- รักชาชา - A kiss from milk tea : ตอนพิเศษ - Lost Star #2 : page 46 : 30/08/15
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: - รักชาชา - A kiss from milk tea : ตอนพิเศษ - Lost Star #2 : page 46 : 30/08/15  (อ่าน 629170 ครั้ง)

ออฟไลน์ GintoniC

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 829
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +66/-0
โฟร์คน่ารักอ่ะ  :o8:

ออฟไลน์ PoPuAr

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1422
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +97/-2
โฟล์คแสนดีม๊ากมาก อยากมีมั่งอะผชแบบนี้
อยู่ด้วยคงจะมีความสุขมากๆๆ (มโนไปก่อนละกัน)
รอวันที่น้ำชาจะรักโฟล์คเต็มหัวใจนะ
 

ออฟไลน์ badbadsumaru

  • ♡ caramel macchiato
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2458
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +91/-2
ชอบบบบ คู่นี้น่ารักอ่ะ

ออฟไลน์ ppoi

  • When nothing goes right... GO LEFT.
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 720
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +54/-12
เข้ามาเชียร์ โฟร์ค  :กอด1: น้ำชา ด้วยอีกคน

แต่อิจารย์กฤตฎ์นี่ โฉดจริงไรจิงนะ คือจะเลิกทั้งที ช่วยให้มันเป็นกิจลักษณะหน่อย คือนัดไปคุยดีๆ นี่อัลไลฟีเจอริ่งกันเหมือนเดิม พอเสร็จสมอารมณ์หื่นตัวเองแล้วก็บอกเลิก ได้เวลาแต่งงานมีครอบครัว ห่านนนนนนนนน

ส่วนโฟร์ค เปิดเรื่องมานี่นึกว่าโฉดอย่างขุ่นพี่จอมทัพซ้าาาาา แต่กลายเป็นมุ้งมิ้งเฟร่อออ ซะงั้น  :o

...แต่แอบรู้สึกว่า... ฟ้าฝนเริ่มตั้งเค้า... ช่วงเริ่มเปิดใจ เริ่มมุ้งมิ้ง ของนิยายเนี่ยแหล่ะ ระทึกนัก ชอบสาดมาม่าใส่ไม่ทันให้ตั้งตัว  o22

รอต่อนะเตง รอทั้งน้ำชา รอทั้งมิถุนา  :impress:

ออฟไลน์ ไอ้หัวแห้ว

  • ยิ่งมืดเท่าไหร่ ยิ่งเห็นดวงดาวชัดเจน...
  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4479
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +568/-5
โอ้ย ชอบบบบบบบ

^________________________^

ออฟไลน์ omyim_jjj

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 632
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +29/-1
รอตอนต่อไปจร้าาา

ออฟไลน์ DeShiWa

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4332
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +150/-9
เพิ่งมารู้ว่าคนแต่งคนเดียวกับ ล่ารัก กลี้ดดดดดด

ชอบๆ อาทิตละตอนก็ยังดีครับ

ชอบพระเอกของเราซะแล้ว

เป็นกำลังใจให้ครับ ติดตามเสมอ

ออฟไลน์ ratnalin

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 743
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +71/-2
ในช่วงที่เรากำลังอ่อนแอถึงขีดสุด ถ้ามีใครมาทำดีด้วยก็คงหวั่นไหวไปได้ง่ายๆ แต่สุดท้ายจะรอดไหม ก็ขึ้นกับคนสองคนนี้แหละ
ชอบโฟลคจังค่ะ ผู้ชายแบบนี้สุดยอด เอาชนะใจชาให้ได้นะ

รอตอนต่อไปจ้า

ออฟไลน์ ๐๐ตะวัน๐๐

  • ๐๐๐ลูกตาล๐๐๐
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1104
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +89/-3
โฟล์คทำเราหลงอีกแล้วอ่ะ น่ารักแสนดีขนาดนี้

ออฟไลน์ kun

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3592
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +122/-10
พระเอกเรื่องนี้น่ารัก

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ ToeyTato

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1289
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +81/-1
ยาวปายยยยยยย ขอให้ความสัมพันธ์นี้ยาวไป น่ารักดีมันมีความละมุนอบอุ่นในบรรยากาศตลอดเลยอ่ะ

ออฟไลน์ krappom

  • 人は誰でもそれぞれに悩みを抱えて生きる
  • เป็ดนักโพสมือดี
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7395
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1182/-23
คือแบบมันแอร๊ววววววววอะ
แอบหลงรักโฟล์ค
 :hao7:

ออฟไลน์ aiLime13

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 462
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1146/-11
    • twitter
โฟล์คคคคคค  :hao5:

ยิ่งอ่านยิ่งรู้สึกว่าชอบพระเอก ชอบผู้ชายแบบโฟล์คมากเลยค่ะ ฮืออออ
ชอบตอนที่โฟล์คเรียก ชา มันฟังแล้วแบบ ชา ชา ชา โอ้ยยยยย น่ารักกกก บอกไม่ถูก แต่ชอบมาก T_T

โฟล์คแสนดีขนาดนี้.. ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมชาถึงต้องแคร์โฟล์ค
แอบหวั่นใจอยู่เหมือนกันกลัวชารับโทรศัพท์จากกฤษ กลัวชาใจอ่อน กลัวชาทิ้งโฟล์คไป กลัวโฟล์คเสียใจ โอย
(นี่อวยเข้าข้างพระเอกแบบลำเอียงเห็นๆ กร้ากกกกกกกกกกก)  :sad4:

ไปออกกองคราวนี้จะเกิดอะไรขึ้นนะ? ลุ้นค่ะ ติดตามตอนต่อไปน้า >_<

ออฟไลน์ howru

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 216
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +17/-1
น้ำชาน่ารักจัง

ออฟไลน์ iammz

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2681
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +292/-6
หนูชาหวั่นไหวแร้ววอ่าา

 :katai2-1:

ออฟไลน์ DeShiWa

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4332
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +150/-9
รออ่านอยู่นะครับ

ออฟไลน์ เด็กหญิง

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 204
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-0
มารอค่ะ  :call: :call:

ออฟไลน์ PoppyPrince

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 244
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-0
Re
«ตอบ #227 เมื่อ21-02-2014 17:03:29 »

น่ารักจัง ชอบโฟล์ค  นายหล่อมากอะ

ออฟไลน์ kyliewonderland

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 224
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +565/-4


ตอนที่5: รู้บ้างไหม










ไอ้โฟล์ค ไอ้เหี้ย ไอ้โฟล์ค ไอ้เหี้ย


ผมนั่งท่องสองคำนี้ในใจมาตลอดนับตั้งแต่ผมผละออกจากอกของมันแล้วเดินเข้าไปล้างหน้าล้างตา คือจริงๆโฟล์คแม่งไม่ได้จัญไรอะไรหรอกครับ แต่มันทำผมร้องไห้ ร้องไห้! คนอย่างนายพิชชานะครับร้องไห้ ซึ่งจริงๆแล้วในฐานะมนุษย์ ผมก็มิสิทธิ์ที่จะมีความรู้สึกแบบคนอื่นนั่นแหละครับ แต่-แต่แม้แต่กฤษฎ์ยังไม่มีโอกาสได้เห็นน้ำตาของผม โฟล์คนี่มันเป็นใครกัน

ยากจะยอมรับ แต่ผมก็ต้องยอม ว่ามันเข้ามาในชีวิตผมมากขึ้นเรื่อยๆ ทั้งที่เรารู้จะกันไม่กี่วันด้วยซ้ำ

หลังจากโฟล์คคุยโทรศัพท์กับเพื่อนสักคนเสร็จ มันก็หยิบกระเป๋าเป้ใบใหญ่ของมันขึ้นสะพาย พร้อมกระเป๋าอุปกรณ์อะไรก็ไม่รู้ ที่ผมอาสาจะช่วยมันถือ แต่มันก็บอกว่าไม่ต้อง แล้วให้ผมเดินนำออกไปที่ที่จอดรถ วันนี้มันเลือกรถนิว บีทเทิลคันเดิม หลังจากจัดการบรรจุของเข้าที่กระโปรงหลังเรียบร้อยแล้ว มันก็ขึ้นประจำที่นั่งคนขับ


“ล็อคเบลท์ด้วย" มันว่า เมื่อเห็นผมที่ขึ้นมาแล้วเอาแต่นั่งไล่หน้าจอมือถืออย่างเลื่อนลอย ผมมองหน้ามันนิดหน่อยเหมือนเพิ่งรู้ตัว มันจึงเอื้อมมือมาคาดเข็มขัดนิรภัยให้ผมด้วยตนเอง

ปลายจมูกมันเฉียดแก้มผม ใบหน้าก็ใกล้กันมากจนแทบได้ยินเสียงลมหายใจ ผมกลั้นหายใจไปพักใหญ่ จนกระทั่งมันถอยตัวกลับไป


“ไปสูบบุหรี่มาใช่ไหม?” มันถาม มองหน้าผม ผมได้แต่พยักหน้าเบาๆ
“อือ"
“อย่าสูบเลย" มันว่าเรียบๆ ผมมองหน้ามันกลับก่อนร้องเหอะ
“มึงก็เลิกก่อนสิ"
“กูเลิกตอนนี้ไม่ได้หรอก งานมันเครียดจะตาย" ข้ออ้างไหมเนี่ย ไอ้สัด
“กูก็เครียด งานเยอะแยะ"
“แต่มึงทำได้" มันว่า
“...ขับรถไปได้แล้ว จะไปรับเพื่อนไม่ใช่หรือไง?” ผมถอนหายใจนิดหน่อยก่อนบอกมัน โฟล์คไม่ได้พูดอะไรเพิ่มเติม แต่ยอมออกรถแต่โดยดี


ตลอดทางเราไม่ได้คุยอะไรกันมากนัก ผมเหนื่อย แถมในใจมันโหวงพิลึกเหมือนมีหลุมดำฝังอยู่ โฟล์คฮัมเพลงของมันไปเบาๆ มันพาผมขึ้นสะพานตากสิน ในช่วงกลางวันของวันเสาร์เช่นนี้รถไม่ได้ติดมากจนขยับตัวไม่ได้ จากสาธรทะลุออกไปฝั่งธนบุรีได้ภายในไม่ถึงยี่สิบนาที หลังจากนั้นมันก็พาผมเข้าพรานนก ทะลุเข้าคลองบางกอกน้อย ภายในเวลาไม่ถึงชั่วโมง

