Next Door : กูจะบ้าตายกะนายแพทย์ห้องข้างๆ [ตอนที่ 15 [บทพี่กร]]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: Next Door : กูจะบ้าตายกะนายแพทย์ห้องข้างๆ [ตอนที่ 15 [บทพี่กร]]  (อ่าน 49690 ครั้ง)

ออฟไลน์ aoihimeko

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3132
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +155/-9
เพิ่งเห็นและมีโอกาสเข้ามาอ่าน เรื่องนี้น่ารักมากเลย ชอบสุดๆ แถวเป็นมอดังแถวบ้านอีกแบบนี้ฟินกระจายเลย อิอิ ยังไงก็ขอมาอ่านเรื่องนี้ด้วยคนนะจ๊ะ รอตอนต่อไปจ้า \^.^/

ออฟไลน์ LiqueuR

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 72
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
มีใจให้พี่กรแล้วอะดิ๊?

 :impress2:

ออฟไลน์ ♥MM...★

  • ไม่ใช่มืออาชีพ แค่ชอบเขียนไปตามที่ใจต้องการ♥
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 121
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +67/-1
น้องเซอร์วิสเต็มที่แบบนี้ เกิดพี่กรอดใจไม่ไหวขึ้นมา ทำไงล่ะเนี่ยยย อิอิ

ออฟไลน์ nunnan

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2275
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +124/-6
เล่นแบบนี้ระวังอีพี่มันทนไม่ไหวจับ  :oo1: :oo1: นะ

ออฟไลน์ IsDeer

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2519
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +85/-8
 o13 พี่กรรุกเร็วถูกใจ
รู้สึกน้องแก๊งก็ใจอ่อนไปเยอะแล้ว
เหลือแค่กลัวๆว่าพี่กรจะจริงจังขนาดไหน

ออฟไลน์ HalF_EighT

  • AWyZar GeRin : Arch Of Wizard GeRin
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 25
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-1
ตอนที่ 8 [บทพี่กร] กางเกงสีน้ำตาลกับภาพแอบถ่าย

   จะทำตัว...น่ารัก... ไปไหนครับไอ้หมอยา

   จับแก้มตัวเอง เดินไปหน้าห้อง แมร่ง ตะกี๊ไอ้หมอยามันกระโดดมาหอมแก้มด้วย

   ระวังให้ดีเหอะแก๊ง คราวหน้า พี่ไม่ปล่อยเราไว้แน่ๆ หึหึ

   “แกร๊ก...”

   ผมเปิดประตูห้องเข้าไป วางของ ถอดเสื้อทิ้งลงบนเตียง แล้วเดินไปหน้ากระจกที่เต็มไปด้วย รูปภาพ

   รูปภาพของน้องแก๊ง มาจากฝีมือแอบถ่ายด้วยกล้องมือถือของผมและเพื่อนๆ ผมก็พยายามเก็บรวบรวมมา แล้วเอาไปล้างมาติดเต็มกระจก ทั้งภาพตอนที่น้องเค้ากำลังยิ้มกับเพื่อนๆ ในโรงอาหารคณะ ภาพตอนที่น้องเค้ากำลังอ่านหนังสือที่ห้องสมุดคณะผม ภาพตอนที่น้องเค้ากำลังใส่เสื้อกาวน์สวมแว่นนิรภัย ถือตระกร้าแล็บเดินไปแบบรีบๆ ทุกภาพ.. น้องไม่รู้ตัวเลยว่ากำลังถูกแอบถ่ายอยู่

   แต่มันยังมีภาพ ภาพแรกสุดที่แอบถ่ายน้องเค้า ด้วยฝีมือผมเอง มันไม่ได้ติดอยู่บนกระจก

   ผมเดินไปที่ชั้นวางหนังสือ ชั้นล่างสุด มีกางเกงสีน้ำตาลของน้องแก๊งที่ผมซักแล้วพับเก็บเอาไว้ บนกางเกงตัวนั้น มีภาพภาพหนึ่ง วางอยู่ เป็นภาพน้องแก๊งที่กำลังหัวเราะกับหนังสือ พร้อมเงาเลือนๆ ของเพื่อนๆ ในโรงอาหารคณะผม ซึ่งเป็นภาพที่ผมพยายามถ่ายจากมุมไกลๆ โดยแหวกเพื่อนๆ ของน้องเค้าออกให้หมด เหลือแต่โฟกัสเฉพาะน้องแก๊งเท่านั้น

   ผมหยิบภาพนั้นขึ้นมาดู แล้วนึกถึง.. วันแรก.. วันแรกที่ผมได้เจอน้องแก๊ง

   และเป็นวันที่ผม ตัดสินใจ ที่จะจริงจังในเรื่องความรักกับคนคนเดียว

   วันนั้น.. ที่โรงอาหารคณะแพทย์ตอนที่ผมอยู่ปีสอง เทอมสอง ระหว่างที่ผมกำลังทำรีพอตส่งอาจารย์กับเพื่อนๆ



   “น่ารักโครตตตตต ปึ้งงงงง!!!!”

   ไอ้ไม้!! เพื่อนในกลุ่มผม มันเดินเข้ามาทิ้งหนังสือกลางหน้าผมกับไอ้นันระหว่างอ่านทำรีพอตส่งอาจารย์อยู่บนโต๊ะ

   “มึงเป็นอะไร ไอ้ไม้ มาดีๆ ไม่เป็นรึไง ทิ้งหนังสือกลางหน้ากูเลยเนี่ย...” (ผมเอง)

   “ไอ้นัน ไอ้กร มึงมองไปตรงนั้นหน่อย ตรงนั้นเลย ตรงนั้นน่ะ”

   “ไหน!??.......(ไอ้นันก็หันไปตามที่ไอ้ไม้มันชี้)......เฮ้ยย! เชรี่ยยย! ไอ้ไม้ น่ารักโครตตตต” (ไอ้นัน)

   “ใช่มะนัน กูเดินผ่านมายังตกใจเลย”

   “อะไรของมึงว่ะ?”

   ผมเลยหันหลังมองไปตามที่ไอ้ไม้มันชี้ สิ่งแรกที่ผมเห็น คือ

   โต๊ะเดียว มีโต๊ะเดียวเท่านั้นที่ไอ้นันมันชี้ไป ภาพเด็กผู้ชาย ตัวเล็กๆ ขาวๆ ในชุดนักศึกษามหาวิทยาลัยสีขาวแขนยาวพับแขนขึ้นครึ่งแขน สวมเนคไทสีเขียว มีป้ายชื่อสีเขียวกรอบทอง บ่งบอกว่าเป็นนักศึกษาเภสัช แต่มองไกลๆ ผมก็รู้ได้ทันที

   น่ารักมาก... ขาว ผมดำตัดรองทรงเข้ากับหน้า หน้าหวาน หล่อๆ ทำหน้าขรึมๆ เข้มๆ ปากเลยห้อยนิดๆ เหมือนกำลังตั้งใจอ่านหนังสือไม่สนอะไรทั้งนั้น ความรู้สึกแรกที่ผมเห็นเด็กคนนั้นเลย คือ... มันใช่!!

   “กูรู้ด้วยว่าชื่ออะไร!” (ไอ้ไม้)

   ห่ะ... ผมกลับมามองไอ้ไม้

   “ชื่ออะไรวะไม้” (ไอ้นัน)

   “ชื่อน้องแก๊ง เรียนเภสัชปีหนึ่ง เห็นว่าเป็นเด็กไม่เด่น ไม่ค่อยทำกิจกรรมอะไร แต่ในคณะก็ดังมากในเรื่องความน่ารักอ่ะมึง แต่ไม่ค่อยมีคนเคยเห็นตัวน้องเค้าเท่าไหร่ ตอนแรกที่กูรู้ว่าคนนี้ชื่อน้องแก๊งของคณะเภสัชนะ กูโครตตกใจ”

   “ทำไมว่ะ” (ไอ้นัน)

   “ก็น่ารักกว่าที่เค้าพูดๆ กันสิว่ะ มึงดูสินัน มึงดูเลยย น่ารักขนาดไหน แมร่ง น้องหลุดมาอยู่นี่ได้ไงว่ะ” (ไอ้ไม้)

   “คงจะมาเรียนอ่ะ คณะน้องเค้าตอนปีหนึ่งเทอมสองมีเรียนที่คณะเราด้วยมั้ง” (ผมเอง)

   “กูจะไปขอเบอร์!!” (ไอ้นัน)

   ไอ้นัน มันลุกขึ้นดึงไอโฟนตัวเองออกมาเตรียมพร้อม

   “เฮ้ยๆๆๆ!! ไอ้นัน!! อะไรของมึง!? น้องแก๊งน่ะของกู กูเอาหนังสือที่กูยืมจากห้องสมุดมาให้พวกมึงล่ะ เดี๋ยวกูจะไปขอเบอร์น้องแก๊งก่อน มึงหยุดอยู่นี่เลยไอ้นัน!!” (ไอ้ไม้)

   “เฮ้ยๆๆๆ หยุดเลยไอ้ไม้ หยุดเลย น้องแก๊งไม่ใช่ของมึง ใครดีใครได้เว้ยยย”

   ไอ้นันมันกำลังวิ่งออกไป แต่ไอ้ไม้สกัดไว้ก่อน

   “ฮึ้ยย ไอ้ไม้!! กูจะไป”

   “ไอ้นัน!! มึงอย่า!! น้องแก๊งของกู”

   “ไอ้ไม้!! มึง”

   ผมมองไอ้สองคนนี้มันทะเลาะกัน แล้วหันหลังกลับไปดูน้องแก๊งที่ยังตั้งใจอ่านหนังสือ ไม่สนใจอะไร.. มันก็...

   “กูไปล่ะ!!”

   หยิบไอโฟนตัวเองสิครับ น่ารักขนาดนี้..

   “เฮ้ย ไอ้กร!! มึง เฮ้ยอย่า!! มึงก็ปล่อยกูสิว่ะ”

   วิ่งสิครับ ไอ้สองคนนั้นหลุดจากกันเมื่อไหร่ ผมหมดโอกาสแน่ๆ.. อีกนิดเดียว อีกนิดเดียววว

   “เฮียแก๊ง!!! อยู่ตรงนี้นี่เอง ติวไบโอเคมให้ดรีมหน่อย”

   อุ๊!!

   “เฮียแก๊ง!! มาทำอะไรตรงนี้ค่ะเนี่ย อ่านหนังสือรึยัง”

   “อย่างเฮียน่ะเหรอ จะยังไม่อ่าน น้องน้อง ไม่มีทาง”

   “มึงหุบปากไปเลยไอ้อาท เลวๆ อย่างมึงไม่มีสิทธิ์พูด!!”

   “เอ้าๆ อย่าทะเลาะกันสิ ไหนว่าจะมาให้ติวไบโอเคมให้ไง ก็หาที่นั่งกันก่อน จะได้เริ่ม”

   เสร็จ.. กัน.. เพื่อนน้องแก๊ง มากันเต็มโต๊ะเลย หกคน รวมน้องแก๊งอีกก็เป็นเจ็ด... ซวยเลย จะกล้าขอ...ได้ไงวะ

   แล้วเพื่อนผมทั้งสองคน มันก็เข้ามาจับไหล่ผมทั้งสองข้าง

   “เป็นยังไงล่ะ มึงกล้าขอเบอร์น้องเค้ามั๊ยครับ?? ไอ้หมอกร” (ไอ้นัน)

   “เนี่ยล่ะน้า เร็วกว่าพวกกู ทั้งที่มึงก็มีน้องน่ารักๆ คอยระบายความใคร่มึงอยู่ล่ะ.. มึงจะอะไรอีกว่ะ!?? น้องแก๊งเค้าใสๆ นะเว้ย มึงอย่าเอาชีวิตตัวเองมาทำให้เป็นจุดด่างพร้อยยยยของน้องเค้าเลยว่ะ กูขอร้อง” (ไอ้ไม้)

   “เออออ!! เสือกไรมึง ถ้าพวกมึงกล้าก็เข้าไปขอดิ ไป!!”

   แมร่ง... เสียอารมณ์เลยกู เดินกลับโต๊ะแบบคอตก

   ยอมรับนะครับว่าเจ้าชู้ เพราะตั้งแต่เข้าปีหนึ่งมาแล้วได้เป็นเดือน ...มัน..คึกอ่ะ มันแบบ..โก้อ่ะ แบบ เดือนคณะแพทย์ เลยนะ มีแต่น้องน่ารักๆ เข้ามาเป็นตัวเลือกให้ผม ผมก็เลือกแต่น้องผู้ชายนะครับ ผู้หญิงไม่เอา

   แต่ก็ยุ่งกับคนนั้นได้ไม่ถึงเดือน ประมาณสัปดาห์นึง ก็เลิก.. เพราะนิสัยไม่เข้ากันบ้างล่ะ เจ้าชู้บ้างล่ะ คิดว่าผมไม่รัก ไม่มีเวลาให้บ้างล่ะ อันที่จริงผมก็มองเห็นเป็นแค่เพื่อนนอน ไม่ก็คู่ขานะ ไม่คิดอยากจะมีแฟนจริงๆ หรอก

   พอกลับมานั่งที่โต๊ะตัวเองทั้งหมด ไม่มีใครกล้าไปขอหรอกครับ คนเยอะขนาดนั้น..ผมก็มองไป

   รอยยิ้ม.. น่ารักมาก หน้าหวานๆ ดูสวยขึ้นมาเลย เวลาน้องเค้าหัวเราะแล้ว ทำไม... โลกนี้มันดูสดใสไปหมดเลยว่ะ

   ตอนนั้นนั่นล่ะครับ ผมเลยหยิบไอโฟนตัวเองขึ้นมา พยายามซูม ปรับโฟกัสให้ได้ แล้วถ่ายน้องแก๊ง จากตรงนั้น..
   หลังจากวันนั้น ผมก็ลืมรอยยิ้มน้องเค้าไม่ลงจริงๆ

   ทุกคืนก่อนนอน ผมต้องเปิดภาพแอบถ่ายภาพแรกนี้ขึ้นมาดู แล้วก็ยิ้มตาม พลางคิดอยากได้คนนี้มาอยู่ข้างๆ จัง โลกผมคงสดใสขึ้น เลยพยายามให้ตัวเองได้สนิทกับน้องเค้าให้ได้ แค่ได้คุยก็ยังดี

   แต่ทุกอย่าง มันก็ไม่ได้เป็นไปตามที่คิดหรอกครับ

   น้องแก๊ง ยอมรับเลย ว่า การ์ดหนามากกกก!!!

   ผมเคยไปเฝ้าที่โรงอาหารคณะน้องเค้า เพราะอยากเจอ อยากขอเบอร์น้องเค้าจริงๆ ตอนนั้นน้องเค้าก็ลงมานะครับ แต่!.. แค่ลงมาซื้อแซนด์วิชกิน แล้วกลับขึ้นไปเรียนใหม่อย่างรีบๆ ผมที่มารอตั้งแต่ก่อนเที่ยง ก็เลย...อดเลย แห้วววว

   มาอีกครั้ง คราวนี้น้องเค้าก็ลงมากินจริงๆ ครับ แต่กับเพื่อนๆ ในกลุ่ม เต็มโต๊ะเลยย.. อดเลยครับ แห้วเลยครับ ได้แต่เอาไอโฟนตัวเองขึ้นมาแอบถ่ายน้องเค้าไว้ เฮ้อออ คนอะไรไม่รู้ น่ารักชะมัด

   มาอีกครั้ง แต่ไม่ใช่ที่คณะน้องเค้า เป็นที่ห้องสมุดคณะผม ดีใจมว๊ากกก เห็นน้องเค้ากำลังเลือกหนังสือตรงชั้นอ้างอิงมานั่งอ่านอย่างตั้งใจ ตอนนั้นผมก็แอบถ่ายรูปเก็บไว้ แล้วรอให้น้องเค้าอ่านให้เสร็จก่อน เพราะเข้าไปทักตอนอ่านหนังสือแบบนั้นมันไม่ดี จน..โทรศัพท์น้องเค้าเข้า ก็รีบเก็บของ แล้วออกไป เลยยย ไปเลย....ทำไมใจร้ายกับพี่กรอย่างนี้ล่ะครับแก๊ง!!

   มาอีกครั้ง คราวนี้ผมมีเรียนแค่ช่วงเช้า ผมเลยมาดักรอน้องเค้าที่คณะตั้งแต่บ่ายเลย เห็นว่าขับมอไซค์ก็ว่าจะดักดู แล้วขับสะกดรอยตามไปที่หอซะเลย คลาดกันดีนัก... อ๊ะนั่น.. นั่นน้องแก๊ง ในชุด...อ๊ากกก น่ารักมว๊ากกก เสื้อกาวน์แล็ปสีขาวจั๊วะสวมแว่นตานิรภัย ถือตระกร้าแลป รีบเดินผ่านโรงอาหารคณะไป ตอนนั้นผมรีบเอาไอโฟนตัวเองขึ้นมาถ่าย แล้ววว...ก็ไป.. หายไปเลย ไม่ผ่านทางโรงอาหารคณะเภสัช อีกเลยยย

   หลังจากนั้นก็มีอีกสิบกว่ารอบได้ครับ ทั้งมากับเพื่อนบ้างล่ะ ทั้งหายไปตอนเย็นเลยบ้างล่ะ ทั้งรีบบ้างล่ะ ทั้งกำลังมีสมาธิสูงมากบ้างล่ะ ไม่สนใจอะไรรอบข้างบ้างล่ะ แต่ที่เด็ดที่สุดก็นี่เลยครับ จำได้เลย วันนั้นเป็นตอนซัมเมอร์ปีสองของผม ซึ่งตรงกับซัมเมอร์ปีหนึ่งของน้องเค้า

   ดีใจมากก น้องเค้ามีเรียนวิชา ANATOMY ที่คณะผม เลยลงมากินข้าวเที่ยงกับเพื่อนๆ นึกว่าซัมเมอร์นี้จะไม่เห็นหน้าน้องแก๊งซะแล้ว.. จังหวะที่น้องเค้ากำลังเลือกซื้อกับข้าว ผมก็เข้าไปชาร์จซื้ออยู่ข้างๆ ด้วย พอซื้อเสร็จ คิดในใจว่าทำเป็นไหล่ชนกันนิดหน่อย จะได้รู้จักหน้ากัน บางทีน้องเค้าก็อาจจะตกหลุมรักในหน้าตาอันหล่อเหลาของ... อ๊ากกก แผนเพอร์เฟ็คสุดๆ

   แต่... ใครมันจะไปรู้ล่ะครับ ว่าน้องแก๊ง....

   ผมพยายามเอาไหล่ตัวเองไปชนน้องเค้า แต่.. น้องเค้า.. มีฟุตเวิร์ค หลบได้ มีเอี้ยวตัว มีหลบหลีก มีสเตปเท้า สับไปมาพร้อมกับยักไหล่ขึ้นลง หลบพ้นนนน หมดทุกท่า เลยยยย

   นี่!! นี่น้องไปเรียนอะไรมาครับเนี่ยยย (ก็ ที่เต้น COVER ไง มันเลยหลบแบบนั้นได้หมด แบบว่า ต้องเต้นกับพี่พี่ที่จัดบล็อกกิ้งได้วุ่นวาย ทั้งไหล่ชนกัน ตัวชนกัน มันเลยชินที่ พอจะมีใครซักคนเข้ามาชน มันจะหลบได้ทันที)

   “ดูท่าไอ้กรมันจริงจังวะ”

   ไอ้นันมันพูดขณะที่ผมเอาจานข้าววางบนโต๊ะ แสดงว่า มันเห็นเมื่อตะกี๊นี๊

   “กูถามจริงเหอะกร!! มึงมีน้องตั้งเยอะแยะ มึงจะอะไรกับน้องแก๊งอีกว่ะ กูบอกแล้วนะเว้ย ว่ามึงน่ะไม่คู่ควรกะน้องเค้า น้องเค้าเป็นคนดี ส่วนมึงอ่ะ ฟันใครเค้าไปทั่วแล้วนะไอ้กร” (ไอ้ไม้)

   “ก็แล้วจะทำมะ!?.. กูไม่ได้ฟันใครเค้าไปทั่วซะหน่อย เค้าเข้ามาให้กูฟันเอง แถมที่สำคัญ กูก็ชอบน้องเค้าจริง”

   “คร้าบๆ พ่อรูปหล่อเดือนคณะแพทย์ กูยอมรับเลยว่ามึงหล่อออ หล่อลากไส้” (ไอ้ไม้)

   “เออ!!.. ทั้งเล่นกล้าม ทั้งบ้านรวย แถมเป็นหมอมีคุณวุฒิอีก อีน้องคนไหนมันจะอยากทิ้งมึงกันวะ มีแต่มึงนั่นล่ะ คิดฟันแล้วทิ้งเค้าไปทั่ว.. แล้วนี่มึงคิดอย่างนั้นกับน้องแก๊งอีก พวกกูไม่ยอมนะเว้ย” (ไอ้นัน)

   “ก็กูบอกแล้วไง!! ว่ากูชอบน้องเค้าจริงๆ”

   “ถ้ามึงชอบน้องเค้าจริงๆ แล้วทำไมมึงยังทำตัวแบบนี้อยู่ล่ะว่ะ” (ไอ้ไม้)

   “ใช่!! พวกกูไม่เคยเห็นมึงเปลี่ยน เมื่อคืนไปเล่นท่ายากกับใครล่ะครับไอ้หมอกร?” (ไอ้นัน)

   “ไม่ได้เล่นเว้ยยย กูไม่ได้จริงจังกับใครก่อนหน้านี้สักคน”

   “เออ!! ใช่ไง! แล้วมึงจะจริงจังกับน้องแก๊งรึไง ถุยยย!! เอามึงให้รอดก่อนเหอะ ถ้ามึงคิดว่าน้องแก๊งเค้ารับมึงได้ ก็เชิญ!! แล้วพวกกูจะรอดูว่า ใครมันจะได้น้องแก๊งไปกัน ระหว่างมึงที่มีประวัติ กับพวกกูที่จริงใจกว่า” (ไอ้ไม้)

   “คิดง่ายๆเลยนะ ถ้ามึงคบกับแก๊งได้ พวกอีตัวที่มึงเคยคบเค้าจะเป็นยังไง แค่นี้กูก็สงสารน้องเค้าแล้วว่ะ” (ไอ้นัน)

   ผม.. เถียงพวกมันไม่ออกจริงๆ

   หลังจากนั้น ผมก็เริ่มปฏิวัติตัวเอง บอกเลิกทุกคนที่เคยยุ่งทั้งหมด บอกเลิกทุกอย่าง เลิกพฤติกรรมเลวๆ ที่ชอบไปหลอกฟันคนอื่นไปทั่วอย่างที่ไอ้นันกับไอ้ไม้มันพูด ใช้เวลาไปเทอมกว่าๆ กว่าจะจบเรื่องไปกว่าครึ่ง เลยย้ายหอ แล้วเริ่มต้นชีวิตใหม่สักที ระหว่างนั้น กำลังใจเดียวที่ผมมีอยู่ คือ รูปภาพบนกระจกพวกนี้ที่เต็มไปด้วยสีหน้าต่างๆ ของน้องแก๊ง ที่ช่วยให้ผมคิดว่า ผมอยากจริงจังกับน้องเค้า แค่คนเดียว

   คืนนั้น เป็นคืนสุดท้ายที่ผมจบเรื่องราวทั้งหมดของความด่างพร้อยในชีวิตผม ที่ร้านเหล้า

   “เอ้าชนนนนนนนนนนนน” (ผมเอง)

   “กูยอมรับเลยว่ะ ไอ้กรมันแน่จริง ดูหน้ามันสิ โดนตบจนแดง” (ไอ้ไม้)

   “สรุป! คือมึงยอมจริงจังกับน้องแก๊งจริงๆ เหรอว่ะ แล้วตอนนี้! น้องเค้าอยู่ไหน?” (ไอ้นัน)

   “กูก็ไม่รู้เหมือนกันว่ะ กูรู้แค่ว่ากูห่างจากน้องเค้ามา แล้วทำตัวเองให้ดีขึ้นก่อน ค่อยกลับไปจริงๆ” (ผมเอง)

   “เอ้าไอ้กร!! แล้วมึงไม่กลัวหมาตัวอื่นจะคาบไปแดกเหรอว่ะ” (ไอ้นัน)

   “กลัวสิว่ะ!! แต่กูก็เชื่ออย่างนึง อย่างที่กูเล่าไป การ์ดน้องเค้าหนามาก กูเชื่อว่าทุกวันนี้น้องเค้ายังโสด” (ผมเอง)

   “มันก็จริงที่การ์ดน้องเค้าหนา แต่การ์ดพวกนั้นที่มึงเล่า มันแค่การ์ดบังเอิญ มึงเข้าใจมะ แบบ การ์ดบังเอิญอ่ะ การ์ดกันพวกมีสามัญสำนึกได้อ่ะ แต่ถ้าน้องเจอพวกคนที่มันโรคจิต หน้าด้านๆ เข้าไปทักเลยล่ะ กูว่าก็มีสิทธิ์อยู่นะ” (ไอ้ไม้)

   “เออว่ะ เฮ้ยย!! มีใครรู้ข่าวน้องแก๊งตอนนี้บ้าง” (ผมเอง)

   “ฮื่อออๆๆๆ!!!” (ส่ายหัวทั้งคู่)

   “งั้น มีใครได้เบอร์น้องเค้าแล้วบ้าง” (ผมเอง)

   “ฮื่อออๆๆๆ!!!” (ส่ายหัวทั้งคู่เหมือนเดิม)

   “โหยไอ้กร การ์ดหนาอย่างนั้น พวกกูก็มีสามัญสำนึกอยู่นะโว้ยย” (ไอ้ไม้)

   “ใช่ แค่ไปคุยยังไม่ได้เลยเหอะ ล่าสุดที่กูเจอน้องเค้านะ มันน่าจะพร้อมกับมึงล่ะ ตอนซัมเมอร์” (ไอ้นัน)

   “อะไรว่ะ ที่กูถามเพราะคิดว่าจะเพื่อเพื่อนนะเนี่ย แต่พวกมึงก็ยังเล็งน้องกรอยู่เหรอว่ะ” (ผมเอง)

   “เอ้าไอ้กร ของอย่างนี้มันก็ต้องมีแข่งกันบ้างล่ะครับ” (ไอ้ไม้)

   “ใช่ ใครมันจะไปให้คนอย่างมึงกันล่ะ แต่เดิมทีพวกกูก็ชอบน้องแก๊งเหมือนกันนะเว้ยย” (ไอ้นัน)

   “เอ้อออ พวกมึงพูดอย่างนี้ ได้!!! งั้นวันนี้ รูเล็ต ยกเพียว ใครแพ้ ห้ามจีบ ห้ามเข้าใกล้น้องแก๊ง ตกลงมะ!!” (ผมเอง)

   “เออ!! มาเล้ยยย พวกกูพร้อมล่ะ”



   ... หึหึหึหึ แล้วคนชนะ ก็ผมนี่ล่ะครับ.. เพื่อน้องแก๊งของผม แค่นี้ ทนด้ายยยยยยยย

   ก็เมาแอ๋ กลับมาที่หอ ไขเข้าไปในห้อง เปิดแอร์ เปิดไฟ...งืมๆ ห้องมันทำไมดูแปลกจังว่ะ ช่างเหอะ.. ถอดชุดในห้องน้ำ.. ว่าจะเปลี่ยนเสื้อผ้า แต่ทำไมมันมีแต่ตัวเล็กๆ ว่ะ... เอ้อๆ ตัวบนราวนี้ตัวใหญ่ใส่สบายดีว่ะ....ก็เซๆ ไปหลับบนเตียงสักหน่อย เฮ้ออ ทำไมเตียงมันหอมจังหวะ ใช่เตียงกูป่าวว่ะเนี่ย ช่างเหอะ หลับดีกว่าว่ะ... แมร่ง กำลังสบายย

   หืม...อะไร.....อะไรมันกำลังผ่านปากผม...รสชาติ....เชรี่ยยย

   “เชรี่ยยยยยยย!!!!!! ขม!!!!!!!”

   โอ้ย ใครกันว่ะเนี่ยยยย เอาอะไรมาผ่านปากกูว่ะ แมร่ง ขมฉิบหายยย

   “น้องกร น้องกรครับ น้องกรนอนผิดห้องนะครับ”

   “พี่มองไปรอบๆ ตัวเองหน่อยครับ ว่าใช่ห้องตัวเองรึปล่าว”

   ห๊ะ!! ไม่จริง เสียงนี้มัน...

   ไม่จริง...คนที่อยู่ตรงหน้าผมนี่มัน...

   น้องแก๊ง!!!!



   สวรรค์จริงๆ

   ถึงแม้มันจะน่าอายนิดๆ ที่ผมไขผิดห้อง แต่ผมไม่รู้จริงๆ ว่าน้องเค้าอยู่หอนี้ แถมผมยังได้มาอยู่ข้างห้องน้องเค้าอีก อะไรจะทำให้เป็นอย่างนี้ไปได้ล่ะครับ นอกจากชะตาฟ้าลิขิต

   ยิ่งจังหวะที่น้องเค้ามาขอเสื้อคืน ผมแทบดีใจ ผมได้ใส่เสื้อน้องเค้าด้วย แถมได้ใส่กางเกงน้องเค้าอีก

   “เดี๋ยวครับน้องแก๊ง...”

   “คือ กางเกงนี่ก็ของน้องแก๊งใช่มั๊ยครับ เดี๋ยวพี่คืนให้เดี๋ยวนี้”

   “เอ่ออออออ.....ไม่ต้องก็ได้ครับ พี่เอาไปเหอะ จะเอาไปเป็นผ้าขี้ริ้วหรืออะไรก็ได้น้องไม่เอาแล้วครับ ไปนะครับ”

   จะให้พี่เอากางเกงตัวนี้ไปเป็นผ้าขี้ริ้วงั้นเหรอครับ.... ไม่มีทาง!!

   สุดท้าย กางเกงตัวนั้นผมก็ซักให้เรียบร้อย แต่ไม่คืนครับ เพราะน้องบอกว่าให้ผมแล้ว ถึงแม้ผมจะไม่เข้าใจว่าทำไมน้องไม่เอาคืน.. แต่มันก็กลายเป็นของที่ระลึกของพี่กร พร้อมๆ กับภาพแอบถ่ายภาพแรก ที่ผมเก็บไว้ด้วยกันแล้วล่ะครับ

   กลายเป็นเครื่องเตือนใจ ให้ผมมีแรงสู้ สู้ที่จะได้สมหวัง... แต่การ์ดน้องแก๊ง ก็หนายิ่งกว่าอะไร

   ถ้าอยากจะทลายการ์ดหนาๆ ชนิดที่ว่าไม่รู้อะไรเลยนั้นให้ได้ ผมคงต้องรุก!! รุกให้มากที่สุด....

   แต่ก็เกือบไป.. ผมเกือบจะทำเกินไปตอนน้องเค้าป่วย แต่ในความโชคร้ายนั้นก็ยังมีความโชคดีอยู่ที่ผมได้เช็ดตัวน้องเค้า แต่หลังจากนั้น ผมก็แทบบ้า..น้องเค้าหายไปหลายวัน กลับมาอีกครั้งผมก็ดีใจ แทบอยากเข้าไปกอด.. แต่ น้องก็ยังโกรธผมอยู่ที่ไปทำแบบนั้น ตอนแรกนึกว่าผมคงไม่มีโอกาสอีกแล้ว จนกระทั่ง

   “ช่วยน้องเก็บของหน่อยครับ”

   หลังจากนั้น ผมก็พยายามทำดีกับน้องมาตลอด แต่ยังต้องรุก รุกให้มากที่สุด เพราะน้องเค้าการ์ดหนา และไม่รู้เรื่องอะไรเลยว่าตัวเองเป็นคนยังไง ตัวเองนั้นน่ารักขนาดไหน ปล่อยไว้แบบนี้ไม่ได้เพราะมันจะทำให้ผมเป็นห่วงว่าหมาตัวไหนจะคาบไปแดก เลยต้องทำแต้มให้ได้ ต้องยอมให้น้องเค้ามอบโอกาสให้ผม จีบน้องเค้าได้ จนได้เป็นแฟนกัน

   และเมื่อถึงตอนนั้น.. คนดีของพี่.. พี่จะเฝ้าบอกคำว่ารักทุกวัน

   เพื่อที่จะรอวันนั้น รอวันที่เรา...

   บอกกับพี่ว่า....รัก


/////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 14-03-2014 23:27:10 โดย thaisiri »

ออฟไลน์ toshika

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 819
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +38/-4
แหม่ พี่กรนี่เจ้าชู้ใช่ย่อยนะเนี่ย

แต่เพื่อน้องแก๊งพี่กรยอมเลิกทุกอย่าง น่ารักจริงๆ  :mew1:

ออฟไลน์ IsDeer

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2519
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +85/-8
ต้องดูกันยาวๆนะพี่กร
พี่เคลียร์กับคู่ขาแล้ว แต่จะจบรึเปล่าเนี่ยสิ

ออฟไลน์ HalF_EighT

  • AWyZar GeRin : Arch Of Wizard GeRin
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 25
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-1
ตอนที่ 9 เสียจูบแรก (รึปล่าว) ให้พี่กร

   ตื่นเช้าขึ้นมา อาบน้ำแต่งตัว เช็คตัวเองอยู่หน้ากระจกก่อนที่จะ

   “ก๊อก ก๊อก ก๊อก...”

   ไอ้พี่กรแน่นอน เปิดออกไป.... โห แต่งตัวหล่ออีกล่ะ ชุดเสื้อเชิ้ตแขนสั้นลายสก๊อตสีแดงเขียว กางเกงยีนต์ทรงกระบอกแบบเท่ๆ กับรองเท้าผ้าใบสีดำ หื้มมมม สงสัยชุดเสื้อก้ามดำทับเชิ๊ตสีขาวไม่ติดกระดุมทำเป็นกั๊กด้านนอก กับกางเกงยีนต์เดฟสไตล์ของผม คงต้องหาหมวกแก๊ปมาใส่เพิ่มซะแล้วล่ะ

   “ไปกันรึยังครับน้องแก๊ง”

   “เดี๋ยวครับรอแป๊ปนึง....โอเคครับ เรียบร้อยแล้ว”

   “ไม่ต้องใส่ก็ได้ครับ หมวกน่ะ มันไม่ร้อนซะหน่อย”

   “ไม่เอา กลัวหล่อไม่เท่าพี่กร... จะไปกันรึยังล่ะครับ แต่อันที่จริงไม่ต้องไปก็ดีนะครับ มัน เว่อร์ไป”

   “555 ใครว่าล่ะครับ ต้องไปตรวจให้แน่ใจสิครับ มาครับ ไปกัน...”



   “นั่งรอตรงนี้นะครับแก๊ง เดี๋ยวพี่ไปเข้าห้องน้ำก่อน ค่อยรอสั่งพร้อมกัน ตกลงนะครับ รอได้นะ..”

   “ครับผม รอได้ครับรอได้”

   ผมก็นั่งลง กลางโรงอาหารคณะแพทย์ พี่กรก็รีบวิ่งไปทางห้องน้ำทันที

   ตรวจเสร็จแล้วครับ สรุปก็ไม่มีอะไรมาก “จะตรวจไปทำไมก็ไม่รู้” โดนว่าแบบนี้กลับมาด้วยนะครับ

   จริงๆ ก็แค่ถลอก ได้ยาแก้ปวดกับล้างแผลให้ แค่นั้น ที่เหลือก็ไม่มีติดเชื้อบาดทะยักอะไรตามที่ไอ้หมอมันกังวล (ก็ใช่น่ะสิ) ตรวจเสร็จก็เที่ยงๆ เกือบบ่าย บ่นหิวข้าวสิผม เลยมานั่งกินที่โรงอาหารคณะเจ้าถิ่นพี่กร ระหว่างนั้นก็รอให้ไอ้หมอมันเข้าห้องน้ำให้เสร็จก่อน ผมก็เล็งไปรอบๆ ว่าอยากกินอะไรดี...อืมมม เอาตามสั่งร้านนั้นดีกว่า...

   “เอ่อ.. น้องแก๊ง ใช่มั๊ยครับ?”

   “ห่ะ!...ครับ?”

   เสียง เสียงมาจากทางไหน... ข้างหลังผม.. ใครกัน คุณหมอ ไม่ใช่ๆ นักศึกษาแพทย์ เสื้อกาวน์แบบนี้

   “คือ... มาคนเดียวเหรอครับ”

   “ครับ...เอ่อ คือ มากับเพื่อนอีกคนน่ะครับ ตอนนี้ไป เข้าห้องน้ำ”

   ใครกันว่ะ เข้ามาทักกูเฉยเลย.. หน้าตา ดูกวนตีนๆ หน่อยๆ ผิวเหลืองๆ สูง น่าจะเกือบเท่าพี่กรอ่ะ ใครกันว่ะ เพื่อนพี่กรเหรอ

   “พี่ชื่อ.. พี่ไม้นะครับ อยู่แพทย์ปีสามขึ้นปีสี่”

   “อ่าครับ ชื่อแก๊งครับ อยู่เภสัชปีสองขึ้นปีสาม”

   “ครับผม น่ารักจังเลยนะครับ พี่ขอ..เบอร์ เราได้มั๊ย”

   “ห๊ะ!!..เอิ่มม คือออ”

   เอาไงดีว่ะเนี่ย มาจากไหนวะเนี่ย

   เดี๋ยวๆ เดี๋ยวนะ...แพทย์ปีสามขึ้นปีสี่ ก็.. ชั้นปีเดียวกันกับพี่กรเลยนี่หว่า!!

   “ไอ้ไม้!!!! ป้าบบบ!!”

   พี่กร.. เดินมาพอดี.. แถมตบหัวไอ้พี่ไม้ที่กำลังยืนจ้องผมอยู่

   “โอ้ยเชรี่ย...ใครวะ!?? เห้ย! ไอ้กร! มาตบหัวกูทำไมเนี่ยย! แมร่งโครตเจ็บ”

   “กูต้องถามมึงสิ!! มายืนตรงนี้ทำเชรี่ยไรเนี่ย.. ทำไมไม่ไปทำงานเข้ากลุ่มมึงดีดี มาล้อเล่นอะไรกะว่าที่แฟนกู”

   “ก็กูพักเที่ยง กูเลย.. หือ!?... มึงพูด... มึงพูดว่าอะไรนะ!??...”

   “ว่าที่แฟนกู...(พี่กรก็คว้าไหล่ผมไปกอดหนับ) เนี่ย!! คนเนี่ย น้องแก๊ง ว่าที่แฟนกู ตะกี๊มึงคุยอะไรกับน้องห๊ะ!??”

   “ว่าที่แฟนมึง...นี่! นี่น้องแก๊งรู้จักกับไอ้กรด้วยเหรอครับ”

   ผมก็มองหน้าพี่กรว่าจะเอายังไง ก็จ้องกลับมาแบบว่า... เอ่อออ นะ ผมเลยพยักหน้าไป

   “ครับ คือ น้องกับพี่กร อยู่ห้องข้างกันครับ”

   “อะไรนะครับ!? แล้วนี่ น้องแก๊งเสร็จไอ้กรรึยังครับเนี่ย!?”

   “ไม่ครับพี่ไม้!! คือ แค่เพื่อนกัน...”

   “มึงจะเสือกอะไรนักหนา ไอ้ไม้ ไปตามทางของมึงเลยไป!!”

   “แหนะๆ ทำเป็นมาไล่กูนะ... ได้น้องแก๊งสมใจมึงเลยล่ะสิ มองตั้งแต่น้องเค้าอยู่ปีหนึ่งเลยหนิมึงอ่ะ”

   “อะไรนะครับ!? มองตั้งแต่ปีหนึ่ง (มองหน้าไอ้หมอสิผม)”

   “ไอ้ไม้!! มึงพูดอะไร ระวังปากมึงหน่อย”

   “น้องแก๊ง รู้ไว้เลยนะครับ แต่ก่อนไอ้กรมันเจ้าชู้มาก ตอนปีหนึ่งมันคบเด็กเป็นว่าเล่น”

   “ไอ้ไม้!!!”

   “นิสัยก็ไม่ดี ฟันคนอื่นไปทั่ว แถมมันก็ขี้เมา เหี่ย ใช้เหล้ามาปิดปากพวกพี่”

   “มึงไปไหนก็ไปเลยไป!!”

   คือ..กูตั้งใจฟังเต็มที่ แต่พี่กรก็ลากพี่ไม้ไปนอกโรงอาหารเรื่อยๆ

   “เชื่อพี่นะครับน้องแก๊ง!! ไอ้กรน่ะมันโรคจิต!! มันมองน้องแก๊งตลอด!! ห้ามไม่ให้พวกพี่เข้าใกล้แก๊งด้วย!!...”

   “ไปเลยไป!!! ไปทำงานมึงโน่นป๊ายยยยยย!!!”

   แล้วก็ลับสายตา... ค่อยรอพี่กรกลับมาในอีกห้านาที

   “เฮ้อออ... ไปสั่งข้าวกันดีกว่านะครับแก๊ง”

   ผมไม่ลุก... จ้องหน้าไอ้หมอ

   “เอ่อ.. ไปต้องไปฟังไอ้ไม้มันหรอกครับ มันโรคจิต มันชอบว่าคนอื่นไปทั่ว”

   “เหรอออออออ.......(พร้อมกับสีหน้าหางตาเหยียดหยาม)”

   “จริงครับ พี่รับประกันได้”

   “แล้วที่พี่ไม้พูด มันไม่จริงหมดเลยรึไง!??”

   มันก็..ไม่สู้สายตาผม ฮู้ยยยย รู้สึกดี...แมร่ง ตอนนี้เหมือนถือไพ่เหนือกว่าเป็นไหนๆ ต้องเค้น เค้นออกมาให้ได้

   “ไปซื้อข้าวดีกว่านะครับคนเก่ง”

   “เล่ามาให้หมดเลยยย! อย่ามามีความลับ! ไหนบอกไม่ชอบไงครับ”

   “ไม่ต้องฟังหรอกครับ เรื่องของพี่ มันแค่...”

   ผมก็ตีสีหน้าเศร้าๆ

   “อะไรกัน น้องอุตส่าห์เล่าเรื่องอดีตอันแสนขมขื่นอย่างนั้นไปแล้ว แต่เรื่องของตัวเองกลับไม่เล่าให้น้องฟัง ใครกัน?  ใจร้ายเป็นบ้า....ฮืออออออออ (นางเอ๊ก นางเอกเลยกู ตอนนี้)”

   “โอเค!! โอเคๆๆ โอเคครับ เล่าแล้วก็ได้”

   “เย้!!...”

   ต้องขอบคุณสกิลการแสดงของพี่พี่ที่สอนเรามา ใช้ได้ดีกับเรื่องแบบนี้จริงๆ...พี่กรก็นั่งลงตรงข้ามผม

   “สัญญามาก่อนว่าจะไม่หัวเราะ”

   “สัญญาครับ!!”

   “โอเค....คือ เมื่อตอนพี่ปีหนึ่ง...”

   ผมก็ตั้งใจฟังเรื่องพี่กรเล่า__________________________________________________________

   จนจบ... หน้าพี่กรก็มองมาแบบ คนเสียวไส้..

   “นั่นล่ะครับ เรื่องทั้งหมด ส่วนที่พี่ไม่อยากบอก เพราะว่า พี่ กลัว น้องแก๊ง จะไม่เข้าใจ”

   ถามว่า.. ผม.. รู้สึกยังไง กับ เรื่องพี่กรเมื่อตอนปีหนึ่ง และ พี่กรเจอกับผมครั้งแรกน่ะเหรอ มันก็......

   “พี่กร เอามือถือพี่กรมาครับ”

   “ห่ะครับ!??”

   “เอาไอโฟนพี่กรมาครับ น้องขอหน่อย”

   “อะ ครับๆ!??”

   พี่กรก็หยิบไอโฟนตัวเองมาให้ ผมก็... กดสิ่งที่พี่กรน่าจะอยากได้มากที่สุด แล้ว ยื่นกลับไปให้ไอ้หมอ

   “เครือข่าย__ นะครับ ถ้าพี่กรไม่สะดวกโทรก็ไม่เป็นไร ยิงมาหาน้องได้เดี๋ยวน้องโทรกลับ ถ้า น้องอยากโทรนะครับ”

   “น้องแก๊ง ให้เบอร์ พี่... เหรอครับ”

   “น้องเมมเบอร์พี่กรไว้ในเครื่องแล้ว ไม่ต้องห่วงครับ”

   “แก๊ง....ขอบคุณมากนะครับ พี่อยาก...”

   “ห้ามคิดอะไรพิลึก และ! อยากทำอะไรพิเรนกลางโรงอาหารคณะตัวเอง ขอร้อง!!”

   แห๊มม กูรู้เลย.. ถ้าหน้าไอ้พี่กรเป็นแบบนี้นะ มันคงคิดอยากจะกอด อยากจะอะไรของมันแน่ๆ ต้องห้ามไว้ก่อน

   “แหะๆ...ก็.. งั้น ไปซื้อข้าวมากินกันครับ น้องแก๊งหิวไม่ใช่เหรอ?”

   “เอ้อ!! ใช่ครับ งั้น..”

   เพิ่งคิดได้ว่าหิวข้าว นั่งฟังพี่กรเล่าไปเกือบจะชั่วโมงครึ่งได้ รีบลุกขึ้นเลยกู เล็งไว้ล่ะ ร้านตามสั่งเจ้าประจำ...

   “แก๊งกินอะไรครับ เดี๋ยว พี่พาไปซื้อ”



   “ถึงห้องแล้ววว”

   จบทริปวันนี้ตอนบ่ายสามครับ (กูเป็นอะไรกะเวลานี้มากมั๊ยเนี่ย) ขึ้นหอมาหน้าห้องตัวเอง ผมก็หยุดอยู่ที่ประตูห้อง 214 ส่วนพี่กร ก็โบกมือบ๊ายบายอยู่ข้างๆ

   “งั้นวันนี้ พอแค่นะครับ พักผ่อนนะที่รัก เดี๋ยวดึกๆ พี่โทรไปหานะ”

   ผมก็มองหน้าไอ้หมอ แล้วมอง ผ่านหลังมันไปที่...ห้อง 216

   “อะไรเหรอครับ?”

   “น้องอยากเข้าไปดูห้องพี่”

   “ห่ะ!! แก๊งอยากเข้าไปดูห้องพี่ อย่าเลยครับ ไม่ต้องๆ ห้องพี่รก ไม่เอาดีกว่า”

   “อยากอ่ะ”

   เสียงเริ่มอ่อยล่ะกู ก็นะ.. เล่าซะว่าเอารูปผมไปติดเต็มกระจก ใครมันจะไม่อยากดูกันล่ะว่ะ แถม ไม่เคยให้ผมเข้าห้องพี่กรสักที มากที่สุดก็ตอนขอเสื้อคืนที่หน้าห้อง แล้วอย่างนี้ มีหรือ น้องแก๊งจะอดใจไหว... เอี้ยวตัวหลบไปหน้าห้องพี่กร

   “ไม่เอาครับแก๊ง!! พี่อาย”

   ถึงกับวิ่งตามเอาตัวมาบังไว้เลย แหม๊!! มันชักจะอยากดูข้างในจนอดใจไม่ไหวแล้วสิ...

   “พี่กรรร..(สีหน้าเริ่มอ้อน น้ำเสียงน้อยๆ ร้องขอความเห็นใจ) น้องคนนี้อยากดูห้องพี่กรจริงๆ นะคร้าบบบ”

   “ไม่!! พี่ไม่ยอม ไม่ต้องเข้าไปหรอก แก๊งกลับห้องดีกว่านะ”

   “พี่กรรรรร..(ค่อยๆ ขยับเข้าไปใกล้ๆ แล้วจับที่หน้าอกพี่กร)”

   “ไม่!! เรื่องนี้ พี่จะไม่ใจอ่อนเด็ดขาด”

   “พี่กรรรรรรรรร.. (แนบตัวเองเข้ากับอกพี่กร เงยหน้ามองตาใสๆ จมูกใกล้ๆ แค่ไม่กี่เซ็น)”

   “แก๊ง.. ทำอย่างนี้พี่อดใจไม่ไหวนะ”

   “ยอมน้องหน่อยน๊า.. ขอเข้าไปหน่อยนะคร้าบบบบบบ (ไม้ตาย! กัดปากล่าง ตาละห้อย เสียงน้อยๆ ลากยาวๆ)”

   “อึก!! ยอมล่ะ... ยอม”

   “เย้!!”

   ต้องขอบคุณพี่พี่อีกรอบ ที่สอนวิธีการอ้อนเป็นไม้ตาย ให้ไอ้แก๊งติดตัวไว้ใช้ในเรื่องแบบนี้ อิอิ ได้ผลดีจริงๆ

   “แต่.. ต้องสัญญามาก่อนว่า จะไม่ว่าพี่อะไรทั้งนั้น เพราะ..พี่กลัวว่าเราจะไม่พอใจพี่ ถ้าเข้าไปเห็นข้างใน”

   “สัญญาครั๊บ!”

   พี่กรก็เปิดเข้าไป.. ข้างใน.. ยอมรับเลยว่ารกนิดๆ พี่กรก็ค่อยสับสวิตซ์ไฟให้เห็น ภาพทั้งหมด ของห้อง

   คือ..มันมากกว่าที่ผมคิดอีกอ่ะ แบบ ภาพผม.. ติดเต็มกระจกจริงด้วย ทั้งภาพนั้น จำได้ว่า.. น่าจะเป็นตอนรีบไปทำแล็ป เฮ้ย!! มีภาพตอนที่ทำละครเวทีด้วย นั่น!! ภาพตอนที่ผมไปขอรับบริจาคที่งานศาลากลางจังหวัดนี่หว่า แล้ว.. มีภาพตอนที่ผมเล่นกับเพื่อนในคณะอีก นี่มัน..เยอะมาก..เยอะจนแทบจะมองไม่เห็นเงาคนในกระจกเลยเหอะ

   แถม.. บนชั้นหนังสือที่รกๆ จะมีชั้นล่างสุดที่อยู่ระดับเอว จะไม่มีหนังสืออะไรเลย แต่จะมีกางเกงสีน้ำตาลพับวางไว้อยู่ ผมเดินไปดูก็จำได้ทันที ว่าเป็นกางเกงเจเจของผม แล้วบนกางเกงนั้นก็... ภาพ ภาพเลือนๆ ของผม วางทับอยู่

   ผมจับภาพนั้นขึ้นมาดู นี่มัน... ตอนปีหนึ่ง ตอนผมอยู่ปีหนึ่งจริงด้วย จำได้เลย

   “คือ... ไม่ว่าพี่ใช่มั๊ย?”

   เสียงพี่กรแบบเกรงใจๆ ดังมาจากข้างหลัง.. ผมเงยหน้ามองกลับไป ก็เห็นพี่เค้ายืนชิดอยู่ข้างหลังผมด้วยสีหน้า.. กลัวๆ.. ผมก็เลยหัน กลับมามองตัวเองในรูปอีกครั้ง

   “คือ.. น้อง.. แค่อึ้งๆ... น่ะครับ ไม่คิดว่ามันจะเยอะขนาดนี้”

   “แล้ว.. คิดว่าแค่ไหนล่ะครับ”

   “ห่ะครับ!?... หวายยยยยยยย!! อะไรเนี่ยยยยย!!”

   หันไปมองพี่กรอีกรอบ แต่.. ไอ้พี่กร มันช้อนผมขึ้นมาอุ้มท่าเจ้าหญิง... เฉยเลย

   “พี่กร อะไรอ่ะ! ปล่อยน้องลงนะ”

   “ไม่ปล่อย เสร็จพี่แล้วแก๊ง เข้ามาในห้องพี่เองนะ”

   “พี่กร!!!!”

   “หึหึหึ...”

   หน้าตา กับเสียงหัวเราะของไอ้หมอ.. มัน.. แล้วก็ค่อยๆ เดินไปทิ้งผมลงบนเตียง ตั้งท่ากลับมาอยู่ ท่าเดิม พี่กรคร่อมผมอยู่ข้างบน ส่วนน้องแก๊ง ก็ข้างล่าง

   “พี่กร.. ปล่อย!! ไม่งั้นภาพอันนี้พี่น้องจะฉีกทิ้งเลยนะ.. อ๊ะ!!”

   ผมขู่ พร้อมภาพบนกางเกงที่อยู่ในมือผมให้พี่กรดู.. แต่พี่กร.. ก็ฉกมันไปจากมือผมแบบนิ่มๆ

   “แก๊งจะฉีกวันแรก ที่พี่ เจอกับแก๊งเหรอครับ.. ใจร้ายจัง”

   เสียง เสียงนุ่มๆ มาเลย... โอ้ยกู.. ใจสั่น ไม่มองหน้ามันล่ะ หันไปทางอื่น

   “ก็ ใครแถวนี้มันจะทำทะลึ่งใส่อ่ะ”

   “ป่าวซะหน่อย แค่อุ้มที่รักมานอนเตียงเองนะ ถึงเวลาต้องนอนแล้วรู้มั๊ย”

   “เฮอะ!! ท่านี้เนี่ยนะ แล้วถ้าถึงเวลานอน ทำไมไม่อุ้มน้องไปที่ห้องน้องล่ะ อุ้มมาเตียงพี่ทำไม!??”

   “วันนี้นอนนี่นะครับแก๊ง”

   มองหน้าไอ้หมอ ถึงกับ... เงิบสิครับ

   “พี่กร! จะบ้าเหรอ!? น้องก็มีห้องน้องนะ จะนอนทำไมห้องพี่กร”

   “นะครับ”

   หน้าพี่กรก็ใกล้เข้ามา จนอีกนิดล่ะ อีกนิดก็จะโดนปากกูล่ะ

   “พี่กร หน้าพี่น่ะ เอาออกไปได้มั๊ย น้องรู้สึกไม่ดี”

   “แก๊งครับ”

   “พี่กร.. เดี๋ยว น้องบอกแล้วไงว่า.. อึ อื้มมมมม อื้มมมมมม”

   ปาก ปากพี่กร เข้ามาชนกับปากผม ลิ้นพี่เค้าพยายามเปิดปากผม จนได้.. แล้วจูบ จูบแรกของผมก็..

   แต่มันก็ รู้สึกดี.. พี่เค้าค่อยๆ เอามือมาจับแก้มแล้วไล้ไปแถวๆ คอ .. จนผมรู้สึกผ่อนคลาย แล้วปากผม.. ก็ตอบสนองกับจูบพี่กรไป.. จนหลุดออกจากกัน

   มองหน้าพี่กร ที่ยังคร่อมผมอยู่ไว้อย่างนั้น

   “จูบแรกน้อง...”

   “หึหึ ไม่ใช่หรอกครับ..”

   “อย่ามาว่า น้องไม่เคยจูบกับใครก่อนหน้านี้นะ”

   “นะ!! พี่เชื่อ แต่จูบตะกี๊ไม่ใช่จูบแรกครับ”

   “หมายความว่าไง!?”

   “พี่ได้จูบแรกของเราก่อนหน้านี้ไปแล้ว”

   “อะไร!! พี่กร!! ตอนไหน!??...อึ อื้มมมม”

   ไอ้พี่กร มันก็ซ้ำเข้ามาอีกรอบ คราวนี้มันไล้สีข้างผมจน... เผลอดิ้นดีดตัวเองไปตามมือพี่กร จนพี่เค้า กอดผมไว้ได้

   “น่ารัก..”

   “น้อง.. ยังไม่ได้เป็นแฟนกับพี่นะ ทำอะไรมากไปกว่านี้ล่ะก็”

   “ไม่เป็นไรครับ ตอนนี้พี่ก็ดีใจล่ะที่ได้กอดเรากับจูบเราแล้ว”

   “เฮอะ!! บังคับน้องทั้งนั้นอ่ะ”

   “แล้วไม่ชอบเหรอ”

    ผมก็มองหน้าพี่กร อารมณ์ผมตอนนี้ เหมือน เมื่อวาน ที่ผม กระโดดหอมแก้มพี่กรไป

   “ก็ ไม่ได้ไม่ชอบ แค่.. ไม่อยากเสียใจ”

   “คร้าบบบบบบ”

   พี่กรก็ก้มลงมาจูบผมอีกครั้ง.. เฮ้อออ ผมจะเชื่อใจคนคนนี้ได้มั๊ยเนี่ยย

////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////

ออฟไลน์ IsDeer

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2519
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +85/-8
คราวนี้ก็คบกันได้แล้วววววววววววว  :katai2-1:
เป็นแฟนกันนี่น้องแก๊งเสร็จแน่  :hao3:
พี่กรแกใจเร็วใจด่วน

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ AMINOKOONG

  • ฝากติดตามนิยายด้วยนะคราฟฟฟฟ
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 860
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +183/-12
อยากอ่านพาร์ทของกรอีกอ่ะ
หวังว่ากรทำดีพยายามเพื่อน้องมาเป็นปีแบบนี้
พอได้น้องแล้วหวังว่าคงไม่ดีแตกนะ
กลัวมาม่าชามโตเพราะกรนอกกายนอกใจเนี่ยแหละ
เรื่องครอบครัวกีดกันยังทำใจรับได้มากกว่าเรื่องนี้นะ

ออฟไลน์ toshika

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 819
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +38/-4
คืบหน้าเยอะเลยนะพี่กร 555555

ออฟไลน์ EARTHYSS :)

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 391
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +34/-1
รู้สึกขัดๆกับสรรพนามแทนตัวของแก๊งคือจริงๆมันก็น่ารักดีอยู่หรอก
แต่ดูเวลาคิดหรืออะไรไม่น่าใช่คนเรียบร้อยขนาดนั้นอ่ะ ดูเป็นคนดื้อๆ
แล้วก็เรื่องคำแทนตัวกับเพื่อนอ่ะคะ แก็งนี่เป็นเด็กซิ่วหรอ
บางทีก็เรียกเฮีย เดี๋ยวก็เปลี่ยน

ปล.น่ารักใสๆดีนะคะแต่พี่กรจีบน้องเร็วไปหน่อย

ออฟไลน์ day9day

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2160
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +284/-9
ลุ้นๆรอตอนต่อไปนะครับ

เป็นกำลังใจให้ จขกท นะครับ

ออฟไลน์ mapreaw

  • เคยคิดว่า "รักแท้มีอยู่จริง"
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 615
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-1
น่ารักกันจิงๆ :-[ :-[

ออฟไลน์ aoihimeko

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3132
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +155/-9
กรี๊ดดดดดดดดดดดดดด

พี่กรกะน้องแก๊ง น่ารัก เวอร์ :-[

อยากให้เขาคบกันเร็วๆจังเลย อิอิ

ออฟไลน์ SaJung13

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1057
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +76/-1
เพิ่งได้เข้ามาอ่านอ่ะ  :mew1:
บอกได้คำเดียว ฟินเว่ออออ  :hao7:  :hao7:
น้องน่าระกมากๆๆอ่ะ พี่กรก้ดูเหมือนจะรักจิงใจกับน้องมากๆๆเลยอะ
ปลื้มมมมมมมมม  :-[  :-[

ออฟไลน์ HalF_EighT

  • AWyZar GeRin : Arch Of Wizard GeRin
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 25
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-1
ตอนที่ 10 คุยกับพี่พี่เรื่อง.. พี่กร

   ผม ก็ไม่ได้โดนพี่กรทำอะไรมากไปกว่าจูบ แล้วปลอบโยนอย่างสบายจนเคลิ้ม หลับไป...

   ถึงจะจูบกันแล้ว แต่ผมก็ยังไม่เชื่อใจหรอกครับ ยังไม่ได้รับว่าพี่กรเป็นแฟนจริงๆ ซึ่งพี่กรก็รู้ว่าผมยังนับพี่เค้าแค่ขั้นจีบ เพราะหลังจากนั้นไม่ว่าใครจะมาถามว่าพวกผมสองคนเป็นอะไรกัน ผมก็จะตอบไปว่าพี่กรเป็นเพื่อน และพี่กรก็จะตอบไปว่าผมเป็นว่าที่แฟน ซึ่งผมก็ชินที่พี่เค้าจะพูดอย่างนั้นแล้ว

   แต่ชีวิตผม ก็ค่อยๆ มีพี่กรเข้ามาเรื่อยๆ

   ทุกเช้า ผมจะตื่นมาในกอดของพี่กร เพราะไม่เข้าใจเหมือนกันว่าจะมานอนอะไรเป็นเพื่อนผมนักหนา แรกๆ ผมก็ทั้งด่า ทั้งบอกว่าไม่ต้อง แต่ผมก็ทนความกะล่อนของไอ้หมอมันไม่ไหว หลังๆ มาก็ค่อยๆ ยอมเรื่อยๆ จนชินครับ.. แต่พี่เค้าก็ไม่ทำอะไรผมนะครับ แค่นอน นอนกอดผมอยู่ข้างๆ เท่านั้น

   หลังจากที่ตื่นนอน ผมจะเข้าห้องน้ำทำธุระคนเดียว แต่บางวันก็ทนความประหลาดของไอ้หมอไม่ไหว เข้าห้องน้ำล้างหน้าแปรงฟันด้วยกันก็มี.. แล้วถ้าวันไหนผมมีโปรแกรมไปไหนและพี่กรก็ว่าง เช่น ไปซ้อมกับพี่พี่ ไปซื้อของ ไปทำงาน หรืออยากไปเที่ยวข้างนอก อยากไปร้านการ์ตูน ร้านกาแฟ ร้านหนังสือ ร้านวิดีโอ พี่กรก็จะอาสาเป็นคนพาไปรับ ไปส่ง พาไปเที่ยว ไปทำงาน บางทีมีไปเฝ้าก็มี.. ชีวิตและสถาณที่ส่วนตัวของผมโดนไอ้หมอรู้เรื่องหมดเลย

   แต่ถ้าวันไหนที่ผมมีโปรแกรมและไอ้หมอก็มีเรียน เพราะมันอยู่คณะแพทย์ ปิดเทอมหกเดือนของมหาลัย คณะแพทย์เค้าไม่ปิดแบบนั้นด้วยหรอกครับ ยิ่งเป็นแพทย์ปีสามขึ้นปีสี่ด้วยนี่ บางวันไอ้หมอมีเรียนทั้งวันก็มี ผมก็ต้องยอมลูกอ้อนของมันขับรถไปส่งที่หน้าคณะ พอผมจะออกไปไหนก็ต้องโทรรายงานพี่กรตลอดเพราะไม่งั้นจะเป็นห่วง งอแงเหมือนเด็ก

   ตกเย็น ผมต้องมีนัดกับใครสักคนก่อนให้ได้ ไม่อย่างนั้นไอ้หมอจะเอะอะชวนเที่ยวตลอด ทั้งไปกินข้าว ไปดูหนัง เดินตลาด หรือเลือกซื้อของกินกันแค่สองคน ผมถึงต้องหานัดใครให้ได้ก่อนเย็น ไม่อย่างงั้นล่ะมันหลายเรื่อง.. แต่ก็มีบางวันที่พี่กร WANT จริงๆ และผมก็มีนัดไปเที่ยวข้างนอกกับพี่พี่แล้ว ก็ยังกล้าออกมากับผมเที่ยวกับพวกพี่พี่ด้วยนะ เชื่อเขาเลย

   ยิ่งเป็นวันที่น้องทำงานตอนกลางคืนร้องเพลงที่ร้านเหล้ากับพี่พี่ หรือออกงานอีเว้นท์ตามที่ต่างๆ เช่น ไปเปิดบูท เปิดงาน หรือไปประสานเสียงในโบสถ์คริสตจักรบางโอกาสที่เค้าต้องการ พี่กรน่ะ ตามตลอด ไม่ว่าจะเปิดโต๊ะกินเหล้ากินเบียร์รอให้ผมร้องเพลงที่ร้านจนเสร็จ หรือจะเข้าไปนั่งในโบสถ์ดูพวกผมกับพี่พี่ร้องประสานเสียงไปเรื่อยๆ ไม่สนใจคริสตชนคนอื่นๆ เลย ว่าเค้าจะมองยังไง... แรกๆ ก็รำคาญนะครับ.. หลังๆ มาก็เริ่มชิน ปล่อยให้พี่เค้าทำไปเหอะ ดีซะอีก ร้องเพลงเสร็จตีหนึ่งตีสองก็จะได้ให้พี่กรพากลับเลย

   หลังจากที่เสร็จภารกิจในแต่ละวัน มันจะมีโมเม้นท์ที่ห้องผมไม่ก็ห้องไอ้หมอที่พี่เค้าจะจับผมนั่งตัก แล้วกอดเอาไว้ ถามว่าพรุ่งนี้ทำอะไรครับ พี่ไปด้วยได้มั๊ย ถึงจะบอกว่าไปไม่ได้ แต่ถ้าพี่เค้ารู้ว่ามันไม่ได้ซีเรียสอะไรที่จะพาคนนอกเข้าก็จะงอแงอยากไปให้ได้ แต่ก็มีบางงานนะครับที่ผมบอกว่าไปไม่ได้จริงๆ เพราะเค้าซีเรียสเรื่องนั้น พี่เค้าก็ไม่ไป

   แล้วสุดท้าย ก็แยกย้ายกันทำภารกิจส่วนตัว จนเสร็จ พี่กรก็จะมึนๆ ตีเนียนเข้ามานอนในห้องผม แรกๆ ผมก็ปฏิเสธบอกว่าเข้ามาทำไม นอนใครนอนมัน! แต่หลังๆ ก็เริ่มชิน พอเข้ามาในห้องก็กอดผมหนับ รอให้ผมทำงาน อ่านการ์ตูน หรือดูหนังให้เสร็จก่อน แล้วค่อยพาผมเข้านอน ปิดไฟให้ นอนกอดผมหลับไปด้วยกัน จนถึงเช้า

   กิจวัตรประจำวันของผมหลังจากวันที่พี่กรจูบผมไปแล้ว ก็เป็นอย่างนี้ไปเรื่อยๆ ล่ะครับ

   จนครบ....... หนึ่งเดือน

   ช่วงใกล้สงกรานต์แล้ว ผมกับพี่พี่มีงานอีเว้นท์เยอะมากที่ต้องสรุป เช้าวันนี้ผมเลยตื่นขึ้นมาบอกพี่กรว่าต้องไปคุยงานกับพี่พี่ที่ร้านกาแฟ ไอ้หมอก็มาส่งแต่ติดธุระ เลยทิ้งผมไว้ที่ร้านบอกว่าเสร็จธุระแล้วจะมารับ แต่ผมก็บอกไปว่าไม่เป็นไร เพราะไม่รู้ว่าจะเลิกตอนไหน แถมเผื่อมีธุระไปต่ออะไรอีก ให้พี่พี่ไปส่งดีกว่า พี่กรเลยไว้ใจ ไม่ว่าอะไรแล้วจากไปทำธุระดีดี

   ตอนนี้ ผมก็เลยนั่งล้อมวงกับพี่พี่อยู่บนโต๊ะกาแฟในมุมส่วนตัวของร้าน คุยเรื่องสงกรานต์นี้กันอย่างเคร่งเครียด

   “โอเค งั้นตกลงตามนี้ สรุปก็คือ ก่อนสงกรานต์นี้ ใครมีงานอะไร ก็ทางใครทางมัน” (พี่ฟ่าง)

   “โอเค แล้วเจอกันวันที่ 14 ไปออกคอนเสิร์ตที่ศาลากลางจังหวัดใช่มะ” (พี่อ้อย)

   “ไม่ใช่ไปเป็นพริตตี้เหมือนปีที่แล้วใช่ป่ะ ยืนถือปืนฉีดน้ำตั้งนานกว่าจะได้ตังค์ โครตเหนื่อย” (พี่อิ๋งๆ)

   “ไม่ไม่ เค้าติดต่อมาแล้วว่าให้เราขึ้นเป็นนักร้องเลย ไม่ต้องห่วง เงินดีกว่าปีที่แล้วแน่นอน” (พี่ฟ่าง)

   “งั้นน้องไปด้วยได้ใช่มั๊ยครับ ปีนี้” (ผมเอง)

   “ได้สิแก๊ง พี่ติดต่อล็อกงานนี้เพื่อให้เราออกงานกับพวกพี่ได้โดยเฉพาะเลยนะ” (พี่ฟ่าง)

   “โอเคครับ” (ผมเอง)

   “งั้นเป็นอันตกลง จบการประชุม เย้!!...” (พี่เฟิน)

   ดีใจ ปีนี้ผมไม่ต้องหม้ายสงกรานต์เหงาตายอยู่ที่ห้องเพราะไม่เพื่อนแล้ว พี่พี่ล็อกงานให้ผมไปทำงานด้วยวันที่ 14 ยาวไปจนถึง 17 เลย อีกสามวันก็สงกรานต์ล่ะ...

   เดี๋ยวนะ!? อีกสามวัน...

   แย่ล่ะสิ!!.. ลืมเรื่องนี้ไปได้ไงว่ะ

   “ตกลง! เรื่องเธอกับกร เป็นยังไง” (พี่เฟิน)

   “ห๊ะ! ครับ?”

   ผมกำลังคิดอะไรเพลินๆ พี่เฟินก็ขัดขึ้นมาพอดี

   “พี่ดูแล้วนะแก๊ง มันไม่ใช่อารมณ์คนกำลังจีบกันอ่ะ” (พี่เฟิน)

   “อือ พวกเธอเป็นแฟนกันแล้วใช่ป่ะ” (พี่เอิน)

   “ไม่ใช่นะครับ พี่กรตอนนี้กับน้องยังแค่จีบกันอยู่ น้องยังนับพี่กรแค่เพื่อนนะครับ” (ผมเอง)

   “เพื่อนบ้าอะไร มารับ มาส่ง แถมทั้งห่วงทั้งหวง ตามติดชีวิตขนาดนั้นค่ะน้อง” (พี่อ้อย)

   “แก๊ง ตั้งแต่ตอนเธอป่วยแล้วนะ เธอมีอะไรปิดบังพวกพี่รึปล่าว??” (พี่ฟ่าง)

   ผมก็ มองหน้าพี่พี่สิครับ.. ทั้งพี่ฟ่าง พี่เฟิน พี่เอิน พี่อ้อย พี่อิ๋งๆ สายตาทุกคนจ้องมาที่ผมและบ่งบอกว่า

   ‘ปิดบังอะไรอยู่ บอกมาให้หมดเดี๋ยวนี้’ เฮ้ออ... เล่าตอนนี้คงไม่เป็นไรแล้วล่ะ

   “คือ.. ไอ้เรื่องที่ปิดน่ะมันก็มีอยู่หรอกครับ ก็ตั้งแต่ที่ป่วยนั่นล่ะ พอดีพี่ก้อยบอกว่าอย่าบอกพวกพี่ เดี๋ยวพวกพี่ จะเข้าใจผิดกันไปยกใหญ่ เพราะพวกพี่ เข้าใจผิดกันง่ายมากๆ” (ผมเอง)

   “อะไรกัน!!???” (พี่อิ๋งๆ พี่อ้อย พี่เอิน พร้อมกันเลย)

   “นี่แกเห็นพี่เป็นอย่างนั้นด้วยเหรอแก๊ง” (พี่เฟิน)

   “คือ!! น้องก็ไม่ได้อยากจะปิดหรอกนะครับ แต่มันเป็นเรื่องวุ่นวายจริงๆ ถ้าตอนนั้นพวกพี่รู้เข้าล่ะก็ น้องว่า.. คงไม่จบแค่น้องหายป่วยหรอกครับ” (ผมเอง)

   “แล้วมันเรื่องอะไรล่ะแก๊ง” (พี่ฟ่าง)

   “เกี่ยวกับกร เหรอ!??” (พี่อ้อย)

   ผมก็พยักหน้าหงึกๆ ปากพลางดูดโกโก้ที่สั่งเอาไว้บนโต๊ะด้วยอาการ... เจี๋ยมเจี๊ยมกับเหล่าสายตาของพวกพี่พี่

   “งั้นก็เล่ามาเลย อย่าหมกเม็ด อย่ากั๊ก และอย่าปิดบังอะไรอีก” (พี่อ้อย)

   “ใช่!! ถ้ายังเห็นว่าพวกพี่เป็นพี่เธออยู่ล่ะก็...” (พี่เฟิน)

   เอาสิผม!! ว่าจะเล่าไม่หมดก็คงไม่ได้.. แต่ไม่เป็นไรหรอก ตรงนี้มันมุมส่วนตัวในร้าน ไม่ค่อยมีคน

   ก็เลยเริ่มต้นเล่าตั้งแต่วันสอบวันสุดท้าย โดยละเอียดเป็นฉากๆ ต่อไปเรื่อยๆ

   จนจบเรื่องเล่าทั้งหมด ณ ตรงที่ พี่กร..มาส่ง..วันนี้

   “เรื่องทั้งหมด ก็.. อย่างนี้ล่ะครับ”

   จ้องหน้าพี่พี่ที่ยังอยู่ในท่าตั้งใจฟังตั้งแต่ต้น ท่าเดิม คือ..ทนได้ไงว่ะ ตั้งเกือบสองชั่วโมง

   “สรุป!! คือเธอนับว่าพี่กรยังเป็นเพื่อนเธอ” (พี่อ้อย)

   ผมก็พยักหน้า

   “แต่!! เธอกับพี่กรก็ทั้งจูบกันแล้ว กอดกันแล้ว และยังนอนด้วยกันอีก ถึงจะยังไม่มีอะไรกันก็เหอะ” (พี่อิ๋งๆ)

   ผมก็...พยักหน้า

   “ซึ่ง.. พี่กรก็ยังเข้าใจว่า เธอ!! นับพี่เค้าเป็นแค่เพื่อน และเธอ!! ก็ยังไม่เคยบอกชอบพี่เค้าตรงๆ” (พี่เอิน)

   ผมก็...พยักหน้า พร้อมกับโกโก้ที่ละลายจนไม่เหลืออะไรแล้ว

   “เฮ้อออออออออออ หมดคำจะพูดดดดดดดด” (ทุกคนเลย ทำไมพร้อมกันจังว่ะ)

   “อ้าว! ทำไมพี่พี่พูดอย่างนั้นล่ะครับ” (ผมเอง)

   “คือ... มันก็ดีนะแก๊งที่เธอคิดอย่างนั้น แต่.. เธอก็ยอมพี่กรเกินไปนะบางที” (พี่เฟิน)

   “จนตอนนี้พี่ว่ามันเกินเพื่อนอ่ะ” (พี่เอิน)

   “ไม่หรอกเอิน เฟิน น้องเราเป็นคนยังไงเราเองก็รู้ ไม่แปลกที่ไอ้กรมันจะทำแบบนั้น” (พี่ฟ่าง)

   แล้วทุกคนก็มองมาที่ผมด้วยสายตา... เอิ่ม.. คือ... ทำไมมันดูกินเลือดกินเนื้อจังวะ

   “คือ.. พี่พี่ น้องเป็นคนยังไงเหรอ??”

   “แก๊ง แกไม่รู้ตัวเลยใช่มั๊ยว่าตัวเองน่ารักแค่ไหน” (พี่อ้อย)

   “พี่จะบอกให้เลย.. เธอน่ะน่ารักมาก ทั้งขาว ทั้งหน้าหล่อ ยิ้มแล้วดูสวย เสียงก็เพราะ พูดจาก็ดี นิสัยก็ดี ชอบถ่อมตัวเพราะที่บ้านมีพ่อเป็นครู เป็นผู้อำนวยการโรงเรียน พอมาอยู่กับพวกพี่บ่อยๆ ตั้งแต่ ม.5 แก๊งเลยติดที่จะใช้สรรพนามแทนตัวเองส่วนใหญ่ว่า “น้อง” กับคนที่เป็นรุ่นพี่ตัวเองมาตลอด” (พี่เฟิน)

   “แต่เธอไม่รู้ตัว พวกพี่น่ะรู้นิสัยเธอดี จริงๆ มันจะมีมุมที่ดื้อ ซน แต่พอเธอจะมีความคิดแบบนั้นยังไงตามสไตล์ของตัวเอง การพูดของเธอจะทำให้เธอดูน่ารักขึ้นมาตลอด พอมันรวมๆ กันแล้ว เธอเลยดูน่ารักมากกกกก” (พี่เอิน)

   “และอย่างที่แกเล่า ที่พี่กรพูดว่าชอบเธอมาตั้งแต่อยู่ปีหนึ่งเพราะเรื่องอะไร แต่แกก็ การ์ดหนา และถูกบอกว่าไม่รู้ตัวเองว่าเป็นคนยังไง พี่เลยเข้าใจว่าทำไมไอ้กรมันรุกเธอหนักขนาดนี้” (พี่ฟ่าง)

   “แถมแกก็ใจอ่อน ไม่ก็ปล่อยมันไปทั้งอย่างนั้น การป้องกันตัวก็ไม่มี ไม่รัดกุม เปิดช่องให้ไอ้กรได้ง่ายๆ” (พี่อิ๋งๆ)

   “พอมันรวมกันอย่างนั้น ก็ไม่แปลกที่ไอ้กรจะยอมถึงแม้แกจะนับว่ามันเป็นแค่เพื่อนก็ตาม” (พี่อ้อย)

   “เพราะเธอมันแอบซื่อบื้อเรื่องแบบนี้ แก๊ง เธอชอบคิดว่าตัวเองไม่มีเสน่ห์กับคนอื่นๆ” (พี่เอิน)

   “ฟังแต่คนอื่น กลัวว่าตัวเองจะไม่เจอรักแท้ แต่มันก็ดีที่เธอคิดป้องกันตัวแบบนั้น แต่เธอก็ไม่มั่นใจในตัวเองเกินไปนะบางที ทั้งที่เต็มไปด้วยรูปสมบัติและความสามารถ บวกกับที่เธอเรียนเภสัชอีก” (พี่เฟิน)

   “ไม่แปลกที่จะมีใครเข้าหาเธอบ้าง อย่างไอ้กร ถึงมันจะเข้ามาแบบนั้นก็เหอะ” (พี่อิ๋งๆ)

   “แถมภายนอกแกที่ดูเรียบร้อย แต่ข้างในจริงๆ มันมีอะไรให้รู้อีกเยอะ แก๊ง แกไม่รู้ตัวหรอก ว่าตัวเองเป็นคนน่าค้นหาแค่ไหน มันทำให้ดูมีเสน่ห์ขึ้นเป็นกองเลยล่ะ” (พี่ฟ่าง)

   “ใช่!.. ขนาดพวกพี่เองอยู่กับเธอมาสี่ปี ยังคิดกันเลยว่าเธอมันน่ารัก น่าค้นหา มีเสน่ห์สุดๆ” (พี่เอิน)

   “ใช่ๆ.. ไม่ใช่แค่เรื่องความสามารถนะ ทั้งบุคลิก ความคิด การตัดสินใจ มันมีอะไรให้ประหลาดใจอยู่ตลอด” (พี่อ้อย)

   “แต่บางทีมันก็น่าเป็นห่วง พี่เชื่อว่าเธอดูแลตัวเองได้ แก๊ง แต่บางครั้งก็อดห่วงในบางเรื่องไม่ได้” (พี่เฟิน)

   “จริง..มันเลยทำให้เธอดูเด็ก ต้องดูแล.. คือเธอดูแลตัวเองได้ก็จริง แต่ก็ยังมีโมเม้นต์ที่ต้องให้ห่วงนิดๆ อยู่” (พี่เอิน)

   “เช่นเรื่องความคิด เรื่องการใช้ชีวิต ไม่ก็การตัดสินใจ่ในบางเรื่อง แกน่ะ ยังคิดไม่เป็นก็มี” (พี่อ้อย)

   “ไม่งั้นพวกพี่จะห่วงแก๊งเรื่องนี้ขนาดนี้เลยเหรอ เพราะแก๊งน่ะ ยังไม่เคย...” (พี่เฟิน)

   “เอิ่ม... คือ....”

   คือเหมือนเด็ก งั้นเหรอ...ทำไมฟังๆ ไปแรกๆ เหมือนถูกชมนะ แต่หลังๆ เหมือนถูกด่านิดๆ อ่ะ

   “แล้วว..นี่ที่แกยังนับพี่กรแค่เพื่อน เพราะยังห่วงเรื่องความจริงใจใช่มะ!??” (พี่ฟ่าง)

   “เอ่อ.. ครับ เพราะพี่กรเข้ามาแบบนั้น แถมยังเล่าว่าเคยเจ้าชู้อีก น้องเลยย ยังไม่แน่ใจว่าพี่เค้าจะจริงจัง”

   “อืมมมมมมมมม” (ห้าสาวคิดหนัก)

   “เฮ้อออ ก็รอดูล่ะกัน” (พี่เอิน)

   “เข้าใจไอ้กรมันเลยล่ะว่าทำไมตามติดชีวิตแกขนาดนี้ แกคิดมั๊ยว่าจุดนี้มันทำให้ดูว่ามันจริงจังเรื่องแกอยู่บ้าง” (พี่อ้อย)

   “ก็.. คิดนะครับ แต่น้องก็กลัว ว่าบางที มันจะมีช่วงหมดโปรเหมือนกัน”

   “อืมมมมมมมมม” (ห้าสาวคิดหนักรอบที่สอง)

   “ก็!! เอาเป็นว่าแกคิดยังไง ตัดสินใจยังไงต่อไป ก็บอกพวกพี่ล่ะกัน อย่าปิดบัง” (พี่ฟ่าง)

   “ใช่! พวกพี่ไม่ชอบ มัน.. ดูไม่เป็นความเชื่อใจ ดูไม่เป็นทีมเดียวกัน” (พี่อ้อย)

   “จริง ทั้งที่เราก็คบกันมาตั้งสี่ปี พี่เข้าใจนะ ว่าแก๊งก็เจออะไรมาเยอะ เป็นผู้ใหญ่บ้างแล้ว แต่บางเรื่องแก๊งก็ยังไม่ค่อยคิดหน้าคิดหลัง ยังไงก็ให้พวกพี่เป็นที่ปรึกษาได้นะแก๊ง” (พี่ฟ่าง)

   “เพราะเรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญ และเป็นเรื่องที่แกต้องคิดเองด้วย แกต้องคิดดีๆ นะแก๊ง! ก่อนจะตัดสินใจอะไร” (พี่อิ๋งๆ)

   “ถ้างั้น พวกแก ที่ตอนนี้น้องแก๊งมันไม่ยอมคบ มันดีแล้วเหรอ?” (พี่เฟิน)

   “มันก็ดี แต่มันไม่ดีก็ตรงที่ กิจวัตรประจำวันของน้องมันกลายเป็นแบบนั้นไปแล้วน่ะสิ” (พี่เอิน)

   “แต่แบบนั้น มันผิดที่ใครล่ะ ผิดที่น้อง หรือผิดที่ไอ้กรมัน” (พี่เฟิน)

   “อืมมมมมมมมม” (ห้าสาวคิดหนักรอบที่สาม)

   เอาแล้วๆ เริ่ม DISCUSSION กันล่ะ คงต้อง.. พอแค่นี้ล่ะนะ เดี๋ยวมันจะเลยเถิดไปกันใหญ่

   “โอเคครับพี่พี่!! ต่อไปนี้น้องจะไม่ปิดบังพวกพี่อีกล่ะ ถ้าน้องคิดอะไร ตัดสินใจอะไร จะบอกพี่พี่ ไม่ก็ปรึกษาพี่พี่ก่อนล่ะกันนะครับ”

   “คิดให้มันดีดีนะแก๊ง” (พี่เฟิน)

   “พี่ขอเตือนเลยนะ ถ้าแกตัดสินใจลงไปแล้ว มันเอาคืนไม่ได้นะแก๊ง ยิ่งเป็นเรื่องแบบนี้” (พี่อิ๋งๆ)

   “ถ้าอะไรที่มันไม่แน่ใจ ปรึกษาพวกพี่ก่อนเลยนะ” (พี่ฟ่าง)

   “คร้าบๆๆ ครับผม ขอบคุณมากนะครับพี่พี่ แต่ก่อนหน้านั้น พรุ่งนี้วันอะไร ลืมหรือยัง”

   ผมตัดบทด้วยประโยคเดียวเลย.. รอคอยสีหน้าพี่พี่ให้คิด.. ให้ออก

   “พรุ่งนี้..” (พี่อ้อย สีหน้าครุ่นคิดหนัก)

   ผมก็พยักหน้า

   “วันที่ 11 เมษายน..” (พี่เอิน สีหน้าเริ่มจะปากหวอๆ กับอะไรบางอย่าง)

   ผมก็พยักหน้าอีกสองรอบ

   “แย่แล้ว!! ลืมไปได้ไงเนี่ยยย” (พี่ฟ่าง พี่เฟิน พร้อมกันเลยครับ)

   อ่ะโห.. เรื่องสำคัญแบบนี้ ลืมกันทั้งกลุ่มเลยครับ แต่อย่าว่าแต่พี่เค้าเหอะ ตะกี๊เราเองก็เพิ่งนึกได้เหมือนกัน

   “ตายแก๊งตาย จะเอากูตายมั๊ยว่ะ” (พี่อิ๋งๆ)

   “แต่พวกเราก็ติดธุระกันตั้งแต่เย็นนี้เลยนะ ทำไงดี ลืมไปได้ไงเนี่ย สำคัญขนาดนี้” (พี่เฟิน)

   “แต่น้องไม่ติดนะ..”

   สิ้นประโยคนั้น..พวกพี่ก็มองมาที่... ผม

   “เอ้ออ!!! แก๊งมันยังว่างนี่หว่า ให้แก๊งไปแทนให้มั๊ยปีนี้” (พี่อ้อย)

   “ได้นะครับ”

   “โอเคเลย งั้นรีบไปซื้อของกันเลย ซื้อแยกหรือรวมดี” (พี่ฟ่าง)

   “แยกดีกว่ามั๊ยแก!?? แสดงถึงความจริงใจ” (พี่อิ๋งๆ)

   “ขอร้องเหอะครับ รวมเหอะ น้องตั้งใจจะไปคนเดียว”

   “หา!???” (พี่ๆ ทั้งห้าคน)

   “เธอจะไปคนเดียว.. แล้วพี่กรล่ะแก๊ง เธอก็บอกเรื่องนี้ไปแล้วไม่ใช่เหรอ” (พี่เฟิน)

   “โธ่พี่เฟิน ก็น้องบอกแล้วว่าพี่กรน่ะแค่เพื่อน แถมเอาจริงๆ ให้พี่กรไปด้วย น้องคง....”



   หลังจากนั้น ผมกลับมาที่หอพร้อมของพะรุงพะรังมาเต็มสองมือ หนักมาก!! นี่ขนาดบอกให้พี่พี่ซื้อรวมกันแล้วนะ เล่นซื้อพวกของยิบย่อยกระจุกกระจิกเต็มไปหมด ก็บอกอยู่นะเว้ยว่ากูไปคนเดียว... แต่ก็ไม่ถึงกับขนขึ้นหอไม่ได้นะครับ ถึงหน้าห้อง แล้วรีบไข เปิดเข้าไปแล้วทุ่มของเข้าห้อง ค่อยปิดประตู ลากของพวกนั้นไปที่ข้างชั้นหนังสือทันที เฮ้อออ...หนัก

   “ก๊อก ก๊อก ก๊อก ก๊อก.. น้องแก๊งครับ พี่กรเอง กลับมาแล้วใช่มั๊ยครับ ตะกี๊พี่ได้ยินเสียงเปิดเข้าห้อง”

   อ้าว พี่กร... ก็กำลังจะเดินไปเปิดประตูให้... แต่...ผมมองกลับหลังหันมาดูของที่ซื้อกับพี่พี่... แล้วนึกถึง... เรื่องที่ผมตัดสินใจ..แล้วมองไปที่ประตูหน้าห้อง..ยังไงไอ้หมอมันก็ฉลาด มันคงนึกออกแน่ๆ ถ้าเห็นของพวกนี้

   เลยดันของพวกนี้ไปแอบแถวริมๆ ห้อง แล้วเอาผ้ามาคลุมไว้ จากนั้นก็คว้ากุญแจห้อง แล้ว...

   “ก๊อก ก๊อก ก๊อก ก๊อก.. คร้าบๆ...แกร๊กก!!”

   ก็เปิดประตูออกไป เจอกับไอ้หน้าหล่อหุ่นดีที่กำลัง...

   “ยิ้มหน้าบานเชียวนะพี่กร มีอะไรรึไง”

   “กลับมาแล้วเหรอครับที่รัก (ก็เข้ามากอดผมเหมือนเดิม) แต่ตะกี๊ ทำอะไรอยู่ครับ ทำไมเปิดประตูให้พี่ช้าจัง”

   พี่กรก็พยายามมองผ่านหลังผมไป... คิดล่ะว่าต้องผิดสังเกตุไอ้หมอ แต่ก็เตรียมไว้ล่ะ

   “เอ่อ.. พี่กรๆ วันนี้น้องนอนห้องพี่นะ.....ปึ้ง!! แกร๊ก!!”

   รีบดันพี่กรออกไปนอกห้อง ปิดประตูลงกลอนอย่างไว.. ค่อยหันหลังกลับมายิ้มใส่ไอ้หมอคืนเหมือนกัน

   “แก๊งจะนอนห้องพี่!?? วันนี้แก๊งเป็นอะไรครับ ปกติเห็นแต่นอนห้องตัวเอง”

   “เอ่อคืออ (คิดสิแก๊ง คิดดด!!!) คือพี่กรมานอนห้องน้องจนค่าไฟบานแล้วอ่ะ น้องนอนห้องพี่บ้างสิ”

   “หืมม มันก็ได้อยู่หรอก แต่แก๊ง พี่ว่ามันแปลกๆ นะ”

   “ไม่อยากให้น้องอยู่ข้างๆ เหรอ (จ้องหน้าพี่หมอกับเสียงเศร้าๆ ทำหน้าน้อยใจ)”

   มุขนี้ค่อนข้างได้ผลเกือบทุกงาน ไอ้หมอมันก็เข้ามากอดแล้วหอมแก้มผมใหญ่ แล้วค่อยกอดคอผมไปที่ห้องพี่แก ก่อนที่ผมจะหัน
หลังกลับไปมองห้องตัวเอง พลางคิดไปว่า.....

แค่พรุ่งนี้เท่านั้น
ที่ไม่อยากให้พี่กรรู้

//////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 25-03-2014 01:11:03 โดย thaisiri »

ออฟไลน์ IsDeer

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2519
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +85/-8
 :katai1: พรุ่งนี้มีอะไร ทำไมรู้ไม่ได้
วันเกิดก็ไม่น่าใช่ ครบรอบที่พี่สาวน้องชายเสียก็ไม่น่าใช่

แก๊งนี่ชอบกรแล้วชัดๆ เพราะปกติแก๊งระวังตัวมาก ผ่อนขนาดนี้แล้วก็ต้องชอบแหละ

ออฟไลน์ day9day

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2160
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +284/-9
พรุ่งนี้ ? อะไร? ยังงัย?

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ toshika

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 819
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +38/-4
น้องปิดพี่กรแบบนี้ ถ้ามันมารุ้ทีหลัง ระวังระเบิดลงนะคะ555 :hao3: :hao3:

ออฟไลน์ HalF_EighT

  • AWyZar GeRin : Arch Of Wizard GeRin
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 25
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-1
ตอนที่ 11 กล่องสองใบ

   ผม.. ลืมตาตื่นขึ้นมา กลางดึก เหลือบมองไปดูนาฬิกาตรงชั้นหนังสือของไอ้หมอ

   ตีสอง เวลากำลังเหมาะเลย พี่กรยังนอนกอดผมไว้อยู่ข้างๆ ผมก็ค่อยๆ ลุกตัวเองขึ้น

   “อืมมมม”

   อุ๊!! รัดแน่นมาก เอาไงดีว่ะ

   เล่นวิธีนี้ล่ะกัน... เอื้อมไปคว้าหมอนข้างมา... สอดเข้าตรงกลางระหว่างผมกับไอ้หมอ แล้วใช้จังหวะนี้มุดออกซะ

   “อืออออออ”

   สะดุ้ง... มองไอ้หมอดีดีว่ามันจะตื่นรึปล่าว.. โอเค.. ไม่...พี่กรครางที่ผมขยับนิดหน่อย และมือก็ไปกอดรัดหมอนข้างแทนล่ะ เท่านี้... เราก็จะได้ไปตามภารกิจของเราซะที

   มืดๆ สลัวๆ พยายามควานหากุญแจห้องตัวเอง และกุญแจห้องไอ้หมอ จนเจอ..

   ไขประตูออกไปนอกห้อง แล้วล็อกห้องพี่กรอย่างเบาๆ ก่อนจะไปที่ห้อง 214 เข้าไปเปิดไฟภายในห้องให้สว่างขึ้นมา

   แล้วจ้องไปที่... มุมห้อง... ที่ที่มี...  สิ่งของ... สำหรับวันนี้อยู่

   ผมเปลี่ยนเสื้อผ้า ไม่อาบน้ำ เพราะเดี๋ยวไอ้หมอมันตื่น ถึงจะอยู่คนละห้องก็เหอะ แต่หูมันดีจะตาย ทุกขั้นตอนในการขยับตัวของผมต้องเงียบที่สุดเท่าที่จะเงียบได้ เก็บของใช้บางส่วน แล้วก็ ตรวจเช็คความเรียบร้อย

    จากนั้นก็ขนของที่ซื้อมากับพี่พี่ลงไปยังรถใหญ่ของผมด้านล่าง ขนสองรอบก็เรียบร้อยแล้วครับ สุดท้าย..ก็

   ผมหยิบกระดาษมาในห้องหนึ่งแผ่น แปะกุญแจห้องอยู่มุมกระดาษด้วยเทปใส ที่เหลือก็เขียนข้อความลงไปว่า

   ‘พี่กรครับ น้องมีธุระสำคัญ ต้องไปทำคนเดียว ไม่ต้องเป็นห่วงครับ เสร็จแล้วน้องจะโทรหา ไม่ต้องตามนะครับ จาก แก๊ง ปล.ถ้าน้องกลับมาก็ห้ามโกรธด้วย ห้ามถามด้วยว่าไปทำอะไรมา ไม่งั้น งอน’

   ตรง ปล. ผมตั้งใจเขียนให้เน้นย้ำเต็มที่ ค่อยสอดกระดาษเข้าไปตรงช่องระหว่างพื้นหอกับประตูห้อง 216

   ทีนี้ ก็..ออกเดินทางไปกับลูกสาว หรือรถ SUZUKI SWIFT 1.2 รุ่น GLX สีฟ้าลายลูฟเมไจสุดเลิฟ (เพราะลูกชายกำลังติดการ์ตูนเรื่อง MAGI THE LABYRINTH OF MAGIC อยู่ ตอนได้คันนี้มา คุณลูกก็เอาไปพ่นสีลายนี้ทันที จี๊ดจ๊าด ถูกใจที่สุด) รถคันนี้คุณพ่อซื้อมาให้ใหม่ๆ เมื่อตอนขึ้นปีสองมาใหม่ๆ แต่ไม่ต้องห่วงครับ ผ่านมาหนึ่งปีล่ะ ทั้งใบขับขี่และชั่วโมงการขับ ผมก็ไม่หวั่นกระทั่งถนนเส้นโหดๆ อย่างมิตรภาพแน่นอน

   ออกมาจากหอตอนตีสาม ขับออกไปทางนอกมอ พุ่งตรงสู่จุดหมายของวันนี้

   คือจังหวัด...บ้านเกิด...ของผม



   ขับมาได้สามชั่วโมง ใกล้จะถึงบ้านผมล่ะ

   หกโมงเช้าเหรอ หกโมงครึ่งคงถึง เฮ้อ... เมื่อยๆ เพลียๆ เหมือนกันครับ เลยแวะพักกินข้าวเช้ากับเติมน้ำมันที่ปั๊ม ปตท. ข้างทางก่อนถึงบ้าน เส้นทางแถวนี้ผมรู้จักดี พอได้ล้างหน้าหายเหนื่อยกับเติมพลังทั้งรถทั้งคนแล้ว ก่อนหน้านั้นก็โทรหาพ่อหน่อยล่ะกัน...หยิบไอโฟนขึ้นมา โทรหาพระบิดาสุดที่รัก วันนี้วันสำคัญ น่าจะอยู่ที่บ้าน

   “ตรู๊ดดดด.... อืมมม แก๊ง มีอะไรลูก โทรมาแต่เช้า”

   “พ่อตอนนี้อยู่บ้านใช่มั๊ยครับ..”

   “ไม่ลูกไม่ พ่อตอนนี้อยู่__มาประชุมงานบีเอ็น”

   “ห๊ะ!?? (อะไรกัน แม้แต่พ่อก็ด้วย) พ่อ... พ่อลืมวันนี้แล้วเหรอ”

   “ลืมวันนี้ ... อะไรลูก วันนี้มันวันอะไร วันเกิดแก๊งเหรอ ก็ไม่ใช่นะ”

   “ป่าวพ่อ ... ก็วันนี้ไง 11 เมษายน”

   “...(ค้างสายนานนี่ กำลังนึกใช่มะ)...เฮ้ยย พ่อลืมมม แก๊ง พ่อขอโทษ พ่อลืมม”

   “คงไม่ทันแล้วล่ะพ่อ บอกแล้วนี่ว่าอยู่บีเอ็น”

   “โอ้ยแก๊ง แล้วตอนนี้ลูกอยู่ไหนหนิ”

   “อยู่ตรงปั๊ม ปตท. ตรงทางไป__ เกือบถึงบ้านเราแล้วพ่อ อีกไม่ถึงสามสิบนาที”

   “อ้าว.. จะถึงบ้านแล้วเหรอ”

   “ก็ถึงได้โทรมาถามพ่อไงว่าอยู่บ้านใช่มั๊ยครับ จะได้ไปด้วยกัน นึกว่าพ่อจำวันนี้ได้ซะอีก นึกว่าอยู่ที่บ้าน”

   “โอ้ยแก๊งง พ่อขอโทษ งั้นเอางี้ เดี๋ยวพ่อโอนเงินส่วนของพ่อให้ แก๊งกับพี่พี่ไปทำแทนได้มั๊ย”

   “พี่พี่ก็ไม่มาครับพ่อ ติดงานกันทั้งนั้น มีแต่แก๊งมาคนเดียว”

   “อ้าว.. เหรอ งั้นแก๊งจะไปคนเดียวเหรอครับ”

   “ก็ในเมื่อพ่ออยู่บีเอ็นอย่างนี้ ไปด้วยกันไม่ได้แล้วล่ะครับ ไม่เป็นไรครับพ่อ ผมกับพี่พี่ซื้อของที่จะใช้มาหมดแล้วล่ะครับ พ่อไม่ต้องห่วง ทำงานบีเอ็นไปเหอะครับ”

   “อ่า โอเคครับ ขอโทษนะลูก เดี๋ยวเสร็จแล้วยังไงโทรบอกพ่อด้วยนะ”

   “ครับผม”

   ผมก็กดโทรศัพท์พ่อลง เฮ้ออออ เอาไงเอากัน ไปคนเดียวก็ได้ว่ะ



   ขับมาถึงหมู่บ้านผมแล้ว แต่ยังไม่ตรงไปที่บ้านผม สิ่งแรก ที่ผมตรงไปเป็นจุดหมายจริงๆ ของเช้าวันนี้ คือ...

   วัด.. ของหมู่บ้าน

   เมื่อผมขับมาถึง หาที่จอดรถ ขนของทั้งหมดลงแล้วตรงไปที่ศาลาธรรมทันที

   เอาของทั้งหมดที่ซื้อออกมาจากชุด คือชุดสังฆทานสองชุดพร้อมกับปัจจัยสิ่งของอื่นๆ ที่ผมกับพี่พี่รวมกันซื้อ นำมาจัดตั้งไว้และเขียนสังฆทานชุดนึงว่ามาจากพี่พี่รวมกัน (ใช้ชื่อเล่นนะครับ เขียนชื่อจริงตายห่าพอดี ได้ฉลุลายให้ถังสังฆฑานกันเลยก็ว่าได้) ส่วนอีกชุดก็เขียนว่ามาจากผมและครอบครัว แล้วนำไปถวายหลวงพ่อที่วัดประจำหมู่บ้านผม

   จากนั้นก็นั่งฟังธรรมเทศนา กรวดน้ำแผ่เมตตา แล้วค่อยถือของพวกผ้าขี้ริ้ว ถังน้ำเล็กๆ ที่ใส่น้ำไว้ ดอกไม้ ธูป เทียน อย่างละสองชุด น้ำอบ และน้ำมนต์กรวดอุทิศส่วนบุญส่วนกุศล เดินไปทางหลังวัด

   ระหว่างทาง ผมก็เห็นเด็กสามคน ชายสอง หญิงหนึ่ง กำลังวิ่งเล่นไล่จับกันบนลานโล่งอย่างสนุกสนาน

   มันทำให้ผม นึกถึง พี่กิ๊ง ผม และน้องก๊อง ผมก็พิจารณาเด็กๆ ทั้งสามคนได้ไม่นาน ก็ต้องเดินไปทางหลังวัดต่อ

   เมื่อไปถึง ภาพที่เต็มไปด้วยเจดีย์เล็กๆ มากมาย ตกแต่งหลากสีสันแต่ละหลังด้วยกระจกเล็กๆ หรือหินสีดูสะดุดตา แต่เจดีย์เหล่านี้ไม่ใช่เจดีย์ธรรมดา มันคือ “เจดีย์เก็บอัฐิ” ที่ตั้งเอาไว้อย่างสงบภายในหลังวัดมาโดยตลอด

   ผมตรงไปยังเจดีย์อัฐิเด่นๆ สององค์ติดกัน ที่ดูสูง รูปทรงงดงาม ตัวเจดีย์ทำเป็นรูปหกเหลี่ยมดูสวยงามกว่าเจดีย์โดยรอบ มองจากภายนอกก็รู้ได้ทันทีว่าวัสดุที่ทำเจดีย์ทั้งสององค์คือหินอ่อนอย่างดี แต่ต่างกันตรงที่การตกแต่งด้วยกระจกที่องค์นึงจะใช้โทนสีเขียว ส่วนอีกองค์จะใช้โทนสีฟ้า

   แล้วนั่งลง หน้าเจดีย์ทั้งสอง ตั้งชุดดอกไม้ จุดธูป จุดเทียน อย่างละชุดหน้าเจดีย์แต่ละองค์ด้วยความนิ่งสงบ ก่อนที่จะเริ่มกรวดน้ำ แล้วเงยหน้ามองภาพสลักบนเจดีย์ เขียนถึงชื่อเจ้าของเจดีย์ที่กำลังหลับใหลอย่างสงบมาโดยตลอด

   องค์สีฟ้า ของพี่กิ๊ง และองค์สีเขียว ของน้องก๊อง

   ใช่แล้วครับ วันที่ 11 เมษายน ไม่ใช่วันครบรอบวันตายของพี่กิ๊งและน้องก๊องหรอกครับ... แต่เป็นวันเผา

   เพราะตายด้วยสาเหตุคือฆาตกรรม การชันสูตรพลิกศพเพื่อหาหลักฐานรูปคดีก็ต้องเป็นไปตามกระบวนการทางยุติธรรม แน่นอนครับ ถึงจะมีการสวดเจ็ดวันหลังจากที่พี่น้องทั้งสองของผมเสียทันทีก็ยังไม่ได้เผา ยังคงเก็บศพไว้เพื่อรอการตรวจทางนิติเวชต่อไปอีกสามสิบวันเนื่องจากยังหาหลักฐานสรุปสำนวนได้ไม่ครบ คงจะรู้นะครับว่าทำไม

   จนศพของทั้งสองเริ่มไม่ไหว หนึ่งเดือนกว่าๆ หลังจากนั้น พ่อแม่ผมเลยตกลงที่จะเผา ไม่เก็บศพให้ทางนิติเวชตรวจสอบต่อถึงแม้จะยังทำเรื่องขอได้อีกก็ตาม

   ซึ่งตอนนั้น ผมก็ยังอยู่ในภวงค์ซึมเศร้า ไม่รับรู้อะไรทั้งนั้นนอกจากกล่องสีขาวสองใบของพี่กิ๊งและน้องก๊อง จนถึงตอนใส่ชุดสีดำสนิททั้งตัว ยืนถือภาพของพี่กิ๊งขึ้นสู่เมรุ ส่งพี่เค้าเข้าไปสู่เปลวเพลิงภายในนั้นด้วยจิตใจที่แตกสลาย น้ำตาผมก็ไหลไม่หยุด แต่ไม่มีเสียงร้อง ไม่มีเสียงอะไรมาอีกแล้ว เมื่อพี่กิ๊งเผาเสร็จในวันแรก น้องก๊องก็ตามมาในวันที่สอง วันนั้นผมแทบจะล้มทั้งยืน
   เพราะกล่องทั้งสองใบของผม กล่องทั้งสองใบที่ใส่พี่น้องของผม ได้กลายเป็นขี้เถ้าไปหมดแล้ว

   หลังจากนั้นก็ทำบุญอัฐิ แล้วเก็บกระดูกของทั้งสองคนไว้ในเจดีย์ที่แม่ของผมสั่งเตรียมไว้ให้ ตั้งภายในวัดอย่างสงบเรียบร้อยทั้งสองคนในวันที่ 11 เมษายน

   ซึ่งในงานพิธีศพของทั้งสองคนนั้น ทั้งพี่พี่ และคนรู้จัก ต่างมาร่วมงานกันทั้งสิ้น

   ถึงผมจะยังอยู่ในภวังค์แห่งความเศร้า ไม่รับรู้ถึงตัวตนของใครเลยแม้กระทั่งพี่พี่ แต่พี่พี่ก็จำผมได้จากวันนั้น และจำวันที่เผาทั้งสองคนเสร็จและเก็บกระดูกไว้ในอัฐิได้เป็นอย่างดี

   ผมจึงตกลงกับทุกคน ทั้งพี่พี่ และพ่อ ว่าวันที่ 11 เมษายน พวกเราทุกคนควรจะทำบุญให้พี่กิ๊งและน้องก๊องทุกปี เพราะเป็นวันที่เผาและเก็บกระดูกของทั้งสอง และเป็นวันที่มีความหมายในหลายๆ อย่างของการเจอกันครั้งแรกระหว่างผมกับพี่พี่ พร้อมกับต้อนรับสงกรานต์หรือวันพระใหญ่ที่จะทำให้พี่กิ๊งและน้องก๊องได้บุญใหญ่อีกด้วย

   ผมจึงถือว่าวันนี้ สำคัญมาก... ต่อให้ใครไม่มาเป็นเพื่อนผมก็ตาม ผมก็ต้องมาให้ได้

   ส่วนเหตุผล ที่ผม ไม่ยอมให้พี่กรมาด้วย ก็เพราะว่า...

   ผมกรวดน้ำเสร็จ ก็เริ่มเอาผ้าขี้ริ้วขึ้นมาชุบน้ำนิดนึง บิดให้หมาด แล้วเริ่มเช็ดไปที่ภาพสลักของเจดีย์พี่กิ๊งก่อนเลย

   “พี่กิ๊ง ขอโทษแทนพี่พี่กับคุณพ่อด้วยนะครับ พอดีว่า ทุกคนติดงานหมดเลย ปีนี้ น้องเลยมาคนเดียว”

   ช่วงวันแบบนี้ เวลานี้ แถวนี้จะไม่ค่อยมีคน ผมเลยกล้าที่พูดหรือส่งเสียงไปโดยไม่ต้องสนว่าใครจะได้ยินหรือเปล่า เพราะแถวนี้ มีแต่คนตาย

   จากนั้นก็ชุบอีกรอบ เช็ดที่ภาพสลักเจดีย์น้องก๊อง

   “น้องก๊องก็ด้วยน๊า ถึงไม่สนิทกับพี่พี่ ก็อย่าไปโกรธคุณพ่อที่เค้าไม่ว่างนะครับ”

   เมื่อเช็ดเสร็จแล้ว ผมก็เขย่าขวดน้ำอบ เปิดฝา พรมลงไปบนภาพสลักอย่างเป็นจังหวะ

   “สงกรานต์ปีนี้ก็อย่าลืมออกมารับบุญใหญ่กับที่วัดด้วยนะครับ เห็นเมื่อกี๊คนเริ่มกลับบ้านจากต่างจังหวัดมาทำบุญกันเยอะแยะเลย ถ้าพระท่านสวดอะไรก็อย่าดื้อนะแก๊ง ยิ่งเป็นเด็กสมาธิสั้นตอนฟังเทศน์ฟังธรรมอยู่ด้วย”

   พอผมพรมเสร็จ... ปิดขวดน้ำอบ... ผมก็ยังนั่งอยู่หน้าเจดีย์ของทั้งสองอย่างนั้น

   “พี่กิ๊ง น้องก๊อง รู้รึปล่าว มีคนเข้ามาจีบแก๊งด้วยนะ ชื่อพี่กร อยู่คณะแพทย์ ดูยังไงก็ไม่รู้.....”

   พลางเริ่มเล่าเรื่องที่เกิดขึ้น... แบบรวบรัด ถึงจะไม่หมด แต่ก็เพื่อให้ผมรู้สึกว่ายังได้คุยกับสองคนนี้

   แล้วน้ำตาผม.. มันก็ไหล...

   ใช่ครับ..นี่เป็นเหตุผลว่าทำไม ผม ถึงไม่อยากให้พี่กรมา

   ผมไม่เคยหยุดน้ำตานี่ได้สักครั้ง เมื่อมันเกี่ยวกับเรื่องพี่กิ๊ง และน้องก๊อง ถึงผมจะบอกว่าเข้มแข็งขึ้นแล้ว แต่ภาพเด็กตัวเล็กๆ สามคนที่กำลังวิ่งเล่นกัน กลายมาเป็นภาพเด็กผู้ชายคนนึงมองเห็นกล่องสองใบที่ใส่ร่างไร้วิญญาณของพี่น้องตัวเองเข้าสู่เปลวไฟ มันไม่เคยทำให้ผมหยุดน้ำตาได้เลยสักครั้ง แม้จะอยู่ต่อหน้าพี่พี่ ต่อหน้าพ่อก็ตาม

   ซึ่งพี่พี่ก็เข้าใจ พ่อก็เข้าใจ ว่าผมร้องไห้ทำไม

   แต่ผม..ถึงจะเล่าให้พี่กรฟังไปแล้ว.. ก็กลัว ว่าพี่กรจะไม่เข้าใจ

   ผมไม่แน่ใจว่าพี่กรเค้าจะมาเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตผมรึปล่าว และผมก็ไม่กล้าเอาสิ่งที่ไม่แน่ใจมาอยู่ต่อหน้าพี่กิ๊งและน้องก๊องได้ เพราะทั้งสองคนคือสิ่งที่แน่นอนแต่ก็สูญเสียไปแล้ว น้องไม่อยากแสดงความอ่อนแอในเรื่องนี้ของน้องให้พี่กรเห็น เพราะยังไม่รู้ ว่า...พี่กร จะจริงจังกับน้อง

   “ฮึก..แล้วไอ้หมอบ้านั่นนะพี่กิ๊ง..ฮืออออ.. ก็ชอบทำอะไรงี่เง่าอย่างนั้นตลอดเลยล่ะ.. ฮึก ฮึก..”

   ผมพยายามเช็ดน้ำตาตัวเองอยู่หน้าเจดีย์ของทั้งคู่

   “ซึบ ซึบ ซึบ...”

   เสียงคนเดินมาทางนี้... อะไรกัน!! แถวนี้ไม่ค่อยมีคนนี่นา หรือว่า.. สัปเหร่อรึปล่าว พระมั้ง รีบเช็ดน้ำตาดีกว่า

   “ร้องไห้ตลอดเลย ไอ้ขี้แงของพี่”

   ห่ะ เสียง เสียงนี้... แล้วมือก็เข้ามาจับไหล่ผม นั่งลงอยู่ข้างๆ พร้อมกับใบหน้าหล่อๆ ในชุดสีขาวเหมือนผม

   “พี่!! พี่กร....มา... มาได้ยังไง”

   มันก็ยิ้มมาที่ผม หยิบผ้าเช็ดหน้าขึ้นมาซับน้ำตาผมเบาๆ แล้วหอมแก้ม

   “พี่กร!! นี่ นี่มันหน้าเจดีย์พี่กิ๊งกับน้องก๊องนะ รู้รึปล่าว”

   “รู้ครับ... แต่พี่ก็มีเรื่องจะบอกเหมือนกัน (แล้วหันไปทางเจดีย์ของทั้งสองคน)”

   “รู้มั๊ยครับ ทั้งสองคน แก๊งของทั้งสองคนน่ะ เค้าทั้งน่ารัก ทั้งดื้อ ซน และชอบปิดบังขนาดไหน”

   “พี่กร!!”

   “ดีแต่ว่าผมตะกี๊นะครับ ไม่ดูตัวเองเล้ยย ชอบทำให้คนอื่นเค้าเป็นห่วงอยู่เรื่อย”

   “พี่กร นี่มันหน้า...อ๊ะ!! (ผมสะดุด เพราะไอ้พี่กรมันคว้าตัวผมเข้ามากอดแน่นๆ)”

   “แต่ผมให้สัญญาอย่างนึงกับทั้งสองคนนะครับ ว่าถึงผมจะทำตัวงี่เง่า บ้า ดูหน้ามึน หน้าไม่อาย หรืออะไรอย่างที่น้องแก๊งเค้าว่า แต่ผมก็จะทดแทนทั้งสองคนนะครับ จะเป็นพี่ชายที่ดีแทนทั้งสองคนที่ต้องจากไปแล้ว..(แล้วก้มลงมองผม) จะเป็นผู้ชายที่ดีที่ปกป้องน้องแก๊ง..(กลับไปมองที่เจดีย์อีกรอบ) จะเป็นคุณหมอที่ดีที่จะดูแลน้องแก๊งทุกครั้งเวลาป่วย”

   จากนั้น...ก็ค่อยๆ ก้มลงมาจูบที่ปากผม แค่จูบแบบ จุ๊บ นิดนึง...นะครับ

   “และจะเป็นคนรักที่ดี ที่จะรักแต่น้องแก๊งคนเดียว ตลอดชีวิต แน่นอน... ผมสัญญาครับ”
   ฮึก!! อึ๊ก... นี่มัน...จ้องตาผมด้วย

   “ออกไปเลย!! ยังไม่ได้เป็นแฟนกันซักหน่อย (พลางดีดตัวเองออกมาจากอกไอ้หมอมัน)”

   “5555 หยุดร้องเถอะครับแก๊ง”

   พี่กรก็ยีหัวผมอยู่อย่างนั้นนะ หน้ากระดูกพี่กิ๊งกับน้องก๊องอ่ะ คือ... ไม่อายคนตายเค้าบ้างเลยรึไง



   “ยังไม่บอกน้องเลย!!”

   ตอนนี้น้องกับพี่กรออกมาจากวัด มาที่บ้านน้องแล้วครับ น้องตั้งใจจะมากวาดบ้านถูบ้านซักรอบก่อนค่อยกลับมหาลัย พี่กรก็ตามมาช่วยอีกแรงนึง.. เลยทำลายความเงียบด้วยคำถามนี้ซะเลย เพราะตะกี๊ยังมึนๆ งงๆ ร้องไห้ๆ อยู่ จู่ๆ พี่แกก็เข้ามาได้ยังไง แล้วมาพูดแบบนั้นใส่หน้าเจดีย์พี่กิ๊งกับน้องก๊องเฉยเลย

   “อะไรนะครับ”

   “มาที่นี่ได้ยังไง น้องอุตส่าห์ปิดเป็นความลับ โอ๊ยยย...”

   เดินเข้ามาหยิกแก้มผมครับ โอ้ยยยย เรื่องความเร็วนี่ต้องยกให้ไอ้หมอมันเลย ไม่รู้ตัวผมก็โดนหยิกแก้มล่ะ

   “นี่ล่ะพี่ไม่ชอบเลย ถ้าเป็นเรื่องสำคัญๆ ก็บอกกันนะครับ”

   “แย้ว ยายี่นี่ไย้ยังไยยะ (แล้ว มาที่นี่ได้ยังไงอะ พยายามพูดขณะโดนหยิกแก้มครับ)”

   แล้วไอ้หมอก็จูบปากผมหนึ่งที ก่อนจะรวบน้องเข้าไปกอดพร้อมกับไม้กวาดในมือ

   “พี่เห็นเราผิดสังเกตุตั้งแต่ตอนเย็นวานนี้แล้วล่ะครับ เลยแอบไปดูตอนเราเพิ่งหลับว่ามุมห้องมันมีอะไร เท่านั้นพี่ก็รู้ทันทีครับว่าเราจะทำบุญ แต่ยังไม่รู้ว่าบุญอะไร และทำไมไม่ยอมบอกพี่ แถมไม่ให้พี่มาด้วย พอเราตื่นแล้วเอาหมอนข้างมาสับ พี่น่ะตื่นก่อนหน้านั้นแล้วครับ ก็รอให้เราออกรถไปก่อนพี่ก็ขับสะกดรอยตามมาเรื่อยๆ ไม่ให้เราสังเกตุได้ จนมาหยุดอยู่ที่วัดนั่นล่ะครับ”

   “อะ.. อะไรกัน..ร้ายกาจมาก... ซ้อนแผนน้องเหรอ”

   “จะเป็นแฟนกับคนดื้อ มันก็ต้องมีแผนรับมือบ้างล่ะครับ ดีซะอีก พี่จะได้มาไหว้หลุมศพพี่กิ๊งกับน้องก๊องเค้าด้วย”

   “เช๊อะ! มาไหว้หรือมาอนาจาร แถมใครว่ามันเป็นหลุม มันเป็นเจดีย์ พูดดีๆ หน่อย โอ๊ยยยย... (โดนขย้ำหัวครับ)”

   “กวนพี่อย่างนี้นี่ ไม่โกรธพี่แล้วใช่มะ”

   ผมก็ เงยหน้ามองพี่กรนิดนึง ก่อนจะเบี่ยงสายตาไปทางอื่น

   “น้องว่า รีบทำความสะอาดบ้านกันเหอะครับ จะได้กลับมอ”

   “ยังไม่ตอบพี่เลย... พี่ยังอยากถามเราอีกนะครับว่าทำไมไม่ให้พี่มากับเราด้วย ตอนแรก”

   “เรื่องนั้นก็ด้วยครับ เดี๋ยวค่อยตอบ ทำก่อน...นะ...ปล่อยน้องนะ”

   “อะอะ โอเคครับ ยอมล่ะยอม”

   พี่กรก็ค่อยปล่อยให้ผมทำงานบ้านไป จนเสร็จ

   เพราะขับรถมาคนละคัน มันเลยทำให้ผมได้มีเวลาคิด ระหว่างทางที่ขับรถกลับมอไปเรื่อยๆ

   กับคำพูด ที่พี่กร พูดหน้าเจดีย์ของพี่กิ๊ง กับน้องก๊อง..

   “เพราะเรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญ และเป็นเรื่องที่แกต้องคิดเองด้วย แกต้องคิดดีๆ นะแก๊ง! ก่อนจะตัดสินใจอะไร

   เสียงของพี่อิ๋งๆ ลอยเข้ามา มันช่วยตอกย้ำ กับความคิดของผมในตอนนี้ จนผมตัดสินใจ ออกไปว่า....

พวกพี่ครับ เรื่องพี่กร...
น้องว่าน้อง คิดได้แล้วล่ะครับ

//////////////////////////////////////////////////////////////////

ออฟไลน์ day9day

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2160
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +284/-9
ค้างๆยังงัยต่อไป รอตอนหน้านะครับ

ออฟไลน์ aoihimeko

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3132
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +155/-9
 :z13: ก่อน

พี่กรนี่มึนตลอด แต่น่ารักมากๆเลย

หวังว่าน้องแก๊งเราจะตัดสินใจคบกับพี่กรนะ :mew1:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 17-03-2014 12:09:56 โดย aoihimeko »

ออฟไลน์ toshika

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 819
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +38/-4
ว่า............จะตกลงเป็นแฟนกะพี่กรใช่ม่ะน้องแก๊ง555555


 :oo1:

ออฟไลน์ fc_fic

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2590
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +84/-7

ออฟไลน์ IsDeer

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2519
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +85/-8
 :mew1: ราศีพระเอกจับเต็มๆ

ออฟไลน์ HalF_EighT

  • AWyZar GeRin : Arch Of Wizard GeRin
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 25
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-1
ตอนที่ 12 สารภาพ

   “ถ้าไม่มีอะไรแล้ว พ่อประชุมต่อเลยนะแก๊ง”

   “ครับพ่อ ไม่มีอะไรแล้วครับ ประชุมให้สนุกนะครับพ่อ... บายครับ”

   แล้วก็กดโทรศัพท์ลง

   กลับมาถึงหอเรียบร้อยแล้วครับ ตอนเที่ยงๆ มาถึงผมก็รีบเข้าห้องตัวเอง พี่กรก็เข้ามาด้วย แต่เรื่องปกติครับ ตะกี๊ผมก็โทรรายงานพ่อตามคำสั่งเสร็จไป พอผมกดวางสายเท่านั้นล่ะครับ

   “แก๊งคร้าบบบบบ”

   หนับเลย พี่กร กอดผมจากด้านหลังแล้วเอาคางมาเกยไหล่ผม

   “มีอะไรครับพี่กร กอดน้องบ่อยจนน้องเริ่มจะชินแล้วนะ”

   “ดีแล้วววว แต่ตอบคำถามพี่ได้รึยัง ว่าทำไมไม่พาพี่ไปด้วย ตอนแรก”

   หันมามองหน้าไอ้หมอตรงไหล่ผม...

   “ก็.. ถ้าอยากรู้คำตอบ ปล่อยน้องก่อนสิครับ”

   “ไม่เอา”

   “น้องไม่หนีไปไหนหรอกคร้าบ เชื่อเหอะ ในห้องน้องเองน้องจะหนีไปไหนได้ ปล่อยน้องก่อนนะครับ”

   พี่กรก็ปล่อยนะ อารมณ์แบบว่า หน้ามุ่ยๆ ไม่อยากปล่อย เฮอะๆ น่ารักดีแฮะ

   ผมก็จับมือพี่เค้าครับ... แล้วลากให้เดินมาที่เตียง จากนั้น ก็จับพี่เค้า นั่งลงไปตรงริมเตียง... เท่านี้ความสูงก็โอเคค่ะ

   “ว่าไงครับน้องแก๊ง”

   “ก็...”

   จับหน้าพี่เค้าเงยขึ้นมา แล้วก้มตัวเองลงไป ให้ปากผม..... ไปชนกับปากพี่กร

   ผมรู้เลยว่าไอ้หมอมันอึ้ง แต่ผมก็ค้างอยู่อย่างนั้นจนพี่กรกอดผมคืน แล้วสอดลิ้นเข้ามาให้ผมค่อยๆ เปิดปากรับจูบพี่เค้าอย่างเต็มใจ ที่ต้องทำอย่างนี้เพราะตัวเองจูบไม่เป็นครับ ถึงจะโดนพี่กรจูบบ่อยแทบทุกวันแต่ไม่เคยเรียนรู้สักที พี่กรก็ไม่สอนเพราะสงสัยกลัวว่าผมไม่อยากเรียนรู้ (ซึ่งมันก็จริง) มันก็เลย ต้องทำแบบนี้

   จนผมคลายออกมา แต่ก็ยืนไม่มั่นแล้วเพราะพี่กรกอดผมแน่น ผมเลยค่อยๆ นั่งลงไปบนตักไอ้หมอที่อยู่บนเตียงแล้วกอดคอมันไว้ ทำให้หน้าผมกับหน้าไอ้หมอตอนนี้ มันใกล้กันมากกว่าทุกครั้ง.. คือจมูก ชนกันจริงๆ เลยครับ..

   “แก๊ง.. จูบพี่ก่อน”

   “น้องขอโทษนะครับพี่กร ที่วันนี้ไม่พาพี่กรไปด้วย ตอนแรก”

   “ครับ..”

   “เพราะน้องกลัวว่าพี่กรไม่จริงใจ อันที่จริงคือน้องยังไม่เชื่อใจพี่กร เพราะน้องคิดว่ายังไงพี่กรก็เคยเจ้าชู้มาก่อน ไม่รู้สิครับ น้องมันไม่เคยมีความรัก น้องไม่รู้ว่าต้องทำตัวยังไง น้องก็เลย ไม่พาพี่กรไปด้วยตอนแรก นั่นล่ะครับ”

   พี่กรเอาหน้ามาซุกอกผม แล้วกอดรัดผมซะแน่นมากๆ.. รู้เลยว่าไม่พอใจนิดๆ กับเรื่องเมื่อกี๊ที่ผมพูดออกไป

   “พี่จะบอกยังไงดีล่ะ!? แก๊ง!!.. เรื่องที่พี่เคยเจ้าชู้มาก่อนมันก็จริง พี่ยอมรับ แต่ตอนนี้ก็พี่เลิกไปแล้วนะครับ หนึ่งเดือนที่ผ่านมานี้พี่อยู่กับแก๊งแค่คนเดียวแก๊งก็รู้ ถ้าพี่จะไปไหนก็ไปแต่กับแก๊ง ถ้าจะกินข้าวกับใครก็กินแต่กับแก๊ง จนแม้แต่จะนอนพี่ก็ยังมานอนข้างแก๊งทุกวันเลย นี่.. ที่พี่ดูแลแก๊งทั้งหมดนั้น มันยังไม่พิสูจน์ความจริงใจของพี่อีกเหรอครับ”

   “น้องขอโทษนะครับ ที่คิดแบบนั้น แต่น้องยอมรับเลยนะครับ ว่าที่พี่ทำทั้งหมดตลอดหนึ่งเดือนที่ผ่านมา น้องมีความสุขจริงๆ แล้วพอมาวันนี้ ที่พี่กรบอกอย่างนั้นตรงหน้าเจดีย์ของพี่กิ๊งกับน้องก๊อง มันเลย...”

   “มันเลย!??... มันเลยอะไรครับ”

   พี่กรรีบเงยหน้าขึ้นมาฟังใหม่อีกรอบ คราวนี้ผมก็จับหน้าพี่เค้าไว้ให้ตั้งใจฟัง
   “มันเลยทำให้น้องคิด ระหว่างทางที่มาที่นี่ คิดถึงเรื่องราวทุกอย่างตั้งแต่ต้น ตั้งแต่น้องเจอพี่กร จนมาถึงวันนี้ น้องคิดดีแล้วล่ะครับ ว่าน้อง อยากบอกพี่กรว่า.....”

   “ว่า..!??”

   ผมก็มองหน้า... แล้วจูบพี่กรก่อนอีกรอบ ครั้งนึง... ก่อนจะยิ้ม แล้วพูดออกมาว่า

   “น้องก็ชอบ พี่กร เหมือนกันนะครับ”

   “อะ.. อะไรนะครับ”

   เอ้าอะไร ตะกี๊ก็หูดีๆ อยู่เลย ไม่เป็นไร... อีกรอบล่ะกัน

   “คือออ...น้องก็ชอบ พี่กร นะครับ ตอนนี้พี่กรเป็นแฟนน้อง นะครับ”

   “อะอะ...อะไรนะครับ”

   เอ๊ะไอ้นี่! ใกล้กันจนหายใจรดใส่กันขนาดนี้ อะไรมันเข้าสิงมึงรึงไง...ตะเบ็งเสียงด้วยระบบ รด. แถมขยี้หัวแบบมิซาเอะทำกะชินจังใส่ไอ้หมอมันเลยกู

   “หนอยย... น้องชอบพี่กร!! พี่กรไม่อยากเป็นแฟนน้องรึไง!!”

   แล้วทีนี้ มันก็... ยิ้มร่าเลยครับ

   “แก๊งคร้าบบบบบบบบ พี่ดีใจที่สุดเลยยยยย”

   “โอ้วโว้วโว้วววววววววววว”

   รัดผมซะแน่นแล้วลุกขึ้นอุ้มผมหมุนไปรอบเลยทีนี้ เสียหลักจนต้องกอดคอไอ้หมอเหมือนเดิม... โอ้ยยพอ กูมึนนน

   “พี่กร... อย่าควงน้องสิครับ น้องมึน อ๊ะ แอร่กก!!!”

   ควงงงงหมุนนนนติ้ววววจนเซล้มลงไปบนเตียงเลยครับ แต่ไม่เป็นไร ไม่เจ็บหรอกครับ เตียงห้องผมมันนุ่มพอดี พอตั้งหลักได้พี่กรก็รีบคร่อมผมมาอยู่ในท่าประจำที่พี่กรชอบทำทันที (คือคร่อมผมอยู่ข้างบน ส่วนตัวผม ก็อยู่ข้างล่าง)

   “ในที่สุด วันที่แก๊งบอกชอบพี่ก็มาซะที ตอนนี้ พี่เป็นแฟนแก๊งได้แล้วใช่มั๊ยครับ”

   “ก็.... ได้ยินไปแล้วนี่” (แล้วก็ก้มลงมากอดผมเลย)

   “เฮ้อออ กว่าจะรู้ตัวว่าชอบพี่นะแก๊ง เอาซะพี่หงุดหงิด เกือบหมดความอดทนไปตั้งหลายรอบ”

   “อะไรพี่กร.. ทำไมพูดแบบนั้น น้องกว่าจะรู้ตัวว่าชอบพี่เนี่ยนะ!!” (พี่กรก็เงยหน้าขึ้นมา)

   “ก็แก๊งซื่อบื้ออ่ะ แก๊งไม่รู้ตัวหรอก แก๊งน่ะชอบพี่ตั้งนานแล้วเหอะ ตั้งแต่ยอมให้พี่จูบแล้วมั้ง พี่น่ะดูออก แต่แก๊งน่ะสับสน พี่เลยรู้ว่ายังมีความหวังอยู่บ้าง แค่รอให้เรารู้สึกตัวเท่านั้น พี่ก็ทั้งช่วย ทั้งทำ ทั้งอ้อน ทั้งจริงจังกับเราให้เรารู้ตัวซักที แต่มันก็นานอ่ะ ตั้งเดือนนึง เอาซะพี่หงุดหงิดตั้งหลายรอบ แต่ก็ช่างเหอะ เพราะพี่มีความสุขมากที่ได้อยู่ข้างๆ แก๊ง ได้ดูแลแก๊ง ได้ทะเลาะกับแก๊ง พี่เลยคิดว่าพี่รอได้ รอจนกว่าแก๊งจะรู้ตัวว่าชอบพี่สักที”

   “ห่ะ...”

   ปากพี่กรก็เข้ามาจูบผมอีกรอบนึง... สอดลิ้นเข้ามาทำให้ผมเริ่มเคลิ้มตาม

   “พี่รักแก๊งนะครับ รักมาก พี่ไม่เคยคิดเลยว่ารอยยิ้มแก๊งแค่วันแรกที่เจอกัน จะเปลี่ยนพี่มาได้ขนาดนี้ ยิ่งได้มาอยู่ใกล้ๆ พี่ยิ่งรู้เลยว่าแก๊งน่ะใช่ มันไม่ใช่แค่น่ารัก ไม่ใช่แค่หน้าตาดี แต่พี่รู้ว่าแก๊งต้องมีพี่ ต้องเป็นพี่เท่านั้น..
   เพราะไม่ว่าจะความดื้อ ความซื่อบื้อ ติ๊งต๊อง ไม่รู้ประสา มีมุมแบบเด็กๆ มันทำให้พี่ต้องห่วง ต้องดูแลอยู่เรื่อย แต่พี่ก็ชอบที่แก๊งเป็นแบบนั้น พี่อยากดูแล และพี่ก็รู้ว่ามีแค่พี่เท่านั้นที่ทำได้
   แต่ถ้าวันไหนที่พี่ไม่อยู่ แก๊งก็ดูแลตัวเองได้ มีความรับผิดชอบ ใส่ใจกับทุกคำที่พี่พูด ที่พี่สอน มันเลยทำให้พี่ไม่ต้องห่วงอะไรมาก แค่ต้องสอนย้ำกันสักหน่อยเพราะเรายังดื้ออยู่บ้าง เรื่องนี้แก๊งไม่รู้ตัวใช่มั๊ยครับ”

   ส่ายหน้าสิผม

   “แก๊งน่ะเป็นแบบนี้แหละ ไม่รู้ว่ามีอะไรอยู่ในหัวทำไมถึงได้ซื่อบื้อขนาดนี้ ยอมพี่มาตั้งนานแล้วแต่ไม่นับว่าเป็นแฟนกันเฉยๆ พี่ได้ยินทีไรล่ะอยากจะตีจริงๆ
   แล้วไหนจะเรื่องครอบครัว เรื่องความรัก หรือเรื่องที่เกี่ยวกับความรู้สึกของเรา เราน่ะชอบขี้กลัว ชอบร้องไห้ ชอบไม่ค่อยเก็บอารมณ์เวลาอยู่กับพี่เท่าไหร่ แต่กับคนอื่นน่ะแทบไม่เคยเห็นแก๊งเป็นแบบนั้นเลย มันเลยทำให้พี่คิดว่าพี่กลายเป็นคนพิเศษสำหรับแก๊งไปแล้ว
   แต่ต่อไปนี้เราก็รู้ตัวสักที และจะได้เป็นแฟนกัน พี่ขออย่างเดียวนะครับ มีอะไรก็อย่าปิดบังพี่ พี่ก็ไม่มีเรื่องอะไรที่ต้องปิดบังเราแล้ว หลังจากนี้เราก็นับพี่เป็นแฟนแล้ว อย่ามีความลับนะครับ กฏข้อแรก...”

   “โห.. เป็นกฏ เลยเหรอ”

   “สำหรับแก๊งน่ะพี่อยากยัดกฏให้อีกเป็นสิบๆ ข้อเลยครับ มีเรื่องน่าห่วงเป็นกะตั๊กเลย คนอะไรไม่รู้ น่ารักแล้วยังทำตัวให้น่าห่วงนี้ ไม่จับยัดล่ามโซ่ไว้ที่ห้องก็ดีเท่าไหร่แล้วครับ”

   “ก็อย่าจับล่ะกัน น้องไม่เอาด้วยหรอก ไอ้หมอใจร้าย”

   ฮึ.. อะไรว่ะ พล่ามออกมาคนเดียวแล้วยังจะล่ามโซ่เราไว้อีก หน้ามึนเป็นบ้าเลย...

   “อ๊ะ!!... พี่กร... มือ”

   มือพี่กร ล้วงเข้าไปในเสื้อผม... แล้ว

   “พี่กร... ฮื้อออ อืออออออออ”

   พี่กรก็ก้มลงจูบผม แต่ครั้งนี้... ไม่เหมือนทุกครั้งที่จูบกับพี่เค้า

   ลึกกว่าเดิม พี่กรสอดลิ้นเข้ามาลึกกว่าเดิม มือและขาพี่เค้าค่อยๆ ลูบไปตามแขนขาแล้วจับผมให้รัดเข้าไปใกล้ตัวพี่กรมากขึ้น... มากขึ้น จนตัวผม... แทบ... ฮึ๊กก

   “พี่กร... ฮ่ะ.. อ๊ะ... ตรง ตรงนั้น”

   พี่กรคลายจูบออกมาแล้วเริ่มไล้ไปตามคอผมเรื่อยๆ มือพี่เค้าค่อยๆ ถกเสื้อผมขึ้นมาจนถึง... หัวนม

   “ไหนๆ ก็เป็นแฟนกันแล้ว.. พี่ไม่อดทนแล้วนะครับที่รัก.. พี่ขอเลยล่ะกัน...จุ๊บบ”

   “พี่กร.. ตรงนั้น..อ๊า!!”

   ไอ้หมอมันเล่น เล่นหัวนมผม... ไม่นะ.. จะไม่ไหวแล้ว...

   รวบรวมกำลังเฮือกสุดท้าย แล้ววว

   “พี่กร!! ฟังน้องก่อนนนนนน”

   จับหัวไอ้หมอขึ้นมาจากบริเวณหน้าอกของผม... เกือบไปแล้วไอ้แก๊ง ต้องบอก บอกเรื่องนี้พี่กรก่อน.. แฮ่ก ๆ ๆ

   “ทำไมครับแก๊ง ไม่พร้อมเหรอ หรือกลัวเจ็บ.. ไม่เป็นไรนะครับ เดี๋ยวพี่ทำเบาๆ ให้ ครั้งแรกแก๊งใช่ม้า..”

   “พี่กร หยุดก่อน...แฮก ๆ ๆ... ฟังน้องก่อน น้องไม่อยาก ให้พี่กร ทำตอนนี้ครับ”

   “อ้าว!! ทำไมครับ??”

   “คือพี่กร... น้องกลัวตัวเอง... น๊อตหลุด”

   “น๊อตหลุด!???” ผมก็พยักหน้าหงึกๆ “คืออะไรครับ น๊อตหลุด..”

   ผมก็พยายามรวบรวมลมหายใจมีสติเล่าทั้งหมด ตะกี๊น๊อตกูเกือบหลุดแล้วมั๊ยล่ะ

   “พี่กรรู้อยู่ใช่มั๊ย ว่าน้องชอบอ่านหนังสือการ์ตูนเกย์”

   “อ่า ครับ ทำไมเหรอ”

   “ไม่รู้ว่าพี่กรเคยอ่านมั๊ย แต่ในนั้น มันจะมีฉากที่เค้าจะได้กัน”

   “อาฮะ ครับ พี่ไม่เคยอ่านหรอก แต่พี่พอจะรู้ ทำไมเหรอครับ แล้วมันเกี่ยวอะไรกับน๊อตหลุด”

   “คืองี้..พี่กร... น้องไม่เคยบอกเรื่องนี้กับใครเลย พี่กรตั้งใจฟังให้ดีนะครับ
   น้องอ่านของพวกนั้นมาสี่ปี บวกกับร่างกายน้องที่เป็นเกย์ และไม่เคยมีแฟน มันเลยทำให้น้องอิน อินว่าตัวเองกลายเป็นตัวละครภายในนั้น แต่ละเล่ม แต่ละเล่ม สะสมกันมากกว่าพันเล่นจนน้องเกิดความต้องการสูงมาก (ไม่อยากเล่าต่อเลยแฮะ แต่ต้องพูด) นั่นล่ะครับ ความต้องการนั้นน้องก็จะลงด้วยการไปดูหนังเรียลเกย์เอากันเพื่อระบาย
   แต่มันก็สร้างจินตนาการน้องต่อ
   จินตนาการพวกนั้นส่งผลให้น้องสะสมครับ สะสมความเครียดจากการที่ไม่มีแฟน จากการที่ยังไม่เคยเสียซิง ความรู้สึกอยากทำแบบในหนังสือการ์ตูนหรือในหนังก็จะตามมาเรื่อยๆ น้องจึงปิดกั้นพวกนั้นด้วยการขันน๊อตความอดทนเอาไว้ หรือง่ายๆ คือตั้งสตินั่นล่ะครับ พอน้องทำได้ น้องก็จะค่อยยังชั่ว
   แต่มันระเบิดออกมาได้ครับ ความรู้สึกพวกนั้น
   มันจะระเบิดตอนที่น้องช่วยตัวเองอยู่หน้าวิดีโอเรียลเกย์ หรือตอนที่น้องเอาตัวเองเข้าไปจิ้นในตัวละครการ์ตูนวาย หรือเรื่องอะไรที่เกี่ยวกับพวกนี้ มันทำให้น้องไม่มีความยั้งคิด กล้า และทำเรื่องประหลาดๆ แบบในการ์ตูนหรือในหนังได้ครับ น้องเลย.. เรียกอาการนั้นว่า น๊อตหลุด นั่นล่ะครับ”

   ผมก็มองพี่กร... หลังจากอธิบายทุกอย่างจบ.. ทำไมพี่กรดูตั้งใจฟังจังวะ

   “ก็.. นั่นล่ะครับ น้องยังไม่อยากน๊อตหลุดตอนนี้นะครับพี่กร น้องกลัว.. พี่กร จะรับไม่ได้”

   “แก๊ง...”

   “ครับ...”

   “คิดว่าพี่ได้ยินแบบนั้นแล้ว ไม่อยากทำงั้นเหรอครับ”

   “ห๊ะ...”

   “จะน๊อตหลุดหรืออะไรก็ไม่ต้องกลัวหรอกครับแก๊ง ปล่อยมาเลย พี่จะเป็นคนแรกของแก๊งเองนะครับ”

   “พี่กร ม่ายยยยย....... อ๊า!!!”

   ไม่นะ.. ไม่อยากน๊อตหลุดตอนนี้ แต่... ไม่ไหวแล้ววว พี่กรรุกผมเรื่อยเลย ค่อยๆ ไต่ขึ้นมาจูบผมที่ริมฝีปาก อีกรอบ

   “ไม่ต้องเกร็งนะครับ ที่รัก”

   ‘กลึ๋ง!!!!!!!’............................................
น๊อต หลุด แล้ว

//////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////

ออฟไลน์ HalF_EighT

  • AWyZar GeRin : Arch Of Wizard GeRin
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 25
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-1
ช่วงนี้ผมอาจจะไม่ค่อยได้อัพแบบตรงเวลานะครับ
เพราะว่ามีโปรเจ็คเขียนเรื่อง

WIZET : ศึกรักนักเวทย์กะไอ้โหดมาเฟีย

เรื่องนิยายเกย์แนวแฟนตาซีของผมนะครับ

ซึ่ง กำลังเขียนไทม์ไลน์ร่างไว้อยู่
เลยทำให้ผมมึนๆ นะคร้าบบบ
 :really2:  :really2:  :really2:

ออฟไลน์ day9day

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2160
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +284/-9
น๊อต หลุด ซะแล้วยังงัยต่อ

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด