็บมากเหรอ “ ผมหัวเราะออกมาสายตาก็จ้องมองมัน “ มึงถามคำถามเหี้ยๆแบบนี้ออกมาได้ไงวะ มึงคิดว่ากูไม่เจ็บเหรอ การที่กูเห็นคนที่กูรักมีลูกกับใครคนอื่นที่ไม่ใช่กู กูที่ต้องทนให้ผู้หญิงคนนั้น คนที่มึงไปมีอะไรด้วยมาคอยด่าอยู่ทุกวัน กูมันคนที่ทำให้ครอบครัวเค้าพัง ทำให้เด็กที่กำลังจะเกิดมาไม่มีพ่อ กูที่ต้องโดนด่าแบบนั้น ทั้งๆที่กูเป็นคนที่มาก่อน กูมาก่อนแต่กูต้องทนฟังเสียงด่าพวกนั้นอย่างงั้นเหรอวะ แล้วกูทำผิดอะไรอะ ผิดที่เป็นผู้ชาย ผิดที่ไม่ยอมถอยให้คนที่มึงทำเค้าท้องอย่างงั้นเหรอ แล้วสุดท้ายพอเด็กคนนั้นคลอดมึงกับเค้าอยู่ด้วยกันไม่ได้ มึงให้กูกลับไป เพื่ออะไร เพื่อเลี้ยงดูเด็กคนนั้นเหรอ เด็กคนนั้นคนที่ทำให้กูกับมึงต้องเลิกกัน เด็กที่เกิดจากการที่มึงนอกกายกูไปเอากับคนอื่นจนเค้าท้อง มึงคิดว่ากูเป็นคนใจกว้างขนาดนั้นเลยเหรอ มึงคิดว่ากูรักมึงมากจนยอมทุกอย่างเลยเหรอ แล้วมึงล่ะ เคยคิดบ้างรึเปล่าว่ากูรู้สึกยังไง มึงเอาแต่ความรักมาอ้าง มึงรักกู มึงรักกูแล้วยังไง ถ้ามึงรักกูเรื่องแบบนี้ต้องไม่เกิดขึ้นดิวะ มันต้องไม่เกิดขึ้นตั้งแรก แล้วตอนนี้มึงจะมาเอาอะไรจากกูอีก ปล่อยกูไปไม่ได้เหรอ “
“ กู ขอโทษ “
“ ทุกครั้งมึงมักเอาคำว่า รัก กับขอโทษมารั้งกู แต่ครั้งนี้กูขอได้มั้ย ช่วยปล่อยกูไปทีเถอะอย่ารั้งกูไว้อีกเลย “ เพราะถ้ามึงทำแบบนี้อีก กูอาจจะไม่ได้เข้มแข็งอย่างวันนี้ก็ได้
“ แค่คุยกันดีๆ ก็ไม่ได้เหรอวะ “
“ กูแค่อยากจะคุยกับมึงดีๆ สักครั้ง เท่านั้นเอง “
“ เพื่ออะไรวะ มึงต้องการอะไรกันแน่ กูไม่เข้าใจ “ ที่มารั้งผมไว้แบบนี้ทั้งๆที่คนรักใหม่อยู่แล้ว และรู้ทั้งรู้ว่าผมเองก็มีแต่ทำไมถึงยังรั้งเอาไว้อยู่
“ กูแค่อยากจะคุยกับมึง ไม่ว่าในฐานะไหน กูแค่อยากจะเห็นมึงอยู่ กูแค่อยากรู้ว่ามึงเป็นยังไง สบายดีมั้ย ไม่อยากให้มึงห่างไปไหนอีก ถึงกูจะรู้ว่าถ้าพูดออกไปว่าเพราะกูพลาดไปเลยทำให้เรื่องเป็นแบบนั้น นั่นจะเป็นแค่ข้ออ้าง แต่ก็อยากให้มึงฟัง ไม่ต้องกลับมาเป็นเหมือนเดิมก็ได้ ขอแค่ให้เราเป็นเพื่อนที่ดีต่อกันก็พอ “
“ แล้วอินล่ะ มึงจะทำยังไงกับเค้า เค้าไม่รู้ไม่ใช่เหรอ เรื่องของเรานะ แล้วมึงคิดเหรอ ว่าเค้าจะรับได้ “ ไม่มีหรอกคนที่อยากให้แฟนของตัวเองไปยุ่งกับแฟนเก่านะ “ กูให้ความเป็นเพื่อนกับมึงไม่ได้หรอก “
“ ทำไม “
“ กูไม่อยากอยู่ในฐานะนั่น “
“ แล้ว “
“ พอเถอะ มึงเลิกพูดสักทีได้รึเปล่า มึงกลับไปเถอะ แล้วอย่ามายุ่งกับกูอีก กูมีแฟนใหม่แล้ว กูไม่ใช่แอลแล้ว แอลมันตายไปแล้ว ตอนนี้มีแค่ เต มีแค่เตเท่านั้น “
“ แอล “
“ อย่าพยายามในสิ่งที่มันเป็นไปไม่ได้เลย “ ผมว่าแบบนั้นตอนที่ตัดสินใจเดินออกห่างจากมัน เสียงของโรมก็ดังไล่หลังตามมา
“ แต่มึงก็น่ารู้ ว่ากูไม่เคยละความพยายามอยู่แล้ว “
ใช่กูรู้ แล้วก็ก็หวังเป็นอย่างยิ่งด้วยว่า กูจะไม่กลับหลังหันไปยืนอยู่ตรงจุดนั้นอีกครั้ง
จุดที่เคยทำให้เสียใจจนเกือบอยากจะตายมาแล้ว
“ ทำไมกลับช้าจัง “ เสียงทุ้มทักขึ้น ตอนที่ผมเปิดประตูห้องเข้าไปแล้วเงยหน้าขึ้นมองมันก่อนจะหลบตาไปทางอื่น ไฟท์ที่หันมามองก็ลุกขึ้นจากโซฟาแล้วเดินตรงเข้ามาหา “ กินอะไรยัง “
“ มึงเป็นอะไร “ มือที่ยกขึ้นมาประคองหน้า มาพร้อมกับคำถามที่ทำให้ผมดึงตัวเองเข้าไปซบกับอกของมัน
“ ไฟท์ คือกู “
“ ร้องไห้ทำไม “ อาจเพราะตาของผมแดงกล่ำมันเลยตัดสินใจถามออกมาแบบนั้น “ วันนี้มันมาหามึงเหรอ “ ผมพยักหน้าอีกคนก็ถอนหายใจ “ แล้วร้องไห้ทำไม “
“ ไม่รู้ พออยู่คนเดียวน้ำตามันก็ไหลออกมา “ ความรู้สึกตอนที่เถียงแตกต่างกับตอนที่อยู่คนเดียวเสียจริง ไม่เก่งจริงนี่หว่า “ โทษที แล้วมึงกินอะไรรึยัง “
“ ยัง ก็บอกแล้วไง ว่าจะคอย “
“ ไฟท์ “
“ ถามอะไรหน่อยสิ “ ไฟท์เอ่ยถามผมก่อนที่ผมจะถามมัน
“ จะกลับไปมั้ย “
“ ไปไหน “
“ กลับไปรักกับเค้าคนนั้นนะ “ ผมหลบตาไปทางอื่นตอนที่ได้ยินคำถาม ผมส่ายหน้า
“ มันจบแล้วล่ะ เรื่องของกูกับมัน จบไปนานแล้ว กูไม่ใช่คนใจกว้างอะไรขนาดนั้น กูเป็นแค่คนธรรมดา ที่อยากให้คนที่กูรัก รักกูแค่คนเดียว ไม่ใช่คนรักที่ไปมีอะไรกับคนอื่นแล้วพลาดท่ามีลูกกับคนอื่น แล้วรั้งกูให้กูด้วยคำว่ารัก กูไม่ใช่คนใจกว้างแบบนั้นมึง กูทนอยู่ในสภาพนั้นไม่ได้ แต่กูก็ไม่รู้ว่าทำไม กูถึงร้องไห้ ทั้งๆที่ไม่คิดจะกลับไปแต่ไม่รู้ทำไมถึงต้องร้องไห้ “ ยิ่งเราผ่านช่วงเวลามีค่าด้วยกันมามากเท่าไหร่ เรื่องแบบนั้นก็ยิ่งยากสำหรับผม
“ เพราะความทรงจำมั้ง “ ไฟท์บอก “ ความทรงจำเป็นทั้งสิ่งที่ทำให้เจ็บปวด แล้วก็มีความสุข และเพราะรักเค้ามาก มึงเลยเอาแต่คิดว่ามึงเคยมีความสุขยังไง และเสียใจที่ตอนนี้ไม่ได้เป็นแบบนั้น “
“ ไม่ใช่อย่างั้นหรอก กูแค่ไม่อยากจะเจอมันมากกว่า “
“ แล้วที่ไม่อยากเจอ ไม่ใช่เพราะว่า กลัวคิดถึงเรื่องเก่าๆเหรอ “ คำถามที่ทำให้ผมหยุดนิ่ง เงยหน้ามองไฟท์ที่ยิ้มออกมา มันลูบหัวผม “ ไม่เป็นไรหรอก กูบอกแล้วใช่มั้ย ว่าถ้ามึงอยากจะจำไว้ก็ไม่เป็นไร แต่อย่าร้องไห้ เพราะถ้ามึงร้องไห้ มันจะแสดงให้รู้ว่า มึงยังรักเค้า ยังอยากกลับไปหา แต่แค่ใจมันบอกว่า เจ็บแล้ว ไม่อยากไปแล้วก็เท่านั้น “
“ ไม่ใช่แบบนั้น สักหน่อย “ ซบลงไปบนไหล่ ผมบอกมัน
“ แล้วมันยังไง “
“ เพราะความทรงจำของกูมีแค่มันตังหาก นั่นคือเหตุผลที่ว่า ทำไมกูถึงยังต้องเสียใจอยู่แบบนี้ ความทรงจำที่เกี่ยวกับมันถ้ากูเลือกได้กูอยากจะลบมันออกไป เหลือไว้แค่สิ่งที่กูอยากจะจำ “
“ แล้วจะจำอะไรไว้ล่ะ “
“ จำไว้ว่าเคยเจ็บปวดยังไง จะได้ไม่กลับไปหา แล้วเสียใจกับเรื่องของมันอีก “
“ งั้นก็อย่าร้องไห้ “ มือที่เลื่อนมาหยิกแก้ม ผมมองหน้าผมไฟท์ก็ขมวดคิ้ว “ มีอะไร ทำไมยังทำหน้าแบบนั้น “
“ กูมาพูดเรื่องของโรมให้มึงฟังอีกแล้ว “
“ ถึงแม้ว่าจะเจ็บใจที่ได้ฟังเรื่องของแฟนเก่าจากปากมึง แต่ทำไงได้ว่ะ แทนที่จะให้มึงเสียใจอยู่คนเดียว กูอยู่กับมึงไม่ดีกว่าเหรอ เพราะกูคิดว่าถ้าเป็นเรื่องของกู มึงก็คงทำแบบนี้ “
“ อินยังไม่รู้เรื่องกูเลย มึงจะไปบอกมั้ย “
“ คิดว่าไปบอกดีมั้ย “ ผมไม่ตอบคำถามของไฟท์ แววตาที่หันไปทางอื่น ผมก้มหน้า
“ กูไม่อยากให้อินเสียใจอีกแล้ว กูอยากให้มันมีความสุข แล้วเพราะเอาแต่คิดแบบนี้ เลยไม่กล้าแม้ที่จะคิด ว่าจะบอก “
“ อย่าเค้าให้เค้ารู้เองนะ นั่นจะยิ่งเจ็บปวด “
“ แล้วถ้าฟังจากปากกูมันจะดีเหรอ ฟังจากปากของไอ้โรมไม่ดีกว่าเหรอ “
“ แล้วมันจะบอกเหรอ “
“ ไม่รู้สิ “ ไฟท์หันไปถอนหายใจทางอื่น
ถ้าในใจของผมกำลังคิดถึงโรม ตอนนี้ในใจของไฟท์ก็คงกำลังคิดถึงอินเหมือนกัน บางทีผมเคยคิดว่าที่เราอยู่ด้วยกันแบบมันเพราะว่าเรา รักกัน ถูกใจกัน หรือเพราะอะไรกันแน่ .... เพราะมีความเสียใจเหมือนกันอย่างงั้นเหรอ แล้วถ้าเราไม่ได้เสียใจละ เราจะเป็นยังไง
เพราะเสียใจเรื่องของความรักเหมือนกัน หรือเพราะคนที่ต่างคนต่างเคยรัก เขามารักกัน กันแน่
..................................
อาจจะให้จำกัดความเรื่องนี้ว่า
นิยายดราม่าหนักหน่วงของคนเขียนโรคจิตคนนึง
เราม่านะ หน่วงด้วย เจ็บให้อก ไม่รู้จะสงสารใครดี
จนบางทีก็คิดว่า หรือว่า เรื่องนี้จะไม่มีใครที่น่าสงสารเลย
หรืออาจจะน่าสงสารทุกคน เพราะแต่ละคน มีความเห็นแก่ตัวเป็นที่ตั้ง
เจอกันตอนหน้าจ้าาา
ขอบคุณที่เข้ามาอ่านและคอมเม้นท์
ใครมีเฟสหรือทวิต ฝากแท็ก #choiceต้องเลือก ด้วยนะคร่า