โฟล์คมองหน้าผมเมื่อเห็นผมหาววอด มันเอื้อมมือมาลูบหัวผมเบาๆ ก่อนหันกลับไปสนใจถนนตรงหน้าเหมือนเดิม


“รู้จักแยมไหม?” มันถาม ผมเลิกคิ้ว
“แยม? เพื่อนมึงน่ะเหรอ?” ผมย้อนถาม มันพยักหน้า
“เพื่อนไอ้กายด้วย" มันว่า "กู ไอ้กาย แยม แล้วก็เต อยู่มอปลายห้องเดียวกัน ห้องกูสนิทกันทั้งห้อง เรียกว่ากลุ่มเดียวกันหมดเลยก็ได้"
“แล้ว?”
“พวกกูสามคนติดนิเทศฯน่ะ ส่วนไอ้กายติด'ถาปัตย์" มันบอก "กูก็แปลกใจว่าทำไมไม่เคยเจอมึง กูรู้จักมึงมาก่อนหน้านี้จากเฟสบุ้คบ้าง อินสตาแกรมไอ้กายบ้าง"
“ไม่แปลกหรอก" ผมหัวเราะหึเบาๆ ผมเป็นคนเพื่อนน้อย ในที่นี่ก็มีแค่ไอ้กาย เป๊ก ปอม เท่านั้น ผมไม่ชอบเตะบอล ดังนั้นจึงลืมไปได้เลยว่าจะไปกับพวกไอ้กาย ผมเชื่อใจคนยาก ดังนั้นการปฏิสัมพันธ์กับคนให้น้อยที่สุด คงเป็นเรื่องดีที่สุด
“แต่กูอยากให้มึงเจอแยมนะ แยมเป็นเพื่อนที่กูสนิทที่สุดแล้ว" มันเปรยขึ้น "กูเป็นเด็กใต้ เชื่อป่ะ?” มันยักคิ้ว
“อะไรนะ?” ผมขมวดคิ้วมุ่น
“เด็กใต้ๆ หนุ่มภูเก็ตนะครับ" มันอวด "ไม่เห็นหรือไง ออกจะหล่อล่ำขนาดนี้"
“ถุ้ย" ผมสบถ ทำเอามันขำลั่น
“กูมาเรียนที่กรุงเทพฯตอนมอหนึ่งอ่ะ โรงเรียนประจำครับ กินนอนกันมาหมดเลยนี่แหละ กู กาย ไอ้เต แยม"
“ไหนแหลงใต้ซิ"
“ไม่เอาอ่ะ" มันยู่หน้า
“เอ้า ทำไมอ่ะ?”
“กูเขินนี่" มันว่า แล้วก็หน้าแดงจริงๆด้วย ผมเอื้อมมือไปผลักหัวมันหนึ่งที
“กระแดะ"
“เออน่า เนี่ย เดี๋ยวกูพาไปบ้านแยม รับรองมึงต้องชอบ อย่างเด็ด"
“ทำไม?” ผมขมวดคิ้ว มันไม่ตอบอะไร แต่พาผมเลี้ยวเลาะไปตามทางของซอยเล็กๆ ผมเคยมาบ้านไอ้กายกับปอมบ้าง แต่มันเป็นฝั่งธนคนละส่วนกับของเพื่อนโฟล์ค แถวบางกอกน้อยเป็นบริเวณที่เต็มไปด้วยของขาย มีตลาดสด คนพลุ่กพล่าน และทิวทัศน์แบบที่ฝั่งเมืองไม่มี

โฟล์คเลี้ยวรถเต่าของมันเข้าไปในซอยเล็กๆแห่งหนึ่ง มีบ้านไม้ปลูกขึ้นสลับกับบ้านกึ่งปูน หลังจากขับเข้าไปจนสุดซอย ภาพตรงหน้าก็ทำให้ผมต้องหยุดมองอย่างนึกชอบใจ

บ้านไม้ขนาดกลางปลูกขึ้นติดริมน้ำ ร่มรื่นไปด้วยต้นไม้และสวนหย่อม ถนนตัดขึ้นพอดีกับรถสองคันแล่นสวนเท่านั้น โฟล์คมันหันมายักคิ้วให้ผม ราวกับจะย้ำคำพูดว่า ผมจะต้องชอบใจแน่ๆ


“บ้านไม้ หลังนี้มีคนมาขอซื้อสามสิบล้านนะครับ" โฟล์คว่ายิ้มๆ มันคงไม่รู้หรอกว่า ผมมีความฝันที่จะมีบ้านไม้สักหลัง ที่ออกแบบเอง ไว้สำหรับอยู่อาศัยในช่วงเวลาที่เริ่มเหนื่อยจากการทำงานแล้ว
“แล้วไม่ขายเหรอ?” ผมถาม โฟล์คส่ายหัว
“ไม่ แม่แยมมันไม่ขาย"
“สวยจะตาย ทำเลดีด้วย"
“อือ มีท่าน้ำหลังบ้านด้วยนะ" มันว่า "เข้าไปข้างในกันเถอะ กูโทรมาปลุกมันแล้ว ไม่รู้มันจะยอมตื่นหรือยัง?” โฟล์คว่า หลังจากจอดแอบนิว บีทเทิลไว้ข้างรั้ว มันก็พาผมเดินเข้าไปในตัวบ้านโดยไม่ต้องขออนุญาตอะไรใครทั้งนั้น ดูมันคุ้นเคยกับที่นี่มาก

มันเปิดรั้วออกแล้วพาผมเข้าไปด้านใน สนามหญ้าสีเขียวสดตรงหน้ามีโต๊ะหินอ่อนและชิงช้าตั้งอยู่ ตัวบ้านชั้นล่างก่อปูนทาสีน้ำตาลสลับกับโครงไม้เก่า ส่วนชั้นสองเป็นไม้ทั้งหมด โฟล์คเดินไปหยุดตรงหน้าประตูบานเลื่อนกระจก ซึ่งน่าจะเป็นส่วนที่รีโนเวทใหม่ ก่อนเลื่อนประตูออก

“แม่งไม่ล็อคบ้านอีกแล้ว" มันพึมพำ ก่อนเปิดประตูออก แล้วจูงมือผมเข้าไปในบ้าน


ในบ้านยังคงเป็นผนังไม้ขัดสีอย่างดี พื้นไม้ก็ขัดจนเงาวับ เฟอร์นิเจอร์มีทั้งแบบเก่าและใหม่สลับกันไป แต่ก็ดูลงตัวอย่างน่าทึ่ง พื้นที่ห้องนั่งเล่นไม่ใหญ่นัก ด้านหลังคงเป็นห้องครัว ซึ่งประตูที่เปิดออกก็เชื่อมให้เห็นระเบียงกว้างที่น่าจะยื่นไปจนถึงท่าน้ำ


“ออกไปดูก็ได้นะ"
“ติดน้ำขนาดนี้ น้ำท่วมจะทำยังไง?” ผมถามขึ้น โฟล์คมองไปรอบๆบ้านก่อนตอบ
“ได้ยินว่ามันปล่อยท่วมนะ ขนของขึ้นหมด แต่กั้นคันกั้นน้ำทิ้งไว้" มันบอก "เห็นว่าแม่มันไปอยู่ออฟฟิศ ส่วนไอ้แยมก็มาอยู่กับกูนี่แหละ ช่วงที่ท่วมเป็นเดือนๆนั่นน่ะนะ"
“อยู่กันสองคนเหรอ?” ผมถามต่อ
“อือ สองคน แยมแล้วก็แม่มัน" โฟล์คตอบ "กูขึ้นไปหามันก่อน เดี๋ยวลงมา"

ผมทำท่าจะเรียกมันเอาไว้ แต่เพราะมันกระโจนขึ้นไปทันที ทำให้ผมได้แต่หุบปากฉับ แล้วยืนเคว้งอยู่ที่เดิมเมื่อแผ่นหลังมันหายวับไป หลังจากมองซ้ายมองขวาเหมือนคนโง่ๆประมาณสองนาที ผมก็เอื้อมมือไปผลักประตูมุ้งลวดออกในที่สุด

ระเบียงไม้แข็งแรงยื่นออกไปสู่แม่น้ำเจ้าพระยา มองไปด้านหนึ่งเห็นสะพานพระรามแปด อีกด้านเป็นสะพานตากสิน วัดอรุณตั้งอยู่บนฝั่งเดียวกันแต่ไกลออกไป มีเรือด่วนแล่นสวนกันไปมา น้องบินโฉบไปมาเหนือน่านน้ำ และเพราะใกล้เวลาที่พระอาทิตย์จะลับขอบฟ้า ฟ้าจึงเรืองไปด้วยแสงสีส้มทองที่ผมชอบที่สุด

ผมเหม่อมองภาพตรงหน้านิ่งๆก่อนสูดลมหายใจลึกเต็มปอด แม้ว่าแม่น้ำตรงหน้าจะไม่ได้ใสสะอาด แต่ว่าบรรยากาศ และบรรยากาศบริเวณนี้ มันก็ดีมากจนแทบไม่อยากเชื่อว่าที่ผมกำลังยืนอยู่ในกรุงเทพฯจริงๆ ผมเอนตัวเกาะราวระเบียงไม้ไว้แน่น ก่อนโน้มตัวมองไปนอกระเบียงเสียครึ่งตัว...



“เดี๋ยวก็ตกหรอก"


เสียงกระซิบที่ดังขึ้นริมใบหูทำให้ผมสะดุ้ง เป็นจังหวะเดียวกับที่ผมถูกอุ้มจนตัวลอยกลับเข้ามาที่เดิม ผมหันกลับไปแล้วก็สะดุ้งเบาๆเมื่อปลายจมูกของโฟล์คเฉียดแก้มไปเพียงนิดเดียว มันวางผมลงกับพื้น และผมก็สังเกตเห็นเจ้าของบ้านที่เดินมาพร้อมมันด้วยในที่สุด

“ทำอะไรอันตราย กูเป็นห่วงรู้ไหม" มันว่าด้วยสายตาดุๆ ผมที่อ้าปากจะเถียงต้องหุบฉับกับคำพูดของมัน บ้าจริง
“กู-คือ กูว่าฟ้าสวยดีวันนี้" ผมว่าอย่างตะกุกตะกัก
“อืม" มันมองตามผมก่อนพยักหน้า "อย่าปีนอีกนะ เดี๋ยวก็ตกหรอก" นี่แม่งเป็นแฟนหรือพ่อกูวะเนี่ย

ผมไม่โต้ตอบมันเดี๋ยวจะความยาว ก่อนจะเหลือบไปมองหน้าผู้ชายผมสีดำขลับ ใบหน้ารูปไข่สวยคมราวกับจะไม่ใช่ผู้ชาย แต่กล้ามเนื้อและรูปร่างก็ยังยืนยันว่าคนๆนี้เป็นผู้ชาย คงจะเป็นแยม...เขาไว้ผมยาวเลยบ่าลงมา ยักศกสวยเป็นธรรมชาติ ผิดกับของผมที่ทั้งย้อมทั้งดัดเพื่อให้ได้ทรงที่ต้องการ แยมสูงเกือบจะเท่าโฟล์ค ผอมโปร่งคล้ายหุ่นนายแบบที่นิยมในสมัยนี้ บางแทบปลิวลม และสวมใส่เสื้อผ้าที่บ่งบอกถึงสไตล์ตัวเองอย่างชัดเจน


“ชา นี่แยม" มันบอก ผมจึงคลี่ยิ้มส่งไปให้ก่อน แยมยิ้มบางๆกลับมาให้ แม่ง สวยสัด "แยม นี่ชา" โฟล์คเหลือบตามองผม
“แฟนมึง กูรู้แล้ว" แยมว่า แล้วมองหน้าผมยิ้มๆ "ยินดีที่ได้รู้จักนะน้ำชา เราแยม"
“เอ่อ...ยินดี...ที่ได้รู้จัก...ครับ" โอ้ย ประสาท นี่กูทำเหี้ยอะไรอยู่เนี่ย
“เออ กูว่าเดี๋ยวไปเลยเหอะ ไอ้นินแม่งโทรยิกแล้วเนี่ย สี่โมงกว่าเอง" โฟล์คบ่นพึมพำก่อนส่งกุญแจรถให้แยม "ไอ้เตเอาไมค์บูมกับขาตั้งมาทิ้งไว้บ้านมึงป่ะ เห็นมันบอก"
“ใช่ ตั้งแต่คราวก่อนอ่ะ อยู่บนห้องกู"
“งั้นมึงไปรอที่รถเลย" โฟล์คว่า แยมทำเพียงแค่โบกมือเบาๆก่อนสาวเท้าออกไปอย่างไม่อิดออด "น้ำชา จะขึ้นไปด้วยกันไหม?” โฟล์คเอ่ยปากถาม
“ไปไหน?”
“ไปเอาของบนห้องแยมน่ะ"
“อ้อ...เอ้อ กูไปรอที่รถดีกว่านะ"
“ได้ เดี๋ยวรีบตามไปนะ" มันว่าก่อนวิ่งตึงตังขึ้นไปด้านบน ผมมองตามมันไปสักพัก ก่อนสาวเท้าออกไปยังประตูบ้าน

นิว บีทเทิลของโฟล์คยังจอดไว้ที่เดิม ผมก้มลงใส่รองเท้าก่อนเดินลงจากบ้านไปยังรถที่จอดริมรั้ว เพื่อพบว่าแยมประจำที่นั่งข้างคนขับเรียบร้อยแล้ว วูบแรกผมหัวใจกระตุก แต่ในวูบที่สองก็แค่พยายามทำเหมือนรู้สึกเฉยๆ ทั้งๆที่มันไม่เฉยแน่ๆ แต่ผม...ผมไม่รู้จริงๆว่าควรจะทำอย่างไร ผมไม่ได้อยากเรียกร้องสิทธิ์อะไรในฐานะแฟน เพราะแน่นอนว่าผมกับมันไม่ได้เป็นแฟนประเภทที่คนปกติเขาเป็นกัน แต่...ที่นั่งตรงนั้นมันไม่ใช่ของผมหรอกหรือ?

ผมเดินไปหยุดอยู่ข้างประตู เคราะซัดอีกที่ประตูมีแค่สองบาน คนที่จะขึ้นไปนั่งเบาะหลังจะต้องขึ้นจากเบาะหน้า ผมเม้มปากแน่น ก่อนพยายามเอ่ยออกไปในที่สุด


“แยม...”
“หืม?” คนบนรถส่งเสียงตอบมา ระหว่างก้มหน้าก้มตาหาอะไรบางอย่างที่ช่องเก็บของอยู่
“ขอเราขึ้นเบาะหลังหน่อยสิ" ผมว่าอย่างกระดากปาก ในใจก็คิดอีกว่ากูทำเหี้ยอะไรอยู่

แยมเงยหน้าขึ้นมา ใบหน้าสวยนั่นมองผมนิ่งๆ ก่อนชะงัก แล้วร้องออกมาอย่างตกใจ

“เฮ้ย...คือ แปปนึงนะน้ำชา คือเราหาบทน่ะ ยังไม่ได้ท่องเลย" แยมว่าด้วยน้ำเสียงเกรงใจ "เดี๋ยวน้ำชานั่งหน้ากับโฟล์คนะ เรานั่งหลังเอง"
“ไม่เป็-”
“นี่ไงเจอแล้ว น้ำชาถอยหน่อย เอ่อ...” แยมลุกออกจากมารถ ก่อนทำหน้านิ่งคิดด้วยสีหน้านิ่งๆ "มันเปิดยังไงวะเนี่ย" ผมมองแยมก้มๆเงยๆหน้าคันโยกเปิดเบาะอยู่นานสองนานแล้วก็หลุดยิ้มออกมาจนได้ ทำไมคนๆนี้ถึงได้น่ารักแบบนี้วะเนี่ย
“เดี๋ยวเราเปิดเอง" ผมว่า ก่อนเอื้อมมือดึงคันโยกแล้วดันเบาะออก
“ขอบคุณนะ" แยมว่ายิ้มๆก่อนพาตัวเองเข้าไปเอนตัวนอนอยู่บนเบาะหลังเรียบร้อยแล้ว "คือช่วงนี้เรานอนไม่พอเท่าไหร่ แม่งเบลอชิบหายเลย-" แยมว่าอย่างเขินๆ
“มึงก็เบลอตลอดอยู่แล้วว่ะแยม" เสียงที่ผมคุ้นเคยขัดขึ้นมา ทำให้ผมกับแยมต้องหันไปมอง และพบว่าโฟล์คแบกขาตั้งกล้องกับกล่องใบใหญ่เข้ามา "จีบอะไรแฟนกู"
“พ่อมึงสิ มึงเอาขาตั้งมาเร็ว ไอ้นินเร่งกูยิกๆแล้วเนี่ย" แยมบ่นพึมพำ ก่อนรับของจากโฟล์คที่ยืนอยู่ประตูข้างคนขับ
“ครับๆ"
“เฮ้ย เดี๋ยวกูปิดบ้านก่อนโฟล์ค กูยังไม่ได้ปิดบ้านเลย" จู่ๆแยมก็ร้องออกมาอย่างตกใจเมื่อโฟล์คสตาร์ทรถ ทำเอาผมสะดุ้งไปด้วย
“แยม" โฟล์คถอนหายใจเฮือก "กูปิดให้แล้วครับ นี่กุญแจมึงก็ลืมไว้บนห้องด้วย" มันโยนกุญแจบ้านใส่แยม
“อ้าวเหรอ"
“กูไม่ค่อยแปลกใจเลยว่าทำไมวันนั้นไอ้ภัทรมันถึงเล่าให้กูฟังว่ามึงสะดุดท่อหน้าปากซอย มึงนี่เบลอเหี้ยๆว่ะแยม" ไอ้โฟล์คบ่นยาวก่อนที่แยมจะทำหน้าบึ้งตึงออกมา ปากสีสดทำท่าจะเถียงกลับ แต่ไอ้โฟล์คแม่งสุดจะร้ายกาจ "ชา มึงดูดิ แม่งปกติอยู่คณะนะ เก๊กขรึมครับ นิ่ง เท่เหลือเกิน จริงๆคือเบลอ ถ้ามึงจะให้มันตอบอะไร มึงรอมันจูนสมองก่อนนะ อย่าถามคำถามยากด้วย"
“ไอ้เหี้ยโฟล์ค กูไม่ได้เป็นขนาดนั้นสักหน่อย" แยมบ่นอุบ "ก็บางทีกูไม่รู้จะคุยอะไรกะน้องนี่หว่า กูพูดไม่เก่งมึงก็รู้"
“แล้วพูดเหี้ยไรกะกูน้ำไหลไฟดับ" ไอ้โฟล์คสวน
“ก็กูสนิทกะมึงนี่"
“อ้าว มึงก็คุยกับชาได้ปกติ" มันเหลือบมามองหน้าผม ส่วนแยมลุกขึ้นมานั่งกอดอกกับเบาะเรียบร้อยแล้ว
“ก็แฟนมึงนี่" แยมว่าเบาๆ "ก็น้ำชาเป็นแฟนมึง กูไม่อยากให้น้ำชาอึดอัด กูเลยพยายามชวนคุย" แยมบอกในที่สุด นั่นทำให้ผมรู้สึกดีขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก แล้วแยมก็โคตรน่ารักเลยจริงๆครับ...


ผมนั่งอยู่บนรถที่พาพวกเราไปยังย่านเยาวราช มีเสียงร้องเพลงดังมาจากทั้งโฟล์คและแยม เป็นเพลงวงอินดี้ต่างประเทศที่ผมไม่รู้จักเลยสักเพลง แยมนั่งๆนอนๆท่องบทอยู่ทางด้านหลัง สักพักก็รับโทรศัพท์พร้อมกับเถียงกับปลายสายยืดยาว ได้ความว่านินโทรมาเร่งอีกแล้ว จนโฟล์คบ่นออกมาว่า ไม่รู้ว่าใครเป็นผู้กำกับตัวจริงกันแน่ แยมจึงเสริมขึ้นว่า นินเป็นมือตัดต่อประจำตัวของผู้กำกับโฟล์ค ซึ่งนินเรียกได้ว่าเป็นคนที่ตัดต่อเก่งที่สุดในคณะ รับงานที่ได้เงินเป็นพันๆหมื่นๆ

สักห้าโมงกว่าเราก็มาถึงเยาวราช โฟล์คดูเหมือนจะรู้สถานที่ประจำของมัน เพราะพอมันเลยแยกไฟแดงมาสักพัก มันก็ตบขวาเขาเทียบถนนทันที ซึ่งคนในร้านก็ดูเหมือนจะเห็นรถมันอยู่แล้ว จึงรีบวิ่งมายกกรวยออกให้ โฟล์คเปิดกระจกลง คนที่ออกมาต้อนรับก็ไม่ใช่ใครที่ไหน นินนั่นเอง


“มึงไปปิดประตูหลังรถคันหน้าหน่อยดิ" โฟล์คบอก นินจึงเดินไปเอากระโปรงรถลง สักพักหนึ่งหลังจากจอดรถเรียบร้อยแล้ว โฟล์คก็ดับเครื่อง แล้วเปิดประตูออก มันเลื่อนเบาะเพื่อให้แยมลงมาจากรถ ก่อนหิ้วของที่หยิบติดมือมาส่งให้นิน

เยาวราชในเย็นวันอาทิตย์ไม่ใช่เล่นๆเลยครับ แนะนำว่าไม่มีธุระจริงๆมึงอย่ามา รถติดยั้วเยี้ย คนเยอะแยะ ผมเหลือบมองโฟล์คสลับกับเพื่อนๆของมัน มีกลุ่มผู้ชายผู้หญิงสามสี่คนยืนดูดบุหรี่อยู่ริมฟุตบาท น่าจะเป็นคนที่มาช่วยออกกองโฟล์ค สักพักเตก็เดินออกมาพร้อมกับผู้ชายตัวขาวจัด ใบหน้าหล่อเหลาฉบับคุณชาย ถ้าจำไม่ผิดน่าจะเป็นภัทร เพื่อนในกลุ่มของโฟล์ค

“พิ้งค์มายังวะ" โฟล์คหันไปถามเต
“มาแล้ว แต่งหน้าอยู่ แยมมึงเข้าไปหาหญิงเลย รออยู่แล้วที่ห้องเดิม" เตว่า แยมพยักหน้ารับมึนๆก่อนสาวเท้าเข้าไปด้านใน "หวัดดีน้ำชา ดีใจที่มึงมานะ" มันว่ายิ้มๆ
“แฟนไอ้โฟล์คใช่ป่ะ หวัดดี กูภัทร" ภัทรว่า ผมทักทายมันนิดหน่อย ก่อนได้ยินเสียงดังโครม และทุกคนก็ต้องหันไปเพื่อพบว่าแยมเดินชนประตูกระจกใสจนคนเขามองกันทั้งร้านอาหาร
“ไอ้แยม ไอ้เหี้ย" ไอ้เตทำท่าจะหัวเราะแต่ก็หัวเราะไม่ออก เลยรีบวิ่งขึ้นไปดึงแยมขึ้นมา "โฟล์ค กูพาแยมไปก่อน นี่มึงให้มันนอนพักผ่อนจริงๆเหรอวะเนี่ย" เตถาม
“เออสิวะ" ไอ้โฟล์คหัวเราะลั่น "ชา ไปข้างไหนกัน เดี๋ยวกูต้องไปแตกช็อทให้ตากล้อง"
“แตกช็อท? ไรวะ?” ผมถาม
“คืออธิบายตากล้องว่าจะถ่ายอะไร มุมไหน ไกล ใกล้ อะไรแบบนี้น่ะ เข้าไปด้วยกันสิ" มันว่า ก่อนยื่นมือมาให้ผม ผมมองมือมันก่อนส่งมือไปให้มันกอบกุมเอาไว้ "นี่ร้านรุ่นน้องที่คณะ เขาไม่ได้เรียนฟิล์มแต่ให้ยืมถ่ายน่ะ" มันบอก
“อ้อ"
“ภัทร มีไรขาดปะวะ" โฟล์คหันไปถามเพื่อน ภัทรที่กำลังเปิดประตูหลังรถฟอร์ทูนเนอร์คันด้านหน้าอยู่หันมาตอบ
“นี่เดี๋ยวกูกำลังจะเช็ค เดี๋ยวให้น้องๆช่วยกันขนลงมาเลย"
“เออฝากด้วย มึงอ่านบทสกรีนเพลย์ทั้งหมดที่กูส่งให้แล้วใช่ไหม?”
“อ่านแล้วๆ มึงไปเถอะ"
“ขอบใจมากมึง"


ผมเดินตามมันเข้าไปด้านใน ผ่านโต๊ะอาหารมากมาย มันทักทายเจ้าของร้าน ซึ่งน่าจะเป็นพ่อแม่ของรุ่นน้องที่มันว่า ก่อนที่มันจะพาขึ้นไปบนชั้นลอย เมื่อเปิดประตูห้องห้องเดียวที่อยู่บนชั้นลอยออก ก็พบกับคนเกือบสิบที่วิ่งวุ่นอยู่ในนั้น

“เฮ้ยนิน" โฟล์คเรียกเพื่อนตัวโหดของมัน นินที่นั่งจิ้มมือถือหันขวับมาก่อนจิกตาใส่ทันที
“เรียกพวกกูมาห้าโมง มึงออกจากบ้านไอ้แยมห้าโมง" นินคาดโทษ แยมที่นั่งหลับตาแต่งหน้าอยู่ถึงกับสะดุ้ง
“เหย กูขอโทษน่า เดี๋ยวเลี้ยงข้าว นะๆ"
“เออๆ รำคาญ กูจะลงไปช่วยภัทรจัดไฟแล้ว" นินบอก ก่อนลุกขึ้นยืนปัดกางเกง
“ฮ่าๆ เออ นี่มึงตามคนมาช่วยได้เยอะขนาดนี้เลยเหรอวะ?” โฟล์คถาม ไอ้นินไหวไหล่
“ก็ฝากน้องมันชวนๆกัน มันก็มากันอ่ะ"
“เออดีๆ เดี๋ยวกูแตกช็อทก่อน ไอมายัง เตล่ะ”
“มาแล้ว ไปซื้อของเซเว่นกับใครไม่รู้ เดี๋ยวกลับมา ส่วนเตไปเข้าห้องน้ำ มึงจะแดกไรไหม?”
“ไม่อ่ะ เดี๋ยวเลิกกองแล้วไปหาไรกินกัน"
“โอเค น้ำชาจะกินไรไหม?” นินหันมาถามผม หน้ามันนิ่งๆเหมือนจะเหวี่ยง แต่มันก็ไม่ได้เหวี่ยง แหม คาแรคเตอร์คงที่ตลอดเวลานะครับ
“เอ่อ...ไม่เป็นไร...”
“เค งั้นอยู่ด้วยกันจนจบนะ เดี๋ยวกูพาไปกินหอยแครงลวกซอยเท็กซัส อร่อยมาก"
“ได้เลย" ผมยิ้มแหยๆให้นิน ก่อนที่นินจะเดินออกจากห้องไป โฟล์คหัวเราะเบาๆก่อนจูงผมเข้าไปด้านในห้อง
“นินมันแบบนี้แหละ แต่มันนิสัยดีมากๆนะ"
“รู้น่า ไม่ดีมึงคงไม่คบหรอก"
“นั่นสิ" มันว่า ลากผมนั่งบนโซฟา ก่อนมันจะลงไปนั่งขัดสมาธิที่พื้นห้อง แล้วเอาคางเกยหน้าขาผม "มึงมาด้วยนี่ดีจังนะ"
“บ้า" ผมพึมพำเบาๆ "ดีเหี้ยไร ช่วยไรก็ไม่ได้ เป็นภาระต่างหาก"
“ภาระที่ไหน" มันหลับตาพริ้ม "พอมึงมา ใครๆก็เรียกมึงแฟนโฟล์ค กูชอบฟัง มึงไม่รู้เหรอ?”

ผมรู้สึกเหมือนตัวจะระเบิด แถมมันยังเงยหน้าขึ้นมายิ้มเผล่ให้ผมอีกต่างหาก ผมเลยผลักหน้ามันไปทีหนึ่ง

“ทำงาน"
“รอเตกะน้องตากล้องอีกคน...โทรตามก่อน" มันว่า ก่อนหยิบมือถือขึ้นมากดโทรออก มันว่าอะไรกับปลายสายสักพัก แล้วกดตัดสาย
“เดี๋ยวพรุ่งนี้ช่วยทำโมเดล" มันบอกยิ้มๆ ผมขยี้หัวมันแรงๆจนมันร้อง
“เสียใจ กูเข้าสตูฯว่ะ มึงไปส่งกูแล้วกัน"
“อ้าว ไมเข้าสตูฯอ่ะ อยู่กะกูดิ" งอแงทำไมวะ ตัวเท่าควาย ยังจะงี่เง่า
“กูก็มีงานนะครับไอ้คุณโฟล์ค เดี๋ยววันจันทร์มึงก็ลากกูมาออกกองมึงอีก"
“ก็อยากอยู่ด้วยทุกวัน"
“สัด ผูกตัวติดกันเลยไหมยังไง?” ผมเลิกคิ้วถาม มันพยักหน้าหงึกๆทันที
“ถ้ามึงยอมก็เอา"
“ค*ยเถอะครับ" ผมว่า มันหัวเราะเบาๆ สักพักประตูก็เปิดออก พร้อมกับเตที่เดินเข้ามากับน้องอีกคนหนึ่ง

เตเดินมานั่งข้างผม ส่วนรุ่นน้องมันที่เป็นผู้ชายเซอร์ๆสวมแว่นตาทรงอ็อกฟอร์ดก็นั่งลงบนพื้นข้างโฟล์ค

“หวัดดีพี่"
“เออหวัดดีมึง" โฟล์คทักทาย รุ่นน้องมันมองผมนิดหน่อยแต่ไม่ได้พูดอะไร
“เออ โทษทีกูมาช้า ไปรับแยมมา คืองี้ วันนี้จะถ่ายสองกล้องเหมือนเดิมเพราะที่แม่งน้อย ถ่ายซ้ำซีนเดิม คือ ซีน สี่, ห้า แต่วันนี้จะเพิ่มหกด้วย เตมึงประจำกล้องหนึ่งนะ ส่วนเอมึงประจำกล้องสองสลับกับไอ้ภัทร ช่วยกัน เพราะไอ้ภัทรแม่งต้องช่วยกูดูคิวกับเฟรม" ผมมองมันกางกระดาษแล้วขีดๆเขียนๆบอกบทกับเพื่อนและรุ่นน้องมันไปเงียบๆ มันดูจริงจังเหมือนไม่ใช่ไอ้เหี้ยโฟล์คที่ผมด่าอยู่ทุกวัน ผมอมยิ้มนิดหน่อยก่อนหุยยิ้มเมื่อไอ้เตมองหน้าผมอย่างมีเลศนัย ผมได้แต่นั่งทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้เหมือนเด็กโดนจับได้ตอนทำความผิด

 
“โอเคนะ ตามนี้ เดี๋ยวลงไปด้านล่างกันได้แล้ว ฉากแรกถ่ายในร้านอาหารก่อน" โฟล์คว่า ก่อนหันหน้ามาพยักหน้าให้ผม "เออ แล้วพิ้งค์-”
“โฟล์ค!”

ยังไม่ทันที่มันจะถามถึงนางเอกของเรื่องได้จบประโยค เสียงใสๆก็ดังขึ้นพร้อมการปรากฏตัวของเจ้าของเสียงนั้น ผมเหลือบตาไปมองตามเสียง พบว่าเป็นผู้หญิงผิวขาว หน้าหมวยเก๋ๆ ซึ่งผมเคยเห็นมาจากวิดีโอสั้นๆบนจอคอมพิวเตอร์ของโฟล์ค นางเอกของเรื่องที่โฟล์คถามหาอยู่นั่นเอง

“หวัดดีพิ้งค์" ผู้ชายตรงหน้าผมหันไปยิ้มให้คนมาใหม่ ผมมองเลยหลังเธอไปก่อนพบว่าไอเข้ามาด้วยกันพร้อมด้วยถุงเสบียงหลายๆอย่าง
“โฟล์คไม่ไปรับพิ้งค์อ่ะ มาก็สาย" เธอกระเง้ากระงอด ผมไม่ได้รู้สึกอะไร แต่ก็แปลกใจกับความสัมพันธ์ของคนทั้งคู่เล็กน้อย
“อ๋อ ขอโทษนะ พอดีเราไม่สะดวก" ไอ้โฟล์คมันเหลือบตามองผม ผมเบือนหน้าหนีทำไม่รู้ไม่ชี้ "เราไปรับแยมมาด้วย แล้วก็พอดีแฟนเรามาค้างด้วยอ่ะ"
“แฟน?” เธอขมวดคิ้วมุ่น ผมเห็นท่าไม่ดีเสียแล้ว
“อ๋อ เออนี่ น้ำชาแฟนเรา" โฟล์คแนะนำผม ก่อนอมยิ้มบางๆ ผมยิ้มให้พิ้งค์นิดหน่อย แต่เธอกลับไม่ยิ้มตอบ
“โฟล์คไม่เห็นบอก"
“ฮ่าๆ ก็เพิ่งคบกันเองน่ะพิ้งค์" โฟล์คตอบปัด ก่อนหันไปหาแยม "ลงไปกันเถอะ แยมแต่งหน้าเสร็จยัง?”
“ใกล้แล้วๆ" ฝ่ายเมคอัพเป็นคนตอบแทนแยมที่นั่งสะลึมสะลืออยู่บนโซฟาบุนวมหนานุ่ม โฟล์คจึงบอกว่าเสร็จแล้วให้ตามลงมากันเลย

ผู้กำกับของกองบอกให้ทุกคนทยอยลงไปข้างล่าง แล้วก็หันมาชวนผม มันดูวุ่นๆผมเลยไม่อยากจะตามลงไปให้เป็นภาระ อีกทั้งสายตาไม่เป็นมิตรของพิ้งค์ทำให้ผมรู้สึกอึดอัดนิดหน่อย จึงออกปากว่าจะอยู่เป็นเพื่อนไอ รอแยมลงไปพร้อมกัน โฟล์คมองหน้าผมนิดหน่อยแต่ก็ไม่ได้พูดอะไร มันหอบข้าวของลงไปข้างล่างพร้อมตากล้องสองคน และสวัสดิการกองอีกบางส่วน

ผมยืนอยู่กับไอเงียบในห้องเล็กที่กว้างขึ้นถนัดตา ไอยิ้มแล้วทักทายผม


“หวัดดีน้ำชา เราก็นึกว่าชาจะไม่มาแล้ว" ไอว่าแล้วยิ้มกว้าง
“ก็สัญญาไว้แล้วว่ามานี่น่า" ผมตอบ ไอพยักหน้าหงึกๆ ก่อนสักพักจะเม้มปากแน่น
“น้ำชาโอเคนะ?” ไอเอ่ยปากถามขึ้น ผมขมวดคิ้ว
“โอเค? โอเคอะไรเหรอ?”
“ก็...แบบ...พิ้งค์...คือ...” ไอจิ้มนิ้วเข้าหากันพร้อมด้วยสีหน้าลำบากใจสุดขีด ผมได้แต่ส่ายหัว
“เราไม่เป็นไรหรอก แต่...คือ พิ้งค์กับ...โฟล์ค"
“ไม่ๆ ไม่ได้เป็นอะไรกันนะ เรายืนยันได้ว่าตอนนี้โฟล์คมีแค่น้ำชาจริงๆ" ไอ้เบิกตากว้าง แก้ตัวแทนเพื่อนยกใหญ่
“อ้าว งั้นแสดงว่าก่อนหน้านี้...” จริงๆผมอาจจะไม่ได้ติดใจอะไร-อาจจะเท่านั้น ผมเลยแกล้งแหย่ไอเล่น
“ก็โฟล์คก็คือโฟล์คนั่นแหละ" ไอหน้ามุ่ย "ใจดีกับคนอื่นเขาไปทั่ว ขี้อ่อยจะตายไป แต่โฟล์คไม่เคยเรียกใครว่าแฟนนะ จนเจอชานี่แหละ" ไอว่าเบาๆ
“แล้ว?”
“พิ้งค์ก็เหมือนกัน เห็นไปไหนมาไหนกับโฟล์คสักพักหนึ่งแล้วล่ะ ตั้งแต่ช่วงหนังสั้นเปิดกอง ก็สองอาทิตย์แล้ว"
“แล้ว?”
“แต่เราถามโฟล์ค โฟล์คก็บอกว่าพิ้งค์ชวน ก็ไม่ได้มีอะไร เลี้ยงตอบแทนที่มาเล่นหนังให้บ้าง ไปเป็นเพื่อนบ้าง"
“แล้ว?”
“ก็...พิ้งค์อาจจะคิดไปเอง"
“แล้ว?” ผมเลิกคิ้วต่อ ไอหยุดพูด ก่อนมองหน้าผมนิ่งๆ
“น้ำชาสงสัยอะไรเหรอ?” ไอถามตรงๆ ผมยิ้มๆ แล้วไหวไหล่
“พิ้งค์เขาไม่รู้เหรอว่าโฟล์คเป็นเกย์" ผมถามตรงๆ ไอชะงักนิดหน่อย ก่อนส่ายหัว
“ไม่รู้สิ จริงๆโฟล์คก็ไม่ปิดนะ โฟล์คก็มีแฟนเป็นผู้หญิงมาก่อนหน้านี้ด้วย สองปีก่อนล่ะมั้ง" ไอว่าพลางครุ่นคิด "แต่โฟล์คทั้งหล่อ ทั้งรวย แถมยังใจดี เราว่าผู้หญิงก็โอเคหมดอยู่แล้วนะ"
“......”
“ก่อนหน้านี้โฟล์คก็ไม่เคยจีบผู้ชายคนไหนจริงจัง มีคุยๆบ้างแต่ก็หายไป คนอื่นเขาก็ไม่ได้รู้กัน จนน้ำชานี่แหละ"
“เรา...เหรอ?”
“จริงๆเราว่าที่คณะเราก็คงตกใจเหมือนกันที่โฟล์คมีแฟนแล้ว แถมเป็นน้ำชาอีกต่างหาก"
“......” ผมได้แต่แค่นยิ้มออกมา จะตกใจยิ่งกว่านี้ถ้ารู้ว่าผมกับมันคบกันด้วยเรื่องงี่เง่าอะไร
“แต่-แต่เราไม่ได้หมายความว่าเราไม่ได้ชอบน้ำชานะ คือเราชอบน้ำชา เตก็ชอบ นินก็ยังชอบเลย ทุกคนบอกว่าน้ำชาน่ารัก"
“จริงเหรอ?”
“อือ" ไอพยักหน้า "เพราะงั้นน้ำชาอย่าคิดมากนะ"

ผมพยักหน้ายิ้มๆ ไอ้ตัวผมน่ะ ไม่คิดมากอยู่แล้ว (แม้ว่าพักหลังๆจะมีแต่เรื่องโฟล์คอยู่ในหัวเต็มไปหมดก็ตาม) แต่ก็แปลกใจ ไอ้คุณเมืองไทยไปทำอีหรอบไหนถึงได้มีสาวมาติดพัน แถมสุดท้ายมันยังเปิดตัวว่ามีแฟนเป็นผู้ชายกับผู้หญิงที่มาชอบมันอีก


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 24-02-2014 02:44:16 โดย kyliewonderland »

ออฟไลน์ kyliewonderland

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 224
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +565/-4


ไม่กี่นาทีต่อมาแยมก็แต่งหน้าเสร็จ พวกผมเลยพากันลงไปด้านล่าง เหลือแค่ฝ่ายเมคอัพ คอสตูม และสวัสดิการสองสามคน เก็บกวาดห้องเท่านั้น เมื่อลงจากบันไดมา ก็เห็นกองถ่ายตั้งอยู่กลางร้านพอดิบพอดี แหม เจ้าของร้านก็ดีเหลือเกิน เอื้อเฟื้อสถานที่ให้ไอ้โฟล์คมาทำลายล้างเล่นๆ ดูเหมือนว่าจะจัดแสงเสร็จแล้ว โฟล์คยืนอยู่ข้างเตที่ถือกล้องตัวที่หนึ่ง (ตามที่มันบอก) สั่งการอะไรอยู่ก็ไม่รู้ มีผู้หญิงคนหนึ่งยืนจดอะไรบางอย่างอยู่ข้างๆกัน ภัทรยืนดูกล้องของน้องเอที่อยู่อีกมุมหนึ่ง ส่วนนินแกว่งเสลทไปมาไม่ใกล้ไม่ไกล

“แยมมาแล้ว" นินบอกโฟล์ค ก่อนที่โฟล์คจะพยักหน้าให้แยมเข้าฉากกับพิ้งค์ที่มีสีหน้าไม่มีความสุขสุดๆ
“ไอ ตีเสลทให้หน่อย"
“ได้ๆ" ไอกระวีกระวาดไปรับเสลทจากนิน นินเลยถอยฉากออกมายืนข้างๆผมแทน โฟล์คเดินเข้าไปพูดคุยอะไรกับนักแสดงสองคนนิดหน่อย ก่อนถอยออกมา
“โอเคนะ เดี๋ยวกล้องตัวนี้จะถ่ายแบบทูช็อตนะครับ ส่วนกล้องตัวที่สองให้รับหน้าของแยมเอาไว้" โฟล์คตะโกนบอกทุกคนในกอง "เตมึงโฟกัสหน้าทั้งสองคนไว้เลยได้ไหม?”
“ได้ๆ"
“เออ เอาข้างหลังเบลอๆแบบนั้นแหละ โอเค" โฟล์คบอกเต ก่อนพยักหน้า แล้วหันไปหาคนที่ถือไมค์ตัวยาว

“เทปครับ"
“เดินครับ" ฝ่ายเสียงตอบ
“กล้องหนึ่ง"
“สปีด" เตพยักหน้าตอบรับ
“กล้องสอง"
“สปีดครับ"


ไอเดินเข้าไปตีเสลทหน้ากล้องก่อนถอยฉากออกมา พร้อมๆกับโฟล์คที่ยกมือขึ้น "เก็บเสียงนะครับ...สาม สอง หนึ่ง แอคชั่น!”


บรรยากาศของกองถ่ายเงียบสนิทแม้ว่าทั้งร้านจะเต็มไปด้วยเสียงจอแจ โฟล์คจ้องหน้าจอกล้องไม่วางตา เช่นเดียวกับภัทรที่ยืนอยู่อีกมุมหนึ่ง ไอเดินกลับมาอยู่ข้างๆผม นินเองก็ยืนกอดอกนิ่งเช่นกัน


“คัทครับ แปปหนึ่งนะ พิ้งค์...” โฟล์คสั่งหยุดการถ่ายทำก่อนสาวเท้าเข้าไปพูดคุยกับนั่งแสดงหญิงของเรื่องที่หน้าตาไม่สบอารมณ์อย่างถึงที่สุด พิ้งค์ดูหน้าตาหงุดหงิด แต่แล้วก็จ๋อยลงเมื่อโฟล์คมันพูดอะไรบางอย่างออกไป ผู้กำกับของเรื่องถอยฉากออกมา พร้อมกับสั่งเดินกล้องอีกครั้ง


“เทปครับ"
"เดิน"
“กล้องหนึ่ง"
“สปีด"
“กล้องสอง"
“สปีดครับ"
“โอเค เสลท...เก็บเสียงเหมือนเดิมนะครับ ขอแค่เสียงนักแสดงกับบรรยากาศ สาม...สอง...หนึ่ง แอ็คชั่น...”



ภาพจากกล้องของเตเป็นใบหน้าของแยมและพิ้งค์ที่พูดคุยกันในบทของคู่รักเก่าที่โคจรกลับมาเจอกัน หลังจากเลิกกันไปด้วยความไม่เข้าใจหรืออะไรบางอย่าง ทั้งคู่ได้กลับมาร่วมโต๊ะกัน แต่มื้ออาหารที่เคยมีความสุข ก็ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไปแล้ว ผมยังไม่เคยอ่านบททั้งหมดที่โฟล์คเขียน แต่ฟังคร่าวๆมาจากไอที่เล่าให้ฟัง


“คัทครับ เดี๋ยวขอดูฉากนี้หน่อย" โฟล์คบอกกับเต แล้วสุมหัวกันหน้ากล้องสักพัก "โอเค กล้องหนึ่งได้ ภัทร กล้องสองได้ไหม?”
“ได้ๆ" ภัทรยกมือบอก
“งั้นฝากน้องพริมจดรีพอร์ตหน่อยครับ โอเคต่อไปเป็นฉากเดิม แต่เปลี่ยนมุมรับหน้าของกล้องทั้งหนึ่งและสองนะครับ...”


ผมเฝ้าดูการทำงานของโฟล์คเงียบๆเกือบหนึ่งชั่วโมงกับฉากบนโต๊ะอาหารที่มีประโยคพูดคุยกันไม่กี่ประโยค แต่ถ่ายทำกันยาวนานเป็นชั่วโมง นินบอกว่าตัดจริงฉากนี้คงเหลือไม่ถึงสิบห้าวินาที


“โอเค เดี๋ยวพักแปปหนึ่งแล้วจะออกไปเก็บฉากด้านนอกแล้ว เพราะฉากอื่นบนโต๊ะอาหารที่คราวที่แล้วเก็บไปไม่เสียนะครับ เติมหน้านักแสดงให้ด้วย" โฟล์คว่า ไอพยักหน้ารับก่อนวิ่งปรู้ดไปเอากระดาษซับหน้ามาไว้ในมือ ในระหว่างที่นินถูกเรียกไปดูภาพบนกล้อง

พิ้งค์เดินมาหย่อนตัวบนเก้าอี้แถวที่ผมกับไอยืนอยู่ด้วยกัน เธอปรายสายตามองผมนิดหน่อยก่อนนั่งกดมือถือเล่น แยมเดินตามออกมา แล้วมายืนข้างๆผม

“เบื่อไหมน้ำชา?” คนหน้าสวยเอ่ยถามก่อนหาววอดๆ หมดมาดพระเอกแสนเข้าใจยากตามบทในเรื่องกันพอดี
“ไม่นะ สนุกดี"
“ออกกองเหนื่อยจะตาย เคยออกกองโต้รุ่งกันอยู่เกือบอาทิตย์แหนะ" แยมว่า เปิดขวดน้ำดื่มออก
“จริงเหรอ?”
“โอโห ร่างนี่อย่างกรอบ นอนวันละสองสามชั่วโมง" แยมหัวเราะคิก
“งานใครเหรอ?”
“ธีสิตรุ่นพี่ปีที่แล้วน่ะ จบไปแล้ว โฟล์คไปช่วยถ่าย เราไปเล่น" แยมเล่า
“นี่คิดจะเป็นนักแสดงจริงจังหรือเปล่าเนี่ย?” ผมแซว แยมร้องหึปฏิเสธทันที
“โน ไม่มีทาง เราเรียนวารสารฯน่ะ อยากทำคอลัมน์มากกว่า" แยมว่า "ชอบเขียน ชอบอ่าน"
“ดีจัง ไว้เอางานมาให้อ่านบ้างดิ"
“อย่าคาดหวังนะ" แยมว่ายิ้มๆ ก่อนส่งขวดน้ำให้ผม คนอะไรน่ารักเป็นบ้า หน้าแม่งโคตรสวยอย่างกะผู้หญิง คือจริงๆแยมมันก็หล่อนะครับ แต่หน้าคมๆ ตาเฉี่ยวๆ ขาวจัด ปากบาง จมูกโด่ง อะไรแบบนี้ ส่งขึ้นรันเวย์ไปเดินแบบได้เลย ถ้าไม่ติดว่าร่างกายแม่งมีกล้ามเนื้อแบบผู้ชายแถมยังดูเถื่อนและเบลอในเวลาเดียวกันแบบนี้ล่ะก็... จริงๆผมก็เคยเห็นนายแบบข้ามเพศที่เดินแบบชุดผู้หญิงอยู่นะครับ ช่วงนี้เห็นรับงานเยอะแยะ ดังไปทั่วเอเชียแล้วล่ะมั้งเนี่ย


“พิ้งค์อยากกินน้ำเสาวรสอ่ะไอ" เสียงของนางเอกสาวดังขึ้นระหว่างที่ไอกำลังซับหน้าให้ ไอชะงักมือที่กำลังซับหน้าอยู่ก่อนตอบ
“เอาสิ เห็นด้านหน้ามีอยู่ร้านหนึ่ง เดี๋ยวเราออกไปซื้อให้" ไอว่า ทำท่าจะเดินไปหยิบกระเป๋าเงิน
“ไม่ใช่ไอ เราอยากกินร้านหน้าโรงหนังที่คราวก่อนไปกินกัน" นางเอกคนดีเธอว่า
“โห ไกลนะนั่น พิ้งค์รอได้ไหม? เดี๋ยวหาคนไปซื้อให้" ไอเองก็พยายามจะประนีประนอมที่สุด
“พิ้งค์รอได้ แต่จะให้ใครไปซื้อ" พิ้งค์ว่า แล้วจู่ๆเธอก็ปรายตามามองผม ผมขมวดคิ้วงงๆกับอากัปกิริยาของเธอ
“เอ้อ เราออกไปซื้อให้ก็ได้นะพิ้งค์" แยมที่ฟังบทสนทนามาสักพักเสนอตัว "เราว่างอยู่" คุณนางเอกชะงักทันทีที่ไม่ใช่ผมที่เป็นคนออกตัว
“แยมไปได้ยังไง" เธอถาม จิกตาทันที "เดี๋ยวเหงื่อโซมกลับมาจะถ่ายต่อได้ยังไง?” เธอจีบปากจีบคอว่า ผมกอดอกเมินไม่รู้ไม่ชี้แล้วครับจุดนี้
“งั้นเดี๋ยวเราไปเอง-”
“ไอต้องอยู่ช่วยกองนี่ เดี๋ยวเขาจะย้ายของไปข้างนอกแล้ว"
“คือจริงๆเราก็ว่าง-”
“ไม่เอาอ่ะ เราไม่อยากรบกวนไอ"
“แต่-”
“ไม่เอา ถ้าไปไปพิ้งค์โกรธ"
“มีอะไรกันเหรอ" สงสัยว่าที่พวกเราสนทนากันจะเสียงดังเกินไปหน่อย นินที่เดินผ่านมาเลยหยุดถามอย่างช่วยไม่ได้ ผมเหลือบตามองไอ ก่อนมองแยม ก่อนนิ่ง
“คือพิ้งค์อยากกินน้ำเสาวรส" ไอบอกในที่สุด ดูท่าจะไม่อยากให้นินออกลายมากก็เป็นได้ ไม่งั้นคงมีโอกาสกองล่ม
“หน้าร้านไง เอาป่ะล่ะ เดี๋ยวซื้อให้" นินว่าอย่างสบายๆ "กูก็อยากกิน มึงกินป่ะแยม"
“คืออยากได้ร้านหน้าโรงหนังอ่ะ" ไอว่าเจื่อนๆ
“ห้ะ...โรงหนัง ที่มันไกลๆอ่ะนะ" นินกรอกตาไปมา พิ้งค์เองก็เริ่มจะหวั่นๆแล้ว แต่ก็ยังเชิดคอสู้อยู่
“นั่นแหละ ที่คราวก่อนไปซื้อกัน" ไอย้ำ
“เอ้อ เอาจริงเหรอวะ?” นินกอดอก มองนางเอกคนดีที่ทำไม่รู้ไม่ชี้ สลับกับไอ แล้วมองหน้าแยม หน้าผม แล้วสุดท้ายก็ถอนหายใจ คงพอจะเข้าใจอะไรบางอย่าง "ถ้าอยากกินมากขนาดนั้นเดี๋ยวเดินไปซื้อให้ก็ได้ พิ้งค์จะเอากี่ขวด"
“แล้ว-แล้วนินไม่ต้องช่วยโฟล์คเหรอ?” คุณนางเอกถาม ปลายเสียงติดจะสั่นๆ ใช่ครับ เล่นกับใครไม่เล่น เล่นกับนิน
“ก็ไม่เห็นมีไรนี่ เราตัดต่อ นี่มาออกกองเพิ่มภาระเพื่อนเฉยๆ" นินก็ตอบตรงเหลือเกิน
“นินอย่าไปเลย ก็เผื่อโฟล์คจะให้ช่วยดูไฟ ดูเฟรม ดูบท ดู-”
“ไม่มีหรอกน่า เอาเถอะ...ว่ามาจะเอากี่ขวด"
“ให้คนว่างกว่านินไปสิ" คุณพิ้งค์เธอยังคงเชิดคอนิ่งอยู่ครับ ผมเองก็รู้สึกว่ามันถึงเวลาที่กูคงต้องออกโรงกู้โลกเสียที
“ก็เราว่างนี่ไง" นินกอดอกขมวดคิ้ว ดูท่าจะเตรียมเหวี่ยงแล้วครับ ใจเย็น ใจเย็น... “นี่อย่าบอกนะจะให้น้ำชา-”
“เฮ้ย เราไปเอง" ผมดึงไหล่นินเอาไว้ก่อนที่กองจะล่มไปเสียก่อน นินชะงักเตรียมอ้าปากเถียง แต่ผมส่ายหน้าฉับ "เราแม่งโคตรว่างเลย แล้วก็ยินดีจะเดินไปซื้อให้" ผมบอกในที่สุด
“น้ำชาจะไปเหรอ ดีจังเลย พิ้งค์ขอสิบสองขวด"
“ห๊ะ สิบสองขวด! นี่ซื้อมากินหรือเอาไปอาบวะ-”
“นิน...” ไอสะกิดนินเบาๆ
“ก็พิ้งค์จะซื้อไปฝากที่บ้านนี่นิน สิบสองขวดน้อยไปเหรอ งั้นเอาสิบห้า-”
“โอเคสิบสองขวดนะ" ผมตัดบท ไอ้ห่า นี่คุณเธอจะเอาไปรดน้ำต้นไม้เหรอครับ "เดี๋ยวเรามา ร้านอยู่ไหนเหรอ?” ผมหันไปถาม นินดูหัวเสียนิดหน่อยแถมมองผมด้วยสายตาออกจะเป็นห่วงเป็นใย ก่อนบอก
“มึงเดินเลี้ยวขวาไปจากร้านนะ เดินข้ามไปหนึ่งแยกไฟแดง ช่วงกลางๆถนนเส้นหน้าจะมีโรงหนัง ร้านน้ำมันขายอยู่ตรงนั้นเลย มีเสาวรส น้ำส้ม เฉาก๊วย ว่านหาง แต่มึงเอาเสาวรสมาให้พิ้งค์สิบสองขวดนั่นแหละ พอแล้ว เดี๋ยวแบกไม่ไหว"
“ฝั่งนี้ใช่ไหม?”
“ใช่-”
“พิ้งค์จำได้ว่ามันเลี้ยวซ้ายนะนิน แล้วก็อยู่ฝั่งโน้น" แม่นางทำลอยหน้าลอยตา
“งั้นพิ้งค์คงสมองเสิื่อมแล้วแหละ ไปเช็คหน่อยนะ...ชา ถ้าหาไม่เจอโทรหาโฟล์คนะ เดี๋ยวกูถือโทรศัพท์มันไว้ ขอบใจมาก" นินบอก ผมรู้ว่ามันขอบคุณผมเรื่องอะไร ครับ...เรื่องที่ผมกอบกู้กองถ่ายหนังของแฟนผมไว้ยังไงล่ะครับ

ผมถอนหายใจเบาๆ ตอนแรกไอจะออกเงินให้ แต่ผมปฏิเสธ ส่วนโฟล์ควุ่นวายกับกองมันอยู่ผมเลยไม่ได้ทักบอกอะไรไป เพียงแค่มองแผ่นหลังมันนิดหน่อยก่อนเดินไปตามฟุตบาท

ให้ตายเถอะ...เยาวราชนี่มันขายหรือแจกฟรีวะ คนเยอะชิบหาย ผมพาตัวเองเบียดเสียดกับผู้คนและโต๊ะอาหารที่กั้นเต็มถนนและทางเดิน แยกหน้าแม่งก็สามร้อยเมตรได้ เดินไปก็ราวๆสี่ร้อยเมตรได้ อยากจะรู้จริงๆไอ้เสาวรสอะไรนั่นแดกแล้วบินได้เหรอครับ

แต่พอนึกถึงสีหน้าไอ้โฟล์คเวลามันจริงจังกับงาน หรือแม้กระทั่งตอนที่มันบอกว่าดีใจที่ผมมาออกกองกับมันแล้ว...ก็อดอมยิ้มออกมาคนเดียวไม่ได้ จริงๆแล้ว มันก็ไม่ได้พิเศษอะไร ผมเลือกที่จะไม่ค่อยเชื่อคำพูดพวกนั้น ไม่ว่าจากปากใครก็ตามที...แต่สำหรับโฟล์ค ผมก็...อยากฟังมันพูด...ล่ะมั้ง

ผมรอไฟแดงแล้วค่อยๆพาตัวเองเคลื่อนข้ามแยกไปกับฝูงชน เสียงผัดกะทะร้อนดังฉ่า ควันโขมงทำเอาไอค่อกแค่ก ผมก้าวฉับๆผ่านร้านนรกนั่นมาจนติดกับฝูงชนหน้าร้านนมสด ใช้เวลาสักพักกว่าจะเบียดตัวเองออกมาได้ ให้-ตาย-เถอะ

โชคดีอย่างเดียวของตอนนี้คือผมไม่หลงทาง เพราะไอ้นินมันบอกไว้อย่างกระชับแม่นยำ ผมเดินทอดน่องมาเรื่อยๆจนกระทั่งเห็นโปสเตอร์หนังแปะอยู่เต็มกำแพงตึกแถว มีทางเดินแคบๆและบันไดพาขึ้นไปชั้นบน ด้านหน้าบันไดมีพี่สาวหน้าตาหน้ากลัวใช้ได้นั่งตบแป้งกันอยู่ นี่คือตำนานของโรงหนังเยาวราชสินะ ที่เขาบอกกันว่ามีการซื้อ-ขายกัน แล้วพากันขึ้นไปทำบนโรงหนังเลย

พี่สาวมองกูด้วยสายตาเชื้อเชิญด้วยครับ อยากจะตะโกนสุดเสียงว่ากูเป็นเกย์ แถมแฟนกูยังเป็นไบอีกต่างหาก แต่ก็หาไม่ ผมกระโดดแผล็วไปยังร้านรถเข็นด้านหน้าที่มีอาแปะนั่งประจำที่อยู่ อาแปะเงยหน้าจากหนังสือพิมพ์ในมือก่อนถามผม

“เอาอาราย"
“เอ่อ ผมขอน้ำเสาวรสสิบสองขวดครับ" ผมบอกไปตามใบสั่ง อาแปะแกยิ้มกว้างก่อนกุลีกุจอหยิบถุงมาจัดของ
“ขวดละสามสิบ สิบสองขวกสามร้อยหกสิบ แปะลกห้าย สามร้อยสี่สิบก็พอ"
“ขอบคุณมากนะครับ" ผมรับถุงมา ก่อนเปิดกระเป๋าเงินตัวเองรับแบงค์ร้อยสี่ใบเตรียมส่งให้อาแปะ ช่างเถอะ ถ้าเงินสามร้อยสี่สิบแม่งจะทำให้พิ้งค์ยอมถ่ายหนังดีๆ แล้วก็ช่วยกู้กองถ่ายไอ้โฟล์คได้ ถือว่าซื้อความสบายใจแล้วกัน

ผมยื่นเงินส่งให้อาแปะ แต่อาแปะยังไม่ทันจะรับ มือของใครบางคนก็ยื่นเข้ามาแทรกพร้อมแบงค์พันใบใหม่เอี่ยม ผมชะงักกึก


“แปะครับ เอาของผมจ่าย สามร้อยหกสิบใช่ไหมครับ?” ผมมองไล่ไปตามมือ และพบว่าเป็นโฟล์ค ที่เหงื่อโซมหน้าแถมยังหอบแฮ่ก
“สามร้อยสี่สิบ" แปะแก้ราคา โฟล์คพยักหน้าก่อนส่งเงินให้
“ครับ นี่" แล้วมันก็ก้มลงเท้ามือกับเขาแล้วสูดลมหายใจ
“มึง...มาทำไมวะ?” ผมถามมันอย่างไม่เข้าใจ "นี่วิ่งมาเหรอ แล้วกอง?”
“มึงยังจะถาม มึงเล่นเดินหายไปไม่บอกกล่าว ถ้าแฟนกูหายจะทำไงวะ" มันด่าทั้งที่ยังหอบแฮ่ก
“ประสาท ไม่ถึงกิโล กูเดินกลับถูก" ผมถอนหายใจเบาๆ "นี่ทิ้งกองมาทำไม?”
“ไม่ได้ทิ้ง"
“มึงทิ้งมา ดูก็รู้" ผมว่า รับเงินทอนจากอาแปะส่งให้มัน "ไม่ต้องทิ้งกองวิ่งตามหากูก็ได้โฟล์ค กูไม่ไปไหนหรอก เดี๋ยวก็กลับไป" ผมว่า แต่มันมองผมอย่างจริงจัง
“กูไม่ได้กลัวมึงหายไปไหนน้ำชา" มันบอกเสียงเรียบ "แต่แฟนกู โดนใครแกล้งก็ไม่รู้ ถ้ากูยังปกป้องแฟนกูไม่ได้ ไอ้กองห่านั้นก็ไม่ต้องทำมันหรอก" มันว่าอย่างจริงจัง
“กู-”
“มึงไม่ต้องบอกว่ามึงโอเค เพราะกูไม่โอเค กูไม่ได้เอาเรื่องพิ้งค์ มันไร้สาระ แต่ถ้าพิ้งค์จะไม่เล่นหนังให้กู กูก็โอเค"
“พ่อมึง จะบ้าเหรอ มึงจะเอากองมึงมาเป็นตัวประกันทำเชี่ยไรไอ้สัด ไร้สาระ" ผมด่า ขาก็ก้าวเดินนำ เพราะอาแปะเริ่มมองด้วยสายตาแปลกๆ
“ไร้สาระตรงไหนวะ!" ไอ้โฟล์คเถียงเสียงดัง "ถ้ามึงชอบใครสักคน เรื่องแบบนี้แม่งจิ๊บมาก"
“......”
“ที่ไร้สาระมันมึงต่างหาก มึงจะเดินดุ่มๆออกมาทั้งๆที่รู้ว่าโดนแกล้งเนี่ยนะ"
“ก็เปล่า-”
“มึงไม่เห็นต้องทำ"
“กู-”
“นี่กูโมโหจริงๆนะ เชี่ย แม่งไม่อยากถ่ายต่อแล้วสัดเอ้ย-”
“มึงเลิกโวยวายแล้วฟังกูพูดได้ไหม! นี่กูกำลังปกป้องสิ่งที่มึงรักอยู่ไม่เห็นหรือไง!” ผมโยนถุงขวดน้ำเสาวรสใส่มันเต็มๆจนบางขวดตกแตกหล่นพื้น มันดูจุกจากแรงอัดของน้ำหนัก แต่ก็ยังเสนอหน้าเบิกตามองหน้าผม "กูมีเหตุผลของกู ไม่ใช่ว่ากูไม่แคร์มึงหรือตัวกูเอง"
“......”
“แต่มึงเข้าใจไหมว่านี่เป็นเรื่องของเรา แล้วกูก็รู้สึกว่า ไม่อยากให้มึงมารับผิดชอบคนเดียว"
“......”
“จริงๆแล้วกูก็ไม่รู้ว่าแม่งจำเป็นไหม แต่ไหนๆก็ร่วมหอลงโลงกันแล้ว กูจะปกป้องมึงเหมือนกัน"


ผมเบือนหน้าหนีในคำสุดท้าย โฟล์คนิ่งอึ้งอยู่ตรงหน้าผม มันนิ่งค้างสักพัก ก่อนค่อยๆย่อตัวลงเก็บขวดน้ำบางขวดที่ยังสภาพดีใส่ถุง แล้วถือเอาไว้...


“กลับกันเถอะ" มันว่าเรียบๆ ก่อนยื่นมือส่งมาให้ผม ผมมองหน้ามัน สลับกับฝ่ามือนั่น ก่อนยอมส่งมือให้มันไปในที่สุด


มันเดินจูงมือผมไปตามทางที่เราเดินมา เบียดเสียดไปกับฝูงชน ไม่ได้ปริปากพูดอะไรเท่าไหร่ แต่ก็รู้สึกได้


“ขอบคุณนะน้ำชา"


มันกระซิบบอกผมเมื่อเราเดินกลับมาถึงหน้าร้าน โฟล์คเป็นคนเดินเอาของไปส่งให้พิ้งค์ด้วยตัวเอง ผมสบตากับพิ้งค์ และเธอก็สะบัดหน้าใส่ผม ผมเองก็ไม่ได้เดินกลับเข้าไปด้านในอีกเลย เพราะเลือกที่จะยืนอยู่กับนินที่ริมฟุดบาทหน้าร้าน

โฟล์คเดินกลับมาหลังจากคุยกับพิ้งค์เสร็จ นางเอกแสนดีของเรายังคงสีหน้าบึ้งตึง แต่ก็ไม่ได้มีท่าทีว่าจะอาละวาดหรือไม่ยอมเล่นต่อให้...

ผู้กำกับเจ้าปัญหาเดินออกมาอีกที มันยืนมองไฟที่ถูกจัดตรงหน้านิ่งๆ ออกปากเล็กน้อยให้แก้เพื่อให้ได้แสงแบบที่มันต้องการ แล้วก็เลื่อนตัวมายืนข้างๆผม


“หิวไหม?” มันถามเบาๆ ผมไหวไหล่
“นิดหน่อย ทนได้"
“เดี๋ยวไปกินข้าวกันนะ" มันบอก ผมพยักหน้ารับ "แต่เหลืออีกหนึ่งซีนย่อย กับหนึ่งซีนใหญ่ว่ะ ทนหน่อยนะ"
“ได้ ไม่มีปัญหาหรอก เดี๋ยวกูแดกน้ำเสาวรสประทังชีวิต" ผมประชดเล่นๆ ไอ้โฟล์คหัวเราะหึก่อนแบมือตรงหน้าผม
“ขอมือหน่อย"
"ทำไม?” ผมขมวดคิ้ว มันไม่ตอบ แต่คว้ามือผมไปจับไว้แทน
“ชาร์ตพลัง" มันพึมพำ "พลังรัก"








“พลังรักพ่อมึงสิ"









 11วันก่อนตกหลุมรัก.







tbc.


มาแล้วค่ะ ดึกเชียว แหะๆ
ไม่ค่อยมีอะไรทอล์คเลยค่ะ ง่วงมาก แต่ทำตามสัญญาแล้วนะคะ
ล่ารักฯพยายามปั่นอยู่ เป็นclimaxเรื่องแล้ว เลยพยายามเขียนให้ดีที่สุด ขอให้ลงตัวแล้วจะมาลงให้อ่านจนจบนะคะ รออีกไม่นานนะคะ

ขอบคุณที่รักโฟล์ค-ชา
รวมถึงแจ็คกี้-มิ ด้วยค่ะ

 :z2:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ Mani

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 57
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
แน่ใจหรอว่าไม่ได้ตกหลุมรักไปแล้ว ฮ่าๆ

คนอ่านเนี่ยล่ะค่ะ ตกหลุมรักเต็มๆเลย ><

ออฟไลน์ Moose

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1257
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +35/-2
โอ้ยยยยยย รักโฟล์ค รักชา รักทุกๆคนในกอง รักคนเขียน เกลียดอิพิ้งค์

อ่านตอนนี้จบแล้วรู้สึกอารมณ์ดีมากกกกกกกก โฟล์คแบบเท่ห์สุดๆ ชาก็น่ารัก อ่อยยยย เขินแทนน้ำชา #อยากมีโฟล์คเป็นของตัวเอง ฮ่าๆ

รอตอนต่อไปค่ะ

ออฟไลน์ Serioz

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 265
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +14/-0
อยากตบยัยพิ้งค์อยากจะเอากลิ่นตดเน่าๆอัดใส่หน้า  :angry2:

ออฟไลน์ EverGreen™

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1684
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +192/-1
น่ารักทุกคนเลยยยยย
 :-[

ยกเว้นยัยพิ้งค์เน่านั่น  :beat:

ออฟไลน์ michiri.sama

  • ลูกเป็ดที่หมกมุ่นในโลกสีม่วง (´∀`)♡
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 78
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-0
ชอบเรื่องนี้มากกกกกกกก
ชอบบุคลิกของตัวละครทุกคนเลยค่ะ
โฟล์คก็อบอุ่น น้ำชาก็น่ารัก
อ่านแล้วมันกิ๊วก๊าวหัวใจมาก

ออฟไลน์ เด็กหญิง

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 204
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-0
แง้งง ยิ่งอ่านยิ่งชอบเรื่องนี้ :ling3:
สนุกมากๆเลยค่ะ สุดยอดจริงๆ อ่านแล้วชอบมาก
โฟล์คได้ใจอีกแล้ววว แคร์ความรู้สึกแฟนตัวเองมากด้วย :impress2: :impress2:

ขอแบบโฟล์คสักคนค่ะ :man1:
รอตอนต่อไปแทบไม่ไหว :katai1: :katai1:

ออฟไลน์ Zelsy

  • เพราะ "รัก" คำเดียวเท่านั้น
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1860
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +191/-2
งื้อ มันน่ารักมากๆเลย
พิ้งค์สนใจรับคารามายแก้คันแมะ

ออฟไลน์ punthipha

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1478
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +200/-0
“ชาร์ตพลัง พลังรัก"  :-[ :-[ :-[ :-[ โฟล์คหวานใจละลายไปเลย

ตอนนี้หลายใจมากรักโฟล์ค ชา แจ็คกี้ หนูมิ เท่ากันเลย   :c3:   :give2: :give2: :give2: :give2:







ออฟไลน์ Jthida

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1549
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-3
โอ้ย ปลื้มโฟล์คมาก

Catnip

  • บุคคลทั่วไป
น่ารักมากกกกกกกกกกกกก //ลงไปดิ้นตายย
โฟล์คจ๋า น้ำชาจ๋า  :-[ :-[ :-[ :-[
แยมก็น่ารัก ตอนแรกนึกว่าจะมีอะไรซะแล้ว

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด