ตอนที่ 33 “ โรม สรุปว่า เรื่องนั้นจะเอายังไง “ ผมหันไปหาต้นเสียงที่เดินเข้ามาใกล้ อินเดินเข้ามานั่งข้างๆ ใบหน้าที่โรยแรงของมันตอนนี้ผมยิ้ม แทนที่จะตอบ “ ยิ้มทำไม หน้ากูมีอะไรติดเหรอ “
“ มี “ บอกออกไปแบบนั้น อินก็เอามือขึ้นจับไปบนหน้าตัวเองเหมือนกำลังหา “ ซ้ายอีกๆ “
“ ไหน ตรงไหน “ เลื่อนมือไปทางซ้ายมันปัดๆ ผมก็ยิ่งขำ เพราะมันไม่มีอะไรติดอยู่ที่หน้ามันหรอกครับ แค่ตลกเวลาคนหน้าสวยๆทำหน้างงๆมากกว่า “ อะไรของมึงว่ะ ไปดูกระจกเองก็ได้ “ อินที่กำลังลุกขึ้นจากโซฟาหลังประโยคนั้น ผมดึงมือมันไว้ก่อนจะฉุดให้ลงมานั่งที่เดิม
“ มานี่ จะเอาออกให้ ตรงนี้ “ ยื่นมือไปจับที่แก้ม ผมเกลี่ยออกเบาๆ ก่อนจะยื่นหน้าไปจูบลงบนปาก ตอนที่ผละออกมาดวงตากลมๆก็หันไปมองทางอื่นด้วยแก้มสีแดงระเรื่อ ผมหัวเราะ
“ ไม่เห็นขำ แล้วตกลงหน้ากูติดอะไร “
“ ไม่มี “
“ ส้นตีน “ อินยิ้ม ก่อนจะถอนหายใจแล้วพิงตัวเองกับโซฟา “ อลิซหลับไปนานแล้วเหรอ “
“ ก็สักพักแล้ว รอมึงไม่ไหว “
“ โทษที ช่วงนี้กูเข้าเวรดึกตลอดเลย วันนี้ถึงจะไม่ได้เข้าเวรดึกแต่ก็กว่าจะเคลียร์งานเสร็จ เล่นเอาแทบบ้า “ มันหลับตาลง คงกำลังคิดถึงเรื่องวุ่นวายในที่ทำงานของตัวเอง “ เออ พ่อกับแม่กูคิดถึงอลิซน่ะ ฝากให้กูมาขอมึงให้กูพาอลิซไปเที่ยวที่บ้านวันเสาร์นี้ “
“ ตามสบายเลย วันเสาร์นี้กูก็จะไปทำงานเหมือนกัน “
“ งานอะไร “
“ งานที่เล่าไว้ไง “ ผมบอกมัน ก่อนจะยื่นมือไปเขกหน้าผากอีกคนเบาๆ พอเป็นเรื่องของผมแล้วขี้ลืมนัก พอเรื่องอลิซแล้วจำได้แม่นตลอด “ ลืมอีกแล้วรึไง “
“ งานที่บอกว่าจะไปเป็นอาจารย์สอนพิเศษนะเหรอ “ ผมพยักหน้า อีกคนก็เขกหน้าผากของผมกลับ “ ลืมที่ไหน กูถามตั้งแต่กลับมาแล้วเถอะ แต่มึงมัวแต่เหม่อ “
“ อ๋อเหรอ “
“ เออ ครับ “ หันไปยิ้มให้มัน อินก็ถาม “ ตกลงว่าไง จะไปทำมั้ย อาจารย์บรรยายที่มหาลัยนะ “
“ เรียกว่าอาจารย์เลยเหรอ “
“ คนที่ให้ความรู้ก็เรียกว่าครูได้นะ “ อินท้าวแขนกับเบาะของโซฟาแล้วหันมายิ้มให้ผม “ อาจารย์โรม “
“ ฟังดูตลก “
“ ก็ออกจะดูดีนะ อยากไปดูมึงว่ะ จะเป็นยังไงนะ มึงที่เป็นอาจารย์เนี้ย “ พอพูดออกมาแบบนั้นอีกคนก็ทำท่าเลียนแบบ “ เฮ้ยๆ มึงตรงนั้นพูดมากอะไรกันวะ แล้วมึงก็คงเอามือชี้ไป ไม่ก็โยนแปรงลบกระดานใส่ “
“ ตลก กูเป็นคนใจร้ายขนาดนั้นเลย “
“ โทรไปถามไอ้พุธ แล้วก็ ไอ้ปันดิ “
“ มึงนี่นะ “ ยื่นมือไปลูบหัวมัน ตอนที่ดันลงมาให้ซบที่ไหล่อีกคนก็ขืนตัว “ ทำไม “
“ แล้วมึงจะทำอะไร “
“ สร้างโมเม้นต์หวานๆ “ พอตอบออกไปแบบนั้นคนที่ขืนตัวก็เอนตัวลงมาซบไหล่ผมแบบว่าง่าย “ ถ้าเสาร์นี้ กูเจอนักศึกษาสวยๆ เข้ามาขอเบอร์จะทำยังไงดี “
“ กูก็คงดีใจด้วย มึงจะมีเมีย อลิซจะมีแม่ “ คำตอบที่มาพร้อมกับเสียงหัวเราะ ผมขำตามมัน
“ ไม่ใช่คำตอบที่กูอยากฟังเลยวะ “
“ แล้วมึงอยาจะฟังแบบไหน “
“ แบบไหนดีน้า “
“ อย่ามากวนส้นตีน “ มันยกยิ้ม ตอนที่เงยหน้าขึ้นมาจ้องผม “ อย่างมึงไม่สนใจผู้หญิงหรอก กูกลัวมึงจะสนใจผู้ชายมากกว่า “
“ รู้ใจ “ เอานิ้วเกลี่ยนแก้มมัน อินหลบ “ แต่กูมีมึงคนนี้อยู่แล้วคนอื่น กูไม่มองหรอก “
“ มึงอยู่ต่อหน้ากู มึงก็พูดได้เหละน่า พอเห็นเข้าจริงๆ อาจจะเปลี่ยนใจไม่ทันเลยก็นะ เด็กสมัยนี้หน้าตาน่ารัก “
“ ไม่หรอกน่า กูเจอแม่ของลูกแล้ว “
“ พูดเหี้ยอะไรของมึง “ ว่าแบบนั้น ก่อนจะลุกขึ้นจากโซฟาทันที อินมักเขินเวลาที่ผมพูดแบบนี้ มันมักจะเดินหนีเหมือนจะเอาแก้มแดงๆหลบไปให้ไกลสายตาผม ' น่ารัก '
“ แล้ววันเสาร์นี้มึงจะไปดูกูสอนรึเปล่า “
“ ไม่รู้ ดูตารางกับอารมณ์ก่อนเว้ย “
“ แต่กูจะคอยนะ “ ผมยิ้มกับเสียงขัดใจของมันที่หายเข้าไปในห้อง เปิดดูเมล์ของตัวเองในคอมพิวเตอร์ที่ก่อนหน้านี้อาจารย์ส่งรายละเอียดการบรรยายมาให้ ผมนั่งอ่านหัวข้อการบรรยายในใจก็คิดขึ้นมาว่า อะไรดลใจให้รับงานนี้ ทั้งๆที่ ที่แห่งนั้นอัดแน่นไปด้วยความสุขและความเจ็บปวดขนาดนั้น “ จะมาไม่อยากไปตอนนี้ก็ทันแล้วสินะ “
แล้ววันเสาร์ที่ผมไม่อยากให้มาถึงก็มาถึงจนได้ ภายในคอนโดที่ดูวุ่นวายอินกำลังเตรียมของให้อลิซเพื่อจะพาไปที่บ้าน ผมที่กำลังจัดของของตัวเองเดินออกมาจากห้องก็พบว่า ทั้งอินทั้งอลิซยังคงวุ่นวายกันอยู่เลย
“ วันนี้คนสวยของป๊าใส่ชุดนี้แล้ว น่ารักจังเลยครับ “
“ อาอินใส่ให้หนูเหละ วันนี้จะไปหาคุณตาแล้วก็คุณยายคร่า แล้วป๊าจะไปไหน “ มือเล็กๆหยิบเนคไทของผมขึ้นมาก่อนจะทำหน้าสงสัย ผมหยิกแก้มเธอเบาๆก่อนจะยิ้ม
“ ไปทำงานครับ “
“ หนูคิดว่าป๊าจะไปกับหนู “ ทำหน้าเศร้าใส่แบบน่ารัก อลิซที่เข้ามากอดผมไว้ก่อนจะหมุนตัวมานั่งตัก
“ วันนี้ป๊าของอลิซมีงาน หนูไปกับอินดีกว่านะ อาอินว่าง ไปทำขนมอร่อยๆกับคุณยายกันนะ “ เด็กน้อยพยักหน้าตอนที่ลุกจากตักผมก็เดินเข้าไปหาอิน “ อาอินเอาชุดไปเปลี่ยนให้หนูด้วย เผื่ออลิซอยากจะอาบน้ำ “
“ คร่า วันนี้หนูจะทำขนมมาฝากป๊าเยอะๆเลยนะ “
“ ครับผม “ ตอบแบบนั้น ตอนที่ลุกขึ้นยืยผมก็มองหน้าอิน “ แล้วมึงจะไม่ไปดูกูหน่อยเหรอ ว่างทั้งที “
“ ว่างที่ไหน “ มันชี้ไปที่อลิซ “ กูไม่ว่างหรอก “
“ แล้วไหนบอกว่าอยากดู “
“ อยากดู แต่ไม่ได้หมายความว่า จะไปดูนี่หว่า “ เอียงหน้าบอกผมมันสะพายกระเป๋าเป้ของอลิซ ก่อนจะจูงมือ “ อลิซบอกลาป๊าเค้าก่อน เราจะไปกันแล้วนะ บอกป๊าว่า ตอนเย็นๆเจอกันนะคะ “
“ ป๊าตอนเย็นๆเจอกันน้า “ อลิซเดินเข้ามาหา ยืดตัวทำท่าจะหอมแก้มผมก็ย่อตัวลง “ หนูจะทำขนมมาฝากป๊าเยอะๆเลย ป๊าตั้งใจทำงานนะ “
“ ครับผม เจอกันตอนเย็นครับลูก “
“ บ๊ายบาย “ ยกมือบ๊ายบายผม อินที่จูงอลิซออกไป ผมก็เอ่ยบอก
“ ขับรถดีๆนะ “
“ ครับผม “ ถอนหายใจออกมาตอนที่ได้ยินเสียงนั้นเป็นเสียงสุดท้ายตอนที่ประตูปิดลง หยิบกระเป๋าของตัวเองจากในห้องมาตั้งบนเก้าอี้ในครัว ผมนั่งลงกินอาหารแบบง่ายๆที่ถูกเตรียมไว้ เป็นคอนเฟลกกับนม แล้วก็ขนมปัง
ครืน ครืน ครืน เสียงโทรศัพท์ที่ทำให้ผมต้องหันไปมอง เครื่องสื่อสารที่กำลังร้องดังอยู่ในกระเป๋า ตอนที่หยิบออกมาดู มันโชว์เบอร์คนที่เดินออกไปเมื่อครู่
“ มีอะไร ลืมของเหรอ “ ผมกรอกเสียงลงไปถาม แต่อีกคนก็เงียบ “ อิน ลืมของเหรอ “
“ วันนี้ สู้นะๆ อาจารย์ พยายามเข้าล่ะ แล้วอย่าไปงับหัวนักศึกษาที่เอาแต่คุยนะ “
“ ไม่ทำแบบนั้นหรอกน่า “ ผมหัวเราะอีกคนก็หัวเราะตาม “ แล้วทำไมไม่บอกก่อนจะออกไป “ อย่างมันไม่น่าจะลืมหรอก น่าจะเป็นเหตุผลอื่นมากกว่า
“ ไม่เอา เขิน “
“ คิดไว้แล้ว ว่าต้องเหตุผลนี้ “
“ ถึงที่มหาลัยแล้วเป็นยังไงก็ไลน์มาบอกด้วยแล้วกัน “
“ โอเคครับ มึงก็ด้วยเป็นไงก็ไลน์มาบอก “
“ อื้ม รับทราบครับ โชคดีนะ “ อินกดวางสายพร้อมกับผมที่เอาแต่ยิ้ม ถอนหายใจออกมา ผมกระชับกระเป๋าของตัวเองที่ตั้งอยู่ข้างๆก่อนจะเดินออกไปจากห้อง
มหาลัยที่ไม่ได้มาอีกเลยหลังจากเรียนจบ แม้จะผ่านไปผ่านมาหลายครั้งก็ตาม จอดรถที่ลานจอดของคณะผมมองไปรอบๆตอนที่เดินเข้าไปด้านในคณะก็พบว่าอาจารย์ในคณะมายืนคอยอยู่แล้ว
“ สวัสดีครับ “
“ สวัสดี “ อาจารย์ว่าแบบนั้นก่อนจะเดินเข้ามาตบไหล่ผม “ ขอบคุณที่มานะ “
“ ยินดีมากครับ แล้วผมจะต้องเข้าบรรยายกี่โมงครับ “
“ ประมาณเก้าโมง “ ผมพลิกแขนของตัวเองขึ้นมาดูเวลามันบอกเวลาที่เพิ่งจะแปดโมง “ กินอะไรมารึยังล่ะ “
“ เรียบร้อยแล้วครับ “
“ งั้นมาคุยเรื่องรายละเอียดกันหน่อยดีมั้ย “
“ ได้ครับ “
รายละเอียดของงานไม่มีอะไรมาก เป็นแบบที่อาจารย์ส่งไปให้ผม มีการตอบคำถามนักศึกษาชั้นปีที่สี่เกี่ยวกับสายอาชีพเล็กน้อย แต่ตอนที่เดินออกจากห้องพัก ผมก็เจอเข้ากับ เพื่อนคนนึงที่เคยเป็นคนเรียนดีในคณะ ผมได้ข่าวว่ามันเป็นอาจารย์และที่เห็นอยู่ตอนนี้ก็ไม่ได้ผิดไปจากที่คาดการณ์นักจากชุดที่มันสวมใส่ แต่คงไม่ใช่อาจารย์ในมหาลัยที่นี่
“ อ้าว เฮ้ย ไอ้โรมเป็นไงบ้าง “
“ ก็ดี มึงล่ะ “ ผมถามกำลังคิดครับ ว่ามันชื่ออะไร
“ สบายดี แล้วมึงมาทำอะไรที่นี่ “
“ อาจารย์ธดลขอให้กูมาเป็นอาจารย์บรรยาย “ บอกออกไปแบบนั้นอีกคนก็พยักหน้า “ ไม่เจอกันนานเลยนะมึง “
“ เออ แล้วตอนนี้ยังคบอยู่กับแอลอยู่เปล่าวะ “
“ ไม่ได้คบแล้ว เลิกกันแล้ว “ ผมตอบ ตอนที่ยกยิ้มจางๆให้มัน ไม่น่าเชื่อว่า เรื่องที่ผ่านมาตั้งนานกลับสามารถย้อนกลับมาให้เจ็บปวดได้ เพียงแค่ได้ยินประโยคเดียว
“ ทำไมวะ มึงรักกันจะตาย “ คำถามพื้นฐานของคนที่ไม่ได้เจอกันนาน ผมถอนหายใจ
“ เหตุผล ส่วนตัว “ ผมบอกแบบนั้น ก่อนจะตบไหล่มันเพื่อขอตัว ถอนหายใจออกมาตอนที่มองไปรอบๆ คณะก็คิดถึง โต๊ะที่เราเคยนั่งด้วยกัน ร้านขายน้ำปั่นที่มันชอบไปซื้อมากินตลอด รอยยิ้มของมันตอนที่มานั่งรอผมใต้คณะ หรือแม้แต่ช่วงเวลาที่ต้องทะเลาะกัน ทุกอย่างอันแน่นอยู่ที่นี่ ในความทรงจำของผม
แอล เป็นคนรักคนเดียวของผมตอนที่เรียนที่นี่ เค้าผู้ชายหน้าตาน่ารักเราคบกันมานานและวางแผนว่าจะใช้ชีวิตร่วมกัน เราผ่านอะไรมาด้วยกันหลายอย่างทั้งสุขแล้วก็ทุกข์ เราอยู่ในทุกช่วงเวลาของกันและกันมาตลอด จนผมเผลอคิดไปว่า แอลจะเป็นคนสุดท้ายในชีวิตที่ผมจะรัก และเราจะอยู่กันไปจนตายจากกัน แต่สุดท้าย ผมก็พบว่าไม่มีอะไรเป็นอย่างที่คิด อนาคตเปลี่ยนแปลงไปเสมอ
ผมไม่เคยโทษแอล แต่กลับโทษตัวเองสำหรับเรื่องราวที่ทำให้เราต้องเป็นแบบนี้ ถ้าวันนั้นผมไม่พลาด วันนี้เราก็ยังคงรักกัน ไม่มีใครทนเลี้ยงเด็กที่เกิดจากความผิดพลาดของแฟน ไม่มีใครสามารถเลี้ยงดูเด็กที่เกิดจากการที่แฟนของตัวเองไปนอกกายแล้วทำให้เกิดปัญหาขึ้นมาหรอก
ผมพยายามตามหาแอลมาตลอด ตอนที่เค้าออกจากคอนโดไปก็พยายามโทรหา แต่ก็ไม่ติด เราติดต่อกันไม่ได้เลย ไม่ว่าจะเป็นทางไหนก็ตาม เพื่อนของมันยังไม่รู้เลยว่ามันหายไปไหน แต่ผมรู้ล่าสุดคือ แอลเปลี่ยนชื่อแล้ว แอลไม่ได้ชื่อแอลแล้ว ด้วยเหตุผลที่ผมคิดว่า เพียงเพราะอยากจะตัดขาดจากผม โดยไม่เหลืออะไรไว้ทิ้งไว้ให้ผม ได้ตามหาเค้าเลย
“ โรม “
“ ครับ “ เสียงอาจารย์ที่เรียกผมให้ตื่นขึ้นมาจากความคิด ท่านยิ้มก่อนจะชี้ไปที่ห้อง ห้องนึง
“ ห้องนี้เป็นห้องที่ใช้บรรยายนะ “
“ ครับ “ ผมพยักหน้า ตอนที่ผลักประตูเข้าไปนักศึกษาที่มาคอยกันอยู่เต็มทั้งห้องแล้วก็ ฮือฮาขึ้น ผมยิ้มให้นักศึกษาทั้งหมดที่มองมา ขึ้นไปยืนอยู่หน้าชั้นที่ไม่ถนัด จัดการกับสื่อการบรรยายอยู่สักครู่ ก่อนจะเริ่มการบรรยายของวัน
“ สนุกมากๆเลยค่ะ อาจารย์ “ ผมได้รับคำชมจากนักศึกษาสาวที่มานั่งฟังกลุ่มนึงหลังจากที่การบรรยายจบลง ผมยิ้มให้พวกเธอที่ยิ้มเขินกัน “ พรุ่งนี้จะมาฟังอีกนะคะ “
“ ครับผมได้เลย แล้วพวกเราคิดไว้รึยังว่าเรียนจบจะทำอะไร “ ผมตอบรับคำชม ก่อนจะถามกลับ เด็กๆที่ทำท่าคิดก่อนจะตอบ
“ หนูคิดว่าอาจจะไปเรียนภาษาก่อนนะคะ กลับมาค่อยทำงานหรือไม่ก็หางานทำที่นู้น “
“ หนูอาจจะเรียนต่อโทนะคะ “ คำตอบมากมายที่ได้รับ ผมพยักหน้า
“ พยายามเข้านะ ทางไหนที่ชอบก็ดีหมดนั่นละ “ บอกแบบนั้นก่อนจะยิ้มแล้วผลักประตูออกไป นอกห้องก็มีใครบางคนยืนยิ้มรออยู่หน้าห้อง “ อ้าว มึง “
“ งั้นพวกหนูไปก่อนนะคะ สวัสดีค่ะ “ พยักหน้าให้พวกเธอที่หันมาไหว้ผม ก่อนจะเดินเข้าไปหาใครอีกคนที่กำลังยืนอยู่
“ ไหนบอกว่าจะไม่มา “
“ ก็คิดว่าจะไม่มา แต่เปลี่ยนใจกระทันหัน “
“ แล้วมาทันกูพูดมั้ย “ เดินเข้าไปใกล้อีกนิด อินยิ้มก่อนจะทำท่าคิด
“ อนาคตอยู่ที่ทุกคนเลือก บางทีอาจจะไม่ได้มาจากสายที่เรียนแต่ถ้าเป็นงานที่ชอบ นั่นก็ไม่ผิดหรอก เพราะความสำเร็จของคนเราไม่เหมือนกัน “
“ หึ “ ผมยิ้ม อีกคนก็ก้มหน้าหัวเราะ
“ เป็นการจบการบรรยายที่จับใจมากจริงๆ “
“ ได้ที แซวกูใหญ่เลยนะมึง “ อินยิ้มให้ผม รอยยิ้มน่ารักของมัน ผมเผลอยิ้มตาม
“ ยิ้มทำไม “
“ ดีใจที่มึงมา “
“ มึงเป็นเด็กอนุบาลเหรอที่ดีใจเวลาพ่อแม่มาดู ตัวเองตอนเต้นที่งานโรงเรียนนะ “
“ แค่อยากให้มึงอยู่นี่ที่ด้วย “ อยากจะสร้างความทรงจำใหม่ๆ บนเรื่องราวเก่าๆ ผมคิดว่าตัวเองไม่จำเป็นต้องลบเรื่องราวเก่าๆ แต่แค่ควรสร้างมันใหม่ กับใครอีกคน
“ ทำไม “
“ ไปกินน้ำกันมั้ย น้ำปั่นที่โรงอาหารคณะกู อร่อยนะ “
“ เหรอ ไปสิ อยากกินอะไรหวานๆพอดี “
“ แล้วอลิซเป็นไงบ้าง “ ผมถามตอนที่เดินอยู่ข้างๆอิน
“ วันนี้กูเป็นหมาหัวเน่าแล้วเหละ “ หันมาทำหน้าเซงๆมันยิ้ม “ ทุกคนโอ๋อลิซกันหมดเลย กอดหอมกันเหมือนไม่ได้เจอกันนาน ทั้งๆที่ตอนไม่สบายก็มาเยี่ยมกันได้ทุกวันแท้ๆ ตอนที่กูออกมากำลังทำขนมลูกชุบอยู่นะ พ่อแม่กูคงอยากจะมีหลานจริงๆแล้วละมั้ง “
“ อลิซก็หลานท่านแล้วไง “
“ กลัวอย่างเดียวเหละ “
“ กลัวอะไร “ ผมหันไปถาม
“ ก็กลัวว่า ถ้าวันนึงตินมีลูกพ่อแม่กูจะเห่อหลานตัวเองมากกว่าอลิซมั้ย กูไม่อยากให้เป็นแบบนั้น อยากให้อลิซรักน้อง แล้วพ่อแม่กูก็รักหลานเท่าๆกัน “ ผมแอบนึกขำกับความคิดว่าของมัน ความคิดที่ไม่ได้คิดถึงแค่ผมแต่อินมักคิดถึงอลิซคนที่ผมรักด้วยเสมอ
“ ห่วงอลิซจังเลยนะมึง “
“ ก็ ..” หันมาทำท่าจะเถียงแต่ก็เงียบไปตอนที่มองหน้าผม มันหน้าแดงนิดหน่อย ผมก็พูดขึ้น
“ ยังกับแม่อลิซเลยนะมึงน่ะ “
“ เลิกพูดอะไรแบบนั้นเถอะน่า “ อินว่าปัดๆ
“ ไม่เห็นต้องคิดมาก พ่อแม่มึงรักมึงกับตินเท่ากันมั้ยละ ถ้าเท่ากัน นั่นก็ไม่ใช่ปัญหาหรอก ท่านเป็นผู้ใหญ่แล้ว “
“ นั่นก็จริงอยู่ แล้วไหนร้านน้ำปั่นของมึง “ มันถาม ผมก็ชี้ออกไป หน้าร้านน้ำมีเด็กม.ปลายโรงเรียนข้างๆยืนอยู่ กับคนวัยทำงานอีกสองคน คนสองคนที่ผมรู้สึกคุ้นตา “ นั่นมัน ไอ้ไฟท์นี่หว่า ไฟท์!! “
เร็วกว่าความคิดของผมก็คงเป็นขาของคนข้างๆ ที่เดินเข้าไปหาเพื่อนสนิทอย่างรวดเร็วมือมันตบที่ไหล่ ไฟท์ก็หันกลับมายิ้ม “ เฮ้ย!! มาได้ไงวะ “
“ มากับโรม “ ชี้มาที่ผม ตอนที่เดินไปหยุดอยู่ข้างหลังมัน ไฟท์ถึงกับปรับสีหน้าไม่ถูก มันเหล่มองข้างหลังก่อนจะยิ้มให้ผม “ แล้วมึงมาทำอะไรที่นี่วะ “
“ มาซื้อน้ำกินนะ “
“ กับเพื่อนเหรอ “ อินถาม ไฟท์ไม่พยักหน้า หรือแม้จะตอบคำถามใดๆ มันเอาแต่มองหน้าผม “ ไฟท์
“ กูมากับแฟน “ บอกแบบนั้น คนที่ยืนอยู่ข้างๆ ผมก็นิ่งเงียบ อินมองหน้าไฟท์สลับกับคนที่ยืนอยู่ข้างๆ ในวินาทีที่ไฟท์จับมือคนข้างๆให้หันหน้ามาเพื่อแนะนำ ตอนนั้นหัวใจของผมหยุดเต้น คงไม่ใช่อินคนเดียวแล้วล่ะ ที่ตกใจ
“ แอล “ ผมเผลอพูดออกไป คนที่ยืนอยู่ตรงหน้าผม ใช่..เป็นแอลจริงๆผมจำได้ไม่ผิดแน่ คนที่เป็นความทรงจำของผม มองใบหน้าที่หลบตากับมือที่เคยกุมมือของผม แต่ตอนนี้เป็นมือที่จับมือของไฟท์ไว้แน่น
“ สวัสดีครับ ผมชื่อ เต ยินดีที่ได้รู้จักครับ “
“ เต “ ผมบอก อย่างที่คิดไม่มีผิด มันเปลี่ยนชื่อ แล้วก็อยู่ในสถานที่ที่คนอย่างผมไม่มีวันมา สถานที่ที่เป็นความทรงจำแห่งนี้ คิดไม่ถึงเลย เส้นผมบังภูเขาชัดๆ
“ สวัสดีครับ “ อินเอ่ยบอก “ ผมชื่ออิน เป็นเพื่อนสนิทกับไฟท์ยินดีที่ได้รู้จักนะ “
“ ได้ยินชื่อ คุณอินบ่อยๆเลยครับ ไฟท์ชอบเล่าเรื่องของคุณให้ผมฟัง “
“ เหรอครับ “ มันยิ้มก่อนจะเหล่มองเพื่อน
“ แต่เพื่อนผมนี่ มีเมียไม่คิดจะบอกเลยครับ “
“ ก็กำลังจะเปิดตัวนี่เหละ “ มือที่จับกันแน่เปลี่ยนไปจับไหล่ก่อนจะดึงเข้ามาใกล้ แอลไม่ว่าอะไร มันยังคงนิ่งแล้วก็ยิ้มมาให้อิน แต่กลับทำเป็นไม่เห็นผม “ มึงดันมาเห็นซะก่อนเอง “
“ ถ้ากูไม่เห็นแบบนี้ คงรออีกนานกว่ามึงจะเปิดตัว “
“ มึงก็ว่างมาเจอกูที่ไหนล่ะ งานก็ยุ่งเรื่องส่วนตัวก็ยุ่ง “ เชิดหน้ามาทางผม อินก็ยิ้มแห้งๆ “ แล้วทำไมยังไม่แนะนำแฟนมึงให้แฟนกูรู้จัก “
“ เกือบลืมไปเลย นี่ โรมครับ แฟนผม “
“ สวัสดีครับ “ ผมบอกก่อนจะยิ้ม รอยยิ้มที่จ้องไปที่คนข้างหน้าแบบไม่เชื่อสายตา ผมไม่รู้ว่าตัวเองทำหน้าตาแบบไหน กำลังจะร้องไห้หรือว่าอะไร แต่ในใจตอนนี้ก็อยากจะคว้ามือมันมาคุยให้รู้เรื่องแต่ก็คงทำไม่ได้ ผมหันไปจับมือของอินไว้ อีกคนก็ยิ้ม “ ยินดีที่ได้รู้จัก “
“ เช่นกันครับ “
“ แล้วคุณเต รู้จักไฟท์ได้ไงครับ “
“ ผม.. “ เหมือนคำถามที่ไม่อยากตอบ มันเหลือบมองผมก่อนจะหันไปยิ้มให้อิน “ ผมสอนหนังสือที่นี่ครับ เป็นอาจารย์ที่คณะรัฐศาสตร์เหมือนกัน “
“ อย่างงั้นนี้เอง ร้ายนักนะมึง มีอะไรก็ไม่เคยบอก “ มันว่าออกมาแบบหัวเราะ แต่อินที่แสดงอาการแบบนั้น ก็เหมือนคนที่พูดไปแก้เก้อนั่นเหละครับ มันคงตกใจจนไม่รู้จะแสดงความรู้สึกออกมายังไงมากกว่า “ ไม่อยากเชื่อเลย ว่าต้องมาเจอมึงอีกทีในสภาพแบบนี้ “
“ มึงพูดเหมือนกูดูเหี้ยมาก “ ไฟท์บอกก่อนจะหัวเราะ
“ เปล่า “ อินส่ายหน้า
“ ไม่คิดว่า จะมาเจอมึงที่มีแฟนแล้วตังหาก “ สายตาของมันหลบลง ก่อนจะมองแฟนของเพื่อน “ กูช็อคจริงๆนะเนี้ย “
“ โทษที ที่ไม่ได้บอก “
“ อยากจะด่ามึงว่า ไอ้เหี้ยชะมัด มีเหี้ยอะไรไม่เคยบอก “
“ โทษที “
“ สันดาน แบบนี้ทุกที ชอบทำอะไรแบบ เซอร์ไฟส์กูตลอด “ มันว่าก่อนจะหัวเราะออกมา “ แต่ว่า แฟนมึงนี่น่ารักเหมือนกันนะ สายตาหลักแหลมใช้ได้ “
“ แน่นอนอยู่แล้ว “ ตอบแบบนั้นก่อนมือที่กุมกันจะถูกบีบแน่นขึ้น ไฟท์ก็ยกข้อมือตัวเองขึ้นมาดู “ เออคือ กูต้องไปก่อนล่ะ ไว้เดี๋ยวคุยกัน กูมีสอน “
“ เหรอ เออ ไว้คุยกัน “
“ เดี๋ยวยังไงนัดทานข้าวด้วยกันทั้งหมดเลยครับ “ ไฟท์หันมาบอก ผมก็พยักหน้า
“ ครับ “
“ เจอกันครับ “ ขาของคนทั้งคู่ที่เดินออกไป มือที่จับกันไว้แน่น เสียงถอนหายใจของคนข้างๆผมก็ดังขึ้น
“ กูไม่อยากจะเชื่อเลย “
“ กูเองก็เหมือนกัน “ ผมบอกแต่คิดว่าคงเป็นคนละเรื่องกับอินแน่ๆ มันที่หันมาหาผมก่อนจะยิ้ม
“ กูไม่ได้คิดอะไรกับไฟท์นะ ที่บอกว่าไม่อยากจะเชื่อ คือไม่คิดว่ามันจะมีแฟนเป็นผู้ชายแบบนั้น “
“ มันไม่น่าแปลกอะไรหรอก ในเมื่อไฟท์ก็เคยชอบมึง “
“ แปลกสิ ทำไมจะไม่แปลก “ อินว่า มันก้มหน้าลงก่อนยิ้ม “ แปลกตรงที่ ไฟท์ไม่เคยแนะนำกูกับใคร แต่มันดันแนะนำเค้าคนนั้น กับกู “ ดวงตาที่หลับสนิทลง ผมรู้ว่าอินยังคงมีความรู้สึกแบบไหนกับไฟท์ มันไม่ง่ายหรอกผมรู้ กับการที่จะลืมใครสักคนที่เรารักและหวังจะได้มาครอบครอง “ แล้วมึง ทำไมไปเรียกเต ว่า แอลวะ “
คำถามที่ทำให้ผมหลุดยิ้มออกมา ท่าทาง ใบหน้าที่เหมือนกันกับคนที่ผมรักนั้น ต่างกันแค่ที่ว่า ตอนนี้คนที่ผมเคยรักและรักผม เค้าไม่ได้รักผมแล้ว “ กูทักคนผิดนะ แค่คนหน้าคล้ายกัน “
คนที่กูเคยรัก เป็นคนที่ทั้งน่ารัก และแสนดี แต่คนคนนั้น มันไม่ใช่ ...
ไม่อยากจะเชื่อเลยจริงๆ
..................................................................
ในที่สุด ก็มาอัพได้สักที #คนอ่านถีบ
คือมันเป็นนิยายที่เขียนยากมากกกกกก เครียดมาก
เวลาเขียนทีเหมือนตัวเอง กลายเป็นคนจิตตกไปเลย หน่วงๆยังไงพิกล
แต่ว่า ไม่ต้องห่วงนะคะ จะพยายาม #เขียนเส้นใต้สองครั้ง จะพยายามเขียนให้ไว และอัพบ่อยๆ
เพราะว่าเรื่องใกล้จะจบแล้ว แต่อีกกี่ตอนอันนี้ไม่แน่ใจ แต่ใกล้เวลาเลือกได้แล้วเหละโน๊ะ
ขอบคุณที่เข้ามาอ่านและคอมเม้นท์จ้าาาา
ฝากแท็ก #choiceต้องเลือก ด้วยนะคร่าาา
