รามิเรส : บทที่ 33 (จบ) และบทส่งท้าย (30 ธ.ค.57) แจ้งข่าวหนังสือ หน้า 1 ค่ะ
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: รามิเรส : บทที่ 33 (จบ) และบทส่งท้าย (30 ธ.ค.57) แจ้งข่าวหนังสือ หน้า 1 ค่ะ  (อ่าน 357950 ครั้ง)

ออฟไลน์ i c u

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 90
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-2
Re: รามิเรส : บทที่ 11 (3 มี.ค. 57) หน้า 7
«ตอบ #210 เมื่อ03-03-2014 23:29:49 »

คู่นี้เยอะพอกันเลย  เมื่อไหร่จะมุ้งมิ้งๆๆ อ่า

ออฟไลน์ Zelsy

  • เพราะ "รัก" คำเดียวเท่านั้น
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1859
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +191/-2
Re: รามิเรส : บทที่ 11 (3 มี.ค. 57) หน้า 7
«ตอบ #211 เมื่อ04-03-2014 05:37:10 »

"เด็กดี" งื้อออ :-[

ออฟไลน์ route rover

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2423
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +221/-7
Re: รามิเรส : บทที่ 11 (3 มี.ค. 57) หน้า 7
«ตอบ #212 เมื่อ04-03-2014 07:45:44 »

ไปกินยาแก้ปวดหัวก่อนน เครียดแทน :mew4:

ออฟไลน์ agava1313

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1060
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +43/-5
Re: รามิเรส : บทที่ 11 (3 มี.ค. 57) หน้า 7
«ตอบ #213 เมื่อ04-03-2014 10:49:45 »

แบบนี้ต้องเจอยาปลุกอีกรอบ แต่งวดนี้ให้คนโดนไม่ใช่เจ้าชายนะ อิอิ

ออฟไลน์ JustWait

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3348
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +80/-4
Re: รามิเรส : บทที่ 11 (3 มี.ค. 57) หน้า 7
«ตอบ #214 เมื่อ04-03-2014 12:37:59 »

ไม่ได้เป็นเพื่อนน่ะดีแล้วเพคะองค์ชาย เป็นอย่างอื่นแทน :hao7:

ออฟไลน์ pasallatel

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 318
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-1
Re: รามิเรส : บทที่ 11 (3 มี.ค. 57) หน้า 7
«ตอบ #215 เมื่อ05-03-2014 11:36:05 »

รักเรื่อยๆ จริงๆ มันเรื่อยเฉื่อยมากๆ เลยค่ะ
แต่ก็ยังน่าติดตามเหมือนเดิม o13

ออฟไลน์ fanglest

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 813
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +30/-0
Re: รามิเรส : บทที่ 12 (7 มี.ค. 57) หน้า 8
«ตอบ #216 เมื่อ07-03-2014 16:29:33 »

น่าสนุกดีค่ะ เดี๋ยวเรามาตามอ่านแน่นอนค่ะ
แต่ตอนนี้ไม่ว่างจริงๆ
ขอจิ้มไว้ก่อนนะ
(ไม่ว่ายังไง ก็อยากเมนต์ให้ได้ล่ะน่า ฮะๆ)
 :L2: :L2: :L2:

ออฟไลน์ ชุน

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 135
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +162/-1
Re: รามิเรส : บทที่ 12 (7 มี.ค. 57) หน้า 8
«ตอบ #217 เมื่อ07-03-2014 16:37:59 »

บทที่ ๑๒

หลังจากฝึกซ้อมกันต่อได้อีกเพียงไม่นาน เจ้าชายรามิเรสก็ตรัสชวน ‘รุ่นน้อง’
ลงไปเดินเล่นที่ตลาดเชิงเขาซึ่งเป็นที่ตั้งของหมู่บ้านแห่งหนึ่ง

“ทิ้งเอาไว้อย่างนี้จะไม่หายหรือพระเจ้าค่ะ”

ฟีเรียสเพิ่งจะนึกขึ้นได้ว่าคราวที่แล้วตอนที่เขาขี่ม้าลงมาซื้อของที่ตลาดตอนเช้า
ก็ประสบปัญหาอย่างนี้มาครั้งหนึ่ง คือไม่สามารถขี่ม้าเข้าไปซื้อของในตลาดได้
จึงต้องผูกม้าไว้กับต้นไม้แล้วจ้างให้ชายชราเจ้าของแผงขายสมุนไพรที่อยู่ใกล้ๆ ช่วยดูให้
แต่คราวนี้เจ้าชายหกเสด็จมาด้วย ม้าทรงสีขาวของพระองค์โดดเด่นสะดุดตาอย่างยิ่ง
และเจ้าชายหนุ่มก็รับสั่งว่าไม่ต้องจ้างใครให้ช่วยดู

“ไม่ต้องห่วง ไปเถอะ”   

รับสั่งจบก็เสด็จนำไป ฟีเรียสลังเลอยู่ครู่แล้วก็ตัดสินใจฝากม้าไว้กับชายกลางคน
เจ้าของแผงขายเนื้อที่อยู่ใกล้ๆ แม้จะไม่ค่อยไว้ใจหน้าตาที่ดูไม่ค่อยน่าเชื่อถือนักของอีกฝ่ายก็ตาม

“จ่ายไปเท่าไร”

“... สองเหรียญพระเจ้าค่ะ”

สีหน้าที่บอกชัดว่าหากพระองค์ทรงตำหนิ เขาก็เตรียมหาเหตุผลดีๆ ที่จะกราบทูลเอาไว้แล้วหลายข้อแบบนั้น
ทำเอาเจ้าชายหนุ่มได้แต่แย้มพระสรวลแล้วสั่นพระเศียรอย่างปลงๆ กึ่งระอาโดยไม่รับสั่งอะไรอีก

ตลาดยามเย็นในหมู่บ้านเชิงเขาค่อนข้างคึกคัก ผู้คนต่างเพศต่างวัยต่างมาเลือกซื้อหาสิ่งของที่ต้องการ
เจ้าชายรูปงามแห่งไมซีนทรงตกเป็นเป้าสายตาของสาวๆ ทันทีที่พระองค์เสด็จเข้าไปในย่านร้านขายเสื้อผ้า
ครั้นเจ้าชายหนุ่มทรงหันไปแย้มพระสรวลให้ก็พากันหลบสายพระเนตรเป็นทิวแถว

หึ... หว่านเสน่ห์เก่งขนาดนี้ยังจะสับสนตัวเองไปทำไมอีก

“เจ้านี่ก็มีเสน่ห์มากเหมือนกันนะ”

รับสั่งกระเซ้าจากคนดำเนินนำหน้าไปเล็กน้อยทำเอาคนถูกแซวงุนงง ก่อนที่ความงงจะเพิ่มมากขึ้น

