รักเกิดที่ร้านก๋วยเตี๋ยว ตอน อย่าพูดเลย “อะไร ลื้อเป็นอะไร มองอยู่นั่น กินเข้าไปเหอะน่ะ เร็ว ๆ กินเร็ว เอ้า”
ตะเกียบที่วางไว้ในชาม เปลี่ยนมาอยู่ในมือของก๋วย ที่หยิบตะเกียบขึ้นและคีบลูกชิ้นปลา
เตรียมป้อนให้คนที่นั่งยิ้มอยู่ฝั่งตรงข้าม รักชาติอ้าปากรับและเคี้ยวกินอย่างเอร็ดอร่อย
แต่ดวงตาคมยังจ้องหน้าของคนที่เอาตะเกียบยัดเยียดใส่มือให้ และยังไม่ยอมหุบยิ้ม
จนคนทำก๋วยเตี๋ยวให้ ต้องเอื้อมมือไปดึงแก้ม คนที่ไม่ยอมหุบยิ้มเล่น ด้วยความหมั่นเขี้ยว
“โอ้ย เจ็บ โห่โว้ย คนอุตส่าห์ถ่อมา แทนที่จะพูดด้วยดี ๆ ไม่เคยมีเลยเนอะ”
ถึงแม้ปากจะบ่นแต่หน้าไม่ยอมหุบยิ้ม
รักชาติยังคงยิ้ม จนตี๋หน้าโหด ต้องพยายามกลั้นรอยยิ้มของตัวเองเอาไว้บ้าง
ก็ดีใจที่ได้เห็นหน้าลื้อนะรักชาติ
มากด้วย แต่เห็นผอมลงแบบนี้ ชักจะไม่ค่อยชอบแล้ว
ก๋วย พยายามทำหน้าให้เคร่งขรึมเข้าไว้ แต่ดวงตาเรียวรีกลับมีแววของความดีใจอย่างเห็นได้ชัด
“กินเร็ว นั่งยิ้มอยู่นั่น เดี๋ยวเอาตะเกียบยัดปากเลยนะรักชาติ พูดไม่ฟังแบบนี้เนี่ย”
ยิ่งพูดยิ่งว่า รักชาติยิ่ง ทำตาโตใส่ แกล้งทำหน้าทะเล้น จนก๋วยต้องทำหน้าดุใส่จริง ๆ นั่นแหละ ถึงได้หยิบตะเกียบคีบเส้นก๋วยเตี๋ยวใส่ปาก โดยมี่คนทำให้กิน นั่งมองอยู่ฝั่งตรงข้าม
“ผอมไปนะ ไปไม่ถึงเดือน แขนเล็กนิดเดียวแล้ว แถวนั้นของกินไม่อร่อยหรือยังไง ถึงได้ไม่อยากกิน อย่าให้ต้องตามไปป้อนข้าวเหมือนเด็ก ๆ สิ ไม่อายเพื่อนบ้างหรือไง”
ก๋วยนั่งมองข้อมือของรักชาติแล้วก็จับขึ้นมาพลิกดู ผอมลงจริง ๆ นั่นแหละ ข้อมือเล็กขนาดนี้แล้ว จะให้ทำยังไงกับรักชาติดี
“ว่าแต่ผม เฮียก็ผอมลงไปเยอะเหมือนกันแหละ ตรอมใจคิดถึงเด็กโง่เหรอเฮีย”
เป็นคำพูดหยอกล้อที่ทำให้ก๋วยถึงกับสะดุ้ง นัยน์ตาเรียวรี รีบหรุบสายตาลงต่ำ หันหน้ามองไปทางอื่น จนรักชาติสังเกตเห็น
“ปากเสีย พูดอะไรของลื้อ กิน กินเข้าไปได้แล้ว เร็ว อย่าให้ต้องพูดมาก” เพราะท่าทางลุกลี้ลุกลนและคำพูดที่เหมือนไม่ใส่ใจ ทำให้รักชาติ ก้มหน้าลง ภายในใจไหววูบลง เพราะความรู้สึกน้อยใจ
ผมไม่ได้สำคัญขนาดที่เฮียต้องมาคิดถึงหรอก มาให้เฮียลำบากด้วย อุตส่าห์รีบอาบน้ำแต่งตัวมาหา นั่งรถมาก็ตั้งไกลแต่เฮีย ก็บ่น แล้วก็ว่า ไม่เห็นจะพูดด้วยดี ๆ เลยสักคำ
ใบหน้าที่ยิ้ม ๆ หุบยิ้มกะทันหัน และ ใช้ตะเกียบคีบเส้นก๋วยเตี๋ยวกินอย่างรวดเร็ว ทั้งผักบุ้ง และลูกชิ้นปลา
ถูกคีบกิน จนหมดชาม และรักชาติคว้ากระเป๋าสตางค์ออกมาวางเงินให้บนโต๊ะ
“เท่าไหร่ล่ะ วันนี้มากินคนเดียว เฮียคงเสียค่าทำก๋วยเตี๋ยวให้ผมกินเยอะเลย ต้องมาทำให้ผมกินคนเดียวแบบนี้ ก็คงลำบากใจ ต่อไปนะ ผมก็คงไม่มาแล้วแหละ มาทีไรเฮียก็ด่าทุกที ไม่รู้จะมาทำไม อยู่หอเพื่อน จะกินไม่กิน ก็ไม่มีใครว่าอะไรด้วย แต่อยู่ใกล้ ๆ เฮียทีไร เฮียก็ว่าผมทุกที เนี่ย กินหมดชามแล้ว กินเร็ว ๆ อย่างที่เฮียให้กินแล้ว”
รักชาติหน้างอ พูดออกไปด้วยความโมโห แล้วก็นั่งก้มหน้าเงียบ ๆ ขบริมฝีปากตัวเองแน่น
ก๋วยเองก็นิ่งเงียบไปเช่นกัน
ด่ามาก ๆ บ่นมาก ๆ ลื้อก็เลยรำคาญ ที่จริงคงไม่ได้อยากมา แต่จำใจมา ที่ลื้อมาที่นี่ เพราะว่าลื้อจำใจมาใช่มั้ย
“งั้นเหรอ อั๊วน่ารำคาญอย่างที่ลื้อว่าจริง ๆ ใช่มั้ย งั้นลื้อก็ไม่ต้องมาสิ ถ้ามาแล้วก็รู้ว่าอั๊วต้องบ่นอยู่ดี แล้วลื้อยังจะมาทำไม คราวหน้าลื้อก็ไม่ต้องมา ถ้ามาแล้ว อึดอัดใจ รำคาญใจ ก็อย่า.....อย่า....อย่า..มาที่นี่อีก”
น้ำเสียงที่ขาดหายไปในตอนท้าย ความรู้สึกของก๋วยที่มีแต่ความดีใจ กลับกลายเป็น หม่นหมอง
ต่างฝ่ายต่างนิ่งเงียบไป
รักชาติโมโหปนความน้อยใจ
แต่ก๋วย....เสียใจ
“ผมนะ......อาบน้ำ...แต่งตัวแป๊บเดียวเอง.....แล้วก็โบกแท็กซี่มา...ผม...อยากมาหาเฮียนะ....มาหาตั้งหลายครั้งแล้ว...แต่ไม่เจอ...แล้วพอเจอ..เฮียก็พูดแบบนี้กับผม...เฮียก็ว่าผม...เฮียก็ด่าผม....แล้ว....เฮียก็....เฮียก็……..”
รักชาติพยายามข่มความรู้สึกน้อยใจ เสียใจของตัวเองเอาไว้ แต่กลับทนแทบไม่ได้
เมื่อก่อนไม่เคยร้องไห้ต่อหน้าใคร และก็บอกตัวเองเอาไว้ ว่าจะไม่ยอมร้องไห้ต่อหน้าก๋วยเด็ดขาด
รักชาติเงยหน้าขึ้น ให้หยดน้ำตาไหลกลับ แล้วลุกพรวดพราดขึ้นยืน ไม่สนใจอีกแล้ว ว่าคนตรงหน้าจะมองตัวเองยังไง
ก็ผมคิดถึงเฮีย.........ผมมาหาเพราะว่าผมคิดถึง..........แต่แค่ขอให้เฮียคิดถึงผมบ้าง เฮียก็ไม่ยอมพูด
"คราวหน้าผมไม่มาอีกแล้วแหละ.....ก็เฮียไม่คิดถึงผมนี่....ผมมาก็เป็นภาระเฮียด้วย...ถ้ารู้อย่างนี้ผมไม่มาก็ดีแล้วใช่มั้ยล่ะ.....ผมมันโง่เองที่คิดถึงเฮีย ถ่อมาหาเฮียมาให้เฮียด่า แล้วเฮียก็ด่าผมจริง ๆ ด้วย งั้นผมก็กลับแล้ว ไม่รู้ว่าจะเสือกบ้าถ่อมาทำไม”
---------------------------------------------------------------------------------------------
อัพแค่นี้พอและ เบื่อก๋วยเตี๋ยวแล้ว ไปเซเว่นซื้อ โจ๊กปลาบึก กับน้ำแตงโมกินดีกว่า