รามิเรส : บทที่ 33 (จบ) และบทส่งท้าย (30 ธ.ค.57) แจ้งข่าวหนังสือ หน้า 1 ค่ะ
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: รามิเรส : บทที่ 33 (จบ) และบทส่งท้าย (30 ธ.ค.57) แจ้งข่าวหนังสือ หน้า 1 ค่ะ  (อ่าน 357916 ครั้ง)

ออฟไลน์ Infinity 888

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2026
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +157/-7
Re: รามิเรส : บทที่ 14 (1 เม.ย. 57) หน้า 10
«ตอบ #270 เมื่อ01-04-2014 15:47:44 »

เข้าใจว่าทำไมฟีเรียส ถึงไม่มา :z3:

องค์ชายแทนที่ท่านจะรอไปตามโชคชะตา ทำไมท่านไม่รุกให้จริงจังบ้าง

อยากได้เรื่องนี้แบบรวมเล่มจัง :m13: ตั้งความหวังรอนักเขียนค่ะ

ออฟไลน์ PetitDragon

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4126
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +343/-5
Re: รามิเรส : บทที่ 14 (1 เม.ย. 57) หน้า 10
«ตอบ #271 เมื่อ01-04-2014 18:29:41 »

เวรกรรม  :เฮ้อ:

ออฟไลน์ Zelsy

  • เพราะ "รัก" คำเดียวเท่านั้น
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1859
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +191/-2
Re: รามิเรส : บทที่ 14 (1 เม.ย. 57) หน้า 10
«ตอบ #272 เมื่อ01-04-2014 18:43:05 »

โถ ก็ยังไม่รู้ใจตัวเองซะที มันก้ำกึ่งเกินไปหรอ

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
Re: รามิเรส : บทที่ 14 (1 เม.ย. 57) หน้า 10
«ตอบ #273 เมื่อ01-04-2014 19:32:26 »

ยังไงดีล่ะ สำหรับตอนนี้

ออฟไลน์ fay 13

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5635
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +286/-44
Re: รามิเรส : บทที่ 14 (1 เม.ย. 57) หน้า 10
«ตอบ #274 เมื่อ01-04-2014 19:32:36 »

 :mew1: :mew1: :mew1:

ออฟไลน์ mamajie

  • ต้องตื่นก่อน , จึงรู้ว่า , ที่ผ่านมาคือความฝัน.
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 93
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-1
Re: รามิเรส : บทที่ 14 (1 เม.ย. 57) หน้า 10
«ตอบ #275 เมื่อ01-04-2014 19:50:25 »

 :katai5: :katai5: บางครั้งก็รู้สึกว่าองค์ชายหกวันโง่เง่า สิ้นดี

ออฟไลน์ silverspoon

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2426
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +275/-12
Re: รามิเรส : บทที่ 14 (1 เม.ย. 57) หน้า 10
«ตอบ #276 เมื่อ01-04-2014 20:16:42 »

เพราะฟีเรียสคิดว่า อยู่ใกล้กันยิ่งหวั่นไหวห้ามใจตัวเองไม่ได้เลย รึป่าว..

ออฟไลน์ iforgive

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +844/-80
Re: รามิเรส : บทที่ 14 (1 เม.ย. 57) หน้า 10
«ตอบ #277 เมื่อ01-04-2014 21:26:13 »

เขาไม่มาก็ลุยเลยสิเจ้าคะ อวค์ชาย

ออฟไลน์ cher7343

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1673
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +133/-4
Re: รามิเรส : บทที่ 14 (1 เม.ย. 57) หน้า 10
«ตอบ #278 เมื่อ01-04-2014 22:06:15 »

  o18  o18

ออฟไลน์ mur@s@ki

  • อยากรัก..แต่ใจไม่กล้า
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1899
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-5
Re: รามิเรส : บทที่ 14 (1 เม.ย. 57) หน้า 10
«ตอบ #279 เมื่อ01-04-2014 22:47:57 »

จะเรียกว่าซื่อหรือบื้อดีนะ ทั้งคู่เลย!!



แต่ก็รักอยู่ดี เฮ้ออออ  :กอด1:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: รามิเรส : บทที่ 14 (1 เม.ย. 57) หน้า 10
« ตอบ #279 เมื่อ: 01-04-2014 22:47:57 »
ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ JustWait

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3348
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +80/-4
Re: รามิเรส : บทที่ 14 (1 เม.ย. 57) หน้า 10
«ตอบ #280 เมื่อ03-04-2014 10:52:52 »

ทำไมเราไม่แปลกใจ :เฮ้อ:

ออฟไลน์ himoru

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 394
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-3
Re: รามิเรส : บทที่ 14 (1 เม.ย. 57) หน้า 10
«ตอบ #281 เมื่อ03-04-2014 13:38:46 »

ทำไมองค์ชายหกไม่แบบซื่อสัตย์กะตัวเองให้มากกว่านี้ ฮ๊อก
ฟีเรียสก็มาลองๆมาหาหน่อยจิสงสารองค์ชายอ่า
หรือฟีเรียสต้องการตัดใจ?
รอนะคะ เรื่องสนุกมากอ่า
องค์ชายมารอฟีเรียสทุกวันที่หน้าผา
โฮกกกกกก

ออฟไลน์ paladin.kn

  • ไฟมอดลงยังคงทิ้งรอย...เถ้าถ่าน
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 608
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +45/-0
Re: รามิเรส : บทที่ 14 (1 เม.ย. 57) หน้า 10
«ตอบ #282 เมื่อ03-04-2014 22:50:12 »

โถพ่อคุณ

 :z3: :z3: :z3:

คนอ่านลุ้นจนเยี่ยวเหนียวแล้วจ้า

มาเถอะนะฟีเรียสสงสารรามิเรส


ออฟไลน์ วัวพันปี

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1309
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +540/-3
Re: รามิเรส : บทที่ 14 (1 เม.ย. 57) หน้า 10
«ตอบ #283 เมื่อ03-04-2014 23:21:25 »

องค์ช้ายยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย
ตามหาหัวใจตัวเองได้แล้ว เอ่อยังไม่รู้ใจตัวเองนินา

ติ่ง..มิทรอส

ออฟไลน์ Maxshu

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 858
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-1
Re: รามิเรส : บทที่ 14 (1 เม.ย. 57) หน้า 10
«ตอบ #284 เมื่อ04-04-2014 01:19:55 »

และกว่าจะรู้สึกกันได้ คนอ่านคงแก่ก่อน #ประชดฟีเรียสที่มันคิดเยอะ ประชดองค์ชายที่ไม่ยอมรับความรู้สึกตนเอง

ออฟไลน์ Snowermyhae

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4014
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +97/-7
Re: รามิเรส : บทที่ 14 (1 เม.ย. 57) หน้า 10
«ตอบ #285 เมื่อ04-04-2014 01:35:32 »

ฟีเรียสคงนั่งคิดเยอะเหมือนเคย  :z3:

ออฟไลน์ IIMisssoMII

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2030
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-2
Re: รามิเรส : บทที่ 14 (1 เม.ย. 57) หน้า 10
«ตอบ #286 เมื่อ08-04-2014 14:16:22 »

ฟีเรียสหาย !!!!
โดนลดบท ข้อหาเล่นตัว 55

ออฟไลน์ ชุน

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 135
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +162/-1
Re: รามิเรส : บทที่ 15 (9 เม.ย. 57) หน้า 10
«ตอบ #287 เมื่อ09-04-2014 22:18:22 »

บทที่ ๑๕


“แปลก ทุกทีคุณชายเรียกเจ้าไปรับงานที่บ้าน ไม่ก็มาหาเจ้าที่นี่เองไม่ใช่หรือ คราวนี้นึกยังไงสั่งงานทางจดหมาย”

โรดีอัสถามอย่างแปลกใจ เมื่อเพื่อนสนิทซึ่งถูกตามตัวไปยังอาคารกลาง
กลับมาพร้อมจดหมายที่คนสนิทของคุณชายเล็กของบ้านเสนาบดีกลาโหมเป็นผู้นำมาให้

“เออ แต่จะว่าไปหลังๆ มานี่ก็ไม่ได้มาเองเลยนี่หว่า ใช้คนที่บ้านมาบอกตลอด”

ฟีเรียสไม่แปลกใจ เขาคิดว่าเขารู้ดีทีเดียวว่าเพราะอะไร
คุณชายมิทรอสกลัวว่าจะถูกถามเหตุผล นั่นเป็นความกลัวที่ถูกต้องแล้ว เพราะเขาถามแน่
แต่เมื่อเวลาล่วงเลยมาจนถึงตอนนี้ เขาก็ไม่คิดจะถามอีกแล้ว
ส่วนเรื่องเงินที่ตั้งใจว่าจะคืนให้เพราะไม่ได้ทำงานให้คุ้มเงิน ตอนนี้ก็ไม่คิดจะคืนให้แล้วเช่นกัน

“ไหนแกะดูซิ คราวนี้งานอะไร”   

ฟีเรียสเปิดซองออก หยิบกระดาษที่พับทบเป็นสามส่วนออกมา
ครั้นคลี่ออกมา กระดาษสีฟ้าอ่อนแผ่นเล็กๆ แผ่นหนึ่งก็พลันร่วงลง คนที่ก้มลงไปเก็บคือโรดีอัส

“ข้ายังรอให้คำตอบเจ้าอยู่ที่... เฮ้ย! อะไรวะฟีเรียส”

โรดีอัสออกอุทานเสียงดังเมื่อจู่ๆ เพื่อนสนิทก็ชิงกระดาษที่เขากำลังอ่านอยู่ออกไปจากมือ

“เปล่า ไม่มีอะไร”

“มันจะไม่มีอะไรได้ไงวะ ดูเจ้าสิ ท่าทางผิดปกติ”

ตกใจอะไรกับแค่กระดาษแผ่นเดียว แถมข้อความข้างในก็มีแค่บรรทัดเดียว
ถึงเขาจะยังอ่านไม่จบ แต่สายตาก็เก็บความได้ครบถ้วน เพราะคำที่ยังไม่ได้อ่านมีแค่คำเดียว
คือคำว่า ‘บ้าน’

“มีอะไรเป็นความลับรึไง”

“ไม่มี”

“เดี๋ยวนี้มีความลับกับข้าหรือ บอกมา มีอะไรที่ข้าไม่รู้”

เจ้าของร่างที่ทั้งสูงกว่าและหนากว่าหยุดยืนดักหน้า ทำให้ฟีเรียสต้องหยุดเดินไปโดยปริยาย
ชายหนุ่มตีหน้าเฉยบอกเสียงเรียบทั้งที่ใจเต้นตึกตักตั้งแต่เหลือบไปเห็นว่าเป็นลายมือใคร

“ไม่มีอะไรเป็นความลับทั้งนั้น ก็แค่จดหมายสั่งงานตามปกติ อาจจะให้ไปรับเงินที่บ้าน รีบไปเถอะ เดี๋ยวจะเข้าเรียนสาย”

เมื่อคนพูดเดินเบี่ยงไปอีกทาง โรดีอัสก็ยอมให้ไปแต่โดยดี แต่ยังไม่วายถามขณะเดินตามไปข้างๆ

“แล้วที่ว่ารอให้คำตอบนั่นคำตอบอะไร”

ฟีเรียสไม่ถนัดเรื่องการโป้ปด ยิ่งในเวลากะทันหันอย่างนี้เขายิ่งคิดไม่ออก
ได้แต่ทำหน้านิ่งทั้งที่รู้ว่าแค่ไม่ตอบก็มากพอที่จะดูเป็นพิรุธให้เพื่อนสนิทยิ่งสงสัย

“เกี่ยวกับเรื่องที่เจ้าชอบทำหน้าเครียดตอนที่คิดว่าข้าไม่เห็นบ่อยๆ รึเปล่า”

โรดีอัสก็เป็นอย่างนี้ คือเดาแม่นจนน่าตกใจ

“นั่น ข้าว่าแล้ว” แถมยังช่างสังเกตเป็นที่สุด

“ข้ายังไม่ได้พูดอะไร”

“ถึงเจ้าไม่พูด ข้าก็ดูสีหน้าเจ้าออก บอกมา คุณชายเสเพลนั่นให้เจ้าไปทำงานอะไร”

ที่จริงแล้วมิทรอสก็เป็นทหารม้าที่เก่งกล้าสามารถคนหนึ่ง
เพียงแต่กิตติศัพท์เรื่องความเจ้าชู้ค่อนข้างจะมีมากกว่าเรื่องความสามารถหลายเท่า
เขาเคยไปเที่ยวที่หอบุปผาสองสามแห่งมาแห่งละสองสามหน
แต่ไปที่ไหน ไปกี่หนก็ไม่พ้นได้ยินว่าขาประจำอันดับต้นๆ คนหนึ่งก็คือคุณชายเล็กแห่งบ้านเสนาบดีกลาโหม

“ก็งานจิปาถะธรรมดาอย่างที่เจ้ารู้” ก่อนที่โรดีอัสจะได้พูดอะไร ฟีเรียสก็เรียกเสียงดัง

“เฮ้! ดีลุคซ”

เจ้าของชื่อหันมาตามเสียง ก่อนจะเปลี่ยนทิศทาง ก้าวยาวๆ มาสมทบ
โรดีอัสทำอะไรไม่ได้นอกจากตบไหล่เพื่อนรักไปแรงๆ ทีหนึ่ง ยิ้มกว้าง แล้วว่า

“ไม่เป็นไรฟีเรียส คืนนี้ยังมี”






“ไม่ต้องแกล้งหลับเลย ฟีเรียส หัวค่ำขนาดนี้ข้ารู้ว่าเจ้าหลับไม่ลงแน่”

คุณสมบัติอีกอย่างหนึ่งของโรดีอัสคือความจำดีเลิศ ไม่แปลกที่ชายหนุ่มจะเรียนเก่ง
แต่ฟีเรียสไม่อยากให้อีกฝ่ายเอาความเก่งนี้มาใช้กับเขาเลย

“เฮ้ย! ลุก จดหมายนั่นว่าไง”

คนเรียกมานั่งเรียกอยู่บนเตียงแคบๆ ของเขานี่แล้ว ต่อให้หลับอยู่จริงก็ต้องตื่น
ฟีเรียสจึงไม่คิดจะถ่วงเวลาอีก เขาดึงผ้าห่มออกแรงๆ
คนที่นั่งทับอยู่ต้องลุกขึ้นยืนเพื่อให้เจ้าของเตียงลุกขึ้นไปเปิดตู้เสื้อผ้าเล็กๆ ออก
หยิบจดหมายฉบับนั้นออกมาจากลิ้นชักชั้นล่างแล้วเดินมายื่นให้

โรดีอัสรับไปนั่งอ่านที่เตียงของตัวเองซึ่งวางอยู่ชิดผนังฝั่งตรงข้าม
ข้อความในจดหมายเขียนอธิบายสั้นๆ ถึงลักษณะของงานและค่าจ้างที่จะได้รับ
คราวนี้เป็นงานคัดแยกหนังสือของกรมอาลักษณ์

“ของชอบเจ้าเลยสิงานนี้”

เป็นเพื่อนกันมาเกือบห้าปี โรดีอัสจึงรู้ดีว่าอีกฝ่ายชอบอ่านหนังสือ
บรรดาหนังสือที่มีอยู่ในห้องหนังสือของโรงเรียน ฟีเรียสอ่านมาแล้วไม่ต่ำกว่าสามในสี่
ที่เหลือไม่ใช่เป็นเพราะเจ้าตัวอ่านช้า แต่เพราะฟีเรียสก็เลือกอ่านเหมือนกัน
บางประเภทที่เขาไม่ค่อยชอบเช่นปรัชญาเขาก็ไม่อ่าน

“อืม”

“แล้วแผ่นเล็กนั่นหายไปไหน”

“คงหล่นหาย”

“เจ้าโกหกไม่เก่ง อย่าพยายามเลยน่า ฟีเรียส ว่าไง คุณชายมิทรอสจะให้คำตอบเรื่องอะไรกับเจ้า”

“ข้าจะขอให้เขาช่วยขอท่านผู้อำนวยการ ให้ข้าทำงานพิเศษตอนกลางคืนได้”

โรดีอัสเงียบไป ฟีเรียสโล่งใจไม่น้อยที่เหตุผลที่เขาอุตส่าห์คิดมาตลอดทั้งบ่ายได้ผลดี

“เจ้าจะเอาเงินไปทำอะไรมากมาย”

แต่ประเด็นใหม่นี่มาโดยที่เขาไม่ทันได้ตั้งตัว ฟีเรียสเตรียมคำโกหกไว้ไม่ทัน

“อีกอย่างนะ เพื่อนยาก ข้าสงสัยมานานแล้วว่าเจ้าไปทำอะไรให้คุณชายบ้านเสนาฯ กลาโหมถูกใจ
ถึงได้ป้อนงานให้เจ้าได้เรื่อยๆ ไม่มีหยุด”

ฟีเรียสนิ่งเงียบ แต่ก็ไม่ได้ใบ้กินอยู่นานนัก

“ข้าคงบังเอิญจัดสวนได้ถูกใจมั้ง ไม่รู้ ไม่ได้คิด ส่วนเรื่องเงินนั่นก็ไม่ได้จะเอาไปทำอะไร แต่มีงาน มีเงิน ก็ดีกว่าไม่มี”

โรดีอัสเกาหัว

“เจ้านี่มันแถไปได้เรื่อยๆ จริงๆ ว่ะ งั้นเอานี้นะ เรื่องสุดท้าย”

ฟีเรียสมองหน้าเพื่อนอย่างระแวง เรื่องสุดท้ายของโรดีอัสมักจะเป็นเรื่องที่ ‘สุดๆ’ กว่าเรื่องที่ผ่านมา ถ้าไม่ดีสุดๆ ก็ร้ายสุดๆ

“ลายมือบนกระดาษแผ่นเล็กนั่นลายมือใคร”

คนมีความลับติดตัวชะงัก ตระหนักว่าเขาพลาดเสียแล้ว
ถ้าไม่เอากระดาษแผ่นใหญ่ให้อ่าน อีกฝ่ายก็คงไม่รู้ว่าลายมือบนกระดาษสองแผ่นไม่เหมือนกัน

“ฟีเรียส”

“ข้าไม่รู้”

“งั้นเอามาให้ข้าดูอีกที”

“ดูแล้วเจ้าจะรู้หรือว่าลายมือใคร”

โรดีอัสยิ้ม เป็นรอยยิ้มแบบเดียวกับตอนที่เล่นไพ่กันแล้วมีไพ่ดีๆ อยู่ในมือ
แต่ฟีเรียสไม่ลืมว่าบางทีเจ้าหมอนี่ก็ชอบทำหน้าแบบนี้ตอนที่ได้ไพ่แย่ๆ เพื่อหลอกให้คนอื่นหลงเข้าใจผิด

“พูดอย่างนี้แสดงว่าเจ้ายังเก็บมันเอาไว้”

“... เก็บแล้วทำไม”

“เอามาให้ข้าดู”

ฟีเรียสนั่งหน้านิ่ว หลังจากครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งก็เดินหน้าขรึมไปหยิบกระดาษแผ่นนั้นมาส่งให้เพื่อน
โรดีอัสรับไปดู ข้อความข้างในไม่มีอะไรนอกเหนือจากที่เขาเห็นไปแล้ว
ส่วนลายมือเป็นยังไงเขาก็จำได้ จุดประสงค์เพียงอย่างเดียวที่ขอดูก็เพราะว่า
เขาอยากรู้ว่าเพื่อนจะหวงมันแค่ไหน แต่เห็นอย่างนี้ก็คงไม่ได้หวงเท่าไหร่

“เฮ้ย! โรดีอัส เจ้าจะทำอะไร เอามา”

นักเรียนองครักษ์ผิวเข้มร่างใหญ่ยอมปล่อยให้คนที่นั่งอยู่เตียงตรงข้ามกระโจนเข้ามา
ดึงเอากระดาษสีฟ้าแผ่นนั้นกลับไปโดยดี

“หวงขนาดนี้เชียวเหรอวะ”

แค่เขาแกล้งทำท่าว่าจะฉีกทิ้ง ก็ได้เห็นท่าทีตกใจ ร้อนรนอย่างเห็นได้ยากของเพื่อนสนิท
ปฏิกิริยาแบบนี้ออกจะเกินคาดไปหน่อย

“ลายมือสวยแบบนี้ ลายมือผู้หญิงรึเปล่า”

“ข้าไม่รู้”

ฟีเรียสรู้ ว่าเขาพลาดไปแล้วอย่างใหญ่หลวง แม้แต่ตัวเองก็ไม่เคยคาดคิด ว่าจะทำอย่างนั้นออกไป
หวงแหนทั้งที่มันเป็นแค่กระดาษแผ่นเดียว ซ้ำข้อความข้างในเขาก็อ่านแล้ว รู้แล้ว และไม่คิดจะเปลี่ยนความตั้งใจ

โรดีอัสนิ่งเงียบอยู่เป็นนาน และฟีเรียสก็ไม่สบตาเพื่อนเลย

“เจ้ามีปัญหาอะไรรึเปล่า ฟี”

มี แต่บอกไม่ได้

“มีปัญหากับคุณชายมิทรอส หรือว่ามีปัญหาเรื่องเงิน ข้ารู้ว่าเจ้ามันขี้เกรงใจ
แถมหยิ่งในศักดิ์ศรี แต่ข้าเป็นเพื่อนเจ้า มีปัญหาอะไรบอกข้าไม่ได้รึไง
รู้ว่าเจ้ามีปัญหาแต่ไม่รู้ว่าปัญหาอะไรนี่มันหงุดหงิดนะเว้ย ข้าเป็นห่วงเจ้า”

ฟีเรียสสูดลมหายใจเข้าลึก แต่ผ่อนออกยาวนานกว่ามาก

“ไม่ร้ายแรงอย่างที่เจ้าคิด”

“แล้วเจ้ารู้รึไงว่าข้าคิดว่ามันร้ายแรงขนาดไหน”

สมเป็นโรดีอัสดี ช่างพูดให้เขาอึ้งได้ตลอด พ้นจากเจ้าชายรามิเรสมาแล้วก็ยังต้องมาเจอโรดีอัสอีกหรือ
ชีวิตเขาชักจะน่าเศร้าเกินไปแล้ว

“ไม่ใช่เรื่องใหญ่ เจ้าไม่ต้องห่วง ข้าไม่มีปัญหาเรื่องเงิน แล้วก็ไม่ได้มีปัญหากับคุณชายมิทรอส”

“งั้นใคร”

“ไม่มีใครทั้งนั้น นอนเถอะ ข้าง่วง”

“ฟีเรียส อย่ามาตัดบทกันแบบนี้นะโว้ย เฮ้ย! ฟีเรียส”

อีกฝ่ายล้มตัวนอนหันหลังให้เสียแล้ว โรดีอัสรู้ว่าเพื่อนรักยังไม่หลับง่ายๆ
แต่แสดงออกว่าไม่อยากจะคุยต่อถึงขนาดนี้แล้วเขาก็ไม่อยากจะตามรังควาน
ทำแบบนี้เด็กสิบขวบก็รู้ว่าต้องมีปัญหาแน่ มีปัญหาคนเดียวไม่พอ
ยังจะพลอยทำให้เขานอนไม่หลับไปด้วย ให้มันได้อย่างนี้สิน่า


***************************************


ฟีเรียสไม่ได้พบกับเจ้าชายหกแห่งไมซีนมาสองเดือนแล้ว
นักเรียนองครักษ์ปีสุดท้ายอย่างเขามีกิจกรรมต้องทำมากมาย
นอกจากเรียนและสอบแล้วยังต้องขยันทำงานพิเศษเพื่อหาเงินมาใช้หนี้
แม้จำนวนเงินที่ได้มาจะน้อยนิดมากเมื่อเทียบกับหนี้ก้อนโตที่เขาอยากจะใช้ให้หมดเร็วๆ
แต่ฟีเรียสก็ไม่ดูถูกเงินไม่ว่ามันจะเล็กน้อยเพียงใดก็ตาม ขอให้เขาได้ใช้หนี้ให้หมดเร็วขึ้นแม้เพียงแค่วันเดียวก็ยังดี

นักเรียนองครักษ์หนุ่มได้พบกับคุณชายบ้านเสนาบดีกลาโหมบ้าง
เขาตัดสินใจไม่ถามฝ่ายนั้นว่าหลอกให้เขาไปพบกับเจ้าชายรามิเรสทำไม
พูดให้ถูกคือเขาไม่เอ่ยถึงเจ้าชายพระองค์นั้นเลย
คุณชายมิทรอสทำท่าเหมือนจะพูดอะไรสักอย่างกับเขาอยู่หลายครั้ง แต่ก็ตัดสินใจไม่พูด
ซึ่งฟีเรียสเดาได้ว่าก็คงไม่พ้นเรื่องเจ้าชายหกอีกตามเคย และถ้าเป็นอย่างนั้นจริงก็ดีแล้วที่ไม่พูด

เขาไม่อยากคิดถึงเจ้าชายพระองค์นั้นมากไปกว่านี้ ไม่อยากรู้สึกผิด
ทั้งๆ ที่บอกตัวเองอยู่หลายครั้งว่าเขาไม่ได้ทำอะไรผิดเลย

มิทรอสยังคงเป็นคนหางานพิเศษดีๆ รายได้งามๆ มาให้ฟีเรียสอยู่เนืองๆ
โดยที่ฝ่ายหลังไม่จำเป็นต้องร้องขอ ฟีเรียสพยายามไม่คิด

แต่เขารู้... ว่าใครอยู่เบื้องหลังเรื่องนี้

ฟีเรียสเกลียดการเป็นหนี้ แค่มีเจ้าหนี้คนเดียวก็มากพอแล้ว
แต่อีกครึ่งเดือนต่อมาเขากลับพบว่าตัวเองต้องเป็นหนี้เพื่อนอีกคนหนึ่ง

บ้านเขามีปัญหา เขาเคยบอกน้องสาวว่าไม่ว่าจะมีปัญหาอะไรก็อย่าได้ทูลขอความช่วยเหลือจากเจ้าชายหกเป็นอันขาด
ทั้งเฟย์และแม่ต่างเข้าใจความทระนงของเขาดีจึงยินดีทำตาม เฟย์เขียนจดหมายมาเขา
บอกข่าวว่าราวหนึ่งเดือนก่อนบ้านเขาถูกปล้น เงินสะสมที่เก็บไว้ทั้งหมดถูกขโมยไป
นั่นยังไม่เลวร้ายเท่ากับแม่ของเขาป่วยหนัก แม้จะรักษาได้ก็ต้องใช้เงินจำนวนมากเพราะยามีราคาแพง
วอลเซนส์ยินดีให้ความช่วยเหลือให้หยิบยืมเงิน

มีเมื่อไหร่ค่อยคืน ไม่มีก็ไม่ต้องคืน ไม่ต้องคิดมาก

เจ้าของฟาร์มม้าหนุ่มว่าอย่างนั้น ฟีเรียสตั้งใจว่าจะใช้คืนให้ทุกเหรียญ
แต่จำนวนเงินก็มากจนเขาตกใจ มากกว่าเงินเก็บที่เขามีอยู่ตอนนี้เสียอีก

นักเรียนองครักษ์หนุ่มเครียดจนนอนไม่หลับติดกันหลายคืน
โรดีอัสถามไถ่ตามประสาคนช่างสังเกต และฟีเรียสก็บอกเท่าที่บอกได้
บอกจบ ฝ่ายนั้นก็เสนอความช่วยเหลือให้เขาอย่างที่เขาคิดไว้ไม่มีผิด

ฟีเรียสปฏิเสธอย่างพยายามไม่ให้ฟังดูตัดรอนน้ำใจเพื่อนมากเกินไป

แต่ให้เปลี่ยนเจ้าหนี้จากเพื่อนคนหนึ่งไปเป็นเพื่อนอีกคนหนึ่งเขาไม่ทำเด็ดขาด ไม่มีประโยชน์อะไรเลย

นักเรียนองครักษ์หนุ่มไม่มีวิธีอื่นนอกจากพยายามทำงานพิเศษให้มากขึ้น
เขาขอร้องคุณชายมิทรอสผ่านทางจดหมาย ขอให้หางานให้เขามากขึ้น
เมื่ออีกฝ่ายถามเหตุผล เขาก็บอกไปตามตรงว่าขอไม่บอก และฝ่ายนั้นก็ไม่ได้เซ้าซี้ถาม

แวบหนึ่ง เขาคิดว่าเรื่องนี้คงไปถึงพระกรรณของเจ้าชายหกอีกตามเคย
และคนอย่างนั้นคงทรงสืบรู้ได้ไม่ยากว่าเขาต้องการเงินไปทำอะไร

ทั้งๆ ที่ใจหนึ่งคิดว่าเขาปฏิเสธไม่ยอมไปตามนัดแบบนั้นแล้วพระองค์ต้องกริ้วแน่
และคงจะทรงลืมนักเรียนองครักษ์ธรรมดาๆ คนหนึ่งอย่างเขาไปแล้ว
แต่อีกใจกลับคิดว่าถึงเขาจะทำให้กริ้ว พระองค์ก็คงยัง ‘ใจดี’ กับ ‘คนยาก’ อย่างเขาอยู่ เพราะว่า...

นั่นสิ... เพราะอะไร

เอาเป็นว่ามันคงจะเป็นความหลงละเมอเพ้อพก หลงตัวเองแบบผิดๆ ของเขากระมัง

ฟีเรียสอยากจะกลับบ้านไปดูอาการแม่ให้สบายใจเสียก่อนว่าท่าน ‘ค่อยยังชั่วขึ้นแล้ว’
ตามที่น้องสาวเขียนมาในจดหมาย แต่ก่อนจะถึงกำหนดกลับ เขามีงานที่ต้องทำอีกอย่างหนึ่ง

เป็นงานที่ไม่ได้เงิน แต่ต้องทำ






งานครบรอบ 480 ปีกรมทหารองครักษ์จัดขึ้นเป็นงานใหญ่
ใช้นักเรียนองครักษ์ปีสุดท้ายเป็นพนักงานบริการทั้งหมดตามธรรมเนียม
อาคารสโมสรสันนิบาตที่ตั้งอยู่ด้านซ้ายของกรมสามารถจุคนได้ราวหนึ่งพันห้าร้อยคน
แขกที่มาในงานก็มีร่วมพัน ฟีเรียสนึกถึงบรรยากาศในคืนนั้น

คืนที่เขาไปช่วยงานที่บ้านท่านผู้อำนวยการ

เจ้าชายพระองค์หนึ่งของไมซีนทรงถูกหลานสาวผู้อำนวยการใส่ยาปลุกกำหนัด
ต้องใช้ให้นักเรียนองครักษ์นายหนึ่งพาขึ้นไปที่ห้องพักบนบ้าน

แล้วเขาก็ได้ประสบการณ์ที่จะลืมไม่ลงไปชั่วชีวิตติดตัวมา

หวังเป็นอย่างยิ่งว่า คืนนี้จะไม่ต้องพบกัน

แต่เวลาที่คนมันจะซวย อะไรก็ช่วยไม่ได้

ฟีเรียสเป็นหนึ่งในบรรดานักเรียนองครักษ์ที่ได้รับการพิจารณาว่ามีความประพฤติอยู่ในเกณฑ์ ‘ดีมาก’
เขาจึงถูกจัดให้อยู่ในโซนหน้า คือต้องบริการอยู่แถวๆ โต๊ะ ‘ผู้ใหญ่’
และผู้ใหญ่ที่ว่าก็ประกอบด้วยเจ้าชายแห่งไมซีนกับข้าราชบริพารยศสูง


มีเจ้าชายสองพระองค์เสด็จมาในงานนี้


หนึ่งคือเจ้าชายฟารุค ซึ่งเป็นเจ้าชายสามและเป็นผู้บังคับการกรมทหารองครักษ์

สองคือเจ้าชายรามิเรสที่ฟีเรียสไม่รู้ว่าจะเสด็จมาทำไม

คงจะพาพระคู่หมั้นมาออกงานตามหน้าที่ผู้ชายที่ดี

ฟีเรียสไม่ได้สนใจ แต่หูเขาไม่ได้บอด คนในงานพูดกันตั้งแต่ตอนที่เสด็จมาถึงหน้างานแล้ว

ว่าวันนี้เจ้าชายหกทรงพาคุณหนูอันธียาซึ่งเป็นพระคู่หมั้นมาด้วย

เจ้าชายรามิเรสแย้มพระสรวลประทานให้เขาเป็นเชิงทักทายด้วย
ทว่าฟีเรียสทำเป็นไม่รู้ว่าพระองค์ยิ้มให้ เขาไม่อยากเป็นจุดสนใจหรือเป้าสงสัยของใคร
และไม่อยากจะเสียสมาธิตอนทำงาน

ถ้ายังเมตตาปรานีต่อเขาอยู่บ้าง ก็อย่าทำดีกับเขาเลย

ดูเหมือนอีกฝ่ายจะทรงรับข้อความที่เขาต้องการสื่อได้ พระองค์จึงไม่ได้มองมาทางเขาอีก
แม้ว่าเขาจะต้องเดินไปวนเวียนอยู่แถวโต๊ะที่ประทับอยู่อีกหลายครั้ง
เห็นพระองค์ทรงตักอาหารประทานให้พระคู่หมั้นแสนสวยอยู่หลายหนก็ตาม

และทั้งที่คิดว่าคงไม่ต้องอดทนอะไรไปมากกว่านี้อีกแล้ว ก็ยังอุตส่าห์เกิดเรื่องขึ้นจนได้

ฟีเรียสมารู้หลังจากนั้น ว่าเรื่องยุ่งที่เกิดขึ้นในงานมีเหตุผลต้นตอมาจาก
เพื่อนร่วมรุ่นคนหนึ่งของเขาซึ่งได้รับการยอมรับว่าหน้าตาดีที่สุดในรุ่นถูกสตรีชั้นสูงคนหนึ่งกลั่นแกล้ง
ดีลุคซเคยปฏิเสธความหวังดีที่จะรับเลี้ยงของสตรีผู้นั้น วันนั้นชายหนุ่มจึงถูก ‘เอาคืน’

เคราะห์ร้ายของเขาเองที่ยืนอยู่ข้างหลังเพื่อนในจังหวะนั้นพอดี

แต่วันนั้นเขาไม่รู้อะไรมากไปกว่าขณะที่กำลังจะเสิร์ฟอาหารจานหนึ่งลงบนโต๊ะพิเศษ
ก็พลันถูกชนจากข้างหลัง แม้จะพยายามประคองจานเอาไว้แล้วก็ยังไม่วายพลาด

อาหารจานนั้นหล่นใส่ฉลองพระองค์ของประธานในงาน... เจ้าชายฟารุค

ผู้ชายคนหนึ่งซึ่งนั่งอยู่ด้านขวาพระหัตถ์ใช้มือเปล่าๆ ปัดเศษอาหารร้อนๆ
ออกจากฉลองพระองค์ก่อนที่เขาจะได้ใช้ผ้าในมือทำเช่นนั้น

เสียงบริภาษด่าทอห้าวห้วนดังขึ้นมากกว่าหนึ่งเสียง ตามด้วยเสียงซุบซิบอื้ออึงที่ดังขึ้นในเวลาไม่นาน

แต่เสียงที่ดังกว่าเสียงอะไรทั้งหมดคือเสียงตบฉาดที่ดังอยู่ข้างกกหูของเขาเอง

“ท่านทีมัส!”

ใครสักคนเรียกชื่อของท่านผู้อำนวยการ ดังราวกับฟ้าผ่า
ฟีเรียสต้องสะบัดศีรษะเล็กน้อยจึงมีสติพอจะนึกออกว่าคนเรียกคือเจ้าชายหกแห่งไมซีน

คนที่เพิ่งตบหน้าเขาเต็มแรงดูจะหน้าซีดไปหน่อยเมื่อได้ยินชื่อตัวเอง

เจ้าชายรามิเรสทรงปรายสายพระเนตรมาทางนักเรียนองครักษ์หนุ่ม
ฟีเรียสรู้ดีว่าอีกฝ่ายคงทอดพระเนตรเลือดที่ไหลออกมาจากมุมปากของเขาเป็นแน่

อุ่นใจเมื่อเห็นสายพระเนตรอาทรคู่นั้น ขณะเดียวกันก็ไม่อยากให้พระองค์สนพระทัยเขาเลย

“เขาถูกชน ท่านไม่ควรลงโทษเขา โดยเฉพาะต่อหน้าพระพักตร์ของเจ้าพี่”

“เป็นความผิดของกระหม่อมเองพระเจ้าค่ะ” นักเรียนองครักษ์หนุ่มรูปงามที่ชนฟีเรียสหันมาทูลรับผิด

“ขอได้โปรดทรงลงพระอาญา”

ผู้อำนวยการวัยกลางคนเงื้อมือขึ้น

“ท่านทีมัส” พระสุรเสียงของเจ้าชายรามิเรสเรียบเย็น “ท่านเป็นเจ้าชายองค์ไหนของไมซีน”

“ขอประทานอภัยพระเจ้าค่ะ” เขาเข้าใจความหมายดี นักเรียนองครักษ์หนุ่มเพิ่งพูดว่าขอให้ ‘ลงพระอาญา’
นั่นหมายถึงคนที่มีสิทธิ์ลงโทษจะต้องเป็นเจ้าชายเท่านั้น

“กระหม่อมเพียงแต่อยากจะรับผิดชอบในฐานะที่กระหม่อมอบรมนักเรียนองครักษ์บกพร่องพระเจ้าค่ะ”

“พอแล้ว”

ทุกคนต่างหยุดกันหมดเพียงเพราะรับสั่งสั้นๆ เบาๆ
ทว่าเจ้าชายฟารุคไม่ได้รับสั่งกับใครอื่น

นอกจากคนเพียงคนเดียวที่ยังพยายามเช็ดคราบสกปรกออกจากฉลองพระองค์ด้วยมือเปล่า

เจ้าชายสามทรงแบพระหัตถ์ออก ฟีเรียสยื่นผ้าสะอาดถวายอย่างไม่ค่อยมั่นใจนัก
ว่าเขาเข้าใจพระประสงค์ถูกหรือไม่ บรรยากาศเงียบงันเมื่อพระองค์ทรงจับมือของคนนั่งข้างไว้
แล้วใช้ผ้าเช็ดทำความสะอาดประทานให้

เสร็จ พระองค์ก็ทรงหันไปทางพระอนุชาต่างพระมารดา
เลิกพระขนงขึ้นนิดหนึ่งแล้วทรงปรายสายพระเนตรไปทางฟีเรียสเล็กน้อย

เจ้าชายรามิเรสทรงพยักพระพักตร์

เจ้าชายฟารุคมีสีพระพักตร์เข้าพระทัย

“ไม่เป็นไร ท่านทีมัส ข้าไม่ถือสา เจ้าไปหายาทาแผลมา เดี๋ยวมือเขาจะพอง”

ประโยคนี้ตรัสสั่งดีลุคซ ก่อนจะหันมาตรัสสั่งฟีเรียส

“ส่วนเจ้าพาเขาไปล้างมือ ดูแลทาแผลให้เขาด้วย”

“ฝ่าบาท...”

มองหน้าก็รู้ว่าคนพูดอยากจะบอกว่าเรื่องเล็กน้อยแค่นี้ไม่ต้องทำให้เป็นเรื่องใหญ่ก็ได้ เขาอาย
แต่เจ้าชายสามแห่งไมซีนกลับทรงลุกขึ้นยืน ทำเอาคนทั้งโต๊ะต้องลุกขึ้นยืนตาม
ยกเว้นเจ้าชายรามิเรสซึ่งทรงยืนอยู่แล้วด้วยความเผลอองค์และมีอันธียายืนเกาะพระกรอยู่

“ข้าไปเป็นเพื่อน”

เจ้าชายฟารุครับสั่งกับคนของพระองค์จบก็ทรงพยักพระพักตร์เป็นเชิงให้ฟีเรียสนำทางไป





เรื่องจบลงอย่างงงๆ เมื่อมันผ่านไปแล้ว ฟีเรียสก็รู้สึกว่ามันเป็นเรื่องเล็กๆ ที่ไร้สาระเหลือเกิน
เพียงแต่ว่าตอนที่มันเกิดขึ้นก็ทำเอาเขาตัวเย็นไปได้เหมือนกัน

ล่วงเกินเจ้าชายไม่ใช่เรื่องเล่นๆ โทษถึงขั้นตัดหัว

เขาไม่รู้ว่าเจ้าชายสามกับเจ้าชายหกทรงส่งสัญญาณอะไรกัน แต่เขาก็รู้ดีทีเดียว
ว่าทั้งตัวเองและดีลุคซรอดพ้นมาได้เพราะพระเมตตาของเจ้าชายหก
ไม่ถูกผู้อำนวยการลงโทษภายหลังอีกก็เพราะเจ้าชายหก

เจ้าชายที่ทรงช่วยเหลือเขาในยามยากไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้ง เขาเป็นหนี้พระองค์... ไม่ใช่แค่เรื่องเงิน

ฟีเรียสกำตลับยาสีเงินในมือไว้แน่น เขาอยากจะทิ้งตั้งแต่ตอนที่รับมันมาจากคุณชายแห่งบ้านเสนาบดีกลาโหม
เพียงแต่อักษรย่อ ร.ม. บนฝาตลับอาจทำให้เกิดปัญหา หากเขาทิ้งไม่ดี
บังเอิญมีใครเก็บได้แล้วเกิดการตามหาว่าของจากพระตำหนักของเจ้าชายหกมาอยู่ในโรงเรียนได้ยังไง
เขาก็คิดว่าตัวเองคงจะซวย ยิ่งถ้าความรู้ไปถึงพระเนตรพระกรรณของเจ้าของยา หากพระองค์ทรงทราบว่าเขาทิ้งมัน

เขาตายแน่

ทั้งที่รู้ว่าเจ้าชายพระองค์นั้นพระทัยดี แต่ไม่รู้เป็นไร เขาคิดถึงแต่คำนั้นได้คำเดียว

ฟีเรียสถอนหายใจ เปิดตลับยา แล้วควักยากลิ่นหอมนั้นมาทาแก้มซ้ายกับมุมปากที่บวมเจ่ออย่างเห็นได้ชัด


**************************


‘ทำไมฝ่าบาทไม่รับสั่งบอกความจริงกับเขาไป’

คำถามที่พระสหายทูลถามเมื่อคืนนี้ หลังจากเสด็จกลับมาจากงานเลี้ยงแวบเข้ามาในพระดำริ
เจ้าชายรามิเรสทรงลดปากกาในพระหัตถ์ลง เบือนพระพักตร์ออกไปนอกพระบัญชรกระจก

‘บอกเพื่ออะไร’

แม้แต่มิทรอสยังต้องชะงักไปวูบหนึ่ง กว่าจะทูลตอบได้

‘เขาควรจะรู้ว่าฝ่าบาททรงทำอะไรเพื่อเขาบ้าง’

‘รู้แล้วมีประโยชน์กับใคร ข้า หรือว่าเขา’

คำถามนี้มิทรอสตอบไม่ได้แล้ว

‘เขาไม่จำเป็นต้องรู้ และข้าก็ไม่อยากให้เขารู้’ เว้นไปครู่หนึ่งจึงรับสั่งต่อ ‘แล้วข้าก็ไม่ได้ทำเพื่อเขา ข้าทำเพื่อตัวข้าเอง’

แต่ก็ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง นั่นคือประโยคสรุปที่พระองค์ไม่ได้รับสั่งออกไป แต่มิทรอสรู้ดีอยู่แล้ว
รู้ว่าพระองค์ทรงพยายามจะขอถอนหมั้นกับอันธียาโดยให้เหตุผลกับนางว่าพระองค์ไม่ได้ทรงรักนางฉันชู้สาว
และไม่ปรารถนาจะให้นางต้องเสียเวลารอคอย ทั้งยังทรงยินดีจะยกของหมั้นทั้งหมดให้
และจะจ่ายเพิ่มเท่าที่นางต้องการ ทั้งยังอนุญาตให้นางบอกกับใครๆ ว่า
พระองค์ทรงเป็นฝ่ายบกพร่องเองที่ไม่ได้ใส่ใจนางเท่าที่ควร อันธียาไม่ว่าอะไร
นอกจากขอให้พระองค์ทรงทบทวนพระประสงค์อีกสักครั้ง

หลังจากนั้นเพียงสองวัน พระมารดาซึ่งออกบวชเป็นชีอยู่ที่วัดเล็กๆ แห่งหนึ่ง
ก็ใช้ให้คนมาตามพระองค์ไปพบ ครั้นพระองค์ถวายเหตุผลอื่นนอกเหนือจาก ‘ลูกยังไม่ได้รักนาง’ ไม่ได้
แม่ชีก็ขอร้องกึ่งบังคับให้พระองค์ทรงรักษาสถานภาพคู่หมั้นไปก่อน จนกว่าจะมีเหตุผลที่ดีกว่านี้ไปถวาย

ซึ่งพระองค์ยังไม่มี

รับสั่งบอกไม่ได้ ว่าต้องการเป็นผู้ชายที่ปราศจากพันธะ
เพียงเพื่อจะได้มีสิทธิบอกกับผู้ชายอีกคนหนึ่งอย่างเต็มปากเต็มคำว่า

เขาเป็นคนพิเศษสำหรับพระองค์




มหาดเล็กประจำห้องทรงพระอักษรเคาะพระทวารเป็นสัญญาณ ครั้นได้รับพระอนุญาตแล้วจึงเข้ามากราบทูล

“คุณหนูอันธียาขอเข้าเฝ้าพระเจ้าค่ะ”

เจ้าชายหนุ่มประทานพระอนุญาตให้เข้าเฝ้าที่ห้องทรงพระสำราญ และคาดว่าธุระของพระคู่หมั้นคงเป็นเรื่องเดิมๆ

“หม่อมฉันได้ยินว่าหมู่นี้ฝ่าบาททรงงานหนักมาก จึงมาทูลชวนไปทรงผ่อนคลายบ้างเพคะ”

“ที่ไหน”

“ไปชมละครเวทีรอบบ่ายที่อเธมีสดีไหมเพคะ พอค่ำๆ ค่อยไปฟังเพลงแล้วก็เต้นรำกันที่สโมสร”

“วันนี้แสดงเรื่องอะไร”

“โรเมโอแอนด์จูเลียตเพคะ”

ความรักระหว่างหนุ่มสาวในตระกูลปฏิปักษ์ อย่างนั้นสินะ

เจ้าชายเจ้ากรมสรรพาวุธทอดพระเนตรมองดวงหน้างดงามที่เปี่ยมด้วยความหวังของพระคู่หมั้นแล้วก็พลันนึกถึงพระมารดา

คิดว่า จะทรงพยายามดูอีกสักครั้ง

เจ้าชายหนุ่มแย้มพระสรวล

“ที่โรงละครคงจะมีคนมาก พื้นที่ก็จำกัด ลองไปเดินเล่นในสวนพฤกษศาสตร์ดูบ้างไหม”

“โดนแดดโดนลมมากๆ ผิวหม่อมฉันจะเสียหมดน่ะสิเพคะ เสด็จโรงละครดีกว่านะเพคะ
ข้างในออกจะกว้างขวาง ที่นั่งก็สบาย มีน้ำมีขนมบริการ แล้วนักแสดงก็แสดงดีกันทุกคน
หม่อมฉันไปดูบ่อยๆ ยังไม่เบื่อเลยเพคะ แล้วก็ไม่เคยผิดหวังเลยสักครั้ง”

เจ้าชายหกทรงนิ่งเงียบไปครู่ เมื่ออีกฝ่ายไม่มีทีท่าว่าจะเปลี่ยนใจ






พระองค์ก็ทรงตอบตกลง


tbc.

*******************************************


ทำไมรามิเรสถึงทำอย่างเนนนนนนนนนน้ :angry2:

เครียดเนอะ

แต่จะว่าไปมันก็... เป็นแบบนี้มาตลอดสินะ หุหุหุ


ออฟไลน์ cher7343

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1673
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +133/-4
Re: รามิเรส : บทที่ 15 (9 เม.ย. 57) หน้า 10
«ตอบ #288 เมื่อ09-04-2014 22:25:40 »

จิ้ม    :z13:

ออฟไลน์ iforgive

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +844/-80
Re: รามิเรส : บทที่ 14 (1 เม.ย. 57) หน้า 10
«ตอบ #289 เมื่อ09-04-2014 22:37:26 »

องค์ชายสามคะ มีซัมติงอะไรหรือเปล่าเจ้าคะ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: รามิเรส : บทที่ 14 (1 เม.ย. 57) หน้า 10
« ตอบ #289 เมื่อ: 09-04-2014 22:37:26 »





ออฟไลน์ Infinity 888

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2026
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +157/-7
Re: รามิเรส : บทที่ 15 (9 เม.ย. 57) หน้า 10
«ตอบ #290 เมื่อ09-04-2014 22:41:37 »

ลุ้นเหนื่อยจริงๆ ความหวังยังห่างไกล

จะมีวันสมหวังมั้ยองค์ชายหกกับฟีเรียส :กอด1:

ออฟไลน์ fuku

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4479
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +462/-20
Re: รามิเรส : บทที่ 15 (9 เม.ย. 57) หน้า 10
«ตอบ #291 เมื่อ09-04-2014 22:48:09 »

อ่านมาถึงตรงนี้สงสารรามิเรส

ช่วงแรกๆ เราสงสารฟีเรียสนะ แต่อ่านไปๆ คุณเค้าช่างอึดมาก คือจะเกิดอะไรคุณก็คงทนได้
ทั้งร่างกายและจิตใจ
เอาใจช่วยให้หายคิดมากซะที

ส่วนรามิเรส นายนี่มันรู้ตัวช้ายิ่งกว่าหอยทากเป็นตะคริว
สงสารคู่ซื่อบื้อนี้เหลือเกิน

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
Re: รามิเรส : บทที่ 15 (9 เม.ย. 57) หน้า 10
«ตอบ #292 เมื่อ10-04-2014 02:58:11 »

อึดอัดใจจริงๆ

ออฟไลน์ PetitDragon

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4126
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +343/-5
Re: รามิเรส : บทที่ 15 (9 เม.ย. 57) หน้า 10
«ตอบ #293 เมื่อ10-04-2014 07:37:47 »

ฟีเรียสใจอ่อนซักทีเถอะนะ  :katai5:

ออฟไลน์ matame

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 706
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +48/-1
Re: รามิเรส : บทที่ 15 (9 เม.ย. 57) หน้า 10
«ตอบ #294 เมื่อ10-04-2014 08:36:53 »

ใช่คนเขียน ทาสรักรึเปล่าค่ะเนี้ย

ออฟไลน์ himoru

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 394
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-3
Re: รามิเรส : บทที่ 15 (9 เม.ย. 57) หน้า 10
«ตอบ #295 เมื่อ10-04-2014 09:44:01 »

โฮกกกก
ไม่รู้ เค้าอึดอัด เค้าอึดอัดดดดดดดด
ทำไมรู้สึกมันยากทั้งคู่เลย
โฮกกกก ลุ้น ลุ้นว่าทั้งสองคนจะข้ามกำแพงหัวใจยังไง

ฟีเรียสแบบ เลิกคิดเองเถอะ ถึงจะเรื่องจริง แต่ก็ได้โปรดเถอะ

รออ่านต่อนะคะ สนุกมาก อึดอัดดี โฮกกกกก
#เอาหัวกระแทกอกฟีเรียสกร๊ากกกก

ออฟไลน์ love AJ

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 298
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +14/-2
Re: รามิเรส : บทที่ 15 (9 เม.ย. 57) หน้า 10
«ตอบ #296 เมื่อ12-04-2014 01:07:48 »

เหนื่อยแทนทั้ง2คน ถ้ารักกันก็น่าจะแสดงออกไปตรงๆ

ออฟไลน์ mamajie

  • ต้องตื่นก่อน , จึงรู้ว่า , ที่ผ่านมาคือความฝัน.
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 93
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-1
Re: รามิเรส : บทที่ 15 (9 เม.ย. 57) หน้า 10
«ตอบ #297 เมื่อ12-04-2014 02:02:24 »

 o13 ศักดิ์ศรีมันกินได้เหรอคะ  :ling3: :ling3:

ออฟไลน์ lizzii

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6283
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +271/-2
Re: รามิเรส : บทที่ 15 (9 เม.ย. 57) หน้า 10
«ตอบ #298 เมื่อ14-04-2014 10:49:07 »

เห้อออออออออออออออ เครียดแทน

ออฟไลน์ poogan_zadd

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 31
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
Re: รามิเรส : บทที่ 15 (9 เม.ย. 57) หน้า 10
«ตอบ #299 เมื่อ15-04-2014 16:02:06 »

คือฟินมากกกกกกกก
ตอนนี้เป็นหนักมาก แค่เห็นเขาเจอกันก็ฟินแล้ว ไม่ต้องคุยกันก็ฟิน 5555
แม้จะหน่วงๆก็ตาม ฟีเรียสแกใจแข็งสมเป็นทหารเลย ส่วนเจ้าชายก็ใจดีอบอุ่น ปริ่มมากกก
ชอบสำนวนคุณคนเขียนมาก รีบกลับมาอัพเร็วๆเน่อ

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด