ตอนที่ 32เช้าวันทำงานเวียนกลับมาอีกครั้งหลังจากวันหยุด จากที่เคยรู้สึกเบื่อที่ต้องมาทำงานแต่ตอนนี้เหมือนทุกอย่างเปลี่ยนไปแล้ว เดินเข้ามาในห้องพักครู ผมผ่านห้องของคนที่ทำงานเช้ากว่าผมเสมอ
“ สวัสดีครับ อาจารย์ “
“ หวัดดีครับ “ ว่าแบบนั้นก่อนจะหันไปสนใจอย่างอื่นอีกตามเคย แก้มแดงๆที่กำลังก้มหลบผม ผมเดินเข้าไปในห้องก่อนจะแอบหอมแก้ม “ ไอ้เชี้ยไฟท์ “
“ ทำไมแก้มอุ่นๆ “ รู้สึกว่าไม่เหมือนทุกที เหมือนว่ามีอะไรบางอย่างที่แปลกๆไป หันหน้าเตที่ก้มลงอยู่ให้มาเผชิญหน้ากับผม กดหน้าผากลงไปบนหน้าของอีกคนที่ก็ก้มหน้างุดลงทันที ความร้อนที่ส่งผ่านมาถึงผม “ มึงป่วยนี่ “
“ ไหวน่า “
“ ผลจากวันนั้นเหรอ “ จากวันที่มันไปที่บ้านผม ความสัมพันธ์ที่เลิกซึ้งเกินกว่าเพื่อนที่เรารู้สึกกันอยู่ในใจของกันและกัน
“ อะไร “ หน้าแดงๆของมันหันมาถาม “ ไม่ใช่ เกี่ยวอะไรกัน “
“ คนบางคน อาจเพราะความตื่นเต้นอาจจะทำให้ป่วยนะ “ เตขมวดคิ้ว มันยิ้มตอนที่ผมพูดออกมาแบบนั้น
“ ไม่เห็นจะเคยได้ยิน “
“ ตอนนี้ก็ได้ยินแล้วนิ “ กอดเอวมันไว้ผมโน้มตัวลงไปพิงกับมัน “ เมื่อวานตอนมึงกลับไป เด็กๆบอกว่า ชอบมึงมากเลย บอกว่า อาเตใจดี “
“ เหรอ “
“ อะเดลฝากชวนว่า ครั้งหน้าตรงมาทำแพนเค้กที่สัญญาไว้ด้วยกันกับเด็กๆนะ “
“ อะเดลหรือมึง “ มันยิ้มตอนที่หันมามองหน้าผม สายตาของมันเปลี่ยนไป เป็นสายตาที่เหนื่อยล้า ผมก้มลงไปจูบบนตาอีกคนก็หลับตาสนิท
“ มึงควรพักผ่อนนะ “
“ ไม่ได้หรอก แล้วใครจะสอนหนังสือแทนกู “
“ กูเอง “ ผมบอกแบบนั้นก่อนจะดึงหนังสือของมันขึ้นมา “ วันนี้มึงสอนคาบเช้าใช่มั้ย “
“ ก็ อื้ม แต่มีบ่ายด้วย “
“ งั้นกูสอนแทนหมดเลยแล้วกัน “ บอกแบบนั้น ตาของมันเบิกกว้างขึ้น
“ ได้ไง ของมึงวันนี้สองคาบ ของกูก็สองคาบ ถ้าเอามารวมกัน วันนี้มึงจะไม่ได้พักเลยนะ ไม่เป็นไร กูไหวน่า “ ปากที่พูดออกมาแบบนั้น แต่แค่ยืนก็จะล้มลงอยู่แล้ว ผมพยุงอีกคนให้นั่งลงบนเก้าอี้
“ อย่าดื้อน่า กูจะสอนแทนเอง มึงนอนพักผ่อนไปแล้วกัน “
“ ไหวแน่เหรอ “ เตเอื้อมมือมาจับมือของผม พยักหน้าให้แต่สายตากังวลของอีกคนก็ยังไม่จางหายไปไหน
“ ไหวแน่ๆ ถ้ามีใครสักคนให้กำลังใจตรงนี้สักหน่อย “ ผมย่อตัวลงให้ใบหน้าอยู่ใกล้กับมัน มือที่ชี้ลงบนปากอีกคนก็ยิ้มออกมาแบบเหนื่อยๆ แต่ก็ยอมเอื้อมมือขึ้นมากอดคอผมไว้ แต่จูบ
“ พอใจยัง “
“ พอใจแล้ว “ หอมแก้มอุ่นๆของมันไปเต็มฟอด “ วันนี้ก็กินยาแล้วก็นอนให้เต็มอิ่มเลยนะ จะกลับไปบ้านเลยก็ได้ มีคนดูแลรึเปล่า “
“ ใครจะมาดูแล ลืมไปแล้วรึไงว่ากูอยู่คนเดียว “
“ งั้นก็นอนอยู่ที่นี่ไปก่อน “ เดินไปหยิบเสื้อสูทจากห้องพักของตัวเองกับหมอนที่เอาไว้พิงหลังมาให้อีกคน “ คลุมไว้ ในห้องนี้หนาว “
“ ขอบใจ “ สายตาที่ผมมองมัน เตหันมายิ้มมันจับมือผม “ ไปสอนเถอะ กูโอเคกินยาเข้าไปแล้ว เดี๋ยวคงง่วงแล้วละ “
“ งั้นกูไปสอนก่อนแล้วจะกลับมาหา “ เตพยักหน้า ลูบหัวมันก่อนจะหยิบหนังสือที่มันต้องสอนรวมกับหนังสือของตัวเองแล้วเดินออกจากห้องไป
วิชาที่อาจารย์เตวิชย์สอนเป็นวิชาพื้นฐานของคณะที่ผมถนัดอยู่แล้วเพราะงั้นจึงไม่ใช่ปัญหาอะไร เดินเข้าไปในห้องเรียน นักศึกษาที่เห็นต่างเงียบกริบกันเป็นเสียงเดียว ต่างจากชั้นเรียนของผมที่จะทักทายกันแบบสนุกสนาน
“ อาจารย์พิริยะ สวัสดีค่ะ “
“ สวัสดีครับ “ ผมว่าตอนที่นั่งลงเปิดคอมพิวเตอร์เสียบข้อมูลลงคอม นักศึกษาทุกคนก็ทำท่าทีสงสัย “ วันนี้อาจารย์เตวิชไม่สบาย อาจารย์จะมาสอนแทนนะ “
“ จริงเหรอค่ะ “ พยักหน้ารับแค่นั้น ทั้งห้องก็คลายความเครียดลงทันที สมกับที่ล่ำลือจริงๆ ชั้นเรียนนรกที่ทำให้นักศึกษากลัวกันแบบสุดขีด
“ เพราะงั้นถึงแม้จะเป็นผมสอน ก็ช่วยตั้งใจเรียนกันด้วยนะครับ “
“ คร่า / ครับ “ เสียงขานรับที่ตอบกลับมา ผมเริ่มการสอนของวันนี้
หลังจากการสอนของช่วงเช้า ผมเก็บหนังสือทั้งหมดมากองรวมอยู่บนโต๊ะ ดูตารางสอนของสิ่งที่ต้องสอนในชั่วโมงต่อไป เสียงนักศึกษาที่กำลังพูดคุยกันถึงข้าวเที่ยงทำให้ผมต้องลูบท้องตัวเองแบบหิวๆ
“ อาจารย์พิริยะค่ะ “ เงยหน้าขึ้นมองตามเสียงก็พบกับนักศึกษาสาวคนนึงที่กำลังก้มหน้าเขิน “ หนูซื้อแซนวิชมาฝากค่ะ “
“ กำลังหิวเลย ขอบคุณมากนะครับ “
“ ค่ะ “ รอยยิ้มนั้นพยักหน้าอีกครั้งก่อนจะวิ่งไปสบทบกับเพื่อนที่ยืนรอง
“ อาจารย์ยิ้มด้วยเหละ หล่อมากเลยโน๊ะ ”
“ อื้ม “ ประตูที่เปิดออกไป ไม่มีใครอยู่ที่นี่แล้วผมถอนหายใจออกตอนที่เปิดแซนวิชออกดู หน้าตาน่าทานจนทำให้น้ำลายไหล
“ ท่าทางจะหิวมากเลยนะ อาจารย์ “ หันไปตามเสียงที่ประตู คนที่คิดว่ากำลังนอนเพราะป่วยหนักกลับมายืนอยู่ตรงนั้น
“ ว่าไง คนป่วย “ ทักออกไปแบบนั้น น้ำส้มกล่องนึงก็ถูกโยนมาให้ “ อะไรวะเนี้ย “
“ เดี๋ยวแซนวิชจะติดคอตาย “ มันว่าแบบนั้นอีกมือก็หลบไปข้างหลังเหมือนซ่อนอะไรไว้
“ แล้วอะไรอยู่ข้างหลัง “
“ ไม่มีอะไร “
“ เอาออกมาน่า “ พอบอกแบบนั้น มือขาวๆก็ดึงมืออกมาให้ดู เตถือแซนวิชอยู่สองชิ้น
“ ตื่นมาเมื่อกี้แล้วคิดว่า เที่ยงวันนี้คงไปกินข้าวด้วยกันไม่ทัน แต่จะกินคนเดียวก็ไม่ชิน ก็เลยไปซื้อมา “ เตหันมามองบนโต๊ะผม ท่าทางไม่พอใจ “ แต่คิดว่าของกูคงไม่จำเป็นแล้วมั้ง มองของที่นักศึกษาสาวๆให้ซะ น้ำลายย้อยเลยนะมึง “
“ ปากจัดจังนะ “ ว่าแบบนั้นผมก็ลุกจากเก้าอี้ขึ้นไปล็อคประตูห้องเรียนทั้งสองด้านปิดหน้าต่างทั้งหมด ก่อนจะเดินเข้าไปหามัน
“ ทำไมต้องปิดประตูมิดชิดแบบนั้น “
“ ก็ไม่ทำไม “ เดินเข้าไปประชิดตัวมันมากขึ้น อีกคนก็ถอยร่อนไปจนถึงโต๊ะเรียน เตยื่นแซนวิชขึ้นมาให้ผม
“ เอาไป “ รับแซนวิชมากจากมือมัน ผมยื่นหน้าผากตัวเองเข้าไปซบที่หน้าผากของมัน
“ ตัวร้อนกว่าเดิมอีกนะ “ เมื่อเช้ายังอุ่นตอนนี้กลายเป็นว่าตัวร้อนไปแล้ว สงสัยเพราะไมไ่ด้เต็มที่แล้วอีกอย่างในห้องพักอาจารย์แอร์ก็เย็นเกินไป “ กลับบ้านไปก่อนไป “
“ กูไม่สบายใจที่ให้มึงมาทำงานแทน “ เสียงหนักใจที่พูดขึ้นพร้อมกับแซนวิชในมือที่ยกขึ้นกิน
“ รีบกินแล้วกลับบ้านไปซะ กูจะทำงานแทนมึงต่อเอง “ ว่าแบบนั้นผมที่นั่งอยู่ข้างๆมันก็ยกแซนวิชขึ้นมากิน
“ ไม่กินแซนวิชของเด็กผู้หญิงพวกนั้นรึไง “
“ หึงเหรอ “ ผมหันไปแซวอีกคนก็ก้มหน้า
“ ไม่ใช่สักหน่อย “ ถึงปากจะบอกออกมาแบบนั้น แต่หน้าตาก็ไม่สบอารมณ์เอามากๆ มันเหลือบไปมองที่โต๊ะของผมก่อนจะถอนหายใจ “ นั่นนะ มึงคงจะกลับไปแดกที่บ้านสินะ “
“ ตอนแรกคิดว่าจะเอาไปให้มึง “
“ ตอแหล ตอนกูเข้ามามึงนั่งมองมันน้ำลายนี่ไหลเลย “
“ ก็ตอนนั้นกูหิว แต่ยังไงกูก็ชอบแซนวิชทูน่า มากกว่าแซนวิชผักพวกนั้นแน่ๆ “
“ ให้มันแน่เถอะ “
“ แน่อยู่แล้ว แต่ตอนนี้มึงกลับไปนอนที่บ้านเถอะ กูเลิกงานแล้วจะไปหา “ ลุกขึ้นมายืนตรงหน้ามัน เตถอนหายใจออกมาผมก็ยื่นมือไปลูบหัวมัน มองจากมุมนี้มันไม่ต่างอะไรจากเด็กน้อยเลย เป็นคนตัวเล็กๆที่เงยหน้าขึ้นมองผม “ มีอะไร “
“ จะรออยู่ที่ห้องพักอาจารย์นะ “
“ ดื้อ “ ว่าแบบนั้นมันก็ถอนหายใจก่อนจะดึงตัวเองมาพิงผมเอาไว้ หน้าผากร้อนๆซบลงตรงท้อง “ ตัวร้อน ไปกินยานอนซะไป อย่าทำให้เป็นห่วง “
“ เป็นห่วงก็ดี อยากให้มีคนเป็นห่วงบ้าง “
“ ป่วยแล้วขี้อ้อนนะมึงน่ะ “
“ อยากทำนะ กูทำได้รึเปล่า “
“ ไหนลอง “ ผมว่าเตก็ส่ายหน้าไปมาตรงท้องของผมที่มันซบ
“ ปวดหัวจังเลยว่ะ “
“ ก็บอกว่าให้กลับไปนอน “ ประคองหน้าของมันขึ้นมามอง เตหน้าแดงไปหมด ตาก็แดง ตัวของมันเริ่มร้อนมากขึ้น “ เดี๋ยวสอนเสร็จกูจะไปหา “
“ ไม่อยากกลับไปนอนคนเดียว “ เสียงเครือๆของมันว่าแบบนั้น ผมก็ยิ้มออกมา เวลาคนป่วยอ้อน น่ารักแบบนี้ทุกคนรึเปล่านะ
“ จะรอว่างั้น “ มันพยักหน้าก่อนจะยิ้ม “ อยากให้ที่นี่เป็นห้องนอน เหมือนวันนั้น “
“ มึงคิดจะทำอะไร “ มือมันผลักตัวผม “ ที่นี่ไม่ใช่ห้องนอนมึงนะ “
“ ไม่ได้คิดจะทำอะไรที่นี่ทั้งนั้น แแต่ที่มึงบอกว่าที่นี่ไม่ใช่ห้องนอนกู ถ้าห้องนอนกู ทำได้งั้นสิ “ ตอบออกไปแต่หน้าของผมก็ก้มลงชิดกับหน้าของมัน จูบเบาๆลงบนปากร้อนๆก่อนจะไล่ลงมาเป็นต้นคอ เตพยายามผลักผมแต่นั่นก็ไม่ได้รุนแรง
“ แม่มึง สอนให้รังแก คนป่วยเหรอ “
“ เปล่า แม่สอนให้ดูแล “ จูบลงบนแก้มมันอีกทีผมดึงตัวเองออกห่างมัน ทั้งๆที่อยากจะทำมากกว่านี้แต่เพราะมันป่วยแล้วอีกอย่างที่นี่ก็เป็นโรงเรียนเลยต้องห้ามใจไว้แค่นี้
“ ไฟท์ “
“ กลับไป กินยา แล้วนอนที่ห้องพักก่อน เดี๋ยวกูเลิกเรียนเราค่อยกลับบ้านพร้อมกัน “
“ อื้อ “ เตลุกขึ้นยืนก่อนจะเดินออกไปแต่เดินกลับมาอีกครั้ง ร่างที่เดินผ่านตัวผมไป แซนวิชที่ตั้งอยู่บนโต๊ะมันหยิบติดมือไปด้วย “ อันนี้กูขอ “
“ เอาไปทำไม “
“ เก็บไว้มึงก็ไม่กินหรอก เพราะงั้นกูจะกินเอง “ มันว่าแบบนั้น ตอนที่เปิดประตูออกไป เตก็หยุดชะงักนิ่งอยู่ตรงนั้นผมเดินเข้าไปใกล้มันก็พบว่า นักศึกษาที่ให้แซนวิชผมก็ยืนอยู่นอกห้องพอ ท่าทางตกใจที่เห็นผมกับเตสองคนทำให้พวกเธอมองตากันเลิกลั่ก
“ คือ หนูเปิดประตูห้องไม่ได้ พอดีลืมหนังสือไว้นะคะ “
“ เข้ามาเอาสิ “ ผมว่าแบบนั้น เพื่อนอีกคนก็เดินเข้าไปในห้อง เด็กๆมองตากัน คนที่มอบแซนวิชมื้อเที่ยงให้ผมก็ถามขึ้น
“ อาจารย์กินแซนวิชรึยังคะ หนูเห็นวันนี้อาจารย์สอนเยอะก็เลยทำมาฝาก ไม่รู้ว่าอาจารย์จะชอบรึเปล่า “
“ ยังไม่ได้กินเลย “ ผมว่าก่อนจะมองไปที่ เตที่ยืนนิ่งอยู่ ก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมเวลาเจอเด็กๆนักศึกษามันต้องทำหน้านิ่งตลอด “ พอดีโดนคนป่วยเค้ายึดไปแล้วละ “
สายตาของเธอมองตามสายตาของผมที่เชิดหน้าไปหาเต กล่องแซนวิชที่เตถืออยู่ ทำพวกเธอยิ้มแห้งๆ
“ ขยันทำรายงานให้เหมือนทำแซนวิชนะ ส่งให้ตรงเวลาด้วยละ “
“ ค่ะ อาจารย์ “ ตอบรับแบบนั้นอีกคนก็เดินไป ทิ้งให้สาวๆยืนหน้านิ่งอยู่กับผม
“ โทษทีนะ พอดีอจารย์เตวิชย์เค้าป่วยนะ แล้วยังไม่ได้กินอะไร ครูก็เลยแบ่งให้ “
“ ไม่เป็นไรหรอกค่ะ หนูเข้าใจ “ ว่าแบบนั้นพอดีกับเพื่อนที่ลืมของไว้ในห้องก็เดินออกมา “ งั้นพวกหนูไปก่อนนะคะ “
“ อย่าลืมทำรายงานมาส่งอาจารย์เค้านะ เดี๋ยวจะโดนดุอีก “ เดินกลับเข้าห้องผมยิ้มกับตัวเองตอนที่นึกถึงหน้านิ่งๆกับคำพูดของมันที่พูดกับเจ้าของแซนวิชที่มันถือเอาไป ดูก็รู้ว่าไม่พอใจอยู่ แต่นั่นก็ทำให้ผมยิ้มได้ เป็นคนป่วยที่ขี้หึงได้น่าเอ็นดูอะไรอย่างงั้นนะ
หลังเลิกสอนผมเดินกลับมาห้องพักอาจารย์ตอนที่เปิดประตูเข้าไปในห้องพักของตัวเองเพื่อเก็บหาไปหาอีกคนผมพบว่า คนป่วยที่สมควรนอนอยู่ที่นอนตัวเองกลับมานอนคู้ตัวอยู่ที่ห้องของผม เดินเข้าไปใกล้ผมย่อตัวลงมองมันที่หายไปสะดวกเท่าไหร่ ยื่นมือจับที่หน้าผากก็พบว่าอนุภูมิก็ยังสุงขึ้นเรื่อยๆ
“ เต เตครับ “ เขย่าปลุกมันที่บรือตาขึ้นมองผม “ ไปกลับบ้านได้แล้ว “
“ อื้ม “ ลึกขึ้นมาจากพื้นช้าๆ ลมหายใจติดขัดของมันเสียงแหบๆก็พูดขึ้น “ ไฟท์ หายใจไม่ออก “
“ ไปบ้านกู ที่บ้านกูมี วิปวาโปรับ “
“ ร้านขายยาทั่วไปก็มีรึเปล่าวะ “ มันว่าแบบนั้นตอนที่พยายามยืนขึ้นมา ผมก็เอื้อมมือเข้าไปกอดเอวพยุง
“ ป่วยหนักขนาดนี้ นอนคนเดียวเป็นอะไรขึ้นมาจะทำยังไง “
“ อยู่กับมึงแล้วไม่น่าไว้ใจ “ สายตาที่จ้องผมแบบไม่ไว้วางใจตามที่บอกพูด ตากลมๆที่จ้องมาผมหลุดยิ้ม “ ขำอะไร “
“ ก็เปล่านี่ มาลุกขึ้นกลับได้แล้ว กูจะพามึงไปหาหมอ “
“ หาทำไมกินยานอนปิดแอร์ให้เหงื่อออก เดี๋ยวก็หาย “
“ คิดว่าจะง่ายขนาดนั้นเลย “ พยักหน้าตอบรับ
“ ปกติกูก็ทำแบบนั้น “
“ แต่เห็นทีว่า หนนี้ไม่น่าจะได้ “ เพราะหลังจากที่มันกินยาไปสองเม็ด ผมก็ไม่เห็นว่าไข้มันจะลด กลับเพิ่มขึ้นด้วยซ้ำไป “ ไปหาหมอเถอะน่า เพื่อนกูเป็นหมอเดี๋ยวจะให้ตรวจกับเพื่อนกู ฉีดยาไม่เจ็บ เด็กๆบอกกู “
“ ไม่ได้กลัวเข็มสักหน่อย แต่ไม่ไป ไม่อยากไป “ เตเปิดประตูรถของผมออกกว้างมันพาตัวเองเข้าไปนั่งในนั่นก่อนปิดประตู ผมเดินอ้อมไปอีกฝั่งของผม เปิดประตูหลังตั้งกระเป๋าเอาไว้ก่อนจะเปิดประตูเข้าไปนั่งตรงฝั่งคนขับ
“ นี่ ไปหน่อยเถอะน่า ตัวมึงร้อนมาเลยนะ “ เอื้อมมือไปแตะหน้าผากของมัน เตก็ดึงออก มันหนันหน้าไปทางอื่น “ ดื้อกว่าลูกกูเวลาบอกให้ไปหาหมออีกนะมึงนะ “
“ ก็คนมันไม่อยากไป ทำไมต้องไปหา หมอคนนั้นด้วย “
“ ทำไมจะหาไม่ได้ ป่วยก็ต้องหาหมอ มันธรรมดา “
“ ไม่อยากไปเจอคนที่มึงรัก “ เสียงเบาๆที่พูดออกมา ทุกอย่างในรถของเราก็เงียบ “ ทำไมกูต้องไปเจอคนรักเก่าของมึง แล้วก็เป็นคนรักใหม่ของไอ้โรมด้วย ไม่เห็นจะอยากเจอเลยสักนิด “
“ อย่างงั้นหรอกเหรอ “ ลูบหัวมันที่ถอนหายใจออกมา เตหันมามองผม
“ ซื้อยาจากเภสัชก็พอถ้าพรุ่งนี้ยังไม่ดีขึ้นกูจะไปหาหมอ “
“ เอางั้นก็ได้ จะตามใจแล้วกัน “ ยิ้มให้มันที่พยักหน้ารับ ผมจูบลงบนแก้มร้อนๆของมัน เอื้อมมือปิดช่องแอร์ตรงฝั่งมัน ปรับแอร์ให้เบาที่สุด เตนอนราบลงกับเบาะที่มันปรับลงนอน ผมหยิบเสื้อมาคลุมให้มัน “ หลับไปเลย เดี๋ยวถึงคอนโดกู กูจะปลุก “
ขับรถมาถึงคอนโด คนที่หลับไปเพราะพิษไข้หายใจไม่สะดวกเท่าไหร่นัก ผมเดินออกจากรถตอนที่วกกลับมาเปิดประตูให้มันผมปลุก “ เต ถึงแล้ว “
“ อื้ม “ มันว่าแบบนั้น ก่อนจะบรือตาขึ้นมมองผม
“ ลุกไหวมั้ย “
“ ไหว “ แต่ตัวก็ไม่ขยับ ผมย่อตัวลงสอดมือเข้าไปใต้ขาของมัน พยายามดันตัวมันให้นั่งก่อนจะดึงให้ขึ้นมาขี่หลัง
“ ไหวอะไรกันละ “
“ ไฟท์ หนาว “
“ เดี๋ยวถึงห้องกูจะเช็ดตัวให้ “ ว่าพลางกระชับตัวของอีกคนเอาไว้ ผมเปิดประตูคอนโดก่อนจะเดินขึ้นไปชั้นบนของห้องนอน ลางอีกคนช้าๆ ก่อนจะจัดท่านอนให้ดี ด้วยการถอดถุงเท้ารองเท้า แล้วก็ปลดเข็มขัดออก
“ ไฟท์ หนาว “ เสียงที่เอ่ยออกมาแผ่วเบาจนผมได้แต่ยิ้มเอ็นดู หน้าของมันร้อนและแดงไปหมด ทั้งๆที่ปากก็บอกว่าหนาวแต่เหงื่อกลับชุ่มไปทั้งร่าง
“ รอแปปนึงนะ “ ผมก้มลงหอมแก้มมัน ก่อนจะเดินเข้าไปในห้องน้ำ ตักน้ำใส่กะละมั้งใบเล็กๆ ก่อนจะหยิบผ้าผืนเล็กๆออกมาจากตู้เสื้อผ้า
“ หนาว “ พอนั่งบนเตียง มือร้อนก็จับมือของผมไว้
“ เช็ดตัวก่อน “ ดึงมือมันออกจากมือของผม ปลดกระดุมเสื้อสีแดงเลือดหมูที่มันใส่ออกทีละเม็ด ผิวขาวละเอียดตัดกับสีเสื้อที่ส่วมใส่ ผมดึงตัวมันขึ้นมาถอดเสื้อตัวนั้นออกไป ก่อนจะถามด้วยกางเกงเหลือเอาไว้แค่กางเกงในตัวเดียว
หยิบผ้าขนหนูเช็ดไปตามเนื้อตัวของอีกคน อยากจะพยายามเช็ดลวกๆเพราะไม่อยากจะทำอะไรคนป่วยเกินเลยไปมากกว่านี้แต่ก็ยอมรับว่าละสายตาออกไปจากมันไม่ได้จริงๆ ผมเริ่มเช็ดจากหน้า เตเบือนหน้าหนีมือก็พยายามปัดออก
“ อื้อ เย็น เอาออกไป “
“ เช็ดตัวก่อน “ ว่าแบบนั้นตอนที่จับมือมันไว้ผมก็เช็ดลงต่ำไปเรื่อยๆ ช่วงแขนต่อลงมาเป็นเอวขาวคอดๆ
“ ไม่เอา เย็น บอกให้เอาออกไปไงไฟท์ “ มันหันตัวหนี ร่างเปลือยนอนบิดตัวอยู่บนเตียง ขาสองขาถูเข้าหากัน ผมกลืนน้ำลายตอนที่พยายามดึงมันให้หันหน้ามาหา
“ เช็ดตัวก่อนอีกนิดจะเสร็จแล้ว “ ยกมือมันขึ้นมาเช็ดทั้งสองขาผมยกขามันขึ้นมาเช็ดไปตามขอบขาด้านใน เตก็เอื้อมมือจับเอาไว้ “ ทำไม “
“ เย็น ตรงนั้น มันเย็น “
“ รู้แล้วครับ แต่เหลืออีกข้างนึง “ เช็ดให้อีกข้างเตก็พยายามปัดออกไป
“ เย็น เอาออกไปได้แล้ว “ เสียงเบาๆว่าอีกครั้ง ผมวางผ้าขนหนูลงในกะละมัง ตอนที่กำลังจะหยิบเสื้อมาใส่ให้ เตก็พูดขึ้นอีกครั้งพร้อมกับมือที่เอื้อมมาจับมือผม “ กอดหน่อย หนาว “
“ อย่ามาพูดแบบนี้น่า “ ผมว่าแต่มือนั่นก็ไม่ยอมปล่อยไปไหน
“ หนาว “
“ งั้นจะตามใจแล้วกัน “ ผมก้มลงกอดมัน สองที่มือที่กอดรัดผมแน่นขึ้น ใบหน้าร้อนซบลงมาที่ตัวของผม จูบลงข้างๆแก้ม “ อุ่นขึ้นบ้างมั้ย “
“ อื้ม “
“ ร้อนไปหมดทั้งตัวแล้วนะ “ ไม่ใช่แค่มันแต่ตอนนี้ผมเองก็ด้วย ลูบฝ่ามือไปตามเรือนร่างของเต สอดมือทั้งสองเข้าไปภายในกางเกงในของอีกคน ผมลูบเบาๆก่อนจะถอดกางเกงในของมันลงมา ผมกระซบลงข้างๆหู “ โป๊หมดแล้ว “
“ หนาว “
“ แต่กูร้อนจัง “ จูบบนต้นคอของอีกคน ผมดูดเนื้ออุ่นๆจนซับเป็นสีเลือด
“ อื้อ ไฟท์ “ มือมันเอื้อมมากอดคอผม ตอนที่จูบร่างนั้นลงมาเรื่อยๆ ผมก็หัวนมบนร่างร้อนๆด้วยปลายลิ้น วนไปรอบๆพื้นที่สีดำก่อนจะขบเม้มมันเบาๆ “ อ๊าา “
“ กูร้อนจังเต “ จูบลงมาถึงสะดือ ผมสอดลิ้นเข้าไปในรูสะดือของมัน หมุนวนไปเรื่อยสะโพหของมันก็ยกขึ้นมาถูก ขาที่ฉีกออกกว้างเตครางเสียงหลง
“ อ๊าา เสียว เสียวจัง “ หดหน้าท้องเกร็งผมใช้มือสอดเข้าไปตรงก้นของผม ตอนที่ดึงดิ้นออกมาผมจูบลงบนส่วนกลางของเต ใช้มือร่อนเปลือกหุ้มของมันลงมาเลียเบาๆอีกคนก็ตัวสั่น “ อ๊า “ เตบรือตาขึ้นมามองผม
“ จะรังแกคนป่วยเหรอ “
“ ใช่ “ ผมตอบตอนที่ใช้ปากอมไปทั้งอันอีกคนก็สอดมือเข้าจับผมของผมไว้แน่นนิ้ว
“ อ๊า” พอเริ่มขยับเสียงอีกคนก็ดังตามมา ขยับหัวขึ้นลงตอนที่เงยหน้ามามองอีกคนก็หน้าแดงระเรื่อ “ ไฟท์ “ ขาของมันยกขึ้นชันเข่าแต่ผมกลับยึดให้สูงกว่านั้น สุงพอที่จะเห็นช่องทางหลังของมันที่กำลังขมิบถี่
“ วันนี้ขอนะ “
“ ตอนที่กำลังป่วยนะเหรอ ใจร้ายเกินไปแล้วมึง “
“ ตอนนี้เหละที่มึงน่ารักที่สุด “ ผมว่าแบบนั้น ตอนที่นิ้วสอดสามนิ้วเข้าไปในร่างของมัน อีกคนก็อ้าปากค้าง ลายทางขมิบถี่ๆ เตกัดริมฝีปากตัวเอง ผมก็ดึงตัวเองเข้าไปจูบมัน ลิ้นสอดเข้าไปในปากของกันและกันตอนที่หมุนวนอยู่ภายในรอบปากอุ่นๆของมันนั้น ผมเผลอยิ้มออกมาเพราะคิดว่า พรุ่งนี้คนที่ป่วยคงเป็นผมแน่ๆ
“ อ๊าา ตรงนั้น อื้อ “ บิดตัวเองไปมา ตอนที่ผมย้ำตรงจุดกระสันของมันถี่ๆ เตก็พยายามจับข้อมมือของผม แล้วดึงออกมา “ ไม่นะ ไม่เสร็จด้วยนิ้ว ไฟท์ “ ร้อนตูดไปตามแรงย้ำของผมปากของมันที่อ้าออกเพราะความเสียง ปล่อยลมร้อนๆออกมาปะทะกับผม “ อื้อ “ ดึงนิ้วออกมาผมยิ้มตอนที่หยิบถุงยางออกมากระเป๋าตังค์แล้วก็โยนมันลงไปข้างล่าง ถอดเสื้อของตัวเองรวดเร็ว ก่อนจะปลดซิบแล้วก็ดึงส่วนกลางออกมา ใส่ถุงยางครอบส่วนนั้น ดึงตัวของเตเข้ามาหา สอดมือเข้าไปโอบตรงขาของมัน ดันส่วนกลางเข้าไปจนลึก อีกคนก็เบ้หน้าเจ็บ
“ แน่นจัง “ ว่าแบบนั้น อีกคนก็กัดปากตัวเองแน่น
“ ไม่ได้ มีอะไรกับใครนานแล้ว “ มันบอกแบบนั้น ตอนที่ผมก้มลงมองส่วนกลางของตัวเองที่ยัดเข้าไป เลือดนิดหน่อยไหลซึมออกมา
“ มันนานมากแล้ว จากตอนนั้น “ ใจของผมชาตอนที่เห็นเลือดที่ไหลออกมาจากตัวของผม นุึกโทษตัวเองว่าทำไม ถึงไม่เก็บเอาไว้ทำในช่วงเวลาที่น่าจดจำมากกว่านี้
“ ขอโทษ “ ผมบอก เตก็ส่ายหน้า ร่างที่พยายามลึกขึ้นมากอดคอผม
“ ไม่เป็นไร กูเต็มใจจะให้มึง “ จูบลงบนปากผม เตเริ่มขยับร่างกายของตัวเอง ที่ส่วนกลางของผมกำลังสอดใส่ “ ไฟท์ ถ้าไม่ขยับกูจะเจ็บนะ กูไม่อยากจะเจ็บ “
“ อื้ม “ ผมจูบมัน ตอนที่ดันตัวขึ้นไปอีกคนหายใจถี่ หน้าแดงจัดของเต สายตากลมๆที่มองผม แม้จะป่วยแต่ก็พยายามทำให้ผมไม่คิดมาก มันคงสังเกตจากท่าทางของผมที่เงียบไปเมื่อครู่
“ ก็บอกว่าอย่าคิดมากไง “ เตพูดพูดตอนที่ซบลงมาที่อกของผม ตัวของมันร้อนจัด วางตัวมันให้นอนลงผมก้มลงจูบปากร้อนๆก่อนจะสอดส่วนกลางเข้าไปแบบถี่ยิบ ตัวของเรากระพรึ่มขึ้นลง เสียงของเนื้อที่กระทบกันเสียงดงัไปทั้งห้อง
“ อ๊ะ อ๊ะ ไฟท์ อื้ออ “ เตร้องตามจังหวะที่มันกระแทกลงมาจนลึก เหงื่อที่ไหลซึมออกมา ร่างสองร่างของเราโอบกอดกันไว้แน่น ก่อนแรงควบครั้งสุดท้ายจะถูกปลดปล่อยออกเต็มสูบ ทั้งผมแล้วก็มัน “ แฮ่กๆ แฮ่กๆ “ เสียงหอบๆของมันกับร่างที่หมดแรงลงทันที เตยิ้มให้ผม ตอนที่ยกมือขึ้นมาจับที่แก้ม “ ทำหน้าหนักใจไปได้ ไม่อยากทำแบบนี้กับกูหรอกเหรอ “
“ อยาก แต่เพราะ “ ผมมองไปที่เลือดไม่กี่หยดของมัน “ ถ้ารู้ว่าจะเป็นแบบนี้จะ สร้างความทรงจำที่ดีกว่านี้ให้มึง “
“ แบบนี้ก็โอเคแล้ว การที่มึงทำท่าห่วงใยกูขนาดนี้ ก็ดีแล้ว “
“ ขอโทษ “ ผมก้มลงกอดมัน เตหันตัวเองเข้ามาใกล้ผม ปากสวยดึงเข้ามาใกล้ก่อนจะแนบชิดดกัน จูบเบาๆลงบนริมฝีปากก่อนจะสอดลิ้นเข้ามาหาซึ่งกันและกัน ผมลูบไปตามเรือนร่างของมันใช้นิ้วถูที่ช่องทางหลังอีกคนก็หกเกร็งตัว “ เจ็บมั๊ย “
“ นิดหน่อย “
“ ขอโทษ “ หอมลงบนแก้มมันไ ม่เคยรู้สึกผิดอะไรขนาดนี้มาก่อนเลย
“ ก็บอกว่าอย่าพูดแบบนั้น คนที่เต็มใจให้ มันรู้สึกแย่นะ “
“ รู้อยู่แล้วเหรอ “
“ ตั้งแต่มึงถอดผ้าแล้วบอกว่า ร้อนแล้วละ “ มันยิ้มตก่อนจะยกตัวเองขึ้นมาหอมแก้มผม “ ตั้งใจว่าจะให้อยู่แล้ว จะตอนนี้หรือตอนไหนก็คงเหมือนกัน “
“ ขอบคุณนะ “
“ ดูแลกูด้วยละ “
“ จะดูแลเป็นอย่างดีเลย “ รอยยิ้มที่เรายิ้มให้กัน ผมเช็ดตัวให้เตใหม่อีกรอบก่อนจะส่วมเสื้อผ้าแล้วก็ป้อนยา ตอนที่ห่มผ้าแล้วก็กำลังจะลุกกอีกคนก็เหมือนจะจับมือเอาไว้
“ อย่าหายไปไหนนะ ไฟท์ “
“ ไม่หายไปไหนหรอก “ จูบลงข้างแก้มอีกคนก็หลับตาลง ไม่นานลมหายใจเป็นจังหวะก็บอกผมว่าอีกคนได้หลับสนิทไปแล้ว ผมหาเก้าอี้มานั่งมองมันอยู่ข้างๆเตียง มือเราเราโกบกุมกันไว้นั้น แต่จะไม่ได้แน่นหนาแต่ก็แทบไม่อยากจะปล่อยจากไปไหน “ ถ้าเป็นไปได้ พรุ่งนี้ขอกูเป็นคนที่ป่วยแทนมึง “
....................................................
นิยายยังมีคำผิดอยู่นะคะ เพราะยังไม่ได้เช็ค
ตอนนี้เป็นตอนที่ยากที่สุด ในการลง บอกตรงๆไม่กล้าลง
เชื่อว่า มันคงทำร้ายความรู้สึกของ แฟนๆฝั่งไฟท์อิน น่าดู
แต่ถ้าไม่ลงเนื้อเรื่องจะไม่เดิน ต่อไป
เราอยากให้ คนอ่านคิดไว้เสมอว่า ได้กันตอนนี้ไม่ใช่ว่าจะได้กันในตอนจบเสมอไปนะ
เป็นเรื่องที่เอ็นซีมั่วมาก หลายคู่เหลือเกิน แต่ก็อย่างที่บอก รักที่ต้องเลือก
คนที่ไม่ดี ก็คงไม่ถูกเลือกหรอกว่ามั้ย คนที่ถูกเลือก คือคนที่ ตรงใจเราทั้งนั้น
ฝากด้วยนะคะ
ใครมีทวิต หรือเฟส ฝากแท็ก #Choiceต้องเลือก ด้วยนะคะ
ขอบคุณที่เข้ามาอ่านและคอมเม้นท์จ้า