“โกรธอะไรหรือ หน้าบึ้ง”

ฟีเรียสไม่แน่ใจ เขาหน้าบึ้งหรือ ทำไมล่ะ

“ไม่ชอบสาวหรือ”

นักเรียนองครักษ์หนุ่มหยุดเดิน

“ขอโทษ” เจ้าชายรามิเรสเองก็ทรงหยุดตาม ทราบดีว่าพระองค์ทรง ‘ล้ำเส้น’
ระหว่างพระองค์กับฟีเรียส ยังไม่ได้ ‘สนิท’ กันขนาดจะถามเรื่องอย่างนี้ได้
ทั้งที่พระองค์ทรงปรารถนาจะทราบอย่างยิ่ง... แม้ไม่รู้ว่าหากได้คำตอบแล้วจะดีกว่าตอนที่ไม่รู้ยังไง

ฟีเรียสยังคงยืนนิ่ง แต่คนมากเหลือเกิน ผู้ชายบางคนที่เดินสวนมาตัวสูงใหญ่กว่าเจ้าชายกับนักเรียนองครักษ์เสียอีก
จึงทำให้ทั้งสองไม่สามารถหยุดยืนเฉยๆ อย่างนี้ได้นาน และเมื่ออีกฝ่ายยังไม่ขยับ
เจ้าชายหกจึงทรงจับแขนของเขาดึงให้เดินไปด้วยกัน

ฟีเรียสกระตุกแขนออกทันที เจ้าชายหนุ่มพระพักตร์เสีย

“ขอโทษ แต่เจ้ารีบเดินเถอะ ตรงนี้คนแน่น” แล้วก็เสด็จนำไปก่อน

ฟีเรียสขยับปากจะกราบทูล แต่เขาก็ไม่ได้พูด เมื่อมีหญิงวัยกลางคนคนหนึ่งออกปากบอกให้เขารีบๆ เดิน
เขาจึงได้เดินตามพระองค์ไปทั้งที่ใจยังสั่นอยู่

อีกฝ่ายจะทรงรู้สึกยังไงที่เขาทำเหมือนรังเกียจ ทั้งที่ความจริงแล้วเขาไม่ได้รู้สึกอย่างนั้นเลย
ก็แค่... รู้สึกเหมือนเป็นต้นไม้ที่ถูกสายฟ้าฟาดลงมาใส่ ใจสั่นสะท้านไปหมด
เขารู้ว่าเขาไม่ควรจะรู้สึกอย่างนี้ เพราะทั้งถูกกอด ทั้งเปลือยกายต่อหน้า เขาก็ล้วนแต่เคยมาแล้วทั้งนั้น
กับแค่ถูกจับแขน ไม่ควรจะต้องหวั่นไหวเกินเหตุ

เพียงแต่... พระองค์ไม่ได้รับสั่ง ‘ขอ’ เพื่อให้เขาเตรียมใจก่อนเหมือนอย่างที่ผ่านมา

ตอนที่ถูกพระองค์ทรงล่วงล้ำ เขาก็ทั้งตกใจทั้งตื่นเต้น อารมณ์ต่างๆ ประดังประเด
ตีรวนและพุ่งขึ้นสูงจนมึนงงไปหมด แต่มันก็ไม่เหมือนตอนที่ถูกจับแขนเมื่อครู่นี้อยู่ดี

สิ่งที่พระองค์ทรงหลงเหลือไว้ให้ นอกจากความรู้สึกตื่นเต้นที่ยังไม่เลือนแล้ว
ยังมีความรู้สึกอ่อนหวานชนิดหนึ่งปะปนอยู่ด้วย

ฟีเรียสอยากจะขอโทษ แต่เขาไม่ใช่คนพูดเก่ง เขารู้ว่าแค่พูดว่า
ขอประทานอภัยที่กระหม่อมเสียมารยาท เพียงเท่านั้นก็พอ แต่เขาก็พูดไม่ออก
ยังรู้สึกว่าไม่กล้ามองแม้แต่พระพักตร์เสียด้วยซ้ำ

นักเรียนองครักษ์หนุ่มเดินตาม ‘รุ่นพี่’ หมาดๆ เขาไปในร้านขายเสื้อผ้าซึ่งน่าจะเป็นที่อยู่อาศัยถาวรของเจ้าของร้านด้วย
ไม่ใช่แค่แผงที่มาตั้งแล้วเก็บกลับเหมือนร้านค้าส่วนใหญ่

ชายหนุ่มปล่อยให้เจ้าชายหนุ่มทรงเจรจากับคนขายเอง ตัวเขาเพียงแต่ยืนดูอยู่ข้างๆ
เผื่อว่าพระองค์จะโปรดให้เขาทำอะไร จะได้ทำถวายได้ทัน
แต่ดูเหมือนว่าเจ้าชายพระองค์นี้จะไม่มีปัญหากับการซื้อของ

“เจ้าชอบตัวนี้ไหม”

คนที่มีปัญหาน่าจะเป็นเขาเอง

“ฝ่าบาท...” ท้ายคำเสียงเบาลงเมื่อเหลือบไปเห็นว่าคนขายซึ่งเป็นชายวัยกลางคนกำลังทำหน้าสงสัย

“ดูแค่แบบก่อน แล้วค่อยเลือกสี”

เสื้อผ้าของผู้ชายก็แลดูคล้ายๆ กันไปหมด ถึงจะบอกว่าแบบแตกต่างกันแต่ก็ต่างกันเพียงเล็กน้อย
สำหรับเขาแล้วมันแทบจะเหมือนกัน เขาไม่รู้ว่าเจ้าชายหกโปรดเสื้อผ้าแบบไหน
แต่เท่าที่สังเกตมาหลายครั้งก็คิดว่าคงจะโปรดแบบแขนยาว เรียบๆ แล้วก็สีอ่อนๆ โดยเฉพาะสีครีม
พระฉวีขาวแบบพระองค์ ไม่ว่าจะทรงสีอะไรก็ล้วนแต่ได้ทั้งสิ้น เพียงแต่ประโยคแรกที่ตรัสถามทำเอาเขาไม่แน่ใจ

อย่าหาว่าเขาหลงตัวเองเลย แต่ถูกถามว่า ‘เจ้าชอบไหม’ เป็นใครก็ต้องคิดสงสัยทั้งนั้น
ว่าจะทรงซื้อให้เขารึเปล่า ถ้าใช่ เขาจะได้กราบทูลเสียตั้งแต่ตอนนี้ว่า ไม่เอา!

ฟีเรียสอึกอัก “เอ่อ... กระ...”

“พ่อค้าบอกว่านี่เป็นผ้าที่คุณภาพดีที่สุดในร้าน พี่ดูไม่เป็น เจ้าดูเป็นไหม”

นักเรียนองครักษ์หนุ่มยืนตัวแข็งไปอีกรอบ ‘พี่’ อย่างนั้นหรือ ก็รู้อยู่หรอกว่าอีกฝ่ายทรงฉลาดและช่างสังเกต
นี่คงจะเห็นว่าเขาไม่รู้จะใช้สรรพนามอะไรกราบทูลจึงได้ทรงช่วยด้วยการบอกเป็นนัยว่าให้พูดกันแบบธรรมดา
แต่... รับสั่งได้ลื่นไหลเป็นธรรมชาติเกินไปไหม

ทำไมไม่คิดถึงใจของคนฟังบ้าง ว่ามันเต้นแรงจนจะกระดอนออกมาข้างนอกอยู่แล้ว

ฟีเรียสส่ายหน้า

“นี่เป็นผ้าที่ดีที่สุดในร้านเรา สั่งเข้ามาจากเมืองเมล” เขาหมายถึงเมืองที่ขึ้นชื่อเรื่องผ้าทอที่มีคุณภาพดีที่สุดในไมซีน

“เส้นใยคุณภาพดี เนื้อผ้านุ่ม สวมใส่ก็สบายนะครับ หน้าหนาวอย่างนี้ใส่แล้วอุ่นสบาย
แล้วก็คงทน ไม่หด ไม่ย้วย ไม่ต้องรีดก็ใส่ได้ครับ คุณภาพดีไม่แพ้เสื้อที่พวกท่านใส่อยู่เลยล่ะ”

พ่อค้ามาตกม้าตายเอาตอนจบนี่เอง ฉลองพระองค์ของเจ้าชายหกแห่งไมซีนจะทำจากผ้าอะไรที่ไหน
แม้แต่เจ้าชายหนุ่มเองก็ไม่ทรงทราบ แต่เรื่องที่ว่าร้านผ้าในหมู่บ้านเล็กๆ อย่างนี้จะมีเสื้อผ้าที่คุณภาพดี
ทัดเทียมกับผ้าที่ใช้ตัดเย็บฉลองพระองค์ย่อมเป็นไปไม่ได้ อย่างไรก็ดี ฟีเรียสเห็นว่าเจ้าชายรามิเรสไม่ได้ทรงแย้งอะไร
เพียงแต่แย้มพระสรวลอ่อนๆ ตามปกติแล้วตรัสสั่งให้เขาเลือก

“เลือกสักสี่ห้าชุด”

“... ข้าเลือกไม่เป็นครับ” เขาไม่ถนัดพูดคำราชาศัพท์ก็จริง แต่ก็เคยเรียนที่โรงเรียนตอนอยู่ปีสอง
ได้รับการอบรมสั่งสอนมาว่าคำพูดที่เหมาะสมกับฐานะย่อมเป็นสิ่งที่พึงปฏิบัติและเป็นส่วนหนึ่งของ
ความจงรักภักดีตอนนี้ต้องพูดธรรมดากับเจ้าชาย จึงรู้สึกว่าเขากำลังบังอาจตีตนเสมอเจ้า
ทั้งที่พระองค์ประทานพระอนุญาตเขาเอง

“ข้าไม่รู้ว่าท่านชอบแบบไหน”

“เลือกอย่างที่เจ้าถูกใจ”

“แต่ท่านเป็นคนใส่” ฉลองพระองค์มีอยู่เต็มตู้ พระองค์คงไม่ซื้อเสื้อผ้าที่ตัดเย็บสำเร็จแล้วแบบนี้ไปใส่แน่
แต่เขาไม่กล้าทูลถามว่า จะซื้อให้เขาหรือ

“ข้าเลือกไม่เป็น”

“ข้าก็เลือกไม่เป็นครับ”

ฟีเรียสไม่ยอมง่ายๆ เขาชักจะเดาได้ล่ะว่าเจ้าชายหกแห่งไมซีนเป็นคนแบบไหน
ไม่ยอมรับสั่งว่าจะซื้อให้เขาก็จริง แต่พอเขา ‘ช่วยเลือก’ เสร็จสรรพก็คงจะเอามายัดเยียดให้แล้วอ้างว่า
ซื้อมาแล้ว พระองค์ไม่ใส่ เขาก็ต้องใส่ เพราะเขาไม่คิดจะยืมฉลองพระองค์ของอีกฝ่ายมาใส่เป็นชุดที่สอง แต่ไม่ล่ะ
เดี๋ยวเขาจะเลือกซื้อสักชุดเหมือนกัน โชคดีที่เขาพกเงินติดตัวมาบ้าง แม้จะไม่มาก แต่ก็คงพอซื้อชุดราคาถูกๆ ได้สักชุดสองชุด

“ข้าแนะนำให้เอาไหมครับ คุณชาย”

แม้จะพูดด้วยน้ำเสียงเอื้อเฟื้อ แต่สีหน้าก็ปิดไม่มิดว่าชักจะรำคาญที่ผู้ชายสองคนยืนมองหน้ากันโดยไม่มีใครเลือกสักที

เจ้าชายรามิเรสทรงพยักพระพักตร์ “เลือกให้สักห้าชุด”

“ไม่ทราบว่าใครจะใส่ครับ” พ่อค้าหน้าหน้าชื่นขึ้นมาทันตา

“เขา”

“ฝ่าบาท!” ฟีเรียสห้ามไม่อยู่จริงๆ

พ่อค้าฉงนใจขึ้นมาอีกหน ทว่าเจ้าชายรามิเรสไม่ทรงปล่อยให้เขามีโอกาสสงสัยนาน

“เลือกสีที่เหมาะกับเขา แบบก็คละกันไป เอาที่ดีที่สุดที่มีอยู่ในร้าน”

พ่อค้าวัยกลางคนเลือกได้อย่างรวดเร็ว เจ้าชายหกทอดพระเนตรเพียงแวบเดียวก็ทรงพยักพระพักตร์
ไม่นานเสื้อผ้าทั้งห้าชุดก็ลงไปอยู่ในถุงกระดาษสามใบ เจ้าชายหนุ่มทรงจ่ายเงินเรียบร้อย
คงเป็นแค่เศษเงินสำหรับพระองค์นั่นแหละ แต่ฟีเรียสมองเขม็งจนเหรียญเงินจำนวนนั้นแทบจะละลาย
พ่อค้าส่งถุงกระดาษมาให้ เมื่อฟีเรียสยืนนิ่งไม่ยอมรับ เจ้าชายหนุ่มก็ทรงยื่นพระหัตถ์ออกไปหมายจะรับเอง ทว่า

นักเรียนองครักษ์หนุ่มยื่นมือออกไปในจังหวะเดียวกัน มือสองข้างกระทบถูกกันโดยบังเอิญ
ฟีเรียสแทบจะสะดุ้งอีกหน เขาหดมือกลับเล็กน้อย ก่อนจะยื่นพรวดออกไปชิงถือกลับมาทั้งที่สีหน้าเรียบเฉยเป็นที่สุด

เจ้าชายรามิเรสแย้มพระสรวลอ่อน เตรียมจะเสด็จออกจากร้าน ทว่า

“มีแบบที่ถูกกว่านี้ไหม”

พ่อค้าผ้างง แต่ก็ตอบด้วยสีหน้ายิ้มแย้มอย่างคนทำอาชีพนี้มานาน

“มีครับ มีหลายแบบหลายราคา ไม่ทราบว่าน้องชายอยากจะได้แบบไหน”

“ขอดูที่เนื้อผ้าดีหน่อย แต่ราคาไม่แพงมาก”

“ฟีเรียส” พระองค์ทรงทราบล่ะว่าอีกฝ่ายจะทำอะไร

นักเรียนองครักษ์หนุ่มหันไปมองพระพักตร์ คิดว่าจะไม่พูดอะไร แต่ก็ทนให้อีกฝ่ายมองมานิ่งๆ เงียบๆ ไม่ไหว

“ข้าไม่มีเสื้อผ้าเปลี่ยนครับ”

ไม่ได้อยากจะทะเลาะกับพระองค์เลย ยิ่งมาทะเลาะกันตรงนี้ ต่อหน้าคนอื่นยิ่งไม่อยาก
แต่ถ้าพระองค์จะทรงยัดเยียดเสื้อผ้าที่ซื้อมาให้เขาล่ะก็ เป็นตายยังไงเขาก็ไม่เอา

เจ้าชายรามิเรสทรงผ่อนพระปัสสาสะออกแผ่วเบา แล้วก็ทรงปล่อยให้เขาทำตามใจ
ฟีเรียสไม่เรื่องมาก เขาพิจารณาเสื้อผ้าชุดแรกที่พ่อค้าเลือกมาให้ ถามราคา แล้วก็ตัดสินใจซื้อตัวนั้นเลย
แต่ก่อนที่เขาจะทันได้หยิบเงินออกมาจ่าย คนที่ยืนอยู่ข้างๆ ก็จ่ายเสร็จเรียบร้อยแล้ว

“ขอบคุณมากครับ อย่าลืมแวะมาอุดหนุนอีกนะครับ ข้าขอตัวไปต้อนรับลูกค้าก่อน”

ฟีเรียสหันไปจ้องพระพักตร์เขม็ง คิดว่าเงินแค่นี้เขาไม่มีจ่ายหรือยังไง เป็นอะไรกันล่ะทำไมถึงต้องจ่ายเงินให้
จะดูถูกกันไปถึงไหน จะเอาชนะเขาให้ได้ใช่ไหม ทั้งหมดนี้ชายหนุ่มไม่มีโอกาสได้พูดสักคำ

“ไปกันเถอะ”

และเจ้าชายรามิเรสก็ทรงทำราวกับไม่รู้เรื่อง ไม่ได้ทำอะไรผิดเลยสักอย่าง

นักเรียนองครักษ์หนุ่มกำหูถุงกระดาษแน่นขณะเดินตามเสด็จ เจ้าชายหนุ่มทรงแวะซื้อขนมทอดข้างทางสองอัน
พ่อค้าห่อกระดาษให้หนาพอที่จะจับได้โดยไม่ร้อน คนซื้อทรงยื่นประทานให้คนเดินตามหน้าเครียดอันหนึ่ง
ฟีเรียสรับมาอย่างเสียไม่ได้ แต่ก็ถือไว้เฉยๆ ไม่ยอมกิน

“รสชาติดี หวานมัน เจ้าน่าจะชอบ” คนกัดชิมไปคำหนึ่งหันมารับสั่งบอก “ขึ้นมาเดินข้างๆ สิ ข้าไม่อยากหันไปคุยบ่อยๆ”

ฟีเรียสไม่อยากทำตามเลยแม้แต่น้อย แต่เขาก็ข่มใจ คิดว่าเป็นคำสั่งของเจ้าชาย เขาก็แค่ทำตามคำสั่ง
ทำๆ ไปโดยไม่ต้องคิดว่าตัวเองจะอยากทำหรือไม่อยากทำ เป็นแค่นักเรียนองครักษ์
จะไปมีสิทธิ์ขัดคำสั่งเจ้าชายได้ยังไง แถมซ้ำพระองค์ยังทรงเป็นเจ้าหนี้

“ไม่อร่อยหรือ”

“... รสชาติดีครับ” ไม่ต้องสนพระทัยหรอก ว่าเขาจะรู้สึกยังไง

“ดูๆ ไปก็มีของหลายอย่างที่ข้าไม่เคยกิน ถ้ามีอะไรอร่อยเจ้าก็ช่วยแนะนำข้าด้วย รองท้องก่อนกินมื้อเย็น”

เว้นไปครู่หนึ่งจึงตรัสถาม “เรากินมื้อเย็นที่นี่ดีไหม”

“สุดแท้แต่พระทัย”

เจ้าชายหนุ่มทรงชะงัก ชักจะหนักพระทัยยิ่งขึ้นกว่าเดิม

“เจ้าช่วยข้าเลือกร้านสิ”

“ร้านนั้นครับ”

ฟีเรียสเลือกไปส่งๆ และเจ้าชายรามิเรสก็ทรงทราบ แต่ก็ยังทรงพยักพระพักตร์แล้วดำเนินนำเข้าไป
เห็นดังนั้นแล้วคนเดินตามกลับเป็นฝ่ายกังวลขึ้นมาแทน ซ้ายมือข้างหน้ามีร้านใหญ่กว่าแท้ๆ
แต่เขาดันชี้ไปร้านทางขวามือใกล้ๆ ซึ่งเป็นร้านอาหารเล็กๆ ข้างทางเสียอย่างนั้น แต่จะทูลทักท้วงก็ไม่อยากจะพูด
เขาไม่มีอารมณ์จะพูดกับพระองค์ดีๆ ตอนนี้ ถามคำตอบคำก็พอได้ แต่ถ้าให้พูดยาวๆ ก็คงจะมีหลุดอารมณ์โมโหออกไปบ้าง

“รับอะไรดีคะ” ผู้มารับรายการอาหารเป็นเด็กสาววัยไม่เกินสิบปี เจ้าชายรามิเรสแย้มพระสรวลประทานให้อย่างเอ็นดู

“อะไรอร่อยบ้าง”

“อร่อยทุกอย่างเลยค่ะ”

เจ้าชายหนุ่มแย้มพระสรวลมากขึ้น “แล้วอะไรบ้างล่ะจ๊ะที่ว่าทุกอย่าง”

เด็กหญิงหน้าตาน่ารักร่ายรายการอาหารยาวอย่างจำได้ขึ้นใจ
เจ้าชายรามิเรสทรงรู้จักบ้างไม่รู้จักบ้าง แต่ก็ไม่สำคัญอะไรเพราะยังไง
พระองค์ก็ต้องทรงหันไปตรัสถามคนนั่งตรงข้ามอยู่ดี

“เจ้าอยากกินอะไร”

“ข้าไม่หิวครับ”

“ไม่หิวแล้วมานั่งในร้านข้าทำไมล่ะคะพี่ชาย”

เจ้าชายหนุ่มทรงขำพรวด พระองค์ไม่ต้องทรงทำอะไร เด็กหญิงที่เท้าสะเอวขึ้นอย่างเอาเรื่องด้วยท่าทีของผู้ใหญ่
ก็ทำให้ปัญหาของพระองค์ง่ายเข้า ฟีเรียสตีสีหน้าไม่ถูก เคืองเมื่อเห็นสีพระพักตร์ขำๆ แต่ก็ต้องรีบสั่งอาหาร

“แล้วพี่ชายล่ะคะ จะกินอะไร” แม่ค้าตัวน้อยอารมณ์ดีขึ้นเมื่อหันมาถามเจ้าชายหนุ่มบ้าง

“ข้าก็กินเหมือนพี่ชายคนนี้”

“ว้า แค่นี้ก็ต้องลอกกันด้วย คิดเองสิคะว่าอยากจะกินอะไร อาหารที่แม่ข้าทำอร่อยทุกอย่างเลยนะ
แล้วพวกท่านก็ตัวใหญ่ กินแค่คนละอย่างจะอิ่มหรือคะ”

ฟีเรียสกระตุกยิ้มบ้างเมื่อเจ้าชายหนุ่มทรงถูกว่าซึ่งหน้า ก่อนจะชะงัก
ใจเต้นผิดปกติผสมความรู้สึกขัดเคืองเมื่ออีกฝ่ายไม่เพียงไม่กริ้ว
ยังแย้มพระสรวลอ่อนโยนประทานให้เขา

นักเรียนองครักษ์หนุ่มเบือนหน้าไปทางถนนสายเล็กที่มีผู้คนเดินขวักไขว่
ก่อนจะชะงักอีกรอบเมื่อหญิงสาวคนหนึ่งมองมาทางเขาแล้วยิ้มอายๆ ให้
ชายหนุ่มก้มศีรษะให้พลางยิ้มตอบเล็กน้อยตามมารยาท

เจ้าชายรามิเรสตรัสสั่งเพิ่มอีกสองอย่างเรียบร้อยแล้ว และทันเห็นฉากนั้นเข้าพอดี

“นางน่ารักดีนะ”

คนฟังพยายามจะเดาความหมาย ว่าที่รับสั่งนั่นต้องการอะไร ที่สำคัญก็คือ... มีความรู้สึกไม่พอใจปะปนมา
เหมือนเมื่อครั้งที่เขารู้สึกตอนที่เห็นผู้หญิงมองพระองค์บ้างไหม แต่ก็เดาไม่ออก
ซ้ำยังตกใจตัวเองขึ้นมาทันทีที่ตระหนักได้ว่าเขากำลังหวังให้พระองค์ทรงหึงหวง

เห็นอีกฝ่ายเงียบนานไม่ยอมตอบ คนประทับตรงข้ามก็ตรัสถามพระสุรเสียงอ่อน

“ยังโกรธข้าอยู่หรือ”

“กระหม่อม...” รู้ว่าใช้สรรพนามผิด แต่จะแก้ไขก็ไม่ทัน “อย่าสนใจเลยครับ”

“ฟีเรียส”

รอยขมวดมุ่นกลางหว่างคิ้วนั้นยิ่งถูกกดลึก ได้โปรดเถอะ อย่าเรียกชื่อเขาด้วยน้ำเสียงแบบนี้
มันน่าอาย เหมือนผู้ชายอย่างเขากำลังถูกผู้ชายด้วยกันง้อ

“ขอร้องล่ะครับ อย่าสนใจข้าเลย” ฟีเรียสก้มหน้า เบือนสายตาไปทางอื่น

เจ้าชายรามิเรสทรงเงียบไป “เอาไว้ค่อยไปคุยกันที่บ้านก็ได้ แต่ที่ขอไม่ให้สนใจนั่นเห็นจะให้ไม่ได้”

คนฟังเงยหน้าขึ้นมองขวับ หน้าร้อนผ่าวเมื่อมองสบสายพระเนตรจริงจัง ใจเต้นแรง
ขณะเดียวกันก็เจ็บปวดอย่างหาสาเหตุไม่ได้

“ไม่กินขนมแล้วหรือ”

ขนมทอดอันนั้นถูกวางอยู่บนโต๊ะทั้งสองอัน

“ท่านก็ไม่กิน”

เจ้าชายรามิเรสทรงหยิบขึ้นมาเสวยต่อ หลังจากกัดไปคำก็รับสั่ง

“อยู่ข้างนอกแบบนี้เจ้าเรียกข้าว่าพี่ก็ได้ ข้าอายุมากกว่าเจ้าหลายปี”

ฟีเรียสหน้าแดง ครั้นถูกอีกฝ่ายมองหน้าด้วยสีพระพักตร์ไม่เข้าพระทัยว่าทำไมเขาถึงนั่งตัวแข็ง
ไม่รู้จะขยับไม้ขยับมือยังไง เขายิ่งรู้สึกขัดใจ รู้ว่าอีกฝ่ายคงไม่คิดอะไร แต่ช่วยไม่ได้เลยจริงๆ
ที่เขาคิด... คิดมากเสียด้วย

นักเรียนองครักษ์หนุ่มหยิบขนมขึ้นมากินเพราะไม่อยากพูดอะไร สายตามองไปเรื่อย
ตรงไหนก็ได้ที่ไม่ใช่พระพักตร์ของเจ้าชายหกแห่งไมซีน จึงได้เห็นว่าหญิงสาวที่ยิ้มให้เขาคนนั้น
ก็มานั่งที่ร้านเดียวกับเขาด้วย นางมากับหญิงสาวอีกคนหนึ่งซึ่งอาจจะเป็นพี่น้องหรือเพื่อน
แต่หน้าตาไม่สะสวยเหมือนอย่างนาง ครั้นเจ้าชายรามิเรสทรงหันไปทอดทอดพระเนตรนางด้วย
นางก็เสเบือนหน้าไปทางอื่นทั้งที่แก้มขาวๆ สองข้างยังแดงปลั่ง

ฟีเรียสไม่คิดอะไร นอกจากคิดว่า โชคดีที่เขาไม่ใช่คนผิวขาว ต่อให้รู้สึกว่าหน้าร้อนแค่ไหนก็คงไม่ได้สังเกตเห็นกันง่ายๆ

“มีอย่างนี้บ่อยไหม”

นักเรียนองครักษ์หนุ่มหันหน้ามาตามเสียงถาม

“มีผู้หญิงแสดงออกว่าชอบเจ้าบ่อยไหม”

คนถูกถามนั่งนิ่ง ปล่อยให้คนถามทรงคิดได้เองว่าเขาไม่ได้สนิทกับพระองค์ถึงขั้นที่จะยอมตอบคำถามแบบนี้
และเจ้าชายหนุ่มก็ทรงตระหนักเช่นนั้นได้จริงๆ ถึงกับต้องทรงทอดถอนพระทัย
เพราะถึงแม้จะทรงทราบว่าไม่ควรถาม แต่ความอยากรู้ก็ไม่ได้หายไปเลย

“ฟีเรียส ข้า... ถามในฐานะรุ่นพี่ รุ่นพี่ถามรุ่นน้องไม่ได้หรือ”

“จะทรง... จะอยากทราบไปทำไม”

เจอคำถามนี้เข้าไปก็ทำเอาคนถามทรงชะงักไปเหมือนกัน ประกอบกับเด็กหญิงซึ่งเป็นลูกสาวเจ้าของร้านนำอาหารมาเสิร์ฟ
ทั้งสองจึงไม่ได้พูดอะไรกันอีก รสชาติอาหารค่อนข้างถูกพระโอษฐ์คนกินง่าย
ฟีเรียสเองก็ดูอารมณ์ดีขึ้นมาบ้างเมื่อได้กิน เจ้าชายหนุ่มทอดพระเนตรเห็นแล้ว
ก็ตัดสินพระทัยไม่รับสั่งอะไรให้อีกฝ่ายขุ่นเคืองใจขึ้นมาอีก

หลังจากอิ่มอาหาร ฟีเรียสก็เรียกเด็กหญิงมาเก็บเงิน

“รอเดี๋ยวนะคะพี่ชาย”

เขาตั้งใจว่าคราวนี้ล่ะ... เขาจะ...

“อุ๊ย!”

ฟีเรียสอ้าแขนออกโดยฉับพลันเมื่อหญิงสาวคนหนึ่งทำท่าว่าจะล้มมาใส่เขา ทว่า
อย่าว่าแต่เขาเลยที่เก้อ แม้แต่หญิงสาวซึ่งเขารู้แล้วว่าคือคนเดียวกับที่ยิ้มให้เขาก็มีสีหน้าผิดคาดไปเหมือนกัน
เมื่อหันกลับไปแล้วพบว่า สาเหตุที่นางไม่ได้ล้มลงในอ้อมกอดของชายหนุ่มผิวเข้มร่างสูงก็เพราะ
ชายหนุ่มอีกคนซึ่งนั่งอยู่โต๊ะเดียวกันรั้งแขนนางเอาไว้เสียก่อน

“ไม่เป็นไรใช่ไหม”

น้ำเสียงนุ่มนวลและรอยยิ้มห่วงใยบนดวงหน้าหล่อเหลาคมคายทำเอาหญิงสาวไม่กล้าแสดงออกว่าไม่พอใจ

“มะ... ไม่เป็นไรค่ะ ขอบคุณนะคะ”

คนตอบหันกลับไปมองหน้าชายหนุ่มอีกคนที่อ้าแขนไว้รอแล้วแต่กลับไม่มีส่วนใดบนตัวนางสัมผัสกับตัวเขาเลย
แล้วก็พลันรู้สึกเสียดายวูบ แต่ก็ทำอะไรไม่ได้ ได้แต่ยิ้มเจื่อนๆ ให้อีกหนแล้วก็เดินจากไปพร้อมกับหญิงสาวที่มาด้วยกัน

เด็กหญิงลูกสาวเจ้าของร้านเดินมาถึงโต๊ะพอดี ตอนที่เจ้าชายรามิเรสทรงก้มองค์
เก็บผ้าเช็ดหน้าสีขาวปักลายดอกไม้ขึ้นมาจากพื้น

“สี่สิบ...”

“เจ้าเอาผ้าเช็ดหน้าผืนนี้ไปให้พี่ผู้หญิงที่ใส่เสื้อสีส้มคนนั้นนะ บอกว่านางทำตก แล้วเดี๋ยวค่อยกลับมาเก็บเงิน”

รับสั่งแล้วก็ทอดพระเนตรตามไป ฟีเรียสมองตาม และได้เห็นสีหน้าผิดหวังที่หญิงสาวผู้นั้นมองมาทางเขาพอดี
และเพราะมัวแต่รู้สึกผิดปนโล่งใจอยู่ เมื่อเด็กหญิงรีบวิ่งกลับมา เขาจึงไม่ทันคนที่ยืนอยู่ด้วยกัน
นางยังไม่ทันบอกราคา เจ้าชายหนุ่มก็ทรงยื่นเหรียญเงินไปให้

“ห้าสิบเหรียญ ที่เกินไปพี่ให้เป็นค่าบริการ ขอบใจนะ”

“ขอบคุณค่ะ วันหลังมาอุดหนุนใหม่นะคะ”

เด็กหญิงยิ้มหน้าบาน วิ่งเอาเงินไปอวดแม่เรียบร้อยแล้ว ทิ้งให้พี่ชายอีกคนซึ่งเป็นคนเรียกเก็บเงินยืนนิ่งอยู่อย่างนั้น
ฟีเรียสพยายามข่มอกข่มใจ อดทนให้ถึงที่สุด ชายหนุ่มหยิบถุงกระดาษสี่ใบขึ้นมาถือไว้มือหนึ่ง
อีกมือหนึ่งหยิบขนมทอดที่เย็นชืดไปแล้ว

“มันเย็นแล้ว เจ้าทิ้งไปเถอะ ถ้าอยากกินข้าจะซื้ออันใหม่ให้”

ฟีเรียสกำมือแน่น ทำไมไม่อยู่เฉยซะ ไม่รับสั่งอะไร ทำเฉยๆ ไปเสียคงจะดีกว่านี้
เมื่อกี้ทอดพระเนตรไม่เห็นหรือว่าเขากำลังเตรียมจะจ่ายเงิน
แย่งเขาจ่ายเงินค่าเสื้อยังไม่พอ ยังจะแย่งจ่ายค่าอาหาร

“มือเจ้าเลอะแล้ว”

ไส้ของขนมซึ่งพ่อค้าใส่มาเต็มคุ้มราคาทะลักออกมาจากรอยกัด
ไหลลงมาเปื้อนมือของเขาโดยไม่รู้ตัวจริงๆ ขณะกำลังตกใจเล็กๆ
ว่าแสดงความไม่พอใจออกมาชัดเจนเกินไป อีกฝ่ายก็ทรงดึงมันออกไป
วางไว้บนโต๊ะโดยที่เขาไม่ทันได้ขัดขืน ซับพระพักตร์ผืนใหญ่สีน้ำตาลอ่อนถูกคลี่ออกมาโปะไว้บนมือ
ก่อนที่เจ้าของมันจะทรงจับมือเขาไว้แล้วเช็ดรอยเปื้อนประทานให้ เช็ดเร็วๆ เพียงไม่กี่ทีก็เสร็จ

ฟีเรียสยืนจ้องมองพระพักตร์อย่างตะลึงงันอยู่อย่างนั้นเอง

ทำอะไร... เมื่อกี้พระองค์ทรงทำอะไรกับเขา

“เราไปกันเถอะ คนมาใหม่จะได้มีโต๊ะนั่ง”

เมื่อทอดพระเนตรเห็นว่าอีกฝ่ายยังยืนนิ่ง เจ้าชายหนุ่มก็จะทรงจับมือที่ยังค้างอยู่ในท่าเดิมของอีกฝ่ายไปด้วยกัน
ทว่าคราวนี้ฟีเรียสรู้สึกตัว รีบเอามือซ่อนไว้ข้างหลังอย่างรวดเร็วทั้งที่สีหน้ายังตกใจไม่หาย

เจ้าชายรามิเรสแย้มพระสรวลก่อนจะเสด็จนำไป

“พระอาทิตย์ใกล้จะตกดินแล้ว ข้าว่าจะซื้อองุ่นกับส้มอีกสองอย่างก็พอ เจ้าอยากจะได้อะไรไหม”

‘อยากจะได้อะไรไหม’ ไม่ใช่ ‘อยากจะซื้ออะไรไหม’ ถ้าฟีเรียสมีสติสตังอยู่กับเนื้อกับตัวครบบริบูรณ์
ก็คงจะเก็บคำพูดนี้มาเป็นเรื่องขัดเคืองใจได้อีก แต่ตอนนี้เขามีสติอยู่แค่ครึ่งเดียว จึงเพียงแต่ส่ายหน้าปฏิเสธเท่านั้น
ว่าที่องครักษ์หนุ่มเดินตามเจ้าชายหนุ่มไปซื้อผลไม้ คุณยายใจดีแถมให้อีกมากมายเพราะหลงหน้ายิ้มๆ ของคนซื้อ
ฟีเรียสคิดเอาเองตามประสาคนที่มีสติอยู่เพียงครึ่งๆ ว่า เขาเองก็เคยหลงมาแล้ว
หลงคิดว่าคนบุคลิกนุ่มนวลอย่างเจ้าชายหกจะเป็นคนทำอะไรช้าๆ
แต่ก็ปรากฏว่าพระองค์ทรงเร็วกว่าเขาไปเสียทุกอย่าง

ที่จริงเขาน่าจะคิดได้ตั้งแต่ซ้อมกระบี่กับพระองค์แล้ว ถึงจะทรงเป็นฝ่ายรับตลอดเสียจนเขาขัดใจ
แต่ถ้าไม่เร็วจริงก็คงจะทรงรับเขาไม่ได้ ซ้ำยังดูเหมือนจะเดาทิศทางของเขาออกแทบจะทุกท่วงท่า

หรือบางที... เขาควรจะเฉลียวใจว่าพระองค์ ‘เร็ว’ ตั้งแต่พระองค์เปิดประตูเข้ามาในห้อง




ตอนที่เขากำลังทำอะไรน่าอายอยู่วันนั้นแล้ว






tbc.


*****************************************

ออฟไลน์ route rover

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2423
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +221/-7
Re: รามิเรส : บทที่ 12 (7 มี.ค. 57) หน้า 8
«ตอบ #218 เมื่อ07-03-2014 16:51:16 »

ฮอลลลลลล T________T อึดอัด หงุดหงิด ขัดใจ  :ling1:

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
Re: รามิเรส : บทที่ 12 (7 มี.ค. 57) หน้า 8
«ตอบ #219 เมื่อ07-03-2014 17:37:54 »

มันน่าหงุุดหงิิดจริง แต่ละคนนี้หนอ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: รามิเรส : บทที่ 12 (7 มี.ค. 57) หน้า 8
« ตอบ #219 เมื่อ: 07-03-2014 17:37:54 »
ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ lizzii

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6283
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +271/-2
Re: รามิเรส : บทที่ 12 (7 มี.ค. 57) หน้า 8
«ตอบ #220 เมื่อ07-03-2014 18:19:01 »

ปวดหัวแทน ทั้งคู่อ้ะ น่าจะโดนจับตีก้นสะให้เข็ด
เห้ออออ

ออฟไลน์ Zelsy

  • เพราะ "รัก" คำเดียวเท่านั้น
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1859
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +191/-2
Re: รามิเรส : บทที่ 12 (7 มี.ค. 57) หน้า 8
«ตอบ #221 เมื่อ07-03-2014 18:33:09 »

เฉื่อยไปแล้ว -*-

ออฟไลน์ PetitDragon

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4126
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +343/-5
Re: รามิเรส : บทที่ 12 (7 มี.ค. 57) หน้า 8
«ตอบ #222 เมื่อ07-03-2014 18:35:36 »

 :katai5:


ผ่านไปตอนนึง ยังไม่พ้นตลาดเลย มัวแต่คิด 5555555555555

ออฟไลน์ IIMisssoMII

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2030
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-2
Re: รามิเรส : บทที่ 12 (7 มี.ค. 57) หน้า 8
«ตอบ #223 เมื่อ07-03-2014 18:43:54 »

หึงๆๆๆๆ หึงก้อบอก
คู่นี่นิ หวานนินึงเถอะ ยอมๆ กันบ้าง

ออฟไลน์ ❝CHŌN❞

  • เหงา เหงา :(
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1924
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +213/-3
Re: รามิเรส : บทที่ 12 (7 มี.ค. 57) หน้า 8
«ตอบ #224 เมื่อ07-03-2014 18:47:13 »

อ่านคู่นี้แล้วเหนื่อย จะคิดอะไรหนักหนา โดยเฉพาะฟีเรียส คิดมากระวังไมเกรนขึ้นนะ เป็นห่วง
รออ่านต่อไป ถึงจะเอื่อยก็จะอ่าน

ออฟไลน์ cher7343

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1673
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +133/-4
Re: รามิเรส : บทที่ 12 (7 มี.ค. 57) หน้า 8
«ตอบ #225 เมื่อ07-03-2014 19:15:26 »

ทำเรื่องง่ายให้กลายเป็นเรื่องยาก
สองหนุ่มถนัดนัก  o18 o18

ออฟไลน์ agava1313

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1060
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +43/-5
Re: รามิเรส : บทที่ 12 (7 มี.ค. 57) หน้า 8
«ตอบ #226 เมื่อ07-03-2014 20:03:20 »

อื้อหือ.........โดนรุกน่าดูเลย ไม่ค่อยแสดงออกเลยนะ คุณเจ้าชาย :m12:

ออฟไลน์ mur@s@ki

  • อยากรัก..แต่ใจไม่กล้า
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1899
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-5
Re: รามิเรส : บทที่ 12 (7 มี.ค. 57) หน้า 8
«ตอบ #227 เมื่อ07-03-2014 20:20:15 »

 :katai1: หงึกๆ หงัก!! ง๊ากกกกกกกกก อึดอัดขัดใจฟีเรียส

ออฟไลน์ silverspoon

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2426
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +275/-12
Re: รามิเรส : บทที่ 12 (7 มี.ค. 57) หน้า 8
«ตอบ #228 เมื่อ07-03-2014 21:15:02 »

คิดมากฉี่เหนียวนะฟีเรียส  :z2:

องค์ชายน่ารักเนาะ ฟีเรียสได้แต่ครวญเพลง อยู่ใกล้กันยิ่งหวั่นไหว ห้ามใจตัวเองไม่ได้เลย ละ :jul1:

ออฟไลน์ i c u

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 90
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-2
Re: รามิเรส : บทที่ 12 (7 มี.ค. 57) หน้า 8
«ตอบ #229 เมื่อ07-03-2014 21:19:33 »

เจ้าชายน่ารักจุง

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: รามิเรส : บทที่ 12 (7 มี.ค. 57) หน้า 8
« ตอบ #229 เมื่อ: 07-03-2014 21:19:33 »





ออฟไลน์ MaRiTt_TCL

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1511
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +67/-6
Re: รามิเรส : บทที่ 12 (7 มี.ค. 57) หน้า 8
«ตอบ #230 เมื่อ07-03-2014 21:30:04 »

ฮิ้วววววววววว

ออฟไลน์ michiri.sama

  • ลูกเป็ดที่หมกมุ่นในโลกสีม่วง (´∀`)♡
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 78
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-0
Re: รามิเรส : บทที่ 12 (7 มี.ค. 57) หน้า 8
«ตอบ #231 เมื่อ07-03-2014 21:46:38 »

ชอบเจ้าชายง่ะ อบอุ่นจังงงง
ฟีเรียสนี่ก็คิดมากกกกกกก
เรื่องก็ดำเนินไปอย่างเอื่อยมากกกกกกจริงๆ
ทั้งตอนเป็นความคิดเยอะของฟีเรียสซักประมาณ 80% (ฮา)
คิดอะไรก็บอกเจ้าชายบ้างเถอะจ้า เขายอมเรา เอ็นดูเราขนาดนี้
เค้าข้างตัวเองบ้างเฮอะว่าเจ้าชายก็มีใจให้เหมือนกัน

กดดันตัวเองตลอดเวลาอย่างงี้ไมเกรนจะขึ้นเอานะจ๊ะ
โอ๊ยยย อึดอัดทั้งฟีเรียสทั้งคนอ่าน

คนเขียนช่วยให้มีฉากที่เจ้าชายทำอะไรได้ดั่งใจฟีเรียสมั่งเหอะ ฮ่าๆๆๆ
ดูเหมือนตั้งใจจะทำอะไรก็ถูกมองในแง่เสียหม้ดดดดด

ออฟไลน์ Maxshu

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 858
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-1
Re: รามิเรส : บทที่ 12 (7 มี.ค. 57) หน้า 8
«ตอบ #232 เมื่อ07-03-2014 22:21:46 »

ฟีเรียส - -*

ออฟไลน์ Snowermyhae

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4014
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +97/-7
Re: รามิเรส : บทที่ 12 (7 มี.ค. 57) หน้า 8
«ตอบ #233 เมื่อ07-03-2014 22:46:34 »

ฟีเรียสคิดเยอะไปแล้ว  :z3:

ออฟไลน์ iforgive

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +844/-80
Re: รามิเรส : บทที่ 12 (7 มี.ค. 57) หน้า 8
«ตอบ #234 เมื่อ08-03-2014 14:32:06 »

ฟิเรียส คิดมากไปแล้ววววววว

ออฟไลน์ sam3sam

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2562
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +247/-4
Re: รามิเรส : บทที่ 12 (7 มี.ค. 57) หน้า 8
«ตอบ #235 เมื่อ08-03-2014 14:58:16 »

คนหนึ่งเครียดเกินไป
คนหนึ่งอยากให้แต่ใช้วิธียัดเยียด
 :เฮ้อ:

ออฟไลน์ tuaof

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 4
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
Re: รามิเรส : บทที่ 12 (7 มี.ค. 57) หน้า 8
«ตอบ #236 เมื่อ08-03-2014 20:16:31 »

 :o8: :-[ :impress2:จิกหมอน

ออฟไลน์ KMprince

  • kyumin QingYu
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 281
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-0
Re: รามิเรส : บทที่ 12 (7 มี.ค. 57) หน้า 8
«ตอบ #237 เมื่อ08-03-2014 21:01:02 »

อ่านตอนแรกก็โดนเลย
มันใช่อะแนวนี้
ติดตามอ่านนะค่ะ สู้ๆ

ออฟไลน์ KMprince

  • kyumin QingYu
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 281
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-0
Re: รามิเรส : บทที่ 12 (7 มี.ค. 57) หน้า 8
«ตอบ #238 เมื่อ08-03-2014 21:16:10 »

ตอน 2
เจ้าชายท่านไม่เกรงใจฟีเรียสเลยนะ
ทั้งทายา เช็ดตัว ดูจะได้กำไรไปหลายเลย

ออฟไลน์ KMprince

  • kyumin QingYu
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 281
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-0
Re: รามิเรส : บทที่ 12 (7 มี.ค. 57) หน้า 8
«ตอบ #239 เมื่อ08-03-2014 21:53:44 »

ตอน 3

อ้างถึง
ที่ว่า 'กระหม่อมเต็มใจ' นั่นน่ะ เรื่องจริงนะคะ ^^

  :hao7: อร๊ายๆๆๆ จริงเหรอค่ะเนี่ย
ถ้างั้นเจ้าชายรีบไปบอกฟิเรียสเลยเร็วว่าไปไหนมาอะ
เพื่อผลจะพอพระทัยนะเพคะ

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด