คุณบุรุษไปรษณีย์ที่รัก (จบแล้ว) ตอนพิเศษ สัญญา 16-02-2561
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: คุณบุรุษไปรษณีย์ที่รัก (จบแล้ว) ตอนพิเศษ สัญญา 16-02-2561  (อ่าน 256083 ครั้ง)

ออฟไลน์ M_April

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 161
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-0
หวานละมุนละไมอยู่ในทุกตอน :impress2:

ออฟไลน์ pannuna

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 449
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
เรื่องนี้ก็ดีไปอีก ชอบค่ะ
อ่านมาสองเรื่องเริ่มสงสัย คนแต่งเรียนศิลปะมาหรอคะ
เราชอบคาแรคเตอร์ตัวละครไม่เหมือนเรื่องอื่น ไม่เกลื่อนไม่ซ้ำ
เป็นเรื่องที่ไม่มีเอ็นซีแต่เรามีความรู้สึกว่าไม่ต้องมีเรื่องนี้ก็สนุกได้
เราชอบทั้งภาษาการแต่ง บางอย่างที่นึกไม่ถึงเราได้จากเรื่องนี้ค่ะ
ภาษาไม่เหมือนเรื่องทั่วไป บทบรรยายพรรณนาดีเว่อๆ

ออฟไลน์ pp_psj

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 187
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-0
ขอบคุณอีกครั้งสำหรับนิยายดีๆอีกเรื่องค่ะ

ไม่รู้จะเม้นอะไรแล้ว อ่านแล้วรู้สึกดี อิ่มเอมใจที่สุด

ขอบคุณคนเขียนอีกครั้งค่ะ :pig4:

ออฟไลน์ Lovetree

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 216
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +22/-1
เรื่องนีหลงรักพระเอกมากค่ะ

เต็มโชคดีเป็นที่น่าอิจฉามากมาย  มีคนแบบพี่ปุ่นอีกไหมค่ะ555

ออฟไลน์ llmup

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 129
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
 :L2: แอร้ยยยยย เต็มเอ้ยแกกวนทีนมากเลย อยากหยิกแก้ม 555
พี่ปุ่นทำไมน่ารักงี้ แถวนั้นมีอีกไหม ขอสักคนยังทันไหมค่ะ
เกลียดนัง2พี่น้องนั้นมากเลย ผีเจาะปากรึไงกัน อยากทืบๆๆ ตบๆๆ  :z3:
คุณยานี้ตอนท้ายได้ใจมากค่า55555 วัยรุ่นซะด้วยนะคุณย่า แม้แรกๆจะอึดอัดก็ตาม สงสารเต็ม

เราว่าเรื่องนี้กว่าจะรักกันได้ ปาไปครึ่งเรื่องทีเดียว555
แต่เหมือนมีใจให้กันนิดๆอยู่แล้ว เลยสานต่อไม่ยาก
ขอบคุณที่สร้างสรรค์นิยายดีนะค่ะ ภาษาดีไม่วิบัติ ชอบมากอ่านแล้วไม่น่ารำคาญ

ออฟไลน์ zombi

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1385
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +63/-5
คุณย่าน่ารักที่สุดเลยค่ะ

คู่นี้รักกันได้ละมุนจริงๆ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 31-05-2015 12:36:17 โดย zombi »

ออฟไลน์ ▶August5th◀

  • it was fate
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +184/-2
อ่านจบแล้ว สนุกมากๆ มันอบอุ่นมากๆ
มีความรักหลายแบบเลย ทั้งครอบครัว พี่น้อง คนรัก

ชอบพี่ปุ่นอ่ะ ดูอบอุ่น

ชอบพี่เต็มกับน้องตาม อ่านแล้ว อยากมีน้องชายแบบตามเลย

ขอบคุณนักเขียนสำหรับเรื่องดีๆนะครับ

ออฟไลน์ ถ้าเธอเป็นท้องฟ้า

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 378
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +466/-3
    • ถ้าเธอเป็นท้องฟ้า
สวัสดีค่ะ ไม่เจอกันนานเลย วันนี้มีเรื่องจะขอความช่วยเหลือจากเพื่อน ๆ พี่ ๆ น้อง ๆ แฟนคุณบุรุษไปรษณีย์ฯ ค่ะ

ตอนนี้ตั้งคำถามไว้ในเพจ ประเด็นคือคนอ่านอยากเห็นอะไรบ้างในเล่มบ้าง (#ที่ไม่ใช่ncหรือกำเนิดคู่ใหม่)

ด้วยความที่เรื่องนี้เราปล่อยทิ้งมานานมาก  พอมีความคิดว่าควรจะลงมือปรับแล้วก็เขียนตอนพิเศษสักที

เลยอยากจะรบกวนทุกท่านที่เคยอ่านเรื่องนี้แล้ว ว่ามีประเด็นไหนไหมคะที่ยังสงสัย อยากให้เขียนขยาย

อยากให้เพิ่มประเด็นไหน  อยากให้เอาใครมาขยายความหน่อย เช่น พี่น้องลูกทหาร แก๊งเพื่อนไปรษณีย์ ฯลฯ

แต่ถ้าเป็นเรื่องคุณย่า อันนี้ตั้งใจจะเขียนอยู่แล้วค่ะ

ยอมรับว่าตอนท้าย ๆ เรื่อง เราเร่งสปีดในการเขียนมากเพราะใกล้สอบ บางอย่างอาจจะห้วน ๆ หั่น ๆ หรือตกหล่นประเด็นอะไรไป

จนสร้างความไม่เข้าใจ ยังไงรบกวนทุกคนด้วยนะคะ ขอบคุณล่วงหน้าสำหรับทุกความเห็นและจะเก็บเป็นไอเดียในการเขียนต่อไปค่ะ

คุยกันในนี้อาจจะผิดกฎหรือเปล่าไม่แน่ใจค่ะ หลังไมค์มาบอกได้นะคะ หรือจะเข้าไปในเพจก็ได้ค่ะ ตามแต่ทุกคนสะดวกเลย

ขอบคุณมาก ๆ ค่ะ


ออฟไลน์ michiko_love

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 201
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +42/-3
สนุกน่ารัก ละมุนละไม

เป็นนิยายที่ให้ความสำคัญเรื่องครอบครัว พี่น้อง ได้อบอุ่นจริงๆ

เยี่ยมคะ

ออฟไลน์ Wut_Sv

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 902
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +21/-1
อ่านเรื่องนี้แล้วชอบเลย แต่ยืดเยื้อไปหน่อยอ่ะ ที่สำคัญเลย เวลาอ่านชื่อสามพี่น้อง ปุน ปุ่น ปุ้น เนี่ย ต้องมานั่งไล่เสียงกันเลยทีเดียว  :ling1: :ling1: :ling1: :ling1:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ karashi

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 428
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-3
    • นิยาย นิยายแจ่มใส นิยายมือสอง
เรื่องนี้ก็น่ารัก ตามมาจากตังจ้า  เต็มกับปุ่นคู่นี้ก็ละมุน ชอบค่ะ ขอบคุณที่นำมาลงให้อ่านนะคะ

ออฟไลน์ Wut_Sv

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 902
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +21/-1
เข้ามาอ่านรอบที่ 2 แบบว่างจัด  :hao7: :hao7: :hao7:

คิดถึงพี่ปุ่น กะ น้องเต็ม น้องตาม

ออฟไลน์ ถ้าเธอเป็นท้องฟ้า

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 378
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +466/-3
    • ถ้าเธอเป็นท้องฟ้า


สวัสดีค่ะ แวะมาบอกว่ารวมเล่มแล้ว

รายละเอียดการขายสอบถามที่เพจ Hermit Books ได้เลยค่ะ

ออฟไลน์ Silver Fish

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 335
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +215/-0
    • Fanpage
อ่านรวดเดียวจบงานดีมากๆ :mew1:

ออฟไลน์ Raina

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 341
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +13/-2
เรนชอบเรื่องพี่น้องเต็มตามมากที่สุดในเรื่องค่ะ น่ารักดี  :กอด1:

เรนเชยเหมือนพี่บัด/บัสเลย เพิ่งจะรู้ว่าไม่มีโทรเลขแล้ว ตอนอ่านร้อง "เฮ้ย จริงดิ" ดังมาก 555

แอบสงสัยบ้าง เรื่องเพื่อนที่แอบชอบเต็ม ทำไมถึงไม่ยอมบอกไปหรือทำอะไรสักอย่าง, เรื่องที่พ่อของเต็มรู้ว่าลูกมีปัญหาตอนอยู่โรงเรียนประจำ ทำไมไม่รับกลับมา, เรื่องสัญญาทำงาน 3 ปี ครบแล้วพี่ปุ่นจะทำยังไงต่อ

ขอให้หนังสือขายดีๆนะคะ  :L2:

ออฟไลน์ ถ้าเธอเป็นท้องฟ้า

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 378
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +466/-3
    • ถ้าเธอเป็นท้องฟ้า
ขอตอบข้อสงสัยข้างบนนะคะ

1. ทำไมเก้ไม่ทำอะไรสักอย่างให้เต็มรู้ว่าตัวเองรู้สึกยังไง ตอบในมุมคนที่เคยแอบรู้สึกดี ๆ กับเพื่อนสนิทนะคะ เราคิดว่าความสัมพันธ์แบบเพื่อน ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น จะมีเรื่องให้ต้องขุ่นข้องหมองใจ วันหนึ่งเราจะกลับมาเป็นเพื่อนกันอีก ส่วนความสัมพันธ์ในแบบคนรัก ถ้าวันหนึ่งเลิกรักกัน บางทีแค่คนรู้จักยังเป็นไม่ได้เลย อย่างที่เก้เคยพูดกับดุ่ยว่า เรื่องบางเรื่องก็ควรเก็บไว้รู้อยู่คนเดียว ไม่จำเป็นต้องบอกใคร ถ้าหากบอกไปแล้วเขารู้สึกแบบเดียวกับเราก็นับว่าโชคดี แต่ถ้าเขาไม่ได้คิดอะไรแบบนั้น สู้เก็บเอาไว้แล้วยังคงเป็นเพื่อนกันต่อไปดีกว่าค่ะ เราเป็นคนไม่ชอบเสี่ยงค่ะ 555 เราว่าเก้คือตัวแทนของคนแอบรักที่ไม่ได้ทุกข์ทรมานใจเพราะการไม่บอกรัก แต่เขาแสดงความรักในแบบที่เพื่อนทำต่อเพื่อนและเขาก็มีความสุขกับความสัมพันธ์แบบนั้น
2. ทำไมพ่อเลี้ยงตรัยไม่พาเต็มกลับบ้าน เราไม่ได้อธิบายละเอียด แต่ตอนหนึ่งที่พ่อเลี้ยงตรัยพูดกับพ่อของปุ่น เกี่ยวกับลูกชายหัวดื้อที่บังคับหรือสั่งอะไรไม่ได้ เราเชื่อว่าคนอย่างเต็ม เมื่อคิดว่าพ่อไม่รักหรือไม่อยากให้อยู่บ้านด้วยจนต้องส่งไปโรงเรียนประจำ วันหนึ่งจะมาชวนให้กลับ ต้องไม่กลับแน่ ๆ ค่ะ และคนอย่างพ่อเลี้ยงตรัยก็คงอยากจะให้ลูกเข้มแข็ง เพื่ออยู่ได้ด้วยตัวเองในวันที่ไม่มีพ่อกับแม่
3. ปุ่นทำยังไงเมื่อครบสัญญาสามปี อันนี้เราเฉลยไว้ในตอนพิเศษในหนังสือค่ะ แต่ไม่ใช่ปัญหาอะไร เพราะไม่ยากเกินการคาดเดาของคนอ่านค่ะ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 17-08-2016 22:37:01 โดย ถ้าเธอเป็นท้องฟ้า »

ออฟไลน์ littlepink

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 340
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
หวานละมุนละไม คนแต่งเป็นคนลำปางรึเปล่าคะเนี่ย อิอิ ชอบค่ะ ตอนแรกเต็มนิสัยไม่น่ารักเลยที่ทำกับตามแบบนั้น แต่สุดท้ายก็แฮปปี้เข้าใจกันดีทั้งพี่และน้อง ขอบคุณมากนะคะสำหรับเรื่องราวน่ารัก ๆ กลิ่นอาย slowlife แบบวิถีชาวเหนือ

ออฟไลน์ lllittled

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 97
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0

ออฟไลน์ Aumy8059yaoi

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 418
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-0
งืออออออ ตอนนี้อยากรู้แค่ว่าพี่ปุ่นทำยังไงหลังครบสัญญา3ปี
ไม่ใช่ไรค่ะ เค้าสั่งหนังสือไม่ทัน :ling3:

ออฟไลน์ bradpitt

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 257
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +18/-1
ประกาศ ประกาศ   :hao5:

เพสบุค ถ้าเธอเป็นท้องฟ้า อันตรธานหาย  :mew2:

.... นายมาร์ค อุ้มคนเขียนไปไหน ...ขอ พื้นที่คืนด่วนๆๆๆ  แฟนๆๆ คลับ คิดถึงมากกก   :mew6:




งืออออออ ตอนนี้อยากรู้แค่ว่าพี่ปุ่นทำยังไงหลังครบสัญญา3ปี
ไม่ใช่ไรค่ะ เค้าสั่งหนังสือไม่ทัน :ling3:


แข็งแรงมาแน่นอน

รอ พบตัวเป็นๆๆ ได้ที่ สัปดาห์หนังสือเลยๆๆๆ  :heaven

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ SOMCHAREE

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 969
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +32/-2
น่ารักมาก อบอุ่นมากค่ะะะะะ

ออฟไลน์ aoihimeko

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3132
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +155/-9
ขอบคุณเรืาองราวดีๆค่ะ

ภาษาที่เขียนสละสลวยมากเลย

ออฟไลน์ nalavanh

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 15
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-1
ขอบคุณนะคะที่เขียนนิยายอบอุ่นแบบนี้มาให้อ่าน  :กอด1: :กอด1:

ออฟไลน์ MonKeez

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 193
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
อ่านแล้วอบอุ่นหัวใจเหลือเกินค่ะ
: )
อยากไปลำปาง

ออฟไลน์ suginosama

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 611
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +53/-1
น่ารักมากเลยค่ะ อ่านไปยิ้มไป
มีความสุขมากๆเลยค่ะ

ออฟไลน์ roseen

  • เก็บความทรงจำที่ดีๆของวันวาน เพราะมันคือกำลังใจของวันนี้
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8646
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +947/-16

ออฟไลน์ Thep503

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 210
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-0
จบแล้ว....อ่านสนุกมากครับ มีความน่ารักมากมาย ชอบช่วงที่พระเอกไปสั่งข้าวผัดหมูไม่ใส่หอมที่ร้านช่วงแรกๆ มีการสู้รบปรมมือกับพ่อครัว อ่านแล้วยิ้มมาก มีความสุข ขอบคุณครับ....

ออฟไลน์ ถ้าเธอเป็นท้องฟ้า

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 378
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +466/-3
    • ถ้าเธอเป็นท้องฟ้า
ตอนพิเศษ สัญญา


หลานชายเจ้าของเกสต์เฮาส์ละจากงานในครัวเมื่อเสียงแตรรถจักรยานยนต์ดังขึ้นที่หน้าบ้าน ทันทีที่เดินพ้นชายคาก็พบพนักงานไปรษณีย์ยืนรออยู่ เขาสวมกางเกงสแล็คสีดำกับเสื้อยืดทีเชิตสีแดงคลุมทับด้วยเสื้อแจ็คเก็ตสีดำแดง และเมื่อเขาเปิดหน้าหมวกนิรภัยเต็มฟ้าก็ได้เห็นรอยยิ้มที่แทบทำให้ลืมความเหน็ดเหนื่อยเมื่อล้าจากการทำงานไปเลย


“รับจดหมายด้วยครับ” หนุ่มไปรษณีย์กล่าวพร้อมกับยื่นซองเอกสารจำนวนหนึ่งให้


“ขอบคุณครับ” พูดจบหลานชายเจ้าของเกสต์เฮาส์ก็รับมาถือไว้ ก้มลงตรวจสอบชื่อที่หน้าซองแต่ละซอง “ทำไมวันนี้มาส่งเองล่ะ”


“ซ้งลาน่ะ ต้องพาแม่ไปหาหมอ” ศิธาพัฒน์ตอบ นัยน์ตาคมยังคงจับจ้องมองข้อมือขาวที่คล้องด้วยกำไลเงินซึ่งย่าของตนเป็นผู้มอบให้อีกฝ่าย


“เที่ยงพอดี เข้าบ้านก่อนไหม เดี๋ยวเต็มทำอะไรให้กิน”


“นึกว่าจะไม่ชวนเสียแล้ว” คนอายุมากกว่าว่าพลางถอดหมวกนิรภัยวางในตะกร้าหน้ารถ


“พี่ปุ่นอยากกินอะไร” เต็มฟ้าถามพร้อมกับเอื้อมมือซับเหงื่อเม็ดโตเหนือแนวคิ้วและใช้ปลายนิ้วเกี่ยวตวัดปอยผมที่ตกลงมาระลูกตาให้


“เต็มทำอะไรให้กินพี่ก็กินทั้งนั้น”


“ถ้าอย่างนั้น...ข้าวผัดหมูใส่หอมใหญ่เยอะ ๆ ดีไหม”


“พี่ปฏิเสธได้ด้วยเหรอ” คนฟังทำหน้ายู่ขณะรั้งมืออีกฝ่ายมากุมไว้ “ถ้าเต็มจะใจร้ายทำให้กินพี่ก็จะกิน”


“โห...พูดซะน่าสงสารเลย”


“ถ้าสงสารก็อย่าใจร้ายกับพี่นัก”


“ปล่อยมือเต็มได้แล้ว” เต็มฟ้ามุ่นคิ้วเขิน รอกระทั่งอีกฝ่ายคลายมือออกจึงเดินถือซองเอกสารต่าง ๆ ไปวางไว้ให้ชลธรที่เคาน์เตอร์ จากนั้นก็หายกลับเข้าไปในครัว 


“พี่ก็นึกว่าใครมากดแตร ที่แท้ก็ปุ่นนี่เอง” หญิงสาวที่เพิ่งยกอาหารมาวางให้แขกเสร็จหันมาทักทายด้วยใบหน้ายิ้มแย้มอย่างเคย


“ผมเอาจดหมายมาส่งแทนซ้งน่ะครับ” ศิธาพัฒน์บอก “แล้วนี่น้าเดือนไม่อยู่เหรอครับ”


“แม่ออกไปซื้อของจ้ะ เพิ่งออกไปเมื่อกี้เอง กว่าจะแวะคุยกับเพื่อนรายทางจนครบ บ่าย ๆ โน่นแหละถึงจะกลับ ตามสบายนะจ๊ะปุ่น” ชลธรทิ้งท้ายเมื่อแขกที่นั่งอยู่โต๊ะด้านในยกมือเรียกให้คิดเงิน


ศิธาพัฒน์เดินไปนั่งลงที่โต๊ะประจำซึ่งอยู่ริมระเบียง ทอดตามองระดับน้ำในแม่น้ำวังที่เริ่มเพิ่มสูงขึ้น คงเป็นเพราะฝนที่ตกติดต่อกันหลายวันทำให้ทางการต้องระบายน้ำออกจากเขื่อน ฟังเสียงตะหลิวกระทบกับผิวกระทะดังอยู่ครู่หนึ่งพลันจมูกก็ได้กลิ่นหอม ในที่สุดอาหารจานโปรดก็ถูกยกมาเสิร์ฟ


“ข้าวผัดหมูไม่ใส่หอมใหญ่มาแล้วเจ้า”


ศิธาพัฒน์กล่าวขอบคุณเบา ๆ นึกแปลกใจที่คนที่ยกอาหารมาให้ไม่ใช่เต็มฟ้าแต่กลับกลายเป็นแม่ครัวใหญ่ประจำแสงจันทร์เกสต์เฮ้าส์


“จานนี้ฝีมือคุณเต็มเจ้า”


คนฟังชะเง้อมองไปยังห้องครัว ไม่ทันได้ถามหญิงสาวก็เอ่ยขึ้นเสียก่อน


“เดี๋ยวคุณเต็มออกมาเจ้า ไม่หนีไปไหนหรอกเจ้า”


ศิธาพัฒน์ยิ้มน้อย ๆ เมื่อไม่อาจซ่อนความเป็นกังวลให้พ้นสายตาผู้ใหญ่ แต่จะว่าไปความสัมพันธ์ระหว่างเขากับเต็มฟ้าก็กลายเป็นเรื่องปกติสำหรับคนใกล้ชิดไปเสียแล้ว เมื่อคิดได้ดังนั้นจึงลงมือรับประทานอาหารเงียบ ๆ จนกระทั่งอิ่มก็ยังไม่มีว่าอีกคนจะโผล่หน้ามาให้เห็นจึงเดินไปที่เคาท์เตอร์เพื่อหย่อนเงินใส่ทิปบ็อกซ์ที่ทำจากเซมิครูปสุนัขตัวกลมฝีมือตามตะวัน เพราะหากเอาให้ชลธรเธอก็คงปฏิเสธเหมือนเช่นเคย


“เย็นนี้เต็มไม่ได้เอาข้าวไปส่งให้พี่ปุ่นที่บ้านนะ” เต็มฟ้ากล่าวเมื่อเดินมาหยุดพร้อมกับส่งปิ่นโตเถาเล็กให้


“ทำไมล่ะ” แม้จะรับแล้วแต่ศิธาพัฒน์ก็ยังไม่ยอมปล่อยมือ


“เต็มต้องกลับไปที่โรงงานน่ะ”


“แล้วจะไปเมื่อไร”


“รอส่งพี่ปุ่นกลับก่อนแล้วค่อยไป”


ศิธาพัฒน์ยิ้ม “งานเยอะเหรอ”


“ลูกค้าขอเพิ่มจำนวน แถมจ่ายเงินมาแล้วด้วย”


“ก็ดีแล้วนี่นา”


“มันก็ดีอยู่หรอก ถ้าไม่มาขอเพิ่มหลังจากเอาไปแล้ว แถมให้เงินมาแล้วด้วย มัดมือชกกันชัด ๆ คงถือว่ารู้จักกับพ่อ เต็มยังมีของเจ้าอื่นที่เข้าคิวอยู่ตั้งเยอะ โรงงานเราก็ไม่ใช่โรงงานใหญ่”


“อย่าทำหน้าอย่างนั้นสิ เดี๋ยวเย็นนี้พี่ไปรับตามแล้วจะไปส่งที่บ้านให้ จะได้พาเจ้าแข็งแรงไปวิ่งเล่นด้วย”


เต็มฟ้าพยักหน้ายิ้ม ๆ ยอมรับว่าสายตาอ่อนโยนของอีกฝ่ายยังคงเป็นสิ่งที่ทำให้คนแข็งกระด้างเช่นเขาต้องพ่ายแพ้ทุกครั้งที่ได้สบกัน


“ไปทำงานได้แล้ว เหลือจดหมายอีกตั้งเยอะ กว่าจะส่งครบเดี๋ยวก็ค่ำกันพอดี” พูดพลางเสมองเลยไปยังกระเป๋าหนังท้ายรถที่เต็มไปด้วยกล่องพัสดุและซองจดหมาย


“ถ้าเขียนชื่อที่อยู่ของผู้รับถูกต้องน่ะ เดี๋ยวเดียวก็ส่งจนครบแล้ว แต่ถ้าไม่เขียนบ้านเลขที่ แถมเขียนแค่ชื่อเล่นละก็มีหวังได้เดินทั้งวันแน่ ๆ” พนักงานไปรษณีย์หนุ่มหัวเราะ ค่อย ๆ สืบเท้าใกล้เข้ามาอีกนิด ดวงตาจับจ้องใบหน้าของคนรัก


“เมื่อไรจะเลิกล้อเรื่องนี้สักที”


“พี่ไม่ได้ล้อ ทุกครั้งที่พูดถึงเรื่องนี้พี่คิดว่ามันเป็นความโชคดีมาก ๆ ต่างหาก”


“โชคดียังไง ต้องเดินตากแดดตามหาใครก็ไม่รู้”


“โชคดีที่สุดท้ายส่งโปสการ์ดใบนั้นก็ถึงมือคนรับ โชคดีที่ได้เห็นรอยยิ้มของน้องชายที่รอว่าเมื่อไรพี่ชายจะตอบจดหมายสักที ที่สำคัญ...” คนตัวสูงขยับเข้าใกล้พร้อมกับโน้มหน้ากระซิบ “ได้พี่ชายมาเป็นแฟน”


พูดจบศิธาพัฒน์ก็ขโมยหอมเข้าฟอดใหญ่ ส่วนเต็มฟ้าที่ไม่ทันตั้งตัวก็ได้แต่ยกมือขึ้นลูบแก้มของตนเองที่ขณะนี้ร้อนฉ่าไปหมด


“เดี๋ยวใครมาเห็น”


“เห็นก็เห็นสิ แต่พี่ว่าป่านนี้เขาคงชินแล้วละ” ว่าแล้วก็เตรียมจะทำแบบเมื่อครู่กับแก้มอีกข้าง แต่ก็เพราะเต็มฟ้าใช้มือที่เหลือดันแผงอกเอาไว้จึงต้องหยุด


“พ...พี่ปุ่น พอแล้ว”


“ยังไม่หายเหนื่อยเลย ขอพลังหน่อยไม่ได้เหรอ”


คนอายุน้อยกว่าได้แต่ส่ายหน้า สบสายตาเว้าวอนด้วยความเอ็นดู “ไปทำงานต่อได้แล้ว เดี๋ยวเต็มก็จะไปเหมือนกัน”


“ถ้าอย่างนั้น...ช่วยเติมพลังให้พี่หน่อยได้ไหม”


เต็มฟ้าโคลงหัวน้อย ๆ มองแก้มพองลมที่อีกฝ่ายยื่นเข้ามารอรับพลัง


“นะ”


“ไม่”


“นะ ๆ” ศิธาพัฒน์ยังคงรบเร้า


“ไม่เอา”


“นิดเดียวเอง”


เต็มฟ้าส่ายหน้ารัว เลื่อนมือทั้งสองขึ้นประคองสองแก้มของคนอายุมากกว่า ยืนกรานเสียงแข็ง “เต็มบอกว่าไม่ไง”


“ไม่ก็ไม่” ศิธาพัฒน์ทำหน้าผากย่นจำใจถอยห่างออกมาแล้วเลื่อนมือขึ้นวางบนศีรษะของคนตรงหน้าพร้อมกับโยกเบา ๆ “ถ้าอย่างนั้นพี่ไปแล้วนะ”


“อือ”


“ตอนเย็นเจอกัน”


“อื้อ” เต็มฟ้ารับคำ กำลังจะยกมือขึ้นไล่ อีกฝ่ายก็ก้าวเข้าประชิดตัวเสียแล้ว


มือใหญ่เลื่อนลงยึดที่ต้นคอได้ก็โน้มหน้าเข้าหาประกบจูบบนกลีบปากบาง ไม่ยอมให้ได้เอื้อนเอ่ยถ้อยคำต่อว่า เพียงชั่วพริบตาศิธาพัฒน์ก็ถอนริมฝีปากออก


“พี่ปุ่นทำอะไรเนี่ย” เต็มฟ้าบ่นขมุบขมิบ


“จูบไง หรือถ้าเต็มยังไม่แน่ใจ พี่ทำให้ดูอีกครั้งก็ได้”


เพื่อไม่ให้ทำอย่างที่ปากว่า เต็มฟ้าจึงยกมือขึ้นห้าม “พอแล้ว พี่ปุ่นไปทำงานได้แล้ว”
คนอายุมากกว่าคลี่ยิ้ม แม้ใจจะไม่อยากห่างไปไหน แต่สมองกลับสั่งร่างกายให้ถอยออกมา ด้วยภาระหน้าที่ที่รออยู่จึงทำให้จำต้องไปแล้วจริง ๆ

...


จานโลหะสำหรับขึ้นรูปดินเพิ่งหยุดหมุนไปเมื่อไม่กี่นาทีก่อนหลังจากทำงานอย่างต่อเนื่องมาตลอดบ่าย เต็มฟ้าคว้าเอ็นเส้นเล็ก ๆ ม้วนกับปลายนิ้ว ขึงให้ตึงเพื่อตัดฐานแจกันทรงสูงให้หลุดออก จากนั้นจึงถือไปวางลงบนโต๊ะที่อยู่ห่างไปไม่ไกล ชายหนุ่มกลับมานั่งลงที่เดิมยกหลังมือขึ้นปาดเหงื่อที่ซึมอยู่กับไรผมแล้วหยิบดินก้อนใหม่ขึ้นวางบนจานโลหะ กำลังจะกดปุ่มเริ่มต้นการทำงานพลันเสียงเห่าของเจ้าสุนัขพันธุ์ผสมบางแก้วก็ทำให้ต้องหยุด เอี้ยวตัวหมุนเก้าอี้มองหาต้นเสียง ไม่นานเจ้าแข็งแรงวิ่งผ่านประตูเข้ามา มันกระดิกหางแบบที่ศิธาพัฒน์มักพูดบ่อย ๆ ว่า “กระดิกจนหางจะหลุด” พร้อมกับกระโจนใส่ผู้เป็นเจ้าของด้วยความคิดถึง


“คิดถึงกันเหรอนังหนู” เต็มฟ้าว่าพลางลูบหัวเจ้าหมาขนยาวที่ตอนนี้ตัวโตจนเขาแทบจะทานแรงของมันไม่ไหว


“ขนาดคนไม่เจอกันแค่ไม่กี่ชั่วโมงยังคิดถึง แล้วนี่เจ้าแข็งแรงมันไม่ได้เจอเต็มตั้งนานก็ต้องคิดถึงสิ เนอะแข็งแรงเนอะ” ศิธาพัฒน์กล่าวเมื่อเดินมาถึง


“หลายวันที่ไหนเนอะ แค่วันเดียวเอง” ว่าแล้วก็กอดเจ้าสุนัขที่ยังคงแสดงท่าทางดีใจไม่หยุดเอาไว้แน่น 


“พี่ไปส่งตามที่บ้าน คุณลุงตรัยบอกว่าเต็มยังไงกลับ เลยออกมาตาม”


“กี่โมงแล้ว”


ศิธาพัฒน์ยกนาฬิกาข้อมือขึ้นดูก่อนจะตอบ “จะทุ่มแล้ว นี่เลยเวลาเลิกงานมาตั้งนานแล้วนะ ทำไมยังไม่กลับอีก คนงานก็กลับกันหมดแล้ว”


“งานยังไม่เสร็จนี่นา วันนี้คนงานก็ทำงานล่วงเวลากัน จะให้เต็มทิ้งไปได้ยังไง”


“แต่นี่ถึงเวลาพักแล้ว ต้องกลับไปกินข้าวไปอยู่กับคนที่บ้านสิ นี่พ่อกับน้องเขารอกินข้าวจนรอไม่ไหวแล้ว”


“พูดมาก กลับก็ได้” พูดจบก็ปล่อยเจ้าแข็งแรงลงแล้วเดินไปล้างไม้ล้างมือ


ศิธาพัฒน์วางปิ่นโตเถาเล็กลง ผิวสัมผัสยังอุ่น ๆ เพราะเขาให้พี่แจ่มช่วยอุ่นอาหารที่เต็มฟ้าทำให้ก่อนจะมาที่โรงงานเซรามิคท้ายไร่ ตาคมจับจ้องแผ่นหลังกว้างจากนั้นจึงสาวเท้าเข้าหาราวกับมีแรงดึงดูด แขนแกร่งสอดเข้าข้างลำตัวกอดคนตรงหน้าเอาไว้หลวม ๆ ดวงตาอ่อนโยนกดต่ำลงมองสายน้ำที่แทรกผ่านมือขาว   


“อยากให้เต็มกลับบ้านจริง ๆ หรือเปล่าเนี่ย”


“อยากให้อยู่ด้วยกันแบบนี้ก่อน แค่นาทีเดียวก็ได้”


คนฟังชะงัก หมุนปิดก๊อกน้ำแล้วกล่าว “ทำไมน้อยจัง”


“เต็มจะได้กลับไปอยู่กับพ่อกับน้องไง คนที่บ้านเขาก็ต้องการเต็มนะ รู้หรือเปล่า”


“ร...รู้” ลูกชายพ่อเลี้ยงตอบไม่เต็มเสียง


“ถ้าอย่างนั้นไปกินข้าวแล้วกลับบ้านกัน” พูดจบศิธาพัฒน์ก็รั้งข้อมืออีกฝ่ายให้เดินตามไปนั่ง


“พี่ปุ่นยังไม่ได้กินอีกเหรอ” เต็มฟ้าถามขึ้นเมื่อเห็นปิ่นโตเถาเดิมที่เขาเพื่อให้อีกฝ่ายไปเมื่อตอนเที่ยง


“ยัง ตั้งใจจะมากินที่นี่ ตอนที่แวะเข้าไปที่บ้านเห็นพี่แจ่มกำลังตั้งโต๊ะอาหารก็เลยให้พี่แจ่มช่วยอุ่นกับข้าวให้ พี่บอกคุณลุงตรัยไว้แล้วว่าจะมากินกับเต็ม ตอนแรกตามจะขอมาด้วยแต่คิดอยู่แล้วว่าเต็มต้องยังทำงานอยู่แน่ ๆ ก็เลยบอกให้น้องอยู่ทานข้าวเป็นเพื่อนพ่อ”


“จะหิ้วท้องมาทำไม”


ศิธาพัฒน์ทอดตามองชายหนุ่มที่กำลังนั่งลงเปิดปินโตเถาเล็กออก เขาไม่ตอบคำถามนั้นทั้งที่รู้ดีว่าเหตุผลคืออะไร


“พี่ปุ่นกินเลย เต็มกินกับพวกคนงานไปแล้ว เดี๋ยวเต็มไปหยิบน้ำให้” ว่าแล้วลูกชายพ่อเลี้ยงก็ไปเปิดตู้เย็นหยิบขวดน้ำแล้วเดินกลับมากระโดดขึ้นไปนั่งห้อยขาบนโต๊ะ ตามองคนที่เริ่มตักข้าวมือก็เปิดขวดน้ำไปด้วย “อร่อยไหม”


“อร่อย”


“กินคนเดียวไม่อร่อยละสิ” กล่าวพร้อมกับวางขวดน้ำลงใกล้มือ


“ก็รู้เหมือนกันนี่ ถ้ารู้...ครั้งต่อไปกลับมาบ้านก็กลับไปกินข้าวกับพ่อที่บ้านด้วยนะ”


“รู้น่า” เต็มฟ้ากล่าวตัดรำคาญ


คนอายุมากกว่าส่ายหัวน้อย ๆ เมื่อเห็นท่าทางของอีกฝ่าย นอกจากปากจะไม่ตรงกับใจแล้วยังแสดงออกต่างจากที่ใจคิด


หลังจากรับประทานอาหารเรียบร้อยก็ได้เวลากลับ เต็มฟ้าเดินตรวจตรารอบ ๆ โรงงานเซรามิคก่อนจะเดินมาหาศิธาพัฒน์ที่ยืนใส่กุญแจประตูอยู่ที่ด้านหน้า เสียงเตือนข้อความรับเข้าทำให้ชายหนุ่มต้องดึงโทรศัพท์ออกมาจากกระเป๋ากางเกง พลันรอยยิ้มก็ปรากฏขึ้นบนใบหน้า


“เก้กับดุ่ยส่งรูปมาให้ดู”


ศิธาพัฒน์พยักหน้าพลางนึกถึงสองหนุ่มที่เพิ่งอำลากันที่สถานีรถไฟนครลำปางเมื่อเช้าวันก่อน “ป่านนี้ไปเที่ยวถึงไหนกันแล้ว”


“อยู่เชียงใหม่น่ะ เพิ่งเจอกับพี่ ๆ ที่ทำงานที่เขานั่งเครื่องบินมา เห็นว่าพรุ่งนี้จะไปแม่ฮ่องสอนกัน”


“น่าเสียดายนะที่เต็มไม่ได้ไปด้วย มัวแต่ทำงาน ระวังเถอะเพื่อน ๆ เขาจะหาว่าทิ้งเพื่อนทิ้งฝูง”


“บ่นอีกแล้ว ก็งานมันเร่งจริง ๆ นี่นา” เต็มฟ้าว่าพลางใช้ปลายนิ้วเลื่อนภาพบนหน้าจอสัมผัส “ดูรูปดีกว่า สวยไหม”


“ที่ไหนน่ะ”


“สะพานทาชมภู เมื่อวานสองคนนั้นไปลงที่สถานีแม่ทา”


“สวยจัง เหมือนสะพานขาวที่บ้านเราเลย” ศิธาพัฒน์ว่าพลางจ้องมองภาพสะพานโค้งสีขาวที่ตั้งเด่นเป็นสง่าอยู่ท่ามกลางทุ่งหญ้าสีเขียวขจี


เต็มฟ้าเหล่มองคนที่ถือโอกาสกอดตนเองจากด้านหลังพร้อมกับทิ้งน้ำหนักวางคางลงบนบ่าของตน “บ้านเต็มคนเดียวต่างหาก”


“ใจร้าย” พูดพร้อมกับแกล้งใช้ปลายจมูกถูที่แก้มของคนในอ้อมแขนแล้วกระซิบ “ต้องทำยังไงพี่ถึงจะได้เป็นเขยลำปาง”


“ก็ต้องไปขอลูกสาวบ้านไหนสักบ้านแต่งงาน”


“พี่หลงรักลูกชายบ้านนี้ไปแล้วด้วยสิ ถ้าอย่างนั้นขอลูกชายบ้านนี้ได้ไหม พี่อยากอยู่บ้านนี้”


“ไปถามพ่อโน่น” เต็มฟ้าทำเสียงแข็งมุ่นคิ้วเขิน ๆ ก่อนจะขยับจนหลุดจากวงแขน


“ถ้าอย่างนั้นรีบกลับบ้านกัน พี่จะไปถามคุณลุงตรัย” ศิธาพัฒน์บอกก่อนจะหันไปเรียกเจ้าหมาน้อยที่นอนพิงล้อรถจักรยานยนต์คันเก่ารอเวลาที่เจ้านายทั้งสองจะพากันกลับบ้าน “แข็งแรงขึ้นรถ”


เจ้าสุนัขตัวอ้วนรีบผุดลุกขึ้นกระดิกหางเดินวนไปรอบ ๆ และเมื่อศิธาพัฒน์ขึ้นนั่งประจำที่มันก็ค่อย ๆ ปีนขึ้นไปนั่งที่ด้านหน้า เพราะตัวที่ใหญ่โตทำให้มันไม่สามารถนั่งชูคอในตะกร้าได้อีกต่อไป


เต็มฟ้ารู้ดีว่าสิ่งที่ศิธาพัฒน์พูดจบเมื่อครู่เพียงต้องการจะล้อเขาเล่น เพราะทุกวันนี้อีกฝ่ายก็กลายมาเป็นสมาชิกคนหนึ่งของบ้านไปแล้ว แต่สิ่งที่เป็นจริงคือภาพปรากฏอยู่ตรงหน้าทำให้รู้ว่าช่วงเวลาของการที่ต้องแยกย้ายกันไปใกล้เข้ามาทุกที 


“เต็มนำไปเลย เดี๋ยวพี่ขี่มอเตอร์ไซค์ตาม” หนุ่มไปรษณีย์หันมาบอกคนที่ยังคงยืนนิ่ง


คนอายุน้อยกว่าส่ายหัว “เต็มจะไปกับพี่ปุ่น” พูดจบลูกชายพ่อเลี้ยงก็กระโดดขึ้นนั่งซ้อนหลัง


“เกาะแน่น ๆ ด้วยล่ะ ระวังตก” ศิธาพัฒน์กำชับพลางรั้งมือขาวให้จับชายเสื้อของตน แต่แทนที่เต็มฟ้าจะทำตาม เขากลับกอดเอวของอีกฝ่ายไว้แน่นพร้อมกับแนบแก้มลงกับแผ่นหลังกว้าง “พี่ปุ่นก็ขี่ไปช้า ๆ สิ เต็มจะได้ไม่ตก”


“อยากอยู่กับพี่นาน ๆ เหรอ” เมื่ออีกฝ่ายตอบรับโดยการพยักหน้าจึงกล่าวต่อ “ถ้าอย่างนั้นพี่พาไปวนที่พระธาตุลำปางหลวงก่อนดีไหมแล้วค่อยเข้าบ้าน”


“ตามใจพี่ปุ่นเลย”


เมื่อได้ฟังดังนั้น ศิธาพัฒน์จึงกุมมืออีกฝ่ายไว้แน่นก่อนจะออกรถ หากมองจากที่ไกล ๆ จะเห็นแสงไฟค่อย ๆ เคลื่อนไปตามเส้นทางคดเคี้ยว รถจักรยานยนต์คลาสิกเคลื่อนที่อย่างช้าที่สุดเพราะเจ้าของต้องการยืดเวลาที่จะได้กุมมือกันเช่นนี้ออกไปให้นานที่สุด


...

(มีต่อค่ะ)
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 05-03-2018 07:02:46 โดย ถ้าเธอเป็นท้องฟ้า »

ออฟไลน์ ถ้าเธอเป็นท้องฟ้า

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 378
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +466/-3
    • ถ้าเธอเป็นท้องฟ้า
(ต่อค่ะ)

ศิธาพัฒน์มองเด็กชายวัยสิบสี่ปีกับเจ้าสุนัขเพศเมียที่แย่งกันโผล่หน้าออกนอกหน้าต่างผ่านกระจกมองหลังยามเมื่อภาพของสะพานโค้งสีขาวปรากฏขึ้นตรงหน้า ทั้งคนและหมาดูตื่นเต้นเป็นพิเศษพอ ๆ กับตัวเขาในตอนนี้ที่เพิ่งมีโอกาสมาที่นี่เป็นครั้งแรก ชายหนุ่มดึงสายตากลับมายังเสี้ยวหน้าของคนนั่งข้าง ๆ ที่กำลังมองออกไปนอกหน้าต่างก่อนที่มือใหญ่จะสัมผัสกับกับท่อนแขนเย็นเฉียบเรียกให้อีกฝ่ายได้เห็นภาพน่ารัก


เต็มฟ้ายิ้มน้อย ๆ เมื่อเหลียวไปมองด้านหลังกระนั้นก็ยังอดปรามน้องไม่ได้ “ตาม อย่ายื่นหน้าออกไปเยอะ”


“ไม่เป็นไรหรอกครับพี่เต็ม แถวนี้ไม่มีรถเลยสักคัน” ว่าแล้วก็ใช้มือเกาะพนักรั้งตัวเองขึ้นกระซิบคนขับ “ตามอยากไปถึงที่สะพานนั่นเร็ว ๆ จัง พี่ปุ่นขับเร็ว ๆ หน่อยได้ไหมฮะ”


“อย่าใจร้อนนักสิวัยรุ่น” ศิธาพัฒน์หัวเราะ


ทันทีที่รถเก๋งสีดำแล่นมาจอดที่ริมแม่น้ำ ตามตะวันก็รีบเปิดประตูวิ่งไปที่ระเบียงไม้ ดวงตาจับจ้องสะพานโค้งสียาวที่ทอดยาวเชื่อมสองฝั่งเข้าด้วยกันเพื่อให้รถไฟสัญจรได้สะดวก กล้องโพราลอยด์ที่คล้องอยู่กับคอถูกยกขึ้นบันทึกภาพ และเมื่อเจ้าแข็งแรงมายืนร้องหงิง ๆ อยู่ใกล้ ๆ เขาก็ย่อตัวลงลูบหัวมันก่อนจะพากันวิ่งเล่นไปบนผืนหญ้าสีเขียวสด ปล่อยให้พี่ชายทั้งสองเดินจูงมือกันขึ้นไปบนเนินซึ่งพาดทับด้วยรางรถไฟ ดวงอาทิตย์คล้อยต่ำลง อีกไม่นานความมืดจะโรยตัวบดบังของสะพานแห่งนี้ แต่เมื่อถึงเช้าวันใหม่สะพานสีขาวจะกลับมาอวดความงามให้ปรากฏแก่สายตาของผู้ที่เดินทางผ่านไปมาอีกครั้ง 


เต็มฟ้ามองเจ้าของร่างสูงที่ยื่นมือให้เกาะขณะที่เขาพยายามทรงตัวเดินบนรางโลหะ อดถามสิ่งที่อยากรู้ไม่ได้ “พี่ปุ่นรู้สึกว่าตัวเองเป็นผู้ใหญ่ตอนไหน”


“อืม...ก็คงเป็นตอนที่ตัดสินใจลาออกจากงานที่ทำแล้วไปสมัครสอบเป็นนักเรียนไปรษณีย์นั่นละมั้ง มันเหมือนเราได้ทำในสิ่งที่อยากทำจริง ๆ แล้วก็ต้องรับผิดชอบในผลที่ตามมา เต็มถามทำไมเหรอ”


คนอายุน้อยกว่าไม่ได้ตอบ ขายาวก้าวไปเรื่อย ๆ ในขณะที่สองมือยังไม่คลายจากกัน มีบ้างที่เกือบจะหล่นลงจากราง แต่ศิธาพัฒน์ก็ช่วยประคองให้เดินต่อได้ทุกครั้ง


หนุ่มไปรษณีย์จ้องใบหน้าเรียบนิ่งของคนรักก่อนจะรั้งให้หยุดเดินแล้วเอ่ยขึ้น “มีเรื่องไม่สบายใจหรือเปล่า เล่าให้พี่ฟังได้นะ” 
แม้คำตอบจะเป็นเพียงการเงียบ แต่ศิธาพัฒน์ก็พอจะมองเห็นคำตอบอยู่บนใบหน้าเรียบนิ่งนั้น


“ลงไปข้างล่างกันเถอะ” เต็มฟ้าเอ่ยขึ้น


ดังนั้นสองคนจึงเดินลงจากสะพานแล้วพากันไปนั่งยังม้าหินตัวยาวที่ริมแม่น้ำ


“เป็นอะไรไป ไหนบอกให้พี่ซิ”


เต็มฟ้าไม่ตอบแต่กลับเอนกายลงนอนหนุนตักแล้วดึงมืออีกฝ่ายมาวางบนศีรษะ “ลูบหัวเต็มหน่อย”


ศิธาพัฒน์ยิ้มพลางทอดตามองเปลือกตาที่ค่อย ๆ ปิดลง สัมผัสมือลงบนเส้นผมสีเข้มอย่างอ่อนโยน “บอกให้พี่ได้ไหมว่าเต็มกำลังรู้สึกยังไง หรือคิดอะไร”


“เหนื่อย” เป็นคำตอบสั้น ๆ ที่หลุดออกจากปาก


“ถ้าอย่างนั้นวันหลังก็ให้คนงานเอางานเข้าเตาให้สิ เล่นทำเองหมดทุกขั้นตอนแบบนี้ก็ต้องเหนื่อยเป็นธรรมดา”


“ไม่ใช่เรื่องนั้น เต็มไม่ได้เหนื่อยเพราะทำงาน แต่เต็มเหนื่อยที่ต้องพยายามเป็นผู้ใหญ่” คนพูดพรูลมหายใจ “ไม่รู้ว่าแม่จะภูมิใจในสิ่งที่เต็มกำลังทำอยู่ไหม ส่วนที่คิดว่าจะแบ่งเบาภาระของพ่อด้วยการดูแลน้อง เต็มก็ไม่รู้ว่าเต็มทำมันได้ดีแล้วหรือยัง บางครั้งก็เป็นอิสระจากเรื่องพวกนี้ ไม่ใช่ไม่อยากทำนะ แต่ไม่อยากคิดหาคำตอบอีกแล้ว อยากกลับไปเป็นเด็ก นอนหนุนตักแม่ หลับตาฟังนิทานที่พ่อเล่า”


“ถ้าเหนื่อยก็นอนนะ” มือใหญ่ยังคงลูบเบา ๆ บนศีรษะอย่างที่อีกฝ่ายต้องการ “พี่เล่านิทานให้ฟังเอาไหม”


ได้ยินดังนั้นเต็มฟ้าจึงเปิดเปลือกตาขึ้น “ไม่เอากระต่ายกับเต่านะ พ่อเล่าให้ฟังจนเบื่อแล้ว”


คนอายุมากกว่าคลี่ยิ้ม “ไมใช่หรอก มันเป็นเรื่องของนกพิราบสีขาวน่ะ” ศิธาพัฒน์บอกพลางเสยผมของอีกฝ่ายขึ้น “หลับตานะ แล้วพี่ปุ่นจะเล่าให้ฟัง”


เต็มฟ้าพยักหน้า ทำตามอย่างว่าง่าย


“ชายหนุ่มคนหนึ่งถูกเกณฑ์ไปเป้นทหารที่ชายแดน เขาก็เลยเอานกพิราบที่เลี้ยงไปด้วย เวลาผ่านไปหลายเดือน ชายหนุ่มรู้สึกคิดถึงคนรักมากแต่ก็ไม่รู้จะทำยังไง เพราะหนทางนั้นยากลำบากและเกินเกินกว่าที่ความคิดถึงจะเดินทางไปถึงคนที่ปลายทาง เจ้านกพิราบจึงรับอาสานำจดหมายไปส่งให้ ตอนแรกเขาก็ไม่เห็นด้วยกับวิธีการนี้สักเท่าไร แต่เพราะความคิดถึงเขาจึงตัดสินใจเขียนจดหมายใส่กระดาษแผ่นเล็กใส่ปลอกที่ติดอยู่กับขาของเจ้านก ปล่อยมันบินไปพร้อมกับภาวนาให้มันเดินทางปลอดภัย นำจดหมายแผ่นน้อยที่อัดแน่นด้วยความรักไปให้ถึงมือหญิงสาวผู้เป็นที่รักให้จงได้ เจ้านกพิราบสีเขาบินไปกลับแบบนี้อยู่หลายปี...” ตาคมหยุดมองเด็กชายตัวเล็กและเจ้าสุนัขตัวอ้วนกลมที่กำลังพยายามหาทางขึ้นไปบนเนินอย่างทุลักทุเล แต่เมื่อทั้งคู่สามารถขึ้นไปวิ่งเล่นบนรางรถไฟได้ คนที่เอาใจช่วยอยู่ห่าง ๆ ก็พลอยยิ้มไปด้วย


“...จนบางทีมันก็อดคิดไม่ได้ว่ามันทำแบบนี้ไปเพื่ออะไร มันควรจะได้บินอย่างอิสระไปในที่ที่อยากไป และเพราะหนทางแสนไกล ต้องพบกับภัยต่าง ๆ มากมาย บางครั้งมันจึงคิดอยากมีปีกที่แข็งแกร่งเหมือนนกอินทรีย์และบินได้รวดเร็วแบบเหยี่ยว แต่สุดท้ายเงาสะท้อนบนผิวน้ำก็ทำให้รู้ว่ามันคือนกพิราบ และหน้าที่ของมันก็คือการส่งข่าวจากคนรักไปถึงคนรัก เแม้นายทหารหนุ่มจะไม่เคยเอ่ยปากชื่นชมในสิ่งที่มันทำเลยสักครั้ง แต่เจ้านกพิราบก็ยังทำหน้าที่อย่างแข็งขัน รอยยิ้มของเจ้านายเมื่อได้รับข้อความตอบกลับคือกำลังใจให้มันพยายามบินไปให้ถึงปลายทาง และพยายามรักษาตัวให้ปลอดภัยเพื่อจะมีชีวิตอยู่ทำหน้าที่นี้ได้นานที่สุด...”


“แล้วสุดท้ายเป็นยังไง”


“สองปีต่อมา หลังจากปลดประจำการชายหนุ่มก็กลับไปยังบ้านเกิดเพื่อขอหญิงสาวเป็นคู่ชีวิต เจ้านกพิราบสีขาวถูกปล่อยให้เป็นอิสระ ในขณะที่พิธีแต่งงานถูกจัดขึ้นอย่างเรียบง่าย เวลาผ่านไปหลายปีจนความตายทำให้ต้องกล่าวคำอำลากัน”


“นกพิราบตายเหรอ” เต็มฟ้าลืมตาขึ้น


“มันเป็นกฎของธรรมชาติ” ศิธาพัฒน์บอกเสียงเรียบก่อนจะเล่าต่อ “ภรรยาของชายหนุ่มให้กำเนินลูกชายหนึ่งคน แต่เมื่อลูกชายเติบโตขึ้น ชายคนนั้นก็มักจะเปิดอัลบั้มรูปให้ลูกดูพร้อมกับเล่าถึงเหตุการณ์ในอดีต เกือบทุกรูปจะมีเจ้านกพิราบอยู่กับเขาไม่ห่าง แม้แต่ในวันสุดท้ายของชีวิตมัน จบแล้ว”


“กำลังจะบอกให้เต็มเป็นนกพิราบ ไม่ต้องเป็นนกอินทรีย์หรือเหยี่ยวใช่ไหม”


“เปล่า พี่จะบอกให้เต็มเป็นเต็ม ไม่ต้องเป็นแบบใคร ไม่ต้องเข้มแข็งตลอดเวลา ถ้าวันไหนอยากพักก็นอนตักพี่ แล้วก็เลิกคิดหาคำตอบ เพราะเต็มมีคำตอบให้กับตัวเองอยู่แล้ว...” ศิธาพัฒน์กล่าวพลางใช้นิ้วหัวแม่มือเกลี่ยแก้มคนฟังเบา ๆ กำลังจะพูดต่อแต่เสียงของตามตะวันก็ดังขัดจังหวะเสียก่อน


“พี่เต็ม! พี่ปุ่น! มาถ่ายรูปกันครับ พระอาทิตย์จะตกดินแล้ว!”


เต็มฟ้าอมยิ้มพร้อมกับลุกขึ้นนั่ง หันไปยกมือเป็นสัญญาบอกว่าเขาได้ยินแล้ว


“เต็มไม่ต้องหาคำตอบหรอกว่าที่ทำอยู่มันดีแล้วหรือยัง เพราะคำตอบมันก็อยู่ในรอยยิ้มของทุกคนที่เต็มรักอยู่แล้ว เข้าใจที่พี่พูดไหม”


คนอายุน้อยกว่าหันมาพยักหน้าสบตา “สัญญาว่าจะทำให้พี่ปุ่นยิ้มทุกวัน”


“นี่บอกรักพี่เหรอ”


“บอกรักอะไรเล่า” พูดจบก็ ดึงมืออีกฝ่ายให้ลุกขึ้น “ไปถ่ายรูปกัน”


พนักงานไปรษณีย์หนุ่มโคลงหัวก่อนจะลุกยืน จากนั้นสองคนก็เดินจูงมือกันมุ่งหน้าสู่สะพานสีขาว


เมื่อเต็มฟ้าและศิธาพัฒน์เดินขึ้นไปถึงบนเนินก็พบว่าน้องชายได้ตั้งกล้องรออยู่แล้ว เด็กชายวางโพราลอยด์ตัวเก่งลงกับขอบสะพาน ก้มลงมองภาพที่ช่องมองภาพแล้วเงยหน้าบอกตำแหน่งการยืนของทุกคน


“พี่ปุ่นชิด ๆ พี่เต็มหน่อยฮะ”


“แค่นี้พอไหม” ศิธาพัฒน์ถามพลางขยับเข้าใกล้


“อีกนิดฮะ”


“ได้หรือยัง”


“อีก ๆ”


“ถ้าอย่างนั้นพี่กอดพี่ชายตามแล้วนะ”


เต็มฟ้าหันขวับ แต่ก็ยังไม่คิดว่าอีกฝ่ายจะทำตามที่พูดจนกระทั่ง...


“กอดเลยครับ”


“นี่ก็ไม่ได้หวงกันเลย” คนพี่บ่นงึมงำเมื่อแขนแกร่งของศิธาพัฒน์แนบลงที่เอว


“จะหวงทำไม พี่หวงคนเดียวก็พอแล้ว” ศิธาพัฒน์กระซิบ ไม่นานก็ต้องละสายตาจากพวงแก้มขึ้นสี เมื่อได้ยินเสียงเรียกของตามตะวัน


“พี่ปุ่นมองกล้องนะครับ ยิ้มด้วย” พูดจบหนุ่มน้อยก็กดชัตเตอร์แล้ววิ่งมารวมกับพี่ ๆ “แข็งแรงมานี่เร็ว”


เมื่อแข็งเรงได้ยินเสียง มันก็รีบวิ่งเข้าไปหาเจ้านายตัวน้อยของมันทันที ตามตะวันกอดคอเจ้าสุนัขขนปุยแน่นพร้อมกับยิ้มกว้าง และภาพที่ได้ก็เต็มไปด้วยรอยยิ้มของทุกคน...


“ตามไปถ่ายทางโน้นนะฮะ” พูดจบตามตะวันก็คว้ากล้องเดินไปตามรางรถไฟ


ดวงตาสองคู่จับจ้องไปยังร่างเล็กของเด็กชาย ข้างกันคือเจ้าสุนัขขนยาวที่เดินตามเจ้านายไม่ห่าง 


“ปล่อยได้แล้วมั้ง” เต็มฟ้าเอ่ยขึ้น


“ไม่ปล่อยจนกว่าจะตอบว่าเมื่อกี้บอกรักพี่หรือเปล่า” พูดจบศิธาพัฒน์ก็ยกแขนข้างที่เหลือโอบเอวของอีกฝ่ายไว้แน่น


“ก็บอกว่าเปล่าไง” เต็มฟ้าว่าพลางขยับตัวให้หลุด แต่ยิ่งพยายาม ท่อนแขนแกร่งก็ยิ่งกอดแน่นขึ้นไปอีก “ปล่อยเลย ถ้าไม่ปล่อยเต็มจะเรียกน้องมาจัดการพี่ปุ่น”


ศิธาพัฒน์ยิ้มกว้างแล้วโน้มหน้าเข้าหาจนหน้าฝากชนกัน “เมื่อกี้ยังไม่รู้อีกเหรอว่าตามเป็นพวกใคร” พูดจบก็เลื่อนมือขึ้นประคองสองแก้มสีเรื่อก่อนจะมอบจูบแสนหวานให้คนที่อาจขยับหนี


ริมฝีปากอุ่นขบเม้มกลีบปากบางซ้ำแล้วซ้ำเล่าจนพอใจแล้วผละออกในขณะที่ดวงตาสองคู่สบกันนิ่ง


“สัญญากับพี่นะว่าถ้าต่อไปเต็มมีเรื่องทุกข์ใจจะบอกให้พี่รู้”


เต็มฟ้าพยักหน้า   


“ต้องบอกกันทุกเรื่อง ห้ามเก็บไปคิดคนเดียว”


“อือ...เต็มสัญญา สัญญาว่าจะบอกทุกเรื่อง รวมถึงเรื่องที่...” พูดจบเต็มฟ้าก็ยกแขนขึ้นคล้องคอคนตรงหน้าแล้วขยับเข้ากระซิบที่ข้างหู...


“เต็มรักพี่ปุ่น”



จบ



ออฟไลน์ Billie

  • "Let come what comes, let go what goes and see what remains. That is what is real"
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3327
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +78/-6
 :L2: :pig4: :L1:

ดีใจที่ได้อ่านตอนพิเศษ

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด